Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore unit3

unit3

Published by kakikkok1985, 2020-08-15 05:10:12

Description: unit3

Search

Read the Text Version

สาระ : ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 หลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา เวลา 9 ชว่ั โมง ผงั การเรียนรู้แบบบูรณาการ ภาษาไทย „ การพดู แสดงความคิดเห็น „ การอ่านคาศพั ท์ „ การฝึกคดั และอ่านพุทธศาสนสุภาษิต สุขศึกษาและพลศึกษา หลกั ธรรมทาง ศิลปะ • ประดิษฐก์ าร์ดอวยพรพอ่ แม่หรือ พระพทุ ธศาสนา „ การวาดภาพเก่ียวกบั การปฏิบตั ิตน ครูอาจารยเ์ พ่ือแสดงความกตญั ํู- ตามโอวาท 3 ของตนเองและ กตเวทีและระบายสีใหส้ วยงาม ระบายสีใหส้ วยงาม „ การแสดงบทบาทสมมุติ ตัวชี้วดั 1. บอกความหมาย ความสาคญั และเคารพพระรัตนตรัย ปฏิบตั ิตามหลกั ธรรม โอวาท 3 ในพระพทุ ธศาสนา หรือหลกั ธรรมของศาสนาท่ีตนนบั ถือตามท่ีกาหนด (ส 1.1 ป.2/4) 2. ช่ืนชมการทาความดีของตนเอง บุคคลในครอบครัวและในโรงเรียนตามหลกั - ศาสนา (ส 1.1 ป.2/5)

แผนการจัดการเรียนรู้ กล่มุ สาระสังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 2 หน่วยที่ 3 หลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา เวลาเรียน 9 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ 9 เร่ือง พระรัตนตรัย เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง แผนการเรียนรู้ที่ 10 เร่ือง ศรัทธา : การแสดงความเคารพในพระรัตนตรัย เวลาเรียน 1 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ 11 เรื่อง โอวาท 3 : การไม่ทาความช่ัว (เบญจศีล) เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง แผนการเรียนรู้ที่ 12 เรื่อง โอวาท 3 : การทาความดี (เบญจธรรม หิริ-โอตตัปปะ สังคหวตั ถุ 4) เวลาเรียน 1 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ 13 เร่ือง โอวาท 3 : การทาความดี (ฆราวาสธรรม 4 ความกตญั ํูกตเวทตี ่อ ครูอาจารย์และโรงเรียน) เวลาเรียน 1 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ท่ี 14 เรื่อง โอวาท 3 : การทาความดี (มงคล 38) เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง แผนการเรียนรู้ที่ 15 โอวาท 3 : การทาจิตใจให้บริสุทธ์ิ เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 16 พทุ ธศาสนสุภาษติ ความกตัญํเู ป็ นเครื่องหมายของคนดี, มารดาบิดา เป็ นพรหมของบุตร เวลาเรียน 1 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 17 การกระทาความดีของตนเอง และบุคคลในครอบครัวและโรงเรียน เวลาเรียน 1 ชั่วโมง สอนวนั ท่ี……………..เดอื น………………….พ.ศ………… ภาคเรียนที่ 1 ................................................................................................................................................................................... สาระสาคญั หลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา โอวาท 3 เป็ นหลกั ปฏิบตั ิในการดาเนินชีวิตประจาวนั เพอ่ื ใหป้ ระสบกบั ความสุขในการดาเนินชีวติ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งตามทานองคลองธรรม การเรียนทค่ี าดหวงั 1. อธิบายความหมายของพระรัตนตรัย 2. จาแนกความรู้ความเขา้ ใจในพระรัตนตรัย 3. เห็นคุณค่าในการนบั ถือพระรัตนตรัย 4. อธิบายความหมายของศรัทธาในพระรัตนตรัย 5. จาแนกการปฏิบตั ิตนในการแสดงความเคารพพระรัตนตรัย 6. ปฏิบตั ิโดยการแสดงความเคารพพระรัตนตรัยดว้ ยการบูชาและการกราบไหว้ 7. อธิบายหลกั ธรรมการไม่ทาความชว่ั เบญจศีล 8. จาแนกการปฏิบตั ิตนตามหลกั เบญจศีล 9. เห็นประโยชนข์ องการนาหลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนาไปปฏิบตั ิในการดาเนินชีวติ

10. อธิบายความหมายโอวาท 3 : การทาความดี เบญจธรรม หิริ-โอตตปั ปะ สังคหวตั ถุ 4 11. จาแนกวธิ ีการปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมเพื่อนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั 12. เห็นคุณค่าและประโยชน์จากการนาหลกั ธรรมไปปฏิบตั ิในชีวติ ประจาวนั 13. อธิบายเกี่ยวกบั หลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา 14. นาหลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนาไปปฏิบตั ิในการดาเนินชีวติ 15. เห็นประโยชน์ของการปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา 16. นาเสนอการปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมมงคล 38 17. จาแนกแนวทางการปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมมงคล 38 เพอื่ นาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั 18. เห็นคุณคา่ และประโยชน์ของการปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมมงคล 38 19. อธิบายหลกั ธรรมโอวาท 3 : การทาจิตใจใหบ้ ริสุทธ์ิ 20. ฝึกปฏิบตั ิการชาระจิตใจใหบ้ ริสุทธ์ิตามหลกั ธรรมโอวาท 3 21. เห็นคุณคา่ และประโยชน์การปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมโอวาท 3 22. อธิบายความหมายของพุทธศาสนสุภาษิต 23. ฝึกการอา่ นคาและนาเสนอแนวทางการปฏิบตั ิตนตามพุทธศาสนสุภาษิต 24. เห็นคุณค่าและนาหลกั คาสอนหลกั ธรรมไปปฏิบตั ิในการดาเนินชีวติ ประจาวนั 25. อธิบายการทาความดีของตนเอง บุคคลในครอบครัวและโรงเรียน 26. เขา้ ใจในการปฏิบตั ิตนในการทาความดีของตนเอง บุคคลในครอบครัวและโรงเรียน 27. เห็นคุณค่าและความสาคญั ในการทาความดีของตนเอง บุคคลในครอบครัวและโรงเรียน แนวคดิ หลกั นกั เรียนสามารถรู้และเขา้ ใจประวตั ิ ความสาคญั ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนบั ถือและศาสนาอ่ืน มีศรัทธาท่ีถูกตอ้ ง ยดึ มน่ั และปฏิบตั ิตามหลกั ธรรมเพ่ืออยู่ ร่วมกนั อยา่ งสนั ติสุข กจิ กรรมการเรียนการสอน ข้นั นา ใหน้ กั เรียน นงั่ สมาธิ สวดมนต์ เพือ่ ทาใหจ้ ิตใจสงบต่อการเรียน ข้นั สอน แผนการเรียนรู้ท่ี 9 เรื่อง พระรัตนตรัย 1. ครูนาภาพพระพุทธรูป พระธรรม และพระสงฆ์ มาใหน้ กั เรียนดู แลว้ ร่วมกนั สนทนา โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  เมื่อนกั เรียนนึกถึงพระพุทธศาสนา นกั เรียนนึกถึงส่ิงใด (วดั )  ในวดั มีส่ิงใดบา้ งที่สาคญั ทางพระพุทธศาสนา (ตัวอย่างคาตอบ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์)

 นกั เรียนมีความเก่ียวขอ้ งกบั พระพทุ ธ พระธรรม และพระสงฆ์ อยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ เป็ นผู้นับถือพระพทุ ธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็ นสรณะทตี่ ้งั เป็ นชาวพุทธ) 2. ครูอธิบายความหมายและความสาคญั ของพระรัตนตรัย ดงั น้ี พระพุทธ หมายถึง พระพทุ ธเจา้ ผเู้ ป็นศาสดาของพระพทุ ธศาสนา พระธรรม หมายถึง หลกั ธรรมคาสอนของพระพทุ ธเจา้ พระสงฆ์ หมายถึง ผทู้ ่ีอุปสมบทเป็นพระภิกษุและปฏิบตั ิตนตามหลกั คาสอนของ พระพทุ ธเจา้ แลว้ นามาเผยแผใ่ หพ้ ทุ ธศาสนิกชนปฏิบตั ิตาม 3. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นความสาคญั ของพระรัตนตรัย โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  พระพทุ ธมีความสาคญั กบั พระพุทธศาสนาและนกั เรียนอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ พระพทุ ธเจ้าเป็ นผ้ปู ระกาศพระพุทธศาสนา โดยนาหลกั คาสอนมาให้ผ้คู นได้ ประพฤติปฏิบตั ิตาม และเราได้มีพระพุทธศาสนานับถือ)  พระธรรมมีความสาคญั กบั พระพุทธศาสนาและนกั เรียนอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ พระธรรมเป็ นหลกั ปฏิบัติทางพระพุทธศาสนา ให้ชาวพทุ ธได้นาไปปฏบิ ัติใน การดาเนินชีวติ )  พระสงฆม์ ีความสาคญั กบั พระพุทธศาสนาและนกั เรียนอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ พระสงฆ์เป็ นผู้ปฏิบัติตนตามคาส่ังสอนของพระพทุ ธเจ้าและนาหลกั ธรรมมา เผยแผ่ให้ผู้คนได้ปฏบิ ตั ติ าม เป็ นผ้สู ืบทอดพระพทุ ธศาสนาให้ยนื ยาว) 4. ครูนาบตั รคาติดบนกระดานเป็น 3 แถว แลว้ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั จาแนกบตั รคาที่มี ความหมายตรงกบั พระรัตนตรัย ดงั น้ี พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ ผสู้ ืบทอดพระพทุ ธศาสนา พระไตรปิ ฎก หลกั คาสอนใหป้ ฏิบตั ิตาม ศาสดาของพระพุทธศาสนา ผตู้ รัสรู้ธรรมแลว้ ส่งั สอนชาวโลก ผถู้ ือศีล 227 ขอ้

5. ใหน้ กั เรียนสรุปความสาคญั ของพระรัตนตรัยเป็นแผนภาพบนกระดาน ดงั น้ี ตวั อย่างแผนภาพ (ใหค้ รูสรุปคาตอบของนกั เรียนลงในแผนภาพ) ความสาคญั ของ พระรัตนตรัย 6. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี  พระรัตนตรัยเป็นสรณะท่ีพ่ึงสูงสุดของพุทธศาสนิกชน 7. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี  นกั เรียนจะปฏิบตั ิตนใหเ้ ป็ นชาวพุทธที่สมบรู ณ์ไดอ้ ยา่ งไร แผนการเรียนรู้ที่ 10 ศรัทธา : การแสดงความเคารพในพระรัตนตรัย 1. ครูนาดอกไม้ ธูปเทียนมา แลว้ ใชค้ าถามใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนา ดงั น้ี  ดอกไมพ้ ร้อมดว้ ยธูปเทียนน้ีใชเ้ พอื่ ทาสิ่งใด (ตัวอย่างคาตอบ ใช้สาหรับ บูชาพระ)  นกั เรียนเคยปฏิบตั ิหรือไม่ (เคย) 2. ครูอธิบายถึงคุณของพระรัตนตรัย ใหน้ กั เรียนฟัง ดงั น้ี คุณของพระพทุ ธ คุณค่าของพระรัตนตรัย คุณของพระสงฆ์ คือ พระพุทธเจา้ ทรงตรัสรู้ คือ พระสงฆเ์ ป็ นผปู้ ฏิบตั ิตาม ไดด้ ว้ ยพระองคเ์ องแลว้ คุณของพระธรรม คาสอนของพระพทุ ธเจา้ แลว้ สอนใหผ้ อู้ ่ืนรู้ตาม คือ หลกั ธรรมคาสอนที่เป็ น เผยแผใ่ หผ้ อู้ ื่นรู้ตาม แนวทางปฏิบตั ิเพื่อใหเ้ กิด ความสุข

การที่จะเขา้ ถึงคุณของพระรัตนตรัย ชาวพทุ ธจะตอ้ งมีหลกั ธรรมสาคญั คือ ศรัทธา หมายถึง ความเชื่อ การยอมรับ การนบั ถือ ดว้ ยหลกั ของเหตุและผลตามความเป็นจริง โดยการปฏิบตั ิกราบไหวบ้ ูชา และประพฤติปฏิบตั ิตนตามหลกั คาสอน 3. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นในการแสดงความเคารพพระรัตนตรัย โดยครูใช้ คาถาม ดงั น้ี  นกั เรียนแสดงความเคารพในพระรัตนตรัยดว้ ยการปฏิบตั ิตนอยา่ งไรบา้ ง  ครูสรุปคาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพบนกระดาน ตัวอย่างแผนภาพ การบารุงพระสงฆผ์ สู้ ืบทอด พระพทุ ธศาสนาดว้ ยปัจจยั 4 การปฏิบตั ิตนตาม หลกั คาสอน การแสดงความเคารพ พระรัตนตรัย การกราบไหวบ้ ชู าดว้ ย การทาความดีต่อ ดอกไมธ้ ูปเทียน ตนเองและผอู้ ื่น 4. ครูใหน้ กั เรียนฝึกปฏิบตั ิตนในการแสดงความเคารพพระรัตนตรัย ดงั น้ี  การกราบไหวบ้ ชู าระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยดว้ ยดอกไมธ้ ูปเทียน  การใหน้ กั เรียนเลือกทาความดีตามหลกั ธรรมคนละ 1 อยา่ ง 5. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี  ความศรัทธาในพระรัตนตรัยทาใหป้ ฏิบตั ิตนไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งในการนบั ถือ พระรัตนตรัย 6. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี  นกั เรียนจะแสดงความเคารพตอ่ พระรัตนตรัยอยา่ งไรจึงจะเกิดประโยชน์ต่อ ตนเองและผอู้ ื่น 7. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานท่ี 6 เรื่อง พระรัตนตรัย แผนการเรียนรู้ท่ี 11 โอวาท 3 : การไม่ทาความช่ัว (เบญจศีล) 1. ครูเล่านิทานเร่ือง ผลจากการคิดร้าย ใหน้ กั เรียนฟัง โดยมีเน้ือร้อง ดงั น้ี

นิทานเรื่อง ผลจากการคิดร้าย ณ ป่ าแห่งหน่ึง สตั วท์ ุกตวั อาศยั อยรู่ ่วมกนั อยา่ งมีความสุข แบบพ่งึ พาอาศยั กนั จนกระทงั่ สุนขั จิ้งจอกจอมเกเรหลงเขา้ มาในป่ าและคอยจอ้ งแตจ่ ะทาร้ายสัตวท์ ี่อ่อนแอกวา่ อยมู่ าวนั หน่ึง สุนขั จิ้งจอกคิดจะเอาหางกระรอกมาทาพรมเช็ดเทา้ จึงวง่ิ ไล่กระรอกและเพ่อื น ๆ แตโ่ ชคร้ายตนเองกลบั วง่ิ ไปติดบว่ งนายพราน ดิ้นอยา่ งไรกไ็ ม่หลุด จึงออ้ นวอนใหส้ ตั วท์ ้งั หลายใหช้ ่วยตน แต่สตั วท์ ้งั หลาย ไมย่ อมเพราะกลวั สุนขั จิ้งจอกจะมาทาร้ายพวกตนอีก สิงโตมาพบเขา้ จึงบอกสัตวท์ ้งั หลายวา่ ควรใหอ้ ภยั สุนขั จิ้งจอก ให้โอกาสเขากลบั ตวั กลบั ใจเป็นสัตวท์ ี่ดี สุนขั จิ้งจอกจึงรู้สานึกวา่ การคิดร้ายต่อผอู้ ่ืน จะทาใหต้ นไดร้ ับผลร้ายน้นั ตอบคืน ดงั คาพดู ที่วา่ “ทาดีไดด้ ี ทาชว่ั ไดช้ วั่ ” เม่ือเป็นอิสระแลว้ สุนขั จิง้ จอกจึงสัญญากบั สตั วท์ ุกตวั วา่ ตนเองจะไม่เกเรและทาร้ายผอู้ ่ืนอีกต่อไป จากน้นั เป็นตน้ มา สัตวท์ ้งั หลายกอ็ ยรู่ ่วมกนั อยา่ งมีความสุข แลว้ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั นิทานเรื่องดงั กล่าว โดยครูใชถ้ าม ดงั น้ี  การกระทาของสุนขั จิง้ จอกเหมาะสมหรือไม่ เพราะอะไร (ไม่เหมาะสม เพราะเป็ นการทาร้ายผู้อน่ื เป็ นการกระทาทไ่ี ม่ด)ี  การกระทาของสุนขั จิ้งจอก ทาใหเ้ กิดผลอยา่ งไร (ทาให้ตนเองตดิ บ่วง นายพรานและสัตว์อนื่ ๆ ไม่มใี ครชอบตนเอง)  การกระทาของสิงโตเหมาะสมหรือไม่ เพราะอะไร (เหมาะสม เพราะการรู้จัก ให้อภัยผ้อู นื่ เป็ นนิสัยของคนด)ี  นกั เรียนควรนาการกระทาของสัตวใ์ ดมาเป็ นแบบอยา่ งในการดาเนินชีวติ (สิงโต)  นกั เรียนไดข้ อ้ คิดใดจากเร่ืองน้ี (ตัวอย่างคาตอบ ทาดไี ด้ดี ทาชั่วได้ชั่ว การรู้จัก ให้อภยั ผ้อู น่ื เป็ นเคร่ืองหมายของคนด)ี  นกั เรียนคิดวา่ ถา้ สิงโตไมใ่ หส้ ตั วท์ ุกตวั ใหอ้ ภยั สุนขั จิง้ จอก ตอนจบของเร่ืองจะ

เป็นอยา่ งไร (สุนัขจิง้ จอกถูกนายพรานเอาไปขายหรือทาร้าย) จากน้นั ครูสรุปเพิ่มเติมวา่ การกระทาของสุนขั จิ้งจอก เป็ นการกระทาความชว่ั คิดร้ายต่อ ผูอ้ ื่น ทาให้เกิดผลร้ายต่อตนเอง ในทางพระพุทธศาสนามีหลักธรรมซ่ึงเป็ นคาสั่งสอนของ พระพุทธเจา้ ที่เป็นแนวทางปฏิบตั ิใหช้ าวพุทธไมท่ าความชว่ั เช่นน้นั สถานการณ์ที่ 1 ป้ อมเป็นเดก็ เกเรชอบรังแกสัตว์ ทุกคร้ังท่ีป้ อมเจอสุนขั แมว หรือสัตวอ์ ่ืน ๆ ป้ อมจะใช้ กอ้ นหินขวา้ งใส่สัตวเ์ หล่าน้นั ใหไ้ ดร้ ับความเจบ็ ปวดดว้ ยความสนุกสนาน ดงั น้นั จึงไม่มีใคร อยากเป็นเพื่อนป้ อม จากน้นั ครูใชค้ าถาม เพ่ือใหน้ กั เรียนแสดงความคิดเห็น ดงั น้ี  ป้ อมเป็นเด็กอยา่ งไร (เป็ นเดก็ เกเร ชอบรังแกสัตว์)  การกระทาของป้ อม ส่งผลตอ่ ผอู้ ่ืนอยา่ งไร (ได้รับความเจ็บปวดทรมาน)  การกระทาของป้ อม ส่งผลต่อตนเองอยา่ งไร (ไม่มีใครอยากคบเป็ นเพอ่ื น)  การกระทาของป้ อม ควรทาหรือไม่ เพราะเหตุใด (ไม่ควรทา เพราะเป็ นการทา ความชั่ว)  นกั เรียนเคยทาเหมือนป้ อมหรือไม่ (เคย/ไม่เคย)  นกั เรียนจะนาป้ อมมาเป็นแบบอยา่ งในการดาเนินชีวติ หรือไม่ (ไม่) จากน้นั ครูสรุปให้นกั เรียนฟังวา่ การกระทาของป้ อม เป็ นการทาความชว่ั ผิดศีล ไม่ควร นามาเป็นแบบอยา่ ง เป็นการกระทาท่ีไม่ควรทาและควรละเวน้ ตามหลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา ที่ว่า เบญจศีล หรือศีล 5 ซ่ึงประกอบด้วย เวน้ จากการรังแกหรือฆ่าสัตวแ์ ละสิ่งมีชีวิตท้งั หลาย เวน้ จากการลกั ทรัพย์ เวน้ จากการประพฤติผิดในกาม เวน้ จากการพูดปด หลอกลวงและคาหยาบ และเวน้ จากการด่ืมน้าเมาหรือเสพสารเสพติด ถ้าพุทธศาสนิกชนเวน้ จากการทาความชั่วตาม หลกั ธรรมเบญจศีลได้ จะทาใหค้ นในสังคมอาศยั อยรู่ ่วมกนั อยา่ งมีความสุข 2. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สรุปประโยชนข์ องการปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมเบญจศีลเป็นแผนภาพ บนกระดาน ดงั น้ี

ตวั อย่างแผนภาพ ประโยชน์ของ เป็นผสู้ ารวมระวงั ตน มีความพอใจใน การปฏิบตั ิตนตาม ไม่ประพฤติเส่ือมเสีย ทรัพยส์ ินตนเอง หลกั ธรรมเบญจศีล เป็นผมู้ ีวาจาสัตย์ เป็นผมู้ ีจิตเมตตา ห่างไกลจากปัญหา พดู แต่ความจริง ไมเ่ บียดเบียนผอู้ ื่น ยาเสพติด 3. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี  การไม่ทาความชว่ั เป็ นการปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนา ที่พุทธศาสนิกชนควรนาไปปฏิบตั ิ เพื่อใหเ้ กิดความสงบสุขในการดาเนินชีวิต 4. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี  นกั เรียนจะปฏิบตั ิตนรักษาศีล 5 ใหค้ รบบริบูรณ์ไดอ้ ยา่ งไร แผนการเรียนรู้ท่ี 12 โอวาท 3 : การทาความดี (เบญจธรรม หิริ-โอตตปั ปะ สังคหวตั ถุ 4) 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั การกระทาของตนเอง โดย ครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  นกั เรียนคิดวา่ ตนเองเคยทาความดีอะไรบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ ไม่พดู โกหก ไม่ขโมยของเพอ่ื น)  นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไรเม่ือไดท้ าความดี (ตัวอย่างคาตอบ ดใี จ มีความสุข) แลว้ ครูนาคาตอบของนกั เรียนมาสรุปลงในแผนภาพบนกระดาน ดงั ตวั อยา่ งตอ่ ไปน้ี ความดี ทนี่ ักเรียนเคยทา

จากน้นั ครูสรุปใหน้ กั เรียนฟังวา่ การทาความดี เป็นส่ิงท่ีทุกคนควรปฏิบตั ิ ซ่ึงในพระพุทธ- ศาสนามีหลกั ธรรมชื่อ เบญจธรรม ท่ีช่วยสอนใชช้ าวพทุ ธทุกคนรู้จกั ทาความดีประกอบ ดว้ ยการมี เมตตากรุณาต่อสัตวแ์ ละส่ิงมีชีวติ ประกอบอาชีพสุจริต มีความซื่อสตั ยต์ อ่ คู่ครองของตน พดู แต่ ความจริง มีความซื่อสตั ย์ และมีสติไม่ประมาท รู้วา่ สิ่งใดไมค่ วรทา ถา้ ทุกคนในสงั คมปฏิบตั ิตน ตามเบญจธรรมได้ จะทาใหส้ ังคมสงบสุข 2. ครูนาแถบประโยคต่อไปน้ีมาแจกผแู้ ทนนกั เรียน 12 คน ท่ีหนา้ หอ้ งเรียน ดงั น้ี มีเมตตาและกรุณาต่อสตั ว์ ประกอบอาชีพสุจริต มีสติไม่ประมาท รู้สึกตวั อยเู่ สมอ เบญจธรรม เวน้ จากการลกั ทรัพย์ เวน้ จากการพดู ปด มีความซื่อสตั ยต์ ่อคูค่ รองของตน พดู แต่ความจริง มีความซื่อสตั ย์ เบญจศีล เวน้ จากการรังแกสัตว์ เวน้ จากการดื่มของมึนเมา เวน้ จากการประพฤติผิดในกาม จากน้นั ครูนานกั เรียนอ่านแถบประโยคเหล่าน้ี 1 รอบ แลว้ ให้นกั เรียนเล่นเกมยกมือบอก เบญจศีล และเบญจธรรม ซ่ึงมีวธิ ีการเล่น ดงั น้ี  ครูแยกแถบประโยคที่วา่ เบญจศีลและเบญจธรรมไวค้ นละดา้ น  ครูอ่านแถบประโยคท่ีเหลือทีละแถบ แลว้ ใหน้ กั เรียนยกมือขา้ งเดียวถา้ คิด วา่ แถบประโยคน้นั เป็นเบญจศีล และยกสองมือถา้ คิดวา่ แถบประโยคน้นั เป็นเบญจธรรม  กลุ่มที่ตอบไดเ้ ร็วและถูกตอ้ งมากท่ีสุดจะเป็นผชู้ นะ กลุ่มที่ตอบผดิ ใหอ้ อกมา อ่านหลกั ธรรมเบญจศีลและเบญจธรรมใหเ้ พื่อนฟัง 1 รอบ เม่ือจบั กลุ่มเบญจศีลและเบญจธรรมได้ถูกต้อง ครูนาแถบประโยคท้งั หมดมาติดบน กระดานตามกลุ่มใหถ้ ูกตอ้ ง จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนา โดยใชค้ าถาม ดงั น้ี  ถา้ สมาชิกทุกคนในสงั คมปฏิบตั ิตนตามหลกั เบญจศีลและเบญจธรรมแลว้ จะเกิดผลอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ ผ้ปู ฏบิ ตั ิมคี วามสุขและสังคมสงบสุข) 3. ครูเล่านิทานเร่ือง หนูนาเด็กดี ใหน้ กั เรียนฟัง ดงั น้ี

นิทานเรื่อง หนูนาเดก็ ดี หนูนาเป็ นหวั หนา้ หอ้ งช้นั ป.2 มีเพ่ือนสนิทคือหนูดี ซ่ึงวนั น้ีหนูดีซ้ือดินสอ มาใหม่สวยมาก หนูนาชอบและอยากไดด้ ินสอของหนูดี เม่ือหนูดีลุกไปจากโตะ๊ หนูนาคิด วา่ จะขโมยดินสอของหนูดี แต่กต็ อ้ งเปล่ียนใจเพราะรู้วา่ มนั เป็นการกระทาท่ีไม่ดี และ เกบ็ เงินซ้ือดินสอเองจะภมู ิใจมากกวา่ ขโมยของเพ่ือน แลว้ ครูใชค้ าถามเพอื่ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น ดงั น้ี  การกระทาของหนูนาเหมาะสมหรือไม่ (เหมาะสม)  นกั เรียนเคยทาเหมือนหนูนาหรือไม่ (เคย/ไม่เคย)  ถา้ นกั เรียนอยากไดด้ ินสอใหม่ นกั เรียนควรทาอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ เกบ็ เงนิ ซื้อเอง ให้พ่อแม่ซื้อให้)  ถา้ หนูนาขโมยดินสอของหนูดี จะเกิดผลอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ ถูกครูลงโทษ เพอ่ื นรังเกยี จ)  เพราะเหตุใดหนูนาจึงไม่ขโมยดินสอของหนูดี (ตวั อย่างคาตอบ กลวั ถูกจับได้ อาย ไม่กล้า)  ถา้ นกั เรียนเป็นหนูนาจะขโมยดินสอของหนูดีหรือไม่ เพราะเหตุใด (ไม่ เพราะเป็ นการกระทาทไี่ ม่ด)ี จากน้นั ครูสรุปใหน้ กั เรียนฟังวา่ การกระทาของหนูนาถูกตอ้ ง ที่หนูนาไม่ขโมยดินสอของ หนูดีกเ็ พราะความละอาย ไมก่ ลา้ และเกรงกลวั ตอ่ บาป โดยความผดิ ท่ีจะเกิดข้ึน ตรงกบั หลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา คือ หิริ-โอตตปั ปะ หิริ หมายถึง ความละอายตอ่ การกระทาส่ิงไม่ดี โอตตปั ปะ หมายถึง ความเกรงกลวั ต่อสิ่งท่ีไมด่ ีและผลจากการทาส่ิงไมด่ ี จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนา โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  ถา้ ทุกคนในสงั คมมีหิริ -โอตตปั ปะในใจ จะเกิดผลอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ ทกุ คนอย่รู ่วมกนั อย่างสงบสุข ไม่เดอื ดร้อน)

4. ครูอธิบายหลกั ธรรมที่เก่ียวกบั การทาความดี คือ สังคหวตั ถุ 4 ให้นกั เรียนฟัง แลว้ ให้ นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั การปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมสังคหวตั ถุ 4 ของตนเอง โดยครูใชค้ าถามกระตุน้ ความคิด ดงั น้ี  นกั เรียนเคยปฏิบตั ิตนในการใหท้ านอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ให้เพอ่ื นยมื ไม้บรรทดั แบ่งขนมให้น้อง)  นกั เรียนเคยปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมปิ ยวาจาอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ไม่พูดคาหยาบกบั ผู้อนื่ )  นกั เรียนเคยปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมอตั ถจริยาอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ช่วยแม่ ทางานบ้าน ช่วยเพอื่ นทาความสะอาดห้องเรียน)  นกั เรียนเคยปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมสมานตั ตตาอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ทาการบ้านส่งครูทกุ คร้ัง) 5. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปหลกั ธรรมที่เก่ียวกบั การไม่ทาความชว่ั และการทาความดี จากน้นั ใหน้ กั เรียนวาดภาพการทาความดีท่ีจะนาไปปฏิบตั ิแลว้ ออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  ถา้ นกั เรียนปฏิบตั ิตนตามภาพที่วาด จะเกิดผลดีตอ่ ตนเองอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ มคี วามสุข)  ถา้ คนในสงั คมไม่ปฏิบตั ิตนตามภาพท่ีนกั เรียนวาดจะเกิดผลอยา่ งไร (สังคม วุ่นวาย ทกุ คนไม่มีความสุข) 6. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี  โอวาท 3 การทาความดี เป็ นหลกั ปฏิบตั ิใหผ้ ปู้ ฏิบตั ิตนทาความดีเพือ่ ตนเองและ บุคคลอ่ืน เพื่อการดาเนินชีวติ อยใู่ นสงั คมอยา่ งมีความสุข 7. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี  นกั เรียนจะปฏิบตั ิตนอยา่ งไรจึงจะไดช้ ื่อวา่ ทาคุณความดีใหเ้ กิดแก่ตนเอง แผนการเรียนรู้ที่ 13 เร่ือง โอวาท 3 : การทาความดี (ฆราวาสธรรม 4 ความกตัญํูกตเวทตี ่อ ครูอาจารย์และโรงเรียน) 1.ครูเล่านิทานเร่ือง ครอบครัวของแต๋ม ใหน้ กั เรียนฟัง ดงั น้ี

นิทานเร่ือง ครอบครัวของแต๋ม ครอบครัวของแต๋มมีสมาชิก 3 คน คือ พอ่ แม่ และแต๋ม พอ่ แม่ของแต๋มทางาน รับจา้ งทว่ั ไป พ่อแม่ไม่เคยทะเลาะกนั เมื่อมีปัญหาอะไรเกิดข้ึน พ่อแม่ก็จะคุยกนั ดว้ ย เหตุผล แมจ้ ะทางานหนักและเหน่ือยก็ไม่เคยปริปากบ่น และไม่เคยพูดโกหกหรือ คาหยาบคายเลย ทาใหแ้ ต๋มรู้สึกโชคดีและมีความสุขที่ไดเ้ กิดมาเป็ นลูกของพ่อกบั แม่ แต๋มจึงต้งั ใจเรียนและช่วยทางานบา้ นเพ่ือเป็นการตอบแทนบุญคุณของพอ่ แม่ จากน้ันครูใช้คาถามเพื่อให้นักเรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนิทานเรื่อง ครอบครัวของแต๋ม ดงั น้ี  ครอบครัวของแต๋มมีใครบา้ ง (พ่อ แม่ และแต๋ม)  เมื่อเกิดปัญหาข้ึนในครอบครัว พอ่ แมข่ องแต๋มแกป้ ัญหาอยา่ งไร (ปรึกษากนั ด้วยเหตุผล)  พอ่ แมข่ องแต๋มไม่เคยปริปากบน่ แมจ้ ะทางานหนกั เป็นการแสดงออกถึง คุณธรรมขอ้ ใด (ความอดทน)  พอ่ แมข่ องแต๋มปฏิบตั ิตนต่อกนั อยา่ งไร (ไม่ทะเลาะกนั พดู จากนั ด้วยเหตุผล ไม่โกหก และไม่พูดคาหยาบ)  แต๋มรู้สึกอยา่ งไรท่ีไดเ้ กิดมาในครอบครัวน้ี (รู้สึกโชคดแี ละมีความสุข)  แต๋มปฏิบตั ิตนในการเป็นลูกที่ดีของพอ่ แม่อยา่ งไร (ต้งั ใจเรียนและช่วย ทางานบ้าน)  ครอบครัวของนกั เรียนเหมือนครอบครัวของแต๋มหรือไม่ (เหมอื น/ไม่เหมอื น)  นกั เรียนอยากใหค้ รอบครัวของตนเองอยรู่ ่วมกนั แบบครอบครัวของแต๋มหรือไม่ (อยาก/ไม่อยาก) จากน้นั ครูสรุปใหน้ กั เรียนฟังวา่ ครอบครัวของแต๋มอยรู่ ่วมกนั ตามหลกั ธรรมทาง พระพุทธศาสนาที่ช่ือวา่ ฆราวาสธรรม 4 เป็นหลกั ธรรมที่สมาชิกในครอบครัวควรยดึ ถือปฏิบตั ิ เพื่อใหส้ ามารถอยรู่ ่วมกนั ในครอบครัวอยา่ งมีความสุข

2. ครูอธิบายเก่ียวกบั ฆราวาสธรรม 4 ใหน้ กั เรียนฟัง แลว้ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดง ความคิดเห็นวา่ ตนเองมีหลกั ธรรมฆราวาสธรรม 4 อยา่ งไร และตรงกบั ฆราวาสธรรม 4 ขอ้ ใด เช่น  ไม่เคยโกหกพอ่ แม่ ตรงกบั ฆราวาสธรรม 4 ขอ้ สัจจะ  แบ่งของเล่นให้นอ้ ง ตรงกบั ฆราวาสธรรม 4 ขอ้ จาคะ  ช่วยทางานบา้ นโดยไมเ่ คยบ่น ตรงกบั ฆราวาสธรรม 4 ขอ้ ขนั ติ  ไมโ่ กรธพี่เม่ือโดนแกลง้ ตรงกบั ฆราวาสธรรม 4 ขอ้ ทมะ แลว้ ครูนาขอ้ มูลท่ีไดไ้ ปสรุปลงในแผนภาพบนกระดาน ดงั ตวั อยา่ งต่อไปน้ี ทมะ ขนั ติ การปฏิบัตติ นตาม หลกั ธรรม ฆราวาสธรรม 4 สจั จะ จาคะ 3. ครูเล่าสถานการณ์เก่ียวกบั การแสดงความกตญั ํูกตเวทีต่อครูอาจารยแ์ ละโรงเรียนให้ นกั เรียนฟัง ดงั น้ี สถานการณ์ที่ 1 ณ โรงเรียนแห่งหน่ึงมีนกั เรียนจานวน 200 คน ทุกคนเป็นเด็กดี มาโรงเรียนต้งั แต่เชา้ ทาความเคารพครูก่อนเขา้ โรงเรียน และช่วยกนั ทาความสะอาดหอ้ งเรียนและบริเวณรอบโรงเรียน ตามความรับผดิ ชอบของตนเองดว้ ยความเตม็ ใจ เวลาครูสอนกต็ ้งั ใจเรียน ไม่เคยทาตวั ให้ เสียช่ือเสียงของโรงเรียน ทาใหโ้ รงเรียนน่าอยแู่ ละมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จกั ของคนทว่ั ไป จากน้นั ครูใชค้ าถามเพ่ือใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น ดงั น้ี  นกั เรียนมาโรงเรียนแต่เชา้ หรือไม่ (มา/ไม่มา)  นกั เรียนทาความเคารพครูอาจารยเ์ ม่ือเจอกนั หรือไม่ (ทา/ไม่ทา)  นกั เรียนร่วมกิจกรรมการทาความสะอาดหอ้ งเรียนและบริเวณรอบโรงเรียน กบั เพอ่ื น ๆ หรือไม่ (ร่วม/ไม่ร่วม)

 เวลาครูสอน นกั เรียนต้งั ใจเรียนหรือไม่ (ต้งั ใจ/ไม่ต้งั ใจ)  ถา้ นกั เรียนต้งั ใจเรียน จะเกิดผลดีตอ่ ตนเองอยา่ งไร (ทาให้เข้าใจในสิ่งทเี่ รียน)  ถา้ นกั เรียนเคยปฏิบตั ิตนเหมือนในสถานการณ์น้ี จะเกิดผลดีตอ่ ตนเองและ โรงเรียนอยา่ งไร (เกดิ ผลต่อตนเอง คอื เป็ นคนดี มคี นรัก และเรียนดี ผลต่อโรงเรียน คือ ทาให้ โรงเรียนน่าอยู่และมีชื่อเสียงทด่ี ี เป็ นทรี่ ู้จักของคนท่วั ไป) จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปวา่ การเป็นนกั เรียนที่ดี ตอ้ งรู้จกั กตญั ํูกตเวทีต่อ ครูอาจารยแ์ ละโรงเรียน โดยการต้งั ใจเรียน ปฏิบตั ิตนตามกฎระเบียบและรักษาช่ือเสียงของ โรงเรียนทาความเคารพและเชื่อฟังครูอาจารย์ ซ่ึงท้งั หมดลว้ นเป็นการปฏิบตั ิตนเป็นคนดีตาม หลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนาในขอ้ ท่ีวา่ ความกตญั ํูกตเวที 4. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี  การปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนาจะทาใหอ้ ยรู่ ่วมกบั ผอู้ ื่นได้ อยา่ งมีความสุข และทาใหส้ ังคมสงบสุข 5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี  นกั เรียนจะปฏิบตั ิตนอยา่ งไรจึงจะไดช้ ่ือวา่ เป็นคนดีของโรงเรียน แผนการเรียนรู้ท่ี 14 โอวาท 3 : การทาความดี (มงคล 38) 1. ครูนาบตั ร มงคล มาติดไวบ้ นกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนอ่านตามและ ร่วมกนั แสดง ความคิดเห็นเกี่ยวกบั คาดงั กล่าว ดงั น้ี  นกั เรียนเคยไดย้ นิ คาน้ีหรือไม่ (เคย/ไม่เคย)  เม่ือไดย้ นิ คาน้ี นกั เรียนนึกถึงสิ่งใด ( ตวั อย่างคาตอบ ความดงี าม ความสุข ความเจริญ) แล้วครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า มงคล หมายถึง คาสอนทางพระพุทธศาสนาท่ีจะนา ความสุขความเจริญมาให้ เมื่อเราปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมน้ี จะทาให้ชีวิตมีแต่ความสุข มีท้งั หมด 38 ขอ้ ครูอธิบายมงคลที่นกั เรียนตอ้ งเรียน คือ ความกตญั ํูกตเวที และการสงเคราะห์ญาติพี่นอ้ ง ใหน้ กั เรียนฟัง 2. ให้นักเรียนเล่นเกมลูกบอลรู้หน้าที่ โดยครูให้นกั เรียนออกมาจบั ลูกปิ งปองในกล่อง ทีละคนถา้ ใครจบั ไดส้ ีใดก็ให้บอกการปฏิบตั ิตนที่จะนาไปปฏิบตั ิในชีวิตประจาวนั ตามเงื่อนไข ท่ีครูต้งั ไว้ ดงั น้ี  ลูกบอลสีขาว ใหบ้ อกวา่ ตนเองแสดงความกตญั ํูต่อพอ่ แม่อยา่ งไร  ลูกบอกสีเหลือง ใหบ้ อกวา่ ตนเองแสดงความกตญั ํูตอ่ ครูอาจารยอ์ ยา่ งไร  ลูกบอลสีแดง ใหบ้ อกวา่ ตนเองใหค้ วามช่วยเหลือและแสดงความรักตอ่ ญาติพี่นอ้ งอยา่ งไร

3. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั หลกั ธรรมมงคล 38 : ความกตญั ํูกตเวที และการสงเคราะห์ญาติพน่ี อ้ ง โดยครูใชค้ าถามและสรุปคาตอบของนกั เรียนเป็ นแผนภาพ ดงั น้ี  นกั เรียนมีแนวทางการปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมมงคล 38 อยา่ งไรบา้ ง ตวั อย่างแผนภาพ เคารพเช่ือฟังพอ่ แม่ แนวทาง ช่วยเหลือเก้ือกลู กนั ช่วยทางานบา้ น การปฏบิ ัตติ น แบง่ ปันสิ่งของแก่ญาติ ตามหลกั ธรรม ความกตญั ํูกตเวที การสงเคราะห์ญาติพนี่ อ้ ง มงคล 38 ดูแลรักษา เม่ือทา่ นเจบ็ ป่ วย มีความรักและสามคั คีกนั เล้ียงดูพอ่ แม่ เม่ือทา่ นแก่ชรา ช่วยงานญาติเมื่อมีงานเกิดข้ึน ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปวา่ หลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนาเรื่อง มงคล 38 สอนใหท้ ุกคน รู้จกั กตญั ํูกตเวทีต่อผมู้ ีพระคุณทุกคน ดว้ ยการปฏิบตั ิตนเป็นคนดี มีน้าใจช่วยเหลือญาติพ่นี อ้ ง ครูอาจารย์ พอ่ แม่ และบุคคลทว่ั ไป จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  ถา้ ทุกคนมีความกตญั ํูกตเวทีต่อพอ่ แม่และครูอาจารยจ์ ะเกิดผลอยา่ งไร (เป็ นทร่ี ักของทุกคน และทาให้ครอบครัวและสังคมมคี วามสงบสุข) 4. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี  มงคล 38 เป็นหลกั ธรรมที่ใชป้ ฏิบตั ิตนในการดาเนินชีวติ ประจาวนั เพื่อใหเ้ กิด ความสงบสุข ในการดาเนินชีวติ 5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี  นกั เรียนจะนาหลกั ธรรมมงคล 38 ไปปฏิบตั ิต่อครอบครัวอยา่ งไร แผนการเรียนรู้ท่ี 15 โอวาท 3 : การทาจิตใจให้บริสุทธ์ิ 1. ครูใหน้ กั เรียนดูภาพการนง่ั สมาธิ แลว้ ครูใชค้ าถามใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดง ความคิดเห็น ดงั น้ี  บุคคลในภาพกาลงั ทาอะไร (ตัวอย่างคาตอบ นั่งสมาธิ)  นง่ั สมาธิเพอ่ื อะไร (ตวั อย่างคาตอบ เพอื่ ให้จิตใจเกดิ สมาธิและมีความสงบ)  จิตมีสมาธิและสงบ มีประโยชนอ์ ยา่ งไร (ทาให้จิตใจมคี วามสุข ปราศจาก ความวุ่นวาย)  นกั เรียนเคยปฏิบตั ิดงั ภาพหรือไม่ (เคย/ไม่เคย)

2. ครูพานกั เรียนนงั่ สมาธิกาหนดลมหายใจเขา้ ออกประมาณ 3 นาที และแผเ่ มตตา 3 รอบ จากน้นั ใชค้ าถามเพอ่ื ให้นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั การกระทาดงั กล่าว ดงั น้ี  กิจกรรมท่ีครูพานกั เรียนปฏิบตั ิเรียกวา่ อะไร (การน่ังสมาธิและการแผ่เมตตา)  เม่ือทากิจกรรมแลว้ นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ สบายใจ มคี วามสุข)  นกั เรียนเคยทากิจกรรมน้ีท่ีใดบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ วดั บ้าน )  กิจกรรมน้ีมีประโยชน์อยา่ งไร (ทาให้ผู้ปฏบิ ตั มิ จี ิตใจดีงาม บริสุทธ์ิ และ มคี วามสุข) จากน้นั ครูสรุปใหน้ กั เรียนฟังวา่ การทาจิตใจใหบ้ ริสุทธ์ิ เป็น 1 ใน 3 ของหลกั ธรรมทาง พระพทุ ธศาสนาที่ช่ือ โอวาท 3 ซ่ึงจิตใจท่ีบริสุทธ์ิ หมายถึง จิตใจท่ีคิดแตส่ ่ิงที่ดี ไมอ่ ิจฉาหรือคิดร้าย ต่อผอู้ ่ืน มีวธิ ีการฝึกปฏิบตั ิ ดงั น้ี ฝึกตนไมใ่ หโ้ กรธง่าย รู้จกั ใหอ้ ภยั และฝึกบริหารจิตเจริญปัญญา จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนา โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  ถา้ ทุกคนในสังคมฝึกจิตใจใหบ้ ริสุทธ์ิ จะเกิดผลอยา่ งไร (ตนเองมคี วามสุขและ ทาให้เกดิ ความสงบสุขในสังคม) 3. ครูและนกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ประสบการณ์การปฏิบตั ิตาม หลกั ธรรมท่ีเก่ียวกบั โอวาท 3 และประโยชนข์ องการปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมน้นั ๆ โดยครูใช้ คาถาม ดงั น้ี  นกั เรียนเคยปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมท่ีเก่ียวกบั โอวาท 3 หลกั ธรรมใดบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ ความกตัญํกู ตเวที การสงเคราะห์ญาต)ิ  นกั เรียนปฏิบตั ิตนอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ ช่วยพ่อแม่ทางานบ้าน แบ่งขนม ให้น้อง)  เมื่อปฏิบตั ิแลว้ มีประโยชน์อยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ ช่วยแบ่งเบาภาระของ พ่อแม่ น้องให้ความรักและความเคารพมากขนึ้ ) จากน้นั ใหน้ กั เรียนออกมาเล่าวา่ จะปฏิบตั ิตนในฐานะชาวพุทธที่ดีไดอ้ ยา่ งไร แลว้ ร่วมกนั แลกเปล่ียนความคิดเห็นกบั ครูและเพ่อื นในช้นั เรียนวา่ ถา้ ปฏิบตั ิแลว้ จะเกิดผลดีอยา่ งไร และใน คร้ังต่อไปจะปฏิบตั ิใหด้ ีข้ึนไดอ้ ยา่ งไร 4. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเก่ียวกบั โอวาท 3 โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  การปฏิบตั ิตามโอวาท 3 จะเกิดผลดีอยา่ งไร (ทาให้คนในสังคมอยู่ร่วมกันอย่างมี ความสุข)  ถา้ คนในสังคมไม่ปฏิบตั ิตามโอวาท 3 จะเกิดผลอยา่ งไร (สังคมวุ่นวาย ไม่น่าอยู่)

จากน้นั ครูสรุปใหน้ กั เรียนฟังวา่ ถา้ คนในสงั คมปฏิบตั ิตามโอวาท 3 จะมีความสุขท้งั กาย และใจ จึงอาศยั อยรู่ ่วมกนั อยา่ งมีความสุข 5. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี  การชาระจิตใจใหบ้ ริสุทธ์ิเป็นหลกั ธรรมท่ีทาใหผ้ ปู้ ฏิบตั ิมีความสะอาดบริสุทธ์ิ ท้งั กาย วาจา และใจ 6. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี  ถา้ จิตใจของนกั เรียนขนุ่ มวั นกั เรียนจะทาจิตใจใหส้ ะอาดบริสุทธ์ิไดอ้ ยา่ งไร 7. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานท่ี 7 เร่ือง โอวาท 3 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 16 พุทธศาสนสุภาษิต ความกตญั ํูเป็ นเครื่องหมายของคนดี, มารดาบดิ า เป็ นพรหมของบุตร 1. ครูทกั ทายนกั เรียนดว้ ยคาถามวา่  วนั น้ีใครทาความดีกบั พอ่ แม่บา้ ง (ให้นักเรียนยกมอื )  ทาความดีกบั พอ่ แม่อยา่ งไรบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ ช่วยพ่อแม่ดูแลน้อง ช่วยเกบ็ - กวาดบ้าน ยกนา้ และอาหาร ช่วยพ่อกบั แม่ตอนทานข้าว เช่ือฟังและปฏิบัตติ ามคาสอน) ครูอธิบายวา่ การช่วยพ่อแม่ทางานหรือเช่ือฟังคาแนะนาแลว้ ปฏิบตั ิตาม เป็นการปฏิบตั ิตน เป็นคนท่ีรู้จกั ความกตญั ํูกตเวที ดงั พุทธศาสนสุภาษิตท่ีนกั เรียนจะไดเ้ รียนในวนั น้ี 2. ครูนาบตั รคาหรือแถบประโยคของพทุ ธศาสนสุภาษิตติดบนกระดาน ใหน้ กั เรียน ร่วมกนั อ่านและศึกษา ดงั น้ี นิมิตฺต สาธุรูปาน กตํฺํู กตเวทติ า อ่านวา่ นิ ‟ มิด ‟ ตงั ‟ สา ‟ ทุ ‟ รู ‟ ปา ‟ นงั ‟ กะ‟ ตนั ‟ ยู ‟ กะ ‟ ตะ ‟ เว ‟ ทิ ‟ ตา แปลวา่ ความกตญั ํูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดี จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั การปฏิบตั ิตนตามหลกั คาสอนของ พทุ ธศาสนสุภาษิต โดยครูใชค้ าถามและสรุปคาตอบของนกั เรียนเป็ นแผนภาพบนกระดาน ดงั น้ี  การปฏิบตั ิตนอยา่ งไรถือวา่ เป็นความกตญั ํูกตเวที ตวั อย่างแผนภาพ

เช่ือฟังคาสอนของ บิดา มารดา ครูอาจารย์ รู้และตอบแทนบุญคุณพอ่ แม่ แสดงความกตญั ํูตอ่ โรงเรียน โดยการเป็ นเด็กดี การปฏบิ ตั ิทเี่ ป็ น ความกตัญํูกตเวที รู้และสานึกในความดีที่ แสดงความกตญั ํูต่อศาสนา คนอ่ืนทาแลว้ หาทาง โดยการทาความดี ทาความดีตอบแทน พฺรหฺมาติ มาตาปิ ตโร อ่านวา่ พรัม ‟ มา ‟ ติ ‟ มา ‟ ตา ‟ ปิ ‟ ตะ - โร แปลวา่ มารดาบิดาเป็นพรหมของบุตร ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั อ่านแลว้ ร่วมกนั สนทนา โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  เหตุใดพุทธศาสนสุภาษิตจึงเปรียบบิดามารดาวา่ เป็นพรหมของบุตร (ตวั อย่างคาตอบ พรหม ในศาสนาพราหมณ์เชื่อว่าเป็ นผู้สร้างโลก พระพทุ ธศาสนายกย่อง บิดามารดาเปรียบดงั พรหมผู้ให้กาเนิดบุตรธิดา)  เหตุใดพระพทุ ธศาสนาจึงยกยอ่ งบิดามารดาเป็ นพรหมของบุตร (ตวั อย่างคาตอบ เพราะท่านมคี ุณธรรม 4 ประการ ต่อบุตรธิดา คอื เมตตา ความรักใคร่ ปรารถนา ให้บุตรธิดามีความสุขความเจริญ กรุณา ช่วยเหลอื บุตรธิดาให้มีความสุข มุทติ า ยนิ ดเี มอื่ บุตรธิดา ประสบกบั ความสุขความเจริญ อุเบกขา มีจิตใจเป็ นกลาง ไม่โกรธหรือซ้าเติมเมอ่ื บุตรธิดาทาผดิ )  นกั เรียนจะปฏิบตั ิตนอยา่ งไรตอ่ บิดามารดา ในเมื่อพระพทุ ธศาสนายกยอ่ งดุจดงั พระพรหมของลูก (ตัวอย่างคาตอบ เคารพกราบไหว้ สานึกในคุณความดที ่ีท่านมตี ่อเรา และ ตอบแทนท่านด้วยความกตญั ํูกตเวที ประพฤตติ นเป็ นคนดขี องท่าน และสังคม) 3. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี  พทุ ธศาสนสุภาษิต เป็นขอ้ ความหลกั ธรรมในทางพระพุทธศาสนาท่ีสอนให้ ผปู้ ฏิบตั ิประพฤติความดีเพอ่ื ใหเ้ กิดความสุขแก่ตนเองและบุคคลอื่น 4. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี

 นกั เรียนมีคุณธรรมอะไรท่ีบ่งบอกวา่ ตนเองเป็นคนดีของบิดามารดา แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 17 การกระทาความดขี องตนเอง และบุคคลในครอบครัวและโรงเรียน 1. ครูทกั ทายนกั เรียน โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  วนั น้ีนกั เรียนทาความดีอะไรบา้ งที่เป็นประโยชน์ตอ่ ตนเอง (ตัวอย่างคาตอบ ทาการบ้านเสร็จตามทคี่ ุณครูสั่ง พูดจากบั เพอื่ นด้วยถ้อยคาทสี่ ุภาพ มาโรงเรียนตรงตามเวลา)  การทาความดีดงั กล่าว มีผลดีตอ่ นกั เรียนอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ เป็ นคนมี ระเบียบวนิ ัย มีความสุภาพเรียบร้อย เป็ นทร่ี ักของผ้ปู กครอง ครู และเพอื่ น ๆ) 2. ครูใหน้ กั เรียนเสนอแนวทางการทาความดีของตนเองมาคนละ 1 ตวั อยา่ ง จากน้นั ครู สรุปคาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพบนกระดาน ดงั น้ี ตวั อย่างคาตอบ แนวทาง การกระทาความดี ของตนเอง 3. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั นาเสนอแนวทางการทาความดีของบุคคลในครอบครัว โดยครูให้ นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นและใชค้ าถาม ดงั น้ี  บุคคลในครอบครัวของเรามีใครเป็นผดู้ ูแลและท่านปฏิบตั ิต่อบุคคลใน ครอบครัวอยา่ งไรบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ มพี ่อกบั แม่เป็ นผู้ดูแล ท่านมีหน้าทด่ี ูแลเลีย้ งดูบุคคลใน ครอบครัวให้มีความสุข)  นกั เรียนปฏิบตั ิตนกระทาความดีต่อครอบครัวอยา่ งไรบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ ช่วยเหลอื พ่อแม่ทางานบ้าน ปฏบิ ตั ติ นเป็ นคนดขี องครอบครัว)  ถา้ ทุกคนในครอบครัวกระทาความดีต่อกนั จะส่งผลตอ่ บุคคลในครอบครัว อยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ทาให้ครอบครัวมีแต่ความสงบสุข มีความรักและความสามัคคีกนั ) 4. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั นาเสนอแนวทางการทาความดีของบุคคลในโรงเรียน โดยครูให้ นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น และครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  บุคคลในโรงเรียนของเรามีใครเป็นผดู้ ูแลและท่านมีหนา้ ท่ีปฏิบตั ิต่อสมาชิกใน

โรงเรียนอยา่ งไรบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ มีคุณครูเป็ นผ้คู อยอบรมแนะนาส่ังสอนความรู้ให้นักเรียน)  นกั เรียนปฏิบตั ิตนกระทาความดีต่อบุคคลในโรงเรียนอยา่ งไรบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ เชื่อฟังคาอบรมแนะนาสั่งสอน ขยันและต้งั ใจศึกษาเล่าเรียน ปฏิบัตติ นตาม ระเบยี บวนิ ัยของโรงเรียน)  ถา้ สมาชิกในโรงเรียนปฏิบตั ิดีต่อกนั จะส่งผลใหโ้ รงเรียนเป็นอยา่ งไรบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ โรงเรียนน่าอย่แู ละบรรยากาศภายในโรงเรียนน่าศึกษาเล่าเรียน มีความเรียบร้อย และเป็ นระเบยี บวนิ ัย) 5. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นและสรุปผลของการทาความดีของตนเอง บุคคลในครอบครัวและบุคคลในโรงเรียนเป็ นแผนภาพบนกระดาน ดงั น้ี ตวั อย่างแผนภาพ ครอบครัวมีความสุขและ ผลของการทาความดี เป็นผมู้ ีระเบียบวนิ ยั ความสามคั คี ของตนเอง บุคคลใน ในการดาเนินชีวติ ครอบครัวและโรงเรียน ไดป้ ฏิบตั ิตนเป็นคนดี โรงเรียนมีระเบียบ น่าอยู่ และน่าเรียนหนงั สือ 6. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี  การกระทาความดีของตนเอง ส่งผลใหบ้ ุคคลในครอบครัวและโรงเรียน มีความสุข มีความรักความสามคั คี และมีความเป็นระเบียบ 7. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี  นกั เรียนมีหลกั การทาความดีของตนเองและกบั บุคคลอ่ืนอยา่ งไร 8. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานที่ 8 เร่ือง การกระทาความดีของตนเอง และบุคคลในครอบครัว และโรงเรียน

สื่ออปุ กรณ์ 1. ภาพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ 2. บตั รคา 3. ดอกไม้ ธูปเทียน 4. ชิ้นงานท่ี 6 เร่ือง พระรัตนตรัย 5.นิทานเร่ือง ผลจากการคิดร้าย 6. นิทานเรื่อง หนูนาเดก็ ดี 7. สถานการณ์ 8. แถบประโยค 9. นิทานเรื่อง ครอบครัวของแต๋ม 10. สถานการณ์เก่ียวกบั โรงเรียน 11. ลูกบอลสีขาว เหลือง และแดง 12. ชิ้นงานท่ี 7 เร่ือง โอวาท 3 13. บตั รคาพทุ ธศาสนสุภาษิต 14. ชิ้นงานท่ี 8 เร่ือง การกระทาความดีของตนเอง และบุคคลในครอบครัวและโรงเรียน การวดั การประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2. ตรวจชิ้นงานท่ี 6 3. ตรวจชิ้นงานที่ 7 4. ตรวจชิ้นงานท่ี 8 5. แบบทดสอบก่อนเรียน 6. แบบทดสอบหลงั เรียน

ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหารสถานศึกษา ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ลงช่ือ_________________________ (ผบู้ ริหารสถานศึกษา) (_________________________) ________/________/________ บันทกึ หลงั การสอน  ผลการจดั การเรียนการสอน ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________  ปัญหา/อุปสรรค ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________  แนวทางแกไ้ ข ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ลงช่ือ_____________________________ (ผบู้ นั ทึก) (นายอาชิต เอี่ยมศิริ) ___/__________/________


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook