Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พระราชประวัติรัชกาลที่ 10

พระราชประวัติรัชกาลที่ 10

Published by thaplanfe.pr, 2020-07-21 02:24:56

Description: รัชกาลที่10

Search

Read the Text Version

พระราชประวัติ ในหลวงรัชกาลท่ี 10 “สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจา้ ฟา้ วชิราลงกรณ บรมจักรยาดิศรสนั ตติวงศ เทเวศรธารงสบุ รบิ าล อภคิ ุณูประการมหติ ลาดุลเดช ภูมิพลนเรศวรางกรู กิตตสิ ิรสิ มบรู ณ์สวางควัฒน์ บรมขตั ติยราช กมุ าร” จดั ทาโดย นายณฐั เศษรฐ คามาดอก บรรณารกั ษ์ ห้องสมุดประชาชนอาเภอทา่ ปลา จังหวดั อุตรดติ ถ์

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกูร มี พระนามเมื่อแรกประสูตวิ า่ “สมเดจ็ พระเจา้ ลูกยาเธอ เจา้ ฟา้ วชริ าลงกรณ บรมจกั รยาดศิ รสนั ตตวิ งศ เทเวศรธารงสบุ ริบาล อภิคณุ ูประการมหติ ลาดุล เดช ภมู พิ ลนเรศวรางกรู กิตตสิ ริ สิ มบรู ณส์ วางควฒั น์ บรมขตั ตยิ ราช กุมาร” เปน็ พระราชโอรสพระองค์เดยี วในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภมู ิพลอดลุ ยเดช (รัชกาลท่ี 9) และสมเดจ็ พระนางเจ้าสิรกิ ิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชสมภพ ณ พระทีน่ ั่งอัมพรสถาน พระราชวังดสุ ติ เม่อื วันจนั ทรท์ ่ี 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2495 เวลา 17:45 น.

ซ่งึ พระนาม “วชิราลงกรณ” นน้ั สมเดจ็ พระสงั ฆราชเจ้า กรม หลวงวชิรญาณวงศ์ทรงต้ังถวาย มาจาก “วชริ ญาณ” พระนามฉายาขณะ ผนวชในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎ พระจอมเกลา้ เจา้ อยู่หัว (รัชกาลท่ี 6) ผนวกกบั ”อลงกรณ์”จากพระนามใน พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้า เจา้ อยู่หวั (รัชกาลท่ี 5)

มพี ระเชษฐภคนิ ี 1 พระองค์ คือ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้า อุบลรัตนราชกญั ญา สิรวิ ัฒนาพรรณวดี และพระขนิษฐภคินี 2 พระองค์ คือ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟา้ มหาจกั รสี ิรนิ ธร รฐั สีมาคุณากร ปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจฬุ าภรณ วลยั ลักษณ์ อคั รราชกมุ ารี

ต่อมาในปี พ.ศ. 2499 สมเดจ็ พระบรมโอรสาธิราชฯ ทรง สาเรจ็ การศกึ ษาขั้นตน้ ในระดับอนบุ าล รุน่ ท่ี 2 จากโรงเรยี นจิตรลดา แล้วจึงเสดจ็ ฯ ไปทรงศึกษาตอ่ ในระดบั ประถมศึกษาท่ีโรงเรียนคงิ ส์มดี แคว้นซสั เซกส์ และศกึ ษาระดบั มัธยมศกึ ษาท่ีโรงเรยี นมลิ ฟิลด์ แคว้น ซอมเมอร์เซทประเทศองั กฤษ หลังจากนนั้ ทรงศึกษาต่อวิชาทหารทโี่ รงเรียนคิงส์สกูล ซดิ นยี ์ ประเทศออสเตรเลีย เสร็จแลว้ ทรงการศึกษาตอ่ ในระดับปริญญา ตรสี าขาอักษรศาสตร์ (ด้านการทหาร) จากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เมอ่ื พ.ศ. 2519

เม่อื วนั ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2515 พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รชั กาลที่ 9) ได้ทรงพระ กรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมใหต้ ้งั การพระราชพิธีสถาปนา เฉลมิ พระนามาภิไธย สมเด็จพระเจ้าลกู ยาเธอ เจา้ ฟา้ วชิราลง กรณ ใหด้ ารงพระอิสริยยศ สมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัวมหาวชิราลง กรณ บดนิ ทรเทพยวรางกูร ตามโบราณขตั ตยิ ราชประเพณี เพ่ือ รับราชสมบตั ปิ กครองราชอาณาจกั รสบื สนองพระองค์ โดยมีพระ นามตามจารกึ ในพระสพุ รรณบฏั ว่า .. “สมเดจ็ พระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ บดินทร เทพยวรางกูร สริ ิกติ ยิ สมบูรณสวางควัฒน์ วรขัตตยิ ราชสนั ตติ วงศ์ มหติ ลพงศอดุลยเดช จกั รนี เรศยุพราชวิสทุ ธ สยาม มกฎุ ราชกมุ าร” อา่ นเพม่ิ เตมิ >> พระราชพิธสี ถาปนาเฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกฎุ ราชกุมาร

1.พระเจา้ หลานเธอ พระองคเ์ จา้ พชั รกติ ยิ าภา 2.หม่อมเจา้ จฑุ าวชั ร มหดิ ล หรอื จุฑาวชั ร วิวัชรวงศ์ 3.หมอ่ มเจ้าวชั รเรศร มหิดล หรอื วชั รเรศร วิวชั รวงศ์ 4.หมอ่ มเจา้ จกั รีวชั ร มหดิ ล หรือ จักรีวัชร ววิ ัชรวงศ์ 5.หมอ่ มเจา้ วัชรวีร์ มหดิ ล หรือ วัชรวีร์ วิวชั รวงศ์ 6.พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจา้ สริ ิวัณณวรีนารีรตั น์ 7.พระเจ้าหลานเธอ พระองคเ์ จา้ ทีปงั กรรัศมีโชติ

1. ด้านการบิน เมอื่ วันท่ี 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 ทรงปฏบิ ตั หิ นา้ ท่คี รกู ารบนิ เคร่อื งบนิ ขบั ไล่แบบเอฟ-5 อ/ี เอฟ และพ.ศ. 2552 ทรงปฏิบตั หิ นา้ ท่ีนักบินท่ี 1 เคร่อื งบนิ โบ อิ้ง 737 – 400 ในเทีย่ วบินสายใยรกั แห่ง ครอบครัว ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบอุทกภัย และ จัดหาอุปกรณ์ดา้ นการแพทย์ สาหรบั โรงพยาบาลใน 3 จังหวดั ชายแดนภาคใต้ (เทย่ี วบินที่ ทจี ี 8870 กรุงเทพมหานครถึง จังหวดั เชียงใหม่ และเท่ยี วบนิ ท่ี ทจี ี 8871 จังหวัดเชียงใหมถ่ ึงกรงุ เทพมหานคร)

2. ดา้ นการทหาร สมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั มหาวชริ าลงกรณ บดินทรเทพยวรางกรู เสดจ็ พระราชดาเนินไปเยีย่ มท่ีตั้งกองทหารหนว่ ยตา่ งๆ อยเู่ สมอ จากการ ทีไ่ ดท้ รงศกึ ษาดา้ นวิชาทหารมานาน ทรงมคี วามรู้เช่ียวชาญอย่างมาก และ ได้พระราชทานความรเู้ หล่านน้ั ให้แกท่ หาร 3 เหล่าทัพ ทรงปฏิบัติ พระองค์เป็นแบบอยา่ งแกน่ ายทหาร เอาพระทยั ใส่ในความเป็นอยทู่ ุกข์สขุ ของทหารผอู้ ยใู่ ต้บังคบั บัญชาอยา่ งท่ัวถึง รวมทั้งพระราชทานพระราช ทรพั ย์ส่วนพระองค์ เป็นทุนการศึกษาแกบ่ ตุ รของทหาร สงิ่ เหล่าน้ีล้วน ก่อใหเ้ กิดความเทดิ ทูนและความจงรักภักดีแกเ่ หล่าทหารเปน็ อยา่ งยิ่ง ซึ่งในปัจจุบนั ทรงดารงพระยศทางทหารของ 3 เหล่าทพั ได้แก่ พลเอก พลเรือเอก และพลอากาศเอก ทรงปฏบิ ตั ิพระราชกรณียกจิ ดา้ นการทหาร และทรงเข้าร่วมปฏิบตั ิการรบในการตอ่ ต้านการก่อการรา้ ยในภาคเหนอื และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื ของประเทศไทย รวมทัง้ การคมุ้ กันพื้นทีใ่ น บริเวณรอบค่ายผูอ้ พยพชาวกมั พชู า ท่ีเขาลา้ น จังหวดั ตราด อีกด้วย

3. ดา้ นการศึกษา พระองค์พระราชทานพระราชานุญาตใหใ้ ชอ้ าคารของกรมทหาร มหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์ เป็นที่ต้งั ของโรงเรยี นอนุบาลชือ่ วา่ โรงเรยี นอนบุ าลทหารมหาดเล็กราชวัลลภ โดยในระยะแรกไดจ้ ัดการเรียนการ สอนเฉพาะชน้ั อนบุ าล ต่อมาโรงเรียนไดย้ ้ายไปท่จี งั หวดั นนทบรุ ี และได้รับ พระราชทานชือ่ ใหมว่ า่ “โรงเรยี นอนรุ าชประสิทธ์ิ” นอกจากนี้ ยงั พระราชทานพระราชทรัพยส์ ่วนพระองค์สมทบเปน็ ค่ากอ่ สรา้ งโรงเรียนมธั ยมศกึ ษาทต่ี ัง้ อยใู่ นชนบทหา่ งไกลคมนาคมไม่ สะดวก กระทรวงศกึ ษาธกิ ารได้สนองพระราชประสงค์ดว้ ยการนอ้ มเกล้าฯ ถวายโรงเรยี นในระดับมธั ยมศึกษาจานวน 6 โรงเรียน เป็นโรงเรียนในพระ ราชูปถัมภ์ ได้แก่

1.โรงเรียนมธั ยมพัชรกติ ยิ าภา อ.ปลาปาก จ.นครพนม (ปจั จุบันเปลย่ี นชอ่ื เป็น โรงเรยี นมธั ยมพชั รกิติยาภา 1) 2.โรงเรียนมัธยมจฑุ าวัชร อ.ลานกระลอื จ.กาแพงเพชร (ปัจจุบันเปลย่ี นช่ือเปน็ โรงเรยี นมธั ยมพัชรกติ ิยาภา 2) 3.โรงเรยี นมธั ยมวชั เรศร อ.เมือง จ.สรุ าษฎรธ์ านี (ปจั จบุ ัน เปลี่ยนชอื่ เป็น โรงเรยี นมธั ยมพชั รกิติยาภา 3) 4.โรงเรียนมัธยมจกั รีวชั ร อ.รัตนภมู ิ จ.สงขลา (ปัจจุบนั เปล่ยี น ชอ่ื เปน็ โรงเรียนมัธยมสริ ิวัณวรี 2) 5.โรงเรยี นมัธยมวัชรวีร์ อ.ท่าตะเกยี บ จ.ฉะเชงิ เทรา (ปัจจบุ ัน เปล่ียนชอ่ื เปน็ โรงเรยี นมัธยมสิริวัณวรี 3) 6.โรงเรียนมธั ยมบุษย์น้าเพชร อ.เมือง จ.อุดรธานี (ปัจจบุ นั เปลี่ยนชื่อเปน็ โรงเรียนมธั ยมสิริวัณวรี 1)

สมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกรู เสดจ็ พระราชดาเนินไปทรงเยีย่ มเยาวชนในตาบลตา่ งๆ ทรงสนับสนุนการ จัดตง้ั ศนู ย์เยาวชนตาบล รวมทง้ั ได้ทรงเปน็ ประธานงานวันเยาวชนแหง่ ชาติ วันท่ี 20 กนั ยายน ของทกุ ปี และทรงเปน็ ประธานในพธิ ีปฏิญาณตนและ สวนสนามของลกู เสอื และเนตรนารี และสมาชิกผทู้ าประโยชน์ ท้งั นี้ สมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวราง กูร ไดอ้ ุปการะเด็กกาพร้า คอื จักรกฤษณ์ และอนุเดช ชศู รี ทคี่ รอบครัว เสียชีวิตจากภเู ขาถล่มเม่ือปี พ.ศ. 2554 รวมทั้งครอบครวั ของบูรฮาน และ บศุ รนิ ทร์ หรา่ ยมณี ซง่ึ บิดาถกู ลอบสงั หารจากเหตคุ วามไม่สงบในสาม จังหวดั ชายแดนภาคใต้ โดยจะทรงอปุ การะจนกวา่ จะสาเร็จการศึกษาปริญญา ตรหี รือจนกวา่ จะมีอาชพี สามารถเลย้ี งครอบครวั ได้ เปน็ ต้น

4. ดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณสุข สมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวราง กูร ทรงพระกรณุ าโปรดฯ ให้สร้างโรงพยาบาลสมเด็จพระยพุ ราชขึน้ เพื่อใหก้ ารรักษาพยาบาลผเู้ จบ็ ปว่ ยในถน่ิ ทรุ กันดาร พระองค์ทรงเปน็ องค์นายกกิตตมิ ศกั ดิ์ของมูลนิธโิ รงพยาบาลสมเดจ็ พระยพุ ราช พระองค์ มีพระราชปณธิ านใหเ้ อาใจใสร่ กั ษาพยาบาลพสกนิกรของพระองค์ให้ ปลอดภยั จากความเจบ็ ไข้โดยท่ัวหน้าเสมอกนั

5. ดา้ นศาสนา สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั มหาวชิราลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกูร ทรงปฏบิ ตั ิพระราชกรณยี กจิ แทนพระองค์ ทรงประเคนผา้ ไตร ประกาศนียบัตร และพัดยศ ในการตงั้ ภิกษุ และ สามเณรเปรยี ญ เนอ่ื งใน การพระราชพิธที รงบาเพญ็ พระราชกุศล วิสาขบูชา ณ พระอโุ บสถวัดพระศรี รัตนศาสดาราม ในพระบรม มหาราชวัง พ.ศ. 2551 สมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั มหาวชริ าลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงแสดงพระองคเ์ ป็นพทุ ธมามกะท่วี ัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมอ่ื วนั ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2509 กอ่ นเสด็จพระราชดาเนนิ ไปทรงศกึ ษาต่อทปี่ ระเทศ องั กฤษ

นอกจากน้ี สมเด็จพระเจา้ อยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดนิ ทรเทพ ยวรางกูร มพี ระราชศรัทธาทรงผนวชในพระพทุ ธศาสนา โดย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชโปรดฯ ให้จัดการพระราช พธิ ผี นวช ณ พัทธสมี าวดั พระศรีรตั นศาสดาราม ในวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2521 โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) เป็นพระอุปัชฌาย์ สมเดจ็ พระญาณสงั วร (เจริญ สุวฑฒฺ โน) เปน็ พระกรรมวาจาจารย์ สมเด็จพระธรี ญาณมุนี (ธีร์ ปุณณฺ โก) ถวายอนุศาสน์ ไดร้ บั ถวายพระสมณนามวา่ “วชิราลงกฺ รโณ” และได้ประทับอยู่ ณ วัดบวร นิเวศวหิ าร ตลอดจนทรงลาสกิ ขาในวนั ที่ 20 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2521

สมเด็จพระเจ้าอย่หู วั มหาวชริ าลงกรณ บดินทรเทพยวรางกรู เสด็จพระราชดาเนนิ แทนพระองค์ ไปปฏบิ ตั พิ ระราชกิจทาง พระพุทธศาสนาอย่างสมา่ เสมอ เชน่ เสด็จพระราชดาเนนิ แทนพระองค์ ไปทรงเปลี่ยนเครอ่ื งทรงพระพุทธมหามณรี ตั นปฏิมากร ณ วดั พระศรี รตั นศาสดาราม ตามฤดกู าล เสดจ็ พระราชดาเนินแทนพระองคไ์ ปทรง บาเพญ็ พระราชกศุ ลในวันสาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา อาทิ วนั วิสาขบูชา วนั อาสาฬหบูชา วนั เข้าพรรษา และการถวายผ้าพระกฐนิ หลวงตามวดั ต่างๆ เป็นต้น

6. ด้านการเกษตร สมเด็จพระเจา้ อยู่หวั มหาวชิราลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู เสด็จพระราชดาเนินไปทรงทาปุ๋ยหมักจากผักตบชวาและวชั พชื อ่นื ๆ เป็น ปฐมฤกษ์ เพอื่ พระราชทานแกเ่ กษตรกร สาหรับนาไปใช้ในการเพาะปลกู เป็นการเพ่ิมผลผลิต ทีบ่ ้านแหลมสะแก ต.เดิมบาง อ.เดมิ บางนางบวช จ.สุพรรณบรุ ี เม่อื วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2528

7. ด้านการตา่ งประเทศ วนั ที่ 16 มนี าคม พ.ศ. 2554 สมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั มหาวชริ าลง กรณ บดินทรเทพยวรางกรู และพระเจา้ วรวงศ์เธอ พระองคเ์ จา้ ศรรี ศั มิ์ พระ วรชายาฯ โปรดให้ พล.อ.ท.ภักดี แสงชูโต นาผา้ หม่ กนั หนาว 20,000 ผนื ไปช่วยเหลอื ผู้ประสบภยั ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลน่ื สึนามิในโทโฮะกุ พ.ศ. 2554 ทป่ี ระเทศญ่ปี ุน่ โดยมนี ายกษิต ภิรมย์ เปน็ ผูร้ บั มอบ

ขอขอบคณุ ข้อมลู จาก : https://lifestyle.campus- star.com/knowledge/43066.html


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook