พลงั งาน ยมลภทั ร ทองนาโพธ์ิ กล่มู เรียน 63080.122 เลขท่ี 6318414001063 อรญา เมืองอดุ ม กล่มุ เรียน 63080.122 เลขท่ี 6318414001075 รายงานนเี้ ป็ นส่วนหนึง่ ของการศึกษาวชิ าสารสนเทศเพ่อื การศึกษาค้นคว้า ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564 มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สุราษฎร์ธานี
พลงั งาน ยมลภทั ร ทองนาโพธ์ิ กล่มู เรียน 63080.122 เลขท่ี 6318414001063 อรญา เมืองอดุ ม กล่มุ เรียน 63080.122 เลขท่ี 6318414001075 รายงานนเี้ ป็ นส่วนหนึง่ ของการศึกษาวชิ าสารสนเทศเพ่อื การศึกษาค้นคว้า ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564 มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สุราษฎร์ธานี
คานา รายงานฉบบั น้ีเป็ นส่วนหน่ึงของวิชาสารสนเทศเพื่อการศึกษาค้นควา้ จัดทาข้ึนเพื่อเผยแพร่ สาระสาคญั ของแนวคิดและการประยกุ ตใ์ ชพ้ ลงั งาน ในระดบั ต่างๆดว้ ยภาษาที่ใหเ้ ขา้ ใจง่าย และเพื่อสะดวกในการนาไปใช้ประโยชน์และเรียนรู้ใน รายวิชาต่างๆ มภี าพประกอบสวยงามและเหมาะกบั นักเรียนนกั ศึกษาทุกระดบั ช้นั โดยไดศ้ ึกษาผา่ นแหล่ง ความรู้ต่างๆ อาทิ เช่น หนงั สือ บทความ และแหล่งเรียนรู้จากเวบ็ ไซตต์ ่างๆ หวังเป็ นอย่างย่ิงว่ารายงานฉบับน้ีจะเป็ นประโยชน์แก่นักเรี ยน ครู ผูส้ อน และผูท้ ี่สนใจ ทุกท่าน ยมลภทั ร ทองนาโพธ์ิ อรญา เมืองอุดม 11 ตุลาคม 2564
สารบัญ เรื่อง หน้า คานา..................................................................................................................................................ก สารบญั ...............................................................................................................................................ข สารบญั ภาพ........................................................................................................................................ค สารบญั ตาราง.....................................................................................................................................ง พลงั งาน..............................................................................................................................................1 ประเภทของพลงั งาน..........................................................................................................................2 สถานการณ์พลงั งานและส่ิงแวดลอ้ มโลก...........................................................................4 สถานการณ์พลงั งานและส่ิงแวดลอ้ มของประเทศไทย.......................................................8 พลงั งานหมุนเวียน................................................................................................................9 บรรณานุกรม
สารบัญภาพ ภาพท่ี หน้าที่ ภาพที่ 1 แสดงพลงั งานจากแร่เช้ือเพลิงธรรมชาตเิ ป็นพลงั งานสิ้นเปลืองใชแ้ ลว้ หมด...................................................2 ภาพที่ 2 แสดงพลงั งานตามลกั ษณะการใชง้ าน.......................................................................................................3 ภาพท่ี 3 แสดงป๊ัมนา้ มนั ท่หี นั มาใชพ้ ลงั งานทดแทนประเภทต่าง ๆ...........................................................................4 ภาพท่ี 4 แสดงส่วนแบง่ ของเช้อื เพลิงที่คาดการวา่ นามาผลิตกระแสไฟฟ้าทว่ั โลก........................................................5 ภาพท่ี 5 แสดงส่วนแบง่ ของพลงั งานหมุนเวียนทค่ี าดการว่านามาผลิตกระแสไฟฟ้าทว่ั โลก..........................................5 ภาพที่ 6 แสดงปริมาณการใชน้ า้ มนั ทวั่ โลกที่มแี นวโนม้ เพม่ิ ข้ึนทุกปี ..............................................................5 ภาพที่ 7 แสดงความตอ้ งการนา้ มนั และการผลิตนา้ มนั ของโลกเพม่ิ ข้ึนทกุ ปี ...................................................6 ภาพท่ี 8 แสดงส่วนแบ่งของแหล่งพลงั งานที่นามาผลิตกระแสไฟฟ้าทว่ั โลก..................................................6 ภาพที่ 9 แสดงการเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก.............................................................................................7 ภาพที่ 10 แสดงนา้ แขง็ ทขี่ ้วั โลกละลายผลกระทบจากภาวะโลกร้อน………………………………….....….7 ภาพท่ี 11 แสดงการเกิดภยั ธรรมชาติท่ีรุนแรง ผลกระทบจากภาวะโลร้อน……………………..…….....…..8 ภาพท่ี 12 แสดงการใชพ้ ลงั งานของประเทศไทย ไตรมาสที่ 2/2554………………………………………...8 ภาพท่ี 13 แสดงพลงั งานนา้ ตกควบคุมการไหลจากท่ีสูงไปยงั ที่ต่า.................................................................9 ภาพท่ี 14 แสดงตน้ แบบการเกิดของพลงั งานนา้ ข้ึนนา้ ลง................................................................................9 ภาพที่ 15 แสดงตน้ แบบการเกิดของพลงั งานความร้อนใตพ้ ิภพ....................................................................10
สารบัญตาราง ตารางท่ี หน้า ตารางท่ี 1 ขอ้ ดี ขอ้ เสียพลงั งานน้า............................................................................................................9 ตารางท่ี 2 เชือเพลงิ ชีวะมวล....................................................................................................................10
พลงั งาน พลงั งาน (Energy) เป็ นส่ิงจาเป็ นต่อชีวิตความเป็ นอยู่ของมนุษยแ์ ละสัตว์ หากปราศจาก พลงั งานต่าง ๆ แลว้ เราคงไม่สามารถมชี ีวิตอยอู่ ยา่ งสะดวกสบายดงั เช่นเป็นอยใู่ นปัจจุบนั น้ีพลงั งานท่ีมนุษย์ นามาใชใ้ นยคุ แรก ๆ ไดแ้ ก่ พลงั งานจากแรงงานมนุษยแ์ ละสตั ว์ ต่อมามนุษยไ์ ดก้ ารพฒั นานาเอาพลงั งานท่ี ไดจ้ ากธรรมชาติมาใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์มากข้ึน เช่น พลงั งานน้ า พลงั งานลม พลงั งาน แสงอาทิตย์ พลงั งาน ความร้อนท่ีได้จากการเผาไหมไ้ ม้ ฟื น หรือ ถ่านหิน ต่อมามนุษยม์ ีวิวฒั นาการ ทางดา้ นวิชาการท่ีดีข้ึน สามารถคน้ ควา้ และน าเอาพลงั งานในรูปแบบต่าง ๆ ท่ีดีกว่ามาใชใ้ ห้เกิด ประโยชน์ไดม้ ากมาย เช่น พลงั งานท่ีไดจ้ ากน้ ามนั และกา๊ ซ ซ่ึงเป็นพลงั งานจากปิ โตรเลยี ม เพราะให้ ประโยชน์และสะดวกต่อการใช้ งานมาก จึงเป็นพลงั งานที่นามาใชม้ ากที่สุดในปัจจุบนั พลงั งาน คือ ความสามารถที่จะท างานไดค้ วามสามารถดงั กล่าวน้ีเป็ นความสามารถ ของวตั ถุ ใดมพี ลงั งานวตั ถุน้นั กส็ ามารถท างานไดแ้ ละค าวา่ งานในที่น้ีเป็ นผลของการกระทาของแรง ซ่ึงทาให้วตั ถุ เคล่อื นท่ีไปในแนวของแรง สิ่งใดก็ตามที่สามารถท าใหว้ ตั ถุเปลี่ยนตาแหน่งหรือเคล่ือนที่ไป จากท่ีเดิมได้ สิ่งน้นั ยอ่ มมีพลงั งานอยภู่ ายใน พลงั งาน คือ ความสามารถที่จะทางานไดโ้ ดยอาศยั แรงงานที่มีอยแู่ ลว้ ตาม ธรรมชาติ โดยตรง และท่ีมนุษยใ์ ชค้ วามรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดดั แปลงใชจ้ ากพลงั งานตาม ธรรมชาติ ตามคานิยามของนกั วิทยาศาสตร์พลงั งาน คือ ความสามารถในการทางาน (Ability to do work) โดยการทางานน้ีอาจจะอยู่ในรูปของการเคลื่อนท่ีหรือเปลี่ยนรูปของวตั ถุก็ได้ พลงั งาน คือ ความสามารถของส่ิงใด สิ่งหน่ึงที่จะทางานไดซ้ ่ึงงานเป็ นผลจากการ กระทาของแรงเป็ นเหตุให้สิ่งน้ัน เคลอื่ นท่ี ซ่ึงคุณสมบตั ิโดยทวั่ ไปของพลงั งานมอี ยู่ 2 ประการ คือ ทางานไดแ้ ละเปล่ยี นรูปได
ประเภทของพลังงาน เนื่องจากความหลากหลายของพลงั งานท่ีมีอย่เู ป็ นส่วนหน่ึงที่ทาใหผ้ ศู้ ึกษาอาจเกิดความ เขา้ ใจ สบั สนจึงไดม้ นี กั วชิ าการพยายามที่จะจ าแนก อธิบายพลงั งานเพื่อใหง้ ่ายต่อการศึกษามากยิ่งข้ึน พลงั งาน สามารถจ าแนกไดด้ งั น้ี 1.2.1 จาแนกตามแหล่งที่ได้มา 1.2.1.1 พลงั งานตน้ กาเนิด (Primary energy) หมายถงึ แหลง่ พลงั งานที่เกิดข้ึนหรือมี อยแู่ ลว้ ตาม ธรรมชาติสามารถน ามาใชป้ ระโยชน์ไดโ้ ดยตรง ไดแ้ ก่ น้ า แสงแดด ลม เช้ือเพลิงตาม ธรรมชาติเช่น น้ามนั ดิบ ถา่ นหิน กา๊ ซธรรมชาติพลงั งานความร้อนใตพ้ ภิ พ แร่นิวเคลียร์ไมฟ้ ื น แกลบ ชานออ้ ย เป็นตน้ 1.2.1.2 พลงั งานแปรรูป (Secondary energy) หมายถึง สภาวะของพลงั งานซ่ึงไดม้ า โดยการน า พลงั งานตน้ ก าเนิดดังกล่าวแลว้ ขา้ งตน้ มาแปรรูป ปรับปรุง ปรุงแต่ง ให้อย่ใู นรูปท่ีสามารถ น าไปใช้ ประโยชนใ์ นลกั ษณะต่าง ๆ กนั ไดต้ ามความตอ้ งการ เช่น พลงั งานไฟฟ้า ผลิตภณั ฑป์ ิ โตรเลียม ถ่านไมก้ ๊าซ ปิ โตรเลยี มเหลว เป็นตน้ 1.2.2 จาแนกตามแหล่งทน่ี ามาใช้ประโยชน์ 1.2.2.1 พลงั งานสิ้นเปลือง (Non - renewable energy resources) หรือพลงั งาน ฟอสซิลไดแ้ ก่ น้ามนั รวมท้งั หินน้ ามนั ทรายน้ ามนั ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติท่ีเรียกว่าใชแ้ ลว้ หมดก็ เพราะหามา ทดแทนไมท่ นั การใชพ้ ลงั งานพวกน้ีปกติแลว้ จะอยใู่ ตด้ ิน ถา้ ไมข่ ุดข้ึนมาใชต้ อนน้ีก็เกบ็ ไว้ ใหล้ ูกหลานใชไ้ ด้ ในอนาคต บางทีจึงเรียกวา่ พลงั งานสารอง ภาพที่ 1 แสดงพลงั งานจากแร่เช้ือเพลิงธรรมชาติเป็นพลงั งานสิ้นเปลืองใชแ้ ลว้ หมด (ท่ีมา : กรมพฒั นาพลงั งานทดแทนและอนุรักษพ์ ลงั งาน, 2551: 2-3)
1.2.3 จาแนกตามลกั ษณะการผลติ 1.2.3.1 พลงั งานตามแบบ (Conventional energy) เป็ นพลงั งานที่ใชก้ นั อยู่ทว่ั ไปมี ลกั ษณะการ ผลติ เป็นระบบศนู ยก์ ลางขนาดใหญ่ใชเ้ ทคโนโลยที ่ีพฒั นามาจนเกือบ อม่ิ ตวั แลว้ เช่น พลงั งานน้าขนาดใหญ่ น้ามนั ปิ โตรเลยี ม ก๊าซธรรมชาติและถา่ นหิน เป็นตน้ 1.2.3.2 พลงั งานนอกแบบ (Non - conventional energy) ไดแ้ ก่ พลงั งานท่ียงั มี ลกั ษณะการผลติ ท่ี ใชเ้ ทคโนโลยใี หม่ท่ีกาลงั อยใู่ นระหว่างการ ทาวจิ ยั และพฒั นา ซ่ึงมหี ลายชนิดท่ีมี ความเหมาะสมทางเทคนิค แต่ยงั ตอ้ งปรับปรุงความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ เช่น พลงั น้าขนาดเลก็ กา๊ ซชีวภาพ และ พลงั งานลม เป็นตน้ 1.2.4 จาแนกตามลกั ษณะทางการค้า 1.2.4.1 พลงั งานทางพาณิชย์ (Commercial energy) เป็ นพลงั งานท่ีมีการซ้ือขายกนั ในวงกวา้ ง และดาเนินการผลติ ในลกั ษณะอุตสาหกรรม เช่น น้ามนั ปิ โตรเลยี ม ก๊าซธรรมชาติถา่ นหิน แร่นิวเคลยี ร์ไฟฟ้า เป็ นตน้ 1.2.4.2 พลงั งานนอกพาณิชย์ (Non - commercial energy) เป็ นพลงั งานท่ีมีการซ้ือ ขายกนั ในวง แคบและดาเนินการผลิตในลกั ษณะกิจกรรมในครัวเรือนใชก้ นั มากในชนบท เช่น ฟื น แกลบ ชานออ้ ย และ มลู สตั วเ์ ป็นตน้ 1.2.5 จาแนกพลงั งานตามลกั ษณะการทางาน 1.2.5.1 พลงั งานศกั ย์ (Potential Energy) เป็ นพลงั งานท่ีเกิดข้ึนเมื่อวตั ถุถูกวางอย่ใู น ตาแหน่งท่ี สามารถเคล่ือนที่ไดไ้ มว่ ่าจากแรงโนม้ ถว่ งหรือแรงดึงดูดจากแมเ่ หลก็ เช่น กอ้ นหินท่ีวางอยู่ บนขอบท่ีสูง 1.2.5.2 พลงั งานจลน์ (Kinetic Energy) เป็นพลงั งานที่เกิดข้ึนเม่ือวตั ถุเคลอ่ื นท่ี เช่น รถท่ีกาลงั วิ่ง ธนูท่ีพ่งุ ออกจากแหลง่ จกั รยานท่ีกาลงั เคลอ่ื นท่ี เป็นตน้ 1.2.5.3 พลงั งานสะสม (Stored Energy) เป็นพลงั งานที่เก็บสะสมในวสั ดุหรือส่ิงของ ต่าง ๆ เช่น พลงั งานเคมที ี่เก็บสะสมไวใ้ นอาหาร ในกอ้ นถา่ นหิน น้ามนั หรือไมฟ้ ื น ซ่ึงพลงั งานดงั กล่าว จะถูกเกบ็ ไวใ้ น รูปขององคป์ ระกอบทางเคมีหรือของวสั ดุหรือ ส่ิงของน้ัน ๆ และจะถูกปล่อยออกมา เม่ือวสั ดุหรือสิ่งของ ดงั กล่าวมกี ารเปล่ียนรูป เช่น การเผาไมฟ้ ื นจะใหพ้ ลงั งานความร้อน ภาพท่ี 2 แสดงพลงั งานตามลกั ษณะการใชง้ าน (ทมี่ า : กรมพฒั นาพลงั งานทดแทนและอนุรักษพ์ ลงั งาน, 2551: 6)
สถานการณ์พลังงานและส่ิงแวดล้อมของโลก ในอดีตประมาณ 5 ทศวรรษที่ผา่ นมา โลกไดพ้ ่ึงพาการใชเ้ ช้ือเพลิงเป็ นพลงั งานที่สาคญั คือ น้ามนั ดิบ ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน โดยท่ีสดั ส่วนของพลงั งานดงั กล่าวรวมกนั แลว้ เกินกว่า 90% ของพลงั งานที่ ใชท้ ้งั หมด 1.3.1 ภาพรวมสถานการณ์พลงั งานของโลก 1.3.1.1 พลงั งาน (Energy) เป็นส่วนสาคญั ในการขบั เคล่ือนระบบเศรษฐกิจของทุก ประเทศในโลก โดยทุก ๆ ภาคเศรษฐกิจจาเป็ นตอ้ งใชพ้ ลงั งาน ท้งั เพื่อการประกอบการ เพ่ืออานวย ความสะดวกในชีวิต หรือเพ่อื รองรับความตอ้ งการในดา้ นต่าง ๆ โดยพลงั งานมบี ทบาทท่ีสาคญั ซ่ึง สามารถสรุปไดด้ งั น้ี ก) พลงั งานมบี ทบาทในการเพมิ่ ผลิตภาพ (Productivity) ของกิจกรรมทางเศรษฐกจิ ทุกประเภท ข) พลงั งานมบี ทบาทสาคญั ในภาคการขนส่งและการกระจายสินคา้ และบริการ ค) พลงั งานเป็นธุรกิจหน่ึงท่ีสามารถสร้างรายไดใ้ หแ้ ก่นกั ลงทุน ง) พลงั งานสามารถยกระดบั คุณภาพชีวติ ของมนุษยใ์ หส้ ูงข้ึนได้ จ) พลงั งานเป็นส่วนหน่ึงที่สามารถช่วยลดระดบั ความยากจนของประชากรในชนบทได้ 1.3.1.2 พลงั งานฟอสซิล มีแนวโนม้ ว่าจะขาดแคลนและมีราคาสูงข้ึน นอกจากน้ีการใช้ เช้ือเพลิงฟอสซิลยงั ก่อให้เกิดผลกระทบต่อส่ิงแวดลอ้ มที่เกิดจากการแสวงหาเช้ือเพลิง การเปลี่ยนรูป พลงั งาน และของเสียที่เกิดจากการผลติ และใชพ้ ลงั งาน 1.3.1.3 พลงั งานปฐมภูมิ มกี ารเปล่ียนรูปมาใชง้ านในรูปของไฟฟ้าหรือพลงั งานกล และ ความร้อน มากข้ึน 1.3.1.4 เทคโนโลยดี า้ นพลงั งานในอนาคตมแี นวโนม้ ว่าจะมกี ารใชพ้ ลงั งานทดแทน (Alternative Energy) มากข้ึน ภาพท่ี 3 แสดงป๊ัมนา้ มนั ที่หนั มาใชพ้ ลงั งานทดแทนประเภทต่าง ๆ (ทม่ี า : http : //www.cellaenergy.com)
ภาพที่ 4 แสดงส่วนแบง่ ของเช้อื เพลงิ ท่คี าดการว่านามาผลติ กระแสไฟฟ้าทว่ั โลก (ทม่ี า : http : //www.cellaenergy.com) ภาพท่ี 5 แสดงส่วนแบ่งของพลงั งานหมุนเวียนทคี่ าดการว่านามาผลติ กระแสไฟฟ้าทว่ั โลก (ท่ีมา : http : //www.cellaenergy.com) 1.3.1.5 พลงั งานเชิงพาณิชย์ (Commercial Energy) คือ พลงั งานที่ตอ้ งอาศยั กลไก ของตลาดใน การส่งผา่ นหรือกระจายพลงั งานไปยงั ผใู้ ช้ เป็นพลงั งานที่ตอ้ งอาศยั การซ้ือขายผ่านระบบ ของตลาด และยงั เป็นพลงั งานประเภทที่มีการใชม้ ากที่สุดในโลก พลงั งานเชิงพาณิชยท์ ่ีเรารู้จกั กนั เป็ น อยา่ งดี ไดแ้ ก่ นา้ มนั ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ ปัจจุบนั มีการนาพลงั งานเชิงพาณิชยม์ าใชใ้ นปริมาณ ท่ีมาก ทาใหป้ ริมาณสารอง ของแหลง่ พลงั งานเหล่าน้นั ในโลกลดนอ้ ยลงทุกที ซ่ึงสามารถสรุป สถานการณ์ของพลงั งานพาณิชยแ์ ต่ละ ประเภทไดด้ งั น้ี ก) นา้ มนั (Oil) นา้ มนั เป็นพลงั งานเชิงพาณิชยท์ ่ีมกี ารใชม้ ากท่ีสุดในโลก ภาพท่ี 6 แสดงปริมาณการใชน้ า้ มนั ทวั่ โลกที่มแี นวโนม้ เพมิ่ ข้ึนทุกปี (ที่มา : http : //www.cellaenergy.com)
ภาพท่ี 7 แสดงความตอ้ งการนา้ มนั และการผลติ นา้ มนั ของโลกเพิ่มข้ึนทกุ ปี (ท่ีมา : http : //www.cellaenergy.com) ภาพที่ 8 แสดงส่วนแบ่งของแหล่งพลงั งานท่ีนามาผลติ กระแสไฟฟ้าทว่ั โลก (ที่มา : http : //www.cellaenergy.com) 1.3.2 สถานการณ์สิ่งแวดล้อมของโลก ปัญหาส่ิงแวดลอ้ มส่วนใหญ่เกิดจากการกระทาของมนุษย์ สามารถสรุปสาเหตุหลกั ๆ ไดด้ งั น้ี 1.3.2.1 มนุษยม์ กี ารตดั ไมท้ าลายป่ ากนั มากข้ึน 1.3.2.2 มนุษยเ์ ผาเช้ือเพลิงตามบา้ นเรือน และตามโรงงานอุตสาหกรรมมากข้ึน 1.3.2.3 มนุษยผ์ ลติ สารสงั เคราะหบ์ างอยา่ งท่ีไม่สลายตวั และสลายตวั ยากมากข้ึน เช่น พลาสติก โฟม จึงทาใหเ้ กิดขยะเหล่าน้ีมากข้ึน ส่วนสารบางอยา่ งที่เป็นกา๊ ซ เช่น ฟรีออน ซ่ึงใชช้ ่วยใน การฉีดสเปรย์ และใช้ ในเคร่ืองทาความเยน็ กม็ ปี ริมาณเพมิ่ ข้ึน 1.3.2.4 มนุษยส์ ร้างผลติ ภณั ฑต์ ่าง ๆ มาใชแ้ ทนวตั ถดุ ิบจากธรรมชาติเช่น ไฟเบอร์ กลาสแทนไม้ ฟรี ออนแทนแอมโมเนียเหลวในตู้เย็น และผงซักฟอกแทนสบู่ เป็ นตน้ ทาให้มีส่ิงตกคา้ ง เป็ นมลพิษอยู่ใน อากาศ นา้ และดิน 1.3.2.5 มนุษยส์ ร้างอุปกรณ์เครื่องใชไ้ ฟฟ้าบางชนิดท่ีใหค้ วามร้อน แสง เสียง ที่ทาให้ เกิดอนั ตรายต่อ มนุษยไ์ ดม้ ากข้ึน
1.3.2.6 มนุษยส์ ร้างยานพาหนะท่ีใชใ้ นการเดินทาง เช่น รถจกั รยานยนต์ รถยนต์ และ ยานอวกาศ การ เผาไหมข้ องเช้ือเพลิงในพาหนะเหลา่ น้นั ทาใหม้ ปี ริมาณกา๊ ซพิษเพม่ิ ข้ึน 1.3.3 ภาวะโลกร้อน (Global Warming) เกิดจากกระบวนการที่มีก๊าซเรือนกระจกเกิดข้ึน ซ่ึงมกั เกิดจากการเผาไหมข้ องเช้ือเพลงิ ฟอสซิล เช่น น้ามนั ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ เมอ่ื ก๊าซลอยสูงข้ึนไปในช้นั บรรยากาศของโลก จะทา ใหเ้ กิดปรากฏการณ์ท่ีรังสี ความร้อนถูกกกั เกบ็ ไวใ้ นบรรยากาศโลกที่ เรียกว่า ปรากฏการณ์เรือนกระจก หรือ Greenhouse Effect ภาพที่ 9 แสดงการเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก หรือ Greenhouse Effect (ท่ีมา : http: //earth.rice.edu/ greenhouse - effect) ปรากฏการณ์เรือนกระจก หรือ Greenhouse Effect ทาใหโ้ ลกร้อนส่งผลกระทบทาให้ เกิดปจั จยั ต่าง ๆ ดงั น้ี 1.3.3.1 ระดบั นา้ ทะเลข้ึนสูง หากอุณหภูมิเฉล่ียของโลกเพิ่มสูงข้ึนอีก 1.4-5.8 องศา เซลเซียส จะ ส่งผลให้นา้ แข็งท่ีข้วั โลกละลาย และระดบั นา้ ทะเลเฉลี่ยสูงข้ึนอีก 14 - 90 เซนติเมตร ซ่ึงจะส่งผลกระทบ ไดแ้ ก่ การสูญเสียท่ีดินการกดั เซาะและการพงั ทลายของชายฝั่ง ภาพที่ 10 แสดงนา้ แขง็ ทข่ี ้วั โลกละลายผลกระทบจากภาวะโลกร้อน (ท่ีมา : http: //earth.rice.edu/ greenhouse - effect)
1.3.3.2 ภยั ธรรมชาติท่ีรุนแรง เมอ่ื อุณหภูมิเฉลย่ี ของโลกเพ่ิมสูงข้ึน ภยั ธรรมชาติต่าง ๆ มแี นวโนม้ ว่า จะเกิดบ่อยคร้ัง และรุนแรงมากยง่ิ ข้นึ เช่น ภยั แลง้ ไฟป่ า พายไุ ตฝ้ ่ นุ โซนร้อน นา้ ท่วม และการพงั ทลายของ ช้นั ดิน เป็นตน้ ภาพที่ 11 แสดงการเกิดภยั ธรรมชาติท่ีรุนแรง ผลกระทบจากภาวะโลกร้อน (ที่มา : http: //earth.rice.edu/ greenhouse - effect) สถานการณ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย 1.4.1 ภาพรวมสถานการณ์พลงั งานของประเทศไทย 1.4.1.1 ในอดีตการใชพ้ ลงั งานของประเทศไทยเป็นไปอยา่ งไม่มปี ระสิทธิภาพ ท้งั ใน ดา้ นการจดั หา การผลิต และการใชพ้ ลงั งาน ทาให้ปริมาณพลงั งานท่ีมีอยภู่ ายในประเทศลดลง อย่างรวดเร็ว โดยสาเหตุ หลกั เกิดจากการขยายตวั ทางเศรษฐกิจและการขาดจิตสานึกในดา้ นการ อนุรักษแ์ ละการประหยดั พลงั งาน 1.4.1.2 รัฐบาลไทยเร่ิมตระหนกั ถึงการจดั หาแหลง่ พลงั งานที่ยงั่ ยืนและพลงั งาน ทดแทน เพ่ือรองรับ ปริมาณความตอ้ งการใชพ้ ลงั งานในประเทศ โดยไดเ้ ริ่มกาหนดแผนการอนุรักษ์ และเพ่ิมประสิทธิภาพการ ใชพ้ ลงั งานข้ึนต้งั แต่ปี พ.ศ. 2535 1.4.1.3 การใชพ้ ลงั งานของประเทศไทยเป็นไปในลกั ษณะเดียวกบั การใชพ้ ลงั งานของ ประเทศต่าง ๆ ในโลก กล่าวคือ พลงั งานเชิงพาณิชย์ (Commercial Energy) ซ่ึงไดแ้ ก่ นา้ มนั ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ และ ไฟฟ้า เป็นรูปแบบของพลงั งานท่ีมบี ทบาทสาคญั และมกี ารใชม้ ากที่สุด ภาพท่ี 12 แสดงการใชพ้ ลงั งานของประเทศไทย ไตรมาสท่ี 2/2554 (ที่มา : กรมพฒั นาพลงั งานทดแทนและอนุรักษพ์ ลงั งาน, 2554: 2)
พลังงานหมนุ เวยี น 1.5.1 พลงั งานน้า เป็นพลงั งานที่ไดม้ าจากแรงอดั ดนั ของนา้ ท่ีปล่อยจากอ่างเก็บนา้ เหนือเข่ือนน้าท่ีปล่อย ไปน้ี จะไดร้ ับการ ทดแทนทุกปี โดยฝนหรือการละลายของหิมะ แต่ในการก่อสร้างอ่างเก็บน้าจะมี ผลกระทบต่อส่ิงแวดลอ้ ม โดยตอ้ งสูญเสียพ้นื ที่ป่ าไม้ ตอ้ งมีการอพยพสตั วป์ ่ า และชาวบา้ นที่อาศยั อยู่ ในบริเวณน้นั ทาให้ชีวิตความ เป็นอยู่ และสภาพแวดลอ้ ม บริเวณดงั กลา่ วเปลย่ี นแปลงไป ภาพท่ี 13 แสดงพลงั งานนา้ ตกควบคุมการไหลจากท่ีสูงไปยงั ที่ต่า (ท่ีมา : กรมพฒั นาพลงั งานทดแทนและอนุรักษพ์ ลงั งาน, 2551: 93) ภาพท่ี 14 แสดงตน้ แบบการเกิดของพลงั งานนา้ ข้ึนนา้ ลง (ท่ีมา : กรมพฒั นาพลงั งานทดแทนและอนุรกั ษพ์ ลงั งาน, 2551: 93)
1.5.2 พลงั งานความร้อนใต้พภิ พ เป็นการนานา้ ร้อนที่มีอยใู่ ตพ้ ้นื ดิน มาใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ ในการผลิตกระแสไฟฟ้า กลุ่มประเทศ ท่ีมีการพฒั นาพลงั งาน ความร้อนใตพ้ ิภพ มาใชป้ ระโยชน์ อยา่ งเด่นชดั มกั เป็ นกลุ่ม ประเทศที่มีสภาพทาง ธรณีวิทยา เอ้ืออานวยต่อศกั ยภาพ ทางพลงั งานความร้อนใตพ้ ิภพ ซ่ึงได้แก่ บริเวณที่เปลือกโลกมีการ เคล่ือนไหว และมีแนวของภูเขาไฟอย่างต่อเนื่อง เช่น ประเทศอิตาลี ไอซ์แลนด์ สหรัฐอเมริกา (แถบ ตะวนั ตก) เมก็ ซิโก ญี่ป่ ุน ฟิ ลิปปิ นส์ อินโดนีเซีย นิวซีแลนด์ เป็นตน้ ขอ้ ดี การผลิตพลงั งานความร้อนใตพ้ ภิ พแทบไมก่ ่อมลพิษหรือปล่อยก๊าซเรือนกระจก ออกมาเลย พลงั งานน้ีเงียบและน่าเช่ือถืออยา่ งที่สุด โรงงานไฟฟ้าพลงั งานความร้อนใตพ้ ิภพผลติ พลงั งานประมาณร้อย ละ 90 ตลอดเวลาเมอ่ื เทียบกบั ร้อยละ 65-75 ของโรงไฟฟ้าเช้ือเพลงิ ฟอสซิล ขอ้ เสีย หากพจิ ารณาในแง่ส่ิงแวดลอ้ มแลว้ ก็อาจจะมีผลกระทบไดเ้ ช่นเดียวกบั การใช้ พลงั งานชนิด อน่ื ๆ เช่น ถา้ น้าจากแหล่งพลงั งานความร้อนใตพ้ ิภพมีปริมาณแร่ธาตุอยู่ในระดบั สูง เมื่อ นาน้ามาใชแ้ ลว้ ระบายลงในแหล่งน้าธรรมชาติตามผวิ ดินอาจเกิดผลกระทบต่อ น้าผิวดินท่ีใช้ประโยชน์ ในดา้ นอุปโภค บริโภค และนา้ ในระบบบาดาลได้ ภาพที่ 15 แสดงตน้ แบบการเกิดของพลงั งานความร้อนใตพ้ ิภพ (ท่ีมา : กรมพฒั นาพลงั งานทดแทนและอนุรกั ษพ์ ลงั งาน, 2551: 97) 1.5.3 เชือเพลงิ ชีวะมวล คือ สารทุกรูปแบบท่ีไดจ้ ากสิ่งมีชีวติ รวมท้งั การผลิตจากการเกษตรและป่ าไมเ้ ช่น ไม้ ฟื น แกลบ กากออ้ ย วสั ดุเหลอื ใชท้ างการเกษตรอื่น ๆ รวมถึง ของเสียจากสตั ว์ เช่นมูลสัตวแ์ ละของ เสีย จากโรงงาน แปรรูปทางเกษตร และขยะมาผลิตก๊าซชีวภาพ ในการผลิตพลงั งาน จานวนเท่า ๆ กนั ตอ้ งใชไ้ มฟ้ ื น ใน ปริมาตรท่ีมากกวา่ นา้ มนั และถ่าน ดงั น้นั จึงเหมาะที่จะใชใ้ น ครัวเรือน
บรรณานุกรม
บรรณานุกรม ประเสริฐ เทียนนิมิตและคณะ. เช้ือเพลิงและสารหลอ่ ล่ืน. กรุงเทพ ฯ : บริษทั ซีเอด็ ยเู คชน่ั จากดั (มหาชน), 2547. อนุรักษ์ รักออ่ น. เช้ือเพลิงและสารหลอ่ ล่ืน. กรุงเทพ ฯ : บริษทั พฒั นาวิชาการ (2535) จากดั , 2552. กรมพฒั นาพลงั งานทดแทนและอนุรักษพ์ ลงั งาน. การอนุรักษพ์ ลงั งานในโรงงาน อุตสาหกรรม. กรุงเทพ ฯ : กระทรวงพลงั งาน, 2551. กรมพฒั นาพลงั งานทดแทนและอนุรักษพ์ ลงั งาน. การอนุรักษพ์ ลงั งานในโรงงานอุตสาหกรรม. กรุงเทพ ฯ : กระทรวงพลงั งาน, 2554. http : //www.cellaenergy.com http: //en.wikipedia.org http: //earth.rice.edu/ greenhouse - effect http: //www.theozonehole.com http: //www.dede.go.th http://learners.in.th
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: