Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กลุ่มชาติพันธุ์ทิเบต

กลุ่มชาติพันธุ์ทิเบต

Published by pornsawan fungsak, 2018-10-11 11:01:42

Description: ความรู้เกี่ยวกับกลุ่มชาติพันธุ์ทิเบต ด้านภาษา การแต่งกาย และประเพณีอื่นๆ

Search

Read the Text Version

中国的少数民族

กลุ่มชาติพนั ธุ์ทิเบต Tibetan 藏族 ชนกลุ่มนอ้ ยเผา่ ทิเบต นบั ไดว้ า่ เป็นกลุ่มชนที่มีความสาคญั มากท่ีสุดในประวตั ิศาสตร์จีนกลุ่มหน่ึง มีถ่ินฐานอยบู่ ริเวณท่ีราบสูงอนั กวา้ งใหญ่ชื่อ ที่ราบสูงชิงจ้งั (青藏高原Qīnɡ Zànɡ ɡāoyuán, Qinghai-Tibet Plateau) มีถ่ินที่อยู่ในเขตปกครองตนเองทิเบต และในเขตปกครองตนเองทิเบตมองโกล มณฑลชิงห่ายหลายเมืองเช่น หายเป่ ย(海北Hǎiběi) หวงหนาน(黄南Huánɡnán) ห่ายหนาน(海南Hǎinán)กวอ่ ลวั่ (果洛Guǒluò) ยวซี่ ู่(玉树Yùshù) มณฑลกานซู่มีอยใู่ นเขตปกครองตนเองทิเบตเมืองกานหนาน(甘南Gānnán) และเขตปกครองตนเองทิเบตเมืองเทียนจู(้ 天祝Tiānzhù) ในมณฑลเสฉวนมีอยทู่ ่ีเขตปกครองตนเองทิเบตเมืองอาป้า (阿坝Ābà) เขตปกครองตนเองทิเบตเมืองกานจือ(甘孜Gānzī) เขตปกครองตนเองทิเบตอาเภอมู่หลี่ (木里Mùlǐ) ในมณฑลยนู นานที่เขตปกครองตนเองทิเบตเมืองต๋ีช่ิง กลุ่มชาติพนั ธุ์ทิเบตประกอบดว้ ยประชากร 5,416,021 คนส่วนมากในดินแดนกครองตนเอง ทิเบต มณฑลซิงไห่ กานซู่ เสฉวนและหยุนนาน ชาวทิเบตเป็ นชาวพุทธที่เคร่ งครัด และ พระพทุ ธศาสนานิกายตนั ตระของทิเบตกเ็ แยกออกเป็นนิกายหน่ึงชดั เจน บุคคลที่มีช่ือเสียงและเป็นที่ เคารพของชาวทิเบตคือองคด์ าไล ลามะ ท่ีล้ีภยั อยใู่ นอินเดียซ่ึงเป็นผนู้ าการเรียกร้องเอกราชจากจีน

ดา้ นศิลปวฒั นธรรม ดา้ นศลิ ปวฒั นธรรม ประวตั ิศาสตร์ของการก่อต้งั อาณาจกั รท่ีรุ่งเรืองในอดีต ชนชาติ ทิเบตไดส้ รรค์สร้างอารยธรรมอนั รุ่งโรจน์มาจนปัจจุบนั และนบั เป็นอารยธรรมท่ีทรงคุณค่ามหาศาลแก่ประเทศจีนในปัจจุบนั เช่นกนั ชาวทิเบตเร่ิมมีตวั อกั ษรใช้มาต้งั แต่ศตวรรษที่ 7 แลว้ ในยุคเริ่มการจดบนั ทึกตวั อกั ษรใชว้ ิธีจารลงบนแผ่นไม้ แผ่นทองและแผ่นหนงั เมื่อเร่ิมมีการประดิษฐ์กระดาษข้ึนใช้จึงจดบนั ทึกลงบนกระดาษ ราชสานกั ถู่ฟาน(ทิเบต) นบั ถือศาสนาพุทธ เอกสารบนั ทึกต่างๆลว้ นเก่ียวขอ้ งกบั เร่ืองราวทางพระพุทธศาสนาเช่น พระไตรปิ ฎก บทสวดมนต์ เร่ืองราวเกี่ยวกบั พระพุทธองค์ เป็ นตน้ นอกจากน้ีศิลปะแขนงอื่นๆ กห็ าไดย้ ิง่ หยอ่ นไม่ เอกสารบนั ทึกต้งั แต่สมยั โบราณจนปัจจุบนั ของชาวทิเบต นับเป็ นคลงั ความรู้มหาศาลท่ีสาคัญย่ิงของชนชาติทิเบตและประเทศจีนโดยรวม เช่นปรัชญา อกั ษรศาสตร์ ภูมิศาสตร์ การแพทย์ การนบั ปฏิทิน ประวตั ิศาสตร์ ชีวประวตั ิบุคคลสาคญัวรรณคดี นวนิยาย เพลงกลอน อุปรากร ศิลปะ นาฏศิลป์ ตลอดจนสารานุกรมท่ีรวบรวมเรื่องราวสาคญั ต่างๆเป็นจานวนมาก ชาวทิเบตมีภาษาพูดและภาษาเขียนเป็นของตนเองคือภาษาทิเบต จดั อยูใ่ นตระกูลภาษาจีน-ทิเบต สาขาทิเบต-พม่า แขนงภาษาทิเบต มี 3 สาเนียงภาษาคือ สาเนียงเวย่ จ้งั (卫藏 Wèizànɡ)สาเนียงคงั (康Kānɡ) และสาเนียงอานตวั (安多Ānduō) อกั ษรทิเบตประดิษฐ์ข้ึนโดยดูแบบอยา่ งจากภาษาสันสกฤตในตอนตน้ ศตวรรษท่ี 7 และมีการพฒั นาแกไ้ ขถึงสามคร้ัง เป็นภาษาที่มีอกั ขระวธิ ีการประสมเสียงพยญั ชนะสระ ซ่ึงใชม้ าจนปัจจุบนั

ดา้ นเศรษฐกิจและสงั คม ดา้ นเศรษฐกิจและสังคม ก่อนการก่อต้งั สาธารณรัฐประชาชนจีน สังคมทิเบตเป็ นแบบสังคมศกั ดินาท่ีรวมเอาเร่ืองการเมืองและศาสนาเขา้ เป็นหน่ึงเดียว ประวตั ิศาสตร์เศรษฐกิจสังคมในทิเบตเริ่มเปลี่ยนแปลงตามลาดบั คือ เริ่มจากจากระบบเจา้ กรรมสิทธ์ิที่ดินที่ถือครองกรรมสิทธ์ิท่ีดินการเกษตร มาเป็ นขุนนางมีอานาจจดั การท่ีดิน เปลี่ยนมาเป็ นการจดั ให้มีหัวหนา้ ผูป้ กครองพ้ืนท่ีเล้ียงสัตวเ์ ป็นร้อยและพนั ครัวเรือน ต่อมามีการก่อต้งั ขุนนางและส่วนการปกครองที่มีหนา้ ที่กากบัดูแลเร่ืองท่ีดินทากินโดยเฉพาะ ผูท้ ี่จะไดร้ ับการสนับสนุนให้ทาหนา้ ที่น้ีคือผูท้ ่ีประชาชนเคารพเล่ือมใส ซ่ึงไดแ้ ก่ เจา้ อาวาสวดั พระและนกั บวชในชุมชนต่างๆ นน่ั เอง ผนู้ าเหล่าน้ีมีอานาจในการเกบ็ ภาษรี าษฎร ก่อต้งั วดั มอบอานาจใหผ้ อู้ ่ืนเกบ็ ภาษแี ทน

ดา้ นงานหตั ถกรรม งานหตั ถกรรมของชาวทิเบตไดแ้ ก่ การถกั ทอ ป่ันดา้ ย การทาเคร่ืองไม้ เครื่องหนงั โลหะ กระเบ้ืองและหิน แต่เครื่องมือการผลิตยงั คงลา้ หลงั มีการใช้เครื่องมือท่ีทาดว้ ยโลหะนอ้ ยมาก โดยมากยงั เป็ นเคร่ืองมือไมท้ ่ีทาข้ึนเองอยู่ ขา้ วของเครื่องใชย้ งั ทาจากวสั ดุตามธรรมชาติเช่น เชือกท่ีฟั่นจากขนววั จามรีกระเป๋ าท่ีเยบ็ ดว้ ยหนงั ววั ถงั นมท่ีทาจากไม้ การตดั ขนสตั ว์ การนวดหนงั สัตวเ์ ป็นแผน่ ยงั คงใชม้ ือทา ไม่มีเครื่องมือใดๆ งานท่ีผลิตไดเ้ พียงสาหรับใชใ้ นครัวเรือนเท่าน้นั ยงั ไม่พฒั นาถึงข้นั ผลิตเพื่อการคา้ เริ่มมีการใชเ้ หรียญเงินในการซ้ือขายสินคา้ แต่ส่วนมากยงั คงใชว้ ิธีแลกเปล่ียนสินคา้ ซ่ึงกนั และกนั อยู่ นอกจากอาชีพการเกษตร เล้ียงสัตวแ์ ละงานหัตถกรรมแลว้ ชาวทิเบตยงั ประกอบอาชีพเก็บของป่ าจาพวกพืชสมุนไพร อาหารป่ านามาแลกเปลี่ยนกบั สินคา้ อื่นๆ ดว้ ย

ดา้ นศิลปะและการแพทย์ ศิลปะการวาดภาพก็เป็ นงานฝี มือเอกลกั ษณ์เฉพาะตวั อย่างหน่ึงของชาวทิเบตอย่างหน่ึง ส่วนใหญ่ภาพวาดบนฝาผนงั ในวดั วาอารามแสดงถึงพุทธประวตั ิไดอ้ ยา่ งโอ่อ่า สง่างาม สีสันสดใสลวดลายละเอียดลึกซ้ึง งานแกะสลกั กเ็ ป็นศิลปะช้นั สูงอีกอยา่ งหน่ึงท่ีชาวทิเบตชานาญ มีเทคนิควธิ ีการแกะสลกั ลวดลายท่ีวจิ ิตรบรรจง งานแกะสลกั ประดบั ประดาสิ่งปลูกสร้างที่สูงส่งและศกั ด์ิสิทธ์ิ อย่างเช่น พระราชวงั โปตาลาแห่งเมืองลาซ่า(拉萨布达拉宫Lāsà Bùdá lāɡōnɡภาพต่อไป) ที่มีช่ือเสียงระบือไกลทว่ั โลก กเ็ ป็นศูนย์รวมดา้ นศิลปะวทิ ยาการและงานดา้ นศลิ ปกรรมของช่างฝี มือชาวทิเบตอยา่ งครบครัน วทิ ยาการทางการแพทยแ์ ผนทิเบตเจริญรุ่งเรืองมาแต่อดีต มีวิธีการรักษาที่มีแบบแผนเป็ นข้นั ตอนชัดเจน คือ เริ่มจากการดู ถาม ฝังเข็ม นวดและผ่าตดั การใชย้ าไดม้ าจากพืชสมุนไพร แร่ธาตุธรรมชาติและจากสตั ว์

ดา้ นขนบธรรมเนียมประเพณี ดา้ นขนบธรรมเนียมประเพณี ชาวทิเบตนิยมเรียกกนั ดว้ ยช่ือ ไม่เรียกนามสกลุ การต้งั ชื่อมี แบ่งแยกช่ือผหู้ ญิงผชู้ ายชดั เจน ภาษาที่ใชต้ ้งั ชื่อมาจากภาษาที่ใชใ้ นคมั ภีร์พระพุทธศาสนา ชาวทิเบตเชี่ยวชาญการร้องราทาเพลง ระบาเทา้ เป็นระบาที่มีช่ือของชาวทิเบต ดนตรีทิเบตเป็นดนตรีช้นั สูงท่ีใชใ้ นราชสานกั มาแต่โบราณ มีจงั หวะและท่วงทานองท่ีใหอ้ ารมณ์สูงส่ง โอ่อ่า ขณะเดียวกนั กใ็ ห้อรรถรสที่รื่นรมยแ์ ละอิ่มเอิบใจอย่ใู นที ละครทิเบตเกิดข้ึนในสมยั หมิง พฒั นามาจากการร้องและระบาพ้นื เมือง ไม่มีฉากหลงั นกั แสดงเป็นชายลว้ น มีการแต่งกายตามเอกลกั ษณ์ทิเบตและท่ีสาคญั ละครทิเบตมีการสวมหนา้ กากดว้ ย การร้องเพลงเสียงสูงและส่ันเครือถือเป็นเอกลกั ษณ์การขบั ร้องของชาวทิเบตท่ียากจะมีชนชาติใดเสมอเหมือน เร่ืองที่นิยมแสดงได้แก่ เร่ืององค์หญิงเหวินเฉิง 《文成公主》Wénchénɡ Gōnɡzhǔ นับเป็ นอุปรากรท่ีได้รับความนิยมสูง และไดร้ ับยกย่อยให้เป็ นหน่ึงในศลิ ปะการแสดงชิ้นเอกของจีน

ดา้ นการแต่งกายเพศชายเกลา้ ผมไวก้ ลางกระหม่อม ส่วนหญิงหวีแบ่งเป็ นสองขา้ งปล่อยลงคลุมบ่าแลว้ คลุมดว้ ยเคร่ืองประดบั ลูกปัดร้อยเป็นเส้นหลายเสน้ ท้งั ชายหญิงสวมหมวกบางคลุมบนศีรษะ สวมเส้ือลาตวั ส้ันแขนยาวไวด้ า้ นใน ชายสวมกางเกงขายาว หญิงสวมกระโปรงยาวคลุมถึงตาตุ่ม สวมเส้ือคลุมคอกลม ลาตวั ยาวทบั ดา้ นนอก ผ่าอกเฉียงไปทางขวาเรียกชุดน้ีวา่ “ก่ีเพา้ ทิเบต” ในฤดูร้อนและฤดูใบไมร้ ่วงสตรีชาวทิเบตสวมชุดกี่เพา้ ทิเบตแขนกดุ มีผา้ สักหลาดคลุมกระโปรงดา้ นหนา้ ต้งั แต่เอวลงมา บนเส้ือผา้ ปักลวดลายตามชายเส้ือชายกระโปรงและปกเส้ือ เป็ นตน้ ส่วนชายสวมชุดคลุมเช่นกนั แต่มีผา้ คาดเอว สวมรองเทา้ บูท้ สูงสวมทบั แขง้ ชาวทิเบตท่ีเป็ นกลุ่มชนเล้ียงสัตวส์ วมชุดก่ีเพา้ ทิเบตท่ีทาจากหนงั แกะ ผ่าขา้ งต้งั แต่เอวลงไป ส่วนพระนกั บวชห่มจีวรสีแดงเลือดหมู การตอ้ นรับแขกผมู้ าเยอื นชาวทิเบตจะมอบผา้ คลอ้ งคอเรียกว่า “ห่าต๋า” (哈达Hǎdá) เป็น การแสดงถึงความเคารพสูงสุด

เทศกาลสาคญั ของชาวทิเบตคือวนั ข้ึนปี ใหม่ ตรงกบั เดือนหน่ึงของทุกปี ชาวทิเบตสวมเส้ือผา้ ชุด ประจาเผา่ ชุดใหม่ไปไหวเ้ พอ่ื นบา้ น ญาติมิตรท่ีเคารพนบั ถือ วนั ที่ 15 เดือน4 เป็นวนั ที่พระพทุ ธเจา้ตรัสรู้ และตรงกบั วนั ท่ีองคห์ ญิงเหวนิ เฉิงแต่งงานเขา้ มาสู่ราชวงศท์ ิเบต ชาวทิเบตจดั งานเฉลิมฉลองอยา่ งยงิ่ ใหญ่เพ่อื ราลึกถึงท้งั สองพระองค์ กลางเดือนเจด็ ใกลฤ้ ดูการเกบ็ เก่ียวมีเทศกาลเฉลิมฉลองโดยการออกไปท่องเที่ยวนอกบา้ นเพือ่ ความหวงั ใหม่อนั สดใสงดงาม วนั ท่ี 25 เดือน 10 เป็นวนั ท่ีศาสดา นิกายหมวกเหลืองนิพาน พระนกั บวชในนิกายหมวกเหลืองมีพธิ ีสวดมนตเ์ พ่ือราลึกถึงพระศาสดา นอกจากน้ีการคดั เลือกพระดาไลลามะแต่ละรุ่น มีขอ้ ปฏิบตั ิที่เคร่งครัดมาก เม่ือองคด์ าไลลามะเสียชีวติ ลง จะตอ้ งต้งั องคใ์ หม่ข้ึนโดยมีคาทานายถึงลกั ษณะ ถ่ินที่อยู่ ชาติกาเนิด เป็นตน้ จนสามารถ ตามหาเดก็ ทารกตามคาทานายน้นั เจอ จากน้นั กป็ ระกอบพิธีแต่งต้งั ใหเ้ ป็นดาไลลามะองคใ์ หม่

ดา้ นศาสนาความเชื่อ ด้านศาสนาความเชื่อ เดิมทีชาวทิเบตนับถือศาสนาท่ีชื่อ เปิ่ นเจ้ียว (本教Běnjiào) หรือเรียกวา่ ศาสนาดา (黑教hēijiào) ศาสนาเปิ่ นเจ้ียวน้ีมีพฒั นาการสามข้นั คือ ข้นั ท่ีหน่ึง คือ ตู๋เป่ิ น (笃本Dǔběn) คือ การภกั ดี ข้นั ที่สอง คือ เชี่ยเปิ่ น (恰本qiàběn) คือ การเผยแพร่ ข้นั ท่ีสาม คือ เจ้ียวเป่ิ น (觉本Jiàoběn) คือการนบั ถือ ชาวทิเบตประกอบพิธีศพท่ีเรียกวา่ เทียนจ้งั (天葬tiān zànɡ) คือการทิ้งศพไวบ้ นยอดเขาสูงใหน้ กแร้งมาจิกเน้ือศพแลว้ บินข้ึนฟ้า เพราะเชื่อว่าวิญญาณผูต้ ายจะไดข้ ้ึนสวรรค์ ศพใดท่ีนกกินเน้ือหมดเร็วจะถือว่าเป็ นผูม้ ีบุญได้ข้ึนสวรรค์เร็ว แต่ก็มีนักบวชทิเบตบางนิกายและชาวทิเบตที่อาศยั อยู่ในหุบเขาห่างไกลบางแห่งประกอบพิธีศพโดยการเผาศพ แต่มีขอ้ กาหนดหา้ มเผาศพในฤดูเกบ็ เกี่ยว การประกอบพิธีศพโดยการฝังและลอยน้าถือว่าไม่เป็นมงคล จึงไม่เป็ นท่ีนิยม หญิงคลอดลูกจะตอ้ งออกจากบา้ นไปพกั อยทู่ ี่อ่ืน หรือเมืองอื่นเสียก่อน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook