ใบความรู้ เรื่อง อารยธรรม

ใบความรู้ เรอ่ื ง อารยธรรม การอยู่รวมกนั ของมนษุ ยจ์ นกระทั่งพฒั นาเป็นชมุ ชนเมือง ตอ้ งอาศยั ปจั จัยต่างๆหลายดา้ น ท้ังที่เป็น รูปธรรมและทเี่ ป็นนามธรรม เช่นการเลือกทำเลที่ต้งั เหมาะสมกับการผลติ อาหาร มีความปลอดภยั จากภัยพิบตั ิ รา้ ยแรงตามธรรมชาติ มีขนบธรรมเนยี มประเพณีและมีวฒั นธรรมร่วมกัน และความเจริญทางวัฒนธรรม กอ่ ใหเ้ กดิ คำว่า “อารยธรรม” อารยธรรม หมายถงึ • คำว่า อารยธรรม มคี วามหมายตามศัพทว์ า่ เจริญงอกงาม ตรงกับภาษาอังกฤษวา่ civilization มาจากคำภาษาละตินวา่ civilis ซึ่งหมายถงึ พลเมือง civitas แปลว่า เมอื งหรอื นคร ความหมาย ของอารยธรรมท่วั ไปจึงมีความเก่ียวข้องกบั มนษุ ย์ ซึง่ เปน็ ผ้สู รา้ งสรรค์อารยธรรมและสังคมเมือง • “อารยธรรม” ตาม พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถานประจำปี พ.ศ. 2542 ได้ให้ความหมายไว้ ว่า เปน็ ความสงบสุขของสังคมท่ีตง้ั อยูบ่ นรากฐานแหง่ ศีลธรรมและกฎหมาย ความเจรญิ เน่อื งดว้ ย องค์การของสังคม เชน่ การเมอื ง กฎหมาย เศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยงิ่ อุตสาหกรรม ความเจริญ ดว้ ยขนบธรรมเนียมอนั ดี ดงั นนั้ อารยธรรม จงึ หมายถงึ ความเจริญกา้ วหนา้ แบบสงั คมเมืองซ่ึงเกดิ จากการอยรู่ วมกนั มีขนบธรรมเนยี ม และประเพณใี ห้ยดึ ถอื ปฏิบตั ิร่วมกนั เมอื่ มีการพัฒนาก็กลายเป็นสงั คมที่มีความเจริญรุ่งเรือง มโี ครงสร้างของ สงั คมท่เี ปน็ ระบบระเบยี บ สมาชิกของสังคมมีความสามารถและมคี วามชำนาญในการคดิ ประดษิ ฐ์ และพัฒนา ให้กา้ วหนา้ อยเู่ สมอ องคป์ ระกอบของวฒั นธรรม 1. สังคม เปน็ องคป์ ระกอบของอารยธรรมทม่ี นุษย์ไดส้ ร้างข้ึน ซง่ึ หมายถึงลกั ษณะการอยรู่ วมกนั มกี ารจัดแบง่ หนา้ ท่ี การทำงาน มีการแบ่งชนช้นั การอยรู่ ว่ มกันอย่างมคี วามสขุ หรอื เกิดความขดั แย้งภายใน สงั คมไดเ้ สมอ 2. เศรษฐกิจ หมายถึงการจดั สรรทรพั ยากรใหเ้ กดิ ข้ึนในลกั ษณะแลกเปลีย่ น เช่น การจำหน่าย การ ผลติ การกำหนดระบบเงินตรา 3. ศลิ ปะ หมายถงึ วัฒนธรรมที่แสดงออกเปน็ ลักษณะและหลักฐานในการศึกษาอารบธรรมใน สังคมน้ันๆ เชน่ จติ กรรม วรรณกรรม หรอื ประตมิ ากรรม 4. การเมืองการปกครอง ได้แก่ การจัดระเบยี บสังคมหรอื การจดั การอำนาจอธปิ ไตย เชน่ การออก กฎหมาย การรักษาอำนาจการเมือง การรวมกลุม่ หรอื การทำสงคราม 5. ปญั ญาความคดิ หมายถึง การทำความเขา้ ใจกบั ส่ิงต่างๆของคนในสงั คม เชน่ การสร้างระบบ

ความรู้ การสรา้ งความเชอ่ื วทิ ยาศาสตรแ์ ละความรูพ้ ืน้ ฐานของเทคโนโลยี การสรา้ งทฤษฎีต่างๆ ความสำคญั ของอารยธรรม อารยธรรมเกดิ ขนึ้ จากการต้ังหลักแหลง่ ของมนุษย์ เมอื่ หลักแหลง่ มคี วามม่นั คงมนษุ ยจ์ ะแสวงหาสิง่ ท่อี ำนวย ความสุขให้กบั ตนเอง และสิ่งที่จะสนองตอ่ ความต้องการของมนุษย์มี 6 ประการ ไดแ้ ก่ • อาหาร เครื่องนงุ่ ห่ม ที่อย่อู าศยั และยารกั ษาโรค • ระบบหรือรปู แบบการปกครอง เป็นส่งิ กำหนดให้มนษุ ยอ์ ยู่ร่วมกันภายใต้กฎระเบียบและ ข้อบงั คบั ของสังคม • ศาสนาและความเช่อื เปน็ ส่ิงที่ทำให้มนษุ ย์มีความมั่นคงทางจิตใจ • การแสวงหาความรู้ เพอื่ ตอ่ ส้กู ับธรรมชาติและสามารถดำรงชีวติ อย่ไู ด้อย่างสมบูรณ์ • การไดแ้ สดงความคดิ เห็นหรือความรู้สกึ ของมนุษย์ • การจดั ระบบของสงั คมตามความตอ้ งการของมนษุ ย์ โดยสรปุ อารยธรรมโดยท่ัวไปมกั หมายถงึ ประเด็นของความเจรญิ หรอื สิ่งท่ดี ใี นแงต่ า่ งๆของสงั คมและ องคป์ ระกอบทีส่ ำคัญของสงั คมก็คอื วฒั นธรรม นนั้ เอง

ใบงาน เรอื่ ง อารยธรรม คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามให้ถกู ตอ้ ง 1. อารยธรรมในความหมายโดยท่ัวไปหมายถึงอะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. อารยธรรมในความหมายของแงป่ ระวัติศาสตร์หมายถึงอะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. การเกดิ ขนึ้ ของอารยธรรมในลักษณะใดทสี่ ามารถเรียกไดว้ ่าเป็นอารยธรรมทส่ี มบรู ณ์และจะตอ้ ง ประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบใดบา้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. สภาพแวดล้อมทางภมู ิศาสตรใ์ นลักษณะใดท่ีทำให้เกิดอารยธรรม เพราะเหตใุ ด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. ความคดิ ในการจัดระเบยี บสังคมมีผลต่อการเกิดอารยธรรมอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………