รายงานผลการดาเนนิ งาน โครงการสง่ เสรมิ ประชาธปิ ไตยในชมุ ชน กศน.ตาบลเฝา้ ไร่ วันท่ี 23 กรกฎาคม 2563 ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเฝ้าไร่ สานักงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวัด หนองคาย
คำนำ ด้วย กศน.ตำบลเฝำ้ ไร่ ไดด้ ำเนนิ กำรจดั กจิ กรรมโครงกำรส่งเสรมิ ประชำธปิ ไตยในชุมชน ของ กศน.ตำบลเฝำ้ ไร่ เพ่ือให้ผ้เู ขำ้ รว่ มอบรมไดน้ ำควำมรู้ไปเผยแพร่ใหก้ บั ชุมชนตำบลเฝำ้ ไร่ และสง่ เสริมให้ ประชำชนมคี วำมรู้ และเข้ำใจในขัน้ ตอนและกระบวนกำรของประชำธปิ ไตย ดังนั้น กศน.ตำบลเฝำ้ ไร่ จงึ ได้ทำสรุปรำยงำนผลกำรดำเนินงำนจัดกจิ กรรมโครงกำรสง่ เสริม ประชำธิปไตยในชุมชน เล่มน้ีขึ้นเพื่อใหน้ กั ศึกษำและผูส้ นใจไดศ้ ึกษำเพ่ิมเติม ในกำรน้ี กศน.ตำบลเฝำ้ ไร่ ขอขอบคณุ ทกุ ทำ่ นทีใ่ ห้ควำมรว่ มมือในกำรจดั กิจกรรมครั้งนี้ใหเ้ ป็นไปดว้ ยควำมเรยี บร้อย หำกผดิ พลำดประกำรใด ก็ขออภยั ไว้ ณ โอกำสนี้ กศน.ตำบลเฝ้ำไร่ 25 กรกฎำคม 2563
บทที่ 1 บทนำ หลักกำรและเหตผุ ล ประเทศไทยเป็นประเทศที่มกี ำรปกครองแบบระบอบประชำธิปไตยอนั มีพระมหำกษตั รทรงเป็นประมุข ประชำชนคนไทยตอ้ งเขำ้ ใจสิทธิหน้ำทขี่ องตนตำมระบอบประชำธิปไตย ดังนั้นสถำนศึกษำจงึ ต้องส่งเสรมิ ให้ประชำชน มคี วำมรู้เกีย่ วกับประชำธปิ ไตยและมีส่วนร่วมตำมวิถปี ระชำธปิ ไตย อนั จะนำไปสู่กำรพัฒนำประเทศชำตติ ำมระบบอบ ประชำธปิ ไตยต่อไป จึงเหน็ ควรจัดให้มโี ครงกำรสง่ เสริมประชำธปิ ไตย ดังน้ัน ศนู ยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัยอำเภอเฝำ้ ไร่ จงึ ได้จัดอบรมส่งเสรมิ สนับสนนุ กำรจัดอบรมโครงกำรส่งเสรมิ ประชำธิปไตยในชุมชนทจี่ ะส่งเสรมิ สนบั สนนุ และพฒั นำประชำชนในชมุ ชนอย่ำง เหมำะสม โดยประสำนควำมรว่ มมอื กับภำคเี ครือข่ำยและภำคสว่ นรำชกำรทเ่ี กี่ยวข้อง ในกำรจัดกระบวนกำรเรยี นรู้ท่ี ม่งุ เน้นใหผ้ ูเ้ ขำ้ ร่วมอบรมและผู้รับบรกิ ำรมีควำมรูแ้ ละเข้ำใจสทิ ธิหน้ำทขี่ องตนตำมระบอบประชำธปิ ไตยต่อไป วตั ถุประสงค์ 1. เพอ่ื สง่ เสรมิ ให้ปะชำชนมีควำมรู้ และเข้ำใจในข้นั ตอนและกระบวนกำรของประชำธปิ ไตย 2. เพื่อปลกู ฝงั จติ สำนึก แนวคิดและคำ่ นิยมประชำธปิ ไตยแก่ประชำชน 3. เพือ่ กระตนุ้ ใหส้ มำชิกมคี วำมสนใจและเข้ำไปมีสว่ นร่วมกิจกรรมประชำธปิ ไตยทง้ั ในสถำนศึกษำและนอก สถำนที่ เปำ้ หมำย 1 เปำ้ หมำยเชิงปริมำณ - ประชำชนในเขตพ้ืนที่ตำบลเฝ้ำไร่ จำนวน 40 คน 2 เปำ้ หมำยเชงิ คุณภำพ ประชำชนในเขตพื้นท่ีอำเภอเฝำ้ ไร่ ทเ่ี ขำ้ รว่ มกิจกรรมมคี วำมตระหนักในคุณธรรมจริยธรรม และ ยึดถอื ปฏิบตั ใิ นวถิ ชี วี ิต และอยใู่ นสงั คมอย่ำงเปน็ สุข ร้อยละ 90 หลกั สูตรกำรอบรม 5.1. หลักกำรและวิถชี ีวิตประชำธิปไตย 5.2. กำรมสี ว่ นร่วมและข้อหำ้ ม ควำมผดิ เก่ยี วกบั กำรเลอื กต้ัง
วธิ ีดำเนินงำน กจิ กรรม วัตถปุ ระสงค์ กลุ่ม เปำ้ หมำย พ้ืนทดี่ ำเนินกำร ระยะเวลำ งบ ประมำณ เปำ้ หมำย เชงิ ปรมิ ำณ เชงิ คุณภำพ โครงกำร 1. เพ่อื ส่งเสริมให้ประชำชน ประชำชน -ประชำชน ประชำชน บ้ำนท่ำหำยโศก วนั ท่ี 23 4,000- สง่ เสรมิ มคี วำมรู้ และเข้ำใจใน จำนวน ตำบลเฝ้ำไร่ ตำบลเฝำ้ ไร่ หมู่ 4 ต.เฝำ้ ไร่ กรกฎำคม ประชำธปิ ไตย ข้ันตอนและกระบวนกำร 20 คน รอ้ ยละ 90 2563 ที่เข้ำร่วม ในชุมชน ของประชำธปิ ไตย กจิ กรรม กศน.ตำบลเฝ้ำ 2.เพอื่ ปลกู ฝงั จิตสำนึก สง่ เสริม ไร่ แนวคดิ และค่ำนยิ ม ประชำธปิ ไตย ประชำธปิ ไตยประชำชน 3. เพอ่ื กระต้นุ ให้ประชำชน มคี วำมสนใจและ มีส่วนร่วม กิจกรรมประชำธิปไตยทงั้ ใน สถำนศกึ ษำและนอก สถำนศึกษำ วงเงนิ งบประมำณ เงนิ งบประมำณปี 2563 รหสั งบประมำณ 2000235704000000 งบดำเนนิ งำน แผนงำน : พ้นื ฐำนดำ้ นกำรพฒั นำและเสรมิ สร้ำงศักยภำพทรัพยำกรมนุษย์ ผลผลิตท่ี 4 ผู้รบั บริกำรกำรศึกษำนอกระบบ กิจกรรม กำรศกึ ษำต่อเน่ือง จำนวน 4,000 บำท ( ส่ีพันบำทถว้ น ) โดยมีรำยละเอียดกำรใช้จ่ำยดงั นี้ 1. คำ่ อำหำร (20 คน x 70 บำท x 1 ม้ือ) เป็นเงนิ 1,000 บำท 2. ค่ำอำหำรว่ำง (20 คน x 25 บำท x 2 มอ้ื ) เปน็ เงิน 1,400 บำท 3. ค่ำวิทยำกร (1 คน x 200 บำท x 5 ชม.) เปน็ เงนิ 1,000 บำท 4. คำ่ วัสดุ เปน็ เงนิ 600 บำท รวมเป็นเงนิ ทัง้ ส้ิน 4,000 บำท (สพี่ นั บำทถว้ น) แผนกำรใชจ้ ่ำยงบประมำณ กิจกรรมหลกั ไตรมำส 1 ไตรมำส 2 ไตรมำส 3 ไตรมำส 4 ( ต.ค. – ธ.ค. 62) (ม.ค. – มี.ค. 63) (เม.ย. – มิ.ย. 63) (ก.ค. – ก.ย. 63) โครงกำรส่งเสริม - - - 4,000.- ประชำธิปไตยในชมุ ชน 23 กรกฎำคม 63 กศน.ตำบลเฝ้ำไร่ ผรู้ บั ผดิ ชอบโครงกำร 1.นำงพรทิพย์ เต็มสระน้อย ครู กศน.ตำบลเฝำ้ ไร่ 2. นำงเสำวนติ ย์ สำยไธสง ครู กศน.ตำบล 3.นำงสำวยวุ ดี แกว้ บบุ ผำ ครู ศรช.
บทที่ 2 แนวคดิ โครงกำรส่งเสริมประชำธิปไตยในชุมชน ระบอบประชำธปิ ไตยของไทย อำนำจสูงสดุ ในกำรปกครองประเทศ คืออำนำจอธิปไตย กำรเมืองกำรปกครองในระบอบประชำธิปไตยของ ไทยเปน็ แบบระบบรัฐสภำอนั มพี ระมหำกษัตรยิ ์เป็นประมขุ มรี ฐั ธรรมนญู เป็นกฏหมำย สูงสุดในกำรปกครองประเทศ ซงึ่ อำนำจเหล่ำน้ีมำจำกประชำชน พระมหำกษตั รยิ ท์ รงใช้พระรำชอำนำจกำรบรหิ ำรผ่ำนทำงคณะรัฐมนตรี ทรงใช้ พระรำช อำนำจนติ ิบญั ญตั ผิ ่ำนทำงรฐั สภำและทรงใช้พระรำชอำนำจตลุ ำกำรผ่ำนกระบวนกำรศำลนอกจำกนน้ั แลว้ พระมหำกษัตรยิ ข์ องไทยยังทรงเปน็ ศนู ย์รวมจติ ใจของประชำชนทำใหก้ ำร ปกครองในระบอบน้ีอยู่มำจนถงึ ปัจจบุ นั และกลำยเปน็ เอกลักษณ์เฉพำะของประเทศไทย ระดบั ของควำมเปน็ ประชำธปิ ไตย โดยท่รี ะบอบประชำธิปไตยของประเทศตำ่ งๆ มีเสถยี รภำพไม่เสมอเทำ่ เทยี มกนั ระบอบประชำธิปไตยของ บำงประเทศมีควำมเปน็ ปึกแผ่นมัน่ คง ในขณะที่ของบำงประเทศอ่อนแอ ไม่ม่นั คง และของบำงประเทศถูกทำลำยล่ม สลำยไปในทส่ี ุด สำหรับ Francis Fukuyama ในบทควำมเรือ่ ง “The Primacy of Culture” กลำ่ วถึงระดบั ควำม เป็นปกึ แผน่ มน่ั คงของระบอบประชำธิปไตยว่ำอำจแยกได้เปน็ 4 ระดับดงั น้ีอดุ มกำรณ์สถำบัน ประชำสังคม และ วัฒนธรรม (1) อดุ มกำรณ์ เปน็ ระดับควำมเช่อื ทเ่ี ก่ยี วกับควำมถกู ควำมผิดในเรอ่ื งสถำบนั ประชำธิปไตยและโครงสรำ้ ง ระบบตลำดทเ่ี ปน็ กลไกสนบั สนุน ระบอบประชำธปิ ไตย ควำมเชอ่ื ทีว่ ำ่ น้เี ป็นเรื่องของค่ำนิยมหรอื บรรทัดฐำนควำม ประพฤติของสงั คม (2) สถำบัน เปน็ ระดับทีเ่ ก่ียวกับรัฐธรรมนูญ ระบบกฎหมำยระบบพรรคกำรเมอื งโครงสร้ำงระบบตลำดและ อ่ืนๆ (3) ประชำสงั คม เปน็ ระดบั ท่เี ก่ียวกบั กำรเกดิ ขนึ้ เองของโครงสรำ้ งทำงสังคมทแี่ ยกตำ่ งหำกจำกกลไกรฐั ที่เปน็ สถำบันทำงกำรเมืองในระบอบ ประชำธปิ ไตย (4) วฒั นธรรม เป็นระดับท่เี ก่ียวกับปรำกฏกำรณ์ทำงสงั คม เช่น โครงสร้ำงของครอบครวั ศำสนำ คำ่ นยิ มทำง ศลี ธรรม ควำมสำนึกในทำงชน ชำติประเพณีทำงประวตั ิศำสตร์ ในมมุ มองของฟกู ยู ำม่ำ กำรพฒั นำถงึ ขนั้ เปน็ วฒั นธรรมของชำตถิ ือว่ำเป็นระดับของกำรพัฒนำทลี่ ้ำลกึ ที่สดุ อุดมกำรณป์ ระชำธิปไตยมศี ักยภำพ ที่จะแทรกซมึ ชอน ไชเขำ้ สูร่ ะบบวัฒนธรรมของชนชำตแิ ละดังนัน้ ประชำธิปไตยจึงเป็นระบบกำรปกครองที่มีเรือ่ งค่ำนิยมแฝงอยูใ่ นตวั ด้วย ตัวอย่ำงของนกั วิชำกำรทม่ี องประชำธิปไตยวำ่ เปน็ เร่ืองค่ำนิยมได้แก่ Jurgen Domes โดยได้เขียนไวใ้ นบทควำมเร่อื ง China’s Modernization and the Doctrine of Democracy วำ่ ประชำธิปไตยมีลักษณะสำคัญประกอบด้วย หลกั กำร ๓ ประกำร คอื เสรีภำพ ควำมเสมอภำค และควำมหลำกหลำย (1) เสรีภำพ เป็นหลกั ประกันและสร้ำงสทิ ธมิ นุษยชนให้ม่ันคงเปน็ สถำบนั แก่พลเมอื งที่อยู่อำศยั ในประเทศ และเปน็ หลกั ประกนั และสร้ำงสิทธิ พลเมอื งใหม้ ัน่ คงเปน็ สถำบนั แก่พลเมืองท่ีมีวุฒิภำวะท่ีอยู่อำศัยในประเทศนัน้ (2) ควำมเสมอภำค มีเปำ้ หมำยที่จะสรำ้ งโอกำสในกำรดำเนนิ ชีวติ ท่เี สมอเทำ่ เทียมกันให้กบั พลเมืองทุกคนใน ประเทศ และพยำยำมท่จี ะพัฒนำ สภำพควำมเป็นจริงทำงกำรเมืองและสงั คมให้อยูใ่ นภำวะทใี่ กลเ้ คียงกับเป้ำหมำย เท่ำท่ีจะเป็นไปได้ (3) ควำมหลำกหลำย เป็นหลักประกันกำรดำรงอยู่และกำรดำเนินกำรขององค์กรทแี่ ขง่ ขันกันในกำร แสดงออกหรือเรียกร้องนโยบำยทำงกำร เมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมท่ีแตกตำ่ งกันและดำรงอยู่ในประเทศ
นั้นๆ รวมทัง้ กำรมองว่ำควำมแตกตำ่ งและควำมหลำกหลำยในผลประโยชน์ที่ แสดงออกและเรยี กร้องนนั้ เปน็ เรื่องท่ี ชอบธรรม ชุมชนกับวถิ ปี ระชำธิปไตย กำรพัฒนำประชำธปิ ไตยจำเปน็ อยำ่ งยิง่ ที่จะต้องพัฒนำที่ประชำชน โดยปลกู ฝังและพัฒนำควำมรูค้ วำมเข้ำ ใจควำมเป็นประชำธิปไตยให้แก่ ประชำชนทง้ั ในแง่ควำมคิด อุดมกำรณ์และวถิ กี ำรดำเนินชีวิตต้งั แต่เดก็ เป็นต้นไป ดงั นัน้ จึงควรนำหลักกำรปกครองระบอบประชำธิปไตยมำใช้ในชุมชน ตัง้ แตใ่ นชวี ิตประจำวันของบคุ คลในครอบครวั ชุมชนและสังคม โดยใชแ้ นวคิดของประชำธิปไตยชมุ ชน คือ “กำรวำงตวั แกป้ ัญหำให้ใกลก้ ับปัญหำ” ซง่ึ วธิ ีแก้ปญั หำ ที่ดีในทนี่ ้ีกค็ ือ ชมุ ชนท้องถน่ิ ทอ้ งที่ ซึ่งมคี วำมเข้ำใจปัญหำตำ่ งๆ ท่ีเกดิ ขน้ึ ในทอ้ งถ่ินไดเ้ ป็นอยำ่ งดยี งิ่ และเชื่อวำ่ ปญั หำ ตำ่ งๆ ทเี่ กิดข้ึนจะ สำมำรถแก้ไขจำกบุคคลำกรในชมุ ชน ท้องถ่ิน และท้องทเ่ี อง ประชำธิปไตยในชมุ ชน / ทอ้ งถน่ิ ๑๘ วิถีชีวติ ประชำธิปไตยในกำรดำเนนิ กจิ กรรมตำงๆ ่ ภำยในชมุ ชน เปน็ กำรรวมกลุม่ ของบุคคลภำยในชมุ ชน สมำชกิ ใน ชุมชนต้องมีคุณลกั ษณะ ประชำธิปไตยทส่ี ำคัญ คือ 1. กำรเคำรพในระเบียบ กฎหมำยของท้องถนิ่ และกฎหมำยบ้ำนเมือง 2. กำรมสี ่วนร่วมในกำรพัฒนำชุมชนและทอ้ งถิน่ 3. กำรยอมรบั ควำมคดิ เหน็ ของผูอ้ น่ื 4. กำรตดั สินใจในสว่ นรวมโดยใชก้ ำรลงมติเสียงสว่ นใหญ่ 5. กำรแสดงควำมคิดเหน็ อย่ำงมีเหตุผลต่อชมุ ชน 6. กำรรว่ มกันวำงแผนในกำรทำงำนเป็นกลุ่มหรือตวั แทนของกล่มุ ซึ่งในกำรดำเนนิ ชวี ิตของกลุ่มคนในสงั คม มกั จะมกี ำรรวมกล่มุ คนในรปู แบบ ตำ่ งๆ ท้ังนใ้ี นกำรดำเนนิ ชีวติ ในกลมุ่ สมำชิกควรมคี ุณลักษณะประชำธิปไตย ไดแ้ ก่ 1. เคำรพในกฎระเบยี บข้อบงั คบั ของกลมุ่ หรือองคก์ ร 2. มีบทบำทในกำรแสดงควำมคดิ เห็นอย่ำงมีเหตุผล 3. ยอมรับฟังควำมคิดเหน็ ทกุ คนทด่ี กี วำ่ โดยไม่ใชอ่ ำรมณ์อดทนต่อควำมขัดแยง้ ท่เี กดิ ขน้ึ 4. กำรยอมรับในเหตุผลทีด่ ีกว่ำ 5. กำรทำงำนโดยวธิ ีกำรประชมุ วำงแผนและแก้ปัญหำร่วมกนั 6. กำรลงมติของกลุ่มหรอื องค์กรโดยใชก้ ำรลงมติเสียงข้ำงมำกวถิ ชี วี ิตแบบประชำธิปไตย วถิ ชี วี ิตแบบประชำธปิ ไตย หมำยถึง กำรอย่รู ่วมกัน ปฏบิ ัติตอ่ กันด้วยควำมเคำรพ ไมล่ ่วงละเมิดสิทธิของผู้อืน่ เคำรพ กฎเกณฑข์ องสังคม โดยมี อดุ มกำรณห์ ลัก คอื ควำมเสมอภำคและควำมมเี สรีภำพใหก้ ัน ซงึ่ John Dewey (จอหน์ ดวิ อี้) ชมุ ชนได้แบ่งประชำธปิ ไตยออกเปน็ 2 แบบ คอื 1. แบบกำรปกครอง คือเปน็ กำรใหป้ ระชำชนมีส่วนร่วมและอำนำจในกำรปกครอง โดยถือว่ำเป็น กำร ปกครองของประชำชน โดยประชำชน เพอ่ื ประชำชน ท่ีออกมำในรปู ของรัฐสภำ 2. แบบวถิ ชี วี ติ หมำยถึงควำมสัมพนั ธ์ของมนุษย์มีดว้ ยกัน 3 ขอ้ คือ -กำรเคำรพซึ่งกนั และกัน : เคำรพในสทิ ธิ และเสรภี ำพในควำมคดิ และกำรกระทำของผู้อื่น -กำรแบ่งปนั –กำรเชือ่ ในปัญญำ วัฒนธรรมประชำธปิ ไตย วัฒนธรรมประชำธิปไตย หมำยถึง วิถชี วี ติ หรือแนวทำงกำรดำรงตนในชีวติ ประจำวันในสังคมของประเทศ ทป่ี กครองโดยระบอบ ประชำธปิ ไตย โดยกำรทปี่ ระชำชนนำเอำหลักกำรและควำมเชอื่ ของระบอบประชำธปิ ไตยมำ ประพฤตปิ ฏบิ ัติตนทั้งในระดับครอบครวั และ ชมุ ชน ตลอดจนกำรประกอบอำชีพและกำรทำงำนร่วมกับผู้อนื่
ท้ังนี้กำรประพฤตติ นจะตอ้ งสอดคล้องกบั หลักกำรปกครองระบอบประชำธปิ ไตยตำมสทิ ธิ และหนำ้ พลเมือง ตำมท่กี ฎหมำยกำหนดและเข้ำมำมสี ว่ นร่วมในกำรปกครองในระดบั ตำ่ งๆ อยำ่ งกว้ำงขวำง กำรส่งเสริมวิถีประชำธิปไตย แนวทำงกำรส่งเสริมวถิ ชี วี ิตประชำธปิ ไตยในทำงปฏบิ ัตโิ ดยกำรเสรมิ สร้ำงควำมร้เู กยี่ วกับประชำธปิ ไตยและ กำรมสี ่วนรว่ มของประชำชนใน องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ดังน้ี 1. กำรส่งเสรมิ ประชำธิปไตยในครอบครวั โดยสมำชกิ ในครอบครัวมีควำมรักใคร่ปรองดอง กันเคำรพเชือ่ ฟงั พ่อแมใ่ นฐำนะที่เปน็ ผูท้ ่ีมี ประสบกำรณ์และเปน็ ผ้รู ับผิดชอบต่อครอบครัว พ่อแม่ ยอมรับฟงั ควำมเห็น ควำมต้องกำร ของลูก ตัดสนิ ปญั หำต่ำงๆ โดยใชเ้ หตุผลมำกกวำ่ ทีจ่ ะใช้ อำรมณ์ปรึกษำหำรือกันในเรื่องทส่ี ำคญั และเกีย่ วข้องกับผู้น้นั พ่อแมล่ ูกรู้จกั หน้ำทีข่ องตนเอง และปฏบิ ตั ิหน้ำทขี่ องตนด้วยควำมรับผดิ ชอบ เตม็ ใจ 2. กำรส่งเสริมประชำธปิ ไตยในโรงเรียน โดยสอนให้นักเรียนร้จู ักกำรทำงำนเป็นกลุ่มกระตนุ้ และเปิดโอกำส ใหน้ กั เรียนกลำ้ ที่จะแสดงควำม คิดเหน็ ในเร่ืองต่ำง ๆ ฝกึ หัดให้นกั เรียนยอมรับฟัง ควำมเหน็ และเหตผุ ลของผู้อนื่ พยำยำมโน้มน้ำวใจใหน้ ักเรยี นเขำ้ ใจถึงเหตผุ ลในกฎระเบียบตำ่ ง ๆ มำกกว่ำทีจ่ ะใช้อำนำจบังคับแตเ่ พยี งอย่ำงเดียว พยำยำมจัดกจิ กรรมต่ำง ๆ ทเ่ี ปดิ โอกำสให้นักเรียน ได้แสดงออก และมีควำมรบั ผิดชอบในกำรทำงำน เปน็ กลมุ่ ฝกึ หดั ใหน้ ักเรียนยอมรบั ในข้อตกลง ร่วมกันของกลมุ่ และปฏบิ ตั ิตำมหน้ำทีท่ ่ีไดร้ บั มอบหมำย 3. กำรส่งเสริมประชำธปิ ไตยในชมุ ชน โดยร่วมในกำรประชมุ หรอื กจิ กรรมของชุมชนอย่ำงเตม็ ใจ รับฟังควำม คดิ เห็นของทุกคน และไม่ถือโทษ โกรธเคอื งกนั แม้จะมีควำมเหน็ ขดั แย้งกัน ตัดสนิ ใจโดย ใช้เหตผุ ลมำกกว่ำอำรมณม์ ี กำรปรึกษำหำรือกันในขณะทำงำน ร่วมกันแก้ไขปัญหำข้อบกพร่อง ต่ำงๆ มำกกวำ่ ท่จี ะคอยํซ้ำเติม เคำรพกฏระเบยี บ ของชมุ ชนและกฏหมำย ติดตำมข่ำวสำรและแลกเปลี่ยน ควำมคดิ เห็นระหว่ำงกันอย่ำงสมำ่ เสมอ ตัดสิน ปัญหำโดย เปดิ โอกำสใหม้ ีกำรแสดงควำมเห็นอยำ่ ง กว้ำงขวำง ไม่ควรรบี รอ้ นให้มีกำรลงมติ
บทท่ี 3 วธิ ีกำรดำเนนิ งำน โครงกำรส่งเสรมิ ประชำธิปไตยในชุมชน กศน.ตำบลเฝ้ำไร่ จดั ขน้ึ ในวันที่ 23 เดือน กรกฎำคม 2563 ณ พื้นท่ีที่กำหนด ตำมแผนปฏบิ ัตกิ ำร กศน.ตำบลเฝำ้ ไร่ เป็นกำรจัดอบรมประเภทบรรยำย มีขั้นตอนดังน้ี กำรวำงแผน (plan) - ประชมุ คณะทำงำน เพ่ือชี้แจงควำมเปน็ มำและวัตถุประสงคข์ องโครงกำรส่งเสริมประชำธิปไตยในชมุ ชน - เขียนโครงกำรส่งเสรมิ ประชำธิปไตยในชมุ ชน - ขออนุมัตโิ ครงกำรสง่ เสรมิ ประชำธิปไตยในชมุ ชน กำรปฏบิ ัต(ิ D-Do) - จัดกจิ กรรมตำมโครงกำรส่งเสรมิ ประชำธปิ ไตยในชมุ ชน กำรตรวจสอบ (C-check) - ประเมินผลโครงกำรส่งเสรมิ ประชำธิปไตยในชมุ ชน - สรปุ ผลโครงกำรส่งเสริมประชำธิปไตยในชมุ ชน - รำยงำนผลโครงกำรสง่ เสริมประชำธปิ ไตยในชมุ ชน กำรแกไ้ ขปรับปรุง (A-Action) - กำรสรปุ ผลโครงกำรสง่ เสริมประชำธิปไตยในชุมชน เพ่ือนำไปปฏิบตั /ิ ปรับปรงุ ต่อไป ข้อมูลในกำรดำเนินงำน พนื้ ท่ีดำเนนิ กำร บำ้ นทำ่ หำยโศก หมู่ 4 ต.เฝำ้ ไร่ อ.เฝ้ำไร่ จ.หนองคำย กลุ่มเป้ำหมำย ประชำชน ในพ้ืนที่ กศน.ตำบลเฝ้ำไร่ รวมทง้ั สิ้น จำนวน 20 คน 1. เคร่ืองมือที่ใช้ในกำรจัดกจิ กรรมตำมโครงกำรในคร้ังนี้ จำก กศน.ตำบลเฝำ้ ไร่ กำรดำเนินกำร บรรยำยให้ควำมรโู้ ดยวิทยำกร ผเู้ ชำ้ รว่ มกิจกรรมเข้ำรว่ มรับฟัง กำรประเมนิ ผล แบบประเมินควำมพงึ พอใจ ซ่งึ แบง่ ออกเปน็ 2 ตอนคือ 1.ข้อมูลทั่วไป 2.ระดบั ควำมพอใจ 3.กำรวิเครำะห์ข้อมูล
สรุปแบบประเมินควำมพึงพอใจ สรุปแบบประเมนิ ควำมพึงพอใจของผู้เขำ้ รว่ มกิจกรรมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั อำเภอเฝำ้ ไร่ โครงกำรสง่ เสรมิ ประชำธิปไตยในชมุ ชน วันที่ 23 เดือน กรกฎำคม พ.ศ. 2563 กศน.ตำบลเฝำ้ ไร่ ************************************************** คำช้ีแจง ใสเ่ ครื่องหมำย ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั ข้อมูลของทำ่ นเพียงชอ่ งเดียว ตอนท่ี 1 ข้อมูลทว่ั ไป 1. เพศ จำนวน คดิ เปน็ รอ้ ยละ จำนวน คิดเปน็ ร้อยละ รวม(คน) คดิ เปน็ รอ้ ยละ ชำย หญงิ 1 4.35 22 95.65 23 100.00 2. อำยุ ลำดบั ชว่ งอำยุ จำนวน(คน) คดิ เป็นรอ้ ยละ 1 15 – 19 ปี 2 8.69 2 20 – 29 ปี 4 17.39 3 30 – 49 ปี 10 43.47 4 50 ปีขึน้ ไป 8 34.78 รวม 23 100.00 3. ระดับกำรศึกษำ ลำดับ ระดบั จำนวน(คน) คดิ เป็นรอ้ ยละ 1 ประถม 5 21.73 2 ม.ตน้ 15 65.23 3 ม.ปลำย 3 13.04 รวม 23 100.00 4. อำชีพ ลำดับ อำชีพ จำนวน(คน) คิดเป็นร้อยละ 1 เกษตร 15 65.23 2 รบั จ้ำง 5 21.73 3 ค้ำขำย 3 13.04 รวม 23 100.00
สว่ นที่ 2 ดำ้ นกระบวนกำรจดั กิจกรรมและควำมพึงพอใจของผูเ้ รียน/ผูร้ บั บริกำร คำชแ้ี จง ใสเ่ คร่อื งหมำย / ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั ควำมคิดเห็นของทำ่ นเพยี งชอ่ งเดียว ขอ้ 2.1 จำนวนขอ้ มูล ตำรำงที่ 2.1 ตำรำงขอ้ มูล ขอ้ ประเดน็ กำรสำรวจควำมพึงพอใจ ระดับควำมคดิ เห็น 54 3 2 1 1. ดำ้ นกระบวนกำร/ขั้นตอนในกำรจัดกิจกรรมฝกึ อบรม - - - - 1.1 ขนั้ ตอนในกำรฝึกอบรมเข้ำใจง่ำย ไม่ยุ่งยำกซบั ซ้อน 23 - - 1.2 ข้ันตอนในกำรจัดฝึกอบรมมีควำมเหมำะสมชัดเจนใน 23 - - - - รำยละเอยี ด 1.3 ระยะเวลำในกำรจัดฝกึ อบรมมคี วำมเหมำะสม 23 - - - - 2. ดำ้ นกำรให้บรกิ ำรของเจ้ำหนำ้ ท่/ี วิทยำกร - - - - 2.1 ให้บรกิ ำรด้วยควำมสุภำพและเป็นกนั เอง 23 - - 2.2 มีควำมเอำใจใสแ่ ละเตม็ ใจใหค้ วำมรู้ 23 - - - - 2.3 รบั ฟังปัญหำหรอื ข้อซักถำมของผเู้ ขำ้ รบั กำรฝึกอบรม 23 - - - - ดว้ ยควำมเตม็ ใจ 2.4 ใหค้ ำอธิบำยและตอบข้อสงสยั ไดต้ รงประเดน็ 23 - - - - 2.5 มคี วำมชัดเจนในกำรใหค้ ำแนะนำท่เี ป็นประโยชน์ 23 - - - 3. ดำ้ นสถำนท่ี สง่ิ อำนวยควำมสะดวกและอ่ืนๆ - - 3.1 ควำมเหมำะสมของอำคำร/สถำนท่ี 23 - - 3.2 ควำมพรอ้ มของอปุ กรณ์ ส่ือกำรเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ฝกึ อบรม 23 - - 3.3 อำหำรวำ่ ง อำหำรกลำงวัน เครื่องด่มื และ 23 - สำธำรณูปโภค อืน่ ๆ
ตำรำงที่ 2.2 กำรวิเครำะห์ข้อมูล ข้อ ประเด็นกำรสำรวจควำมพงึ พอใจ 5 ระดับควำมคิดเหน็ 1 4 32 - 1. ด้ำนกระบวนกำร/ข้ันตอนในกำรจดั กจิ กรรมฝกึ อบรม 100 - 1.1 ขนั้ ตอนในกำรฝึกอบรมเขำ้ ใจง่ำย ไมย่ ่งุ ยำกซับซอ้ น - -- - - -- 1.2 ขั้นตอนในกำรจัดฝึกอบรมมีควำมเหมำะสมชัดเจนใน 100 - -- - - รำยละเอียด - -- - - -- - 1.3 ระยะเวลำในกำรจัดฝึกอบรมมคี วำมเหมำะสม 100 - -- - - -- 2. ด้ำนกำรใหบ้ ริกำรของเจ้ำหนำ้ ที่/วิทยำกร - -- - - 2.1 ให้บรกิ ำรดว้ ยควำมสุภำพและเปน็ กันเอง 100 - -- - - -- 2.2 มีควำมเอำใจใสแ่ ละเตม็ ใจใหค้ วำมรู้ 100 - -- 2.3 รับฟังปัญหำหรอื ข้อซักถำมของผู้เขำ้ รับกำรฝกึ อบรม 100 ดว้ ยควำมเต็มใจ 100 2.4 ให้คำอธิบำยและตอบข้อสงสยั ได้ตรงประเด็น 2.5 มคี วำมชัดเจนในกำรให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ 100 3. ด้ำนสถำนท่ี สิง่ อำนวยควำมสะดวกและอนื่ ๆ 3.1 ควำมเหมำะสมของอำคำร/สถำนที่ 100 3.2 ควำมพรอ้ มของอุปกรณ์ สือ่ กำรเรียนรู้ ทใี่ ชฝ้ ึกอบรม 100 3.3 อำหำรว่ำง อำหำรกลำงวัน เครื่องด่มื และสำธำรณปู โภค อื่นๆ 100 ขอ้ เสนอแนะ ...เจำ้ หนำ้ ทน่ี ่ำรกั / อยำกให้มกี ำรอบรมอีกหำกมีโอกำสและจัดอบรมบอ่ ยๆ........ ขอขอบคุณทใ่ี ห้ควำมร่วมมือ กศน.อำเภอเฝ้ำไร่
บทที่ 4 สรปุ ผล อภปิ ลำย ขอ้ เสนอแนะ โครงกำรส่งเสริมประชำธิปไตยในชุมชน จดั ขน้ึ ในวนั ที่ 23 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2563 ณ พ้นื ที่ท่ีกำหนดกำร ตำมแผนปฏบิ ัตกิ ำร กศน.ตำบลเฝำ้ ไร่ อำเภอเฝ้ำไร่ จังหวดั หนองคำย สรปุ วัตถปุ ระสงค์วธิ ีดำเนนิ กำร ผลกำร ดำเนินงำนสรุปผล อภิปลำย ขอ้ เสนอแนะตำมลำดบั ดังนี้ วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพือ่ สง่ เสรมิ ให้ปะชำชนมคี วำมรู้ และเข้ำใจในขนั้ ตอนและกระบวนกำรของประชำธปิ ไตย 2. เพ่ือปลกู ฝังจิตสำนึก แนวคิดและค่ำนิยมประชำธปิ ไตยแกป่ ระชำชน 3. เพอื่ กระตุ้นให้สมำชิกมีควำมสนใจและเข้ำไปมีส่วนรว่ มกิจกรรมประชำธิปไตยท้งั ในสถำนศกึ ษำและนอก สถำนที วธิ ีดำเนนิ กำร ผูเ้ ขำ้ ร่วมโครงกำรสง่ เสริมประชำธิปไตยในชมุ ชน จัดข้ึนในวนั ท่ี 23 เดือน กรกฎำคม พ.ศ. 2563 ณ พื้นที่ที่ กำหนดกำรตำมแผนปฏิบัตกิ ำร กศน.ตำบลเฝำ้ ไร่ ตำบลเฝำ้ ไร่ อำเภอเฝำ้ ไร่ จังหวัดหนองคำย จำนวน 23 คน 1.เนอ้ื หำทโ่ี ครงกำรสง่ เสริมประชำธปิ ไตยในชมุ ชน 2.เครอ่ื งมือท่ีใช้ในกำรประเมินโครงกำร ไดแ้ ก่ แบบสอบถำมควำมพงึ พอใจ จำนวน 23 ฉบับ ได้รับคืน จำนวน 23 ฉบับ คดิ เปน็ 100 % สรุปผลกำรดำเนนิ งำน ผเู้ ข้ำรว่ มโครงกำร ผู้ตอบแบบสอบถำม กำรประเมินโครงกำรส่งเสรมิ ประชำธปิ ไตยในชุมชน ปรำกฏวำ่ บรรลตุ ำมวตั ถุประสงคข์ องโครงกำร ร้อยละ 100 อภิปรำยผล ควำมคิดเห็นและควำมสนใจ เก่ยี วกับประชำธิปไตยในชมุ ชน ผ้ตู อบแบบสอบถำมให้ควำมสนใจ ในภำพรวม ระดบั ปำนกลำง เมื่อแยกเปน็ รำยข้อพบว่ำ ใหค้ วำม สนใจเรือ่ งควำมร้เู กย่ี วกับเร่ืองประชำธปิ ไตยในชมุ ชน มำกทส่ี ุด รองลงมำคือ เรื่องบทบำทหน้ำทใี่ นชุมชน ข้อเสนอแนะ กำรอบรมเพ่ือปลูกฝังจิตสำนึก แนวคิดและคำ่ นิยมประชำธปิ ไตยแก่ประชำชน และให้ประชำชนได้ทรำบถงึ บทบำทหนำ้ ท่ีของตนเอง
ภำคผนวก กำรดำเนนิ งำน
อำหำรกลำงวัน อำหำรว่ำงและเครื่องด่มื
อำหำรว่ำงและเครื่องด่ืม
คณะผู้จดั ทำ ปรกึ ษำ ผู้อำนวยกำร กศน.อำเภอเฝ้ำไร่ นำยทวีศักด์ิ สุทธศรี ครู อำสำสมัครฯ นำยอภิวฒั น์ จิระชำติ คณะผู้จัดทำ 1. นำงพรทิพย์ เต็มสระน้อย ครู กศน.ตำบล 2. นำงเสำวนิตย์ สำยไธสง ครู กศน.ตำบล 3. นำงสำวยุวดี แก้วบบุ ผำ ครู ศรช. รวบรวม เรียบเรียง และรูปเล่ม นำงสำวยวุ ดี แกว้ บุบผำ ครู ศรช.
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: