สอื การเรยี นการสอนเรอื ง ภาษาและ วรรณกรรม
คํา นํา E-book เร่ือง ภาษาและวรรณกรรม ฉบบั นี้เป็นเพียงเน้ือหาทใี่ ชในดา นการเรยี นการ สอนในรายวชิ าภาษาไทยเทา นัน้ ไมไดม ี เจตนาพาดพิงหรือลอกเลียนแบบผูใดและ ถามีขอ ผิดพลาดประการใดทางเราขออภยั ไว ณ ที่นี้ดวยคะ
ส า ร บั ญ หน า 1 ความหมาย หน า 2 - 4 ภาษาและวรรณกรรมมขี อบขาย และรายละเอยี ดดังตอ ไปนี้ หน า 5 - 8 ขอบขา ยงานสงเสรมิ อนรุ ักษน ิทานและภูมนิ าม หน า 9 - 12 ขอบขา ยงานสง เสรมิ อนรุ กั ษป รศิ นารอยกรอง + อา งอิง หน า 13 รายช่อื สมาชิกและหน าทข่ี องแตละคน
ความหมาย ภาษาและวรรณกรรมหมายถงึ ส่ิงทสี่ ่ือความหมายดว ยเสียงหรอื อกั ษรท่ี มกี ําหนดไว เป็นแบบแผน เพ่ือใชเ ป็นส่ือสรางความเขาใจซ่งึ กนั และกัน ประกอบดวย ข่าวสาร วรรณกรรม ภาษาศาสตร์และหลกั ภาษา ภาษาถนิ และภาษาชนตา่ งกลุ่ม นทิ านและภูมินาม ความเรยงและฉันทลกั ษณ์ ปรศนาคาํ ทาย วาทการ ภาษิต
ภาษาและวรรณกรรมมีขอบข่าย และราย ละเอยี ดดงั ตอ่ ไปนี 1.ขา่ วสาร หมายถึง ข่าวความเคลือนไหวทางภาษา และวรรณกรรมจากสอื มวลชน และหนว่ ยงานต่างๆทังของรัฐบาลและเอกชนซึงประกอบดว้ ย 1.1 สารคดี 1.2 บทความ 1.3 ประกาศแจ้งความ โฆษณา 1.4 อนทุ นิ 1.5 จดหมายและจดหมายเหตุ 1.6 ลายแทง 1.7 ใบบอก ใบจมุ้ 1.8 ใบความรู้ ใบฎีกา 2.วรรณกรรม หมายถงึ กจิ กรรมเกยี วกบั การประพันธ์และหนังสือ ประกอบดว้ ย 2.1 วรรณคดีหมายถึง งานเขยี นทีเกิดจากจนิ ตนาการในแบบสุนทรยะ มีความ คิดเปนสากลและมีความคงทนถาวรในรูปลักษณเ์ ช่น นวนยิ าย กวนิพนธ์ เรอง ประโลมโลกและบทละคร 2.2 วรรณกรรมท้องถิน หมายถึงงานเกยี วกบั หนงั สอื ทีมอี ยูใ่ นภาคต่างๆหรอ ทอ้ งถนิ หนงึ ๆ ทงั ทไี ด้บนั ทึกไวเ้ ปนลายลักษณ์อักษาและไมม่ ีการบนั ทึกเพยี งจดจําสืบ ตอ่ กนั มา 2.3 วรรณกรรม หลงั รัชกาลที 5 หมายถึง วรรณกรรมทเี กิดขึนตงั แตร่ ัชกาลที 6 ซงึ เปนการ รเรมเปลยี นรูปแบบการเขียนใหม่ โดยได้รับอทิ ธิพลจากชาตติ ะวนั ตก 2.4หสั คดีและเรองล้อ 2.5วรรณกรรมวจารณ์
3.ภาษาศาสตร์และหลกั ภาษาหมายถึงววฒั นาการทางภาษาจนมีระเบยี บกฎ เกณฑเ์ ปนเอกลกั ษณข์ องพนื บา้ นทอ้ งถนิ และชาตแิ บ่งออกเปน 3.1ภาษาศาสตร์ไดแ้ ก่ ประวตั ิทางภาษาและวทยาศาสตร์ทางภาษา 3.2หลักภาษาไดแ้ ก่ ระเบียบ กฎเกณฑ์ด้านภาษา หลักเกณฑท์ ใี ชใ้ นการ พดู อ่าน เขยี นของแต่ละภาษารวมทังอักษรแบบต่างๆ 4.ภาษาถินและภาษาต่างกล่มุ หมายถงึ ภาษาไทยทีใชใ้ นถินต่างๆ ทงั ทอี ยใู่ น พระราชอาณาจกั รและตา่ งประเทศเชน่ เชียงรุ้งทสี ําเนียงภาษาแตกตา่ งจากภาค กลางทอ้ งถิน อาจมภี าษาผิดเพียนไปบา้ ง สว่ นภาษาต่างกลมุ่ ไดแ้ กภ่ าษาอนื ๆที ใชอ้ ยู่ในประเทศไทยเชน่ จีน มอญ กระเหรยง เยา้ อสิ ลาม(ยาว) แบง่ ออกเปน 4.1 ภาษาถนิ 4.2 ภาษาชนตา่ งกลุ่ม 5.นิทานและภมู นิ าม หมายถึงเรองราวทีเลา่ สบื ทอดตอ่ กนั มาดว้ ยคาํ พดู ไม่ได้ เขียนไวเ้ ปนลายลกั ษณอ์ ักษรเปนวรรณกรรมมขุ ปาฐะ เชน่ นิทานเรองเมือลับแล นางผมหอม จําปสีต้น กาํ กาดาํ เปนตน้ 6.ความเรยงและฉันทลกั ษณ์ หมายถงึ ความเรยงและร้อยกรองทีมฉี นั ทลักษณ์ รูปแบบตามแบบแผนคําประพนั ธใ์ นวรรณกรรมของแตล่ ะทอ้ งถิน (โคลง ฉนั ท์ กาพย์ กลอน ร่าย ) รวมทงั กลอนเปลา่ (การเขียนทีไมม่ ฉี ันทลกั ษณ์) กวนิพนธร์ ูปธรรม จดั กลมุ่ ได้ดงั นี 6.1 ความเรยง 6.2 ฉนั ทลักษณ์ 6.3 กลอนเปล่าและวรรณรูป
7.ปรศนาคาํ ทาย หมายถึงขอ้ ความหรอเรองราวทใี ชม้ โนภาพเพอื ฝกเชาว์ ปญญา และกอ่ ใหเ้ กิดความสนกุ สนาน เพลิดเพลิน แบ่งออกเปน 7.1 ปรศนาร้อยแกว้ 7.2 ปรศนาร้อยกรอง 7.3 ปรศนาภาพ 8.วาทการ หมายถงึ คําพดู ของบคุ คลในโอกาสสําคญั ต่างๆ แยกเปน 8.1 โอวาท 8.2 อภิปราย บรรยาย 8.3 โต้วาที 8.4 คําปราศรัย สนุ ทรพจน์ 9.ภาษิต หมายถงึ คําพูดหรอถ้อยคําทีเรยบเรยงขนึ มคี วามหมายลึกซงึ และมี ขอ้ ความรัดกุม สละสลวยกนิ ใจ เชน่ คําพังเพย สํานวนโวหาร คาํ ด่า คาํ สบถสาบาน ผญา คําผวน ถอ้ ยคํา ซงึ มคี ติสอนใจทีเรยกกนั วา่ สภุ าษิต
ขอบขา่ ยงานสง่ เสรมิ อนรุ กั ษ์นทิ านและภมู นิ าม 1.งานศึกษาและวจยั นทิ านและภมู ินาม 1.1 รวบรวมนทิ านและภูมินามทีเกียวขอ้ งกับทอ้ งถิน โดยแยกประเภทเอา ไวอ้ ยา่ งชดั เจน เพอื สะดวกในการศกึ ษา 1.2 สัมภาษณ์ผรู้ ู้ ผู้มปี ระสบการณ์ในทอ้ งถนิ ของตนแลว้ นํามาบันทกึ เปน ประเภท 1.3ออกแบบสํารวจในชมุ ชนของตนเองรวบรวมขอ้ มลู เกียวกบั นทิ านและ ภมู ินาม 2.งานอนุรักษน์ ทิ านและภมู ินาม 2.1 รณรงค์ เพือใหเ้ หน็ ความสาํ คญั ของนทิ านและภมู นิ ามเช่น เขยี น คาํ ขวญั การตังชมรมอนรุ ักษ์เปนต้น 2.2 จัดทาํ ทะเบยี น ทําเนียบ นิทานและภมู ินามในทอ้ งถนิ ของตนเอง 2.3 จดั ทาํ เอกสารนิทานและภมู ินามในทอ้ งถนิ ของตนเอง 2.4 ประกาศยกย่องเชิดชูเกียรตแิ กบ่ คุ คล กลมุ่ คนทไี ด้ดาํ เนินกิจกรรมด้าน การอนรุ ักษ์ นิทานและภมู นิ ามเชน่ การมอบโล่ เกียรติบัตร มอบรางวลั เปนต้น 2.5 ตังชมรมอนรุ ักษใ์ นโรงเรยนรับสมัครสมาชกิ ประกอบดว้ ย ครู นักเรยน และ ผสู้ นใจ เพอื ช่วยเหลอื ในการจัดกิจกรรมทีเกียวกบั งานอนรุ ักษ์นทิ านและภมู ินาม 2.6 สร้างจติ สํานกึ ใหน้ กั เรยนเห็นความสําคญั ของนทิ านและภมู ินามโดย สอดแทรกในวชาภาษาไทย ศลิ ปะ และสังคมศึกษา 2.7 จดั ทํา ทาํ เนยี บผู้รู้ ผู้ทรงคุณวฒุ ิ เกียวกบั นิทานและภมู นิ ามเพือ สะดวกในการศึกษาและเปนแหลง่ ข้อมลู แกผ่ สู้ นใจ MIYAKI EZE
3.งานฟนฟนู ิทานและภมู นิ าม 3.1 แข่งขนั กนั เลา่ นทิ านและภมู ินามของท้องถนิ ตนเอง 3.2 ประกวดการแสดงประกอบการเล่านิทานและภมู นิ ามของทอ้ งถิน ตนเอง 3.3 แสดงละครโดยเขียนบทละครจากนิทานและภมู นิ ามของทอ้ งถนิ ตนเอง 3.4 ประกวดการวาดภาพประกอบนิทานและภูมิภาคของทอ้ งถนิ ตนเอง 3.5 ใช้ห่นุ ประกอบการเลา่ นิทานและภูมนิ ามของท้องถินตนเอง 3.6 ใช้ภาพพลิกประกอบการเล่านทิ านและภมู ินามของทอ้ งถินตนเอง 3.7 ขับเสภาประกอบการเลา่ นิทานและภูมินามของท้องถนิ ตนเอง 3.8 จดั มุมนทิ รรศการนิทานและภูมนิ ามไวใ้ นหอ้ งเรยน หรอปายนเิ ทศ ปาย นิทรรศการ หนา้ หอ้ งเพือใหน้ กั เรยนได้ศกึ ษา ทําความเข้าใจและเห็นคุณคา่ 4.งานพัฒนานทิ านและและภูมินาม 4.1 จดั รายการเล่านิทานและภมู นิ ามโดยใช้เสียงตามสายในโรงเรยน 4.2 จัดให้มกี ารประกวด เขยี นบทละคร ตามนทิ านและภูมินาม 4.3 จดั นกั เรยน ชมรมอนรุ ักษ์เปนผู้นาํ จดั กจิ กรรมทีเกียวกับนิทานและภูมิ นามทอ้ งถิน 4.4 นํานิทานและภมู นิ ามในท้องถนิ ตน มาวเคราะห์ วจารณ์ ชใี หเ้ หน็ คณุ คา่ พร้อม ประโยชน์ทีจะไดร้ ับ เพอื นํามาประยุกต์ใชใ้ ห้สอดคลอ้ งกับสภาพสงั คม ปจจบุ นั 4.5 จัดมหกรรมการเลา่ นทิ านและภูมินาม เพือแลกเปลยี นความคดิ เหน็ หา แนวทางพฒั นาใหเ้ หมาะสมกับสภาพสงั คมปจจุบัน 4.6 นาํ นทิ านและภมู ินามมาแตง่ เปนบทร้อยกรอง เสภา แหล่กลอนลํา เพอื จะช่วยให้จดจาํ และสง่ เสรมการอนุรักษ์ให้ดยี ิงขึน
5.งานถ่ายทอดนทิ านและภมู ินาม 5.1 เชิญผมู้ ีความรู้ความสามารถ มาสาธิตการเลา่ นทิ านและภูมินาม 5.2 ใชว้ ดีทัศนบ์ นั ทึกการเลา่ นิทาน เพอื ใชใ้ นการถ่ายทอด 5.3 ครูผู้สอนรายวชาต่างๆ เช่นรายวชาท้องถินของเรา เน้นนิทานและภูมนิ าม ในท้องถินของนักเรยน เพือชใี ห้เห็นความสาํ คัญ คณุ คา่ และประโยชน์ทีนกั เรยนจะ ไดร้ ับจากการเรยนในรายวชานี 5.4 ฝกเล่านทิ านและภมู นิ ามในกล่มุ สมาชกิ หรอชมรม เพอื ทักษะความมันใจ 5.5 จดั พมิ พ์ เอกสารทีเกยี วกบั นทิ านและภมู นิ าม นาํ ไปประกอบการเลา่ นทิ าน 5.6 ร่วมรณรงค์หนว่ ยงานของรัฐหรอเอกชนทดี าํ เนินกจิ กรรมเกียวกับนทิ าน และภูมนิ าม 5.7 นําเทคโนโลยสี มยั ใหม่ มาใช้ถา่ ยทอดนทิ านและภมู ินามเช่นคอมพิวเตอร์ใน การเก็บรวมรวมขอ้ มลู ต่างๆวดที ศั น์ เครองบันทกึ เสยี งเปนตน้ 6 งานส่งเสรมนิทานและภูมนิ าม 6.1 จดั พมิ พ์นทิ านและภมู ินามเปนรูปเล่ม ให้มีการประชาสมั พันธอ์ ยา่ งตอ่ เนอื ง 6.2 สง่ เสรมใหก้ าํ ลงั ใจ ด้วยการมอบรางวลั เกียรตบิ ตั ร โล่ ประกาศ เกียรติคุณ แกบ่ คุ คลและชมรมทอี นุรักษน์ ิทานและภูมินาม 6.3 สง่ เสรมบุคลากรร่วมประชมุ สัมมนา อบรม ในเรองการอนุรักษ์และ ส่งเสรมศลิ ปวฒั นธรรม ด้านภาษาและวรรณกรรมอย่างสมาํ เสมอ 6.4 จดั ทําของชาํ ร่วย โดยมเี อกลักษณ์เกียวกับนิทานและภูมนิ าม ของ ทอ้ งถนิ ตนเองแจกในวนั สําคัญๆเช่นวนั อนุรักษ์ศลิ ปวฒั นธรรมแห่งชาติ 6.5 ส่งเสรมนักเรยนในชมรมทาํ นิทานและภูมนิ าม แผน่ พับ เผยแพร่ ประชาสัมพนั ธ์อยา่ งตอ่ เนอื ง 6.6 สง่ เสรม ประกวดคําขวญั ทมี ีเนือหาอนรุ ักษ์ส่งเสรม นิทานและภูมิ นามของท้องถินตนเอง
7 งานเสรมสร้างเอตทคั คะนิทานและภูมนิ าม 7.1 สนับสนุนส่งเสรมให้นักเรยนร่วมกจิ กรรมตามความสามารถในดา้ นต่างๆ เชน่ *** การเล่านิทานและภมู นิ าม *** การวาดภาพประกอบนิทานและภูมินาม *** การเขยี นการ์ตนู ประกอบนทิ านและภมู นิ าม *** การแสดงละครประกอบนิทานและภูมินาม *** การเล่านทิ านและภมู นิ ามโดยใชห้ ุ่นประกอบ *** การแสดงประกอบการเล่านิทานและภมู ินาม *** การเขยี นเรยงความเกียวกบั นิทานและภูมินาม 7.2 คัดเลือกสรรหานกั เรยนทมี คี วามสามารถในการทาํ กิจกรรมทีเกยี วกบั นิทานและภมู นิ ามทคี รูจดั ขนึ เชน่ การเลา่ นิทานและภูมินามโดยใช้ห่นุ ประกอบ การวาดภาพประกอบนทิ านและภูมนิ าม การเขียนการ์ตูนประกอบนทิ านและภูมิ นาม 7.3 จัดทาํ เนียบนกั เรยนมีความสามารถแตล่ ะกิจกรรมพร้อมประกาศ เกยี รตคิ ุณ มอบรางวลั 8 งานแลกเปลียนนิทานและภมู นิ าม 8.1 จัดนทิ รรศการนทิ านและภมู ินามทกุ ภาคของประเทศ ให้นกั เรยน ศกึ ษาและทําความเขา้ ใจเหน็ คณุ ค่า 8.2 นาํ นกั เรยนหรอชมรมอนรุ ักษ์ เขา้ เยียมชมศกึ ษา ตามศูนย์วฒั นธรรม ในจงั หวดั ต่างๆ 8.3 จัดการแลกเปลยี น เลา่ นทิ านสัญจร เพอื แนะแนวการศกึ ษาตอ่ ใน ระดบั มธั ยมศกึ ษา 8.4 ประชมุ สัมมนา โดยยกเอานิทานและภมู ินามของแต่ละทอ้ งถนิ มา วเคราะห์ วพากษ์ วจารณ์ ข้อดีข้อเสยี เพอื ชใี หเ้ หน็ คณุ ค่าและนํามา ประยกุ ต์เข้ากับวถชี วี ตในปจจุบนั
ขอบขา่ ยงานสง่ เสริมอนรุ กั ษ์ปริศนาร้อยกรอง 1. งานศึกษาวจัยปรศนาร้อยกรอง 1.1 จัดรวบรวม ปรศนาร้อยกรอง แลว้ จัดแยกเปนหมวดหมตู่ ามลําดับอกั ษร เพือสะดวกในการศกึ ษา 1.2 จดั ระบบขอ้ มูลปรศนาคาํ ทาย ทีเกยี วกับทอ้ งถินหรอภาคของตนเอง ให้เห็นถงึ การพฒั นาปรศนาคาํ ทายอยา่ งตอ่ เนอื ง 1.3ใหน้ กั เรยน นําปรศนาร้อยกรองมาอภปิ รายในการเรยนทีเกยี วกบั ร้อย กรอง 2.งานอนุรักษป์ รศนาร้อยกรอง 2.1 รวบรวมปรศนาร้อยกรอง พมิ พ์เปนเล่มหรอเขยี น โดยเรยงตามลาํ ดับ อักษรให้เปนระบบ 2.2 รณรงคใ์ หเ้ ห็นประโยชน์ ความสําคัญ ของปรศนาร้อยกรอง เชน่ การ เขียนคาํ ขวญั ในลกั ษณะเชญิ ชวนเปนตน้ 2.3 นาํ ปรศนาร้อยกรอง มาจัดทาํ ในลกั ษณะแผ่นลอก เพอื ประชาสมั พนั ธ์ 2.4 ยกยอ่ งเชดิ ชเู กยี รติ แกน่ กั เรยนทีชนะการประกวดคําขวญั ในการ รณรงคเ์ พอื อนุรักษ์ปรศนาร้อยกรอง 2.5 จดั ตังชมรมอนุรักษป์ รศนาคําทายขึนในโรงเรยน รับสมาชิกทเี ปน นักเรยน ครูและผสู้ นใจโดยทําหนา้ ทรี วบรวม ปรศนาคําทายทีมีในทอ้ งถินที โรงเรยนตังอยู่โดย นาํ มาปรวรรต และทําการจัดเกบ็ รักษาอยา่ งมีระบบ เพอื สะดวกในการศกึ ษาคน้ ควา้ 2.6 สร้างจติ สาํ นึกใหต้ ระหนักในความสําคญั ของปรศนาคาํ ทาย โดย สอดแทรกในวชาภาษาไทย ดว้ ยการนําปรศนาร้อยกรองมาวเคราะห์ วจารณ์ และสรุปให้เห็นขอ้ ดขี ้อเสีย แล้วนาํ มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวตประจําวนั ของตนเอง
3 งานฟนฟปู รศนาร้อยกรอง 3.1 จัดนทิ รรศการแสดงผลงานปรศนาร้อยกรอง มมุ หอ้ งเรยน ให้ นักเรยนศึกษาและทําความเข้าใจ ชีใหเ้ ห็นคุณคา่ พร้อมทังประโยชน์ทีพึงไดร้ ับ 3.2 จดั การประกวด แขง่ ขนั ตอบปรศนาร้อยกรองเปนรายบคุ คลหรอ เปนกล่มุ 3.3 สนบั สนุนให้ฟนฟู ปรศนาร้อยกรอง โดยประกวดคาํ ขวญั เรยงความใน ลักษณะเชิญชวนใหร้ ่วมมือกนั ฟนฟู 3.4 รวบรวมปรศนาร้อยกรองฉบบั กระเปา ประชาสมั พันธ์หรอจําหน่าย 3.5 ยกย่อง เชิดชูเกียรติ มอบรางวลั แก่นักเรยนทดี ําเนินกจิ กรรมใน ลกั ษณะฟนฟปู รศนาร้อยกรอง อยา่ งต่อเนอื งและสมาํ เสมอ 4 งานพัฒนาปรศนาร้อยกรอง 4.1 จดั กิจกรรม ปรศนาร้อยกรอง โดยมตี ูร้ ับปรศนาและใหร้ างวัลแกผ่ ู้ ทายถกู ตามสมควร 4.2 จดั โต้วาทโี ดยนาํ ปรศนาร้อยกรอง มาเปนญัตติ 4.3 ส่งเสรมนักเรยนเลือก ปรศนาร้อยกรอง ทเี ห็นว่า สามารถนาํ มา ประยุกต์ใช้ในชีวตตนเองและเกดิ ประโยชนต์ อ่ สงั คม 4.4 จดั รายการแข่งขันทายภาพตามปรศนาร้อยกรอง 4.5 จดั รายกายแขง่ ขนั วาดภาพ ตามปรศนาร้อยกรอง 5 งานถา่ ยทอดปรศนาร้อยกรอง 5.1 นักเรยนแบ่งกลมุ่ ศึกษาปรศนาร้อยกรอง ตามประเดน็ ตอ่ ไปนี 1. ลกั ษณะประเภทคําประพันธ์ 2.ลกั ษณะเฉพาะหรอแผนผงั บงั คับคาํ ประพันธ์ 3. สรุ ปความหมายปรศนาร้อยกรอง 5.2 จดั ทํา ปรศนาร้อยกรองในรูปแผ่นลอก เผยแพร่และจาํ หน่ายในวัน สําคญั เชน่ วันเอกลักษณ์ไทย วันอนรุ ักษ์ศลิ ปวัฒนธรรม วันสุนทรภเู่ ปนตน้ 5.3 เน้นกิจกรรมปรศนาร้อยกรองในท้องถนิ ในภาษาไทยทกุ รายวชา ให้ ตระหนักถึงความสําคัญและคุณคา่ ทีเกยี วกับวถชี ีวตของคนในสงั คมนั
6 งานสง่ เสรมปรศนาร้อยกรอง 6.1 ให้มกี ารเผยแพร่ ประชาสมั พันธ์ ปรศนาร้อยกรอง ด้วยวธกี ารต่างๆ ที เหมาะสม ง่ายและสะดวก เชน่ การเขยี นคําขวญั เสียงตามสายเปนต้น 6.2 สง่ เสรมใหน้ กั เรยนจัดทําจของชาํ ร่วยซึงเขียนปรศนาร้อยกรองกํากบั ไว้ 6.3 ส่งเสรมใหน้ ักเรยน นําปรศนาร้อยกรองมาเขียนเปนรูปภาพปรศนา 6.4 ให้ชมรมรวบรวมปรศนาคําทายเปนรูปเล่ม ฉบับกระเปา แผน่ พับ บัตร ปรศนาบัตรส่งความสุขไวเ้ พอื ประชาสัมพนั ธ์หรอจาํ หน่าย 6.5 สง่ เสรมใหก้ ําลงั ใจ โดยใหร้ างวลั เกยี รติบตั ร โล่ ยกยอ่ งแก่บคุ คลหรอ ชมรมทีอนุรักษแ์ ละพัฒนาปรศนาร้อยกรอง อย่างต่อเนือง 7 งานสร้างเอตทัคคะปรศนาร้อยกรอง 7.1 ให้นักเรยนร่วมกิจกรรม เพือแสดงออกซึงความสามารถในดา้ นต่างๆ เชน่ การเขยี นการ์ตนู ประกอบปรศนาร้อยกรอง การแสดงประกอบปรศนา ร้อยกรอง การนาํ เนอื หาวชาทเี รยนมาแต่งเปนปรศนาร้อยกรองฯลฯ 7.2 จัดการแข่งขนั ผทู้ ีมคี วามสามารถในแต่ละเรอง ตามทีกําหนด เชน่ การเขียนการ์ตูน ประกอบปรศนาร้อยกรอง การวาดภาพปรศนาร้อยกรอง การนําเนือหา ในรายวชาทีเรยนมาแต่งเปนปรศนาร้อยกรองฯลฯ 7.3 ยกย่องเชดิ ชเู กยี รติและให้รางวัล แกน่ กั เรยนทมี ีความสามารถดา้ น ปรศนาร้อยกรองพร้อม จัดทําเปนทําเนียบ 7.4 สนับสนนุ ทนุ การศึกษา แก่นกั เรยนทมี ีความสามารถดา้ นการแตง่ ปรศนาร้อยกรองทีไดแ้ นวประยกุ ต์จากการเรยน
8 งานแลกเปลยี นปรศนาร้อยกรอง 8.1 จดั นิทรรศการเกยี วกับ ปรศนาร้อยกรอง ในวันสาํ คัญๆ ให้นกั เรยนได้ ศึกษาทาํ ความเขา้ ใจ เห็นคุณคา่ และเปรยบเทยี บ และนํามาประยกุ ต์ ใชใ้ นชวี ต ประจาํ วัน 8.2 พานักเรยนหรอชมรมอนรุ ักษ์ ไปศกึ ษาศูนยว์ ัฒนธรรมในภมู ิภาคตา่ งๆ เพือแลกเปลียนความคิดเหน็ 8.3 นําปรศนาร้อยกรอง มาวเคราะห์ วจารณ์ให้เห็นคณุ คา่ และนํามา ประยุกตเ์ ข้ากับการเรยนของตนเอง 8.4 ประชุมสัมมนา เพือแลกเปลยี น ความคดิ เหน็ ในปรศนาร้อยกรองของ แต่ละท้องถนิ 8.5 จัดพิมพ์ หรอเขยี นปรศนาร้อยกรอง ในลักษณะของจดหมายลกู โซ่ อา งองิ http://www.krutermsak.in.th/index.php/2 019-02-27-21-42-34/40-4
รายชือสมาชกิ กล่มุ 1 นส ลภสั รดา เพชร์กล้า ชนั ม.6/4 เลขที 8 (ทํารูปแบบ E-book) 2 นส จารว วงษ์ศรทา ชัน ม.6/4 เลขที 20 (หาข้อมลู ) 3 นาย ปกรณ์ สิทธโิ ชคเจรญดี ชนั ม.6/4 เลขที 13 (ช่วยหาขอ้ มลู ) 4 นาย ศุภวชญ์ สุวรรณเรองศร ชัน ม.6/4 เลขที 6 (ชว่ ยคิดรูป แบบ) 5 นาย กฤตภาส อนตุ รวทูร ชัน ม.6/4 เลขที 12 (ชว่ ยค้นหา รูปภาพ)
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: