วิทย์เสร็จสมบรูณ์

บทที่ 6 การใชพ้ ลงั งานเพือ่ การขนสง่

พลงั งาน คือ กิจกรรมท่ีทาหรื อผลของแรงท่ีทาใหว้ ตั ถุเคล่ือนท่ี หรื อ ความสามารถในการ ทางาน ซ่ึงมีอยูใ่ นตวั ของส่ิงของท่ีสามารถเปล่ียนรูปไดท้ างานได้ ไดแ้ ก่ พลงั งานหมุนเวียน และพลงั งานส้ินเปลือง ประเภทพลงั งาน การจาแนกแหลง่ ท่ีมาสามารถแบง่ ไดเ้ ป็น 2 แหลง่ คือ พลงั งานตน้ กาเนิดหรือพลงั งานใชแ้ ลว้ หมดไป พลงั งานแปรรูปหรือพลงั งานหมุนเวียน

ปญั หาการใชพ้ ลงั งานในประเทศไทย 1.การขาดแคลนพลงั งานประเภทน้ามนั เช้ือเพลิง 2.ตอ้ งพ่ึงพาการนาเขา้ น้ามนั เช้ือเพลิงจากตา่ งประเทศ 3.ขาดความรู้ และเทคโนโลยีในการพฒั นาพลงั งาน 4.นโยบายดา้ นพลงั งานของประเทศพ่ึงเร่ิมตน้ อยา่ งจริงจงั 5.ความฟ่มุ เฟือย และการใชง้ านอยา่ งขาดประสิทธิภาพ

พลงั งานใชแ้ ลว้ หมดไป ถา่ นหิน (coal) เป็นเช้ือเพลิงธรรมชาติ เกิดจากการสะสมตวั ตามธรรมชาติของซากพืชใน แอง่ ตะกอนน้าต้ืน ถา่ นหินเป็นหินตะกอนชนิดหน่ึงซ่ึงสามารถติดไฟได้ มีสว่ นประกอบท่ี สาคญั คือ สารประกอบของคาร์บอน ถา่ นหินมีกาเนิ ดมาจากการเปล่ียนแปลงตาม ธรรมชาติของพืชพนั ธุไ์ มต้ า่ งๆ ท่ีสลายตวั และสะสมอยูใ่ นลุม่ น้าหรื อแอง่ น้าตา่ งๆ นับเป็น เวลาหลายรอ้ ยลา้ นปี เม่ือเกิดการเปล่ียนแปลงของผิวโลกเชน่ เกิดแผน่ ดินไหว ภูเขาไฟ ระเบิด หรือมีการทบั ถมของตะกอนมากข้ึน

พลงั งานใชแ้ ลว้ หมดไป ปิโตรเลียม หมายถึง สารประกอบไฮโดรคาร์บอนท่ีเกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ โดยมีธาตุเป็น องคป์ ระกอบหลกั คือ คาร์บอน และไฮโดรเจน โดยอาจมีธาตุอ่ืน เชน่ กามะถนั ออกซิเจน ไนโตรเจน ปนอยูด่ ว้ ย ปิโตรเลียมเป็นไดท้ ง้ั ของแข็ง ของเหลว หรือกา๊ ซ แร่นิวเคลียร์ หรื อ แร่กมั มนั ตรังสี เป็นแร่ท่ีใหพ้ ลงั งานมหาศาลโดยแยกเอาธาตุกมั มนั ตรังสี ตา่ งๆสาหรับใชป้ ระโยชน์ เชน่ ยูเรเนียม โคบอลต์ เรเดียม และทอเรียม ประโยชนข์ องธาตุกมั มนั ตรงั สี ทาระเบิดนิวเคลียร์ ใชผ้ ลิตกระแสไฟฟ้า เปล่ียนแปลงโครโมโซมของส่ิงมีชีวิต ใชใ้ นการแพทย์

พลงั งานหมุนเวียน พลงั งานแสงอาทิตย์ (Solar Energy)คือ พลงั งานทดแทนชนิดหน่ึงท่ีสามารถผลิตไดจ้ ากการ แผร่ ังสีของดวงอาทิตยท์ ่ีอยูใ่ นรูปของแสงแดด ซ่ึงใหท้ งั้ พลงั งานแสงและพลงั งานความรอ้ น พลงั งานแสงอาทิตยถ์ ือเป็นพลงั งานหมุนเวียนสะอาดท่ีไมก่ อ่ ใหเ้ กิดมลพิษหรือสง่ ผลกระทบ ตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม และยงั เป็นแหลง่ พลงั งานท่ีมีศกั ยภาพสูง ไมม่ ีวนั หมด

พลงั งานหมุนเวียน พลงั งานน้า นิยมใชใ้ นการผลิตไฟฟ้า โดยมีกงั หนั น้าเป็นอุปกรณท์ ่ีใชใ้ นการเปล่ียนพลงั งาน จลน์ท่ีมีอยูใ่ นน้าใหเ้ ป็นพลงั งานกลเพ่ือผลิต พลงั งานชีวมวล ชีวมวลตา่ งๆเหลา่ น้ี ไดแ้ ก่ ไมเ้ ศษไม้ ตอ ฟางขา้ ว ตน้ ออ้ ย และอ่ืนๆท่ีได้ จากพืชผลทางการเกษตรและกระบวนการเกษตรตา่ งๆ

พลงั งานหมุนเวียน พลงั งานลม พลงั งานลมท่ีจะนามาใชใ้ นการผลิตกระแสไฟฟ้า จะอาศยั อุปกรณ์ท่ีเรียกวา่ กงั หนั ลม ซ่ึงการใชพ้ ลงั งานลมเพ่ือผลิตไฟฟ้า ความเร็วลมจะตอ้ งสม่าเสมอหรื อกาลงั ลม เฉล่ียทงั้ ปีไมน่ อ้ ยกวา่ 6.4-7.0 เมตรตอ่ วินาทีท่ีความสูง 50 เมตร

พลงั งานทดแทนเพ่ือการขนสง่ 1.น้ามนั แกส๊ โซฮอล์ พฒั นาข้ึนมาเป็นเช้ือเพลิงทดแทนน น้ามนั เบนซิน เกิดจากการผสมระหวา่ ง น้ามนั เบนซินกบั เอทานอล (เอทิลแอลกอฮอล)์ 1.1 น้ามันแก๊สโซฮอล์ E10เป็ น 1.2น้ามนั แกส๊ โซฮอลE์ 20 1.3 น้ามนั แกส๊ โซฮอลE์ 85 สว่ นผสมระหวา่ งเอทานอลไมเ่ กิน เป็ นส่วนผสมระหวา่ งเอทานอลไม่ เป็นสว่ นผสมระหวา่ งเอทานอลรอ้ ย รอ้ ยละ10และไมต่ ่ากวา่ รอ้ ยละ 9 เกินรอ้ ยละ20 และไมต่ ่ากวา่ รอ้ ยละ ละ 85 และไมต่ ่ากวา่ ร้อยละ 75 กบั น้ามนั เบนซินพ้ืนฐานรอ้ ยละ 19 กบั น้ามนั เบนซินพ้ืนฐานรอ้ ยละ กบั น้ามนั เบนซินพ้ืนฐาน 90โดยปริ มาตรซ่ึงในทอ้ งตลาด 80 โดยปริมาตร รอ้ ยละ15 โดยปริมาตร ปัจจุบนั มีจาหน่ายทง้ั น้ามนั แกส๊ โซฮอลอ์ อกเทน 91และน้ามนั แกส๊ โซฮอลอ์ อกเทน 95

พลงั งานทดแทนเพ่ือการขนสง่ 2. ไบโอดีเซล ผลิตภณั ฑท์ ่ีไดจ้ ากการนาน้ามนั พืชหรื อไขมนั สตั วม์ าผา่ นกระบวนการทางเคมี เพ่ือใหไ้ ดส้ ารท่ีมีคุณสมบตั ิใกลเ้ คียงกบั น้ามนั ดีเซลหมุนเร็ว สามารถนาไปใชเ้ ป็นเคร่ืองยนตด์ ีเซล หมุนเร็วและสามารถนาไปใชก้ บั เคร่ืองยนตด์ ีเซลได้ 2.1 ไบโอดีเซลสาหรับเคร่ื องยนตก์ ารเกษตร หรื อ 2.2 ไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเทอร์ของกรดไขมนั บางคร้ังเรี ยกว่า ไบโอดีเซลชุมชนโดยจะมี ซ่ึงเป็นไบโอดีเซลท่ีมีคุณภาพสูง โดยมีโครงสรา้ ง ประสิทธิภาพต่ากวา่ ไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอส เทอร์ของกรดไขมันเพราะเคร่ื องยนต์ท่ีใชใ้ น น้ามนั ใกลเ้ คียงกบั น้ามนั ดีเซลมาก การเกษตรมีเคร่ืองยนตไ์ มซ่ บั ซอ้ นจึงไมต่ อ้ งใช้ ไบโอดีเซลท่ ีมีคุณภาพสูงก็ได ้

ความสาคญั ของการขนสง่ การขนส่ง หมายถึง การเคล่ือนยา้ ยคน สินคา้ หรื อ บริการจากตาแหน่งหน่ึงไปยงั อีกตาแหน่งหน่ึ งในกรณี ของการเคล่ือนยา้ ยคนน้ันจะเป็ นเร่ื องของการขนส่ง ผูโ้ ดยสารเสียเป็ นส่วนใหญใ่ นบริบทของหลกั สูตรการ จดั การการขนสง่ น้ีจะเนน้ ท่ีการขนสง่ สินคา้ หรื อบริการ เป็ นสาคญั

การขนสง่ ทางบก การขนสง่ ทางบก แบง่ ออกเป็น ทางรถไฟและทางรถยนต์ การเดินทางโดยรถไฟปลอดภยั และสะดวกสบายแตก่ ็ไมส่ ามารถ แวะพกั ระหวา่ งทาง หรือออกไปนอกเสน้ ทางได้ แตก่ ารเดินทางโดยรถยนตส์ ว่ นตวั สามารถแวะพกั ตามเสน้ ทางท่ีตอ้ งการได้ ผลกระทบการขนสง่ ทางบก ปัญหาจราจรติดขดั อุบตั ิเหตุจากการขนสง่

การขนสง่ ทางน้า การขนสง่ ทางน้า (Water Transportation) คือ การขนสง่ โดยการใชแ้ มน่ ้าลาคลอง เสน้ ทางทางทะเลเป็นเสน้ ทางลาเลียง สินคา้ สว่ นใหญใ่ ชส้ าหรบั การขนสง่ สินคา้ ระหวา่ งประเทศ ซ่ึงเหมาะสมกบั สินคา้ ท่ีมีขนาดใหญ่ ขนส่งไดป้ ริมาณมากเป็นสินคา้ ท่ียากแกก่ ารเสียหาย เชน่ ทราย แร่ ขา้ วเปลือก เคร่ืองจกั ร ยางพารา เป็นตน้ ขอ้ ดีของการขนสง่ ทางน้า ขอ้ เสียการขนสง่ ทางน้า ตน้ ทุนตอ่ หน่วยต่า ใชร้ ะยะเวลานาน ขนสง่ สินคา้ ขนาดใหญไ่ ด้ ตอ้ งมีปริมาณมากพอ คุม้ คา่ ตอ่ การขนสง่ มีความปลอดภยั เพราะใชค้ วามเร็วต่า ตอ้ งมีการขนถา่ ยซา้ ไมส่ ามารถเขา้ ถึงจุด รบั สง่ สินคา้ ได้ ความเสียหายจากการขนสง่

การขนสง่ ทางอากาศ การขนสง่ สินคา้ โดยทางอากาศเป็ นการขนสง่ ท่ีกาลงั ไดร้ ับความนิยมอยา่ งแพร่หลาย ประเทศตา่ ง ๆ มี การพฒั นาสนามบิน พาณิชยใ์ หท้ นั สมยั และเพียงพอกบั ความตอ้ งการบริษทั สรา้ งเคร่ืองบินมีการสรา้ งเคร่ืองบิน ซ่ึงมีขนาดใหญแ่ ละสมรรถภาพในการ บินสูงสามารถบรรจุสินคา้ และบรรทุกผูโ้ ดยสารไดม้ ากข้ึน ขอ้ ดีการขนสง่ ทางอากาศ ขอ้ เสียการขนสง่ ทางอากาศ รวดเร็ว คา่ ใชจ้ า่ ยสูง สามารถไปไดใ้ นถ่ินทุรกนั ดาร เกิดอบุ ตั ิเหตุงา่ ยกวา่ การขนสง่ ทางอ่ืน มีอุปสรรคดา้ นสภาพอากาศ ส่ิงของตอ้ งมีน้าหนักเบา

ขอขอบคุณคะ่