Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การบูรณาการสะเต็มศึกษาสู่อาชีพการเผาถ่านบ้านนักวิทย์

คู่มือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การบูรณาการสะเต็มศึกษาสู่อาชีพการเผาถ่านบ้านนักวิทย์

Published by manuschai socompa, 2019-06-12 09:40:03

Description: คู่มือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การบูรณาการสะเต็มศึกษาสู่อาชีพ จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การบูรณาการสะเต็มศึกษาสู่อาชีพ ของศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาสระแก้ว ซึ่งประกอบด้วย การจัดกิจกรรมการเรียนรู้สะเต็มศึกษาสู่อาชีพ การเผาถ่านบ้านนักวิทย์

Search

Read the Text Version

ก คำนำ คูม่ อื การจัดกจิ กรรมการเรียนรกู้ ารบูรณาการสะเต็มศกึ ษาส่อู าชีพ ฉบบั น้จี ัดทาข้ึนเพ่อื ใช้เป็นแนวทางในการ จัดกจิ กรรมการเรียนรู้การบูรณาการสะเตม็ ศึกษาสู่อาชีพ ของศูนย์วิทยาศาสตรเ์ พอ่ื การศกึ ษาสระแก้ว ซ่ึง ประกอบด้วย การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้สะเต็มศกึ ษาสู่อาชีพ การเผาถา่ นบา้ นนักวิทย์ รายละเอยี ดของค่มู ือ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้สะเตม็ ศกึ ษาสู่อาชีพน้ัน ประกอบดว้ ยฐานการเรยี นรู้ และแผนการจัดกจิ กรรม การเรียนรู้ของแตล่ ะฐาน ซึ่งแผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้พัฒนาขึ้นโดยใชร้ ูปแบบการจัดกจิ กรรมวทิ ยาศาสตร์ กศน. (ONIE SCI ACTIVITY MODEL) ท่ีเนน้ การเรยี นรู้อย่างมสี ว่ นรว่ ม ความรับผิดชอบ ความคดิ สรา้ งสรรค์ และคานงึ ถงึ ผู้รับบรกิ ารเป็นสาคญั ศูนยว์ ทิ ยาศาสตร์เพอื่ การศกึ ษาสระแกว้ ขอขอบคุณผู้ท่มี ีสว่ นเกีย่ วขอ้ งในการจดั ทาค่มู ือการจดั กจิ กรรม การเรียนร้กู ารบรู ณาการสะเต็มศกึ ษาสูอ่ าชพี และหวังเปน็ อย่างยง่ิ ว่า นอกจากประโยชน์ของผปู้ ฏบิ ัติงานของศนู ย์ วิทยาศาสตรเ์ พอื่ การศกึ ษาสระแก้วโดยตรงแลว้ จะเปน็ ประโยขน์ตอ่ ผู้ท่สี นใจ ให้เกิดความรู้ความเข้าใจกิจกรรม การเรียนรู้การบูรณาการสะเต็มศึกษาสอู่ าชีพท่ีบรู ณาการองคค์ วามรู้ทางดา้ นวิทยาศาสตร์และศาสตร์ท่ีเกี่ยวข้อง เปน็ อยา่ งดี (นางยวุ ดี แจ้งกร) ผู้อานวยการศนู ยว์ ิทยาศาสตร์เพ่อื การศึกษาจงั หวดั สระแกว้ เมษายน 2561

ข สำรบญั หนำ้ ก คำนำ ข สำรบัญ ค คำช้ีแจง ค รำยละเอยี ดของกำรจัดกจิ กรรมกำรบรู ณำกำรสะเต็มศกึ ษำสอู่ ำชพี ค จดั กิจกรรมกำรเรียนรู้กำรบูรณำกำรสะเตม็ ศึกษำสู่อำชีพ ค กำรจัดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ บทบำทของผจู้ ดั กิจกรรมตำมรูปแบบกำรกจิ กรรมกำรเรยี นรวู้ ทิ ยำศำสตร์ กศน. (ONIE SCI ง ACTIVITY MODEL) ง กำรวดั และประเมินผล ง คำจำกัดควำม จ ส่งิ ทผ่ี ู้จัดกิจกรรมตอ้ งเตรยี มก่อนกำรจัดกิจกรรม จ รปู แบบกำรจัดกิจกรรมของศนู ยว์ ทิ ยำศำสตร์เพื่อกำรศึกษำสระแกว้ จ โครงสรำ้ งกำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้กำรบรู ณำกำรสะเตม็ ศึกษำสูอ่ ำชพี กำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้กำรบรู ณำกำรสะเตม็ ศึกษำสู่อำชีพ 1 4 ฐำนกำรเรยี นรทู้ ี่ 2 เร่ือง กำรเผำถ่ำนบำ้ นนกั วทิ ย์ 7 แผนกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่ 2 เร่อื ง กำรเผำถ่ำนบำ้ นนกั วทิ ย์ 11 ใบความรูท้ ี่ 1 เร่ือง การเผาถา่ นแบบไร้ควัน ใบกจิ กรรมของผ้รู ับบรกิ าร บรรณำนกุ รม คณะผจู้ ัดทำ

ค คำช้ีแจง กำรใชค้ มู่ ือกำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นรกู้ ำรบรู ณำกำรสะเตม็ ศกึ ษำสูอ่ ำชีพ คู่มือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การบูรณาการสะเต็มศึกษาสู่อาชีพ ฉบับน้ีจัดทาขึ้นเพ่ือใช้เป็นแนวทางใน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยบูรณาการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ของศูนย์ วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาสระแก้ว ซึ่งประกอบด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ได้แก่การบูรการสะเต็มศึกษาสู่ อาชพี รำยละเอียดของกำรจดั กิจกรรมกำรบรู กำรสะเต็มศกึ ษำสู่อำชีพ กำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นรู้กำรบรู ณำกำรสะเต็มศึกษำสอู่ ำชพี ประกอบดว้ ยฐานการเรียนรู้ จานวน 1 ฐาน และแต่ละฐานประกอบด้วยแผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ จานวน 1 แผน ไดแ้ ก่ 1. การเผาถ่านบ้านนกั วิทย์ แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรือ่ ง การเผาถ่านบ้านนกั วิทย์ กำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นรู้ ใช้รปู แบบกำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ กศน. (ONIE SCI ACTIVITY MODEL) ซ่ึงประกอบดว้ ย 3 ขัน้ ตอน ได้แก่ ขั้นตอนท่ี 1 กจิ กรรมกำรเรียนรูป้ ระสบกำรณ์ทำงวทิ ยำศำสตร์ (S : Science Experience Activity) ขั้นตอนท่ี 2 กจิ กรรมกำรเรียนรวู้ ทิ ยำศำสตรท์ ท่ี ้ำทำย (C : Challenge Learning Activity) ขั้นตอนท่ี 3 กจิ กรรมกำรสรุปผลกำรนำวิทยำศำสตรไ์ ปใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน (I : Implementation Conclusion Activity) แผนกำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนร้เู ปน็ สว่ นทก่ี ำหนดสงิ่ ต่อไปนีใ้ หผ้ ู้จัดกิจกรรมได้ทรำบ 1. แนวคิด 2. วตั ถุประสงค์ 3. เนอื้ หา 4. ขัน้ ตอนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 5. สื่อ วัสดอุ ุปกรณ์ และแหล่งการเรียนรู้ 6.การวัดและประเมนิ ผล 7. บันทึกผลหลังการจดั กิจกรรมการเรียนรู้

ง บทบำทของผจู้ ัดกิจกรรมตำมรปู แบบกำรกจิ กรรมกำรเรยี นรวู้ ทิ ยำศำสตร์ กศน. (ONIE SCI ACTIVITY MODEL) ผจู้ ดั กิจกรรมจะตอ้ งดาเนนิ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ โดยเปน็ ผูอ้ านวยความสะดวก กระตนุ้ ชีแ้ นะ และ ให้คาปรึกษากับผรู้ บั บริการให้เกดิ กระบวนการเรยี นรูไ้ ดอ้ ยา่ งมีสว่ นรว่ ม สรา้ งสรรค์ และเนน้ ความรับผดิ ชอบของ ผูร้ ับบริการ เม่อื ผู้จดั กิจกรรมได้จดั กิจกรรมการเรยี นรตู้ ามร้แู บบการจัดกจิ กรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ กศน. (ONIE SCI ACTIVITYMODEL) เสรจ็ เรยี บร้อยแลว้ ผู้จดั กจิ กรรมตอ้ งบันทกึ ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นร้หู ลงั เสรจ็ กจิ กรรมการเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ีแนบมาทา้ ยแผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ของทกุ ๆ แผน กำรวัดและประเมนิ ผล ในการวัดและประเมินผล กาหนดให้มีการทาขอ้ สอบก่อนและหลังเรยี นของแตล่ ะแผนการจดั กิจกรรมการ เรียนรู้ เพ่ือเป็นการวดั ผลสัมฤทธใ์ิ นการเรียนรู้ของผ้รู ับบรกิ ารทสี่ อดคล้องกบั วัตถุประสงคท์ ่ีกาหนด คำจำกัดควำม ผจู้ ัดกิจกรรม หมายถงึ ครู/ผู้สอน ของศนู ย์วิทยาศาสตร์เพือ่ การศึกษาสระแก้ว ผูร้ ับบรกิ ำร หมายถงึ นักเรยี น นกั ศึกษา เยาวชน และประชาชนทว่ั ไป กำรบรู ณำกำรสะเต็มศกึ ษำสูอ่ ำชีพ หมายถึง การบูรณาการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ คณิตศาสตร์และอาชีพ กำรบูรณำกำรสะเตม็ ศึกษำสอู่ ำชีพหมายถงึ กจิ กรรมการเรียนรู้ในฐานการเรียนรู้ จานวน 1 ฐาน ไดแ้ ก่1) การเผาถ่านบ้านนกั วิทย์ สิ่งที่ผจู้ ดั กิจกรรมต้องเตรยี มก่อนกำรจดั กิจกรรม 1. ศกึ ษาเนอื้ หาและแผนการจัดกจิ กรรมการเรียนร้อู ย่างละเอยี ด 2. ต้องเตรียม สือ่ วัสดอุ ุปกรณ์ และแหล่งการเรียนรทู้ เ่ี ก่ียวขอ้ ง รูปแบบกำรจัดกจิ กรรมของศูนย์วิทยำศำสตรเ์ พือ่ กำรศกึ ษำสระแกว้ รปู แบบที่ 1 ฐานการการเรยี นร้นู ทิ รรศการ รปู แบบที่ 2 ค่าย ซง่ึ มแี บบ 1 วนั (ไป - กลับ), 2 วนั 1 คืน, 3 วนั 2 คืน รูปแบบท่ี 3 กิจกรรมการศึกษา ได้แก่การอบรมให้ความรู้ มีท้ังแบบเคล่ือนที่ และภายในศูนย์ วิทยาศาสตร์เพ่อื การศึกษาสระแกว้ รูปแบบท่ี 4 การเรียนรู้ผ่านบริการวิชาการ ได้แก่เอกสาร วารสาร เว็ปไซด์ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อ การศึกษาสระแกว้

จ โครงสรำ้ งกำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้กำรบูรณำกำรสะเต็มศกึ ษำสูอ่ ำชพี สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ได้ให้ความสาคัญในเร่ืองของการ พฒั นา การเผยแพร่ และการส่งเสรมิ การเรียนร้วู ิทยาศาสตร์แกน่ ักเรียน นสิ ิต นักศึกษา และประชาชนอยา่ งมาก ด้วยการจดั ตง้ั ศูนย์วทิ ยาศาสตร์เพื่อการศกึ ษาขน้ึ เพ่ือให้เปน็ แหล่งความร้ทู ี่ส่งเสริมการศึกษาตามอัธยาศัย โดยจัด ให้เป็นแหล่งบริการความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ซ่ึงเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา เยาวชน และประชาชนทั่วไป ได้เข้าไปศึกษาหาความรู้ จัดบริการหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีข้ึน ศูนย์วิทยาศาสตร์เพ่ือ การศึกษาสระแก้ว เป็นสถานศึกษาขึ้นตรง สังกัดสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยสานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ มีบทบาทหน้าท่ีความรับผิดชอบในการพัฒนาการศึกษา คุณภาพ ทรัพยากรมนุษย์ และรบั ผดิ ชอบในการส่งเสรมิ การจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน ดา้ นวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และ สิง่ แวดลอ้ ม ใหแ้ ก่กล่มุ เป้าหมายที่อยู่ทง้ั ในและนอกระบบโรงเรยี น ซง่ึ ถอื เปน็ การสนองนโยบายของรัฐบาลในการ พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ใหเ้ ป็นศูนย์กลางของการพัฒนา รวมท้ังยงั เปน็ การกระจายโอกาสทางการศึกษาของคนไทย ท้ังชาติอีกด้วยนอกจากนี้ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาสระแก้ว มีหน้าท่ีในการจัดกิจกรรมเพ่ือส่งเสริมให้เกิด กระบวนการเรียนรู้ทางดา้ นวิทยาศาสตร์เทคโนโลยแี ละส่ิงแวดล้อม ทงั้ ในส่วนของการเรยี นการสอนตามหลกั สูตร และการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีข้ึน โดยจัดกิจกรรม4 กรรมหลัก ได้แก่ การเรียนรู้ผ่านนิทรรศการค่าย วิทยาศาสตร์ กิจกรรมการศึกษา และบริการวิชาการ ซึ่งเป็นกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีท่ีมีคุณค่าย่ิง การเรียนรู้ผ่านนิทรรศการ เป็นการจัดแสดงความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและ ส่งิ แวดล้อมผ่านนิทรรศการสื่อประสม ที่ทันสมัย น่าสนใจ ทั้งสอื่ แสงสเี สยี ง ของเลน่ เกม ฯลฯ ทผ่ี ู้ชมสามารถเข้า ไปมีส่วนร่วมในการลองเล่น ลองฝึกปฏิบัติลองหาคาตอบจากการเล่นเกมต่างๆค่ายวิทยาศาสตร์ เป็นกิจกรรม ส่งเสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี อีกรูปแบบหนึ่งที่มีคุณคา่ ย่ิง เป็นกิจกรรมทีจ่ ัดให้ผู้รับบริการมาพัก แรมอยู่ร่วมกัน ได้ท้งั ความรแู้ ละความสนกุ สนาน พรอ้ มกับปฏิบัติกจิ กรรมต่างๆที่ถกู จดั ไวอ้ ย่างผสมผสานกลมกลืน ตลอดระยะเวลาการอยู่ค่ายกิจกรรมการศึกษา เป็นกิจกรรมท่ีจัดขึ้นเพ่ือให้บริการการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม และอื่นๆ แก่นักเรียน นักศึกษา เยาวชน และประชาชนทั่วไปในเขตพื้นท่ีรับผิดชอบ และกลุ่มเป้าหมายต่างๆทั่วประเทศ สอดคล้องตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 ท่ียึด ผูเ้ รียนเป็นสาคัญ มุ่งเสรมิ สรา้ งทักษะกระบวนการและกระตนุ้ ให้ผเู้ รียนมีความสนใจในการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ ซ่ึง จัดลักษณะการเรียนรู้ท้ังลักษณะการเรียนรู้นอกระบบและการเรียนรู้ตามอัธยาศัยบริการวิชาการ เป็นการให้ ความรู้เชงิ วิชาการด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ในลักษณะการบริการข้อมูลข่าวสาร ทั้งในส่วน ของขา่ วสารขอ้ มลู การจดั กิจกรรมการเรียนรูแ้ ละข้อมลู ดา้ นวิชาการวิทยาศาสตรส์ มยั ใหม่ ดังนน้ั กำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้กำรบูรณำกำรสะเตม็ ศกึ ษำสู่อำชพี ประกอบด้วยกจิ กรรมการเรยี นรไู้ ดแ้ ก่ 1. การเรยี นรผู้ ่านนทิ รรศการ 2. การเรยี นรผู้ ่านคา่ ย 3. กิจกรรมการศึกษา 4. บรกิ ารวิชาการ

ฉ วัตถปุ ระสงค์ การจัดกิจกรรมการเรียนรูก้ ารบรู ณาการสะเต็มศึกษาสู่อาชีพ เน้ือหำ 1. กำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นรกู้ ำรบูรณำกำรสะเต็มศึกษำสู่อำชีพประกอบดว้ ยฐานการเรียนรู้ จานวน 1 ฐาน ได้แก่ 1.1 การเผาถ่านบา้ นนกั วทิ ย์” กำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้ ใชร้ ปู แบบการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ กศน. (ONIE SCI ACTIVITY MODEL) ซ่งึ ประกอบด้วย 3 ขัน้ ตอน ไดแ้ ก่ ขน้ั ตอนที่ 1 กจิ กรรมการเรียนร้ปู ระสบการณ์ทางวทิ ยาศาสตร์ (S : Science Experience Activity) ขนั้ ตอนที่ 2กจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตรท์ ี่ทา้ ทาย (C : Challenge Learning Activity) ขั้นตอนที่ 3กจิ กรรมการสรุปผลการนาวิทยาศาสตรไ์ ปใช้ในชวี ติ ประจาวนั (I : Implementation Conclusion Activity) สือ่ วสั ดอุ ปุ กรณ์ และแหล่งกำรเรยี นรู้ 1. ใบความรูส้ าหรับผู้จดั กจิ กรรม 2. ใบความรู้สาหรับผู้รับบริการ 3. ใบกจิ กรรม 4. แบบทดสอบกอ่ นและหลังเรยี น 5. แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ กำรวัดและประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤติกรรมจากความสนใจ ความต้ังใจ การแลกเปลย่ี นเรียนรู้ในการร่วมกจิ กรรม 2. ชิน้ งาน/ผลงาน 3. ผลการทดสอบ 4. ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจ กล่มุ เปำ้ หมำย ผรู้ ับบรกิ าร ได้แก่ นักเรียน นักศกึ ษา เยาวชน และประชาชนทัว่ ไป ระยะเวลำทใ่ี ชใ้ นกำรจดั กจิ กรรม จานวน 3 ช่ัวโมง 1. การบูรณาการสะเตม็ ศึกษาสูอ่ าชีพ 3 ชั่วโมง 1.1 การเผาถา่ นบา้ นนักวิทย์

คมู่ ือการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ การบรู ณาการสะเต็มศกึ ษาสูอ่ าชพี 1

ฐานการเรียนรทู้ ่ี 2 เรื่อง การเผาถ่านบา้ นนักวิทย์ 2

แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 2 เร่อื ง การเผาถา่ นบา้ นนกั วิทย์ ประกอบดว้ ยแผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ เร่อื ง การเผาถ่านบ้านนกั วิทย์ จานวน 3 ชั่วโมง 3

แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนร้ทู ี่ 2 เร่อื ง การเผาถา่ นบ้านนกั วิทย์ เวลา 3 ช่วั โมง แนวคดิ การเผาถ่านบ้านนักวิทย์ฯ เป็นการบูรณาการสะเต็มศึกษาสู่อาชีพการเผาถ่านไร้ควัน ซึ่งการเผา ถ่านไร้ควันเป็นการเผาถ่านแบบประหยัดพลังงาน โดยใช้ถังน้ามันขนาด 200 ลิตร ประดษิ ฐ์เตาขนึ จากวสั ดุที่ หาง่ายในท้องถิ่น มีการพัฒนาจนมีประสิทธิภาพการเผาไหม้ท่ีดียิ่งขึน ท้าให้ถ่านผลิตได้มีคุณภาพดี โดยการเผา ประเภทนีอาศัยความรอ้ นไล่ความชนื ในเนือไม้ทีอ่ ยู่ในเตา ทา้ ให้ไมก้ ลายเปน็ ถา่ น เรยี กวา่ กระบวนการคาร์บอนไน เซช่ัน (Carbonization) โครงสร้างเป็นระบบปิด สามารถควบคุมอากาศได้ จึงไม่มีการลุกติดไฟของเนือไม้ ถา่ นทไี่ ด้จงึ มคี ุณภาพสูง วัตถปุ ระสงค์ เมือ่ สินสุดแผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรูน้ แี ล้วผูร้ ับบริการสามารถ 1. อธิบายความหมาย ประโยชน์ คุณสมบัติ และชนิดของถ่าน 2. อธิบายเตาเผาถา่ นแบบไร้ควัน 3. อธิบายและเผาถา่ นแบบไร้ควัน เนอื้ หา 1. ความหมาย ประโยชน์ คุณสมบัติ และชนดิ ของถ่าน 1.1 ความหมายของถ่าน 1.2 ประโยชน์ของถ่าน 1.3 คุณสมบัติของถ่าน 1.4 ชนดิ ของถา่ น 2. เตาเผาถ่านแบบไร้ควนั 2.1 ส่วนประกอบของเตาเผาถ่านไร้ควัน 2.2 ขนั ตอนการผลิตเตาเผาถ่านไรค้ วนั 3. การเผาถ่านแบบไร้ควัน 3.1 วัสดทุ ่ใี ชใ้ นการเผาถ่านไรค้ วัน 3.2 ขันตอนการเผาถ่านไรค้ วัน แผนผังความเชอื่ มโยงระหวา่ งสะเต็มศกึ ษากับเน้ือหาทีเ่ รยี นรู้ Science Technology Engineering Mathematics - การสังเกตความเปล่ียนแปลง การใช้การใช้กระบวนการให้ การวางแผนและปฏิบตั ติ าม - คา้ นวณระยะการตังเตาจาก - ใชห้ ลักการคาร์บอนไนเซช่นั ไดม้ าซ่ึงถา่ นท่มี ีคณุ ภาพ กระบวนการในการผลิตถา่ น พืนดิน (Carbonization) คอื ให้ ไรค้ วัน - การคา้ นวณระยะเวลาใน ความรอ้ นเพ่อื ไล่ความช่นื การเผา 4

ข้ันตอนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นตอนท่ี 1 กจิ กรรมการเรยี นรปู้ ระสบการณท์ างวิทยาศาสตร์ (S : Science Experience Activity) 1. ผจู้ ดั กิจกรรมทักทาย และแนะน้าตนเองให้กับผูร้ บั บรกิ าร รวมทังชีแจงวัตถุประสงค์ของ ฐานการเรียนรู้ เรือ่ ง การเผาถ่านบา้ นนกั วิทย์ ไดแ้ ก่ (1) อธบิ ายความหมาย ประโยชน์ คุณสมบัติ และชนิดของถ่าน (2)อธิบายเตาเผาถ่านแบบไร้ควัน (3)อธิบายและเผาถ่านแบบไร้ควนั 2. ผจู้ ัดกิจกรรมซักถามประสบการณเ์ ดิมของผ้รู ับบรกิ าร เกยี่ วกับเรื่องที่จะเรยี นรโู้ ดยสมุ่ ผู้รับบรกิ าร จ้านวน 3 - 5 คน ตามความสมัครใจให้ตอบค้าถามจ้านวน 3 ประเดน็ ดังนี ประเดน็ ท่ี 1 “ท่านรจู้ กั การเผาถา่ นหรือไม่ อยา่ งไร” ประเดน็ ท่ี 2 “ทา่ นร้จู ักการเผาถ่านไรค้ วันหรือไม่ อย่างไร” ประเดน็ ท่ี 3 “ทา่ นเคยประดษิ ฐ์เตาเผาถา่ นแบบไร้ควันหรอื ไม่ อย่างไร” 3. ผจู้ ดั กิจกรรมและผู้รับบรกิ ารแลกเปลย่ี นความคิดเหน็ และสรุปผลการเรยี นรรู้ ่วมกนั 4. ผจู้ ดั กิจกรรมเชื่อมโยงประสบการณ์เดมิ ของผรู้ ับบริการกับเนอื หาการเรียนรู้ เร่อื ง การเผาถา่ นไร้ควนั โดยบรรยายเรือ่ ง การเผาถ่านไรค้ วัน ตามใบความรู้ของวทิ ยากร เรอ่ื ง การเผาถา่ นไร้ควัน หลงั จากนนั เชือ่ มโยงการบรู ณาการสะเตม็ ศกึ ษากบั เนือหาท่เี รียนรู้ ตามใบความรู้ของผจู้ ัดกิจกรรม เรอื่ ง การเชื่อมโยงสะเตม็ ศกึ ษากับการเผาถ่านไรค้ วนั ดังนี 4.1 Science (วิทยาศาสตร์) (1)การสงั เกตความเปลีย่ นแปลง (2)ใช้หลกั การคาร์บอนไนเซชนั (Carbonization) คือ ให้ความร้อนเพือ่ ไล่ความชนื 4.2 Technology (เทคโนโลยี) การใช้การใช้กระบวนการใหไ้ ดม้ าซงึ่ ถ่านทม่ี ีคณุ ภาพ 4.3 Engineering (วิศวกรรมศาสตร)์ การวางแผนกระบวนการในการผลิต 4.4 Mathematics (คณติ ศาสตร์) (1)ค้านวณระยะการตังเตาจากพืนดิน (2) การคา้ นวณระยะเวลาในการเผาท่ีท้าให้ได้ถ่านท่มี ีคุณภาพมากที่สดุ 5

5. ผู้จัดกิจกรรมแจกใบความรู้ส้าหรบั ผูร้ บั บรกิ าร เร่อื ง การเผาถ่านบา้ นนักวิทย์ หลงั จากนนั ผจู้ ัด กจิ กรรมและผ้รู บั บรกิ ารแลกเปลย่ี นความคิดเหน็ และสรุปผลการเรียนรู้รว่ มกนั ขัน้ ตอนท่ี 2 กจิ กรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ท่ีท้าทาย (C : Challenge Learning Activity) 1. ผู้จัดกิจกรรมน้าเข้าสู่บทเรียนโดยตังสถานการณ์ปัญหาว่า การเผาถ่านโดยท่ัวไปนัน จะได้ถ่าน ในปริมาณทีน่ ้อย และเกดิ ควนั มาก สง่ ผลกระทบตอ่ ส่งิ แวดล้อม อีกทังยงั ไดผ้ ลผลติ ท่ไี ม่มีคณุ ภาพ ผู้รับบริการจะมี วธิ ีการหรือแนวทางในการแก้ๆขปัญหา ดงั กลา่ วหรอื ไม่อยา่ ไร 2. ผู้จดั กจิ กรรมเชอื่ มโยงเนือหาในขันตอนท่ี 1 เร่ือง การเผาถ่านแบบไร้ควัน โดยให้ผู้รับบริการออกแบบ และปฏิบัติการเผาถา่ นแบบไร้ควัน ตามหลักการคาร์บอนไนเซชนั (Carbonization) มาเป็นองค์ความรู้ในการเผา ถ่านแบบไร้ควัน ตามใบกิจกรรมของผู้รับบริการ พร้อมทังเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้กับผู้รับบริการในการปฏิบัติ กจิ กรรม (ถังนา้ มนั ขนาด 200 ลติ ร/ฝาเตา/ท่อเหล็ก/เลอื่ ย/ไมห้ รือเศษไม)้ 3. ให้ผู้เข้ารับบรกิ ารตงั ประเดน็ ข้อสงสยั ในกระบวนการหรือหลกั การท่ีเกี่ยวข้อง รวมไปถงึ การประยกุ ต์ใช้ ในชวี ิตจรงิ 4. ผ้รู บั บริการนา้ เสนอผลงาน 5. ผู้จัดกจิ กรรมและผรู้ ับบรกิ ารแลกเปล่ียนความคิดเหน็ และสรปุ ผลการเรียนรู้รว่ มกนั ข้ันตอนท่ี 3 กจิ กรรมการสรุปผลการนา้ วทิ ยาศาสตรไ์ ปใช้ในชีวติ ประจา้ วัน (I : Implementation Conclusion Activity) 1. ใหผ้ รู้ ับบริการตอบคา้ ถามโดยสุ่มผรู้ บั บริการจา้ นวน 3-5 คนเพอ่ื ให้ตอบคา้ ถามในประเด็น “ท่านจะ น้าความรเู้ ก่ียวกับการเผาถ่านไรค้ วนั ไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจา้ วันอย่างไร” 2. ผจู้ ัดกจิ กรรมและผ้รู บั บริการสรปุ ร่วมกนั สอื่ วสั ดุอุปกรณ์และแหล่งการเรียนรู้ 1. ใบความรูส้ ้าหรับวทิ ยากร เร่อื งการเผาถา่ นไรค้ วนั 2. ใบความร้สู ้าหรับวิทยากร เร่อื ง การเชือ่ มโยงสะเตม็ ศึกษากบั การเผาถ่านไร้ควนั 3. ใบความรสู้ ้าหรบั ผูร้ บั บรกิ าร เร่อื ง การเผาถ่านไร้ควนั 4. วัสดอุ ุปกรณ์ ได้แก่ 4.1 ถงั นา้ มนั ขนาด 200 ลิตร 4.2 ฝาเตา 4.3 ท่อเหล็ก 4.4 เลอ่ื ย 4.5 ไมห้ รอื เศษไม้ การวัดผลและประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมการมีสว่ นร่วม ความสนใจ และความตังใจของผู้รับบรกิ าร 2. ชินงาน/ผลงาน 6

ใบความรู้สาหรับผ้จู ดั กิจกรรม เรอื่ ง การเผาถ่านแบบไรค้ วนั การเผาถ่านแบบไร้ควัน เตาเผาถ่านแบบประหยัดพลังงาน ขนาด 200 ลิตร ชนิดปล่องขนานข้างเตา เป็นเตาท่ีถูกประดิษฐ์ขึนจากวัสดุที่หาง่ายในท้องถิ่น (ถังน้ามันขนาด 200 ลิตร) โดยได้ปรับปรุงพัฒนาจนมี ประสิทธิภาพการเผาไหม้ท่ีดียิ่งขึนท้าให้ถ่านท่ีผลิตได้มีคุณภาพดี ประหยัดเวลาและที่ส้าคัญสร้างประกอบง่าย ราคาถกู เหมาะส้าหรับครวั เรือนชนบท ทีม่ ีการใช้ถ่านเปน็ พลังงานในการหุงต้มประกอบอาหาร เตาเผาถ่านถัง 200 ลิตร เป็นทีน่ ิยมในหมูบ้าน เนือ่ งจากวัสดุท่ีใช้สร้างเตาหาง่าย ไม้ที่น้ามาเผาเป็นไม้เล็กไม้น้อยได้หมด และยังเก็บน้าส้ม ควันไม้ได้ (ของเหลวทไี่ ด้จากการกลน่ั ตวั จากควนั ในชว่ งเวลาทีเ่ หมาะสม) ประเภทของเตาเผาถ่านแบบไร้ควันด้วยถังขนาด 200 ลิตรนัน แยกประเภทออกเป็น 2 ชนิด คือ เตาเผา ถา่ นแบบตงั หรอื แบบปล่อยขนานข้างเตา และแบบนอน สามารถเผาถา่ นได้มีประสิทธิภาพสูงกวา่ เตาเผาถ่านแบบ ดงั เดิม ประมาณ1.2 – 1.5 เทา่ เตาเผาถ่าน 200 ลิตร ใช้หลกั ความรอ้ นเป็นตัวไลค่ วามชืน ดังนันถา่ นที่ได้ออกมา จะมีคุณภาพ สารก่อมะเร็งต่้า ขีเถ้าน้อย และผลพลอยได้ที่ได้จากการเผาถ่านอีกอย่าง คือ “น้าส้มควันไม้หรือ Wood Vinegar” คุณสมบตั ขิ องถา่ นไม้ ถ่านไม้ คือ ผลผลิตท่ีได้หลังจากไม้ท่ีถูกสลายตัวด้วยความร้อน และมีคุณสมบัติแตกต่างกันไปตาม ลักษณะเฉพาะตัวของไมแ้ ต่ละชนดิ และกระบวนการผลติ ถา่ น ถ่านไม้ท่ดี ีควรมคี ุณสมบัติ ดังนี คารบ์ อนเสถยี ร ไมน่ อ้ ยกวา่ 75 % มีสารระเหยได้ ไม่เกิน 25 % มขี ีเถ้า ไมเ่ กิน 4 % มีถ่านป่น ไมเ่ กิน 10 % มคี วามชืน ไม่เกนิ 10 % มคี วามร้อน ไมน่ ้อยกว่า 7,000 กโิ ลแคลอร่/ี กโิ ลกรมั มีค่าความแขง็ ไม่นอ้ ยกวา่ ระดับ 5 ต้องมคี วามพรนุ สงู มพี นื ผวิ ไม่น้อยกวา่ 200 ตารางเมตร/กรัม มีความตา้ นทานไฟฟา้ ตา้่ มคี า่ ความเป็นดา่ งสูง pH ประมาณ 8-9 ชนดิ ของถ่านสามารถแบ่งประเภทของถ่านชนดิ ตา่ งๆ ออกเป็น 2 ประเภท 1. ถ่านสดี ้า (ถ่านที่เผาโดยทั่วไป) โดยท่ัวไปแล้วถ่านสีด้าจะนุ่มและมีเปลอื กไม้ติดอยู่ ถ่านสีด้าติดไฟง่าย และมพี ลงั ความรอ้ นในการเผาผลาญพอทจี่ ะหลอมละลายโลหะแลเหล็กได้ ถา่ นเกือบทังหมดทม่ี กี ารผลติ ทว่ั โลกจะ มคี วามคล้ายคลงึ กนั กบั ถ่านนี เผาท่อี ุณหภูมิระหวา่ ง 500 ถงึ 700 องศาเซลเซียส 2. ถ่านสีขาว (ถ่านท่ีเผาโดยกรรมวิธีพิเศษ) หรือเรียกอีกชอื่ หน่ึงว่า ถ่านแขง็ จะแข็งและไม่มเี ปลอื กไมต้ ิด อยู่ถ้าถ่านสีขาวจะให้พลงั ความร้อนสูง เป็นถา่ นที่ได้จากกระบวนการผลิตที่เม่ือถึงขันตอนสุดท้ายในการผลิตถ่าน จะเปิดปากเตาเพ่ือใหอ้ ากาศเข้าเตาจ้านวนมาก และจะเกดิ การเผาไหม้อย่างรนุ แรงท้าให้อุณหภูมิภายในเตาสูงถึง 1,000องศาเซลเซียสหรือมากกวา่ นนั 7

ประโยชนข์ องการใช้ถา่ นไม้ การใช้งาน และประโยชน์จากถ่านไม้มีหลายลักษณะขึนอยู่กับคุณภาพของถ่านแต่ละชนิด อาทิเช่น ถ่านกัมมนั ต์ น้าไปใช้ประโยชน์ได้หลายทาง ถ่านไม้สนสีดา้ ใช้ส้าหรับฟอกสผี ้า ถ่านจากกะลามะพร้าว ใช้ส้าหรับ ดูดกลิน่ เปน็ ต้น ถ้าจะแบ่งการใชป้ ระโยชน์ตามประเภท สามารถแบ่งไดด้ ังนี 1. การใช้ประโยชนถ์ ่านขาว ซ่ึงผลติ ในเฉพาะ 3 ประเทศเทา่ นัน คือ ประเทศจีน ประเทศญี่ปนุ่ และประเทศเกาหลีใต้ ส่วนใหญ่จะใช้ ประโยชน์เน้นหนักไปทางด้านเพ่ือสุขภาพ การปรงุ แต่งรสชาติ ของอาหาร และเคร่อื งด่ืม และแร่ธาตุอาหารเสริม ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของคนระดับสูงในเอเชียตะวันออกไกลเท่านัน เช่น น้าถ่านขาวใส่ลงในกาต้มน้ารอ้ นประมาณ 100 กรัมต่อน้า 1 ลติ ร ถา่ นจะดดู ซับกลิ่นและสารอนิ ทรยี ์ต่างๆ ในถา่ น จะละลายออกมาเพ่ิมคุณภาพและรสชาติของน้า สามารถน้ามาชงชา กาแฟ ปรุงอาหาร และผสมเหล้าวิสกี จะได้ รสชาติท่ีนุ่นละมุน และต้องเปล่ียนถ่านใหม่ทุก 10 วัน ใช้ในการประกอบ อาหารปิ้งย่าง ท้าให้อาหารมีรสชาติดี เนื่องจากเม่ือถ่านไม้ลุกไหม้จะเกิดฟิล์มบางๆ ของขีเถ้าที่ผิวถ่านไม้ ถ่านไม้จะให้ความร้อนโดยการแผ่รังสีท่ีไม่มี เปลวไฟ รังสี ความร้อนนีมีความยาวคล่ืนส่ันมาก จึงท้าให้ผิวด้านนอกของอาหารหรือเนือสัตว์แห้งและแข็ง ตัวอยา่ งรวดเร็วกวา่ ความร้อนจากแหล่งอ่ืน ดังนนั รสชาติของอาหารหรอื เนือสัตว์จะถูกเกบ็ ไว้โดยไม่สญู เสีย ใช้ท้า น้าแร่ส้าหรับอาบโดยใช้ถ่านขาวใส่ถุงผ้าแล้วเปิดน้าร้อนไหลผ่านถุงถ่าน จะได้น้าที่มีคุณภาพใกล้เคียงน้าจากบ่อ น้าพุรอ้ น นอกจากนียังใช้ผงถ่านขาวส้าหรบั ขัดถูโลหะท่ีมคี ่า ผงถ่านขาว จะไม่ทา้ ให้เกดิ รอยขูดขีดที่ผิวโลหะมีค่า เหล่านนั 2. การใชป้ ระโยชนจ์ ากถา่ นด้า แบง่ ออกได้ 2 ลกั ษณะตามกรรมวิธีการผลิต คือ ก. ถ่านด้าที่ผลิตด้วยอุณหภูมิต่้าและใช้เวลาสัน เหมาะท่ีจะใช้เป็นเชือเพลิง เน่ืองจากมีราคาถูก เพราะมีผลผลิตสูง ไม้ท่ีใช้ผลิตถ่านประเภทนีควรเป็นไม้ใยสัน เพื่อให้มีการเผาไม้ได้นานขึน คุณสมบัตทิ ่ีดีของถ่านไมใ้ นการน้ามาเป็นเชอื เพลิงอาจสรปุ ได้ดงั นี - มีปริมาณก้ามะถันตา้่ - มขี ีเถา้ น้อย - มสี ิ่งเจอื ปนท่เี ป็นอินทรยี ์วตั ถุต่า้ - มรี ูพรุนและพนื ที่ผวิ มากและสมา้่ เสมอ - มคี ณุ สมบัติเปน็ ตวั ลดทีด่ แี ละมคี วันน้อย ข. ถ่านดา้ ที่ผลิตด้วยอณุ หภมู ิสงู และใชเ้ วลานาน เป็นถ่านไมท้ น่ี า้ ไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้หลากหลายทสี่ ุด เนอื่ งจากมีคาร์บอนเสถียรสูง และมีสารระเหยงา่ ยต่้า ซึ่งเปน็ ตวั ชีวัดระดับความบริสุทธ์ิของถา่ น ไม้ มีวธิ ีตรวจสอบงา่ ยๆ ท่ีจะดูลักษณะ ถ่านประเภทนีคือ เม่อื เคาะถ่านจะมีเสียงดังกังวานคล้าย เสียงเคาะกระเบืองดนิ เผาเม่ือหกั ดูจะเห็นสีด้ามันวาว และเมื่อใช้นิวถูกรอยหักของถ่าน จะไมม่ ีสี ดา้ ติดนิวเลย ส่วนทผ่ี ิวถ่านจะมสี ีด้าบ้างเล็กน้อย เนอ่ื งจากคุณสมบัติของเปลือกไม้ เม่ือจดุ ติดไฟ แลว้ ถ่านตอ้ งไม่แตก และมีควนั น้อยมาก 8

หลักการของการเผาถา่ นไร้ควนั เตาเผาถา่ น 200 ลิตร มีประสิทธภิ าพสงู กว่าเตาแบบดงั เดิม เตาประเภทนอี าศยั ความรอ้ นไลค่ วามชืนใน เนอื ไมท้ ี่อยใู่ นเตา ทา้ ใหไ้ ม้กลายเป็นถ่าน เรยี กว่า กระบวนการคารบ์ อนไนเซช่ัน(Carbonization) โครงสร้างเปน็ ระบบบดิ สามารถควบคมุ อากาศได้ จงึ ไมม่ ีการลุกตดิ ไฟของเนือไมด้ ังนนั ถ่านท่ีไดจ้ งึ มีคุณภาพสูง เกดิ ขเี ถ้าน้อย และผลพลอยได้จากกระบวนการเผาถา่ นอีกอย่างหนงึ่ คือน้าส้มควนั ไม้ (Wood Vinegar) สว่ นประกอบของเตาเผาถ่าน 200 ลิตร ประกอบด้วยสว่ นประกอบต่างๆคอื 1. ตวั เตา ผลิตจากถังขนาด 200 ลติ ร 2. ฝาเตา และท่อเรง่ ไฟ 3. ท่อควัน3 ทอ่ 4. สว่ นควบแน่นน้าส้มควันไม้ 5. ตระแกรงรองไมด้ า้ นใน 6. ช่องเชือเพลงิ 7. รูเกบ็ น้าส้มควนั ไม้ ลักษณะเดน่ ดา้ นวัตถดุ ิบและอุปกรณ์ 1. ไม้ที่นา้ มาใชท้ ้าเปน็ เชือเพลิงหาง่าย สามารถใช้เศษไม้ชนดิ ต่างกันได้ และใชเ้ ชือเพลงิ นอ้ ยประมาณ 4 กิโลกรมั ต่อการเผา 1 ครงั 2. สามารถใชไ้ มข้ นาดเลก็ มาเผาเป็นถา่ นได้ ลดปัญหาดา้ นการตัดไม้ทา้ ลายปา่ 3. อปุ กรณท์ ่ีใช้งานการสร้างสามารถหาชือไดง้ า่ ย 9

4. ตัวเตาดูแลรกั ษาง่าย อายุการใชง้ านนาน ประมาณ 1-2 ปี หรือ ประมาณ 100-150 ครงั ของการเผา แตห่ ากมีการสรา้ งโรงเรือนเพอ่ื ป้องกันน้า จะสามารถยืดอายกุ ารใชง้ านได้ ด้านกรรมวธิ ีการผลติ 1. ใชเ้ วลาท้าการเผาสนั ประมาณ 16 ชวั่ โมง หรือน้อยกว่านันหากไมต่ ้องการเกบ็ น้าสม้ ควนั ไม้ 2. สามารถควบคมุ อากาศได้ตลอดเวลาของการเผา 3. เกดิ ขเี ถ้านอ้ ย ประมาณ 0.1 กิโลกรัม ตอ่ ครัง (กรณีการเผาถ่านสมบูรณ)์ 4. ใชแ้ รงงานนอ้ ย สามารถด้าเนินการได้โดยใช้แรงงาน 1 คน ดา้ นผลผลิต 1. ได้ถ่านคุณภาพสงู ดีต่อสุขภาพ เพราะมีกระบวนการทา้ ถ่านให้บริสุทธ์ิ กา้ จัดนา้ มนั ดบิ (ทาร)์ ออกจากเนือไม้ 2. ได้ปริมาณผลผลติ ถา่ นดี ประมาณ 20-23% โดยน้าหนกั ของปริมาณไมท้ ี่นา้ มาเผา 3. ได้นา้ ส้มควันไม้ ประมาณ 0.5 - 1.0 ลติ รต่อครัง ขึนกบั ความชนื และชนิดของไม้ที่น้ามาเผา ดา้ นการลงทุน 1. ลงทุนน้อย เหมาะกับการใชง้ านในครวั เรอื น โดยมีตน้ ทนุ ดา้ นอปุ กรณ์ในการผลติ ประมาณ1,500 – 2,000 บาท ขนั้ ตอนการเผาถา่ นโดยใชเ้ ตาเผาถ่าน 200 ลิตร 1. การเตรยี มไมใ้ ส่เตา 1.1 จดั วางเตาใหไ้ ด้ระดับ หา้ มเอยี ง เน่ืองจากหากเตาเอียงจะทา้ ใหเ้ ก็บน้าส้มควันไม้ได้ยาก 1.2 ควรแยกไมร้ ะหว่างไมแ้ ห้งและไม้ดิบ ถา้ ให้ดคี วรตดั ไม้ทิงไว้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ 1.3 ขนาดไม้ ควรแยกให้มีขนาดใกล้เคียงกนั ถ้าเปน็ ไมใ้ หญ่ให้ใสด่ า้ นหน้าเตา ไม้เล็กใส่ ดา้ นหลังเตาและใหป้ ลายไมช้ ีลงเนือ่ งจากด้านบนความรอ้ นจะสงู กว่า 1.4 ชนิดของไม้ ควรแยกระหวา่ งไม้เนอื ออ่ นและไม้เนือแขง็ เช่น ไม้ล้าไยอาจรวมกับไม้มะขาม ไม้ไผ่แยกเผาอกี ครงั 1.5 ไม้ทีใ่ ส่ในถังควรมีขนาดใกล้เคยี งกบั ความสงู ของเตาหรือยาวประมาณ 60 ซม. และควรมี ขนาดใกล้เคียงกัน 2. การเผาถ่านจดุ เตา 2.1 เม่อื เรยี งไม้เขา้ เตาเรียบรอ้ ย ใหท้ ้าการปดิ ฝาเตาให้สนิท โดยให้ทอ่ เร่งไฟอยตู่ รงข้ามกับชอ่ ง เชอื เพลงิ ตรงกบั ทอ่ ควัน 2.2 เริม่ ทา้ การจุดไฟเตา บรเิ วณหนา้ เตาที่ชอ่ งเชอื เพลิง โดยจดุ ทีจ่ ดุ ไฟอย่บู รเิ วณปากของชอ่ ง เชอื เพลิงเตมิ ฟนื เรือ่ ยๆ ชว่ งนีจะใชเ้ วลาประมาณ 2-4 ชั่วโมง ขึนกบั ความชนื ของไม้ทน่ี ้ามาเผาเตาติด 2.3 สงั เกตควันทีป่ ลอ่ งควนั และท่อเรง่ ไฟ ขณะท้าการไลค่ วามชืน ควันที่ออกมาจะมีสีขาว ควัน 10

จะมกี ลิน่ เหม็น ซง่ึ เปน็ กลิ่นกรดประเภท เมธานอล ท่อี ยใู่ นเนือ อุณหภมู บิ ริเวณปากปลอ่ งควันประมาณ55-60 องศาเซลเซยี ส และอณุ หภมู ภิ ายในเตาประมาณ 150 องศาเซลเซียส ถา้ ความชืนถูกไลห่ มด และไม้ในเตาเรมิ่ ติด ไฟ (ประมาณ 2-4 ช่ัวโมง หลังจากจดุ เตา) จะเหน็ ควันทีป่ ล่องควนั ลกั ษณะเปน็ ควนั ขาวขุ่นปนเทา พุง่ ออกมา จ้านวนมาก เรยี กว่าควันบ้าการปิดเตาและการทา้ ถา่ นใหบ้ ริสุทธ์ิ 2.4 หลงั จากควันเริ่มใส มีเฉพาะไอร้อนออกจากปล่องควนั (ปล่องสดุ ท้าย) ใหเ้ ปิดปลอ่ งเรง่ ไฟ และเปิดปล่องควนั ทังหมด พร้อมกับเปดิ หนา้ เตาประมาณ 50% เพอ่ื ให้อากาศเข้าไปท้าปฏกิ ริ ิยากับถา่ นซงึ่ จะท้า ให้ถา่ นบรสิ ุทธ์ิขนึ ลดสารกอ่ มะเร็ง โดยขนั ตอนนจี ะใช้เวลาประมาณ 30 นาท5ี เมือ่ ครบ 30 นาที ใหป้ ดิ ปลอ่ งทกุ ปลอ่ ง (ปล่องเรง่ ไฟ และปลอ่ งควัน) โดยปล่องเรง่ ไฟใช้ผา้ หอดินชุบนา้ วางปดิ ไว้ สว่ นท่อควันใช้กระป๋องครอบ ปิด หน้าเตาพร้อมใช้ดินเหนียวยาหน้าเตาปอ้ งกันอากาศเข้า และปดิ ท่อเก็บน้าส้มควนั ไม้ (หากมีรอยรว่ั ณ จดุ อ่ืนต้อง ปดิ รอยรว่ั ทงั หมด)6 ทงิ ให้เตาเผาถ่านเย็นตัวลง ประมาณ 3-4 ช่วั โมง หรือทิงไว้ค้างคืน ตอนเช้าสามารถเปดิ เตา เก็บถา่ นและเผาตอ่ ในครังตอ่ ไปได้ 11

ใบกจิ กรรมของผู้รบั บริการ วตั ถุประสงค์ ทดลองปฏบิ ัติการเผาถา่ นไร้ควนั คาช้แี จง 1. ผู้จัดกิจกรรมเชื่อมโยงเนือหาในขนั ตอนที่ 1 เร่ือง การเผาถา่ นแบบไร้ควัน โดยให้ผู้รบั บริการวางแผน และปฏิบตั ิการเผาถ่านแบบไรค้ วนั ตามหลักการคาร์บอนไนเซชัน (Carbonization) มาเป็นองคค์ วามรใู้ นการเผา ถ่านแบบไร้ควัน พรอ้ มทังเตรียมวสั ดุอุปกรณ์ใหก้ ับผู้รับบรกิ ารในการปฏบิ ัติกจิ กรรม (ถังน้ามัน ขนาด 200 ลติ ร/ ฝาเตา/ทอ่ เหลก็ /เลื่อย/ไมห้ รอื เศษไม้) 2. แบ่งผู้รบั บรกิ ารออกเปน็ กลุ่ม ๆ ละ 4 – 8 คน ผู้จัดกิจกรรมแจกวัสดอุ ุปกรณ์ ปฏิบัติการเผาถ่านแบบ ไรค้ วันเช่น ไม้ทีใ่ ช้ในการเผาถ่านให้ผรู้ ับบริการไดล้ องเผาเพ่อื ทา้ การเผาถ่าน 3. ผู้จัดกิจกรรมและผู้รับบริการร่วมกันเร่ิมท้าการจุดไฟเตา บริเวณหน้าเตาท่ีช่องเชือเพลิงและเติมฟืน เรื่อยๆ ช่วงนีจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ช่ัวโมง และสังเกตควันที่ปล่องควันและท่อเร่งไฟ ควันจะมีสีขาวและกล่ิน เหมน็ 4. หลังจากนนั ให้แต่ละกลุ่มเรียนรู้ร่วมกันในปฏิบัตกิ ารเผาถ่านแบบไร้ควนั ผูจ้ ัดกิจกรรมควรกระตุ้นให้ ผูร้ บั บรกิ ารสงั เกตว่า ควรจะเผาถ่านอย่างไรจงึ จะทา้ ใหไ้ ม่มคี วนั 5. เมื่อเสร็จการปฏิบตั ิแล้ว ใหต้ วั แทนแตล่ ะกล่มุ ออกมาบอกเลา่ ใหเ้ พอ่ื นฟงั ในประเดน็ ต่อไปนี - ประโยชน์ และคณุ สมบตั ิของการเผาถ่านไร้ควัน - ส่ิงที่ได้จากการเผาถ่านไร้ควัน - การประยุกต์ใช้การเผาถา่ นไร้ควันในชวี ติ ประจ้าวนั 6. ผู้รบั บริการนา้ เสนอผลงาน 7. ผ้จู ัดกจิ กรรมและผรู้ ับบริการแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ และสรปุ ผลการเรยี นรู้รว่ มกัน 12

บนั ทึกผลหลงั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ผลการใช้แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. จ้านวนเนอื หากบั จา้ นวนเวลา  เหมาะสม  ไม่เหมาะสม ระบุเหตุผล.................................................................................................................. 2. การเรยี งลา้ ดับเนือหากับความเข้าใจของผรู้ บั บรกิ าร  เหมาะสม  ไม่เหมาะสม ระบุเหตผุ ล.................................................................................................................. 3. การน้าเข้าสู่บทเรยี นกบั เนือหาแต่ละหัวข้อ  เหมาะสม  ไม่เหมาะสม ระบุเหตผุ ล.................................................................................................................. 4. วธิ ีการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้กบั เนอื หาในแตล่ ะข้อ  เหมาะสม  ไมเ่ หมาะสม ระบเุ หตุผล.................................................................................................................. 5. การประเมนิ ผลกบั วตั ถปุ ระสงค์ในแต่ละเนอื หา  เหมาะสม  ไมเ่ หมาะสม ระบุเหตผุ ล.................................................................................................................. ผลการเรยี นรู้ของผูร้ ับบรกิ าร ...................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรขู้ องผจู้ ัดกิจกรรม ...................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะ ...................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... 13