1
2 คำนำ บำ้ นเรำรู้จกั ใช้ เรซ่นิ ( R esin ) มำนำนแลว้ ในรปู แบบหนึ่งของ พลำสติก ผ้เู รยี บ เรียงเคยเข้ำอบรมงำนเรซ่นิ กับ กองบรกิ ำรอตุ สำหกรรม ของกระทรวงอตุ สำหกรรม เม่อื ปี 2512 ต่อมำมีผ้ขู ำยอปุ กรณ์เกีย่ วกบั เรซิ่นเพ่ิมข้นึ จึงมีกำรเปิดอบรมจำกผขู้ ำยหลำยแห่ง งำนเรซน่ิ เปน็ ทีร่ ้จู กั กนั มำกกวำ่ เดิม กม็ ำจำกกำรเปิดเฟสบคุ้ ของคนรกั งำนดำ้ นน้ี จนมี กลุ่มงำนเรซ่ินหลำยกลมุ่ ด้วยกนั งำนเรซ่ินจึงได้รับควำมสนใจอยำ่ งแพรห่ ลำย เฟสบุค้ กลุ่ม เหลำ่ นั้น ส่วนมำกจะเปิดคอร์สสอน กำรใช้งำนเรซ่นิ ใหก้ บั ผู้สนใจท่ัวไปอยู่ดว้ ย ในอดีตมหี นงั สือเก่ียวกบั งำนพลำสตกิ (เรซ่ินเปน็ สว่ นหนงึ่ ของพลำสตกิ ) อยู่ 2-3 เลม่ ปัจจบุ ันมเี พิ่มขน้ึ มำอกี หลำยเล่ม แต่สว่ นมำกจะเปน็ งำนเรซ่นิ เพียงด้ำนเดียวคือ หลอ่ เรซน่ื เป็นรปู ทรงต่ำงๆ อยำ่ งไรก็ตำมงำนเรซ่ินมีอย่หู ลำยอยำ่ งด้วยกัน ผ้เู รยี บเรียงจึงได้จดั ทำ หนังสือ คูม่ ืองำนเรซนิ่ ขน้ึ มำ ซึ่งจะใช้เป็นประโยชนใ์ ห้กบั ผู้สนใจกับงำนทำงด้ำนนี้ เรซ่ินเปน็ วัสดตุ ้นนำ้ ทสี่ ำมำรถนำไปใชง้ ำนไดห้ ลำกหลำยอย่ำงมำก สดุ แต่วำ่ ผู้ใชจ้ ะ นำไปใชง้ ำนแบบใด ซง่ึ หนงั สอื เลม่ นีจ้ ะนำเอำงำนเรซ่ิน ในหลำยรปู แบบของกำรใชง้ ำน มำ แนะนำกนั เพือ่ ใช้เปน็ แนวทำงใหผ้ ูส้ นใจกบั งำนทำงดำ้ นน้ี ไดน้ ำไปใช้เป็นประโยชน์. เกย่ี วกบั หนังสอื เล่มนี้ กำรจัดพมิ พ์หนังสือแบบกระดำษในจำนวนน้อยนน้ั มีตน้ ทุนค่อนขำ้ งสูงมำก แมจ้ ะ จัดพิมพแ์ บบขำว/ดำแลว้ ก็ตำม ดังนั้นหนงั สือ คมู่ ืองำนเรซนิ่ จงึ ตอ้ งจดั ทำออกมำในรปู แบบ ไฟล์ PDF ซ่ึงสำมำรถอำ่ นได้ทำงสมำรท์ โฟน, โนต้ บุ้ค และ พซี ี และสำมำรถจัดพมิ พม์ ำเป็น หนังสอื เล่มได้ (ร้ำนถ่ำยเอกสำรสว่ นมำกรบั พิมพ์ และเขำ้ เล่มให)้ ซง่ึ จะชว่ ยใหผ้ ู้เรียบเรยี ง ไม่ต้องหำเงินทุนเพอื่ จัดพิมพ์ อนึ่งไฟล์ PDF นี้ ส่วนของภำพประกอบเปน็ 4 สีท้งั หมด ไฟล์ PDF ของหนังสอื เลม่ น้ี มขี นำด A4 ซ่งึ จะช่วยใหภ้ ำพประกอบ มีขนำดใหญ่เหน็ ไดช้ ัดเจน แตต่ ัวหนงั สอื ในเล่มอำจมีขนำดเลก็ ( ขนำด 14 พ้อยท)์ ซง่ึ จะเหมำะกับกำรพมิ พ์ ออกมำเปน็ หนังสือเลม่ อยำ่ งไรก็ตำมกำรอำ่ นไฟล์ PDF น้นั เรำสำมำรถขยำยไดต้ ำม อัตรำส่วน (หลำยขนำด) ของไฟล์ประเภทนี้ เนื่องจำกกำรจัดสง่ ไฟล์ PDF ทำงเฟสบุ้ค กำหนดไวไ้ มใ่ หเ้ กิน 25 MB แตห่ นงั สือเลม่ น้ี เปน็ ไฟล์ท่ีมขี นำดมำกกว่ำ จึงต้องแบ่งออกเป็น เลม่ 1 และ เล่ม 2 ทัง้ นเ้ี นอ้ื หำสำระของ หนังสือนั้นต่อเนือ่ งกัน ซึง่ อำจเปน็ อปุ สรรคในกำรอ่ำนแบบต่อเนอ่ื งอยบู่ ้ำง แตก่ ็หวงั วำ่ คงไม่ มำกจนเกนิ ไป ต่อกำรติดตำมสำระของหนังสือตัง้ แต่ต้นจนจบ.
3 สำรบำญ คำนำ 2 บทนำ 4 รปู แบบของพลำสตกิ 6, เรซนิ่ จำกธรรมชำติ และเรซ่ินสังเครำะห์ 6 เรือ่ งของเรซ่นิ แบบเทอร์โมเซ็ทต้ิง 9 , สำรผสมกับเรซิ่น 10 งำนเรซนิ่ 8 ประเภท 14 เรซ่ินกบั ยำงซลิ โิ คน 14 เรอ่ื งของยำงซลิ ิโคนทำแมพ่ ิมพ์ 15 ยำงซลิ โิ คนทำแมพ่ มิ พ์ 17 ยำงทำแม่พิมพ์ซลิ ิโคน 4 แบบ 17-19 แมพ่ มิ พย์ ำงซลิ ิโคน 21 แมพ่ ิมพ์ยำงซิลโิ คน 3 แบบ 21 กำรสรำ้ งกรอบแมพ่ มิ พ์ 22 อปุ กรณท์ ำกรอบแม่พมิ พ์ 26 กำรผสมยำงซลิ โิ คนทำแมพ่ มิ พ์ 29 กำรสรำ้ งแมพ่ ิมพย์ ำงซลิ โิ คนแตล่ ะแบบ 30 วิธีทำแม่พิมพ์ยำงซลิ ิโคนแต่ละแบบ 30-39 เรซน่ิ กบั งำนหลอ่ 40 อปุ กรณก์ ำรหลอ่ เรซน่ิ 42 สำร และสผี สมกบั เรซนิ่ 43 1. งำนหลอ่ เรซนิ่ 46 กำรหล่อเรซนิ่ 4 แบบด้วยแม่พิมพ์ซิลิโคน 46-51 งำนซอ่ มแซมด้วยเรซน่ิ 52 2. งำนเรซนิ่ กบั ไฟเบอรก์ ลำส 54 กำรปแู ผน่ ใยแกว้ กบั โครงเรอื 57 กำรสรำ้ งโครงเรอื ชวั่ ครำว 57 วิธีสร้ำงเรือไฟเบอรก์ ลำสแบบ One-off 57-62 กำรออกแบบตกแตง่ ภำยในตวั เรอื 63
4 คู่มอื งำนเรซ่ิน บทนำ กอ่ นท่เี รำจะทำงำนกับวสั ดเุ รซิ่น กค็ งต้องมำทำควำมรู้จกั กบั เรซนิ่ ( R esin ) กนั กอ่ นว่ำ มนั คืออะไร เรซิ่น ( R esin) เป็นคำทม่ี ำจำกภำษำฝร่ังเศสว่ำ resine และจำกภำษำละตินวำ่ resina ซึ่งมีควำมหมำยถึง น้ำยำงจำกตน้ ไมท้ ี่ปลอ่ ยออกมำ เพ่ือปกคลมุ สว่ นทีเ่ สียหำยจำกกำร กัดแทะของสัตว์ หรอื เพื่อป้องกันแมลงที่กัดกนิ เปลอื กไม้มำ รบกวน ต่อมำมนั จะกลำยเปน็ ของแขง็ ปัจจุบันคำว่ำ เรซิ่น ถูก นำไปใชก้ ว้ำงกว่ำเดิม โดยหมำยถึงของเหลว ทีถ่ ูกทำใหแ้ ข็ง ไดใ้ นภำยหลงั ด้วยสำรเคมบี ำงอยำ่ ง เชน่ ชแลค (Shellac) ซ่ึง เป็นเรซิ่นที่ไมไ่ ด้มำจำกต้นไม้ แต่ไดม้ ำจำกแมลงชนดิ หนงึ่ ที่ อำศัยหำกินอยู่ตำมต้นไม้ สว่ น เรซ่นิ ชแลค ทีแ่ ห้งแล้วจะเป็น เกลด็ สนี ้ำตำลอ่อน และจะละลำยดว้ ยแอลกอฮอล์ ซึง่ ใช้กันใน วงกำรช่ำงไม้มำแต่โบรำณ รวมทงั้ ชำ่ งไม้บำ้ นเรำด้วย เรซิ่นท่ไี ด้จำกพชื นเ้ี รียกกันว่ำ Plant resin ชำวอยี ปิ ต์ใน ยุคหลำยพนั ปกี อ่ น ใชเ้ รซิน่ จำกตน้ ไมบ้ ำงชนดิ ท่กี ลำยเป็น ก้อนแข็งมกี ล่ินหอม ซงึ่ นำมำใชเ้ พือ่ พิธีกรรมทำง ศำสนำ เรซิ่นท่ีได้มำจำกพืชน้ี ถูกนำไปใช้งำน คอ่ นขำ้ งหลำกหลำยท้ังทำเปน็ เครื่องหอม, ยำ รักษำโรค, กำรเคลอื บไม,้ ใชเ้ ปน็ กำว และทำเป็น ของกำนลั ทีม่ ีค่ำเช่น อำพนั (Amber) เป็นต้น เรซ่นิ ทไี่ ดม้ ำจำกพืชเหลำ่ น้ี แยกออกได้เป็น 3 รูปแบบดว้ ยกนั คือ แบบแรกเรียกว่ำ โอลีโอเรซ่ิน ( O leo resin ) เปน็ เรซิ่นที่สำมำรถนำมำสกัด เป็นนำ้ มนั หอมระเหย ซึง่ สำมำรถนำไปใช้เปน็ เครอ่ื งหอม, ยำ และใช้กับ กำรปรุงอำหำรได้ เช่น Juniper oleoresin
5 แบบทส่ี อง เรยี กวำ่ กมั เรซน่ิ ( G umresin ) เป็นเรซิ่นในรูปแบบของ ยำง ( G um ) ที่ นำไปใชง้ ำนไดห้ ลำยอยำ่ งท้งั ทำเปน็ กำว, สกดั เอำ น้ำมันหอมระเหย และใชเ้ ปน็ ยำได้ด้วย เชน่ Myrrh gum resin หรือ Mountain Rose Herbs แบบทสี่ ำม ถูกเรียกกันว่ำ ฟอสซิลเรซ่นิ ( F ossilresin ) เปน็ เรซน่ิ ที่แขง็ ตัวแล้ว มำแตย่ ุค โบรำณ โดยมีซำกของแมลงยุคนั้น ตดิ ค้ำงอยู่ภำยใน เป็นรูปแบบของฟอสซิล เรซ่ินท่ีแข็งตวั จะอยู่ในลกั ษณะกอ้ นอำพัน ส่วนน้ำยำง ทีม่ ำจำก ต้นยำงพำรำ ( P ara rubber tree ) น้ัน มีสีขำวเหมอื นน้ำนมขน้ แม้จะอยู่ในขำ่ ยของเรซนิ่ แตถ่ กู เรยี ก แยกไปเป็น ลำเทก๊ ซ์ ( L atex) ซึ่งจะถูกนำไปทำใหแ้ ขง็ ตวั แตก่ ็ จะยังนม่ิ และยดื หยุ่นไดด้ ี จงึ ถูกเรยี กวำ่ รบั เบอร์ ลำเทก๊ ซ์ ( r ubber latex ) น้ำยำงสขี ำวข้นที่ออกจำก ผวิ ลำต้นไม้หลำย ชนดิ เกิดจำกกำรถกู ทำใหเ้ กิดรอยจำกแมลง หรอื จำกเครือ่ งมือ ของผู้คน ซึง่ จะอยใู่ นข่ำยของลำ เทก๊ ซ์ท้งั สิ้น แม้แตน่ ำ้ ยำงทีก่ รดี จำก ผลฝนิ่ ( O pium ) กอ็ ยใู่ นข่ำยของลำเทก๊ ซ์เช่นกัน ในช่วงสงครำมโลกครงั้ ที่ 2 (2482-2486) ได้มกี ำรค้นพบ พลำสตกิ ( P lastic) ทั้งนไ้ี ดส้ ังเครำะหม์ ำจำก น้ำมนั ดบิ ( C rude oil ) ตวั ของน้ำมนั ดบิ เองนน้ั พบมำกอ่ นสงครำมโลก ครง้ั ที่ 2 นำนแลว้ และไดผ้ ำ่ นกำรกล่ันมำเปน็ นำ้ มนั เชอ้ื เพลิง ออกมำหลำยรูปแบบด้วยกนั ในกำรนำไปใชง้ ำน นำ้ มันดิบ ( C rude oil ) มชี ่อื เปน็ ทำงกำรวำ่ ปโิ ตรเล่ียม ( P e troleum ) เกดิ จำกกำรทับ ถมของซำกสิ่งมีชีวิตดกึ ดำบรรพ์ (สว่ นมำกเป็นแพลงต้อนสตั ว์ และสำหรำ่ ย) มีกำรนำเอำมำทำ
6 เชอื้ เพลิงมำแต่ยุคโบรำณ ตอ่ มำได้สกัดออกมำในรปู แบบนำ้ มนั เชอื้ เพลงิ หลำยรูปแบบ เช่น น้ำมันดเี ซล ( D iesel ) เบนซนิ (Benzin ) น้ำมันกำ๊ ด (Kerosene ) เป็นต้น และส่วนหนึง่ ได้ สังเครำะห์ออกมำเปน็ พลำสตกิ ( P lastic ) จำกภำพด้ำนบน จะเห็นเส้นทำงของนำ้ มันดบิ ถูก สังเครำะห์ออกมำหลำกหลำยรปู แบบ สว่ นของพลำสตกิ นน้ั ถอื ไดว้ ำ่ เป็นส่วนนอ้ ยนิด แต่เรำกไ็ ด้ เหน็ ผลิตภัณฑ์ จำกพลำสติกมำกมำยอยู่รอบตัวเรำโดยตลอดมำ พลำสตกิ ที่ไดจ้ ำกกำรสังเครำะห์มำนั้น มีรูปแบบเปน็ ท้งั ของแข็ง (เป็นเม็ดพลำสตกิ ) และ ของเหลวข้น ซึ่งถูกเรียกวำ่ เรซ่นิ ( R esin ) เน่ืองจำกเป็นเรซน่ิ ทีเ่ กิดจำกกำรสังเครำะห์ จงึ เรยี กวำ่ ซนิ เทติก เรซน่ิ ( S ynthetic resin : synthetic หมำยถึง เกิดจำกกำรสังเครำะห์) เรซนิ่ จำกพลำสตกิ นี้ มีบทบำทตอ่ วงกำรอตุ สำหกรรม ในยุคหลังจำกสงครำมโลกครง้ั ท่ี 2 อยำ่ ง มหำศำล ในชวี ิตประจำวนั ของประชำกรโลก ตอ้ งเกี่ยวข้องกบั พลำสติกไม่อย่ำงใดกอ็ ย่ำงหน่ึง โดยรวมแลว้ ผู้คนทว่ั ไปจะเหน็ พลำสติก อยู่ในรปู ของแขง็ เป็นหลัก ซึง่ บำงส่วนก็เป็นแบบ อ่อนนุ่ม เรำจะไมไ่ ด้เห็นพลำสติกในรูปแบบ ของเหลวกันเทำ่ ใดนัก ทง้ั นพ้ี ลำสตกิ ที่เป็น เรซิน่ เหลวนัน้ จะกลำยมำเป็นพลำสตกิ แข็งใน ภำยหลัง จำกขบวนกำร 2 รปู แบบคือ แบบแรก จำกกำรทำใหเ้ มด็ พลำสตกิ ที่ เปน็ ของแขง็ นำมำหลอมละลำยเป็นของเหลว ดว้ ยควำมร้อน เกดิ เป็นรูปแบบของเรซิน่ ซ่งึ เรียกวำ่ Plastic resin แล้วเท หรือฉีดเขำ้
7 แม่พิมพ์ ออกมำเปน็ ผลิตภณั ฑ์ต่ำงๆ ต้งั แต่ชิน้ งำนขนำดเลก็ เช่น เมด็ ลูกปัด ไปจนถงึ ผลิตภณั ฑ์ขนำดใหญ่เช่น ถงั เก็บนำ้ หรอื แมแ้ ตเ่ รือขนำด 10-15 ฟตุ ก็ทำได้ แบบท่สี อง เปน็ พลำสตกิ ทเี่ ปน็ ของเหลวโดยตรง หรอื เปน็ เรซนิ่ อยแู่ ลว้ เมอื่ ผสม สำรเคมีบำงอยำ่ งเข้ำไป แลว้ เทลงในแม่พิมพ์ ก็จะทำให้เรซน่ิ กลำยเปน็ ของแขง็ ข้ึนมำ พลำสติกในกลุ่มน้มี ีหลำกหลำยชนดิ มำก (มำกกวำ่ 20 ชนิดดว้ ยกนั ) แตก่ ับงำนท่ีเรำๆ ทำ่ นๆ จะเห็นกนั ท่วั ไป เชน่ รปู คน, สตั ว์, เครอื่ งประดับตำ่ งๆ นนั้ ใช้เรซนิ่ อยูเ่ พียง 2-3 ชนิดเท่ำนน้ั ซ่ึงหนงั สือเล่มนจี้ ะนำวิธกี ำรใชเ้ รซิ่นดังกลำ่ วมำแนะนำกัน โดยรวมแล้วเรซน่ิ แบบของเหลวหลำกหลำยชนดิ นั้น หลำยชนิดด้วยกันไม่มขี ำย ในบำ้ นเรำ (อำจมบี ้ำงที่ใช้กบั วงกำรอตุ สำหกรรม) จึงเปน็ เหมอื นกบั ว่ำเรำตอ้ งซื้อเรซิ่น ตำมทีร่ ้ำนจำหน่ำยผลิตภณั ฑ์ ไปตำมที่มกี ำรจำหนำ่ ยเทำ่ นน้ั แตก่ ม็ ำกพอท่ีจะนำมำใช้ งำนไดห้ ลำยประเภทของงำนตำมทเ่ี รำต้องกำร ท้ังน้ีจะข้นึ อยู่กบั วำ่ เรำต้องกำรทำงำน แบบใด, ต้องกำรประหยัดตน้ ทุนเท่ำใด เรำกเ็ ลอื กซือ้ เรซิ่นให้ตรงกับวัตถุประสงค์ ไป ตำมรปู แบบของงำนทีเ่ ลอื กอำไว้ จะช่วยให้เรำทำงำนได้ง่ำย และประหยัดต้นทุน
8 พลำสตกิ เรซ่นิ ท้ัง 2 แบบดงั กล่ำวน้นั แบบแรก เปน็ งำนแบบอุตสำหกรรมเป็นหลัก เป็น เรื่องยำกที่เรำๆ ทำ่ นๆ จะทำกนั ได้เอง สว่ นแบบทสี่ องนัน้ เป็นท้งั งำนอตุ สำหกรรม เชน่ กำรตอ่ เรอื , ทำถังน้ำขนำดใหญ่ และงำนเลก็ ๆ นอ้ ยๆ ท่ีใครก็สำมำรถทำไดด้ ้วยตวั เอง ซึง่ เป็นสิ่งที่ หนังสอื เล่มนี้ จะแนะนำวธิ ตี ่ำงๆ ที่ใชว้ สั ดุประเภทเรซนิ่ เป็นสว่ นประกอบที่สำคญั ในกำรทำงำน พลำสตกิ ทั้ง 2 แบบนนั้ แตกตำ่ งกันในคุณสมบัติเป็น 2 รูปแบบคือ แบบ เทอรโ์ มพลำสตกิ (Thermoplastic) เปน็ พลำสติกทถ่ี กู หลอมเหลวดว้ ยควำมรอ้ น ก่อนจะฉดี เข้ำแมพ่ ิมพ์เป็นพลำสติกแข็ง ในรูปผลติ ภณั ฑต์ ่ำงๆ พลำสติกแบบนส้ี ว่ นมำก จะนำมำหลอมละลำยด้วย ควำมรอ้ นกลับเป็นพลำสติกเหลว ทำเป็นผลิตภณั ฑ์ ต่ำงๆ ไดใ้ หม่อีกคร้ัง แต่คณุ ภำพจะลดลงไปเรือ่ ย ( D egradation ) ในกำรนำกลบั มำใชง้ ำนใหม่ แบบ เทอรโ์ มเซท็ ตงิ้ พลำสตกิ (Thermosetting plastic) เปน็ พลำสตกิ ที่ เป็นของเหลว หรอื เรซิน่ เม่อื ผสมสำรเคมี บำงตวั กจ็ ะกลำยเปน็ ของแข็ง พลำสตกิ ในลักษณะนี้ ไม่สำมำรถใชค้ วำมรอ้ น หลอมใหเ้ หลวได้อกี เลย เรำจะเห็นควำมแตกต่ำง ของพลำสติกท้ัง 2 แบบ ซึ่งแบบ เทอรโ์ มพลำสตกิ นั้น มีขน้ั ตอน ยงุ่ ยำกในกำรทำงำน เหมำะกับงำนอุตสำหกรรม เทำ่ นั้น ส่วนแบบเทอร์โมเซ็ทตงิ้ พลำสตกิ นัน้ เหมำะกบั กำรทำงำน แบบชำวบำ้ นทว่ั ไป ท้งั แบบ ชิ้นงำนเล็กๆ แบบ รปู หลอ่ คน หรือสตั ว,์ ของชำรว่ ย และแบบอุตสำหกรรมคอื กำรผลิตเรอื ไฟ เบอรก์ ลำส, ทำกนั ชนรถยนต์, มำ้ นัง่ เป็นต้น ดังนัน้ เรำจะมำทำควำมรจู้ กั กบั เรซ่ิน ทีเ่ ปน็ พลำสตกิ แบบเทอรโ์ มเซ็ทติ้งกันก่อน เพรำะ เรซ่นิ กลมุ่ นม้ี อี ยู่หลำยอยำ่ งดว้ ยกัน ทั้งนี้เพอื่ ใหเ้ ปน็ แนวทำงในกำรเลือกใช้เรซิ่น ให้เหมำะกับ งำนทจ่ี ะลงมอื ทำ จะได้ลดควำมเสียหำยในกำรเลือกใช้เรซ่นิ ผดิ ประเภท
9 เรอื่ งของเรซนิ่ แบบ Thermosetting plastic เทอร์โมเซ็ทตง้ิ พลำสติก (Thermosetting plastic มกั เรียกสั้นๆ ว่ำ Thermoset plastic ) เปน็ พลำสติคทอ่ี ยู่ในรูปของเหลวทเ่ี รียกวำ่ เรซิน่ (Resin ) เมอ่ื ถูกผสมดว้ ยสำรเคมบี ำงชนดิ ก็ จะทำให้เน้ือเรซ่ินกลำยเป็นของแข็ง สำมำรถทำเปน็ รปู ทรงตำ่ งๆ ได้เชน่ กัน แต่ไม่สำมำรถนำ กลับมำทำเป็นของเหลวไดอ้ กี (หำกใช้ควำมร้อนมำกกบั เนื้อเรซิน่ ท่ีแขง็ ตัวแลว้ มนั จะถกู เผำ ไหม้กลำยเป็นเถ้ำ) พลำสติกในกล่มุ น้ที ่ีเรำพบเหน็ ไดบ้ อ่ ยหนอ่ ยก็คอื เมลำนีน (Melanin ) ท่ีใช้ ทำถว้ ยชำม และภำชนะบรรจอุ ำหำรอืน่ ๆ อพี อ๊ กซี่ (Epoxy) ใช้กับอปุ กรณไ์ ฟฟ้ำ, เคลือบพน้ื หรือผนงั และกำว โพลีเอสเตอร์ (Polyester ) ใชเ้ คลือบพ้ืน/ผนัง ซ่งึ ในวงกำรเรอื , วงกำร อุตสำหกรรม ทค่ี นุ้ เคยกันมำกคือ เม่ือนำมำใช้รว่ มกบั ใยแก้ว (Fiberglass ) ใช้ทำเรอื , ถงั นำ้ , สไลเดอร์ จำกพลำสตกิ ทั้ง 2 กลุม่ ส่วนที่เกย่ี วข้องกบั งำนสรำ้ งเรือไฟเบอร์กลำสนน้ั มักใช้ พลำสตกิ กลมุ่ ท่ี 2 คอื กล่มุ เทอร์โมเซท้ ตง้ิ ซึง่ ได้แก่ โพลีเอสเตอร์ เรซ่นิ (Polyester resin ) ซ่ึง มอี ยูห่ ลำยระดับ หรอื หลำยเกรด ให้เลือกใชก้ บั งำนสรำ้ งเรือไฟเบอร์กลำสนัน่ กค็ ือ 1. เกรดออโธฟำลคิ เรซนิ่ (Orthophthalic resin ) โพลเี อสเตอร์เกรดนใ้ี ชก้ นั ทว่ั ไปกบั งำนหลอ่ เป็นรปู ทรงต่ำงๆ เคลือบรูป, ถงั นำ้ , กนั ชนรถยนต์ หลงั คำแผน่ ใส และกบั งำนสร้ำงเรอื ไฟเบอรก์ ลำส เหล่ำนีเ้ ป็นตน้ 2. เกรดไอโซพำลคิ เรซน่ิ (Isophthalic resin ) มคี ณุ สมบตั ิทนกรด/ดำ่ ง และทนทำนกำร กดั กร่อนไดด้ กี วำ่ เกรดออโธฟำลคิ ใชก้ บั งำนเคลอื บพ้ืน, ถังนำ้ และกบั งำนสร้ำงเรอื ไฟเบอร์ กลำส ในสว่ นกำรสรำ้ งแม่พิมพเ์ รอื 3. เกรดไวนลิ เอสเตอร์ เรซน่ิ (Vinlyester resin) มีคณุ สมบัตทิ นกรด/ด่ำง ได้มำกกวำ่ เกรดอื่น นิยมใช้ทำท่อ, เคลือบพนื้ , เคลอื บบอ่ นำ้ ใชก้ ับงำนสรำ้ งแมพ่ ิมพ์เรือด้วยเชน่ กัน 4 . เกรดอพี อ๊ กซี่ เรซนิ่ (Epoxy resin ) มคี ุณสมบัติหลำกหลำยในกำรใช้งำน มีควำมใส ในตวั มำกกวำ่ เกรดอื่น ใช้ทำท่อแรงดนั สูง, ถังแกส และมคี วำมยึดเหน่ียวสงู จึงนยิ มนำมำทำเป็น กำว (Adhesive ) หมำยเหตุ ดเู พิ่มเติมเรซ่นิ อีกหลำยชนดิ ตอนท้ำยเล่ม 2
10 เรซิ่นท้งั 4 เกรดนน้ั มีรปู แบบเป็นของเหลวข้น ค่อนข้ำงใส ตัวเรซิ่นจะใชไ้ ดน้ ้ัน ก็ต้องผสม สำรละลำย สไตรีน โมโนเมอร์ (Styrene Monomer : วงกำรสรำ้ งเรือไฟเบอรก์ ลำสบ้ำนเรำ เรยี กกนั วำ่ โมโนสไตรีน) สำรละลำยตัวนจ้ี ะช่วยลดควำมหนืดของเรซ่ิน (เมอ่ื เรซิ่นที่ใช้งำน หนืดตวั มำกคือ ขน้ มำก ก็สำมำรถเติมสำรละลำยโมโนสไตรีน ให้ควำมข้นลดนอ้ ยลงได้) โมโนสไตรีนจะทำให้เรซิน่ แข็งตวั ได้อย่ำงช้ำๆ แมอ้ ยู่ในอณุ หภูมหิ ้องธรรมดำ ขบวนกำรน้ี เรียกวำ่ โพลเี มอร์ไรเซช่ัน (Polymerization ) ดงั น้ันเรซนิ่ จึงมีอำยกุ ำรใชง้ ำน หรืออำยใุ นกำรเก็บทีจ่ ำกัด ในช่วงเวลำ หน่งึ ซงึ่ จะค่อยๆ ข้นขึน้ จนถงึ แขง็ ตวั ประมำณ 10-12 เดอื น กำรทเี่ รซิน่ แข็งตวั ช้ำๆ แบบน้ีนำมำใช้งำนไมไ่ ด้ จึงต้องอำศัย สำรเคมอี ีก 2 ชนิด มำชว่ ยเร่งให้เรซ่ินแข็งตัวเรว็ ขนึ้ นั่นกค็ อื 1. สำรเพมิ่ ปฏกิ ริ ยิ ำ (Accelerator cobalt) คำว่ำ เอค เซลเลอเรเตอร์ (Accelerator ) หมำยถงึ ตวั ช่วยเร่ง หรือ เครอ่ื งเรง่ ส่วน โคบ้อลท์ (Cobalt ) เป็นแร่ธำตุชนดิ หนึ่ง เมื่อ ผำ่ นขบวนกำรทำงเคมีแลว้ จะมีรูปแบบเป็นของเหลวสีม่วงเข้ม (Cobalt blue ) ใช้เป็นสำรเร่ง ปฎิกิรยิ ำใหก้ บั เรซิน่ แห้งตัวเร็วขน้ึ โคบ้อลท์ทีใ่ ชผ้ สมกบั เรซนิ่ มอี ยู่หลำยชนดิ ด้วยกัน (Cobalt naphthenate, Cobalt octoate, or Cobalt neodecanoate ) ขึ้นอยู่กับว่ำจะใช้กับโพลี เอสเตอรเ์ รซนิ่ เกรดใด ทำงร้ำนขำยอุปกรณ์ ไฟเบอรก์ ลำส จะเลอื กเรซน่ิ ทเ่ี ขำมีขำยอย่ใู ห้ ตำมชนดิ ท่ีลกู ค้ำต้องกำรนำไปใชง้ ำน โคบอ้ ลทน์ ้ชี ่ำงไฟเบอรก์ ลำส บำงคน เรยี กวำ่ ตัวมว่ ง (จำกสีของมัน) ทำงรำ้ นขำย อุปกรณไ์ ฟเบอรก์ ลำส เขำจะแบ่งขำยให้กบั ผู้ ตอ้ งกำรใช้ บรรจุเปน็ ขวดเล็ก จนถงึ แบบเปน็ แกลลอน อยำ่ งไรกต็ ำม ทำงร้ำนขำยอปุ กรณ์ เก่ียวกับงำนเรซิน่ จะขำยเรซน่ิ อยู่ 2 แบบด้วยกนั คือ - แบบไม่ผสมตวั เพ่ิมปฏกิ ริ ยิ ำ เรยี กวำ่ นนั โปรโมท เรซ่นิ (Non Promote resin ) เนือ้ ของเรซิ่นท่ีไมผ่ สมตัวเพมิ่ ปฏิกิรยิ ำ มีสีใสอมเหลอื งเลก็ น้อย แมว้ ่ำเรซน่ิ แบบนี้จะค่อยๆ ข้นขึน้ จนแข็งตัวไดเ้ องนน้ั แตจ่ ะเป็นไปคอ่ นข้ำงชำ้ มำกกนิ เวลำหลำยเดอื น - แบบผสมตวั เพมิ่ ปฏกิ ริ ยิ ำ เรยี กวำ่ โปรโมท เรซนิ่ (Promote resin ) เนือ้ เรซิน่ ที่ผสมตวั เพ่ิมปฏกิ ริ ิยำ หรอื โคบ้อลท์ จะเปลี่ยนเป็นสีชมพู เรซิ่นแบบน้จี ะแขง็ ตวั ได้เรว็ กว่ำแบบแรก มีอำยุ
11 กำรใช้งำนรำว 3-4 เดือน กอ่ นจะขน้ เหนียว จนแข็งตัวในทสี่ ุด โคบอ้ ลทเ์ ปน็ สำรเคมที ่ี มีผลตอ่ กำรสดู ดม และกับผวิ หนัง โดยเฉพำะอยำ่ งยิง่ จะทำปฏกิ ิริยำ กบั ตัวเร่ง (ใชร้ ่วมกบั เรซนิ่ ซงึ่ จะพดู ถงึ ในหวั ขอ้ ต่อไป) ทีว่ งกำรไฟเบอร์กลำสเรียกกนั วำ่ ตัวทำ แขง็ ทำใหเ้ กิดควำมร้อนมำก จนเกดิ เป็นเปลวเพลิงขึ้นได้ ดังน้ันหำกซือ้ โคบ้อลท์มำใช้ ควร แยกที่เกบ็ ให้ห่ำงจำกตัวเร่ง หรอื ตัวทำแข็ง แม้วำ่ ทำงผขู้ ำยเรซ่ิน จะผสมโคบ้อลทม์ ำ กบั เนอ้ื เรซนิ่ แล้วก็ตำม ในบำงกรณีช่ำงไฟเบอร์ กลำส กต็ ้องใช้โคบ้อลทเ์ พิ่มเช่น ทำงำนในชว่ ง อำกำศท่มี คี วำมช้ืนมำกเกนิ ไป หรอื ชว่ งฝนตก จำเป็นจะต้องเพ่มิ โคบอ้ ลท์ เพอ่ื ช่วยทำให้เรซิ่น แข็งตัวเรว็ ขน้ึ หรอื กบั งำนซ่อมไฟเบอรก์ ลำสที่ ตอ้ งกำรชิ้นงำนอย่ำงเร่งด่วน เป็นต้น กำรเพิม่ โคบ้อลท์ลงในเน้อื เรซน่ิ และใสต่ ัวฮำรด์ เดนเนอร์แลว้ จะเกดิ ควำมรอ้ นมำกกวำ่ ปรกติ ช้นิ งำนท่ี หล่อด้วยเรซน่ิ และใส่โคบ้อลทใ์ นเน้อื เรซิน่ มำก จะเกิดควำมรอ้ นจนชนิ้ งำนแตกร้ำวได้ 2. สำรเรง่ ปฏิกิรยิ ำ (Catalyst) เป็นสำรตัวเร่งปฏิกิริยำ ให้เรซน่ิ แขง็ ตวั เรว็ ขึน้ ช่ำงไฟ เบอรก์ ลำสเรียกกันวำ่ ตวั เรง่ หรอื ตวั ทำแขง็ สำรตวั น้ีเป็นสำรเคมชี นดิ หน่งึ มีทั้งแบบเป็น ของแขง็ และของเหลว จัดอยใู่ นกลุม่ สำรอนิ ทรีย์เปอร์ออกไซด์ (Organic Peroxide) ซ่งึ มีอยู่ หลำยชนดิ ด้วยกัน อยำ่ งเชน่ ชนิดท่ีนำมำทำเปน็ ตัวเร่ง หรอื ตัวทำแข็งใช้กับโพลเี อสเตอร์เรซิ่น 1. อพี อ๊ กซเี่ รซน่ิ แบบ 1:1 2. โพลเี อสเตอร์ เรซนิ่ และตวั เรง่ หรอื ตัวทำแขง็ ที่ขำยใน ตำ่ งประเทศ 3. โพลเี อสเตอร์ และตวั เรง่ หรอื ตวั ทำแขง็ แบบแบง่ ขำยในบำ้ นเรำ เรซ่นิ ท่ไี ด้พดู ถงึ ไปแลว้ ท้งั 4 เกรดนนั้ ใช้ตวั เร่ง และฮำร์ดเดนเนอร์ตำ่ งกนั อยูบ่ ้ำงเชน่ อพี ๊อกซี่ เรซิ่น ใชฮ้ ำรด์ เดนเนอรใ์ นกลุ่ม tetrahydrophthalic anhydride และ hexahydroph- thalic anhydride ซึง่ เป็นสำรทม่ี ีสใี ส และมีอัตรำส่วนผสมกับอีพ๊อกซ่ี เรซิ่น แบบ 1:1, 1: 2 ไป
12 จนถงึ 1:4 ขึ้นอยู่กบั งำนที่เรำทำอยู่ ผูผ้ ลติ บำงรำยจะระบุตัวฮำรด์ เดนเนอร์เป็นแบบ Fast หรอื Slow เอำไวใ้ ห้เลอื กใช้งำน ส่วนเรซ่นิ อีก 3 เกรดน้นั ใช้ตัวทำแข็ง/ ตัวเรง่ ต่ำงออกไปเปน็ แบบ Methyl ethyl ke- tone peroxide ( MEKP ) เป็นของเหลวขน้ เลก็ นอ้ ย มีสีใส และกลน่ิ ฉนุ มอี ตั รำสว่ นผสม กบั เรซ่ิน 1-3 % ตอ่ นำหนักของเรซิน่ บ้ำนเรำ แบ่งขำยฮำรด์ เดนเนอร์ ตำมทผ่ี ู้ซอ้ื ต้องกำร และ ไม่ได้ใหข้ ้อมลู อนื่ ใดกบั สำรเคมีตวั น้ี รวมท้ังตัวโคบ้อลท์ นอกจำกบอกถงึ อตั รำส่วนท่ีใช้ หมำยเหตุ สำรเคมีทง้ั ตัวเรง่ หรอื ตวั ทำแขง็ และตัวโคบอ้ ลท์ มอี นั ตรำยตอ่ กำรสูดดม และ ระคำยเคืองกบั ผิวหนัง เป็นสำรก่อใหเ้ กิดเปลวไฟ หรือระเบดิ ได้ โดยเฉพำะอยำ่ งย่ิง ตวั เร่ง หรือ ตวั ทำแข็ง กับตัวโคบ้อลท์ ผสมกนั โดยตรงไมไ่ ด้ จะเกดิ เปน็ เปลวไฟ (เวลำใชง้ ำนตัวโคบ้อลท์ ได้ถกู ผสมไปกบั ตวั เรซน่ิ แล้ว จึงเจือจำงคอ่ นขำ้ งมำก) ดังน้นั ควรเก็บแยกสำรเคมีทง้ั สองชนดิ ให้ อยู่หำ่ งกนั กำรแนะนำดงั นม้ี ิใชใ่ หผ้ ใู้ ช้ เกดิ ควำมวิตกกังวล แตเ่ ปน็ กำรเตอื นใหใ้ ช้ด้วยควำม ระมัดระวงั เอำไว้เท่ำนน้ั เอง งำนไฟเบอรก์ ลำสมีนำนมำหลำยสิบปแี ล้ว มีผเู้ กยี่ วขอ้ งอยูห่ ลำยพัน คน ก็ไม่คอ่ ยพบปญั หำในเรือ่ งนมี้ ำกเทำ่ ใดนกั นอกจำกตัวโคบ้อลท์,ตวั เรง่ และตัวฮำร์เดนเนอร์ แล้วก็ยังสำรเคมอี กี 2-3 อยำ่ งทีเ่ ก่ียวข้อง กับงำนเรซ่นิ ทวั่ ไป และงำนใชร้ ่วมกบั ไฟเบอรก์ ลำสน่ันกค็ ือ - สไตรนี โมโนเมอร์ (Styrene monomer) ตัวสไตรีนน้นั พบ ไดท้ งั้ จำกพืชบำงชนดิ และจำกขบวนกำรปิโตรเคมีคอล เป็น ของเหลวใสคล้ำยนำ้ มนั มีกล่นิ หอม ระเหยเป็นไอได้ ใช้กันมำก ในวงกำรอุตสำหกรรม ใชเ้ ป็นส่วนผสมนำ้ มันเติมรถยนต์ เปน็ สำร ตงั้ ต้นในกำรผลติ โฟม และ พลำสตคิ หลำยชนดิ ด้วยกนั วงกำรไฟเบอร์กลำสทวั่ ไปมักจะเรยี กเป็น โมโนสไตรนี (Monostyrene ) ใชผ้ สมกับเรซ่นิ ทข่ี ้นมำกจนทำงำนไดย้ ำก ให้ มีควำมหนืดน้อยลง โมโนสไตรีน ระเหยง่ำยจงึ มีอำยกุ ำรเกบ็ ค่อนขำ้ งน้อย งำนสรำ้ งเรือไฟเบอร์ กลำส ใชโ้ มโนสไตรีนไมม่ ำกนัก เพรำะไม่ค่อยมใี ครเกบ็ เรซิ่นเอำไว้นำนจนข้นใชง้ ำนไม่ได้ สำรตวั น้ตี ิดได้ไฟงำ่ ย เปน็ อนั ตรำยตอ่ ดวงตำ และกำรสูดดม ทำใหว้ ิงเวียน, มนึ งงได้ - ตวั หนว่ งปฏกิ ริ ยิ ำ (Inhibitor) ในทำนองกลบั กัน หำกเรำต้องกำรให้เรซิน่ แห้งตัวช้ำลง เพื่อใหม้ ีเวลำทำงำนมำกขึ้น กม็ ีสำรหนว่ งปฏกิ ริ ิยำ ผสมลงในเนอื้ เรซน่ิ ในอตั รำส่วน 01.-2.0 %
13 ตอ่ น้ำหนักของเรซน่ิ ควรผสมลงในโมโนสไตรนี เพือ่ ให้สำรหน่วงปฏิกิรยิ ำลดควำมขน้ หรือ หนดื นอ้ ยลง ทำให้ผสมกบั เรซ่ินได้ง่ำย ตวั หนว่ งปฏิกิรยิ ำ มอี ยหู่ ลำยตวั ดว้ ยกนั เชน่ กลมุ่ Hydroquinone : HQ และกลมุ่ Toluhy- droquinone : THQ งำนสรำ้ งเรือไฟเบอร์กลำสในบ้ำนเรำ ใชก้ ันไมม่ ำกเท่ำใดนกั ส่วนมำกจะ ใช้กบั งำนไฟเบอรท์ ่ีมีเนอ้ื ที่กวำ้ งๆ เชน่ เรือขนำดใหญ่เปน็ ต้น - อำซโี ทน (Acetone) เปน็ สำรทำละลำย หรือ ตวั ทำ ละลำย (Solvent ) เรซ่นิ ทใี่ ช้กับงำนไฟเบอร์กลำส จะลำ้ งออก ได้งำ่ ยดว้ ย อำซีโทน (คุณผหู้ ญงิ เรียกกันทัว่ ไปวำ่ น้ำยำลำ้ ง เลบ็ ) ซ่ึงเป็นของเหลวทใ่ี ส ระเหยไดง้ ่ำย เป็นสำรติดไฟ เชน่ เดยี วกับทนิ เนอร์ท่ีใชผ้ สมสี ( Paint thinner : เรียกรวมตัว ทำละลำยหลำยชนิดด้วยกัน) สำรทำละลำยหลำยตวั เช่น ทนิ เนอร์ ก็สำมำรถลำ้ งครำบเรซิ่นออกได้เชน่ กนั อยำ่ งไรก็ตำมถ้ำ เปน็ ทินเนอรเ์ กรดใช้ลำ้ งครำบสี จะทำให้แสบผวิ หนัง ซง่ึ อำซีโทนจะไมเ่ ป็นเชน่ น้นั หำกเทยี บ รำคำกนั แลว้ อำซโ๊ ทนจะมรี ำคำแพงกว่ำทินเนอรล์ ำ้ งสีพอสมควร - นำ้ ยำพวี เี อ (PVA : PolyVinyl Alcohol ) เปน็ สำรโพลเิ มอร์ สังเครำะห์ ไม่เป็นสำรพิษ ไมม่ ีกลิ่น ละลำยน้ำได้ พีวีเอทใ่ี ช้กับงำน ไฟเบอรก์ ลำส เปน็ ของเหลวใสข้นพอสมควร (ผสมน้ำใหใ้ สได้) มนั มีคุณสมบัติทนทำน ตอ่ กำรกัดกร่อนของน้ำมัน และสำรละลำยได้ หลำยตัวด้วยกัน และถกู ใชผ้ สมเปน็ กำวอยำ่ งเช่น กำวลำเท๊กซ์ พีวีเอสำมำรถสรำ้ งชัน้ ฟิล์มบำงๆ บนวัสดุท่ีเรำไม่ต้องกำรให้ เรซิ่นเกำะตดิ โดยทำ หรอื พ่นลงบนชน้ิ งำน เชน่ งำนสรำ้ งแมพ่ ิมพ์ เรือบำงกรณี กเ็ ลือกใช้พีวีเอ เพรำะถอดแบบไดง้ ำ่ ย แมว้ ำ่ ตน้ แบบจะ มีผิวไมเ่ รียบเงำนักก็ตำม - โมโนแวก๊ ซ์ (Monowax) เป็นช่อื ที่เรียกกนั ในบำ้ นเรำ ชอ่ื อย่ำงเปน็ ทำงกำรก็คือ แว๊กซ์ โซลชู ่นั (Wax Solution ถำ้ เรยี กกันเต็มๆ ก็คอื Wax in Styrene Solution ) เป็นกำรผสม พำรำฟนิ (Paraffin ) กับ สไตรนี (Styrene ) โมโนแวก๊ ซ์เป็น ตวั ชว่ ยให้ผิวหนำ้ ของเรซนิ่ หรอื เจลโคท้ ไม่เหนยี วติดมือ ใช้ ผสมเจล โคท้ พน่ หรือทำเปน็ ชัน้ แรก และผสมกับเรซ่ินทำเป็น ชน้ั สดุ ท้ำย อตั รำส่วนผสม 2-2.5 % ต่อน้ำหนกั ของเรซิ่น
14 อย่ำงไรก็ตำมงำนสร้ำงเรือไฟเบอร์กลำสจำกแมพ่ ิมพ์ ยงั ต้องใช้ ขี้ผ้งึ ถอดแบบ หรือ Mold Re- lease Wax เป็นหลกั เพรำะช่วยให้ง่ำยข้ึนต่อกำรถอดแบบ เรซ่ิน และสว่ นประกอบนน้ั มอี ยหู่ ลำกหลำยอย่ำง แต่ กับวงกำรสร้ำงเรอื ไฟเบอรก์ ลำส กไ็ มไ่ ด้ใช้หมดทุกอยำ่ ง เลือกมำใช้เปน็ บำงอย่ำงเท่ำน้ัน และไม่ต้องกงั วลว่ำจะเลือก ไมถ่ ูก ท้ังนผี้ ขู้ ำย หรือผู้จำหนำ่ ยอปุ กรณไ์ ฟเบอรก์ ลำส จะ อธิบำยให้ผ้ซู ื้อทรำบเองวำ่ ควรต้องใช้อะไรบ้ำง กับงำน สร้ำง หรือซอ่ มเรอื ไฟเบอร์กลำส จำกขอ้ มูลดงั กลำ่ วมำแลว้ นน้ั เปน็ ข้อมลู ทใี่ ชก้ บั งำนไฟ เบอรก์ ลำสเปน็ หลกั แต่พน้ื ฐำนของกำรใชเ้ รซนิ่ ท้งั อพี อ๊ กซี่ เรซนิ่ และโพลเี อสเตอร์ เรซนิ่ นนั้ เหมือนกัน ซ่ึงจะนำไปกลำ่ วถึงในขั้นตอนกำรทำงำนเรซิน่ แตล่ ะประเภทต่อไป งำนที่ตอ้ งใช้เรซนิ่ เปน็ ส่วนประกอบนนั้ สำมำรถทำได้หลำยอยำ่ งดว้ ยกัน แม้จะมีหนังสือ เก่ียวกับงำนเรซ่ินพิมพ์ออกมำหลำยเล่มแล้ว แต่จะมุ่งไปกับงำนหล่อเรซิ่น ( C asting resin) เป็นรูปทรงตำ่ งๆ เชน่ คน, สตั ว,์ ของชำรว่ ย เปน็ หลัก สว่ นหนังสือเลม่ น้ีไดแ้ ยกประเภทงำนที่ ใช้เรซน่ิ เป็นสว่ นประกอบ ออกเปน็ หลำยอยำ่ งดว้ ยกัน ซึ่งมีรำยละเอยี ดดังตอ่ ไปนี้ งำนเรซิน่ 8 ประเภท เรซ่ินกบั ยำงซลิ โิ คน บ้ำนเรำรู้จกั กบั ชน้ิ งำนหล่อเรซิ่นเป็นรูปทรงตำ่ งๆ มำนำนหลำยสิบปีแลว้ อย่ำงเชน่ รูปคน, สตั ว์, ตุก๊ ตำ, ลกู ปัด, กำไล, แหวน และอีกสำรพดั อย่ำง นอกจำกนีว้ งกำรอตุ สำหกรรม หรอื งำน ชำ่ งหลำยสำขำกใ็ ชเ้ รซิน่ หลอ่ เปน็ ช้ินส่วนประกอบของเครือ่ งมือท่ใี ช้งำน งำนหลอ่ เรซนิ่ เปน็ รูปทรงตำ่ งๆ จำเปน็ ตอ้ งอำศัย แมแ่ บบ หรือ แม่พ่มิ พ์ ( M old ) เปน็ ตัว รองรบั เรซ่นิ ทเ่ี ปน็ ของเหลว แมพ่ มิ พอ์ ำจทำจำกวสั ดุหลำยชนิด แต่ด้วยคุณสมบัตขิ องเรซิ่นที่ เกำะยึดผิวทมี่ ันสัมผัส ทำใหแ้ กะออกจำกแม่พิมพ์ได้ยำกเช่น ใช้แม่พมิ พ์ทีท่ ำจำกปนู พลำสเตอร์ แม้จะเคลือบผวิ ปูนให้มนั เงำ แต่ก็จะแกะชิ้นงำนออกได้ยำก เพรำะแมพ่ ิมพ์ปูนพลำสเตอร์นน้ั แข็ง ไม่ขยบั ตวั ให้กับช้ินงำน บำงท่ำนคิดวำ่ นำ่ จะใช้ยำงพำรำ ท่ีเขำทำแบบหลอ่ ปนู พลำสเตอร์ แต่ยำงพำรำจะไม่ทนต่อควำมร้อนขณะท่เี รซ่นิ เริ่มแข็งตวั (มคี วำมร้อนมำกพอสมควร) ดังน้นั วงกำรหล่อเรซนิ่ จงึ เลือกใช้ ยำงซลิ โิ คน ( Silicon ) มำเป็นแม่แบบในกำรหลอ่ เรซ่นิ เพรำะยำงซิลิโคนทนควำมรอ้ นได้ดี และไม่เกำะติดกับชิ้นงำนเรซ่นิ ท้งั นซี้ ิลิโคนมีควำม ยืดหยุ่น และมีควำมเหนยี วทนทำน ตอ่ กำรแกะช้ินงำนออกมำอีกด้วย
15 เร่อื งของยำงซลิ ิโคนทำแมพ่ มิ พ์ เรำๆ ท่ำนๆ คงจะร้จู ักกับ ทรำย ( S and) กนั เป็นอย่ำงดี โดยเฉพำะอย่ำงย่งิ เม่ือตอนไป เดินเที่ยวเล่นตำมชำยหำดทำงทะเล มนั คอื ซลิ ิกำ ( S ilica) ตำมธรรมชำติ เม่ือนำมำผ่ำน ขบวนกำรสังเครำะห์แล้ว กจ็ ะได้ออกมำเป็น ซลิ ิคอน ( S ilicon) ตอ่ มำไดพ้ ัฒนำมำเปน็ สำรเคมี ไซล็อกเซน (Siloxane) ซงึ่ เปน็ ทีม่ ำของ ซิลโิ คน ( S ilicone ) พื้นฐำนของซลิ ิโคนน้ัน มที ่ีใช้ งำนคอ่ นขำ้ งหลำกหลำยมำก ดว้ ยคุณสมบัติท่ดี ีในหลำยด้ำนดว้ ยกนั เช่น - ไมเ่ ปน็ พิษต่อรำ่ งกำย จึงนำมำใชก้ ับวงกำรอำหำร และ ยำ - ทนควำมรอ้ นไดด้ ี จึงถูกนำมำทำเป็นสำรหลอ่ ลืน่ - มีกำรยึดตดิ ได้ดี จงึ นำมำทำเป็นกำว - เมื่อนำมำผสมกับพลำสติก ในรปู แบบของยำง (Rubber) จึงนำมำทำแม่พิมพ์ได้ดที ัง้ กับ เรซ่ิน และโลหะบำงชนิด (ใช้แมพ่ มิ พ์ซิลิโคนทนควำมรอ้ นสูง) แม้ว่ำซิลโิ คนจะมที ใ่ี ชง้ ำนคอ่ นขำ้ งหลำกหลำย แตก่ บั หนงั สอื เล่มน้ี จะพดู ถงึ เฉพำะ ยำง ซลิ ิโคน ( Silicone rubber ) ทีใ่ ชก้ บั กำรทำ แมพ่ ิมพ์ หรือ โมลด์ (Mold ) เพือ่ ใชห้ ลอ่ เรซิ่น เทำ่ นั้น ซง่ึ มีอยู่หลำยชนดิ ดว้ ยกัน ทำงต่ำงประเทศมียำงซิลโิ คน หลำกหลำยชนดิ ใหเ้ ลือกใช้ งำน สว่ นทำงบำ้ นเรำมีอยูไ่ ม่กีช่ นิด ซ่งึ ผลติ มำจำกหลำย ประเทศดว้ ยกันเชน่ ฝรั่งเศส, อเมริกำ, เยอรมนั และไตห้ วัน ยำงซลิ โิ คนท่ใี ช้ทำแม่พิมพ์หลอ่ เรซน่ิ ทน่ี ยิ มใช้กนั จะเปน็ แบบ RTV ( Room Temperature Vulcanizing) หมำยถึง ยำงซิลโิ คนจะแหง้ ตัว หรือแข็งตัวดว้ ยอุณหภูมิของห้อง ท้ังน้ี กำรทำใหย้ ำงซลิ ิโคนแข็งตัว ต้องอำศัยสำรเคมแี บบตัวเร่ง ปฏิกริ ิยำ หรอื แคททำลิสท์ ( C atalyst ) มกั จะเรยี กกันว่ำ ฮำรด์ เดนเนอร์ (Hardener) เชน่ เดยี วกับที่งำนหล่อเรซน่ิ ใช้
16 กนั อยู่ ขบวนกำรผสมสำรเคมีกบั ยำงซิลิโคน หรือโพลเี อสเตอร์เรซิ่น เรยี กวำ่ วัลคำไนซ่งิ ( V ulcanizing ) หมำยถงึ ขบวนกำรทำท่ีให้ยำงแข็งตวั กำรแห้งตวั หรือแขง็ ตัวของยำงซลิ โิ คนแบบ RTV นัน้ แบ่งออกได้เปน็ 3 แบบด้วยกันคือ 1. แบบ ม้อยสเจอร์ เคยี ว ( M oisture cure : cure หมำยถึง ขบวนกำรเซท็ ตัว หรือแห้ง ตัว) ซิลโิ คนชนดิ น้ี จะผสมสำรเคมแี บบตัวเรง่ ปฏิกริ ิยำมำแล้ว ในหลอดปิดกนั อำกำศเข้ำ เมือ่ นำซิลโิ คนออกจำกท่ีเกบ็ มันจะทำปฏิกิริยำกบั ควำมชนื้ ใน อำกำศ (Moisture) ตัวอยำ่ งเชน่ กำวซลิ โิ คนบรรจหุ ลอด พลำสติก ใชส้ ญั ลักษณ์เปน็ RTV-1 ในบำ้ นเรำมีใชอ้ ยู่ 2 แบบคือ กำวซลิ โิ คนชนดิ กรด (มีกลนิ่ เปรี้ยวคล้ำยน้ำส้มสำยช)ู และ กำว ซิลโิ คนแบบ Oxime กำวซลิ ิโคนชนิดนี้ ไม่มีกลิ่นเปรย้ี ว ใช้กับ งำนสรำ้ งต้เู ลี้ยงปลำ เปน็ หลกั 2. แบบ คอนเดนเซชนั่ เคยี ว ( C ondensation cure ) ใช้ สญั ลักษณ์ RTV-2 เป็นซลิ โิ คนชนดิ ทีเ่ รำต้องผสม 2 ชนิด ดว้ ยกันคือ ตัวยำงซลิ ิโคน กับสำรเคมี แบบแคททำลสิ ท์ ( C atalyst ) เปน็ ของเหลวใส ซึง่ เรียกอกี อย่ำงวำ่ ทนิ เคยี ว (Tin cure ) เพอื่ ให้เกดิ กำรแห้งตัว เป็นยำง ซลิ โิ คนทีบ่ ้ำนเรำ นิยมนำมำใช้ทำแม่พิมพห์ ล่อ เรซน่ิ อัตรำสว่ นผสมที่ระบุให้มำนนั้ อำจปรบั มำก/น้อยไดบ้ ้ำง ไม่ถงึ กบั ตอ้ งตำยตัวเสมอไป 3. แบบ แอดดชิ น่ั เคยี ว ( A d dition cure ) เปน็ ยำงซลิ โิ คน ทใี่ ชส้ ่วนผสม 2 ชนิดเชน่ กัน (ใช้สัญลักษณ์ RTV-2 ) โดยผสมยำงซลิ โิ นกบั ตัวเร่งปฏิกิรยิ ำ Platinum C a t a l y z e d จงึ เรียกอีกอยำ่ งหนึ่งวำ่ แพลทตนิ ั่ม เคยี ว ( Platinum cure ) อัตรำส่วนผสมแบบ Part A : B เชน่ อัตรำ 1 : 1, 1 : 2 เปน็ ตน้ ซ่งึ จะตอ้ ง ผสมตำมอัตรำส่วน ให้ถูกต้องเท่ำน้ัน อัตรำส่วนผสมของยำงซลิ ิโคนชนดิ น้ี วัดตำมน้ำหนกั จงึ ตอ้ งใชเ้ ครื่องช่งั ในกำรผสม ซิลิโคน ชนดิ น้ี มอี ัตรำกำรหดตัวนอ้ ยมำก ประมำณ 0.1 % เท่ำน้นั เป็นซิลโิ คนท่มี ีรำคำคอ่ นข้ำงสูงกว่ำ
17 แบบ คอนเดนเซช่ัน เคยี ว ( C o ndensation cure or Tin cure) ซิลโิ คนชนิด แอดดิช่นั เคียว น้ี นบั ได้วำ่ ไม่เปน็ พษิ ต่อร่ำงกำยแต่อย่ำงใด จึงใชท้ ำ แมพ่ ิมพท์ ำงด้ำนอำหำร และทำงกำรแพทยไ์ ดเ้ ปน็ อย่ำงดี กับงำนหล่อเรซ่ินท่ัวไปแล้วนนั้ ถ้ำ ใช้ซลิ โิ คนชนิดนจี้ ะมีตน้ ทุนสงู พอสมควร บ้ำนเรำใชก้ ันไม่มำกนัก จำกสำเหตขุ องรำคำเปน็ หลัก ยำงซลิ ิโคนที่เลือกมำใช้ทำแม่พมิ พ์มีข้อมลู ดงั ต่อไปน้ี ยำงซลิ โิ คนทำแม่พิมพ์ งำนสร้ำงแม่พมิ พ์ดว้ ยยำงซลิ ิโคนในบ้ำนเรำน้นั ใชก้ ันอยู่ 2 แบบ ดังท่กี ลำ่ วไปแลว้ คอื แบบคอนเดนเซชนั่ เคียว ( C ondensation cure or Tin cure ) ซง่ึ ใช้กับงำนหล่อเรซนิ่ ท่ัวไป และแบบ แอดดิชั่น เคยี ว ( A ddition cure or Platinum cure ) ใช้กับผลิตภัณฑ์ อำหำร เป็นหลกั ยำงซลิ โิ คนทั้ง 2 แบบนัน้ มขี ้อมลู ดงั น้ี 1. ยำงซลิ โิ คนทำแมพ่ ิมพห์ ลอ่ เรซนิ่ (Silicone rub- ber for Casting resin mold ) เปน็ ยำงซลิ โิ คนแบบ คอนเดนเซชนั่ เคียว ( C ondensation cure ) ใช้ฮำร์ด เดนเนอร์ หรอื ตัวแคททำลิสต์ ท่ีเป็นน้ำใสๆ (catalyzed using tin salts ) โดยผสมในอัตรำส่วน 1-1.5 % ( ปรบั เพิ่ม หรือลดไดบ้ ำ้ ง) ซง่ึ มคี ณุ สมบตั ิดงั ตอ่ ไปน้ี - ใช้ทำแมพ่ มิ พห์ ล่อเรซนิ่ , เทียน, ปูนพลำสเตอร์ และสบู่ ทำไดท้ ้งั กำรเท หรือทำ - ใช้ได้ทงั้ งำนหยำบ และละเอียด - มีเนอ้ื สขี ำวข้น ยืดหย่นุ ตวั ได้ดี - ทนทำนต่ออณุ หภูมิไดถ้ ึง 120 องศำเซลเซียส - มีอตั รำกำรหดตวั 0. 2 % - ทนต่อกำรฉีกขำดไดด้ ีพอสมควร, ทนกรด และดำ่ ง
18 2. ยำงซลิ โิ คนทำแม่พิมพอ์ ำหำร (Food grade Sili- cone rubber mold) เปน็ ยำงซลิ ิโคนแบบ แอดดชิ ั่น เคยี ว ( A ddition cure or Platinum cure ) เปน็ ยำงซิลิโคนแบบ 2 ส่วนผสมกัน คอื Part A กับ Part B มอี ัตรำส่วนผสมแบบ 1:1 โดยน้ำหนกั ท่ีเท่ำกนั จงึ ต้องใช้เครอ่ื งช่ังในกำรผสมทัง้ 2 ส่วน ซงึ่ มคี ุณสมบัตดิ งั น้ี - ใชท้ ำแม่พมิ พ์หลอ่ อำหำรตำ่ งๆ เชน่ ช็อคโกแล็ต, ขนมแบบคุ้กก,้ี วนุ้ เปน็ ต้น - มีเน้อื สีใส ยดื หย่นุ ตัวดมี ำก - นอกจำกนี้ยงั ใชท้ ำแมพ่ ิมพ์เคร่ืองประดบั เพือ่ ให้เห็นชน้ิ งำนด้ำนใน ท่ีใส่วัสดุตำ่ งๆ เขำ้ ไปเน้อื เรซ่ินที่หล่อ โดยรวมแล้วซลิ ิโคน Food grade จะเปน็ แบบใส แต่ก็มีผูผ้ ลติ หลำยรำย ผลติ ออกมำเป็นสี ต่ำงๆ ดว้ ย ซึ่งเปน็ สีทปี่ ลอดภยั กบั ผู้บริโภคตำมข้อกำหนด ในบำ้ นเรำไม่มขี ้อมลู ของซิลโิ คน ฟดู้ เกรด ทเ่ี ป็นสอี ่ืนๆ แต่อย่ำงใด 3. ยำงซลิ โิ คนทำแมพ่ มิ พอ์ วยั วะคน (Life casting silicone rubber mold) เปน็ ยำง ซลิ โิ คนแบบ แอดดชิ ่ัน เคียว ( A ddition cure ) ไม่เป็นเป็นพษิ ภยั ตอ่ ผู้ใช้แต่อย่ำงใด วงกำร ละคร และภำพยนตร์ใชย้ ำงซลิ โิ คนแบบน้ี ในงำน สเปเชยี่ ล เอฟเฟ็ค ( S pecial Effect ) ทง้ั
19 ทำเปน็ แม่พมิ พ์ และชิ้นงำนเช่น หลอ่ ใบหนำ้ คน และ ส่วนต่ำงๆ ของร่ำงกำย เปน็ ซลิ ิโคนท่แี ห้งตวั เรว็ กว่ำ ยำงซิลิโคนอืน่ ๆ มีคุณสมบัติดังน้ี - สำมำรถใชท้ ำกบั ผวิ หนังได้โดยตรง - แห้งตวั เร็วกว่ำยำงซิลิโคนอ่ืนๆ - มอี ัตรำกำรหดตวั นอ้ ย และมีควำมยืดหยุ่นตัว ค่อนข้ำงสงู 4. ยำงซลิ โิ คนแมพ่ มิ พแ์ บบพตุ ต้ี (Putty sili- cone rubber mold) อยใู่ นกลุ่มยำงซิลโิ คนแบบ แอดดชิ น่ั เคยี ว ( A ddition cure ) ใน ลักษณะของดนิ น้ำมัน หรอื พตุ ต้ี ( P utty ) ท้ัง Part A และ Part B และมีแบบ คอนเดนเซช่นั เคยี ว ( C ondensation cure or Tin cure) อีกด้วย ซงึ่ เปน็ แบบ Part A 20 ส่วน ตอ่ Part B (เป็น แคททำลสิ ท์ หรือฮำรด์ เดนเนอร์) 1 ส่วน โดย Part A เปน็ แบบดินน้ำมนั และ Part B มี ลกั ษณะเหลวเหมือนยำสฟี นั ท้ัง 2 แบบมคี ุณสมบตั ิดังนี้ - ผสมทั้ง 2 สว่ นเข้ำด้วยกันจนเปน็ เน้อื เดียว สำมำรถปน้ั เป็นก้อนได้ ไมต่ ดิ มอื หรือถุงมอื ยำงเท่ำใดนกั - ใช้ทำแม่พิมพจ์ ำกวัสดุท่ีเคลื่อนยำ้ ยไม่ไดเ้ ชน่ รปู ปัน้ บนฝำผนงั หรือเปลอื กของต้นไม้ - ใช้ทำแม่พมิ พ์แบบหน้ำเดียว กบั งำนช้ินงำนไม่ ใหญ่จนเกินไป แมพ่ มิ พ์ยำงซิลิโคนทั้ง 4 แบบนนั้ สำมำรถซือ้ หำ ไดใ้ นบำ้ นเรำ ผู้ใช้เลือกตำมลักษณะงำนทท่ี ำได้เลย สว่ นจะเลือกซิลโิ คนเกรดใด หรือผลติ จำกท่ใี ดก็สำมำรถปรึกษำจำกผ้ขู ำยได้ ไดเ้ กร่ินไปแตแ่ รกแล้วว่ำ มวี ัสดุหลำยอย่ำงทใ่ี ช้ทำแมพ่ ิมพ์ได้เชน่ ยำงพำรำ, โพลียรู ีเทน
20 ขึ้นอยู่กับว่ำจะนำไปใช้กับวัสดุประเภทใด เพียงแต่ว่ำยำงซิลิโคนนั้น สำมำรถใช้ทำ แม่พิมพก์ บั วสั ดหุ ลำกหลำยชนิดด้วยกนั เช่น - ยำงพำรำ (Latex rubber) ใช้ทำแม่พมิ พ์แบบทำด้วยแปรง แม่พมิ พแ์ บบน้ี เรยี กวำ่ แมพ่ ิมพ์ถลก ใชห้ ล่อปนู พลำสเตอร์เป็นหลัก ทำงต่ำงประเทศเขำมยี ำงพำรำ แบบใชเ้ ทแม่พิมพไ์ ด้ดว้ ย ไมแ่ น่ใจว่ำบำ้ นเรำมีอยูบ่ ำ้ งหรอื ไม่ - ยำงโพลยี รู เี ทน (Polyurethane rubber) มรี ำคำถูกกว่ำยำงซิลโิ คน มที งั้ แบบ ใส และทบึ นยิ มทำแมพ่ ิมพแ์ บบเท ใชห้ ลอ่ คอนกรีตเปน็ หลกั อยำ่ งไรกต็ ำมผิวของ แมพ่ มิ พ์ยำงโพลียูรีเทนนัน้ จะเหนยี วติดกับวัสดทุ ่ีหลอ่ เสมอ ต้องใชส้ ำรเคลอื บผิวกนั ติด ( M old release ) รว่ มดว้ ย จึงจะถอดชิ้นงำนออกจำกแม่พิมพ์ไดส้ ะดวก ทัง้ นี้ยำงซิลโิ คนน้นั จะใช้งำนได้ ง่ำยกว่ำ และหำซอื้ ไดจ้ ำก ร้ำนขำย ผลติ ภณั ฑ์เรซ่ินท่วั ไป อยำ่ งไรกต็ ำม มี ผ้จู ำหนำ่ ยบำงร้ำน ท่ีมยี ำงพำรำ และ ยำงโพลียรู ีเทนขำยอยดู่ ้วย หรอื ถ้ำ หำกไม่มี ผูข้ ำยสำมำรถจดั หำให้กับผู้ ตอ้ งกำรได้
21 แม่พิมพ์ยำงซลิ โิ คน (Silicone rubber mold) งำนหลอ่ เรซ่นิ ทัง้ โพลีเอสเตอร์ เรซิ่น และอีพ๊อกซ่ี เรซิ่น ต้องอำศัยแมพ่ ิมพใ์ นกำรหลอ่ แบบ อยำ่ งทกี่ ลำ่ วไปแล้วว่ำ เรำมที ำงเลอื กใช้วสั ดุอืน่ มำทำแมพ่ มิ พ์หลอ่ เรซน่ิ ไดย้ ำก ไม่ว่ำจะเปน็ ปูนพลำสเตอร์ (ไมย่ ืดหย่นุ ในกำรถอดชิน้ งำน นอกจำกกำรหล่อครงั้ เดยี ว) หรอื ยำงพำรำ (ไม่ ทนควำมร้อนทีเ่ กิดจำกเรซ่นิ ก่อนแขง็ ตัว) ดังน้นั ยำงซลิ โิ คนจึงเปน็ ทำงเลอื กดที ่ีสดุ ในกำรนำมำ ทำ แมพ่ ิมพ์ หรอื โมลด์ ( M old ) จำกท่พี ูดถึงชนิดของ ยำงซิลโิ คนไปน้นั หำกเป็นกำรเรมิ่ งำนหล่อเรซ่ิน กค็ งตอ้ ง เลือกยำงซิลิโคนแบบ RTV-2 ชนดิ ใช้ตัวเร่งปฏกิ ิริยำ หรือ ฮำร์ดเดนเนอร์แบบเปน็ นำ้ ใสๆ (สำรเคมใี นกลุม่ Tertiary amines และ Imidazole ) เพอื่ ชว่ ยใหย้ ำงซิลิโคนแข็งตัว แมพ่ มิ พย์ ำงซิลโิ คนแบบ RTV-2 ทจี่ ะแห้งตวั ดว้ ย อุณหภมู ิห้อง สำมำรถสร้ำงแมพ่ ิมพไ์ ด้ 3 แบบด้วยกันคือ 1. แมพ่ ิมพแ์ บบชน้ิ เดยี ว ( One pieces mold ) บำงแหง่ เรียกว่ำ แมพ่ มิ พแ์ บบหนำ้ เดียว หรอื ชน้ิ เดยี ว แมพ่ มิ พ์แบบนี้ถอื ว่ำ เปน็ กำรเรมิ่ ต้นกำรสรำ้ งแมพ่ มิ พ์ 2. แม่พมิ พแ์ บบ 2 ชนิ้ (Two pieces mold) บำ้ นเรำเรยี กกนั วำ่ โมลด์ หรอื แม่พมิ พป์ ระกบ ใช้กบั วัตถุต้นแบบที่เป็น 3 มติ ิ มสี ว่ นโค้งเว้ำมำก ซึ่งใช้แม่พิมพ์หนำ้ เดียวไมไ่ ด้ 3. แม่พมิ พแ์ บบถลก (Brush on rubber mold ) แมพ่ ิมพ์แบบน้จี ะพบมำก กบั แมพ่ มิ พ์ ยำงพำรำท่ีใชห้ ลอ่ ปูนพลำสเตอร์ ยำงซลิ โิ คนกท็ ำแม่พิมพน์ ไี้ ด้เช่นกัน ทง้ั แบบทำแม่พมิ พ์หนำ้ เดยี ว และ 2 หน้ำ แม่พิมพแ์ บบนสี้ ว่ นมำกต้องมี กรอบ มำพยุงตัวแม่พิมพเ์ อำไว้ ก่อนจะสร้ำงแม่พมิ พ์ซิลโิ คนขึ้นมำน้นั สว่ นสำคญั อยำ่ งแรกเลยก็คอื กรอบ หรอื กลอ่ ง (Mold box ) ทจี่ ะเอำไวเ้ ทยำงซลิ ิโคนเหลวลงไป วัสดุทน่ี ำมำทำกรอบ หรอื กล่องแมพ่ ิมพ์ เลือกใช้ไดห้ ลำยอย่ำง และสร้ำงรูปแบบกรอบ หรือกลอ่ งได้หลำยแบบเช่นกนั ซ่ึงมขี อ้ มูลดงั นี้
22 กำรสร้ำงกรอบแม่พมิ พย์ ำงซลิ โิ คน กำรทำแม่พมิ พย์ ำงซิลโิ คนน้นั ต้องมกี รอบกั้นอย่โู ดยรอบตัวตน้ แบบท่จี ะทำแม่พมิ พ์ เพอ่ื ให้ ยำงซิลโิ คนอย่ใู นกรอบ ไม่ไหลออกไปข้ำงนอก ทั้งนี้เรำสำมำรถเลือกใชว้ สั ดุหลำยชนดิ ด้วยกัน มำทำกรอบแมพ่ ิมพ์ไดด้ งั น้ี - ดนิ นำ้ มนั เปน็ วสั ดุทม่ี รี ำคำถกู หำซอ้ื ไดง้ ำ่ ยจำกรำ้ นขำยเครอ่ื งเขียนทว่ั ไป ดินนำ้ มัน เหมำะต่อกำรใชท้ ำกรอบแมพ่ มิ พ์ แบบเรง่ ด่วน หรือแบบชัว่ ครำว และเป็นกรอบท่ีมขี นำดไม่ ใหญจ่ นเกินไปนัก โดยนำมำกั้นต้นแบบช้นิ งำนท้ังทำสว่ นพ้นื และก้นั เป็นกรอบโดยรอบ เปน็ งำนที่ทำได้ง่ำยๆ รปู แบบของกรอบแมพ่ มิ พ์ดินน้ำมัน เป็นแบบแม่พิมพ์หน้ำเดียว ( O ne piec- es mold) ซ่งึ สำมำรถปรับขนำด และรูปทรงไปตำมต้นแบบท่ีจะทำแมพ่ ิมพ์ ไม่ว่ำจะเป็นรปู เหลี่ยม, รูปกลม หรอื โคง้ ตำมต้นแบบได้งำ่ ย นอกจำกนี้เมื่อถอดเอำแม่พิมพ์ยำงซลิ ิโคนออกไป แลว้ ดนิ น้ำมนั ก็ยังนำกลับมำใช้ไดอ้ กี เรอ่ื ยไป - กระดำษแขง็ กระดำษแขง็ แบบหนำ 2-3 มม. มขี ำยตำมร้ำนขำยเครื่องเขยี นท่วั ไป มี ขนำด 2x2 ฟตุ รำคำแผน่ ละ 30-50 บำท นำมำตดั ทำกรอบ หรือกล่องแมพ่ ิมพ์ ก่อนใช้งำนทำ กระดำษด้วยแลคเกอร์ หรอื แชลคทำไม้เสียก่อน โดยด้ำนในติดเทปกำวบำงๆ ที่ใช้ตดิ กลอ่ งส่ง ของ เพือ่ กนั ยำงซิลโิ คนติดกระดำษแข็ง กำรพับมุมกรอบ หรอื กลอ่ ง เรำใช้คัตเตอรก์ รดี พอให้
23 พบั ได้ จะสรำ้ งเป็นรูปทรงใดก็ได้ เหมำะกับช้นิ งำนต้นแบบท่ไี ม่ใหญ่นกั สว่ นกำวยึดกรอบ หรือ กลอ่ ง ใช้เทปกำว 2 หนำ้ ร่วมกับกำวแทง่ ทีห่ ลอมเหลวแลว้ จำกปืนยิงกำว ซงึ่ มขี ำยทัว่ ไป - ไมอ้ ัด และไมก้ ำรฝมี ือ ปจั จบุ นั ตำมรำ้ นขำยเครอ่ื งเขยี นมไี ม้อัด,ไมก้ ำรฝีมือ รวมทงั้ กระดำษอดั ตดั ขำยเปน็ แผ่นๆ มหี ลำยขนำดดว้ ยกัน วสั ดดุ งั กลำ่ วเหมำะกับกำรทำกรอบ หรือ กลอ่ งแม่พิมพ์ขนำดใหญไ่ ดด้ ี แต่จะมรี ำคำคอ่ นขำ้ งสงู อยู่สักหน่อย - ถว้ ยพลำสตกิ ใชเ้ ปน็ กรอบ หรอื กลอ่ งแม่พิมพ์ ท่สี ะดวกมำก โดยตดั สว่ นกน้ ถว้ ยออกไป ถว้ ยพลำสตกิ แบบน้มี ีหลำกหลำยรูปแบบ นอกจำกน้ีขวดน้ำดื่มพลำสตกิ หรือถ้วยกระดำษแข็ง ก็ เปน็ ตวั เลือกทใ่ี ชท้ ำกรอบ หรอื กลอ่ งแมพ่ มิ พไ์ ด้ดเี ช่นกนั - แผน่ พลำสตกิ ใส เลอื กควำมหนำ 3-4 มม. ใชท้ ำกรอบแมพ่ มิ พ์ได้ดมี ำก แต่มีรำคำ ค่อนข้ำงสงู ทงั้ นสี้ ำมำรถมองเห็นต้นแบบ และยำงซิลิโคนทีเ่ ทลงในกรอบแมพ่ ิมพ์ วัสดทุ งั้ 5 ชนิดที่แนะนำใหน้ ำมำทำกรอบแม่พิมพ์ หำไดไ้ มย่ ำกนกั นอกจำกนีเ้ ศษท่อพวี ีซี กน็ ำมำตดั ทำกรอบแม่พิมพท์ รงกระบอกได้ดี (ผ่ำออกเปน็ 2 สว่ น แล้วรดั ด้วยหนังยำง หรอื พนั เทป จะถอดแม่พิมพอ์ อกไดง้ ำ่ ย) รวมทัง้ ทำเป็นแมพ่ ิมพท์ รงกลมตื้นๆ อย่ำงไรก็ตำม ยำงซลิ โิ คนนน้ั มรี ำคำคอ่ นข้ำงแพงอย่สู กั หน่อย กำรทดลองทำแมพ่ ิมพ์ ควร เลือกกรอบแมพ่ ิมพ์ขนำดเล็กไปก่อน จำกนัน้ จงึ ขยับไปทำแม่พมิ พ์ที่มีขนำดใหญ่ขนึ้ ทั้งนี้ควร เลือกทำกรอบแม่พิมพ์ ท่สี ำมำรถนำมำใช้งำนไดห้ ลำยๆ ครง้ั เป็นหลกั
24 กรอบ หรอื กลอ่ งแมพ่ มิ พป์ รบั ขนำดได้ กรอบ หรือกลอ่ งแมพ่ ิมพ์ ท่ีใช้งำนชว่ั ครำว หรอื ใช้ครั้งเดียวควรใช้วัสดุ ทีห่ ำได้ง่ำยๆ กำร ยดึ กรอบ หรอื กลอ่ งใช้กำวทีแ่ กะออกงำ่ ย, ใช้คลิปหนบี หรอื ใชห้ นงั ยำงรดั เอำกไ็ ด้ แต่ถ้ำเปน็ งำนท่ตี อ้ งทำบ่อย ควรเลอื กวัสดุทแ่ี ขง็ แรงเชน่ ไม,้ แผ่นพลำสติกหนำ รวมทัง้ ออกแบบใหใ้ ช้งำน ได้หลำยคร้งั รวมท้งั ย่อ หรือขยำยขนำดของแบบได้ดว้ ย กจ็ ะใช้งำนได้นำน ควรเลือกกรอบ แม่พิมพแ์ บบปรับขนำดได้ ( A d just mold box ) จะช่วยใหไ้ มเ่ ปลอื งกำรสร้ำงกรอบแมพ่ มิ พ์ ดู จำกภำพประกอบแลว้ คงทำไดไ้ มย่ ำกนัก 1. กรอบแมพ่ มิ พ์ทำจำกโลหะ พบั เป็นรปู ตวั แอล (L) เมอื่ นำมำชนกนั เปน็ กรอบแม่พิมพ์ จะ สำมำรถปรบั เลอ่ื นใหแ้ คบ หรอื กวำ้ งออกไปได้ 2. จำกนนั้ ยดึ จดุ ที่ชนกนั ดว้ ยปำกกำจบั ไม้ 3. ถำ้ ใชแ้ ผน่ ไม้ หรอื แผน่ พลำสวูด กต็ ดิ แทง่ ไมท้ ปี่ ลำยแผน่ ทง้ั 4 แผน่ เมอ่ื นำมำตอ่ ชนกนั ก็ ยดึ ดว้ ยปำกกำตวั ซี กจ็ ะได้กรอบแมพ่ มิ พต์ ำมขนำดทต่ี อ้ งกำร กำรทดลองทำกรอบแม่พิมพห์ ลำยๆ แบบนั้น จะช่วยใหเ้ ขำ้ ใจจนสำมำรถเลอื กใชก้ รอบ แม่พิมพ์ตำมท่ตี อ้ งกำรได้ เมอื่ ต้องทำงำนหลอ่ เรซิ่นเปน็ จำนวนมำก.
25 กำรลดขนำดกรอบแม่พมิ พด์ ำ้ นใน บ่อยครั้งทีว่ ตั ถตุ ้นแบบทจ่ี ะทำแม่พมิ พ์ มขี นำดไมส่ มดลุ กับกรอบแม่พมิ พ์ เรำสำมำรถลด ขนำดภำยในกรอบแม่พิมพ์ได้บ้ำง เพ่อื ประหยัดเนอื้ ยำงซิลิโคน โดยใช้ดนิ นำ้ มนั อยำ่ งเดยี ว หรอื รว่ มกบั เศษไมก้ ไ็ ด้ ดจู ำกภำพประกอบจะเข้ำใจได้ง่ำย 1. กนั้ ขอบเหลยี่ มทง้ั 4 ดำ้ นดว้ ยดินนำ้ มนั 2. วธิ นี ปี้ ระหยดั ยำงซลิ โิ คนไปได้พอสมควร 3. ถำ้ กรอบแมพ่ มิ พใ์ หญก่ วำ่ วตั ถทุ ีจ่ ะทำแมพ่ มิ พ์ กใ็ ชไ้ ม้กน้ั ดำ้ นในให้แคบลงได้ กรอบ หรอื กลอ่ งแม่พิมพ์ จะเป็นแบบใด, ใช้วสั ดุอะไร และขนำดเทำ่ ใดนัน้ ก็ขน้ึ อยู่กับตัว วัตถทุ ่ีจะทำแม่พิมพ์เปน็ หลกั ผู้ทำแม่พิมพ์ยำงซลิ ิโคน ควรเลือกใหเ้ หมำะสมกับงำน กำรยดึ กรอบแมพ่ มิ พก์ บั ฐำน โดยรวมแลว้ กรอบแม่พมิ พจ์ ะเป็นอสิ สระ ท่ีจะนำไปยึดติดกบั ฐำน ที่ทำเช่นนก้ี เ็ พื่อกำรจัด วำงวตั ถลุ งบนฐำน ซ่งึ ยึดดว้ ยเทปกำว 2 หนำ้ หรือกำวจำกปนื ยิงกำว เปน็ ตน้ ฐำนที่ยดึ ติดกับ กรอบแมพ่ ิมพม์ กั เป็นวัสดุตัวเดยี วกนั มีขนำดกว้ำง/ยำว กว่ำกรอบแมพ่ ิมพ์พอประมำณ กำรยึดกรอบแม่พิมพ์กับฐำน ถำ้ เป็นกรอบแม่พิมพ์ไม่ใหญ่นกั ก็ใช้ดนิ นำ้ มันอดุ โดยรอบ แต่ ถำ้ ตอ้ งกำรควำมมนั่ คงกว่ำ และทำงำนงำ่ ยกว่ำก็ใช้ กำวแท่งจำกปืนยิงกำว กำวชนดิ นแ้ี หง้ ตัว เรว็ และแกะออกไดไ้ มย่ ำก แมก้ ำวจะแห้งตัวนำนแล้วก็ตำม
26 อปุ กรณท์ ใ่ี ชร้ ว่ มกบั กำรทำกรอบ หรอื กลอ่ งแม่พมิ พ์ กำรจะทำกรอบ หรอื กลอ่ งแม่พิมพ์นัน้ มอี ุปกรณ์ประกอบอยพู่ อสมควรดังนี้ - ดนิ นำ้ มนั นอกจำกจะใชท้ ำกรอบแมพ่ ิมพแ์ ลว้ กย็ งั ใชอ้ ดุ รอยตอ่ ของแมพ่ ิมพ์ กนั ไม่ให้ ยำงซลิ ิโคนรวั่ ออกไป รวมท้งั ใช้ทำฐำนหล่อแบบ 2 ช้ินอกี ดว้ ย - คตั เตอร์ ชว่ ยทง้ั กำรตัดกรอบแมพ่ มิ พท์ ่ีทำดว้ ย ดนิ นำ้ มัน, กระดำษแขง็ หรอื แผน่ พลำสวดู (ตัดงำ่ ยคลำ้ ยกระดำษ ใชท้ ำกรอบแมพ่ ิมพ์ได้ด้วย แตม่ ีรำคำแพงกว่ำไม้อัดทห่ี นำเท่ำๆ กนั ) - ชดุ งำนปน้ั ดนิ เลอื กใชท้ ัง้ แบบไม้ และโลหะ ทั้งนอ้ี ปุ กรณด์ ังกลำ่ ว ชว่ ยตกแตง่ ฐำนดนิ น้ำมัน ชว่ งทำแมพ่ ิมพ์แบบ 2 หน้ำ - วำสลนิ ใช้เพอื่ ทำผวิ วตั ถตุ น้ แบบ และผวิ ดำ้ นในกรอบแม่พมิ พ์ บำงทำ่ นเลอื ก ซลิ ิโคน เหลว หรือใช้สเปรย์ซลิ ิโคน แต่มรี ำคำแพงกวำ่ วำสลิน - กำวตดิ กรอบแมพ่ ิมพ์ ทำงตำ่ งประเทศนยิ มใชก้ ำวแท่ง ท่ีใชก้ บั ปนื ยงิ กำว เพรำะงำ่ ยต่อ กำรทำงำน และตดิ แน่นดพี อสมควร - ตะปู และเกลยี วปลอ่ ย ใชก้ บั กรอบแมพ่ มิ พไ์ ม้ขนำดใหญ่ ท่ีต้องกำรควำมแขง็ แรง ท่ำนท่ี มีปนื ยงิ ตะปลู ม กจ็ ะสะดวกตอ่ กำรทำงำนยิง่ ขน้ึ บำงท่ำนอำจจะมีอุปกรณ์ช่วยในกำรทำกรอบแมพ่ ิมพ์ขนำดใหญ่ เชน่ ปำกกำจับไม้, หรือ ปำกกำตัว ซี ( C clamp ) มำใชง้ ำนรว่ มดว้ ย สิง่ สำคญั ก็คอื เมื่อเทยำงซลิ โิ คนลงในกรอบ แมพ่ ิมพ์แลว้ ยำงซลิ ิโคนตอ้ งไม่รวั่ ไหลออกมำเท่ำนั้นอง
27 เมื่อทรำบถงึ ขั้นตอบของกำร ทำกรอบแมพ่ ิมพย์ ำงซืลิโคนไปแลว้ เรำก็จะมำดูถึงขัน้ ตอน ของกำรผสมยำงซลิ ิโคนเพือ่ ทำแมพ่ ิมพก์ ันกอ่ น เพรำะกำรทำแม่พมิ พย์ ำงซลิ ิโคนทั้ง 3 แบบดังท่ี กลำ่ วมำแลว้ นั้น มวี ิธีผสมยำงซิลิโคนเหมอื นกันทุกแบบ เรำจะเรมิ่ จำกกำรเตรยี มอุปกรณ์ เพ่ือ ผสมยำงซลิ ิโคนกันดังนี้ - ถว้ ยผสมยำงซลิ ิโคน ยำงซลิ โิ คนนน้ั คอ่ นขำ้ งขน้ เหนยี ว แตเ่ มอื่ แหง้ ตวั แลว้ จะไม่ตดิ กบั ภำชนะท่ีใส่มนั สว่ นมำกผู้ทำงำนทำงด้ำนนี้ เลือกใชภ้ ำชนะพลำสตกิ ทีเ่ ปน็ สีใส หรือใสขุ่นๆ เช่นถว้ ยพลำสตกิ ทั่วไป เพื่อใหเ้ หน็ เนื้อยำงซลิ ิลโิ คนท่ีเทลงในถว้ ย ถึงระดับท่ีทำเคร่ืองหมำยไว้ หรอื ยงั ถ้วยพลำสตกิ ทใี่ ชผ้ สมเนือ้ ยำงซิลโิ คนน้ัน เม่ือเนอื้ ยำงท่ีตดิ ถว้ ยแห้งตัวแล้ว สำมำรถแกะ ออกได้ง่ำย จึงใชถ้ ว้ ยใบเดมิ ไดเ้ ร่ือยไป - ไมก้ วนยำงซลิ โิ คน ควรเลอื กไม้แบน แบบไม้เสยี บไอศกรมี ซงึ่ ใชก้ บั งำนผสมยำงซลิ ิโคน ในถ้วยใบเลก็ ๆ ได้ดี แต่ถำ้ ใช้เนอ้ื ยำงจำนวนมำก และเปน็ แก้วพลำสตกิ ขนำดใหญ่ กต็ อ้ งหำไม้ แบนขนำดใหญต่ ำมไปด้วย (ไม้ไผ่เป็นตวั เลอื กทีด่ ีมำก) กำรท่ีต้องใชไ้ ม้แบน ก็เพ่ือกำรกวนเน้อื ยำง ทส่ี ำมำรถกวำดไมแ้ บนไปรอบถว้ ยได้ดี - ขวดบรรจฮุ ำร์ดเดนเนอร์ ในกรณที ี่เลอื กใชย้ ำงซลิ ิโคนแบบ คอนเดนเซชน่ั เคยี ว ( C ondensation cure ) ซ่ึงใชต้ ัวฮำรด์ เดนเนอร์แบบน้ำใสๆ จึงควรบรรจใุ นขวดพลำสตกิ ทม่ี ี กรวยแหลมอย่ทู ฝี่ ำขวด เพือ่ ให้บบี น้ำยำออกมำไดง้ ำ่ ย
28 - เครอ่ื งชงั่ ดจิ ติ อล กำรผสมซลิ ิโคนทใี่ ช้ อตั รำสว่ นกำรผสม ตอ่ นำ้ หนกั จำเปน็ ต้องใช้ เคร่อื งชั่งน้ำหนกั ทีม่ คี วำมละเอียดในกำรชัง่ ปัจจุบนั มีเครื่องชั่งดิจิตอล ทีใ่ ชง้ ำนได้ดี และมี รำคำไมแ่ พงนกั เคร่ืองช่งั ดจิ ติ อลขนำดเลก็ มี รำคำประมำณ 300-400 บำทเท่ำนนั้ - ทรำยละเอียด กำรทเี่ รำจะทรำบวำ่ จะตอ้ งใช้ ยำงซลิ โิ คนปริมำณเทำ่ ใด ที่ ต้องเทลงในกรอบแมพ่ ิมพน์ นั้ เป็นเรือ่ งที่ ต้องคำดเดำเอำ หำกผสมนอ้ ยเกนิ ไปก็ ต้องผสมเพ่ิม หำกผสมมำกเกินไปก็เหลือ ยำงซลิ ิโคนท่ีจะเสียเปลำ่ ผู้เขียนบทควำม จึงใช้ทรำยละเอียด เทลงเต็มในกรอบแมพ่ ิมพท์ ี่วำงวัตถตุ ้นแบบเอำไว้แลว้ จำกนน้ั เททรำยกลับ ลงไปในถ้วยท่จี ะผสมยำงซิลิโคน แล้วทำเคร่ืองหมำยเอำไว้ เม่อื เทซิลโิ คนลงในถ้วยที่ทำ เคร่ืองหมำย ก็ให้เทซลิ โิ คนเผ่อื ใหม้ ำกกว่ำ เครื่องหมำยที่ทำไวเ้ ลก็ นอ้ ย (เผ่ือซิลโิ คนทตี่ ดิ อยู่ใน ถว้ ยบำ้ ง) วธิ ีเดยี วกนั นีท้ ำงต่ำงประเทศเขำใช้ข้ำวสำรบ้ำง, น้ำตำลทรำยบ้ำง หรอื น้ำก็ใช้กนั - เครอ่ื งดดู สญุ ญำกำศ สว่ นมำกจะเรยี กกนั ทั่วไปวำ่ เครอ่ื งแวคคมั่ ( V acuum ma- chine ) ใชก้ ันในหลำยวงกำรเชน่ งำนซีลถุงบรรจุ อำหำร, ใชด้ ดู อำกำสออกจำก คอมเพรสเซอร์แอร์ เป็นตน้ วงกำรหล่อเรซน่ิ ใช้เพ่ือ ดดู ฟองอำกำศออก จำกเน้อื ยำงซิลโิ คน และเรซิน่ หลอ่ ทั้งนีก้ ำรผสมยำง ซลิ ิโคน และผสมเรซนิ่ จะเกิดฟองอำกำศภำยใน อำจทำใหแ้ มพ่ ิมพย์ ำงซลิ ิโคน หรอื ชินงำนทหี่ ล่อ เรซ่ินเสียหำยได้ อย่ำงไรกต็ ำมเครื่องมือชิน้ น้ี มรี ำคำ ค่อนข้ำงสงู ประมำณหมืน่ บำทข้ึนไป กบั งำนหล่อ เรซนิ่ ท่วั ไป และงำน DIY งำนเรซิน่ อน่ื ๆ ไม่ จำเป็นต้องใช้ แตถ่ ำ้ ต้องทำผลิตภัณฑเ์ พ่อื กำรค้ำขำย ก็จำเป็นต้องใช้เพ่ือใหช้ ิน้ งำนมีคุณภำพ ปจั จบุ นั ผผู้ ลิต หรือหำ้ งรำ้ นที่ขำยชดุ ทำแม่พมิ พ์ยำงซิลโิ คน จะจัดทำชุดท่ีเรยี กว่ำ Silicone mold making kit หรือชุดสรำ้ งแม่พิมพ์ยำงซิลิโคน ออกมำจำหนำ่ ยทั่วไป ในรำคำไม่แพงนัก
29 กำรผสมยำงซลิ โิ คนทำแมพ่ มิ พ์ ขั้นตอนกำรผสมยำงซิลิโคนเพื่อทำแม่พิมพ์นั้น ไม่ยุ่งยำกเท่ำใด เมื่อเรำเตรียมอุปกรณ์ และ กรอบแม่พิมพ์เรียบร้อยแลว้ กไ็ ด้แนะนำไปแล้ววำ่ ยำงซิลิโคนท่ใี ช้ทำแม่พิมพ์มอี ยู่ 2 ชนิดคอื - แบบคอนเดนเซชน่ั เคียว (Condensation cure) ใช้ฮำร์ดเดนเนอร์เปน็ น้ำใสๆ ท่เี รียกว่ำ แคตตำลิสท์ ( C atalyst ) บำ้ นเรำใช้แบบนกี้ นั มำก เพรำะมีรำคำไม่แพงนัก - แบบ แอดดชิ ัน่ เคยี ว (Addition cure) เปน็ ยำงซิลโิ คนแบบ 2 สว่ นผสม คือ สว่ น A กบั ส่วน B ( ส่วน B นี้เป็นฮำรด์ เดนเนอร์) ท้งั 2 ส่วนนน้ั เป็นยำงข้นเหนยี วเหมอื นๆ กัน ยำง ซิลิโคนแบบน้ี มีรำคำสูงกว่ำอกี แบบพอสมควร ส่วนกำรผสมนัน้ จะกวนเขำ้ กันได้ยำกกวำ่ อกี แบบ ต้องออกแรงมำกกวำ่ แตผ่ ลออกมำจะเหมือนกัน ยำงซลิ โิ คนท่ีผสมกับส่วนฮำร์ดเดนเนอร์ท้งั 2 แบบนนั้ เปน็ กำรผสม แบบอตั รำส่วนน้ำหนัก จงึ ตอ้ งใชเ้ ครอ่ื งชัง่ ดจิ ิตอลมำช่วยในเร่อื งนี้ อัตรำส่วนผสมของยำงซลิ ิโคนแบบ คอนดิช่นั เคียว นน้ั โดยท่วั ไปแล้วจะอยู่ใน อตั รำสว่ นนำ้ หนัก 100 : 5 คอื เนื้อยำงซลิ ิโคน 100 กรมั ตอ่ ฮำรด์ เดนเนอร์ 5 กรมั (ในบ้ำนเรำผ้ขู ำยบำงรำยระบุ 100 : 2 ถงึ 100 : 4 บำง รำยไปถึง 100 : 10 ก็มี ( กำรผสมฮำร์ดเดนเนอร์มำก ไปเนอ้ื ซลิ โิ คนจะแห้งเร็ว และแข็ง ตรงกนั ขำ้ มถำ้ นอ้ ยไป เนอ้ื ซลิ โิ คนจะแห้งช้ำ และออ่ น) อย่ำงไรก็ตำม ผูข้ ำยจะ แนะนำตำมชนิด ของยำงซิลโิ คนท่เี ขำขำยใหอ้ ยแู่ ล้ว ส่วนยำงซลิ โิ คนแบบ แอดดชิ ัน่ เคียว ทีเ่ ป็น ส่วน A กับ B นนั้ มกั เป็นแบบอตั รำสว่ น 1 : 1 โดยน้ำหนกั เชน่ กัน ทงั้ นี้ต้องใช้เครอ่ื งชง่ั ดจิ ติ อล แต่ก็มี ไมน่ อ้ ย (ทำงตำ่ งประเทศ)ที่ใช้อตั รำส่วนแบบจำนวนเท่ำๆ กัน เพรำะบำ้ นเขำมยี ำงซิลิโคนผลิต ออกมำหลำยสิบแบบด้วยกัน จงึ มีข้อมูลอัตรำกำรผสมแต่ละชนดิ ต่ำงกันไปบำ้ ง กำรเทยำงซิลโิ คนลงกรอบแมพ่ มิ พ์ กำรเทยำงซิลโิ คนผสมแลว้ ลงในกรอบแม่พมิ พ์ ไมไ่ ด้เป็นเรื่องยำกแตอ่ ย่ำงใด เพยี งยกถว้ ย บรรจยุ ำงซลิ โิ คนใหส้ ูงจำกกรอบแมพ่ มิ พ์พอสมควร โดยเริ่มเทจำกมุมด้ำนในด้ำนของตวั กรอบ ค่อยๆ ใหเ้ นอื้ ยำงไหลลงอย่ำงต่อเนื่อง โดยควบคมุ อยำ่ เทมำก และเร็วไปนกั เนือ้ ยำงซลิ ิโคนจะ คอ่ ยๆ ไล่อำกำศตำมซอกมุมของวตั ถุตน้ แบบ แต่ถำ้ เป็นแมพ่ ิมพ์หน้ำเดียว และวัตถุต้นแบบไม่มี แง่มมุ นกั ก็สำมำรถเทเน้ือยำงซลิ ิโคนลงตรงๆ บนวัตถุตน้ แบบไดเ้ ลย ข้อควรระวงั กค็ ือ แมพ่ ิมพ์ รั่วทฐ่ี ำน หรือดำ้ นข้ำง ทำให้ยำงซลิ ิโคนไหลออกมำ จะยุ่งยำกในกำรแกไ้ ขพอสมควร
30 กำรสร้ำงแมพ่ มิ พ์ยำงซิลิโคนแต่ละแบบ จำกท่ีไดแ้ นะนำถงึ แม่พมิ พ์ยำงซลิ โิ คนทัง้ 3 แบบไปแล้วนน้ั ก็จะมำถึงวธิ ที ำแม่พิมพย์ ำง ซิลิโคนแตล่ ะแบบกันดงั ต่อไปน้ี 1. แม่พิมพ์ยำงซลิ โิ คนชน้ิ เดยี ว (One pieces mold) แม่พิมพแ์ บบนี้บำงทำ่ นเรยี กว่ำ แมพ่ มิ พ์หน้ำเดยี ว เป็นแมพ่ ิมพพ์ นื้ ฐำนท่ีมี ขนั้ ตอนทำค่อนข้ำงงำ่ ย แบ่งออกเปน็ 2 รูปแบบคือ ก. แมพ่ มิ พช์ น้ิ เดียวธรรมดำ ( S imple one pieces mold เป็นแม่พิมพ์ท่มี ีหนำ้ หรอื ดำ้ น หน่ึงเปดิ ออกท้ังหมด เกดิ จำกตวั วัตถุตน้ แบบมีส่วนฐำนกวำ้ ง และแบนเรียบ ส่วนด้ำนทเ่ี ปิดนี้จะ เทยำงซลิ โิ คนลงไปได้ง่ำย ดูจำกภำพประกอบ และคำอธิบำยแลว้ จะเขำ้ ใจไดไ้ ม่ยำก 1. วตั ถุตน้ แบบถกู วำงไวใ้ นกรอบแม่พมิ พ์ 2. ทำวำสลนิ ลงบนวตั ถุตน้ แบบ ( กรอบแม่พิมพ์ แบบนถ้ี อดออกได้) 3. เทยำงซลิ โิ คนที่ผสมแลว้ ลงในกรอบแมพ่ ิมพ์ 4. เทชำ้ ๆ ไลไ่ ปเรอ่ื ย จนเต็มกรอบแม่พิมพ์ 5. แกะแมพ่ ิมพย์ ำงซลิ โิ คนทแี่ ขง็ ตัวแลว้ ออกจำกวตั ถตุ น้ แบบ 6. แมพ่ มิ พย์ ำงซลิ โิ คนแบบชน้ิ เดยี ว ท่เี สรจ็ เรยี บรอ้ ยแลว้ จะเห็นได้ว่ำ แม่พมิ พย์ ำงซิลิโคนแบบชนิ้ เดยี วน้ี มีข้ันตอนในกำรทำไม่ยำกนกั แต่จะไป เสียเวลำในกำรเตรยี มกำร และกำรสรำ้ งกรอบแม่พมิ พอ์ ยู่บ้ำง ส่วนกำรเทเรซ่ินลงแมพ่ ิมพ์ เพ่ือให้ได้ช้ินงำนเหมอื นวตั ถุต้นแบบนั้น จะนำไปพูดถงึ ในตอนงำนหล่อเรซ่นิ ตอ่ ไป แมพ่ มิ พ์ยำงซิลิโคนชนิ้ เดียวแบบขำ้ งต้นนี้ สำมำรถสรำ้ งแมพ้ มิ พด์ ว้ ย พทุ ต้ี ซลิ ิโคน
31 ( P utty silicone ) ซึ่งมีรปู แบบเหมอื นดินนำ้ มนั ท้งั ส่วน A และสว่ น B นำมำผสมรวมกันแลว้ กดลงบนวตั ถตุ น้ แบบ ไดเ้ ปน็ แม่พิมพ์ยำงซิลิโคนออกมำเลย โดยไมต่ ้องสรำ้ งกรอบแมพ่ มิ พ์แต่ อยำ่ งใด ท้ังนี้จะตอ้ งกดให้แนบกับวตั ถุทกุ จดุ กำรใชพ้ ทุ ต้ี ซิลโิ คน เพื่อทำแมพ่ มิ พน์ ้ี นิยมใช้กับวัตถุต้นแบบขนำดเลก็ ๆ ที่มีสว่ นล่ำงแบน รำบ และทใ่ี ชก้ ันมำกก็คือ กำรทำแม่พิมพจ์ ำก วตั ถุต้นแบบท่ีอยคู่ งท่เี ช่น รปู ป้ันบนฝำผนงั , ลวดลำยแกะสลกั หรือปนู ป้ัน และเปลือกของตน้ ไม้ ยำงซลิ ิโคน พทุ ต้ี แบบนี้ บ้ำนเรำกม็ ขี ำยอยู่ เช่นกัน รำคำก็พอๆ กบั ยำงซลิ โิ คนทำแมพ่ ิมพ์แบบทกี่ ลำ่ วมำแลว้ ข. แมพ่ ิมพช์ นิ้ เดยี วแบบผำ่ ( O ne pieces cut mold ) แม่พมิ พแ์ บบนีเ้ ป็นกำรเทยำง ซลิ โิ คนหุ้มวัตถตุ น้ แบบทเ่ี ปน็ รูป 3 มติ ิ แตก่ ็ยงั มฐี ำนเรียบเพ่อื ใหว้ ำงกับฐำน ของกรอบแม่พิมพ์ ได้ เมื่อเทยำงซลิ โิ คนแห้งตวั แลว้ ก็นำแมพ่ มิ พอ์ อกจำกกรอบแม่พิมพ์ จำกน้ันใช้คดั เตอรป์ ลำย แหลม กรีดจำกฐำนวตั ถตุ น้ แบบลงมำสกั คร่ึงทำง มที ัง้ แบบกรีดลงมำตรงๆ และกรดี แบบเบ่ยี งคม มดี ไปทำงซ้ำย และขวำเล็กน้อย วิธีน้ีตวั แม่พิมพจ์ ะปดิ สนทิ กว่ำแบบกรดี ลงมำตรงๆ อยู่บ้ำง แมพ่ ิมพย์ ำงซลิ โิ คนแบบนี้ เหมำะกบั ตวั วัตถตุ ้นแบบไม่มีแงม่ ุมซบั ซอ้ นมำกนัก เพรำะจะทำ ใหก้ รดี หรอื ผ่ำแมพ่ ิมพอ์ อกไดย้ ำก กำรจะเลอื กวิธีทำแบบนี้ หรือกำรทำแม่พิมพ์แบบ 2 ชน้ิ ก็ ขึ้นอยู่กับว่ำผู้ทำแม่พิมพ์จะเลือกแบบใด อย่ำงไรก็ตำมกำรเอำเรซิ่นที่หล่อแล้ว ออกจำกแม่พิมพ์ ยำงซิลิโคนน้ัน จะทำไดง้ ่ำยกวำ่ เมอ่ื ใช้แมพ่ ิมพ์แบบ 2 ชิ้น แต่กำรทำแม่พิมพแ์ บบ 2 ช้นิ จะมี ขั้นตอนมำกกว่ำคือ ต้องทำแม่พิมพ์ที่ละด้ำน จะทำพร้อมกัน 2 ด้ำนไม่ได้
32 แม่พมิ พ์ยำงซลิ ิโคนแบบนี้ มผี ู้ผลติ ออกมำขำยหลำกหลำยรปู แบบทงั้ แบบชนิ้ เดียว และสอง ช้ิน สว่ นมำกจะเป็นรูปแบบง่ำยๆ เช่น ดอกไม,้ รูปสัตว์, กำไล, แหวน เหลำ่ น้เี ปน็ ต้น มีตง้ั แต่ ขนำดเลก็ รำคำ ไม่ถงึ ร้อยบำท ไปจนถึงขนำดใหญร่ ำคำกวำ่ พนั บำทก็มี ผ้ทู ่ที ำเทียนหอม, หรือ สบู่ นิยมซ้อื มำผลติ เป็นสินค้ำออกขำยทั่วไป 2. แมพ่ ิมพย์ ำงซลิ โิ คนสองชน้ิ (Two pieces mold) เปน็ แมพ่ มิ พท์ ่ใี ช้กับวตั ถตู ้นแบบลอยตัว หรอื เป็น 3 มิติ มี หรอื ไม่มี ฐำนติดกบั ฐำนของกรอบแมพ่ มิ พก์ ็ได้ แมพ่ ิมพส์ องช้ินแบบน้ี ก็เท่ำกบั ทำแม่พมิ พ์ชิน้ เดียว 2 ครัง้ เพยี งแต่ว่ำใช้กรอบแมพ่ มิ พ์เดียวกนั ดงั นั้นเมอ่ื เรำสรำ้ งกรอบ แมพ่ ิมพ์ จงึ ตอ้ งออกแบบให้ถอดออกได้งำ่ ย จำกกำรทำแมพ่ ิมพ์ ชน้ิ แรก และประกอบกลับท่เี ดมิ เมอื่ ทำแมพ่ ิมพช์ ิน้ ท่ี 2 อย่ำงเช่น กรอบแมพ่ ิมพ์แบบปรบั ได้ ดงั ท่แี นะนำไปแลว้ หำกว่ำไปแล้วกำรสรำ้ งแม่พิมพ์แบบ 2 ช้ินนี้ ก็มีข้นั ตอน ไม่ไดย้ ุ่งยำกจนเกนิ ไปนัก จะว่ำไปแล้วก็เหมือนกำรทำแม่พมิ พ์แบบช้ินเดียว ดงั ภำพประกอบ
33 1. วำงดนิ นำ้ มนั ลอ้ มวตั ถุตน้ แบบ 2. ปรบั แตง่ ดินนำ้ มนั รอบวตั ถตุ น้ แบบให้ได้ครง่ึ ซกี พอดี 3. จดั วำงกรอบแมพ่ ิมพ์ 4. กรอบแมพ่ มิ พแ์ บบปรบั ขนำดได้ 5. จัดทำสลกั แมพ่ ิมพ์ 6. เทยำงซลิ โิ คนลงในกรอบแม่พมิ พ์ 7. เมือ่ ยำงซลิ โิ คนแหง้ ตวั แลว้ เอำออกจำกกรอบ แมพ่ ิมพ์ แลว้ แกะดนิ นำ้ มันออก 8. ทำวำสลนิ ลงบนซลิ ิโคน และวตั ถตุ น้ แบบ 9. จัดกรอบ แม่พิมพเ์ ข้ำทเ่ี ดิม 10. เทยำงซลิ โิ คนลงในกรอบแม่พิมพอ์ กี ครงั้ 11. เมอื่ ยำงซลิ โิ คนแหง้ ตวั แลว้ กแ็ กะชนิ้ ยำงซลิ ิโคนออกจำกวตั ถตุ น้ แบบ 12. แสดงใหเ้ หน็ แม่พิมพย์ ำงซลิ โิ คน แบบ 2 หนำ้ ทเี่ สรจ็ เรยี บรอ้ ยแลว้ มคี ำๆ หนึ่งทพี่ ดู ถงึ ในกำรทำแมพ่ มิ พย์ ำงซลิ ิโคนแบบ 2 ช้ินน่ันก็คอื สลักแม่พิมพ์ (ทำง ตำ่ งประเทศเรยี กวำ่ โมลด์ คีย์ : Mold key บำงท่ำนเรียกวำ่ เดอื ยลอ็ ก ) ซง่ึ เปน็ ตวั บงั คบั ให้ แม่พมิ พ์ 2 ช้นิ ประกบกันถกู ตำแหนง่ เลื่อนไปมำไมไ่ ด้ สลกั แมพ่ ิมพ์ทำไดง้ ่ำยๆ ตำมภำพ 1. ใชไ้ มป้ ลำยมนกดลงบนดินนำ้ มนั 2. จะเกดิ เปน็ ตมุ่ นนู ทแี่ มพ่ ิมพช์ น้ิ แรก 3. เมื่อเทยำง ซลิ ิโคนทบั แมพ่ ิมพช์ น้ิ แรก กจ็ ะเกดิ สลกั แมพ่ มิ พ์ 4. สลกั แม่พิมพจ์ ะเข้ำลอ็ กกนั พอดี
34 สลกั แม่พมิ พ์ หรือ โมลด์ คีย์ ทำไดห้ ลำยแบบ แลว้ แตผ่ ู้สร้ำงแม่พิมพ์จะเลือก อปุ กรณ์ที่ใช้ก็ มกั เป็น ไม้ปลำยมนกลม, ดนิ สอท่มี ยี ำงลบ, ลกู แก้ว และ ไม้ลวดปนั้ ดิน เป็นตน้ 1. กำรทำสลกั แมพ่ ิมพโ์ ดยไม้ปลำยมน 2. อปุ กรณป์ น้ั ดิน 3. ใชอ้ ปุ กรณป์ นั้ ดินทำหลุมท่ีดนิ นำ้ มัน หรอื ทำแท่งเหลย่ี มเปน็ สลกั แม่พมิ พ์ 4. ใชล้ กู แก้วกลมทำสลกั แม่พิมพ์ 5. ขดุ รอ่ ง ยำวบนดนิ นำ้ มนั ทำสลกั แม่พิมพเ์ สน้ กำรทำแม่พมิ พ์แบบ 2 ชนิ้ นนั้ สลกั แมพ่ ิมพ์ หรอื โมลด์ คยี ์ เป็นส่ิงจำเปน็ ต้องทำ แม้กบั แม่พิมพช์ ้ินเดยี วแบบผำ่ ก็ยังกรีดรอยผำ่ เป็นแนวซกิ แซ๊ก เพ่ือให้รอยปะกบไมเ่ ลอื่ นไปจดุ อนื่ นอกจำกแม่พิมพ์แบบ 2 ช้ิน หรอื แม่พมิ พ์ปะกบ 2 ช้นิ แลว้ กย็ ังมแี มพ่ มิ พแ์ บบปะกบ 3-4 ชนิ้ อีกด้วย ทัง้ น้ี ขึ้นอยู่กับวัตถุต้นแบบ และผู้สร้ำงแม่พิมพ์ ว่ำจะต้องเลือก ทำแบบใดตำมเหตุผลน้ี - วตั ถตุ น้ แบบมีขนำดใหญม่ ำก จำเปน็ ตอ้ งสรำ้ ง แม่พมิ พ์ปะกบ 3-4 ชน้ิ จึงจะสะดวก ต่อกำรถอดชิ้นงำน หล่อออกจำกแมพ่ ิมพ์ ในภำพด้ำนขวำเป็นแม่พมิ พ์หมวก ยอดมนษุ ย์ ที่ต้องใช้แม่พิมพป์ ะกบ 3 ชน้ิ
35 - วัตถตุ น้ แบบมคี วำมซบั ซอ้ นพอสมควร จำเป็นตอ้ งทำแม่พิมพ์ปะกบ 3-4 ชน้ิ เชน่ กัน อยำ่ งไรกต็ ำมวัตถตุ น้ แบบๆ นี้ บำงอยำ่ งกไ็ ม่ ถึงกับซบั ซอ้ นดังภำพซำ้ ยมือ แตก่ ำรสรำ้ ง แมพ่ ิมพแ์ บบ 3 ช้ิน จะช่วยใหถ้ อดช้นิ งำนที่ หล่อเสรจ็ แลว้ ออกจำกแมแ่ ม่พิมพ์ไดง้ ่ำย กวำ่ กำรใชแ้ มพ่ มิ พ์แบบ 2 ช้ิน - วตั ถตุ น้ แบบมสี ว่ นกลวงดำ้ นใน ตอ้ ง แยกแม่พิมพ์ปะกบอย่ำงน้อย 3 ชิ้น ทัง้ นี้แม่พิมพ์ ชิน้ ท่ี 3 เป็นเพียง กนั้ เรซ่ินหลอ่ ใหเ้ กิดโพรงดำ้ น ใน อยำ่ งเชน่ แมพ่ ิมพแ์ กว้ นำ้ ทำงภำพด้ำน ขวำมือ หำกไม่ทำแมพ่ ิมพ์ดำ้ นในแก้ว จะเทเร ซน่ิ หลอ่ ไม่เป็นส่วนที่บำงของแกว้ ไดเ้ ลย -วตั ถตุ น้ แบบมคี วำมซบั ซอ้ นมำก จำเปน็ ตอ้ ง ตัดบำงสว่ นออก เป็นชนิ้ ย่อยๆ แยกไปทำแม่พมิ พ์ ต่ำงหำกอำจจะมำกกว่ำ 3-4 ช้ินก็ได้ แต่แมพ่ มิ พ์ท่ี แยกออกไปหลำยช้ินน้ี ต่ำงกเ็ ปน็ แมพ่ ิมพ์ปะกบ 2 ชิน้ เทำ่ นัน้ ไม่ใชแ่ ม่พิมพ์แบบ 3 ชน้ิ แตอ่ ย่ำงใด ยกเว้นวัตถุตน้ แบบหลกั จะมคี วำมซบั ซ้อนจนตอ้ ง ทำแม่พมิ พ์ 3 ชิ้น แล้วเสริมด้วยแมพ่ มิ พย์ อ่ ยทแี่ ยก ออกไปอกี หลำยชิ้น ซงึ่ จะนำมำต่อกบั วตั ถุตน้ แบบ หลักอกี ที เชน่ รปู หุน่ ยนตท์ ีถ่ ืออำวุธ, รปู กำรตอ่ สูข้ องนกั รบ หรอื กฬี ำชกมวย เป็นต้น 3. แม่พมิ พซ์ ลิ ิโคนยำงแบบถลก (Brush on silicone mold) จำกคำในภำษำองั กฤษ หมำยถงึ แมพ่ มิ พ์แบบทำด้วยแปรง ทั้งนค้ี ำใน ภำษำไทยหมำยถงึ แมพ่ มิ พ์แบบดึง หรอื ถลกออกมำ เปน็ กำรสร้ำงแมพ่ ิมพ์ ทปี่ ระหยดั เน้ือยำงซิลิโคนไป ไดม้ ำก เม่ือเทียบกับกำรเทยำงซลิ ิโคน ลงในกรอบ แมพ่ มิ พ์ ตวั อย่ำงแมพ่ ิมพ์แบบนี้ จะเหน็ ได้จำก แมพ่ ิมพย์ ำงพำรำ ที่ใชห้ ล่อปูนพลำสเตอรท์ ตำมร้ำน ขำยเครอ่ื งเขยี นทั่วไป
36 กำรทำแม่พิมพถ์ ลกดว้ ยยำงซิลโิ คน กไ็ ม่ตำ่ งไปจำกกำรทำแมพ่ มิ พถ์ ลกด้วยยำงพำรำ ซง่ึ ทำได้ทง้ั แบบแมพ่ มิ พ์เดย่ี ว และแมพ่ ิมพแ์ บบหุม้ ท้งั ตวั วตั ถุต้นแบบ เหมือนแบบแมพ่ ิมพ์ยำงพำรำ แม่พมิ พแ์ บบน้บี ำงแหง่ รยี กวำ่ Glove mold หรอื Skin mold ซึ่งหมำยถึง แม่พมิ พ์แบบถลกออก ไดเ้ หมอื นถงุ มือ แต่แมพ่ มิ พย์ ำงซลิ โิ คนแบบถลกน้ี ส่วนมำกนยิ มมตี ัวประคองแม่พิมพ์ ทำง ต่ำงประเทศเรียกว่ำ โมลด์ ซับพอร์ท ( Mold support ) หรอื ซับพอร์ท เชลล์ ( S upport shell ) เพื่อให้แม่พิมพ์ไม่เขยื้อนตวั ในขณะเทเรซิ่นหล่อ บำ้ นเรำเรยี กวำ่ แมพ่ ิมพ์ครอบ ซ่ึงใช้ ทงั้ ปนู พลำสเตอร์ และไฟเบอร์กลำส แตก่ ็มบี ำงท่ำนใช้ยำงซลิ ิโคนแบบเน้อื แขง็ มำใช้ทำตัว ประคองแม่พิมพ์ หรือแม่พมิ พ์ครอบ (บำ้ นเรำคงสูร้ ำคำซิลิโคนแบบนีไ้ ม่ไหว) ขัน้ ตอนกำรทำแม่พิมพ์แบบถลกหนำ้ เดียว 1. วตั ถตุ น้ แบบ 2. ทำซลิ โิ คนชน้ั แรก 3. ทำซลิ โิ คนครง้ั ที่ 1 เสรจ็ แลว้ 4. ทำซลิ โิ คนชน้ั ที่ สอง 5. ทำซลิ โิ คนชน้ั ท่ีสำม และตกแตง่ ใหเ้ รยี บ 6. ทำทับดว้ ยปนู พลำสเตอร์
37 7. เสริมเสน้ ใยเชือกเพอ่ื ควำมแขง็ แรง 8. เสรมิ ฐำนแม่พิมพค์ รอบ ใหว้ ำงไดค้ งที่ 9. ถอด แม่พิมพค์ รอบออก 10. แม่พมิ พค์ รอบ กบั แม่พมิ พย์ ำงซลิ โิ คน 11. ถอดแมพ่ ิมพ์ซลิ โิ คน ออกจำกวตั ถตุ น้ แบบ 12. แสดงให้เหน็ แม่พมิ พซ์ ลิ โิ คน อยใู่ นแมพ่ มิ พค์ รอบ จำกภำพกำรทำแมพ่ ิมพซ์ ลิ โิ คนแบบถลกหนำ้ เดยี วท้ัง 12 ขั้นตอนนน้ั ในข้นั ตอนที่ 12 ก็ สำมำรถจะหลอ่ เรซนิ่ ออกมำเหมือนกบั วตั ถตุ น้ แบบได้เลย ขั้นตอนกำรทำแม่พิมพซ์ ลิ ิโคนถลกแบบหมุ้ วตั ถุตน้ แบบ แมพ่ ิมพซ์ ิลโิ คนถลกแบบหุ้มวตั ถุต้นแบบนนั้ ก็ไมต่ ่ำงไปจำกกำรทำแม่พมิ พ์ถลกแบบหนำ้ เดียวแต่อย่ำงใดคอื กำรทำยำงซลิ โิ คนทผี่ สมแลว้ ไปบนวัตถตุ น้ แบบ 3 - 4 ชน้ั เพอ่ื ให้หนำพอจะ ทรงรูป และถลกออกจำกวัตถตุ น้ แบบไดไ้ มย่ ำก แต่กม็ ีบำงท่ำนทำยำงซิลโิ คนใหห้ นำ 6-7 ช้นั แต่จะไม่ใช้วิธีถลก (ถลกไมไ่ ดอ้ ย่แู ลว้ เพรำะหนำมำก) แตจ่ ะใช้วิธกี รีดผ่ำเอำวตั ถุต้นแบบออก เหมอื นกำรสร้ำงแม่พมิ พ์ช้นิ เดียวแบบผ่ำทไ่ี ด้แนะนำไปแลว้ งำนยำกของกำรทำแม่พิมพถ์ ลกแบบห้มุ วตั ถตุ น้ แบบนี้กค็ ือ ตอ้ งคอยเกล่ยี ยำงซลิ โิ คนทท่ี ำ ด้วยแปรงอยู่ตลอดเวลำ จนกวำ่ ยำงซลิ โิ คนจะหนืดไมไ่ หลต่อไปอกี เพรำะยำงซิลโิ คนทเ่ี หลวอยู่ จะไหลลงดำ้ นล่ำงเสมอ กำรใชแ้ ปรงทำนนั้ จะง่ำยชว่ งยำงซลิ ิโคนยังเหลวอยู่ ตอ่ เม่อื เริ่มหนืด ต้องเปล่ียนไปใช้ไมแ้ บนคอ่ ยๆ ปำดใหเ้ รียบ กำรทำยำงซลิ ิโคนแตล่ ะชั้นนั้น เขำจะผสมสีแตล่ ะช้ันให้ต่ำงกัน เพ่ือใหส้ งั เกตไดง้ ่ำย เพรำะถ้ำเปน็ สีขำว (สเี ดิมของยำงซิลิโคน) ทกุ ชนั้ อำจทำบำงจุดไมท่ ่ัวถึง เนือ่ งจำกเปน็ สี เดยี วกัน จะดูกลมกลืนกนั ไปหมด
38 ขัน้ ตอนกำรทำแมพ่ มิ พ์ 1. ทำยำงซลิ โิ คนชน้ั แรกบนวตั ถตุ น้ แบบ 2. ทำยำงซลิ โิ คนชน้ั แรกเสรจ็ แลว้ 3. ทำยำง ซลิ ิโคนชนั้ ทส่ี อง 4. ทำซลิ โิ คนชนั้ ท่ีสองเสรจ็ แลว้ 5. ตดั ยำงซลิ ิโคนทีฐ่ ำนใหเ้ ขำ้ รปู และ ติดยำงซลิ โิ คนเสน้ ทำหลกั แมพ่ มิ พ์ 6. ขดี เสน้ แบง่ ครงึ่ แมพ่ มิ พ์ 7. ตดิ ดนิ นำ้ มนั ตำมเสน้ แบง่ ครงึ่ แมพ่ ิมพ์ 8. ตดิ ดนิ นำ้ มนั คำ้ ยนั แผน่ ดนิ นำ้ มันแบง่ ครง่ึ แมพ่ มิ พ์ จำกภำพด้ำนบนนัน้ วัตถุต้นแบบมขี นำดใหญ่ แต่มีแง่มุมน้อย จึงทำยำงซลิ โิ คนเพียง 2 ช้นั เพื่อให้ถลก หรือถอดออกจำกวัตถตุ ้นแบบไดง้ ่ำย กำรสร้ำงแมพ่ ิมพ์แบบนี้ จำเปน็ ต้องมีแม่พิมพ์ ครอบ ซง่ึ ตอ้ งแบง่ เป็น 2 ช้ินประกบกัน ภำพท่ี 5 นั้น เปน็ กำรติดหลักแมพ่ มิ พ์ หรือ โมลด์ คยี ์ ( M old key ) โดยชน้ิ ยำงซิลโิ คนที่ เตรียมไว้ ซึ่งจะติดเป็นเนื้อเดยี วกบั แมพ่ ิมพ์ (ตดิ ขณะท่แี ม่พิมพย์ ังไม่แห้ง) สลกั แม่พมิ พน์ ้ีจะ
39 ลงล็อก กบั แม่พมิ พ์ครอบทม่ี ำประกบ 9. งำนนี้เขำใชอ้ ีพอ๊ กซนี่ ุ่ม มำทำแม่พมิ พค์ รอบ (เรำใชป้ นู พลำสเตอรไ์ ด้) 10. แม่พิมพ์ ครอบด้ำนแรกเสรจ็ แลว้ 11.แกะดินนำ้ มนั ออก แลว้ ใช้วำสลนิ ทำแมพ่ มิ พค์ รอบ 12. ทำ แมพ่ ิมพค์ รอบอกี ดำ้ น 13. แม่พมิ พค์ รอบที่เสรจ็ แลว้ 14. แกะแมพ่ มิ พค์ รอบออก 15. แมพ่ มิ พค์ รอบ 2 ซกี ทแ่ี กะออกมำจำกแม่พมิ พย์ ำงซลิ โิ คน 16. นำแมพ่ ิมพค์ รอบมำประกบ กนั แลว้ เจำะรรู้ ้อยนอ็ ต เพอื่ ใหแ้ ม่พิมพ์ครอบอยคู่ งท่ี 17. ถลกแม่พิมพย์ ำงซลิ โิ คน ออกจำก วตั ถตุ น้ แบบ 18. วตั ถตุ น้ แบบ กบั แมพ่ ิมพย์ ำงซลิ ิโคนแบบถลก 19. ใสแ่ มพ่ ิมพย์ ำงซลิ ิโคน เขำ้ แม่พมิ พค์ รอบ 20. แมพ่ ิมพย์ ำงซลิ โิ คนพร้อมเทเรซนิ่ หลอ่ กำรทำแม่พมิ พ์แบบถลกน้ี จะเหมำะกบั วัตถุตน้ แบบท่ีมีแง่มุมไมม่ ำกนกั ซึ่งจะถอดออกจำก งำนเรซิน่ ที่หล่อได้ง่ำย กำรทำแม่พมิ พค์ รอบทบ่ี ้ำนเรำนยิ มกัน ส่วนมำกเป็นงำนไฟเบอรก์ ลำส เพรำะต้นทุนตำ่ และมีควำมแข็งแรงดี สรปุ แล้วงำนทำแมพ่ ิมพ์ยำงซิลโิ คน กม็ ดี งั ที่แนะนำไปแล้ว ตอ่ ไปก็จะเปน็ เรอ่ื งของงำน เรซ่ินหล่อ ท่ตี อ้ งใชแ้ ม่พิมพ์ยำงซลิ โิ คนแต่ละแบบดงั ท่ีกลำ่ วมำทง้ั หมด
40 เรำทำควำมร้จู กั กบั เรซิ่นไปแล้วต้ังแต่ต้น แต่เมอ่ื จะหล่อเรซ่นิ เปน็ รูปทรงต่ำง จำเปน็ ตอ้ งใช้ ยำงซลิ ิโคนเป็นแมพ่ ิมพ์ ทั้งนี้จะต้องอธิบำยเรอื่ งยำงซิลิโคน และรปู แบบของแมพ่ มิ พ์ให้เข้ำใจ เสยี กอ่ น จึงจะมำถงึ เรื่องของกำรหล่อเรซ่ิน ซ่ึงเป็นสว่ นหน่ึงของ งำนเรซน่ิ 8 ประเภทดว้ ยกัน ดงั ต่อไปนี้ 1. เรซ่ินกบั งำนหลอ่ (Casting resin) เรซนิ่ ท่ใี ช้กับงำนหลอ่ นั้น ผูข้ ำยจะระบปุ ระเภทใชง้ ำนเอำไวใ้ ห้แล้ว เช่น แบบหลอ่ ทึบ, หล่อใส, แบบหลอ่ น่ิม เป็นต้น ทงั้ เรซ่นิ แบบโพลเี อสเตอร์ ( Polyester resin ) และ อีพอ๊ กซ่ี เรซิน่ ( E p oxy resin) อยำ่ งไรกต็ ำม งำนเรซ่นิ หลอ่ ท่ัวไปนิยมใช้ โพลีเอสเตอร์ เรซ่ิน มำกกวำ่ อีพอ๊ กซี่ เรซนิ่ เพรำะมรี ำคำถกู กว่ำกัน 5-6 เทำ่ ยกเว้นจะใช้กับงำนหล่อแบบพเิ ศษเชน่ หล่อน่มิ , ทำลกู ตำสัตว์ หรอื กับงำนบำงอย่ำงทตี่ ้องกำรควำมแขง็ แรงเท่ำนัน้ จงึ จะใช้ อีพอ๊ กซี่ เรซิ่น บวก กับ อพี อ๊ กซี่ เรซิ่น แห้งชำ้ กว่ำ โพลเี อสเตอร์ เรซนิ่ มำก งำนหล่อเรซ่ินท่ัวไปจึงไม่นยิ มใช้ กับงำนเรซนิ่ น้นั ในสว่ นของงำนหลอ่ จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ สว่ นของงำนหลอ่ เรซนิ่ เป็นรูปทรงต่ำงๆ และงำนซ่อมท่ีใช้เรซน่ิ - ส่วนของงำนหลอ่ เรซน่ิ จะวำ่ ไปแลว้ งำนหลอ่ เรซนิ่ นัน้ งำ่ ยกวำ่ กำรทำแม่พิมพย์ ำง ซิลิโคนมำกทเี ดยี ว มีข้ันตอนในกำรทำงำนค่อนขำ้ งน้อย แคผ่ สมเรซิน่ แลว้ เทลงในแมพ่ ิมพ์ พอเรซน่ิ แห้งตวั ก็แกะออกจำกแม่พมิ พเ์ ท่ำน้นั เอง เรซนิ่ ทใี่ ช้กบั งำนหล่อน้นั จำกแมพ่ มิ พ์ยำงซิลโิ คนอนั เดียวกัน จะหล่อเรซ่นิ ออกมำได้ทั้ง หล่อใส, หล่อใสสี หรอื ทบึ แบบผสมสี และหล่อทบึ แบบผสมแป้งกับสี ขึ้นอยู่กับงำนที่เรำเลือกที่จะ ทำออกมำ ก่อนทีเ่ รำจะหล่อเรซิ่น กต็ อ้ งจดั เตรยี มอปุ กรณ์ และรจู้ ักวธิ ีผสมเรซน่ิ เสยี ก่อนดงั น้ี เรำทรำบมำแต่เร่มิ บทควำมน้แี ล้วว่ำ โพลเี อสเตอร์ เรซิ่น ( Polyester resin ) เปน็ ของเหลวใส จะแข็งตัวได้ก็ต้องผสมกับตัวทำปฏกิ ิรยิ ำ (Catalyst ) หรอื ฮำรด์ เดนเนอร์ ( H ardener ) บำ้ นเรำเรยี กกนั วำ่ ตวั ทำแขง็ ในอัตรำสว่ น 1-2 % หรือมำกกวำ่ กำรผสมฮำรด์ เดนเนอร์มำกขึ้น กำรแขง็ ตวั ของเรซนิ่ จะเรว็ ขึ้น และมคี วำมร้อนของชิน้ งำนเพม่ิ ขึน้ ไปด้วย ทัง้ น้กี ำรใชอ้ ตั รำสว่ นแบบ เปอร์เซน็ ต์ (%) นี้ บำงทำ่ นอำจจะเข้ำใจยำกวำ่ จะวัดกัน อยำ่ งไร หำกไม่มีเคร่ืองช่งั นำ้ หนักแบบดิจิตอล และถำ้ ผสมเรซิ่นปรมิ ำณไมม่ ำก จะชั่งส่วนของ ฮำร์ดเดนเนอรอ์ ย่ำงไร จึงเปน็ ปัญหำอย่เู สมอมำ ทำงตำ่ งประเทศเขำทำตำรำงระบุ อัตรำ สว่ นผสมของเซนิ่ แบบโพลีเอสเตอร์ กบั ฮำรด์ เดนเนอรเ์ อำไวค้ ่อนขำ้ งง่ำย โดยเทยี บ ปรมิ ำณ เรซน่ิ กบั ฮำร์ดเดนเนอร์ เป็นแบบ กรัม (ในตำรำงแสดงเปน็ ml ซ่ึงเทำ่ กับ g : กรัม) ดังนนั้ เม่อื เรำ ใช้ ฮำรด์ เดนเนอร์ ก่ีเปอร์เซน็ ต์ (ในตำรำงระบุ 1-3 เปอรเ์ ซ็นต์) และใช้เรซ่นิ จำนวนเทำ่ ใด กด็ ู ว่ำตอ้ งใชฮ้ ำรด์ เดนเนอรเ์ ท่ำใดตำมไปด้วย (ดตู ำรำงประกอบ)
41 จำกตำรำงขำ้ งบนนนั้ ถ้ำเรำใชฮ้ ำร์ดเดนเนอร์ 1% หำกเรำใช้เรซ่นิ ปริมำณ 100 กรมั (100 g ) ดจู ำกตำรำง เรำตอ้ งใชฮ้ ำรด์ เดนเนอร์ 1 กรัม ( 1 g ) ถ้ำเรำใชเ้ รซิ่น 500 กรมั (ครง่ึ กก.) และเรำเลือกใช้ฮำรด์ เดนเนอร์ 2 % ตำมตำรำงเรำกต็ อ้ งใช้ฮำร์ดเดนเนอร์ 10 กรัม ดงั น้เี ป็นต้น ถำ้ เรำไมม่ ี เครื่องชงั่ น้ำหนกั แบบดิจติ อล จะรูไ้ ด้ อยำ่ งไรว่ำ 1 กรมั เปน็ ปริมำณเท่ำใด ทำงผทู้ ำตำรำงนกี้ ็ ระบุเอำไว้ว่ำ 1 ช้อนชำ จะเทำ่ กบั 5 กรัม (ใช้ช้อนตวงที่ ทำไว้เฉพำะ จะแม่นยำกว่ำใช้ชอ้ นชำตัวจริง) ซงึ่ จะ เหมำะกบั เรซนิ 500 กรัม ถำ้ ใชฮ้ ำร์ดเดนเนอร์ 1% และ เหมำะกบั เรซิน่ 250 กรัม เมอ่ื ใช้ฮำร์ดเดนเนอร์ 2% ดงั นี้ เปน็ ตน้ ชอ้ นตวงมำตรฐำนบำงย่ีห้อ จะระบุเปน็ จำนวนml (เท่ำกับกรัม) เอำไว้ดว้ ยเชน่ 1 ช้อนชำ เท่ำกบั 5 ml ซ่งึ
42 เท่ำกบั 5 กรมั นัน่ เอง อยำ่ งไรก็ตำม กำรเทียบ ml (มิลลิลติ รเท่ำกับ cc : cubic centimeter) กบั g ( กรมั ) นน้ั เขำเทยี บจำกนำ้ บรสิ ุทธ์ิ เมอื่ นำมำใช้กับฮำรด์ เดนเนอร์ ท่มี คี วำมถ่วงจำเพำะ (Specific gravi- ty=SG : ควำมถ่วงจำเพำะ = ถพ.) ตำ่ งออกไปคือ นำ้ บริสทุ ธม์ิ ีควำมถ่วงจำเพำะ (ถพ.) 1.00 สว่ น ฮำรด์ เดนเนอร์ มีควำมถว่ งจำเพำะที่ 1.13 ซึ่งตำ่ งกันเล็กนอ้ ย จึงใช้อัตรำส่วนตำมตำรำงท่ี กำหนดเอำไวไ้ ด้ จำกตำรำงถัดมำ อำจจะดูยำกกวำ่ เพรำะใชป้ ริมำตรเปน็ oz ( ounce : ออนซ์ 1 ออนซ์เท่ำกบั 28.35 กรัม) แตก่ ลับจะไปงำ่ ยตอนที่ใชร้ ะบบ หยด (Drop ) ของฮำรเ์ ดนเนอร์ ร่วมดว้ ยคือ 300 หยด เทำ่ กับ 10 cc. หรือ 10 กรมั ดงั น้นั 30 หยดจะเท่ำกับ 1 cc หรือ 1 กรัม ท่อี ธบิ ำยมำเสียยดื ยำว ก็เพ่ือใหผ้ ูอ้ ่ำนเข้ำใจถงึ กำรเทยี บอตั รำส่วนผสม ของเรซ่นิ กับ ฮำร์ดเดนเนอร์ ได้อยำ่ งถกู ต้อง ทั้งนเี้ ม่อื ใช้ไปนำนเขำ้ ก็จะปรบั อตั รำส่วนผสมระหว่ำง 1-3 % ไดแ้ มน่ ยำข้ึน โดยอำศัยตำรำงเทียบอตั รำส่วนในกำร เลือกใช้ ตำมควำมเหมะสม อปุ กรณป์ ระกอบงำนหลอ่ เรซ่นิ อุปกรณท์ ีใ่ ช้กบั งำนหล่อเรซ่นิ มไี ม่มำกชิน้ นักดงั น้ี - ถว้ ยผสมเรซนิ่ แม้วำ่ ถว้ ยผสมเรซิ่นจะนยิ มใช้ ถ้วยพลำสติก เหมอื นถว้ ยผสมยำงซิลโิ คน แตถ่ ว้ ยผสม ซลิ ิโคนจะใช้งำนได้นำน เพรำะยำงซิลโิ คนท่ีแหง้ แลว้ จะไมต่ ิดถ้วยผสม ต่ำงไปจำกเรซนิ่ ท่ีจะติดแนน่ กับถว้ ย พลำสตกิ อำจแกะออกได้ยำก ดังนนั้ ถว้ ยผสมเรซน่ิ จึง เลือกใช้ ถว้ ยพลำสตกิ รำคำถกู หรอื ตดั จำกขวดน้ำดืม่ พลำสติกมำใชง้ ำน (ปจั จบุ ันน้ขี วดนำ้ ด่ืมพลำสตกิ ถกู ทง้ิ เป็นจำนวนมำกในแตล่ ะวัน) หรือถ้วยพลำสตกิ อืน่ ๆ ซ่งึ จะประหยดั ไปไดม้ ำก และหำได้ไมย่ ำก - ไมก้ วนเรซนิ่ ผสม เลอื กใชไ้ ม้แบน แบบทเี่ ขำ ใชเ้ สียบไอศกรมี ซงึ่ มีขำยตำมร้ำนขำยเครือ่ งเขียน ท่วั ไป ไม้แบนจะกวน และปำดเรซ่ินผสมได้ง่ำย ขวดใสฮำร์ดเดนเนอร์ และช้อนตวงก็ใช้ เชน่ เดียวกับ งำนผสมยำงซิลโิ คน รวมท้ังอำซโี ทน ( A cetone ) ทใ่ี ช้ลำ้ งครำบเรซนิ่ และยำงซิลโิ คนก็ ใชเ้ หมอื นๆ กัน งำนเรซน่ิ หล่อจงึ ใชอ้ ุปกรณไ์ ม่มำก
43 สำร และสที ผ่ี สมกบั เรซนิ่ งำนหล่อเรซิน่ น้ัน มที ้ังหลอ่ แบบเน้ือเรซิน่ ท่ัวไปอย่ำงเดียว จะได้ชิ้นงำนใสพอประมำณ (ถำ้ ใช้เรซ่ินแบบใสพเิ ศษ กจ็ ะได้ชิ้นงำนใสเหมือนแก้ว) เมอ่ื ผสมสี ก็จะได้ชิ้นงำนเป็นสีตำมท่ี ต้องกำร แตย่ ังอย่ใู นลักษณะใส เมอ่ื ผสมแป้งกจ็ ะไดช้ ิ้นงำนแบบทึบ หรอื ผสมสเี ข้ำไปดว้ ยก็จะได้ ชิ้นงำนทบึ มสี ตี ำมต้องกำร สำรผสมและสีกบั เน้ือเรซน่ิ มีดังน้ี - ผงทลั คมั (Talc powder) เปน็ ผงแป้งเนอ้ื ละเอยี ด มสี ขี ำว ได้มำจำกก้อนสนิ แร่ตำม ธรรมชำติ มีน้ำหนักพอสมควร เม่ือนำมำผสมกบั เรซิน่ กจ็ ะทำให้ชิ้นงำนมนี ้ำหนักเพ่ิมข้นึ ผงทัลคมั หรอื แปง้ ทัลคมั นี้ จะบรรจุเปน็ ถุงๆ ละ 20-30 กก. ทำงร้ำนขำยอุปกรณ์งำน เรซนิ่ จะแบ่งขำยเป็น กก.ๆ ละ 20-30 บำท ไม่ จำเป็นตอ้ งซอ้ื ทัง้ ถุงมำเก็บไว้ กำรผสมผงทลั คัมกบั เรซ่นิ ควรเทเรซ่ินลง ในภำชนะที่ใชผ้ สมก่อน แลว้ จงึ เตมิ ผงทัลคัมไป ทลี ะนอ้ ยกวนให้เขำ้ กัน แลว้ จึงเติมผงทลั คัม เพ่ิมเขำ้ ไปเรอ่ื ยๆ จนไดค้ วำมข้นตำมท่ตี ้องกำร เรซิ่นที่ผสมผงทัลคมั จนข้นเหมอื นยำสฟี นั สำมำรถใช้เป็น ตัวเติม หรือ ฟิลเลอร์ ( F iller ) ซ่ึงจะนำไปใชก้ ับงำน เรซิ่นรูปแบบอน่ื ส่วนงำนหลอ่ เรซิน่ จะผสมให้เหลวพอประมำณ ท่ีจะเทลง แม่พมิ พ์ยำงซลิ ิโคนไดส้ ะดวก - ผงแคลเซยี่ ม (Calcium powder) เป็นผงแปง้ ท่ีไดม้ ำจำกสนิ แรธ่ รรมชำติ แคลเซี่ยม คำรบ์ อเนต (Calcium Carbonate ) ซ่งึ มอี ยูห่ ลำยรปู แบบ ทใ่ี ชก้ ับงำนเรซ่ินนั้นสว่ นมำกไดม้ ำ จำกหนิ อ่อน เป็นผงแป้งสีขำว มีน้ำหนกั มำกกวำ่ ผงทลั คัม และมรี ำคำถกู กวำ่ ช้นิ งำนเรซิน่ ที่ใช้ แคลเซ่ียมผสมจะแข็ง และขดั ใหเ้ รยี บไดย้ ำก กว่ำผงทลั คัมพอสมควร ทำงตำ่ งประเทศมกั จะ ระบุผงแคลเซ่ียม ที่ได้มำจำกหนิ อ่อนวำ่ มำร์ เบ้ิล พำวเดอร์ ( M arble powder ) - ผงเบำ เป็นสำรเพมิ่ เนือ้ เรซนิ่ ทตี่ รงกนั ข้ำมกบั ผงทัลคมั และผงแคลเซยี่ ม ซึง่ จะทำให้ เน้อื เรซน่ิ มีน้ำหนกั เพิ่มขน้ึ แต่ผงเบำทผ่ี สมกับ เนอ้ื เรซิ่น แทบจะไมเ่ พ่ิมน้ำหนกั ให้กับเนือ้ เรซนิ่ แตอ่ ยำ่ งใดเลย เท่ำท่ีใช้กันมีอยู่ 2 แบบคอื
44 - ผงเบำแบบ ไธโซโทรปคิ (Thixotropic powder) โดยทั่วไปบ้ำนเรำจะเรยี กกนั ในชอ่ื แคบ้ -โอ-ซิล (CAB-O-SIL ) ตำมช่อื สนิ คำ้ ( ถำ้ เขียนเป็น CABOSIL ตำมแบบเดิมจะออกเสียง เป็น คำโบซลิ ) เกดิ จำกกำรควบแน่นของควนั ซิลกิ ำ้ ( C ondensed Silica fume ) เปน็ ผล พลอยได้จำกกำรผลติ Ferrosilicon alloys มลี กั ษณะเป็นผง ขำวละเอยี ด มนี ้ำหนักเบำมำก ใชก้ นั อยู่ในหลำยวงกำร กับ งำนเรซน่ิ ใชผ้ สมกบั เรซนิ่ แบบโพลีเอสเตอร์ ออกมำใน รปู แบบของ เจลโคท้ ( J elcoat ) ท่ใี ช้กับกำรสร้ำงเรือไฟ เบอร์กลำส และงำนอตุ สำหกรรมอ่นื ทเี่ กย่ี วกับไฟเบอรก์ ลำส กับงำนหลอ่ เรซิน่ ใชผ้ งเบำไม่มำกนกั ส่วนหน่งึ จะใช้กบั กำรหล่อเหยือ่ ปลอม ที่ใช้กับงำนตกปลำ ท่ีต้องกำรให้ ช้ินงำนลอยน้ำได้ ผงเบำชนดิ น้ีมรี ำคำค่อนข้ำงแพง แตเ่ ม่ือ เทียบกบั ปริมำณ จำกกำรชงั่ นำ้ หนักกนั แล้ว ก็ถือวำ่ ไม่แพง เท่ำใดนกั เพรำะจะไดผ้ งเบำเป็นปริมำณมำก - ผงเบำแบบ ไมโครบอลลนู (Microballoon powder) เป็นผงเบำท่บี ้ำนเรำเรยี กกันในช่ือ คิว-เซล ( Q - CEL ) ซึง่ เปน็ ช่อื ทำงกำรคำ้ ชอ่ื เรยี กเป็น ทำงกำรกค็ ือ Glass microspheres หรอื เรียกสนั้ ๆ วำ่ Glass bubbles เกดิ จำกกำรหลอมแกว้ ให้เกิดเปน็ ฟองเล็กๆ ระดบั ไมโคร จึงมีน้ำหนักเบำมำก เปน็ ผงละเอียดสขี ำว ใช้กันในหลำยวงกำร กบั งำนเรซนิ่ ใช้เป็น สำรเพ่ิมเนื้อเรซน่ิ ใหม้ ีนำ้ หนักน้อยลงกวำ่ กำรใช้ผงทัลคมั และผงแคลเซยี่ ม กำวอีพอ๊ กซ่ีแบบฟิลเลอร์ (ชำวบำ้ น เรยี กวำ่ ชันฝร่งั ) มีส่วนผสมของผงทัลคัม และผงเบำแบบน้ี ซ่งึ มรี ำคำพอๆ กบั ผงเบำแบบแรก งำนหลอ่ เรซ่ินใช้ผงเบำแบบน้ีไม่มำกเชน่ กนั สว่ นมำก จะเปน็ ช้นิ งำนทต่ี ้องกำรน้ำหนักเบำ แขวนหรือติดตัง้ ในที่สูง สว่ นวงกำรตกปลำ นยิ มนำมำใช้ทำเหยื่อปลอมเพ่ือตกปลำ นอกจำกนี้เรซน่ิ ยังสำมำรถผสมไดก้ บั วสั ดุอีกหลำยชนดิ เชน่ ทรำย, กรวด, ผงอลมู ินมั่ , ผง เงนิ และทองท่ีใช้กับงำนฝมี ือ เปน็ ต้น ขึ้นอยกู่ บั รปู แบบของงำนหลอ่ แต่ละอยำ่ ง - สผี สมเรซนิ่ (Pigment Pastes ) เป็นสที ่สี ังเครำะหม์ ำใช้ กับงำนผสมเรซ่นิ ท้งั โพลี เอสเตอร์ เรซ่ิน และอีพ็อกซ่ี เรซนิ่ มีให้เลือกหลำกหลำยสีดว้ ยกัน งำนหล่อเรซ่ินสว่ นหนง่ึ จำเป็นตอ้ งใช้สีผสมใหช้ นิ้ งำนดูดมี ีคณุ ค่ำ สีผสมเรซ่ินแบ่งเป็น 3 แบบคือ
45 1. สที บึ แสง (Opaque pigment) เป็นสีที่ผสมกับ เรซ่นิ แลว้ ให้สีชัดเจน สว่ นมำกจะอยใู่ นรูปแบบ ของเหลว ข้น ( P a ste ) เหมือนกับยำสฟี ัน พน้ื ฐำนเปน็ สนี ้ำมนั ( O il based ) รวมทง้ั สีพำสเทล ( P astel pigment ) ทีใ่ ช้วำดภำพสนี ้ำมนั (ส่วนหน่ึงเป็นแบบสแี ท่ง) สีแบบนม้ี ีใหเ้ ลือกหลำกหลำยสีมำก ปรมิ ำณกำรใช้ กับงำนหลอ่ เรซ่นิ ไม่มำกนกั ทำงผขู้ ำยจึงจดั ทำออกมำเปน็ ขวด หรือกระปกุ เล็กๆ ซ่ึงมีรำคำ 30-50 บำทต่อขวด ส่วน ผ้ทู ีใ่ ช้มำกเช่น งำนทำสเี จลโคท้ เรอื ไฟเบอรก์ ลำส ก็ สำมำรถซอื้ แบบบรรจกุ ระป๋องหลำยกโิ ลได้ เป็นสีท่สี ำมำรถเก็บเอำไว้ได้นำน 2. สีโปรง่ แสง (Translucent pigment) เปน็ สี ทีอ่ ย่ใู นรูปของเหลวเชน่ กัน ต่อเมื่อผสมกบั เรซิ่น จะ มองเห็นสแี บบโปรง่ ใส เหมือนแก้วสี ควรใช้กับ เรซน่ิ ชนิดใสพิเศษ จะได้สีทีส่ วยงำมกว่ำเรซ่ินหลอ่ ท่ัวไป ซ่ึงโปร่งแสงนอ้ ยกวำ่ กันพอสมควร 3. สผี ง (Powder pigment) เป็นสที อ่ี ยู่ใน รปู แบบผงละเอยี ด หรอื เป็นเกล็ดเลก็ ๆ มีหลำกหลำย รปู แบบใหเ้ ลือกนำไปใช้งำน ท้ังแบบ ผงเมทำลคิ ( M atalic powder) ทใี่ หส้ ีแบบโลหะเงิน, ทอง, นำค หรอื สไี ข่มุก ซึ่งอยูใ่ นรปู สที ึบ และมีแบบ สีเรืองแสง ( L uminous powder ) ที่จะทำใหช้ ้นิ งำนเรซน่ิ เรืองแสงได้ในทม่ี ืด รวมท้งั สีเกลด็ ( G litter powder ) ท่ีทำใหช้ น้ิ เงนิ มีประกำยเหมอื นมกี ำกเพชรในตัว งำนหล่อเรซน่ิ ท้งั แบบงำนสร้ำง และงำนซ่อมต่ำงตอ้ งใชส้ ีเปน็ ส่วนประกอบ สว่ นจะเลอื กใช้ สแี บบใด ก็ข้ึนอยู่กบั ช้ินงำนท่ีทำ อย่ำงไรกต็ ำมควรปรกึ ษำรำ้ นทจี่ ำหน่ำยสที ีใ่ ชก้ บั งำนเรซ่ินวำ่ สแี บบใดเหมำะกับงำนแบบใด ท่ีจะทำให้ช้นิ งำนทีท่ ำออกมำดูมีคณุ ค่ำ
46 1. งำนหลอ่ เรซน่ิ (Casting resin) ______________________________ งำนหล่อเรซ่นิ น้ัน มีทั้งด้ำนงำนสรำ้ ง ซ่งึ ผทู้ ำงำนเรซนิ่ จะชอบกบั งำนสร้ำงเปน็ หลกั และ งำนซอ่ ม หลำยท่ำนอำจจะสงสยั ว่ำงำนเรซ่ินจะซอ่ มอะไรกนั บำ้ ง ทั้งนีถ้ ้ำยึดแนว DIY กันแลว้ งำนซ่อมด้วยเรซิ่น มหี ลำกหลำยมำกกว่ำงำนสรำ้ งเสียอกี เน่อื งจำกเรซ่ินเปน็ พลำสติกแขง็ หรอื ทรงรปู ทส่ี ำมำรถทดแทนวัสดุอน่ื ๆ ได้หลำยอยำ่ ง รวมทัง้ ยงั ทำสอี อกมำได้ใกลเ้ คียงกบั ของเดิม เชน่ กำรซ่อมแผน่ กระเบือ้ งปูพ้นื , ผิวไม้ทชี่ ำรดุ , ดำ้ ม หรอื มอื จับของใช้งำนในครัว หรอื ของช่ำง เปน็ ตน้ งำนหลอ่ เรซ่ินจึงเปน็ ประโยชนก์ ับ กำร DIY งำนซอ่ มมำกพอสมควร โดยรวมแล้วงำนหล่อเรซนิ่ มผี ู้จดั พมิ พ์เป็นหนังสอื ออกมำขำยอยู่หลำยเล่ม โดยจะเนน้ ไป ทำงงำนหล่อเรซ่ิน ซง่ึ เปน็ งำนสร้ำงเชน่ หลอ่ เรซิ่นเปน็ รปู ตกุ๊ ตำคน หรอื สตั ว,์ เครื่องประดบั และของที่ระลกึ ทวั่ ไป ส่วนงำนซ่อมจะไม่ได้พูดถงึ แต่อยำ่ งไร งำนหล่อเรซ่ินแบบสร้ำงนี้ ทำได้ หลำยแบบด้วยกนั ข้ึนอยู่กับชน้ิ งำนทีต่ ้องกำร ดงั ตวั อย่ำงนำมำแนะนำ 4 แบบด้วยกันคอื 1.หลอ่ เรซนิ่ จำกแมพ่ มิ พ์หนำ้ เดยี ว (Resin casting 1 part mold) งำนหลอ่ เรซนิ่ แบบนี้ จดั ว่ำ เปน็ พน้ื ฐำนของงำนหล่อเรซิน่ เปน็ งำนหล่อเรซ่ินท่ีคอ่ นขำ้ งง่ำยท้งั แมพ่ ิมพแ์ บบแบน และ แม่พมิ พ์ทรงสูง ดตู ัวอย่ำงภำพท้ัง 2 แบบจะเข้ำใจได้ง่ำย 1-2.ใชแ้ ปง้ โรยลงในแมพ่ ิมพ์ แลว้ ใชแ้ ปรงปัดทำควำมสะอำด 3. เทเรซน่ิ กะปรมิ ำณให้ พอเหมำะ 4. ใสฮ่ ำรเ์ ดนเนอร์ แลว้ กวนเรซน่ิ ใหเ้ ขำ้ กนั 5. เทเรซน่ิ ลงในแม่พิมพ์ 6. ใส่ ลวดทำทแ่ี ขวน 7. เรซนิ่ แหง้ ตวั แลว้ แกะออกจำกแม่พมิ พ์ 8. ชนิ้ งำนทไี่ ดอ้ อกมำ
47 1. ชดุ เตรียมหลอ่ เรซนิ่ 2. เทเรซนิ่ ตำมปรมิ ำตรท่กี ะเอำไว้ 3. ผสมสที ีต่ ้องกำร 4. กวนให้ เขำ้ กนั 5.เตมิ ฮำรเ์ ดนเนอร์ 6. เทชำ้ ๆ ลงแมพ่ มิ พ์ 7. เทจนเตม็ แมพ่ ิมพ์ 8. แกะชน้ิ งำน ออกจำกแม่พมิ พ์ 9. ชน้ิ งำนทีไ่ ด้จำกำรหลอ่ เรซน่ิ ทงั้ 2 ตัวอยำ่ ง เปน็ กำรหล่อเรซนิ่ จำกแมพ่ มิ พ์หน้ำเดียว 2 แบบ กำรแกะชนิ้ งำนออกจำก แมพ่ มิ พ์แบบแรก จะงำ่ ยกว่ำแบบที่ 2 อยู่บ้ำง ซึง่ เกิดจำกรปู ทรงของแม่พิมพ์ 2. หลอ่ เรซน่ิ จำกแม่พิมพถ์ ลก (Resin casting from Glove mold) เป็นงำนหลอ่ เรซิ่นที่ใช้แมพ่ มิ พ์ ถลก อำจเป็นงำนที่ยำกกวำ่ แมพ่ ิมพ์แบบแรก หรอื แบบ แม่พิมพ์ 2 ด้ำนอยบู่ ำ้ ง แตก่ ็ไมย่ ำกจนเกนิ ไป หำก สรำ้ งแม่พิมพแ์ บบถลกมำดีแลว้ โดยรวมแล้วแมพ่ มิ พ์แบบถลก หรือ โกลฟ โมลด์ ( G love mold or Brush on mold ) จะมตี วั ห้มุ แมแ่ บบ หรือ ซับพอร์ท เชลล์ ( S upport shell )
48 เอำไว้ ซงึ่ จะชว่ ยให้แมพ่ ิมพ์แบบถลกอยู่คงที่ กำรเทเรซิน่ หลอ่ จึงทำได้ง่ำยดงั ภำพตวั อย่ำง 1. ผสมสที ำหนิ ออ่ นเทยี ม 2. เทชำ้ ๆ ลงแม่พิมพ์ 3. เทจนเตม็ แมพ่ มิ พ์ 4. เรซ่นิ แหง้ ตวั แลว้ ถอดตวั ห้มุ แมพ่ มิ พ์ 5. ถลกแม่พิมพ์ออกจำกชนิ้ งำน 6. ผลงำนจำกกำรหลอ่ เรซ่ิน 3. หลอ่ เรซน่ิ แบบกลวงดำ้ นใน (Rotocast resin) เป็นงำนหล่อเรซน่ิ แบบดำ้ นในกลวง ซึ่ง ต้องใชว้ ธิ ีหมนุ แบบแม่พมิ พ์ เพื่อเกลย่ี เรซน่ิ ทีเ่ ทเขำ้ แม่พิมพ์ ใหเ้ คลอื บผวิ แม่พมิ พ์ดำ้ นใน ควำม
49 1. ทำควำมสะอำดแมพ่ มิ พ์ 2. ปะกบตวั ห้มุ แม่พิมพ์ 3. เทเรซน่ิ ลงแมพ่ มิ พ์ แล้วหมนุ ไป รอบๆ จนเรซนิ่ แห้งตวั 4. แกะตวั หุม้ แมพ่ ิมพอ์ อก 5. ถลกแมพ่ ิมพอ์ อกจำกชน้ิ งำน 6. ขัดเรซน่ิ สว่ นเกินออกจำกขอบ 7. ใหเ้ ห็นชน้ิ งำนกลวงด้ำนใน 8. ชน้ิ งำนทเ่ี สรจ็ แลว้ หนำของช้ินงำนท่ตี ้องกำรอำจต้องเติมเรซ่นิ ทลี่ ะช้ัน จนไดค้ วำมหนำทต่ี อ้ งกำร ชนิ้ งำนแบบนี้ สว่ นหน่งึ เปน็ หมวกครอบศีรษะ หรือหนำ้ กำกแบบสวมหวั หำกเป็นช้นิ งำนทใ่ี หญ่มำก กำรหมนุ ตวั แมพ่ มิ พ์อำจจะยำกสกั หนอ่ ยดงั ในภำพ 1. เทเรซน่ิ ลงในแม่พมิ พแ์ บบถลก 2-3. หมุนแม่พมิ พด์ ้วยมือ ใหเ้ รซน่ิ เคลอื บผวิ ดำ้ นใน แม่พมิ พ์ 4. ถอดเปลอื กหมุ้ แม่พมิ พอ์ อก 5. ดงึ หรอื ถลก แมพ่ ิมพอ์ อกจำกชนิ้ งำน 6. ชนิ้ งำนทเี่ สรจ็ แลว้ ดำ้ นในกลวง หำกต้องทำช้นิ งำนแบบดำ้ นในกลวงอย่บู อ่ ย เขำจะออกแบบเครอื่ งหมุนแม่พิมพ์ ท่ใี ช้ มอเตอรไ์ ฟฟำ้ มำช่วย ทำให้วำงมือจำกกำรทำงำนได้ เครอ่ื งหมนุ แบบนจ้ี ะหมนุ แมพ่ ิมพ์ไดร้ อบ ด้ำน โดยเฉพำะกบั แม่พมิ พข์ นำดใหญ่ท่ีใชแ้ รงงำนหมุนแม่พิมพ์ได้ยำก อย่ำงไรกต็ ำมช้นิ งำน แบบดำ้ นในกลวงขนำดใหญ่ จะไมค่ อ่ ยพบกบั งำนหลอ่ เรซิน่ เท่ำใดนกั
50 4. หลอ่ เรซน่ิ ใสเหน็ วตั ถดุ ้ำนใน ( Cast embedment in clear resin) เป็นงำนหลอ่ เรซ่ิน ใส โดยมองเห็นวัสดุท่ีวำงเอำไว้ภำยใน นิยมใช้กบั งำนหล่อเรซ่ินเคร่ืองประดบั และใชก้ บั งำน ทำงวิชำกำรเชน่ หลอ่ เรซ่ินเกบ็ ตัวอย่ำงแมลง เปน็ ต้น 1. เตรยี มอปุ กรณใ์ นกำรทำงำน 2. วตั ถทุ จ่ี ะวำงในเรซนิ่ ใส 3. งำนหลอ่ เรซนิ่ แบบนตี้ อ้ ง ใช้เรซน่ิ ใส 4. ผสมฮำรด์ เดนเนอร์ 5. กวนใหเ้ ขำ้ กนั 6. เทเรซนิ่ ชำ้ ๆ ลงในแมพ่ มิ พ์ 7. เทเรซนิ่ จนถงึ ระดับทกี่ ำหนด 8. เมื่อเรซนิ่ เรม่ิ แหง้ ตวั วำงวตั ถทุ ่ีเตรยี มไวล้ งตรงกลำง แมพ่ มิ พ์ 9. เทเรซน่ิ ชำ้ ๆ ลงทับวตั ถทุ ี่วำงไว้ 10. เทเรซน่ิ จนถงึ ระดับทก่ี ำหนดไว้ 11. เม่อื เรซนิ่ แหง้ ตวั ดแี ลว้ จงึ แกะชนิ้ งำนออกจำกแมพ่ ิมพ์ 12. ชนิ้ งำนที่ได้ตำมทต่ี อ้ งกำร กำรเลือกวตั ถุมำเทเรซ่ินทบั แบบนีเ้ ช่น แมลง หรือดอกไมใ้ บไม้ ควรทำให้แห้งเสยี กอ่ น ทงั้ นคี้ วำมชน้ื ท่ีมอี ยู่กับวตั ถุ จะทำให้เกดิ ฟองอำกำศ และเรซ่ินจะแหง้ ตวั ไม่เปน็ ไปตำมขบวนกำร เซท็ ตวั ของเรซ่นิ ซึ่งงำนวิชำกำรทีเ่ ก็บตวั อยำ่ งแมลง มีเครื่องมอื ช่วยขจัดควำมชนื้ ใชก้ นั อยู่
Search