วฒั นธรรมไทย
ความหมายของวฒั นธรรม วัฒนธรรมเป็นสงิ่ ท่มี นษุ ยส์ ร้างขน้ึ มา เชน่ ภาษา ศิลปะ กฎหมาย การปกครอง และศีลธรรม เป็นตน้ ถือเป็นความเจรญิ งอกงามทางสตปิ ัญญาของมนุษย์ วัฒนธรรมจงึ เปน็ สิ่งเรียนรแู้ ละรบั ถา่ ยทอดมาจากการติดต่อสัมพันธ์ระหว่างกนั อนั ความรวมถึงภาษา ธรรมเนยี มประเพณแี ละสถาบนั ทางสงั คมเป็นวิธีการด ารงชีวิตของคนในสงั คม
ความสาคญั ของวฒั นธรรม 1) วัฒนธรรมเป็นเครอ่ื งสร้างระเบยี บแก่สังคมมนษุ ย์ ให้มรี ะเบยี บแบบแผนท่ชี ัดเจนรวมถึงผลของการ แสดงพฤตกิ รรมตลอดจนถงึ การสร้างแบบแผนของความคิด ความเช่ือ และค่านิยม 2) วฒั นธรรมทาใหเ้ กิดความสามัคคีความเปน็ อันหน่ึงอนั เดยี วกัน สงั คมท่มี ีวัฒนธรรมเดยี วกันยอ่ มจะ มคี วามร้สู กึ ผกู พันเดียวกนั เกดิ ความเป็นปึกแผน่ จงรกั ภกั ดีและอทุ ิศตนให้กบั สังคมทาให้สงั คมอยูร่ อด 3) วฒั นธรรมเปน็ ตวั กาหนดรปู แบบของสถาบัน เชน่ รูปแบบของครอบครัวจะเหน็ ไดว้ ่าลกั ษณะของ ครอบครวั แตล่ ะสังคมต่างกันไปเช่น วฒั นธรรมไทยกาหนดเปน็ แบบสามภี รรยาเดียว ในอีกสงั คมหนงึ่ กาหนดวา่ ชาย อาจมีภรรยาไดห้ ลายคน
4) วัฒนธรรมเป็นเครื่องมือช่วยแก้ปัญหา และสนองความต้องการของมนุษย์ มนุษย์ไม่สามารถดารงชีวิต ภายใต้สิ่งแวดล้อมได้อย่างสมบูรณ์ ดังน้ันมนุษย์ต้องแสวงหาความรู้จากประสบการณ์ที่ตนได้รับการประดิษฐ์คิดค้น วิธีการใช้ทรพั ยากรน้ันให้เกดิ ประโยชนต์ ่อชีวิต 5) วัฒนธรรมช่วยให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้า หากสังคมใดมีวัฒนธรรมท่ีดีงามเหมาะสม เช่น ความมี ระเบยี บวินัย ขยัน ประหยัด อดทน การเหน็ ประโยชน์สว่ นรวมมากกว่าส่วนตัว เป็นตน้ สังคมนั้นย่อมจะเจริญก้าวหน้าได้ อยา่ งรวดเรว็ 6) วัฒนธรรมเปน็ เครื่องแสดงเอกลักษณข์ องชาติ คาว่า เอกลกั ษณ์ หมายถึง ลกั ษณะพเิ ศษหรือลกั ษณะ เดน่ ของบุคคลหรอื สังคม ที่แสดงวา่ สงั คมหนึ่งแตกตา่ งไปจากอกี สงั คมหนึง่
พัฒนาการของวฒั นธรรม “สังคม” คอื กล่มุ คนที่ดารงชวี ติ อยู่รว่ มกนั เปน็ หมู่ สั ง ค ม แ ล ะ วั ฒ น ธ ร ร ม ไ ท ย มี ลั ก ษ ณ ะ ที่ คณะ ในสถานทีแ่ ละเวลาที่กาหนดรู้ได้ “วฒั นธรรม” คือ เปลี่ยนแปลงไปได้ในยุคสมัยท่ีต่างกัน เพราะปัจจัย แบบอยา่ งการดาเนนิ ชีวิตของคนทอี่ ยกู่ ันเปน็ สงั คมนัน้ ซึ่ง สาคัญได้แก่ จานวน ประเภท และความสัมพันธ์ ประกอบด้วยอุปกรณ์ วธิ กี าร และความคดิ ความเช่ือ ท่ี ของบุคคล สภาพแวดล้อมของสังคม ความรู้ สรา้ งและใช้รว่ มกนั ลักษณะของสังคมและวัฒนธรรมจึง ความสามารถของคนไทย และความต้องการพอใจ ขนึ้ อยูก่ บั ปัจจยั ทเี่ กีย่ วกับคนและอปุ กรณ์ วธิ กี ารที่ใช้ ของคนไทยในการมชี วี ิตรว่ มกัน ดารงชีวิตในหมคู่ ณะนนั้
ประเภทของวฒั นธรรม 1. วฒั นธรรมทางวัตถุเปน็ วฒั นธรรมท่ีสามารถมองเหน็ หรอื จับตอ้ งได้ เปน็ รปู ธรรม เชน่ หนังสือ แว่นตา รถยนต์ เปน็ ตน้ เป็นสิ่งประดิษฐ์ตา่ งๆ ท่ี สมาชกิ ในสงั คมคิดค้นข้ึนมา 2. วฒั นธรรมที่ไม่ใช่วตั ถุ เป็นวฒั นธรรมทม่ี องไมเ่ ห็น เป็นภาพ นามธรรม เช่น คา่ นิยม มารยาท ปรัชญา บรรทัดฐาน สถาบนั สงั คม ความเชอ่ื เป็นตน้
สาเหตขุ องวัฒนธรรม 1.ความต้องการที่จะไดร้ บั การ 3. ความตอ้ งการทางจติ ใจ ตอบสนองทางชีววิทยา (biological (psychological needs) ซ่งึ วัฒนธรรม needs) ซ่ึงเป็นความต้องการพน้ื ฐาน ท่มี า ตอบสนองความต้องการ คอื ระบบ คอื ปจั จัย 4 ความเชือ่ (ลทั ธิ/ศาสนา) 2. ความต้องการทางสงั คม (social needs) เนื่องจากการอยรู่ ว่ มกัน ของ คน การแบง่ หนา้ ท่ี การร่วมมือกัน แก้ไขปัญหาพ้ืนฐาน ก่อให้เกดิ วัฒนธรรม คอื การจัดระเบียบทางสังคม (social organization)
ปัญหาพืน้ ฐานทางวฒั นธรรม ปญั หาพื้นฐาน ส่วนของวัฒนธรรม ปญั หาความสมั พันธ์ทางเพศและการควบคมุ เพศสมั พันธ์ ระบบเครอื ญาติ ปัญหาเรื่องปากท้อง ระบบเศรษฐกิจ ปัญหาความขัดแยง้ และการควบคุมทางสังคม ระบบการเมืองการปกครอง ปัญหาเรอื่ งการอบรมสง่ั สอนสมาชิกใหมข่ องสงั คม ระบบการศกึ ษา ปญั หาเรอ่ื งลีล้ ับอานาจเหนือธรรมชาติ ระบบศาสนาและความเชือ่ ปญั หาเรอ่ื งโรคภยั ไขเ้ จ็บ ระบบการแพทย์และสาธารณสุข ปญั หาเรอ่ื งการส่ือสาร ระบบการสื่อสาร ปญั หาเร่ืองความคิดสร้างสรรค์ และการแสดงออก ศิลปะ ปญั หาเรอ่ื งการพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ กีฬา และนนั ทนาการ
ลักษณะสาคญั ของวฒั นธรรม 1. วฒั นธรรมที่มนุษยส์ ร้างขึน้ เพอื่ ตอบสนองความต้องการของสังคม เชน่ การสรา้ งอาคาร บ้านเรอื น คอมพวิ เตอร์ เปน็ ตน้ หรือการแตง่ เตมิ สงิ่ ทเี่ ป็นธรรมชาตใิ ห้มีรปู ร่างลกั ษณะใหม่ 2. วัฒนธรรมที่เกดิ จากการเรยี นรู้ วฒั นธรรมไมใ่ ชส่ ่งิ ทีต่ ิดตัวมนษุ ยม์ าแตก่ าเนิดและไมใ่ ชส่ งิ่ ท่ี อาจถ่ายทอดทางพันธกุ รรมไดว้ ฒั นธรรมเป็นสง่ิ ทส่ี รา้ งมนุษยโ์ ดยเดก็ จะไดร้ บั การอบรมเลยี้ งดแู ลขัด เกลาสงั คมจากพ่อแม่ ญาตพิ น่ี ้อง ครอู าจารย์ เม่อื เดก็ ได้เรยี นรู้สง่ิ ต่าง ๆ รอบตวั และความรู้พืน้ ฐานก็ ปรบั ปรงุ พฒั นาความคิด ประดษิ ฐเ์ ป็นวฒั นธรรมใหม่ๆ 3. วัฒนธรรมเป็นสิ่งทสี่ มาชิกของสังคมยอมรบั เปน็ ส่วนรว่ มและน าไปใชใ้ นการสร้าง วัฒนธรรมใหม่ขนึ้ มาเป็นแบบแผนการด ารงชวี ติ ร่วมกนั ของสมาชิกในสงั คม
4. วัฒนธรรมเปน็ สงิ่ ที่ส่งั สมและถา่ ยทอดใหแ้ ก่อนชุ นรุ่นหลัง วฒั นธรรมเปน็ ผลของการถ่ายทอดและการ เรียนรู้จากสมาชิกร่นุ หน่งึ ไปส่สู มาชิกอกี รุ่นตอ่ ไป การถ่ายทอดน้ัน ตอ้ งใชเ้ วลา และมีภาษาเป็นส่ือกลางช่วยใช้มนษุ ยไ์ ด้ แสดงความรู้สึกและสามารถเขา้ ใจผู้อ่นื ได้ ภายหลงั ที่มกี ารสรา้ งวัฒนธรรมและพฒั นาขึน้ กจ็ ะมกี ารส่ังสมกลายเปน็ องค์ ความร้ขู องสงั คม 5. วฒั นธรรมมีการเปลย่ี นแปลงอยเู่ สมอ ตามกาลเวลาที่สอดคล้องกับธรรมชาติรอบขา้ งและความต้องการ ของสมาชิกในสงั คม บุคคลทเี่ กิดในสงั คมใดก็ต้องเรียนรู้วัฒนธรรมของสังคมนั้น ซึ่งแตกต่างกันไปตามแตล่ ะสงั คม ไม่ สามารถนามาเปรียบเทยี บไดว้ า่ ของใครดกี วา่ กนั เพราะแต่ละวฒั นธรรมยอ่ มมีความเหมาะสมตามสภาพแวดล้อมของแต่ ละสังคม
การเลอื กรบั วฒั นธรรมสากล 1) เลือกรับวฒั นธรรมสากลทจ่ี าเปน็ ต่อการดาเนินชีวติ ประจาวัน วัฒนธรรมสากล เช่น ภาษาอังกฤษ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ตลอดจนระบบระเบียบการค้าขายระหว่างประเทศ มีความสาคัญในการติดต่อสัมพันธ์ระหว่างคนไทยและคนต่างชาติ อยา่ งมาก จงึ จาเปน็ ตอ้ งศกึ ษาหาความรู้ใหถ้ ่องแท้ เลือกรับเฉพาะวฒั นธรรมท่ีดี เหมาะกบั สังคมไทยเพอื่ เป็นประโยชน์ต่อ การดาเนินชีวติ ขอแงคนไทยในยคุ ปัจจุบัน
2) พิจารณาถงึ ขอ้ ดีและข้อเสยี ควบคกู่ ันไป เนื่องจากสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมจากวัฒนธรรมภายนอกมีทั้งข้อดีและข้อเสีย หรือกล่าวอีนัยหน่ึง คือ ก่อให้เกิดคุณอนันต์และโทษมหันต์ ซ่ึงถ้าหากเราศึกษาให้ดีใช้ให้เป็นประโยชน์ก็จะก่อให้เกิดความสะดวกสบาย ช่วยแก้ไข ปญั หาได้ทนั ท่วงที และตอบสนองความตอ้ งการในดา้ นต่างๆ ได้ดังใจ แต่ผลเสียก็มีอยู่มาก เช่น ทาให้มนุษย์เกิดความฟุ้งเฟ้อ ให้ความสาคัญทางด้านวัตถุมากกว่าจิตใจ เกิดการแก่งแย่งแข่งขันกัน อีกท้ังส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อม เน่ืองจากต้องใช้ ทรพั ยากรธรรมชาตอิ ย่างมากและมกี ารปล่อยของเสยี ออกมาเปน็ จานวนมาก
3) มกี ารร่วมมือ ค้นคว้า เผยแพร่ รวมถึงการประยกุ ต์ใชภ้ ูมปิ ญั ญาไทย โดยสืบคน้ จากคาบอกกลา่ วของผ้เู ฒ่า ผูอ้ าวุโส และผูร้ ู้ จากนิยาย นทิ านชาวบา้ น คมั ภยี ์ทางศาสนา วรรณคดี ประเภทต่างๆ คาคม สภุ าษิต คาพังเพย รวมถึงการสงั เกตและเปรยี บเทยี บการดาเนินชีวติ ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งบุคคลในสังคม และความสมั พันธ์กับสง่ิ แวดลอ้ ม โดยได้จัดระบบความรู้ เพอ่ื สร้างเปน็ องคค์ วามร้ขู ้ึน พร้อมทัง้ เผยแพร่ใหท้ กุ ภาคส่วนได้ ตระหนักถึงความสาคญั ของภมู ิปัญญาไทย
4) มีการพฒั นาและผสมผสานวัฒนธรรมไทยใหเ้ หมาะสมกับสมยั ปัจจุบัน เราจะเหน็ ได้วา่ ภมู ปิ ญั ญาไทยหลายเร่อื งไดก้ ลายเปน็ ภูมิปัญญาสากล เชน่ อาหารไทยไดร้ บั ความนยิ มท่ัวโลก มี การผสมผสานภมู ปิ ญั ญาไทยกบั ภูมิปัญญาตะวนั ตก โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ด้านสถาปตั ยกรรม เช่น โบสถว์ ัดเบญจมบพิตรดุสิตวนา ราม พระท่ีนั่งจักรีมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง พระทนี่ ั่งอนันตสมาคม และสถาปตั ยกรรมแบบชิโน-โปรตกุ ีส ในจงั หวัด ภูเกต็ เป็นตน้ การผสมผสานอยา่ งลงตัวของภูมปิ ญั ญาไทยกับภมู ิปัญญาตะวนั ตก ไดก้ ลายเปน็ มรดกสาคัญของวัฒนธรรมรว่ ม สมัยของไทย
การเรียนรวู้ ัฒนธรรมสากล ในยุคปจั จบุ นั โลกของเรามคี วามเจริญกา้ วหนา้ ทางดา้ นเทคโนโลยีอย่างสูง เป็นยุคแห่งโลกาภิวัตน์ ท่มี ีการเชื่อมโยงถงึ กันไดอ้ ยา่ งง่ายดาย มีการติดต่อซ่ึงกันและกัน เม่ือมีการติดต่อสื่อสารกันมากขึ้น ก็ย่อมส่งผล ให้วัฒนธรรมมีการผสมผสานกันมากข้ึน จนในที่สุดมนุษย์จึงต้องมีการค้นหาหรือสร้างวัฒนธรรมสากลในด้าน ต่างๆ ขึ้นมาเพ่ือเป็นแนวทางในการปฏิบัติร่วมกัน เช่น มีการกาหนดภาษาสากล ระบอบการเมืองการปกครอง มาตรฐานดา้ นความปลอดภยั เป็นต้น การทหี่ ลายประเทศในโลกรวมถึงประเทศไทยมีความต้องการจะพัฒนาตนเองเพ่ือก้าวสู่ความเป็น สากล วัฒนธรรมสากลจึงมีความสาคัญซึ่งคนในสังคมจาเป็นที่จะต้องศึกษาและรับมาเป็นแนวทางหนึ่งในการ ดาเนินชีวิต เพื่อที่จะพัฒนาศักยภาพของตนเองและก้าวทันความเปล่ียนแปลงที่เกิดข้ึนอย่างรวดเร็ว แต่ใน ขณะเดียวกันหากมีการรับวฒั นธรรมสากลมากเกนิ ไป ก็อาจสง่ ผลเสียทาใหว้ ฒั นธรรมด้ังเดมิ ของชาติสญู หายไป
การปรบั ปรุงเปลยี่ นแปลงวัฒนธรรมไทย สาเหตทุ ่ตี อ้ งมกี ารปรบั ปรงุ เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม มีดงั น้ี 1. การคดิ คน้ วิทยาการและการแสวงหาผลประโยชน์จากต่างชาติ 2. กระแสโลกาภวิ ัตน์ 2.1 ขอ้ มลู ขา่ วสารจากตา่ งประเทศ 2.2 ลทั ธิบรโิ ภคนิยม การคดิ คน้ วทิ ยาการและการแสวงหาผลประโยชนจ์ ากตา่ งชาติ ประเทศทตี่ ้องพ่งึ พาวทิ ยาการจากต่างประเทศ จาเป็นตอ้ งรูเ้ ท่าทนั วัฒนธรรมตา่ งประเทศดว้ ย เพื่อนาไปปรับปรุงใหเ้ หมาะกับวัฒนธรรมของตน และปอ้ งกันการครอบงาของตา่ งชาติ
กระแสโลกาภิวตั น์ : ขอ้ มูลขา่ วสารจากต่างประเทศ ข้อมูลขา่ วสารอาจจะมสี าระทเ่ี ป็นอนั ตรายตอ่ ความเชือ่ และพฤติกรรมของเยาวชน กอ่ ให้เกิด ค่านยิ มฟงุ้ เฟ้อ การมีเพศสมั พนั ธ์กอ่ นวยั อนั ควร กระแสโลกาภวิ ัตน์ : ลทั ธบิ ริโภคนยิ ม ได้แก่ อาหาร การแต่งกาย การใช้อินเทอร์เน็ต การบริโภคข้อมูลข่าวสารจากความก้าวหน้า ทางเทคโนโลยี และ การค้าขายทางอิเล็กทรอนิกส์ ทาให้เกิดการหมกมุ่นต่อส่ืออิเล็กทรอนิกส์ แต่งกาย ลอ่ แหลม ความรุนแรงละเมดิ ซงึ่ กนั และกัน บริโภคอาหารขาดคุณคา่ ทางโภชนาการ
เอกสารอา้ งองิ สุรชยั ภทั รดิษฐ์ ภมู ิภักดิเมธี. (2564). เอกสารประกอบการสอน วชิ าวัฒนธรรมสงั คมดจิ ทิ ัล (212052). นครราชสมี า : มหาวทิ ยาลัยราชภัฏนครราชสีมา. นดั ดา แสนทา. (2560). ประเพณี 4 ภาคของไทย ความสาคัญของวฒั นธรรมไทย. [ออนไลน์]. แหล่งท่ีมา : https://sites.google.com. สืบคน้ วันท่ี 13 ตลุ าคม 2564. นชุ ภนิ นั ท์ สนิทปู่. (2549). ความหมาย ลกั ษณะและความสาคัญ ของวฒั นธรรม. [ออนไลน์]. แหลง่ ทีม่ า : https://www.gotoknow.org/posts/377088. สบื ค้นวันที่ 13 ตุลาคม 2564.
จดั ทาโดย นายหัสดนิ เถยี งกระโทก รหสั นักศกึ ษา 6340109229 ชั้นปีที่ 2 คณะครุศาสตร์ สาขาสงั คมศกึ ษา วชิ าวัฒนธรรมสงั คมดจิ ิทัล เสนอ ผศ.ดร.สุรชยั ภทั รดษิ ฐ์ ภมู ิภักดิเมธี
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: