Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรียน

สวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรียน

Description: สวน501p

Search

Read the Text Version

หนงั สืออิเล็กทรอนกิ สเ์ รื่อง สวนพฤษศาสตรใ์ น โรงเรียนเลม่ นป้ี ระกอบดว้ ยเนอ้ื หาเกย่ี วกบั ตน้ ไมแ้ ละ ดอกไมใ้ นโรงเรียนวงั เหนอื วทิ ยาเป็ นสว่ นหนง่ึ ของวิชา ว32101 เทคโนโลยี 2 ผจู้ ดั ทาหวงั เป็ นอยา่ งย่ิงวา่ เนอื้ หาในหนงั สือ อิเล็กทรอนกิ สน์ จี้ ะเป็ นประโยชนส์ าหรบั ผทู้ ่ีศึกษาไดเ้ ป็ น อยา่ งดี นาย เอ้ือองั กรู ปันทา นาย ณฐั วชั ช์ สนั เบ็ญหมดั ผจู้ ดั ทา

:(ชอ่ื วทิ ยาศาสตร:์ Hibiscus rosasinensis) เป็ นพืชมดี อกในสกลุ Hibiscus วงศ์ Malvaceae เป็ นพืชพ้นื เมอื งในเอเชยี ตะวนั ออก ชาวโอรงั อซั ลีในรฐั เปรกั มาเลเซีย ใชเ้ ปลือกรากแชใ่ นนา้ ขา้ มคนื และดม่ื ขณะทอ้ งวา่ ง เพ่อื รกั ษาฝี

ชบาเป็ นไมพ้ มุ่ ขนาดกลาง ใบค่อนขา้ งมนรี มปี ลายแหลม ขอบของ ใบเป็ นจกั เล็กนอ้ ย และมสี ีเขยี วเขม้ ออ่ น เมอ่ื ขย้ีใบจะเป็ นเมอื ก เหนยี ว ดอกมที งั้ กลีบชน้ั เดยี วและหลายชน้ั หากเป็ นชนั้ เดียวปกติ จะมีกลีบดอก 5 กลีบ มกี า้ นเกสรอยตู่ รงกลางดอกหนง่ึ กา้ น ลกั ษณะของกลีบดอกชบาจะมขี นาดใหญ่ มหี ลายสไี มว่ า่ จะเป็ น ขาว แดง แสด เหลือง มว่ ง ชมพู และสีอ่ืน ๆ โดยดอกชบาแบง่ ออกเป็ น 3 ลกั ษณะคือ ดอกบานเป็ นรปู ถว้ ย ดอกบานเป็ นรปู แผแ่ บน และ กลบี ดอกบานแบบแผโ่ คง้ และขยายพนั ธด์ุ ว้ ยการปักชา การตอ่ ตา การตดิ ตา และการเสยี บยอด

หรือ ลีลาวดี เป็ นไมด้ อกยืนตน้ ในวงศ์ ตนี เป็ ด หรือ วงศไ์ มล้ นั่ ทม (Apocynaceae) มี หลายชนดิ ดว้ ยกนั บางคนมคี วามเชอ่ื วา่ ไม่ ควรปลกู ตน้ ลนั่ ทมในบา้ นเพราะมคี วามเชอื่ วา่ เป็ นอปั มงคล คือไปพอ้ งกบั คาว่า 'ระทม' ซึ่งแปลวา่ เศรา้ โศก ทกุ ขใ์ จ นยิ มปลกู กนั แพร่หลายอยา่ งมาก ชอื่ พ้ืนเมอื งอ่ืน ๆ ไดแ้ ก่ จาปา, จาปาลาว และจาปาขอม เป็ นตน้ (สาหรบั ช่ือภาษาองั กฤษ ไดแ้ ก่ Frangipani, Plumeria, Temple Tree, Graveyard Tree)

ตน้ ลลี าวดีเป็ นพืชนยิ มปลกู เพราะดอกมสี ีสนั หลากหลาย สวยงาม ไดแ้ กข่ าว เหลอื งออ่ น แดง ชมพู สีขาวขนุ่ ฯลฯ บางดอกมีมากกวา่ 1 สี อาจมมี ากถึงหลายสใี นดอก เดยี ว ดอกลลี าวดยี งั เป็ นดอกไมป้ ระจาชาตขิ องประเทศลาว โดยเรียกวา่ \"ดอกจาปา\"[2] และพบไดม้ ากบริเวณทางขนึ้ พระธาตทุ ี่เมอื งหลวงพระบาง สาหรบั ในประเทศไทยนนั้ มกั พบตน้ ลนั่ ทมตามธรรมชาตทิ างภาคเหนอื เป็ นสว่ น ใหญ่

เป็ นไมย้ ืนตน้ มขี นาดตง้ั แตพ่ มุ่ เตย้ี แคระสงู ประมาณ 0.9- 1.2 เมตร จนถึงตน้ ที่สงู มาก อาจสงู ถึง 12 เมตร ลาตน้ แตก ก่ิงกา้ นสขาและพมุ่ ใบสวยงาม มนี า้ ยางสีขาวขน้ เป็ นไมผ้ ลดั ที่ สลดั ใบในฤดแู ลง้ กอ่ นที่จะผลดิ อกและผลิใบร่นุ ใหม่ กง่ิ ที่ยงั ไม่ แกม่ สี ีเขยี ว ออ่ นนมุ่ ดเู กือบจะอวบนา้ กิ่งแกม่ สี เี ทามีรอย ตะป่ ุมตะป่ า ก่ิงไมส่ ามารถทานนา้ หนกั ได้ กิ่งเปราะ เปลือกลา ตน้ หนา ตน้ ท่ีโตเต็มท่ีแลว้ จะพฒั นาจนกระทงั่ มคี วามแข็งแรง มากขน้ึ ใบ เป็ นใบเดีย่ ว มกี ารเรียงตวั แบบสลบั และหนาแนน่ ใกลป้ ลายกง่ิ มลี กั ษณะแตกตา่ งกนั ไปทง้ั รปู รา่ ง ขนาด สี และ ความหนาแนน่ โดยทวั่ ไป ใบจะหนา เหนยี วแข็ง และมสี ตี งั้ แตส่ ี เขยี วอ่อนถึงสเี ขยี วเขม้ มเี สน้ กลางใบแตกสาขาออกไปคลา้ ย ขนนก ขนาดใบแตกตา่ งกนั ไมม่ าก

ชอ่ ดอก ดอกจะผลอิ อกมาจากปลายยอดเหนอื ใบ เห็นเป็ นชอ่ ดอกใหญ่สวยงาม แตก่ ็มบี างชนดิ ท่ีออกชอ่ ดอกระหวา่ งใบ หรือใตใ้ บ บางชนดิ หอ้ ยลงบางชนดิ ตง้ั ขนึ้ ในหนงึ่ ชอ่ จะมดี อก บานพรอ้ มกนั 10 – 30 ดอก บางตน้ ที่มคี วามสมบรู ณเ์ ต็มที่ อาจมดี อกมากกว่า 100 ดอก ตอ่ 1 ชอ่ ออกดอกประมาณ เดอื นกมุ ภาพนั ธถ์ ึงเดือนเมษายน บางพนั ธส์ุ ามารถออกดอก ไดต้ ลอดทง้ั ปี ดอก โดยทวั่ ไปจะมขี นาดใหญถ่ ึงกลาง ยกเวน้ บางพนั ธท์ุ ่ีมี ขนาดเล็ก กลีบดอกมี 5 กลีบ เกสรตวั ผู้ เกสรตวั เมีย อยลู่ กึ เขา้ ไปขา้ งใน ดอกมลี กั ษณะคลา้ ยทอ่ ทาใหม้ องไมเ่ ห็นเกสรตวั ผแู้ ละเกสรตวั เมยี โดยจะมเี กสรตวั ผู้ 5 อนั อยทู่ ่ีโคนกา้ นดอก สว่ นเกสรตวั เมยี อยลู่ ึกลงไปในกา้ นดอก เกสรตวั ผแู้ ละเกสร ตวั เมียบานไมพ่ รอ้ มกนั ยากตอ่ การผสมตวั เอง ฝัก/ผลมี ลกั ษณะคลา้ ยกบั ฝักตน้ ชวนชม ฝักออ่ นสจี ะมีสีเขยี วเมือ่ แกฝ่ ัก จะมสี ีแดงถึงดา

หรือ สัตบรรณ หรือ ตีนเป็ด ชื่อวทิ ยาศาสตร์: (Alstonia scholaris) เป็นไม้ ยนื ตน้ ขนาดใหญ่มีความสูงประมาณ 12-20 เมตร อยใู่ น วงศ์ Apocynaceae มีถ่ินด้งั เดิมในเอเชียตะวนั ออก เฉียงใต้ และพบไดท้ ุกภาคในประเทศไทย และเป็น ตน้ ไมป้ ระจาจงั หวดั สมุทรสาคร

เปลือกหนาแตเ่ ปราะ ผวิ ตน้ มสี ะเก็ดเล็ก ๆ สขี าวปน นา้ ตาลกรีดดจู ะมยี างสีขาวลาตน้ ตรง แตกกิง่ กา้ นสาขา มากลกั ษณะเป็ นชน้ั ๆ เปลอื กชนั้ ในสนี า้ ตาล มนี า้ ยางสี ขาว ใบเป็ นกลมุ่ บริเวณปลายกง่ิ ชอ่ หนงึ่ มใี บประมาณ 5-7 ใบ กา้ นใบสน้ั แผน่ ใบรปู รีแกมรปู ขอบขนานถึงรปู หอกแกมรปู ขอบขนาน หรือรปู มนแกมรปู บรรทดั ปลายใบเป็ นตงิ่ เล็กนอ้ ย ใบดา้ นบนมสี เี ขยี วเขม้ ดา้ นลา่ งมสี ีขาวนวล ถา้ เด็ดกา้ นใบจะมยี างสีขาว ลกั ษณะใบยาวรีปลายใบมนโคนใบแหลม ขนาดใบยาว ประมาณ 10-12 เซนตเิ มตร

ออกดอกสีเขยี วออ่ นเป็ นชอ่ ตามปลายก่ิง ปากทอ่ ของ กลบี ดอกมขี นยาวปุกปุย ดอกมกี ลนิ่ ฉนุ รนุ แรง สดู ดม เพียงเล็กนอ้ ยจะรสู้ กึ กลิน่ หอม หากสดู ดมมากจะรสู้ กึ วิงเวียนศีรษะ ชว่ งคา่ จะสง่ กลิ่นแรงกวา่ เวลาอ่ืน ๆ ดอกเป็ นกลมุ่ คลา้ ยดอกเข็มชอ่ หนงึ่ จะมกี ลมุ่ ดอก ประมาณ 7 กลมุ่ ดอกมสี ขี าวอมเหลือง ปกตจิ ะออก ดอกในชว่ งเดอื นตลุ าคมถึงเดอื นธนั วาคมผลเป็ น ฝักยาว ฝักคหู่ รือเดยี่ ว ลกั ษณะเป็ นเสน้ ๆ กลมเรียว ยาวประมาณ 20-30 เซนตเิ มตร เมอ่ื แกจ่ ะแตก มขี ยุ สี ขาวคลา้ ยฝ้ ายปลิวไปตามลมไดใ้ นฝักมเี มล็ดเล็ก ๆ ตดิ อยกู่ บั ขยุ นน้ั

คนู ลมแลง้ (ชอื่ วิทยาศาสตร:์ Cassia fistula) เป็ นไมด้ อกในตระกลู Fabaceae เป็ นพืชพื้นเมือง ของเอเชยี ใต้ ตง้ั แตท่ างตอนใตข้ องปากสี ถาน ไป จนถึงอินเดยี ศรีลงั กา พมา่ และไทย นอกจากนี้ ดอกราชพฤกษย์ งั เป็ นดอกไมป้ ระจาชาตไิ ทยอีก ดว้ ย



ชอื่ นายเอ้ือองั กรู ปันทา ศึกษา โรงเรียนวงั เหนอื วิทยา ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5/1 งานอดเิ รก เลน่ ดนตรี เลน่ บาสเกตบอล สีที่ชอบ สีเขยี ว คตปิ ระจาใจ สมหวงั หวงั ก็เป็ น เเค่ชอื่ รา้ นขา้ วมนั ไก่ ชอ่ื นายณฐั วชั ช์ สนั เบ็ญหมดั ศึกษา โรงเรียนวงั เหนอื วิทยา ชน้ั มธั ยมศึกษา 5/1 งานอดเิ รก รอ้ งเพลง เลี้ยงปลา สที ่ีชอบ ฟ้ า คตปิ ระจาใจ สเู้ พอ่ื เเม่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook