Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บริหารความสุข 360 องศา

บริหารความสุข 360 องศา

Published by rawiporn.tik, 2021-03-15 10:33:06

Description: บริหารความสุข 360 องศา
โดย พระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ

Search

Read the Text Version

50 ทใเ www.kalyanamitra.org

OJ I. VI 9^ i โ'\" r ภาวะอกหักของมนุษย์ '' ในกรณีที่ต้องสูญเสียคนรัก ส่งผลต่อภาวะจิตใจของหนุ่มสาวเป็นอย่างมาก บ้างถึงขนาดฆ่าตัวตาย เพราะผู้ที่อกหักจะรู้สึกสูญเสียหลายอย่าง นอกจากจะเสียคนที่ตัวเองรักแล้ว ยังสูญเสียความเชื่อถือในตัวเองด้วย รู้สึกตัวเองหมดคุณค่า อกหักจากแฟนจึงรู้สึกรุนแรงกว่า อกหักจากฟอแม่ เพราะพ่อแม่เห็นคุณค่าของเราเสมอ เราจึงรู้สึกไม่เหมือนกับการสูญเสียแพ่นไป พระนหาทม!)าข ฐานรุทโพ M.D.,Ph.D. 51 www.kalyanamitra.org

ที่เสีก^แรงมากนั้น เกิดจาก ปกติแล้วอารมโน์ฃองคน มักจะชอบเตลิดคิดไปในเรึ่องต่างๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่พอไปหลงรักไครเฃ้าล้กคนไม่ว่าหนุ่มรุกสาว หรือสาวรักหนุ่ม ไจมันจะคิดจดจ่ออยู่แต่ไนเรื่องคนรัก จดจ่อจนบางทีคนโบราณยังเปรียบว่า \"ปเห็นหน้าเจ้า กินข้าวปลง\"(ไม่เห็นหน้าเขา กินข้าวไม่ลง) นั้นคือไจของคนที่ตกอยู่ในปวงสิเน่หา ก็จะคิดแต่ลิ่งๆ นั้นตลอดเวลา คราวนี้ ปัญหามันมาเกิดตรงที่ว่า พอรักแล้วกลับไม่สมหวังใจก็เลยเหมือนแตกสลาย พออกหัก ไม่ได้รับความรักตอบ ไจมันจะเสืกแหังผาก มองอะไรก็หม่นหมอง ดูฟ้าก็หม่น ดูดิน ดูนั้า ดูอะไรก็ไม่สวย ไม่งาม บางคนทำไจไม่ได้ถึงขนาดขอจากโลกนี้ไปเพียงเพราะว่า ผิดหวังในความรัก ฆ่าตัวตาย แขวนคอตาย โดดตึกตาย ต้องบอกว่าน่าเสียดาย บางคนเรียนสูงๆ ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก ก็ยังฆ่าตัวตาย 520กหักน่(น)ไต้ www.kalyanamitra.org

ความจริงถ้าหยุดคิดสักนิด จะพบว่า ไม่ควรจะต้องไปเสืยสละชีวิตเพื่อสิงนี้เลย พระสัมมาสัมทุทธเจ้า ตรัสไว้ว่า ความโศก ความทุกข์ความรํ่าไร หลายอย่างนี้มีอยู่ในโลก ก็เพราะอาสัยสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รัก เมื่อไม่มีสัตว์ หรือสังขารอันเป็นที่รักแล้ว ความโศก ความรํ่าไร ความทุกข์เหล่านี้ ย่อมไม่มี ผู้ใดไม่มีสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รักในโลก ผู้นั้นย่อมเป็นผู้มีความสุข ปราศจากความโศก เพราะฉะนั้น ผู้ใดปรารถนาความไม่โศก อันปราศจากกิเลสดุจธุลีแล้ว ไม่พึงทำสัตว์หรือสังขารใดในโลกไหนๆ ให้เป็นที่รักเลย เมื่อไม่รัก ไม่ผูกพัน เราก็จะไม่พบกับความโศก พระพทสพาซ ฐ'ณๆรไน!M.D,Ph.D.53 www.kalyanamitra.org

ฉะนั้นวิธีแก้อาการอกหักที่ชะงัดที่สุดก็คือ การไม่มีความรัก ฟังดูแล้วอาจจะทำได้ยาก แต่ถ้าจะมีความรัก ก็ให้ลองทำความเข้าใจกึงความจริง ตามที่พระล้มมาล้มทุทธเจ้าใด้ตรัสใว้ข้างด้น แล้วให้มีเบรกในใจของตัวเอง ให้รักแบบพอประมาณ รักแบบมีเหตุมีผล ถ้าเกิดเมื่อใดด้องพบก้บความผิดหวัง จะใด้ใม่เตลิดใปทำในสิงที่เป็นโทษ แต่หากอกหักใปแล้ว ทำ ใจใม่ใด้ วิธีแก้ให้ลองเปลี่ยนสิงแวดล้อมรอบตัว เช่น แทนที่จะอยู่แต่ในบ้าน จมจ่อมแล้วนั่งซึม คิดวนใปวนมา ให้ลองเปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนสถานที่ ใปวัดใด้ยิ่งดี เพราะวัดมักจะมีลี่งแวดล้อมที่ทำให้ใจเราสบาย แล้วยังใด้ใปร่วมกิจกรรมสวดมนต์นั่งสมาธิ ใด้พบปะเจอะเจอบุคคลที่เป็นคนดี ใจบุญ 54 0ทหักทํ0นได้ www.kalyanamitra.org

เนื่อใจเราเป็นกุศล ก็จะทำใฟ้เราเสีกลดขื่นขึ้น แล้วใจเราจะหลุดออกจากความคิดเรื่องเดิมๆนั้นได้ง่าย พอใจหลุดจากความคิดในเรื่องนได้แล้ว เรื่องอื่นจะค่อยๆ คลี่คลาย จนลามารถเคลยเรื่องนื้ให้หลุดออกไปจากใจได้ อีกล้กสัปดาห์สองล้ปดาห์ก็จะหายเคร้าได้เอง พอเวลาผ่าบไปเหลียวมาดอีกที เอ๊ะ! สองสัปดาห์ที่แล้ว เราไปกลุ้มไปโศกเศร้าจนาด•นั้นไดอย่างไรกันบะ แล้วเรื่องนั้นก็จะกลายเป็นเรื่องที่ไฝสำคัญ เหมือนในดอนแรกนั้นเอง mnnlii MO.ทน)-55 www.kalyanamitra.org

* www.kalyanamitra.org

เรื่องจริงฝืนบอกเหตุ ลางสังหรถJ นั้นมีหลายลักษณะ แต่ที่เด่นขัดที่สุดของลางสังหรณ มักจะมาในรูปแบบ....(จรพฝัฆ บางคนพอฝืนใม่ดี ตื่นมาก็รู้สีก ใจคอไม่ดี ใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวตลอดทั้งวัน จริงเหมือนกับที่ฝืน ก็เลยทึกทักเอาเองว่าความฝืนนั้น เป็นลางสังหรณ์ว่า ในวันนี้จะมีเรื่องไม่ค่อยดีเกิดขี้น www.kalyanamitra.org

sp การจะดูว่าความฝืนนั้นแม่นไหม เป็นลางสังหรณ์จ่รํงหรอเปล่า ดูได้ตามหลักที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงบอกไว้ว่า ความฝืนนั้นเกิดจากเหตุ 4 อย่าง ซึ่งมีทั้งที่เชื่อได้และเชื่อไม่ได้ คือ 1. ความฝืนที่๓ดจากธาตุกำเริบ เกิดจากการทานข้าวมากเกินไป อาหารไม่ค่อยย่อย ลัองเค ดีกำ เรบ หรือป่วยไข้ ไม่ลบายทำให้ตอนกลางคนหลับฝืนอุตลุดจุ่นวาย เข่น ขึ้นเขาลงห้วย ตื่นขึ้นมา ก็จะเสิกเหนื่อย ความฝืนแบบนี้เชึ่อกิอไม่ได้ 2. ความฝืนที่เกิดจากจิตนิวรณ์ เกิดจากการที่จิตใจของเราไปเกาะเกี่ยวในเรึ่องใดเรื่องหนื่งมากๆ ผูกพันอยู่กับ เรื่องนั้น พอหลับแล้ว ใจก็ยังไม่หลุดจากเรื่องนั้น ก็เลยเก็บเอามาฝืน ลันนี้ก็เป็น ความฝืนที่เขี่อไม่ได้เหม่อนกัน เพราะเป็นเรื่องที่เราคิดไปเอง ใจผูกพันอยู่ มันก็เลย ล่งผลให้เป็นความฝืนนั่นเอง เร.บ , www.kalyanamitra.org

3. ความฝืนที่เกิดจากเทพสังหรณ์ คือมีเทวดามาเข้าฝันในกรณีนี้ผีสองแบบ ทาเทวดามาเข้าฝันเรา ให้เราแหฺตุ บางอย่างล่วงหน้าก่อน อันนี้เปินความจริง เชื่อถอได้ว่าจะเกิดเรึ่องแบบนั้นๆ ขึ้น ล่วนอีกแบบคือ เทวดาหวังร้าย ซึ่งเราอาจจะเคยทำอะไรบางอย่างร่วมกับเทวดามา มีเวรมีกรรมผูกพันกันมา เทวดาเกิดหมั่นไห้เรา เลยบันดาลให้เราฝันนั่นฝันนี่ ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริง ให้เราไขว้เขวไป ก็เป็นฝืนทึ่ไม่จริง เชื่อทอไม่ได้ 4. ความฝ็นหเกิดจากบุพพนิมิต มักเกิดในกรณีของผู้ที่มีบุญมากๆ หริอคนที่ทำกรรมหนักมากๆ แห้วผลบุญหริอ ผลกรรม มาเตือนหริอมาล่งห้ญญาณล่วงหน้า ความฝันแบบนี้เป็นเรื่องจริง ลามารถเชื่อถือได้ 1 www.kalyanamitra.org

^าหรับตัวอย่างในกรณนี้คhหนึ่งในสนัยพุทธทาล ทระนาง^มามายา ซึ่งเป็นพระมารดาชองพระบรมโทรสัตว์ ก่อนที่พระองค์จะทรงพระครรสัพระองค์ก็ทรงฝ็นว่า กำสังหสับอ^บนแท่นพระไสยาสน์ได้มเทวดามายกแท่น(ทนอน) ไปวางไว่ทฺเชาหมพานค์บนมโน^ลาที่ในญ่มาก แสัวท้าวมหาราชทั้ง 4 ซึ่งเป็นเด้าสวรรค์ชุนจาตุมหาราชิกาก็มาเรา เสร็จแล้วมเหสีพระเทวีชองท้าวมหาราชทั้ง4 ก็มาปรนนปติพระองค์ พาไปสรงสนานร่างกายที่สระอโนดาตที่อyในปาหมพานค์ เพึ่อชำระล้างคราบไคลความเป็นมใ^บย์ออกไป แล้วให้ประค์บด้วย}าษาผ้าที่เป็นท้พย์ ^บไล้ด้วยของหอมและนำคอกไม้ทิพย์มาประค์บร่างกายอย่างดื เสร็จแล้วจงอัญเชิญพระองค์ให้ไปประทับในวิมานทองซึ่งอyในฎเชาเงน ปรากฏว่า}าเชาข้างๆ ที่ทำด้วยทอง ก็มีพญาข้างเรอกเป็นพญาข้างสาร สีขาวปลอดทั้งตัวสวยงามมาก เดํนลงมาจาก}^เขาทอง ตรงเข้ามาที่ฏเขาเงน แล้วก็เอางวงจับดอกน์วสีขาวขึ้นมา แล้วเปล่งเสียงโกญจนาท (เสียงร้องของข้าง) เสร็จแล้วก็ตรงเข้ามาในฏเขาเงินและเข้ามา^มานทอง ที่พระองค์ประทับอy แล้วเดนประทักษิณรอบแท่นพระไสยาสน์ของพระนางสรมหามายา 3รอบ แล้วก็เดินตรงเข้าไปในพระครรภ์ของพระนางสีร็มหามายา แล้วพระนางก็ตี่นขน 60 www.kalyanamitra.org

นี่เป็นตัวอย่างควานฝ็นบุพนิมิต ที่จะเป็นจริงแน่นอน เป็นนิมิตว่าผู้มีบุญใหfy (พญาตัางลารสิขาวปลอดเป็นเหมือนพระบรมโพธํตัตว์) จะเข้า^พระครรภ์ของพระนางสิริมหามายาแล้ว หลังจากที่ได้ทราบถึงเหตุเกิดความปีนตามที่กล่าวนาข้างต้น แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า ความฝืนที่เราฝันนั้นเป็นปีนที่เป็นลางบอกเหตุหริอไม่ ให้เราถึอหลักง่ายๆ ท้าวันไหนปีนร้าย แล้วรู้สีกไม่ลบายใจ ให้เข้าวัดทำบุญ ให้ใจรู้สีกผ่อนคลาย พอใจลบายแล้วบุญก็จะหล่อเลี้ยงใจ อย่าไปคิดกังวลกับความปีนจนเกินเหตุ . ให้เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอทาส ^* เ^ยกสติให้มาอยู่กับตัวมากiน และระมัดระวังตัวเป็นฟืเศษมากขึ้น แค่ขึ้ก็จะเปลี่ยนความไม่สบายใจ ให้เป็นโอกาสในการทำบุญ แล้วเราก็จะปีแต่ลี่งดีๆ เข้ามาในปีวิตอยำงแน่นอน msijinninnu Jtuwlw MO.,Ph.D. 61 www.kalyanamitra.org

o 62 Online ททงโร14Uli}iunhH( www.kalyanamitra.org

Online อย่าป๋ไร F ในยุคสมัยชองสังคมออนไลน์. แน่นอนว่านอกจาก ^ จะนำมาซื่งคุณประโยชน์มากมาย ในการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วแล้ว ยังมีช้อเสียตามมาอีกมากมายด้วยเข่นกัน ถีอเปีนดาบสองคมที่แหลมคมอย่างยิ่ง ซึ่งลาเหตุชองใ]ญหาหลักๆ ในโลกออนไลน์นั้น เกิดจากผู้ใช้เทคโนโลยีนั้นก็คือ ม'นุษย์ นั้นเอง nisuinauTta MO.,PhO.63 www.kalyanamitra.org

ชงเราต้องเข้าใจก่อนว่ามนุษย์ทุกคนยังคงมีกเลสอยู่ในตนเอง ใผ่มากก็น้อย คือ โลภ โทรธ หลง ซึ่งปกติแล้วการดำเนินชีวิต ในล้งคมที่ต้องอยู่ร่วมกัน ยังมสิงที่จะช่วยควบคุมกิเลสในตัวเรา 3อย่างหลักๆ คือ 1. พลังขับเคลื่อนทางสีลธรรม เช่น หากเปินทุทธคาสนิกซน ก็จะรักนุญ กลัวบาป 2. พลังขับเคลื่อนทางครอบครัว เช่น ไม่หำสิงไม'ดี เพราะกลัวพ่อแม่จะเสียใจ 3. พลังขับเคลื่อนหางลังคม เช่น ไม่หำในสิงที่ลังคมไม่ยอมรับ ลังคมจะเป็นตัวควบคุมพฤติกรรมของตัวเรา เพราะมนุษย์ทุกคนกลัวว่าจะไม่เป็นที่ยอมรับในลังคม แดในโลกออนไลน์ เราสามารทปกปิดตัวเอง ไม่ให้คนอื่นรู้ว่าในความจุรงแล้ว เราเป็นใคร ปิดบังใต้แม้กระทั่งJปร่างหน้าตา ฉะนั้นเมื่อเราหำผิด ก่อปัญหาต่างๆ จงไม่มีผลกระทบมาถงผู้กระหำมากนัก ตังนั้นสิ'งที่จะควบคุมการกระหำของเราไต้จงเหลือเพียง พลังขับทางด้านติลธรรมเท่านั้น 64 Onllrve โค^นรบ๗ www.kalyanamitra.org

การเข้าไปในเว็บใซต์และโพสต์ข้อความต่างๆ พาให้Jสีกเหมือนได้ปลดปล่อย อยากจะพูดอะไรก็พูด อยากจะทำอะไรก็ทำ นี่นหละ คอลิ่งที่ทำให้เกิดป๋ญหาต่างๆ บนล่งคมออนไลน์ อาทํ ปัญหาทางด้านการใข้คำหยาบ บางครงมืเรืองกันถงขนาดขนโรงข้นศาล นอกจากจะเกิดปัญหาคำหยาบคายแล้ว ยังทำให้คนไม่มืปฐล้มพ'นธ์ระหว่างมนุษย์ด้วยกันเองอกด้วย เพราะต่างคน ต่างก็อยู่กับเพื่อนในโลกออนไลน์ของตัวเอง กัายํ่งเราทำปอยๆ ก็จะทำให้เกิดความคุ้นเคย พระล้มมาล้มทุทธเจ้าเคยตรัสว่า วิสาสา ปรมา ญาติ แปลว่า คุวามๆนเคยเปีนญาติอย่างยิ่ง เมื่อเราได้ทำอย่างใดอย่างหนึ่ง จนเกิดเป็นความเคยชนแล้ว เมื่อเราไม่ทำดามเวลาที่เคยทำ ก็จะทำให้รู้สีกกระล้บกระส่าย พอเราแชทบ่อยๆ แล้วไม่ได้แฃท ม'นก็จะเสีกแบ่ลกๆ 2สิกโหวงเหวง กลายเป็นว่า มือกอกลายเป็นเพื่อนคู่ชวิตแทนเพื่อนของเราไปชะอย่างนั้น ทไรม>nmmo เามนุฑนเ M.O.. Ph.D.65 www.kalyanamitra.org

ดังนันเราจึงควรใช้ลื่อออนไลน์ใน!]รมาณที่เหมาะลม และใม่ควรใช้สังคมออนไลน์เพี่อการคลายเหงา เพราะจะยั๋งเปินการทำลายขึวิตของตัวเราเอง บางคนถึงขนาดไม่กล้าปิดมือถือในตอนกลางคืน พอสื 1 ตี 2 ลุกไปเช้าห้องนํ้า ก็ยังอุตส่าห์เปิดดูอีกว่า มืใครเช้ามาทํกหรือเปล่า เผลอๆ เลยไม่ได้นอนไปเลย นั่งกดๆ ดูจนเช้าก็มื แนบนี้ชีวิตความเป็นส่วนตัวก็จะหายไป กระทั่งเวลานอนก็ยังไม่มื เพราะฉะ'นั้น ใ'ห้จัดสรรให้พอดี แล้วก็รู้จักการสงบจิตตัวเองด้วยการทำสมาธ เพราะการทำลมาธิ ด้วยการหสับตาเบาๆ อยู่กับตัวเองชั่วระยะหนึ่งจะๆเวยทำให้เราไม่เหงา ไม่เสิกโดดเดึ่ยว และยังทำให้ จัดการป๋ญหาต่างๆ ได้ดมากขึ้นอีกด้วย 66 OnUneSlhill ไพุ่บท่)(น))ใ}บแ www.kalyanamitra.org

ถึงแม้ว่าการส่งข้อความในสังคมออนไ®น์จะซ่'วยบ่ระพยัเ^ และเพิ่มผู้รับลารได้อย่างมนาคาล แต่ก็มีโทษมหันต์แฝงอยู่ เพราะลิ่งที่เกิดขื้นในโลกออนไลน์ย่อมส่งผลกระทนต่อ สังคมในชีวิตประจำวันด้วยเซ่นกัน โบราณกล่าวว่า สิ่งใดที่มีคุณอนันต์ ก็มักจะมีโทษมหันต์ (ชุา / hi และยิ่งในยุคที่ทุกคบสามารถเป็นผู้ล่งลารใด้ง่ายแล้ว เราจึงควรตระหนัก และระมัดระวังทุกครั้ง ที่จะใช้สิ่อออบใลนในการสื่อสาร และให้เราพิจารณาเสมอว่า เราได้สารใน^งหี๋เปีนประโยชน์ และก่อความเสียหายต่อผู้อื่นจริงๆ โลกออนไลน์ ก็จะนำมาอื่งประโยชน์ต่อตัวเราอย่างมหาศาลแปนอน mturniuinu Ma.Pha.67 www.kalyanamitra.org

68 เพฟ่เ)แ www.kalyanamitra.org

10 แผนที่ฃี■วิต แผนการทำงานซึ๋งฃาวต่างชาติ นิยมใช้คำว่า Road map า5น แปลว่า แผนที่ทางเดิน ที่จะนำไปลู่เป๋าหมายปลายทางที่เราตั้งใจจะไป ฃี่งถ้ามองในแง่ชีวิตของเรา มันก็คือ แผนที่ฃีวิต ที่จะพาเราใปลู่ความสำเร็จที่ตั้งใจไว้ mannaimii MJ>,PtvO.69 www.kalyanamitra.org

พระสัมมาลัมพทธเจ้า ใต้ให้หลักทเรียกว่า หัวใจเศรษฐีไว้ 4 ข้อ ในการตั้งแผนที่ข้วิต เราผักเรียกย่อๆ ว่า อ dl f)\" ส\" 1.อุ-อุฎฐานสัมปทา ถึงพร้อมด้วยความหมั่น > พูดง่ายๆ คือ \"ขยันหาทรัพย์ ขยันทำงาน\" คนเราจะนอนเฉยๆ ' แล้วรอให้ทรัพย์เทลงมา จะรอถูกลอตเคอรี่รางวัลที่ 1 ผันเป็นการหวังลมๆ แล้งๆ นกต้วเล็ก ยังอุดตาหะลร้างรัง คาบเอาใบใผัเคษนญ'ามาทละใบๆ สร้างเป็นรัง อยู่เองได้ เราเกิดมาเป็นคนทงท ก็ด้องที่งตัวเองในได้ เตอนใจตัวเองว่า เราต้องทุ่มเททำงาน เหนื่อยเท่าไรอย่ากลัว จึงจะตั้งเนื้อดั้งตัวไต้ ท้าล้มเหลว ก็ ให้ขยันไหม่ จนกว่าจะเข้าเป้า ทำ แล้วทำเล่า ^ดยไม่มีกอย สุดท้ายแล้ว ความสำเร็จ ก็จะเป็นของเรา 70 นนพี่ข้ว้แ www.kalyanamitra.org

2. อา - อารักฃสัมปทา ถึงพร้อมด้วยการรักษา สือ เก็บรักษาทรัพย์เป็น ในยุคนี้ การเก็บทรัพย์ เราตองมีความ สุชุมรอบคอบในการเก็บรักษา ทั้งทรัพย์ และทรัพย'ลน เครัองใช้ทังหลาย ก็ต้อง เก็บรักษา ดูแลให้เป็น อันไหนมันจะเสิยก็ต้องระมัดระวังไม่ให้เสิยหาย หรือถ้า เสืยหาย ก็ต้องหาวิธีการซ่อมแซม ให้อยู่ในสภาพดี 3. กะ - กัลยาฌมิดตตา คบคนดื ถ้าคบคนดี ก็จะพาเราไปในทางที่ดี โดยเฉพาะ connection ในยุคนี้ก็อว่าล'าคัญมาก อย่าคบ connection ที่จะพาเราไปเล่นการพนัน พาเรา ไปดมเหลา พาเราไปเที่ยวกลางคนไปยุ่งกับอบายมขเด็ดขาด เพราะแม้เขาจะมี power ที่จะซ่วยเราใต้ แต่จะพาเราไปในทางเสือม และเดิ๋ยวจะใต้ใม่คุ้มเสิย การ คบคนอย่ามองแค่เพียงประโยชน์เฉพาะหนัา ไห้มองยาวๆ มองไกลๆ ถีงจะดี »«พุ>ท1111ไ|พุ11นใ11ไ«'ฬ,^0.71 www.kalyanamitra.org

4. สะ - สมซีวิตา ใช้จ่ายพอสมตัว ให้หลีก1ลี่ยงการใข้บัต3เครดตใหใ^หดัก หาได้เท่าไร ก็ไฟ้ห้สมตัว ฬเท่าที่จำเป็น แล้ว2จักเก็บหอมรอมริบ \"มสลงพบรรจบใน้ครบบาท อย่าให้ขาด งของต้องประสงค์บีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง อย่าจ่ายลงให้บาทจะยาทนาน\" ท่องเอาไว้เถอะ แล้วปฏิบัติให้ใด้ เราเองก็จะมความejn พระล้มมาล้มทุทธเจ้า ตรัสว่า นี้เป็นหนื่งในความสุขทั๋สำคัญ สีอ สุขจากการไม่มีหนี้ ใครอยาก^ว่า สุขจากการไม่มีหนี้ เป็นอย่างไร ลองไปทามคนทึ่เป็นหนี้ดู เจ้าหนี้ทวงหนี้ ทวงเจ้าทวงเย็น กลุ้มและเคริยด ขนาดไหน เพราะจะนั้น ให้ใจ้จ่ายพอลมคัว อย่าเกํนคัวดที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบุคคล บริษัท ประเทศ•ชาติก็ให้ใช้ 4 ช้อบี้ ขยันหา ขยันเก็บ คบคนดี และใช้จ่ายพอสมตัว รวยแน่นอบ 4 72 นเทเคต* www.kalyanamitra.org

เมื่อเราตั้งหลักชีวิตIราเองได้แน่นอนแล้ว ม ไม่ว่าจะมืความต้องการเป็นอะไรก็ตาม \\ จะเป็นวิควกร สถาปนิก เป็นแพทย์เป็นทนายความ เป็นนักธุรก็จ จะทำอะไร ก็ให้ยึดหลักวิธีการ 4 ข้อนี้ ซึ่งก็คอ หัวใจเศรษฐี แล้วเราทจะได้เป็นเศรษฐีสมใจปีก -- .. -i ฬ่ฟ็นเศรษฐีประสบความลาเร็จในหน้าทการงาน นั้นก็ให้ก้าว^เป้าหมายขั้นต่อไปคือ สร้างบุญ หลีกเสิย์งบาป หมั่นทำทาบ^ษาสืล เจริญสมาธภาวนา อย่างไรๆ เราก็จะไปสวรรค์แล้วพอตั้งใจทำภาวนามากเข้าๆ ก็เลลในต้วก็จะค่อยๆ ร่อนหอุคออกใปจากใจ ๆตใใาย เราทาๆ:'กกถ'น่'/ไไ_น*'^^^''''/.'ไา -กมค แค-:'ข่าท'-\"■.■นnไ-ทนไค้ ตามแผนที่ปีวิตQVบใหญ่ ที่อ^ประจำตัวของพวกเราๆทๆ คน พพาRymoJIU แ M0..PhX).73 www.kalyanamitra.org

www.kalyanamitra.org

11 ฝื นให้ไกล...ไปให้ถึง ความฝืนว่าอยากจะเปีนอะไรในวัยเด็ก ก็เปรียบเลมือนการตั้งเป๋าหมายชีวิต ว่าจะมืทิศทางไปในทางไหน เพราะมืคนเปรียบเปรยไว้ว่า \"ชืวิตเราเปีนเหมือนนาวา\" ถ้านาวาออกจากท่าแล้ว ไม่ได้ตั้งเป๋าหมายว่าจะไปไหน ไมได้ฝืนไว้เลย แค่วิ่งไปเรื่อยๆ แล้วแต่กระแสลม กระแสบํ้าจะพัดไป นาวาส์าบี้คงไม่บ่าฃี้น อันตราย เสิยงต่อการล่มกลางทะเล แต่อีกลำหบี่ง พอออกจากท่าก็ตั้งเป๋าหมายว่าจะไปไหนซัดเจน จะเจอพายุ ลบฝน ก็ยังคงบุ่งมั่นเดินหน้าต่อไป ก็มืโอกาสบรรลเป๋าหมายปลายทาง msinriBiWB พ.0..^.0.75 www.kalyanamitra.org

ถึงแม้การตั้งเป้าหมายไว้ จะไม่มีหลักประกัน 100% ว่าจะบรรลุเป้าหมาย แต่ชีวิตที่มีเป้าหมาย อย่างไรก็ย่อมมีประสิทธิภาพดีกว่าชีวิตที่ปล่อยไปตามยถากรรม พระสัมมาสัมๆทธเจ้า ทรงให้หสัทในการตั้งเป้ามมาย ซึ่งต้องเรํ่มจากการรู้จกตัวเองก่อน ว่าเรามีๆดอ่อน ๆดแข็งตรงไหน จะไต้ตั้งเป้าไต้สอดคล้องตรงตับตักยภาพความสามารถของตัวเรา ในการเช็คตัวเอง พระองค์ไห้พิจารณา 6 ด้าน คือ 1.ศรัทธา 2.คืล 3.สุตะหรือความรู้ 4.จาคะหรือความเสืยสละ 5.ปัญญา 6.ป๋ฏิภาณ ถ้าเราเจัก 6 ด้านในตัวเองชัดแล้ว ก็จะวางทิศทางชีวิตได้ถูกต้อง มีโอกาสประสบความสำเร็จ บรรลุเป้าหมายได้โดยง่าย ยกตัวอย่างเซ่น บิลเกตลัที่ถึงแม้จะเรียนหนังสือยังไม่จบ เขาก็กล้าลาออกจากมหาวิทยาลัย แล้วมาตั้งบริษ้ทไมโครซอฟท์กับเพื่อน จนกระทั่งประสบความสำเร็จกลายมาเป็นบริไรทที่ยุคหนึ่งมียูลค่าหลักทรัพย์ของ ปรีษ้ทสูงที่สุดในโลก และตัวเขาเองก็กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ครอง ตำแหน่งติดต่อกันเป็นสิบๆ ปี ด้วยการก่อร่างสร้างตัว(^ยสองมือของตัวเองใน ระยะเวลาลันๆ แค่ 10-20ปี เขาก็สามารถบรรลุความฝันของตัวเองได้ 76 www.kalyanamitra.org

ลองถามตัวเราดูสิว่า ถ้าลมบุดํเราเรยนหนังสิออยู่ในมฬาวิทยาลัยคณะวํควะปิที่ 3 นลัวมีความฝืนอยากจะทำธุรกจอะไรบางอย่างที่เราขอบมาก เราจะกล้าลาออกจาก มหาวิทยาลัยมาทาธุรกิจไหม ถ้าต้องมาเริ่มธุรกิจเองอยู่ในโรงรถกบเที่อนลองลามคน ความเสียงที่จะล้มเหลวมันมีมากกว่าประลบความสำเร็จ ^เรียนอกปีลองปีไห้จบ มหาวิทยาลัยเป็นวิศวกรรมคาสดรบัณฑิตก่อนรู้สีกมีหลักประกันกว่ากันเยอะ ทำ ไมบิล๓ตส์ ถึงกล้าลาออกมาทำธุรกิจ และทำจนสำเร็จ? เพราะเขาปีหลักเหล่านี้ในทารพิจารณาตัวเอง นั้นคือ ฃ้อที่ 1. ศรัทธา ศรัทธาในที่นี้ไม่ใต้หมายทงความเชื่อทางคาสนาเพียงอย่างเดียว แต่เขา^ว่า ตัวเองมีใจรักอยากจะทำอะไรจริงๆ เขาเลยกล้าลาออกจากมหาวิทยาลัยมาทำ เพราะเสิงที่ตัวเองรัก มีความถนัด ชัดเจน ฃ้อที่ 2 สืล ไนกรณืการทำงาน ไม่ใจ่ดีล 5 ดีล 8 แต่คือ ความมีวินัย ถ้าวินัยทางธรรม คือ ดีล 5 ดีล 8 s '*^'^i แด\"วินัยทางโลก คือ การมีวินัยไนตัวเอง มีวิริยอุตสาหะ มุ่งมั่นอะไรแล้ว สามา'รล,^ • ทุ่มเทไห้กับสิงนั้นไต้จริงๆ คุมเวลาตัวเองไต้ไม่ไปเที่ยวโตไต่ ความเชื่อมั่นไนตัวเอง ก็จะเพีมมากชื้น HjjuvniWiTiliฐ-ทเใฑโIII M.0,Ph.o. 77 www.kalyanamitra.org

ข้อหี่ 3 สุตะ คือ ความรู้ เว่าเรารต้นทุน คอความเในเรื่องนั้นๆ ที่เราอยากจะทำแค่ไหน ให้เช็คต้วเองว่า ความบุ่งมั่นศรัทธาที่มีอยู่อยากจะทำจริงๆมแค่ไหน หรือแค่ฮนๆ เห็นเขาอยาก ทำ เรื่องนั้นก็เห่อตามเขา เห่อฟักเดยว 6 เดอนก็เลก ไปเห่อของใหม่ หวือหวา วูบวาบซั่วคราว หรือเอาจริงเอาจังตลอดช็วต เซื่อความวืริยะอุตสาหะของตนเอง ว่ามีแค่ไหนวินัยในตนเองมแค่ไหน แล้วเช็คความ^องตนในเรื่องนั้นๆ ว่ามีมาก น้อยเพียงใด เช็คต้วIองใน้ดีเราก็จะเร}JIจักตัวเองมากชื้น ข้อที่ 4 จาคะ คือ ความเคืยสละ การจะประสบความลำเร็จไต้ เราต้องยอมเตยสละหลายๆ อย่าง เราลามารถเลีย สละไคไหม ท้าใครคิดจะเป็นเจ้าของกิจการ ต้องรวมคน สร้างทีม ท้าเป็นคน ขี้เหนียวรวมคนไม่ได้หรอก ต้องเป็นคนมีนั้าใจ มีมนุษยล้มฟันธ์สืงจะรวมคนได้ และต้องเจักการแขรัประโยซา!ที่ไต้มาอย่างยุติธรรม ไม่รวยคนเดียว ท้า จาคะ ไม่พอก็ทำงานที่เกี่ยวข้องคุมมากๆไม่ใต้ให้หางานเฉพาะด้านทำ ที่ 5 ปีณณา เรามีแท่ไหน. •ปัญญา ในที่นสือการรเเออาาคคววาามมเเททีี่ม่ีอยู่มาใข้ประโยซน์จริง ทำ ให้กลายเป็น ผลิตภัณฑ์มาบริหารธุรกิจ ให้เราพีจารณาว่าเรามีมากแค่ไหน 78 www.kalyanamitra.org

ข้อที่ 6 มีปฏิภาณ ตัวเราเองมีปฏิภาณไหวพริบในการแก้ปัญหามากแค่ไหน เงแต่ละคนมีไม่เท่าก้น พอเช็คตัวเองในทุกๆ ด้านแล้ว จึงค่อยตั้งความฝืนให้ตรงก้บตักยภาพตัวเอง ในเชิงปฏิปัติ ก้าอยากรู้ว่าตัวเองถนัดตรงไหน ชอบอะไรให้ลองเขียนสรุปย่อๆ ถ้าเป็นเด็กๆ อยู่ม.ปลาย ให้เขียนว่าอนาคตเราอยากจะเรียนอะไร สาขาไหน เขียน 5อันดับ และค่อยๆ ดูว่าชอบแต่ละข้อเพราะอะไร ค่อยๆ แจงเหตุผลและ หมั่นเช็คตัวเองเป็นระยะทุก 3 เดือน6 เดือน เราก็จะรู้จักตัวเองมากขึ้นๆ รู้จักจุดอ่อน จุดแข็งของตัวเอง แล้วสุดท้ายก็จะตั้งเป๋าหมายในชีวิต ตั้งความฝืนของตัวเอง ได้แม่นยำเหมาะก้บตัวเอง ซึ่งวิธีการที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายตามฝืนได้ต้องยึดหลัก 4 ข้อ สั้นๆ ที่เรียกว่า ฆราวาสธรรม คือ 1. สัจจะ แปลว่า จริง ตั้งใจแน่วแน่ไม่เบี่ยงเบนเป๋าหมายนี่คือ มีสัจจะ ฬททเาผฬาข ฐานๅฑโผ M.D,Phi).79 www.kalyanamitra.org

2. ทมะ แปลว่า'ฝืกตัวเอง ตั้งเป้าหมายแล้ว ก็ต'องเตรียมตัวให้พร้อม ปึกฝนตัวเองต่อเนื่อง จนกว่าจะเก่ง และต้องไม'คดเข้าข้างตัวเอง แล้วมาอวดเบ่งว่าตัวเองเก่งอย่างนั้น เก่งอย่างนี้ พอเ?มคิดว่าตัวเองแน่เมื่อไหร่ มนเหมอนกับป้ดฝาแก้วแล้ว เทนํ้าเท่าไรๆ ก็ไม่เข้า แต่ก้าคนไหนยุงรับว่าเรานื่ยังเก่งไม่จรีงยังต้องพัฒนาต่อไบ่ใจมันจะเปิดเหมอน เปิดฝาถ้วยเทนั้าเท่าไหร่ก็รองรับไต้เต็มที่ 3. ขันติ แปลว่า อดทน ทุกหนทางไป^ความสำเร็จไม่ไต้โรยต้วยกลีบกุหลาบ ลมฝนจะโหมกระหนื่า จะมี คนค่อนขอดนินทา จะมีสิงที่ไม่คาดฝืนมากระทบตัวเราแน่นอน เราต้องเดีดเดี่ยว งมั่นตรงต่อเป้าหมายบ่ลายทางโดยไฝเปลี่ยนแบ่ลง อดทนแน่วแน่ เดนไป โดย ไฝย่อหย่อนกลางคัน 4. จาคะ แปลว่า ความเสิยสละ เราต้องเลียสละอารมณ์ให้เป็น เพราะการรวมคนหยู่ใหญ่ จะต้องมีเ'รึ๋องถูกใจและ ไม่ถูกใจ แล้วเราจะลามารถรักtnอารมณ์ที่ดไก้กับตัวไต้ตล^ไป www.kalyanamitra.org

เรั๋มด้นด้วยการเช็คตัวเองว่า ฃ้อดีของเราคืออะไร ข้อด้อยของเราคืออะไร แล้วตั้งเป้าหมาย ฟ้อฅั้งเปีๆหมายแล้ว ก็ม่งมั่นไม่ย่อท้อ แกฝนคนเองอย่างจริงจัง เพียงเห่านี้ ไม่ว่าความฝืนจะสูงส่งแค่ไหน เราย่อมมีโอกาสไปถึงอย่างแน่นอน ฬรรบพาAUW]าบๆฑ่น1 PtLO. 81 www.kalyanamitra.org

f 82 (ว(กทฬรเ www.kalyanamitra.org

12 สำ เร็จได้ ด้วยพรแสวง หลายคนอาจเคยมีคำถาม!.กี่ยวกั'นลิขิตฟ้า ที่ลิขิตให้บางคนมีพรสวรรค์มากกว่าคนอื่น ประสบความสำเร็จง่ายกว่าคนอื่น แต่บางคนก็คดว่า การที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องสร้างขี้น จากการหำป็จจุบันให้ดี จึงจะประสบความสำเร็จ แล้วความคิดไหน ที่เปีนความคิดที่gก? แห้จริงแล้วความสำเร็จประกอบไปด้วย ปัจจัยทั้งสองอย่างรวมกัน นั่นก็คือ พรสวรรด้ที่เกิดจากบุญเก่าที่เคยสร้างไว้ในอดีต และการทำปัจจุบันให้ดี นั่นเอง Miiuvnnmnu ราน M.,Ph.D.83 www.kalyanamitra.org

• ถ้าใครทำบุญเอาไว้ ผลบุญก็จะส่งผลให้ผีความพร้อมมากกว่า สุขภาพเข็งแรงกว่า หรือผีไอคํวสูงกว่าคนอื่น ทำ ให้ผีโอกาลประลบความสำเร็จได้ง่ายกว่าคนอื่น 'แต่ทั้งนี้ก็จะด้องประกอยถ้บความพยายามในปัจจุบันด้าย . ซึ่งความสำเร็จจากความพยายามในปัจจุบัน เรืยกได้อกอย่างว่า \"พรแสวง\" _« • หลายคนอาจจะเคยคิดท้อใจว่า 9 เราเกํดมา ด้นทุนเรา^เขาไม่ได้ หัวทึบ ส่านอะไรก็ไม่ค่อยจำ คนอื่นเขาอ่านไม่เท่าไ?เขาก็เข้าใจ แล้วเราจะทำอย่างไรดี เราจะล้เขาได้อย่างไร ผีตัวอย่างหนึ่ง ทต้นทุนน้อยนิด แต่ด้วยความมานะพยายาม เขาลามารถลร้างประเทคใด้สำเร็จมาแล้ว 84 เท็1Miennu«< www.kalyanamitra.org

ในสมัยก่อนพื้นที่ทั้งหมดของประเทฅอิสJILอลนัน เต็มไปด้วยทะเลทราย แต่การจะลร้างประเทคจำเป็นต้อง เรั๋มจากการเพาะปลูกพีซพรรณไมัต่างๆ ชาวอํลราเอลจํงตั้งใจที่จะเปลี่ยนทะเลทรายให้'าลายเป็นพื้นที่สืเขีย'^ ทงแมัจะลำบากเพียงใด ก็ใม่ย่อท้อ ทุ่มเทวํริยะอุดลาหะ และในที่สุดอิสราเอลก็อุดมไปด้วยลานไร่นาได้ลริงๆ แต่ปัญหาที่ตามมาหลังจากการเรํ่มปลูกต้นไท้ในประเทล นั่นก็คึอการรด•นา เพราะท่ามกลางทะเลทราย ต้องใช้น้ำทุกหยดให้คุ้มค่าที่สุด เขาจืงค่อยๆ หยด■เ^าทีละหยด โดยคำนวณว่า เมื่อหยดน้าไปแลัวต้นไม้จะลามารถดูดขีมไปใช้ได้มากทสุดู พอดที่สุด ไม่ให้เสิยเปล่าแม้เพียงหยดเดียว พอพฒนาไปเรื่อยๆ ปรากฎว่าประเทคอิลราเอลกลายเป็น ประเทศที่ม้เทคโนโลยีการเกษตรในพื้นที่ขาดแดลนนำทีดีทีสุด ถงขนาดที่ประเทคอื่นๆ ยังต้องไปสืกษาเรึองน ที่ประเทศอิสราเอล »แะ»พพ>แ-)111-1นๅ*ใ01 M.O..Ph.D.85 www.kalyanamitra.org

เหนไหมว่า แม้ต้นหุนจะIลียเ บ แต่ถ้าไม่ย่อท้อ ก็สามารC1ทำใต้ ถึงแม้ว่าต้นหุนเก่านั้นจะมีความสำคัญ • . แด่ว่าความวรยะอุตสาหะ หรือพรแสวงในปัจจุบัน ก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคัน เผลอๆ อาจมากกว่าต้วยชํ้า คนทฺมีต้นหุนเก่าทำมาไม่ค่อยดี แด่ซาต้นี้ขยันและทุ่มเท ลุยไปใหเต็มที่ ไม่ม้วต้ดพ้อต่อโซคซะตา . ว่าทำไมเราเกิดมาเป็นแบบนี้ ทำ ไมไม่เกิดเป็นลูกเครษเ ทำ ไมเราหัวไม่ดี ทำ ไมเราถึงจน ทำ ไมอย่างนั้น ทำ ไมอย่างนี้ ใใ^เลิกคิดเถอะ 86 d^«1jMo(F>Tnia'M www.kalyanamitra.org

ให้มองไปข้างหน้า คิดเซิงบวกและสร้างสรรค์ ทำ ทุกอย่างให้เตุมที่ เดี๋ยวมันก็จะดึงดูดสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นอย่างคาดไม่ถึงเอง เพราะเราสามารถออกแพ^จิตได้ ทำ วันนี้ให้ดีที่สุด ไม่ย่นย่อต่ออุปสรรคใดๆ แล้วในที่สุดความสำเร็จ ก็จะเกิดขึ้นอย่างอัศจรรย์ '■■■รf - |'ท1ๆฑพ UA.Ph.D.8T www.kalyanamitra.org

จริงเฑฺรอ... — \"พฆอเก่งนร ^7 V 88 1พนเ11;'.แ»ไใน่; www.kalyanamitra.org

โหงวเสังดีได้ ไม่ด้องพึ่งหมอ ในป้จจุบันได้มีการนำศาสตร'โนการดูโหงวเร้ง มาไซ้ในการรับสมัครพนักงานอย่างกว้างขวาง ทำ ให้มีผู้ที่ต้องการจะเสริมโหงวพ้งมากฃี้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตนเอง แต่ความเป็นจริงนั้น โหวงเฮ้ง หรือลักษณะรูปหนัา เป็นเพียงแค่องค์ประกอบหนึ่งเท่านั้น สิ่งที่สำคัญ คือ ความคิด และจิตใจต่างหาก ที่จะเป็นตัวสะท้อนออกมาสํโหงวเฮ้งที่แห้จริงของคนแต่ละคน manriauiriti jtuthTis MC, www.kalyanamitra.org

สิ่งที่คนเราคิด พูด และทำจํ้ๆๆ จะส่งผลต่อบุคลิก ลักษณะของบุคคลนั้นๆ ถ้าคิดเรื่องไม่ดบ่อยๆ หถ้าตาก็จะดูพมองคลํ้า แต่ถ้าคิดแต่เรื่องดีๆ เซ่น เข้าวัดเข้าวา ไปบวซเรียน ปฏิบ้ตธรรม บุคลิกก็จะเบ่ลี่ยนไบ่ หน้าตาจะฝองใสขึ้น เพราะใจสบายขึ้น พอใจสบายแล้ว ก็จะส่งผลสะท้อนออกมาส่ภายนอก จากคนที่หน้าตาหมองคลํ้าก็จะกลายเป็นคนหน้าดาผ่องใส ทุกคนคงเคยรู้สีกว่า บุคลิกของเราสามารถเบ่ลี่ยนแบ่ลงได้ตลอดเวลา บางซ่วงอารมณ์ดีเบิกบาน 2สิกว่าทุกอย่างสดใล บุคลิกก็จะดีตาม แต่บางซ่วงรูสืกแย่ ทำ อะไรก็มีปัญหาคิดขัดใบ่หมด หน้าตาก็จะเคร่งเครียดหมองคลํ้า บุคลิกก็จะไม่ดี คนอื่นดูก็2สืกว่าเราเป็นคนไม่ค่อยน่าเซึ่อกอ หากเราอยากดูดี บุคลิกดี โหงวเอ้งดี ลามารถทำได้ง่ายๆ เพยงแค่คิดแต่เรื่องดีๆ พูดแต่เรื่องดีๆ ทำ แต่เรื่องดีๆ โหงวเอ้ง หรือล้กษณะหน้าตาก็จะดีขึ้น โดยไม่ต้องไปทำด้ลยกรรม หรือเสรีมดวงใดๆ 90 ไ!■วน2ง www.kalyanamitra.org .rr' x'

การทาสั'ลยกรรมเพื่อIสรฺมโหงวเฮ้งนั้น เมื่อทำแล้วอาจจะทำให้ดูดืฃึ้นแค่ในบางส่วน และแค่ภายนอกเห่านั้น ไม่ได้เปลี่ยนแปลงบุคลิก และนิสัยของคนๆ นั้นแต่อย่างใด การจะแก้นิสัย และบุคลิกอย่างแท้จ^งนั้น จึงจำเป็นต้องแก้จาก/)!tltu บุคลิกภายนอก คือผลสะท้อนจากภายใน ถ้าความคิด คำ พูด และการกระทำ ล้วนเต็มไปด้วยสิพี่ดีแล้ว นิสัยหรือบุคลิกก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีได้อยางถาวร ไม่ด้องเจ็บตัว แถมยังคงอยู่ได้ตลอดไปอีกด้วย ภ'^}^ www.kalyanamitra.org

เ^ร้าไป'ทำไม ชะชะชา www.kalyanamitra.org

14 อาสืพ แสนสฃ หลายคนอาจตามหาว่าอาชีพอะไร ที่ทำ แล้ว จะมีความสุขมากที่สุด และในทางกลับกันก็พยายามหลีกหนี อาชีพที่คาดว่าทำแล้วจะเป็นทุกข์ ซี่งจริงๆ แล้วอาชีพที่ถือว่า ทำ แล้วจะมีความสุขมากที่สุต ก็มีทั้งคนที่ทำแล้ว รู้สึกมีความสุข แล้วก็มีคนอีกไม่น้อยที่ไม่มีความสุข แดในทางกลับกัน อาชีพที่ถือว่าโหดที่สุดุ ไม่มีคบอยากทำมากที่สุด คนที่ทำอาชีพเหล่านั้นกลับทำอย่างมีความสุข niannmns M.D.. Ph-D. 93 www.kalyanamitra.org

แสดงว่า ตัวอาชพที่เราทำก็เป็นเพยงแค่องค์ประกอบหนึ่งเท่านั้น ที่ทำ ให้เรามีความสุขตับงานที่ทำ ยังมีองค์ประกอบอื่นอีกหลายเรื่อง แล้วถ้าจะให้ทุกคนเลิกทำอาชีพที'ตัวเองทำอยู่ เปลี่ยนมาทำอีกอาชีพที่ตัวเองคดว่าจะมีความสุข ในทางปฎบ้ติก็คงเป็นใปได้ยาก แล้วแบบนี้จะทำอย่างไรให้เราสามารถประกอบอาชีพได้มีความสุข ตรงนี้ต่างหากที่น่าสนใจ เคล็ดลบที่จะทำให้เรามีความสุขในการทำงานของเรา ไม่ว่าอาฃีพใดๆ ก็ตาม มี 6 ประเด็น ต่อไปนี้ • ข้อแรก คือ ให้เราเป็นคนมีนํ้าใจ เจกแบ่งปันและให้ความว่วยเหลือคนอื่นใครที่เป็นคนมีนํ้าใจ จะเป็นที'รักของทั้งเพื่อนร่วมงาน และเป็นที่รักใคร่ของผู้ใหญ่ ลูกน้องจะให้ความเกรงใจ ให้ความเคารพนับถือ เพราะฉะนั้น เนึ่อเราเข้าตับเพื่อนในที่ทำงานได้ เข้าตับคนในหน่วยงานใกล้เคยง ที่ต้องมีปฎํสัมพันธ์ตันได้ จะตํดต่อการงานตับใคร เขาก็ยิ้มด้วย เราก็จะมีความสุข พอใบ่ทำงานก็เหมือนไดไปเจอเพื่อนๆ เพราะรอบๆ ตัวเรามีแต่คนที่เสิกดีตับเรา 94 www.kalyanamitra.org

แต่ถ้าใครเปินคนเหินแก่ตัว ตระหนีถีเหนียว ใครฃอความช่วยเหสิอ เราก็ไม่ใฟ้เขา ถีงคราวเราขอเขา เขาก็ไม่ให้เรา เขาบอกว่า action = reaction พอเป็นอย่างนี้แล้ว ผลปรากฎว่า จะไปตดต่อการงานกับใคร เขาก็จะหน้าบึ้งเข้าใล้ ใจเราก็ห่อเหี่ยว และมันก็จะระบาดติดต่อกันในหมู่เพื่อนร่วมงานทำงานก็ไม่นีความสุข ถ้าเราอยากให้คนอื่นเขาดกับเรา เราก็ต้องดีกับคนอื่นเขาก่อน เราอยากให้ทุกคนให้ความร่วมมึอกับเรา ให้ความช่วยเหลือการงานเรา เราก็ต้องให้ความร่วมมอกับคนอื่นเขา นีนํ้าใจกับทุกๆ คน ทั้งเพื่อนร่วมงาน ทั้งคนที่มาติดต่องานไม่ว่าจะเป็นลูกค้าหรือจะเป็นใครก็ตาม ที่มาถึงเราแล้ว จะต้องคิดว่าให้เขาไต้ความละดวกไต้รอยยิ้ม ไค้ความสุขกล้บไป ให้ตั้งเป้าในใจไว้แบบนี้ แล้วเราจะพบว่า เราลามารถทำหน้าที่ของเราไต้อย่างมีความสุข ข้อสอง คือ ไม่ทำผิดระเบียบ ผิดกฎหมาย ผิดกฎเกณฑ์ กติกาของหมู่คณะ ของสังคม ให้ทำทุกอย่าง อย่างตรงไปตรงมา รัดกุมรอบคอบ กฎระเบียบ กติกา ของสังคม ของหมู่คณะ ของบรืษัท ให้เราทำตามนั้นให้ดี ทำ ทุกอย่างให้ตรง ทำ ให้เป็นคนใม่มีแผล ไม่มีความผดที่ต้องคอยปกปิด คอยระแวงว่าจะมีคนอื่นเ ตนจะต้องรับโทษหรือเปล่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ความสุขประการหนึ่งของมนุษย์คือ ความสุขจากการทำงานไม่มีโทษ ซึ่งงานใม่มีโทษ ก็คือ งานที่ไม่รดคีล ไม่ผิดธรรมนั้นเอง rnnnnuMvm ฐานๆหน)M.O..Ph.o.95 www.kalyanamitra.org

ข้อสาม คีอ ต้องรู้จักเคลียร์ใจตัวเอง เวลาทำงานจริงๆ ไม่ฝ็หรอกที่จะถูกใจเรา 100% V มันจะมีทั้งเรื่องที่ถูกใจ ไม่ถูกใจ เป็นปกติ แต่ทาเรารู้จักเคลียร์ใจของเรา เหมือนเราเองออกไปจากบ้าน ยงไงๆ ก็ต้องเจอ^น ยังไงๆ ก็ต้องมีเหงี่อคราบไคลเกิดขึ้นในตัว ถ้าเราไม่รู้จักการอาบนํ้าซำระล้างร่างกาย ร่างกายก็จะเหนอะหนะ เปรอะเขึ้เอน ใจเราก็เหมือนกันไปเจอเรื่องกระทบจากการงาน จากการติดต่อผู้คนทั้งหลายมาเยอะแยะ ถ้าไม่รู้จักเคลียร์ใจ ใจเราก็จะเหนอะหนะ แล้วก็จะเคริยด เข็ง เบื่อ แต่ถ้าเรารู้จักเคลียร์ใจด้วยการลวดมนต์ทำลมาธิก่อนนอน ใจก็จะปลอดโปร่งสดซึ๋น บุญก็จะหล่อเลี้ยงใจ ตนมาใจก็ปลอดโปร่ง โล่ง สบาย พร้อมที่จะทำงาน ทำ ภารกิจ ทุกๆ อย่างในวันต่อไป ใต้อย่างเต็มที่ ถ้าทำได้ 3 ข้อนี้ เราก็ขบะไปกว่าฅรี่งทางแล้ว อีก 3 ข้อท้ายที่เหลือก็เป็นเรื่องของการทำงานโดยตรง 96 www.kalyanamitra.org

% ฃ้อสิ คือ ให้เราเห็นประโยข'นของงาน มสามีภรรยาคู่หนึ่ง เขาเก็บหอมรอมรํบ และตั้งใจที่จฺะปลูกป้านเอง ในแต่ละเดือนก็เอาเงนเดือนมารวมก้นนับดูว่าเดอนนี้ใ'^'จ่ายใปเท่าไร แล้วเหลืออยู่เท่าไร แล้วไปท่า 0T,ได้เท่าไร ไปหารายได้พิเศษ ซ่วยลอนหนังลือได้เท่าไร เดือนนี้เหลือเท่านี้ ได้เลาป้านมากี่ด้น ค่อยๆ เก็บไปเรื่อยๆ เพราะตั้งใจว่า จะรวบรวมทรัพย'ให้เพิยงพอทจะสร้าง ป้านเป็นของตัวเอง ซ่วงแรกก็ผ่อนที่มาได้ 100 ตารางวา แล้วต่อมา ก็เตรยมแผนสร้างป้าน พอมีเป้าหมายที่ซดเจนแล้ว ก็อยากจะท่างาน มีๆ!องทางงานพิเศษที่ไหนดืกๆ ดี่นๆ ก็อยากท่า เพราะเป้าหมายซัด พอเว่าจะเกิดประโยชน์อะไรจากการท่างาน เล็งเหีนประโยชน์แล้ว ใจที่อยากจะท่างานมันก็จะเกิดดามมา แม้จะเป็นแค่ประโยชน์ส่วนตัวก็ตาม แต่อย่าหยุดเพียงแค่ประโยชน์ส่วนตัวนะ ให้ขยายต่อไปจนกึงคนรอบข้าง กึงครอบครัว ส์งคมส่วนรวม หรอแม้แต่ เพื่อประโยชน์พระพุทธคาสนา และเพื่อประโยชน์ต่อโลก ถ้าขยายใจให้กว้างได้อย่างนี้ใจเราก็จะยกสูงขน แล้วก็จะร้ลืกว่าที่เราท่าอยู่ ได้สิงที่ดีๆ ต่อส่วนรวม ได้ท่าเพื่อบุญฺ เพื่อกุศล ใจเราก็จะฟูและมีความสุขกับงานที่ท่า แล้วเราจะพบความเปลี่ยนแปลงว่า เราท่างานด้วยความลขมากขึ้น mstmทมขาย เาน เ M.D,Ph.o,97 www.kalyanamitra.org

ข้อห้า คือ เวลาทำงานอย่าอู้ อย่าหลบ ให้เดินหน้าเข้าหางาน ตรงไหนหนัก ตรงไหนเหนื่อย เราพอทำได้ เดินเข้าหาเลย เป็นทหารอาสาสืก อย่าเป็นทหารเกณฑ์ หลบได้หลบ เลี่ยงได้เลี่ยง ถ้าทำอย่างนั้น จะไม่มีความสุข งานมาถึงเราเมื่อไรจะ^กทุกข์ว่า โอ้ ตายแล้ว เราเจองานอีกแล้ว ทั้งที่พยายามจะหลบสุดชีวิตยังเจองาน ก็จะเป็นนักทำงานที่รู้สืกกลุ้มตลอดเวลา แต่ถ้าคนไหนเดินเข้าหางาน พยายามเข้าไปช่วย แม้ไม่ไช่หน้าที่เรา เป็นหน้าที่คนอื่น แต่ถ้าเราพอช่วยได้ ก็อาสาเข้าไปช่วยด้วย ถ้าอย่างนี้ เราก็จะเป็นคนที่มีความสุขไนการทำงาน เพราะมันเริ่มเกิดปฏิกิริยา การเปลี่ยนแปลงไนไจตนเองว่า เราอยากทำ เราตั้งไจทำ เรายินดีทำ พอไจเปิด ยินดีทำ ไปทำแล้วมันก็มีความสุข แล้วทุกคนก็จะเสีกยอมริบเรา เพราะรู้ว่าเราเป็นคนลุ้งาน ทำ งานจ่ริง พร้อมที่จะแปงเบาภาระไห้กับทุกคน เราไม่เป็นคนที'ถ่วงหมู่คณะ ถ่วงหน่วยงาน แต่เป็นคนที่เป็นกำลังสำคัญของหน่วยงาน พอรู้สีกอย่างนี้ เราเองก็จะมีความภูมิไจไนตัวเอง และเป็นคนที่มีคุณค่าสำหรับหน่วยงานนั้นๆ ข้อหก กอ ให้เราคืกษวหาความรู้ พัฒนาศักยภาพเราเอง อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา พอเรามีความรู้ ความสามารท เราทำงานก็จะทำได้ดี เราจะเกิดความรู้สีกภาคภูมิไจ แล้วก็จะมีอารมณ์อยากทำงานมากขึ้น เพราะทำแล้วผลงานก็ออกมาดี ทุกคนก็ไห้การยอมรับ แต่ไครที่ทำงานไหนแล้วไม่ดี เมื่อทำเส!จ ก็ถูกตำหนิ ถูกปน ถูกว่า มันก็เซ็ง ไม่อยากทำ ยิ่งมีนทำ งานก็ยิงแย่ ก็ยิ่งถูกตำหนิ ยิ่งไม่มีความสุข 98 อา?ทนสนสุร www.kalyanamitra.org

ดังนั้นแม้มงานใดที่เรารู้สีกว่าไม่ถนัด ทำ ได้โม่ดี ไม่อยากทำ ก็ใฟ้ตั้งใจเป็นพิเศษ ทุ่มเททำด้วยใจจดจ่อ จะพบว่าเวลาไม่นานผ่านไป เราจะม้ความถนัดทำงานนั้นใด้ดี อาการ!]นใจจะหมดไป มีความสุขกับงานได้ ต้องกัดฟันเปลี่ยนวงจรลบ เป็นวงจรบวกใหได้ ให้ลองเปลี่ยนทัศนคติใหม่ ลองเดินเข้าหางาน หมั่นหาความรู้ พัฒนาความลามารถ ก็จะได้ทั้งปริมาณงาน และคุณภาพงานที่ดีขน ยิ่งทำ เรายิ่งสนุก ยิ่งทำ เรายิ่งภูมิใจ จับงานเมื่อไร ทุกคนก็ยอมร้บเราหมด s ะ--'^ ■'ะ''^ การทำงานก็จะกลายเป็นเหมือนงานอดิเรก ไม่ว่าจะจับงานอะไร ก็จะมีความสุข ในทุกๆ งานที่ทำ j^T«iw^n.A99 www.kalyanamitra.org


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook