แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๖ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑ จากผาแต้มสูอ่ ียิปต์ เวลา ๑๐ ชัว่ โมง เร่อื ง ตัวเลขไทย เวลา ๑ ชว่ั โมง สอนวนั ท่.ี ......................................................... ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ๑. มาตรฐานการเรยี นรู้ ท ๑.๑ สามารถเลือกฟงั และดอู ย่างมวี ิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึกใน โอกาสต่าง ๆ อยา่ งมีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนส่ือสาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราวในรูปแบบ ตา่ ง ๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศ และรายงานการศกึ ษาค้นควา้ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ขิ องชาติ ๒. ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ป.๖/๑ อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองไดถ้ กู ตอ้ ง ท ๒.๑ ป.๖/๒ เขียนส่อื สารโดยใชค้ ำไดถ้ ูกต้อง ชัดเจน และเหมาะสม ท ๒.๑ ป.๖/๙ มีมารยาทในการเขยี น ท ๔.๑ ป.๖/๒ ใช้คำไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะและบคุ คล ๓. สาระสำคญั การรู้หลักเกณฑ์ทางภาษา เรื่องการใช้เลขไทยให้ถูกต้องตามความหมาย และถูกต้องตามหน้าท่ี ของประโยค ช่วยให้ใช้ภาษาในการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพแต่ละประเทศ แต่ละชาติภาษาจะมี ตัวเลขใช้เป็นของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ เลขไทยมีใช้มาตั้งแต่กำเนิดตัวอักษรไทยสมัยพ่อขุนรามคำแหง มหาราช ใช้แทนจำนวน ใช้แทนวนั แตล่ ะวันในสปั ดาห์ แทนเดือนในแตล่ ะเดอื นในรอบปี ๔. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. นักเรยี นสามารถบอกความหมายและลักษณะของการใช้เลขไทยได้ ๒. นกั เรยี นสามารถอา่ นและเขียนตัวเลขไทยได้ ๓. นักเรียนมีส่วนรว่ มในกจิ กรรม ๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ความรู้ ความหมายและลกั ษณะของการใช้เลขไทย การอา่ นตัวเลขไทย การเขียนตวั เลขไทย ๕.๒ ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด ทกั ษะการอ่านตัวเลขไทย ทักษะการเขียนตัวเลขไทย ๖. สมรรถนะสำคัญของนกั เรยี น ๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร ๒. ความสามารถในการคิด
๗. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ๑. มีวนิ ัย ๒. ใฝเ่ รยี นหาความรู้ ๓. มุ่งมน่ั ในการทำงาน ๘. การบูรณาการ (เศรษฐกิจพอเพียง/โรงเรียนคุณธรรม/ภูมิปัญญาท้องถิ่น/บ้านวิทย์น้อย/สเต็ม ศึกษา/ตา้ นทจุ ริต ฯลฯ) การรู้จักรักและหวงแหนความเป็นไทยผ่านการใช้ตัวเลขไทยและเห็นคุณค่าความสำคัญของการ อา่ นตวั เลขไทย ๙. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ขัน้ นำ ๑. ครูทักทายนกั เรยี นและใหน้ ักเรียนเขา้ เช็คชื่อใน ClassDojo โดยครขู ึ้นรหัสให้และหากนักเรียน อยากเปลี่ยนรูปตนเองต้องยกตัวอย่างงานเขียนที่นักเรียนชื่นชอบคนละ ๑ เรื่อง พร้อมทั้งให้เหตุผล ความชอบ และครูถามถึงข้อแตกต่างของแต่ละเรื่องที่นักเรยี นยกมา เช่น เนื้อความในเรื่อง ลักษณะโครง เรอื่ ง เป็นตน้ ดงั ภาพตวั อยา่ ง ๒. นกั เรยี นแบ่งกล่มุ กลุม่ ละ ๖ คน โดยใช้กลมุ่ เดมิ แตเ่ ลือกประธาน รองประธาน เลขานุการกลุ่ม ใหม่ ไม่ซำ้ เดมิ ครแู จกบัตรสะสมแตม้ ใหน้ กั เรยี น เพื่อเปน็ การสะสมคะแนนความร่วมมอื ในชน้ั เรยี น ๓. ครูแนะนำบทเรยี น เรือ่ ง ตวั เลขไทย ข้นั สอน ๑. ครใู หน้ ักเรียนสังเกตตัวเลขไทย วา่ มีตัวเลขใดบา้ งทค่ี ลา้ ยกัน ๒. ครูให้นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ อ่านบทเรยี นเสริม เรอ่ื ง ตวั เลขไทย หน้า ๙ ๓. ครูให้นกั เรียนสังเกตการอา่ นตัวเลขไทยในอดีตและจดจำชื่อเรยี กตัวเลขต่าง ๆ ไว้ ๔. ครตู รวจสอบความร้ขู องนักเรียน โดยต้งั คำถามแล้วใหน้ กั เรยี นตอบคำถามดังน้ี - ตวั เลขไทย มีมาตั้งแตส่ มัยใด (สมยั สุโขทัย) - จงบอกตัวเลขไทยในอดตี ( ๑ – เอก ๒ – โท ๓ – ตรี ๔ – จัตวา ๕ – เบญจ ๖ – ฉ ๗ – สปั ต, สตั ตะ, สตั ๘ – อัฐ ๙ – นพ ) ๕. ครใู หน้ กั เรียนอาสาออกมาเขียนตัวเลขไทยท่หี นา้ กระดาน
๖. ครูให้นกั เรยี นร่วมตอบคำถามวนั ใดคือวนั แรกในสปั ดาห์ ครูเฉลยคำตอบวนั อาทิตย์ แลว้ อธิบาย การเรียงลำดับวันของคนไทยจะนบั วันอาทติ ย์เป็นวนั แรก ๗. ครูให้นักเรียนร่วมตอบคำถาม เดือนแรกของปี คือเดือนอะไร ครูเฉลยคำตอบเดือนแรกของปี คือ เดือน มกราคม ตามหลักตามสากล หากเป็นการนับเดือนแบบไทย เดือนแรกของปีเรียกว่า เดือนอ้าย เดือนกมุ ภาพนั ธ์ คือ เดือนยี่ เดอื นมนี าคมคือ เดือนสาม ครอู ธบิ ายเกี่ยวกับการใช้ตวั เลขไทยในการอ่านวัน เดือน ปี อันเป็นเอกลักษณข์ องไทย ๘. นักเรยี นศึกษาความรูเ้ ร่อื งจากใบความรู้ เรื่อง ตวั เลขไทย ๙. ครูเขียนวัน เดือน ปี แบบไทย ให้นักเรียนร่วมกันอ่าน เพื่อตรวจสอบความรู้ของนักเรียนที่ได้ จากการศึกษาใบความรู้ ๑๐. นกั เรียนแตล่ ะคนทำใบงาน เรอ่ื ง ตัวเลขไทย ๑๑. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั เฉลยใบงาน ขั้นสรุป ๑. ครถู ามคำถามนกั เรียนว่าทำไมคนไทยจงึ มีตัวเลขไทยใช้ และตัวเลขไทยให้อะไรแก่คนไทยบ้าง นักเรียนทุกคนร่วมกันอภิปรายในชัน้ เรียน ๒. ครูสรุปเนื้อหาการเรยี นในวนั นอี้ กี รอบ ๓. ครูมอบหมายใหน้ กั เรยี นไปอ่านบทเรยี นในหนังสือทีจ่ ะเรยี นในชว่ั โมงหน้า ๑๐. สอ่ื และแหลง่ เรียนรู้ ๑. หนงั สอื เรียนรายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย พาที ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ ๒. ใบความรู้ เรื่อง ตวั เลขไทย ๓. ใบความรู้ เร่อื งมารยาทในการอา่ น และมารยาทในการฟัง การดู และการพูด ๑๑. ผลงานท่เี กดิ จากการเรยี นรู้ ๑ ใบงานเรอ่ื งการต้ังคำถามและตอบคำถาม ๒ ใบงานกลุ่ม เรอ่ื ง การต้ังคำถามและตอบคำถาม ๑๒. การวัดและประเมินผล สง่ิ ที่ตอ้ งการวดั วธิ กี ารวดั และ เคร่อื งมือวัดและ เกณฑก์ ารวัด ประเมนิ ผล ประเมนิ ผล และประเมินผล ๑. นกั เรียนสามารถบอก ตรวจใบงาน ๑ เรื่อง แบบทดสอบท่ี ๑ เร่ือง ผ่านเกณฑ์ร้อย ความหมายและลักษณะของ การอ่าน วนั เดือน ปี การอ่าน วนั เดอื น ปี ละ ๗๕ ขน้ึ ไป การใชเ้ ลขไทยได้ แบบไทย แบบไทยจำนวน ๗ ขอ้ แบบตอบสั้น ๒. นกั เรยี นสามารถอ่านและ ตรวจใบงานท่ี ๒ เรอ่ื ง แบบทดสอบท่ี ๒ เร่ือง ผ่านเกณฑร์ อ้ ย เขียนตวั เลขไทยได้ การอา่ น วัน เดือน ปี การอ่าน วัน เดือน ปี ละ ๗๕ ข้ึนไป แบบไทย แบบไทยจำนวน ๕ ข้อ แบบตอบสน้ั ๓. นักเรียนมสี ่วนร่วมใน การสังเกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑร์ อ้ ย กิจกรรม ละ ๗๕ ขนึ้ ไป
๑๓. บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้ ๑) นกั เรยี นจำนวน……..คน ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู…้ .....คน คดิ เปน็ ร้อยละ…….. ไม่ผา่ นจดุ ประสงค์การเรียนร…ู้ .....คน คิดเป็นร้อยละ…….. ไดแ้ ก…่ …………………………………………….......................................................................................................... ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ นกั เรียนมคี วามสามารถพเิ ศษได้แก่ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ๒) ดา้ นความรู้ (K) ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ๓) ด้านทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ (P) ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ๔) ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ๕) ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ๖) ข้อเสนอแนะ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ลงช่อื .................................................................ครผู ้สู อน (นางสาวกมลรตั น์ วอนศริ ิ) นิสติ ฝึกประสบการณว์ ชิ าชพี ครโู รงเรียนเทศบาลสามคั คีวิทยา
ขอ้ เสนอแนะ ความเห็นของหัวหน้าฝา่ ยวชิ าการ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ลงชือ่ .........................................................หัวหน้าฝา่ ยวิชาการ (นางเกตนุ ภัส อดุ มชัย) ข้อเสนอแนะ ความเห็นของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ลงชื่อ............................................ผบู้ ริหาร (นางดารณุ ี เดชยศดี) ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นเทศบาลสามัคควี ทิ ยา
๑๔. ภาคผนวก ใบความรู้ เรอื่ ง เรื่อง การอ่านวนั เดือน ปี แบบไทย ปจั จุบันน้ี เรามกั จะใช้วันเดือนปีแบบสากลกันจนแทบจะลมื เลอื นการใชว้ ันเดอื นปีแบบไทย ไปแลว้ เด็กสว่ นมากหรอื แม้แต่ผู้ใหญ่บางคนอ่านวันเดือนปแี บบไทยไมไ่ ด้ด้วยซำ้ ไป ถึงแมเ้ ราจะใช้ วนั เดอื นปีแบบสากลกันมานานแลว้ แต่ความเปน็ ไทยท่เี ปน็ เอกลกั ษณ์ของเราก็ไมค่ วรทีจ่ ะละท้ิง ถ้า ศึกษา เอาไวบ้ ้างก็จะได้ใช้ไดถ้ กู ตอ้ ง วันเดอื นปแี บบไทยเป็นการนบั แบบจันทรคติ เริม่ จากการนับวัน เราเรียงลำดบั วนั แบบไทย ใน ๑ สปั ดาห์ ดังนี้ วนั อาทติ ย์ วนั จันทร์ วนั องั คาร วนั พธุ วันพฤหัสบดี วนั ศกุ ร์ และวันเสาร์ ซ่ึงจะใช้ ตวั เลข ๑-๗ แทนวันทง้ั ๗ วนั คอื วันอาทติ ย์แทนด้วยเลข ๑ วนั จนั ทร์เลข ๒ วนั อังคารเลข ๓ วันพุธ เลข ๔ วนั พฤหสั บดเี ลข ๕ วันศุกรเ์ ลข ๖ และวนั เสาร์แทนดว้ ยเลข ๗ ซงึ่ ตา่ งจากแบบสากลทน่ี ับวัน จันทรเ์ ปน็ วนั แรก และวันอาทิตย์เป็นวนั สุดทา้ ยของสัปดาห์ ส่วนเดอื นไทยนัน้ เขยี นด้วยตวั เลข เช่น เดอื น ๑ เดือน ๒ เดอื น ๓ เดือน ๔ เดอื น ๕ เรียงลำดับ ไปเรือ่ ย ๆ จนถึงเดือน ๑๒ วิธอี า่ นเดือนเฉพาะเดอื น ๑ อ่านว่า เดอื นอา้ ย และเดอื น ๒ อ่านว่า เดอื นยี่ สว่ นเดอื นอนื่ ๆ ทเ่ี หลอื ก็อา่ นเลขเดือนน้ัน ๆ ตามปกติ สำหรบั ปี เราใชป้ ีนักษตั ร ๑๒ ปีเป็น ๑ รอบ ซ่งึ แทนด้วยรปู สัตว์สญั ลักษณ์ คอื ชวด (หน)ู ฉลู (วัว) ขาล (เสือ) เถาะ (กระต่าย) มะโรง (งูใหญ่) มะเส็ง (งูเล็ก) มะเมยี (ม้า) มะแม (แพะ) วอก (ลงิ ) ระกา (ไก)่ จอ (หมา) และกุน (หมู) และมกั มีปี ศกั ราชกำกบั ดว้ ย เช่น มหาศกั ราช จุลศักราช หรือพุทธศักราช นอกจากน้ี วันเดือนปีแบบไทยยังต้องประกอบดว้ ย ข้างขึน้ ข้างแรม ในการเขยี นตวั เลขทอ่ี ยู่ ข้างบนคือขา้ งขน้ึ ส่วนตวั เลขทอี่ ยู่ขา้ งล่างคอื ขา้ งแรม เช่น ๑๕ วัน ๒ ฯ ๑ ค่ำ ปเี ถาะ อา่ นวา่ วันจันทร์ เดอื นอา้ ย ข้ึนสิบหา้ ค่ำ ปเี ถาะ วัน ๕ ฯ ๙ ค่ำ ปีระกา อ่านว่า วนั พฤหสั บดี เดอื นเก้า แรมเจ็ดค่ำ ปรี ะกา ๗ (ปิยรตั น์ อินทรอ์ ่อน)
ใบความรู้ เรื่องปนี ักษตั ร
ใบความรู้ เร่อื ง ตวั เลขไทย ตัวเลขไทย มีใช้มาตั้งแต่กำเนิดตัวอักษรไทยสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ใช้ แทนจำนวน ใช้แทนวันและวันในสัปดาห์ แทนเดือนแต่ละเดือนในรอบปี ปัจจุบันมีการใช้ เลขอารบิกแพรห่ ลาย เม่ือมีโอกาสใชเ้ ลขไทยได้ในเวลาใด คนไทยควรใช้เพ่อื ความภูมิใจใน ความเปน็ ไทย เลขไทยมี ๑๐ ตัว ดังนี้ ๑ ๒๓๔๕ หนง่ึ สอง สาม สี่ หา้ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ หก เจ็ด แปด เกา้ สิบ วนั วัน ๑ วันอาทิตย์ ๑ อ้าย ๒ วันจันทร์ ๒ ยี่ ๓ วนั อังคาร ๓ สาม ๔ วันพุธ ๔ สี่ ๕ วนั พฤหัสบดี ๕ หา้ ๖ วันศุกร์ ๖ หก ๗ วันเสาร์ ๗ เจด็ ๘ แปด ๙ เก้า ๑๐ สิบ ๑๑ สบิ เอด็ ๑๒ สบิ สอง
การอ่านตวั เลขไทย การอ่านวนั เดอื นปี แบบไทย ประกอบดว้ ย ขา้ งขน้ึ ขา้ งแรม ในการเขยี นตวั เลขทอ่ี ย่ขู า้ งบนคอื ขา้ งขน้ึ สว่ นตวั เลขทอ่ี ยขู่ า้ งลา่ งคือ ๒ ฯ ๑๑๕ขา้ งแรม อา่ นวา่ วนั จันทร์ เดือนอา้ ย ขึ้นสบิ ห้าคำ่ ๔ฯ๙ ๗ อา่ นวา่ วนั พฤหสั บดี เดือนเกา้ แรมเจด็ คำ่
ใบงาน ๑ เรือ่ ง การอ่าน วนั เดอื น ปี แบบไทย ชอ่ื – สกลุ ………………………………………………………………… เลขท่ี ………………. ตอนท่ี ๑ ใหน้ ักเรียนเขยี นตอบคำถามต่อไปนี้ ๑. นกั เรยี นคดิ วา่ การใช้เลขไทยใหป้ ระโยชน์อยา่ งไร ……………….……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………….……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. ใหน้ ักเรียนบอกความสำคญั ของเลขไทยมาตามความเขา้ ใจ ……………….……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………….……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………….……………………………………………………………………………………………………………………………… ตอนที่ ๒ จงเขยี นการอา่ นวนั เดอื น ปี แบบไทย วัน เดือน ปี แบบไทย ๔ คำอ่าน ๔ฯ๕ ๕ ๘ฯ ๓ ๗ ฯ๖ ๔ ๒ ๙ฯ ๗ ๖๓ฯ ๕
- เฉลย - ใบงาน ๑ เรื่อง การอ่าน วนั เดอื น ปี แบบไทย ชอ่ื – สกลุ ………………………………………………………………… เลขที่ ………………. ตอนท่ี ๑ ให้นักเรยี นเขยี นตอบคำถามตอ่ ไปนี้ ๑. นักเรียนคิดว่า การใช้เลขไทยใหป้ ระโยชน์อย่างไร …………...…………………………ดุลยพินิจครูผู้สอน…………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………...……………… ๒. ใหน้ กั เรยี นบอกความสำคญั ของเลขไทยมาตามความเขา้ ใจ …………...…………………………ดลุ ยพินิจครูผู้สอน…………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………...……………… ตอนท่ี ๒ จงเขียนการอ่านวนั เดือน ปี แบบไทย วนั เดือน ปี แบบไทย คำอา่ น ๔๔ฯ ๕ วันพุธ เดอื น หา้ ขึน้ ๔ ค่ำ ๕ ๘ฯ ๓ วนั พฤหัสบดี เดอื น สาม แรม ๘ ค่ำ ๗ ฯ๖ ๔ วนั เสาร์ เดอื น สี่ แรม ๖ ค่ำ ๒ ๙ฯ ๗ วันจันทร์ เดอื น เจด็ ขนึ้ ๙ ค่ำ ๖ ๓ฯ ๕ วันศุกร์ เดอื น ห้า ขึน้ ๓ ค่ำ
ใบงาน ๒ เรื่อง การอา่ นวนั เดอื น ปี แบบไทย คำช้แี จง ใหน้ กั เรยี นดขู ้อมูลทกี่ ำหนด แลว้ เขยี นคำอา่ นวัน เดอื น ปี แบบไทยให้ถกู ตอ้ ง เดอื น ๒ เดอื น ๓ เดอื น ๑ เดอื น ๔ วนั จนั ทร์ เดอื น ๑๒ วนั อาทิตย์ วนั องั คาร เดอื น ๕ วนั เสาร์ วนั พธุ เดอื น ๑๑ วนั ศกุ ร์ เดอื น ๖ เดอื น ๑๐ เดอื น ๙ วนั พฤหสั บดี เดอื น ๗ เดอื น ๘
- เฉลย - ใบงาน ๒ เร่ือง การอา่ นวัน เดอื น ปี แบบไทย คำชี้แจง ใหน้ ักเรียนดขู อ้ มูลทก่ี ำหนด แลว้ เขียนคำอ่านวัน เดือน ปี แบบไทยให้ถกู ต้อง เดอื น ๑ เดอื น ๒ เดอื น ๓ วนั จนั ทร์ เดอื น ๔ เดอื น ๑๒ วนั อาทิตย์ วนั องั คาร เดอื น ๒ วนั เสาร์ เดอื น ๕ วนั ศกุ ร์ วนั พธุ เดอื น ๑๐ เดอื น ๖ เดอื น ๙ วนั พฤหสั บดี เดอื น ๗ เดอื น ๘ วันอาทติ ย์ เดอื นอา้ ย ปมี ะเมยี วนั อังคาร เดือนสาม ปกี ุน วันพฤหสั บดี เดือนเจ็ด ปีมะโรง วนั ศุกร์ เดือนสิบ ปเี ถาะ วนั เสาร์ เดอื นย่ี ปีมะเสง็
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรยี นในการทำกจิ กรรมภายในหอ้ งเรียน ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ ภาคเรียนท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ การมสี ว่ นรว่ มในการทำกจิ กรรม สรุป กลมุ่ ชื่อ ความ ความ การ การ รวม ผ/ ท่ี ตัง้ ใจใน สนใจ ทำงาน ทำงานที่ (๑๒) มผ การ และการ ทนั ตาม ได้รับ เรยี น ซกั ถาม กำหนด มอบหมาย เวลา (๓) (๓) (๓) (๓) ๑ ๒ ๓ ๔
การมสี ว่ นร่วมในการทำกจิ กรรม สรปุ กลมุ่ ชื่อ ความ ความ การ การ รวม ผ/ ท่ี ตั้งใจใน สนใจ ทำงาน ทำงานที่ (๑๒) มผ ทนั ตาม การ และการ ได้รับ เรียน ซกั ถาม กำหนด มอบหมาย (๓) (๓) เวลา (๓) (๓) ลงชอื่ .................................................................ครผู สู้ อน (นางสาวกมลรัตน์ วอนศิริ) นสิ ติ ฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูโรงเรยี นเทศบาลสามัคควี ทิ ยา
เกณฑ์การสังเกตพฤติกรรมนกั เรยี นในการทำกิจกรรมภายในหอ้ งเรยี น รายการประเมิน (คะแนน ๓) เกณฑก์ ารให้คะแนน (คะแนน ๑) (คะแนน ๒) ๑. ความต้ังใจในการเรยี น ตงั้ ใจเรยี นตาม ต้ังใจเรียนตามเกณฑ์ ต้ังใจเรยี นตามเกณฑ์ ๑.๑ มีสมาธจิ ดจ่อ เกณฑ์ ๓ ข้อ ๒ ขอ้ ๑ ขอ้ ๑.๒ ไมค่ ุยและเลน่ กนั ๑.๓ เตรยี มหนังสอื และ อุปกรณก์ ารเรยี นพรอ้ มทจี่ ะ เรยี น ๒. ความสนใจและ สนใจและซักถาม สนใจและซกั ถามตาม สนใจและซกั ถามตาม การซกั ถาม ตามเกณฑ์ ๓ ข้อ เกณฑ์ ๒ ขอ้ เกณฑ์ ๑ ขอ้ ๒.๑. ถามในหวั ข้อท่ไี ม่ เข้าใจ ๒.๒. บันทกึ คำถามและ คำตอบ ๒.๓ กล้าแสดงออก ๓. การทำกิจกรรมทันตาม ทำกจิ กรรมทนั ตาม ทำกิจกรรมทนั ตาม ทำกจิ กรรมทนั ตาม กำหนดเวลา กำหนดเวลา กำหนดเวลา กำหนดเวลา ๓.๑ ทำกจิ กรรมเสร็จ ตามเกณฑ์ ๓ ขอ้ ตามเกณฑ์ ๒ ข้อ ตามเกณฑ์ ๑ ขอ้ ทนั เวลา ๓.๒ ทำกิจกรรมถูกตอ้ ง และชดั เจน ๓.๓ ทำกจิ กรรมอยา่ งมี ระเบยี บ ไมร่ บกวนกลมุ่ อ่ืน ๔. การทำงานท่ีไดร้ บั มสี ว่ นร่วมใน มสี ว่ นรว่ มในกิจกรรม มีสว่ นรว่ มในกิจกรรม มอบหมาย กจิ กรรม ตาม ตามเกณฑ์ ๒ ขอ้ ตามเกณฑ์ ๑ ข้อ ๔.๑ ให้ความร่วมมือ เกณฑ์ ๓ ข้อ ๔.๒ ใหก้ ารชว่ ยเหลอื ๔.๓ มคี วามกระตอื รอื ร้น เกณฑ์การใหค้ ะแนนกำหนดไวด้ งั น้ี เกณฑก์ ารแปลความหมายคะแนนกำหนดไว้ดงั นี้ ๓ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๑๐-๑๒ คะแนน หมายถงึ ดีมาก ๒ หมายถงึ ดี ๑ หมายถงึ ปรับปรุง คะแนน ๕-๙ คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน ๑-๔ คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง หมายเหตุ นกั เรียนผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ ต้องไดค้ ะแนน ๙ คะแนนขน้ึ ไป คิดเป็นร้อยละ ๗๕
แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ โรงเรียนเทศบาลสามคั คีวิทยา อำเภอเมอื ง จังหวดั มหาสารคาม สงั กัดเทศบาลเมอื งมหาสารคาม ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ชอื่ -สกลุ นักเรยี น................................................................หอ้ ง..............................เลขท.ี่ ...................... คำช้แี จง : ให้ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั ระดับคะแนน คุณลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อันพงึ ประสงค์ ๓๒๑ ๑. มีวินัย ๑.๑ เขา้ เรยี นตรงเวลา ๑.๒ แต่งกายเรยี บรอ้ ยเหมาะสมกบั กาลเทศะ ๑.๓ ปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบยี บของหอ้ ง ๒. ใฝห่ าความรู้ ๒.๑ แสวงหาข้อมูลจากแหล่งเรยี นรู้ต่าง ๆ ๒.๒ มกี ารจดบันทกึ ความรู้อย่างเป็นระบบ ๒.๓ สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตุผล ๓. มงุ่ ม่นั ใน ๓.๑ มีความตงั้ ใจ และพยายามในการทำงานทไี่ ด้รับมอบหมาย การทำงาน ๓.๒ มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้ต่ออุปสรรคเพ่ือให้งานสำเรจ็ ๓.๓ มคี วามกระตอื รอื รน้ ในการทำงาน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนกำหนดไวด้ งั น้ี เกณฑ์การแปลความหมายคะแนนกำหนดไวด้ งั น้ี คะแนน ๒๐-๒๗ คะแนน หมายถึง ดีมาก ๓ หมายถึง ดมี าก ๒ หมายถึง ดี คะแนน ๑๓-๑๙ คะแนน หมายถงึ ดี ๑ หมายถงึ พอใช้ คะแนน ๗-๑๒ คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนน ๑-๖ คะแนน หมายถงึ ปรับปรงุ หมายเหตุ นักเรียนผา่ นเกณฑ์ประเมินตอ้ งได้คะแนน ๒๐ คะแนนข้นึ ไป คิดเปน็ ร้อยละ ๗๕ ลงชอ่ื .................................................................ครผู ู้สอน (นางสาวกมลรตั น์ วอนศริ ิ) นสิ ติ ฝกึ ประสบการณว์ ิชาชพี ครูโรงเรยี นเทศบาลสามคั ควี ทิ ยา
แบบประเมนิ สมรรถนะ โรงเรียนเทศบาลสามัคคีวทิ ยา อำเภอเมอื ง จงั หวัดมหาสารคาม สังกัดเทศบาลเมอื งมหาสารคาม ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ชื่อ..................................................นามสกลุ .................................................ชั้น...............เลขท.่ี .............. คำช้ีแจง : ให้ผูส้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี น และขดี ลงในช่องทต่ี รงกับคะแนน สมรรถนะด้าน รายการประเมนิ ดมี าก ระดบั คุณภาพ ๑. ความสามารถ (๓) ในการสอ่ื สาร ๑.๑ มคี วามสามารถในการรบั -สง่ สาร ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ๑.๒ มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด (๒) (๑) (๐) ๒. ความสามารถ ความเข้าใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม ในการคิด ๑.๓ ใชว้ ธิ ีการสอ่ื สารทเ่ี หมาะสม มปี ระสิทธิภาพ ๑.๔ เจรจาตอ่ รองเพ่ือขจดั และลดปญั หาความ ขัดแยง้ ต่าง ๆ ในกจิ กรรมกลุม่ ได้ ๑.๕ เลอื กรับและไมร่ บั ขอ้ มูลขา่ วสารด้วยเหตุผล และถกู ต้อง สรปุ ผลการประเมนิ ๒.๑ มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมนิ คา่ ขอ้ มูล ๒.๒ มที ักษะในการคิดนอกกรอบอย่างสรา้ งสรรค์ ๒.๓ สามารถคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ ๒.๔ มีความสามารถในการสร้างองคค์ วามรู้ ๒.๕ ตัดสินใจแก้ปญั หาได้อย่างเหมาะสม สรุปผลการประเมนิ บนั ทึกเพิ่มเติม ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ลงชื่อ.................................................................ครูผสู้ อน (นางสาวกมลรตั น์ วอนศิริ) นสิ ิตฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชีพครโู รงเรียนเทศบาลสามคั ควี ิทยา
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: