Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประวัติศาสตร์ ม.1 หน่วย 4 อาณาจักรสุโขทัย

ประวัติศาสตร์ ม.1 หน่วย 4 อาณาจักรสุโขทัย

Published by seksarn, 2020-03-15 22:20:53

Description: ประวัติศาสตร์ ม.1 หน่วย 4 อาณาจักรสุโขทัย

Keywords: อาณาจักรสุโขทัย

Search

Read the Text Version

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 อาณาจกั รสโุ ขทยั

ตวั ช้ีวดั 1. อธบิ ายเร่ืองราวทางประวตั ศิ าสตรส์ มยั กอ่ นสุโขทยั โดยสงั เขป (ส 4.3 ม.1/1) 2. วิเคราะหพ์ ฒั นาการของอาณาจกั รสุโขทยั ในดา้ นตา่ งๆ (ส 4.3 ม.1/2) 3. วิเคราะหอ์ ิทธิพลของวฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทยสมัยสุโขทยั และสังคมไทย ในปัจจบุ นั (ส 4.3 ม.1/3)

ผงั สาระการเรยี นรู้ การสถาปนา พฒั นาการของ อาณาจกั รสุโขทยั อาณาจกั รสุโขทยั ภูมิปัญญา และวฒั นธรรม การตง้ั ถ่นิ ฐาน การเสือ่ ม ก่อนอาณาจกั รสุโขทยั ของอาณาจกั ร อาณาจกั รสุโขทยั

1. การตง้ั ถ่ินฐานกอ่ นอาณาจกั รสโุ ขทยั  สุโขทยั ยคุ ราชวงศศ์ รนี าวนาถมุ การก่อต้งั เมืองในบริเวณลุ่ม น้ายม-น่าน มีข้ ึนประมาณพุทธ- ศตวรรษท่ี 16-17 จารึกวัดศรีชุม ไดก้ ล่าวถึงกษัตริยท์ ่ีปกครองสุโขทยั ก่อนการสถาปนาเป็ นรัฐอิสระ คือ พอ่ ขุนศรนี าวนาถุม พ่อขุนผาเมือง โอรสองคใ์ หญ่ของพ่อขุน - ศรีนาวนาถมุ กษตั ริยส์ โุ ขทยั ใตอ้ ิทธิพลเขมร

2. การสถาปนาอาณาจกั รสโุ ขทยั พ่อขุนบางกลางหาวปรากฏพระนามในจารกึ พ่อขุนรามคาแหง มหาราชว่า “พ่อขุนศรีอินทราทิตย”์ การท่ีพ่อขุนผาเมืองมอบสุโขทัย ใหแ้ ก่พอ่ ขุนบางกลางหาวมีขอ้ คิดเห็นที่แตกตา่ งกนั ไป ดงั น้ ี 1. พ่อ ขุนบางก ลางห าว 3. สามารถรวบรวมเมือง พ่อขุนท้ังสองเป็ น สาคัญอื่นๆ ที่รายลอ้ ม พ่อขุนผาเมืองอาจพอใจ มิตรสนิทและอาจมี สุโขทยั ไวไ้ ดม้ ากกว่า ท่ีจะปกครองเมืองเดิม ค ว า ม สั ม พั น ธ์ ฉั น ของ พระ อง ค์ท่ีเ จริ ญ เครือญาติ 2. ทดั เทียมสุโขทยั

2.1 พระมหากษตั รยิ แ์ ห่งราชวงศพ์ ระรว่ ง  การสืบสนั ตติวงศใ์ นสมยั สโุ ขทยั กษัตริยร์ าชวงศพ์ ระร่วงท่ี ปกครองสุโขทยั มีจานวนท้งั ส้ ิน 9 พระองค์ มี รายพระนาม ดงั ตอ่ ไปน้ ี

2.1 พระมหากษตั รยิ แ์ ห่งราชวงศพ์ ระรว่ ง 1. 2. 3. พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ พ่อขุนบานเมือง พ่อขุนรามคาแหงมหาราช เสวยราชย์ เสวยราชย์ เสวยราชย์ พ.ศ. 1792-ไม่ปรากฏ ไม่ปรากฏ-พ.ศ.1822 พ.ศ. 1822-1841 6. 5. 4. พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย) พระยา (พญา) งวั่ นาถมุ พระยา (พญา) เลอไทย เสวยราชย์ เสวยราชย์ เสวยราชย์ พ.ศ. 1841-1866 พ.ศ. 1890-1911 พ.ศ. 1866-1890 7. 8. พระมหาธรรมราชาที่ 3 9. พระมหาธรรมราชาท่ี 4 พระมหาธรรมราชาท่ี 2 (ไสลือไทย) (บรมปาล) เสวยราชย์ เสวยราชย์ เสวยราชย์ พ.ศ. 1911-1942 พ.ศ. 1943-1962 พ.ศ. 1962-1981

พระราชกรณียกิจที่สาคญั  พอ่ ขุนศรอี นิ ทราทิตย์ ทรงปราบปรามและ ทรงรเิ รมิ่ การประดิษฐาน ร ว บ ร ว ม เ มื อ ง ต่ า ง ๆ พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า ลั ท ธิ ท้ังใกลแ้ ละไกลใหอ้ ยู่ ลงั กาวงศใ์ นอาณาจกั ร ในอานาจ พระราชกรณียกิจทส่ี าคญั

พระราชกรณียกจิ ที่สาคญั  พอ่ ขุนรามคาแหงมหาราช นักรบท่ีมีความสามารถ พระปรชี าสามารถ นักปกครองที่ดี ทางการเมือง นกั การทตู ท่ีฉลาดหลกั แหลม พระราชกรณียกิจทส่ี าคญั ทรงเป็ นอคั รศาสนูปถมั ภก ทานุบารุงพระพุทธศาสนา การวางรากฐานความ ทรงอบรมและเผยแผ่หลกั ธรรมและ รุง่ เรอื งทางวฒั นธรรม การสรา้ งศาสนวตั ถุ ศาสนสถาน ทรงประดษิ ฐอ์ กั ษรลายสอื ไทย

พระราชกรณียกิจท่ีสาคญั  พอ่ ขุนรามคาแหงมหาราช

พระราชกรณียกิจที่สาคญั  พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลไิ ทย) ทรงเสดจ็ ออกผนวช การปฏิบัติพระองค์ ทรงเป็ นองคอ์ ัครศาสนูปถัมภกของ เป็ นแบบอย่างของ พระพทุ ธศาสนา พุทธศาสนิกชน ทรงสรา้ งพระอาราม สถูปเจดียแ์ ละ พระราชกรณียกิจทีส่ าคญั พระพุทธรูปจานวนมาก การเสริมสรา้ งบทบาท ทรงส่งพระเถระสาคัญไปเผยแผ่ ท า ง ก า ร เ มื อ ง ข อ ง พระพทุ ธศาสนา สุโขทยั ท ร ง พ ร ะ ร า ช นิ พ น ธ ์ว ร ร ณ ก ร ร ม ทางศาสนาหลายเล่ม ท่ีสาคญั คือ ไตรภมู ิพระรว่ ง

พระราชกรณียกิจที่สาคญั  พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลไิ ทย)

พระราชกรณียกจิ ท่ีสาคญั  พระมหาธรรมราชาท่ี 3 (ไสลือไทย) พระราชกรณียกิจที่สาคญั ทรงขยายอาณาเขต ท ร ง ท า ใ ห้ สุ โ ข ทั ย ทรงเจริญสมั พนั ธไมตรี โดยรวบรวมความ กลบั มาเป็ นรฐั อิสระ กบั กรุงศรีอยุธยา เป็ นปึ กแผ่นในลุ่มน้า ยม-น่าน-ป่ าสกั

2.2 ปัจจยั ความเติบโตแข็งแกรง่ ของสโุ ขทยั ความสามารถในการทาสงคราม ของกษตั ริยแ์ ละพระราชวงศ์ ความสามคั คีในหมู่ ความสามารถในการดาเนิน พระราชวงศแ์ ละขนุ นาง นโยบายกระชับสมั พนั ธก์ ับรฐั ใกลเ้ คียง ปัจจยั ความเตบิ โต แข็งแกรง่ ของสุโขทยั ความเอาใจใสบ่ าบดั ทุกข์ ความรว่ มมือรว่ มใจของ บารุงสขุ ใหแ้ ก่ประชาชน ไพรฟ่ ้าประชาชน

2.3 ขอบเขตของอาณาจกั ร  อาณาเขตของอาณาจกั รสุโขทยั เม่ือแรกสถาปนา นครชุม ทิศตะวนั ตก อาณาเขตของ ทุ่งยง้ั อาณาจกั รสุโขทยั ทิศตะวนั ออก บางยาง เมื่อแรกสถาปนา สรลวงสองแคว ทิศใต้ พระบาง (ปากน้าโพ)

2.3 ขอบเขตของอาณาจกั ร  สมยั พอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราช ทิศตะวนั ตก ทิศเหนือ ทิศตะวนั ออก เมืองแพร่ น่าน พลัว่ เมืองชวา เมืองตาก ฉอด มอญ เมืองสรลวงสองแคว สมยั พอ่ ขุนรามคาแหงมหาราช ทิศใต้ ทิศตะวนั ออกเฉียงใต้ เมืองพระบาง แพรก สุพรรณบุรี เมืองปากยม ลุมบาจาย ราชบรุ ี เพชรบุรี นครศรธี รรมราช เมืองเวียงจนั ทน์ เวียงคา

2.3 ขอบเขตของอาณาจกั ร  สมยั พอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราช พระธาตุแช่แห้งน้อย หรือพระธาตุตะโกง้ เมืองน่าน อ ดี ต เ มื อ ง ป ร ะ เ ท ศ ร า ช ข อ ง สุโขทยั

2.3 ขอบเขตของอาณาจกั ร  สมยั พอ่ ขุนรามคาแหงมหาราช แผนท่ีแสดงอาณาเขตของ อาณาจกั รสุโขทยั

หลงั สมยั พ่อขนุ รามคาแหงมหาราช สมยั พระมหาธรรมราชาที่ 1 มีขนาดใกลเ้ คียงกบั ระยะแรกก่อต้งั อาณาจกั ร คือ มีเฉพาะบริเวณ ตอนลา่ งของลมุ่ น้ายม-น่าน และปิ ง-วงั สมยั พระมหาธรรมราชาท่ี 2 สุโขทยั ถกู อยธุ ยาแบ่งแยกดนิ แดนออกเป็ น 2 แควน้ คือ  กลมุ่ ตะวนั ตกตามลาน้าปิ ง มีศูนยก์ ลางทก่ี าแพงเพชร  กลมุ่ ตะวนั ออก คือ ลาน้ายม-น่าน มีศูนยก์ ลางที่พิษณุโลก สมยั พระมหาธรรมราชาท่ี 4 ดินแดนสุโขทยั แบ่งออกเป็ น 4 เขต คือ พิษณุโลก สุโขทยั เชลียง และชากงั ราว

3. พฒั นาการของอาณาจกั รสโุ ขทยั การปกครอง ความสมั พนั ธ์ พฒั นาการของ สภาพสงั คม กบั ตา่ งชาติ อาณาจกั รสุโขทยั (ดา้ นการเมือง) เศรษฐกิจ

3.1 การปกครอง  ระบบการปกครอง ระบบการปกครองสมยั สุโขทยั การปกครองแบบพ่อปกครองลกู การปกครองแบบธรรมราชา สมยั ท่ีปกครอง สมยั ท่ีปกครอง  พอ่ ขนุ ศรอี ินทราทิตย์  พระมหาธรรมราชาที่ 1- 4  พอ่ ขนุ บานเมือง  พอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราช ลกั ษณะการปกครอง  ใชห้ ลกั พระพุทธศาสนา ลทั ธิลงั กาวงศ์ ลกั ษณะการปกครอง เป็ นการปกครองแบบครอบครวั ในการปกครอง โดยยึดหลกั ทศพิธราชธรรม  เปลี่ ย น พ ระ น า มข อ งก ษัตริย์เป็ น พระมหาธรรมราชา

3.1 การปกครอง  ระบบการปกครอง  พระแท่นมนงั ศิลาบาตร ในอทุ ยานประวตั ิศาสตรส์ ุโขทยั

3.1 การปกครอง  การจดั ระเบียบการปกครอง ส มั ย สุ โ ข ทัย ไ ด ้จัด แ บ่ ง ส่วนการปกครองเป็ น 2 กลุ่ม คือ การปกครองส่วนกลาง และการปกครองส่วนภูมิภาค หรือหวั เมือง

3.1 การปกครอง  การจดั ระเบียบการปกครอง การจดั ระเบียบการปกครอง การปกครองสว่ นกลาง การปกครองส่วนภูมิภาค สุโขทัยเป็ นเมืองราชธานีศูนยก์ ลาง แบง่ ไดเ้ ป็ น 2 กล่มุ คือ การปกครอง พระมหากษัตริยจ์ ะเป็ น ประมุขสงู สุด มีอามาตยม์ นตรีช่วยเหลือ เมืองช้นั ใน ดแู ลหน่วยงานดา้ นตา่ งๆ เป็ นเมืองใหญ่อยู่รายลอ้ มราชธานีท้ัง 4 ทิศ มีพระราชวงศท์ ่ีสาคัญปกครอง และมีบทบาท สาคญั ท้งั ดา้ นยุทธศาสตรแ์ ละเศรษฐกิจ เมืองช้นั นอก เมืองขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างไกล ยอมรับอานาจ ของสโุ ขทยั

3.1 การปกครอง แพร่ น่าน ปัว ชวา ศรสี ชั นาลยั ลมุ บาจาย นครชุม ฉอด ชากงั ราว สุโขทยั สรลวงสองแคว สคา หงสาวดี กาแพงเพชร พิจติ ร พระบาง เวียงจนั ทน์ แพรก สรรคบรุ ี สุพรรณบรุ ี เพชรบุรี ราชบุรี นครศรธี รรมราช  แผนภูมิแสดงที่ตงั้ หวั เมืองชนั้ ในและหวั เมืองชนั้ นอกสมยั สโุ ขทยั

3.1 การปกครอง  กฎหมาย กฎหมาย กฎหมาย ทรพั ยม์ รดก สิทธปิ ระโยชน์ ในท่ีดิน กฎหมาย กฎหมาย ภาษี ลกั ษณะลกั พา ลกั ษณะกฎหมายสมยั สุโขทยั

3.1 การปกครอง  กฎหมาย  ภาพจาลองกระดิ่งรอ้ งทกุ ขใ์ ชใ้ นสมยั พ่อขุนรามคาแหงมหาราช

3.2 ความสมั พนั ธก์ บั ต่างชาติ (ดา้ นการเมือง) แผนผงั สรุปความสมั พนั ธก์ บั ตา่ งชาตขิ องอาณาจกั รสุโขทยั ความสมั พนั ธ์ ความสมั พนั ธ์ ความสมั พนั ธ์ ในลกั ษณะมิตรไมตรี กบั ตา่ งชาติ ในลกั ษณะที่ขดั แยง้ ลา้ นนา รฐั ไทยใกลเ้ คียง นครน่าน อาณาจกั รเขมรโบราณ ลา้ นชา้ ง อาณาจกั รอยธุ ยา มอญ นครศรีธรรมราช ลงั กา จนี

3.3 เศรษฐกจิ  ภาคการผลิต เศรษฐกิจภาคการผลติ สมยั สุโขทยั แบ่งไดเ้ ป็ น 3 ลกั ษณะคือ 1. เกษตรกรรม สุโขทยั มีการเพาะปลกู จะมีท้งั การทานา ทาไร่ และ ทาสวนผลไมช้ นิดตา่ งๆ เช่น มะม่วง มะพรา้ ว มะขาม

3.3 เศรษฐกจิ  ภาคการผลิต 2. การเล้ ียงสัตว์ เป็ นการเล้ ียงเพ่ือบริโภค ใชแ้ รงงาน และเพื่อการซ้ ือขาย ทางการอนุญาตใหม้ ีการคา้ สัตวไ์ ดโ้ ดยเสรี ทง้ั ชา้ ง มา้ ววั และควาย 3. การหัตถกรรม สุโขทัยมีการผลิต สินคา้ หตั ถกรรมหลายชนิด การผลิตจะเป็ นระบบ อุตสาหกรรมในครัวเรือน และการผลิตเชิง อุตสาหกรรม

3.3 เศรษฐกจิ  ภาคการคา้ การคา้ ในสมยั สุโขทยั แบง่ ไดเ้ ป็ น 2 ลกั ษณะ คือ การคา้ ภายใน ในเมืองสุโขทยั มีการจดั ต้งั ตลาดสาหรับซ้ ือขายแลกเปลี่ยนสินคา้ อุปโภคบริโภค การคา้ ระหว่างเมืองภายในอาณาจกั รจะใชเ้ สน้ ทางขนส่ง คมนาคมทง้ั ทางน้าและทางบก ถนนสายสาคญั คือ ถนนพระรว่ ง การคา้ กบั ตา่ งแดน  สุโขทยั มีการคา้ กบั ตา่ งชาตทิ ้งั ทางบกและทางเรือ  สินคา้ สง่ ออก ผลติ ผลจากป่ ารวมทง้ั เคร่ืองสงั คโลก  สินคา้ นาเขา้ อาวุธและสนิ คา้ ฟ่ ุมเฟื อย

3.3 เศรษฐกจิ  ภาคการคา้  ไมห้ อม  เคร่ืองเทศ  ครงั่  งาชา้ ง/เขาสตั ว์  ถว้ ยชามสงั คโลก  ผา้ ไหม  เคร่ืองประดบั

3.3 เศรษฐกิจ  การจดั การและการสง่ เสรมิ ของรฐั ระบบชลประทาน เน่ืองดว้ ยสภาพภูมิประเทศของ สุโขทยั ไม่เอ้ ืออานวนตอ่ การเพาะปลกู มาก นัก ผปู้ กครองจงึ ตอ้ งจดั หาวิธจี ดั ทรพั ยากร น้าใหเ้ พียงพอสาหรับการอุปโภคบริโภค ของประชาชน โดยการสร้างเขื่อนดิน ขนาดใหญข่ ้ ึน เรียกสรีดภงส์ รายได้ รายไดส้ ่วนหน่ึงของทางการมาจากการคา้ กับต่างชาติ อีกส่วนหนึ่ง เก็บจากพลเมืองซึ่งมีท้งั ไทยและตา่ งชาติในรูปแบบของ อากร ฤชา และส่วย หรือบรรณาการ

3.3 เศรษฐกิจ  การจดั การและการสง่ เสรมิ ของรฐั เงินตรา สมัยสุโขทัยมีการใช้เงินและทองคาเป็ นสื่อกลางในการค้าขาย แลกเปล่ียน นอกจากน้ ียงั มีการใชเ้ บ้ ียเป็ นส่อื แลกเปล่ยี นดว้ ย

3.4 สภาพสงั คม  โครงสรา้ งชนช้นั ในสงั คม โครงสรา้ งชนช้นั ในสงั คม ชนช้นั ผปู้ กครอง ชนช้นั ผถู้ ูกปกครอง กษตั ริย์ ราชวงศ์ ขุนนาง สามญั ชน ขา้ พระ ขา้

3.4 สภาพสงั คม  โครงสรา้ งชนช้นั ในสงั คม พระสงฆ์ เป็ นกล่มุ ที่มีบทบาทเดน่ ชัด ในสังคมสุโขทัย ไม่นับอยู่ในกลุ่ม ผปู้ กครองและผถู้ ูกปกครอง ไพร่ฟ้าหรือสามัญชน เป็ นแรงงาน สา คัญ ท่ีช่ ว ย ร า ช ก า ร เ ว ลา เ กิ ด ศึกสงคราม

3.4 สภาพสงั คม  ชีวิตความเป็ นอยูส่ มยั สุโขทยั สุโขทยั มีการจดั วางผงั เมืองที่เป็ นระบบใน ตวั เมืองจะเป็ นที่ต้งั ของพระอาราม พระราชวัง เขตที่อยู่อาศัยของประชาชนจะเป็ นชุมชนอยู่ นอกกาแพงเมือง ชาวสุโขทัยเป็ นผู้ท่ีมีความศรัทธาใน พระพุทธศาสนาและมีการสรา้ งสรรคป์ ระเพณี ตา่ งๆ เก่ียวกบั ลทั ธิศาสนา

3.4 สภาพสงั คม  ชีวิตความเป็ นอยูส่ มยั สุโขทยั วัดพระพายหลวง จ.สุโขทยั อดีต ศูนย์กลางเมืองสุโขทัย ก่อนย้ายมาอยู่ บริเวณวดั มหาธาตุ ชาวเมืองสุโขทัยบริโภคขา้ วเหนียว ขา้ วเจา้ และปลาน้าจืด เป็ นหลกั ดงั ปรากฏใน จารึกว่า “ในน้ามีปลา ในนามีขา้ ว”

4. ภมู ิปัญญาและวฒั นธรรม ลทั ธิความเชื่อ และศาสนา ขนบธรรมเนียม ศลิ ปกรรม ประเพณี ภมู ิปัญญา และวฒั นธรรม ดนตรีและ ภาษาและ นาฏกรรม วรรณกรรม

4. ภมู ิปัญญาและวฒั นธรรม  ลทั ธิความเช่ือและศาสนา ความเชื่อเรอ่ื งผีและไสยศาสตร์ ช า ว สุ โ ข ทั ย มี ค ว า ม เ ชื่ อ ว่ า ผี จ ะ ท า หนา้ ทร่ี กั ษากฎเกณฑใ์ หส้ งั คม สว่ นความเช่ือ ดา้ นไสยศาสตร์ คือ เรื่องเก่ียวกับเคราะห์ โชคลาง และฤกษย์ าม หลักฐานที่เหลืออยู่ คือ ตกุ๊ ตาเสียกบาล  ตุก๊ ตาเสียกบาล พบบริเวณ จ.สุโขทัยหลักฐานความเชื่อ ด้า น ไ ส ย ศ า ส ต ร์ข อ ง ช า ว สโุ ขทยั

4. ภมู ิปัญญาและวฒั นธรรม  ลทั ธคิ วามเช่ือและศาสนา ศาสนาพราหมณ-์ ฮินดู  วดั ศรีสวาย จ.สุโขทยั อดีตเป็ น สุโขทัยเคยตกอยู่ใตอ้ านาจ เทวสถานในศาสนาฮินดูก่อนแปลง ของอาณาจกั รเขมร จึงไดร้ บั อิทธิพล เ ป็ น พุ ท ธ ส ถ า น ใ น ส มัย สุโ ข ทัย ของศาสนาฮินดูและพุทธมหายาน ภายหลงั แต่เมื่อสถาปนาเป็ นอาณาจกั รอิสระ แลว้ จึงมีการปรับเปล่ียนเทวสถาน มาเป็ นวัดในพระพุทธศาสนานิกาย เถรวาทแทน

4. ภมู ิปัญญาและวฒั นธรรม  ลทั ธิความเช่ือและศาสนา พระพุทธศาสนา พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า ลั ท ธิ  องค์เทวรูป “พระแม่ย่า” เทพยดา ลังกาวงศ์ในอาณาจักรสุโขทัย คุม้ ครองเมืองตามความเชื่อของชาวสุโขทยั แบ่งออกเป็ น 2 กลุ่ม คือ ฝ่ าย ในปัจจุบนั ประดิษฐานอยู่ในเทวลัย หน้า คาม วาสี และฝ่ ายอรัญวาสี ศาลากลาง จ.สโุ ขทยั นอกจากน้ ียงั มีช่ือปรากฏอีกกลมุ่ คือ ฝ่ ายพระรูป สันนิษฐานว่า อาจเป็ นฝ่ ายมหายานท่ีนับถือรูป พระโพธสิ ตั ว์

4. ภมู ิปัญญาและวฒั นธรรม  ศิลปกรรม ดา้ นประตมิ ากรรม นิ ย ม ส ร ้า ง พ ร ะ พุ ท ธ รู ป แ ล ะ เ ท ว รู ป ห ล่ อ สั ม ฤ ท ธ์ิ นอกจากน้ ี ยังมี ภาพปูนป้ั นประดับผนังหรือหน้าบัน พระพุทธรูปสมัยน้ ีเป็ น 4 หมวดตามลักษณะ คือ หมวด ใหญ่ หมวดกาแพงเพชร หมวดพระพทุ ธชินราช และหมวด วดั ตะกวน

 ดา้ นประตมิ ากรรม  พระพทุ ธรูปสมยั สโุ ขทยั ๔ หมวด พระอัฏฐารส (ซ้าย) พระร่วงโรจนฤทธิ์ (กลาง) และพระพทุ ธรูปปางลีลา เมือง เชลียง (ขวา)  พระพทุ ธชินราช (ซา้ ย) พระพุทธรูปหมวดวดั ตะกวน (ขวา)

4. ภมู ิปัญญาและวฒั นธรรม  ศิลปกรรม ดา้ นสถาปัตยกรรม สถาปั ตยกรรมสุโขทัยจาแนก ไดเ้ ป็ น 2 กลุ่ม คือ สถูปหรือเจดีย์ และโบสถแ์ ละวิหาร

 ดา้ นสถาปัตยกรรม สถปู หรอื เจดีย์ แบง่ เป็ น 3 แบบ คือ แบบสุโขทยั แท้ แบบลงั กา แบบลงั กาผสมศรีวิชยั  เจดียท์ รงพุ่มขา้ วบิณฑ์  เจดียท์ รงกลมแบบลังกา  เจดียท์ รงปราสาท วดั เจดีย์ วดั มหาธาตุ จ.สโุ ขทยั วดั ชา้ งลอ้ ม จ.สโุ ขทยั เจ็ดแถว จ.สโุ ขทยั

 ดา้ นสถาปัตยกรรม โบสถแ์ ละวิหาร อาคารสมยั สุโขทยั แบง่ ไดเ้ ป็ น 3 ลกั ษณะ คือ อาคาร อาคาร อาคาร โถงก่ออิฐถือปูน กอ่ ดว้ ยศิลาแลง ทรงส่ีเหลี่ยมจตั รุ สั  วิหารวดั นางพญา  วิหารอาคารก่อดว้ ยศิลาแลง  วิหารวดั ศรีชุม จ.สโุ ขทยั อาเภอศรีสชั นาลยั วดั กฎุ ีราย อาเภอศรีสชั นาลยั

4. ภมู ิปัญญาและวฒั นธรรม  ศิลปกรรม ดา้ นจติ รกรรม จติ รกรรมสมยั สุโขทยั ไดร้ บั อิทธิพลของศิลปะลงั กา  จิตรกรรมฝาผนังพระอดีตพระพุทธเจา้  ภาพสลกั เร่ืองโคชานิยชาดก บนเพดาน วดั เจดียเ์ จ็ดแถว จ.สโุ ขทยั หินในอุโมงคม์ ณฑปวดั ศรีชุม จ.สโุ ขทยั

4. ภมู ิปัญญาและวฒั นธรรม  ศิลปกรรม ดา้ นหตั ถกรรม ผลงานดา้ นหัตถกรรมท่ีสาคัญของสุโขทัยท่ีตกทอดมาถึง ปัจจุบัน คือ เครื่องสงั คโลก ส่วนใหญ่ทาเป็ นภาชนะ นอกจากน้ ียงั ผลิตเป็ นเคร่ืองตกแตง่ อาคาร รวมท้งั ตกุ๊ ตารูปคนและสตั ว์  ตกุ๊ ตาสงั คโลกและจานสงั คโลก ผลงานหตั ถกรรมสาคญั ของสโุ ขทยั

4. ภมู ิปัญญาและวฒั นธรรม  ภาษาและวรรณกรรม อกั ษรไทย ภาษาและ วรรณกรรม วรรณกรรม ประวตั ศิ าสตร์ วรรณกรรม วรรณกรรม ศาสนาและปรชั ญา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook