รายวชิ า 20300-1006
คานา รายงานเลม่ น้จี ดั ทาขึ้นเพื่อเปน็ ส่วนหน่งึ ของรายวชิ า 20300-1006 การเขียนแบบทัศนียวทิ ยา ช้ัน. ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ปี 2 เพ่อื ให้ได้ศึกษาหาความรู้ในเรอ่ื งของหลักการทัศนียภาพและไดศ้ กึ ษาอยา่ งเขา้ ใจเพอ่ื เป็นประโยชนก์ บั การเรียน ผ้จู ัดทาหวังวา่ รายงานเลม่ น้ีจะเป็นประโยชนก์ บั ผู้อา่ น หรือนักเรยี น นักศึกษา ทก่ี าลังหาข้อมูลเรื่องนี้ อยู่ หากมขี อ้ แนะนาหรือข้อผิดพลาดประการใด ผจู้ ัดทาขอน้อมรับไว้และขออภยั มา ณ ที่นี้ด้วย ผู้จดั ทา นายจรี ฐั ติกลุ ศิรสิ ุวรรณเวช นายธรรมนญู ศรหี นองโปร่ง นายธนพนต์ พรมเวช นางสาว ธติ ิญา สดี า
ความหมายของทศั นียภาพ สารบัญ การเขียนร่างภาพด้วยมอื เปล่า เครื่องมือและอุปกรณ์เขียนแบบ หน้า 1-6 มาตราสว่ นในการเขยี นแบบ 7-10 การเขียนภาพออบลิค (Oblique) 11-15 การเขยี นภาพไอโซเมตรกิ (Isometric) 16-19 การเขยี นทัศนยี ภาพ (Perspective) 20-22 ความสาคัญต่องานสาขาวิชากราฟิก 23-25 26-32 33
ความหมายของ ทัศนียภาพ
ภาพทัศนยี ภาพ คอื ภาพท่ีให้ความรูส้ กึ เปน็ 3 มติ ิ คือ มคี วาม ลกึ มีลักษณะใกล้เคียงกับความเป็นจริง เช่น ถ้าไปยืนอยู่กลางถนนแลว้ มองไป ข้างหน้า จะเหน็ ถนนคอ่ ยๆ เลก็ ลง เสา ไฟฟ้าก็สัน้ เลก็ ลงทิวทัศนข์ า้ งทางกค็ ่อยๆ เต้ยี ลง แล้วก็วง่ิ ไปรวมกนั อย่ทู ่ีจุดรวม สายตา
1 วตั ถุสิ่งของท่มี ีขนาดเทา่ กันแตเ่ ม่ือ อยู่ไกลออกไปเร่ือยๆ กจ็ ะมีขนาดเลก็ ลง ไปเรื่อยๆ http://www.thaischool.in.th/_files_school/10106250/dat a/10106250_1_20170127-133324.pdf
2 ระยะ ท่ีเท่ากนั เม่อื อยู่ไกลตวั ออกไปก็จะมรี ะยะถ่ขี ึน้ เร่อื ยๆ จน รวมเป็นจดุ เดยี วกัน https://splodeman.artstation.com/projects/wV0K5
3 เส้น ส่ิงของท่ีค่ขู นานกัน เมอื่ ไกลออกไป จะมลี ักษณะว่ิงเข้าหากัน https://commons.wikimedia.org/wiki/File:1_point_perspective.svg
4 สีสนั รายละเอียดต่างๆ เมือ่ อย่ไู กล ออกไป สสี ันก็จะจางลงรายละเอยี ด ความชัดเจนกจ็ ะจางลงไปตามลาดบั
การเขียนรา่ งภาพด้วยมอื เปล่า
การรา่ งภาพ หรือ การสเกต็ ภาพ หมายถงึ การเขยี นภาพโดยไมใ่ ช้เครอ่ื งมือเขยี นแบบ จะเขยี นภาพโดยใช้มือเปลา่ (FREE HAND) โดยชก่วายรรา่ งเบาๆ เส้นเบา ใชเ้ ขยี นเสน้ ศนู ยก์ ลาง เสน้ บอกขนาด เสน้ ชว่ ยบอกขนาด เสน้ หนัก ใช้เขียนเส้นรอบรูป เสน้ ประ เสน้ แนวตัด
การขดี เสน้ แนวดิ่ง เสน้ ตรงแนวดงิ่ การลากเส้นตรงแนวดง่ิ ควรลากเส้นจากบนลงมาลา่ งโดยใช้นวิ้ แตะขอบ กระดานสเกต็ จะชว่ ยทาใหล้ ากเส้นแนวด่ิงมคี วาม ตรงมากข้ึน
การขดี เสน้ แนวนอน เสน้ ตรงในแนวนอน การลากเส้นตรงในแนวนอน ควรต้องกาหนดจดุ เริ่มต้นและจดุ สดุ ทา้ ย แลว้ จงึ ลากเส้นจากทางซ้ายมอื ไปทางขวา ถ้าต้องการลากเส้นทม่ี ีความยาวมากควรลากเสน้ สัน้ ๆ ต่อ ๆ กันจะง่ายกว่ากามรลอื ากเสน้ ยาว
เคร่อื งมอื และอุปกรณเ์ ขียนแบบ
ชนิดของเครื่องมือและอุปกรณ์เขยี น แบบ โตะ๊ เขียนแบบ ใชร้ องรับการเขียนแบบเพ่ือให้เกิด ความม่ันคงและแมน่ ยา มีตวั ชว่ ยใหก้ ารเขียน แบบบนโต๊ะไม่เลื่อนลง
ชนดิ ของเคร่ืองมือและอปุ กรณเ์ ขียน ไมท้ ี แบบ ใชใ้ นการเขยี นเสน้ ตรงและเส้นแนว นอน โดยการใชห้ วั ของบรรทดั ฉากตวั ทีชิดกบั ขอบ ดา้ นซา้ ยของกระดานเขียนแบบ แลว้ ใชม้ ือจบั บรรทดั ฉากตวั ทไี วแ้ ลว้ เขียนเสน้ ดว้ ยมือขวา
ชนดิ ของเครอ่ื งมือและอุปกรณเ์ ขียน แบบ ไมฉ้ าก สามเหล่ียม ใช้ในการเขียนเส้นใน แนวดงิ่ และเส้นในแนวเอยี งทา มมุ ตา่ งๆใชค้ ู่กับไมท้ ี
อปุ กรณท์ ่ัวไป ดนิ สอ ยางลบ กระดาษ
มาตราสว่ นในการเขียนแบบ
1. มาตราสว่ นปกติ (Full Scale) ใชเ้ ม่อื ชิน้ งานมี ขนาดไมใ่ หญแ่ ละเล็กมาก ซงึ่ สามารถเขยี นลงในแบบได้ พอดี รวมถงึ เห็นรายละเอยี ดได้ชดั เจน
2. มาตราส่วนยอ่ (Brief Scale ) ใช้เมือ่ ตอ้ งการ ยอ่ สว่ นช้นิ งานทใ่ี หญ่จนไม่สามารถเขยี นลงในแบบได้
3. มาตราสว่ นขยาย (Extended Scale) ใชเ้ มือ่ ตอ้ งการขยายส่วนชน้ิ งานที่เล็กจนไมส่ ามารถมองเหน็ รายละเอียด ปลกี ยอ่ ยได้ มดจริงขนาด 3mm นามาวาดขยายเปน็ 30 mm
การเขียนภาพออบลิค (Oblique)
เป็นภาพสามมิตทิ ่ตี อ้ งมองเห็นด้านหน้าของวัตถุ ซง่ึ โครงสรา้ งประกอบไปดว้ ย เส้นแนวนอน เส้นแนวดง่ิ และเส้นเอียง 45 องศา
การเขียนภาพออบลคิ 1.วาดเสน้ แนวนอนและแนวดิ่ง 2.วาดเส้นเอียง 45 และวาดส่เี หล่ยี ม 3.วาดเสน้ เอียงมุมทง้ั สองด้าน 4.วาดใหเ้ ป็นส่เี หลยี ม 3 มิติ
การเขียนภาพไอโซเมตริก (Isometric)
เปน็ ภาพสามมติ ิท่เี ส้นแนวตัง้ จะแสดงดา้ นตั้งของวัตถุ ส่วนแนวนอน จาใช้เส้นทท่ี ามุม 30 องศา กับแกนนอนและเสน้ ทุกเส้นในภาพจะใช้มาตรา สว่ นเดยี วกัน
การเขยี นภาพไอโซ เมตริก 1.วาดเส้นแนวนอนและแนวดงิ่ 2.วาดเส้นเอยี งท้งั สองด้านทามุม 30 3.วาดเสน้ แนวดิ่งทง้ั สองด้าน 4.วาดเสน้ เอยี งทง้ั สองดา้ นเป็นสีเ่ หล่ยี ม
การเขียนทัศนยี ภาพ (Perspective)
1. ทัศนยี ภาพ 1 จดุ ( One Point แบบหนึ่งจดุ)รวมสายตา : เป็นการมองวตั ถทุ ี่ดา้ นหน้า วตั ถุ ขนานกบั เส้นระดบั ตา
ตวั อยา่ งภาพ 1 จุด
2. ทัศนียภาพ 2 จดุ ( Two Point แบบสองจดุ ร)วมสายตา : เปน็ การมองวัตถทุ ี่มมุ วัตถุ เอยี งไปจากเสน้ ระดบั ตา
ตวั อยา่ งภาพ 2 จุด
3. ทศั นยี ภาพ 3จดุ ( Three Point ) แบบสามจดุ รวมสายตา : เป็นการมองวตั ถทุ ม่ี มุ วตั ถุ คล้ายกบั สองจดุ แตเ่ พ่ิมมาอกี หนึ่งจุดอาจอยู่ ขา้ งล่างหรอื ข้างบนเส้นระดับตา วัตถุ เอยี งไปจากเสน้ ระดับตา
ตวั อยา่ งภาพ 3 จุด
ความสาคัญต่องานสาขาวิชา กราฟกิ 1. ได้รบั รเู้ กี่ยวกบั มมุ และสามารถไปต่อยอดในสาขาสถาปนกิ ได้ 2. ได้รบั รขู้ องเรือ่ งการวาดส่งิ ของ วิว ตกึ ทถ่ี ูกต้องวา่ ควรวาดอย่างไร 3. สามารถนาไปวาดภาพทวิ ทัศน์ท่ีถกู ตอ้ งได้และใหส้ วยงามได้ 4. สามารถนาไปวาดในเร่อื งของมุมอนเิ มช่ันได้ 5. สามารถนาไปวาดมุมของตัวการต์ นู ทถ่ี ูกต้องได้
Search
Read the Text Version
- 1 - 37
Pages: