Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore FEE6805C-7B42-4108-B9D6-E0F3F3D69D38

FEE6805C-7B42-4108-B9D6-E0F3F3D69D38

Published by Kunyapark Treechanakit, 2021-09-03 09:38:21

Description: FEE6805C-7B42-4108-B9D6-E0F3F3D69D38

Search

Read the Text Version

ป ร ะ สั ติ ศ า ส ต ร์ ส า ก ล อารยธรรม ลุ่ ม เ เ ม่นาํ ไ น ล์ MAKE BY JARAWEE WONGSRITHA M.6/4 no.20

ที ตั ง ท า ง ภู มิศ า ส ต ร์ 1. ทีตังทางภูมิศาสตร์ อารยธรรมลุ่มแม่นาํ ไนล์หรอื อารยธรรมอียิปต์โบราณก่อกําเนิดบรเิ วณดินแดนสองฝง แม่นาํ ไนล์ ตังแต่ปากแม่นาํ ไนล์จนไปถึงตอนเหนือของประเทศซูดานในปจจุบัน ทิศเหนือ ติดกับ ทะเลเมดิเตอรเ์ รเนียนและคาบสมุทรไซนายอียิป ทิศตะวันตก ติดกับ ทะเลทรายลิเบียและทะเลทรายซาฮารา ทิศตะวันออกและทิศใต้ ติดกับทะเลทรายนูเบียและทะเลแดง จากสภาพภูมอิ ากาศดงั กลาวจะเห็นวา บริเวณลุม แมน ้ําไนลเปรียบเสมอื นโอเอซสิ ทา มกลางทะเลทราย จงึ เป็นปราการธรรมชาติป องกนั การรุกรานจากภายนอกได สภาพภูมปิ ระเทศของลมุ แมน้ําไนลก อ นทจ่ี ะรวมเป็นปึกแผน ไดแ บง ออก เป็นบรเิ วณลมุ น้ําออกเป็น 2 สวน ไดแ ก ส - วนท่เี ป็นบรเิ วณอียปิ ตลาง (Lower Egypt) อยบู รเิ วณที่ราบลุมปากแมน้ําไนล ซ่งึ เป็นบรเิ วณทีแ่ มน้ําไนลแ ยกเป็นแมน ้ํา สาขาที่มีลักษณะเป็นรูปพัด แลวไหลลงทะเลเมดิเตอรเ รเนียน ชาวกรกี โบราณเรยี ก บริเวณนี้วา เดลตา และบรเิ วณอยี ิปตบ น (Upper Egypt) ไดแ ก บรเิ วณท่แี มน้ําไนล ไหลผาน หบุ เขา เป็นทรี่ าบแคบๆ ขนาบดวยหน าผาทลี่ าดกวา งใหญ ถดั จากหน าผา คือ ทะเลทราย ตอมาเมเนส (Menes) ประมุขแหง อยี ิปตล างจงึ ไดร วมดนิ แดนทัง้ สองเขา ดวยกัน Great Ideas Annual Report 01

2. ปจจัยทีส่งผลต่อการเกิดอารยธรรมลุ่มนาํ ไนล์ 2.1 ทีตัง 2.1.1 เนืองจากหมิ ะละลายในเขตทีราบสูงเอธิโอเปย ทําใหบ้ รเิ วณแม่นาํ ไนล์มี ดินตะกอนมาทับถมจึงเปนพืนทีมีความอุดมสมบูรณ์ 2.1.2 มีความได้เปรยี บทางธรรมชาติ เนืองจากประเทศอียิปต์เปนดินแดนที ล้อมรอบด้วยทะเลทรายทําใหม้ ีปราการธรรมชาติในการปองกันศัตรูภายนอก 2.2 ทรพั ยากรธรรมชาติ แม้อียิปต์จะแหง้ แล้ง แต่สองฝงแม่นาํ ไนล์ก็ประกอบด้วยหนิ แกรนิตและ หนิ ทราย ซงึ ใช้ก่อสรา้ งและพัฒนาความเจรญิ รุง่ เรอื งด้านสถาปตยกรรม วัสดุเหล่านีมีความ แข็งแรงคงทนแข็งแรงและช่วยรกั ษามรดกทางด้านอารยธรรมของอียิปต์ใหป้ รากฏแก่ชาว โลกมาจนกระทังปจจุบัน 2.3 ระบบการปกครอง ชาวอียิปต์ยอมรบั อํานาจและเคารพนับถือกษัตรยิ ์ฟาโรหด์ ุจเทพเจ้าองค์หนึง จึงมีอํานาจในการปกครองและบรหิ ารอย่างเต็มทีทังด้านการเมืองและศาสนา โดยมีขุนนาง เปนผู้ช่วยในการปกครอง และพระเปนผู้ช่วยด้านศาสนา ซงึ การทีพาโรหม์ ีอํานาจเด็ดขาด ทําใหอ้ ียิปต์สามารถพัฒนาอารยธรรมของตนได้อย่างเต็มที 2.4 ภูมิปญญาของชาวอียิปต์ ชาวอียิปต์สามารถคิดค้นเทคโนโลยีและวิทยาการความเจรญิ ด้านต่างๆเพือ ตอบสนองการดาํ เนินชีวิต ความเชือทางศาสนาและการสรา้ งความเจรญิ รุง่ เรอื งใหแ้ ก่อียิปต์ เช่น ความรูท้ างคณิตศาสตร์ เรขาคณิต และฟสิกส์ ได้ส่งเสรมิ ความเจรญิ ในด้านการ ก่อสรา้ งและสถาปตยกรรม เปนต้น Great Ideas Annual Report 02

3. สมัยอาณาจักรอียิปต์ 3.1 สมัยอาณาจักรเก่า มีความเจรญิ ในช่วงประมาณป 2,700 – 2,200 ก่อน ครสิ ต์ศักราช เปนสมัยทีอียิปต์มีความเจรญิ ก้าวหน้าในด้านวิทยาศาสตรแ์ ละ ศิลปกรรม มีการก่อสรา้ งพีระมิดซงึ ถือว่าเปนเอกลักษณ์โดดเด่นของอารยธรรม อียิปต์ 3.2 สมัยอาณาจักรกลาง ฟาโรหม์ ีอํานาจปกครองอยู่ในช่วงราวป 2050 – 1652 ก่อนครสิ ต์ศักราช ในสมัยนีอียิปต์มีความเจรญิ ก้าวหน้าทางด้านทางวิทยาการ และภูมิปญญามากโดยเฉพาะด้านการชลประทาน จึงได้รบั การยกย่องว่าเปนยุคทอง ของอียิปต์ อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายสมัยเกิดความวุ่นวายภายในประเทศ จนต่าง ชาติเข้ามารุกรานและปกครองอียิปต์ 3.3 สมัยอาณาจักรใหม่ ชาวอียิปต์สามารถขับไล่ชาวต่างชาติ และกลับมาปก ครองดินแดนของตนอีกครงั หนึง ในช่วงประมาณป 1567 – 1085 ก่อนครสิ ต์ ศักราช สมัยนีฟาโรหม์ ีอํานาจเด็ดขาดในการปกครองและขยายอาณาเขตเหนือดิน แดนใกล้เคียงจนเปนจักรวรรดิ 3.4 สมัยเสือมอํานาจ จักรวรรดิอียิปต์เรมิ เสือมอํานาจตังแต่ประมาณป 1,100 ก่อนครสิ ต์ศักราช ในสมัยนีชาวต่างชาติ เช่น พวกอัสซเี รยี นและพวก เปอรเ์ ซยี จากเอเชีย รวมทังชนชาติในแอฟรกิ าได้เข้ามายึดครอง จนกระทังเสือม สลายในทีสุด Great Ideas Annual Report 02

4. ด้านการเมืองการปกครอง 4.1 สมัยอาณาจักรเก่า กษัตรยิ ์หรอื ฟาโรห์ (Pharaoh) มีอํานาจสูงสุด โดยมีผู้ช่วยในการ ปกครองคือ ขุนนาง หวั หน้าขุนนางเรยี กว่า “วิเซยี ร”์ และมีหน่วยงานย่อย ๆ ในการบรหิ ารประเทศ แต่ละเมืองแต่ละหมู่บ้านมีผู้ปกครองระดับต่าง ๆ ดูแลเปนลําดับขัน แต่ละชุมชนถูกเกณฑ์แรงงาน มาทํางานใหแ้ ก่ทางการซงึ ส่วนใหญ่คือ การสรา้ งพีระมิดแต่ละอาณาจักรมีอํานาจปกครองเหนือ มณฑลต่าง ๆหรอื เรยี กว่าโนเมส ซงึ แต่ละโนเมสมีสัญลักษณ์แตกต่างกัน ต่อมามีการรวมกันเปน อาณาจักรใหญ่ 2 แหง่ คืออียิปต์บนและอียิปต์ล่าง ต่อมาทัง 2 อาณาจักรได้ถูกรวมเข้าด้วยกันเกิด ราชวงศ์อียิปต์โดยประมุขแหง่ อียิปต์ (เมเนสหรอื นารเ์ มอร)์ ความเสือมของอารยธรรมสมัยก่อน ประวัติศาสตร์ การสรา้ งพีระมิดขนาดใหญ่ เปนการบันทอนเศรษฐกิจและแรงงานของอียิปต์ ซงึ นาํ ความเสือมมาสู่ราชวงศ์อียิปต์ 4.2 สมัยอาณาจักรกลาง ฟาโรหเ์ ปลียนภาพลักษณ์จากผู้ปกครองทีอยู่หา่ งไกลประชาชนมา เปนผู้ปกปองประชาชน ลดการสรา้ งพีระมิด แต่ประชาชนต้องตอบแทนด้วยการทํางานสาธารณะ ต่าง ๆ เช่น การระบายนาํ ในบรเิ วณสามเหลียมปากแม่นาํ เพือช่วยการเกษตร การขุดคลองเชือม แม่นาํ ไนล์กับทะเลแดงเพือการสะดวกในการค้าและขนส่ง 4.3 สมัยอาณาจักรใหม่ฟาโรหอ์ เมนโฮเตปที 4 ทรงเปลียนแปลงความเชือในเรอื งการ นับถือเทพเจ้าหลายองค์มาเปนการนับถือเทพเจ้าองค์เดียว คือ เทพเจ้าแหง่ ดวงอาทิตย์ ทําใหเ้ กิด ความไม่พอใจในหมู่ขุนนางและประชาชน รชั กาลนีจึงตกตํา แต่เมือฟาโรหต์ ุตันคาเมนขึนครอง ราชย์จึงเปลียนกลับไปนับถือเทพเจ้าหลายองค์เช่นเดิม ตังแต่ศตวรรษที 11 ก่อนครสิ ต์ศักราช อียิปต์สูญเสียความเข้มแข็ง ชนเผ่าต่าง ๆ สลับกันมีอํานาจปกครองอียิปต์ เช่น อัสซเี รยี ลิเบีย เปอรเ์ ซยี สุดท้ายอียิปต์กลายเปนส่วนหนึงของอาณาจักรโรมัน Great Ideas Annual Report 02

5. ด้านเศรษฐกิจ อาชีพหลักของชาวอียิปต์ คือ เกษตรกรรม เพราะว่าดินอุดม สมบูรณ์ ทําใหผ้ ลิตอาหารเกินความต้องการ การผลิตทางการเกษตร ทีเปนหลักของอียิปต์ คือ ข้าวสาลี บารเ์ ลย์ ข้าวฟาง ถัวฝกยาว ถัว ผักและผลไม้ และต่อมาชีวิตทีมังคังและฟุมเฟอยของบางคนนาํ ไปสู่ การพัฒนางาน หตั ถกรรมและอุตสาหกรรม บางส่วนทอผ้า บางส่วน ผลิตเครอื งตกแต่ง หม้อ ลินิน และอัญมณี เหล็กและทองแดงมีการ ถลุง นาํ มาใช้ในการทําเครอื งมือ แก้ว และเครอื งปนดินเผา มีการ ผลิตทังแบบเรยี บ ๆ และวาด ทังยังมีวิศวกร จิตรกร ประติมากร และสถาปนิกอีกด้วย Great Ideas Annual Report 02

6. ด้านสังคม เปนสังคมแบบลําดับชัน ผู้ปกครองสูงสุด คือ ฟาโรห์ และชนชัน ปกครองอืน ๆ คือ ขุนนางและนักบวช ชนชันรองลงมาคือ พ่อค้าและช่างฝมือ ชนชันล่าง คือ ชาวนา และทาส ซงึ เปนคนส่วนใหญ่ ทีดินทังหมดเปนของฟาโรห์ สาํ หรบั ขุนนางและนักบวชก็ได้ครอบครองทีดินจาํ นวนมาก ชาวนาอาศัยอยู่ใน หมู่บ้านหรอื เมืองเล็กๆ และเสียภาษีเปนผลผลิตใหฟ้ าโรห์ ขุนนาง และพระ รวม ทังต้องถูกเกณฑ์แรงงานไปทํางานใหร้ ฐั และเปนทหารสตรมี ีบทบาทสูงไม่น้อย กว่าผู้ชาย คือ ใหส้ ถานภาพแก่สตรสี ูง ยอมใหส้ ตรขี ึนครองราชบัลลังก์ได้ มี สิทธิในการมีทรพั ย์สินและมรดก ราชินีทีมีชือเสียงของอียิปต์ คือ แฮตเชพซุต (Hatchepsut) ซงึ ปกครองในศตวรรษที 15 ก่อนครสิ ต์ศักราช และทําความ งดงามใหก้ ับเมืองคารน์ ัก ชาวอียิปต์ไม่ยอมใหช้ ายแต่งงานกับสตรเี ปนภรรยามากกว่า 1 คน แม้ว่าการมีเมียน้อยเปนเรอื ง ปกติและยอมรบั ทัวไป ลักษณะทีแปลกของ ระเบียบสังคมนี คือ ชอบใหพ้ ีชาย-น้องสาวแต่งงานกัน หรอื แต่งงานภายใน ตระกูล ฟาโรหแ์ ต่งงานกับตระกูลของตน เพือรกั ษาความบรสิ ุทธิของสายเลือด ประเพณีนีได้มีผู้อืนนาํ ไปใช้ต่อมา Great Ideas Annual Report 02

7. ด้านศาสนา ชาวอียิปต์นับถือเทพเจ้าหลายองค์ทีเกียวข้องกับอํานาจธรรมชาติโดยเทพเจ้าที ได้รบั การเคารพสูงสุด คือ เร หรอื รา (Re or Ra) เทพเจ้าแหง่ ดวงอาทิตย์ และเปน หวั หน้าแหง่ เทพเจ้าทังปวง ซงึ ปรากฏในหลายชือและหลายรูปลักษณ์ เช่น ผู้มีรา่ งกาย เปนมนุษย์ มีหวั เปนเหยียว และในรูปของมนุษย์คือ ฟาโรห์ ผู้ได้รบั การยกย่องว่าเปน บุตรของเร และมีเทพเจ้าสาํ คัญองค์อืน ๆ อีก เช่น เทพเจ้าแหง่ แม่นาํ ไนล์หรอื โอซริ สิ และยังเปนผู้พิทักษ์ดวงวิญญาณหลังความตาย เทพเจ้าแหง่ พืนดินหรอื ไอซสิ เปนผู้ สรา้ งและชุบชีวิตคนตาย เปนต้น การยกย่องกษัตรยิ ์ใหเ้ ทียบเท่าเทพเจ้า ทําใหส้ ถาบัน กษัตรยิ ์มีความศักดิสิทธิประดุจเปนเทพเจ้า ความเชือนีมีผลต่อการสรา้ งอารยธรรมดัง เช่น การสรา้ งพีระมิด 8. ด้านภาษาและวรรณกรรม ชาวอียิปต์ได้พัฒนาระบบการเขียนทีเรยี กว่า เฮียโรกรฟิ ค (Hieroglyphic) เปน คําภาษากรกี มี ความหมายว่า การจารกึ อันศักดิสิทธิ เรมิ ต้นด้วยการเขียนอักษรภาพ แสดงสัญลักษณ์ต่างๆ แล้วค่อย ๆ พัฒนาขึนมาเปนรูปแบบพยัญชนะ ในระยะแรก ชาว อียิปต์จารกึ เรอื งราวด้วยการแกะสลักอักษรไว้ตามกําแพงและผนังของสิงก่อสรา้ ง เช่น วิหารและพีระมิด ต่อมาจึงค้นพบวิธีการทํากระดาษจากต้นปาปรุส ทําใหม้ ีการบันทึกแพร่ หลายมากขึน Great Ideas Annual Report 02

9.5 ด้านประติมากรรม ชาวอียิปต์สรา้ งประติมากรรมไว้จาํ นวนมากทังทีเปนรูป ปนและภาพสลักทีปรากฏในพีระมิดและวิหาร ภาพสลักส่วนใหญ่จะ ประดับอยู่ในพีระมิดและวิหาร ในพีระมิดมักพบรูปปนของฟาโรหแ์ ละพระ มเหสี รวมทังเรอื งราววิถีชีวิตของอียิปต์ ส่วนภายในวิหารมักจะเปนรูป ปนสัญลักษณ์ของเทพและสัตว์ศักดิสิทธิ เช่น สุนัข แมว เหยียว เปนต้น และภาพสลักทีแสดงเรอื งราวและเหตุการณ์ 9.6 ด้านจิตรกรรม ผลงานด้านจิตรกรรมมีเปนจาํ นวนมาก มักพบในพีระมิด และสุสานต่างๆ ภาพวาดของชาวอียิปต์ส่วนใหญ่มีสีสันสดใส มีทังภาพ สัญลักษณ์ของเทพเจ้าทีชาวอียิปต์นับถือ พระราชกรณียกิจของฟาโรห์ และสมาชิกในราชวงศ์ ภาพบุคคลทัวไปและภาพทีสะท้อนวิถีชีวิตของ ชาวอียิปต์ เช่น ภาพการประกอบอาชีพ เปนต้น Great Ideas Annual Report 02

เ นื อ ห า โ ด ย https://sites.google.com/site/historyinter123/xarythrrm-tawan- tk-smay-boran/xarythrrm-lum-na-nis

จั ด ทํา โ ด ย น . ส . จ า ร วี ว ง ษ์ ศ รี ท า ม.6/4 เ ล ข ที 2 0


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook