Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ตัวชี้วัดคุณภาพโรงเรียน KPI

ตัวชี้วัดคุณภาพโรงเรียน KPI

Published by Ne-Twos KS, 2022-05-24 05:34:16

Description: ตัวชี้วัดคุณภาพโรงเรียน KPI

Search

Read the Text Version



ก คำนำ ตามท่ีโรงเรียนชุมชนท่ี ๑๑ วัดสุวรรณประดิษฐ์ได้รับมอบนโยบายจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาพิษณุโลก เขต ๑ ให้จดั ทำตัวช้ีวดั คุณภาพเป้าหมาย KPI PLK 1 ของโรงเรียน เพ่ือเตรยี มความพร้อมสู่ การเปิดภาคเรียนในการศึกษาใหม่ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ โดยตัวช้ีวัดคุณภาพเป้าหมาย KPI PLK 1 แบ่งออกเป็น ๔ ด้าน ได้แก่ ดา้ นคณุ ภาพผ้เู รียน ดา้ นคุณภาพครู ดา้ นคุณภาพหลักสตู ร และด้านเครอื ข่ายคุณภาพ รายงานฉบับนี้จึงเป็นการแสดงตัวชี้วัดคุณภาพเป้าหมาย KPI PLK 1 ของโรงเรียนชุมชนท่ี ๑๑ วัดสุวรรณ ประดิษฐ์ ต้ังแต่ระดับช้ันอนุบาล ช้ันประถมศึกษา และชั้นมัธยมศึกษา ประกอบด้วย ๔ ด้าน ได้แก่ ด้านคุณภาพ ผเู้ รยี น ดา้ นคณุ ภาพครู ด้านคุณภาพหลกั สตู ร และด้านเครอื ขา่ ยคณุ ภาพ ( นางบุญทิ นว่ มบาง ) ผ้อู ำนวยการโรงเรียนชมุ ชนที่ ๑๑ วดั สวุ รรณประดิษฐ์

สารบญั ข คำนำ หน้า สารบัญ ก ตวั ช้ีวัด ตวั บ่งช้ี และสภาพท่ีพึงประสงค์ ระดับปฐมวัย ข แนวทางการจัดการเรียนการสอน/จดุ เนน้ ปีการศึกษา 2565 ระดบั ปฐมวัย 1 ตวั ชวี้ ดั คณุ ภาพเปา้ หมาย KPI (ด้านความรู้ ด้านทักษะชีวติ และดา้ นทักษะวิชาชีพ) 10 1. คณุ ภาพ ชว่ งชน้ั ท่ี 1 (ระดบั ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1-3) 13 คณุ ภาพ ช่วงชน้ั ท่ี 2 (ระดับช้ันประถมศึกษาปที ่ี 4-6) 13 คณุ ภาพ ช่วงชนั้ ที่ 3 (ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1-3) 14 16 2. ตวั ชวี้ ดั คณุ ภาพครแู ละผู้บริหาร 16 3. หลักสูตรการจัดการเรยี นการสอน 17 4. การมสี ่วนร่วมและการพัฒนาโครงสร้างพืน้ ฐานของโรงเรยี น

1 ตัวชว้ี ัด ตัวบ่งชี้ และสภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ระดบั ปฐมวัย มาตรฐาน คณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ พัฒนาการ มาตรฐานคณุ ลักษณะท่ีพงึ ตัวบง่ ชี้ สภาพที่พึงประสงค์ ดา้ นรา่ งกาย ประสงค์ ตัวบง่ ชี้ที่ 1 มีนำ้ หนัก เดก็ อายุ 4 ปี ส่วนสงู และเส้นรอบ ดา้ นอารมณ์ มฐ.1 รา่ งกายเจริญเติบโตตาม ศีรษะ รอบอก ตาม 1. นำ้ หนักและส่วนสงู ได้ วัย และมีสุขนิสยั ทด่ี ี เกณฑ์อายุ สัดส่วนตามเกณฑ์ ตัวบง่ ชี้ที่ 2 รจู้ กั รกั ษา 2. เสน้ รอบศีรษะตามเกณฑ์อายุ มฐ. 2 กล้ามเนอื้ ใหญแ่ ละ สุขภาพอนามยั และ กล้ามเน้ือเล็กแข็งแรงใช้ได้ ความปลอดภยั 1. รับประทานอาหารท่ีมี อยา่ งคล่องแคล่ว และประสาน ประโยชนไ์ ดบ้ างชนิด สัมพนั ธก์ ัน ตัวบง่ ชท้ี ี่ 1 เคล่ือนไหว 2. ลา้ งมอื หลังจากใชห้ ้องนำ้ ร่างกายอย่างคล่องแคลว่ 3. ขบั ถ่ายเปน็ เวลา มฐ.3 มีสขุ ภาพจิตดีและมี และทรงตัวได้ดี 4. พกั ผอ่ นเปน็ เวลา 5. ระมัดระวงั ความปลอดภัย ตัวบง่ ช้ีที่ 2 ใช้มอื ได้ ของตนเองและผอู้ ื่น อยา่ งคล่องแคลว่ 1. เดนิ ขน้ึ ลงบันไดสลบั เทา้ ได้ 2. เดนิ ตอ่ เทา้ ไปขา้ งหน้า ตรง ตวั บ่งชี้ท่ี 1 การ ตามแนวได้ 3. ยืนขาเดยี วโดยไมเ่ สียการ ทรงตัว 4. กระโดดขาเดียวอยู่กบั ท่ีได้ ต่อเนอื่ งโดยไมเ่ สียการทรงตัว 5. ว่ิงและหยดุ ได้โดยเสยี การทรง ตวั 1. โยนลกู บอลไปข้างหน้าได้ 2. รับลูกบอลไดด้ ว้ ยมือท้ังสอง ข้าง 3. เขียนรูปส่เี หล่ยี มตามแบบได้ 4. ตัดกระดาษให้อยใู่ นแนวตาม เส้นตรงได้ 5. ร้อยลูกปัดทมี่ รี ูปขนาดเลก็ ได้ 1. ร่าเริง แจม่ ใส อารมณ์ดี

2 พัฒนาการ มาตรฐานคุณลักษณะที่พึง ตัวบ่งช้ี สภาพท่พี งึ ประสงค์ จิตใจ ประสงค์ แสดงออกทางดา้ น เดก็ อายุ 4 ปี อารมณ์อยา่ งเหมาะสม ความสุข ตามวยั และตาม 2. แสดงความร้สู ึกความ สถานการณ์ ต้องการและอารมณ์ของตนเอง มฐ.4 มีคุณธรรม จรยิ ธรรม ตัวบ่งชท้ี ่ี 2 มคี วามรู้สกึ ไดส้ อดคล้องกบั สถานการณ์ และมีจติ ใจท่ีดีงาม ทีด่ ตี ่อตนเองและผอู้ ่ืน 1. บอก/แสดงสีหน้าท่าทาง พอใจ มฐ.5 ชน่ื ชมและแสดงออก ตัวบง่ ช้ที ี่ 1 มวี นิ ัยใน ในผลงาน / ความสามารถและ ทางศิลปะ ดนตรี การ ตนเองและมีความ ยอมรบั ในสิ่งท่ตี นมีอยู่ เปน็ อยู่ เคลื่อนไหว และรักการออก รบั ผิดชอบ 2. รับรคู้ วามรสู้ ึกและอารมณ์ ของผู้อ่ืนไดบ้ ้าง ตวั บง่ ชท้ี ่ี 2 ซอื่ สตั ย์ 3. บอก/แสดงสหี น้าทา่ ทาง สจุ รติ และยอมรบั ความ พอใจในผลงาน / ความสามารถ ผิดพลาดของตนเองและ และยอมรับในสิ่งที่ผู้อื่นมีอยู่/ ผูอ้ ื่น เป็นอยู่ ตวั บ่งชท้ี ่ี 3 มคี วาม 1. เกบ็ ของเลน่ ของใชเ้ ขา้ ท่ีได้ เมตตากรุณาและ 2. รับผดิ ชอบงานทไี่ ด้รบั ชว่ ยเหลอื แบง่ ปัน มอบหมายจนสำเรจ็ 3. รจู้ กั รอคอยและเข้าแถว ตวั บ่งชี้ท่ี 4 รูจ้ ัก ตามลำดับก่อนหลัง ประหยัด 1. รจู้ ักขอโทษและใหอ้ ภัย ตัวบ่งช้ที ี่ 1 สนใจและมี 2. ไม่แย่งหรือหยบิ ขอผู้อนื่ มา ความสขุ กบั ศลิ ปะ เปน็ ของตนเอง ดนตรีและการ 1. แสดงความรักเพื่อนและ สัตว์เลี้ยง 2. ไมท่ ำรา้ ยผอู้ ื่น แลไม่ทำให้ ผู้อืน่ เสียใจ 3. รจู้ ักแบ่งปนั และเรมิ่ ชว่ ยเหลือ ผู้อื่น 1. รักษาสิ่งของทใี่ ช้ร่วมกนั 1. สนใจและมคี วามสุขขณะ ทำงานศิลปะ 2. สนใจและมีความสุขกับ

3 พัฒนาการ มาตรฐานคุณลักษณะท่ีพึง ตวั บ่งชี้ สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ดา้ นสงั คม ประสงค์ เดก็ อายุ 4 ปี เคล่อื นไหว กำลงั กาย เสียงเพลง ดนตรีและ ตัวบง่ ชท้ี ี่ 2 แสดงออก การเคลือ่ นไหว มฐ.6 ชว่ ยเหลือตนเองได้ ทางดา้ นศลิ ปะ ดนตรี 1. สร้างสรรค์ผลงานทางด้าน เหมาะสมกับวยั และการเคลือ่ นไหวตาม ศลิ ปะ จินตนาการ 2. แสดงทา่ ทางเคลื่อนไหว มฐ.7 รกั ธรรมชาติส่งิ แวดลอ้ ม ตัวบง่ ชท้ี ี่ 3 รักการออก ประกอบเพลง จังหวะ และดนตรี และความเปน็ ไทย กำลงั กายและการกฬี า สนใจและมีความสุขในการชม / ตวั บ่งชี้ท่ี 1 ปฏิบตั ิ เลน่ / ออกกำลงั กาย มฐ.8 อยู่รว่ มกบั ผู้อ่ืนได้อย่างมี กจิ วัตรประจำวนั ไดด้ ้วย 1. แต่งตัวได้ดว้ ยตนเอง ความสุขและปฏบิ ัติตนเปน็ ตนเอง 2. รับประทานอาหารไดด้ ว้ ย สมาชิกที่ดีของสงั คมในระบอบ ตนเองโดยไมห่ กเลอะเทอะ ประชาธิปไตยอนั มี ตัวบง่ ช้ีที่ 1 ดแู ละรักษา 3. รู้จักทำความสะอาดรา่ งกาย พระมหากษัตรยิ เ์ ปน็ ประมุข ธรรมชาตแิ ละ หลังจากเขา้ ห้องนำ้ ห้องส้วม สิ่งแวดลอ้ ม 1. สนใจธรรมชาติและ สง่ิ แวดล้อม ตัวบง่ ชที้ ี่ 2 มสี ัมมา 2. ไมท่ ำลายสาธารณสมบัติ คารวะและมารยาทตาม 3. ชว่ ยดแู ลรักษาสิ่งแวดลอ้ ม วฒั นธรรมไทย 1. แสดงความเคารพตาม ประเพณีของแต่ละท้องถน่ิ ได้ ตวั บง่ ชี้ที่ 1 เลน่ และ 2. รู้จักกลา่ วคำขอบคุณและขอ ทำงานรว่ มกบั ผู้อ่ืนได้ โทษ 3. มีมารยาทในการพดู ฟังและ ตวั บง่ ชท้ี ี่ 2 ปฏิบัติตน ปฏิบัตติ นได้เหมาะสมตามวัย เบอื้ งต้นในการเป็น 1. รูจ้ กั รอคอย สมาชกิ ทด่ี ขี องสังคมใน 2. เลน่ และทำกิจกรรมร่วมกับ ระบอบประชาธิปไตย ผอู้ น่ื ได้ อนั มีประมหากษตั รยิ ์ เปน็ ประมขุ 1. ปฏิบัตติ ามข้อตกลงร่วมกัน 2. เรม่ิ รู้จักการเปน็ ผู้นำผตู้ ามได้ บางครั้ง

4 พัฒนาการ มาตรฐานคุณลกั ษณะท่ีพึง ตวั บง่ ชี้ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ด้านสติปัญญา ประสงค์ เดก็ อายุ 4 ปี ด้านสติปญั ญา มฐ.9 ใช้ภาษาสอื่ สารได้ ตัวบ่งชี้ที่ 1 สนทนา 1. สนทนาโต้ตอบหรือเล่าเรื่อง เหมาะสมกบั วัย โตต้ อบเล่าเรอ่ื งใหผ้ อู้ ่นื เป็นประโยคอย่างต่อเนื่อง 2. ฟังและปฏิบตั ติ ามคำส่ังท่ี มฐ.10 มีความสามารถในการ เขา้ ใจได้ คดิ และแก้ปญั หาได้เหมาะสม ตอ่ เน่ืองได้ ตามวยั ตวั บง่ ชี้ที่ 2 อ่านเขียน 1. เปดิ และทำท่าอา่ นหนงั สอื มฐ.11 มจี นิ ตนาการและ ภาพและสญั ลักษณ์ได้ 2. ขีดเขยี นเป็นเส้นดว้ ย ความคิดสรา้ งสรรค์ ตัวหนงั สือ (โดยไมเ่ น้นความ ถกู ต้องและไม่ได้เกดิ จากการฝึก) 3. เขยี นภาพและสัญลักษณต์ าม ความต้องการของตนเองได้ ตวั บง่ ชที้ ่ี 1 มคี วามคดิ 1. บอกคุณสมบัติของส่งิ ที่ รวบยอดในการเรยี นรู้ส่ิง มองเห็นได้ 3 อย่าง ต่างๆ 2. บอกรสของส่งิ ทีช่ งิ ได้ 3 รส 3. บอกเสยี งท่ีได้ยินได้ 3 เสยี ง 4. บอกกลิ่นของสงิ่ ท่ีดมได้ 3 กลิ่น 5. บอกความรู้สึกของส่ิงท่ีสมั ผสั ได้ 3 อย่าง 6. จำแนกเปรยี บเทยี บส่งิ ต่างๆ ได้ 4-5 ลักษณะ 7. จัดหมวดหมูส่ ่งิ ต่างๆ 8. เรียงลำดับสิ่งต่างๆ ได้ 4-5 ลำดับ 4-5 ลำดับ 9. เรียงลำดับเหตุการณ์ได้ 4-5 ลำดับ 10. บอก/แสดงตำแหนง่ “บน- ลา่ ง” ทิศทาง “เขา้ -ออก” ได้ 11. บอก/แสดงความสัมพนั ธ์ของ ส่ิงตา่ งๆ ได้ 2 ประเภท 12. บอกหรือแสดงค่าจำนวน 1-5 ตวั บง่ ช้ี 2 แกป้ ัญหาใน 1. พยายามแกป้ ัญหาด้วยตนเอง การเล่นหรอื ทำกิจกรรม หลังจากได้รับคำชีแ้ นะ ต่างๆ ตวั บง่ ชท้ี ี่ 1 ทำงาน 1. สร้างผลงานตามความคิดของ ศิลปะตามความคิดของ ตนเองโดยมรี ายลเอียด

5 พัฒนาการ มาตรฐานคุณลักษณะท่ีพึง ตัวบง่ ช้ี สภาพท่ีพึงประสงค์ ประสงค์ เดก็ อายุ 4 ปี ตนเอง 2. วาดภาพตามความคดิ มฐ.12 มีเจตคติทด่ี ีตอ่ การ สรา้ งสรรค์ของตนเองได้ เรียนรู้และมที ักษะในการ ตัวบง่ ชี้ 2 แสดงทา่ ทาง 1. เคลอื่ นไหวทา่ ทางตาม แสวงหาความรู้ ตามความคดิ ของตนเอง ความคิดสรา้ งสรรค์และ จินตนาการได้ ตัวบ่งชท้ี ี่ 3 เลา่ เร่อื งราว 1. เลา่ นทิ านหรอื เรื่องราวตาม หรือนทิ านตามความคิด จินตนาการได้ ของตนเอง ตัวบง่ ช้ีที่ 1 สนใจเรยี นรู้ 1. รว่ มกจิ กรรมด้วยความสนใจ สิ่งต่างๆ ได้นานอย่างมีความสุข 2. มคี วามสนใจหยบิ /เปิด หนงั สือดูและอ่านภาพ 3. มคี วามสนใจขีดเขียนลากเสน้ ต่างๆ ตวั บ่งชท้ี ่ี 2 แสวงหา 1. ถามคำถามเก่ยี วกับเร่ืองท่ี คำตอบดว้ ยวธิ ีการท่ี สนใจ หลากหลาย 2. แสวงหาคำตอบ/ข้อสงสยั ด้วย วิธีการซักถาม สำรวจ คน้ คว้า ทดลอง 3. เชื่อมโยงความรแู้ ละทักษะ ตา่ งๆ ใช้ในชีวติ ประจำได้

ผังมโนทัศนส์ าระการเรยี นรู้เด ชื่อ-นามสกลุ ตนเอง ช่ือ-นามสกลุ ของเพอื่ น ความสำคัญของช่ือ ชอ่ื -นามสก ความเมตตา กรณุ า การรจู้ ัก ชอ่ื - นามสกุล แบ่งปัน การช่วยเหลอื กนั การแสดงมารยาทท่ีดี กฎระเบียบของ เรอ่ื งรา โรงเรยี น ตัว ขอ้ ตกลงของห้อง การเล่นและทำสง่ิ ตนเองคนเดียว มารยาทในการเดนิ น่ัง ยนื พูด การแสดงความคิดเหน็ / ความรู้สกึ การแสดงความรู้สึกจากการ เลน่ / เรียนรูส้ ่งิ ตา่ งๆ การเลน่ ตามมุม

6 ดก็ ปฐมวัย เด็กอายุ 4 – 5 ปี กลุ ของครู ความเหมอื น ความแตกต่างของ รูปร่าง าวเก่ยี วกับ วเดก็ รูปร่าง หนา้ ตา หู จมูก ตา ผิวหนงั ปาก ขา อวัยวะตา่ ง ๆ น้วิ มือ มอื ผม นิ้วเท้า วธิ ีระวงั รกั ษาร่างกายให้สะอาด การใชห้ อ้ งน้ำ งตา่ งๆ ด้วย / กับผู้อ่นื สุขนสิ ัยในการรับประทาน การรักษาปากและฟนั และอวยั วะตา่ ง ๆ ให้ สะอาดปลอดภัย การออกกำลังกาย

ผงั มโนทัศน์สาระการเรียนรู้เด ความสัมพันธข์ องสมาชิกใน มารยาททดี่ ีของสมาชกิ ในครอบค หนา้ ทขี่ องสมาชกิ ครอบครวั การดแู ลรกั ษาสขุ ภาพของสมา กฎระเบยี บข้อตกลงใน สมาชกิ บในา้ นครอบครวั ครอบครัว การทำกจิ กรรมรว่ มก การละเมดิ สิทธสิ ว่ นบุคคล เร่ืองราวเกีย่ ว วนั สำคญั ของชาติ วันสำคัญของพระมหากษัตริย์ และสถานที่แว วันสำคัญของศาสนา วนั สำคัญ วันสำคัญของครอบครวั บคุ คลต่างๆ วันสำคญั ของทอ้ งถิ่น กา รา่ ความสามารถของคน การรับรูค้ วามร้สู ึกของ ตนเอง ของผ้อู น่ื ปัจจัยพ้ืนฐานของคน

7 ด็กปฐมวัย เด็กอายุ 4 – 5 ปี ครวั ชอ่ื ครู ชอ่ื เพื่อน ความหมายของโรงเรียน ชอ่ื โรงเรียน ความหมายของโรงเรียน าชกิ ในครอบครัว บคุ คลตา่ งๆ ในโรงเรียน สถานศึกษา กจิ กรรมต่างๆ ทท่ี ำรว่ มกนั กัน กฎระเบยี บในโรงเรียน ชอ่ื สถานท่ใี นโรงเรยี น วกับบุคคล การรกั ษาความสะอาด วดลอ้ มเดก็ ในสถานศึกษา ความแตกตา่ งของความคดิ อาชีพในชุมชน ชุมชน ารเปลีย่ นแปลงของ างกาย วยั เดก็ วัย การนับถือศาสนาในชมุ ชน ผใู้ หญ่ วัยชรา ลกั ษณะการประกอบอาชพี เจตคติท่ีดีต่ออาชพี สุจรติ

ผังมโนทัศนส์ าระการเรียนรเู้ ด ประโยชน์ของสี วตั ถทุ ี่ไม่มสี ี ปจั จยั ในการมองเหน็ ส่งิ ตา่ ง ชอ่ื สตี ่างๆ ส่ิงตา่ งๆ ประกอบดว้ ยสี หมวดห ความสัมพันธ์ของสี สี กบั สัญญาณจราจร การติดต่อส่ือสาร ยานพาหนะและการ ส่ิงตา่ ง โทรศัพท์ สอ่ื สารในชีวติ ประจำวัน โทรทศั น์ วิทยุ การคมนาคม กฎจราจรต่างๆ ผิวสัม การอ่าน ทางบก พาหนะในการเดินทาง ทางน้ำ สิ่งตา่ งๆ โทรเลข/จดหมาย ทางอากาศ ดว้ ยปร ด ดู ดมก

8 ด็กปฐมวัย เดก็ อายุ 4 – 5 ปี ง ๆ รอบตัวสามารถจดั ส่งิ ตา่ ง ๆ รอบตวั สามารถจัด หมปู่ ระเภทได้ตามขนาด หมวดหมู่ประเภทไดต้ ามรปู รา่ ง ขนาด รปู ร่าง สง่ิ ต่างๆ รอบตวั สามารถจดั งๆ รอบตวั เดก็ รูปทรง หมวดหมปู่ ระเภทไดต้ ามรปู ทรง มผสั ของส่ิงต่างๆ นำ้ หนัก รอบตวั สง่ิ ตา่ งๆ รอบตัวสามารถจัด ๆ สามารถสมั ผัสได้ หมวดหมปู่ ระเภทไดต้ ามนำ้ หนัก ระสาทสมั ผัสทัง้ หา้ ด้วยการ ฟัง กลิ่น ชมิ รส สมั ผสั

ผงั มโนทัศน์สาระการเรียนรูเ้ ด ความต้องการของสง่ิ มีชีวิต การปรับตัวใหเ้ ข้ากับสภาพตา่ งๆ (อากาศ แสงแดด นำ้ อาหาร) พืช สิง่ มชี ีวติ ธรรม คน สัตว์ ฤดูรอ้ น ลกั ษณะของฤดูต่าง การเปล ฤดฝู น ๆ ฤดกู าล ฤดหู นาว การทำนายลกั ษณะอากาศ การปฏบิ ัติตนในฤดูต่างๆ

9 ดก็ ปฐมวัย เด็กอายุ 4 – 5 ปี หนิ ดนิ ทราย น้ำ รปู ร่างลกั ษณะ สง่ิ มีชีวิต มชาตริ อบตวั ของส่งิ ไมม่ ีชวี ติ ประโยชนข์ องสง่ิ มชี วี ิต โทษของส่งิ มีชวี ติ ลย่ี นแปลงของโลก การกำหนดกลางวัน / กลางคืน / ดวงดาว ดวงจนั ทร์ กลางวนั /กลางคนื การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมในช่วงกลาง / กลางคนื

10 แนวทางการจัดการเรียนการสอน/จุดเน้น ปกี ารศกึ ษา 2565 ระดับปฐมวัยโรงเรียนชุมชนที่ 11 วดั สุวรรณประดษิ ฐ์ อนบุ าลปีท่ี 2 และ 3 เนน้ พฒั นาการทงั้ 4 ดา้ น - พัฒนาการด้านรา่ งกาย - พฒั นาการด้านอารมณ์ จิตใจ - พัฒนาการดา้ นสังคม - พัฒนาการดา้ นสติปัญญา 1.พัฒนาการด้านรา่ งกาย กิจกรรมทจี่ ดั ใหม้ ดี ังนี้ - กิจกรรมพัฒนากล้ามมัดเล็ก การฉีกตัดปะกระดาษเป็นรูปต่างๆ การปั้นดินน้ำมันเป็น รปู ต่างๆ การพับกระดาษเปน็ รูปต่างๆ - กจิ กรรมพัฒนากล้ามเนื้อมดั ใหญ่ การเล่นเกมการละเล่นของไทย การเลน่ เลียนแบบท่า ของสัตว์ตา่ งๆ - กจิ กรรมกีฬาและเล่นกลางแจ้ง เชน่ การเล่นฟุตบอล การเลน่ เคร่อื งเลน่ สนาม 2.พัฒนาการดา้ นอารมณ์ จิตใจ กิจกรรมท่ีจัดให้มดี งั น้ี - กิจกรรมทางดนตรี รอ้ งเลน่ เต้นรำ ศลิ ปะการแสดง เช่นรำมังคละ กิจกรรมประดิษฐ์ ส่งิ ของและการทำงานด้านศลิ ปะ กิจกรรมทศั นศกึ ษานอกสถานที่ 3.พฒั นาการด้านสังคม กจิ กรรมท่จี ดั ใหม้ ีดังนี้ - กิจกรรมฝึกหัดควบคุมจิตใจตนเอง กิจกรรมฝึกให้เดก็ รู้จักตนเอง กิจกรรมฝกึ หัดให้เชื่อ ฟัง กิจกรรมฝึกการอยู่ร่วมกับผู้อื่น กิจกรรมฝึกจริยธรรมกิจกรรม ฝึกปฏิบัติกิจกรรม ทางศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี กบั ครอบครวั - โรงเรียนและชุมชน กิจกรรมฝึกให้เด็กพึ่งตนเอง กิจกรรมฝึกให้รู้จักสภาพชุมชนที่ ตนเองอยู่

11 4.พัฒนาการดา้ นสติปัญญา กจิ กรรมท่จี ดั ใหม้ ดี ังน้ี - จัดกจิ กรรมที่ปลูกฝังการคิด ฝึกฝนการใช้ภาษาในการส่อื สาร ส่งเสริมทกั ษะการสงั เกต การจำแนก และการเปรียบเทียบ สอนเร่อื งจำนวน - ฝกึ ทกั ษะทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์ - เกมการศึกษาเพื่อพฒั นาความคิด จุดเด่นของเด็กระดับปฐมวัย 1. เด็กระดับปฐมวยั มพี ฒั นาการด้านรา่ งกาย น้ำหนักสว่ นสูง เปน็ ไปตามเกณฑ์ มาตรฐานอย่างต่อเนื่อง 2. เด็กมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และทักษะการดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และสามารถลงมือปฏบิ ตั ิจริง 3. เด็กมคี วามสามารถและทักษะในการรว่ มสบื สานอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมพ้ืนบ้านได้เป็นอย่างดี เดก็ โดยสามรถ แสดงการรำมังคละซึง่ เปน็ ศลิ ปวฒั นธรรมพ้นื บ้านได้เป็นอย่างดี 4. เด็กมีทักษะทางภาษาและสามารถสื่อสารได้ตามบริบท 3 ภาษา ได้แก่ ภาษราชาการ ภาษาท้องถิ่น ภาษาองั กฤษ 5. เดก็ รูจ้ ักมีสัมมาคารวะกับผู้ใหญ่และบุคคลท่ัวไป ย้มิ งา่ ยไหวส้ วย 6. การแสดงรำมังคละ มังคละ เป็นชื่อเรียกวงดนตรีพ้ืนบ้านท่ีเล่นกันอย่างแพร่หลายในจังหวัดพิษณุโลก มาเป็นเวลาช้านาน ซึ่งดนตรีชนิดนี้มีความผูกพันกับวิถีชีวิตของชาวภาคเหนือตอนล่าง ประกอบด้วยเคร่ืองดนตรี หลายชนิดและนางรำ โดยท่ัวไปจะใช้บรรเลงในโอกาสท่ีเป็นมงคล ได้แก่ แห่พระ แห่นาค ทอดผ้าป่า งานประเพณี สงกรานต์ ประเพณีลอยกระทง ฯลฯ ข้ันตอนการบรรเลงจะมีหลายข้ันตอน และท่ารำก็มีหลากหลาย การที่ โรงเรียนชุมชนท่ี 11 วัดสุวรรณประดิษฐ์ ได้ส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยได้ฝึกซ้อมและแสดงออกด้วยการรำมังคละ ถือ เป็นส่วนหนึ่งของการสืบทอดดนตรีมังคละ ซึ่งหากทางโรงเรียนได้คิดค้นพัฒนาท่ารำท่ีเป็นเอกลักษณ์ของชุมชน โดยเฉพาะ จัดทำคิดค้นพัฒนาเครื่องแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ และรวมถึงการจัดทำเป็นเอกสารคู่มือท่ีเกี่ยวข้องไว้ เพ่ือเป็นแบบฉบับและเผยแพร่ จะส่งผลให้การแสดงรำมังคละเด็กปฐมวัยของโรงเรียนชุมชนที่ 11 วัดสุวรรณ ประดษิ ฐ์ สามารถเป็นแบบอย่างและพัฒนาต่อยอดเป็นนวัตกรรมได้ จดุ เด่นของครรู ะดบั ปฐมวัย - ครูเป็นผู้ท่ีมีคุณธรรมจริยธรรม ปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณวิชาชีพ มีความมุ่งมั่นอุทิศตนเพื่อการเรียน การสอนที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ ครูมีวุฒิทางการศึกษาปฐมวัยหรือเทียบเท่า ครูจัดกระบวนการเรียนการสอนที่เน้น ผ้เู รยี นเปน็ สำคญั สำหรับเดก็ ปฐมวัยไดเ้ ป็นอย่างดี กจิ กรรมการส่งเสริมภาษา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษในเด็กปฐมวัยน้ัน เด็กควรได้เรียนรภู้ าษาจากสงิ่ แวดลอ้ มท่ี อยู่ใกล้ตวั เด็กควรจะเรียนร้กู ารฟังและการพูดก่อน เพราะการฟังและการพูดเป็นสิ่งคู่กัน เป็นพ้ืนฐานทางภาษา ซ่ึง เม่ือเด็กฟังแล้วก็สนทนาโต้ตอบได้ การเรียนการสอนภาษาอังกฤษในเด็กปฐมวัย ไม่ควรสอนอย่างเป็นทางการหรือ ตามหลักไวยกรณ์ แต่ควรจะเป็นการเรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างหรือสิ่งแวดล้อมหรือการเรียนการ

12 สอยแบบธรรมชาติ ท้ังนี้โรงเรียนชุมชนท่ี 11 วัดสุวรรณประดิษฐ์ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมภาษา English We can say นับเป็นสิ่งท่ีดีที่เด็กจะได้สัมผัสกับภาษาและได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ท้ังกิจกรรมดังกล่าวสามารถที่จะเป็นต้นแบบ ของการพัฒนาด้านภาษาให้แก่เด็กปฐมวัยได้และรวมถึงสามารถพัฒนาต่อยอดสู่ความเป็นนวัตกรรมได้ด้วย โดยครู อาจดำเนินการด้วยการนำทฤษฎีท่ีเก่ียวข้องมาประยุกต์เพื่อจัดทำเป็นคู่มือกระบวนการจัดการเรียนการสอนภาษา สำหรับเดก็ ปฐมวัยเชน่ ทฤษฏคี วามพงึ พอใจแหง่ ตน(The Autism Theory หรือ Austistic Theory) ซ่ึงทฤษฏีน้เี ชื่อ ว่า การเรียนรู้การพูดของเด็กเกิดจากการ เลียนเสียงอันเน่ืองจากความพึงพอใจท่ีได้กระทำ เป็นต้น จัดทำเป็น เคร่ืองมือสำหรับเด็กปฐมวัย อาจประกอบด้วยส่ิงที่เด็กจะได้เรียนรู้ ผลจากการเรียนรู้ แล้วนำไปทดลอง ปรับปรุง พัฒนา และเผยแพรป่ ระชาสัมพันธ์

13 ตัวช้ีวดั คุณภาพเป้าหมาย KPI (ด้านความรู้ ด้านทักษะชวี ิต และดา้ นทักษะวิชาชีพ) 1. คุณภาพผ้เู รยี น ชว่ งช้ันท่ี 1 (ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 1-3) โรงเรียนชุมชนที่ 11 วัดสวุ รรณประดิษฐ์ ด้านความรู้ (K) ด้านทกั ษะชีวิต (P) ดา้ นทกั ษะวิชาชีพ (I) - - 1. มงุ่ สร้างพ้นื ฐานของเดก็ ดี ด้วย คุณธรรม 4 ขอ้ ข้อ 1 ความกตัญญู ขอ้ 2 ความมีเมตตา ขอ้ 3 ความขยนั ข้อ 4 ความมีจติ อาสา 2. ผ้เู รียน อ่านคลอ่ ง เขียนคลอ่ ง คิดเลขเป็น มุ่งเนน้ ผลสมั ฤทธิ์ NT 3. ผู้เรียนสามารถเลอื กใช้ เทคโนโลยีอยา่ งชาญฉลาด ชว่ งชน้ั ที่ 2 (ระดบั ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 4-6) โรงเรยี นชมุ ชนที่ 11 วัดสวุ รรณประดษิ ฐ์ ดา้ นความรู้ (K) ด้านทักษะชีวิต (P) ดา้ นทักษะวิชาชพี (I) 1. อ่านคล่อง เขียนคลอ่ ง 1. ส่งเสริมให้ผู้เรยี น ไดเ้ รยี นร้จู าก 1. ผ้เู รียนสามารถบูรณาการเขา้ กับ แหลง่ เรยี นร้แู ละวธิ กี ารที่ ทกุ กลุม่ วิชาชพี ต่างๆ ได้ 2. ทำความเข้าใจปญั หา คิด หลากหลาย วิเคราะห์ วางแผนแก้ปัญหาและ 2. ส่งเสรมิ ให้ผู้เรียนรจู้ กั คดิ 2. ผู้เรียนสามารถบูรณาการการ เลอื กใช้วิธกี ารท่ีเหมาะสม วเิ คราะห์ วางแผนแกป้ ัญหาและ คิดวิเคราะห์ วางแผนแก้ปญั หาและ เลอื กใชว้ ิธกี ารที่เหมาะสม เลือกใช้วธิ ีการที่เหมาะสมให้เข้ากับ 3. ใช้ความรแู้ ละกระบวนการทาง ชวี ติ ประจำวนั ได้ วิทยาศาสตรใ์ นการพฒั นาและ 3. สง่ เสรมิ ให้ผู้เรียนมคี วามรูแ้ ละ 3. ผเู้ รียนสามารถบูรณาการความรู้ แก้ปัญหา กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ใน และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การพัฒนาและแก้ปัญหา ในการพัฒนาและแก้ปัญหาให้เข้า 4. การสนทนาและใชภ้ าษาอังกฤษ กับชีวิตประจำวนั ได้ โตต้ อบข้อความเก่ยี วกับตนเองและ 4. สง่ เสรมิ ให้ผู้เรยี นไดส้ นทนาและ 4. ผู้เรียนสามารถบูรณาการการ เร่อื งตา่ งๆ ใกล้ตัว ใชภ้ าษาอังกฤษโตต้ อบข้อความ สนทนาและใช้ภาษาอังกฤษโต้ตอบ เก่ยี วกับตนเองและเร่ืองต่างๆ ใกล้ ข้อความเกี่ยวกับตนเองและเร่ือง

14 ดา้ นความรู้ (K) ดา้ นทกั ษะชีวติ (P) ดา้ นทักษะวิชาชพี (I) ตวั ต่างๆ ใกล้ตวั กับชวี ิตประจำวนั ได้ 5. ผู้เรียนสามารถบูรณาการการใช้ 5. ส่งเสรมิ ใหผ้ ูเ้ รยี นไดใ้ ช้ เทคโนโลยี อย่างชาญฉลาดและ สร้างสรรค์ต่อชีวิต สังคม และ 5. ร้จู ักใช้เทคโนโลยอี ยา่ งชาญฉลาด เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมและ สงิ่ แวดลอ้ มกบั ชีวติ ประจำวนั ได้ 6. ผู้เรียนได้เป็นจิตอาสาช่วยงาน และสร้างสรรคต์ ่อชวี ิต สังคม และ ถูกต้อง เพื่อการเรียนรู้ในการ ฌาปณกิจศพ และสามารถนำไป บูรณาการกบั การดำรงชวี ิตได้ ส่งิ แวดล้อม ดำรงชวี ติ 6. ส่งเสริมให้ผู้เรยี นเปน็ ผมู้ ีจิต 6. วินัยจิตอาสา อาสาช่วยงานฌาปณกจิ ศพ ชว่ งช้นั ท่ี 3 (ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 1-3) โรงเรียนชมุ ชนที่ 11 วดั สุวรรณประดษิ ฐ์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ตัวช้ีวดั ความสำเรจ็ วชิ าภาษาไทย 1. อ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ และร้อยกรองเป็น วิชาคณติ ศาสตร์ ทำนองเสนาะได้ถกู ตอ้ ง 2. เขียนส่อื สารดว้ ยลายมอื ที่อา่ นงา่ ยชดั เจน 3.พดู แสดงความคดิ เห็น วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ ประเมนิ สิ่งทีไ่ ดจ้ ากากรฟังและดนู ำข้อคิดไปประยกุ ต์ใชใ้ น ชวี ิตประจำวนั 4.เข้าใจและใช้คำราชาศัพท์ คำบาลี คำสันสกฤต คำ ภาษาถนิ่ คำภาษาตา่ งประเทศ และศัพท์บัญญัตใิ น ภาษาไทย 5.สรุปเน้ือหาจากวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน 1.ทำความเข้าใจปัญหา คิดวิเคราะห์ วางแผน แกป้ ัญหาและเลอื กใชว้ ิธกี ารท่ีเหมาะสม 2.ใชร้ ปู ภาษาและสัญลกั ษณท์ างคณิตศาสตร์ในการ สอื่ สาร สอ่ื ความหมาย และนำเสนอได้อย่างถูกต้อง 3.ใชค้ วามรู้ทางคณิตศาสตรเ์ ปน็ เครอ่ื งมอื ในการ เรียนร้เู นื้อหาต่าง ๆ และนำไปใช้ในชวี ิตจรงิ 4.สามารถใหเ้ หตุผล รบั ฟงั และใหเ้ หตุผลสนนั สนุน โดยมขี อ้ เทจ็ จริงทางคณติ ศาสตรร์ องรบั 5.มคี วามคิดสร้างสรรค์ 6.ใช้วิธีการทห่ี ลากหลายแกป้ ัญหา ใชค้ วามรู้ ทักษะ และกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี

กลุ่มสาระการเรียนรู้ 15 วิชาวิทยาศาสตร์ วชิ าภาษาต่างประเทศ ตวั ชวี้ ัดความสำเรจ็ การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ ในการแกป้ ัญหาในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ได้อย่าง ดา้ นคุณธรรม เหมาะสม 1.ใชค้ วามรู้และกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยใี นการดำรงชวี ิต 2.สอื่ สารความคิด ความรู้ จากผลการสำรวจ ตรวจสอบโดยการพดู เขียน จัดแสดง หรือ ใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศ 3.ตระหนกั ในคุณค่าของความรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยที ่ีใชใ้ นชวี ติ ประจำวันและการประกอบ อาชีพ 4.ทำงานร่วมกับผู้อ่ืนอยา่ งสร้างสรรค์ 1.ปฏิบตั ิตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง และ คำอธิบายท่ีฟงั และอ่านออกเสยี งข้อความและบท ร้อยกรองส้ัน ๆ พร้อมทัง้ ให้เหตุผลและยกตัวอย่าง ประกอบ 2.สนทนาและเขยี นโตต้ อบขอ้ ความเก่ียวกบั ตนเอง และเรอ่ื งต่างๆ ใกลต้ วั 3.ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ ค้นควา้ รวบรวม และสรปุ ความรู้ ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ในการศกึ ษา ตอ่ และประกอบอาชพี 1.รจู้ ักสร้างสง่ิ ของเครือ่ งใช้หรือวธิ ีการตาม กระบวนการเทคโนโลยีอย่างถกู ต้องและปลอดภัย 2.รู้จกั สร้างช้ินงานหรือแบบจำลองความคดิ และการ รายงานผล 3.รูจ้ ักใช้เทคโนโลยอี ยา่ งชาญฉลาดและสร้างสรรค์ ต่อชีวติ สังคม และ สง่ิ แวดล้อม 1.มีความกตัญญู รู้คณุ ต่อผมู้ ีพระคณุ 2.มีความเมตตา ต่อเพ่ือนร่วมชั้นเรียน และทกุ คน 3.มคี วามขยันม่ันเพียร 4.รู้จกั การให้อภยั 5.เป็นโรงเรยี นจิตอาสาต้นแบบให้กบั นกั เรียนใน ระดับช้ันอนื่ ๆ

16 2. คณุ ภาพครู และผ้บู รหิ าร ตวั ชว้ี ดั ความสำเร็จ รอ้ ยละ คุณภาพของครู ความสำเรจ็ 1.ครูไดม้ กี ารจดั การเรียนการสอนเตม็ เวลา คุณภาพของผู้บรหิ าร 2.ครูได้จัดทำงานวจิ ัยในช้ันเรียน 80 3.ครูใช้สื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ในการจดั การเรยี นการสอน 80 4.ครเู ขา้ รับการอบรมเพือ่ พฒั นาตนเอง 80 1.ผบู้ ริหารมวี สิ ยั ทัศน์กว้างไกล 20ช่วั โมง/ปี 2.ผ้บู รหิ ารมงุ่ พฒั นาสถานศึกษาอยา่ งเป็นระบบ 80 3.ผบู้ ริหารปรับปรงุ การบรหิ ารเพ่ือลด Learning loss 80 4.ผ้บู ริหารตอ้ งสรา้ งหลักการเชงิ บวกและเชงิ รุก และ 80 วธิ ีการดแู ลเอาใจใส่ผใู้ ตบ้ ังคับบัญชา 80 5.ผู้บริหารจะต้องมลี ักษณะความม่นั ใจ เข้าถึงได้ง่าย 6.มีภาวะการเปน็ ผนู้ ำทด่ี ีและเปน็ แบบอย่างทด่ี ใี ห้กับ 80 ผู้ใต้บงั คบั บัญชา 80 7.สรา้ งแรงบนั ดาลใจในการทำงานใหแ้ ก่ผ้ใู ต้บังคับบัญชา 80 3. หลกั สตู รการจดั การเรียนการสอน ตวั ช้วี ดั ความสำเร็จ คณุ ภาพหลักสูตรการจดั การเรยี นการสอน 1.สถานศกึ ษาจดั การเรียนรโู้ ดยใช้หลักสูตรทอ้ งถนิ่ เพื่อพัฒนาผเู้ รยี นให้สอดคล้องกบั ปัญหาหรือบรบิ ท ของท้องถ่นิ 2.สถานศกึ ษาไดม้ ีการจดั การเรยี นรู้แบบ Active Learning 3.คณุ ครูผสู้ อนได้ใชก้ ระบวนการเรียนการสอนที่ หลากหลาย 4.โรงเรียนได้จดั กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียนทที่ ำใหผ้ ู้เรยี น ค้นพบความถนัด รู้จักอาชพี และแนะแนวทางใน การศึกษาต่ออย่างมรี ะบบ

17 4. การมสี ่วนรว่ มและการพัฒนาโครงสรา้ งพ้นื ฐานของโรงเรยี น ตัวช้ีวัดการมีส่วนร่วมและการพัฒนาโครงสร้าง ตัวช้วี ดั ความสำเรจ็ พื้นฐานของโรงเรียน 1.โรงเรยี นมีโครงสรา้ งพืน้ ฐานทจี่ ำเป็น 2.สถานศกึ ษามหี อ้ งเรยี นทจ่ี ำเป็นต้องการจดั การ เรยี นรู้ 3.สถานศกึ ษามีส่อื การเรียนการสอนท่ีจำเป็นต่อการ เรยี นรู้ 4.โรงเรยี นได้จดั หอ้ งเรยี นคอมพวิ เตอร์ท่สี ามารถใช้ งานไดเ้ พียงพอต่อนกั เรียนเพ่ือคน้ ควา้ หาความรู้ 5.ห้องเรียนทกุ ห้องมีอุปกรณ์การเรียน ส่ือ โทรทศั น์ และ อินเทอร์เนต็ เพ่อื สบื ค้นในการเรยี นการสอน และการจัดการเรียนรู้

18


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook