ใบงาน การนิเทศการสอนแนวใหม่ ใหน้ ักศกึ ษาตอบคาถามดังต่อไปน้ี การนเิ ทศแนวใหม่ประกอบดว้ ย ตอบ 1. การนิเทศแบบชี้แนะสะท้อนคดิ ( Coaching) 2. การนเิ ทศแบบเปน็ พ่ีเลยี้ งและสนบั สนุน (Mentoring and Supporting) 3. การนเิ ทศแนวใหมบ่ นพน้ื ฐานการวจิ ยั (Research Based Supervision : RBS) กิจกรรมการพฒั นาดา้ นเทคนิคแนวใหม่ประกอบด้วย ตอบ 1. การสร้างความเข้าใจให้กับผู้ที่เก่ียวข้องทุกฝ่าย เพ่ือให้เข้าใจจุดมุ่งหมาย แนวทางการดาเนินงานและ พร้อมให้ความรว่ มมือ 2. การพฒั นาการศึกษานิเทศกใ์ ห้มีคณุ ลกั ษณะและความพร้อม สร้างแรงจูงใจในการทางานเพ่อื พฒั นา คุณภาพการศกึ ษา 3. สร้างเครอื ขา่ ยการทางานร่วมกนั ในทุกระดับ 4. สนับสนนุ ให้ศกึ ษานิเทศก์ดาเนินงานอย่างเป็นระบบ การนิเทศแนวใหม่ ได้แก่ 1. การนเิ ทศแบบชแี้ นะสะท้อนคิด (Coaching) คือ? การช้ีแนะสะท้อนคิด เป็นกระบวนการให้คาแนะนา หรือให้คาปรึกษาหรือกระตุ้นให้เกิดความคิด ไตรต่ รอง ทบทวน (Reflective Thinking) พนิ จิ วเิ คราะหแ์ ละพิจารณาสิ่งต่าง ๆ อย่างรอบคอบ โดยใช้สติและ สมาธิ ซึ่งเป็นวิธีการที่ทาให้บุคคลได้ทบทวนและสะท้อนการกระทาของตน (Reflective Practice) ช่วยให้เกิด ความเข้าใจและเกิดการเรียนรจู้ ากประสบการณ์ นาไปสู่การพฒั นาปรบั ปรงุ ตนเอง ปรับปรุงงาน 2.การนเิ ทศแบบเปน็ พีเ่ ลย้ี งและสนบั สนนุ (Mentoring and Supporting) คอื ? การนิเทศแบบพ่ีเลี้ยง (Mentoring) : ผู้ให้คาปรึกษาแนะนาช่วยเหลือผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอน ในเร่อื งการพฒั นาคุณภาพการศึกษาและคุณภาพผู้เรยี นเพือ่ ใหม้ ีศักยภาพการทางานสงู ข้นึ 3.การนิเทศแนวใหม่บนพ้ืนฐานการวิจัย (Research Based Supervision : RBS) มีกระบวนการ อย่างไร? มีกระบวนการดังนี้ การวิเคราะห์ปัญหา การศึกษาหลักการทฤษฎีนวัตกรรมที่เป็นไปได้ในการแก้ปัญหา เลือกนวัตกรรมท่ีเหมาะสมที่สุด สร้างตันแบบนวัตกรรม ทดลองใช้และปรับปรุงอย่างต่อเนื่องทดลอง ภาคสนาม และการประเมินการทดลองใช้ สรุปผล
รปู แบบการนเิ ทศ แฮริส แบ่งเปน็ 2 แบบ คือ 1. การนเิ ทศแบบเนน้ การใหค้ าแนะนา (Tractive Supervision) คอื ตอบ แบบน้ีผู้นเิ ทศจะได้คาแนะนาให้ผไู้ ดร้ บั การนเิ ทศไปปรบั ปรุงแกไ้ ข 2. การนเิ ทศแบบเน้นความเปน็ พลวัติ (Dynamic Supervision) คอื ตอบ แบบน้ีผู้นิเทศจะจุดประกายทางด้านความคิดเพื่อส่งเสริมให้ผู้ได้รับการนิเทศนาไปปฏิบัติ ผู้ได้รับ การนิเทศ สามารถใช้ความรู้ความ สามารถตลอดจนประสบการณ์ท่ีตนเองมีมาปรับปรุงการสอนตามความ เหมาะสมกับ สภาพความเปน็ จรงิ ดิ เทนเนอร์ และ แอลเทนเนอร์ 4 แบบ 1. การนเิ ทศแบบตรวจตรา (Inspection Supervision) คือ ตอบ ผู้นเิ ทศจะตรวจการทางานของสถานศกึ ษาใหเ้ ปน็ ไปตามกฎระเบยี บ ของหลกั สตู รทีก่ าหนดไว้ การ นิเทศแบบนเี้ ป็นแบบเกา่ แกท่ ใ่ี ชม้ านาน 2. การนิเทศแบบเน้นผลงาน (Supervision as Production) คือ ตอบ การนิเทศแบบน้ีจะดูผลงานของสถานศึกษาว่าสามารถผลิตผู้เรียนออกสู่สังคมอย่างมีประสิทธิภาพ มาก หรือไม่มากน้อยเพียงใด บางคนเรียกการนิเทศแบบวิทยาศาสตร์ เพราะมีการวางแผนการทางาน อย่างมีระบบ ระเบยี บตรวจสอบยอ้ นกลับได้อยา่ งมขี ้ันตอนท่ีชัดเจน) 3. การนเิ ทศแบบคลินกิ (Clinical Supervision) คอื ตอบ การนิเทศแบบนี้เน้นการปรับปรุงกระบวนการเรียนการสอนในลักษณะท่ีพิจารณา และแก้ไขตาม ความ เหมาะสมของผูไ้ ด้รบั การนิเทศแต่ละแห่ง จึงคล้ายกับการรักษาอาการเจ็บป่วยของคนไข้ ให้มีการ ฟื้นฟูสภาพได้ดี ข้ึน แต่การนิเทศการศึกษาจะมุ่งให้ผู้ได้รับการนิเทศเปลี่ยนแปลงพฤติกรรการเรียนการ สอนให้มีความเหมาะสม โดยผู้นิเทศและผู้ได้รับการนิเทศจะได้พบปะเผชิญหน้ากันไปปรับใช้ตามความ เหมาะสมและความจาเป็นเพื่อ ประโยชนข์ องการใชง้ าน 4. การนิเทศแบบเน้นการพัฒนา (Developmental Supervision) คือ ตอบ การนเิ ทศแบบนี้เนน้ พัฒนาผู้ไดร้ ับการนิเทศ ใหม้ ีความรูค้ วามสามารถในการแกไ้ ขปัญหาของตนเอง ได้ การนิเทศการสอนแบบกลั ยาณมิตร เน้นประเด็นสาคญั 4 ประการ 1. การสรา้ งศรัทธา หมายความวา่ ผ้นู เิ ทศจะตอ้ งสร้างศรทั ธา เพือ่ ให้เพือ่ นครยู อมรับและเกิดความสนใจที่ จะใฝ่ รู้ ใฝป่ รับปรุงการจดั กระบวนการเรยี นรู้ 2. การสาธติ รูปแบบการสอน หมายความว่า ผ้ใู หน้ ิเทศจะต้องเสดงให้เปน็ ทปี่ ระจกั ษ์ชัดว่า การสอนท่ีเน้น ผู้เรียน เปน็ สาคัญนั้นสามารถปฏิบตั แิ ละทาได้จริงๆ แล้วเพอื่ นครูสามารถนารูปแบบโปประยุกตใ์ นชน้ั เรยี น ได้ 3. การร่วมคิดแลกเปลีย่ นเรียนรู้ หมายความวา่ ผนู้ เิ ทศและผู้รับการนิเทศ จะต้องมีการพบปะกันอย่าง สม่าเสมอ มีการรว่ มคดิ แก้ปัญหาและแลกเปลี่ยนเรียนร้ใู นการจัดกระบวนการเรยี นรู้ ซงึ่ กันเละกัน
4. การติดตามประเมนิ ผลตลอดกระบวนการ หมายความวา่ ผูน้ ิเทศจะตอ้ งบันทึกการนิเทศอยา่ งสม่าเสมอ สังเกต และรับฟังข้อมูลป้อนกลับจากเพ่ือนครูผู้รับการนิเทศ ศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไข เพื่อสร้าง สังคมแห่งการ เรยี นอยา่ งเป็นระบบและต่อเน่อื งสืบไป การนิเทศแบบร่วมพัฒนา( Cooperative Development Supervision) เป็นปฏิสัมพันธ์ทางการนิเทศ ระหว่างกีฝ่ ่าย ใครบ้าง ตอบ เป็นปฏิสัมพันธ์ทางการนิเทศ ระหว่างผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์และครูผู้สอนในกระบวน นิเทศ การศึกษาทมี่ งุ่ แก้ปญั หาและพฒั นาการเรยี นการสอนอยา่ งเป็นระบบ การนิเทศแบบสอนงาน (Coaching) หมายถึง การให้คาปรึกษาแนะนาเป็นการพบระหว่างผู้นิเทศกับ ผู้รับการ นิเทศ เป็นวิธีการพัฒนาบุคลากรให้สามารรถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการแนะนา หรือเรียนรู้จากผู้ ชานาญ(Coach) ในลักษณะที่ได้รับคาแนะนาหรือเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กับการปฏิบัติ มีข้ันตอนแบบโค้ชช่ิง 4 ขัน้ ตอน CQCD - C – ย่อมาจากคาว่า Compliment หมายถึง การสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างผู้ที่ทาหน้าท่ีเป็น Coach และ ผู้ให้คาแนะนาซ่ึงเป็นสัมพันธภาพท่ีสร้างความไว้วางใจ ความสบายใจ ยินดีร่วมในทางของ Coaching Techniques นับเป็นบทบาทสาคัญของ Coach ควรดาเนินการอย่างไร? ตอบ Coach ที่จะต้องดาเนินการ ดงั น้ัน ควรดาเนนิ การดังนี้ 1. ศึกษาข้อมูลของผู้ที่ได้รับการแนะนาเช่น จุดเด่น ผลงานเด่น ความชอบ อัธยาศัย จุดอ่อน จุดท่ีต้อง ปรับปรุง ขอ้ มูลต่าง ๆ ควรบนั ทึก ไวอ้ ยา่ งเปน็ ระบบมคี วามเหมาะสม 2. นาข้อมูลมาเป็นแนวทางในการสร้างสัมพันธภาพ ได้แก่ การชมเชย หรือการสร้างบรรยากาศ เพื่อการ เชือ่ มโยงไปสขู่ ัน้ ต่อไป - Q – ย่อมาจากคาว่า Question หมายถึง การถามเน้นการถามในเชิงขอความคิดเห็นไม่ให้ผู้ตอบจนมุม หรือ เกดิ ความไมส่ บายใจที่จะตอบคาถาม Coach ควรดาเนนิ การอย่างไร? ตอบ ซ่ึงผู้เป็น Coach อาจจะใช้ความเหมาะสมของผู้รับคาแนะนา และ สภาพปัญหา เช่น - คุณคิดว่าผมจะทา อะไรได้บ้าง -คณุ คิดว่ามวี ิธกี ารอะไรบ้างแกป้ ญั หาน้ี –คุณคดิ วา่ ถา้ ใชว้ ิธีการนี้แล้วจะเกดิ อะไรข้ึน
- C – ย่อมาจากคาว่า Correct หมายถงึ การเสนอแนะแนวทางแก้ไข Coach ควรดาเนนิ การอย่างไร? ตอบ ในข้ันตอนน้ีผู้เป็น C๐ach ควรให้ความสาคัญในชั้นตอนที่สืบเนื่องจากขั้น Question นาคาตอบ ของผู้รับ คาแนะนามาวิเคราะห์และนาเสนอในส่วนท่ียังบกพร่องสังเคราะห์เป็นแนวการปฏิบัติหรือการ พัฒนางานใน ลกั ษณะแลกเปลย่ี นเรียนรู้ร่วมกนั และในข้นั ตอนน้ีควรกาหนดบทบาทในการปฏิบตั ิแต่ละ เร้ืองชัดเจน - D – ย่อมาจากคาว่า Demonstrate หมายถึง การน าข้อเสนอหรือแนวทางที่ตกลงกันไว้ในข้ันตอนของ การ นิเทศ C - Correct หรอื แผนการใช้นวัตกรรม ซึ่งผ้รู ับคาแนะแนวทางเป็นผปู้ ฏบิ ตั ิ Coach ควรดาเนนิ การอยา่ งไร? ตอบ สว่ นผทู้ ีเ่ ปน็ Coach เป็นผู้แนะนาอยา่ งใกลช้ ดิ บางครั้ง Coach จะต้องสาธติ ให้ดดู ้วย ชือ่ นางสาวจารุวรรณ เลาเท่า รหสั 61105402310จค ช้ันปที ่ี 4 สาขา การสอนภาษาอังกฤษ คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วทิ ยาเขตลา้ นนา
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: