Logic gate ลอจิกเกต
NOT gate ลอจิเกตแบบนอต
ลอจิกเกตแบบนอต เกตนอต หรือ เกตอินเวอร์เตอร์ (Inverter gate) เขียนแทนด้วยวงจรรีเลย์ ซึ่ง ประกอบด้วย สวิตช์ A รีเลย์ D และหลอดไฟ Y โดยกำหนด สถานะลอจิกเหมือกับ เกตแอนด์ หรือเกตออร์
ลอจิกเกตแบบนอต อินพุต เอาต์พุต A Y
ตารางความจริง
จากตารางความจริง ลำดับที่ 1 ถ้าอินพุตมีสถานะลอจิกเป็น “0” เอาต์พุตจะเป็น “1” หมายถึง ถ้าสวิตช์ A เปิด หลอดไฟจะติด สว่างตลอดเวลา วงจรของรีเลย์จะไม่ครบวงจร ทำให้คอนแท็ก ของรีเลย์ D ยังคงปิดอยู่ แต่ถ้าหากขณะใดสวิตช์ A ปิด รีเลย์ ทำงาน คอนแท็กของรีเลย์จะเปิดออก หลอดไฟ จะดับ ได้สถานะ ลอจิกเอาต์พุตเป็น “0” สมการพีชคณิตของวงจร คือ
จากวงจรลอจิกสามารถเขียนตารางความจริงได้ดังนี้
คลื่นสั ญญาณ เอาต์พุต คือ
NAND gate ลอจิกเกตแบบแนนด์
ลอจิกเกตแบบแนนด์ เกตแนนด์เขียนวงจรโดยการใช้วงจรสวิตช์ และ รีเลย์ประกอบกันด้วยวงจรเกตแอนด์ และเกต อินเวอร์เตอร์(เกตแนนด์ คือ เกตน็ อต-แอนด์) โดย กำหนดให้สวิตช์ A และ B เป็น อินพุตของวงจร และ หลอด Y เป็นเอาต์พุตของวงจรการกำหนดสถานะ ของลอจิกอินพุต เหมือนกับ เกตแอนด์หรือเกตออร์
ลอจิกเกตแบบแนนด์ อินพุต เอาต์พุต A Y B
ลอจิกเกตแบบนอต-แอนด์เกต
ลอจิกอินพุต-เอาต์พุตของแนนด์เกต
ตารางความจริงของแนนด์เกต 2 อิพุต
ตารางความจริงของแนนด์เกต 3 อิพุต
ตารางความจริงของแนนด์เกต 4 อิพุต
จากตารางความจริง ลำดับที่ 1 สวิตช์ A และ B เปิดออก รีเลย์ D ไม่ทำงาน หลอด Y จะติดสว่าง ได้ลอจิกเป็น “1” ลำดับ ที่ 2 และ 3 สวิตช์อันใดอันหนึ่ ง ปิดหรือเปิด ผลที่ได้เหมือนกับ ลำดับที่ 1 คือรีเลย์ไม่ทำงานหลอดไฟก็สว่างอยู่สถานะยังคง เป็น “1” แต่ ในลำดับที่ 4 ทั้งสวิตช ์ A และ B ปิด สถานะลอจิก อินพุตทั้งคู่เป็น “1” รีเลย์ทำงาน ทำให้ หน้ าสัมผัสของรีเลย์ แบบปกติปิดทำงาน เปิดออกตัดวงจร หลอดไฟ Y ก็จะดับ สถานะลอจิก ขณะนี้ เป็น “0” ส่วนสมการพีชคณิตลอจิกของวง น้ี คือ
สมการพีชคณิ ตแทนลอจิก
ถ้าอินพุต A=1, B=0 และ C=1 เอาต์พุต Y เท่ากับลอจิกใด Y = ............
จงเขียนตารางความจริงของวงจร และเปรียบเทียบฟังก์ชัน ของวงจรดังกล่าวว่าเหมือนกับลอจิกเกตชนิ ดใด
จากตารางความจริงพบว่าแนนด์เกตในรูป ทำงานใน ฟังก์ชันเดียวกันกับนอตเกต
จากวงจรแนนด์เกตจงเขียนรู ปคลื่นสั ญญาณเอาต์พุต
รูปคลื่นเอาต์พุตจะเป็น \"0\" เมื่ออินพุตทั้งหมดเป็น \"1\" เท่านั้ น นั่ นคือช่วงเวลา e เท่านั้ นที่ Y จะเป็น \"0\"
NOR gate ลอจิกเกตแบบนอร์
ลอจิกเกตแบบนอร์ เกตนอร์เขียนแทนด้วยสวิตช์ A และ B รีเลย์ D และหลอดไฟ Y ซึ่งทำหน้ าที่เป็นเอาต์พุตของวงจร (เกตนอร์ คือ เกตน็ อต-ออร์)
ลอจิกเกตแบบนอร์ อินพุต เอาต์พุต
นอตเกตและออร์เกต 2 อินพุต
ตารางความจริงของนอร์เกต 2 อินพุต
ตารางความจริงของนอร์เกต 3 อินพุต
ตารางความจริงของนอร์เกต 4 อินพุต
จากตารางความจริง ลำดับที่ 1 ถ้าเปิดสวิตช์ A และ B ไว้ พร้อม ๆ กัน รีเลย์ D จะไม่ทำงาน หลอดไฟ Y ติดสว่าง จะได ้ สถานะของลอจิกเป็น “1” แต่ถ้าหากขณะใดสวิตช ์ A หรือ B หรือ ทั้งปิดหลอดไฟ Y จะดับได้สถานะลอจิกเป็ น “0” เสมอ ส่ วนสมการพีชคณิ ตลอจิกคือ
เขียนตารางความจริงของวงจรลอจิกต่อไปนี้
จงเขี ยนรู ปคลื่นดิจิตอลเอาต์พุตของนอร์เกต
ไดโอดเปล่งแสงจะติดสว่างเมื่อใด ไดโอดเปล่งแสงจะติดสว่าง เมื่อ Y เป็นลอจิก \"1\" ต่อเมื่อ X =\"0\" ตามฟังก์ชั่นของนอร์เกต X จะเป็นลอจิก \"0\" เมื่อ AB = 01, 10, 11 เท่านั้ น ดังนั้ นไดโอดเปล่งแสงจะติดสว่างเมื่อ AB
Exclusive OR ลอจิกเกตแบบเอกซ์คลูซีฟออร์
ลอจิกเกตแบบเอกซ์คลูซีฟออร์ เกตชนิ ดนี้ เกิดจากการนำเอาเกตนอต เกตแอนด์และเกตออร ์ มาต่อร่วมกัน สัญญาณ เอาต์พุตจะปรากฏเป็นลอจิก “1” ก็ต่อเมื่ออินพุต A และ B มีค่าเป็นลอจิก “0” และ “1” หรือ ตรงข้ามกัน ถ้านอกเหนื อจากกรณีเหล่านี้ เอาต์พุตตะปรากฏเป็น ลอจิก “0”
ลอจิกเกตแบบเอ็กคลูซีฟออร์
ลอจิกเกตแบบเอ็กคลูซีฟออร์
จากรูปจะพบว่าเอาต์พุตของเอ็กคลูซีฟออร์เกตนั้ นจะ เป็น \"1\" เมื่ออินพุตทั้งสองมีลอจิกไม่เท่ากัน มีสมการลอจิก ดังนี้ Y =A B
ตารางความจริงของเอ็กคลูซีฟออร์
สำหรับลอจิกที่มีค่าตรงกันข้ามกับ เอ็กคลูซีฟออร์ จะเรียก ว่า เอ็กคลูซีฟนอร์ จะมีค่าเอาต์พุต เป็น \"1\" เมื่อสถานะของ อินพุตมีค่าเท่ากันเท่านั้ น มีสมการทางลอจิกคือ Y=A B
ลอจิกเกตแบบเอ็กคลูซีฟนอร์
ลอจิกเกตแบบเอ็กคลูซีฟนอร์
ตารางความจริงของเอ็กคลูซีฟนอร์
สัญญาณเอาตพุตของเอ็กคลูซีฟออร์ต่อไปนี้ เป็นอย่างไร
Search