40 การขยายพันธุ การเล้ยี ง และการเกบ็ เกีย่ ว บทที่ 4 การขยายพนั ธุ การเล้ียง และการเกบ็ เก่ยี วเทคโนโลยีการเพาะเลย้ี งสาหรา ย สายพนั ธสุ าหรา ยทีจ่ ะนาํ มาเพาะเล้ียงในทางการคา ควรเปนสายพนั ธุที่มีการเจริญเตบิ โตไดรวดเรว็ มีคุณคาทางโภชนาการสูง ไมมีสารพิษ ทนทานตออณุ หภูมิสูง ถา เปนเซลลขนาดใหญกจ็ ะงายตอ การเก็บเกี่ยวเทคโนโลยกี ารเพาะเล้ยี งสาหรายมี 3 ขัน้ ตอนทส่ี ําคัญ คอื 1. การเพาะเลีย้ ง (Algal cultivation) ตง้ั แตการเพาะเลี้ยงหัวเชอ้ื สาหรา ยในหอ งควบคุม การเพาะเลี้ยงในอางขนาดใหญ การกวน การใหอากาศ และการใสส ารอาหาร 2. การเก็บเก่ยี ว (Harvesting) โดยจะใชเครื่องมือและวิธีการตาง ๆ ตามแตช นิดของสาหรา ย เชนเครื่องเหวยี่ ง การตกตะกอน การกรอง 3. การทําแหง (Drying) โดยวิธตี าง ๆ เชน การตากแดด (Sun-drying) ใชพ ลงั งานแสงอาทิตย(Solar-drying) การอบแหง แบบลูกกลิง้ (Drum-drying) การอบแหงแบบพนฝอย (Spray-drying) การอบแหงแบบระเหิด (Freeze-drying)การเพาะเล้ียงสาหราย คือการเล้ียงสาหรา ยดว ยอาหารทีใ่ ชในการเล้ยี งสาหราย 2 ชนิดคืออาหารเหลว อาหารแข็งหรืออาหารวนุ เพ่ือใชเ ปนอาหารสตั วน้ําวยั ออ นหรือผลติ เปนอุตสาหกรรม สาหรา ยมหี ลายชนิดผเู ล้ยี งจะตองศกึ ษารายละเอยี ดเพื่อจะไดป ระสบความสาํ เรจ็ ในการเลย้ี งสาหรา ยระยะเวลาของการเลีย้ ง การเลีย้ งระยะยาว เพื่อเกบ็ หวั เชือ้ สาหรา ย (stock culture)ปจ จัยทส่ี าํ คญั คือรูปแบบของอาหารคอื อาหารวุน (nutrient agar)ขอเสยี ของอาหารวนุ คือการเล้ยี งตอ งเลย้ี งแบบปลอดเช้ือ(axenic culture)อาหารท่ีใชไดน อกจากน้ําคอื สารละลายทีเ่ ตรียมจากดิน(soil - water medium)ปจ จยั อ่นื อุณหภมู แิ ละความเขม ของแสง การเล้ยี งระยะสัน้ เปน การเล้ียงที่ใชศึกษาในหองเรยี นเปน ครงั้ คราวหรอื ใชใ นอตุ สาหกรรมในระยะส้ันใชอาหารแตกตางกนั ตามความเหมาะสมรปู แบบของการเพาะเลย้ี ง มี 3 แบบ คือ 1. การเลี้ยงชนิดเดียวไมมชี นิดอืน่ ปนอาจมีแบคทีเรียหรอื โปรโตซวั อยดู ว ย 2. การเลี้ยงชนิดเดียวหรือหลายชนดิ ตอ งไมมีแบคทเี รยี ปน 3. กรเล้ยี งชนดิ เดียวเทา น้ันไมมีส่ิงมชี ีวติ อืน่ ใดปนเลยอาหารในการใชเ ลยี้ งสาหรา ย 1. อาหารเหลว (Liquid media) ประกอบดว ย 2 ประเภทคอื 1.1 ธาตุอาหารหลกั (Macronutrients) 1.2 ธาตุอาหารรอง(Micronutrients) - ธาตุอาหารรองอนนิ ทรีย(Inorganic micronutrients) - ธาตอุ าหารรองอนิ ทรยี (Organic micronutrients) แบงได 3 กลมุ คือ วชิ าเทคนคิ การเล้ียงสาหราย 3601-2111
41 การขยายพนั ธุ การเล้ียง และการเก็บเก่ียว 1.คารโบไฮเดรต 2.เกลอื อนิ ทรยี ห รอื สารประกอบทม่ี ีเกลอื อินทรียอยดู ว ย 3.วิตามนิ 2.อาหารแขง็ หรอื อาหารวนุ (Solid or agar media) ทาํ โดยเตรียมอาหารเหลวทเี่ พาะเลี้ยงกอนแลวเติมวนุ ลงไป 0.5 % วนุ ทใ่ี ชเ ปน วุน ทบี่ ริสทุ ธเรียกวา (Bacto - agar)การแยกเชื้อสาหรายควรเตรียมวนุ ใหแข็งหรือถา ตองการทาํ อาหารแบบเอยี ง(Slant agar)เพม่ิ พื้นที่ในหลอดใสว นุ ประมาณ 1 - 1.5 % วุนทีม่ ีคณุ ภาพดี Bacto - agar อาหารวนุ ทีเ่ ตรียมจะใสขวดกลมและแบนราวครง่ึ หน่ึงภาชนะน้ําทใี่ ชใ นการเล้ียงสาหราย 1. นํ้าจืดโดยทัว่ ไปใชน ้าํ กรองท่ีตั้งทิ้งไว นาํ้ กล่ัน นํ้าบาดาล หรอื นํา้ ที่ปลอดจากวัตถุมีพิษ นาํ้ ท่ีกรองเพอ่ื กําจดั สง่ิ เจือปนไมใ ชน ้ําประปาเพราะมีคลอรนี 2. นา้ํ ทะเลใชน ้าํ ทะเลธรรมชาตติ ัง้ ท้งิ ไว 6 เดือน ในอุณหภูมิต่ําหรือนํ้าทะเลเทียมก็ไดถา ใชน าํ้ ทะเลธรรมชาติควรเติมสารอาหารทั้งอินทรียสารและอนินทรียสาร สว นผสมธาตอุ าหารท่ีเติมลงในนํา้ ทะเลธรรมชาติสามสตู รไดแ กส ูตรของ Miquel สูตรของ Allen and Nelson และสูตรของ Ketchum and RedsieldMiquelการเพาะเล้ยี งสาหรายแตละชนิด 1.สาหรายหางกระรอก, Hydrilla, Hydrilla verticillata (L.f.) Royle รูปท่ี 1 สาหรา ยหางกระรอกช่อิ วิทยาศาสตร : Hydrilla verticillata (L.f.) Royle.ชอื่ วงศ : HYDROCHARITACEAEชือ่ สามัญ : Hydrillaชอ่ื พนื้ เมืองและอ่นื ๆ : สาหรา ยหางกระรอก,ผักขี้เตาสาหรา ยหางกระรอก : พืชใตน้าํ ทม่ี ีอายขุ า มป พบวา มีทั้งที่เปนตน แยกเพศหรือตนทม่ี ีทง้ั สองเพศ ลําตนเปนสายกลมเรยี วยาวตามระดับน้ําแตกก่ิงกา นสาขาลาํ ตนเปน หัวอยใู ตด ินเรียกวา Tuber หัวท่ีซอกใบ เรียกวาturion สาํ หรบั สะสมอาหาร รากยดึ ดนิ ใตน ํ้าและมรี ากตามขอบา ง ใบ เดี่ยวแตกเปนวงรอบขอ 3-8 ใบ ไมม ีกา นใบแผน ใบรูปไขย าว หรอื รูปไขข อบขนาน ใบยาว 7-30มลิ ลิเมตร ของใบหยักเปนฟน เลอ่ื ยละเอียด วชิ าเทคนคิ การเลยี้ งสาหราย 3601-2111
42 การขยายพนั ธุ การเล้ยี ง และการเก็บเกย่ี ว ดอก เด่ียวขนาดเลก็ แยกเพศ ดอกเพศเมียมกี าบหมุ โคนกา นดอกลกั ษณะเรยี วยาวสงดอกขึน้ มาบานทผี่ ิวน้ํา ประกอบดว ยกลีบเลี้ยง 3 กลีบ กลบี ดอก สขี าว 3 กลบี ภายในรงั ไขเ พยี ง 1 ชอง ยอดเกสรเพศเมยี มี 3ดอกเพศผมู ีกาบหุมเชน กนั ดอกมีขนาดเล็ก กานดอกสั้นเมื่อดอกแกจะหลดุ ลอยข้นึ ไปบานทีผ่ ิวกลีบเล้ยี ง 3กลบี และกลบี ดอก 3 กลีบ จะบานกางกระดกกลบี ลงลาง เกสรเพศผู 3 อนั ชูเหนือนํ้า อับเกสรเพศผู 4 ชองเมอ่ื แกแ ตกออก ละอองเกสรจะปลิวฟงุ กระจายไปตามลม เกดิ การผสมเกสรระหวา งดอกเพศเมียทีผ่ ิวนํา้ ผล ขนาดเล็กรปู ทรงกระบอก ยาวประมาณ 7 มิลลิเมตร ภายในมเี มล็ด 2-3 เมลด็ เปน วชั พชื ทข่ี นึ้ อยูใตผิวน้าํ ในระดบั ความลึกไมเ กนิ 5 เมตร ซงึ่ จะขึ้นอยูกับความโปรงใสของนํ้าทีแ่ สงแดดจะสองผา นไดสกั เทา ใดสาหรา ยหางกระรอกตองการแสงนอยมากเพียง 1 % ของแสงแดดปกติเทานนั้ เจริญไดดใี นนาํ้ ท่มี ี pH 6.0-7.3อณุ หภมู ินาํ้ 25-30 องศาเซลเซียส แสงสวางปานกลางถงึ มาก ความยาวลาํ ตนขนึ้ อยูกับระดบั นา้ํ ลาํ ตนจะแตกกงิ่ กานสาขาจํานวนมาก สานกนั อยแู นน เมื่อดอกแกจ ึงจะลอยขึ้นมาบานเหนอื ผิวนาํ้ ปริมาณสาหรา ยหางกระรอกมีพบอยูระหวา ง 0.4 - 0.8 ตนั นาํ้ หนักแหงตอ พืน้ ท่ี 1 ไร การขยายพนั ธุ : มหี ลายวิธี แตทพ่ี บมากในเมอื งไทย ไดแก การหลดุ ขาดของสว นยอดของลําตนและงอกเปนตนใหม วิธีที่ 2 คือคือการหลุดขาดของลาํ ตน ซึ่งสามารถงอกเปน ตน ใหมได และวิธีท่ี 3 คอื หัวใตดินของสาหรายหางกระรอก ซ่ึงสรางขน้ึ เพอ่ื สะสมอาหาร เม่อื อยูในสภาพแหง แลง หรอื โดนสารเคมี และจะงอกเปน ตนใหมไดเมือ่ สภาพเหมาะสม เนื่องจากการแพรกระจายของสาหรายหางกระรอก เปนไปไดอยางงายดาย และการควบคุมก็ลําบากเนอ่ื งจากสาหรา ยหางกระรอกมีการลงหัว จึงพบวา แพรก ระจายทวั่ ไปในคลองสง น้าํ และอางนํา้ ในเขตชลประทาน ในทัว่ ทุกภาคของประเทศไทยโดยเฉพาะอยา งยง่ิ เขตชลประทานในภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ ประโยชน : ประดับตปู ลา,ใชบําบัดนํา้ เสยี ,ใชเปน อาหารสัตว,เปนตัวชว้ี ัดวานาํ้ บรเิ วณนน้ั ยงั สะอาด,ทําน้าํ หมักชีวภาพ รูปที่ 2 การใชสาหรา ยจดั ตูปลา การประดับตูปลา : ควรปลกู บรเิ วณหลังตูปลา เปนพรรณไมท่มี กี ารเจริญเตบิ โตเร็วจงึ ตองมีการตัดแตง อยเู สมอ โดยการเด็ดยอดลงปลกู ใหม สภาวะที่เหมาะสมสาํ หรบั เลยี้ งในตู คือ อุณหภูมิ 15-28 องศาเซลเซยี ส คา PH ของนาํ้ 6.0-8.0 ระดบั น้ําลึก 40-60 เซนตเิ มตร วชิ าเทคนคิ การเลยี้ งสาหราย 3601-2111
43 การขยายพนั ธุ การเลีย้ ง และการเก็บเกี่ยว 2. สาหรายฉตั รชอ่ื ไทย : สาหรายฉัตรชือ่ สามัญ : Ambuliaชอื่ วิทยาศาสตร : Limnophila heterophylla (Roxb.) Benth.ช่ือวงศ : Scrophulariaceaeลกั ษณะทั่วไป : เปนพืชใตนํ้าทีม่ รี ากหยงั่ ดนิ ชอบขึน้ ในแหลง นา้ํ น่ิงทว่ั ไป หรอื ในนาขาว ลําตนเปนกา นยาวแตกเปนพุม อยใู ตน ํา้ ตามขอแก ๆ มกั มรี ากแตกออกมา ใบใตนํ้าเรยี งเปน วงรอบ ขอ ๆ หนึ่งมี 6-9 ใบ ปลายใบแตกเปนฝอย ใบเหนือน้ําเปนรปู ยาวรีปลายแหลม ขอบใบจักแบบฟนเลื่อย แตกใบตรงกันเปน คู ๆ ดอกเปนดอกเดีย่ วสีขาวขนาดเลก็ มีกลบี ดอก 5 กลบี ออกตรงมุมโคนใบเหนอื นาํ้ โคนกลบี ตดิ กันเปนหลอดประโยชน :ใชป ลกู เปนไมประดับในตูปลา รปู ที่ 3 สาหรายฉตั รตาํ แหนง ในการลงปลูก กลางตู, หลังตูสภาพแวดลอ มทีเ่ หมาะสม แสงไฟความสวางปานกลาง, ชว งอณุ หภูมิ 20-28 °Cอัตราการเจรญิ เตบิ โต เร็วรายละเอียด พืชใตนํ้ามีรากยึดดิน ลําตน เปนกานยาว ความยาวตน อาจยาวไดถงึ 50 เซนตเิ มตร หรอื ขึน้ กบัระดบั ความลึกของนา้ํ ดูคลายพุมใตนา้ํ มรี ากยาวสีขาวแตกตามขอแก ใบใตน ้ําเรียงเปน วงรอบขอๆ ละ 6-9 ใบใบแตกแขนงเปนเสน เลก็ ๆ ไมมกี านใบ ปลายใบแตกเปน ฝอย ใบเหนอื นํา้ ยาวรปี ลายใบแหลม ขอบใบจักฟนเลื่อย ใบเรียงรอบขอๆ ละ 2-3 ใบ แผน ใบมสี เี ขียวเขมกวา ใบใตน้าํ ดอกเด่ียวสขี าวขนาดเล็ก ประกอบดวยกลีบเลยี้ ง 5 กลีบ โคนกลีบติดกันปลายแยกเปน กลีบแหลม กลบี ดอกมี 5 กลบี โคนกลบี ตดิ กันเปนหลอดปลายหลอดแยกออกเปน สองสวน สวนบนมี 3 กลีบมนๆ สวนลางมี 2 กลบี ปลายมน แยกกนั เล็กนอย เปนดอกสมบรู ณเพศ เกสรตวั ผูมี 4 อนั มีขนาดยาว 2 อนั สั้น 2 อัน ติดอยูบนหลอดของ กลีบดอก เกสรตัวเมียประกอบดวยรงั ไขม่ี 2 ชอ ง อยเู หนือสวนอืน่ ของดอก ออกดอกบรเิ วณซอกใบเหนือนํา้ ผลขนาดเล็กเมื่อแหง แกแลวแตก ภายในมเี มลด็ จาํ นวนมาก พบเจริญ เตบิ โตในน้ํานงิ่ หรือในนาขาวการขยายพนั ธุ ตดั ลําตน ไปปกชาํ วชิ าเทคนคิ การเลย้ี งสาหราย 3601-2111
44 การขยายพันธุ การเลยี้ ง และการเก็บเกย่ี ว 3. สาหรา ย มารโิ มะ มอสบอลญี่ปนุ รูปที่ 4 สาหรา ย มารโิ มะ มอสบอลญปี่ นุชื่อไทย : มาริโมะ มอสบอลญ่ีปุนชอื่ สามัญ : marimoชอ่ื วิทยาศาสตร : Aegagropila linnaei หรือ Cladophora aegagropila var. linnaei)ช่อื ญี่ปนุ : 毬藻ชือ่ วงศ : - มาริ ความหมาย ลกู บอลกลมๆ โมะ ความหมายวา พืชจาํ พวกสาหรายหรือตะไครน ้าํ ภาษาองั กฤษ วา moss ballมารโิ มะ คือ สาหรา ยนํ้าจดื สเี ขียวท่ีมีรปู ลกั ษณแ ตกตางจากสาหรายน้ําจดื ชนิดเดียวกนั ท่ีมอี ยูในทะเลสาบแหงอื่นของโลก คนญีป่ นุ เรยี กสาหรา ยชนดิ ท่ีวาน้ีวา มารโิ มะ เปนชอ่ื ทนี่ ักพฤกษศาสตร ทะซฮึ โิ กะ คาวาคามิเปนคนตง้ัไว มาริโมะจะพบที่ทะเลสาบ อะคัง ทเ่ี กาะฮอกไกโดประเทศญปี่ ุน?และทะเลสาบเพยี งไมกี่แหงบนโลกเทานั้นวา กันวา สง่ิ ที่ทาํ ให มารโิ มะสามารถรวมตวั กนั เปน กอนวงกลมแบบนไี้ ด นา จะมาจากหมุนตัวจากการไหลเวยี นของนา้ํ ตามธรรมชาตใิ นทะเลสาป โดย มาริโมะ น้นั จะมเี สนผานศูนยก ลางใหญสดุ ประมาณ 25 เซนตเิ มตรหรืออาจบังเอญิ ใหญผิดปกตแิ ตห ายาก เน่อื งจาก มารโิ มะ เปนพชื ชนิดหนง่ึ จงึ สามารถมีชวี ิตอยูไดดวยการสงั เคราะหแสง เมื่อพื้นผิวดานบนของ มารโิ มะ ตองแสง ก็จะสามารถสังเคราะหแ สงเองได รปู ท่ี 5 การเลยี้ งมารโิ มะ มอสบอลญ่ีปุน การเลี้ยงมารโิ มะน้ันถือวาเลย้ี งงาย หากแตวา มันเตบิ โตยาก เชื่อกันวา มาริโมะ สามารถเตบิ โตไดเ พียงปละ 1 เซนติเมตรเทา นัน้ สําหรบั ผทู ีจ่ ะเลยี้ งมาริโมะน้ันจะตอ งปฏิบัติดังมารโิ มะเปนสิ่งมีชวี ติ ประเภทหนึ่งซ่งึ วิชาเทคนิคการเลี้ยงสาหรา ย 3601-2111
45 การขยายพนั ธุ การเลยี้ ง และการเกบ็ เกีย่ วเราจะตอ งดแู ลและทะนุถนอมเขา นอกจากน้ีคนญ่ปี นุ มีความเชือ่ วามารโิ มะ จะชว ยใหเ ราสมหวงั ในเร่ืองของความรักและมคี วามสขุ ได หลายๆคนจงึ นยิ มทจ่ี ํานาํ มาริโมะมาเปนของฝาก และนํามาเปนเคร่ืองรางนําโชคใหแ กตวั เอง มารโิ มะ ข้นึ ชื่อวา เปน ลํา้ คา สําหรับฮอกไกโด เพราะดว ยเอกลกั ษณท่ีแปลกและมคี วามนารักเฉพาะตัว อกี ทั้งยังหาไดไมก ี่ท่ีในโลก จึงไมแ ปลกเลยที่จะทาํ ใหค นทีไ่ ดย นิ ชอ่ื และเร่อื งราวชีวติ ของ มาริโมะเกิดความสนใจ และไปหามาครอบครองเทคนคิ การเล้ยี งมารโิ มะ 1. ชอบน้าํ กระดางหนอยๆ ควรเล้ียงในตทู ่ีมีพวกกรวดปะการังให pH สูงนดิ หนอยถาอยากใหโ ตเรว็ ๆ 2. น้าํ ไมต อ งเยน็ ก็ได แตถาเย็นจะโตเรว็ สามารถทนไดถ งึ 30 °C 3. ถานํา้ ไหลวนมากๆกจ็ ะดี เพ่อื จะไดฟอรม ตวั เองใหเ ปนกอนกลมๆ 4. หากเล้ียงหลายๆ ลกู ตอนเปด แสงมนั จะลอยขนึ้ ผิวนาํ้ เปนเรื่องปกติเพราะเนื้อขา งในมันคายออกซเิ จนออกมา ปด ไฟมันก็จมลงไปใหม 5. หามลงยากาํ จดั ตะไคร เด็ดขาดโดยเฉพาะ flourish excel 6. การขยายพนั ธุ ตองปลอ ยใหม ันสรางกอนเล็กๆขึ้นมาเอง แลว หลดุ ออกมา อยา ไปแบง คร่ึง มสี ิทธิตายสงู หากแบงไปแลวตอ งปนมันใหก ลับมากลมเหมือนเดิม ไมต องไปเรงมนั ปลอยมันขยายของมันเองดีกวาเด๋ยี วตาย 7. แสง ชอบแสงนอยๆ แสงมากไมดี แสงอาทิตยอาจตาย เพราะปกติมันอยูน้ําลกึ ๆเพราะตองการแสงนอย?แตก็ตองการปุย คารบอน เหมอื นไมน้ําทว่ั ๆไป 8. หามใชคารบ อนนํ้า 9. มาริโมก็ไมส บายได ดจู ากขนมนั จะเปน สเี หลืองหรอื นํ้าตาล เพราะผดิ สมดุลเกลอื แร และสมดุลแบคทเี รยี แกโ ดยเอามอื ถูสวนท่ีเปลย่ี นสอี อกเบาๆ แลว เติมเกลอื ทะเลลงไป 5% คือเขาชอบนํ้ากระดา งหนอยๆ 10. หากน้าํ ตาลทั้งกอน น่นั คือใกลตาย 11. พูดงา ยๆ คือหากอยากขยายพนั ธุ ตองทาํ ตเู ล้ยี งมนั โดยเฉพาะ รูปที่ 6 มาริโมะ มอสบอลญ่ีปุน วิชาเทคนิคการเลีย้ งสาหรา ย 3601-2111
46 การขยายพันธุ การเลีย้ ง และการเก็บเกย่ี ว4. สาหรา ยพวงองุน รูปที่ 7 สาหรายพวงองนุชอ่ื ไทย : สาหรายพวงองนุช่ือสามัญ : Green caviarชอ่ื วิทยาศาสตร : Caulerpa lentillifera J. Agardhชอ่ื วงศ : - สาหรายพวงองุนจัดเปน หนึ่งในสาหรายทร่ี ับประทานได และยงั มีรสชาติดอี ีกดว ย โดยเราอาจพบสาหรายชนดิ นเี้ จรญิ อยูบนโขดหิน กอนกรวด และพ้นื ทราย ในเขตน้ําขึ้นนา้ํ ลงไปจนถึงเขตน้าํ ลงตํ่าสุดบรเิ วณชายฝง ท่ีมคี ลน่ื ไมรนุ แรง โดยอาจอยูรวมตัวกันเปน กระจกุ หรอื ปะปนกบั สาหรายชนิดอ่ืนตามซอกหินหรอืปะการงั สาหรา ยพวงองนุ จดั เปน อาหารสุขภาพท่ีมรี าคาคอนขางสงู ดงั น้นั หลายประเทศจึงนยิ มเล้ยี งสาหรา ยทะเลเพื่อสง ออก ซึ่งปจจุบันกรมการประมงในประเทศไทยสามารถเพาะเล้ยี งสาหรา ยพวงองนุไดด วยวธิ ที มี่ ปี ระสทิ ธิภาพมากขึ้น ทําใหเกษตรกรสามารถเลยี้ งสาหรา ยพวงองนุ ไดอยา งสะอาดและมีสีสนัสวยงาม ท้ังยังถือเปนสาหรายทีม่ ศี ักยภาพทางเศรษฐกจิ ซ่งึ ไดมกี ารขยายในระบบบอ เลย้ี ง โดยในประเทศฟล ิปปน ส มีการเลี้ยงสาหรายพวงองนุ ทั้งในระบบบอ ดนิ และบอนา้ํ ธรรมชาติ สวนในประเทศไทย กรมการประมงริเร่ิมการเลยี้ งสาหรา ยชนิดน้ีในป พ.ศ. 2536 โดยปลกู ในบอพักน้ําชวี ภาพ แตป จจบุ ันไดพ ฒั นาการเพาะเล้ียงเพื่อขยายผลในเชงิ พาณชิ ย โดยสามารถเพาะเลี้ยงได 3 รปู แบบ ทั้งในระบบบอการเลยี้ งในบอ พกันา้ํ ธรรมชาติ เลีย้ งในบอ ดินหรือบอเลย้ี งสตั วน ้าํ เชน บอ เลี้ยงกงุ หรือบอเล้ียงปลา และระบบการเลย้ี งในบอคอนกรตี รปู ท่ี 8 การเลยี้ งสาหรา ยพวงองนุ วิชาเทคนิคการเล้ียงสาหราย 3601-2111
47 การขยายพนั ธุ การเล้ียง และการเกบ็ เกี่ยว ท้งั นส้ี าหรายพวงองุน ถอื เปนหนง่ึ ในอาหารยอดนยิ มของชาวญ่ปี นุ เพราะมีความเชื่อกันวา หากรบั ประทานสาหรา ยชนิดนี้ จะทาํ ใหหายปว ยเร็วข้ึน เนื่องจากสาหรา ยพวงองนุ เปนสาหรายท่มี คี ุณคาทางอาหารสงู คือมปี รมิ าณของแรธ าตหุ ลากหลายชนดิ ไดแ ก ไอโอดนี ซ่งึ ชว ยปองกันและรักษาโรคคอพอกแมกนเี ซยี มชวยบาํ รุงกลามเนื้อและระบบประสาท โปแทสเซียมชวยควบคมุ การทํางานของเซลลและสมดลุของนํ้าในรา งกาย รวมท้งั พบวิตามนิ บี ซี อี และกรดอะมโิ นจาํ เปนหลากหลายชนิด ที่ไมพบในพชื บกโดยพบวามกี รดอะมโิ นจาํ เปน อยูเกือบ 40% ของกรดอะมิโนรวม ซง่ึ ใกลเ คียงกับในไขแ ละโปรตนี ถ่วั เหลอื งท้ังยังมีแคลอร่ีต่ํา จงึ เหมาะสําหรับผปู ว ยดว ยโรคเบาหวาน หวั ใจ และความดันโลหติ รูปแบบการเลี้ยง สามารถเล้ียงได 3 รปู แบบ ไดแ ก ระบบการเลยี้ งในบอพักนา้ํ แบบธรรมชาติ ระบบการเลย้ี งในบอดนิ หรือบอเลี้ยงสัตวน ํา้ เชน บอ เลย้ี งกุง หรอื บอ เลี้ยงปลา และระบบการเลย้ี งในบอ คอนกรีตการเล้ยี งสาหรายในบอดนิ ขัน้ ตอนการปลูกและการจัดการสาหรา ยในบอ ดนิ 1. การปลกู สาหรา ย ปลูกไดท้ังแบบหวา นและแบบปกชา โดยในชว งเริม่ ตนปลกู ครงั้ แรก เติมน้ําความเคม็ 27-30 สวนในพัน ประมาณ 40 เซนตเิ มตร เมื่อปลูกแลว ประมาณ 1 สปั ดาหจึง คอยเพิม่ ระดบั นํา้ ใหอยูในระดับที่แสงสอ งถึง ขึน้ กบั ความโปรงแสงของน้ํา โดยมากรักษา ระดับน้ําใหมีความลึกประมาณ 60-100 ซม.แบบปกชามีขอดีกวา แบบหวาน เนื่องจาก สาหรา ยจะมีอัตราความหนาแนนท่ีใกลเ คยี งกันและควบคุมความหนาแนนได ทาใหส าหราย ท่ีโตมีแขนงทีย่ าวและมขี นาดสมาเสมอ นอกจากน้ีสามารถปลูกสาหรา ยบนแผงอวนหรอื ตา ขายได ทําใหสาหรา ยมคี วามสะอาดและมีคณุ ลักษณะดี 2.หลังจากการปลูกประมาณ1-2เดือนจะสามารถเก็บเกี่ยวสาหรายไดและความถี่ในการเก็บ เก่ียว 2สัปดาหต อ ครั้ง 3.การจดั การระบบนํ้า ควรมกี ารสบู นาํ้ เขา บอ เลย้ี งประมาณ 2 ครั้งตอสัปดาหหรือดดั แปลงบอ ดวยการติดต้งั ทอนาํ้ เขา ออกแบบมลี ้นิ ปดเปดตามระดบั นา้ํ ธรรมชาติ นอกจากน้ีความถ่ใี นการ สบู น้าํ เขา ยังขน้ึ กับอายกุ ารเลี้ยงและความหนาแนน ของสาหราย เพือ่ เพิ่มสารอาหาร ธรรมชาติ การหมุนเวียนนาํ้ และการรักษาระดับนา้ํ ในบอเลย้ี ง 4.อาจตดิ ตัง้ เครอื่ งตนี ารอบชา หรือระบบยกน้ําเพ่ือเพ่มิ การหมนุ เวยี นนาและปองกันการแบง ชนั้ ของนา้ํ และติดต้ังทอระบายนํา้ ผิวบนออก ในฤดฝู น 5.เพอ่ื ปองกันการบังแสงและแกง แยง สารอาหาร ควรสุม ตรวจความหนาแนนของสาหรา ย โดย อัตราความหนาแนน ท่เี หมาะสมประมาณ 1 กิโลกรัมตอตารางเมตร ทยอยเก็บเก่ียวทกุ 2 สปั ดาหแ ละคงปริมาณไวประมาณ 25% ของปรมิ าณตั้งตน หากสาหรายแนน เกินไป ใหน าไป หวานบริเวณอื่น 6.การกาํ จดั และปอ งกนั ศตั รขู องสาหราย หมัน่ เกบ็ สาหรา ยชนิดอื่นหรือ epiphyte ที่เกิดข้นึ ในบอเมื่อน้าํ ตน้ื เกินไป ดงั นน้ั การรักษาระดบั นํ้าเพอใหแสงสองถงึ ในระดบั ทเหมาะสมจึงเปนสง่ิ สาํ คัญในระบบการเลี้ยงในบอดินและปลูกบนแผงตาขาย ขนาด 0.1 ตร.ม. มีปริมาณสาหราย เริ่มตน 2.5 กโิ ลกรัม สามารถเลีย้ งใหม ีน้ําหนกั ที่เพิ่มข้นึ 45% ของนํา้ หนักตัง้ ตน หรือ1.25 กิโลกรมั ตอแผง ตอ 2 สัปดาห เทยี บเทาผลผลิต12.5 กโิ ลกรมั ตอตารางเมตรตอ 2 สปั ดาห โดยน้ําเลีย้ งควรมีสารอาหารและ คุณสมบัติ ดงั น้ี แอมโมเนียรวมไมนอ ยกวา 0.05 ppm pH ชว งกวาง 8-9 , แอลคาไลนติ ้ี 120-140 มลิ ลิกรมั ตอลิตร ความเคม็ 27-33 สว นในพัน อณุ หภมู ปิ ระมาณ 25-30 องศาเซลเซยี ส ในระบบการเล้ยี งในบอ คอนกรีตและปลูกบนแผงตาขา ยขนาด วิชาเทคนคิ การเลย้ี งสาหราย 3601-2111
48 การขยายพนั ธุ การเลี้ยง และการเก็บเกี่ยว0.1 ตร.ม. มปี รมิ าณสาหราย เร่มิ ตน 2.5 กโิ ลกรมั มนี ้ําหนักเพิ่มขนึ้ 30% ของนํ้าหนักต้ังตน หรือ 750 กรมั ตอแผงตอ 2 สปั ดาห เทียบเทา 7.5 กิโลกรัมตอตารางเมตรตอ 2 สัปดาห ผลผลติ ในบอคอนกรีตนอยกวาบอ ดินเนอ่ื งจากมี ขอจากัดของสารอาหาร โดยปริมาณแอมโมเนียไมควร 0.05 ppm และควรมีการเติมนาอยางนอ ยสัปดาหล ะ ครั้ง สวนคณุ ภาพน้ําอน่ื ๆ เชน เดียวกบั ในบอคอนกรีต 5. สาหรา ยสไปรูลินาชือ่ ไทย : สาหรายสไปรลู นิ า รปู ท่ี 9 สาหรายสไปรูลินาช่อื สามัญ : Green caviarช่ือวิทยาศาสตร : Caulerpa lentillifera J. Agardhชอื่ วงศ : -อุปกรณจําเปน1.ภาชนะ ขวดเล็กๆ หรอื โหลเลก็ ๆ พรอมอปุ กรณใหฟองอากาศ เพื่อเกบ็ รักษาพันธุ ตูป ลาหรอืถงั พลาสติก ทอ ซีเมนตปดกน หรือบอซเี มนต ความลึก 50-70 ซม. ขนาดไมต าํ่ กวา 300 ลิตร เพอื่ ใชเพาะเล้ยี งสไปรูไลนา ควรมี 2 ใบ2. อุปกรณใ หฟองอากาศ หรอื อปุ กรณท จี่ ะทาํ ใหนํา้ มีการเคล่ือนไหวตลอดเวลา อาจจะเปนหัวทรายแบบในตปู ลา หรือกงั หันแบบในบอเล้ยี งหอยเปาฮ้อื ก็ได3.ปยุ เนอ่ื งจากสไปรไู ลนา เปนพืช มนั จะเจริญเติบโตไดต องมีปุย และไดรบั แสงอยา งเพยี งพอสามารถใชปยุ ไดหลายสูตรเชน เดียวกับสาหราย หรอื แพลงกตอนพืชอน่ื ๆ แตควรใสโซเดียมไบคารบอเนต (ผงฟู)ดว ย เพือ่ ใหน ํ้าเปน ดางตามท่ีมนั ชอบ (pH 8.5-9.5)สตู รปยุ งายๆ ทแี่ นะนําคือ โซเดียมไนเตรด (NaNO3) 150 กรมั /นํา้ 1,000 ลิตรไดโปแตสเซยี มไฮโดเจนฟอสเฟต (K2HPO3) 30 กรมั /นาํ้ 1,000 ลิตรโซเดียมไบคารบ อเนต (Na2HCO3) 1,000 กรมั /น้ํา 1,000 ลิตรอามิ-อามิ หรอื กากผงชรู ส (ถามี) 500 ซีซ/ี นํา้ 1,000 ลติ ร 4.สวิง ขนาดตา 60 ไมครอน 1 อนั สวิงขนาดตา 700 ไมครอน 1 อนั หากทาํ ในปริมาณมากควรมี ถงุ รวบรวมสไปรไู ลนา ขนาดตา 120 ไมครอน 1 ถุง สวิงและถุงทําดว ยผา ท่ีใชส กรีนภาพไดยิง่ ดีเพราะ วิชาเทคนิคการเลี้ยงสาหรา ย 3601-2111
49 การขยายพันธุ การเลย้ี ง และการเก็บเกีย่ วขนาดตาสม่ําเสมอ หรอื จะใชผาชฟี องหรือผาโอลอนที่ดักสไปรไู ลนา ไดป ลอยใหน ํ้าและตะกอนอนื่ ๆ หลุดออกไปกไ็ ด -ขนาดสวงิ ทําใหเ หมาะกับภาชนะทใี่ ชเลยี้ ง ถุงรวบรวมควรเปน ถุงยาวประมาณ 2 เทาของความกวางเพ่อื ลดแรงดัน -ปยุ และอปุ กรณหาซ้ือไดจ ากรา นขายอปุ กรณใ นการเพาะเล้ยี งสตั วน ํ้า หรือรา นขายเคมีภัณฑ - สารเคมีหรอื ปยุ ใชเ กรดการคา วธิ กี ารเพาะเลีย้ ง 1.ลางภาชนะใหสะอาดตากใหแ หง วางใหไดแ สงอยา งเพยี งพอ ภาชนะขนาดไมเกิน 300 ลิตร ควรวางใหไ ดร ับแสงแดดตอนเชา ถาเปน บอ ใหญกวาน้นั ใหวางกลางแจง ถาเปน ขวดเล็กๆ ใหวางชดิ หลอดไฟนีออนหรือวางหา งชอ งแสงในบานไมเ กนิ 2 เมตร ในท่ีอุณหภมู ิไมเกนิ 30 องศา 2.ใสน ํา้ จืดสะอาดท่ใี ชหงุ ตม ไดลงในภาชนะ ช่งั ปุยแตล ะตัวตามอัตราสวน (ปุย 1000 กรมั = 1กโิ ลกรัมละลายปุยแตละตัว ใสล งไป ทาํ ใหมวลนา้ํ เคลื่อน ใสพนั ธสุ ไปรูไลนา นํ้าหนกั เปย ก (กรองแลว ) 2 กรัม/ลิตร หรือใสพนั ธุสไปรไู ลนาท้ังนํ้า 1 สว นตอ นา้ํ เลี้ยง 2 สวน เมอื่ พนั ธุส ไปรูไลนา 1 ลิตร กรองได 1 ชอ นกาแฟถากรองไดมากกวา นั้นใหเพม่ิ นาํ้ ไดตามสัดสว นทีจ่ ะทําใหกรองสไปรูไลนา ท่เี พิ่งเลีย้ ง 3 ลิตร แลว ได 1 ชอ นกาแฟ 3.ถา เพาะเล้ยี งไมตํ่ากวา 500 ลิตร และภาชนะลกึ เกนิ 70 ซม. ควรตดิ ตง้ั ทอพนนํ้า (Air lift) แบบในตปู ลา เพ่อื นําถุงรวบรวมมาผูกเวลาจะเกบ็ เก่ยี ว จะไดไมตองตักมากรอง ซ่ึงหากไมระวงั จะทาํ ใหตะกอนฟงุ ขึน้ มาเสียเวลาในการดักและเมื่อยมือ 4.ใสปุย ทกุ 4-7 วัน ขนึ้ กับการเจรญิ เติบโตของสไปรไู ลนา ลา งภาชนะและเพาะเล้ียงใหม ทุก 3-4เดือน หรือตามความตองการ อาจจะดูดตะกอนแทนการลางภาชนะก็ได วิธเี ก็บเกี่ยว ถาทาํ นอยดกั นํ้าสไปรูไลนา เทผานสวงิ ทีว่ างซอ นกัน 2 ชนั้ ใหส วิงตาหยาบอยดู า นบนเพือ่ กรองตะกอนหยาบ ถา ทํามากหรือมถี ุงรวบรวมใหผูกถุงรวบรวมเขา กับทอพนนํ้าใหป ลายดา นบนเปดเล็กนอ ยเพือ่ ใหอากาศออกได สไปรไู ลนา จะถูกรวบรวมอยใู นถงุ ขณะทนี่ าํ้ และตะกอนเล็กๆ หลุดออกไป ถอดถงุ ออกเมอ่ื ไดสไปรูไลนา มากพอ ตกั สไปรูไลนาใสสวงิ ตกั น้าํ สะอาดลางสไปรไู ลนา ในสวงิ 3-4 คร้ัง หรือจนสะอาด นํ้าที่ลางสไปรไู ลนาแลว ไมตองท้ิงใหนําไปใสภาชนะท่ยี ังไมเ ก็บเกี่ยว สไปรไู ลนาที่ลางสะอาดแลว นาํ ไปรบั ประทานไดห ากยงั ไมร บั ประทานใหแ ชแข็งทนั ที ควรเกบ็ เกีย่ วสไปรูไลนา หลังจากใสปยุ 5-7 วนั ถา เพาะในภาชนะขนาด 500 ลติ ร จะเก็บเกี่ยวได 1-3 ขดี ทุกวัน ประมาณ 7 วนั จงึ หยุดใสป ยุ แลว ยา ยไปเกบ็ ในภาชนะอีกใบหนึง่ สลับกันไป ถา เกบ็ เก่ียวครงั้ เดยี วแลวใสป ุยจะเก็บได 1-2 กิโลกรัม อยาปลอยใหน ํ้าฝนไหลลงในภาชนะทเี่ พาะสไปรูไลนา มากเกนิ 5% ของปรมิ าตรนาํ้ ทัง้ หมด ไมเชนนัน้ อาจจะเปน กรดทาํ ให สไปรไู ลนา ตายได ถาอณุ หภูมขิ องนาํ้ เกิน 30oC มวลน้ําตอ งเคลอ่ื นตลอด มิเชนน้ันสไปรไู ลนา อาจจะตายได วธิ ีการเกบ็ รกั ษา เก็บในตูเ ยน็ ใตชองแชแข็ง หรอื แชในน้าํ แข็ง หรือเก็บท่ีอณุ หภูมิ 1-2 องศา จะเก็บไดน าน 3-10 วันแตตองเก็บเก่ยี วมาอยา งดี และไมน าํ ออกนอกตเู ยน็ นาน หากรับประทานไมหมดใหน าํ ไปแชแขง็ หรืออบหรือ ตากแหง จะเก็บในตูเย็นไดน านแตคุณคาทางอาหารลดลง วชิ าเทคนิคการเลี้ยงสาหราย 3601-2111
50 การขยายพันธุ การเลี้ยง และการเก็บเก่ยี ว กจิ กรรมหดั ทายบทใหนกั ศึกษาทํารายงานเก่ยี วกับการเพาะเลย้ี งสาหรายมาคนละ 1 ชนดิ เอกสารอา งอิงhttp://www.gotoknow.org/posts/390900http://www.aquatoyou.com/index.php/2010-02-25-23-24-48/482-2010-03-24-04-11-07http://web.rid.go.th/research/vijai_rid/wd/hydrill.htmlhttp://www.thaithesis.org/detail.php?id=1082539000912http://aqualib.fisheries.go.th/mobile/pxp_detail.php?txtFish_id=56http://khonrukpla.blogspot.com/2012/01/blog-post_26.htmlhttp://www.ku.ac.th/fish/mfish.html/aqplant/aqpt131.htmlท่ีมา : กองประมงนํ้าจดื กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ จดั เตรียมโดย : ประวิทย สรุ นรี นาถ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรcredit : ภาพและขอมูล: ดร. กาญจนรี พงษฉ วี และคณะhttps://www.naro.affrc.go.jp/nilgs/weedlist/w0100/w0119/029347.htmlขอ มูล teen.mthai อางอิง REDBEE BY KFT & AQUA DESIGN , fb marimo moss ballhttp://teen.mthai.com/variety/65312.htmlhttp://businessseaweed.blogspot.com/http://www.vcharkarn.com/varticle/59074https://th.wikipedia.org/wiki/ที่มา : http://www.waluka.com/salary/s9.html วชิ าเทคนคิ การเล้ียงสาหราย 3601-2111
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: