Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

บทที่ 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

Published by pilaiporn02122543, 2020-06-12 23:38:44

Description: บทที่ 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

Search

Read the Text Version

คำนำ เอกสารประกอบการสอนรายวิชาการจดั การธุรกิจท่องเท่ียว จดั ทำข้นึ เพ่ือเสรมิ สรา้ งความรู้และความ ข้าใจแก่นักเรียนสาขางานการท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ 1) อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว 2) ประเภทและการบรกิ ารของธุรกิจนำเที่ยว 3) การจัดตั้งธุรกจิ นำเท่ียว 4) การบริหารจัดการธุรกิจนำเที่ยว 5) การตลาดเพื่อธุรกิจนำเที่ยว 6) การจัดรายการนำเที่ยวและการติดต่อประสานงานกับธรุ กิจที่เกี่ยวขอ้ ง 7) ระเบยี บขอ้ ปฏิบัติและอกสารการเดนิ ทางระหวา่ งประเทศ และ 8) ความร้เู บ้อื งต้นเกี่ยวกับงานมัคคุเทศก์และ การนำเทย่ี ว รวมทั้งประเด็นท่คี วรรเู้ พือ่ การจัดตั้งธุรกจิ นำเทย่ี ว เอกสารประกอบการสอนนี้ได้จัดทำขึ้นจากกการศึกษาข้อมูลจากหนังสือ ตำรา เอกสารและเว็บไซต์ ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กับการจัดการธุรกิจนำเทีย่ ว ประกอบกับการถ่ายทอดความรู้และประสบการณข์ องผู้จดั ทำ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารประกอบการสอนนี้จะเป็นประโยชนต์ ่อผู้เรยี น และผู้ท่สี นใจ และหากมีข้อตชิ มหรือคำแนะนำประการใด ผู้จดั ทำขอบพระคุณเปน็ อยา่ งยิ่ง นางวรณนั พงษจ์ นี วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษานครศรธี รรมราช

บทที่ 1 ความรู้ทัว่ ไปเกย่ี วกบั อุตสาหกรรมการทอ่ งเทยี่ ว 1. บทนำ 2. การท่องเทยี่ วและอตุ สาหกรรมทอ่ งเท่ียว 3. แนวโน้มการเจรญิ เติบโตของการทอ่ งเที่ยว 4. ความสาํ คญั และผลกระทบของอุตสาหกรรมทอ่ งเท่ยี ว 5. แนวคิดและหลกั การการพัฒนาการท่องเทีย่ วอยา่ งยง่ั ยืน สรปุ ท้ายบท บทท่ี 1 ความรทู้ ่วั ไปเกย่ี วกบั อุตสาหกรรมการทอ่ งเทย่ี ว 1. บทนำ การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่มีความเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องมาเป็น ระยะเวลานานกว่าครึ่งศตวรรษตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง (Sharpley,2009) การ ท่องเที่ยวได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความต้องการเดินทางท่องเที่ยวของประชากร เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากทั้งในระดับโลกและระดับประเทศ (WTO,2008) ด้วยเหตุนี้จึงมีธุรกิจ บริการต่างๆ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อตอบสนองและรับรองความต้องการของนักท่องเที่ยวทั้งในและ ต่างประเทศ ได้แก่ ธุรกิจที่พัก ธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคาร ธุรกิจการเดินทางหรือธุรกิจ ขนส่งผู้โดยสาร ธุรกิจจำหนา่ ยสินคา้ ท่ีระลึก ธุรกิจเพื่อสุขภาพและความงาม ธุรกิจกอล์ฟ และ ธรุ กิจสถานบันเทงิ รวมถึงธุรกจิ นำเท่ียว เพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยว และ แนวโน้มการเจริญเติบโตด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการเรียนรู้เกี่ยวกับการ จัดการธุรกิจนำเที่ยวในบทต่อๆไป เนื้อหาที่กล่าวถึงในบทนี้จึงครอบคลุมในประเด็น ดงั ต่อไปนี้ 1. ความหมายและองค์ประกอบของการทอ่ งเที่ยว ๒. แนวโนม้ การเจริญเติบโตดา้ นการท่องเทยี่ ว 3. แนวโน้มความตอ้ งการของท่องเทยี่ ว ๔. ประโยชน์และผลกระทบของการท่องเที่ยวต่อเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การเมือง และส่งิ แวดล้อม ๕. แนวคิดและหลกั การของการพฒั นาการทอ่ งเทย่ี วอย่างย่งั ยนื

๒.การทอ่ งเทยี่ วและอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 2.1 ความหมายของการท่องเทีย่ ว ความหมายของการท่องเท่ยี วโดยภาพรวมทเ่ี ปน็ ทย่ี อมรับกันโดยท่ัวไป โดยองค์การท่องเที่ยว โลก (World Tourism Organization : WTO) เป็นผู้กำหนด คือ การเดินทางจากถิ่นที่อยู่อาศัยปกติไปยัง จุดหมายปลายทาง ด้วยความสมัครใจ และเป็นการเดินทางไปเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ ความ บันเทิงเริงใจ การเยี่ยมญาติ การศึกษา การประชุมสัมมนา และการติดต่อธุรกิจ แต่มิใช่การเดินทางเพื่อ ประกอบอาชพี และการโยกยา้ ยถน่ิ เพื่อการอาศัยเปน็ การถาวร ๒.๒ ความหมายของอตุ สาหกรรมการทอ่ งเท่ยี ว อุตสาหกรรม ตามความหมายที่กำหนดโดยพจนานุกรมไทย ฉบับบัณทิตยสถาน หมายถึง กิจกรรมที่ใช้ทุนและแรงงานเพื่อผลิตสิ่งของหรือจัดให้มีบริการ เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอ อุตสาหกรรมการ ท่องเที่ยว ชื่อกระทรวงที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการอุตสาหกรรม การมาตรฐานเกี่ยวกับกิจการอุตสาหกรรม และทรพั ยาการธรณี สำหรับความหมายในภาษาของอุตสาหกรรม หรือ Industry ในภาษาอังกฤษ คือ The companies and activities involved in the process of producing goods for sale, especially in a factory or special area (Cambridge Dictionary) ดังนั้น ความหมายของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว หรือ Tourism Industry จึงหมายถึง กระบวนการและกิจกรรมในการผลิตหรือจัดให้มีสินค้าและบริการเกี่ยวกับการท่องเที่ยว หรือหมายถึง กระบวนการผลิตสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เพื่อตอบสนองและรองรับความต้องการขอ ง นักเที่ยว 1) แหล่งท่องเที่ยวหรือทรัพยากรด้านการท่องเที่ยว สามารถแบ่งออกเป็น4ประเภทหลัก ดงั น้ี 1.1) แหลง่ ทอ่ งเที่ยวทางธรรมชาติ ได้แก่ ทะเล น้ำตก ลำธารภเู ขา ท่งุ หญ้า ทุ่งดอกไม้ ป่าไม้ ป่าชายเลนโดยพื้นที่หลักด้านการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ได้แก่ อุทยาน แห่งชาติ ซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากรทางธรรมที่อุดมสมบูรณ์และมีความสวยงาม มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะพื้นท่ี เช่น อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ อุทยานแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ จ.อุบลราชธานี อุทยาน แห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะลุเตา จ.สตูล เปน็ ต้น 1.2)แหล่งท่องเทย่ี วทางประวตั ิศาสตร์ ศิลปวฒั นธรรมไดแ้ ก่ แหล่งโบราณสถานพืน้ ที่ ทางประวัติศาสตร์ เช่น อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา อุทยาน ประวัติศาสตร์สุโขทัย-ศรีสัชนาลัย-กำแพงเพชร แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง

จ.อุดรธานี วัดพระแก้วพระบรมมหาราชวงั รวมไปถึงวัดต่างๆและปราสาทราชวงั ซ่ึงเปน็ แหลง่ รวบรวมประวตั ิศาสตร์ ศลิ ปะและวฒั นธรรมมาอยา่ งยาวนาน 1.3)แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนาธรรมและวิถีชีวิต ได้แก่ ท้องถิ่นหรือชุมชน ต่างๆที่มีวิถีการดำรงชีวิต ความเชื่อ ศิลปะ และวัฒนธรรม ที่เป็น เอกลักษณ์ เช่น ชุมชนชาวเขาเผ่ากระเหรี่ยง ชุมชนชาวขาเผ่าม้ง หมูบ่ า้ นไทยทรงดำ จ.เพชรบุรี วฒั นธรรมภไู่ ทย จ.เลย เป็นตน้ 1.4)แหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้นได้แก่ สถานที่ทีมนุษย์สร้างขึ้นเพื่อเป็นส่ิง ดึงดูดใจด้านการท่องเที่ยว เพื่อการสันทนาการ เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ เช่น สวนสัตว์ สวนนงนุช พิพิธภัณฑ์ สวนพฤกษศาสตร์ สวนสนุกโรงละคร รวมไปถึง ตลาดน้ำและตลาดต่างๆ ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งจับจ่ายซื้อของแล้วก็ยังเป็น จุดเด่นและเปน็ เอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวเป็นจำนวนไม่น้อย ตอ้ งการไปสมั ผสั และยยี่ มชม สำหรับกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว ซึ่งมีเป็นจำนวนมากและมีความหลากหลาย หาก แบ่งตามแหล่งที่ทำกิจกรรมสามารถแบ่งได้ 3 ประเภทหลักๆ คือ 1) กิจกรรมทางบก 2) กจิ กรรมทางนำ้ และ 3) กจิ กรรมทางอากาศ 1) กิจกรรมการท่องเที่ยวทางบก ได้แก่ การเดินป่า การปั่นจักรยาน การ นั่งช้างชมเมือง การนั่งรถชมเมือง การให้อาหารสัตว์ การชมการแสดงทาง ศิลปวฒั นธรรมและการแสดงของคนและสัตว์ เป็นต้น 2) กจิ กรรมการท่องเท่ียวทางนำ้ ได้แก่ การเลน่ น้ำว่ายน้ำการดำน้ำลึก(Scuba Diving) การดำน้ำต้น (SnorkelingDiving) การล่องเรือ การพายเรือ การดูนก ตก หมกึ การล่องแกง่ การล่องแพเป็นตน้ 3) กิจกรรมการท่องเที่ยวทางอากาศ ไดแ้ ก่ การนั่งบอลลูน พาราชูทการโดดหอ สงู การนงั่ กระชา้ ลอยฟา้ การปนี หน้าผาบนั จ้จี ั๊มเป็นตน้ 2) สิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการนักท่องเที่ยว คือ ระบบสาธารณูปโภค ต่างๆ ได้แก่ ถนนหนทาง การคมนาคมขนส่ง ระบบโทรคมนานคม ระบบไฟฟ้า น้ำประปาสำหรับการบริการสำหรับนักเที่ยง ได้แก่ ที่พัก อาหารและเครื่องด่ืม สินคา้ ทรี่ ะลกึ การแลกเปลี่ยนเงินตรา การประกนั ภัย สถานบริการอินเทอร์เน็ต สถานทบรกิ ารสุขภาพและความงาม และ สถานบนั เทิง เป็นตน้ 3) นักทอ่ งเที่ยว คือ ผู้เดินทางที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งเพื่อประโยชน์ในการพักผ่อน หย่อนใจ การศึกษาหาความรู้ ความบันเทิง หรือการอื่นใด (พระราชบัญญัติ ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ 2551) ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญท่ีใช้บริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น และทำให้การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมเกิดขึ้น เพราะหากไม่มีความต้องการของนักเที่ยวแล้ว สินค้า

และการบริการต่างๆ ก็ควรไม่เกิดขน้ึ และไม่มีการเจริญโตมากอย่างทุกอย่างทุก วนั นน้ี ักทอ่ งเท่ียว สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คอื 3.1Domestictouristsคือ นักท่องเที่ยวท่ีเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศที่ ตนถอื สญั ชาติอยู่ 3.2Internationaltourists คือนักทอ่ งเทีย่ วชาวต่างประเทศที่เดนิ ทางทอ่ งเท่ียว ไปยงั ประเทศตา่ งๆ ท่มี ใิ ช่ประเทศท่ีตนมีถนิ่ พำนกั ถาวร ปจั จยั ท่ีสง่ เสรมิ ให้นักทอ่ งเทีย่ วเดนิ ทางทอ่ งเทย่ี ว ได้แก่ ปัจจยั ภายในและปัจจัยภายนอก ปัจจัยภายในหมายถึงปัจจัยส่วนบุคคลที่ส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวได้แก่ รายได้ เวลาและ ความตอ้ งการในการท่องเท่ียว ปจั จยั ภายนอกหมายถงึ สิง่ อำนวยความสะดวกตา่ งๆและสภาพแวดล้อมด้านการทอ่ งเท่ยี ว ได้แก่ ระบบสาธารณูปโภคความปลอดภัยอิสรเสรภี าพในการดินทางรวมถึงข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเท่ยี วท่มี ี หลาหลายรูปแบบในปัจจุบันได้แก่ การโฆษณาประสัมพันธ์ รายการโทรทัศน์ที่นำเสนอข้อมูลด้านการ ทอ่ งเทีย่ ว และการจดั กิจกรรมเพ่ือสง่ เสรมิ และกระตุ้นใหเ้ กิดการทอ่ งเท่ยี ว ประเภทของสินคา้ และการบรกิ ารในอตุ สาหกรรมทอ่ งเที่ยวไดแ้ ก่ 1) Pure tangible goods เช่นสินค้าทรี่ ะลึก 2) Tangible goodswithaccompanying services ส่วนใหญ่เป็นสินค้าทั่วไป ซึ่งไม่ เข้าข่ายสนิ ค้าในอุตสาหกรรมทอ่ งเที่ยวโดยตรง ได้แก่ สินค้าทีม่ ีการบรหิ ารหลงั การขาย เช่น รถยนต์ เคร่ืองปรบั อากาศ และเครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ต่างๆ 3) Hybrid สถานบริการอาหารและเครือ่ งด่มื 4) Major service with accompanying minor goods เช่น สถานบริการสุขภาพ และความงาม สถานบนั เทงิ 5) Pure services เช่น ธุรกิจทพ่ี กั สนามกอลฟ์ การขนส่ง รถเช่า การแสดง ธุรกิจ นำเทยี่ ว สถานทที่ อ่ งเทีย่ ว สถานบรกิ ารอนิ เทอรเ์ น็ต ลกั ษณะสำคัญของการบริการ ได้แก่ 1) Intangibility-มีลักษณะเป็นนามธรรม จับต้อง สัมผัสด้วยการไม่ได้ แต่สามารถ รบั รไู้ ด้ดว้ ยใจและความรู้สกึ 2) Inseparability-ผู้ให้บริการและผู้รับบริการ หรือการบริการและการใช้บริการ จะตอ้ งเกดิ ขึน้ ในเวลาเดียวกนั ไม่สามารถแยกออกจากกนั ได้ 3) Perishability-การบริการไม่สามารถผลิตและจัดเก็บไวไ้ ด้ 4) Variability-การบริการมีความหลากหลาย ตามกาลเทศะผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ ผ้รู ับบรหิ าร และสภาวะแวดล้อมตา่ งๆท่ีเก่ยี วข้องในการให้บริการ

คณุ ภาพของการบริการ ประกอบไปด้วยองคป์ ระกอบตา่ งๆ ดงั น้ี ๑. ความสะดวก ๒. ความถกู ตอ้ ง ๓. ความรวดเร็ว ๔. ขนั้ ตอนไมย่ งุ่ ยาก ซับซ้อน ๕. เข้าถึงความต้องการของลูกค้าหรือนักท่องเที่ยว สามารถตอบสนองความ ต้องการได้ ๖. ให้คำปรึกษาและความชว่ ยเหลืออย่างจริงใจ ๗. กาย วาจา และใจ พร้อมให้บริการ ๓. แนวโนม้ และการเจรญิ เตบิ โตด้านการท่องเที่ยว การทอ่ งเทยี่ วเปน็ กจิ กรรมที่มคี วามสำคญั ทางเศรษฐกิจ (Sharpley, 2009) ซ่งึ มกี ารเจริญการเติบโต อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปี 1950 เรื่อยๆมาจนถึงปี 2000 จนถึงปัจจุบัน การท่องเที่ยวระหว่าง ประเทศมีอัตราการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องตามลำดับ จากนั้นจำนวนนักท่องเที่ยวไม่กี่ล้านคนในปี 1950 เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 700 ล้านคนในปี 2000 นอกจากนั้น องค์การการท่องเที่ยวโลก สหประชาชาติ ได้คาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2010 จะเพิ่มขึ้นเป็น 1000 ล้านคน และ เพิ่มสูงขึ้นถึง 1.6 พันล้านคนในปี 2020 รายได้จากการท่องเที่ยวในปี 1950 มีมูลค่า 2.1 พัน ล้านดอลล่าร์ ในปี 2000 นอกจากนั้นหากจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดการณ์ในปี 2020 เป็นจริง การทอ่ งเท่ียวจะมมี ูลค่าถึง 20,000 ลา้ นดอลล่าร์ (WTO, 2008) ซึ่งเปน็ ตัวเลขจำนวนมหาศาลและ เป็นรายได้หลักทมี่ าจากการทอ่ งเท่ียวของหลายๆประเทศ โดยเฉพาะกำลังพฒั นา เช่น ประเทศไทย นอกจากการท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่กล่าวมาแล้ว ยังมีการท่องเที่ยวภายในประเทศที่ขาดการ บันทึกตัวเลขทางสถิตที่แน่นอนและชัดเจน Sharpley (2009) กล่าวว่า การเจริญเติบโตของการ ทอ่ งเทีย่ วภายในประเทศตา่ งๆ มจี ำนวนมากกวา่ การทอ่ งเทีย่ วระหวา่ งประเทศ ถงึ 6-10 เท่าซึ่งถือว่า เป็นตวั เลขจำนวนมากอยา่ งยงิ่ และแสดงใหเ้ ห็นว่าการท่องเทีย่ วโดยภาพรวมท้งั การทอ่ งเที่ยวระหว่าง ประเทศและภายในประเทศมีการเจริญเติบโตเป็นจำนวนมากและมีมูลค่ามหาศาลที่ยากจะหา อุตสาหกรรมใดมาเทยี บได้ แนวโนม้ และความต้องการของนักทอ่ งเท่ยี ว ในปัจจุบันและอนาคต ความต้องการของนักท่องเที่ยวที่มีการเปลี่ยนแปลงและมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยมสี าเหตุหลักๆมาจากปัจจัยตา่ งๆดงั ตอ่ ไปนี้ 1) อตั ราส่วนจำนวนประชากร โดยอัตราผสู้ ูงอายเุ พิ่มมากขึ้น และอตั ราการเกิด รวมถงึ จำนวนประชากรในวยั เด็กลดลง 2) ประชากรโดยเฉลีย่ มกี ารศกึ ษาสูงข้นึ

3) การประกอบอาชพี และมีรายได้มากขึน้ 4) ลักษณะทางสังคมและวัฒนธรรม ทั้งเป็นตัวกระตุ้นและดึงดูดให้เกิดการ ท่องเที่ยว 5) การเดินทางระบบคมนาคมขนส่งที่มีความสะดวก ปลอดภัย และประหยัด มากข้ึน 6) เทคโนโลยีก้าวหน้า สามมารถติดต่อและรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้อย่าง กวา้ งขวาง สะดวกและรวดเรว็ ปัจจัยต่างๆเหล่านี้ รวมไปถึงสภาพเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ความต้องการและแนวโนม้ การท่องเทย่ี ว 4. ความสำคัญและผลกระทบของการทอ่ งเท่ียว 4.1 ความสำคญั ของการทอ่ งเทยี่ ว การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องเป็น ระยะเวลานานกว่าครึ่งศตวรรษ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวสามารถสร้างรายได้หลกั ๆให้กับหลายๆ ประเทศ เป็น จำนวนมากทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น ปัจจัยหลักที่ส่งเสริมให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับ การส่งเริม และมกี ารเจรญิ เติบโตอยา่ งมาก ได้แก่ 1) ศักยภาพของการองเที่ยวที่สามารถสร้างรายได้ เป็นเงินตรา ตา่ งประเทศและช่วยลดการขาดดุลการค้า 2) การท่องเที่ยวในหลายๆประเทศ รวมทั้งประเทศไทย เป็นทางเลือกท่มี ี ศกั ยภาพและสามารถพฒั นาเศรษฐกจิ ของประเทศได้ 3) การทอ่ งเที่ยวมีการพัฒนาบนพ้ืนฐานของทรัพยากรที่มีอยู่เดิมเป็นหลัก ได้แก่ ทรัพยากรแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรมและวีถีของชุมชนที่มีเอกลักษณ์มีความแตกต่างอย่าง น่าสนใจและเป็นสิ่งดึงดูดความสนใจด้านการท่องเที่ยว ทำให้เกิดการ เดนิ ทางทอ่ งเท่ียวเพื่อมาเยี่ยมชมและสมั ผัสกบั แหล่งท่องเทย่ี วที่มีความ สวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละสถานที่ที่เป็นจุดมุ่งหมาย ปลายทางดา้ นท่องเท่ยี ว 4) การท่องเที่ยวไม่มีข้อจำกัดเหมือนกับการค้าระหว่างประเทศ เช่น กำแพงภาษแี ละโควตาการสนิ ค้าส่งออก เน่อื งจากนักท่องเท่ียวเป็นผู้ท่ี เดินทางมายังแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งโดยการทั่วไปประชาชนหรือ นักท่องเที่ยวย่อมมีสิทธิและเสรีภาพในการเดินทางและไม่มีการจำกัด จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งการเดินทางออกนอกประเทศและการเดินทาง ไปยงั ประเทศอน่ื ๆ ท่ีเปน็ จุดหมายปลายทางดา้ นการทอ่ งเท่ยี ว

5) การท่องเที่ยวเป็นกิจกรรมที่กระตุ้นให้เกิดการพัฒนาธุรกิจต่างๆ ท่ี เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมากทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวโดยตรง เช่น ธรุ กิจทีพ่ ัก ธุรกจิ ขนส่ง ธรุ กิจรา้ นอาหารและภัตตาคาร และธุรกิจ ที่ระลึก และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวโดยทางอ้อม เช่น ภาค การเกษตรที่ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรป้อนธุรกิจโรงแรมและ ร้านอาหาร ภัตตาคาร อุตสาหกรรมผลิตสิ้นค้าที่ระลึก ผู้ผลิตและผู้จัด จำหน่ายสิ้นค้าตกแต่งอาคารสถานที่ และ อุตสาหกรรมการก่อสร้าง เป็นต้น (Sharpley,2009) ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงด้าน เศรษฐกิจและสังคมท่ีส่งเสริมใหก้ ารท่องเท่ียวเป็นกิจกรรมท่ีกลายเป็น ส่วนประกอบสำคัญในชีวิต คือ การมองว่าการท่องเที่ยวเป็นกิจกรรม เพื่อการพักผ่อน การเรียนรู้ การเสริมสร้างประสบการณ์ และการเปิด โลกทัศนร์ วมถึงเปน็ การเพิ่มพลงั ในการทำงานให้มีประสิทธภิ าพดีย่ิงขึ้น และสภาพเศรษฐกิจท่ีเอ้ือให้ประชาชนมเี งินทองเพ่ือการจับจ่ายใช้สอย ในด้านการท่องเทยี่ วมากยงิ่ ข้นึ ด้วยปัจจัยเหล่านี้ การท่องเที่ยวจึงได้รับความนิยมและสร้างการท่องเที่ยวให้เป็น อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพในการสร้างงาน สร้างรายได้ และพัฒนาเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะมีบางช่วงที่อัตราการเดินทางองเที่ยวและรายได้จาการท่องเที่ยวชะลอตัวอัน เน่ืองมาจากสภาพเศรษฐกิจ โรคระบาด (SAR) การกอ่ การรา้ ยขา้ มชาติ (Terrorism) และภัย พิบัติทางธรรมชาติ (Tsunami) แต่โดยภาพรวมแล้วการท่องเที่ยวก็สามารถฟื้นตัวได้อย่าง รวดเร็วและมีความเติบโตอยา่ งตอ่ เนื่องในระยะยาว 4.2 ผลกระทบของการท่องเท่ียวต่อเศรษฐกิจ สงั คม วัฒนธรรม และสิ่งแวดลอ้ ม เนื่องการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ท่ีมคี วามเกีย่ วข้องกบั ธุรกจิ กิจกรรม และแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงผู้คนเป็นจำนวนมาก ทั้งนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ ผู้ให้บรกิ าร และคนในท้องถิ่น ดังนั้น การท่องเที่ยวจึงเป็นกิจกรรมที่สามรถส่งผลกระทบต่อระบบ เศรษฐกจิ สงั คม วัฒนธรรม และสง่ิ แวดลอ้ ม เป็นที่ทราบดีโดยทั่วไปว่า การท่องเที่ยวส่งผลกระทบกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมในท้องถิ่น ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งด้านบวกและด้านลบ จา การศึกษาที่ผ่านมาพบว่าผลกระทบด้านบวกที่โดดเด่นจากการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยว ต่างๆ คือ ประชาชนมีรายได้และมีโอกาสในการประกอบอาชีพเพิ่มมากขึ้น มีกระแสเงิน หมุนเวยี นในระบบเศรษฐกิจมากย่ิงข้ึน ประชากรมีชีวติ ความเป็นอยูท่ ่ีดีขึ้น ส่งเสรมิ ให้คนไทย ในท้องถิ่นประกอบอาชีพในถิน่ ฐานของตนอง ไม่ต้องเดินทางไปประกอบอาชีพในถิ่นอื่นและ ส่งเสรมิ ความสมั พันธ์ของคนในครอบครัว นอกจากนัน้ การทอ่ งเที่ยวยังก่อใหเ้ กิดการอนุรักษ์ และฟื้นฟศู ลิ ปวฒั นธรรมเพอ่ื เป็นส่งิ ดึงดดู ใจนกั ทอ่ งเที่ยว

ในขณะเดียวกัน ผลกระทบด้านลบในด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ที่เกด จากการทอ่ งเทยี่ วกม็ ีไม่น้อย เช่น 1) ค่าครองชีพในแหล่งท่องเที่ยวสูงขึ้นและเป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตของตนใน ทอ้ งถ่ินซ่ึงมรี ายได้น้อย 2) รายได้จากการท่องเที่ยวโดยส่วนใหญ่ตกอยู่กับนายทุนและผู้ประกอบการด้าน การทอ่ งเท่ียวมากกวา่ คนในท้องถ่ิน 3) ความแต่งต่างและความเหล่ือมล้ำของการดำรงชีวิตระหว่างนักทอ่ งเที่ยวและคน ในท้องถนิ่ 4) การเลียนแบบวัฒนธรรมต่างชาติและละเลยการปฎิบัติตามวัฒนธรรมอันดีงาม ของคนไทย เช่น การแต่งกาย ๕) เกดิ การครอบครองพื้นท่ีท่ีในแหล่งท่องเท่ยี วนกั ลงทุนและผูป้ ระกอบการและการ โยกย้ายของคนในทอ้ งถน่ิ ไปอยูบ่ ริเวณอ่ืนหรือถนิ่ อืน่ ๖) ปญั หาขยะ ๗) การจราจรตดิ ขดั ๘) ความแออดั จากอาคารร้านค้า 5. แนวคิดและหลักการพัฒนาการทอ่ งเท่ียวอย่างย่งั ยืน ๕.1 แนวคดิ และหลกั การพฒั นาการทอ่ งเทยี่ วอย่างยั่งยืน การทอ่ งเทย่ี วอย่างยง่ั ยืน เปน็ แนวคิดทเ่ี กิดจาการแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซ่ึงเป็นผลมา จากการห่วงใยในการอนุรักษ์และป้องกันสิ่งแวดล้อมจากผลกระทบอันเนื่องมาจากการพัฒนา เศรษฐกิจและสงั คม การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หมายถึง การท่องเที่ยวมีความรับผิดชอบและก่อให้เกิดผลกระทบ ตอ่ สิ่งแวดล้อม สงั คม และวัฒนธรรมน้อยที่สดุ ในขณะทไี่ ดร้ บั ผลประโยชน์จากการท่องเทยี่ วมากท่สี ดุ ๕.2 องคป์ ระกอบของการพฒั นาการทอ่ งเทีย่ วอยา่ งย่ังยนื ประกอบดว้ ย 3 องคป์ ระกอบหลัก ได้แก่ เศรษฐกจิ สังคม และวัฒนธรรม และส่ิงแวดลอ้ ม

Table 1.8: Key elements of sustainable development Economic sustainability means generating prosperity at different levels of society and addressing the cost effectiveness of all economic activity. Crucially, it is about the viability of enterprises and activities and their ability to be maintained in the long term. Social sustainability means respecting human rights and equal opportunities for all in society. It requires an equitable distribution of benefits, with a focus on alleviating poverty. There is an emphasis on local communities, maintaining and strengthening their life support systems, recognizing and respecting different cultures and avoiding any form of exploitation. Environmental sustainability means conserving and managing resources, especially those that are not renewable or are precious in terms of life support. It requires action to minimize pollution of air, land and water, and the conserve biological diversity and natural heritage. Source: UNEP and WTO, 2005, p.9 5.3 รูปแบบและแนวโน้มการท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับแนวคิดและหลักการท่องเที่ยว อย่างยั่งยืน Sustainable tourism (การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน) คือ การท่องเที่ยวที่คำนึงถึง ผลกระทบตอ่ ระบบเศรษฐกิจ สงั คม วัฒนธรรมและส่งิ แวดล้อม เพ่อื ก่อให้เกดิ ประโยชน์ สงู สุดในขณะที่มกี ารป้องกันและลดผลกระทบใหเ้ กิดนอ้ ยที่สุดตอ่ ปัจจัยทเ่ี ก่ยี วข้อง Ecotourism (การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์) คือ การท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยว ธรรมชาติเพื่อให้เกิดความเพลิดเพลิน การพักผ่อนหย่อนใจ และการเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน และเนน้ การจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและการมสี ่วนรวมของชุมชนท้องถิ่นใน การประกอบกิจการด้านการท่องเที่ยวเพื่อก่อให้เกิดรายได้แก่ชุมชนและเกิดการเรยี นรู้ รว่ มกัน Pro-poor tourism (การท่องเที่ยวเพื่อลดปัญหาความยากจน) คือ ท่องเที่ยวท่ี คำนึงถึงการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนท้องถิ่นโดยการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการ ทอ่ งเทยี่ วและการประกอบธรุ กิจเกี่ยวกับการทอ่ งเที่ยวของชุมชน Recession tourism (การท่องเที่ยวในภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ) คือ การ ท่องเที่ยวที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวในยุคที่สภาวะ เศรษฐกิจฝืดเคืองและมีการถดถอย โดยมีการจัดการท่องเที่ยวแบบราคาประหยัดเพื่อ

เป็นการสร้างมลู ค่าเพิ่มในงบประมาณที่จำกัดและเป็นการชว่ ยใหผ้ ู้คนได้ผอ่ นคลายจาก สภาวะเศรษฐกิจทฝ่ี ืดเคอื ง Medical tourism (การท่องเที่ยวเพื่อการบำบัด) คือ การท่องเที่ยวเพื่อการบำบัด และการรักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจ ซึ่งควรอยู่ในความดูแลของแพทย์และ ผู้เช่ยี วชาญ เชน่ Spa,Massage, การฝ่ังเข็ม โยคะ และการออกกำลังกาย เป็นตน้ Education tourism (การท่องเที่ยวด้านการศึกษา) คือ การท่องเที่ยวที่มี วัตถุประสงค์ในการหาความรู้ เช่น การเดนิ ทางเพือ่ การศกึ ษา Dark tourism (การท่องเที่ยวในยุคมืด) คือ การท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวที่มี ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับความรุนแรงและเรื่องราวที่น่าสลดใจ เช่น การท่องเที่ยวใน สถานท่ีท่ีเคยเป็นแหล่งสงครามมากอ่ น สรปุ ทา้ ยบท การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมหลักที่มีขนาดใหญ่และสามารถทำรายได้ให้แก่ประเทศเป็น จำนวนมาก องค์ประกอบหลักของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวประกอบด้วย ทรัพยากรแหลง่ ท่องเทีย่ ว ส่ิง อำนวยความสะดวกและบริการ และตลาดการท่องเที่ยวหรือนักท่องเที่ยวอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมี ความสำคัญในการพฒั นาเศรษฐกจิ สงั คม วฒั นธรรมและส่ิงแวดล้อม แต่ในทางกลบั กนั อุตสาหกรรม การทอ่ งเทีย่ วกส็ ง่ ผลกระทบตอ่ ปัจจัยต่าง ๆ ที่กลา่ วมาได้เช่นกนั ท้ังนี้ ขึน้ อย่กู บั กิจกรรมการทอ่ งเท่ียว การให้บริการและทิศทางในการพัฒนาการท่องเที่ยว รวมถึงภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ดัง น้ัน หลักการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนจึงถูกนำมาใช้กันอย่างกว้างขวาง รวมถึงการพัฒนาการ ท่องเทย่ี วในประเทศไทย เพือ่ ใหก้ ารท่องเท่ยี วใหป้ ระโยชน์และลดผลกระทบด้านลบจากการท่องเท่ียว ให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม อยา่ งย่ังยนื และผลประโยชน์ในระยะยาวต่อไป