1
2 สารบาญ 2 7 3. เรซน่ิ กบั งานไม้ 11 ใช้เคลือบผิวไม้, ใช้งานตกแตง่ ผิวไม้ 2 16 การปรบั หนา้ ไม้ และเครอื่ งมอื 4 25 28 ก. การเคลอื บผวิ ไมด้ ว้ ยเรซนิ่ 30 การเคลือบใส, การเคลอื บทึบ 7-8 36 ข. การหลอ่ เรซน่ิ หนา้ โต๊ะ 50 การหลอ่ หน้าโต๊ะแบบใส และแบบทบึ 11-13 55 4.เรซนิ่ กบั งานเคลอื บรปู ภาพ การเคลอื บภาพดว้ ยโพลีเอสเตอร์ เรซน่ิ 16 การเคลอื บรูปด้วยอพี ๊อกซ่ี เรซิน่ 20 5. เรซนิ่ กบั งานแปง้ โปว้ และกาว เรซิ่นในรูปแบบของกาว และเรซ่ินในรปู แบบของแป้งโป้ว 25 การผสมแปง้ โปว้ ดว้ ยเรซ่ิน 26 6. งานเรซนิ่ กบั การเคลอื บโฟมขาว 7. งานโพลยี เู รเทน เรซน่ิ ใชห้ ล่อช้นิ งาน 31, ใช้เติมชอ่ งวา่ งในตัวเรือ 33 ใชอ้ ุดรอยรา้ วในผนังบา้ น, ใช้เปน็ ฉนวนกนั ความร้อน 34 8. งานเรซน่ิ กบั อปุ กรณต์ กปลา งานเรซ่นิ กับการซ่อมคนั เบ็ด 36 โพลีเอสเตอร์ เรซน่ิ กบั งานสร้างเหยอ่ื ปลอม 39 วธิ ที าตาปลาปลอม 48 บทความเสรมิ เรอ่ื งของใยแก้ว ประเภทของใยแก้ว และขอ้ มลู 51-55 เรอื่ งของเรซนิ่ เพมิ่ เตมิ ฟนี อล ฟอรม์ ลั ดไี ฮด์ เรซ่นิ , ไวนลิ อสี เตอร์ เรซิ่น 56 เมลามนี ฟอรม์ ลั ดไี ฮด์ เรซ่ิน , ยเู รยี ฟอร์มลั ดไี ฮด์ เรซิ่น 57
3 3. เรซนิ่ กบั งานไม้ ( Resin for Wood) _________________________ เรซ่นิ ถูกนามาใชก้ บั ไม้หลากหลายรปู แบบ แต่ทเี่ ราพบไดม้ ากในวงการงานไมท้ กุ วนั น้ี มี อยู่ 2 รูปแบบดว้ ยกันคอื 1. ใชเ้ คลอื บผวิ ไม้ เปน็ ทท่ี ราบกนั ดวี า่ ผวิ ของ ไมซ้ ึมซบั สิ่งสกปรกตา่ งๆได้ง่าย วงการงานไม้จึงตอ้ ง เคลอื บผิวไม้ด้วย นามนั สน, ชแลค, แลคเกอร์ และสี กันมาโดยตลอด จนเม่อื มกี ารค้นพบ เรซิ่นสังเคราะห์ (Synthetic resin) หลายชนดิ ดว้ ยกัน และ 2 ชนดิ ใน กล่มุ ท่วี งการงานไมร้ ูจ้ กั กันดกี ็คือ อีพ๊อกซ่ี เรซ่ิน (Epoxy resin) และ โพลียูเรเทน เรซิ่น (Polyurethane resin) ทีอ่ ยูใ่ นรูปของเหลว ใชห้ ล่อเป็นช้ินงาน หรือใช้เคลอื บวัสดไุ ด้หลาย ชนดิ โดยเฉพาะกับไม้ โพลียเู รเทน ใชอ้ ยกู่ ับวงการงานไม้ท้ังแบบใส และแบบผสมสี ซงึ่ ยอ้ มไม้ ให้เป็นสีตา่ งๆ ได้ โพลยี ูเรเทนจงึ เหมาะกับงานตกแต่งบ้าน และงานเฟอร์นิเจอร์ท่วั ไป ทั้งนโ้ี พลี ยูเรเทนหาซอื้ ได้งา่ ย, แหง้ ตัวเร็ว, ใช้งานงา่ ย มีใหเ้ ลอื กทัง้ แบบเงา, และแบบด้าน สว่ นอีพ๊อกซ่ี เรซ่นิ นัน้ มีคุณสมบตั ขิ องความเป็นกาว, มคี วามแข็งแกร่ง, แห้งตวั ช้า ด้วย ความขน้ ตวั ของอีพ๊อกซี่ เรซน่ิ ทาใหเ้ กาะตวั ท่ีผวิ ไมไ้ ดห้ นากว่า จงึ ใชเ้ คลอื บผิวไมใ้ นรูปแบบท่ี ตา่ งออกไปสามารถสร้างสี และลวดลายบนผิวไมไ้ ด้ และยังใชก้ บั งานเคลือบรูปภาพได้ดี 2. ใชง้ านตกแตง่ ผวิ ไม้ ดว้ ยคณุ สมบตั ขิ องเรซน่ิ ในด้านการเป็นกาว จึงเกาะยึดวัสดทุ เี่ คลอื บแบบหนา ได้ดี โดยเฉพาะกับไม้ จงึ ใช้กบั งานตกแตง่ ไดห้ ลาย รปู แบบเช่น ตกแต่งหน้าโตะ๊ , เคาน์เตอร์, ถาดไม้ เปน็ ต้น และทีก่ าลังนยิ มกันในบ้านราทุกวนั น้ีกค็ ือ การเท เรซิ่นลงในรอยแตก หรือรอ่ งไมท้ ่ีเป็นหนา้ โต๊ะ เรยี กกนั ในบ้านเราว่า เรซ่ินหลอ่ หน้าโตะ๊ หรือ โตะ๊ เรซน่ิ ทาง ตา่ งประเทศเรยี กกันวา่ Resin Tabletop หรอื Resin river tabletop (ถา้ เทเรซิน่ ให้เปน็ เหมอื น ลาธาร หรือแม่นา้ บนหนา้ โต๊ะ) การทางานเรซ่นิ กบั ไม้ท้งั 2 แบบน้ัน จาเป็นต้องเตรียมอุปกรณ์หลายอยา่ งดังต่อไปนี้ - การเตรยี มไม้ ไมใ้ นทน่ี สี้ ว่ นมากเปน็ ไมจ้ รงิ ตามธรรมชาติ เพราะตอ้ งการโชวล์ วดลาย ของไมเ้ ป็นหลกั แต่กรณเี คลือบทึบ (ผสมสี หรือวัสดุอ่นื ๆ) แบบตกแต่งผิวไม้ ก็เลือกใช้ไมอ้ ัดได้ เช่นกัน อาจจะดีกวา่ อีกดว้ ยเพราะไมอ้ ัดมหี น้ากว้าง, ผวิ เรยี บ จึงทางานง่ายกว่าไม้จรงิ
4 อยา่ งไรก็ตามช้นิ ไม้ท่ีจะนามาใช้งานนัน้ ต้องแหง้ แล้ว หากเปน็ ไม้ตามธรรมชาติท่เี ลอื กมา ทาโต๊ะ มักจะเปน็ ไมห้ น้ากวา้ ง และหนา ท่ียงั ไมไ่ ด้ตกแต่งผวิ ก็จะเป็นงานหนกั อยู่บ้างในการ ปรับหน้าไม,้ ตกแต่งสว่ นผุ และขดั ใหเ้ รียบก่อนนาไปใชง้ าน หรือหาไม้หน้ากวา้ งไม่พอใชเ้ ป็น หนา้ โต๊ะ ก็ตอ้ งผ่า เป็น 2 ส่วน แล้วผลิกดา้ นที่ตัดเรยี บออกไปอยูข่ ้างนอก แยกให้เปน็ ช่องตรง กลางกวา้ งเทา่ ทชี่ อบ หรอื อาจตอ้ งตดั เป็นสว่ นๆ แล้วนามาตอ่ ชนกนั ใหม่ใหไ้ ดข้ นาดที่ต้องการ อยา่ งไรก็ตามสามารถเลอื กไม้แปรรูปแล้วมาใช้กไ็ ด้ เชน่ ไมส้ นนอก, ไม้เบญจพันธ์ุ ทีม่ รี าคาไมส่ ูงนัก นามาเพลาะให้ เปน็ ไม้หน้ากวา้ ง แล้วใช้เรา้ เตอร์กดั ลายให้เป็นเหมอื นรอยไม้ แตก กจ็ ะประหยดั ไปไดม้ ากกว่าซ้ือไมต้ ามธรรมชาติทม่ี หี ลัก พนั บาทข้ึนไปถึงหลายพันบาท สว่ นไม้อัดนั้น สามารถใชก้ บั งานเคลือบทึบหนา เปน็ ลวดลายตา่ งๆ ได้ดี ก็ถอื วา่ เปน็ เปน็ งาน ฝมี ืออยา่ งหนง่ึ เหมือนกัน ตัวอยา่ งในภาพซ้ายมือนั้น ด้านใน ใช้ไมอ้ ัดก็ได้ เม่ือเคลอื บเรซ่ินทับไปแล้ว ก็ไม่ร้วู า่ ใช้ไม้อะไร อยดู่ ้านใน สาคัญทวี่ ่าจะสร้างผลงานได้ดีแค่ใดเท่านนั้ เอง - การปรบั หนา้ ไม้ เมอื่ เลอื กใชไ้ มต้ ามธรรมชาติ ทผี่ า่ ดว้ ยเลอื่ ยโซ่ ทบี่ า้ นเรานยิ มใชก้ นั จะ มรี อยฟนั เลื่อยคอ่ นข้างมาก ต่างไปจากการผา่ ไม้ด้วยเลอ่ื ยสายพาน รอยฟนั เลื่อยจะนอ้ ยกว่า หากเปน็ ไมห้ น้าไม่กวา้ งนัก ทีน่ ามาทา นาฬิกาแขวนผนงั หรือต้ังโต๊ะ, ถาดไม,้ เขียง จาพวกนี้ จะปรับหน้าไม้ใหไ้ ด้ระดับ และเรยี บไดไ้ มย่ ากนัก แตถ่ ้าเปน็ ไม้หนา้ โต๊ะ ทเ่ี ปน็ ไมห้ น้ากว้าง และ หนา จะยากในการทางานพอสมควร เท่าทเี่ ขาใชเ้ ครอ่ื งมือปรบั หน้าไม้ก็มีดงั น้ี 1. เรา้ เตอร์ และทรมิ เมอร์ (Router and Trimmer) เปน็ เครอื่ งมือที่ใช้ปรับหนา้ ไมไ้ ด้ดมี าก แตม่ ขี ้ันตอนย่งุ ยากพอสมควร ต้ังแต่การต้ังราวข้างชิน้ ไมท้ ่จี ะปรบั หนา้ และตอ้ งทารางสาหรบั ใช้กับเรา้ เตอร์ หรือทรมิ เมอร์ อีกด้วย ถ้าเป็นไม้หนา้ กว้าง และหนา ก็ต้องทาโตะ๊ วางไม้ทน่ี ามา
5 ปรับหน้าไม้ และใชเ้ นอื้ ทีใ่ นการทางานมากพอสมควร รวมท้งั มฝี นุ่ และเศษไม้ท่ีเรา้ เตอรก์ ัด ออกมาเป็นปรมิ าณมากทเี ดยี ว 2. กบไฟฟา้ เปน็ เครอื่ งมอื ทม่ี รี าคายอ่ มเยา และ ใชง้ านง่ายกว่าเร้าเตอร์ หรอื ทริมเมอร์ แต่ต้องอาศัย ฝีมือในการไสไม้พอสมควร กบั ไมท้ ีห่ นา้ ไม่กว้างนกั กบไสไมจ้ ะทางานได้ดี และรวดเร็วกวา่ เรา้ เตอร์ ปรับใบกบ และทดลองไสดูกบั ไม้อ่ืนๆ ก่อน ว่า การวางมือแบบใด สามารถทางานไดด้ ี การไสตาม เส้ียนไมแ้ บบเฉยี งเล็กน้อย อาจช่วยใหไ้ สได้ง่าย และ เกิดรอยจากใบกบน้อยลง หรอื ไม่มเี ลยก็เป็นได้ 3. เครอื่ งขดั กระดาษทราย แมว้ า่ เครอื่ งขดั กระดาษทราย จะใชข้ ดั ผวิ ไมห้ ลังจากผา่ นการ ปรับหนา้ ไมแ้ ลว้ ก็ตาม แตถ่ ้าเปน็ ไมห้ น้าไม่กวา้ ง หรอื ผขู้ ายมกั จะไสผวิ เพอื่ โชว์หน้าไม้มาแล้ว (ไมธ้ รรมชาติหนา้ กว้างทขี่ ายกัน กม็ กั จะไสผวิ มาแล้วเชน่ กนั ) เครอื่ งขัดกระดาษทรายนน้ั มีอยู่ หลายรูปแบบทใ่ี ชก้ นั คอื - แบบสายพาน หรอื ทช่ี า่ งไมม้ กั เรยี กกนั วา่ รถถงั เปน็ เคร่ืองขัดกระดาษทราย ทีม่ ีความยาวของ แผ่นขัดมากกวา่ แบบอืน่ แมจ้ ะมีหนา้ กว้างเทา่ ๆ กนั มี นา้ หนักมากจึงวางแนบเนือ้ ไม้ไดด้ ี แตม่ ีราคาค่อนข้าง สูงกว่าเครือ่ งขดั กระดาษทรายอืน่ ๆ - แบบส่นั มใี หเ้ ลอื กใชห้ ลายขนาดมที งั้ แบบ 4 เหลยี่ มผนื ผา้ , 4 เหลย่ี มจตั รุ สั และทรง กลม มนี า้ หนักน้อยกว่าแบบสายพาน จึงตอ้ งอาศยั แรงกดช่วยบ้าง ใชข้ ดั ในเนอ้ื ทไี่ ม่กว้างนัก มี ราคาคอ่ นข้างประหยัดพอสมควร - แบบหมนุ มที ง้ั แบบใชไ้ ฟฟา้ และใชแ้ รงลมจากปมั้ ลม แบบใชแ้ รงลมนสี้ ามารถขดั ร่วมกับน้าได้ กรณีขดั ผวิ หน้าเรซิ่น ซ่งึ จะให้งานขดั ท่ดี ีกวา่ และไม่มีฝุน่ ฟงุ้ กระจาย แต่ต้องมีปั้ม ลมอยูด่ ้วย จึงจะทางานได้ ทาใหเ้ ป็นการลงทุนทีส่ ูงพอสมควร
6 สรุปแล้วการปรับหน้าไม้จากธรรมชาติ เปน็ เรือ่ งจาเปน็ ท่ีต้องทา กอ่ นทจ่ี ะเคลอื บ หรือเท เรซ่นิ มีอยบู่ า้ งจะไปปรับพร้อมกบั เรซนิ ท่ีเทแลว้ โดยใชเ้ รา้ เตอร์เป็นตวั ปรับหน้าไม้ การเคลอื บ หรอื เทเรซ่นิ กับไม้น้ัน ยังตอ้ งอาศยั อปุ กรณ์ชว่ ยอกี 2 อยา่ งดว้ ยกนั คือ - เกรยี งยาง และพลาสตกิ ใชเ้ พอ่ื การปาด หรอื เกลย่ี เรซน่ิ ทเี่ คลอื บบนผวิ ไม้ โดยทว่ั ไปถา้ เนือ้ ที่ไม่มาก ก็ใชเ้ กรียงพลาสติก ทีใ่ ชโ้ ป๊วสีรถยนต์ ซ่งึ มรี าคาอันละ 10-12 บาทเท่านนั้ แต่ถ้า เนือ้ ท่ีมากกเ็ ลอื กใชย้ างปาดนา้ หรอื ปาดสติกเกอร์ ซ่งึ จะมหี น้ากว้างกว่า - หวั พน่ แกส และ ไดวเ์ ปา่ รอ้ น เพอ่ื ใชไ้ ลฟ่ องอากาศทเี่ กดิ ขนึ้ ในเนอ้ื อพี อ๊ กซี่ เรซน่ิ ที่ เคลอื บหรือเทลงบนไม้ มบี างทา่ นเลือกใชไ้ ดวเ์ ปา่ ผมขนาดใหญก่ ็ใชไ้ ดเ้ ช่นกัน จะเหน็ ไดว้ า่ งานเคลือบ และหลอ่ หน้าโตะ๊ ด้วยเรซิ่น จาเป็นตอ้ งใช้เคร่ืองมอื และอุปกรณ์ ช่วยหลายอย่างด้วยกนั บวกกบั ทักษะในการใชเ้ คร่อื งบางอย่างเชน่ เรา้ เตอร์ในการปรับหน้าไม้ รวมทัง้ การเลอื กใชไ้ ม้ตามธรรมชาติ หรือไมแ้ ปรรูปทน่ี ามาใช้งานว่า จะเลอื กใชก้ ับงานแบบใด ทั้งนง้ี านบางอยา่ ง อาจจะเกนิ กาลงั ของผสู้ นใจกับงานทางดา้ นน้ีไปบา้ ง
7 ก.งานเคลอื บผวิ ไมด้ ว้ ยเรซนิ่ การเคลอื บผวิ ไมด้ ว้ ยเรซิ่นส่วนหนึ่งนัน้ ชา่ งไมเ้ ฟอรน์ ิเจอรท์ ากนั เป็นประจาอยูแ่ ล้ว โดยใช้ โพลยี เู รเทน เรซิ่น (Polyurethane resin) ทีม่ ีขายอย่ทู ่ัวไป เป็นการเคลือบไมท้ ี่ง่าย และเหมาะ กับงานทง้ั ไมต้ ามธรรมชาติ หรือไม้จริง และไมอ้ ดั สามารถย้อมเปน็ สีตา่ งๆ ได้ และมใี ห้เลือกใช้ ทัง้ แบบมันเงา. แบบด้าน และกึ่งดา้ น รวมท้ังมใี ห้เลอื กใช้ท้ังแบบ วอเตอร์ เบส (Water based) คือ ผสมน้า และแบบ ออยล์ เบส (Oil based) คอื แบบผสมนา้ มัน อยา่ งไรก็ตามการเคลือบไม้ ด้วยโพลียเู รเทนนน้ั เป็นการเคลือบแบบบาง เปน็ หลัก นอกจากน้ียงั ใช้ไดท้ ้งั แปรงทา, ลูกกล้งิ , ฟองน้า และกาพน่ สี ซง่ึ จะข้ึนอยู่กับชน้ิ งานที่ทา ส่วนการเคลอื บผิวไมด้ ว้ ยอพี อ๊ กซ่ี เรซ่นิ จะต่างออกไปจากการเคลอื บดว้ ยโพลยี เู รเทน ทงั้ นีก้ ารเคลอื บไมด้ ว้ ยอีพ๊อกซี่ เรซิ่น จะเคลือบได้ทัง้ แบบบาง และหนา รวมท้ังเคลอื บได้ท้งั แบบ ใส และแบบทบึ ซ่ึงมตี ัวอยา่ งดงั ตอ่ ไปน้ี - การเคลอื บใส คณุ สมบัตสิ ว่ นหนง่ึ ของอพี อ๊ กซ่ี เรซนิ่ กค็ อื ความขน้ ใส ทาใหเ้ กาะผวิ วสั ดุ ที่เคลือบมคี วามเงางาม และทนทานต่อการขูดขีด จึงได้รบั ความนยิ มนามาเคลอื บไม้ท้ังทีเ่ ป็น เฟอรน์ เิ จอร์ และส่ิงของทที่ าด้วยไม้ต่างๆ การเคลอื บใสดงั กลา่ วน้ี สามารถทจี่ ะเคลอื บให้บาง หรอื หนาได้ตามที่ต้องการ ซ่ึงตา่ งไป จากการเคลือบด้วยโพลียเู รเทน และดว้ ยการแห้งตัวชา้ ของอีพอ๊ กซ่ี เรซน่ิ ทาให้มีเวลาทางาน ตกแต่งการเคลอื บได้ดี บวกกบั ความข้นของเนือ้ เรซิ่น จะมคี วามตึงผวิ อยา่ งเสมอโดยตลอด แตก่ ็ มีขอ้ ด้อยอยู่บ้าง ทางดา้ นการเกิดฟองอากาศในเน้อื เรซน่ิ ทต่ี อ้ งแกไ้ ขโดยการ ใช้ความร้อนจาก หัวพ่นแกส หรอื ไดร์เป่ารอ้ น ขจัดฟองอากาศ ทอี่ ยู่ในเน้อื เรซ่ินออกไป ทง้ั นกี้ เ็ ป็นเรอ่ื งท่ี ทาได้ไมย่ ากแต่อย่างใด จาก ภาพขวามอื เปน็ ตัวอยา่ งทเ่ี หน็ ได้ค่อนข้างชดั เจน
8 1. เทเรซนิ่ ลงบนหนา้ โต๊ะพอประมาณ แล้วใชแ้ ปรงทาใหท้ ว่ั หนา้ โตะ๊ ขน้ั ตอนนเี้ นอื้ เรซน่ิ จะ เกาะผวิ หนา้ โต๊ะบางมาก ถา้ ตอ้ งการแบบนก้ี ใ็ ชห้ วั พน่ แกส หรอื ไดวเ์ ปา่ รอ้ นไลฟ่ องอากาศได้ เลย แตถ่ า้ ตอ้ งการเคลอื บหนา กไ็ ปอกี ขน้ั ตอน 2. เทเรซน่ิ เพม่ิ ลงอกี ไปอกี รอบหน่งึ เกลย่ี เรซนิ่ ใหท้ ัว่ หนา้ โตะ๊ 3. เปา่ ดว้ ยหวั พน่ แกส หรอื ไดวเ์ ปา่ ร้อนเพอ่ื ไลฟ่ องอากาศอกี รอบหน่งึ 4. หนา้ โต๊ะทเ่ี คลอื บอพี อ๊ กซ่ี เรซนิ่ เสรจ็ แลว้ จะเหน็ ได้ว่างานเคลือบอีพอ๊ กซี่ เรซ่นิ บนผวิ ไม้ มีขน้ั ตอนไม่ยุ่งยากแตอ่ ยา่ ง แตก่ ็มบี างท่าน จะขดั ผิวหน้าเรซ่นิ ทเี่ คลือบให้เรยี บ แลว้ ปัดเงา วธิ ีน้ีจะได้หนา้ โต๊ะทีเ่ รียบ และไม่เงามากนัก - การเคลอื บทบึ การเคลอื บผวิ ไมแ้ บบทบึ ดว้ ยอพี อ๊ กซน่ี ี้ จดั อยใู่ นรปู แบบงานศลิ ป์ ที่ตอ้ ง อาศยั ฝมี ือกนั พอสมควร โดยการผสมสีต่างๆ กบั เนือ้ เรซน่ิ แลว้ เคลือบลงบนผิวไม้ การเคลอื บ แบบนี้จะเป็นแบบการเคลือบหนา มีทั้งแบบผิวเรียบ (จากการขัด) และแบบผิวไมเ่ รียบ คือยังมี รอ่ งรอยของเสน้ สี หรือวัสดุทีผ่ สมลงกับเน้ือเรซิน่ เชน่ ทราย ในกรณตี ้องการเลียนแบบหาด ทรายชายทะเล หรือ ร่องรอยของใบไม,้ เปลือกต้นไมเ้ ปน็ ต้น การเคลือบทึบแบบนี้ ถ้าตอ้ งการไลส่ ีให้ผสมกัน หรอื ถูกปดั ไปตามทิศทางที่ตอ้ งการ จาเปน็ ตอ้ งใช้ไดว์เป่ารอ้ น ท่ีจะเปา่ ลมไล่สีใหผ้ สมกัน หรือเกดิ เปน็ รว้ิ รอยตา่ งๆ รวมทัง้ ไล่ ฟองอากาศไปในตวั ซึ่งหวั พน่ แกสจะทาไดย้ ากกว่ากบั เนือ้ ที่กว้างๆ งานเคลอื บทึบด้วยเรซ่ินผสมสี สามารถพลกิ แพลงไปใชไ้ ดห้ ลายอย่างเช่น นาฬิกาต้ังโตะ๊ หรือแขวนผนงั , รปู แขวนข้างฝา, ถาดวางของ, เขียงห่ันขนมปัง เปน็ ตน้
9 1. ขดั ผวิ ไมท้ จี่ ะเคลอื บเรซน่ิ ใหเ้ รยี บ 2. เตรยี มเรซน่ิ และสที จ่ี ะใชผ้ สม 3. เทรองพนื้ ดว้ ยสี ขาวกอ่ น รอใหแ้ หง้ 4. เทสที ผ่ี สมทง้ั หมดลงในกระบอกพวี ซี ี แลว้ ลากไปมาใหเ้ กดิ ลวดลาย 5. ขดั ผวิ เรซนิ่ ทเ่ี คลอื บใหเ้ รียบ 6. เทเรซนิ่ ใสลงบนชนิ้ งานทข่ี ดั ผวิ แลว้ 7.ไลฟ่ องอากาศ ในเนอ้ื เรซน่ิ ออกไป 8. ประกอบขาตั้ง 9. งานเคลอื บทึบทเ่ี สรจ็ แลว้ งานเคลอื บทบึ ด้วยอพี อ๊ กซ่ี เรซน่ิ นาไปใช้กับชิ้นงานเลก็ ๆ ได้ดีเชน่ นาฬกิ า, เขยี งไม้ ฯลฯ
10 1. เลอื กแผน่ ไมว้ งกลมขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 9-10 นว้ิ เจาะรขู นาด 3/8 นว้ิ ท่ศี นู ยก์ ลาง 2. เลอื กชดุ นาฬกิ าเตรยี มไว้ 3. ลงอพี อ๊ กซเ่ี รซน่ิ เปน็ สแี บบทะเล 4. เกลย่ี ใหเ้ ปน็ แนวคลน่ื 5. เตมิ อพี อ๊ กซใ่ี สดา้ นลา่ ง เกลย่ี สใี หเ้ ขา้ กนั แลว้ เปา่ ดว้ ยลมรอ้ น (ในภาพไมท่ าปลอ่ ยตาม จรงิ ) 6. รอใหเ้ รซน่ิ แหง้ ตวั 7. ตดิ ต้งั ชดุ นาฬกิ า 8. นาฬกิ าเคลอื บอพี อ๊ กซเ่ี สรจ็ แลว้ 1. ตดิ เทปกาวดา้ นหลงั กนั ตดิ เรซน่ิ 2. ปดิ เทปกาวกบั จดุ ทไี่ มใ่ หถ้ กู เรซน่ิ 3. ผสมสกี บั เรซน่ิ 4. เทเปน็ เสน้ ในพนื้ ทๆ่ี ตอ้ งการ 5. เกลย่ี สใี หไ้ ดแ้ นวเหมอื นคลนื่ 6. เปา่ ไลฟ่ องอากาศ และสีไปตามแนว 7. ปลอ่ ยใหเ้ รซน่ิ แหง้ ตวั 8. ผลงานทเี่ สรจ็ แล้ว 9. ลวดลายแบบคลน่ื การเคลอื บเรซ่ิน ลงบนวัสดุต่างๆ แบบงานชนิ้ เล็กน้ัน สามารถทาได้หลายอย่างด้วยกัน อาจจะทาเพื่อใชเ้ อง, เป็นของขวัญ หรอื ขายกย็ งั ได้ ขนึ้ อยกู่ บั การออกแบบเป็นสาคญั
11 ข. การหลอ่ เรซน่ิ หนา้ โตะ๊ ปจั จุบันนบ้ี ้านเราให้ความสนใจกับการเท อีพ๊อกซี่ เรซิน่ ลงในช่อง หรอื รอยแตกของไม้ หนา้ โต๊ะกนั มาก เพราะเห็นวา่ มนั สวยงามแปลกตา ทั้งน้จี ะต้องย้อนกลับไปในเร่ืองการเลือกใช้ ไม้ตามธรรมชาติ และการปรับหนา้ ไมใ้ ห้เสรจ็ เสียก่อน จึงจะเรม่ิ ลงมอื เทเรซิ่นหนา้ โต๊ะได้ อย่างไรกต็ ามการหาไม้ท่มี ีรอยแตก ในทุกวันนี้กลับหาได้ยากแมจ้ ะยังมี แตร่ อยแตกดไู ม่สวยแต่ อยา่ งใด รวมทง้ั ส่วนหนง่ึ เป็นไม้มหี นา้ กวา้ งไม่พอทาหนา้ โต๊ะ จึงมที างเลือกทางใหม่ที่จะใช้ไม่ เน้อื ดี หน้ากวา้ งไมม่ ากนกั นามาผา่ กลาง แลว้ กลบั ดา้ นตัดเรียบ ไปอยู่ดา้ นนอกท้ังสองด้าน วิธนี ้ี จะใหห้ นา้ กว้างเทา่ ใดกไ็ ด้ หรืออีกวิธหี นึง่ คอื ตดั ไมห้ น้าไม่กวา้ งนัก แต่มีเปลอื กสวยงาม ออกเปน็ สว่ นๆ แลว้ นามาเรยี งใหม่ ซึ่งจะมชี ่องเทเรซน่ิ ไดต้ ามใจชอบ การหล่อเรซิ่นหนา้ โต๊ะน้ี นิยมใชอ้ ีพ๊อกซี่ เรซ่นิ เหมอื นการเคลือบหน้าโต๊ะ สามารถหล่อ เรซน่ิ ได้ 2 รปู แบบดว้ ยกนั คอื - หลอ่ เรซน่ิ หนา้ โตะ๊ แบบใส เปน็ การหลอ่ เรซน่ิ โดยไมผ่ สมสกี บั เนอ้ื เรซนิ่ หรอื จะผสมบา้ งก็ เป็นสใี สๆ สามารถมองผ่านไปได้ ดงั วิธีท่ีแนะนาด้านลา่ ง 1. ผา่ กลางไมเ้ ปน็ สองทอ่ น 2. เอาสว่ นผอุ อก และขดั ใหเ้ รยี บ 3. เทเรซนิ่ อดุ รอยแตก 4. จดั ความกวา้ งหนา้ โตะ๊ 5. ตดิ แผน่ ไม้ปดิ แผน่ ไมลา่ ร์ 6. ต้ังขอบไมร้ อบดา้ นหนา้ โตะ๊
12 ภาพท่ี 5 น้นั ตน้ แบบใชแ้ ผน่ PU หนา ซ่งึ ไมต่ ดิ เรซ่นิ แต่บ้านเราอาจจะหาซ้ือไดย้ าก ก็ใช้ แผน่ ไมล่าร์ ติดเทปกาว 2 หนา้ กบั ไมอ้ ดั 4 มม.ก็ได้ เพราะยังมไี ม้ท่อนปะกบอยูด่ า้ นนอก 7. หาปรมิ าณเรซน่ิ ทจี่ ะเทลงไป 8. ดดู ฝนุ่ ออกจากชอ่ งไม้ 9. ยกแผน่ ไมอ้ อก แลว้ เทเรซน่ิ ปรมิ าณนอ้ ยลงในกรอบ 10. วางแผน่ ทง้ั สองแผน่ กลบั ทเ่ี ดมิ 11. ทาเรซนิ่ ทผี่ วิ ไมท้ งั้ หมด 12. สรา้ งโครงไมย้ ดึ กรอบ และแผน่ ไมท้ งั้ สองแผน่ 13. ใชเ้ ครอื่ งเปา่ รอ้ นไลฟ่ องอากาศจาก ผวิ ไม้ 14. เทเรซนิ่ ทเ่ี ตรยี มไวล้ งในชอ่ งไม้ 15. เปา่ ลมรอ้ นไลฟ่ องอากาศอกี รอบ ภาพที่ 12 จะเหน็ ท่อนไม้สั้นๆ กดทับแผน่ ไม้ โดยมที อ่ นไมย้ ดึ ด้วยปากกาจบั ล๊อกเอาไว้กบั โตะ๊ ทางาน ท่อนไม้ส้นั น้ี ด้านล่างท่ีกดแผน่ ไม้ ก็ติดแผ่นไมลา่ ร์ กนั ไมต้ ดิ เรซิน่ 16. ปรับหนา้ โตะ๊ ท้งั ไม้ และเรซนิ่ 17. หนา้ โตะ๊ ทปี่ รบั แล้ว 18. ขดั เงาหนา้ โตะ๊ ภาพท่ี 18 โต๊ะไม้น้นั เกดิ จากแผน่ ไมท้ เี่ ทเรซน่ิ ยาวมากพอท่จี ะตัดแบง่ ทาเป็นขาโต๊ะได้ ซ่งึ ทาให้เกดิ ส่วนของเรซ่นิ ใส เชื่อมต่อเปน็ แนวเดียวกัน
13 19. โตะ๊ เรซน่ิ ทเี่ สรจ็ แลว้ 20. ดว้ ย แนวคดิ เดยี วกนั เราสามารถวางไม้ หนา้ แคบตรงกลาง และเทเรซน่ิ ใส ดา้ นนอก จะแปลกตาไปอกี แบบ แต่ จะใชเ้ นอื้ เรซน่ิ มากกวา่ จะเหน็ ได้วา่ การเทรซ่นิ ใสหนา้ โตะ๊ น้นั เป็นขัน้ ตอนที่ไมไ่ ด้ยุง่ ยากเท่าใดนกั แต่ถ้าแผ่นไม้หนามาก จะต้องแบ่งการเทเรซิน่ เป็น 2-3 รอบ โดยรอใหแ้ ต่ละรอบแห้งตัวเสยี ก่อน อาจตอ้ งใชเ้ วลา 2-3 วันกว่าจะเสร็จงาน และ ระหว่างรอเรซนิ่ แห้งตัว จะต้องหากลอ่ ง หรือแผ่นไม้มาปิดหน้าโต๊ะ ปอ้ งกนั ฝุน่ หรือแมลงท่จี ะตก ลงไปติดกับเนื้อเรซน่ิ การเทเรซิน่ ใสหนา้ โต๊ะ มอี ีกรูปแบบหนึ่งคอื การจดั วางวัตถตุ ่างๆ ลงใน ช่องไม้ กอ่ นจะเทเรซน่ิ ใสทบั ลงไปบนวัตถเุ หล่านัน้ ดังภาพด้านล่าง - หลอ่ เรซน่ิ หนา้ โตะ๊ แบบทึบ มขี น้ั ตอนเหมอื นแบบหลอ่ ใสทกุ ประการ เพยี งแตผ่ สมสี หรอื ผงแปง้ ลงในเน้ือเรซ่นิ สว่ นจะทาใหเ้ กิดลวดลาย กข็ ึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน ในภาพ ดา้ นล่าง เปน็ การหลอ่ เรซิน่ ทึบ (ผสมส)ี ลงในช่องไม้แตก ให้ดเู ปน็ ตัวอย่าง
14 1. ผสมอีพอ๊ กซใ่ี หพ้ อกบั การใช้งาน 2.ผสมสีลงในเนอ่ื เรซนิ่ 3. กวนใหส้ เี ขา้ เนอื้ เรซนิ่ 4. เทเรซนิ่ ผสมสลี งในชอ่ งไม้ 5. เปา่ รอ้ นไลฟ่ องอากาศ 6. ขดั เรซน่ิ ใหเ้ รยี บ และปดั เงา จากประสบการณท์ ี่เคยหลอ่ เรซิ่นมานัน้ เคยใช้โพลเี อสเตอร์ เรซิน่ (Polyester resin) หลอ่ ทึบทาหนิ อ่อนเทยี ม กับฐานรองอา่ งล้างหน้า และเคาเตอร์ขายของ ก็ใชง้ านได้เป็นสิบปขี ้นึ ไป แม้วา่ เรซิ่นชนดิ นี้มีการหดตวั อย่บู า้ ง และเกาะกบั ผวิ ไมไ้ ด้ไมด่ เี ท่ากับอีพอ๊ กซ่ี เรซนิ่ กต็ าม แต่ ด้วยราคาทีถ่ กู กว่ากนั 5-6 เทา่ กน็ ่าทดลองนามาฝึกการเทเรซ่นิ ใหเ้ กิดความชานาญกอ่ นจะไป ใชอ้ ีพ๊อกซ่ี เรซ่นิ อยา่ งไรกต็ าม ขั้นตอนการทางานกับโพลีเอสเตอร์ เรซิ่นนัน้ จะต่างไปจากอี พ๊อกซ่ี เรซ่ินมาก ทงั้ กลน่ิ ที่ค่อนขา้ งฉุน, การแหง้ ตัวเรว็ มาก, มีความรอ้ นเกิดกบั ชนิ้ งานมากกวา่ อพี อ๊ กซี่ เรซน่ิ ลองดตู วั อย่างการหลอ่ ทึบกบั โพลเี อสเตอร์ เรซ่นิ ได้ดงั นี้ 1. ตดั แม่แบบจากพลาสสวดู หนา 15 มม. และไมอ้ ดั 4 มม. เปน็ แกนรับเรซนิ่ 2. ตดั แผน่ ไมลาร์ เปน็ แถบยาว แลว้ ตดิ เทปกาวสองหนา้ เพอื่ ปดิ ขอบในแมแ่ บบปอ้ งกนั เรซนิ่ ตดิ
15 3. ใชป้ นื ยงิ กาวยดึ ขอบแมแ่ บบ 4. เตรยี มถว้ ยผสมเรซน่ิ และสผี สม 5. ผสมแปง้ ทลั คมั กบั เรซนิ่ 6. แลว้ ผสมสแี ยกเปน็ 2 ถว้ ยผสม (คนละสี) 7. เทเรซนิ่ ผสมสแี รกลงในแมแ่ บบ 8. เทเรซนิ่ ผสมสที สี่ อง แลว้ ใชไ้ มเ้ ขยี่ ใหส้ กี ระจายกบั สี แรกตามทตี่ อ้ งการ 9. ชนิ้ งานทไ่ี ดร้ อนาไปขดั กระดาษทราย และปดั เงา แมแ่ บบในภาพบนเปน็ แบบกรอบล้อมเรซนิ่ เราสามารถสร้างแม่แบบไดอ้ กี แบบดังน้ี 1. ตดั ใยแกว้ แขง็ แลว้ ตดิ เทปกาวสองหนา้ ปดิ แมแ่ บบกลม 2. เรซนิ่ ผสม 2 สี และแผน่ ใย แกว้ ทาแกนใน 3. เทเรซน่ิ สแี รก 4. เทเรซน่ิ สที สี่ อง แลว้ ทาลวดลาย 5. ถอดออกจาก แมแ่ บบ 6. ขดั ดว้ ยกระดาษทรายหยาบ 7. ขดั ดว้ ยกระดาษทรายนา้ 8. ชน้ิ งานทไ่ี ด้ งานหล่อโพลีเอสเตอร์ เรซิน่ แบบทึบ ใชเ้ ทหน้าโต๊ะเหมือนอพี ๊อกซ่ี เรซ่นิ ได้ แมค้ ุณภาพจะ ไม่ดเี ทา่ กต็ าม ท้งั น้ีตอ้ งเทเรซ่นิ แบบไมห่ นานักทบั กนั 3-4 ช้ัน (แล้วแตช่ น้ิ งาน) รวมทงั้ วางแผน่ ใยแก้วเป็นแกนในด้วย เทา่ ทเี่ คยทามากใ็ ช้ไดน้ านทเี ดียว ข้อดอี ยา่ งหน่ึงก็คือประหยัดกว่า อีพ๊อกซ่ี เรซนิ่ หลายเท่า ใชเ้ ปน็ งานฝึกฝมี อื ได้ดพี อสมควร
16 4. งานเรซน่ิ กบั การเคลอื บรปู ภาพ ( Coating Photo with resin)______ งานเรซ่ินท่ที ากนั นานกว่า 50 ปี มาแล้วในบ้านเรางานหนง่ึ ก็คอื การเคลอื บรูปภาพด้วย เรซิน่ ท่เี รียกกันวา่ กรอบรปู วทิ ยาศาสตร์ เปน็ งานท่ไี ด้รบั ความนยิ มกนั มาก ในกลุ่มนิสิต นักศกึ ษาสมัยก่อน ท่ีจะเคลือบรูปการรับปริญญาเอาไวช้ ืน่ ชม การเคลอื บรปู ภาพน้นั มหี ลายวิธดี ้วยกนั เพียงแตว่ ่าจะนาไปประกอบ กบั กรอบรูปด้วยวิธีใด การเคลอื บรปู ด้วยเรซิ่นพร้อมกับกรอบที่เรียกวา่ กรอบรูปวทิ ยาศาสตร์ ก็เป็นวิธีหนงึ่ หากเป็น การเคลอื บรปู เพือ่ นาไปประกอบกับกรอบรูปทัว่ ไป ก็อาจจะใช้วิธีเคลอื บแบบ ลามิเนทดว้ ยแผ่น พลาสติกใส, เคลอื บด้วยแลคเกอร์ หรอื โพลียเู รเทน การเคลอื บแบบน้ีสามารถเลือกวิธีเคลอื บ แบบเงา หรือแบบด้านกไ็ ด้ (โดยหลักการตกแต่งผนังห้องดว้ ยกรอบรูปภาพ นยิ มแบบดา้ น มากกว่าแบบเงา ท่จี ะสะทอ้ นแสงมากไป) เรซน่ิ ท่ีใชเ้ คลือบรปู นนั้ ในยคุ แรกก็ใชโ้ พลี เอสเตอร์ เรซ่นิ ที่ใช้กบั งานไฟเบอร์กลาส ด้วยการ เคลอื บทีบ่ างมาก มันจงึ มีความใสมากพอสมควร ตอ่ มาจึงเริ่มใชโ้ พลีเอสเตอร์ เรซิน่ เกรดอื่น ทใ่ี ชก้ ับ งานเคลือบภาพได้ดี รวมท้ังใชอ้ พี อ๊ กซ่ี เรซน่ิ กบั งานเคลือบรูป ซงึ่ ทางตา่ งประเทศใช้กันมาก การเคลอื บรปู ดว้ ยเรซน่ิ ท้งั 2 ชนดิ มีข้อแตกตา่ ง และขน้ั ตอนในการทางานหลายอย่าง ดว้ ยกัน ซึง่ มวี ธิ กี ารทางานดังต่อไปน้ี 1. การเคลอื บรปู ภาพดว้ ยโพลเี อสเตอร์ เรซนิ่ การเคลอื บรปู วธิ นี ี้ ทางบา้ นเรานยิ มเคลอื บ ภาพถา่ ย โดยเฉพาะอย่าย่ิง ภาพรับพระราชทานปริญญา บตั ร ของนิสิตตามมหาวิทยาลยั ท่ัวไป ภาพทีเ่ คลอื บดว้ ยโพลี เอสเตอร์ เรซน่ิ พรอ้ มกรอบรูปถกู เรยี กวา่ กรอบรูป วิทยาศาสตร์ เพราะต่างจากกรอบรปู ท่มี ีกระจกแบบดั้งเดิม ที่ ยังใชก้ นั มาจนถึงปัจจุบนั การเคลือบรปู ดว้ ยโพลเี อสเตอร์ เรซนิ่ นี้ มีท่ีมาจาก ประเทศฟลิ ิปปินส์ เม่อื เกอื บ 60 ปีกอ่ น ทางบา้ นเราเร่ิมทาใช้ กันราวปี พ.ศ. 2509 และได้รับความนิยมมาก แต่มาถึงทุก กรอบรปู วทิ ยาศาสตร์ วนั นอ้ี าจจะลดลงไปบ้าง เพราะมีการ เคลือบรปู แบบอนื่ ท่ีจะงา่ ยกว่า และ
17 ประหยัดกวา่ กนั มาก โพลีเอสเตอร์ เรซนิ่ มีความหนืดตัวน้อยกว่า อี พอ๊ กซี่ เรซ่ิน มันจงึ ไหลไปไดง้ า่ ย บวกกับการแห้งตัว ที่เร็วมากกวา่ อีพอ๊ กซี่ เรซ่ิน ทาใหก้ ารเกลยี่ ใหเ้ รซนิ่ เรยี บเสมอกันได้ยาก จงึ ตอ้ งอาศัย แผน่ ฟิล์ม ไมล่าร์ (Mylar film) ซึ่งเป็นแผ่นฟิลม์ โพลเี อสเตอรเ์ ชน่ กัน มี ความมันของผิวฟิล์มมากพอสมควร รวมท้ังมแี บบผวิ ด้านเล็กนอ้ ยด้วย โดยนามาปดิ ทับบนเรซิ่นท่เี ทบน ภาพ เพอื่ ใหเ้ รซ่ินมีผิวเรยี บมัน เมือ่ เวลาแหง้ ตัว ฟิลม์ ไมลาร์น้ี ใชก้ ันอยใู่ นวงการไฟฟ้าเพือ่ เปน็ ฉนวน กน้ั ขดลวดมอเตอร์ไฟฟ้า (นับได้ว่าผู้นามาใช้เป็น รายแรกมคี วามคดิ สร้างสรรค์มากทเี ดียว) ฟลิ ์มไมล่าร์ดงั กลา่ วนี้ ทางรา้ นท่ีจาหนา่ ย ผลติ ภณั ฑเ์ กย่ี วกบั เรซิน่ จะนามาขายให้กับผู้ท่ี สนใจลองทาการเคลอื บรูปภาพ แตม่ กั จะมีความ หนาขนาดเดียว (มักใชข้ งึ เป็นเหมือนสะดงึ ปักผ้า ขนาดใหญ่ได้ดี แต่จะเปน็ แบบสะดึงสี่เหล่ียม) หากต้องการความหนามากกวา่ กค็ งตอ้ งสั่งซอ้ื จากออนไลน์ (มผี ูข้ ายปลกี หลายราย แตม่ ักจะ ขายเปน็ น้าหนกั ขัน้ ต่า 1 กก.ต่อมว้ น ราคาหลายร้อยบาท) แตถ่ า้ ไปขอซื้อจากร้านรบั พนั มอเตอร์ อาจจะซ้อื ในขนาดน้อยๆ ได้ ฟิลม์ ไมลารท์ ีห่ นาพอสมควร จะเหยยี ดตวั ทาบกับรูปภาพ ได้งา่ ยกวา่ แบบแผ่นบาง การเคลอื บรปู ภาพทัว่ ไป แบบ ใชก้ นั เอง มกั ใช้ฟลิ ม์ ไมลา่ ร์ ขนาด เทา่ กระดาษ A4 กพ็ อ (การเคลอื บ รปู ภาพแบบ ที่ร้านกรอบรูปทากัน นัน้ เขาจะเคลอื บรูปกนั ทีละหลายๆ รูป จงึ ต้องสรา้ งสะดงึ ฟิล์มไมล่าร์ที่ มขี นาดกวา้ งยาวเปน็ เมตร) เพอื่ ครอบหลายรูปท้ังหมดได้ ดงั ภาพ ด้านขวามือ ซ่งึ เปน็ งานทผ่ี ลิตจากรา้ นรับทากรอบรูปบางแห่ง
18 อุปกรณ์ประกอบการเคลอื บรปู ภาพ งานเคลอื บรปู ภาพดว้ ยเรซนิ่ นน้ั ใชอ้ ปุ กรณป์ ระกอบ เพยี งไมก่ ่ีอยา่ งดังนี้ - ฟิลม์ ไมลา่ ร์ (Mylar film) เปน็ ฟลิ ม์ โพลี เอสเตอร์ มีให้เลือกใช้หลายขนาดความหนา มีท้งั แบบใส และขาวขุน่ และมีทง้ั แบบผิวมัน และผิว ด้าน (ใชก้ ันอยกู่ ับวงการไฟฟ้า) ทางร้านจาหนา่ ย อปุ กรณ์งานเรซิน่ มแี บ่งขายเป็นเมตร ราคา 150- 200 บาท ตอ่ เมตร (ถ้าทางผู้ขายจัดชุดเคลอื บ รูปภาพจาหน่าย จะใหม้ าในชุดด้วย ในขนาด พอดกี บั การใชง้ าน) ซ่ึงมากพอจะใชท้ าสะดึงฟลิ ์มไมลาร์ ทใ่ี ชเ้ คลอื บภาพโปสเตอร์ได้ - ลกู กลงิ้ ยาง และเกรยี งพลาสตกิ เปน็ อปุ กรณท์ มี่ ใี ชก้ บั งานอน่ื อยแู่ ลว้ เชน่ เกรยี ง พลาสตกิ ใช้อยู่กับ การติดฟิลม์ กันแดด, งานโปว้ สรี ถยนต์ ลูกกลิง้ ยาง ใชก้ ับงาน ไล่ฟองอากาศ ติดวอลลเ์ ปเปอร์ ทง้ั น้ีควร เลือกใช้ในขนาดพอเหมาะกับงาน - แผน่ ไมร้ องรปู ภาพ ปจั จบุ นั รา้ น จาหน่ายกรอบรูปวิทยาศาสตร์ มกี รอบ ไม้สาเร็จรูปขายกนั หลากหลายขนาด หรอื จะซื้อเฉพาะกระดาษลายไม,้ เทปสเี กร็ด เอาไปทา เองกไ็ ด้ หรือจะใชไ้ มอ้ ัดทวั่ ไปหนา 10 มม. มาขัดผวิ ให้เรยี บแลว้ ทาชแลคยอ้ มไมเ้ ปน็ สีต่างๆ หรอื จะเคลอื บรูปภาพกบั ไมอ้ ัด 4 มม. แล้วเอาไปใส่กรอบทีม่ ีขายกันอยกู่ ็ไดเ้ ชน่ กนั - อปุ กรณเ์ จาะรฟู ลิ ม์ ไมลา่ ร์ หากตอ้ งการเคลอื บรปู โปสเตอร์ ทม่ี ขี นาดใหญก่ ระดาษ A3 ก็ จาเป็นตอ้ งทาสะดงึ หรอื กรอบฟิล์มไมลา่ รข์ ึ้นมา การขงึ สะดงึ ฟิล์มไมลา่ ร์ จะตอ้ งเจาะรูใกล้ขอบ แผ่นฟิล์ม แล้วดึงด้วยหนังยาง ให้แผน่ ฟลิ ์มเรยี บตึง อุปกรณเ์ จาะรงู ่ายๆ ท่ีใชก้ ันกค็ ือ ที่เจาะ กระดาษเพือ่ เข้าแฟ้ม ถ้า เป็นแบบ ทเี่ จาะรเู ดยี วจะ ทางานงา่ ยกว่า แบบเจาะ 2 รู (ท่ัวไปจะพบแบบน้ี) เพราะเราจะต้อง ตะแคงที่ เจาะใหเ้ จาะรูเดียว ตาม จดุ ท่ีกาหนด มีอุปกรณเ์ จาะรูอีกแบบเรียกวา่ เหล็กตอกเจาะรู (Hollow punch) ชา่ งท่วั ไปเรยี ก
19 กนั ว่า เหล็กตุด๊ ตู่ มใี หเ้ ลอื กหลายขนาดของรทู ตี่ อ้ งการเจาะ แต่จะต้องวางแผน่ ฟลิ ม์ กับไม้รอง แล้วใช้ค้อนตอกเหล็กเจาะลงไป แตถ่ ้าเป็นที่เจาะกระดาษจะต้องยกแผ่นฟลิ ม์ ขน้ึ มาเจาะ - นา้ ยากนั ซมึ พวี เี อ (PVA) บางแห่งเรยี กว่าน้ายาถอดแบบไฟเบอรก์ ลาส เปน็ น้ายาข้นใส ละลายนา้ ได้ ใชเ้ พอ่ื กันเรซิน่ ซึมลงรูปภาพ ทไ่ี มไ่ ด้เป็นภาพถ่ายแบบผิวมนั เชน่ ภาพโปสเตอร์ ร้านจาหน่ายอปุ กรณ์งานเรซนิ่ มแี บ่งขายให้ราคาไม่แพงนัก สว่ นถว้ ยผสมเรซิ่น, ไม้กวนเรซ่นิ กใ็ ช้เหมอื นงานเรซนิ่ อยา่ งอืน่ ภาพขนาด A4 ใชเ้ รซนิ่ 2 -3 ช้อนโต๊ะเทา่ น้นั เอง นับวา่ เป็นช้ินงานท่สี ้ินเปลอื งเรซ่นิ คอ่ นขา้ งนอ้ ย วิธที าสะดึงฟลิ ม์ ไมลา่ ร์ บางทา่ นตอ้ งการจะเคลอื บขนาดใหญ่ แบบรปู โปสเตอร์ กจ็ ะแนะนา วธิ ีการทาสะดึงฟลิ ์ไมล่ารใ์ ห้ดังนี้ 1. จดั ทากรอบไมก้ วา้ งกวา่ กระดาษ A3 เลก็ นอ้ ย แลว้ กะระยะขนั สกรหู วั รม่ รอบกรอบสะดงึ 2. ตดั แผน่ ไมลา่ รก์ วา้ งกวา่ กรอบพอสมควร แลว้ ขดี เสน้ ดา้ นในกรอบ 3. ตดั ฟลิ ม์ ไมลา่ ร์ กวา้ งกวา่ เสน้ ทขี่ ดี 1.5 ซม แลว้ ตดิ กาวสองหนา้ ทกุ ดา้ น 4. ใชด้ า้ นสนั คดั เตอรข์ ดี ตามแนว เสน้ เพอ่ื พบั เขา้ มาตดิ กนั เปน็ 2 ชน้ั 5. เจาะรดู ว้ ยเหลก็ ตอกรตู ามแนวสกรู รอบแผน่ ฟลิ ม์ 6. สะดงึ ฟลิ ม์ ไมลา่ รท์ ข่ี งึ ดว้ ยหนังยางเสร็จแล้ว พรอ้ มนาไปใชง้ าน ขน้ั ตอนการเคลอื บรูปภาพ รปู ภาพทจ่ี ะเคลอื บเรซน่ิ นนั้ ตอ้ งมขี นาดเลก็ กวา่ แผน่ ไมร้ อง พอสมควร ห่างจากขอบไมเ้ ข้ามา 1 นิ้ว หรอื 3 ซม. เพ่ือให้เรซน่ิ เกาะกับแผน่ ไม้รอง และเพอ่ื เปน็ การโชว์ลายไม้กรณีทใ่ี ช้ กรอบรูปวทิ ยาศาสตร์สาเร็จรูป แตถ่ ้าเปน็ กรเคลอื บเพ่ือเอาไปใส่ กรอบรปู สาเรจ็ ที่มขี าย ก็เว้นขอบนอ้ ยกว่าได้ หรือถา้ ใช้ร่วมกบั กระดาษกรอบรปู (Paper frame) สีขาว ก็เว้นขอบน้อยหนอ่ ย ข้นั ตอนการทางานกม็ ีดังน้ี
20 1.ตดิ รูปภาพบนแผน่ ไม้ 2. เทโพลเี อสเตอร์ เรซนิ่ ลงบนภาพ 3. วางแผน่ ฟลิ ม์ ไมลา่ รใ์ ส (มองไมช่ ดั ) ลงบนเรซนิ่ แลว้ กล้งิ ไลเ่ รซนิ่ ดว้ ยลกู กลง้ิ ยางไปทวั่ ภาพ 4. เมอ่ื เรซน่ิ แหง้ ตวั ดงึ แผน่ ฟลิ ม์ ไมลา่ รอ์ อก 5. นาไปตดิ ตง้ั กบั กรอบรปู (ภาพตกแตง่ จากกรอบรูปในเนท็ ) ภาพชดุ ตอ่ ไปเปน็ การใช้สะดงึ ฟลิ ม์ ไมลา่ ร์ ___________________________________ 6. ทาแผน่ ไมด้ ว้ ยชแลคขาว 7. ตดิ ภาพลงบนแผน่ ไม้ 8. เทเรซน่ิ ลงบนภาพ 9. วางสะดงึ ฟลิ ม์ ไมลา่ ร์ ลงบนเรซนิ่ แลว้ ใชล้ กู กลิ้งยางไลเ่ รซน่ิ ไปทว่ั ภาพ ทงั้ หมดเปน็ ขน้ั ตอนเหมอื นวธิ ี แรก จะตา่ งกนั กเ็ พยี งการใชแ้ ผน่ ไมลา่ รไ์ มเ่ หมอื นกนั เทา่ นนั้ เอง 2. การเคลอื บรปู ภาพดว้ ยอพี อ๊ กซ่ี เรซน่ิ การเคลอื บรปู ภาพดว้ ยอพี อ๊ กซี่ เรซน่ิ นี้ ทาง ต่างประเทศนิยมกนั มาก (ไม่ค่อยใชโ้ พลีเอสเตอร์ เรซน่ิ เคลอื บรูปภาพกันเท่าใดนกั ) แตท่ างบ้าน เรานิยมกนั ไมม่ าก เพราะมีขัน้ ตอนในการเคลอื บ ถอื ว่ายุง่ ยากยุง่ ยากพอสมควร และใช้เวลารอ ใหอ้ ีพอ๊ กซ่ี เรซน่ิ แหง้ ตัวนานมาก (แบบต้องรอกันขา้ มวัน) และยงั ตอ้ งใชห้ วั แกสเปา่ ไฟ หรอื ที่ เป่าลมร้อน (ไดว์เปา่ ผมก็ใชไ้ ด้) เพอ่ื ไลฟ่ องอากาศออกจากเนอ้ื เรซิน่ อีกดว้ ย จากน้ันก็ยงั ตอ้ งใช้ กลอ่ งกระดาษแข็ง ที่มขี นาดใหญก่ ว่ารูปภาพ ครอบรูปภาพท่ีเคลอื บเอาไว้ ขณะที่อีพ๊อกซ่ี ยังไม่ แหง้ ตวั เพอื่ กันฝนุ่ หรือแมลงตกลงไปท่ีผิวเรซ่ิน ขั้นตอนการทางานก็มีดงั นี้
21 1. ยดึ ภาพใหอ้ ยกู่ ับกรอบเอาไวก้ อ่ น 2. ดงึ ขอบภาพตรงขา้ มทย่ี ดึ ขน้ึ มา พน่ ดว้ ยกาวสเปรย์ 3. จากนน้ั พน่ กาวสเปรยอ์ กี ดา้ น 4. ปดิ ภาพดว้ ยกระดาษ แลว้ รดี ภาพใหเ้ รียบดว้ ยลกู กลงิ้ 5. ตดั ขอบภาพทเี่ กนิ กรอบออกไป 6. เทอพี อ๊ กซี่ เรซน่ิ ลงบนภาพ 7.เอยี งภาพใหเ้ รซน่ิ ไหล ไปทวั่ ภาพ 8. แลว้ ใชแ้ กสพน่ ไฟไลฟ่ องอากาศ 9. ครอบภาพเอาไวด้ ว้ ยกลอ่ งกระดาษ จากภาพขนั้ ตอนการเคลอื บรปู ภาพดว้ ยอีพ๊อกซี่ เรซ่นิ นนั้ จะเหน็ ไดว้ า่ ไม่ซบั ซอ้ นเทา่ ใดนัก แต่จะต้องใชอ้ ุปกรณ์ชว่ ยไลฟ่ องอากาศในเนื้อเรซ่นิ ตอ้ งครอบภาพด้วยกลอ่ งกระดาษเอาไว้ กอ่ นทเ่ี รซิน่ ยังไมแ่ หง้ ตัว เพ่อื ไมใ่ ห้ฝุ่น หรือแมลงตกลงไปทผ่ี วิ เรซน่ิ และทีส่ าคัญกค็ อื ต้องรอ ให้เรซ่นิ แห้งตวั นานขา้ มวันกนั ทีเดยี ว ในภาพขน้ั ตอนท่ี 7 นน้ั เปน็ การเคลอื บภาพเล็กจึงใช้วธิ เี อียงภาพเอา แตถ่ ้าเป็นภาพขนาด ใหญ่ จะต้องใชเ้ กรียงพลาสติก ปาด หรือเกลี่ยให้เรซิ่นกระจายตัวไปทัว่ ภาพ และภาพที่ 8 นั้น ใชห้ วั แกสพ่นไฟไล่ฟองอากาศ จะดีกว่าใช้ไดร์เป่าผม เพราะถา้ เปา่ แรงมนั จะไลเ่ รซน่ิ กระจาย ออกไป (ไดรเ์ ป่าผม หรือเครอื่ งเป่ารอ้ น เหมาะกับงานเปา่ ไล่เรซิ่นใหเ้ ปน็ คลื่นในทะเล) ภาพชุด ต่อไปเปน็ การเคลือบรูปภาพขนาดใหญด่ ้วยอีพ๊อกซ่เี รซิน่
22 1. ขน้ั ตอนการตดิ กาวภาพกบั กรอบเหมอื นวธิ แี รก หากใชก้ าวลาเทก๊ ซค์ วรรอใหก้ าวแห้งตวั ดี แลว้ 2. เทอีพอ๊ กซี่ เรซน่ิ ลงบนภาพ แลว้ ใชเ้ กรยี งพลาสตกิ เกลยี่ เรซนิ่ ใหก้ ระจายทวั่ ภาพ 3. ปรบั ภาพใหไ้ ดร้ ะดบั ไมใ่ หเ้ รซนิ่ ไหลไปอยทู่ างดา้ นเดยี ว 4. ใชห้ วั แกสเปา่ ไฟ ไล่ ฟองอากาศออกจากเนอื้ เรซนิ่ 5. ครอบภาพดว้ ยกลอ่ งกระดาษ กนั ฝนุ่ และแมลงชว่ งรอให้ เรซน่ิ แห้งตวั 6. ภาพทเ่ี คลอื บอพี อ๊ กซเี่ รซนิ่ เรยี บรอ้ ยแลว้ การปรบั ภาพใหไ้ ด้ระดับนัน้ ควรทาตงั้ แตต่ ั้งฐานรองรับภาพ ใหเ้ รซน่ิ ทเ่ี กินภาพไหลลงไป บนแผ่นกระดาษทีร่ องรบั อยใู่ ต้ภาพ การปรับระดับสามารถใช้ ทวี่ ัดระดบั นา้ (Water Level tool) ทช่ี ่างไม้ใชก้ ัน จะดีกวา่ เล็งด้วยสายตา โดยทัว่ ไปฐานรองรับรูปภาพ มักใชแ้ ทง่ ไม้หนา แตห่ ลายทา่ นกเ็ ลอื กใช้ ถว้ ยพลาสติกปากกว้าง เพราะ มขี นาดเท่ากนั ทกุ ใบ (หากกลัววา่ เบาไปแลว้ จะล้ม กเ็ ท ปนู พลาสเตอร์ลงในถว้ ย) สว่ นจะใชก้ ่ีอนั หรือกี่ใบก็ดู ตามขนาดของภาพเปน็ หลกั งานเคลือบภาพดว้ ยอีพ๊อกซี่ เรซิน่ มตี ้นทุนสงู กว่าทใี่ ช้ โพลเี อสเตอรเ์ รซนิ่ อยู่พอสมควร และการเคลือบจะได้ความเงามนั ของภาพอย่างเดยี ว อาจไมเ่ หมาะในการนาไปประดับฝาผนัง นอกจากการเคลือบรปู ภาพแล้ว อีพ๊อกซ่ีเรซนิ่ ยงั ใชส้ ร้างภาพแบบงานศลิ ปะ ไดอ้ ีกหลาย รูปแบบ ดังตัวอย่างงา่ ยๆ ท่ีนามาแนะนากัน เปน็ การใช้อีพอ๊ กซ่ี ผสมสตี ่างๆ แล้วเทไล่สีกนั ไปทวั่ ภาพ จากตัวอย่างน้ันทาแบบ 2 ภาพต่อกัน เม่ือเสร็จแลว้ ก็แยกจากกนั นาไปประดับฝาผนัง งาน สร้างภาพแบบน้ี ทางตา่ งประเทศนิยมทากนั มากกว่าการเคลือบภาพเสยี อกี เพราะเป็นงานฝมี ือ และสวยแปลกตาไปกว่าภาพทั่วๆ ไป
23 1. ผสมสกี บั อพี อ๊ กซ่ี เรซน่ิ ตามทตี่ อ้ งการ แลว้ ใสข่ วดแยกแตล่ ะสี 2. เทสจี ากขวดลงท่ี ขอบภาพเปลา่ โดยรอบทัง้ 2 ภาพ 3. เทสอี น่ื ตามจดุ ทตี่ อ้ งการ 4. เอยี งภาพให้สไี หลไปผสม กนั เปน็ ลวดลายตา่ งๆ 5. การเอยี งภาพใหส้ ไี หลไปผสมกนั ตอ้ งทาขา้ มไปอกี ภาพ เพอื่ ให้ ลวดลายตอ่ เชอื่ มกนั 6. เมอ่ื แยกภาพไปประดบั ผนงั หอ้ ง ลวดลายบนภาพจะตอ่ เนอ่ื งกนั ตัวอย่างอกี แบบหนึ่ง
24 1. เตรยี มกรอบภาพใหเ้ รยี บรอ้ ย 2. เทอพี อ๊ กซผ่ี สมสแี รก 3. เทอพี อ๊ กซผี่ สมสที ส่ี อง 4. ปาดสที งั้ สองเปน็ ลวดลายพน้ื ดว้ ยมอื สวมถงุ มอื 5. สองสผี สมกนั เปน็ ลวดลายพนื้ ฐาน 6. ไล่ฟองอากาศในเนอื้ เรซนิ่ ดว้ ยหวั แกสเปา่ ไฟ 7. ลงสที ส่ี ามทารว้ิ คลนื่ 8. ลงสที สี่ ที าฟอง คลน่ื 9. ใชเ้ ครอ่ื งเปา่ ลมรอ้ น ไลใ่ หเ้ กดิ ลวดลายของคลน่ื 10. ภาพคลน่ื ทะเลจากอพี อ๊ กซี่ เรซนิ่ 11-13. ผลงานหลายแบบ ทนี่ าไปประดบั ตกแต่งผนงั ห้อง ดังทีไ่ ด้กล่าวไปแล้วแตต่ น้ ว่า ปัจจุบนั การเคลือบรูปภาพมีทางเลือกมากกวา่ ในอดตี และทา ไดง้ ่ายกว่าการเคลอื บดว้ ยเรซน่ิ อย่างไรก็ตามอพี ๊อกซ่ี เรซิ่น นน้ั นอกจากจะใชเ้ คลือบรูปภาพ แล้ว ยังมีจุดเด่นในการสร้างภาพแปลกๆ ท่ีนาไปใชป้ ระดับผนังหอ้ งไดด้ ีอกี ดว้ ย ดังภาพดา้ นบน 1 และ 2 เปน็ ภาพทที่ าจากอีพอ๊ กซ่ี เรซนิ่ ส่วนภาพ 3 เราสามารถทาจากไมธ้ รรมชาตหิ นาแค่ 1 – 2 ซม. หรือไมอ้ ัด 10 มม.ยอ้ มสีลายไม้ ตัดรอยเว้าดว้ ยเลอื่ ยจิ๊กซอว์ แล้วใสร่ ูปป่าไม้, ท้องทะเล หรือแนวปะการัง แล้วเทอพี อ๊ กซี่ เรซิน่ ใสทับลงไป หรอื อยา่ งภาพ 4 เราทาภาพอีพ็อกซี่ เรซน่ิ แล้วมาใส่กรอบ ไมธ้ รรมชาตแิ บบนี้กไ็ ด้ ภาพ 5 และ 6 เปน็ อีกทางเลือก หนึง่ ท่จี ะใสภ่ าพสวยงามลงในถาดใส่ ของ แลว้ เทอีพอ๊ กซ่ี เรซนิ่ ทับลงไป ซ่ึงเป็นงานทแี่ มบ่ า้ นสามารถทาได้ สรุปแล้วการเคลือบรปู ภาพดว้ ยเรซน่ิ ทงั้ 2 อย่างที่แนะนาไปแล้วนัน้ สามารถพลกิ แพลงไป ไดห้ ลายรูปแบบ ข้นึ อยกู่ ับว่าจะนาไปใชก้ ับงานแบบใด การเคลอื บเรซิ่นจะมีเน้ือเรซ่ินบางกว่า การเทเรซ่ินทับลงบนรปู ภาพ ท้ังนี้อยู่ที่ผูส้ นใจงานเรซน่ิ จะเลือกใช้งาน
25 5. เรซนิ่ กบั งานแปง้ โปว๊ และกาว (Adhesive and Filler resin)________ ผู้ที่สนใจกบั งานเรซิ่น อาจไม่ ค่อยทราบกันว่า เรซิ่นในรูปแบบของ กาว (Adhesive) และแป๊งโป้ว (Filler) มีใชก้ นั อย่มู าก ในหลายวงการเชน่ วงการต่อเรอื , วงการรถยนต์ เปน็ ตน้ ทั้งน้มี ีใชก้ ันทั้ง โพลเี อสเตอร์ เรซน่ิ (Polyester resin) และ อีพอ๊ กซ่ี เรซน่ิ (Epoxy resin) ซ่ึง สว่ นมากแลว้ มีผูผ้ ลิตออกมาจาหน่าย แตบ่ างงานเราก็สามารถทาใช้ได้เอง เกย่ี วกับเรือ่ งนีเ้ ราจะ แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบคอื 1. เรซน่ิ ในรปู แบบของกาว (Adhesive resin) อย่างทีไ่ ดพ้ ดู ไปแลว้ วา่ อีพ๊อกซ่ี เรซ่ิน นัน้ มคี ณุ สมบัตเิ ปน็ กาวอยู่เต็มตวั แต่โพลีเอ สเตอร์ เรซนิ่ ไม่มคี ุณสมบัตดิ ังกลา่ ว แมจ้ ะยึด ตดิ ได้ดีกับใยแกว้ (Fiberglass) แตก่ บั วัสดุ อนื่ จะยดึ ติดไดไ้ มด่ ีเท่าใดนกั ดงั น้นั เรซิ่นใน รูปแบบของกาวจึงผลิตจากอีพอ๊ กซเี่ ปน็ เกณฑ์ มีทง้ั แบบอีพ๊อกซี่ เรซิน่ ลว้ นๆ เช่น ใชก้ บั งานเคลือบดา้ ย พันฐานไกด์ของคนั เบด็ ซึง่ เปน็ แบบอตั ราส่วน 1:1 และแบบนามาผสมกบั วัตถุอนื่ เปน็ แบบของเหลวขน้ (เหมือนแปง้ เปียก) มีอัตราส่วนผสม A กับ B หลาย แบบท้ัง 1:1, 1:2 จนถงึ 1:4 บรรจุภาชนะแบบ 1 กก. จนถึง 4-5 กก.มรี าคาเฉลี่ย กก.ละ 200-300 บาท นอกจากน้นั ก็มีแบบเปน็ หลอดค่ขู นาดเลก็ ใช้ กบั งานเลก็ ๆ กาวเรซนิ่ มีทใ่ี ชง้ านกบั วงการเรซ่นิ ไมม่ ากนกั จะใช้อยู่กบั วงการต่อเรอื เปน็ หลัก 2. เรซนิ่ ในรปู แบบของแป้งโปว๊ (Filler resin) เรซนิ่ ในรปู แบบของแปง้ โป๊วใชก้ ันวงการ ตอ่ เรือ และวงการรถยนต์คอ่ นข้างมาก จงึ มีผ้ผู ลติ ออกมาจาหนา่ ยอยทู่ ว่ั ไป ท้ังแบบอพี ๊อกซี่ เร ซ่ิน และโพลีเอสเตอร์ เรซ่นิ นอกจากนีก้ ็ยงั มีชา่ งซอ่ มเรือไฟเบอรก์ ลาสผสมแปง้ ใช้กันเอง ซ่งึ ก็ ไม่ไดม้ ขี ้นั ตอนทย่ี ุง่ ยากนัก ท้ังนสี้ ่วนผสมเรซิน่ ท้งั 2 แบบ ก็มไี มม่ ากดังนี้ - ผงทลั คมั (Talc powder) หรือ แรไ่ ฮเดรต แมกนเิ ซียมซลิ เิ กต เรียกกนั ว่า แร่หินสบู่ มี
26 รูปแบบเปน็ ผงละเอยี ดสขี าวมีนา้ หนกั พอสมควร เปน็ ส่วนผสมหลักของการทาแป้งโป๊ว - ผงเบา หรอื ไธโซโทรปคิ (Thixotropic powder) โดยทั่วไปบ้านเราจะเรยี กกนั ในชอื่ แคบ้ -โอ-ซลิ (CAB-O-SIL) ตามช่อื สินคา้ ( ถ้าเขียนเปน็ CABOSIL ตามแบบเดิมจะออกเสยี ง เป็น คาโบซิล : ดูรายละเอียดของผงเบา และผงทลั คมั จาก คู่มอื งานเรซิ่น เล่ม 1) การผสมแปง้ โปว๊ จากเรซน่ิ ขน้ั ตอนการผสมแปง้ โปว๊ กไ็ มไ่ ดซ้ บั ซอ้ นแตอ่ ยา่ งใดทงั้ โพลี เอสเตอร์ เรซนิ่ และอีพอ๊ กซ่ีเรซนิ่ เพียงแต่อพี ๊อกซ่ีต้องผสมแยกสว่ น A กบั B เทา่ นน้ั เอง อปุ กรณ์ก็เพียงภาชนะผสมเรซ่ินกบั แปง้ ควรเลอื กแบบมีฝาปดิ แบบกระปอ๋ งสี (อย่างทใี่ ชง้ านแลว้ หากต้องผสมเอาไวม้ ากเพอ่ื เกบ็ ใชไ้ ดน้ านขน้ึ ) และไม้กวน หรือ เหล็กกวนสี ทใี่ ชร้ ่วมกับสว่าน ไฟฟา้ ซ่ึงจะชว่ ยใหก้ ารกวนแป้งโปว้ งา่ ย และเร็วขึน้ ท้งั นีเ้ น้ือแปง้ จะผสมเข้ากบั เรซน่ิ ไดด้ กี ว่า ใชไ้ มก้ วน ทเี่ หมาะกบั การผสมนอ้ ยๆ ชา่ งซ่อมเรือไฟเบอร์กลาส จะนิยม ใชแ้ ป้งทลั คมั 5 สว่ น กับผงเบา 1 ส่วนผสมกับเรซ่นิ โดยเทเรซ่ินลงใน ภาชนะทจี่ ะผสม กะปรมิ าณพอกับการ ใช้งาน แล้วเทผงเบาลงผสมกับเรซิน่ ก่อน ใชเ้ หลก็ กวนๆ ให้ผงเบาเขา้ กบั เน้ือเรซ่นิ จนดแี ลว้ จึงเตมิ ผงทัลคัมลงไปเป็นคร้ังๆ ละ พอประมาณ เม่ือปน่ั เข้ากันดีแลว้ ก็ทยอยเทผงทัลคมั ลงไปจนหมด แป้งโปว๊ ทผี่ สมให้พอเหมาะจะ ประมาณความเหลวของยาสีฟนั (ความจริงแล้วการผสมแป้งท้ัง 2 แบบ กบั เรซน่ิ งานหลอ่ ก็ เหมอื นกนั เพียงแต่งานหล่อเรซน่ิ ผสมให้เหลวกวา่ เพื่อใหเ้ ทลงแม่พมิ พไ์ ดง้ า่ ยเทา่ นน้ั เอง) การ ผสมแป้งโปว๊ อีพอ๊ กซี่ เรซิ่น จะต้องผสมแยกสว่ น A กับ B แล้วจึงนามาผสมกันเวลาใชง้ าน อย่างไรก็ตาม ทั้งแป้งโป๊วโพลเี อสเตอร์ และแป้งโปว๊ อีพอ๊ กซ่ี มผี ผู้ ลิตจานา่ ยอยู่ทั่วไปเช่น แปง้ โป๊วโพลเี อสเตอร์ ใช้อย่กู ับงานซอ่ มรถยนต์ เรยี กกันวา่ โปว๊ เหลอื ง และโป๊วแดง (เรียกตามสี ของแป้งโปว๊ ) โป๊วเหลอื งเนอื้ จะอ่อนกวา่ โปว๊ แดงอย่บู ้าง แป็งโปว๊ ดังกล่าว มีตวั ทาใหแ้ ปง้ โปว๊ แขง็ ตัว หรอื ฮารด์ เดนเนอร์ บรรจุหลอด แบบยาสฟี นั และเหลวขน้ แบบยาสีฟนั แปง้ โป๊วที่ผลติ ขายแบบน้ี แมจ้ ะเปน็ โพลีเอสเตอร์ เชน่ เดียวกบั เรซ่ินท่ีผสมใช้เอง แตม่ ีเนอ้ื ละเอียดกวา่ และแห้งตวั เร็วกวา่ กนั มาก โป๊วเหลอื งบางยหี่ ้อคอ่ นของจะเหลว จนสามารถนาไป เทงานหลอ่ เรซ่ินได้เชน่ กนั แตค่ วรเป็นงานช้ินเล็กๆ กบั แมพ่ ิมพแ์ บบหนา้ เดยี ว
27 ส่วนแป้งโป๊วอพี อ๊ กซ่ีนัน้ นยิ มใช้อยู่กบั วงการ ต่อเรอื เรียกกนั วา่ ชันฝรง่ั ทั้งนี้เปน็ การเรียกของ กลุ่มช่างตอกหมนั เรือ ทง้ั นเ้ี รอื ไม้ต้ังแต่อดีตมานัน้ จะใชช้ ัน และนามนั ยางผสมกนั เป็นของเหลวขน้ ทาลงในชอ่ งวา่ ง ระหว่างแผ่นไม้เปลือกเรอื แล้ว ตอกเสน้ เชอื กฝ้ายเขา้ ไปจนอัดแน่นในรอ่ งดังกลา่ ว แล้วปิดทับด้วยชันท่ีผสมนา้ มันยาง การทาวธิ นี ้ี เรียกวา่ ตอกหมนั ยาชัน มีอายใุ ช้งาน 1-2 ปี กต็ อ้ งทากนั ใหม่ ต่อมามกี ารใช้แป้งโป๊วอพี ๊อกซ่ี แทนชนั และนา้ มนั ยางดงั กลา่ ว ซึ่งได้ผลดกี วา่ มีอายุการใชง้ าน 5 ปขี ้นึ ไป ช่างตอกหมันเรือจงึ เรียกแป้งโป๊วอีพอ๊ กซวี่ ่า ชนั ฝรั่ง ทั้งน้ี ชันฝรง่ั ที่เรียก กัน ก็คอื อพี อ๊ กซ่ี เรซิ่น ฟิลเลอร์ (Epoxy resin filler) เปน็ การผสมอพี ๊อกซ่ี เรซิ่น กับผงแป้งทลั คัม และผงเบา (ผ้ผู ลิตมสี ูตรผสมเป็นพิเศษแตล่ ะย่ีหอ้ ) เป็นหลกั นิยม นามาใช้โป๊วเปลือกเรอื และงานซอ่ มแซมเรอื ไฟเบอร์ กลาส ทางต่างประเทศใชก้ ันนานมาแล้ว แต่บา้ นเราใช้ กนั มากกบั เรือประมง แทนการตอกหมันยาชันแบบเดมิ การผสมระหว่า ส่วน A กับสว่ น B จะอยใู่ นอัตรา 1:1 และ 1: 2 (แป้งโป๊ว A 2 สว่ น ต่อ ส่วน B ที่ เปน็ ฮารเ์ ดนเนอร์ 1 ส่วน) แต่ถา้ เปน็ แบบ 1 : 1 สว่ น A กับ B จะเท่ากนั อย่างไรกต็ าม แป้งโป๊วอีพอ๊ กซี่ ท่ีใชอ้ ยู่ในวงการงานเรอื เป็นการใชใ้ นปริมาณมากในแต่ ละงาน ทางผู้ผลติ จึงทาออกมาเป็นชุด ( A กบั B ) มนี า้ หนักรวมกัน 3-4 กก. (มีบางยีห่ ้อบรรจใุ น ขนาด 1 ถงึ 2 กก.อยู่บา้ ง แต่กับงานท่ีต้องซอ่ มแซมเล็กๆ นอ้ ยๆ ผผู้ ลิตอีพอ๊ กซ่ีแบบฟิลเลอร์ (เช่นเดียวกบั แป้งโปว๊ ) ผลิตออกมาเปน็ หลอดขนาดเลก็ ทง้ั แบบเหลวเหมอื นยาสีฟัน และแบบดินน้ามนั เรยี กกนั ในช่ือไทยๆ ว่า กาวตดิ เหลก็ , กาว 2 ตนั , กาวมหาอุด เป็นตน้ ทั้งนีอ้ ีพ๊อกซม่ี คี ุณสมบัตเิ ป็นกาวอยู่แลว้ จงึ โป๊ว, อดุ , พอก ไดแ้ น่นดมี าก และขัดตกแต่งได้ เรซน่ิ ในรปู แบบของกาว และแป้งโปว๊ นี้ เก่ียวข้อง กบั งานเรซ่ินในหลายดา้ นด้วยกัน อย่างเชน่ อีพอ๊ กซีป่ นั้ (Epoxy putty) ใช้เพ่อื ขึ้นรูปต้นแบบท่ีจะนาไปตกแต่ง เป็นชิ้นงาน นาไปลอกแบบจากการหลอ่ เรซิ่น เปน็ ต้น ซงึ่ งานเรซิน่ ใช้กนั มากพอสมควร
28 6. เรซนิ่ กบั งานเคลอื บโฟมขาว ( Resin for coating Styrofoam)_____ อาจพูดได้วา่ ไม่มใี ครไมร่ ู้จกั กบั โฟมขาวกว็ ่าได้ เพราะมันถกู นามาใช้ในหลายรปู แบบกับ ชีวิตประจาวนั ของพวกเรา โฟมขาว มีชอื่ เรยี กในภาษาอังกฤษวา่ สไตโรโฟม (Styrofoam : เป็นช่ือทางการค้า ช่ือเปน็ ทางการก็คือ Expanded Polystyrene Foam เรียกย่อๆ ว่า EPS) งานเรซิน่ ในกลุม่ น้เี ป็นเพยี ง การเคลือบโฟมขาวด้วยอีพ๊อกซ่ี เรซ่ิน ทง้ั นโี้ ฟมขาวนน้ั ใช้กนั มากในหลายวงการ สว่ นหนึ่งเปน็ งานแกะสลักโฟมขาวเปน็ รูปทรงต่างๆ ซ่ึงมันคอ่ นข้างงา่ ยตอ่ การทางานกวา่ วสั ดอุ ืน่ และมีนา้ หนกั เบามากจึงในไปประดับตกแต่งในทีส่ ูงไดด้ ี อยา่ งไรก็ตาม โฟมขาวค่อนขา้ งบอบบางแตกชารดุ ได้ง่าย จงึ ตอ้ งมีการเคลือบผิวของโฟมขาว และเสริมความ แข็งแรงด้วยไฟเบอรก์ ลาส หรอื ใยแก้ว แต่โพลีเอสเตอร์ เรซนิ่ ท่ใี ช้กับงานไฟเบอรก์ ลาสนน้ั ทา ให้โฟมขาวละลายได้ (สารจาพวก ทินเนอร์ , อาซโี ทน, เบนซนิ จะละลายโฟมขาวไดท้ ้งั สิ้น) จึง ต้องใช้อพี ๊อกซี่ เรซิ่น มาเคลอื บผิวของโฟมขาวเอาไว้ ก่อน จากน้ันจึงจะเคลือบแป้งโป๊วท่เี ปน็ โพลีเอสเตอร์ เรซน่ิ หรือทางานไฟเบอร์กลาสต่อไปได้ งานเรซิ่นเคลือบโฟมขาวมีข้ันตอนงา่ ยๆ เพียง ผสมอพี อ๊ กซี่ เรซ่นิ ส่วน A กบั สว่ น B ตามอัตราส่วน ที่กาหนด แล้วนามาทาลงบนผิวโฟมเทา่ นนั้ เอง จะ ผสมสีต่างๆ กบั เน้อื เรซิ่น เพ่อื ใหเ้ ห็นส่วนท่ีเคลอื บได้ งา่ ย หรือไม่ผสมก็ได้ เมอ่ื เรซ่นิ แหง้ ตวั ดีแล้วก็สามารถ โป๊วตกแต่งด้วยโพลเี อสเตอร์ เรซน่ิ และห้มุ ไฟเบอร์ กลาส เพอ่ื ใหช้ ้ินงานมคี วามแข็งแรง เชน่ การสร้างเรือ ด้วยโฟมขาว และผลติ ภัณฑ์ขนาดใหญ่ เปน็ ต้น อย่างไรกต็ าม ปัจจบุ นั มโี พลเี อสเตอร์ เรซนิ่ เกรด หนึง่ ที่ไมล่ ะลายโฟมขาว สามารถปใู ยแกว้ ลงบนผิว
29 โฟม แล้วลงเรซิ่นทบั ใยแก้วไปได้เลย และยังมีราคาถูกกวา่ อพี ๊อกซ่ี 3-4 เทา่ การใชเ้ รซ่ิน และใยแก้ว กับโฟมขาว นั้น ผู้ทีส่ รา้ งเรือโฟม อาศัยภมู ิปญั ญา ชาวบ้าน เอากระดาษหนังสือพมิ พม์ าทา กาวลาเทก๊ ซป์ ิดทับผิวโฟม 2-3 ชั้น แล้วจึง ห้มุ ไฟเบอร์กลาส เร่อื งนที้ างต่างประเทศก็ เขากท็ ากนั อยู่ รวมทงั้ การใชส้ ีน้าท่ีใชท้ า บา้ นเรอื น มาทาทับผิวโฟมประมาณ 5-6 ชน้ั กส็ ามารถป้องกันเรซ่นิ ทาลายผิวโฟมได้เชน่ กนั บ้านเราก็มผี ูท้ ดลองใช้ สที าหลังคากันรั่วซึม ประเภท รูฟ ซลี (Roof seal) มาทับผวิ โฟม 2-3 ชั้น กไ็ ดผ้ ลดี เพราะเน้ือสคี ่อนข้างขน้ และเป็นตัวกันซมึ ของน้าอยู่แล้ว 1. ใชก้ ระดาษทากาวลาเทก๊ ซป์ ดิ ทบั บนผวิ โฟม 2 ชน้ั 2. วางใยแกว้ ทส่ี ว่ นทอ้ งเรอื กอ่ น 3. ลงเรซน่ิ กบั ใยแกว้ 4. ลงเรซนิ่ สว่ นในตวั เรอื 5. ทาสที ต่ี อ้ งการทบั ใยแกว้ ทแี่ ห้งดแี ลว้ 6. เรอื โฟมทห่ี มุ้ ใยแกว้ หรอื ไฟเบอรก์ ลาส และทาสเี รยี บรอ้ ยแลว้ การเคลือบโฟมท่ใี ชก้ บั ชิ้นงานขนาดเล็ก และงานตกแต่งดว้ ยโฟมขาว มักจะใชอ้ ีพ๊อกซี่ เร ซิ่น มากกว่า เพราะทางานไดง้ า่ ย และเคลอื บผวิ โฟมไดเ้ รียบดีมาก สว่ นกบั งานสร้างเรือโฟมน้นั มตี วั เลอื กได้หลายทางด้วยกันทง้ั อีพอ๊ กซ่ี เรซิ่น, สีนา้ ทาบา้ น แม้แตก่ ระดาษหนังสือทากาวลา เท๊กซ์ก็ใชไ้ ดด้ ี ขนึ้ อยผู่ สู้ ร้างเรือโฟมจะเลือกใช้ทางใด การเคลอื บโฟมนีโ้ พลียูเรเทน เรซิ่น กใ็ ช้ กันอยู่บ้าง เพียงแต่บ้านเราหาซื้อไดย้ ากอยู่สักหนอ่ ย
30 7. งานโพลยี เู รเทน เรซน่ิ ( Polyurethane resin uses)_____________ จากกลมุ่ ของเรซ่ิน 10 กว่ากลมุ่ นน้ั วงการงานเรซนิ่ บ้านเรานยิ มใช้กนั อยู่ 3 กลุ่ม ซงึ่ ได้ แนะนาไปแล้ว 2 กลุม่ คอื โพลเี อสเตอร์ เรซนิ่ (Polyester resin) กับ อีพ๊อกซ่ี เรซ่นิ (Epoxy resin) และเรซิ่นกลมุ่ ท่ี 3 ก็คือ โพลียเู รเทน เรซน่ิ (Polyurethane resin) โพลยี ูเรเทน เรซ่ิน มคี วามหลากหลายของรูปแบบ และการนาไปใช้งาน จะวา่ ไปแล้ว มากกวา่ เรซิ่น 2 กลุ่มที่พดู ถงึ ไปแลว้ เสยี อกี เรามาทาความรู้จกั กับเรซ่ินกลุม่ น้กี ันกอ่ น รูปแบบของโพลียูเรเทน เรซน่ิ นัน้ มีท้ังเป็น ของเหลวใส และขน้ , เนอ้ื แข็ง, โฟม, ยาง, เส้น ใย เหลา่ นเี้ ป็นตน้ ซ่ึงแต่ละรูปแบบถกู นาไปใช้งานดังนี้ - รูปแบบของเหลว : ใช้เคลอื บพน้ื /ผนัง, หล่อเป็นรปู ทรงตา่ งๆ ทาสี, ทากาว - รูปแบบของแข็ง : ใชท้ าไม้เทียม, อุปกรณ์ไฟฟ้า,รถยนต์ และเรือ - รปู แบบของโฟม : ใชท้ าเบาะ, อุดรอยรว่ั , ฉนวนกันความร้อน - รูปแบบของเสน้ ใย : เส้ือผ้า, พรม, ผา้ พนั แผล - รปู แบบของยาง : ล้อเลอื่ น, ยางรถยนต์, ท่อใช้งานอุตสาหกรม กับวงการงานเรซ่ินบา้ นเรานั้น จะเลือกใช้โพลียเู รเทนในรูปแบบของเหลว และโฟมเปน็ หลกั ท่วี งการงานเรซนิ่ คุ้นเคยกันดีก็คงเปน็ โฟม ท่ีเรียกกนั วา่ พยี ู โฟม (PU Foam : PU กค็ อื ตัวยอ่ ของ Polyurethane) พยี ู โฟม เป็นโพลียูเรเทน เรซิ่น เหลวแบบ ผสม 2 ส่วนคอื สว่ น A และ ส่วน B ซ่งึ มสี ี ต่างกัน บ้านเราจึงเรยี กว่า โฟมขาว กบั โฟมดา ส่วนวงการงานเรซ่นิ มักเรยี กกันว่า พยี ู โฟม โพลียเู รเทนแบบนี้ เมื่อนาสองส่วนมาผสมดัน จะเกิดการขยายตัวออกเปน็ รูปแบบโฟมมีสี เหลอื งออ่ น อัตราการขยายตัวจะเป็นไปตามชนดิ ของเรซนิ่ (ระบุเปน็ ความหนาแน่นต่อ ลบ./ฟ.)
31 ทางบา้ นเรามี โพลยี ูเรเทน เรซนิ่ ขายอย่หู ลายรูปแบบด้วยกัน ท้ังแบบใช้กับงานหล่อ, งาน เคลือบ และงานโฟม ซ่ึงมีใหเ้ ลือกใช้อยู่หลายแบบ แตจ่ ะพูดถึงดา้ นงาน พยี ู โฟมเพยี งอย่างเดยี ว ซง่ึ แยกออกได้เปน็ 4 รูปแบบดว้ ยกนั คอื ก. ใชห้ ลอ่ ออกมาเปน็ ชน้ิ งาน พียู โฟม มลี กั ษณะเปน็ ของเหลว 2 สว่ นนามาผสมกนั จงึ สามารถใช้ร่วมกับแม่พมิ พย์ างซิลิโคนไดท้ ง้ั แมพ่ ิมพ์หนา้ เดียว, สองหน้า และแม่พิมพ์ถลก ขั้นตอนของการทางาน เหมือนการหล่อเรซ่ินโพลีเอสเตอร์ และอพี อ๊ กซท่ี กุ ประการ แต่ด้วยพียู โฟม มีการขยายตวั ไดม้ าก จึงเกดิ รูพรนุ ในเน้อื โฟมมากตามไปดว้ ย ดังน้นั การหล่อชน้ิ งานด้วย แมพ่ มิ พ์หน้าเดียว ควรเลือกพียู โฟมที่ขยายตวั น้อย เพอ่ื ใหช้ ้ินงานเกิดรพู รนุ น้อยทีส่ ุด 1. จดั เตรยี มโฟมพยี ู และถว้ ยบรรจุ 2. เท พยี ู เรซนิ่ สว่ น A ลงในถว้ ย 3. ตามดว้ ยสว่ น B แลว้ ผสมใหเ้ ขา้ กนั 4. เตรยี มแมพ่ มิ พย์ างซลิ โิ คน 5. เท พยี ู เรซนิ่ ผสมแลว้ ลงในแม่พมิ พ์ 6. ใชแ้ ปรงเกลยี่ เรซนิ่ ใหท้ วั่ แมพ่ มิ พ์ 7. พยี ู เรซนิ่ จะขยายตวั จนลน้ แมพ่ มิ พ์ 8. แกะชน้ิ งาน ออกจากแมพ่ มิ พ์ 9. ชน้ิ งานจากพยี ู โฟม เรซนิ่ ทเ่ี สรจ็ แลว้ ถา้ เลือกใช้ชนิดท่ขี ยายตัวมาก กต็ ้องปดิ แม่พิมพ์ดา้ นที่เปดิ ด้วยแผ่นพลาสติก หรอื แผ่นไม้ อัดหนา เพือ่ กันไม่ใหเ้ นอื้ โฟมขยายจนล้นแม่พิมพ์ ก็จะได้ชนิ้ งานทม่ี ีรูพรนุ ในเน้ือโฟมน้อย หรือไม่มเี ลย แผน่ ปดิ แม่พิมพ์ เรียกกว่า แบ็ค เพรสเชอร์ (Back pressure) มีท้ังแบบ เจาะรู ระบายโฟมบางสว่ น และแบบไม่เจาะรู พียู เรซ่ินที่แห้งตัวเรว็ ไม่ต้องหาของหนกั ๆ มาทบั แผน่ ปดิ แมพ่ มิ พ์ แตอ่ ยา่ งใด ใชม้ ือกดแผน่ ปิดเอาไว้กพ็ อ
32 1. ตดั แผน่ พลาสตกิ แล้วเจาะรู 2. ทาวาสลนิ กนั โฟมตดิ 3. ผสมพยี ู โฟม แลว้ เทลงพมิ พ์ 4. ปดิ แผน่ พลาสตกิ ลงบนสว่ นเปดิ ของแมพ่ มิ พ์ 5. พยี ู โฟมขยายตวั จนพน้ รทู เ่ี จาะออกมา 6. เปดิ แผน่ พลาสตกิ ออกจากแมพ่ มิ พ์ 7. แกะชน้ิ งานออกจากแมพ่ มิ พ์ 8. ขยายใหเ้ หน็ ความเนยี นของชนิ้ งาน 9. เทยี บระหวา่ งการหลอ่ ชนิ้ งานทง้ั 2 แบบ จากภาพ 9 นั้น การหลอ่ ช้นิ งานด้วย พยี ู โฟม ทเ่ี ป็นแม่พิมพ์หน้าเดยี ว แบบปล่อยให้โฟม ขยายตัวเตม็ ที่ จะเกดิ รูพรนุ ในเน้ือโฟมมากกวา่ การปดิ แมพ่ ิมพ์ใหโ้ ฟมขยายตัวในที่จากัด 1. ผสมพยี ู เรซนิ่ จะเปน็ สใี ส 2. A แสดงใหเ้ หน็ ความใสของ พียู เรซน่ิ 3. B แสดงใหเ้ หน็ พยี ู เรซน่ิ เปน็ สขี าวเมอื่ แขง็ ตวั แลว้ 4-5. แกะชน้ิ งานออกจากแม่พมิ พ์ 6. หมายเลข 2 เปน็ ต้นแบบ สว่ นหมายเลข 1 และ 3 เปน็ พียู เรซนิ่ ทเี่ กดิ จากการหลอ่ จากแม่พมิ พ์
33 จากภาพในหน้าท่ีผา่ นมา เป็นการหล่อพยี ู เรซน่ิ หรือ โพลียเู รเทน เรซ่ิน แบบเนอื้ ปรกติ เหมือน โพลเี อสเตอร์ เรซน่ิ และอีพอ๊ กซี่ เรซิ่น ทั้งวิธีการผสม และการหล่อจากแม่พมิ พ์ ทั้งนี้ นามาเปรยี บเทยี บให้เหน็ ว่า ตา่ งจาก พยี ู โฟม แม้จะเปน็ เรซน่ิ ตระกูลเดียวกันก็ตาม ซง่ึ ท้งั โพลี เอสเตอร์ เรซ่ิน และอีพ๊อกซี่ เรซนิ่ ไมม่ ีคุณสมบตั ิการเปน็ โฟมเหมือน โพลียเู รเทน เรซ่นิ ข. ใชเ้ ตมิ ชอ่ งวา่ งในตวั เรอื การตอ่ เรอื ขน้ึ มาแตล่ ะลานนั้ สง่ิ ทผ่ี ตู้ อ่ เรอื ตอ้ งใหค้ วามสาคัญ ก็คือ ทาอยา่ งไรจึงจะทาให้เรอื จมได้ยาก จงึ มีการสร้างช่องวา่ งในตวั เรือเป็นส่วนๆ เอาไว้ เรยี ก กันวา่ หอ้ งลอย ซึง่ เรอื ขนาดเล็กทั่วไปนยิ มทากนั ส่วนเรือขนาดใหญ่เพยี งแตก่ นั้ ห้องต่างๆ ใน ตัวเรอื ให้ปิดแยกจากกันได้ เป็นท้ังหอ้ งใช้งาน และหอ้ งลอยไปในตวั หอ้ งลอยดังกลา่ วน้ี ในอดตี เขาใช้ไม้ก๊อก เพราะมนี ้าหนักเบามาก นามาบรรจลุ งในชอ่ งว่าง เหล่านนั้ ต่อเมอ่ื มกี ารค้นพบพลาสติก หลังสงครามโลกครั้งท่ี 2 ทีค่ น้ พบพลาสตกิ และส่วนหนงึ่ ใชท้ าโฟมได้ จงึ มีการนาโฟมทีไ่ ดจ้ ากพลาสตกิ เอามาบรรจใุ นชอ่ งว่างของเรอื แทนไมก้ อ๊ ก โฟมท่ีนิยมใช้กันก็มที ัง้ โฟมขาว หรอื สไตโรโฟม ตัดเปน็ ท่อนๆ อดั ลงในชอ่ งวา่ ง หรือห้องลอย ของเรอื และใช้พียู โฟม เท หรือฉีดลงในช่องว่างของเรือ มที ้ังแบบเทลงในชอ่ งเปดิ ด้านบน และ แบบฉดี เข้าในชอ่ งท่ปี ดิ ทบึ ทั้งหมด วิธีนีเ้ นือ้ โฟมจะแน่นกว่าแบบเทในช่องเปดิ ทีโ่ ฟมขยายตวั ได้ เต็มท่ี ซ่ึงจะมีรูพรนุ ในเน้อื โฟมมากกวา่ เปน็ สาเหตุให้นา้ ซึมเขา้ ไปในรพู รุนเหล่าน้ันได้ พียู โฟม ทท่ี าออกมาเปน็ แผ่นแลว้ ยังนาไปใชเ้ ป็น แกนโฟม (Foam core ) สร้างเรอื ไฟเบอร์กลาสไดอีก ด้วย การสรา้ งเรือแบบแกนในเปน็ โฟมน้ี ไดร้ ับความนยิ มพอสมควร อย่างไรกต็ ามเรือ ที่สรา้ งด้วยแกนโฟม น้ัน ใชโ้ ฟมหลายแบบด้วยกนั นอกจาก พียู โฟมแลว้ กม็ ี โฟมขาว หรือสไตโร โฟม, พีอี โฟม ( PE foam : Polyethylene foam) ท้ังนขี้ ้นึ อยกู่ บั ผู้ต่อเรือ จะเลือกใช้โฟมแบบ ใด หรอื สามารถหาซื้อได้จากทใ่ี ด
34 ค. ใชเ้ ปน็ กาวตดิ แผน่ โฟม โดยรวมแลว้ พยี ู โฟม มคี ณุ สมบตั เิ ปน็ กาวอยดู่ ว้ ย จึงใชเ้ ปน็ ตวั ประสานแผ่นโฟมเขา้ ดว้ ยกนั ไม่ว่าจะเป็นแผ่นพียู โฟม, แผน่ สไตโรโฟม หรือโฟมขาว (เหมาะ กับโฟมชนดิ นี้อย่างย่ิง) ซ่ึงวงการต่อเรอื คายัคดว้ ยโฟมขาว และช่างตกแต่งงานศิลปะดว้ ยโฟม ขาวใชก้ ันมาก เพราะไมก่ ดั หรอื ทาลายเนื้อโฟม การใชพ้ ียู โฟมเป็นกาวนี้ เลอื กใชไ้ ดท้ ั้งแบบ ผสมเอง หรือซ้ือแบบบรรจกุ ระปอ๋ ง ซ่ึงมีขายอยู่ท่วั ไปกไ็ ด้ ง. ใชอ้ ดุ รอยแตกรา้ วผนงั บา้ น บา้ นเรอื นทมี่ ผี นงั บา้ นเปน็ คอนกรีต มกั จะพบปัญหาของ การแตกร้าวที่ผนงั ช่างก่อสร้างจึงแนะนาให้ใช้ พยี ู โฟม ฉดี เข้าไปในรอยแตกร้าวดงั กล่าว ก็ สามารถซอ่ มผนงั ใหเ้ กือบเหมอื นเดิมได้ ทงั้ น้ีมผี ูผ้ ลติ พียู โฟม บรรจุกระป๋องออกมาใหใ้ ช้งาน ง่ายตอ่ การฉีดเขา้ ไปในรอยแตกร้าวเหล่าน้ัน จ. ใชเ้ ปน็ ฉนวนกนั ความรอ้ น พียู โฟม มคี ณุ สมบตั เิ ปน็ ฉนวนกนั ความรอ้ นไดด้ ี ซง่ึ ทา ออกมาท้งั เปน็ แผน่ นาไปติดต้งั เอง, ผนึกเข้ากบั สงั กะสีมุงหลังคา, ฉีดเขา้ ไปในผนังด้วยอปุ กรณ์ ฉดี โฟมโดยเฉพาะ พียู โฟม แบบฉนวนกันความร้อนนยิ มใชก้ นั ท่ัวไป สรปุ แลว้ พียู โฟม (PU Foam) มที ี่ใชง้ านคอ่ นขา้ งหลากหลายพอสมควร ในหลายวงการ ดว้ ยกนั กับงานเรซ่นิ ใชพ้ ียู โฟม ก็ถูกนามาใช้ในหลายรูปแบบ
35 โพลียูเรเทน เรซน่ิ ซ่ึงอย่ใู นรูปแบบของเหลว ใชง้ านเช่นเดยี วกับ โพลีเอสเตอร์ เรซิน่ และ อพี อ๊ กซ่ี เรซ่ิน ทง้ั ในดา้ นงานหลอ่ , งานเคลอื บ และกาว แต่มจี ุดเดน่ ทีโ่ พลยี เู รเทน เรซ่ิน นัน้ สามารถทาได้ทั้งงานแม่พมิ พ์ (แบบเดยี วกบั ซิลิโคน) และงานหลอ่ เรซน่ิ 1. และ 2. เทยางโพลยี เู รเทนลงในกรอบแมพ่ มิ พ์ 3. แกะกรอบแมพ่ มิ พอ์ อก 4. แกะ แม่พมิ พ์ยางโพลยี เู รเทน ออกจากวัสดตุ น้ แบบ 5. แมพ่ มิ พ์ยางโพลยี เู รเทน (ซา้ ย) กบั วสั ดุ ตน้ แบบ (ขวา) 6. สเปรยซ์ ลิ โิ คนลงในแมพ่ มิ พ์ 7. เกลย่ี ดว้ ยแปรงใหท้ วั่ แมพ่ มิ พ์ 8. เตรยี มโพลยี เู รเทนทใ่ี ชก้ บั งานหลอ่ 9 . เทโพลยี เู รเทนงานหลอ่ ลงในแมพ่ มิ พย์ าง โพลยี เู รเทน 10. โพลยี เู รเทนงานหลอ่ จะเปน็ สใี สเหมอื นแมพ่ มิ พ์ 11. เมอื่ โพลยี เู รเทน งานหลอ่ แข็งตวั จะเปลย่ี นเปน็ สขี าว 12. แมพ่ มิ พย์ างโพลียเู รเทน กบั โพลียเู รเทนหลอ่ จะว่าไปแลว้ โพลยี ูเรเทน เรซ่นิ นัน้ มีความหลากหลายในตัว มากกว่าเรซนิ่ กลมุ่ อ่ืน สามารถนาไปใชง้ าน ได้หลาย ประเภทด้วยกับ กับงานหล่อเรซิ่น โพลี ยเู รเทน เรซ่นิ หล่อได้ทง้ั แบบใส และ ทบึ เปน็ สีขาว โดยไม่ตอ้ งผสมสี อยา่ งไร กต็ าม โพลยี ูเรเทน เรซ่ิน ทีใ่ ช้กันใน บ้านเรา สว่ นมากเป็นงานอตุ สาหกรรม มากกว่า ใชก้ บั งานหลอ่ เรซนิ่
36 8. งานเรซนิ่ กบั อปุ กรณต์ กปลา ( Resin with Fishing tackle)________ วงการตกปลาแบบสากลบา้ นเรา เรมิ่ ตน้ มาเม่อื 50 ปกี ่อน (วงการตกปลาทางต่างประเทศ เร่ิมกันเม่ือสองรอ้ ยปีมาแลว้ ) และเรม่ิ ใช้เรซนิ่ กบั อปุ กรณ์ตกปลาหลังสงครามโลกครั้งท่ี 2 เมื่อมี การค้นพบพลาสตกิ ท้ังน้ีการสรา้ งคันเบด็ ตกปลานนั้ เขาใช้ ใยแกว้ หรอื ไฟเบอร์กลาส กับเรซ่นิ สังเคราะห์ ซ่ึงเป็นพลาสติกชนิดหนง่ึ ส่วนวงการตกปลาบ้านเราเริ่มใชเ้ รซน่ิ กับอุปกรณ์ตกปลา เม่ือ 40 กวา่ ปกี อ่ น กบั งานสร้างเหยอื่ ปลอมเพ่ือตกปลา และงานซ่อมคนั เบ็ด ซ่ึงมีดงั น้ี 1. ใชอ้ พี อ๊ กซ่ี เรซน่ิ กบั งานซอ่ มคนั เบด็ อยา่ งทเี่ กรน่ิ ไปแล้ววา่ คนั เบด็ ตกปลานน้ั ทาจาก พลาสตกิ ทเี่ ป็นเรซิ่นชนดิ หนง่ึ ตัวของคนั เบ็ดจะต้องมี ไกดค์ ันเบ็ด (Fishing rod guide) เป็นตัว รองรบั สายเบด็ จากตัวรอกตกปลา ออกไปจนพน้ ปลายคันเบด็ ไกด์คนั เบด็ จะจดั วางเรียงกันไป จากโคนคนั เบด็ จนถึงปลายคันเบด็ มที ้ังแบบห่วงวงกลม (Ring guide) และไกด์ลูกล้อ (Roller guide) การติดตง้ั ไกดค์ นั เบ็ดมีจานวน 4-5 ตัว ไปจนถงึ 8-9 ตวั แล้วแตค่ วามยาวของคันเบด็ ไกดแ์ ต่ละตวั จะมีขาไกด์ และฐานไกด์ ซ่ึงสว่ นนจี้ ะวางแนบกับคันเบ็ด การจะยึดฐาน ไกด์ให้ตรงึ อย่กู บั คนั เบ็ด เขาใช้ด้ายหลอด ท่ีมี ขนาดเส้นใหญก่ วา่ ด้ายหลอดเยบ็ ผา้ เลก็ น้อย ด้ายชนดิ น้ีมสี ีใหเ้ ลอื กใช้หลากหลายสีดว้ ยกัน ผทู้ ซี่ อ่ ม หรือสร้างคันเบด็ ใหม่ จะใชด้ ้าย หลอดดงั กล่าว พันฐานไกด์ให้ยดึ แนน่ กบั ตวั คันเบ็ด การพนั ดา้ ยยดึ ฐานไกด์คันเบ็ดน้ี สามารถพันให้เกดิ ลวดลายสลับสีกนั ไป แลว้ แต่ผู้ใช้คนั เบ็ดต้องการลวดลายแบบใดก็ได้ จากนนั้ จะเคลือบดา้ ยพนั ไกดด์ ้วยอพี ๊อกซี เรซ่ิน แบบ 1:1 ซง่ึ นักตกปลาบ้านเราสงั่ จากตา่ งประเทศ เข้ามาใชง้ านซ่อมคนั เบด็ กนั ตงั้ แต่ปี 2526 เปน็ ทท่ี ราบกนั แล้ววา่ อีพ๊อกซี่ เรซิน่ นนั้ แหง้ ตัวคอ่ นข้างช้า เมือ่ ทาเรซน่ิ เคลือบดา้ ยพันไกด์ ไปแลว้ หากวางคันเบ็ดอยู่จุดเดิม เรซิน่ จะไหลยอ้ ยลงดา้ นล่าง จึงต้องคอยหมนุ คันเบด็ ใหเ้ รซิน่
37 เคลอื บด้ายอย่างสม่าเสมอ ดังนั้นจึงเลอื กใช้มอเตอรร์ อบช้า มาเป็นตัวชว่ ยหมนุ คันเบ็ด อุปกรณ์ ตวั น้มี ผี ผู้ ลติ ขาย แตเ่ รากส็ ามารถสร้างใชไ้ ดเ้ อง เพื่อใหเ้ ข้าใจวา่ การพนั ดา้ ยกับฐานไกด์เขาทา กันอยา่ งไร (นกั ตกปลาท่ีสนใจงานซ่อมคันเบ็ด คงใช้เปน็ ประโยชนไ์ ด้บ้าง) ก่อนทีจ่ ะเคลือบดา้ ย พนั ฐานไกด์ดว้ ยอีพอ๊ กซี่ เรซ่ิน ก็ขอนาเอาภาพวิธีพนั ดา้ ยฐานไกดม์ าให้ดูกันดงั น้ี 1.เรม่ิ พนั ดว้ ยรอบฐานไกด์ โดยพนั ทบั ปลายสายใหย้ ดึ เสน้ ดา้ ยเอาไว้ 2. พนั ดา้ ยไปสกั ระยะ หนงึ่ กใ็ ชเ้ หลก็ เกลย่ี สายเบด็ (ใชไ้ มท้ าเองกไ็ ด)้ ใหเ้ รยี งชดิ กนั 3. เมอ่ื ไปถงึ จดุ พนั ดา้ ยสขี าว กพ็ นั ดา้ ยสแี ดงทบั ไวก้ อ่ น 4. จากนนั้ พนั ดา้ ยสขี าว ( ตดั ออกมาจากหลอด) ทบั ดา้ ยสแี ดงให้ ไดข้ นาดทต่ี อ้ งการ 5. พนั ดา้ ยสแี ดงทับดา้ ยสขี าว แลว้ ตดั ดา้ ยสขี าวออกไป 6. เกลยี่ สาย ใหเ้ รยี งชดิ กนั อกี ครง้ั 7. ทาหว่ งดา้ ย (ใชส้ ายพอี ี จะเหนยี วกวา่ เสน้ ดา้ ยธรรมดา) ทาบไปกับ ดา้ ยพนั แลว้ พนั ดา้ ยแดงทบั ไปใหไ้ ดร้ ะยะ เทา่ กบั อกี ดา้ น 8. ตดั เสน้ ดา้ ยแดงใหเ้ หลอื ปลาย พอประมาณ แล้วสอดเขา้ หว่ งเชอื กทาไว้ 9. ดงึ หว่ งเชอื กนาเอาเสน้ ดา้ ยแดง ลอดเชอื กที่
38 พนั ทบั อยอู่ อกมา 10. ดึงปลายเชอื กใหต้ งึ 11. ตดั ปลายเชอื กตรงจดุ ทช่ี ดิ กบั ดา้ ยพนั (ระวงั การตดั พลาดไปโดนดา้ ยพนั ) 12. เกลย่ี สายใหเ้ รยี งชดิ กนั กอ่ นการเคลอื บดว้ ย อพี อ๊ กซ่ี เรซนิ่ ในขนั้ ตอนตอ่ ไป การพนั เส้นด้ายกบั ฐานไกด์ของคนั เบด็ เป็นงานศลิ ปะอยา่ งหน่งึ ที่วงการตกปลานยิ มทากัน มาก ท้งั นก้ี ารพนั ดา้ ยดังกลา่ วสามารถสร้างลวดลาย และสที ่ีสวยงามได้ เม่ือข้นั ตอนการพันด้าย เสรจ็ แล้วก็จะนาไปเคลอื บเรซิ่น ด้วยขั้นตอนง่ายๆ ดังน้ี 1. ชดุ อปุ กรณเ์ คลอื บดา้ ยพันไกดด์ ว้ ยอพี อ๊ กซี่ เรซน่ิ 2. ใชพ้ กู่ นั แบนทาอีพอ๊ กซล่ี งบนดา้ ย พนั 3. ทาอีพอ๊ กซรี่ อบดา้ ยพนั ทง้ั 2 ดา้ น 4. หยดเรซน่ิ ลงทชี่ อ่ งวา่ งทข่ี าไกดก์ บั คนั เบด็ 5. ใชไ้ ฟแชก๊ ไลฟ่ องอากาศในเนอื้ เรซนิ่ 6. งานเคลอื บอพี อ๊ กซ่ี เรซนิ่ เสรจ็ แลว้ การใชอ้ พี ๊อกซ่ี เคลือบด้ายพนั นี้ ยังใช้กบั ส่วนอน่ื ของคันเบ็ดอกี ดว้ ยคอื สว่ นหนา้ ของด้ามจบั และส่วน ของดา้ มจับ ที่สามารถพันเส้นด้าย ใหม้ ีลวดลายตา่ งๆ หลากสีสนั จดั ไดว้ ่าเป็นงานทต่ี ้องใช้ฝีมอื พอสมควร อีพ๊อกซี่ เรซ่นิ น้ันแห้งตัวค่อนข้างช้า หากวางคนั เบ็ดในตาแหน่งเดมิ มนั จะไหลย้อยลงดา้ นล่าง เขาจงึ ต้องใชอ้ ปุ กรณ์ ท่ปี ระกอบกบั มอเตอรร์ อบช้า ชว่ ยหมุน คนั เบด็ ไปรอบๆ อุปกรณ์ตวั น้มี ีผผู้ ลิตออกมาขาย แตก่ ็ สามารถทาใชเ้ องไดไ้ มย่ าก เพราะมอเตอรร์ อบชา้ มี ขายอย่ทู ั่วไป ส่วนฐานรบั คันเบ็ดก็ทาจากไมธ้ รรมดา
39 งานเรซน่ิ แบบน้ี ส่วนมากเปน็ งานของวงการตกปลา แต่ขั้นตอนการทางานกเ็ หมือนการ เคลือบอี พ๊อกซี่ เรซนิ่ กบั วัสดทุ ่ัวไป เพียงแต่มขี น้ั ตอนการทางานต่างกนั เทา่ นั้นเอง 2. ใชโ้ พลเี อสเตอร์ เรซน่ิ กบั งานทาเหยอื่ ปลอมตกปลา เปน็ งานทว่ี งการตกปลาเรม่ิ ทากนั มาต้ังแต่ปี 2519 เม่ือนักตกปลายุคน้ัน ตอ้ งสัง่ ซ้ือเหยือ่ ปลอมทท่ี าจากเรซน่ิ เข้ามาใชง้ านกัน เหยือ่ ปลอมท่ีทาจากเรซ่นิ เหลา่ น้ัน เปน็ แบบหัวเหยือ่ ที่มีพู่หางเป็นพลาสตกิ สีต่างๆ นิยมใช้กบั งานลากเหย่อื (Trolling lure) สว่ นของหัวเหยอ่ื นนั้ ทาจาก โพลเี อสเตอร์ เรซน่ิ โดยหล่อจากแม่พิมพ์ ซิลโิ คน ทงั้ แบบแม่พมิ พผ์ า่ และแม่พมิ พ์ 2 หน้า งานหล่อเรซ่ินหัวเหยือ่ ตกปลานี้ มีท้งั แบบหลอ่ ทบึ ซึ่งเหมือนกับงานหลอ่ รซน่ิ ทว่ั ไปดงั ทไี่ ด้แนะนา ไปแล้วแต่ตน้ และหลอ่ ใส มองเห็นแกนในของหัว เหย่อื ซง่ึ มีขัน้ ตอนพอสมควรดังนี้ - การหลอ่ หวั เหยอ่ื เรซนิ่ ดว้ ยแมพ่ มิ พซ์ ลิ โิ คน การทาแม่พมิ พซ์ ลิ ิโคนนนั้ ไดแ้ นะนาไปแลว้ แต่ต้น ส่วนตน้ แบบท่เี ป็นหวั เหยอื่ ปลอมตกปลา ก็มาจาก 2 ทางคอื ทางแรกเปน็ ต้นแบบทมี่ ีขายอยแู่ ลว้ จากรา้ นขายอุปกรณ์ตกปลา ทางทีส่ อง ทาข้ึนเองจากการกลงึ ไม้ หรือซอื้ ไม้ท่อนกลมตามขนาดทต่ี อ้ งการ นามาเหลาข้นึ รปู เป็นหัวเหย่ือ ปลอมตามแบบที่เลือก ขัดตกแตง่ แล้วแล้วพ่นสีใหเ้ กดิ ความเรียบเงา นาไปเปน็ ตน้ แบบหลอ่ ซิลโิ คน ซ่ึงจะหล่อแบบแมพ่ มิ พ์ช้ินเดียวแลว้ ผ่า หรือหล่อแบบ 2 หน้า ก็ขึน้ อยูก่ ับวา่ จะหลอ่ หวั เหย่ือแบบใด (แม่พิมพแ์ บบ 2 หนา้ เหมาะกับการหลอ่ ที่ต้องการ แบ่งหัวเหย่อื เปน็ 2 สี) การทาแกนในของหวั เหยอ่ื เปน็ สว่ นสาคัญทตี่ อ้ งจดั ทาเอาไวก้ อ่ นการหลอ่ เรซนิ่ ทง้ั นแ้ี กน ในดังกล่าวมีจดุ ประสงค์ 2 ประการคือ ประการแรก เพื่อเพม่ิ น้าหนักให้กบั หัวเหยื่อ ( ตอ้ งการใช้งานในระดับน้าลึกลงไป) โดยใช้ แกนในเปน็ ตะกวั่ ซง่ึ หล่อจากแม่พิมพ์ปูนพลาสเตอร์ (ส่วนหนึ่งหลอ่ จากแม่พิมพ์อลูมนิ ่ัม) ประการที่สอง เพื่อการตกแต่งหัวเหยอื่ ให้เปน็ ทส่ี นใจของปลาที่ลา่ เหย่ือทวั่ ไป โดยตดิ สต๊ิกเกอร์สะทอ้ นแสง, การใสต่ าปลอม หรือทาแกนในให้เป็นรูปหวั ปลา
40 หัวเหยือ่ ดงั กล่าวนี้ จะนาไปประกอบกบั สายลีดเดอร์ (สายพิเศษนี้มที ้ังสายไนลอ่ น และสาย ลวดสลงิ ใช้ตอ่ จากปลายสายเบด็ ตกปลา) ซึ่งตอ้ งรอ้ ยผา่ นรกู ลางหวั เหยื่อ ดังนัน้ ในการหลอ่ หัว เหยอ่ื ด้วยเรซ่นิ จึงตอ้ งใช้ท่อทองเหลืองใช้เปน็ รใู ห้ สายลีดเดอร์ร้อยผ่านได้ ทั้งนเ้ี วลาหล่อตะกวั่ แกนใน ก็ จะวางหลอดทองเหลอื งอย่กู ลางแกนใน การหลอ่ หวั เหย่อื ด้วยเรซ่นิ นั้น โดยท่วั ไปจะทา การหล่ออยู่ 2 รปู แบบด้วยกนั คอื 1.แบบหลอ่ ทึบ วธิ นี หี้ วั เหยอ่ื จะถกู ผสมสแี บบทึบแสง หรอื ผสมผงแป้งทลั คมั เพอ่ื เพม่ิ ความ ทบึ ให้กบั หวั เหยอื่ การหล่อหัวเหยือ่ แบบนี้ สามารถใชแ้ ม่พมิ พ์แบบผ่าได้ เพราะไม่ตอ้ งกงั วลท่จี ะ จดั วางแกนในแบบใด เนอ่ื งจากมองไมเ่ ห็นแกนในอย่แู ลว้ 2. แบบหลอ่ ใส การหลอ่ เรซน่ิ วิธนี ี้ ไมผ่ สมสกี บั เนอ้ื เรซนิ่ หรอื หากจะผสมสบี า้ ง กใ็ ชส้ แี บบ ไมท่ บึ แสง ทาใหเ้ หน็ แกนในทีต่ กแต่งด้วยสต๊ิกเกอรส์ ะท้อนแสง และตาปลาปลอม ดังนั้นจงึ ต้อง ใชแ้ ม่พมิ พ์แบบ 2 หน้า เพื่อการจดั วางแกน ใน ให้อยใู่ นตาแหน่งที่ถูกต้อง โดยเฉพาะ กับหัวเหย่ือ ท่ีส่วนปลายตดั เฉียง หรอื ต้องการหลอ่ แบบ 2 สี คือใหส้ ีเขม้ อยดู่ า้ นบน ก็จะทาได้งา่ ยกวา่ ใชแ้ มพ่ มิ พ์แบบผ่า การหลอ่ หวั เหยอ่ื แบบทึบน้นั ไม่ค่อยมีปัญหาเทา่ ใดนกั ใชแ้ ม่พิมพแ์ บบผา่ หรือแบบถลกก็ ได้ แตถ่ า้ เปน็ การหล่อใสทม่ี องเห็นแกนในของหัวเหยื่อ ก็จะต้องตกแต่งแกนในให้เรยี บร้อยก่อน จะหลอ่ เรซน่ิ ทั้งการใชแ้ มพ่ ิมพ์แบบ 2 หน้า หรอื แมพ่ มิ พ์ประกบ ซ่ึงจะจัดวางตาแหน่งแกนในได้ถูกต้อง อยา่ งไรก็ตามยังมวี ิธหี ล่อหัวเหย่ือ ดว้ ยเรซิ่นอีกวธิ ี หน่ึงคอื การใชฟ้ ิลไ์ มลา่ รม์ าทาเป็นแม่พมิ พ์ โดยม้วน แผน่ ฟิล์มไมล่าร์ หน้ากว้าง 10 ซม. กับทอ่ กลมอย่างเชน่ ทอ่ นา้ พีวซี ี, ด้ามปากกาเขยี นไวท้ ์บอรด์ แล้วยึดติดดว้ ย เทปกาวใส ไดเ้ ป็นหลอดฟลิ ์มไมล่าร์ ซึ่งจะนาไปปักลง บนกอ้ นดนิ น้ามัน ลึกลงไปสกั 2 ซม. จากน้ันนาแกนในหวั เหยอื่ มาปกั ลงไปกลางหลอด ฟมิ ล์ ไมลา่ ร์ ปรับใหอ้ ยคู่ งท่ี แล้วเทเรซ่นิ ลงในหลอดฟลิ ม์ ไมล่าร์ ดว้ ยความใสของเน้อื ฟิลม์ ทา ใหเ้ ราเห็นปรมิ าณเรซิ่นทีเ่ ทลงไปว่า ได้ขนาดทต่ี อ้ งการหรอื ยัง แกนในอยตู่ รงกลางหรอื ไม่
41 1. จดั วางแกนในหวั เหยอ่ื ลงในแม่พมิ พ์ 2. เทเรซนิ่ ผสมสปี ระมาณคร่งึ แกนใน กรณีตอ้ งการ หวั เหยอื่ 2 สี 3. ปะกบแม่พมิ ์ 2 หนา้ เขา้ ดว้ ยกนั แลว้ เทเรซนิ่ อกี สจี นเตม็ แมพ่ มิ พ์ 4. หวั เหยอื่ จากแมพ่ มิ พ์ 5. ตวั อยา่ งหวั เหยอ่ื แบบ 2 สี 6. หวั เหยอื่ แบบหลอ่ ทบึ การหล่อหวั เหย่ือจากแม่พมิ พฟ์ ิลม์ ไมล่าร์ เราสามารถที่จะเลือกขนาดของหวั เหยื่อไดต้ าม ตอ้ งการ แต่เราจะตอ้ งมาตกแตง่ หัวเหย่อื เอาเองดงั ตวั อย่างด้านล่าง 1. หวั เหยอ่ื ทห่ี ลอ่ จากฟลิ ม์ ไมลา่ ร์ 2. บากสว่ นทา้ ยหวั เหยอ่ื เพอ่ื ใช้ยดึ พหู่ าง 3. ตกแตง่ ให้ รอยบากเอยี ง 4. ตกแตง่ รอยบากใหเ้ รยี บรอ้ ย 5. ตกแตง่ สว่ นปลายหวั เหยอ่ื ใหม้ น 6. ขดั หวั เหยอ่ื ใหเ้ รยี บเสมอกนั 7. ขดั หวั เหยอื่ ดว้ ยกระดาษทราบละเอยี ด 8. หวั เหยอ่ื ทขี่ ดั ดว้ ย ขผี้ งึ้ ขดั เรซนิ่ จนเงาใส แล้ว
42 การตกแต่งหัวเหยื่อทห่ี ล่อจากฟิลไ์ ม่ล่ารต์ ามภาพ เขาใช้สวา่ นไฟฟ้าแทนการใช้เครือ่ งกลงึ ไม้ ซึง่ ก็ใชง้ านไดด้ เี ชน่ กนั - การหลอ่ เหยอื่ ปลาปลอมดว้ ยเรซนิ่ เดมิ มานน้ั เหยอื่ ปลาปลอมทาจากไม้ (ปจั จบุ นั กย็ งั มี อยูบ่ ้าง) ต่อมาจึงผลิตจากพลาสตกิ ซง่ึ ทาได้รวดเรว็ กวา่ และทาให้มสี ีสันตามที่ต้องการไดง้ ่าย กว่าทที่ าจากไม้ ซึง่ ต้องผ่านหลายขั้นตอนมาก อย่างไรก็ตามเหยื่อปลาปลอม สามารถหลอ่ จากเรซ่นิ ไดเ้ ชน่ กัน แต่กต็ ้องไปผ่านขน้ั ตอนการทาสี เหมอื นเหย่ือปลาปลอมท่ีทาจากไม้ เหยอ่ื ปลาปลอม (Plug lure) มีอยหู่ ลายรูปแบบ ด้วยกัน เชน่ แบบไดเวอร์ (Diver plug) แบบป๊อบเปอร์ (Popper plug ) และแบบดารท์ เตอร์ (Darter plug) แหยอ่ื ปลาปลอมทงั้ 3 แบบนัน้ ล้วนมีรูปทรงเรียวยาว เหมอื นๆ กัน และมีเพยี งแบบไดเวอร์ เทา่ นั้นท่ีมี ลน้ิ (Lip) ควบคมุ การดาน้าใหด้ าตืน้ หรอื ลึกได้ โดยรวมแล้วเหยอ่ื ปลาปลอมนัน้ จะหลอ่ เรซน่ิ จาก แมพ่ มิ พแ์ บบ 2 หนา้ หรือแมพ่ ิมพป์ ระกบ เพราะต้องวาง แกนลวดกลางตวั เหย่อื เพ่ือใชป้ ระกอบกับตวั เบ็ด จึง ต้องจดั วางแกนลวด ในตาแหน่งท่กี าหนดไวใ้ นแม่พมิ พ์ เหยอ่ื ปลาปลอมแบบหลอ่ เรซนิ่ น้ี เหมอื นกับงานหลอ่ เรซ่ินทั่วไป และเป็นการหล่อแบบทึบ จากนั้นจงึ มาทาการตกแต่งสภี ายหลัง 1. เตรยี มเหยอื่ ปลาปลอมตน้ แบบลงในกรอบหลอ่ แมพ่ มิ พซ์ ลิ โิ คน 2. เทซลิ โิ คนลงในกรอบแมพ่ มิ พ์ 3. กรดี ดว้ ยคดั เตอรป์ ลายแหลมเปน็ รอยหยกั แบ่งแมพ่ มิ พอ์ อกเปน็ 2 ส่วน 4. แม่พมิ พซ์ ลิ โิ คนทผ่ี า่ ออกเปน็ 2 สว่ นแลว้
43 5. ทาดา้ นในสว่ นทจ่ี ะเทเรซนิ่ ดว้ ยวาสลนิ 6. ตดิ ตง้ั ห่วงร้อยตวั เบด็ กา้ นเกลยี ว (โดยรวมแลว้ ห่วงรอ้ ยตวั เบด็ มกั จะดดั ลวดสแตนเลส เปน็ หว่ ง ใหเ้ ปน็ ชดุ เดยี วทงั้ 2-3 หว่ ง ซงึ่ จะแขง็ แรงกวา่ หว่ งกา้ นเกลยี ว) 7. ปดิ แมพ่ มิ พเ์ ขา้ ท่ี และเทเรซนิ่ ทเ่ี ตรยี มไว้ 8. ไดช้ นิ้ งานรปู เหยอ่ื ปลาปลอมออกมา ตดั สว่ นเทเรซน่ิ และเศษเรซนิ่ ทเ่ี กนิ ออกไป 9. พน่ สตี วั เหยอื่ ปลาปลอม และระบายสใี นสว่ นทพี่ น่ ไมไ่ ด้ 10 . ตดิ ตาปลาปลอม 11. เคลอื บดว้ ยอพี ๊อกซ่ี และ 12. เหยอ่ื ปลาปลอมทเี่ สร็จแลว้ 13. นาเหยอื่ ปลาปลอมไปทดสอบ 14. ปลาทตี่ กไดจ้ ากเหยอื่ ทสี่ รา้ งขนึ้ มา 15. เหยอื่ ปลาปลอมแบบเดยี วกนั ทที่ าสตี า่ งจากกนั ไปหลายแบบ เหย่ือปลาปลอมทีท่ าขึน้ มาน้ี เปน็ แบบ ดารท์ เตอร์ (Darter) ซง่ึ ไมม่ ีลิน้ บงั คับการดานา้ เชน่ เดียวกนั กบั เหยื่อปลาปลอมแบบ ป๊อปเปอร์ (Popper) ซ่ึงการทาแมพ่ มิ พ์ทั้ง 2 แบบดงั กลา่ วจะ งา่ ยกวา่ ทาแม่พมิ พเ์ หยือ่ ปลาปลอมแบบ ไดเวอร์ (Diver) ซึง่ มลี ้ินบงั คับการดานา้ ทัง้ แบบลิ้นในตัว และแบบลิน้ ประกอบภายหลัง ซึ่งมที ้ังล้นิ โลหะ และ ลนิ้ พลาสตกิ ในกรณที าเหย่อื ปลาปลอมดว้ ยไม้
44 ตน้ แบบเหยอ่ื ปลาปลอมนัน้ สามารถทาได้ 2 ทางด้วยกนั คอื สร้างต้นแบบข้นึ มาเอง (ต้องมี ฝีมือพอสมควร) และ ใชต้ น้ แบบที่เขามีขายอยู่ หรอื ขอซ้อื เหยอ่ื ปลาปลอมเก่าจากนักตกปลา มา ทาสใี หม่ ซึ่งเปน็ วิธีท่ีงา่ ยกวา่ อยา่ งไรก็ตามงานทาเหยื่อปลาปลอมจะดูสวยงาม ก็จะอยูท่ ฝี่ ีมือ การทาสีกบั ตวั เหยื่อ ถา้ ใชแ้ อร์บลชั (Air brush) ได้ งานก็จะออกมาดมี าก - การทาเหยอื่ จกิ๊ ดว้ ยเรซน่ิ เหยอื่ จกิ๊ เปน็ เหยอ่ื ปลอมประเภทหนง่ึ ทใี่ ชอ้ ยกู่ บั งานตกปลา เป็นเหยอ่ื ทมี่ นี ้าหนักมาก เพื่อให้เหย่อื จมลกึ ลงไปใต้น้า ใชต้ กปลาหากินตามพนื้ ทอ้ งทะเล เท่าท่ี นกั ตกปลาใช้กันมอี ยู่ 2 รูปแบบคือ แบบตัวเบด็ ตายตวั และแบบตัวเบ็ดอสิ สระ ซึ่งเป็นแบบที่ สามารถทาข้ึนจากเรซิ่นได้ อยา่ งไรกต็ ามเหยอื่ จิ๊กเป็น เหยอ่ื มีนา้ หนกั มากกว่าเหยอื่ ปลอมทั่วไป จึงใช้โลหะมา ทาเปน็ ตวั เหยื่อ แตเ่ รซนิ่ น้นั มนี า้ หนักไมม่ ากพอ จึงต้อง เลือกใชว้ ธิ เี พ่มิ นา้ หนกั ซึ่งทาได้ 2 วิธดี ว้ ยกนั คอื - แกนในตัวเหยอ่ื เปน็ โลหะ ซงึ่ ใชต้ ะกว่ั นามาหลอม ทาแกนในตัวเหยอื่ เหมือนกบั การทาแกนในหัวเหย่ือ ดังที่เคยแนะนาไปก่อนแลว้ ดังน้นั จึงต้องหล่อแกนในจากตะกวั่ ด้วยแม่พิมพ์ ปูนพลาสเตอร์ ซงึ่ คอ่ นข้างงา่ ย และประหยดั แตจ่ ะใช้ งานไดไ้ ม่นาน ทั้งนจี้ ะตอ้ งปลอ่ ยใหป้ ูนพลาสเตอรแ์ ห้งจรงิ ๆ เสียกอ่ น จึงจะเทตะก่ัวลงไปได้ หาก ปนู พลาสเตอร์ยังไมแ่ ห้งดี จะเกิดไอนา้ ประทุผ่านตะกวั่ ทห่ี ลอมเหลวขนึ้ มาได้ จากน้นั จึงนา แกนตะก่ัวไปหลอ่ เรซน่ิ ทบั อีกที จะหลอ่ แบบ ทบึ หรอื หลอ่ ใสก็ได้ ถา้ หลอ่ ใสตอ้ งตกแต่ง แกนในตะกัว่ ให้มีสีสัน หรือทาเป็นรปู ปลา ซง่ึ เหย่ือจก๊ิ ส่วนมากจะทาได้ยาก และยงั ไมม่ ีใคร ทา สว่ นหลอ่ ทึบสามารถใสสีในเนอ้ื เรซิ่น ทัง้ สี ธรรมดา. สีโลหะ หรอื สีสะทอ้ นแสง - ใสต่ ะกวั่ เมด็ กบั เนอ้ื เรซน่ิ เราสามารถผสมวสั ดตุ า่ งๆ กบั เนอื้ เรซนิ่ ได้ ดงั นน้ั จงึ ใชต้ ะกวั่ เมด็ หรือฟวิ ส์หลอดเสน้ ใหญ่ นามาตัดเปน็ ท่อนสัน้ ๆ ใสกับเน้อื เรซน่ิ เพอ่ื เพ่ิมนา้ หนักให้กบั ตวั เหย่อื แม้จะทาน้าหนักได้ไม่เท่าโลหะลว้ นๆ แต่กท็ าไดง้ า่ ยกวา่ กนั มาก อาจเรยี กวา่ เป็นการ หลอ่ เยน็ ตรงกนั ขา้ มกบั การหล่อโลหะทเ่ี รียกวา่ หลอ่ ร้อน ส่วนตน้ แบบเหยือ่ จิก๊ น้ัน จะเหลาดว้ ยไม้ หรือซือ้ จากท่เี ขาขายอยู่ (ใครมีเพื่อนเป็นนกั ตก ปลาขอยมื เขาก็ได้) กง็ ่ายดไี มต่ ้องลงมอื ทาเอง ชอบแบบใดก็เลือกซอ้ื แบบน้นั
45 งานทาเหยอื่ จิก๊ ด้วยเรซน่ิ แบบแรก กค็ งต้องทาแกนในตัวเหย่ือกันก่อน ซงึ่ สามารถทาได้ หลายแบบเชน่ พันตะก่วั เสน้ (ใชก้ บั งานบัดกรี) กบั เส้นลวดแกนใน, ผสมเม็ดตะกว่ั กบั เรซนิ่ , และ หล่อตะก่วั เปน็ แกนใน ตามภาพทน่ี ามาแนะนากนั ดงั นี้ ตามภาพด้านบนนนั้ เป็นการทาแกนในเหยือ่ จ๊กิ 3 รูปแบบดว้ ยกนั คอื 1. เปน็ การใชฟ้ วิ ส์งานบดั กรพี นั รอบลวดแกนตัวเหยอื่ จกิ๊ 2 ชน้ั 2. แลว้ ทบั ฟวิ สต์ ะกวั่ ท่พี นั ใหแ้ บนลงเลก็ นอ้ ย สามารถใสล่ งในแม่พมิ พไ์ ด้ 3. เปน็ การหลอ่ เรซน่ิ ผสมเมด็ ตะกวั่ โดยเลอื่ ยไมก้ ารฝมี อื เปน็ รปู แกนในตัวเหยอื่ (เลก็ กวา่ เหยอ่ื จก๊ิ ตวั จรงิ เลก็ นอ้ ย) แลว้ วางแกนลวดกลางชอ่ งทเี่ จาะ 4. ตดั เสน้ ตะกว่ั ฟวิ สเ์ ปน็ ทอ่ นเลก็ ๆ พอใชก้ บั แกนในตวั เหยอื่ 5. ตดิ แผน่ ฟลิ ม์ ไมลา่ รด์ า้ นลา่ งแผน่ ไม้ เพ่อื ไมใ่ หเ้ รซน่ิ หลอ่ ตดิ แผน่ กระดาษรอง แลว้ ผสม เมด็ ตะกว่ั ทตี่ ดั กบั เรซน่ิ เทลงในชอ่ งไมแ้ บบทเี่ ตรียมไว้ 6. จะไดแ้ กนในตวั เหยอื่ จกิ๊ แบบเรซน่ิ ผสมเมด็ ตะกวั่ พรอ้ มใชง้ าน 7.เปน็ การหลอ่ ตะกวั่ ทาแกนในตวั เหยอื่ จก๊ิ วธิ นี ถ้ี า้ ไมต่ อ้ งการทาแมพ่ มิ พต์ ะกวั่ จากปนู
46 พลาสเตอรโ์ ดยตรง (ตอ้ งรอนาน 2-3 วนั กวา่ ปนู พลาสเตอร์จะแหง้ ตัว) กใ็ ชว้ ธิ แี กะแมแ่ บบจาก แท่งปนู พลาสเตอรท์ แี่ ห้งแล้วตามภาพ 8. เทตะกว่ั ลงในแบบทแ่ี กะ (ตามภาพนน้ั เทลน้ แบบเกนิ ไปหนอ่ ย) 9. ตกแตง่ ตะกวั่ แกนในตวั เหยอ่ื ใหไ้ ดข้ นาดตามทตี่ อ้ งการนาไปใชง้ าน การทาแมพ่ มิ พ์ยางซลิ โิ คนจากเหยอ่ื จิ๊กของจริง ก็ทาไดง้ า่ ยดังนี้ 1. เหยอ่ื จก๊ิ นา้ ลกึ ตน้ แบบ 2. สรา้ งกรอบแมพ่ มิ พจ์ ากไมก้ ารฝมี อื ตดิ ดว้ ยกาวรอ้ น โดยไมต่ อ้ งปดิ ไมด้ า้ นลา่ ง 3. อดั ดนิ นา้ มนั ลงในกรอบแม่พมิ พ์ สูงประมาณครง่ึ กรอบ แล้วใชแ้ ทง่ ไมก้ ดใหเ้ รยี บ 4. วางเหยอ่ื จก๊ิ ลงกลางแทง่ ดนิ นา้ มนั ใชป้ ลายลวดขดี เสน้ รอบตวั เหยอื่ แลว้ ใชล้ วดทาเปน็ หว่ ง ขดู ดนิ นา้ มนั เปน็ รอ่ งเทา่ เสน้ ขอบทข่ี ดี ไว้
47 4. วางเหยอื่ จก๊ิ ตน้ แบบลงในรอ่ งดนิ นา้ มนั กดใหจ้ มลงในรอ่ งครงึ่ ตัวเหยอ่ื แลว้ ใชแ้ ท่งไม้ ตกแตง่ ดนิ นา้ มนั รอบตัวเหยอ่ื 5. ใชแ้ ทง่ ไมป้ ลายมน กดเปน็ หลมุ รอบตวั เหยอื่ เปน็ การทาสลกั แมพ่ มิ พ์แบบงา่ ยๆ 6. การหาปรมิ าณยางซลิ โิ คนใหพ้ อดที ่ีจะเทลงแม่พมิ พ์ เลอื กใชข้ า้ วสาร (ใชท้ รายละเอยี ด จะดที ส่ี ดุ ) เปน็ ตวั หาปรมิ าณ 7. เทขา้ วสารลงในกรอบแมพ่ มิ พ์ แลว้ เกลยี่ ใหพ้ อดกี บั กรอบแมพ่ มิ พ์ 8. เทขา้ วสารจากกรอบแมพ่ มิ พ์ ลงในถว้ ยผสมยางซลิ โิ คน แลว้ ใช้ปากกาเมจกิ ขดี แนว ระดบั ขา้ วสารในถว้ ย ทง้ั นจี้ ะเทยางซลิ โิ คนลงในถว้ ย เกนิ เสน้ ทขี่ ดี เลก็ นอ้ ย เพราะยางซลิ โิ คน สว่ นหน่ึงจะตดิ กบั ถว้ ย ทาใหป้ รมิ าณขาดไป 9. จดั เตรยี มยางซลิ โิ คน และอปุ กรณท์ ใ่ี ชง้ าน เชน่ ถว้ ยผสมซลิ โิ คน, ไมก้ วน และเครอื่ งชงั่ ดจิ ิตอล เพอื่ ใชเ้ ชค็ นา้ หนกั ยางซลิ โิ คน ใหถ้ กู ตอ้ งกบั อตั ราสว่ นทีจ่ ะผสมกบั ตวั ฮารด์ เดนเนอร์ 10. เทยางซลิ โิ คนลงทบั ตวั เหยอ่ื ตน้ แบบ จนเตม็ ถงึ ขอบของกรอบแม่พมิ พ์ ถา้ หากหา ปรมิ าณซลิ โิ คนไดถ้ กู ตอ้ ง กจ็ ะเทไดเ้ ตม็ กรอบแมพ่ มิ พพ์ อดี 11. เมอื่ ยางซลิ โิ คนแห้งตวั แลว้ กพ็ ลกิ กรอบแม่พมิ พข์ นึ้ แลว้ งดั เอาดนิ นา้ มนั ออกมา จะเหน็ สลกั แมพ่ มิ พท์ เ่ี ปน็ ตมุ่ นนู รอบตัวเหยอ่ื ตน้ แบบ 12. ทาวาสลนิ ทย่ี างซลิ โิ คนชน้ิ แรกใหท้ ว่ั แลว้ เทยางซลิ โิ คนครง้ั ที่ 2 ลงทบั ชน้ิ แรก (ปรมิ าณซลิ โิ คนจะเทา่ กบั การหาปรมิ าณครง้ั แรก เพราะแบ่งคร่งึ แม่พมิ พไ์ วแ้ ลว้ ) เมอ่ื ยางซลิ โิ คน แห้งตัวดแี ลว้ เมอื่ แกะแยกออกจากกนั กจ็ ะไดแ้ ม่พมิ พย์ างซลิ โิ คนแบบ 2 หนา้ ออกมา สว่ นการหล่อเรซนิ่ เหยือ่ จก๊ิ กม็ ขี ั้นตอนเหมอื นที่ไดก้ ล่าวถึงไปแล้วแต่ตน้ 1. ปะกบแม่พมิ พส์ องหนา้ เขา้ ดว้ ยกนั ปะกบแผน่ ไมท้ งั้ 2 ดา้ น แลว้ รดั ดว้ ยหนังยาง 2. เทเรซน่ิ ผสมผงทลั คมั ลงในแมพ่ มิ พ์ (ไมต่ อ้ งผสมสี เพราะจะมาสที าภายหลัง) 3. เหยอ่ื จก๊ิ เรซนิ่ ทห่ี ลอ่ เสรจ็ แลว้ นามาตกแตง่ และขดั ใหเ้ รยี บกอ่ นนาไปพน่ สที ตี่ อ้ งการ 4. เลอื กใชส้ ที องพน่ ทบั แลว้ พน่ แลคเกอรท์ บั อกี 2 ครัง้ เทยี บกบั เหยอ่ื จกิ๊ ตน้ แบบ จะเหน็ ได้วา่ ขัน้ ตอนการทาเหยอ่ื จิ๊กดว้ ยเรซิ่นนน้ั ก็ไม่ต่างไปจากงานหลอ่ เรซน่ิ ทั่วไป เพียง เพิม่ ข้นั ตอนการทาแกนใน ให้มนี า้ หนกั ขนึ้ มาเทา่ นัน้ เอง
48 โดยรวมแล้วนัน้ เหยือ่ จ๊กิ นา้ ลกึ นน้ั ทาข้นึ มาจากโลหะตะกว่ั หรอื โลหะผสม ทีม่ นี า้ หนัก มาก แล้วนามาชบุ โครเมยี ม, ตดิ สตก๊ิ เกอร์ หรือทาสีต่างๆ เราจะไม่เหน็ เหย่อื จิ๊กแบบ ที่เปน็ สีใส มองเหน็ แกนใน ทง้ั นี้จะทาไดจ้ ากการหลอ่ เรซน่ิ เท่านัน้ ตวั อย่างทนี่ ามาแนะนากนั น้ี เปน็ การ หล่อเรซ่นิ ทม่ี ีแกนในเป็นโลหะตดิ สติก๊ เกอร์ แต่ตัวเหยือ่ น้ันไม่ใชเ่ หยอ่ื จกิ๊ โดยตรง เพียงนามา เป็นตัวอย่างให้เห็นถงึ การหลอ่ เรซน่ิ ใส ซึง่ เหยอื่ จ๊กิ ก็ทาไดเ้ ชน่ กนั 1. ตดิ สตกิ๊ เกอรก์ บั ตวั เหยอื่ ทจี่ ะทาเปน็ แกนใน 2. ตดั สตกิ๊ เกอรท์ ตี่ ดิ ออกใหพ้ อดกี บั ตวั เหยอ่ื 3. วางตวั เหยอ่ื ลงในแมพ่ มิ พท์ เี่ ตรียมเอาไว้ (แมพ่ มิ พด์ ังกลา่ วทาเอาไวก้ บั เหยอ่ื ปลอมตวั จรงิ กอ่ นแลว้ ) 4. แลว้ ปะกบแมพ่ มิ พช์ นิ้ ท่ีสอง กบั แม่พมิ พช์ น้ิ แรก 5. ยดึ แมพ่ มิ พ์ ให้คงทโ่ี ดยปะกบแผน่ ไม้ แล้วจับยดึ ดว้ ยปากกาจับไม้ จากนนั้ เทเรซน่ิ ใสลงในแมพ่ มิ พ์ 6. เมอื่ เรซน่ิ แหง้ ตวั แล้ว แกะออกจากแมพ่ มิ พ์ ตดั เรซน่ิ สว่ นเกนิ ออกไป 7. ตดิ ตาปลา ปลอมกบั ตวั เหยอื่ 8. นาไปชบุ อพี อ๊ กซ่ี เรซน่ิ ใส อกี คร้ัง 9. งานเหยอื่ ปลอมแบบใส การเคลอื บเหยอ่ื ปลอมดว้ ยอพี อ๊ กซี่ เรซนิ่ นัน้ ก็ เหมอื นกับการเคลอื บ ด้ายพันฐานไกด์ของคันเบด็ ตก ปลา หากวางคงทที่ ่ีจุดใด มันจะไหลย้อยลงดา้ นล่าง เสมอ จงึ ตอ้ งหมนุ เหย่อื ปลอมทเ่ี คลือบไปรอบๆ ใหอ้ ี พอ๊ กซี่ เรซ่นิ ท่ีเคลอื บมีความหนาเท่าๆ กันโดยรอบ ไม่ ยอ้ ย หรือหนาไปทางดา้ นใดดา้ นหนึ่ง อปุ กรณด์ ังกล่าว นที้ าใช้ไดเ้ องจากมอเตอร์หมุนช้า ซึง่ มขี ายอยู่ท่วั ไป
49 วงการตกปลานนั้ มเี หยื่อปลอมท่ใี ชก้ บั งานตกปลาหลายรูปแบบดว้ ยกนั และส่วนหน่งึ สามารถทาขึ้นใช้เองไดจ้ ากการหล่อดว้ ยเรซนิ่ ดงั ตัวอยา่ งที่ไดแ้ นะนาไปแล้ว แต่กม็ ีเหยื่อปลอม ตกปลาบางแบบทเี่ ป็นเหย่อื มนี า้ หนกั เบาลอยอยู่ทผ่ี วิ นา้ เช่น เหยื่อกบปลอม (เรียกกนั ทวั่ ไปว่า กบกระโดด) ท่ีใชต้ กปลาช่อน และปลาชะโด, เหย่อื กุ้งปลอมปลอมตกปลาหมึก เปน็ ตน้ เหยือ่ ปลอมดังกล่าวกใ็ ชว้ ธิ ีหลอ่ เรซนิ่ เชน่ กนั เพยี งแต่ผสมผงเบา ประเภทไมโครบอลลูน กับเรซ่ิน กจ็ ะ ทาใหช้ ิ้นงานมคี วามเบาลอยน้าได้ ส่วนประกอบ ของเหยอื่ ปลอม อย่างหนง่ึ ก็คือ ตาปลาปลอม ซ่ึงทา ไดจ้ ากอีพ๊อกซีเ่ รซน่ิ เปน็ งานเรซิน่ ทที่ าออกมาใชเ้ ปน็ ตาสตั วป์ ลอม ท่วั ไป กับวงการตกปลาทท่ี างานเก่ยี วกบั เหยอื่ ปลอมใช้กนั มาก งานเรซ่นิ ทาตาปลอมน้ี ไม่เชิง เป็นงานหลอ่ เรซ่ิน เป็นเพยี งหยดอีพ๊อกซี่ เรซน่ิ ลงบนสตกิ เกอรท์ ท่ี าเลยี นแบบลกู ตาเอาไว้ ลกั ษณะของอพี ๊อกซ่ี เรซ่ิน ท่ีมีความขน้ จึงทรงตวั เปน็ หยดนา้ นนู ๆ เหมือนกบั ส่วนโค้งของลูกตา ขัน้ ตอนการทาตาปลาปลอมกเ็ ป็นไปอย่างา่ ยๆ ดังน้ี 1. ตดิ เทปกาวลงบนกระดาษแขง็ (ดา้ นซา้ ยมอื เปน็ เหลก็ ตอกรหู ลายขนาด) 2. เลอื กสตกิ๊ เกอรแ์ บบสะทอ้ นแสง และเทปพนั สายไฟฟา้ สดี า มาทาเปน็ พน้ื ของลกู ตา เลอื ก ขนาดเหลก็ ตอกรู ขนาดทพ่ี อเหมาะที ใ่ี ชเ้ ปน็ พืน้ ตาดา้ นใน หรอื ตาขาว
50 3. ตอกเหลก็ เจาะรกู บั สตกิ๊ เกอรส์ ะทอ้ นแสง (เปน็ ตาดา้ นใน หรอื ตาขาว) 4. แกะสตกิ๊ เกอรท์ ตี่ อกแลว้ ออกมาตดิ ลงบนเทปกาวทเ่ี ตรยี มไว้ 5. ตดิ เรยี งกนั บนเทปกาวตามจานวนทีต่ อ้ งการ 6. เลอื กเหลก็ ตอกรขู นาดเลก็ กวา่ อนั แรก เพอ่ื ทาเปน็ ตาปลาปลอมสดี า 7. ตอกเหลก็ เจาะรลู งบนเทปพนั สายไฟฟา้ สดี า 8. แกะสว่ นทต่ี อกออกมาจากเหลก็ เจาะรู แลว้ ตดิ ลงทก่ี ลางสตกิ๊ เกอร์ ทเี่ ปน็ ตาดา้ นใน หรอื ตาขาว กจ็ ะเปน็ ตาปลาปลอมเรมิ่ ตน้ 9. ส่วนของตาปลาปลอมทท่ี าจากสตกิ๊ เกอร์ พรอ้ มนาไปใชง้ านแล้ว 10. หยดอพี อ๊ กซ่ี เรซน่ิ (บางชนดิ เวลาผสมสว่ น A กับ B จะเปน็ สขี าวขนุ่ ) ลงบนตาปลา ปลอมสตก๊ิ เกอร์ 11. ใชป้ ลายเขม็ เขย่ี ฟองอากาศทเี่ กดิ กบั อพี อ๊ กซ่ี เรซน่ิ บนตาปลาปลอมบางอนั 12. เมอ่ื อีพอ๊ กซ่ี เซน่ิ แหง้ ตวั แลว้ จะใส ทาใหช้ นิ้ งานเหมอื นตาปลาจรงิ บางทา่ นอาจใช้ตาสัตว์ปลอมที่เปน็ พลาสตกิ ซึ่งมีตาดาทเ่ี คลื่อนไปมาได้ มขี ายทั่วไปตาม ร้านเครื่องเขยี น หรอื สงั่ ซอ้ื ตาปลาปลอมแบบ 3D (เป็นการเรียกตาปลาปลอมท่ีทาจาก อี พ๊อกซ่ี เรซ่นิ จากรา้ นขายอุปกรณ์ตกปลาบาง แหง่ ) กไ็ ด้ ขน้ึ อย่กู บั รูปแบบของเหยือ่ ปลอมท่ีจะทาข้นึ มา ว่าเป็นแบบใด วงการตกปลานน้ั นาเรซ่ินหลายรูปแบบมาใช้ งาน ดังที่ได้แนะนาเปน็ ตัวอย่างไปสว่ นหน่ึงแล้ว แต่ก็ ยงั มีอปุ กรณต์ กปลา และเหยือ่ ปลอมตกปลาอกี หลาย ประเภทท่ีใช้เรซ่ิน รวมทัง้ งานซ่อมแซมอุปกรณต์ ก ปลาหลายอยา่ งเชน่ ซอ่ มเหย่อื ปลอม, ดา้ มคนั เบด็ , มือจบั รอกตกปลา เหล่านีเ้ ปน็ ต้น
Search