ความรเู้ พิม่ เตมิ เร่อื ง การโนม้ นา้ วใจ วชิ า ภาษาไทย ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒ โรงเรียนประสารวิทยา อาเภอสีคิ้ว จงั หวดั นครราชสมี า
การโน้มน้าวใจ คอื การใช้ความพยายามทจี่ ะเปลี่ยนความเชือ่ ทัศนคติ ค่านยิ ม และ การกระทาของบุคคลอื่นด้วยกลวธิ ที เ่ี หมาะสม ใหม้ ีผลกระทบใจบคุ คลนั้น จนเกดิ การยอมรับและยอมเปลย่ี นตามทีผ่ โู้ น้มนา้ วใจตอ้ งการ กลวิธกี ารโนม้ นา้ วใจ ๑. การแสดงให้เหน็ ถึงความนา่ เช่อื ถอื ของบคุ คลผู้โนม้ น้าวใจ ตอ้ ง ประกอบด้วยคุณลกั ษณะทส่ี าคญั คอื มคี วามรู้จรงิ มคี ณุ ธรรมและมีความ ปรารถนาดีตอ่ ผอู้ น่ื ๒. การแสดงให้เหน็ ความหนักแนน่ ของเหตุผล ผโู้ น้มน้าวจะต้องแสดงให้ ประจักษว์ า่ เรอื่ งทตี่ นกาลังโน้มน้าวมีเหตผุ ลหนกั แนน่ และมีคา่ ควรแก่การ ยอมรบั อยา่ งแทจ้ รงิ ๓. การแสดงให้ประจักษ์ถึงความรู้สกึ หรอื อารมณร์ ว่ มกัน ย่อมทาใหเ้ กิด ความคลอ้ ยตามกนั ได้งา่ ยกวา่ บุคคลทีม่ คี วามรสู้ กึ เป็นปฏิปกั ษต์ อ่ กนั ๔. การแสดงให้เหน็ ทางเลือกทั้งดา้ นดแี ละด้านเสยี เปน็ การเปดิ โอกาสใหผ้ ู้ที่ ตนโน้มน้าวใจได้ใชว้ จิ ารณญาณของตนเองเปรียบเทยี บจนเห็นประจกั ษว์ า่ ทางทีช่ แ้ี นะนนั้ มดี า้ นดมี ากกว่าด่านเสยี ดงั นน้ั การโน้มน้าวใจกส็ ัมฤทธ์ิผล ๕. การเรา้ ให้เกดิ อารมณ์อยา่ งแรงกลา้ ไม่ว่าจะเปน็ ความดใี จ เสียใจ โกรธ แค้น กังวล หวาดกลัว ฯลฯ จะทาใหม้ นษุ ยข์ าดเหตผุ ล ขาดการพิจารณา อย่างรอบคอบ ยอมคลอ้ ยตามผู้โน้มนา้ วใจได้งา่ ย
๖. การสรา้ งความหรรษาแกผ่ รู้ บั สาร การโนม้ น้าวใจเพื่อให้เกิดความหรรษา ผโู้ นม้ น้าวใจอาจใชว้ ธิ กี ารพูดทเี ลน่ ทีจรงิ บ้าง เพ่อื ผอ่ นคลายบรรยากาศทีต่ ึง เครียด ทั้งน้ีต้องขน้ึ อยูก่ บั โอกาส สถานที่ และอัธยาศัยของบคุ คลประกอบ กนั จึงจะทาใหเ้ กิดผลสัมฤทธิ์ วิธีการโนม้ น้าวใจผอู้ ืน่ ให้เชอื่ ในสิ่งทีเ่ ราพดู การมีความสามารถในการโน้มนา้ วผอู้ ื่นจะทาใหเ้ ราประสบความ สาเร็จ ในการทาธรุ กจิ และการสร้างความสมั พนั ธ์สว่ นตวั ถ้าเราต้องการโน้มนา้ ว ลกู คา้ ให้อยากสงั่ ซอ้ื สินคา้ จากเรามาก ๆ หรอื โน้มนา้ วพอ่ แมจ่ นยอมใหเ้ รา ไปเทีย่ วกบั เพือ่ นชว่ งสดุ สัปดาห์ เราก็ต้องเรยี นรูท้ จ่ี ะหาเหตผุ ลดี ๆ และ หนักแน่นกอ่ น จากนน้ั คอ่ ยนาเสนอความคดิ ด้วยทา่ ทางทีน่ า่ เชือ่ ถอื รวมท้งั ทาความเข้าใจคนที่เรากาลงั จะสนทนาดว้ ย แค่น้ีเรากส็ ามารถโน้มนา้ วคน อน่ื ไดส้ าเรจ็ แล้ว ถา้ อยากรวู้ า่ ต้องทาอยา่ งไรบา้ งถึงจะสามารถโนม้ นา้ วผอู้ น่ื ใหเ้ ชือ่ เราได้ กล็ องมาเรมิ่ ทาตามขน้ั ตอนแรกของบทความนก้ี ันเลย ค้นคว้าและศึกษาขอ้ มลู มาเปน็ อยา่ งดี ก่อนทจี่ ะไปพดู แสดงความคดิ เหน็ ส่วนตวั เปรียบเทยี บวา่ อะไรดีกวา่ อะไร ก่อนท่จี ะพยายามโนม้ น้าวพ่อแมจ่ น ยอมใหเ้ ราออกไปอยูห่ อพัก หรือกอ่ นทจ่ี ะถกเถียงเกย่ี วกับหวั ข้อทาง ศีลธรรมอยา่ งเช่น โทษประหาร เราต้องเขา้ ใจมมุ มองของตนเองอยา่ งถ่อง แท้ เราตอ้ งคน้ หาข้อเท็จจรงิ กอ่ น อยา่ เพิ่งไปคาดเดาวา่ ผูอ้ ื่นคิดอยา่ งไร
กาหนดขอบเขตในการพดู บา้ งเรือ่ งเรากต็ ้องรมู้ ากกวา่ ขอ้ เท็จจรงิ ถา้ เรา ต้องการโน้มน้าวใหผ้ ้คู นเห็นว่าหอไอเฟลนน้ั มคี วามโดดเด่น เรากไ็ มค่ วร เสียเวลาถกเถียง วา่ หอไอเฟลนั้นสวยหรอื ไม่สวย กาหนดขอบเขตในการพดู จะพูดในเรอ่ื งศลี ธรรม จะพูดในเรื่องความงาม หรอื จะพูดในเรอ่ื งสิทธแิ ละ เสรีภาพสว่ นบคุ คล ชแ้ี จงเหตุผล การมีประเด็นท่ีดีมานาเสนอกเ็ หมอื นกบั การสร้างโตะ๊ แต่ ประเดน็ ทีด่ นี น้ั จะตอ้ งมกี ารชี้แจ้งเหตุผลประกอบดว้ ยเหมอื นกับทีโ่ ตะ๊ ยนื อยู่ ได้ด้วยขาโตะ๊ ถา้ เราไม่มีการช้แี จ้งเหตุผลประกอบและหลกั ฐานท่ีสนบั สนุน ประเด็นหลักของเรา โตะ๊ ก็จะกลายเปน็ แค่ไม้ชิ้นหนงึ่ เหมือนกับการเขยี น เรยี งความ เราตอ้ งกาหนดประเดน็ หลกั ให้ชดั เจน แลว้ รวบรวมหลักฐานมา สนับสนุนประเด็นหลักนนั้ ยกตัวอย่างและมหี ลกั ฐานท่ชี ัดเจนมาสนบั สนุนเหตผุ ล เราตอ้ งสามารถให้ รายละเอยี ดทีน่ า่ สนใจและโดนใจคสู่ นทนาในเรอ่ื งทีก่ าลังถกกันอย่ไู ด้ ถ้า อยากโนม้ น้าวให้ใครสักคนเหน็ ว่า วงเดอะบเี ทลิ ส์เปน็ วงท่ียอดเย่ยี มที่สดุ ตลอดกาล แต่เรากลับจาชอ่ื เพลงทต่ี นเองชอบในอลั บัม้ \"๑\" ไมไ่ ด้ หรอื ไม่ เคยฟังเพลงทีท่ ุกคนต่างกร็ จู้ ัก การโน้มน้าวใหท้ กุ คนนัน้ เห็นวา่ วงเดอะบี เทิลส์เปน็ วงทย่ี อดเย่ียมท่สี ุดตลอดกาลก็คงจะยากสักหนอ่ ย ยอมรบั ฟังผู้อืน่ เพอ่ื ใหผ้ อู้ ่ืนยอมรับฟงั เรา การยอมรับฟังประเด็นเลก็ ๆ นอ้ ย ๆ ของผอู้ ื่น การแสดงทา่ ทีคลอ้ ยตาม และเหน็ ด้วยกบั เขาในเรอ่ื งบางเร่อื งจะ ช่วยเปิดใจของผอู้ นื่ ให้ยอมรบั ฟังเราด้วย ถ้าเรายนิ ดที จ่ี ะยอมรับฟังผอู้ น่ื ใน บางเรือ่ ง ผอู้ ืน่ ก็ยนิ ดีทจี่ ะรับฟงั เหตุผลของเราเชน่ กนั และเรากจ็ ะใชโ้ อกาสน้ี โนม้ นา้ วให้เขาเชื่อเราได้ในทีส่ ุด
นาเสนอความคดิ ดว้ ยทา่ ทางท่นี า่ เช่อื ถอื ยนื ยันความคดิ ของตนเองดว้ ยความมั่นใจ เราตอ้ งมีความมน่ั ใจ สนบั สนุน ความคิดของตนเองด้วยการนาเสนอออกไปดว้ ยความมนั่ ใจ และมขี อ้ พสิ ูจน์ วา่ ความคดิ นนั้ เปน็ ความจรงิ ไมว่ า่ เราจะพยายามพิสจู น์อะไรว่าเป็นความ จรงิ ถา้ เราเชอ่ื วา่ เปน็ ความจรงิ เรากจ็ ะหาเหตุผลมาสนบั สนุนแน่นอน บอกเลา่ ประสบการณส์ ่วนตัว การหยิบยกหลักฐานและขอ้ เท็จจริงมาพูด บางคร้ังก็อาจไมเ่ พียงพอที่จะโน้มนา้ วให้ผอู้ ่นื เชือ่ เราการบอกเลา่ ประสบ การณส์ ่วนตวั ท่ีเกย่ี วข้องกบั หัวข้อนน้ั เพอื่ ทาให้ผู้อื่นมอี ารมณร์ ่วมและเห็นใจ อาจชว่ ยโนม้ น้าวให้ผ้อู นื่ เชอ่ื เราได้ไมจ่ าเปน็ ตอ้ ง \"พสิ จู น์\" สง่ิ ทเ่ี ราพดู เพราะ เรื่องราวจากประสบการณข์ องเรากน็ า่ เชือ่ ถือเพยี งพอแลว้ พูดดว้ ยท่าทีที่สุขมุ เยือกเยน็ การพดู จาเพอ้ เจอ้ ราวกับคนเสียสตไิ มส่ ามารถ ทาให้เราโนม้ นา้ วผ้อู น่ื ให้เช่ือเราได้ แต่การมีความมัน่ ใจในขอ้ เทจ็ จรงิ ท่ีเรา นาเสนอ ในหลักฐานท่สี นบั สนุนคากล่าวอ้างของเรา ในมุมมองทเี่ รานามา บอกกลา่ วจะทาให้เราสามารถโน้มน้าวผอู้ นื่ ใหเ้ ช่อื สิ่งท่ีเราพดู ได้งา่ ยกวา่ ทาความเขา้ ใจคสู่ นทนา เงยี บและฟงั ผูอ้ น่ื คนทีพ่ ดู เกอื บตลอดเวลาไม่จาเป็นตอ้ งชนะการโตเ้ ถยี ง หรอื โน้มน้าวผอู้ ื่นให้เช่อื เขาได้เสมอไป การรจู้ กั รบั ฟงั ผอู้ ่นื ด้วยความเคารพ อาจไมใ่ ช่วธิ ีการทท่ี าให้เราสามารถชนะการโต้เถียง และดเู หมอื นไมใ่ ชว่ ธิ กี าร โน้มนา้ วทไี่ ดผ้ ล แต่การใช้เวลาเรยี นรูม้ ุมมองของผ้อู น่ื จะทาใหเ้ รามโี อกาสที่ จะโนม้ นา้ วใหผ้ อู้ ื่นเชอ่ื เราได้ ฉะน้ันจงรับฟงั เพ่อื จะไดร้ จู้ กั เปา้ หมาย ความ เช่อื และแรงจงู ใจที่นาไปสกู่ ารมีมมุ มองของแตล่ ะบคุ คล
สนใจและเอาใจใสส่ ง่ิ ทีผ่ อู้ ่นื พูด สบตาผ้อู ่ืน ใชน้ า้ เสียงที่ราบเรยี บ และรกั ษา ท่าทีให้สงบเยอื กเย็นตลอดการสนทนา ถามคาถามและฟงั อย่างตง้ั ใจขณะท่ี ผอู้ น่ื พดู อยา่ พดู แทรกขึน้ มาระหวา่ งน้นั และรกั ษามารยาทเสมอ รูแ้ รงจูงใจและสาเหตุที่ผู้อ่ืนคัดคา้ นความคดิ เหน็ ของเรา ถ้าเรารู้วา่ ผอู้ ่ืน ต้องการอะไร เรากจ็ ะสามารถใหใ้ นสิ่งท่ีเขาตอ้ งการได้ เมอ่ื เราร้วู า่ อะไรคือ แรงจงู ใจทอี่ ยเู่ บอ้ื งหลงั มุมมองของผอู้ ่ืน เรากจ็ ะสามารถปรบั คาพดู ของ ตนเองเพอ่ื ใหผ้ ้อู ่นื สามารถเข้าใจความคดิ ของเราไดม้ ากขนึ้ ทาใหผ้ อู้ น่ื เชือ่ เรา ขณะทพ่ี ยายามฟัง ทาความเขา้ ใจมมุ มองของผู้อื่น และ ยอมรับในบางประเด็นท่ีเขาพูดวา่ เปน็ ความจรงิ อยา่ ลืมหาโอกาสทาใหเ้ ขา เปลยี่ นใจด้วย ถา้ เราสามารถหาเหตผุ ลดๆี และหนกั แนน่ พอจนเขาไมอ่ าจ หาข้อโต้แยง้ ได้สาเรจ็ เราถงึ จะค่อยโน้มน้าวเขา ตอนนนั้ เขาจะเปลีย่ นใจ และยอมเห็นดว้ ยกบั ความคดิ ของเรา ฉะน้ันเมอ่ื เหน็ ว่าได้โอกาสทจ่ี ะทาให้ เขาเปลย่ี นใจมาเชอื่ เรา ใหร้ ีบควา้ โอกาสนนั้ ไว้
เคลด็ ลับ ๑. อยา่ บงั คับใหค้ นอืน่ เช่ือเรา ใหใ้ ชเ้ หตุผลโน้มนา้ วเขาและพูดจากบั เขาดๆี ๒. สบตาผู้พดู และใช้เหตผุ ลในการโน้มนา้ วใหเ้ ขาเชอ่ื เรา ๓. ใช้ภาษากายชว่ ยในการพูดดว้ ย ๔. พดู จาสภุ าพ ๕. แต่งกายใหด้ ี เราไมส่ ามารถพดู จาโน้มน้าวใครไดแ้ น่ ถา้ ไมท่ าตนเองให้ดูดี และนา่ เชื่อถือ ๖. แสดงความเปน็ มิตรและเคารพผอู้ ืน่ เสมอ ถงึ แม้สดุ ท้ายเขาจะไมเ่ ช่อื ในสงิ่ ท่ีเราพูดกต็ าม ๗. เตรียมตัววา่ จะพดู อยา่ งไรมาลว่ งหนา้ เราจะถามอะไรบา้ ง ทาไมถงึ ถาม คาถามน้ี เราอาจตอ้ งเตรียมตัวมาใหด้ กี อ่ นทจี่ ะพดู โน้มน้าวผอู้ ื่น ๘. ลองหาซือ้ หนงั สอื เทคนิคการโน้มน้าวใจมาอา่ นกไ็ ด้ ๙. เราต้องมคี วามมั่นใจในตนเอง ถา้ เอาแต่พดู คาวา่ \"อาจจะ/นา่ จะ\" หรอื แสดงทา่ ทวี ิตกกงั วลให้คนอ่ืนเหน็ เราอาจไม่สามารถโน้มนา้ วใหผ้ ู้อนื่ เช่อื เรา ได้ ๑๐. ถ้าเรากาลงั โน้มนา้ วพอ่ แมใ่ ห้เชอื่ เราแล้วไม่ไดผ้ ล อย่าแสดงความไม่ พอใจด้วยการข้นึ เสยี งและทาตวั เหมอื นเด็ก อยา่ ตะโกนถามพวกท่านไปวา่ \"ทาไมหนถู ึงไปกบั เพือ่ นไม่ไดล้ ่ะ\" ใหพ้ ดู วา่ “หนูเขา้ ใจ แต่หนมู เี หตผุ ลท่ี อยากออกไปกับเพ่ือนนะ ชว่ ยรบั ฟงั เหตุผลของหนูหนอ่ ยนะคะ”
คาเตือน ๑. ถ้าคนท่ีเรากาลงั โนม้ น้าวให้เชือ่ เปน็ พวกมอี คติ ถงึ พยายามถามคาถามใน ประเด็นทีเ่ ขาเองกส็ งสยั แลว้ แต่เขาไม่ตอบคาถามของเรา และหลังจาก อธบิ ายความคิดเหน็ ของเราด้วยเหตผุ ลแล้ว เขาก็ไม่เชอ่ื เรา ให้คิดซะวา่ เขา จะเชอ่ื เราหรอื ไม่เชอ่ื เรากแ็ ลว้ แตเ่ ขา ๒. คนบางคนอาจไม่มที างเปลี่ยนความคิดหรอื ความเชอ่ื ของตนเอง เราก็ ต้องปลอ่ ยพวกเขาไป เพราะส่ิงทีเ่ ขาคดิ และเชอ่ื อาจมีสิทธ์ิผิดหรอื ถูกก็ได้ ๓. ถ้าคนอ่นื ไม่เหน็ ด้วยกบั ความคดิ ของเรา อย่าไปโตเ้ ถยี งดว้ ย แต่ให้ พยายามใช้เหตุผลและยกตัวอยา่ งทช่ี ดั เจนเพือ่ อธบิ ายวา่ ทาไมเขาถงึ ควรเชือ่ เรา ๔. อยา่ ลืมวา่ สง่ิ ท่เี ราคดิ หรอื เชือ่ ก็อาจผิดได้! ฉะนน้ั เปดิ ใจและยอมรับความ จริงเพ่อื จะได้ปรบั ความคิดและความเช่ือของเรานั้นให้ถกู ตอ้ ง
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: