สรุปอัธยาศัย ๖๓ มีปก

คำนำ เอกสารรายงานผลการดาเนนิ งานกจิ กรรม/โครงการพัฒนาหอ้ งสมุดให้เป็นศนู ย์กลาง การเรียนร้ขู องชมุ ชน เล่มน้ี จัดทาขนึ้ เพอ่ื รายงานผลการดาเนินงานของห้องสมุดประชาชนอาเภอ อทุ ยั โดยมีวัตถุประสงค์เพ่อื พฒั นาระบบการใหบ้ ริการของหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภออทุ ัยใหเ้ ปน็ แหล่งเรียนรขู้ องชุมชน ผ่านส่อื ต่างๆ เชน่ ส่อื สิ่งพิมพ์ ส่อื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ สือ่ บุคคล เพ่ือพัฒนา ห้องสมดุ ประชาชนอาเภออทุ ยั ให้เป็นศนู ย์กลางการเรยี นของชุมชน เช่ือมโยงกับแหลง่ เรยี นรู้ กศน.ตาบลครอบคลมุ ท้ัง ๑๑ ตาบล เพ่อื สง่ เสรมิ การอ่านและการเรียนรใู้ นรปู แบบทห่ี ลากหลาย ท้งั ภายใน และภายนอกห้องสมุด เพ่ือปลูกฝังนิสัยรักการอา่ นการเรียนรู้ และสามารถนาความรู้ ทไ่ี ดร้ ับไปใชป้ ระโยชนไ์ ดจ้ รงิ เอกสารเล่มน้ี จงึ ไดท้ าข้ึนเพ่อื รายงานผลการดาเนนิ งานของหอ้ งสมุดประชาชนอาเภอ อุทัย เพือ่ เปน็ แนวทางในการพัฒนาปรับปรงุ การดาเนนิ งานจากการปฏิบตั ิงานจริง ตามโครงการ พัฒนาหอ้ งสมดุ ใหเ้ ปน็ ศนู ย์กลางการเรียนของชุมชน และสามารถนาความร้ทู ี่ไดร้ ับไปใช้ ประโยชนไ์ ดจ้ รงิ ผู้จดั ทาหวังเป็นอย่างย่งิ ว่า เอกสารรายงานผลการดาเนนิ งานสง่ เสรมิ การอ่าน และ การเรียนรู้ เล่มน้จี ะเป็นแนวทางในการพฒั นางาน และการจดั กิจกรรมของหอ้ งสมุดประชาชน ในโอกาสตอ่ ไป ผจู้ ัดทาขอขอบคุณเจา้ หน้าทศ่ี นู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อาเภออุทัย ทใ่ี หก้ ารสนับสนุนในการปฏิบัตงิ านด้วยดตี ลอดมา จงึ ขอขอบคุณเปน็ อย่างสงู ไว้ ณ โอกาสนี้ นางสาววะลาพร วงคก์ ่อ บรรณารกั ษ์ชานาญการพเิ ศษ หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภออุทัย

สำรบญั หนำ้ คำนำ ก สำรบญั บทที่ ๑ บทนำ ข เหตุผลและความจาเป็น ๑ วตั ถุประสงค์ ๑ ประโยชน์ทค่ี าดว่าจะได้รบั ๒ ๒ บทท่ี ๒ เอกสำรทเ่ี กย่ี วข้อง ๓ นโยบายและจดุ เนน้ การดาเนนิ งาน สานกั งาน กศน. ปงี บประมาณ ๒๕๖๒ ๓ ความสาคัญของห้องสมดุ ประชาชน ๕ ความสาคัญของการอา่ น ๗ การศึกษาตามอัธยาศยั ๘ หอ้ งสมดุ ประชาชนกับการศกึ ษาตลอดชีวติ ๙ ห้องสมุดมชี วี ติ ๑๑ บทท่ี ๓ วธิ กี ำรดำเนนิ งำน ๑๔ ๑๕ ขั้นตอนการดาเนินงาน ๑๕ กลุม่ เปา้ หมายในการประเมิน ๑๖ เครอ่ื งมือท่ีใช้ในการเกบ็ ข้อมูล ๑๖ การดาเนินการประเมิน ๑๖ การเกบ็ รวบรวมข้อมูล และการจดั กระทากบั ข้อมูล ๑๗ การวเิ คราะหข์ ้อมลู ๑๘ บทที่ 4 ผลกำรดำเนนิ งำน ๑๙ ๒๑ กิจกรรมสง่ เสริมการเรียนรู้ ๒๖ กิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้สาหรบั ผ้สู งู อายุ ๒๙ กจิ กรรมวนั เดก็ ๓๓ กจิ กรรมส่งเสรมิ การอ่านและการเรยี นรู้ ๓๖ กิจกรรมส่งเสรมิ การอ่านและการเรียนรู้ ๓๙ กิจกรรมบูรณาการทักษะชวี ิตพิชติ ความพอเพยี ง ๔๑ กิจกรรมส่งเสรมิ การอ่านและการเรยี นรู้สาหรับผู้สูงอายุ กิจกรรมสง่ เสรมิ การอ่านและการเรียนรู้

สำรบัญ (ต่อ) หนำ้ กจิ กรรมสง่ เสริมการอ่านและการเรยี นรู้ ๔๕ กิจกรรมบริการตะกร้าหนังสอื น่าอ่าน ๔๗ กจิ กรรมส่งเสรมิ การอ่านและการเรียนรู้ ๔๙ กจิ กรรมสง่ เสริมการอ่าน ๒ เมษารักการอ่านเพื่อวถิ ีพอเพยี ง ๕๑ กิจกรรมส่งเสริมการอ่านสาหรับชาวตลาด ๕๕ กจิ กรรมสง่ เสริมการอ่าน ๕๘ กจิ กรรมส่งเสริมการอ่าน ๖๐ กจิ กรรมส่งเสริมการอ่านและการเรยี นรู้ ๖๒ กิจกรรมสง่ เสริมการอ่านและการเรียนรู้ ๖๔ กิจกรรมสง่ เสรมิ การเรียนรู้ ๖๖ กจิ กรรมสง่ เสรมิ การอ่านและการเรยี นรสู้ าหรบั ผสู้ ูงอายุ ๖๘ กิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ ๗๐ กิจกรรมส่งเสรมิ การอ่าน ๗๔ กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรียนรูส้ าหรบั ผสู้ งู อายุ ๗๖ กิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรยี นรู้ ๗๘ กจิ กรรมส่งเสรมิ การอ่านและการเรียนรู้ ๘๒ กจิ กรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ ๘๔ กจิ กรรมสง่ เสรมิ การอ่านและการเรยี นรู้ ๘๖ กิจกรรมส่งเสรมิ การเรียนร้สู าหรบั ผู้สงู อายุ ๙๐ กิจกรรมส่งเสรมิ การอ่านและการเรียนรู้ ๙๒ กิจกรรมสง่ เสริมการอ่านและการเรียนรู้ ๙๖ กจิ กรรมนทิ รรศการวนั สาคญั ต่างๆ ๙๘ กิจกรรมสง่ เสรมิ การเรยี นร้กู ารตดั พวงมโหตร ๑๐๐ กิจกรรมครอบครัวรักการอา่ น ๑๐๒ ความพึงพอใจของผู้เข้ารว่ มกิจกรรม/โครงการ ๑๐๕ บทท่ี ๕ สรปุ อภปิ รำยผล และขอ้ เสนอแนะ ๑๐๘ วัตถปุ ระสงคก์ ารดาเนินงาน ๑๐๘ วธิ ดี าเนนิ การ ๑๐๘ อภปิ รายผล ๑๐๙ ผลสาเร็จเชงิ คุณภาพ ๑๐๙ ปัญหาอุปสรรค ๑๐๙ ทิศทางการพฒั นา ๑๐๙

สำรบญั (ต่อ) หน้ำ บรรณำนุกรม ๑๑๐ ภำคผนวก ๑๑๑ แผนการปฏบิ ัติการเพ่อื การรณรงคก์ ารเพม่ิ อตั ราการอ่าน ๑๐๒ โครงการ ๑๐๗

บทท่ี ๑ บทนำ ๑. เหตุผลและควำมจำเป็น ในโลกยุคปัจจุบนั เปน็ ยุคข่าวสารข้อมูลทีท่ ่วั โลกสามารถที่จะรับรู้ขา่ วสารได้ภายใน เวลาอนั รวดเร็ว จึงมีผลตอ่ การพฒั นาประเทศให้เจริญทัดเทียมกบั อารยธรรมประเทศทงั้ หลาย ดงั น้นั ในการพฒั นาประเทศใหม้ ีความเจรญิ กา้ วหน้า จงึ มีความจาเปน็ ท่ีจะตอ้ งพัฒนาคนใน ประเทศให้เปน็ คน รกั การอา่ น การเรยี นรู้ และพัฒนาสังคมไทยให้เปน็ สงั คมท่ีมคี วามรูพ้ ืน้ ฐาน ซึง่ ในโลกปัจจบุ ัน การแสวงหาความรู้นน้ั หาได้ไม่ยาก เนอื่ งจากความรูม้ มี ากมายหลากหลาย มีเทคโนโลยีทีก่ า้ วหน้า มีเครอ่ื งมือในการแสวงหาความรจู้ ากแหล่งความรตู้ า่ งๆไดอ้ ย่างไม่จากัดจน ทาใหป้ ระชาชนสามารถใช้ประโยชนใ์ นการเรียนรไู้ ด้ตลอดชวี ิต ตามพระราชบัญญัติการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และแกไ้ ขเพม่ิ เติม (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๒๕ ห้องสมดุ ประชาชนเปน็ แหล่งเรียนร้ตู ลอดชีวิต ตามทรี่ ฐั บาลมีนโยบาย ทีจ่ ะพฒั นาขดี ความสามารถของประชาชน และกาหนดให้การจัดการศกึ ษาตอ้ งเปน็ ไปเพ่อื พฒั นา คนไทยใหเ้ ปน็ มนษุ ย์ทสี่ มบูรณ์ทั้งร่างกาย สติปัญญา ความรู้ มีคณุ ธรรม มีจริยธรรม มวี ัฒนธรรมในการดารงชีวิต ตามคา่ นิยมหลักของคนไทย ๑๒ ประการ ร้จู ักพงึ่ ตนเองมีความคิด สรา้ งสรรค์ใฝร่ ู้ โดยสามารถเรียนรู้ ได้ดว้ ยตนเองอย่างตอ่ เนื่อง สานักงานส่งเสริมการศกึ ษานอก ระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ มีนโยบายพัฒนาแหลง่ เรยี นรู้ ใหม้ ีบรรยากาศ และสภาพแวดลอ้ มท่ีเอื้อตอ่ การเรียนรู้ มคี วามพรอ้ มในการให้บริการกจิ กรรม การศึกษา และการเรยี นรู้ เป็นแหลง่ สารสนเทศสาธารณะท่งี า่ ยตอ่ การเขา้ ถึง มีบรรยากาศท่ีเออื้ ตอ่ การเรียนรู้ เป็นคาเฟพ่ น้ื ท่ีการเรียนรู้สาหรับทุกชว่ งวัย มสี ง่ิ อานวยความสะดวก มบี รรยากาศ สวยงาม มีชีวติ ทด่ี งึ ดดู ความสนใจ และมคี วามปลอดภัยสาหรับผู้ใชบ้ ริการ ดังนน้ั ห้องสมุดประชาชนอาเภออุทัย จึงได้จดั โครงการนข้ี นึ้ มาเพื่อเปน็ การบรกิ าร ประชาชน ทุกเพศ ทกุ วยั ทุกอาชีพ ซ่งึ เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนได้เรียนรู้ดว้ ยความสะดวก รวดเร็ว มีความสขุ มีความประทับใจ หอ้ งสมุดมีกิจกรรมทหี่ ลากหลายในการให้บรกิ าร เพื่อ นาไปสกู่ ารส่งเสริมการอ่านและการเรยี นรู้ตลอดชีวิตต่อไป

๒. วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพอ่ื พฒั นาระบบการใหบ้ รกิ ารของห้องสมุดประชาชนอาเภออุทัยให้เปน็ ศนู ยก์ ลาง การเรียนรู้ของชุมชน ผ่านสือ่ ตา่ งๆ เช่นสื่อสง่ิ พิมพ์ สือ่ อิเลก็ ทรอนิกส์ สื่อบุคคล ๒. เพื่อพัฒนาห้องสมดุ ประชาชนอาเภออุทยั ให้เป็นศนู ย์กลางการเรยี นรู้ของชมุ ชน เชอ่ื มโยงกบั แหล่งเรียนรู้ กศน.ตาบลครอบคลมุ ทัง้ ๑๑ ตาบล ๓. เพือ่ สง่ เสริมการอา่ นและการเรียนรู้ในรูปแบบทีห่ ลากหลายท้งั ภายใน และ ภายนอกห้องสมดุ เพือ่ ปลูกฝงั นสิ ัยรกั การอ่าน และสามารถนาความรู้ทีไ่ ด้รับไปใช้ประโยชนไ์ ดจ้ รงิ ๓. ประโยชน์ท่ีคำดวำ่ จะได้รับ ๑. ห้องสมดุ ประชาชนอาเภออุทัยเปน็ ศูนยก์ ลางการเรียนร้ขู องชมุ ชน ๒. ห้องสมดุ ประชาชนอาเภออุทยั พฒั นาเปน็ ศูนยก์ ลางการเรียนรขู้ องชุมชน เช่อื มโยงกับแหล่งเรยี นรู้ กศน. ตาบล ทั้ง ๑๑ ตาบล ๓. มกี จิ กรรมสง่ เสริมการอา่ นและการเรียนรู้ทห่ี ลากหลายท้ังภายใน และภายนอก หอ้ งสมดุ ทตี่ อบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างตอ่ เนื่อง

บทท่ี ๒ เอกสำรทเ่ี กีย่ วขอ้ ง การจดั กจิ กรรมของ ห้องสมดุ ประชาชนอาเภออทุ ัยกบั การส่งเสริมการอ่าน และ การเรียนรู้ตลอดชวี ิต ได้เสนอแนวคิด หลักการ และเอกสารที่เก่ียวข้อง ตามลาดับดงั ต่อไปน้ี ๑. นโยบายและจุดเนน้ การดาเนนิ งาน สานกั งาน กศน. ปงี บประมาณ ๒๕๖๓ ๒. ความสาคัญของห้องสมดุ ประชาชน ๓. ความสาคัญของการอ่าน ๔. การศกึ ษาตามอัธยาศยั ๕. ห้องสมุดประชาชนกบั การศกึ ษาตลอดชีวิต ๖. ห้องสมุดมีชวี ติ ๑. นโยบำยและจุดเน้นกำรดำเนนิ งำนสำนักงำน กศน. ปีงบประมำณ ๒๕๖๓ พนั ธกิจ ๑. จัดและสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยท่มี ีคุณภาพ เพื่อ ยกระดับการศึกษา พฒั นาทกั ษะการเรียนรู้ของประชาชนทุกกลมุ่ เปา้ หมายให้เหมาะสมทกุ ช่วงวัย พรอ้ มรบั การเปล่ียนแปลงบริบททางสงั คม และสรา้ งสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต ๒. ส่งเสรมิ สนบั สนนุ และประสานภาคีเครอื ขา่ ย ในการมสี ่วนรว่ มจดั การศกึ ษา นอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย และการเรียนรู้ตลอดชีวติ รวมทั้งการดาเนนิ กิจกรรมของ ศนู ยก์ ารเรยี นรแู้ ละแหล่งเรยี นรอู้ นื่ ในรปู แบบตา่ งๆ ๓. สง่ เสริมและพฒั นาการนาเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยดี จิ ทิ ัลมาใช้ ใหเ้ กดิ ประสิทธิภาพในการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ให้กบั ประชาชน อย่างท่ัวถึง ๔. พัฒนาหลักสตู ร รูปแบบการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อและนวัตกรรม การวัด และประเมินผลในทุกรูปแบบให้สอดคล้องกบั บริบทในปัจจบุ นั ๕. พัฒนาบคุ ลากรและระบบการบริหารจดั การให้มปี ระสิทธิภาพเพอ่ื มุง่ จัดการศกึ ษา และการเรยี นรู้ทีม่ ีคณุ ภาพ โดยยดึ หลกั ธรรมาภิบาล

เป้ำประสงค์ ๑. ประชาชนผู้ดอ้ ย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษา รวมท้ังประชาชนทว่ั ไป ได้รับโอกาสทางการศกึ ษา ในรปู แบบการศกึ ษานอกระบบ ระดับการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน การศกึ ษา ต่อเน่อื ง และการศึกษาตามอัธยาศัย ท่มี คี ุณภาพอย่างเทา่ เทียมและทวั่ ถงึ เปน็ ไปตามสภาพ ปัญหา และความต้องการของแตล่ ะกลุม่ เปา้ หมาย ๒. ประชาชนไดร้ ับการยกระดบั การศึกษา สร้างเสรมิ และปลกู ฝังคุณธรรม จรยิ ธรรม และความเป็นพลเมอื ง อันนาไปสกู่ ารยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ และเสรมิ สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน เพอ่ื พฒั นาไปสู่ความม่ันคงและยัง่ ยืนทางดา้ นเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และ ส่ิงแวดล้อม ๓. ประชาชนไดร้ บั โอกาสในการเรียนรู้ และเจตคตทิ างวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่เหมาะสม สามารถคดิ วเิ คราะห์ และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน รวมทั้งแกป้ ญั หา และ พฒั นาคุณภาพชีวติ ไดอ้ ยา่ งสร้างสรรค์ ๔. ประชาชนได้รบั การสร้าง และส่งเสริมให้มนี สิ ยั รกั การอ่าน เพื่อการแสวงหา ความรู้ดว้ ยตนเอง ๕. ชมุ ชนและภาคีเครอื ขา่ ยทุกภาคส่วนร่วมจดั สง่ เสรมิ และสนับสนนุ การ ดาเนนิ งานการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยรวมทง้ั การขับเคลอ่ื นกิจกรรมการ เรยี นรขู้ องชมุ ชน ๖. หน่วยงานและสถานศึกษาพฒั นาเทคโนโลยที างการศกึ ษา เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั มาใชใ้ นการยกระดบั คณุ ภาพในการจัดการเรียนรู้ และเพมิ่ โอกาสการเรียนรู้ใหก้ ับประชาชน ๗. หนว่ ยงานและสถานศึกษาพัฒนาส่ือและการจัดกระบวนการเรียนรู้ เพอื่ แก้ปัญหา และพฒั นาคุณภาพชวี ิต ท่ีตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงบรบิ ทดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม การเมือง วัฒนธรรม ประวตั ศิ าสตร์ และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งตามความต้องการของประชาชน และชมุ ชน ในรูปแบบทห่ี ลากหลาย ๘. หน่วยงานและสถานศึกษามีระบบการบรหิ ารจดั การท่ีเปน็ ไปตามหลักธรรมาภบิ าล ๙. บุคลากรของหนว่ ยงาน และสถานศึกษาได้รบั การพฒั นาเพื่อเพ่มิ สมรรถนะในการ ปฏบิ ัติงานการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอย่างมปี ระสิทธิภาพ

นโยบำยเร่งด่วนเพื่อร่วมขับเคลื่อนยุทธศำสตร์กำรพฒั นำประเทศ ยุทธศาสตรด์ า้ นการพัฒนาและเสริมสรา้ งศักยภาพทรพั ยากรมนษุ ย์ เพิม่ อัตราการอ่าน ของประชาชน โดยการจัดกจิ กรรมสง่ เสริมการอา่ นในรูปแบตา่ งๆ เชน่ อาสาสมคั รสง่ เสรมิ การอ่าน หอ้ งสมดุ ประชาชน บ้านหนังสือชุมชน หอ้ งสมุดเคล่อื นท่ี ผลกั ดนั ใหเ้ กดิ ห้องสมุดสูก่ ารเป็น หอ้ งสมดุ เสมอื นจริงต้นแบบ เพื่อพัฒนาให้ประชาชนมคี วามสามารถในระดับอ่านคล่อง เข้าใจความ คิดวเิ คราะหพ์ ้ืนฐาน และสามารถรบั รขู้ อ้ มลู ข่าวสารทถ่ี กู ต้อง และทนั เหตุการณ์ รวมทั้งนาความรู้ ที่ได้รับไปใช้ปฏิบตั ิจริงในชีวติ ประจาวัน ภำรกจิ ตอ่ เนอื่ ง ดำ้ นกำรจัดกำรศึกษำและกำรเรยี นรู้ กำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั ๑. ส่งเสริมให้มกี ารพฒั นาแหลง่ การเรยี นรใู้ นระดบั ตาบล เพื่อการถา่ ยทอด องคค์ วามรู้ และจดั กจิ กรรมเพ่อื เผยแพร่องคค์ วามรู้ในชุมชนได้อย่างทัว่ ถงึ ๒. จัดกจิ กรรมส่งเสรมิ การเรยี นร้เู พ่ือปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน และพฒั นา ความสามารถในการอ่านและศกั ยภาพการเรียนรู้ของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย ๓. สง่ เสรมิ ให้มกี ารสรา้ งบรรยากาศ และส่ิงแวดล้อมทเ่ี ออื้ ตอ่ การอ่านให้เกดิ ขนึ้ ในสงั คมไทย โดยสนบั สนุนการพฒั นาแหลง่ การเรยี นร้ใู หเ้ กดิ ข้ึนอยา่ งกว้างขวางและท่วั ถงึ เช่น พัฒนาห้องสมุดประชาชนให้เป็นแหลง่ เรยี นรูต้ ลอดชีวิตของชุมชน สง่ เสริมและสนับสนนุ อาสาสมัครสง่ เสริมการอ่าน การสรา้ งเครือข่ายส่งเสริมการอา่ น จดั หนว่ ยบริการเคล่อื นทีพ่ รอ้ ม อปุ กรณ์เพือ่ จัดกจิ กรรมส่งเสริมการอา่ นและการเรียนรทู้ หี่ ลากหลายใหบ้ รกิ ารกบั ประชาชนใน พืน้ ท่ีต่างๆ อย่างท่ัวถงึ สม่าเสมอรวมทั้งเสรมิ สร้างความพรอ้ มในด้านสือ่ อปุ กรณเ์ พอื่ สนับสนนุ การอ่านและการจัดกจิ กรรมเพ่ือส่งเสรมิ การอ่านอย่างหลากหลาย ๒. ควำมสำคัญของหอ้ งสมุดประชำชน ปัจจุบันความเปลีย่ นแปลงทางวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยีเปน็ ไปอยา่ งรวดเร็ว ได้รบั การพฒั นาก้าวหน้าอย่างต่อเนือ่ งตลอดเวลา การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ส่งผลต่อสภาวะทางด้าน เศรษฐกิจ และสังคมของชมุ ชนเป็นอย่างยงิ่ ทาใหก้ ารดารงชวี ิตประจาวนั ของมนษุ ย์ได้รับ ผลกระทบโดยไมม่ ีทางหลีกเล่ียงได้ มนษุ ยจ์ งึ จาเป็นตอ้ งศกึ ษาหาความรู้จากความเปลี่ยนแปลง ของสงั คมของตนเองอยตู่ ลอดเวลา และนาส่งิ ตา่ งๆ ทไ่ี ด้ศึกษาและอยรู่ อบตวั เรามาปรบั ปรงุ เปลยี่ นแปลงให้เหมาะสมกบั ชวี ติ ความเปน็ อยู่จงึ จะสามารถดารงชีวติ อยใู่ นสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุข อนั จะส่งผลต่อการพัฒนาประเทศตอ่ ไป

หอ้ งสมดุ ประชาชน เป็นสถาบันสาคญั แห่งหนง่ึ ของชุมชนทีส่ ามารถตอบสนอง การศึกษา การเรยี นรขู้ องประชาชนให้รู้เท่าทนั ความเปล่ยี นแปลงต่างๆไดอ้ ย่างตอ่ เนอื่ งไปจน ตลอดชีวิต เพราะห้องสมดุ เป็นสถานที่รวบรวมสอื่ ความรทู้ ีม่ ีค่ามากมายหลายชนดิ ท่ีเหมาะสม และทนั สมัยไวบ้ ริการ แกป่ ระชาชนในชมุ ชน ทกุ เพศ ทุกวัย ทกุ ระดบั การศกึ ษาไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ หาความรู้ไปจนตลอดชวี ิต สรปุ ความสาคญั ของห้องสมดุ ไดด้ ังน้ี ๑. เพ่ือการศกึ ษา (Education) ของชุมชน สง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชนรูจ้ ักศึกษาค้นคว้า ดว้ ยตนเอง คิดเปน็ นาความรู้ท่ไี ด้จากการศึกษาค้นควา้ มาปรบั ปรุงพฒั นาคุณภาพชวี ติ ใหเ้ กดิ ประโยชน์ แก่ตนเองและสงั คมสบื ไป ๒. ให้ข่าวสารข้อมลู และความรู้ (Information) สังคมปจั จุบันเป็นสงั คมแหง่ ข่าวสารข้อมูลหอ้ งสมุดจะตอ้ งบริการขา่ วสารข้อมูล และความรู้ ความเคล่อื นไหวต่างๆ ให้ทนั ต่อ เหตกุ ารณ์อย่เู สมอทงั้ จากภายในประเทศ และตา่ งประเทศ ๓. เพื่อการศกึ ษาค้นควา้ วจิ ยั (Research) เพราะการค้นควา้ วจิ ัยต่างๆ เป็นสิง่ จาเปน็ สาหรับความกา้ วหน้าทางวชิ าการ ห้องสมดุ จึงควรมีบทบาทในการให้บรกิ ารช่วยเหลอื ผู้ทาวิจัยเป็น แหล่งสะสมสารนิเทศตา่ งๆเอาไว้ ทีจ่ ะใช้ในการคน้ ควา้ วจิ ยั เพอ่ื ความก้าวหน้าทางบริการวชิ าการ ตอ่ ไป ๔. เพอื่ ความจรรโลงใจ (Inspiration) สานกึ ดี สังคมดี บุคลากรในสงั คมมีความ กระตือรือร้น ปรารถนาที่จะทาความดี ตอ้ งจดั หนงั สอื หรอื รวบรวมส่ือหลายประเภททใี่ ห้ ความจรรโลงใจ ใหส้ ่งิ ทด่ี แี ก่ผอู้ ่าน เชน่ ขอ้ คดิ นกั ปราชญ์ ชีวประวัตขิ องบคุ คลผ้เู สียสละ เปน็ ต้น ทาให้ผู้อ่านเกิดความจรรโลงใจ ปรารถนาจะทาแตใ่ นสง่ิ ที่ดี ๕. เพอ่ื นนั ทนาการ หรอื การพกั ผอ่ นหย่อนใจ (Recreation) การพกั ผ่อนหย่อนใจ เปน็ ส่ิงจาเป็นสาหรับชวี ิต การอา่ นหนงั สอื เปน็ การใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์

๓. ควำมสำคัญของกำรอ่ำน ๑. การอา่ นเปน็ ทกั ษะพน้ื ฐานท่ีจาเป็นในการดารงชวี ติ ในปจั จุบนั องค์การ สหประชาชาติ ได้เสนอให้ประเทศสมาชกิ ทุกประเทศช่วยกันรณรงคใ์ ห้ทกุ คนในโลกนี้อา่ นหนงั สือ ให้ออกทัง้ หมดในปี ๒๕๔๓ เพราะตระหนักในความสาคัญของการอา่ น ผู้ท่ีอา่ นหนังสือไมอ่ อก มักเสียเปรียบกลายเป็นคน ลา้ หลงั ไมท่ ันโลก ไม่ทันเหตกุ ารณ์ อาจจะถกู หลอกเสียรู้ไดง้ ่าย และ ไมเ่ ชอื่ มัน่ ตนเอง ไม่มคี วามสขุ ในการเข้าสังคม เราจะสงั เกตเหน็ วา่ ประเทศท่ีเจริญจานวนประชากร ทอ่ี ่านออกเขยี นได้จะมมี ากในชวี ติ ประจาวันเราจะตอ้ งอาศยั การอ่านเพอื่ การดารงชีวติ แทบทกุ เรอ่ื งกว็ ่าได้ เชน่ เครอ่ื งมือ เครือ่ งใช้สนิ ค้า เครอ่ื งอุปโภคบรโิ ภค ตลอดจนยารักษาโรค ทกุ คนควร จะต้องรจู้ ักอา่ นวธิ ีใช้ วนั หมดอายุ จึงจะสามารถใช้สินค้านน้ั ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ หรือการไป ติดตอ่ กับหนว่ ยงานต่างๆ เชน่ สานักงานทด่ี ิน สานกั งานขนส่งทางบก ธนาคาร สถานศึกษา เทศบาล เป็นต้น จาเปน็ ที่จะตอ้ งอ่านหนังสอื ออก จึงจะสามารถไปตดิ ต่อหนว่ ยงานที่ตอ้ งการได้ อยา่ งรวดเรว็ การอ่านหนังสือไมอ่ อกทาให้บคุ คลน้ันร้สู กึ ตนเองว่าไร้ศักดศิ์ รี ไมส่ ามารถร่วมพดู คยุ เรอ่ื งตา่ งๆกับผอู้ ่ืนได้อย่างเทา่ เทียมกนั ดงั เช่นสุภาษิตของชาวฝรัง่ เศสวา่ “Moins je lis, moins j’apprends.” ซ่ึงมีความหมายว่า “ยิ่งอ่านนอ้ ย ก็เข้าใจน้อย” นอกจากนี้ ฟรานซสิ เบคอน (Francis Bacon) ไดก้ ลา่ วว่า การอ่านทาให้เป็นคนโดยสมบรู ณ์ (Reading make a Full man) (ดดั ล.ี่ ๑๙๙๔ : ไม่มีเลขหน้า) ดังน้ันการอ่านจึงเป็นทกั ษะเบ้ืองต้นท่ีมนษุ ย์ทุกคนจาเปน็ ทจ่ี ะตอ้ ง ใช้ในการดารงชีวติ ในปัจจุบนั ๒. การอ่านเป็นเครอื่ งมอื สาคัญในการเรียนรู้ การอา่ นเป็นรากฐานสาคญั ของ การศึกษา เพราะทาให้นักเรียนนักศึกษาได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ กวา้ งขวางยง่ิ ขนึ้ เพราะการเรียนวิชาต่างๆไม่ว่าจะเป็นในห้องเรียน หรือนอกหอ้ งเรียน ลว้ นแตใ่ ชก้ ารอ่านเปน็ สอ่ื ใน การเรียนรทู้ ้ังสิน้ กจิ กรรมในสถานศึกษาร้อยละ ๘๐ - ๙๐ จะต้องอาศัยการอ่าน ผ้เู รียนจะตอ้ งมี ความสามารถในการอ่าน จงึ จะสามารถรว่ มกิจกรรมการเรียนการสอนได้อย่างดีทาให้ผู้เรียนมกั มี ความคดิ กวา้ งขวางข้ึน หนังสือเพยี งอย่างเดียวสามารถช่วยใหผ้ เู้ รียนคดิ ไปตามลาดับข้นั ได้ (Unesco. ๑๙๗๒ : ๓๒) ๓. การอา่ นเป็นสอ่ื สาคญั ในการพัฒนา และแกป้ ัญหาสังคม การพัฒนาสงั คมท่ดี ีน้ัน อปุ กรณส์ าคัญคือ “การอา่ น” ดังคากลา่ วของคณุ หญิงแม้นมาส ชวลิต (๒๕๓๙ : คานา) ที่วา่ สงิ่ หนง่ึ ที่ใช้วัดระดับของบคุ คลและสังคมไดก้ ็คอื การร้หู นังสือ และการรจู้ กั ใชป้ ระโยชนจ์ ากหนงั สอื อยา่ งเต็มทีก่ ารอา่ นหนังสือจะทาใหเ้ กิดการพฒั นาความคดิ สติปัญญา จรยิ ธรรม ศลี ธรรม และ เชาวนป์ ัญญาได้เปน็ อย่างดี และรูจ้ กั นาความรู้ทีไ่ ดจ้ ากการอ่านมาพัฒนาตนเองทง้ั ด้านสติปญั ญา

และจิตใจ ผลที่ตามมากค็ ือ ทาใหส้ ามารถกระทาตนใหเ้ ปน็ ประโยชนแ์ กส่ ังคม แก่ส่วนรวม สามารถวินจิ ฉัยความถูกต้อง เรอ่ื งราวต่างๆไดอ้ ย่างฉับไว ประสบการณ์จากการอ่านทาให้ผ้ทู ่ีเขา้ ใจ สถานการณ์ทเ่ี ผชญิ ไดอ้ ย่างรวดเรว็ และสามารถแกไ้ ขเหตุการณไ์ ดอ้ ย่างทนั ที (มาลินี นิ่มเสมอ. ๒๕๒๓ : ๒๖) ทาให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิต ผทู้ อ่ี ่านมากก็ย่อมจะมมี ุมมอง และวสิ ยั ทศั นท์ ี่ กวา้ งไกล และเปน็ คนยืดหยนุ่ สามารถปรับตวั ให้เขา้ กับสงั คม และพฒั นาสังคมได้ ดังน้ันเมอ่ื ทกุ คนมคี ุณภาพชีวติ ที่ดี สังคมนน้ั ก็ย่อมจะดีไปด้วย เม่อื เกิดปญั หาต่างๆ กย็ ่อมจะรู้จักใช้ สตปิ ญั ญาร่วมกันแกป้ ัญหา กจ็ ะทาใหส้ งั คมน้ันอยู่กันอย่างมคี วามสขุ นอกจากนี้เราจะพบว่าประเทศทเ่ี จริญแลว้ ประชาชนจะรักการอ่านมาก ห้องสมุดใน ประเทศนน้ั ๆ ก็จะมีจานวนมากเชน่ กัน ผู้ทีเ่ ป็นนกั ปราชญ์ หรอื ผมู้ ชี ่ือเสียงเกือบทัง้ หมดจะเป็น นักอา่ น การอา่ นเปน็ ประโยชน์ตอ่ ผคู้ นและโลกยคุ ปัจจุบนั เปน็ อย่างมากเพราะโลกยคุ ปัจจุบนั ดู เหมือนจะแคบ และเลก็ ลงเพราะดา้ นวตั ถุ วิทยาการ ความนึกคิด ตลอดจนความสัมพันธร์ ะหว่าง ประเทศจะเกดิ ขน้ึ และเปล่ียนไป อยา่ งรวดเร็วจึงจาเป็นตอ้ งอาศยั “การอ่าน” เพื่อติดตามความ เปลยี่ นแปลงทงั้ หลายใหท้ ันเหตุการณ์ (พมิ พ์ใจ สุทธสิ ุรศักด์.ิ ๒๕๓๐ : ๔) ๔. กำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั การจดั การศกึ ษาตามอัธยาศยั จึงเป็นการจัดบรรยากาศ สถานการณ์ สภาพแวดล้อม เง่ือนไขทีจ่ ะสง่ เสริมใหบ้ ุคคลได้เรยี นรู้ ทั้งทีจ่ ะโดยตงั้ ใจหรือไม่กต็ าม การศึกษาตามอัธยาศัย เปน็ การส่งเสริม การเรยี นรู้ตามธรรมชาตขิ องมนุษย์เกิดจากการเรียนรู้ ในครอบครัว ในชุมชน ในทที่ างาน ในกลุ่มเพอื่ นฝงู คนคุ้นเคย เรียนรูจ้ ากสื่อมวลชน กำรจัดกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัยควรคำนึงถงึ หลักกำรดงั น้ี ๑. การศึกษาตามอธั ยาศยั เปน็ การศึกษาเพ่ือตัวผเู้ รยี นเอง ขึน้ อยู่กบั ความสนใจใฝ่รู้ ความพอใจท่ีจะเรียนรู้ ผู้เรียนจึงเปน็ ศูนย์กลางของการเรียนรู้อย่างแทจ้ รงิ เพราะผู้เรยี นเป็นผู้ ตระหนัก รเู้ องว่าเรียนรู้หรือไม่ และผลของการเรียนรู้นนั้ เกดิ ประโยชนอ์ ยา่ งไร ๒. การศกึ ษาตามอธั ยาศัยเป็นวิถีชวี ติ เป็นวฒั นธรรมของมนุษย์ชาติ เพราะมนุษย์ จะเรยี นรู้อยตู่ ลอดเวลา ท้ังท่เี ปน็ ทางการและไม่เป็นทางการ จะตั้งใจหรือไมก่ ็ตามแตไ่ ม่อาจปฏเิ สธ ท่ีจะไมเ่ รยี นรู้ไมไ่ ด้ เพราะการศึกษาตามอธั ยาศยั เป็นสว่ นหนึง่ ของชวี ติ ๓. สงั คมแห่งการเรียนรู้ มกั จะจดั บรรยากาศ สถานการณ์ ตลอดจนสภาพแวดล้อม ทเี่ อ้ืออานวยให้บุคคลไดเ้ รียนร้ตู ามความสนใจ ตามความตอ้ งการของตนเอง เช่นจดั หอ้ งสมดุ ข้ึน ในท่ตี ่างๆท้งั เป็นส่วนหน่งึ ของอาคาร ของสานักงาน หรือจัดเปน็ เอกเทศ เช่นห้องสมดุ ประชาชน

จดั รายการวทิ ยุ รายการโทรทศั น์ ตลอดจนส่อื สารมวลชนต่างๆ รวมทั้งหนังสอื พิมพ์ วารสาร นติ ยสาร ตลอดจนจัดกิจกรรมอนื่ ๆ เช่นป้ายประกาศ หรอื แม้แตก่ ารเรยี นเลน่ เกม การพักผ่อน หย่อนใจ การบนั เทิงตา่ งๆ ซงึ่ ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้อย่างกว้างขวางเป็นการศกึ ษาตามอัธยาศัย ๔. การส่งเสริมให้บคุ คลสามารถเขา้ ถงึ การศกึ ษาตามอธั ยาศัยจะตอ้ งแพร่กระจาย แหลง่ การเรยี นรู้ใหม้ ากข้นึ หลากหลายขนึ้ ใกล้ผู้เรียนขึน้ เพือ่ ใหส้ ะดวกต่อการใชบ้ รกิ าร บทบาท ของนกั การศึกษาตามอธั ยาศัยจะต้องส่งเสรมิ ประสานงาน กระต้นุ หนว่ ยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชนตา่ งๆ ใหจ้ ดั ตง้ั แหล่งการเรยี นรู้ให้มากขนึ้ รวมทั้งให้คาแนะนาในการจัดการ การส่งเสริมมาตรฐาน ๕. การสง่ เสริมการเรียนรู้ตามอัธยาศัยใหก้ ับผเู้ รยี น ควรจะไดร้ บั การพิจารณาให้ ดาเนนิ การให้มากขน้ึ โดยเฉพาะการสรา้ งเสริมเจตคตกิ ารใฝร่ ู้ ความมฉี นั ทะที่จะเรียนรู้ การสร้าง เสรมิ ทกั ษะการเรยี นรู้ตงั้ แตก่ ารสง่ เสรมิ การอ่าน การเขียน การพูด การฟงั ในระดบั ทจี่ ะสามารถ แสวงหาความรู้ได้ และสามารถคดิ วเิ คราะห์เพื่อนาความรู้น้ันไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั เป็นรปู แบบหนงึ่ ของระบบการศึกษาตลอดชีวิต แม้จะอยู่ไดโ้ ดย ลาพังของการศกึ ษาตามอัธยาศัย แต่ก็จะต้องเสรมิ ต่อกบั การศึกษาในระบบ และการศึกษานอก ระบบ จึงจะทาใหก้ ารศกึ ษาของบคุ คลแต่ละคนเกิดประสิทธภิ าพสูงสุดในการพัฒนาตนเอง และ จะเป็นรากฐานของการพัฒนาอ่นื ๆ ตอ่ ไป ๕. ห้องสมุดประชำชนกบั กำรศึกษำตลอดชวี ิต พลังของโลกยุคโลกาภิวตั น์ ท้งั ทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสงั คมทีเ่ กิดขึ้น ประกอบกับประสิทธิภาพของเทคโนโลยสี ารสนเทศทม่ี กี ารพฒั นาไม่หยดุ ยัง้ ทาใหก้ ารเผยแพร่ ขอ้ มูลขา่ วสารการติดตอ่ สือ่ สารระหว่างกันในพนื้ ทีต่ ่างๆ จากทกุ มมุ โลกเปน็ ไปอยา่ งรวดเร็ว ส่งผล ใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญห่ ลวงในสังคม ชุมชนของมนุษยท์ ่ีต้องเผชิญกับความเปน็ จริงของ โลกยคุ ขอ้ มูลข่าวสารที่ฉบั ไว สง่ ผลต่อการดาเนินชีวิตในปจั จบุ นั เปน็ อย่างมาก การรับรู้ การเรยี นรู้ ของบุคคล ครอบครัว ชุมชน และสงั คม จึงเป็นสง่ิ สาคญั และจาเป็นอย่างย่ิง ทจ่ี ะตอ้ งเรียนรู้ สภาพทเ่ี กิดขนึ้ ให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ตลอดชีวติ เพ่อื การปรับตนเอง ครอบครัว สังคม และชมุ ชน รจู้ กั นาสิ่งท่ีได้เรยี นรู้ รบั รู้ มาใช้ให้เกิดประโยชนใ์ นวถิ ชี วี ิตประจาวนั และ สามารถอยู่ในสงั คมยุค โลกาภวิ ตั นไ์ ด้อยา่ งมคี วามสุข การรบั รู้ และเรยี นรูข้ องมนุษย์ สามารถรบั รู้เรยี นร้ไู ด้จากสอื่ สารสนเทศตา่ งๆ ทม่ี ี ทัง้ ทางโทรทศั น์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ อินเทอรเ์ นต็ คอมพิวเตอร์ สือ่ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ ส่ือโสตทัศน์ ภูมิปญั ญา สือ่ มัลติมีเดีย เป็นตน้

พระราชบัญญัตกิ ารศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และแกไ้ ขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ มสี าระสาคัญเพอ่ื พฒั นาคนไทยใหเ้ ปน็ มนุษย์ทสี่ มบรู ณส์ ามารถอยู่ร่วมกบั ผู้อ่ืนไดอ้ ยา่ ง มคี วามสขุ ยดึ หลกั ผูเ้ รียนรทู้ กุ คนมีความสามารถในการเรียนรู้ และพัฒนาตนเองไดโ้ ดยจดั กระบวนการศึกษาท่สี ่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพฒั นาตนเตม็ ศักยภาพ การจัดกิจกรรมให้คนไทย รกั การอา่ น และเกิดการใฝร่ อู้ ย่างตอ่ เน่ือง และสง่ เสรมิ สนบั สนนุ ให้ผู้สอนจดั ส่อื การเรยี น และ อานวยความสะดวก ใหผ้ ูเ้ รียนเกดิ การเรียนรู้ไดท้ กุ สถานท่ี จากขอ้ ความดังกลา่ วข้างต้น แหล่งการเรียนรูส้ าคัญท่ีสุดแหล่งหนงึ่ ทีม่ ีบทบาท ภารกิจ หน้าที่ ไดแ้ ก่ “ห้องสมุดประชาชน” เพราะหอ้ งสมุดประชาชนมภี ารกจิ หน้าท่ใี ห้บริการความร้จู าก สื่อสารสนเทศทุกประเภท ทุกชนดิ ให้กบั ประชาชนในจงั หวดั อาเภอ ตาบล หมู่บา้ นต่างๆทกุ พื้นท่ี ตามความตอ้ งการ ความสนใจ ความจาเปน็ โดยมกี ระบวนการดาเนนิ งาน จดั หา รวบรวมสือ่ สารสนเทศท่ีเหมาะสมกับกล่มุ เป้าหมาย จดั ระบบหมวดหมูส่ ือ่ สารสนเทศ และส่ิงอานวยความ สะดวกในการบริการใหป้ ระชาชนเข้าถงึ สารสนเทศ วางแผนจัดบรกิ าร และจดั กิจกรรมส่งเสริม การอ่านการเรียนรู้ทกุ รปู แบบ ประชาสัมพันธก์ ารดาเนินการจดั บรกิ าร และกจิ กรรม วัดผลและ ประเมินผลความพึงพอใจของผรู้ บั บรกิ าร และนาผลมาพัฒนาการดาเนนิ งานห้องสมุดทกุ ดา้ น อยา่ ง มคี ุณภาพ และต่อเนอื่ งตลอดเวลา เพ่อื ใหป้ ระชาชนคนไทยเป็นบคุ คลแห่งการเรียนรู้ และ สนองนโยบายการสรา้ งสงั คมแห่งการเรียนรู้ ซ่ึงในมาตรา ๒๕ แหง่ พระราชบัญญัติการศกึ ษา แหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้กลา่ วไว้ว่า “รฐั ต้องส่งเสริมการดาเนินงาน และจัดต้ังแหล่งการเรยี นรู้ ตลอดชีวติ ทกุ รูปแบบได้แกห่ ้องสมุดประชาชน...” ดงั นั้นห้องสมุดประชาชนจึงมภี ารกจิ หนา้ ท่ี บทบาทสาคญั ที่สดุ แห่งหน่งึ ในการจัด กระบวนการศกึ ษาตลอดชีวิต

๖. ห้องสมุดมชี ีวติ คาว่า “ห้องสมดุ มีชีวิต” นา่ จะเปน็ คาที่นามาใช้เป็นครัง้ แรกในประเทศไทยโดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ดร.ทกั ษิณ ชินวัตร ซ่ึงได้กล่าวไวใ้ นทต่ี ่างๆ พอสรุปได้ว่า “ห้องสมุดมชี วี ิต เกดิ แล้วโตไม่ใช่ห้องสมุดทเ่ี กดิ แลว้ ตาย โดยซอ้ื หนงั สือไปเก็บแลว้ ไม่มคี นเขา้ ไปอา่ น อยากเหน็ เดก็ ไทยรักการอ่าน โดยพัฒนาห้องสมดุ ใหเ้ ปน็ หอ้ งสมดุ ท่ีมีชีวิต ซง่ึ นอกจากมีหนังสือแล้วตอ้ งมี เคร่อื งมอื อุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ รวมท้ังหอ้ งสมดุ จะต้องเปิดใหป้ ระชาชนได้เข้ามาใช้บรกิ ารได้ ตลอดเวลา” หรือ “หอ้ งสมุดมีชีวติ จะต้องเป็นหอ้ งสมุดท่ีเดก็ เข้าไปอยู่แล้วมีความสุข มคี วามสนกุ มอี าหารการกนิ มีเครื่องเล่นทสี่ ร้างสรรค์ เคร่ืองเล่นทเี่ หมาะสมกบั เด็กในแต่ละวัยมีหนงั สอื ที่ เปลยี่ นแปลงเสมอ มีหนงั สือแปลกๆใหม่ๆใหเ้ ดก็ ๆไดค้ น้ คว้า มีหนังสือหลากหลายประเภท และ ทแี่ น่นอนตอ้ งมคี อมพวิ เตอร์ อินเทอร์เน็ตให้เดก็ ๆได้เรยี นรู้ ห้องสมดุ มชี ีวิต (Living Library) หมายถึงห้องสมดุ ท่ีมีระบบบริหารจัดการ ทรัพยากรสารสนเทศให้ทันสมยั ครบถว้ นสอดคล้องกับความต้องการของผใู้ ช้บรกิ ารเพื่อสร้างสงั คม แหง่ การเรยี นรู้ และสร้างนิสยั รักการอ่านอยา่ งยง่ั ยืนสาหรับบุคคล ทกุ เพศ ทุกวยั ดว้ ยบรรยากาศ ที่ มีชีวติ ชวี า มีการใช้เทคโนโลยีท่เี หมาะสมในการเรียนรู้ สามารถเขา้ ถงึ สารสนเทศได้อยา่ งรวดเรว็ มบี รกิ ารกจิ กรรมสง่ เสรมิ การอา่ นและการเรียนรูอ้ ย่างตอ่ เนอื่ งตลอดชวี ิต แนวทางทจี่ ะทาใหห้ ้องสมุดมชี ีวิตได้จะต้องดาเนนิ การดังนี้ ๑. หอ้ งสมุดจะมชี วี ิตไดจ้ ะต้องมบี ริการ และกิจกรรมที่หลากหลาย โดยมีการจดั ขึ้น ตลอดเวลา ทุกวัน ทุกสปั ดาห์ ทุกเดือนอยา่ งต่อเนื่อง หมนุ เวยี นไป เพอื่ ใหผ้ ใู้ ช้บรกิ ารไดร้ บั บริการ ตามความชอบความสนใจ และกจิ กรรมกค็ วรจดั ใหค้ รอบคลมุ ทง้ั เดก็ เล็ก เดก็ โต วยั รุ่น กลมุ่ วยั ทางาน วยั ผใู้ หญ่ ผู้สูงอายุ เป็นต้น การจัดกิจกรรมถือ เป็นหัวใจของความสาเร็จของห้องสมุด ประชาชน อย่างไรก็ดกี ารจัดกจิ กรรมจานวนมาก และหลากหลายคงไม่ใช่คาตอบทแี่ สดงถึง ความสาเรจ็ ถ้ากจิ กรรมท่ีจดั ข้นึ ไม่มลี กู ค้า หรอื ผเู้ ขา้ ร่วมกจิ กรรม ดงั นั้นการจัดกจิ กรรมจึงต้อง สอดคล้องกบั ความตอ้ งการ และความสนใจของผใู้ ช้บรกิ ารดว้ ยกิจกรรมท่จี ัดในห้องสมดุ ควรเป็น กิจกรรมทด่ี ึงดูดความสนใจ และส่งเสริมใหป้ ระชาชนไดเ้ ข้ารบั บรกิ าร หรือการเข้ารว่ มกิจกรรม ของ ผู้มาใชห้ ้องสมุด หรอื กล่มุ เป้าหมายที่อยใู่ นชุมชนด้วย บริการกจิ กรรมสง่ เสริมการอ่าน สามารถจดั ได้หลายกจิ กรรม เชน่ การประกวดการอ่าน การประกวดเล่านิทาน การแขง่ ขนั การตอบปัญหา การโต้วาที เปน็ ต้น กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ เช่น การค้นควา้ ความรจู้ าก อินเทอร์เน็ต การจัดทาเว็บไซด์ การจดั ทาโฮมเพจ การเขียนหนังสือ การเขยี นการ์ตนู การจัด นทิ รรศการนาเสนอความรู้ต่างๆ การจัดกลมุ่ สนใจ การจัดกจิ กรรมสอนการทาการบ้าน นอกจากน้ี

ควรมกี จิ กรรมเพ่ือส่งเสรมิ การอา่ น และการเรียนรู้สาหรับกล่มุ เป้าหมายท่ีอยู่ในชุมชนดว้ ย เช่น การจดั หอ้ งสมุดเคลือ่ นท่ี การบรกิ ารหนังสอื สปู่ ระตูบา้ น เปน็ ตน้ ๒. ห้องสมุดจะมชี วี ติ ไดจ้ ะต้องมีบรกิ ารความรูข้ ่าวสารข้อมูลที่ทันสมยั รวดเร็ว โดยใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ ไดแ้ กก่ ารศึกษาคน้ ควา้ ข้อมลู ข่าวสารจากอนิ เทอร์เนต็ เพราะปจั จบุ นั อนิ เทอร์เนต็ เปน็ ระบบเครือขา่ ยข้อมูลทวั่ โลกทปี่ ระชาชนนิยมเข้าไปศึกษาหาความรู้ และสร้าง กจิ กรรมความบนั เทิงในรปู แบบเกมออนไลน์ ดังน้นั หอ้ งสมุดประชาชนจะตอ้ งมบี รกิ ารอินเทอร์เน็ต สาหรับผู้ใชบ้ ริการอย่างหลกี เลย่ี งไมไ่ ด้ นอกจากนี้การบริการส่อื เอกสาร และสือ่ อเิ ล็กทรอนิกส์ อืน่ ๆ เพ่ือการการส่งเสริมการศึกษาคน้ คว้ากม็ ีความสาคัญไม่นอ้ ย ไม่วา่ จะเป็นการจัดมุมหนังสอื ประเภทต่างๆตามลักษณะของกล่มุ เปา้ หมาย มุมวิทยาศาสตร์ มมุ ส่ือสาหรบั คนพกิ าร มมุ สอ่ื สาหรับเด็ก และเยาวชน เป็นต้น รวมทัง้ สื่ออปุ กรณ์อิเล็กทรอนกิ ส์ควรมไี วใ้ หบ้ รกิ าร ๓. หอ้ งสมุดจะมีชีวติ ไดจ้ ะตอ้ งจัดบรรยากาศ และสภาพแวดล้อมของห้องสมดุ ให้ เอื้อต่อการศึกษาค้นควา้ ตลอดจนเอื้อตอ่ การจดั กจิ กรรมของสังคมและชุมชน ห้องสมดุ ท่ีมชี ีวิต จะตอ้ งให้ผเู้ ข้ามาใชห้ อ้ งสมดุ ได้รับความสะดวกในการศกึ ษาคน้ ควา้ ตลอดจนเออื้ ตอ่ การจดั กจิ กรรมของสงั คมและชุมชน ห้องสมดุ ท่ีมชี ีวิตจะตอ้ งทาให้ผเู้ ข้ามาใชห้ อ้ งสมุดไดร้ ับความสะดวก ในการศกึ ษาค้นควา้ และการเรียนรู้ มีบรรยากาศของการสร้างแรงจูงใจที่จะศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ย ความรู้สึก สบาย ไม่อดึ อดั ไม่คบั ข้องใจไมเ่ กิดความราคราญ และมีความภาคภมู ิใจท่ีได้รบั ความสาเรจ็ และคุ้มค่าทไี่ ด้เข้ามาใชห้ อ้ งสมุด นอกจากนี้หอ้ งสมดุ นา่ จะเปน็ ส่วนหนึ่งของ ศูนยก์ ลางการจัดกจิ กรรมทางสังคม เพื่อการสร้างสุนทรี และการส่งเสรมิ ศลิ ปวฒั นธรรมตลอดจน ภูมิปัญญาของสังคม และชุมชน ไม่วา่ กลุม่ ใดในชุมชนก็สามารถเข้ามาใช้สถานทข่ี องหอ้ งสมดุ ใน การจัดกจิ กรรมได้ ดังนั้นการจัดบรรยากาศของหอ้ งสมุดจึงเป็นเรอื่ งที่สาคญั ท่จี ะตอ้ งมีการวางแผน ของการออกแบบภายในอาคาร และภายนอกอาคารทีเ่ หมาะสมในแตล่ ะชัน้ จะตอ้ งจัดบรรยากาศ อย่างไร หนังสือแตล่ ะประเภทจะจัดบริการไวต้ รงไหน สอ่ื แตล่ ะประเภทจะจดั อยา่ งไร หอ้ งทางานบรรณารกั ษ์ และเจา้ หน้าที่จะอยตู่ รงไหน และจะตกแตง่ ภายใน และภายนอก อยา่ งไร เป็นส่ิงท่จี ะตอ้ งไดร้ บั การพจิ ารณา และออกแบบใหเ้ หมาะสม ๔. ห้องสมดุ จะมชี วี ิตไดจ้ ะตอ้ งมกี ารบริหารจดั การทม่ี คี ณุ ภาพ และประสทิ ธภิ าพ การบริหารจัดการทม่ี คี ณุ ภาพ และประสิทธิภาพสง่ิ แรกคอื บคุ ลากร ทีเ่ ป็นปัจจัยสาคัญที่สุดบุคคล เหล่าน้ีนอกจากจะตอ้ งมีความรู้ ความเข้าใจในการทางานแล้วยังจะต้องมีใจรกั และมุ่งมั่นศรัทธา ทจ่ี ะพัฒนาห้องสมุดให้เป็นหอ้ งสมุดทม่ี ีชีวติ ทางานด้วยหวั ใจ ไมใ่ ช่เฉพาะทางานตามหน้าที่เทา่ นั้น

งานห้องสมดุ เปน็ งานบริการทจ่ี ะต้องอาศัยทั้งความอดทน และการมมี นษุ ยสัมพันธท์ ่ดี ี เราต้อง สร้างบคุ ลากรทมี่ คี ุณภาพเกดิ ขึ้นใหไ้ ด้ ถ้าเอาคนทไ่ี ม่มีอะไรทามาทางานห้องสมุดความฝนั ทอี่ ยาก เหน็ หอ้ งสมุดประชาชนเป็นหอ้ งสมดุ ทีม่ ชี ีวิตคงไปไมถ่ ึงแนน่ อน นอกจากการบรหิ ารจดั การทม่ี คี ุณภาพควรจะตอ้ งมองถงึ ระบบการทางาน และ เครือ่ งมืออปุ กรณ์ เทคโนโลยีท่ีนามาใช้ ห้องสมดุ ประชาชนจะตอ้ งพัฒนาระบบการปฏิบัติงานจาก รูปแบบเดิมมาใช้รปู แบบท่ีทนั สมัย เช่นใชค้ อมพวิ เตอร์ แมจ้ ะมบี ุคลากรน้อยกส็ ามารถใหบ้ ริการได้ ๕. หอ้ งสมุดจะมชี ีวิตได้ห้องสมดุ ประชาชนจะต้องรว่ มมอื และประสานกับเครือข่าย และชุมชน เพราะเจา้ ของห้องสมุดทแี่ ทจ้ ริงคือชมุ ชนจงึ เปน็ หน้าท่สี าคญั ของผู้ปฏบิ ตั งิ านท่ีจะต้อง แสวงหาแนวทางให้ชุมชนได้เขา้ มามสี ่วนร่วมใหม้ ากที่สุด รวมทั้งการสร้างและประสานเครือขา่ ย บคุ คลหน่วยงาน องค์กร และสถาบนั ตา่ งๆได้เข้ามามีบทบาทสาคัญในการชว่ ยเหลอื สนับสนนุ การดาเนนิ งานของหอ้ งสมุด ทง้ั ในดา้ นการให้บริการ การจดั กจิ กรรม และการบรหิ ารจดั การ ใน การดาเนนิ งานควรจะไดม้ กี ารสร้างแรงจูงใจกับหน่วยงานเครือข่ายทม่ี ารว่ มดาเนนิ การโดยการยก ย่องให้รางวลั และการประกาศเกียรตคิ ุณใหป้ รากฏกับสงั คมและชุมชน การทห่ี อ้ งสมดุ ประชาชนเปน็ ห้องสมดุ ที่มีชวี ิต ส่ิงสาคญั ที่สดุ น่าจะอยู่ทค่ี วามมงุ่ ม่นั ของ ผบู้ รกิ าร และปฏิบตั งิ านทตี่ อ้ งการพฒั นาห้องสมดุ ประชาชนจากสภาพทแ่ี หง้ แล้ง จากสภาพทรดุ โทรม จากสภาพท่จี ดั กจิ กรรมแบบเดิมๆ ใหม้ าเป็นห้องสมุดทมี่ ีชีวติ ชีวา เป็นห้องสมุดทผี่ ู้ใช้ ต้องการใหม้ า ใชบ้ รกิ ารจาเป็นอย่างย่งิ ทจ่ี ะตอ้ งเกดิ จากแรงบนั ดาลใจ เกดิ จากความรกั และความ สนกุ ท่ีจะทาให้เกดิ ขึน้ โดยจะตอ้ งคิด และลงมือทาให้เกดิ ข้นึ ทันทใี นรูปแบบของตนเองพยายาม แสวงหาแนวทาง และความร่วมมือจากเครอื ขา่ ย และชุมชน มีการจดั กิจกรรมทห่ี ลากหลาย ตอ่ เนื่อง ไม่หยุดนง่ิ มคี วามเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพือ่ นาไปสู่เป้าหมายสาคัญคือ ให้ผูใ้ ช้บริการได้แสวงหาความรูข้ ้อมลู ข่าวสารตลอดจนศกึ ษา และเรยี นรู้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ โดยสะดวก รวดเร็ว มคี วามสขุ และมคี วามประทับใจตลอดไป

บทท่ี ๓ วธิ กี ำรดำเนินงำน การดาเนนิ งานจดั กจิ กรรมตาม โครงการพฒั นาห้องสมุดให้เป็นศูนยก์ ลางการเรียนรู้ ของชมุ ชน ในบทนีจ้ ะกลา่ วถึงวธิ ีการดาเนินงานตามลาดับ ดงั นี้ ๑. ขน้ั ตอนการดาเนนิ งาน ๒. กลมุ่ เป้าหมายในการประเมนิ ๓. เครือ่ งมือที่ใชใ้ นการเก็บขอ้ มลู ๔. การดาเนินการประเมนิ ๕. การเก็บรวบรวมข้อมลู และการจัดกระทากับขอ้ มลู ๖. การวิเคราะหข์ อ้ มลู ๑. ขัน้ ตอนกำรดำเนนิ งำน การดาเนนิ งานจัดกิจกรรมตามโครงการพฒั นาห้องสมดุ ให้เปน็ ศนู ยก์ ลางการเรียนรู้ ของชุมชนมวี ธิ กี ารดาเนินการ ดงั นี้ ๑. ขนั้ วำงแผน ๑.๑ ศกึ ษาสภาพปญั หา เกย่ี วกับการอ่านของประชาชนในอาเภออุทัย และ สารวจความตอ้ งการของประชาชนทัว่ ไปในอาเภออทุ ัย เพ่ือศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการ เกี่ยวกับการอ่านของประชาชนในอาเภออทุ ัย เห็นวา่ ต้องการใหจ้ ดั กจิ กรรมส่งเสริมการอ่านที่ สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของแต่ละกลมุ่ เปา้ หมายทั้งภายใน และภายนอกห้องสมดุ ๑.๒ ศกึ ษาแนวทาง วธิ ีการแก้ไขปญั หา และรปู แบบของกจิ กรรม ตามความ ต้องการของประชาชนทั่วไป ท่ไี ด้จากขอ้ ๑.๑ สรุปว่า ไดแ้ นวทางการแก้ปัญหา เรียงตามลาดับ ความสาคัญที่สามารถดาเนินการได้ทนั ที คือการสร้างนสิ ยั การรักการอ่าน การเรียนรู้ใหแ้ กเ่ ด็ก เยาวชน และประชาชนท่ัวไป ศึกษาแนวทาง วิธกี ารแก้ไขปัญหา และรปู แบบของกิจกรรม จาก เอกสารทเ่ี กย่ี วข้อง ด้วยการจัดกจิ กรรมโครงการพัฒนาห้องสมดุ ให้เป็นศนู ย์กลางการเรียนรู้ของ ชุมชน ๑.๓ จัดทาแผนงานโครงการพฒั นาห้องสมุดให้เปน็ ศูนย์กลางการเรียนรูข้ องชุมชน กาหนดกิจกรรมเพ่ือนาไปส่กู ารแกป้ ัญหา และตรงตามความต้องการของผู้รับบริการ ดังแสดงใน ข้ันตอนการดาเนนิ งาน

๒. ขน้ั ดำเนนิ กำร ดาเนนิ งานตามแผนพฒั นางาน โครงการพฒั นาห้องสมดุ ให้เป็นศนู ย์กลางการ เรยี นรู้ของชุมชน กจิ กรรมเพอ่ื นาไปสกู่ ารแก้ปญั หา และตรงตามความต้องการของผู้รบั บริการ ดังนี้ ๒.๑ จดั ทาปฏทิ ินการดาเนนิ งาน ๒.๒ คดั เลือกสื่อ และกิจกรรมทเ่ี หมาะสมตรงตามความต้องการ ๒.๓ สร้างเคร่ืองมอื ประเมนิ คอื แบบประเมนิ ความคิดเห็นตอ่ การเข้าร่วม โครงการ/กจิ กรรมสง่ เสริมการอ่าน ๒.๔ ประชมุ ชี้แจง บคุ ลากรของ กศน.อาเภออุทยั และผู้มสี ่วนเกย่ี วขอ้ ง ๒.๕ จดั กิจกรรมตามแผนดาเนินงาน ต้ังแต่ ตลุ าคม ๒๕๖๒ - กันยายน ๒๕๖๓ ๓. ขัน้ ตดิ ตำม และประเมนิ ผล เก็บรวบรวมขอ้ มลู จากแบบประเมนิ ความคดิ เหน็ ตอ่ การเขา้ ร่วมโครงการ/กิจกรรม พฒั นาหอ้ งสมุดให้เปน็ ศนู ยก์ ลางการเรยี นรขู้ องชุมชน ๔. ขน้ั สรุปรำยงำนผล ๔.๑ บรรณารกั ษ์ และผู้มีสว่ นเก่ียวขอ้ งวิเคราะหข์ ้อมูลร่วมกัน เสนอแนะ จุดท่ยี งั มปี ัญหาเพือ่ พัฒนา และปรบั ปรงุ ๔.๒ สรุปรายงานผลการดาเนินการกิจกรรม เพ่ือใช้เปน็ แนวทางในการดาเนิน กิจกรรมอย่างต่อเน่ือง ๒. กลมุ่ เป้ำหมำยในกำรประเมิน กลุม่ เป้าหมายในการประเมนิ คอื ประชาชนท่ัวไป ทเี่ ข้ารว่ มโครงการ/กจิ กรรมพฒั นา หอ้ งสมุดใหเ้ ปน็ ศูนยก์ ลางการเรียนรขู้ องชุมชน ระหว่าง ตุลาคม ๒๕๖๒ - กันยายน ๒๕๖๓ จานวน ๒๕๐ คน โดยใช้แบบประเมินความคิดเหน็ ของผเู้ ขา้ รว่ มกิจกรรม

๓. เคร่ืองมือทใี่ ช้ในกำรเกบ็ ข้อมลู เครือ่ งมือทีใ่ ชใ้ นการรวบรวมขอ้ มูล เป็นแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้รบั บรกิ าร โครงการพฒั นาหอ้ งสมุดให้เป็นศนู ย์กลางการเรยี นรู้ของชมุ ชน แก่ประชาชนในอาเภออทุ ัย โดย แยกเป็น ๓ ตอนดังนี้ ตอนที่ ๑ ขอ้ มลู ทว่ั ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม ตอนท่ี ๒ ขอ้ มูลแบบประเมนิ ความคดิ เห็นตอ่ การเขา้ รว่ มโครงการพัฒนาหอ้ งสมุดให้ เป็นศูนยก์ ลางการเรียนรู้ของชมุ ชน ตอนท่ี ๓ ขอ้ คดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะ ๔. กำรดำเนินกำรประเมิน การดาเนนิ การประเมินกิจกรรม โครงการพัฒนาห้องสมดุ ใหเ้ ปน็ ศูนยก์ ลางการเรียนรู้ ของชุมชน ผูป้ ระเมินมีวธิ ีดาเนนิ การ คอื หลงั ดาเนินการ ดาเนินกิจกรรมแต่ละครัง้ ของโครงการ พฒั นาหอ้ งสมดุ ใหเ้ ปน็ ศนู ยก์ ลางการเรยี นรู้ของชมุ ชน ระหว่าง ตุลาคม ๒๕๖๒ - กนั ยายน ๒๕๖๓ โดยผปู้ ระเมินได้นาเครื่องมือแบบประเมินความคดิ เหน็ ของผเู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมโครงการพัฒนา ห้องสมดุ ใหเ้ ปน็ ศูนย์กลางการเรียนรูข้ องชุมชน ใหผ้ ู้เขา้ รว่ มกิจกรรมแต่ละครั้งทาแบบประเมนิ ความคิดเหน็ ต่อการเข้ารว่ มกิจกรรม/โครงการ เมือ่ ส้นิ สดุ โครงการเกบ็ รวบรวมข้อมลู ไวว้ เิ คราะห์ ตอ่ ไป ๕. กำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และกำรจดั ทำกบั ขอ้ มูล ๑. การเก็บรวบรวมขอ้ มลู ผปู้ ระเมินเก็บรวบรวมข้อมูลการเขา้ รว่ มกจิ กรรม/โครงการพฒั นาหอ้ งสมุดให้เปน็ ศนู ยก์ ลางการเรียนรูข้ องชุมชน ตอบแบบประเมินความคดิ เห็นของผู้เข้ารว่ มกิจกรรมหลงั เสร็จสิ้น การดาเนินกิจกรรมแตล่ ะครง้ั ๒. การจดั กระทากับขอ้ มลู ผปู้ ระเมินไดน้ าข้อมลู ที่เก็บรวบรวมขอ้ มลู จากเครื่องมอื การประเมนิ คอื แบบประเมนิ ความคิดเหน็ ของผเู้ ขา้ ร่วมกิจกรรม/โครงการพฒั นาหอ้ งสมุดให้เป็นศูนยก์ ลางการ เรยี นรูข้ องชุมชน นามาตรวจสอบความสมบูรณ์โดยผู้เขา้ ร่วมกจิ กรรม/โครงการต้องตอบทกุ ตอน ยกเวน้ ขอ้ คดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะ ตอ่ จากน้นั ผูป้ ระเมินนาเครื่องมือการประเมินที่มีความสมบรู ณ์ไป ตรวจให้คะแนนตามลักษณะของเคร่อื งมือการประเมินรวบรวมขอ้ มลู ท่ไี ด้ไปวเิ คราะห์ข้อมูลตอ่ ไป

๖. กำรวิเครำะหข์ อ้ มูล การวิเคราะหข์ ้อมลู แบบประเมนิ ความคดิ เห็นของผู้เขา้ รว่ มกจิ กรรม/โครงการพฒั นา ห้องสมดุ ให้เป็นศนู ยก์ ลางการเรียนร้ขู องชุมชน โดยมขี น้ั ตอนต่าง ๆ ดงั ตอ่ ไปนี้ ตอนที่ ๑ ขอ้ มูลทัว่ ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม วิเคราะหโ์ ดยคานวณค่าร้อยละ จากจานวนคาถาม ๔ ขอ้ ตอนที่ ๒ ขอ้ มลู ความคดิ เหน็ ตอ่ กจิ กรรม/โครงการพฒั นาห้องสมดุ ให้เปน็ ศูนยก์ ลางการเรียนรูข้ องชุมชน มากน้อยเพยี งใด โดยคานวณหาค่าเฉลย่ี (  ) และ จากจานวน คาถาม ๑๐ ขอ้ ตอนท่ี ๓ ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ กาหนดเกณฑ์ตามมาตราสว่ นของ Likert ๕ ช่วงคอื มากท่ีสดุ มาก ปานกลาง นอ้ ย และน้อยท่สี ดุ ใช้เกณฑก์ ารแปลงค่าความหมายของคา่ เฉลยี่ แบบองิ เกณฑข์ องการแบง่ ค่าออกเปน็ ๕ ระดับ ดังนี้ ๑.๐๐ - ๑.๔๙ หมายถึง น้อยท่สี ุด ๑.๕๐ - ๒.๔๙ หมายถึง น้อย ๒.๕๐ - ๓.๔๙ หมายถงึ ปานกลาง ๓.๕๐ - ๔.๔๙ หมายถงึ มาก ๔.๕๐ - ๕.๐๐ หมายถึง มากท่ีสุด

บทท่ี ๔ ผลกำรดำเนนิ งำน ห้องสมดุ ประชาชนอาเภออุทยั ไดจ้ ัดทาโครงการโครงการพฒั นาห้องสมดุ ให้เป็น ศนู ย์กลางการเรียนรขู้ องชุมชน ๒ เมษายน ของทกุ ปี เปน็ วันรกั การอ่านโดยมคี วามมุ่งหมายทีจ่ ะ รณรงคส์ ง่ เสริมใหค้ นไทยมีนสิ ัยรกั การอ่าน รักการเรียนรู้ เพ่ือมุ่งสู่การเป็นสงั คมแหง่ การเรยี นรู้ ตลอดชวี ิต การอ่านเป็นวาระสาคญั ทป่ี ระชาชนคนไทยทุกคนต้องใหค้ วามสาคัญ และเป็นทกั ษะ พื้นฐานในการแสวงหาความรู้ ในยคุ ปัจจุบนั ซง่ึ จะทาให้คนไทยไดเ้ รยี นร้ตู ลอดชีวิตอย่าง มคี ุณภาพ สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ มนี โยบาย และจุดเนน้ การดาเนนิ งาน ดา้ นการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ การศึกษาตามอธั ยาศัย สง่ เสรมิ ให้มีการพฒั นาแหล่งเรียนรใู้ นระดบั ตาบล เพ่ือการถ่ายทอดองค์ ความรู้ และจดั กิจกรรมเพื่อเผยแพร่องค์ความรูใ้ นชุมชนไดอ้ ยา่ งทว่ั ถงึ จดั กิจกรรมสง่ เสริม การเรียนรเู้ พื่อปลกู ฝงั นสิ ยั รักการอา่ น และพฒั นาความสามารถในการอา่ นและศักยภาพ การเรียนรูข้ องประชาชนทุกกลมุ่ เป้าหมาย สง่ เสริมให้มี การสรา้ งบรรยากาศ และส่งิ แวดลอ้ ม ท่เี อื้อต่อการอ่านให้เกิดข้นึ ในสังคมไทย โดยสนับสนุนการพฒั นาแหล่งการเรียนร้ใู ห้เกิดข้ึนอยา่ ง กว้างขวางและท่ัวถงึ เชน่ พัฒนาห้องสมดุ ประชาชนให้เปน็ แหลง่ เรียนรูต้ ลอดชีวิตของชมุ ชน สง่ เสริมและสนับสนุนอาสาสมคั รส่งเสริมการอ่าน การสร้างเครือข่ายส่งเสริมการอ่าน จัดหน่วย บรกิ ารเคลอื่ นที่พร้อมอุปกรณเ์ พือ่ จดั กจิ กรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย ใหบ้ รกิ ารกับประชาชนในพนื้ ทต่ี ่างๆ อยา่ งทัว่ ถงึ สม่าเสมอรวมท้ังเสริมสรา้ งความพร้อมในด้าน ส่อื อุปกรณ์เพอื่ สนบั สนนุ การอ่าน และการจดั กิจกรรมเพอื่ ส่งเสริมการอา่ นอย่างหลากหลาย ดงั นัน้ ห้องสมุดประชาชนอาเภออุทัย จงึ ไดจ้ ัดโครงการน้ขี ึ้นมาเพื่อเปน็ การบริการ ประชาชน ทกุ เพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ ซ่งึ เปน็ การส่งเสริมให้ประชาชนไดเ้ รยี นรดู้ ้วยความสะดวก รวดเร็ว มีความสุข มีความประทับใจ หอ้ งสมดุ มกี ิจกรรมที่หลากหลายในการให้บรกิ าร เพื่อ นาไปสู่การส่งเสรมิ การอา่ นและการเรียนรู้ตลอดชวี ิตต่อไป

๑. กิจกรรมส่งเสริมกำรเรยี นรู้ รปู แบบกำรจดั กจิ กรรม กศน.ตาบลธนู จดั กิจกรรมสง่ เสริมการเรียนรู้ ให้กับประชาชนท่ัวไป ทโ่ี รงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตาบลธนู หม่ทู ี่ ๑๐ ตาบลธนู ในวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๒ มีกจิ กรรมดงั นี้ ๑. การพบั ใบเตยดอกกหุ ลาบ ผลกำรจัดกจิ กรรม ผลการจดั กิจกรรมสง่ เสริมการเรียนรู้ สาหรบั ประชาชนทั่วไป มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมท้ังหมด ๔๔ คน ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รบั ความร้แู ละการเรียนรรู้ ว่ มกนั จากกิจกรรมทีน่ าออกไปให้บรกิ าร เป็นการส่งเสริมการเรยี นรู้ เพอื่ ใหผ้ ู้เข้ารว่ มกิจกรรมนาความรู้ทไ่ี ด้ไปใชใ้ นการดาเนนิ ชวี ติ ต่อไป กำรพับใบเตยดอกกุหลำบ

๒. กจิ กรรมส่งเสรมิ กำรอำ่ นสำหรับผสู้ ูงอำยุ รูปแบบกำรจดั กจิ กรรม กศน.ตาบลบา้ นช้าง จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรใู้ ห้กบั ผ้สู ูงอายุ ที่กศน. ตาบลบ้านชา้ ง ตาบลบ้านช้าง ในวนั ท่ี ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๒ มีกิจกรรมดงั น้ี ๑. กจิ กรรมปฏิทินสง่ เสริมการอ่านด้วย QR Code ๒. กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรียนรูด้ ้วย Power Point เร่ืองสรรพคณุ ของผกั ผลไม้ ผลกำรจดั กจิ กรรม ผลการจดั กิจกรรมส่งเสรมิ การอา่ นและการเรยี นรสู้ าหรบั ผสู้ งู อายุ มีผเู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรม ทั้งหมด ๔๐ คน ผู้เขา้ ร่วมกจิ กรรมได้รับความรู้และการเรียนรู้รว่ มกันจากกิจกรรมทนี่ าออกไป ใหบ้ ริการเป็นการสง่ เสริมการอา่ น และการเรียนรู้ เพือ่ ใหผ้ ู้สงู อายุไม่ลืมหนงั สือชว่ ยในการพฒั นา สมองไมใ่ หเ้ ปน็ โรคความจาเสอ่ื ม ปฏิทินส่งเสรมิ กำรอ่ำนด้วย QR Code Power Point เร่ืองสรรพคณุ ของผกั ผลไม้

๓. กจิ กรรมสง่ เสรมิ กำรอำ่ นและกำรเรียนรู้ในศูนย์พัฒนำเด็กเล็ก รูปแบบกำรจัดกจิ กรรม ห้องสมดุ ประชาชนอาเภออุทัยร่วมกับกศน.ตาบลอุทัย จดั กิจกรรมสง่ เสรมิ การอ่าน และ การเรียนรูใ้ ห้กบั เด็กปฐมวัย ทศ่ี ูนย์พัฒนาเดก็ เล็กเทศบาลตาบลอุทยั ตาบลอุทัย ในวนั ท่ี ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๒ มกี จิ กรรมดงั น้ี ๑. บริการหนงั สอื ส่งเสรมิ การอา่ น ๒. รูปภาพระบายสี ๓ มิติ ๓. เลา่ นิทาน ผลกำรจัดกิจกรรม ผลการจัดกจิ กรรมส่งเสรมิ การอา่ นและการเรียนรู้ในศูนย์พัฒนาเดก็ เล็กเทศบาลตาบลอุทัย มผี ูเ้ ขา้ รว่ มกิจกรรมท้งั หมด ๖๓ คน ผู้เขา้ ร่วมกิจกรรมได้รับความรู้และการเรียนรู้รว่ มกนั จาก กิจกรรมทห่ี ้องสมุดประชาชนอาเภออุทัย ร่วมกับกศน.ตาบลอุทัย นาออกไปให้บริการเปน็ การสง่ เสริม การอา่ น และการเรียนรู้ เพื่อให้เด็กรักการอ่านในอนาคตเด็กจะได้เหน็ ความสาคญั ของการอ่านอย่าง ตอ่ เนอื่ ง และได้เรยี นรทู้ กั ษะพัฒนาการในด้านตา่ งๆร่วมกัน บริกำรหนังสอื ส่งเสรมิ กำรอ่ำน รูปภำพระบำยสี ๓ มติ ิ เลำ่ นทิ ำน ผเู้ ข้ำร่วมกจิ กรรม

๔. กจิ กรรมวนั เด็ก รูปแบบกำรจัดกิจกรรม หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภออุทัย กศน.ตาบลอุทยั ร่วมกบั เทศบาลตาบลทัย จัดกจิ กรรม วนั เดก็ ท่ีเทศบาลตาบลอุทยั ในวนั ที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. มีกจิ กรรมดงั น้ี ๑. ระบายสีหน้ากากสตั วแ์ ฟนซี ๒. เกมตา่ งๆ ภำพรว่ มกิจกรรมวนั เดก็ ทเ่ี ทศบำลอุทัย

กศน.ตาบลหนองไมซ้ งุ จัดกิจกรรมวนั เดก็ ที่ โรงเรียนวดั สนามทอง ในวันท่ี ๑๐ มกราคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. มกี ิจกรรมดังน้ี ๑. ขวดเทอร์นาโด ๒. เกมตา่ งๆ ภำพรว่ มกจิ กรรมวันเดก็ ท่ีโรงเรียนวดั สนำมทอง

กศน.ตาบลธนู จดั กจิ กรรมวันเดก็ ร่วมกับองค์การบรหิ ารส่วนตาบลธนู ในวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. มีกิจกรรมดงั นี้ ๑. ระบายสีตุ๊กตาปูนปลาสเตอร์ ๒. เกม Wood toys ภำพรว่ มกจิ กรรมวันเดก็ ท่อี งค์กำรบริหำรส่วนตำบลธนู

กศน.ตาบลบ้านช้าง ร่วมกับองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบลบา้ นช้าง จัดกิจกรรมวนั เด็กที โรงเรยี นบ้านช้าง ในวันท่ี ๑๑ มกราคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๘.๓๐-๑๒.๐๐ น. มีกิจกรรมดงั น้ี ๑. Boxing English for fun ๒. เกมต่างๆ ภำพร่วมกจิ กรรมวันเดก็ ทโ่ี รงเรยี นบำ้ นช้ำง

กศน.ตาบลคานหาม รว่ มกับองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบลคานหาม จัดกจิ กรรมวนั เด็ก ท่วี ัดโคกมะยม ตาบลคานหาม ในวนั ที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๐๐-๑๓.๐๐ น. มีกิจกรรมดังนี้ ๑. หนนู ้อยคนเก่งเปน็ กจิ กรรมบนเวที มตี อบคาถาม ร้องเพลง เล่นเกม ๒. ระบายสหี นา้ กากรูปสตั ว์แฟนซี ๓. ระบายสถี ุงผา้ ลดโลกร้อน ๔. ระบายสีตุ๊กตาปูนปลาสเตอร์ ภำพร่วมกจิ กรรมวันเด็กท่ีวัดโคกมะยม

กศน.ตาบลบา้ นหบี รว่ มกับองค์การบริหารส่วนตาบลบ้านหบี จัดกจิ กรรมวนั เดก็ ทอี่ งคก์ ารบริหารส่วนตาบลบา้ นหีบ ในวนั ท่ี ๑๑ มกราคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๘.๓๐ – ๑๒.๐๐ น. มีกจิ กรรมดังนี้ ๑. ขวดเทอรน์ าโด ๒. เกมต่างๆ ภำพร่วมกิจกรรมวนั เดก็ ท่ีองค์กำรบรหิ ำรตำบลบำ้ นหบี ผลกำรจัดกิจกรรมวันเดก็ ผลการจดั กจิ กรรมวนั เดก็ ให้กับเด็กในพ้ืนท่ีตาบลอุทัย ตาบลหนองไมซ้ ุง ตาบลธนู ตาบลบ้านชา้ ง ตาบลคานหาม ตาบลบ้านหบี มผี ้เู ข้าร่วมกิจกรรมท้งั หมด ๑,๑๕๑ คน ผู้เขา้ ร่วมกจิ กรรมได้รบั การเรยี นรกู้ ารทางานรว่ มกัน มคี วามสุขสนุกสนาน กับกิจกรรมทีใ่ ห้บริการ เปน็ การส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกันของเด็กๆ

๕. กิจกรรมส่งเสริมกำรเรียนรู้ รูปแบบกำรจดั กิจกรรม ห้องสมดุ ประชาชนอาเภออุทัย รว่ มกับกศน.ตาบลธนู จัดกิจกรรมสง่ เสริมการเรยี นรู้ ใหก้ บั เดก็ นักเรยี นโรงเรียนวัดขนุ ทิพย์ระดบั ประถมศึกษาปีที่ ๖ ในวนั ท่ี ๒๗ มกราคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๓.๐๐-๑๕.๐๐ น. มกี ิจกรรมดงั น้ี ๑. ตุ๊กตาการบูร ผลกำรจดั กิจกรรม ผลการจดั กิจกรรมสง่ เสริมการเรียนรู้ สาหรับเด็กระดบั ประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรยี น วดั ขนุ ทพิ ย์ มผี ู้เขา้ ร่วมกจิ กรรมทัง้ หมด ๑๘ คน ผู้เขา้ รว่ มกจิ กรรมได้รบั ความรแู้ ละการเรยี นรู้ รว่ มกนั จากกจิ กรรมที่ห้องสมดุ ประชาชนอาเภออุทัย ร่วมกบั กศน.ตาบลธนู นาออกไปใหบ้ รกิ าร เป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกจิ กรรมนาความรู้ท่ีไดไ้ ปใช้ในการดาเนนิ ชีวติ ตอ่ ไป ภำพกจิ กรรมตุ๊กตำกำรบูร

๖. กิจกรรมส่งเสรมิ กำรอำ่ นและสง่ เสริมกำรเรยี นรู้ รปู แบบกำรจัดกิจกรรม หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภออทุ ัย ร่วมกบั กศน.ตาบลโพสาวหาญ จดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การอ่าน และสง่ เสรมิ การเรียนรู้ ห้องสมุดเคลื่อนที่ ใหก้ บั เด็กนกั เรียนโรงเรยี นวัดโพธ์สิ าวหาญ ในวนั ท่ี ๓๐ มกราคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. มกี ิจกรรมดังน้ี ๑. บรกิ ารหนังสือเสรมิ การอ่าน ๒. พวงกุญแจไหมพรม ๓. ไกก่ ระต๊าก ๔. Wood toys ๕. บงิ โกมาตราตัวสะกด ๖. ระบายสหี นา้ กากรูปสัตว์แฟนซี ๗. เกมหาคาศพั ท์ ผลกำรจดั กจิ กรรม ผลการจัดกจิ กรรมสง่ เสรมิ การอา่ นและการเรียนรู้ ให้กับเดก็ นกั เรียนโรงเรยี นวดั โพธ์ิสาวหาญ ตาบลโพสาวหาญ มผี ู้เขา้ ร่วมกจิ กรรม ท้ังหมด ๘๗ คน ผ้เู ขา้ รว่ มกิจกรรมได้รับการเรยี นรู้ จากกจิ กรรมท่ีหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภออทุ ยั ร่วมกศน.ตาบลโพสาวหาญ นาออกไปให้บริการ เปน็ การส่งเสรมิ การอ่านและการเรยี นรู้ เพ่ือให้เดก็ รกั การอา่ นและการเรยี นรู้ร่วมกนั ในอนาคตเด็ก จะได้เห็นความสาคัญของการอ่านและการเรยี นรู้ เพื่อนาความรู้ที่ได้ไปใชใ้ นการดาเนนิ ชีวติ ตอ่ ไป บรกิ ำรหนงั สอื เสริมกำรอำ่ น พวงกญุ แจไหมพรม

ไก่กระต๊ำก Wood toys บงิ โกมำตรำตัวสะกด ระบำยสีหน้ำกำกรูปสัตวแ์ ฟนซี เกมหำคำศพั ท์ สรปุ ผลกำรเขำ้ ร่วมกจิ กรรม

๗. กิจกรรมสง่ เสริมกำรอำ่ นและกำรเรียนรู้ในศูนยพ์ ัฒนำเดก็ เล็ก รูปแบบกำรจดั กิจกรรม ห้องสมดุ ประชาชนอาเภออทุ ยั รว่ มกบั กศน.ตาบลข้าวเม่า จดั กจิ กรรมส่งเสรมิ การอ่าน และการเรียนรู้ใหก้ บั เด็กปฐมวัย ที่ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เล็กโรงเรยี นวดั สะแก ตาบลขา้ วเม่า ในวนั ที่ ๕ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๓ มกี ิจกรรมดงั น้ี ๑. บริการหนงั สอื ส่งเสรมิ การอา่ น ๒. ระบายสหี น้ากากรูปสัตว์แฟนซี ๓. รปู ภาพระบายสี ๓ มิติ ผลกำรจัดกจิ กรรม ผลการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การอา่ นและการเรียนรู้ในศูนยพ์ ฒั นาเดก็ เล็กโรงเรียนวัดสะแก ตาบลข้าวเม่า มีผ้เู ขา้ ร่วมกจิ กรรมทัง้ หมด ๓๗ คน ผ้เู ข้ารว่ มกิจกรรมไดร้ ับความรูแ้ ละการเรียนรู้ รว่ มกันจากกิจกรรมทีห่ ้องสมุดประชาชนอาเภออุทัย ร่วมกบั กศน.ตาบลขา้ วเม่า นาออกไป ใหบ้ ริการเป็นการส่งเสรมิ การอา่ น และการเรียนรู้ เพอ่ื ใหเ้ ด็ก รกั การอ่าน ในอนาคตเด็กจะได้ เหน็ ความสาคญั ของการอ่านอย่างต่อเนือ่ ง และได้เรยี นรู้ทกั ษะพฒั นาการในดา้ นตา่ งๆรว่ มกัน บริกำรหนังสอื ส่งเสรมิ กำรอ่ำน ระบำยสหี นำ้ กำกรูปสตั วแ์ ฟนซี รูปภำพระบำยสี ๓ มิติ ผูเ้ ขำ้ ร่วมกจิ กรรม

๘. กิจกรรมส่งเสรมิ กำรอำ่ นและส่งเสริมกำรเรยี นรู้ รูปแบบกำรจัดกิจกรรม ห้องสมดุ ประชาชนอาเภออทุ ัย รว่ มกบั กศน.ตาบลสามบณั ฑิต จดั กจิ กรรมส่งเสรมิ การอ่าน และสง่ เสริมการเรยี นรู้ ห้องสมุดเคลือ่ นท่ี ให้กับเด็กนกั เรยี นโรงเรียนวัดดอนพุดชา ในวันท่ี ๖ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. มกี ิจกรรมดงั นี้ ๑. บรกิ ารหนงั สือเสรมิ การอา่ น ๒. พวงกญุ แจไหมพรม ๓. ไกก่ ระตา๊ ก ๔. Wood toys ๕. บงิ โกมาตราตัวสะกด ๖. Hands and Feed jumping ๗. ตุ๊กตาโยกเยก ๘. ฝกึ สมองประลองปัญญา ผลกำรจดั กจิ กรรม ผลการจดั กจิ กรรมส่งเสรมิ การอา่ นและการเรยี นรู้ ใหก้ บั เดก็ นักเรียนโรงเรยี นวดั ดอนพดุ ชา ตาบลสามบัณฑิต มีผู้เขา้ รว่ มกิจกรรม ท้งั หมด ๑๐๓ คน ผเู้ ข้าร่วมกิจกรรมได้รบั การเรียนรู้ จากกจิ กรรมท่ีหอ้ งสมุดประชาชนอาเภออทุ ัย รว่ มกศน.ตาบลสามบัณฑิต นาออกไปให้บรกิ าร เป็นการส่งเสรมิ การอ่านและการเรยี นรู้ เพอ่ื ให้เดก็ รักการอ่านและการเรยี นรู้รว่ มกัน ในอนาคตเดก็ จะไดเ้ หน็ ความสาคัญของการอ่านและการเรียนรู้ เพือ่ นาความรู้ทไี่ ด้ไปใชใ้ นการดาเนินชวี ติ ตอ่ ไป บริกำรหนงั สอื เสริมกำรอำ่ น พวงกุญแจไหมพรม

ไก่กระต๊ำก Wood toys บงิ โกมำตรำตวั สะกด Hands and Feed jumping ตกุ๊ ตำโยกเยก ฝึกสมองประลองปญั ญำ

๙. กิจกรรมส่งเสริมกำรอำ่ น ๒ เมษำรักกำรอำ่ น รูปแบบกำรจัดกจิ กรรม หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภออทุ ยั จดั กิจกรรมวนั รักการอ่าน ในช่วงวนั ท่ี ๒๐ มีนาคม ถึงวนั ท่ี ๓๐ เมษายน ๒๕๖๓ มกี จิ กรรมดังน้ี ๑. นิทรรศการพระราชประวัติ และหนงั สอื พระราชนิพนธส์ มเดจ็ พระกนิษฐาธิราชเจา้ กรมสมเดจ็ เทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี ๒. จัดบอร์ดให้ความรู้เกย่ี วกับโรค COVID- 19 ๓. สง่ เสริมการอ่านให้ความรเู้ กี่ยวกบั โรค COVID -19 ด้วย Google Form ๔. ลงนามถวายพระพรออนไลน์ เนอ่ื งในวนั คล้ายวันพระราชสมภพ ๒ เมษายน ๒๕๖๓ ผลกำรจัดกิจกรรม ผลการจดั กิจกรรมส่งเสรมิ การอา่ น ๒ เมษารกั การอา่ น ที่ห้องสมุดประชาชนอาเภออุทยั กศน.ตาบล ผ่านชอ่ งทาง ไลน์ Facebook Page มีผ้เู ข้าร่วมกิจกรรมทง้ั หมด ๒๑๐ คน ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับความรู้ จากกจิ กรรมที่ห้องสมุดประชาชนอาเภออทุ ัย และกศน.ตาบล ให้บริการเป็นการสง่ เสรมิ การอ่านและการเรียนรู้ เพือ่ ให้ผู้เข้าร่วมกจิ กรรมนาความรทู้ ี่ไดไ้ ปใชใ้ น การดาเนนิ ชีวติ ต่อไป นทิ รรศกำรพระรำชประวตั ิ แนะนำหนงั สือพระรำชนิพนธ์ จดั บอร์ดใหค้ วำมรเู้ กีย่ วโรค COVID 19 หอ้ งสมดุ

จดั บอร์ดใหค้ วำมรูเ้ กย่ี วโรค COVID 19 จัดบอรด์ ใหค้ วำมรู้เกยี่ วโรค COVID 19 กศน.ตำบลคำนหำม กศน.ตำบลโพสำวหำญ สง่ เสรมิ กำรอำ่ นใหค้ วำมรูเ้ กยี่ วกบั โรค COVID 19 ดว้ ย Google Form ลงนำมถวำยพระพรออนไลน์

๑๐. กิจกรรมนทิ รรศกำรวนั สำคัญตำ่ งๆ รูปแบบกำรจัดกจิ กรรม ห้องสมดุ ประชาชนอาเภออทุ ยั จดั กิจกรรมนทิ รรศการวันสาคญั ต่างๆ เปน็ การสง่ เสรมิ การอ่านและการเรยี นรู้ ให้ผู้รบั บรกิ ารห้องสมุดประชาชนอาเภออุทัย เห็นความสาคัญของ วนั สาคัญต่างๆ เหตุการณ์ตา่ งๆ เพ่ือนาไปสู่การศึกษาคา้ ควา้ เพมิ่ เตมิ จากหนังสอื และสือ่ อน่ื ๆ ในหอ้ งสมุดประชาชนอาเภออทุ ยั วิธีดำเนินกิจกรรม ๑. จัดเตรยี มสถานที่ ๒. จดั เตรยี มขอ้ มูล ๓. จดั เตรียมวัสดุอปุ กรณ์ในการจดั นทิ รรศการ ๔. จดั นิทรรศการท่ปี า้ ยประกาศหน้าหอ้ งสมดุ ผลกำรจัดกจิ กรรม ผลการจดั กิจกรรมนิทรรศการวนั สาคัญตา่ งๆ สมาชิกหอ้ งสมุด ประชาชนทว่ั ไป ท่ีเขา้ มา รับบริการห้องสมดุ ประชาชนอาเภออุทัย ไดร้ ับความรู้เกี่ยวกับวนั สาคญั ต่างๆ และไดท้ ราบว่า ช่วงเวลานมี้ วี ันสาคญั อะไร มีเหตุการณอ์ ะไร และเป็นการส่งเสริมประเพณี วัฒนธรรมไทย วันปิยะมหำรำช วันลอยกระทง วนั รัฐธรรมนูญ วันมำฆบชู ำ

๑๑. กจิ กรรมครอบครัวรักกำรอำ่ น รปู แบบกำรจดั กิจกรรม ห้องสมุดประชาชนอาเภออทุ ัย ร่วมกบั กศน.ตาบล จดั กิจกรรมครอบครัวรักการอา่ น ดว้ ย Google Form เปน็ การส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ ให้ ในหอ้ งสมุดประชาชนอาเภอ อุทัย วิธดี ำเนินกิจกรรม ๕. จัดเตรยี มสถานที่ ๖. จัดเตรยี มขอ้ มลู ๗. จดั เตรยี มวัสดุอุปกรณ์ในการจดั นิทรรศการ ๘. จัดนิทรรศการทป่ี า้ ยประกาศหน้าหอ้ งสมดุ ผลกำรจดั กิจกรรม ผลการจัดกิจกรรมนิทรรศการวนั สาคญั ตา่ งๆ สมาชิกห้องสมดุ ประชาชนท่ัวไป ที่เข้ามา รบั บริการหอ้ งสมุดประชาชนอาเภออทุ ัย ไดร้ บั ความรูเ้ กยี่ วกับวนั สาคัญต่างๆ และได้ทราบว่า ช่วงเวลานีม้ ีวันสาคัญอะไร มเี หตุการณ์อะไร และเป็นการส่งเสริมประเพณี วฒั นธรรมไทย

บทที่ ๕ สรปุ อภิปรำยผล และขอ้ เสนอแนะ รายงานผลการดาเนินงาน โครงการพัฒนาหอ้ งสมดุ ใหเ้ ปน็ ศนู ยก์ ลางการเรียนร้ขู อง ชุมชน รายงานฉบับน้ีเป็นการรายงานการดาเนินงานของห้องสมดุ ประชาชนอาเภออทุ ัย ในดา้ น อาคารสถานที่ การใหบ้ ริการ และดา้ นกจิ กรรมส่งเสริมการอ่านและการเรยี นรู้ เพือ่ เป็นการ พฒั นาห้องสมุดประชาชนอาเภออุทัย ใหไ้ ปสกู่ ารพัฒนาห้องสมุดใหเ้ ปน็ ศูนย์กลางการเรยี นรู้ ของ ชุมชน ซ่งึ จะสรปุ อภิปรายผล และข้อเสนอแนะดงั นี้ วัตถุประสงคข์ องกำรดำเนินงำน ๑. เพือ่ พัฒนาระบบการให้บริการของห้องสมุดประชาชนอาเภออุทยั ให้เป็นศนู ย์กลาง การเรียนรู้ของชุมชน ผา่ นส่อื ต่างๆ เชน่ ส่อื สง่ิ พมิ พ์ สอ่ื อิเล็กทรอนกิ ส์ สื่อบุคคล ๒. เพ่ือพัฒนาห้องสมุดประชาชนอาเภออุทัยให้เปน็ ศนู ยก์ ลางการเรียนรขู้ องชุมชน เชื่อมโยงกับแหล่งเรียนรู้ กศน.ตาบลครอบคลุม ทั้ง ๑๑ ตาบล ๓. เพอ่ื ส่งเสริมการอ่านและการเรยี นรู้ในรปู แบบทีห่ ลากหลายทั้งภายใน และ ภายนอกห้องสมุด เพอ่ื ปลูกฝงั นสิ ยั รกั การอ่าน และสามารถนาความรู้ทไ่ี ด้รับไปใช้ประโยชน์ได้จริง วธิ ีดำเนนิ กำร หอ้ งสมุดประชาชนอาเภออุทยั ได้ดาเนินการโครงการพัฒนาห้องสมดุ ใหเ้ ป็น ศูนย์กลางการเรยี นรขู้ องชุมชน เพอื่ ใหก้ ารดาเนินงานของห้องสมุดให้เกดิ การพฒั นาสู่การเปน็ ศูนยก์ ลางการเรยี นรขู้ องชุมชน ซึง่ ห้องสมุดประชาชนอาเภออทุ ัยไดด้ าเนินการดงั นี้ ๑. ดา้ นอาคารสถานที่ ไดป้ รับปรงุ ภายนอกภายในเพ่อื ใหเ้ ออื้ ต่อการเรียนรู้ ให้มีพน้ื ท่ี ใช้สอยมากขนึ้ และตกแตง่ ภายในห้องสมุดใหส้ วยงาม ปรับปรงุ ป้ายประกาศให้สวยงามสะดุดตา มากข้นึ เช่นป้ายแนะนาการใชบ้ ริการ ๒. ด้านการให้บริการ ได้ดาเนินการพัฒนาการใหบ้ รกิ าร โดยมรี ะบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ในการใหบ้ รกิ ารยืม - คืนหนงั สอื ด้วยคอมพิวเตอร์ มีโปรแกรมระบบบรกิ ารงานหอ้ งสมดุ (PLS v.5) และระบบเชอ่ื มโยงแหล่งเรยี นรู้ มบี ริการคอมพิวเตอร์ อนิ เทอรเ์ น็ต ตอบสนองความตอ้ งการของ ผู้ใช้บรกิ าร ใหบ้ รกิ ารด้วยความเตม็ ใจ และเปน็ ศูนย์กลางเชื่อมโยงแหล่งเรยี นรู้ กบั กศน.ตาบลท้ัง ๑๑ ตาบล

๓. ด้านกจิ กรรมสง่ เสริมการอ่าน และการเรียนรู้ เป็นกจิ กรรมท่ีห้องสมดุ ประชาชน อาเภออุทัย ไดด้ าเนินการร่วม กศน.ตาบล ในการจัดกจิ กรรมสง่ เสริมการอ่านและการเรยี นรู้ ทัง้ ภายในและภายนอกหอ้ งสมดุ เพอ่ื เป็นการส่งเสริมการอ่าน และการเรยี นรู้ ไปพรอ้ มๆ กัน เป็นการกระตนุ้ ให้เด็ก เยาวชน ประชาชนมนี สิ ัยรกั การอ่าน อภปิ รำยผล ห้องสมดุ ประชาชนอาเภออุทัยได้พฒั นาระบบการใหบ้ ริการให้เปน็ ศูนย์กลางการเรียนรู้ ของชมุ ชน ผ่านส่อื สิง่ พิมพ์ โดยการจดั หาหนังสอื ใหม่ๆ เขา้ มาให้บริการประชาชน สอื่ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ มบี ริการคอมพิวเตอร์ อินเทอรเ์ น็ต ส่อื บคุ คลมีกจิ กรรมส่งเสริมการอา่ น และ การเรียนรู้ ห้องสมดุ ประชาชนอาเภออุทัยเปน็ ศนู ย์กลางการเรยี นรูข้ องชุมชน เชื่อมโยงกับแหล่ง เรียนรู้ กศน.ตาบล ทั้ง ๑๑ ตาบล ผลสำเร็จเชิงคุณภำพ ๑. มกี จิ กรรมการเรยี นรทู้ ตี่ อบสนองความต้องการของกลุ่มเปา้ หมาย ๒. มอี าคารสถานท่สี ะอาด โล่ง โปร่งสบาย รม่ รื่น มบี รรยากาศทด่ี เี อ้ือตอ่ การเรียนรู้ ๓. มีสื่อหลากหลายทันสมัยให้บรกิ าร ปญั หำอุปสรรค ๑. ประชาชนให้ความสาคัญกบั การอา่ นน้อย ๒. การประสานงานเครือข่ายในชุมชนต่างๆ ยังไมค่ รอบคลมุ และทวั่ ถงึ ทิศทำงกำรพัฒนำ ๑. จดั และสารวจขอ้ มูลศกึ ษาสภาพความตอ้ งการของผูร้ ับบริการ ใหไ้ ด้มาซงึ่ การจัดบรกิ ารที่ตรงตามความต้องการของผรู้ ับบริการ ๒. จดั และวางแผนประชาสมั พันธง์ านการศกึ ษาตามอธั ยาศัยในด้านการให้บรกิ าร หอ้ งสมุดเคล่อื นทไี่ ปสู่ชมุ ชนทกุ รปู แบบให้ครอบคลุมทุกชมุ ชน

บรรณำนกุ รม กรมการศึกษานอกโรงเรยี น. คู่มอื กำรจดั กจิ กรรมห้องสมุดประชำชน. กรงุ เทพฯ : กรมการศึกษานอกโรงเรียน, ๒๕๓๒. . รำยงำนสรุปผลกำรนเิ ทศโครงกำรพัฒนำหอ้ งสมุด ใหเ้ ปน็ ศูนย์กลำง กำรเรยี นร้ตู ลอดชีวิต. กรุงเทพฯ : กรมการศกึ ษานอกโรงเรียน, ๒๕๔๗. . รูปแบบกำรจดั กำรศึกษำตำมอัธยำศยั โดยหอ้ งสมุดประชำชน. กรงุ เทพฯ : กรมการศึกษานอกโรงเรยี น, ๒๕๔๕. กรมวชิ าการ. กิจกรรมสง่ เสริมกำรอ่ำน. พิมพ์คร้ังที่ ๓. กรงุ เทพฯ : กรมวิชาการ, ๒๕๔๖. ดัดล,่ี เจฟฟรี่เอ. เคล็ดวิธีสร้ำงอำ่ นดอี ่ำนเรว็ (เพม่ิ ควำมเร็วในกำรอ่ำนและกำรเรียนรู้ใหม้ ำกข้ึน). แปลโดยครองงาน ไชยธนะสาร. พิมพค์ รัง้ ที่ ๒. กรงุ เทพฯ : เดลฟี่, ๑๙๙๔. นวลจันทร์ ดฐิ วงค.์ คู่มอื ปฏริ ปู กิจกรรมกำรเรียนรู้หอ้ งสมดุ ประชำชน : เพอ่ื เปน็ แหลง่ กำรเรียนรตู้ ลอดชีวิต. ประจวบคีรขี นั ธ์ : ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกโรงเรียนจงั หวดั ประจวบคีรีขันธ์, ๒๕๔๕. พมิ พ์ใจ สทุ ธสิ รุ ศักดิ์. “ควำมสำคญั ของกำรอำ่ น” วจิ ัยสนเทศกำรศกึ ษำนอกโรงเรียน. ๔(๙) : ๒-๔ ; พฤษภาคม - สงิ หาคม, ๒๕๓๐. ไพพรรณ อินทนิล. กำรส่งเสรมิ กำรอำ่ น. ชลบรุ ี : ชลบุรกี ารพิมพ์, ๒๕๔๖. มาลินี น่มิ เสมอ. “กำรส่งเสริมกำรอ่ำนของเด็ก” คร.ู ๔ : ๒๖-๒๘ ; มกราคม, ๒๕๒๓. แมน้ มาส ชวลิต. “พระมหำกรุณำธิคณุ และปรีชำญำณด้ำนภำษำหนังสอื และหอ้ งสมุด” ในเอกสำรประกอบกำรอบรมสง่ เสรมิ กำรอำ่ นเฉลิมพระเกยี รติ. หน้า ๑-๑๗ กรงุ เทพฯ : สมาคมการอ่านแห่งประเทศไทย, ๒๕๓๙. สานกั งานการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั . นโยบำยและจดุ เนน้ กำรดำเนินงำน สำนกั งำน กศน. ประจำปงี บประมำณ พ.ศ. ๒๕๖๓. กรงุ เทพฯ : สานกั งาน การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั , ๒๕๖๓. สานกั บรหิ ารงานการศึกษานอกโรงเรยี น. แนวทำงกำรพัฒนำห้องสมุดประชำชนใหเ้ ป็น ศนู ย์กลำงกำรเรียนรู้ตลอดชีวิต ตำมมำตรำ ๒๕. นนทบรุ ี : สานกั บริหารงาน การศกึ ษานอกโรงเรียน, ๒๕๔๗.