นิทรรศการออนไลน์ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5/1
วนั วิทยาศาสตร์ ประวตั ิวันวิทยาศาสตร์แหง่ ชาติ วัตถปุ ระสงคข์ องการจัดงานวนั สปั ดาหว์ ทิ ยาศาสตรแ์ หง่ ชาติ 1. เพ่อื เปน็ การเฉลิมพระเกยี รตแิ ละพระปรชี าสามารถทางดา้ นวิทยาศาสตรข์ องพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า เจา้ อยูห่ วั ”พระบิดาแหง่ วิทยาศาสตร์ไทย” 2. เพ่อื เป็นการสง่ เสรมิ และเผยแพร่ผลงานการคน้ ควา้ วิจยั ทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งมีความจาเปน็ อยา่ ง ย่ิงตอ่ การพัฒนาประเทศ 3. เพอ่ื สนบั สนุนใหก้ าลังใจและโอกาสแกน่ กั วจิ ัย นักประดิษฐ์ ไดแ้ สดงผลงานตอ่ สาธารณชน 4. เพอ่ื ส่งเสรมิ ความร่วมมือระหวา่ ภาครฐั และเอกชนในการนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยไี ปใช้ในการพฒั นา ประเทศอย่างมีประสิทธภิ าพ 5. เพื่อเสรมิ สรา้ งบรรยากาศทางวิทยาศาสตร์ อันเป็นวถิ ที างหน่ึงของการแก้ปัญหาการขาดแคลนกาลงั คนทางดา้ น วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รัฐบาลไทยกาหนดใหว้ นั ที่ 18 สิงหาคม เปน็ วนั วทิ ยาศาสตร์แห่งชาติ เน่อื งจากวนั ที่ 18 สงิ หาคม พ.ศ. 2411 พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจา้ อยหู่ ัว ได้เสดจ็ พระราชดาเนนิ ทางชลมารคและสถลมารค ทอดพระเนตรสุริยปุ ราคาเต็มดวง ทที่ รงคานวณพยากรณ์ไว้ลว่ งหน้า 2 ปี วา่ จะเกิดในวนั องั คาร ขน้ึ 1 ค่า เดือน 10 ปีมะโรง สัมฤทธิศก จุลศกั ราช 1230 โดยจะเหน็ หมดดวงและชดั เจนท่สี ุด คือ ที่หมบู่ า้ นหัววาฬ ตาบล หวา้ กอ อาเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตงั้ แตบ่ ริเวณเกาะจาน ขนึ้ ไปถงึ ปราณบุรี และลงไปถึงจงั หวัดชุมพร จงึ โปรดเกลา้ ฯ ใหเ้ จา้ พระยาศรสี รุ ยิ วงศ์ (ชว่ ง บุนนาค) ไปสร้างค่ายหลวงและพลบั พลาทีป่ ระทับ มีคณะนกั ดารา ศาสตร์จากประเทศฝรั่งเศส และเซอร์ แฮร่ี ออด เจ้าเมืองสงิ คโปร์ เดินทางมาเข้าเฝา้ ฯ และร่วมในการ สังเกตการณ์ และตอ่ มาได้มกี ารสรา้ ง \"อทุ ยานวิทยาศาสตร\"์ ที่บ้านหว้ากอ
ผลการคานวณของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยหู่ ัวแมน่ ยามาก โดย เซอร์ แฮรี่ ออด ไดบ้ นั ทกึ เหตุการณไ์ ว้ ซงึ่ ต่อมาหม่อมหลวงปนิ่ มาลากลุ ได้แปลเปน็ ภาษาไทยในงานหว้ากอราลกึ ณ ทอ้ งฟา้ จาลองกรงุ เทพ เมอื่ พ.ศ. 2518 ว่า \"พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจ้าอยู่หัว ทรงพระสาราญมาก เพราะการคานวณเวลา สรุ ิยุปราคาของพระองค์ ไดพ้ สิ จู นแ์ ลว้ ว่าถูกถ้วนที่สดุ ถูกถ้วนย่ิงกวา่ ที่ชาวยโุ รปไดค้ านวณไว้\" ตอ่ มา พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อยู่หัว ทรงรบั เอาศิลปวิทยาการ และความคิดสมยั ใหมม่ า ประยกุ ต์ใช้ในการปกครองประเทศ ดว้ ยเหตุนอ้ี งค์การการศึกษา วทิ ยาศาสตร์ และวฒั นธรรมแหง่ สหประชาชาติ (ยูเนสโก) จึงได้ประกาศยกย่องพระเกียรติคณุ ของพระองค์ให้ทรงเปน็ บคุ คลสาคัญของโลก ด้วยพระราชกรณยี กิจ และพระเกยี รติคณุ นานปั การ โดยเฉพาะพระราชกรณยี กจิ ดา้ นดาราศาสตร์ ท้ังน้ี สมาคมวทิ ยาศาสตรแ์ ห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถมั ภ์ โดยเฉพาะทางด้านดาราศาสตร์ มี แนวคดิ วา่ น่าจะถอื เอาวันที่ 18 สิงหาคม เปน็ วันวทิ ยาศาสตร์ไทย ต่อมาวนั ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2525 คณะรัฐมนตรีได้มมี ตเิ ทิดพระเกยี รตพิ ระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว เปน็ \"พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ ไทย\" พรอ้ มทัง้ กาหนดใหว้ นั ท่ี 18 สิงหาคม เปน็ \"วันวทิ ยาศาสตร์แหง่ ชาต\"ิ และเมอ่ื วันท่ี 18 สงิ หาคม พ.ศ. 2511 ไดม้ ีการจดั งานขนึ้ เน่ืองในโอกาสครบรอบ 100 ปี ของเหตกุ ารณ์ที่เกดิ ข้นึ นอกจากน้ี เมื่อปี พ.ศ. 2527 กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ได้จัดงานสปั ดาหว์ ิทยาศาสตร์ แหง่ ชาติขึ้นเป็นครัง้ แรก ระหวา่ งวันที่ 18-24 สงิ หาคม โดยได้รบั ความรว่ มมือจากหนว่ ยงานราชการตา่ ง ๆ จน ได้รับความสนใจท้ังจากภาครฐั เอกชน และประชาชนทั่วไป ซงึ่ ทาใหค้ ณะรฐั มนตรไี ดเ้ ล็งเห็นความสาคัญ ดงั นนั้ เมอื่ วนั ท่ี 3 กนั ยายน พ.ศ. 2528 คณะรัฐมนตรจี งึ ได้อนุมัตใิ หก้ ระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ดาเนินการจัดงาน \"สัปดาหว์ ิทยาศาสตรแ์ หง่ ชาต\"ิ เป็นประจาทกุ ปี ระหว่างวนั ที่ 18-24 สงิ หาคม
สาหรับ \"อุทยานวทิ ยาศาสตร\"์ ที่บา้ นหวา้ กอ จังหวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ นนั้ ในเวลาตอ่ มา พระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมพิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ พระราชทานช่อื อทุ ยานนว้ี ่า \"อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หวา้ กอ จงั หวัดประจวบคีรขี ันธ์\" และได้รบั พระบรมรา ชานญุ าตให้จัดสรา้ งพระบรมราชานสุ าวรยี ์พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจ้าอยู่หัว พระบรมรปู หลอ่ ประทับนัง่ บน พระเกา้ อ้ี ฉลองพระองค์เครอ่ื งแบบทหารเรอื ชดุ เดยี วกบั วันท่ีพระองค์ทา่ นเสดจ็ พระราชดาเนินมาบา้ นหวา้ กอ เพือ่ เปน็ การระลึกถึง \"วนั วทิ ยาศาสตรแ์ ห่งชาติ\" พระราชกรณียกิจทางด้านดาราศาสตร์ของรชั กาลที่ 4 พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอยหู่ วั ทรงโปรดฯ ให้สร้างหอดูดาวบนเขาวงั ในจังหวดั เพชรบรุ ี เม่ือวนั ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๐๓ พระราชทานนามว่า “หอชัชวาลเวียงชัย” ซ่ึงตลอดพระชนมช์ พี ของพระองค์ ไดเ้ คย ทอดพระเนตรดาวหาง 3 ดวงคอื ดาวหางฟลเู กอร์กูส (Flaugerguess Comet) เป็นดาวหางท่ีมขี นาดใหญแ่ ละมหี าง 2 หาง ปรากฏในรชั สมัย พระ พทุ ธเลิศหล้านภาลยั เม่ือ พ.ศ. 2355 ขณะน้ันเจา้ ฟ้ามงกฏมีพระชนั ษาราว 8 ปี เม่ือทรงเห็นแลว้ คงจะทรง ตดิ ตามศึกษาเรือ่ งดาวหางอยู่เสมอ เพราะวา่ กอ่ นดวงที่ 2 จะมาปรากฏ พระองคส์ ามารถทรงนพิ นธป์ ระกาศฉบบั แรกช่อื ว่า ” ประกาศดาวหางขนึ้ อยา่ ได้วติ ก” แจ้งแก่ประชาชน” ดาวหางโดนาติ ( Donati a Comet)เปน็ ดาวหางท่ีมขี นาดใหญ่มาก นักดาราศาสตรอ์ ติ าเลียนค้นพบในคืนวันท่ี 2 มถิ ุนายน พ.ศ 2401 และคืนตอ่ ๆมา จนถงึ วนั ท่ี 4มีนาคม พ.ศ. 2402 (รวมเวลา ๙ เดือน) ชาวไทยคงจะเหน็ ด้วย ตาเปล่า ระหวา่ งเดือนกนั ยายน-ตุลาคม พ.ศ. 2401 ดาวหางดังกลา่ วมลี ักษณะเป็น 2 หาง หางหน่งึ เหยยี ดตรง อีก หางหน่งึ เป็นพูโ่ คง้ สวยงามอยู่ราว 2 เดือน พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจ้าอยหู่ ัวทรงเกรงว่า เม่ือประชาชนเห็น ดาวหางโดนาติ แล้วจะต่ืนเต้นไปตามคาลอื ต่างๆ จึงทรงออกประกาศเตือนช่อื วา่ “ประกาศดาวหางขึ้นอย่าได้ วิตก” นับเปน็ ประกาศทางวิทยาศาสตรฉ์ บบั แรกของประเทศ มีความว่า “ดาวหางนช้ี าวยุโรปไดเ้ หน็ มาแล้วหลาย เดอื น ดาวหางนมี้ คี ตแิ ลทางยาวไปในทอ้ งฟา้ แลว้ กก็ ลับมาได้เหน็ ในประเทศทงั้ น้อี กี เพราะเหตุนอี้ ยา่ ใหร้ าษฎรทง้ั ปวงต่นื กัน และคดิ วิตกเล่าลือไปต่างๆ ด้วยว่ามใิ ช่จะเหน็ แตใ่ นพระนครนี้ และเมืองที่ใกล้เคยี งเทา่ นั้นหามิ ได้ยอ่ ม ไดเ้ หน็ ทุกบ้านทกุ เมืองทั่วพภิ พอย่างนี้แล” ดาวหางเทพบุท (Tebbut s Comet )เปน็ ดาวหางทมี่ ขี นาดใหญ่ หางยาว และสว่างกวา่ ดาวหางโดนาติ ปรากฏ แกส่ ายตาชาวโลก ระหวา่ งเดือนมิถนุ ายน – กรกฎาคม พ.ศ. 2404 เปน็ ดาวทพี่ ระองค์ทรงสนพระราชหฤทยั มาก ย่งิ ข้นึ ถึงกบั ทรงไดค้ านวณไวล้ ว่ งหน้าว่า จะปรากฏเม่ือใด และได้ทรงออกประกาศไว้ล่วงหนา้ มใิ หป้ ระชาชนต่ืน ตระหนก ทง้ั น้ีเพราะพระองค์ มีพระราชประสงคม์ ุง่ ขจดั ความเชือ่ เกย่ี วกับเรื่องโชคลาง และทรงให้ราษฎรตั้งอยู่ ในความไมป่ ระมาท เตรยี มพร้อมทีจ่ ะเผชญิ เหตกุ ารณ์ (ถา้ จะเกดิ ) อย่างมเี หตุผลตามแบบวิทยาศาสตร์
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: