Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารประกอบการเรียนรู้ ม.4 ชุด 1

เอกสารประกอบการเรียนรู้ ม.4 ชุด 1

Published by PUCRAB, 2020-07-19 10:19:11

Description: เอกสารประกอบการเรียนรู้ ม.4 ชุด 1

Search

Read the Text Version

1 เอกสารประกอบการเรียนรู้ วชิ างานห้องสมุด (ง30269) คณุ ครูณัฐวรนิ ทร ธารบปุ ผา เร่อื ง รูจ้ กั กบั หอ้ งสมดุ และความเป็นมา ห้องสมุดในอดีตของประเทศไทย ก็เป็นเช่นเดียวกับห้องสมุดในบางประเทศ คือ แต่เดิมมีเพียงห้องสมุดในวัด และในพระราชวังเป็นส่วนใหญ่ ในวัดมีการสอนพุทธศาสนา และภาษาบาลีแก่ภิกษุ สามเณร สอนอ่านและเขียนตัวอักษร ขอมบนใบลาน จึงมีอาคารเก็บรวบรวมพระคัมภีรไ์ ตรปิฎก เรียกวา่ หอไตร จัดเป็นอาคารเอกเทศ และเป็นส่วนหนึ่งของวัด หอไตรบางแห่งเก็บหนังสืออย่างอ่ืนด้วย เช่น กฎหมาย ตารายา ตาราโหราศาสตร์ เม่ือพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า จุฬาโลกมหาราช ทรงสร้างวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างอาคาร เก็บพระคัมภีร์ไตรปิฎก ซ่ึงโปรดเกล้าฯ ให้รวบรวม และชาระคือ ตรวจสอบความถูกต้อง แล้วคัดลงใหม่ในใบลาน อาคารหลังน้ีพระราชทานนามว่า หอพระมณเฑียรธรรม ต่อมาเม่ือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชดาริ รวบรวมพระไตรปฎิ กฉบับตา่ งๆ ในประเทศไทย รวมทั้งฉบับที่แปลเป็นภาษาต่างประเทศในประเทศต่างๆ ที่นับถือพุทธศาสนา จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างหอ พระพุทธศาสนาสงั คหะข้ึน ในวัดเบญจมบพิตร ปรากฏวา่ รวบรวมพระคมั ภรี ไ์ ด้มาก เมอื่ ทรงสถาปนาหอพระสมุดวชิรญาณ สาหรับพระนคร เป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบรมชนกนาถคือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้รวมหอพระมณเฑียรธรรม หอพระพุทธศาสนสังคหะ และหอพระสมุดวชิรญาณ ซึ่งมีอยู่แล้ว ในพระบรมมหาราชวงั เข้าด้วยกัน เป็นหอพระสมดุ วชริ ญาณ สาหรับพระนคร พระราชทานโอกาสให้ประชาชนชาวไทยเข้า อา่ นหนงั สอื ในหอพระสมดุ แห่งน้ีได้ ในประวัติศาสตร์ได้จารึกความเป็นมาของห้องสมุดไว้ว่ามีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย สืบทอดยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน แบ่งตามระยะเวลาตามประวตั ศิ าสตร์ไดด้ ังน้ี สมัยสุโขทัย (พ.ศ. 1800 - 1920) พ่อขุนรามคาแหงมหาราชได้ทรงประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นในปี พ.ศ.1826 ได้จารึกเรื่องราวต่างๆ ลงบนแผ่นหินหรือเสาหิน คล้ายกับหลักศิลาจารึกของพ่อขุนรามคาแหงมหาราช ท่ีจารึกเมื่อ ประมาณ 700 ปีมาแล้ว ซ่ึงหลักศิลาจารึกของพ่อขุนรามคาแหงมหาราชถือเป็นหนังสือเล่มแรกของไทย เมื่อพ่อขุน รามคาแหงมหาราชส่งสมณฑูตไปสืบศาสนาที่ลังกา ก็รับพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์เข้าสู่กรุงสุโขทัย พร้อมท้ังคัมภีร์ พระไตรปิฎก โดยสนั นษิ ฐานว่าจารึกลงในใบลาน ดังนัน้ พระในเมืองไทยจงึ มีการคัดลอกพระไตรปฎิ กท่เี รยี กว่า การสร้างหนังสือ ทาให้มีหนังสอื ทางพุทธศาสนา เกดิ ข้นึ จานวนมากที่เรยี กวา่ หนังสือผูกใบลาน จงึ สร้างเรือนเอกเทศสาหรบั เก็บหนงั สือทางพุทธศาสนา เรยี กว่า หอไตร และในปลายสมยั กรงุ สโุ ขทัยได้มวี รรณกรรมทางศาสนาทสี่ าคัญคือ ไตรภูมพิ ระรว่ ง ซึง่ เป็นพระนิพนธใ์ นสมเดจ็ พระมหา ธรรมราชาที่ 1 พญาลิไทย หนงั สือผูกใบลาน ไตรภูมิพระร่วง สมัยกรุงศรีอยุธยา (พ.ศ. 1893 - 2310) ได้มีการสร้างหอหลวงไว้ในพระบรมมหาราชวังเป็นท่ีสาหรับเก็บ หนงั สือของทางราชการ ต่อมาในปี พ.ศ. 2310 ท้งั หอไตรและหอหลวงได้ถูกพม่าทาลายได้รับความเสียหาย เอกสารประกอบการเรียนรู้ วิชางานหอ้ งสมดุ (ง30269) คณุ ครณู ฐั วรนิ ทร ธารบุปผา

2 สมัยกรุงธนบุรี (พ.ศ. 2310 - 2325) พระเจ้าตากสินได้โปรดให้ขอยืมพระไตรปิฎกจากเมืองนครศรีธรรมราชมา คดั ลอกและโปรดเกล้าฯ ใหส้ รา้ งหอพระไตรปิฎกหลวง หรอื เรยี กวา่ หอหลวง สมัยกรงุ รตั นโกสนิ ทร์ (พ.ศ. 2325 - ปจั จบุ นั ) 1. หอพระมณเฑียรธรรม พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างหอพระมณเฑียร ธรรมขึ้นเมื่อ พ.ศ 2326 ในพระบรมมหาราชวงั บรเิ วณวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพ่ือเก็บพระไตรปิฎกหลวง แตถ่ ูกไฟ ไหม้ จึงโปรดใหส้ รา้ งขึน้ ใหม่และใชน้ ามเดมิ 2. จารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธ์ิ) พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์วัดพระเชตุพนฯ ซ่ึงสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา และให้รวบรวมเลือกสรรตาราต่างๆ มาตรวจตราแก้ไข แล้วจารึกลงบนแผ่นศิลาประดับไว้ในบริเวณต่างๆ ของวัด มีรูปเขียนและรูปป้ันประกอบตาราน้ันๆ แต่ท่ีรู้จักกัน แพร่หลายคือ รูปปั้นฤาษีดัดตนในท่าต่างๆ ท่ีถือเป็นต้นตารับการนวดและตารายาไทย ซ่ึงเป็นต้นตารับการแพทย์แผน ไทยมาจนกระทั่งทกุ วันนี้ นอกจากนั้นยังมีความรู้อีกมากมายมที่จารึกไว้ จนทาให้จารกึ วดั พระเชตุพนวิมลมังคลาราม ได้ ชอ่ื วา่ เป็นมหาวทิ ยาลัยแห่งแรกของไทย และไดร้ บั การยกยอ่ งใหเ้ ปน็ หอ้ งสมุดประชาชนแหง่ แรกของไทย จารกึ วดั พระเชตพุ นวมิ ลมังคลาราม (วดั โพธ์)ิ 3. หอพระสมุดวชิรญาณ พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หวั โปรดให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2424 เพ่อื เฉลิมพระเกียรติของพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจ้าอยู่หัว 4. หอพทุ ธศาสนสงั คหะ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ ัว ทรงสรา้ งขึน้ ทว่ี ดั เบญจมบพิตร เม่ือ พ.ศ. 2443 เพื่อเก็บหนังสอื ต่างๆ เก่ยี วกับพระพุทธศาสนา 5. หอสมดุ สาหรับพระนคร พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างข้ึนเมื่อ พ.ศ.2448 โดยโปรด เกลา้ ฯ ใหร้ วมหอพระมณเฑียรธรรม หอพระสมดุ วชิรญาณ และหอพุทธศาสนาสังคหะเขา้ เป็นหอเดียวกัน และ พระราชทานนามว่า หอพระสมดุ วชิรญาณสาหรบั พระนคร 6. หอสมดุ แห่งชาติ พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจ้าอย่หู วั ไดส้ ร้างขน้ึ เมื่อ พ.ศ.2468 โดยให้แยกหอ้ งสมุด ออกเป็น 2 หอ คือ แยกหนงั สือตัวเขียน ได้แก่ สมุดไทย หนังสอื จารกึ ลงในใบลาน สมุดข่อย ศลิ าจารึก และตู้ลาย รดน้าไปเกบ็ ไว้ท่ีพระท่ีน่ัง ศิวโมกขพิมาน ซึง่ อยู่ในบริเวณพพิ ิธภณั ฑสถานแห่งชาติ ใช้สาหรับเก็บหนังสือตัวเขียน และ เรียกวา่ หอพระวชิรญาณ สว่ นหอสมดุ ทีต่ ั้งขึ้นทตี่ ึกถาวรวัตถใุ ชเ้ กบ็ หนังสอื ตวั พิมพ์ เรยี กว่า หอพระสมุดวชิราวุธ 7. หอจดหมายเหตุ พระบาทสมเดจ็ พระมงกฏุ เกลา้ เจ้าอยหู่ ัว โปรดเกลา้ ฯ ใหส้ รา้ งขึ้นเม่ือพ.ศ.2459 มีงานดังน้ี - งานจัดหาเอกสารและบันทึกเหตกุ ารณ์ - งานจดั เก็บเอกสาร - งานบริการเอกสาร - งานซอ่ มแซมและบรู ณะเอกสาร - งานไมโครฟลิ ม์ และถา่ ยสาเนาเอกสาร หอสมดุ แหง่ ชาติ หอจดหมายเหตุ เอกสารประกอบการเรียนรู้ วิชางานหอ้ งสมุด (ง30269) คุณครูณัฐวรินทร ธารบปุ ผา

3 ความหมายของห้องสมดุ ห้องสมดุ ( Library ) หมายถึงแหล่งรวบรวมขอ้ มูล ข่าวสาร ความรูต้ า่ งๆ ทง้ั ท่อี ยใู่ นรปู ของสงิ่ ตีพิมพ์ และไมต่ ีพมิ พ์ (สารนเิ ทศ) เพ่อื ใหผ้ ้ใู ชห้ ้องสมุดได้ใช้ มกี ารบริการและจดั อยา่ งเปน็ ระบบ เป็นหมวดหมู่ เพือ่ สะดวกแก่ผ้ใู ช้ในการค้นหาวสั ดุ สารนิเทศดงั กล่าว บรรณารักษ์ และเจ้าหนา้ ทห่ี ้องสมุดจะเปน็ ผรู้ ับผดิ ชอบในการดาเนินงาน ไม่วา่ จะเป็นการจดั หา จัดซ้ือ จัดหมู่ ทาบตั รรายการ ซ่อมหนังสือ ฯลฯ วตั ถุประสงค์ของห้องสมุด 1. เพ่อื การศึกษา 2. เพื่อการคน้ ควา้ วิจัย 3. เพ่อื การจรรโลงใจ 4. เพือ่ การพักผ่อนหย่อนใจ 5. เพือ่ บริการดา้ นข่าวสาร 1. เพ่ือการศึกษา จากการท่ีปัจจุบันการศึกษาจะเน้นให้ผู้เรียนมีการศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง ห้องสมุดจึงถือเป็น แหล่งรวบรวมความรู้ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้ศึกษาความรู้ ได้ด้วยตนเองตามความรู้ความสามารถ และความต้องการของแต่ ละบุคคล ดังนั้นห้องสมุดจึงต้องจัดหาหนังสือ สิ่งพิมพ์ ตลอดจนโสตทัศนวัสดุมาไว้บริการในห้องสมุด เพื่อสนอง วัตถุประสงคด์ ังกลา่ วเชน่ หอ้ งสมุดโรงเรยี น หอ้ งสมุดมหาวิทยาลยั วิทยาลัย 2. เพ่ือการค้นคว้าวิจัย ปัจจุบันประเทศไทยเรามีการพัฒนามาหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในด้านการศึกษา การ แพทย์ ธุรกิจ ส่ิงแวดล้อม มีการทาวิจัยในหลายด้าน เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าทางวิชาการ และเพื่อพัฒนาประเทศ การค้นคว้าวิจัยดังกล่าว ห้องสมุดมีบทบาทมากในการเป็นแหล่งความรู้ข้อมูลต่างๆ เพ่ือเป็นหลักฐานอ้างอิงในการวจิ ัย ผู้ที่ จะทาการวจิ ยั เรื่องใหม่ๆ ย่อมตอ้ งการค้นควา้ เร่ืองท่ีมอี ยูเ่ ดิมเพ่อื ความรู้ และเพื่อให้ทราบว่างานวิจัยเรือ่ งนั้นๆ มใี ครทาแล้ว หรอื ไม่ จะไดไ้ ม่ทาซา้ 3. เพื่อการจรรโลงใจ ห้องสมุดได้รวบรวมสารนิเทศไว้หลายประเภทแต่จะมบี างประเภทท่ีให้ความจรรโลงใจหรือ ความสุขทางใจแก่ผู้อ่าน/ผู้ใช้ เช่น ประเภทวรรณคดี (ทาให้ซาบซึ้งในสานวนภาษา บทกวี ข้อคิดของนักปราชญ์)ประเภท ศาสนา ชีวประวัติ(ทาให้เกิดแนวคิดท่ีดี ให้คติชีวิตชื่นชมในความคิดที่ดีงามของผู้อื่น เกิดแรงจูงใจปรารถนาที่จะกระทาสิ่งนั้น) 4. เพ่ือการพักผ่อนหย่อนใจ ห้องสมุดบางแห่งนอกจากจะมีหนังสือ วารสาน นิตยสาร โสตทัศนวัสดุในด้าน วชิ าการแล้ว ยังมีประเภทท่ีให้ความบนั เทิง บางแหง่ มกี ารเล่านทิ าน จัดนิทรรศการ ประกวดคาขวญั กจิ กรรมดงั กล่าวทาให้ เกิดความเพลดิ เพลนิ 5. เพอ่ื บริการดา้ นข่าวสาร หอ้ งสมดุ เป็นแหลง่ รวบรวมความรู้ ข่าวสารเหตกุ ารณ์ ความเคลือ่ นไหวต่างๆของโลก ตลอดจนวทิ ยาการและเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น หนงั สอื พิมพ์ วารสาร จะทาใหผ้ อู้ ่านสามารถนาขา่ วสารความรูท้ ี่ไดไ้ ปปรับปรงุ ความรู้ ความสามารถของตนเองที่มีอยเู่ ดิมทาให้เปน็ คนทันต่อเหตุการณ์ ความเปลยี่ นแปลงของโลก เอกสารประกอบการเรยี นรู้ วชิ างานหอ้ งสมดุ (ง30269) คุณครณู ฐั วรนิ ทร ธารบปุ ผา

4 ความสาคัญของห้องสมดุ 1. ห้องสมุดเป็นแหล่งรวบรวมความรู้ต่างๆในโลกเอาไว้ เม่ือมนุษย์มีการค้นพบความรู้ต่างๆข้ึนมาใหม่ ก็จะมีการ บันทึกเก็บรวบรวมไว้ในรูปแบบต่างๆ ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปส่ิงพิมพ์ แต่ปัจจุบันจะบันทึกในคอมพิวเตอร์ห้องสมุดจึงต้องมี หน้าท่เี ก็บรวบรวมสารนิเทศไวบ้ ริการ 2. ห้องสมดุ เป็นสถานที่ที่ทุกคนสามารถค้นคว้าหาความรู้ได้อย่างเสรี ตามความงามสนใจ การเรียนช้ันเรียนแต่ละ คนจะมีความสนใจหรือความชอบท่ีต่างกันไปไม่เหมือนกัน บางคร้ังครูผู้สอน สอนจากัดในหลักสูตร แต่ผู้เรียนมีความสนใจ ต้องการค้นควา้ เพ่มิ เตมิ กส็ ามารถค้นคว้าเพิ่มเตมิ ไดจ้ ากห้องสมดุ 3. ห้องสมุดช่วยปลูกฝังนิสัยรักการอ่านและการค้นคว้า เม่ือเข้าหอ้ งสมุดไปอ่านศึกษาค้นควา้ หนงั สอื หรือสารนิเทศ อื่นๆ เพอ่ื ความบันเทิงหรอื คลายเครยี ด กเ็ ป็นสิ่งหนึ่งท่จี ะสามารถปลกู ฝงั ใหเ้ กดิ นสิ ัยรักการอ่าน และการคน้ ควา้ ได้ 4. ห้องสมุดช่วยส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ มนุษย์เราเมื่อมีเวลาว่างมักจะหากิจกรรมที่ไม่ใช่งาน ประจาทา บางคนเลือกอา่ นหนงั สือดูโทรทัศน์ ฟังวิทยุ ดภู าพยนตร์ ปลูกต้นไม้ เลี้ยงสตั ว์ ฯลฯ ซ่ึงการอ่านหนังสือก็สามารถ นาความรู้ ความคิดใหม่ๆ ท่ีได้จากการอ่านไปใช้ในชีวติ ประจาวัน หรืองานประจาได้ละการจะมีหนังสืออ่านนั้นนอกจากจะ ซอ้ื เป็นสมบัติส่วนตวั หรือ ยมื จากเพือ่ นคนใกลช้ ิดแล้วห้องสมุดก็เป็นแหล่งหนงึ่ ที่จะสนองความต้องการดัง กลา่ ว 5. ห้องสมุดช่วยให้ผู้ใช้ มีความรู้ท่ีทันสมัยอยู่เสมอ โดยท่ัวไปห้องสมุดมีหน้าท่ีจัดหาทรัพยากรสารนิเทศใหม่ๆ มา บริการผู้ใช้อยู่เสมอ สารนเิ ทศบางประเภทจะมกี ารเสมอขา่ วสารข้อมูลใหม่ๆ โดยเฉพาะหนังสือพมิ พ์ วารสาร ซ่ึงใหข้ ้อมูลที่ เป็นปจั จบุ นั และทนั สมยั กวา่ หนังสือ เอกสารประกอบการเรยี นรู้ วชิ างานหอ้ งสมุด (ง30269) คุณครณู ฐั วรนิ ทร ธารบปุ ผา

5 ประเภทของห้องสมดุ ห้องสมุดในปจั จุบนั แบง่ ออกไปตามหน้าทีเ่ ปน็ ประเภทต่างๆ คอื 1. หอ้ งสมดุ แห่งชาติ นับเป็นห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ดาเนินการโดยรัฐบาล ทาหน้าท่ีหลักคือ รวบรวมหนังสือสิ่งพิมพ์ และส่ือ ความรู้ทุกอย่างที่ผลิตขึ้นในประเทศ และทุกอย่างที่เก่ียวกับประเทศ ไม่ว่าจะจัดพิมพ์ในประเทศใด ภาษาใด ทั้งนี้เป็นการ อนุรักษ์สื่อความรู้ ซึ่งเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของชาติ มิให้สูญไป และให้มีไว้ใช้ในอนาคต นอกจากรวบรวมสิ่งพิมพ์ใน ประเทศแล้ว ก็มีหน้าที่รวบรวมหนังสือที่มีคุณค่า ซ่ึงพิมพ์ในประเทศอื่นไว้ เพ่ือการค้นคว้าอ้างอิง ตลอดจนทาหน้าท่ีเป็น ศูนย์รวมบรรณานุกรมต่างๆ และจัดทาบรรณานุกรมแห่งชาติ ออกเผยแพร่ให้ทราบท่ัวกันว่า มหี นงั สอื อะไรบ้างท่ีผลิตขึ้นใน ประเทศ ห้องสมุดแห่งชาติจึงเป็นแหล่งให้บริการทางความรู้แก่คนทั้งประเทศ ช่วยเหลือการคน้ คว้า วิจัย ตอบคาถาม และ ใหค้ าแนะนาปรกึ ษาเกีย่ วกับหนังสอื 2. หอ้ งสมุดประชาชน เช่นเดียวกับห้องสมุดแห่งชาติ ห้องสมุดประชาชนดาเนินการโดยรัฐ อาจจะเป็นรัฐบาลกลาง รัฐบาลท้องถ่ิน หรือเทศบาล แล้วแต่ระบบการปกครองของแต่ละประเทศ ตามความหมายเดิม ห้องสมุดประชาชนเป็นห้องสมุด ท่ีประชาชนต้องการให้มีในชุมชน หรือเมืองที่เขาอาศัยอยู่ ประชาชนจะสนับสนุน โดยยินยอมให้รัฐบาล จ่ายเงินราย ได้จากภาษีต่างๆ ในการจัดต้ัง และดาเนินการ ห้องสมุดประเภทน้ีเป็นบริการของรัฐ จึงมิได้เรียกค่าตอบแทน เช่น ค่าบารุงห้องสมุด หรือค่าเช่าหนังสือ ท้ังน้ีเพราะถือว่า ประชาชนได้บารุงแล้ว โดยการเสียภาษีรายได้ให้แก่ประเทศ หน้าท่ีของห้องสมุดประชาชนก็คือ ให้บริการหนังสือ เพ่ือการศึกษาตลอดชีวิต บริการข่าวสารความเคล่ือนไหวทาง วิชาการ และเหตุการณ์ต่างๆ ท่ี ประชาชนควรทราบ ส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน และการรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ให้ ข่าวสารข้อมู ล ที่ จาเป็ น ต้องใช้ใน การป ฏิ บั ติงาน และการพั ฒ น าด้าน ต่างๆ ของแต่ละค น และสังค ม 3. ห้องสมดุ ของมหาวิทยาลัยและวิทยาลัย เป็นห้องสมุดท่ีต้ังอยู่ในสถานศึกษาระดับอุดมศึกษา ทาหน้าท่ีส่งเสริมการเรียนการสอนตามหลักสูตร โดยการจัด รวบรวมหนังสือ และสื่อความรู้อื่นๆ ในหมวดวิชาต่างๆ ตามหลักสูตร ช่วยเหลือในการค้นคว้าวิจัยของอาจารย์ และนักศึกษาส่งเสรมิ พัฒนาการทางวิชาการของอาจารย์ และนักศึกษาโดยจัดให้มแี หลง่ ความรู้และช่วยจัดทาบรรณานุกรม และดัชนี สาหรบั คน้ หาเรอ่ื งราวทตี่ ้องการ แนะนานักศึกษาในการใชห้ นงั สอื อา้ งองิ บตั รรายการและค่มู ือสาหรับการคน้ เรอื่ ง 4. ห้องสมดุ โรงเรียน เป็นห้องสมุดท่ีต้ังอยู่ในโรงเรียนมัธยม และโรงเรียนประถมศึกษา มีหน้าที่ส่งเสริมการเรียนการสอนตามหลักสูตร โดยการรวบรวมหนังสือ และสื่อความรู้อ่ืนๆ ตามรายวิชา แนะนาส่ังสอนการใช้ห้องสมุดแก่นักเรียน จัดกิจกรรมส่งเสริม นิสัยรักการอ่าน แนะนาให้รู้จักหนังสือที่ควรอ่าน ให้ร้จู ักวิธีศึกษาค้นคว้า หาความรู้ด้วยตนเอง ให้รู้จักรักและถนอมหนังสือ และเคารพสิทธิของผู้อ่ืนในการใช้ห้องสมุด และยืมหนังสือ ซง่ึ เป็นสมบัติของทุกคนร่วมกัน รว่ มมือกับครูอาจารย์ ในการจัด ช่ั ว โ ม ง ใ ช้ ห้ อ ง ส มุ ด จั ด ห นั ง สื อ แ ล ะ ส่ื อ ก า ร ส อ น อ่ื น ๆ ต า ม ร า ย วิ ช า ใ ห้ แ ก่ ค รู อ า จ า ร ย์ 5. ห้องสมุดเฉพาะ คือ ห้องสมุด ซึ่งรวบรวมหนังสือในสาขาวิชาบางสาขาโดยเฉพาะ มักเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยราชการ องค์การ บรษิ ัท เอกชน หรือธนาคาร ทาหน้าทีจ่ ดั หาหนังสอื และใหบ้ รกิ ารความรู้ ข้อมูล และขา่ วสารเฉพาะ เร่ืองท่ีเกี่ยวขอ้ งกับการ ดาเนินงานของหน่วยงานน้ันๆ ห้องสมุดเฉพาะจะเน้นการรวบรวมรายงาน การค้นคว้าวิจัย วารสารทางวิชาการ และ เอกสารเฉพาะเรื่อง ทผี่ ลิตเพื่อการใช้ในกลุ่มนักวิชาการ บริการของห้องสมุดเฉพาะจะเน้นการช่วยค้นเรื่องราว ตอบคาถาม แปลบทความทางวิชาการ จัดทาสาเนาเอกสาร ค้นหาเอกสาร จัดทาบรรณานุกรม และดัชนีค้นเร่ืองให้ตามต้องการ จัดพิมพ์ข่าวสาร เก่ียวกับสิ่งพิมพ์เฉพาะเรื่องส่งให้ถึงผู้ใช้ จัดส่งเอกสาร และเร่ืองย่อของเอกสารเฉพาะเร่ือง ให้ถึงผู้ใช้ตาม ความสนใจเป็นรายบุคคล ในปัจจุบนั นี้ เน่ืองจากการผลิตหนงั สอื และสิ่งพมิ พ์อื่นๆ โดยเฉพาะวารสารทางวิชาการ รายงานการวิจยั และรายงานการประชุมทางวิชาการ มีปรมิ าณเพมิ่ ข้นึ มากมาย แตล่ ะสาขาวิชา มีสาขาแยกยอ่ ยเป็นรายละเอียดลึกซงึ้ จึงยากท่ีห้องสมุดแหง่ ใดแห่งหน่ึง จะรวบรวมเอกสารเหล่านไี้ ด้หมดทกุ อย่าง และให้บริการไดท้ ุกอย่างครบถ้วน จึงเกิดมีหน่วยงานดาเนนิ การเฉพาะเรื่อง เช่น รวบรวมหนังสือ และสิ่งพิมพ์อื่นๆ เฉพาะสาขาวิชายอ่ ย วเิ คราะห์เนื้อหา จดั ทาเร่ืองย่อ และดัชนีค้นเร่ืองนั้นๆ แล้วพิมพอ์ อกเผยแพร่ใหถ้ ึงตัวผู้ตอ้ งการเรื่องราวข่าวสาร และข้อมูล ตลอดจนเอกสาร ในเรื่องน้ัน หนว่ ยงานท่ีทาหน้าทป่ี ระเภทน้ี จะมชี ื่อเรียกวา่ ศนู ย์เอกสาร ศูนยส์ ารสนเทศ ศนู ยข์ ่าวสาร หรือศนู ย์สารนิเทศ เชน่ ศูนย์เอกสารการวจิ ยั ทางวิทยาศาสตร์ ศนู ยข์ ่าวสารการประมง เป็นต้น ศูนยเ์ หลา่ นี้บางศนู ยเ์ ป็นเอกเทศ บางศนู ยก์ เ็ ป็นสว่ นหนึง่ ของห้องสมุด บางศูนยก์ ็เป็นสว่ นหน่งึ ของหน่วยงาน เช่นเดยี วกับห้องสมดุ เฉพาะ เอกสารประกอบการเรียนรู้ วิชางานหอ้ งสมดุ (ง30269) คณุ ครูณฐั วรนิ ทร ธารบุปผา

6 การจัดหมวดหมู่ในหอ้ งสมดุ การจัดหมวดหมู่ หมายถึง การแยกหนังสือออกเป็นหมวดหมู่ เพ่ือความสะดวกรวดเร็วในการค้นหา และเป็นระเบียบในการจัดเก็บ การจัดแยกหนังสือมีหลายวิธี เช่นแบ่งตามเน้ือหา หรือเนื้อเรื่อง แบ่งตามลักษณะ และสีของปก แบ่งตามอักษรช่ือผู้แต่ง แบ่งตามขนาดรูปเล่ม แต่วิธีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน และถือวา่ เป็นการจัดระบบ หมู่ที่ดีคือ การจัดแยกตามเน้ือหา หรือเนื้อเร่ือง ซ่ึงจะทาให้หนังสือที่มีเนื้อหาเดียวกันอยู่รวมกัน และเน้ือหาสัมพันธ์กันอยู่ ใกลก้ ัน และใช้สญั ลกั ษณ์แทนเน้อื หาของหนังสือ โดยห้องสมดุ แต่ละแห่งจะพิจารณาการจัดหมวดหมู่ จากจานวนหนังสือ ขนาดของห้องสมุด ประเภทของหนังสือท่ี ให้บริการ ในปจั จุบันมรี ะบบทมี่ ปี ระสทิ ธิภาพและ นิยมกันอยา่ งแพร่หลายใหญ่ ดงั นี้ 1. ระบบทศนิยมดิวอี้ (Dewey Decimal Classification) เป็นระบบที่ใช้ตัวเลขเป็นลักษณะแทนเน้ือหาของ หนังสือ นิยมใช้ในห้องสมุดทุกขนาด ต้ังแต่ขนาดใหญ่ มีหอสมุดแห่งชาติหลายประเทศที่ใช้ รวมทั้งของไทยด้วย ห้องสมุด มหาวทิ ยาลัยหลายแห่งเชน่ จฬุ า ศรีนครนิ ทรวโิ รฒประสานมิตร ตลอดจนหอ้ งสมุดโรงเรยี น ห้องสมุดประชาชน 2. ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน (Library of Congress Classification) หรือเรียกย่อว่า ระบบ L.C เป็นระบบที่ ใชต้ วั อักษรผสมตัวเลขเป็นสญั ลักษณ์ โดยทัว่ ไปจะนิยมใชใ้ นหอสมุดขนาดใหญ่เช่น หอสมุดในมหาวทิ ยาลัย 3. ระบบหอสมุดแพทย์แห่งชาติอเมริกัน (National Library of Medicine Classification) เรียกย่อๆ ว่า ระบบ NLM เป็นระบบที่ใช้จัดหมู่ทรัพยากรสารสนเทศเฉพาะทางดา้ นวิชาการแพทย์และสาขาวชิ า ที่เก่ียวข้อง เช่น แพทยศาสตร์ เทคนคิ การแพทย์ พยาบาลศาสตร์ และทันตแพทย์ศาสตร์ เปน็ ต้น 4. ระบบทศนิยมสากล (The Universal Decimal Classification - UDC) เหมาะกับห้องสมุดวิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยี เนอ่ื งจากระบบทศนิยมสากลมรี ากฐานแนวคิดมาจากระบบทศนิยมของดวิ อี้ จงึ มีแนวทางการแบ่งหมวดหมู่ และใชส้ ัญลักษณ์ในทานองเดียวกนั กบั ระบบทศนิยมของดวิ อ้ี เอกสารประกอบการเรยี นรู้ วิชางานหอ้ งสมุด (ง30269) คุณครูณัฐวรินทร ธารบปุ ผา

7 มารยาทในการใชห้ ้องสมุด มารยาทในการใช้หอ้ งสมดุ หมายถงึ ข้อตกลงที่ผใู้ ช้หอ้ งสมุดควรปฏบิ ัตติ ามเพ่ือความเป็นระเบยี บเรียบร้อยของหอ้ งสมดุ มารยาทในการใช้ห้องสมุดโรงเรียน 1. แต่งกายใหส้ ุภาพเรยี บร้อย 2. สารวมและไมส่ ง่ เสียงดังในห้องสมดุ เน่ืองจากอาจรบกวนสมาชกิ ท่านอืน่ ได้ 3. หา้ มนาอาหาร และเครือ่ งดม่ื ทุกชนดิ เข้ามาในห้องสมุด 4. วางกระเปา๋ หนงั สือหรอื สมั ภาระตา่ ง ๆ ไว้ที่ ที่ทางห้องสมุดจดั เตรยี มไว้ 5. เมือ่ ลุกจากเกา้ อี้ควรเลื่อนเก้าอีเ้ กบ็ เขา้ ทีใ่ หเ้ รียบร้อย 6. เม่อื อ่านหนังสือเสร็จแลว้ ให้นักเรียนวางหนังสือเหล่าน้นั ไวใ้ นทีพ่ ักหนงั สือที่ทางห้องสมดุ จัดเตรยี มไว้ 7. รกั ษามารยาทการมาก่อน-หลงั ในการให้บรกิ ารยืมคืนหนังสอื 8. ไม่ฉกี ขีดเขียนหรือทาเครื่องหมายใด ๆ ลงในหนังสือห้องสมุด 9. ไมน่ าหนังสอื วารสารหรอื หนังสอื พมิ พ์ออกจากห้องสมุดโดยไมไ่ ด้รับอนุญาต 10. ไมก่ ระทาการใด ๆ อันเป็นการทาลายทรัพย์สมบัติของหอ้ งสมดุ 11. เม่อื มปี ัญหาในการใช้หอ้ งสมุด สามารถสอบถามไดท้ ี่คุณครูบรรณารักษ์ ระเบียบห้องสมดุ โรงเรยี น หมายถึง กฎ ข้อบังคับหรือข้อตกลงที่กาหนดขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้บริการปฏิบัติ เพื่อความปลอดภัยของ ทรพั ยากรหอ้ งสมุด ปอ้ งกนั การชารุด สูญหายรวมท้งั ชว่ ยให้ผู้ใช้ห้องสมุดปฏิบัติอยา่ ง เปน็ ไปในทิศทางเดียวกนั โดยสม่าเสมอ เอกสารประกอบการเรยี นรู้ วชิ างานห้องสมุด (ง30269) คณุ ครณู ฐั วรินทร ธารบุปผา

8 เอกสารประกอบการเรยี นรู้ วชิ างานห้องสมุด (ง30269) คุณครณู ฐั วรนิ ทร ธารบุปผา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรียนเตรยี มอุดมศึกษาน้อมเกล้า นนทบุรี เอกสารประกอบการเรียนรู้ วิชางานห้องสมุด (ง30269) คุณครูณัฐวรินทร ธารบุปผา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook