Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 10 สุดยอดนักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกกับผลงานเด่นและ

10 สุดยอดนักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกกับผลงานเด่นและ

Published by warakorn1786, 2021-08-15 04:40:35

Description: 10 สุดยอดนักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกกับผลงานเด่นและ

Search

Read the Text Version

10 สุดยอดนักวทิ ยาศาสตรผ์ ูย้ ง่ิ ใหญ่ของโลกกับผลงานเด่นและ วาทะเดด็ ของพวกเขา อริสโตเตลิ (Aristotle) อริสโตเติล (384 – 322 ก่อนคริสตศ์ กั ราช) เป็นนกั ปรชั ญาคนสาคญั ในยคุ กรีกโบราณ เป็ นศิษยเ์ อกของเพลโต เป็ น อาจารยข์ องพระเจา้ อเลก็ ซานเดอร์มหาราช ในสมยั ท่อี ริสโตเตลิ มีชีวติ อยนู่ ้นั วทิ ยาศาสตร์ไม่ค่อยไดร้ ับความสนใจเพราะผคู้ นยงั ไม่เขา้ ใจวา่ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยสี ามารถทาใหค้ วามเป็นอยดู่ ีข้ึนไดอ้ ยา่ งไร แตอ่ ริสโตเติลสนใจศกึ ษาและเจนจบใน หลากหลายสาขาวชิ าท้งั ฟิสิกส์ อภิปรชั ญา จริยธรรม ชีววทิ ยา และสตั ววทิ ยา เป็ นผทู้ ่ศี ึกษาเก่ียวกบั ชีวติ สตั วแ์ ละจดั แบ่งประเภท สตั วอ์ ยา่ งเป็นระบบ แมท้ ฤษฎีของเขาบางอยา่ งท่ภี ายหลงั ไดร้ ับการพสิ ูจนว์ า่ ผดิ เช่น ความเช่ือทว่ี า่ โลกเป็ นศนู ยก์ ลางของ จกั รวาล ซ่ึงกต็ อ้ งเขา้ ใจวา่ ในสมยั สองพนั กวา่ ปี ก่อนน้นั ยงั ไม่มีกลอ้ งโทรทรรศนเ์ ลย แตก่ ็เป็ นการแสดงใหเ้ ห็นวา่ เขาเป็ นนกั สงั เกตและนกั คดิ ที่ยงิ่ ใหญท่ ี่สุดคนหน่ึง โดยเฉพาะแนวคดิ ทางปรชั ญาที่ไดร้ ับการยอมรบั จากผคู้ นจานวนมาก อริสโตเติลไดร้ ับการยกยอ่ งวา่ เป็นคนแรกท่เี ป็ นนกั วทิ ยาศาสตร์อยา่ งแทจ้ ริง เป็ นบดิ าแห่งวทิ ยาศาสตร์และบดิ าแห่ง ชีววทิ ยา อริสโตเติลเขียนหนงั สือไวม้ ากมายเป็น 1,000 เล่ม แนวคดิ และงานเขียนของเขามีอิทธิพลตอ่ ผคู้ นและความเช่ือใน ศาสนาคริสตจ์ นถึงยคุ กลางเป็นเวลานานถึง 1,500 ปี ผลงานเด่น : – ทฤษฎีทางดา้ นชีววทิ ยาและการจาแนกสตั วอ์ อกเป็น 2 พวกใหญค่ ือพวกมีกระดูกสนั หลงั (Vertebrates) และพวกไม่มกี ระดูก สนั หลงั (Invertebrates) – หนงั สือท่ีเขาเขียนในสรรพวชิ าที่เป็นแนวคดิ หลกั ใหแ้ ก่คนรุ่นหลงั วาทะเดด็ : – “Quality is not an act, it is a habit.” → คุณภาพไม่ใช่การกระทา หากแต่มนั เป็ นนิสยั – “The roots of education are bitter, but the fruit is sweet.” → รากของการศึกษาอาจจะขม แตผ่ ลของมนั น้นั หวานฉ่า

อาร์คมิ ดิ สี (Archimedes) อาร์คิมิดีส (287- 212 ก่อนคริสตศ์ กั ราช) เป็นนกั คณิตศาสตร์ นกั ดาราศาสตร์ นกั ปรชั ญา นกั ฟิ สิกส์ และวศิ วกรชาวกรีก ไดร้ ับ การยกยอ่ งวา่ เป็นหน่ึงในบรรดานกั วทิ ยาศาสตร์ช้นั ยอดและเป็ นนกั คณิตศาสตร์ทยี่ งิ่ ใหญท่ ส่ี ุดในยคุ โบราณ อาร์คมิ ิดีสมีผลงาน ดา้ นวทิ ยาศาสตร์มากมาย เป็นผวู้ างรากฐานใหแ้ ก่วชิ าสถิตยศาสตร์, สถิตยศาสตร์ของไหล และกลศาสตร์ เป็นผคู้ ดิ คน้ นวตั กรรมเคร่ืองจกั รกลหลายช้ิน รวมท้งั อุปกรณ์เคร่ืองผอ่ นแรงท่ยี งั ใชง้ านอยจู่ นถึงปัจจบุ นั งานดา้ นคณิตศาสตร์อาร์คิมิดีสเป็น ผคู้ ิดวธิ ีหาพน้ื ทแ่ี ละปริมาตรของรูปทรงเรขาคณิตมากมาย อาร์คิมิดีสแสดงใหเ้ ห็นวา่ ค่า π (pi) มีคา่ มากกวา่ 223/71 แตน่ อ้ ยกวา่ 22/7 ตวั เลขหลงั น้ีถูกนามาใชเ้ ป็นคา่ ประมาณของ π มาตลอดจนถึงปัจจบุ นั เร่ืองเล่าท่ีรู้จกั กนั แพร่หลายทส่ี ุดเก่ียวกบั อาร์คิมิดีสคอื ตอนทเ่ี ขาคน้ พบวธิ ีหาปริมาตรของมงกฎุ ทองของพระเจา้ เฮียโรท่ี 2 เพอื่ พสิ ูจนว์ า่ มีการผสมเงินเขา้ ไปดว้ ยหรือไม่ อาร์คิมดิ ีสคน้ พบตอนท่เี ขากาลงั อาบน้าแลว้ สงั เกตเห็นว่าระดบั น้าในอ่างเพม่ิ สูงข้นึ ขณะเขากา้ วลงไป จงึ คิดวธิ ีหาปริมาตรของมงกฎุ โดยวธิ ีแทนทีน่ ้าได้ ซ่ึงนาไปสู่การพสิ ูจน์ไดว้ า่ มงกฏุ ทองมีเงินผสมอยจู่ ริงๆ ดว้ ยความตนื่ เตน้ ดีใจอาร์คมิ ิดีสจงึ วง่ิ ออกไปยงั ทอ้ งถนนท้งั ท่ยี งั แกผ้ า้ แลว้ รอ้ งตะโกนวา่ “ยเู รกา้ !” (ภาษากรีกแปลวา่ ฉนั พบ แลว้ ) ผลงานเด่น : – ประดิษฐป์ ๊ัมเกลียว (Screw Pump) ท่ีเรียกกนั วา่ เกลียวอาร์คมิ ิดีสซ่ึงยงั คงใชง้ านกนั อยใู่ นปัจจุบนั สาหรับในการ ขนถ่ายน้า ถ่านหิน และเมล็ดธญั พชื – ประดิษฐเ์ ครื่องผอ่ นแรงหลายชนิด เช่น คานดีดคานงดั (Law of Lever) และลูกรอกใช้ สาหรบั ยกของหนกั ซ่ึงยงั ใชง้ านกนั อยู่ ถึงปัจจุบนั เช่นกนั – คดิ คน้ สูตรคณิตศาสตร์ท่ใี ชใ้ นการหาพน้ื ทแ่ี ละปริมาตรของทรงกลม ทรงกระบอก ทรงกรวย ภาคตดั กรวย ฯลฯ – คดิ คน้ กฎของอาร์คิมีดีส (Archimedes Principle) ท่ีเป็นรากฐานของวชิ าสถิตยศาสตร์ของไหลและใชใ้ นการหาความ ถ่วงจาเพาะของวตั ถุ วาทะเด็ด : – “Eureka!” → ฉนั พบแลว้ – “Give me a place to stand, and a lever long enough, and I will move the world.” → หาท่ียนื กบั คานงดั ทย่ี าวพอใหฉ้ นั สิ แลว้ ฉนั จะเคลื่อนโลกใหด้ ู

ชาลส์ ดาร์วนิ (Charles Darwin) ชาลส์ ดาร์วนิ (คศ. 1809 – 1882) เป็ นนกั ธรรมชาตวิ ทิ ยา นกั ธรณีวทิ ยา และนกั ชีววทิ ยาชาวองั กฤษ เป็ นผทู้ ี่มีผลงานโดดเด่นใน เร่ืองววิ ฒั นาการของส่ิงมีชีวติ ดาร์วนิ เป็นผทู้ าการปฏิวตั ิความเช่ือเดิมๆเกี่ยวกบั ท่มี าของส่ิงมีชีวติ และเสนอทฤษฎีซ่ึงเป็ นท้งั รากฐานของทฤษฎีววิ ฒั นาการสมยั ใหม่ และหลกั การพ้นื ฐานของกลไกการคดั เลือกโดยธรรมชาติ (natural selection) ดาร์วนิ อธิ บายววิ ฒั นาการของส่ิงมีชีวติ ทถ่ี ูกกาหนดโดยธรรมชาติ ซ่ึงเป็ นแนวคิดท่ีจุดชนวนใหเ้ กิดการโตเ้ ถียงข้ึนในสงั คมอยา่ ง กวา้ งขวางจนถึงปัจจุบนั ดาร์วนิ สนใจเก่ียวกบั ธรรมชาติต้งั แตว่ ยั เด็ก ชอบการทดลองเก่ียวกบั สตั วแ์ ละพชื เขาศกึ ษาดา้ นธรรมชาตวิ ทิ ยามาโดยตลอด จนกระทงั่ ไดร้ ับเชิญเขา้ ร่วมเดินทางสารวจทางทะเลทวั่ โลกกบั เรือบีเกิล (HMS Beagle) เป็นเวลา 5 ปี ทาใหม้ ีโอกาสไดเ้ รียนรู้ กบั สิ่งมีชีวติ ในภมู ิภาคที่แตกตา่ งกนั เขาไดศ้ ึกษาอยา่ งละเอียดและทาวจิ ยั เพมิ่ เตมิ ตอ่ เนื่อง และไดพ้ มิ พห์ นงั สือช่ือ The Origin of Species (กาเนิดของสรรพชีวติ ) ซ่ึงเป็นผลงานทีม่ ีช่ือเสียงที่สุดของเขา ช่วงแรกมีการโตแ้ ยง้ ต่อตา้ นผลงานของเขาอยา่ งมาก โดยเฉพาะจากฝ่ายศาสนจกั ร อีกหลายสิบปี ตอ่ มาจึงเป็นที่ยอมรับและใหก้ ารยกยอ่ ง นอกจากน้ีเขายงั มีผลงานเรื่องววิ ฒั นาการ ของมนุษยแ์ ละการคดั เลือกทางเพศ และผลงานอน่ื ๆอีกมาก ดาร์วนิ ไดร้ ับยกยอ่ งวา่ เป็ นหน่ึงในบุคคลผทู้ รงอิทธิพลท่สี ุดใน ประวตั ิศาสตร์มนุษยชาติ ผลงานเด่น : – ทฤษฎีการคดั เลือกโดยธรรมชาติ (Theory of natural selection) – หนงั สือการสืบเช้ือสายของมนุษยแ์ ละการคดั เลือกโดยสมั พนั ธก์ บั เพศ (The Descent of Man, and Selection in Relation to Sex) วาทะเด็ด : – “A man’s friendships are one of the best measures of his worth.” → มิตรภาพคอื หน่ึงในวธิ ีวดั คุณคา่ ของมนุษยท์ ีด่ ีท่สี ุด – “I love fools’ experiments. I am always making them.” → ผมชอบการทดลองโง่ๆนะ ผมมกั จะทามนั บอ่ ยๆดว้ ยสิ

หลุยส์ ปาสเตอร์ (Louis Pasteur) หลุยส์ ปาสเตอร์ (ค.ศ. 1822 – 1895) นกั เคมีและนกั จลุ ชีววทิ ยาชาวฝรง่ั เศส ผดู้ ารงตาแหน่งเป็ นอาจารยใ์ นสถาบนั การศึกษา หลายแห่ง เป็นผทู้ ีค่ น้ พบวา่ การเน่าเสียของอาหารเกิดจากส่ิงมีชีวติ เล็กๆทีเ่ ขาเรียกวา่ จุลินทรีย์ ปาสเตอร์พบวา่ จุลินทรียส์ ่งผลเสีย มากมายทาใหเ้ ขาทาการคน้ ควา้ เกี่ยวกบั จลุ ินทรียอ์ ยา่ งตอ่ เน่ืองจนคน้ พบวธิ ีการฆ่าเช้ือจลุ ินทรียไ์ ดด้ ว้ ยวธิ ีพาสเจอร์ไรส์ (Pasteurization) การคน้ พบน้ีทาใหส้ าขาวชิ าจลุ ชีววทิ ยาโดดเด่นกา้ วหนา้ ข้นึ อยา่ งรวดเร็ว ต่อมาปาสเตอร์ไดท้ าการศกึ ษาเกี่ยวกบั โรคระบาดในสตั ว์ และไดค้ ดิ คน้ วคั ซีนป้องกนั โรคท่รี า้ ยแรงทสี่ ุดตอนน้นั คอื โรคแอน แทรกซ์ไดส้ าเร็จ ตามดว้ ยการคน้ ควา้ หาวคั ซีนป้องกนั โรคอหิวาตกโรคในไก่ แต่การคน้ พบวคั ซีนทส่ี รา้ งชื่อเสียงใหก้ บั เขามาก ท่สี ุดคือวคั ซีนป้องกนั พษิ สุนขั บา้ ซ่ึงเป็นโรคทที่ าใหค้ นตายไปพอสมควร และจากการพบวคั ซีนน้ีทาใหค้ น้ พบวคั ซีนป้องกนั โรคอีกมากมาย เช่น อหิวาตกโรค วณั โรค และโรคคอตีบ นบั วา่ เป็ นประโยชนต์ ่อวงการแพทยเ์ ป็ นอยา่ งมาก ปี ค.ศ. 1888 ปา สเตอร์ไดก้ ่อต้งั สถาบนั ปาสเตอร์ (Pasteur Institute) ข้นึ ที่กรุงปารีส จากน้นั สถาบนั ปาสเตอร์ก็ไดก้ ่อต้งั ข้ึนอกี หลายแห่งใน ประเทศต่างๆทว่ั โลก รวมถึงประเทศไทยภายใตช้ ่ือ “สถานเสาวภา” เพอ่ื ใชเ้ ป็ นสถานทีท่ ดลองคน้ ควา้ เก่ียวกบั วคั ซีนป้องกนั โรคตดิ ตอ่ ชนิดต่างๆ ผลงานเด่น : – คิดคน้ วคั ซีนป้องกนั พษิ สุนขั บา้ – คน้ พบจลุ ินทรียเ์ ป็นสาเหตุทที่ าใหเ้ กิดการเน่าเสีย – คิดคน้ วธิ ีการทาพาสเจอร์ไรซ์ วาทะเด็ด : – “Fortune favors the prepared mind.” → โชคชะตามีไวส้ าหรบั คนท่เี ตรียมตวั เตรียมใจไวแ้ ลว้ – “Science knows no country, because knowledge belongs to humanity, and is the torch which illuminates the world.” → วทิ ยาศาสตร์ไม่รู้จกั ประเทศ เพราะความรูเ้ ป็ นของมนุษยชาติและเป็ นไฟฉายท่สี ่องสวา่ งแก่โลก

ทอมสั เอดิสัน (Thomas Edison) ทอมสั เอดิสนั (ค.ศ. 1847 – 1931) เป็ นยอดนกั ประดิษฐค์ นสาคญั ของโลกชาวอเมริกา ผลงานของเขาหลายช้ินไดเ้ ปลี่ยนวถิ ีชีวติ ของผคู้ นใหเ้ ป็ นสงั คมสมยั ใหม่ เอดิสนั เป็นตวั อยา่ งของคนท่ีประสบความสาเร็จดว้ ยความอุตสาหะขยนั หมนั่ เพยี ร เขาแทบจะ ไม่เคยไดเ้ รียนหนงั สือในโรงเรียน แต่ทาการศกึ ษาคน้ ควา้ ทดลองดว้ ยตวั เองต้งั แตว่ ยั เดก็ จนถึงบ้นั ปลายของชีวติ เอดิสนั สามารถ นาเงินท่ไี ดจ้ ากการขายสิทธิบตั รผลงานที่เขาประดิษฐไ์ ดช้ ิ้นแรกมาสร้างโรงงานทม่ี ีหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารวจิ ยั ในตวั ซ่ึงกลายเป็ น ตน้ แบบของโรงงานอุตสาหกรรมสมยั ใหม่ดว้ ยวยั เพยี ง 23 ปี แมว้ า่ เอดิสนั จะไม่ใช่คนแรกทป่ี ระดิษฐห์ ลอดไฟฟ้า แตเ่ ขาเป็ นผทู้ คี่ ดิ คน้ พฒั นาหลอดไฟฟ้าท่ีใชง้ านตามบา้ นเรือนไดส้ าเร็จ ไม่ เพยี งเทา่ น้ีเขายงั เป็ นผสู้ ร้างโรงจา่ ยกระแสไฟฟ้าทเี่ มืองนิวยอร์ก ลากสายไฟฟ้าไปทวั่ เมืองใหท้ ุกคนมีโอกาสใชไ้ ฟฟ้าอยา่ งทว่ั ถึง กนั และส่งผลใหก้ ารใชช้ ีวติ ประจาวนั ของผคู้ นทวั่ โลกเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เอดิสนั เป็ นผปู้ ระดิษฐเ์ ครื่องบนั ทกึ เสียง, เคร่ือง บนั ทกึ ภาพเคล่ือนไหว ซ่ึงตอ่ มาเขาไดน้ ามารวมกนั กลายเป็ นเคร่ืองถ่ายทาภาพยนตร์ เขายงั เป็ นผูป้ ระดิษฐแ์ บตเตอร่ี เครื่องผสม ปูนซิเมนต์ และส่ิงประดิษฐอ์ ื่นๆอีกนบั พนั ชิ้น เอดิสนั มีสิทธิบตั รสิ่งประดิษฐ์ภายใตช้ ื่อของเขาเป็ นจานวนถึง 1,093 ช้ิน ก่อต้งั บริษทั ดา้ นไฟฟ้าอีกหลายบริษทั รวมท้งั เจเนอรลั อิเลก็ ทริก (General Electric) บริษทั เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าขนาดใหญข่ องโลก ผลงานเด่น : – ประดิษฐห์ ลอดไฟฟ้า – ประดิษฐเ์ ครื่องบนั ทึกเสียง – ประดิษฐเ์ ครื่องถ่ายภาพเคล่ือนไหว – ประดิษฐแ์ บตเตอร่ี วาทะเด็ด : – “Genius is one percent inspiration and ninety-nine percent perspiration.” → อจั ฉริยะเกิดจากแรงบนั ดาลใจเพยี ง 1 เปอร์เซ็นต์ และอีก 99 เปอร์เซ็นตค์ อื ความอุตสาหะ – “I have not failed. I’ve just found 10,000 ways that won’t work.” → ผมไม่ไดล้ ม้ เหลวนะ ผมเพงิ่ จะพบ 10,000 วธิ ีท่ีมนั ใช้ ไม่ได้

มารี คูรี (Marie Curie) มารี คูรี (ค.ศ. 1867 – 1934) นกั ฟิสิกส์และนกั เคมีชาวโปแลนด์ เป็ นผบู้ กุ เบิกงานวจิ ยั ดา้ นกมั มนั ตภาพรงั สีและเป็ นผคู้ น้ พบธาตุ เรเดียมทใี่ ชร้ กั ษาโรคมะเร็งท่ที าใหค้ นตายเป็นอนั ดบั หน่ึงมาทกุ ยคุ สมยั เธอเป็นผหู้ ญงิ คนแรกทีไ่ ดร้ างวลั โนเบล เป็นคนแรก และผหู้ ญิงเพยี งคนเดียวทไ่ี ดร้ างวลั โนเบล 2 คร้ัง และเป็ นเพยี งคนเดียวทไ่ี ดร้ างวลั โนเบลดา้ นวทิ ยาศาสตร์ 2 สาขา มารี คูรีเป็น หน่ึงในผหู้ ญิงที่เก่งท่สี ุดและไดร้ บั การยกยอ่ งมากท่สี ุดในโลก แมจ้ ะขดั สนเร่ืองการเงินและถูกกีดกนั จากการเป็ นผหู้ ญิง มารีได้ ตอ่ สูด้ ิ้นรนโดยหยดุ เรียนเพอ่ื ทางานส่งใหพ้ ส่ี าวของเธอเรียนจนจบก่อน แลว้ ใหพ้ ส่ี าวส่งเธอเรียนดา้ นฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ที่ กรุงปารีสตามที่เธอต้งั ใจ มารีเร่ิมคน้ ควา้ ดา้ นกมั มนั ตภาพรังสีร่วมกบั สามคี ือปิ แอร์ คูรีจนคน้ พบวา่ มีพลงั งานถูกปล่อยออกมาจากแร่พติ ชเ์ บลนด์ และได้ พยายามแยกธาตใุ หม่ออกจากแร่พติ ชเ์ บลนด์ หลงั จากใชเ้ วลาคน้ ควา้ ราว 7 ปี เธอก็สามารถแยกธาตุใหม่ทเ่ี ธอเรียกวา่ เรเดียมได้ สาเร็จ ผลงานน้ีทาใหม้ ารีและสามีไดร้ ับรางวลั โนเบลสาขาฟิสิกส์ หลงั จากปิ แอร์เสียชีวติ จากอุบตั เิ หตุ มารียงั คงมุ่งมนั่ คน้ ควา้ ต่อไปโดยมุ่งไปที่การใชป้ ระโยชน์ของเรเดียมในทางการแพทย์ จนเธอไดร้ บั รางวลั โนเบลคร้ังที่สองในสาขาเคมี เมื่อเกิด สงครามโลกคร้งั ที่ 1 มารีไดต้ ้งั หน่วยเอกซเรยเ์ คลื่อนที่ตระเวนรักษาทหารทบ่ี าดเจบ็ ตามท่ีต่างๆ หลงั สงครามมารีไดก้ ลบั มา ทางานวจิ ยั อีกคร้งั แต่ผลกระทบจากการสมั ผสั กบั รังสีของเรเดียมเป็ นเวลานานทาใหไ้ ขกระดูกเธอถูกทาลายและเสียชีวติ การ คน้ พบที่ช่วยชีวติ ผคู้ นไดจ้ านวนมาก กลบั ตอ้ งแลกดว้ ยชีวติ ของเธอ ผลงานเด่น : – รางวลั โนเบลสาขาฟิสิกส์จากผลงานการคน้ พบธาตเุ รเดียม – รางวลั โนเบลสาขาเคมีจากผลงานการคน้ ควา้ หาประโยชน์จากธาตุเรเดียม วาทะเด็ด : – “One never notices what has been done; one can only see what remains to be done.” → ไม่มใี ครสนใจในสิ่งท่ีทาสาเร็จไป แลว้ ; เขามองเห็นแต่เพยี งสิ่งที่ยงั คงตอ้ งทาเท่าน้ัน – “You must never be fearful of what you are doing when it is right.” → คุณไม่ตอ้ งกลวั ในสิ่งทคี่ ุณกาลงั ทาอยเู่ ม่ือมนั ถูกตอ้ ง

นิโคลา เทสลา (Nikola Tesla) นิโคลา เทสลา (ค.ศ. 1856 – 1943) เป็นนกั ประดิษฐ์ นกั ฟิสิกส์ และวศิ วกรไฟฟ้าชาวเซอร์เบียน-อเมริกนั เป็ นผสู้ รา้ งนวตั กรรม ล้ายคุ ที่ยง่ิ ใหญท่ ีส่ ุดคนหน่ึง สิทธิบตั รของเทสลาและผลงานเชิงทฤษฎีของเขากลายเป็ นพ้นื ฐานของระบบไฟฟ้ากระแสสลบั ท่ี ใชง้ านทวั่ โลกในปัจจุบนั ไดแ้ ก่ ระบบจา่ ยกาลงั หลายเฟส และมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั เป็นผปู้ ระดิษฐแ์ ละคน้ พบเทคโนโลยี ใหม่มากมาย เช่น ขดลวดเทสลา (Tesla coil) เคร่ืองวดั ความเร็วติดรถยนต์ เคร่ืองกระจายเสียงผา่ นวทิ ยุ วธิ ีการเปลี่ยน สนามแม่เหล็กเป็นสนามไฟฟ้าซ่ึงเป็นที่มาของหน่วยวดั สนามแม่เหล็กเทสลาซ่ึงวศิ วกรรุ่นหลงั ต้งั ชื่อเพอื่ เป็ นเกียรตแิ ก่เขา นอกจากน้ีเขายงั ไดศ้ กึ ษาคน้ ควา้ เทคโนโลยลี ้ายคุ เรื่องการส่งผา่ นพลงั งานแบบไร้สายหรือเทคโนโลยี wireless ทป่ี ัจจุบนั กาลงั เฟ่ืองฟู เทสลาเป็นนกั ประดิษฐย์ คุ เดียวกนั เอดิสนั แถมยงั เป็นคูแ่ ข่งกนั เอดิสนั สนบั สนุนการใชไ้ ฟฟ้ากระแสตรงส่วนเทสลา พฒั นาไฟฟ้ากระแสสลบั จนถึงกบั เกิดสงครามกระแสไฟฟ้า (War of Currents) ซ่ึงส่งผลต่ออุตสาหกรรมในยคุ น้นั อยา่ งมาก เท สลามีแนวคิดล้ายคุ มีจนิ ตนาการกา้ วไกลเกินกวา่ ผคู้ นยคุ เดียวกนั มาก เช่น เขามีแนวคิดจะทาโลกท้งั ใบให้เป็ นส่ือนาไฟฟ้า เพอื่ ใหส้ ามารถส่งกระแสไฟฟ้าไปใหค้ นทุกคนในโลกไดใ้ ชก้ ระแสไฟฟ้าอยา่ งเสรี หรือคดิ สรา้ งอาวธุ ลาแสงมหาประลยั ทมี่ ี อานุภาพร้ายแรงขนาดแยกโลกของเราใหแ้ ตกออกเป็นสองส่วนได้ จนถูกเรียกวา่ นกั วทิ ยาศาสตร์สติเฟ่ื อง (mad scientist) หลงั จากเทสลาเสียชีวติ FBI ไดส้ งั่ ทกุ ฝ่ ายวา่ เร่ืองราวทกุ อยา่ งทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั เทสลาตอ้ งถูกจดั การอยา่ งลบั ที่สุด และตอ้ งรกั ษา ความลบั ของสิ่งประดิษฐข์ องเขาใหเ้ ป็นความลบั ตลอดไป น่ีคอื นกั วทิ ยาศาสตร์ผยู้ ง่ิ ใหญแ่ ตก่ ลบั ไม่คอ่ ยเป็ นท่ีรู้จกั เท่ากบั ผลงาน ของเขา เขาคอื ‘อจั ฉริยะทโี่ ลกลมื ’ ผลงานเด่น : – ประดิษฐข์ ดลวดเทสลา – ประดิษฐม์ อเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั – ประดิษฐห์ ลอดฟลูออเรสเซนต์ – คดิ คน้ วธิ ีการส่ือสารแบบไร้สาย – คดิ คน้ รีโมตคอนโทรล วาทะเดด็ : – “If your hate could be turned into electricity, it would light up the whole world.” → หากความเกลียดชงั ของคุณสามารถ เปลี่ยนเป็ นกระแสไฟฟ้าได้ มนั คงจะทาใหโ้ ลกท้งั ใบสวา่ งไสวเลยทเี ดียว – “The scientists of today think deeply instead of clearly. One must be sane to think clearly, but one can think deeply and be quite insane.” → นกั วทิ ยาศาสตร์ในปัจจุบนั น้ีคิดแบบลึกซ้ึงแทนทจ่ี ะคดิ อยา่ งชดั แจง้ คนเราตอ้ งมีสตทิ จ่ี ะคดิ อยา่ งชดั แจง้ แต่ก็ สามารถคิดใหล้ ึกซ้ึงและบา้ คลงั่ ได้

กาลิเลโอ กาลเิ ลอี (Galileo Galilei) กาลิเลโอ กาลิเลอี (ค.ศ. 1564 – 1642) นกั คณิตศาสตร์ นกั ดาราศาสตร์ และนกั วทิ ยาศาสตร์ชาวอิตาลีผมู้ ีบทบาทสาคญั อยา่ งยงิ่ ในการปฏิวตั วิ ทิ ยาศาสตร์สมยั ใหม่ เป็นคนแรกท่ีนาคณิตศาสตร์และการทดลองมาใชเ้ ป็ นเครื่องมือในการพสิ ูจน์กฎเกณฑท์ าง ธรรมชาติอยา่ งเป็นระบบอนั เป็นรากฐานของกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ในปัจจบุ นั กาลิเลโอคน้ พบและสรา้ งกฎเพนดูลมั (Pendulum) หรือกฎการแกวง่ ของนาฬกิ าลูกตมุ้ ที่นาไปสู่การสรา้ งนาฬกิ าใหเ้ ท่ยี งตรง เขาไดท้ ดลองปล่อยวตั ถุสองอยา่ งที่มวล ไม่เท่ากนั จากหอเอนปี ซาแต่ตกถึงพน้ื พรอ้ มกนั ทที่ กุ คนจาไดด้ ี กาลิเลโอประดิษฐแ์ ละพฒั นากลอ้ งโทรทรรศนใ์ หส้ ามารถส่องดู ดวงดาวไดอ้ ยา่ งชดั เจน กาลิเลโอพบวา่ ผวิ ดวงจนั ทร์ขรุขระมีภเู ขาและหุบเหว พบวา่ ทางชา้ งเผอื กอดั แน่นไปดว้ ยดาวฤกษ์ จานวนมาก พบวงแหวนของดาวเสาร์ พบจุดดบั บนดวงอาทติ ย์ พบดวงจนั ทร์บริวารสาคญั ของดาวพฤหสั บดี 4 ดวง และจาก การเฝา้ สงั เกตการณ์ดวงจนั ทร์ของดาวพฤหสั บดีนี่เองท่ีทาใหก้ าลิเลโอพสิ ูจน์ไดว้ า่ โลกโคจรรอบดวงอาทติ ย์ การคน้ พบวา่ โลกโคจรรอบดวงอาทิตยส์ นบั สนุนทฤษฎีของโคเปอร์นิคสั ท่เี สนอใหด้ วงอาทติ ยเ์ ป็ นจดุ ศนู ยก์ ลางของจกั รวาล ไม่ใช่ดวงอาทติ ยแ์ ละดาวอ่ืนๆท้งั หมดโคจรรอบโลกอยา่ งทเ่ี ชื่อกนั มานบั พนั ปี ไดท้ าใหเ้ กิดการต่อตา้ นจากศาสนจกั รเพราะ ขดั แยง้ กบั คาสอนในสมยั น้นั กาลิเลโอถูกสง่ั หา้ มพดู เกี่ยวกบั ทฤษฎีของโคเปอร์นิคสั แต่กาลิเลโอยงั คงมุ่งมนั่ คน้ ควา้ ดา้ นดารา ศาสตร์ตอ่ ไปและมีผลงานเป็นหนงั สือออกมาอีก ทาใหเ้ ขาถูกต่อตา้ นอยา่ งหนกั หนงั สือกถ็ กู หา้ มขายในอิตาลี และตวั เขาถูก กล่าวหาเป็นคนนอกรีตตอ้ งโทษจาคุก ตอ่ มาเขาถูกบงั คบั ใหก้ ล่าวคาขอโทษเพอื่ แลกกบั ชีวติ และอิสระ แตย่ งั ถูกควบคุมในบา้ น หลงั หน่ึงตลอดชีวติ ระหวา่ งถูกควบคุมตวั เขากย็ งั มีผลงานเขียนหนงั สือเล่มสาคญั กระทงั่ ช่วงบ้นั ปลายชีวติ แมต้ าของเขาบอด ท้งั สองขา้ งกาลิเลโอก็ยงั ทางานวจิ ยั ต่อไปโดยให้ลูกศษิ ยท์ าการสงั เกตและรายงานผลใหเ้ ขาวเิ คราะห์ เขาคือนกั วทิ ยาศาสตร์ผู้ ยง่ิ ใหญ่โดยแท้ ผลงานเด่น : – คิดคน้ กฎเพนดูลมั – พสิ ูจน์ทฤษฎีวตั ถุหนกั หรือเบาตกถึงพ้นื พรอ้ มกนั เสมอ – พฒั นากลอ้ งโทรทรรศน์ใหม้ ีประสิทธิภาพมากข้ึนจนส่องดูดาวได้ – คน้ พบดวงจนั ทร์ของดาวพฤหสั บดี 4 ดวง – คน้ พบวงแหวนดาวเสาร์ วาทะเด็ด : – “We cannot teach people anything, we can only help them discover it within themselves.” → เราไม่สามารถสอนสิ่งใด ใหก้ บั ใครไดเ้ ลย เราทาไดแ้ คเ่ พยี งช่วยให้เขาคน้ พบมนั ดว้ ยตวั เขาเอง – “I have never met a man so ignorant that I couldn’t learn something from him.” → ฉนั ไม่เคยเจอใครทโ่ี งเ่ ขลามากจนฉนั ไม่สามารถเรียนรู้อะไรจากเขาไดเ้ ลย

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) อลั เบิร์ต ไอน์สไตน์ (ค.ศ. 1879 – 1955) นกั ฟิ สิกสท์ ฤษฎีชาวเยอรมนั เช้ือสายยวิ ถือสญั ชาติสวสิ และอเมริกนั เป็ นผคู้ ดิ คน้ ทฤษฎี สมั พทั ธภาพหน่ึงในสองเสาหลกั ของฟิสิกสส์ มยั ใหม่ร่วมกบั กลศาสตร์ควอนตมั เขาเป็ นเจา้ ของสูตรที่โด่งดงั ที่สุดในโลก E = mc2 ไดร้ บั รางวลั โนเบลสาขาฟิสิกสจ์ ากการอธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริกและจากการทาประโยชนแ์ ก่ฟิ สิกส์ทฤษฎี หลงั จากทีไ่ อน์สไตน์คน้ พบทฤษฎีสมั พทั ธภาพทวั่ ไปในปี ค.ศ. 1915 เขาก็กลายเป็ นผทู้ ีม่ ีช่ือเสียงซ่ึงเป็ นเรื่องท่ไี ม่คอ่ ยธรรมดา นกั สาหรับนกั วทิ ยาศาสตร์คนหน่ึง เขาเป็นท่ีเคารพนบั ถือในความรู้แจง้ เห็นจริงในจกั รวาลซ่ึงช่วยสร้างแรงบนั ดาลใจใหแ้ ก่ นกั วทิ ยาศาสตร์จานวนมาก กลายเป็นแบบอยา่ งและสญั ลกั ษณข์ องความฉลาดหรือความอจั ฉริยะ ดงั คาทม่ี ีผยู้ กยอ่ งเขาวา่ “ไอนส์ ไตนม์ ีความหมายเดียวกนั กบั อจั ฉริยะ” ไอนส์ ไตนถ์ ือวา่ เป็นผทู้ ี่เรียนรู้ไดช้ า้ เนื่องจากมีความบกพร่องทางการอ่านเขียน (Dyslexia) แตเ่ ขากลบั บอกวา่ การพฒั นาทฤษฎี ของเขาเป็ นผลมาจากความเช่ืองชา้ น่ีเอง เพราะเขามีเวลาครุ่นคิดถึงอวกาศและเวลามากกวา่ เดก็ คนอื่น ในช่วงเร่ิมตน้ ทางานวจิ ยั ไอน์สไตน์คิดวา่ กลศาสตร์ของนิวตนั ไม่เพยี งพอท่จี ะรวมกฎของกลศาสตร์ด้งั เดิมหรือกลศาสตร์ของนิวตนั เขา้ กบั กฎของ สนามแม่เหลก็ ไฟฟ้าได้ นาไปสู่การคิดคน้ พฒั นาทฤษฎีสมั พทั ธภาพพเิ ศษ ตอ่ มาเขาไดข้ ยายทฤษฎีใหค้ รอบคลุมไปถึงสนามแรง โนม้ ถ่วงดว้ ยจงึ เกิดเป็นทฤษฎีสมั พทั ธภาพทว่ั ไปซ่ึงใชอ้ ธิบายโครงสรา้ งของจกั รวาลได้ เขายงั มีผลงานดา้ นกลศาสตร์เชิงสถิติ และทฤษฎีควอนตมั รวมไปถึงทฤษฎีอนุภาคและการเคล่ือนทขี่ องโมเลกลุ ไอน์สไตนไ์ ดต้ พี มิ พผ์ ลงานทางวทิ ยาศาสตร์มากกวา่ 300 ช้ินและงานอ่ืนที่ไม่ใช่วทิ ยาศาสตร์อีกกวา่ 150 ชิ้น ทกุ วนั น้ีไอน์สไตนย์ งั คงเป็ นท่รี ู้จกั ดีในฐานะนกั วทิ ยาศาสตร์ท่ีโด่งดงั ทีส่ ุดท้งั ในวงการวทิ ยาศาสตร์และนอกวงการ ผลงานเด่น : – ทฤษฎีสมั พทั ธภาพพเิ ศษ – ทฤษฎีสมั พทั ธภาพทวั่ ไป – ทฤษฎีโฟตอนกบั ความเกี่ยวพนั ระหวา่ งคลื่นและอนุภาค – ทฤษฎีควอนตมั เก่ียวกบั การเคลื่อนทข่ี องอะตอมในของแขง็ วาทะเดด็ : – “Imagination is more important than knowledge.” → จนิ ตนาการสาคญั กวา่ ความรู้ – “Politics is for the present, but an equation is for eternity.” → การเมืองน้นั แสนส้นั แต่สมการคงอยชู่ ว่ั นิรนั ดร์

ไอแซก นิวตนั (Isaac Newton) ไอแซก นิวตนั (ค.ศ. 1642 – 1727) นกั ฟิสิกส์ นกั คณิตศาสตร์ และนกั ดาราศาสตร์ชาวองั กฤษผซู้ ่ึงเป็ นทยี่ อมรับอยา่ งกวา้ งขวาง วา่ เป็ นหน่ึงในนกั วทิ ยาศาสตร์ที่มีอิทธิพลมากทส่ี ุดตลอดกาลและมีบทบาทสาคญั ในการปฏิวตั ทิ างวทิ ยาศาสตร์ หนงั สือเล่ม สาคญั ของเขาทชี่ ื่อ Mathematical Principles of Natural Philosophy คอื หนงั สือทมี่ ีอิทธิพลมากทสี่ ุดในประวตั ศิ าสตร์ วทิ ยาศาสตร์ นิวตนั ไดค้ ดิ คน้ กฎการเคลื่อนทแี่ ละกฎแรงโนม้ ถ่วงซ่ึงเป็ นกฎทางวทิ ยาศาสตร์ท่ีเป็ นเสาหลกั ของการศึกษา จกั รวาลทางกายภาพตลอดมา นิวตนั แสดงใหเ้ ห็นวา่ การเคลื่อนทีข่ องวตั ถุบนโลกและวตั ถุบนทอ้ งฟ้าลว้ นอยภู่ ายใตก้ ฎ ธรรมชาติเดียวกนั นิวตนั ยงั เป็นผสู้ รา้ งกลอ้ งโทรทรรศน์สะทอ้ นแสงที่สามารถใชง้ านจริงไดเ้ ป็ นเครื่องแรก เป็ นผพู้ ฒั นาทฤษฎี สี คน้ พบสเปกตรัมแสง คดิ คน้ กฎการเยน็ ตวั และศึกษาความเร็วของเสียง ผลงานของเขาช่วยใหก้ ารปฏวิ ตั วิ ทิ ยาศาสตร์กา้ วหนา้ มากยง่ิ ข้ึน นิวตนั ใหก้ าเนิดวชิ าคณิตศาสตร์แขนงใหม่หลายเรื่องดว้ ยกนั ไดแ้ ก่วชิ าแคลคูลสั (Calculus) ท่ีปัจจุบนั รูจ้ กั กนั ในชื่อแคลคูลสั เชิง อินทิกรัล (Integral Calculus) นิวตนั ยงั คน้ พบทฤษฎีบททวนิ าม (Binomial Theorem) และวธิ ีการกระจายอนุกรม (Method of Expression) ซ่ึงเป็นส่วนหน่ึงของวชิ าพชี คณิต กล่าวกนั วา่ ผลงานของนิวตนั เป็ นความกา้ วหนา้ อนั ยงิ่ ใหญ่ในทุกสาขาของ คณิตศาสตร์ในยคุ น้นั จากตานานลูกแอปเปิ ลตกนาไปสู่การสรา้ งผลงานท่เี ป็ นประโยชน์ตอ่ มนุษยชาตอิ ยา่ งอเนกอนนั ต์ เมื่อนิว ตนั เสียชีวติ ลงพธิ ีศพของเขาจึงถูกจดั อยา่ งยง่ิ ใหญ่เทยี บเทา่ กษตั ริย์ ศพของเขาฝังอยทู่ ีม่ หาวิหารเวสตม์ ินสเตอร์เช่นเดียวกบั กษตั ริยแ์ ละพระบรมวงศานุวงศช์ ้นั สูงขององั กฤษ ผลงานเด่น : – คดิ คน้ กฎการเคล่ือนทข่ี องนิวตนั – คดิ คน้ กฎแรงดึงดูดสากล – พฒั นาวชิ าแคลคูลสั – คิดคน้ ทฤษฎีสี วาทะเด็ด : – “If I have seen further than others, it is by standing upon the shoulders of giants.” → ถา้ ฉนั สามารถมองไดไ้ กลกวา่ คนอ่ืน นนั่ เป็ นเพราะวา่ ฉนั ยนื อยบู่ นไหล่ของยกั ษ์ – “Plato is my friend, Aristotle is my friend, but my greatest friend is truth.” → เพลโตเป็นเพอื่ นของฉนั , อริสโตเติลเป็น เพอื่ นของฉนั , แต่เพอื่ นทีย่ ง่ิ ใหญท่ ี่สุดของฉนั คือความจริง