ทศั นศิลปก์ บั วัฒนธรรม ไทยและสากล รายวชิ าทัศนศลิ ป์ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 จัดทาโดย นางสาวกนธชิ า เจยี มมานะสมบตั ิ \\นางสาวสุดธชิ า สุดสวาท
ทัศนศลิ ป์ในวฒั นธรรมไทย ศิลปะทางด้านทัศนศิลป์ของไทย ที่คงไว้ในรูปของขนบธรรมเนียม ประเพณี และ วัฒนธรรม เป็น ศิลปะประจาชาติที่เราควรภาคภูมิใจ เห็นคุณค่า และหวงแหนรักษา ซึ่งในแต่ละสมัยก็จะมีการสร้างสรรค์ ผลงานที่มีความงดงามและมเี อกลักษณเ์ ฉพาะตวั แตกตา่ งกนั ออกไป ทง้ั น้ี หากพจิ ารณาถงึ รปู แบบและเน้ือหาของงานทัศนศิลป์ในวัฒนธรรมไทย จะพบว่า ผลงานทเี่ กิดขึ้น ในแต่ละยุคสมัยจะมีเรื่องราวเกี่ยวกับความศรัทธาทางศาสนา ความเชื่อ และวิถี ชีวิตความเป็นอยู่ ทาให้เกิด ความงามและคุณค่าท่แี ตกต่างกนั ไปในแต่ละชว่ งเวลา การศึกษาเร่อื งราวของงานทศั นศลิ ป์ในสมยั ประวัตศิ าสตร์ สามารถแบง่ ออกเปน็ ๔ ช่วงใหญๆ่ ดังน้ี ๑. สมยั ก่อนสโุ ขทัย เป็นช่วงเวลาที่แผ่นดินไทยมีชนชาติต่างๆ เคยตั้งถิ่นฐานมาก่อน และได้ทิ้งร่องรอย อารยธรรม ทางด้านศิลปะไวม้ ากมาย ไดแ้ ก่ - สมัยทวารวดี ศิลปะในสมัยนี้ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท ซึ่งรับอิทธิพล มาจากอนิ เดีย ตอ่ มากน็ ามาประยกุ ต์จนมเี อกลักษณ์เป็นของตนเอง งานจิตรกรรม : ไมป่ รากฏหลกั ฐาน งานประตมิ ากรรม : พระพุทธรูปนงั่ ห้อยพระบาทปางแสดงปฐมเทศนา พระพุทธรปู ศลิ าขาว ปัจจุบัน อยู่ดา้ นหลงั องค์พระปฐมเจดยี ์ จงั หวดั นครปฐม งานสถาปตั ยกรรม : พระปฐมเจดีย์องค์เดิม หรอื จุลประโทณเจดยี ์จงั หวดั นครปฐม
- สมัยศรีวชิ ัย ตั้งอยู่ใกล้บริเวณหมู่เกาะชวา มาเลเซีย และตอนใต้ของไทย ปจั จบุ นั คือ อาเภอไชยา จงั หวัดสรุ าษฎรธ์ านี ศิลปวัตถุไดร้ บั อิทธพิ ลต่อเนอ่ื งจากชวาเป็นสาคญั งานจิตรกรรม : ไม่ปรากฏหลักฐาน งานประตมิ ากรรม : รปู เคารพและพระพิมพด์ ินดบิ เปน็ รูปพระโพธิสตั ว์อวโลกเิ ตศวร งานสถาปัตยกรรม : พระบรมธาตุไชยา จังหวดั สุราษฎร์ธานี - สมัยลพบุรี หรือละโว้ มวี ัฒนธรรมท่ีหลากหลายอันเกิดจากการผสมผสานระหวา่ งวฒั นธรรมเดมิ ท่ี เป็น ทวารดีกับวัฒนธรรมขอม งานจติ รกรรม : ไมป่ รากฏหลกั ฐาน
งานประติมากรรม : ลกั ษณะเด่นของงานประตมิ ากรรมแบบลพบรุ ี คอื ไมว่ ่าจะเปน็ รปู คน หรือรูป เคารพต่างๆ จะมีหน้าผากกว้าง ปากแบะหนา คางเหลี่ยม และรูปรา่ งล่าเตี้ย งานสถาปตั ยกรรม : พระปรางค์สามยอด จงั หวดั ลพบรุ ี ปราสาทเมอื งสงิ ห์ จังหวัดกาญจนบรุ ี - สมัยเชยี งแสน หรือล้านนา เป็นศิลปะภาคเหนือร่นุ แรกๆ กอ่ น สมัยสุโขทัย เป็นการรบั เอาอิทธพิ ลแบบอย่างศิลปะมาจาก อาณาจกั ร พกุ ามของพม่า งานจิตรกรรม : ไม่ปรากฏหลักฐาน งานประติมากรรม : พระพุทธรูปท้ังท่ีหล่อดว้ ยสาริด และปนั้ ด้วยปูน งานสถาปตั ยกรรม : พระธาตหุ รภิ ญู ไชย จังหวัดลาพูน ๒. สมยั สโุ ขทยั จัดเป็นศิลปะไทยที่งดงามและมีเอกลักษณ์เป็นของตนเองมากที่สุด โดยเฉพาะการสร้างพระพุทธรูป ในสมัยนี้ได้รับพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท ลัทธิลังกาวงศ์ ดังนั้น อิทธิพลของศิล ปะแบบลังกาจึงเข้ามามี
อทิ ธพิ ลตอ่ ศิลปะสโุ ขทยั แตช่ า่ งสุโขทัยได้ประดิษฐ์คดิ ค้นสรา้ งสรรค์รปู แบบงานทีเ่ ป็นเอกลักษณ์เฉพาะตน เช่น เจดีย์ทรงพุ่มข้าวบณิ ฑ์ หรือดอกบัวตมู ท่พี ระเจดียป์ ระธานวัดมหาธาตุ จังหวดั สุโขทัย เป็นตน้ ๓. สมยั อยุธยา สมัยอยุธยามีความเจริญรุ่งเรืองต่อเนื่องยาวนานถึง ๔๑๗ ปี จึงมีความเจริญทางด้านศิลปวัฒนธรรม เป็นอย่างมาก ผลงานมักมีความเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ ผลงานด้านศิลปวัฒนธรรมเด่น ๆ เช่น เจดีย์วัดพระศรีสรรเพชญ์ เจดีย์วัดใหญ่ชัยมงคล เจดีย์วัดภูเขาทอง เป็นต้น ๔. สมัยรตั นโกสนิ ทร์ ภายหลงั การสถาปนากรงุ รัตนโกสนิ ทร์ขึ้นเปน็ ราชธานี ผลงานทศั นศลิ ปด์ ้านจิตรกรรม ประตมิ ากรรม และสถาปตั ยกรรมไดถ้ กู สร้างสรรค์ข้ึนอยา่ งมากมาย ผลงานทส่ี าคญั เช่น จติ รกรรมฝาผนงั ภายในพระทีน่ ง่ั พุท
ไธสวรรย์ พิพิธภณั ฑสถานแห่งชาติพระนคร กรงุ เทพฯ และจติ รกรรมฝาผนงั ภายในพระอุโบสถวัดสวุ รรณาราม ราชวรวิหาร กรุงเทพมหานครฯ เปน็ ตน้ ตอ่ มาเม่อื ไดร้ ับอิทธิพลจากตะวันตก จิตรกรรมไทยได้รบั การผสมผสานใหเ้ กดิ เป็นรูปแบบใหม่เพ่ิมข้ึน กล่าวคือ มีการน าเทคนคิ การเขียนภาพใหม้ ีมติ ิตามแบบอย่างตะวันตก เช่น จติ รกรรมของขรวั อินโขง่ ภายใน พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวหิ ารราชวรวหิ าร เปน็ ตน้ ปจั จบุ นั จติ รกรรมฝาผนังไทยมีการผสมผสานกับคตนิ ิยมจาก ตะวนั ตก ทาใหม้ ลี กั ษณะรว่ มสมัยกับนานาชาตมิ ากข้ึน
ทศั นศลิ ป์ในวัฒนธรรมสากล ทัศนศิลป์ในวัฒนธรรมตะวันตกมีวิวัฒนาการอย่างตอ่ เนื่องและมีอิทธิพลตอ่ การสร้างสรรค์งานศิลปะ ของโลกอย่างมาก ทั้งยังเป็นศิลปะที่ผสมผสานแนวคิด เทคนิค วิธีการอย่างเป็นกลาง ไม่มีรูปแบบตายตัว ผู้ สร้างสรรค์สามารถพัฒนางานได้อย่างอิสระ รูปแบบที่เกิดขึ้นถือเป็นสากล ไม่เกี่ยวกับชาติใด ผู้ชมทั่วโลก สามารถดูแลว้ เขา้ ใจสอดคลอ้ งกนั ได้ ผลงานจิตรกรรมอายุเก่าแก่เป็นภาพเขียนสี ขูดขีดเป็นรูปสัตว์ต่างๆและการล่าสัตว์ มีทั้งลวดลาย เรขาคณติ รอยฝา่ มอื ตามบริเวณถา้ และเพิงผา ความแตกตา่ งตามยุคสมัยของวัฒนธรรมสากลสามารถแบ่งไดด้ งั นี้ สมัยกอ่ นประวตั ศิ าสตร์ มีพัฒนาการเริ่มต้นตั้งแต่สมัยยุคหิน ก่อนเข้าสู่ยุคโลหะ จนเข้าสู่สมัยประวัติศาสตร์ ผลงาน ทัศนศิลป์ ในช่วงนี้เป็นผลงานที่สร้างขึ้นอย่างง่ายๆ บอกเล่าเรื่องราวที่เป็นสภาพแวดล้อมใกล้ๆตัว ความเชื่อ เรือ่ งจติ วญิ ญาณ และปรากฏการณธ์ รรมชาติ ด้านประติมากรรมเริ่มจากการสร้างอาวุธ เครื่องมือเครื่องใช้ด้วยหิน มีการรู้จักน้างาสัตว์ กระดกู สตั ว์ ก้อนหนิ มาแกะสลกั เปน็ สัญลกั ษณ์ เพือ่ ส่ือความหมาย ใช้ในการบูชามากกวา่ เน้นประดับตกแต่ง
นอกจากนยี้ งั มีการทา้ เครือ่ งปั้นดนิ เผาเพ่อื ใชส้ อย ทง้ั แบบธรรมดา และมีลวดลายขดู ขดี งานสถาปัตยกรรมท่มี คี วามโดดเด่นคือสถาปัตยกรรมหินในรูปแบบตา่ งๆ ลกั ษณะทา้ เป็นโต๊ะหินหรอื หนิ ลอ้ ม ไดแ้ ก่ สโตนเฮน้ จ์ ในประเทศองั กฤษ ซง่ึ ไม่สามารถสรุปไดว้ า่ สรา้ งขนึ้ เพ่อื วตั ถปุ ระสงคใ์ ดแตค่ าดวา่ น่าจะเกี่ยวกบั ลทั ธิ ความเช่ือ สมยั ประวตั ิศาสตร์ ดินแดนส่วนต่างๆของโลกจะเข้าสมัยประวัติศาสตร์ที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างในสมัยอียิปต์ อียิปต์ มี ความเจริญรุง่ เรืองในแถบลุ่มแม่น้าไนล์ ผลงานที่แสดงออกส่วนใหญ่เป็นความเช่ือ ความศรัทธา ที่มีต่อศาสนา และ ผู้นา ผลงานที่โดดเด่นมักเป็นผลงานสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่ เช่น วิหาร อาคาร พีระมิด ซึ่งส่วนใหญ่ สรา้ งจากหนิ
งานประตมิ ากรรมจะมที ง้ั งานแกะสลกั เสา ฝาผนงั โดยมเี นอื้ หาเก่ียวกบั เทพเจา้ และฟาโรห์ งานจิตรกรรมก็มกั เป็นเร่ืองเก่ียวกับเทพเจา้ มีการใชส้ ีท่ีทา้ จากวสั ดธุ รรมชาติ รูปรา่ งเป็นรูปแบน เสน้ คมชดั มีสี สดใส ฉากหลงั เป็นพนื้ ขาว ในส่วนสาคญั ของภาพมกั จะวาดใหม้ ีขนาดใหญ่กว่าปกต สมยั กลาง เป็นช่วงที่ศาสนาคริสต์ และ ศาสนจักรมีบทบาทสูงต่อสังคม แนวคิดทางศิลปะเชื่อว่าความงาม เป็นสิ่งที่พระเจ้า สร้างขึ้นผ่านทาง ศิลปิน ดังน้ัน ศิลปินจึงต้องสร้างสรรค์งานที่ เกี่ยวกับพระเจ้าให้งดงาม ทส่ี ุด
กรีก ผลงานทัศนศิลป์ที่โดดเด่นเป็นผลงานทาง ประติมากรรมและสถาปัตยกรรม ทางด้านประติมากรรมเรียกได้ว่า เป็นยุคคลาสสิค มีการสร้างงานที่เป็นเอกลักษณ์ของกรีก โดยเฉพาะ มักเป็นงานที่หล่อด้วยสาริด และแกะสลักด้วยหิน อ่อน เป็นรูปของ เทพเจ้า นกั กีฬา วีรบรุ ษุ สัตว์ตา่ งๆ โดย รปู ทรงจะมีความเป็นมนุษย์ จริงๆตามธรรมชาติ งานสถาปัตยกรรม มีการก่อสรา้ งอาคารขนาด ใหญ่ ซง่ึ ออกแบบ อยา่ งดี ทงั้ สดั สว่ น ความสงู ระยะหา่ งระหวา่ งตาแหนง่ ตา่ งๆ มีการ แกะสลกั ประดบั ประดาอยา่ งงดงาม จุดเด่นของสถาปัตยกรรมกรีก คือ มกี ารออกแบบหวั เสาอย่างสวยงาม ในการออกแบบหัวเสาของกรีก จะมีความแตกต่างอยู่ ๓ แบบ คอื ดอรกิ ไอโอนกิ และ แบบคอรินเทียน
โรมนั ได้รบั รูปแบบศิลปกรรมของ กรกี เข้ามาใช้ แล้ว ปรับปรุงให้ เหมาะสมกับความต้องการของตน ลักษณะเด่นจะเป็นผลงาน สถาปัตยกรรมที่มุ่ง ประโยชนใ์ ชส้ อย ไม่เน้นสร้างศาสนสถาน ผลงานจิตรกรรม มีปรากฏเป็นภาพวาดบนฝาผนัง โดย ใช้สีวาดเป็นรูปทิวทัศน์ สิ่งก่อสร้าง มีการแสดงสัดส่วนตาม ธรรมชาติ และใช้แสงเงาเพื่อสร้างมิติ และมีภาพที่ประดับ ด้วย เศษหินสี เรียกว่าภาพโมเสก (Mosiac) ผลงานท่สี าคญั ในสมยั โรมนั สว่ นใหญ่ จะเป็นสนามกีฬาหรือโรงมหรสพ ทง้ั นโี้ รมนั ไดพ้ ฒั นาโครงสรา้ ง แบบประตู โคง้ และหลงั คาโดมซ่งึ เป็นรูปครง่ึ ทรงกรม ไมเ่ นน้ ตกแต่งเหมอื นกรีก
ไบแซนไทน์ ลักษณะผลงานเป็นการผสม ระหว่าง ตะวันออกและตะวันตก เรื่องราวจะ เกี่ยวข้องกับ ศาสนา ทางด้านสถาปัตยกรรมมีการ ก่อสร้างวิหาร หลายแห่ง ภายในประดับด้วย กระจกสี งานประติมากรรมแบบไบแซนไทน์ จะเป็นรูป พระเยซูและนกั บญุ ต่างๆ งานจิตรกรรม มีการใชเทคนิควาดภาพแบบเฟรสโก (Fresco) คือวาดเสน้ ระบายสีบนภาพ ขณะท่ีปนู ฉาบผนงั ยงั เปียก อยู่ โรมาเนสก์ ได้รับรูปแบบ ศิลปกรรมของศิลปะโรมัน ลักษณะ ของสถาปัตยกรรม การสร้างวิหาร โดยทั่วไป จะมีแผนผังเป็นรูปไม้ กางเขน ท้าหลังคาและเพดาน โค้ง กาแพงหนาทึบ มีช่องประตูน้อย ลักษณะเหมือน ปอ้ มปราการ
ประติมากรรมของโรมาเนสกส์ ่วนใหญ่เป็นงาน แกะสลกั หนิ ประดบั อาคาร รูปรา่ งทา่ ทางจะไมเ่ ป็น ธรรมชาติ งานจติ รกรรมจะมลี กั ษณะแขง็ แตเ่ ป็นธรรมชาติ มีทงั้ วาดแบบธรรมดาและแบบเฟรสโก กอทิก เริ่มตน้ ขึ้นที่ฝร่ังเศส ผลงานทัศนศลิ ป์มคี วามสมจรงิ ตามธรรมชาติ สถาปตั ยกรรมมกั เปน็ อาคาร ทรงสงู ชะลดู แหลม ใช้ประตูรูปโค้ง เพดานโค้ง หลังคาโค้ง ภายในประดบั กระจกสี
ผลงานประติมากรรมของกอทิก จะเป็นเร่ืองราว เกย่ี วกบั ศาสนา สอื่ อารมณ์ความรู้สกึ แต่เปน็ รปู ลอยตวั ไม่ ติดกับฝาผนัง ผลงานจิตรกรรมทีโ่ ดดเด่นมากของยุคน้ี คอื การท้ากระจกสเี ป็นรูปตา่ งๆ สาหรับ ใช้ประดบั ตกแตง่ ประตู หนา้ ต่าง สมัยฟน้ื ฟูศิลปวิทยาการ มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สมัยเรอเนซองซ์ (Renaissance) ถือกาเนิดในอิตาลีก่อนที่จะแพร่ขยายไป ทวั่ ยโุ รป เป็นการรือ้ ฟื้นศลิ ปวิทยาสมยั กรีก โรมนั ศิลปะในยุคสมัยนี้จะยึดถือเหตุผล ระเบียบ ความเป็นจริงตามธรรมชาติมากกว่าอารมณ์ความรู้สึก ผลงานจะเกย่ี วกบั ศาสนาแตย่ งั มเี ร่ืองราวเกี่ยวกับคนทัว่ ไปปรากฏอยูด่ ้วย
งานประติมากรรม มีการแสดงออกถึงความจรงิ ตาม ธรรมชาติ มีการนาความรู้ทางกายวิภาคมาใช้ผลงานเน้นสัดส่วนที่ ถูกต้อง แสดง กล้ามเน้ือ เส้นเอน็ แสดงออกทางความรูส้ กึ ดว้ ยทา่ ทาง และใบหนา้ ด้านจิตรกรรม มีการใช้ หลัก ทัศนียภาพเชิงเส้น คือ แสดง สัดส่วน แสดงความคมชัดของสี แสง เงา ที่ถูกต้อง ตามระยะใกล้ ไกล มีการใช้องค์ประกอบ ทางทัศนศิลป์ในการสรา้ งสรรคผ์ ลงาน ทางด้านสถาปัตยกรรม มีการก่อสร้างอาคาร ขนาดใหญ่ตามแบบกรีก โรมัน โดยท้าหลังคาเป็นรูป โดม ภายในประดับด้วยภาพจิตรกรรม และ ประติมากรรมทีง่ ดงาม
สมยั ใหม่ เป็นการแสดงออกทางศลิ ปะที่ไมม่ ีรูปแบบแน่นอน ตายตัวลักษณะเด่นจะส่ือถึงอารมณ์ความรู้สกึ ของ ศิลปนิ ออกมาเฉพาะคน เฉพาะกลุ่ม แตล่ ะกล่มุ จะมแี นวคดิ วิธีการท่ีแตกต่างกันออกไป ศิลปินในสมัยใหม่มีทัศนะว่า การแสดงออกของ ผลงานทางศิลป์ไม่ควรมีกรอบ การแสดงผลงานท่ี สะทอ้ นเหตุการณ์ในปัจจบุ ันกม็ คี ณุ ค่าเชน่ เดยี วกบั การสะท้อน เรื่องราวในอดตี หรือศาสนา ลทั ธิประทับใจ (Impressionism) เน้นสื่อถึงความรู้สึกประทับใจต่อความงามของทิวทัศน์ เหตุการณ์ ผลงานจะแสดงออกถึงความมี ชีวิตชีวา ถ่ายทอดแสงสีในขณะที่เขียนออกมา เน้นการเขียนภาพด้วยฝีแปรงที่ฉับพลัน ไม่นิยมการเกลี่ยสีให้ กลมกลนื กนั
ลทั ธบิ าศกนยิ ม (Cubism) เป็นการถ่ายทอดผลงานประติมากรรม หรือภาพจิตรกรรมจากรูปทรงธรรมดา เปลี่ยนลักษณะเป็น เหลี่ยมลูกบาศก์ หรือรูปเรขาคณติ เพื่อเน้นให้เห็นมิตทิ ัง้ สาม ผลงานจะมีลกั ษณะกึ่งนามธรรม ลทั ธสิ ัจนยิ ม (Realism) ผลงานจะเนน้ การสะท้อนความเปน็ จรงิ ที่เกิดขึน้ ในสังคม โดยศิลปินมกั เลือกมุมสะท้อนความยากจน การถูกเอารดั เอาเปรยี บ ความยุติธรรมชีวิตของชนชน้ั กรรมาชีพ
ลัทธิเหนือจรงิ (Surrealism) ลกั ษณะผลงานเน้นสะท้อนความฝัน จินตนาการที่อยู่ภายใต้จติ สานึกออกมา ลักษณะภาพจะเปน็ กง่ึ นามธรรม ลทั ธินามธรรม (Abstractism) เป็นแนวคิดในการสรา้ งสรรค์ผลงานทแ่ี ปรจากรูปธรรมมาเปน็ นามธรรม ความงามขน้ึ อยู่กบั การทา ความเขา้ ใจและตีความของแตล่ ะบุคคล
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: