ก เร่ือง ไข่เค็มดินสอพอง นางสาว ธีมาพร ผู้จัดทำ 63302010050 นางสาวเนาวรตั น์ เจตะสานนท์ 63302010051 นางสาวพลอยวมิ ล คตอยู่ 63302010056 นางสาวมาริษา บุญมาทัน 63302010060 นางสาวรุง่ รวี แจ่มศรี 63302010062 นางสาววรรณภา ทองดี 63302010067 นางสาวสุดารัตน์ ชนะสงคราม 63302010072 ขลิบเงิน เอกสารฉบบั นีเ้ ป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาค้นควา้ ประกอบการเรยี นรายวิชา ชวี ติ กับสงั คมไทย วทิ ยาลัยเทคนคิ ลพบุรี สงั กัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2563
เรื่อง ไขเ่ ค็มดินสอพอง นางสาว ธมี าพร ผจู้ ดั ทำ 63302010050 นางสาวเนาวรตั น์ เจตะสานนท์ 63302010051 นางสาวพลอยวมิ ล คตอยู่ 63302010056 นางสาวมาริษา บุญมาทนั 63302010060 นางสาวรงุ่ รวี แจ่มศรี 63302010062 นางสาววรรณภา ทองดี 63302010067 นางสาวสุดารัตน์ ชนะสงคราม 63302010072 ขลบิ เงนิ เอกสารฉบบั นเ้ี ป็นสว่ นหนงึ่ ของการศกึ ษาค้นคว้าประกอบการเรียนรายวิชา ชีวติ กบั สังคมไทย วิทยาลยั เทคนิคลพบรุ ี สงั กดั สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2563
(ก) ชอ่ื เรอ่ื ง : โครงการ ไขเ่ คม็ ดนิ สองพอง ผูจ้ ัดทำ : นางสาว ธีมาพร เจตะสานนท์ นางสาว เนาวรตั น์ คตอยู่ นางสาว พลอยวมิ ล บุญมาทนั นางสาว มารษิ า แจ่มศรี นางสาว รุ่งรวี ทองดี นางสาว วรรณภา ชนะสงคราม นางสาว สดุ ารตั น์ ขลบิ เงิน ทป่ี รึกษา : ครู ศิรโิ สภา วศิ ษิ ฏ์วฒั นะ ปกี ารศกึ ษา : 2563 บทคดั ย่อ ภูมิปัญญาไทยท้องถิ่น เรื่อง ไข่เค็มดินสอพอง มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาการถนอมอาหารและคิดค้นความ หลายหลายของไข่ เช่น ไข่เป็ด ที่มีอยู่ตามท้องถิ่นและชุมชน การเปรียบเทียบระยะเวลาในการเก็บรักษาอาหารใน สร้างรายได้ในอนาคตจากของที่มีอยู่ตามชุมชนและท้องถิ่นของตนเองและลดปัญหาคนว่างงาน และใช้เวลาว่างให้ เกิดประโยชน์สูงสุด สามารถนำมาประกอบวิสาหกิจชุมชนเพื่อเป็นการให้ความสำคัญกับเศรษฐ์กิจแบบรากฐาน โดยการนำทรัพยาการที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ เป็นอีกทางเพื่อจะใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นมาผนวกกับ ทรพั ยากรธรรมชาติท่มี ีอยู่ ข้ันตอนการทำไข่เคม็ พอกดนิ สอพอง 1.นำไขเ่ ค็มคดั ขนาดพอเหมาะ ไม่มีรอยแตกรา้ ว ทำความสะอาดด้วยการนำไปล้างถขู ัดใหเ้ ปลือกไขข่ าวสะอาด 2.นำดนิ สอพอง 3 สว่ น เกลอื ป่น 1 ส่วน ข้นั ตอนแรกนำดนิ สอพองผสมกบั นำ้ คลุกเคล้าใหเ้ ข้ากนั กบั นำ้ จนอมิ่ ตวั ข้ันตอนตอ่ ไปนำเกลือลงผสมกับดนิ สอพองทห่ี มกั เตรียมไวค้ ลุกเคลา้ ใหเ้ ข้ากันอกี ครงั้ 3.นำไขเ่ ปด็ ท่ที ำความสะอาดไวเ้ รียบรอ้ ยแลว้ ลงคลกุ กับดนิ สอพองทีเ่ ตรยี มไว้ ให้เน้อื ดนิ สอพองจบั ผิวไข่หนา 1 มลิ ลเิ มตรจากน้ันนำไขไ่ ปคลกุ กับข้เี ถา้ แกลบให้ท่วั ใหข้ ้เี ถา้ แกลงเกาะผวิ ไข่หนาราว 2 มลิ ลเิ มตร
(ข) 4.นำไขท่ ี่ได้หมกั ไว้แลว้ ใส่ถงุ พลาสติกรดั ปากถุงให้แนน่ ห้ามมลี มเข้า ใช้ระยะเวลา 5 – 7 วนั เสรจ็ แลว้ นำถงุ ไป เรียงกันใหเ้ รยี บร้อยและตามลำดับทใี่ สไ่ ข่เปด็ ลงไป 5.เมอ่ื ครบกำหนดแลว้ นำไขเ่ ป็ดทท่ี ำความสะอาดไปตม้ กับน้ำต้มสกุ แล้วพกั ท้งิ ไว้ 6.นำไข่ทไ่ี ด้ ลงกลอ่ งบรรจุภณั ฑ์ นำไปปรงุ อาหารได้เปน็ ยำไขเ่ ค็ม ทอดมันไขเ่ คม็ นำ้ พรกิ ไข่เคม็ รสชาติอร่อย ไข่ ขาวเคม็ พอดี ไข่แดงมนั เยิม้ วัตถุประสงค์ 1.เพ่อื ศกึ ษาการถนอมอาหาร 2.เพ่ือพฒั นาไขเ่ ค็มใหม้ คี วามหลากหลายของรสชาตมิ าก 3.เพอ่ื ศกึ ษาและเปรยี บเทยี บระยะเวลาในการเก็บรกั ษา 4.เพอื่ เสริมสรา้ งอาชีพและมรี ายได้ในอนาคต 5.ศึกษาเพื่อประกอบการเรียนวิชาชีวติ กบั สังคมไทย รปู แบบของการคน้ ควา้ - ศึกษาข้อมลู ทางอนิ เตอร์เนต็ และเวบ็ ไซต์ - สอบถามจากผู้ทำผลิตภัณฑแ์ ละชุมชนแมบ่ ้านทหารบก - ศึกษาจากการสอบถามคนในชมุ ชนและทอ้ งถนิ่
(ค) กติ ตกิ รรมประกาศ โครงงานเรื่องนี้ประกอบด้วยการดำเนินงานหลายขั้นตอน นับตั้งแต่การศึกษาข้อมูล การวิเคราะห์การ จัดทำโครงงานรูปเล่ม การลงมอื ปฏบิ ตั ิงาน จนกระทงั่ โครงงานน้ีประสบความสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีตลอดระยะเวลา ดังกล่าวทางคณะผู้จัดทำโครงงานได้รับความช่วยเหลือและคำแนะนำในด้านต่างๆตลอดจนได้รับกำลังใจจาก ครูที่ ปรึกษาโครงการ ครูศิริโสภา วิศิษฏ์วัฒนะและคณะครูทุกท่าน คณะผู้จัดทำตระหนักและซาบซึ้งในความกรุณา จากทกุ ๆทา่ นเปน็ อยา่ งยงิ่ ณ โอกาสนี้ ขอขอบคณุ ทกุ ๆ ท่าน ดังนี้ คณะผู้จดั ทำ นางสาว ธมี าพร เจตะสานนท์ นางสาว เนาวรัตน์ คตอยู่ นางสาว พลอยวิมล บุญมาทนั นางสาว มาริษา แจ่มศรี นางสาว ร่งุ รวี ทองดี นางสาว วรรณภา ชนะสงคราม นางสาว สดุ ารตั น์ ขลิบเงนิ
สารบญั (ง) เร่อื ง หน้า บทคดั ยอ่ ก กติ ติกรรมประกาศ ค สารบญั ง สารบัญตาราง ฉ สารบญั ภาพ ช บทที่ 1 บทนำ 1 1.1 ความเป็นมา 1 1.2 วตั ถปุ ระสงค์ 1 1.3 ขอบเขต 2 1.4 ประโยชน์ทไี่ ด้รับ 3 บทที่ 2 ทฤษฎีทีเ่ กี่ยวขอ้ ง 4 2.1 ไขเ่ ป็ด 4 2.2 ไขเ่ คม็ 4 2.3 เกลอ่ื 4 2.4 ดนิ สองพอง 5 บทที่ 3 วิธดี ำเนินงาน 6 3.1 การกำหนดประชากรและการเลือกกลุ่มตวั อยา่ ง 6 3.2 การสร้างเครอ่ื งมือท่ีใชใ้ นการศึกษาค้นควา้ 6
เรื่อง (จ) 3.3 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 3.4 การจัดกระทำขอ้ มลู และการวิเคราะห์ขอ้ มูล หน้า 3.5 วิธีการดำเนินการ 6 บทท่ี 4 ผลการศึกษาค้นควา้ 7 4.1.นำความรภู้ มู ิปัญญาชาวบา้ นมาประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตประจำวนั 7 4.2 พฒั นาทกั ษะการคิด วิเคราะห์ การนำไปใช้ 11 4.3 พฒั นาไข่เค็มใหม้ คี วามหลากหลายดา้ นส่วนผสมมากขนึ้ 11 4.4 เสริมสรา้ งรายไดร้ ะหวา่ งเรยี นและเปน็ แนวทางในการประกอบอาชีพ 11 4.5 5.ใชเ้ วลาว่างให้เกิดประโยชน์ 11 บทที่ 5 สรปุ ผล อภปิ รายผลและขอ้ เสนอแนะ 11 5.1 สรุปผล 11 5.2 ปญั หาและอุปสรรคในการศกึ ษาคน้ ควา้ 13 5.3 ขอ้ เสนอแนะและแนวทางในการพัฒนา 13 บรรณานกุ รม 13 ประวตั ิผู้ศึกษา 13 14 15
สารบญั ตาราง (ฉ) ตารางท่ี 2.1 แบบประเมินคุณภาพไข่เค็มดินสอพอง หน้า 12
สารบญั ภาพ (ช) ภาพท่ี 3.1 การเตรยี มไขเ่ ป็ด หน้า ภาพที่ 3.2 การคลุมเคลา้ ดนิ สอพองและเกลือ 8 ภาพท่ี 3.3 การป้นั ไข้เค็มดินสอพองมักทิ้งไว5้ -7 วัน 8 ภาพท่ี 3.4 การนำไข่เคม็ มาต้มสุก 9 ภาพที่ 3.5 ไขเ่ คม็ ดนิ สอพอง 9 ภาพที่ 3.6 นำใสบ่ รรจุภัณฑ์ 10 10
บทที่ 1 บทนำ 1.ความเป็นมา เนื่องจากชุมชนมีการเลี้ยงเป็ดไข่มาก เพราะช่วงเป็นช่วงฤดูร้อน ซึ่งร้อนกว่าปกติ จะทำ ให้ไข่เป็ดเสียเร็ว ผู้จัดทำโครงงานได้ศึกษาเกี่ยวกับ วิธีการถนอมอาหารเองโดยการนำไข่เป็ดมาทำเป็นไข่ เค็มดินสอพอง ต่อเนื่องมาจากในชุมชนและท้องตลาดมีรสชาติของไข่เค็ม แบบธรรมดาจึงมีแนวคิดที่จะ พัฒนาไขเ่ ค็มให้มีกลิ่นและรสชาติของไขเ่ ค็มดินสอพอง ในการทำโครงงานครัง้ น้ี จึงมีแนวคิดในการพัฒนา ไขเ่ คม็ จากดินสอพองและวจิ ยั ในการถนอนอาหารโดยเกลือและดนิ สอพองแบบท้องถนิ่ และชมุ ชน ผ้วู ิจยั เห็นว่าไขเ่ ค็มในท้องตลาดแบบทวั่ ไปมีราคาสูงและแพง จึงไดพ้ ัฒนาไข่เค็มจากดนิ สอพองซึ่ง เป็นเอกลักษณ์ของคนในท้องถิ่น โดยศึกษาค้นคว้าวิธีการทำไข่เค็มดินสอพองเพื่อจะช่วยลดค่าใช้จ่ายใน การบริโภคไข่เค็มที่มีราคาสูงและแพงจึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้ในการทำไข่เค็มดินสอ พองและวิธีการถนอนอาหารโดยเกลือทั้งนี้ได้เป็นการต่อยอดและสร้างรายได้เสริมสำหรับคนว่างงานใน ชมุ ชนและทอ้ งถ่ินของตนเอง 2. วตั ถปุ ระสงค์ 2.1 เพอ่ื ศกึ ษาหาความรเู้ กย่ี วกบั การทำไข่เค็มดินสอพอง 2.2 เพ่อื ศึกษาความเป็นมาของการทำไขเ่ คม็ ดนิ สอพอง 2.3 เพือ่ ศึกษากระบวนการทำไข่เคม็ ดินสอพอง 2.4 เพ่ือศกึ ษาประกอบการเรียนวิชาชีวติ กับสงั คมไทย
(2) 3. ขอบเขต 3.1 สถานท่ี 1. บ้านสวนอุไร บา้ นเลขท่ี 81 หม่9ู ต.ทา่ แค อ.เมือง จ.ลพบุรี 15000 2. ค่ายสมเด็จพระนารายณ์ ถนนนารายณ์มหาราช ต.เขาสามยอด อ.เมอื ง จ.ลพบุรี 3.2 ระยะเวลา ดำเนินโครงการในภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 3.3 ตวั แปรหรือประชากรและกลุม่ ตัวอยา่ ง ประชาชนท่ีอาศัยอยใู่ นชมุ ชนทา่ แคและชมุ ชนทะเลชุบศร กลุม่ ตัวอย่าง ได้แก่ ประชาชนท่ีอาศัยอยู่ ต.ท่าแค อ.เมอื ง จ.ลพบรุ ี จงั หวดั ลพบรุ ี จำนว100 คน 3.1 ตัวแปรตน้ คือ ไข่เปด็ 3.2 ตัวแปรตาม คอื ดนิ สอพอง เกลอื 3.3 ตวั แปรควบคมุ คือ นำ้ อณุ ภูมิน้ำเดือด ความร้อน อุณภมู ใิ นการใช้หมัก 3.1 ประชากร คอื ประชากร จากการสำรวจประชากรชุมชนบา้ นทา่ แค พบวา่ มี ครวั เรอื นทง้ั หมด 1,320 ครวั เรอื น ประชากรท้งั หมด 4,320 คน เปน็ ผูช้ าย 2,060 คน ผ้หู ญิง 2,260 คน ประชากรท่มี อี าชีพทำไข่เค็มดนิ สอพองทงั้ หมดประมาณ 40 ครวั เรอื น 3.2 กลมุ่ ตัวอยา่ ง คือ กลมุ่ สมาคมแม่บา้ นท่าแค 4. ประโยชน์ทไี่ ด้รับ 1.ประโยชน์จากการไดร้ บั ความร้จู ากการทำไขเ่ ค็มดนิ สอพองเพราะไข่เค็มดนิ สอพองถอื เปน็ ผลิตภัณฑท์ ่มี อี ยมู่ ายาวนานและสร้างรายได้ให้กับคนในชมุ ชนและในท้องถ่นิ เปน็ จำนวนมาก 2. ประโยชน์จากาการศกึ ษาความเปน็ มาของการทำไขเ่ คม็ ดนิ สอพอง มีมาอย่างยาวนาน ริเริ่มการผลิตและจำหน่ายโดยกลุ่มแม่บ้านกองพันปฏิบัติการจิตวิทยาศูนย์สงครามพิเศษค่ายสมเด็จพระ นารายณม์ หาราช โดยการนำกลุม่ รวมพลกันในการหาวธิ ีการถนอนอาหารโดยเกลือ โดยทีจ่ งั หวดั ลพบรุ ขี นึ้
(3) ช่อื เรอื่ งดินสอพองจบขณะนนั้ เปน็ ช่วงฤดูรอ้ นทำให้ไขเ่ ป็ดจำนวนมากเน่าเสยี กลุ่มแม่บ้านกองพนั จงึ คดิ ค้น การทำไข่เคม็ ดนิ สอพองข้นึ เพอื่ เปน็ การถนอนอาหารและสร้างรายไดใ้ หก้ ับคนวา่ งงาน 3.ประโยชนจ์ ากการศกึ ษากระบวนการทำไข่เคม็ ดินสอพองโดยใช้ดนิ สอพอง 3 สว่ น นำมาผสมกับ เกลือ 1 ส่วน และน้ำพอสมควรคลุกให้เข้ากัน นำไข่เป็ดลงชุบให้ติดส่วนผสมแล้วคลุกในขี้เถ้าแกลบ ใส่ ถงุ พลาสตกิ ปดิ ให้แนน่ อยา่ ให้อากาศเขา้ , ใช้ประกอบอาหารได้หลายรูปแบบคือหลงั จากทำได้ 3 วัน, ใช้ทำ ไข่หวาน 5 วัน ทำไข่ดาว 15 วันนำไปต้มทำไข่เค็มหรือนำไปทำไข่เค็มผัดพริกขิง และแกงเขียวหวานปลา กรายยัดไสไ้ ข่เคม็ 4.ประโยชน์จากการศึกษาประกอบการเรยี นวิชาชีวิตกับสงั คมไทย เป็นองค์ความรู้ที่มีกระบวนการ สั่งสมจากรุ่นสูร่ นุ่ และได้รวู้ ถิ ชี ีวติ ความเปน็ อย่ขู องคนในท้องถิ่น เปน็ ทัง้ จารตี และประเพณี ศิลปวัฒนธรรม สิ่งทีแ่ สดงถงึ เอกลกั ษณข์ องภมู ิปัญญาไทย
(4) บทที่ 2 ทฤษฎีท่เี กย่ี วขอ้ ง ในการศกึ ษาเรอื่ ง ไข่เค็มดนิ สอพอง ผู้จดั ทำไดร้ วบรวมแนวคดิ ทฤษฎีและหลักการต่างๆจากเอกสารที่ เกย่ี วข้องดังตอ่ ไปน้ี 2.1ไขเ่ ปด็ ไข่เป็ดมีขนาดฟองใหญ่กว่าไข่ไกเล็กน้อย เปลือกสีขาว มีกลิ่นคาวกว่าไข่ไก่ สีของไข่แดงเข้ม ไข่ ใหม่จะแยกไขข่ าวไขแ่ ดงได้ง่าย ถา้ ไขเ่ กา่ ไขแ่ ดงจะแตกงา่ ยและไขข่ าวจะแบนราบ นยิ มบรโิ ภคสุก โดยการ ต้ม ทอด หรือนำไปเป็นส่วนประกอบของอาหารหลายชนิดเช่นเดียวกับไข่ไก่ โดยเฉพาะขนมไทย เช่น ทองหยอด ฝอยทอง โดยอาจจะใชเ้ ฉพาะไข่เป็ดอยา่ งเดียว หรอื ไขเ่ ป็ดผสมไข่ไก่ 2.2 ไขเ่ ค็ม ไข่เค็มเป็นผลิตภัณฑ์จากไข่ที่เกิดจากการถนอมอาหารโดยใช้เกลือเพื่อให้ไข่เก็บได้นาน มีรสเค็ม และเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับไข่ด้วย สามารถทำได้กับไข่ทุกชนิด ไม่ว่าไข่เป็ด ไข่ไก่ และไข่นกกระทา แต่ นิยมนำไข่เป็ดมาทำมากกว่า เนื่องจากไข่แดง มีสีสด น่ารับประทาน และเปลือกหนากว่าไข่ชนิดอื่นทำให้ เกลือเขา้ ด้านในอยา่ งช้าๆ ไข่เค็มถือเปน็ อาหารที่นิยมรบั ประทานมาก เพราะนำมาทำได้หลายอยา่ ง 2.3 เกลือ เป็นสารเคมีชนิดหน่ึง มีชื่อเรียกทางเคมีว่า “โซเดียมคลอไรด์” มีลักษณะเป็นพลึกสีขาว รสชาติ เค็มเกลือเป็นอาหารธรรมชาติที่มีความสำคัญต่อมนุษย์และสัตว์ตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน มนุษย์ต้อง บริโภคเกลือวันละ 5-10 กรัม เพื่อนำไปช่วยรักษาสมดุลของน้ำในร่างกายให้เซลล์เนื้อเหยื่อต่างๆทำงาน
(5) อย่างปกติ นอกจากนี้ยังสามารถนำเกลือไปใช้ประโยชน์ต่างๆ เช่น การปรุงอาหาร ถนอมอาหาร ผสมกับ น้ำแขง็ เพ่ือเพม่ิ ความเยน็ ใช้ในอตุ สาหกรรมผลติ สารเคมีตา่ งๆ เป็นต้น 2.4 ดนิ สอพอง ดินสอพองเป็นหินปูนเนื้อมาร์ล ที่เป็นดินที่เนื้อเป็นสารประกอบแคลเซียมคาร์บอนเนตเป็นส่วน ใหญ่ดินสอพอง โบราณใช้ทำแป้งปะตามร่างกายเพื่อให้เย็นสบาย เมื่อผสมน้ำหอมเข้าไปด้วยกลายเป็น แปง้ กระแจะ ใชท้ ำยาสีฟันปจั จุบันใชม้ ากในการแก้ดนิ เปรี้ยว ผสมทำธปู ทำปนู ซีเมนต์ แหลง่ ใหญ่ในมอ้ งท่ี อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบรุ ี อำเภอตาคลี จงั หวดั นครสวรรค์ และอำเภอเมอื ง จังหวัดลพบุรี
บทที่ 3 วิธศี กึ ษาค้นควา้ การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ผูศ้ กึ ษาคน้ คว้าได้ดำเนินการตามขน้ั ตอนดังนี้ 3.1 การกำหนดประชากรและการสุ่มกลุม่ ตัวอย่าง 3.2 การสร้างเคร่ืองมอื ทใี่ ช้ในการศกึ ษาค้นคว้า 3.3 การเก็บรวบรวมข้อมูล 3.4 การจดั กระทำและการวเิ คราะหข์ อ้ มลู 3.5 วิธีการดำเนนิ การ 3.1 การกำหนดประชากรและการเลือกกลมุ่ ตัวอยา่ ง ประชากร ประชากรทใ่ี ช้ในการศึกษาครงั้ น้ีคือ นกั ศกึ ษาระดับช้ันประกาศนียบัตรวิชาชพี ชน้ั สงู (ปวส.) ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563 การเลือกกลมุ่ ตัวอยา่ ง กลุ่มตวั อย่างท่ีใช้ในการศกึ ษาครง้ั น้ี คอื กลุ่มสมาคมแมบ่ า้ นทา่ แค ต.ทา่ แค อ.เมอื ง จ.ลพบรุ ี จำนวน 100 คน 3.2 การสรา้ งเคร่อื งมือทใ่ี ช้ในการศึกษาคน้ คว้า 1.ศกึ ษาเอกสารและวิธกี ารทีเ่ ก่ียวขอ้ ง 2. ศกึ ษาและนำมาประกอบการทำโครงการและคน้ ควา้ 3.นำไปใหค้ รผู ูส้ อนตรวจสอบความถูกต้องและความครอบคลมุ ของข้อคำถามแก้ไขตาม คำแนะนำ 3.3 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู เริ่มเก็บข้อมูลตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม ปีการศึกษา 2563 โดยสมาชิกในกลุ่มแบ่งเก็บข้อมูลด้วย ตนเองจำนวนทั้งหมด 100 ฉบับ ได้แบบสอบถามกลับจำนวน 100 ฉบับ แบบสอบถามไม่สมบูรณ์ จำนวน 0 ฉบับ
(7) 3.4 การจดั กระทำขอ้ มูลและการวิเคราะหข์ ้อมลู แบบสอบถามเป็นแบบสอบถามใหจ้ ัดอันดับ 3 ลำดบั กำหนดคา่ นำ้ หนกั คะแนนดงั น้ี อนั ดบั ที่ 1 คา่ นำ้ หนักคะแนนคอื 3 อันดบั ที่ 2 คา่ น้ำหนักคะแนนคอื 2 อันดบั ที่ 3 ค่านำ้ หนกั คะแนนคือ 1 3.5 วธิ ีการดำเนนิ การ วสั ดแุ ละอุปกรณ์ 1. ไขเ่ ป็ด 10 ฟอง 2.เกลอื 2 ถุง 3. น้า สะอาด 5 ลิตร 4.ดินสอพอง 2 กโิ ลกรมั 5. ขวดโหล 2 ใบ 6. หมอ้ ต้ม 1 ใบ 7. เตาไฟ 1 ใบ 8. กะละมัง 1 ใบ 9.ถุงพลาสติก 1 หอ่ 10.ถงั หมกั 1 ใบ ข้นั ตอนและวธิ ีการทำ 1.นำไข่เค็มคัดขนาดพอเหมาะ ไม่มีรอยแตกร้าว ทำความสะอาดด้วยการนำไปลา้ งถูขัดใหเ้ ปลือก ไขข่ าวสะอาด 2.นำดินสอพอง 3 ส่วน เกลือป่น 1 ส่วน ขั้นตอนแรกนำดินสอพองผสมกับน้ำคลุกเคลา้ ให้เข้ากัน กับน้ำจนอ่ิมตวั ขน้ั ตอนตอ่ ไปนำเกลอื ลงผสมกับดนิ สอพองท่หี มกั เตรยี มไวค้ ลุกเคลา้ ให้เข้ากนั อกี ครง้ั 3.นำไข่เป็ดที่ทำความสะอาดไว้เรียบร้อยแล้วลงคลุกกับดินสอพองที่เตรียมไว้ ให้เนื้อดินสอพอง จับผิวไข่หนา 1 มิลลิเมตรจากนั้นนำไข่ไปคลุกกับขี้เถ้าแกลบให้ทั่ว ให้ขี้เถ้าแกลงเกาะผิวไข่หนาราว 2 มิลลเิ มตร 4.นำไข่ที่ได้หมักไว้แล้วใส่ถุงพลาสติกรัดปากถุงให้แน่น ห้ามมีลมเข้า ใช้ระยะเวลา 5 – 7 วัน เสร็จแล้วนำถงุ ไปเรียงกันให้เรยี บรอ้ ยและตามลำดบั ท่ีใส่ไขเ่ ป็ดลงไป 5.เมอ่ื ครบกำหนดแลว้ นำไขเ่ ปด็ ทที่ ำความสะอาดไปตม้ กับน้ำตม้ สุกแล้วพกั ท้ิงไว้ 6.นำไข่ที่ได้ ลงกล่องบรรจุภัณฑ์ นำไปปรุงอาหารได้เป็น ยำไข่เค็ม ทอดมันไข่เค็ม น้ำพริกไข่เค็ม รสชาตอิ ร่อย ไข่ขาวเค็มพอดี ไขแ่ ดงมันเย้ิม
(8) รปู ภาพท่ี 3.1 การเตรยี มไขเ่ ป็ด รปู ภาพที่ 3.2 การคลุกเคลา้ ดินสอพองและเกลอื
(9) รปู ภาพที่ 3.3 การปั้นไข่เค็มดินสอพองมักทง้ิ ไว้ 5 – 7 วัน รูปภาพที่ 3.4 การนำไขเ่ คม็ มาตม้ สุก
(10) รปู ภาพ 3.5 ไขเ่ ค็มดนิ สอพอง รูปภาพท่ี 3.6 นำใส่บรรจุภณั ฑ์
บทท4ี่ ผลการศกึ ษาคน้ คว้า ในการจักทำโครงการไข่เค็มดินสอพอง ผู้จัดทำมีวัตถุประสงค์เพื่อนำภูมิปัญญาชาวบ้านมาศึกษา พัฒนาทักษะการคิด วิเคราะห์ พัฒนาไข่เค็มให้มีความหลากหลายด้านส่วนผสมมากขึ้น เสริมสร้างรายได้ ระหว่างเรยี นและเปน็ แนวทางในการประกอบอาชพี ใช้เวลาว่างให้เกดิ ประโยชน์ นำความรดู้ ้านเทคโนโลยี เผยแพรแ่ กผ่ ทู้ สี่ นใจ จากการดำเนินดังกลา่ ว มีผลการศึกษาค้นควา้ ดงั นี้ 1.นำความรู้ภมู ปิ ัญญาชาวบา้ นมาประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจำวนั จากการดำเนินมาผู้จัดทำนำภูมิปัญญาชาวบ้านมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันโดยการนำไข่เป็ด มาถนอมอาหารทำเปน็ ไขเ่ คม็ ดนิ สอพอง 2.พัฒนาทักษะการคิด วเิ คราะห์ การนำไปใช้ จากการดำเนินงานทำให้ผู้จัดทำมีการพัฒนาทักษะการคิดโดยมีการคิดประยุกต์สูตรเพื่อทำให้ไข่ เค็มมคี วามหลากหลายมากยิ่งข้ึน เกิดการวิเคราะหอ์ ัตราส่วนของดินสอพองและเกลือในการดัดแปลงสตู ร ใหเ้ หมาะสม 3.พัฒนาไข่เคม็ ใหม้ ีความหลากหลายดา้ นส่วนผสมมากข้นึ มีการดัดแปลงส่วนผสมจากเดิมเพื่อให้มีรสชาติที่หลากหลาย เช่น เค็มจัด เค็มกลาง เค็มน้อย เป็นต้น 4.เสรมิ สรา้ งรายได้ระหว่างเรยี นและเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพ มีการทดลองทำขายในชว่ งระหว่างเรียน เพือ่ นำรายได้มาเปน็ ทุนการศึกษาในการเรยี น 5.ใช้เวลาวา่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์ โดยทดลองการทำไข่เค็มดินสอพองเพ่อื นำไปพฒั นาและประกอบอาชีพ
(12) คณุ ภาพท่ปี ระเมิน แบบประเมินคุณภาพไข่เคม็ ดินสอพอง ควรปรับปรุง เกณฑ์การประเมิน ดมี าก ดี พอใช้ รสชาตโิ ดยรวม ความเคม็ ของไข่ขาว ความเค็มของไข่แดง ความไรก้ ลิน่ ของดนิ สอพอง ผลการประเมิน จากการทำแบบประเมนิ ของผู้ทดสอบสรปุ ไดด้ งั นี้ -รสชาติโดยรวมของไข่เค็ม จากผู้ทดสอบ 100 คน ร้อยละ50 บอกว่ารสชาติดี และอีกร้อยละ50 บอกว่า พอใช้ -ความเค็มของไข่ขาว จากผู้ทดสอบ 100 คน ร้อยละ 80 บอกว่ารสชาติพอใช้ และอีกร้อยละ 20 บอกว่า ควรปรับปรุง -ความเค็มของไข่แดง จากผู้ทดสอบ 100 คน ร้อยละ 90 บอกว่ารสชาติดี และอีกร้อยละ 10 บอกว่า รสชาตพิ อใช้ -ความไร้กลิ่นของดินสอพอง จากผู้ทดสอบ 100 คน ร้อยละ 90.5 บอกว่าดีมาก และอีกร้อยละ 9.5 บอกว่าดี
บทท่ี 5 สรุป อภปิ รายผลและขอ้ เสนอแนะ 5.1 สรุปผลการจากผลการทดลองพบวา่ ไขเ่ คม็ ดนิ สอพองท่ีไดด้ ลองผลออกมาเมอ่ื ทดสอบแล้วสีสวย รสชาตไิ ม่เคม็ มาก ไม่เปน็ อนั ตรายต่อ ร่างกาย มีรสชาติท่ีพอดี เนื่องมาจากสีของดินสอพองขาวนวลและได้กลิ่นรสชาติที่แตกต่างจากไข่เค็ม ธรรมดาสามารถวางจำหน่ายให้กบั ผู้ท่สี นใจซ้อื ได้ มกี ารพฒั นาปรับสูตรเพ่ือให้ได้ไข่เคม็ ที่มีรสชาติและกล่นิ ทห่ี ลากหลาย ไข่เค็มทีท่ ำขึน้ มรี สชาตทิ ี่ไมเ่ ค็มมากสามารถทานเล่นได้ ซึ่งจะแตกตา่ งจากไข่เค็มทม่ี ีขายตาม ท้องตลาดทั่วไป และมีความคิดเห็นว่าสามรถนำไปฝากแผงขายตามท้องตลาดและเป็นสินค้า OTP ได้อีก ด้วย 5.2 ปัญหาและอปุ สรรคในการศึกษาค้นควา้ 1.ไข่เป็ดไมไ่ ด้มาตรฐานฟองไม่เท่ากัน 2.ไขเ่ คม็ ไมส่ ม่ำเสมอ บางฟองเคม็ บางฟองไมเ่ ค็มเลย 3.ไขบ่ างฟองไม่เป็นไข่เคม็ 4.ไข่เปด็ เนา่ เสยี เนื่องจากอากาศร้อน 5.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางในการพฒั นา 1. แปรงขดั ไขค่ วรใช้แปรงคนละแบบ เพอื่ การขดั ไข่เคม็ นา่ จะมปี ระสิทธิภาพมากข้ึน 2. น้ำที่ใช้ลา้ งไขเ่ คม็ ควรนำกลับมาใชล้างซำ้ ไดไ้ ดห้ รอื ไปทำประโยชนอ์ ยา่ งอืน่ ได้ 3.วสั ดทุ นี่ าํมาสรา้ งเคร่ืองควรเป็นวัสดกุ นั สนมิ กดักรอ่ น เพราะวสั ดุโดนทั้งนำ้ และเกลอื จากการ ลา้ งไข่เคม็ เพื่อให้อายุการใชง้ านมากยง่ิ ขึน้ 4.นำไปปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั และนำไปสร้างรายได้แกค่ รวั เรือนได้
(14) บรรณานกุ รม (1)http://bbnsocail.blogspot.com/2013/06/blog-post.html (2)http://finalproject5704273.blogspot.com/p/blog-page.html (3) http://suanchonproject.blogspot.com/ (4) http://www.thaicuisinenetwork.com/detail_about.php?act=detail&about=material&record _id=I025 (5) https://kruwarayutict.wordpress.com/ (6) https://sites.google.com/site/gfhjjnkklklnl/khna-phu-cad-tha (7) https://th.wikipedia.org (8) https://www.sentangsedtee.com/exclusive/article_14189
(15) ประวตั ิผจู้ ัดทำ ชอื่ เรอ่ื ง ไขเ่ คม็ ดินสองพอง 1.นางสาว ธมี าพร เจตะสานนท์ ประวัตสิ ่วนตวั 07 สงิ หาคม 2544 อายุ 19 บา้ นเลขท่ี 161/1 หมู่ 9 ตำบลบ้านเบิก อำเภอทา่ วุ้ง จังหวัดลพบรุ ี 15150 ประวัตกิ ารศึกษา ปี พ.ศ. 2557 ชน้ั ป.6 โรงเรียนวัดยวด ปี พ.ศ. 2560 ชั้น ม.3 โรงเรยี นท่าวุง้ วิทยาคาร ปี พ.ศ. 2563 ชั้น ปวช. วทิ ยาลยั เทคนคิ ลพบุรี เลขท่ี 9 2.นางสาว เนาวรตั น์ คตอยู่ ประวตั ิส่วนตวั 2 พฤศจกิ ายน 2544 อายุ 19 บา้ นเลขท่ี 104/2 หมู่ 6 ตำบลเขาพระงาม อำเภอเมอื ง จงั หวดั ลพบุรี 15000 ประวัติการศึกษา ปี พ.ศ. 2557 ชั้น ป.6 โรงเรยี นวดั เขาสระพานนาค ปี พ.ศ. 2560 ชนั้ ม.3 โรงเรยี นโคกกะเทียมวิทยาลัย ปี พ.ศ. 2563 ช้ัน ปวช. วิทยาลัยเทคนิคลพบรุ ี เลขที่ 10 3.นางสาวพลอยวมิ ล บุญมาทนั ประวตั ิสว่ นตวั 3 เมษายน 2545 อายุ 18 บ้านเลขที่ 90/59 หมู่ 3 ตำบลป่าตาล อำเมอื งเมือง จังหวัดลพบุรี 15000 ประวัตกิ ารศึกษา
(16) ปี พ.ศ. 2557 ชนั้ ป.6 โรงเรียนค่ายนารายณ์ศกึ ษา ปี พ.ศ.2560 ชน้ั ม.3 โรงเรยี นวนิ ติ ศึกษา ปี พ.ศ. 2563 ชั้น ปวช. วิทยาลยั เทคนิคลพบรุ ี เลขท่ี 15 4.นางสาว มารษิ า แจ่มศรี ประวตั สิ ่วนตวั 24 กรกฎาคม 2544 อายุ 19 บา้ นเลขที่ 172/16 หมู่ 2 ตำบลทา่ แค อำเภอเมอื ง จังหวดั ลพบุรี 15000 ประวัตกิ ารศกึ ษา ปี พ.ศ. 2557 ชน้ั ป.6 โรงเรียนบา้ นหนองแขม ปี พ.ศ. 2560 ช้นั ม.3 โรงเรียนโคกกะเทียมวทิ ยาลยั ปี พ.ศ. 2563 ชั้น ปวช. วิทยาลัยเทคนคิ ลพบุรี เลขที่ 19 5.นางสาวรุง่ รวี ทองดี ประวตั สว่ นตวั 11 กรกฎาคม 2544 อายุ 19 บา้ นเลขท่ี 68 หมู่ 16 ตำบลบางลี่ อำเภอท่าว้งุ จังหวัดลพบรุ ี 15150 ปกี ารศึกษา ปี พ.ศ.2557 ชน้ั ป.6 โรงเรยี นวดั หนองปลาดุก ปี พ.ศ.2560 ชนั้ ม.3 โรงเรียนบา้ นชีวิทยา ปี พ.ศ.2563 ชน้ั ปวช. วิทยาลยั เทคนคิ ลพบุรี เลขท่ี 21 6.นางสาว วรรณภา ชนะสงคราม ประวตั ิส่วนตวั 28มนี าคม2545 อายุ 18 บา้ นเลขท่ี 5 หมู่ 4 ตำบลมหาสอน อำเภอบ้านหม่ี จงั หวัดลพบรุ ี 15110
(17) ประวตั ิการศกึ ษา ปี พ.ศ. 2557 ชั้น ป.6 โรงเรียนพระวรสาร ปี พ.ศ. 2560 ช้นั ม.3 โรงเรยี นพระวรสาร ปี พ.ศ. 2563 ชนั้ ปวช. วทิ ยาลัยเทคนคิ ลพบุรี เลขที่ 26 7.สดุ ารตั น์ ขลิบเงนิ ประวัตสิ ว่ นตวั 29 มกราคม 2544 อายุ 20 บา้ นเลขท่ี 40 หมู่ 1 ตำบลพุคา อำเภอบ้านหม่ี จังหวัดลพบรุ ี 15110 ประวตั กิ ารศึกษา ปี พ.ศ. 2557 ชั้น ป.6 โรงเรียนวัดพานิชธรรมิการาม ปี พ.ศ. 2560 ชั้น ม.3 โรงเรยี นวดั พานชิ ธรรมิการาม ปี พ.ศ. 2563 ช้ัน ปวช. วทิ ยาลยั เทคนคิ ลพบุรี เลขท่ี 31
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: