ชุดกิจกรรมพัฒนาทกั ษะชีวิต 3ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ด้านการตระหนกั รู้และเหน็ คณุ คา่ ในตนเองและผู้อ่นื นางสาวศริ วิ มิ ล จันทสุวรรณ์ ตาแหน่งครู โรงเรยี นราชประชานุเคราะห5์ 0 สานักบรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
ก คานา ชุดกิจกรรมแนะแนว เพ่ือพัฒนาทักษะชีวิตสาหรับนักเรียนระดับ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ชุดน้ีสร้างข้ึนเพ่ือพัฒนาให้นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ 3 โ ร ง เ รี ย น ร า ช ป ร ะ ช า นุ เ ค ร า ะ ห์ 5 0 ส า นั ก บ ริ ห า ร ง า น ก า ร ศึ ก ษ า พิ เ ศ ษ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐานกระทรวงศึกษาธิการ สร้างข้ึน ตามกรอบแนวคิดของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประกอบด้วย 4 องค์ประ กอบ คือ 1.ก ารตระหนัก รู้แ ละ เห็นคุณค่าในต นเองและผู้อ่ืน 2.การคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจและแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ 3.การจัดการกับอารมณ์ และความเครยี ด และ 4.การสร้างสมั พันธภาพทด่ี กี ับผูอ้ ่ืน ซ่ึงชุดกิจกรรมชุดนี้เน้นการพัฒนาทักษะชีวิต ด้านการจัดการกับอารมณ์ และความเครียด สามารถพัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพท่ีมี เป็นที่ยอมรับของผู้อ่ืน ในสังคมประกอบด้วย 4 กิจกรรมท่ีเน้นกระบวนการจัดกิจกรรม โดยการฝึกปฏิบัติ และบูรณาการกับกระบวนการทางานกลุ่ม ท่ีสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งกันและกนั รวมท้ังเปดิ โอกาสให้นกั เรยี นแสดงความคดิ ไดอ้ ย่างอสิ ระ ผู้ศึกษาหวังเป็นอย่างย่ิงว่า ชุดกิจกรรมชุดนี้คงจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจ ท่ีจะนาไปใช้ในการจัดกิจกรรมเพ่ือพัฒนานักเรียนหรือเด็กท่ีอยู่ในช่วงวัยเดียวกัน ใหม้ ีทกั ษะชวี ติ ท่ดี สี ามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนในสังคมได้อย่างมคี วามสขุ ตอ่ ไป ศริ วิ มิ ล จันทสวุ รรณ์
สารบัญ ข เรื่อง หนา้ คานา ก สารบัญ ข คมู่ อื การใชช้ ุดกิจกรรม ค บทบาทของครหู รอื ผูด้ าเนนิ กิจกรรม ง ขอ้ แนะนาในการใช้สอื่ มลั ตมิ เี ดีย จ บทบาทของนักเรยี นทเ่ี ข้ารว่ มกจิ กรรม ฉ บทบาทของนักเรยี นทเี่ ขา้ ร่วมกจิ กรรม ฉ วตั ถุประสงค์ ช แบบวัดทักษะชีวิตกอ่ นการจดั กจิ กรรม 1 กจิ กรรมที่ 1 รูจ้ กั ตัวตน รากฐานชวี ิต 4 กจิ กรรมที่ 2 เห็นใจ ใสใ่ จกนั และกนั 10 กจิ กรรมท่ี 3 ตัวเรานีแ่ หละเก่ง 15 กิจกรรมท่ี 4 พึงพอใจในตนเอง 20 แบบวดั ทกั ษะชีวติ หลงั การจัดกิจกรรม 27 ภาคผนวก 30
ค คู่มือการใช้ชุดกจิ กรรม 1. ชุดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตนี้เป็นชุดกิจกรรมที่สร้างข้ึน เพ่ือพัฒนาทักษะชีวิตของนักเรียนสาหรับนักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 หรือเด็กท่มี ีอายุระหว่าง 15 – 16 ปี 2. ชุดกิจกรรมเพ่ือพัฒนาทักษะชีวิตนี้ สร้างตามกรอบแนวคิด ของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ ดงั นี้ 1. การตระหนักร้แู ละเหน็ คุณค่าในตนเองและผอู้ นื่ 2. การคิดวเิ คราะห์ ตดั สินใจและแก้ปญั หาอยา่ งสรา้ งสรรค์ 3. การจดั การกับอารมณแ์ ละความเครียด 4. การสร้างสัมพนั ธภาพท่ดี ีกับผอู้ ่ืน ประกอบด้วยท้ังหมด 18 กิจกรรม ซ่ึงแต่ละกิจกรรมกาหนดเวลาในการปฏิบัติ กิจกรรมละ 60 นาที 3. นกั เรยี นทร่ี ่วมกจิ กรรมเป็นนักเรียนท่ีมีทักษะชีวิตอยู่ในระดับปรับปรุง และพัฒนาให้ดีขึ้น โดยการวิเคราะห์ข้อมูลจากงานระบบดูแลช่วยเหลือ การคดั กรองนักเรียนรายบุคคล การประเมินตนเองด้วยแบบประเมินความฉลาด ทางอารมณ์ (EQ) และการประเมนิ พฤติกรรมนกั เรยี น (SDQ) 4. การดาเนินการจัดกิจกรรมให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรม ครูหรือผู้ดาเนินการจัดกิจกรรมรวมทั้งนักเรียนหรือผู้เข้าร่วมกิจกรรม ต้องมคี วามตรงต่อเวลา
ง บทบาทของครูหรอื ผดู้ าเนินกิจกรรม 1. ครตู ้องเปน็ ผดู้ าเนินการจัดกิจกรรมและกระตุ้นใหน้ ักเรียนร่วมปฏบิ ัติ กิจกรรรม รวมทงั้ วัดและประเมินผลนกั เรยี นตามวัตถปุ ระสงค์ 2. จดั เตรยี มหอ้ งทีใ่ ชด้ าเนินการจัดกิจกรรมและจดั เตรียมอปุ กรณ์ ในการจัดกจิ กรรมตามทกี่ าหนดชดุ กจิ กรรม ประกอบดว้ ย 2.1 หอ้ งเรยี นท่ีมีผา้ มา่ นหรือหอ้ งท่มี ดิ ชิดสามารถปิดไฟเพอื่ ฉาย เครอื่ งฉายโปรเจคเตอรแ์ ละเห็นภาพได้ 2.2 เครื่องฉายโปรเจคเตอร์ หรอื โทรทัศนท์ ม่ี อี ปุ กรณ์การต่อเชื่อม จากคอมพิวเตอร์ 2.3 จอที่มีพื้นสีขาวหรอื กระดานไวทบ์ อร์ดหรือพ้ืนหอ้ งที่มสี ขี าว ทร่ี องรับการฉายโปรเจคเตอรไ์ ด้ 2.4 เครื่องคอมพวิ เตอรท์ ีส่ ามารถเช่อื มต่อกบั เคร่ืองฉายโปรเจคเตอร์ และมีซอฟแวร์ สาหรบั อ่านขอ้ มลู จาก แผ่น CD-ROM และต้องประกอบด้วย โปรแกรมพ้นื ฐาน คือ Microsoft Word 2007 -7, Microsoft Power point 2007, GOM Player , Winamp และ Windows Media Player g เวอรช์ ่ัน 2007 ขึ้นไป 2.5 เครื่องเลน่ CD–ROM ทีม่ ีการเชอ่ื มต่อล าโพงเสียงเรียบร้อยแลว้ 2.6 จดั เตรยี มอุปกรณอ์ ่ืนๆท่ีใชใ้ นการจัดกจิ กรรม 3. คดั เลอื กนกั เรียนและศกึ ษาขอ้ มลู เบื้องตน้ ของนกั เรยี นรายบุคคลทเ่ี ข้ารว่ ม กิจกรรมใหล้ ะเอียดเพ่ือเป็นขอ้ มูลพืน้ ฐานในปรบั ปรุง แก้ไข และพฒั นานกั เรยี น
จ ขอ้ แนะนาในการใช้สอ่ื มลั ติมีเดีย 1. การเปิดข้อมูลที่เปน็ ไฟลค์ ลิปวิดโี อดาเนนิ การ ดังนี้ - นาขอ้ มูลที่อยใู่ น CD-ROM เปดิ ทีค่ อมพวิ เตอร์เพอ่ื หาไฟลท์ ่ีตอ้ งการ เลือกท่ีไฟล์ขอ้ มูลทจ่ี ะตอ้ งการจะเปิด แลว้ คลิกขวาท่ไี ฟล์นั้นแล้วเลอื กหาโปรแกรม GOM Player หรอื Windows Media Player กด Enter ที่เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ 2. การเปิดข้อมลู ทเ่ี ป็นไฟลก์ ารนาเสนองาน (Power point) ดาเนนิ การ ดงั นี้ - นาแผน่ CD-ROM ใสเ่ ครื่องคอมพิวเตอรท์ ่ีมีหวั อา่ น CD-ROM แลว้ เปดิ ข้อมูลในแผน่ ข้นึ มาและกด็ บั เบล้ิ คลิกทไี่ ฟลท์ ี่ตอ้ งการจะเปดิ ดขู ้อมลู แล้วจะปรากฏข้อมลู ทเ่ี ลือกเกิดข้นึ แล้วกดทสี่ ญั ลักษณ์การนาเสนอหรือโชว์สไลด์ 3. การเปิดข้อมูลท่เี ปน็ ไฟล์เพลง สามารถดาเนินการได้ ดังนี้ - ถ้าเปิดท่คี อมพิวเตอร์ตอ้ งเปน็ เครื่องท่ีมโี ปรแกรม Winamp และ Windows Media Player อยู่แล้ว โดยการน าแผ่น CD-ROM ใสเ่ ครื่องคอมพิวเตอรท์ ี่มีหวั อ่าน CD-ROM แล้วดับเบลิ้ คลิกไฟลท์ ตี่ ้องการไดเ้ ลย
ฉ บทบาทของนกั เรยี นที่เข้ารว่ มกิจกรรม 1. นกั เรยี นมีความต้งั ใจในการรว่ มกิจกรรมและปฏิบัตกิ ิจกรรมอย่างต่อเนอ่ื ง 2. นกั เรยี นทาแบบวดั ทักษะชีวติ ก่อนการปฏิบัตกิ ิจกรรม 3. นกั เรียนร่วมปฏิบัติกิจกรรมทไี่ ด้รับมอบหมายให้สาเร็จตามกาหนดเวลา 4. หากสงสัยหรอื มีข้ออภปิ รายใดๆ นักเรียนสามารแสดงความคิดเหน็ ได้อย่างอสิ ระ 5. เม่อื ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเสร็จเรยี บร้อย นักเรียนจะต้องทาแบบวัดทักษะชวี ิต หลังการปฏิบตั กิ ิจกรรม 6. นักเรียนควรนาผลการวดั ทกั ษะชีวติ มาพัฒนาตนเองให้สามารถ อยรู่ ว่ มกับผอู้ ่นื ได้ต่อไป
ช วตั ถุประสงค์ 1. เพ่อื สรา้ งความสัมพันธ์ทีด่ รี ะหว่างครกู บั นักเรยี นและนักเรยี นกับนกั เรยี น 2. เพ่ือใหน้ กั เรยี นทราบความหมาย ความสาคัญและองค์ประกอบของ การพฒั นาทกั ษะชีวิต 3. เพ่อื ให้นักเรียนมคี วามตระหนกั รู้และเห็นคุณคา่ ในตนเองและผู้อื่น 4. เพื่อให้นกั เรียนสามารถ คดิ วเิ คราะห์ ตดั สนิ ใจและแกป้ ัญหาอย่างสรา้ งสรรค์ 5. เพื่อใหน้ ักเรยี นสามารถจดั การกบั อารมณแ์ ละความเครียดของตนเองและหาทางแกป้ ญั หา ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 6. เพื่อใหน้ ักเรียนสามารถสรา้ งสมั พนั ธภาพทดี่ ีกบั ผ้อู น่ื สามารถอยู่ร่วมกบั ผู้อนื่ ได้ อย่างมีความสขุ
แบบวดั ทักษะชวี ติ กอ่ นการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม 1 สาหรับนกั เรียนระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ดา้ นการตระหนกั รแู้ ละเหน็ คณุ ค่าในตนเองและผู้อน่ื คาช้แี จง ให้นักเรียนอา่ นและพิจารณาเลือกสถานการณ์ทต่ี รงกับความคิดเหน็ ของนกั เรียน แลว้ กากบาทลงในกระดาษคาตอบ 1. แกว้ ทารายงานวชิ าคณติ ศาสตรเ์ รียบรอ้ ยแล้ว แต่ไมม่ ั่นใจว่าเนอื้ หาครอบคลมุ หรือไม่ เธออยากให้ปลาซงึ่ เป็นนกั เรยี นท่เี รยี นเก่งในวิชาคณิตศาสตร์ เป็นผู้ตรวจให้ ถ้านักเรียนเป็นแก้ว นกั เรียนจะทาอย่างไร ก. พดู แกมบังคับให้ปลาตรวจให้ ข. ไมก่ ล้าขอความช่วยเหลือจากปลา ค. ขอให้ปลาตรวจใหโ้ ดยมสี ง่ิ แลกเปลยี่ น ง. ขอร้องใหป้ ลาตรวจใหเ้ พราะตนเองไม่เก่ง 2. พลอยใจเป็นนักเรยี นไดร้ บั การคัดเลือกใหเ้ ป็นตัวแทนของโรงเรียนในการแข่งขัน ทักษะวิชาการในหลาย ๆ กลมุ่ วิชา ถา้ นักเรียนเปน็ พลอยใจนักเรียนจะทาอย่างไร ก. เลอื กวชิ า ทต่ี นเองชอบ ข. เลือกวชิ าทีช่ อบครผู ้สู อน ค. เลือกวิชาท่ตี นเองมีความถนัด ง. เลอื กวชิ าทม่ี ีโอกาสในการได้รับรางวัล 3. แชมปแ์ ละเพอ่ื น ๆ ได้รับมอบหมายจากคณุ ครใู ห้นาเสนอขา่ วสารประจาวนั ทีห่ นา้ เสาธงในตอนเชา้ ทุกวนั แต่แชมปเ์ ปน็ นักเรียนที่ไม่ค่อยกลา้ แสดงออก ถ้านักเรียนเปน็ แชมป์ นกั เรียนจะทาอยา่ งไร ก. ฝกึ ฝนและเตรียมความพรอ้ มของตนเอง ข. แกล้งปว่ ยในวันท่ีตนเองต้องนาเสนอข่าว ค. ให้เพื่อนนาเสนอข่าวหน้าเสาธงแทนตนเอง ง. ขอรอ้ งคณุ ครูวา่ ไมข่ อนาเสนอข่าวหนา้ เสาธง
2 4. ทางโรงเรียนจดั กิจกรรมวนั รกั ษ์สงิ่ แวดล้อมและมีการประกวดแต่งคาขวัญ พมิ พแ์ ละเพื่อนมคี วามสนใจ ถ้านกั เรียนเป็นพมิ พ์นักเรียนจะทาอย่างไร ก. บอกเพอ่ื นให้แตง่ คาขวญั เข้าประกวด ข. รว่ มกนั กบั เพื่อนชว่ ยกนั แตง่ คาขวัญส่งเขา้ ประกวด ค. แต่งคาขวัญแตไ่ ม่สง่ เขา้ ประกวดเพราะไมม่ นั่ ใจ ง. แต่งคาขวัญด้วยตนเองและส่งเขา้ รว่ มการประกวด 5. แกว้ ตาเป็นนักเรียนใหมท่ ยี่ ้ายเข้ามาเรียนในระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ซงึ่ แกว้ เป็นเดก็ ที่พูดไมค่ อ่ ยเก่ง แก้วตาจึงไปรบั ประทานอาหารกลางวันคนเดียว ในขณะที่พมิ ลและเพื่อน ๆ กาลงั เลอื กซือ้ อาหารอย่นู ้นั ก็เห็นแกว้ ตานั่งอยู่คนเดียว ถ้านักเรยี นพิมล นกั เรียนจะทาอยา่ งไร ก. ชวนเพือ่ นไปนัง่ ข้างๆแกว้ ตาและรอให้แกว้ ตาทกั ทายก่อน ข. ไปน่งั ใกล้ ๆ แก้วตาและถามแก้วตาว่าทาไมไมม่ ใี ครคบ ค. ชวนเพื่อนไปนั่งโต๊ะเดยี วกับแก้วตาแล้วชวนแก้วตาคยุ ง. ไม่สนใจเพราะตนเองไม่สนิทกบั แกว้ ตา 6. พฒั น์และนดิ เป็นเพือ่ นรว่ มช้ันเดยี วกนั และบา้ นก็อยู่ใกลก้ ัน แต่พัฒน์อาศยั อยทู่ บี่ า้ น เพยี งลาพัง เพราะพอ่ และแมห่ ย่ารา้ งกันและไปทางานอยู่ทีต่ า่ งจังหวัด วันหนึง่ พัฒน์ปว่ ย ไมส่ ามารถมาโรงเรยี นได้ ถ้านักเรียนเปน็ นดิ นักเรียนจะทาอย่างไร ก. เฉย ๆ ไม่เขา้ ไปยงุ่ เกี่ยวเพราะไมส่ นทิ กัน ข. มาหาพฒั น์ที่บา้ น เพอ่ื ดูว่าพฒั น์ป่วยจริงหรอื ไม่ ค. มาเยีย่ ม ดูแล และชว่ ยเหลือตามความสามารถของตนเอง ง. เลา่ เรอื่ งการปว่ ยของพฒั น์ใหค้ ุณครแู ละผู้ปกครองของพฒั น์ทราบ 7. ก้อยเปน็ นกั เรียนท่เี ป็นโรคโปลิโอมาต้ังแตเ่ ด็ก ๆ เพื่อนจงึ ไม่ชอบเดนิ ไปไหนกบั ก้อย เพราะกอ้ ยเดินชา้ บางคร้ังกอ้ ยตอ้ งเดนิ คนเดยี ว ถา้ นกั เรียนเป็นเพือ่ นร่วมหอ้ งกับก้อย นกั เรียนจะทาอย่างไร ก. ไมเ่ ดินกับก้อยเพราะอายเพือ่ นคนอน่ื ข. ไมส่ นใจเพราะตนเองไม่อยากคบกับก้อย ค. ชวนกอ้ ยทากจิ กรรมต่างๆดว้ ยทุกครั้ง ง. ดูแลและใหก้ าลังใจก้อยมากกว่าเพอ่ื น ๆ คนอ่นื
3 8. ต้มั เปน็ นักเรยี นที่มคี วามสามารถทางดา้ นการรอ้ งเพลง แตข่ าดความกลา้ แสดงออก ครจู ึงให้ต้ัมเปน็ ตัวแทนของโรงเรียนเข้ารว่ มการประกวดร้องเพลงท่หี น่วยงานของจังหวดั จดั ข้นึ ถา้ นกั เรยี นเป็นต้ัมนักเรยี นจะทาอยา่ งไร ก. ไม่เข้าร่วมการประกวดเพราะไม่ม่นั ใจในความสามารถตนเอง ข. ไมเ่ ข้าร่วมการประกวดเพราะไม่อยากมาฝึกซอ้ ม ค. เขา้ รว่ มการประกวดแต่ฝกึ ซอ้ มไมส่ ม่าเสมอ ง. เข้ารว่ มการประกวดและฝึกซอ้ มอยา่ งสม่าเสมอ 9. ธวชั ชยั เป็นนกั กฬี าตะกร้อตวั แทนของโรงเรียน ในชวั่ โมงพลศกึ ษาคณุ ครใู หจ้ ดั ทีม แขง่ ขนั กันในชนั้ เรียน ถา้ นกั เรียนเป็นธวชั ชยั นักเรยี นจะทาอยา่ งไร ก. ชวนเพือ่ นสนิทมาอยูท่ ีมเดียวกัน ข. ปรึกษากบั เพ่อื นในการจดั ทมี แข่งขัน ค. รอจนกว่าเพอื่ จะมาขอให้อย่ทู ีมเดียวกัน ง. ตนเองเก่งอยู่แลว้ ไมจ่ าเปน็ ตอ้ งแข่งก็ได้ 10. สพุ รรษาเปน็ เดก็ กาพรา้ ซ่งึ พอ่ และแม่เสียชีวิตดว้ ยอุบตุ ิเหตุ ปจั จบุ ันสุพรรษา อาศยั อยกู่ ับยายซึง่ มอี าชีพรับจา้ งรายวนั แต่สุพรรษาเปน็ เดก็ ทม่ี คี วามสามารถพิเศษในการราไทย ครูจงึ ชักชวนใหส้ ุพรรษาหารายได้ช่วยเหลอื ยาย โดยการรบั จา้ งราในงานต่าง ๆ ถา้ นักเรียนเปน็ สุพรรษานักเรยี นจะทาอย่างไร ก. ตกลงที่จะทาเพราะเปน็ การใช้เวลาวา่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์ ข. ตกลงทจี่ ะทาเพราะเป็นกจิ กรรมที่ตนเองชอบ ค. ไมท่ างานลักษณะน้ีเพราะคดิ วา่ ไม่เหมาะสมกับตน ง. ไมท่ างานลักษณะนเี้ พราะอายคนอืน่
กิจกรรมท่ี รจู้ กั ตวั ตน รากฐานชวี ิต
ชดุ กิจกรรมพฒั นาทกั ษะชีวิต 5 ด้านการตระหนกั รแู้ ละเหน็ คณุ คา่ ในตนเองและผ้อู นื่ กิจกรรมที่ 1 เรือ่ ง รู้จกั ตวั ตน รากฐานชีวติ แนวคิด การตระหนกั ร้ใู นตนเองเปน็ ความสามารถในการรับรู้ และเขา้ ใจความคิดและอารมณ์ ของตนเอง เขา้ ใจจดุ ดี จุดด้อยของตนเอง และความแตกต่างของตนเองกับบคุ คลอน่ื เพอ่ื การวางแผนการพัฒนาตนเองใหบ้ รรลตุ ามความม่งุ หวงั ในชวี ิต วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้นกั เรยี น ทราบจดุ ดแี ละจุดด้อยของตนเอง 2. เพือ่ ให้นักเรยี นตระหนักในคณุ คา่ ของตนเองและมีความมุ่งหวงั ในชวี ิต กจิ กรรม - กรณีศึกษาจากการชมคลปิ VDO นางสาวรัชนก อินทรนนท์ - การประเมนิ ทกั ษะชีวติ กอ่ นร่วมกิจกรรม เวลา 60 นาที ส่ือ / อุปกรณ์ 1. ใบกิจกรรม เรอื่ ง ตัวตนของฉัน วธิ ีดาเนินการ ขนั้ นา 1. ครสู นทนาเกีย่ วกับบคุ คลท่ปี ระสบความสาเรจ็ ในชวี ิต มชี ือ่ เสยี งโดง่ ดัง เชน่ นกั กฬี า แบดมินตนั และชมคลปิ VDO ของนางสาวรัชนก อินทรนนทว์ ่าบคุ คลน้นั มีคณุ ลกั ษณะและการ ปฏิบตั ิตนอย่างไรจงึ ประสบความสาเรจ็ ในชีวิต หรือใหน้ ักเรยี นเสนอช่ือของผู้ท่ีประสบความสาเรจ็ ท่นี ักเรียนรู้จักและรว่ มสนทนาอภปิ รายร่วมกัน 2. นักเรียนทาแบบวัดทกั ษะชวี ติ องค์ประกอบท่ี 1 : ด้านการตระหนกั รแู้ ละเห็นคณุ ค่า ในตนเองและผ้อู ่ืนก่อนการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม จานวน 10 ข้อ เวลา 15 นาที
6 ข้ันดาเนนิ การ 3. แบง่ กลมุ่ นักเรียนตามสที ชี่ อบ 5 สี ดังน้ี สีแดง สฟี า้ สมี ่วง สเี ขยี ว และ สเี หลอื ง โดยให้นกั เรียนเลือกตามความชอบ 4. ครูเฉลยลกั ษณะนิสัยของนักเรยี นตามสที ่ชี อบ และใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มทากิจกรรม ตามใบกิจกรรม เรอ่ื ง ตวั ตนของฉัน 5. นักเรียนนาเสนอข้อมูลทนี่ กั เรยี นเขยี นลงในใบกจิ กรรมใหเ้ พื่อนในกลุ่มฟังและเพื่อน ในกลุ่มกร็ ่วมกันเสนอความคดิ เหน็ เพมิ่ เติมเกี่ยวกับจดุ ดแี ละจุดด้อยของเพ่ือนทเ่ี ปน็ เจา้ ของข้อมูล ข้ันสรุปโดยการใชค้ าถาม R-C-A 6. ครใู ชค้ าถามสนทนากับนกั เรยี นเพื่อให้นกั เรยี นแสดงความคิดเห็นเพื่อหาข้อสรุป คาถามเพอื่ การสะท้อน (R) 1. เมอื่ นักเรยี นชมวีดโี อแล้วนักเรียนรู้สกึ อย่างไร 2. ความรูส้ ึกน้นั ส่งผลต่อความคิดของนักเรียนอยา่ งไร คาถามเพ่ือการเช่อื มโยง (C) นักเรยี นเคยมคี วามชอบหรอื อยากทากิจกรรมอะไรบ้างหรือไม่ แล้วนกั เรียนคิดว่านกั เรียนสามารถทาสิ่งน้ันไดห้ รอื ไม่ มปี ัจจยั อะไรท่คี ิดว่า นา่ จะทาได้หรอื ไม่ได้ คาถามเพื่อการปรับใช้(A) ถ้านกั เรียนรู้วา่ ตนเองมขี ้อดีขอ้ เสยี อยา่ งไร นักเรียนคดิ ว่าจะพฒั นา หรือปรบั ปรุงพฤติกรรมอะไรในตนเองบ้าง แล้วจะมีวิธีการอย่างไร 7. นกั เรยี นสรปุ แนวคิดทไ่ี ดจ้ ากการทากจิ กรรมและครสู รปุ เพ่ิมเติมเกยี่ วกับบุคคล แตล่ ะคนยอ่ มมีความแตกตา่ งกัน ซ่ึงมจี ุดดีและจุดดอ้ ยต่างกนั ด้วย ดงั นน้ั การวเิ คราะหจ์ ุดดี และจุดด้อยของตนเองน้ันมีประโยชนเ์ พ่ือใชเ้ ป็นแนวทางในการวางแผนพัฒนาตนเองใหเ้ หมาะสม มคี วามมงุ่ หวังในชีวติ และดารงตนตามบทบาทหน้าท่ีได้อยา่ งมีความสขุ การประเมนิ ผล 1. วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล 2. เครอ่ื งมือวัดและประเมนิ ผล 1.1. การสงั เกต - แบบวดั ทกั ษะชวี ิต - การร่วมกจิ กรรม ก่อนการปฏบิ ัติกจิ กรรม - การแสดงความคิดเหน็ - แบบประเมินการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม 1.2. ตรวจผลงาน เรอื่ ง รู้จักตัวตน รากฐานชีวิต - ตรวจใบกิจกรรม
เฉลยคาทานาย สที ช่ี อบ 7 สีท่ีชอบ คาทานายลักษณะนสิ ัย สีแดง เป็นคนเขม้ แขง็ สดใส ใจร้อน ทางานอะไร รวดเร็ว สีฟ้า เป็นคนชอบความสงบ อ่อนไหวง่าย กลา้ เผชิญปญั หา สีม่วง เปน็ คนช่างสังเกต มีไหวพรบิ ชอบเกบ็ ตวั ไมส่ งุ สงิ กบั ใคร สเี ขยี ว เปน็ คนใจดี ใจเย็น ใจกว้าง เป็นคนงา่ ย ๆ ไม่ชอบมีปญั หากับใคร สีเหลือง เปน็ คนมมี นษุ ยสมั พันธ์ดี มีบคุ ลกิ น่าเชอื่ ถอื มคี วามคดิ ริเรมิ่ สรา้ งสรรค์ มคี วามกระตอื รอื รน้ เชอ่ื ม่ันในตวั เอง
ใบกิจกรรม เรือ่ ง ตัวตนของฉนั 8 คาชแ้ี จง : ใหน้ กั เรียนวเิ คราะหล์ กั ษณะนิสัยของนกั เรยี นแล้วเขยี นในชอ่ งว่าง ตามประเด็นตอ่ ไปน้ี 1. ชือ่ ของข้าพเจ้าไพเราะทีส่ ดุ ใชห่ รือไม่ …………………………………….. 2. การแต่งกายของข้าพเจ้า …………………………………….. 3. รสนิยมของขา้ พเจา้ …………………………………….. 4. จิตใจของขา้ พเจ้า …………………………………….. 5. วิชาเรียนทขี่ ้าพเจา้ ชอบเรียน …………………………………….. 6. เวลาวา่ งขา้ พเจา้ ชอบทากจิ กรรม …………………………………….. 7. ขา้ พเจ้ารสู้ กึ อึดอัดเมือ่ …………………………………….. 8. ลักษณะนสิ ยั ของข้าพเจ้าท่ที าให้ข้าพเจ้าเปน็ ทร่ี ักของผู้อื่น ………………………………………………………………………………………...…………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………...…………………………………… 9. พฤตกิ รรมท่ขี ้าพเจ้ากระทาแลว้ ทาใหผ้ ้อู ่นื ไม่พอใจและถกู ตาหนิ ………………………………………………………………………………………...…………………………………… .…………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………...…………………………………… 10. ความม่งุ หวังในชีวติ ของข้าพเจา้ ………………………………………………………………………………………...……………………………….... ………………………………………………………………………………………………………………………......... ………………………………………………………………………………………...…………………………………… ชอ่ื .................................................................................................ชน้ั ......................เลขท.ี่ ..................
แบบประเมนิ การปฏบิ ัตกิ ิจกรรม การพฒั นาทักษะชวี ติ 9 ดา้ นการตระหนักรู้และเห็นคณุ คา่ ในตนเองและผอู้ น่ื กิจกรรมท่ี 1 เรื่อง รจู้ ักตวั ตน รากฐานชวี ิต คาชี้แจง : แบบประเมนิ การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมฉบับน้ี สร้างขน้ึ เพือ่ สงั เกตพฤตกิ รรมระหวา่ งเรียน ของนักเรียนและประเมนิ ผลการทางานโดยครูเป็นผ้ปู ระเมนิ ลงช่อื ....................................... ผู้ประเมิน ( ............................................................. ) วนั ที่ ......... เดอื น .................... พ.ศ. .............. เกณฑก์ ารประเมนิ / ระดับคณุ ภาพ 9 – 10 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 7 – 8 คะแนน หมายถึง ดี 4 – 6 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 – 3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน การปฏิบัติกิจกรรม 10 การพฒั นาทักษะชีวติ ดา้ นการตระหนักรู้และเหน็ คุณคา่ ในตนเองและผูอ้ นื่ กจิ กรรมท่ี 1 เรื่อง รจู้ กั ตัวตน รากฐานชวี ติ รายการประเมนิ 1. มีความรว่ มมือในการทางาน 2 คะแนน นักเรียนทางานที่รับมอบหมายสาเรจ็ เรียบรอ้ ย และทันเวลาท่ีกาหนด 1 คะแนน นกั เรยี นทางานทีร่ ับมอบหมายสาเรจ็ แต่ไมเ่ รยี บรอ้ ย และทันเวลาที่กาหนด 0 คะแนน นักเรียนทางานทีร่ บั มอบหมายไม่สาเร็จ แต่ไมเ่ รยี บรอ้ ย และไมท่ ันเวลาท่กี าหนด 2. ความตัง้ ใจทางานท่ีไดร้ ับมอบหมาย 2 คะแนน นักเรียนทางานท่รี บั มอบหมายด้วยความตัง้ ใจและมีสมาธิ 1 คะแนน นกั เรียนทางานที่รบั มอบหมายด้วยความต้งั ใจและมสี มาธเิ พียงชวั่ คราว 0 คะแนน นกั เรยี นไมท่ างานทรี่ ับมอบหมายและไม่มีสมาธใิ นการทางาน 3. การแสดงความคิดเหน็ ในกลมุ่ 2 คะแนน นกั เรียนร่วมแสดงความคิดเห็นในกลุ่มทุกครัง้ อย่างกระตือรอื รน้ 1 คะแนน นักเรียนรว่ มแสดงความคดิ เหน็ ในกลมุ่ เพียงบางครงั้ 0 คะแนน นักเรยี นไม่รว่ มแสดงความคดิ เห็นในกลมุ่ เลย 4. ตงั้ ใจศกึ ษากรณีศกึ ษา / ละคร 2 คะแนน นกั เรียนมสี มาธแิ ละตั้งใจในการศึกษากจิ กรรมกรณีศึกษา/ละครท่ีแสดงอย่าง จรงิ จัง 1 คะแนน นกั เรียนมสี มาธิศกึ ษากิจกรรมกรณีศกึ ษา/ละครที่แสดงเพยี งชั่วคราว 0 คะแนน นกั เรียนไมส่ นใจศึกษากจิ กรรมกรณีศกึ ษา/ละครท่แี สดงเลย 5. ความสอดคล้องของผลการอภปิ ราย 2 คะแนน ผลการอภิปรายสอดสอดคล้องกับประเดน็ ทก่ี าหนด 1 คะแนน ผลการอภิปรายสอดสอดคล้องกบั ประเด็นทีก่ าหนดบางสว่ น 0 คะแนน ผลการอภปิ รายสอดไม่สอดคลอ้ งกบั ประเด็นที่กาหนด การตดั สนิ ผลรวม คะแนนเต็ม 10 คะแนน 1. ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน คอื มีระดบั การประเมิน อย่ใู นระดบั คณุ ภาพดแี ละดมี าก 2. นกั เรยี นท่ไี มผ่ ่านการประเมนิ คอื มีระดับการประเมิน อยู่ในระดับพอใชแ้ ละปรับปรุง เกณฑ์การประเมิน / ระดับคุณภาพ 9 – 10 คะแนน หมายถึง ดีมาก 7 – 8 คะแนน หมายถึง ดี 4 – 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 – 3 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ
กิจกรรมท่ี เหน็ ใจ ใส่ใจกนั และกัน
ชุดกิจกรรมพฒั นาทกั ษะชีวติ 12 ดา้ นการตระหนักร้แู ละเหน็ คุณคา่ ในตนเองและผู้อื่น กิจกรรมที่ 2 เร่อื ง เหน็ ใจ ใสใ่ จกนั และกัน แนวคิด การอยู่รว่ มกันในสงั คมน้นั ถ้าทุกคนมคี วามสามารถในการรบั รู้และเข้าใจ ความรู้สึกนกึ คดิ ของผู้อ่ืน มีความเหน็ ใจผอู้ นื่ และแสดงพฤติกรรมตอ่ ผอู้ ืน่ อยา่ งเหมาะสม สังคมกจ็ ะสงบสุข ปัญหา ต่าง ๆ ทีเ่ กดิ ข้ึนก็ลดนอ้ ยลง วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่อื ใหน้ ักเรียนสามารถรับรู้อารมณ์และความร้สู ึกของผู้อนื่ 2. เพ่ือให้นักเรียนรูจ้ กั การทางานร่วมกับผอู้ ื่น ใสใ่ จในความร้สู ึกของกันและกนั กจิ กรรม 1. กจิ กรรม “บอดใบ้” 2. กจิ กรรม “สอ่ื สารหัวใจ” เวลา 60 นาที สื่อ / อุปกรณ์ 1. ผ้าผูกตา หรือ กระดาษทชิ ชปู ิดตาและใชร้ บิ บนิ้ ผูกทบั ได้ 2. กระดาษแข็งตัดเป็นสีเ่ หล่ียมจัตุรสั ขนาด 5 นิ้ว x 5 นวิ้ เท่ากบั จานวนนักเรยี นเพื่อให้ นักเรียนตัดเป็นรปู หวั ใจ 3. กรรไกร กระดาษกาวแบบ 2 หนา้ 4. เพลง กาลังใจ วิธดี าเนนิ การ กิจกรรม “บอดใบ้” ข้ันนา 1. ครูให้นักเรยี นนัง่ หลับตา พรอ้ มทง้ั ครเู ปดิ เพลง “กาลังใจ” ให้นักเรียนฟังเมอ่ื เพลงจบ ครแู ละนักเรยี นสนทนาเกย่ี วกบั การอยู่ร่วมกนั ในสังคม ทกุ คนต้องพง่ึ พาอาศัยซึ่งกันและกัน เรยี นรู้ เข้าใจ เห็นใจ ไวว้ างใจและให้กาลงั ใจกัน เมื่อพบกับปัญหาและความทุกข์ กจ็ ะสามารถแก้ไขได้และอยูร่ ว่ มกนั ไดอ้ ยา่ งมีความสุข
13 ขัน้ ดาเนนิ การ 2. ใหน้ ักเรยี นแบ่งเป็น 2 กลุ่ม เป็นกลมุ่ ทีเ่ กดิ วันท่ีท่ีเป็นเลขคแู่ ละเลขค่ี จากนนั้ ให้ นักเรยี นจับคกู่ ันระหว่างกลุ่ม ถ้าใครเหลอื เศษใหจ้ ับคู่กบั คนทีเ่ หลอื เชน่ กัน 3. นกั เรยี นแตล่ ะคทู่ ากิจกรรม “บอดใบ้” โดยคนใดคนหนึ่งเป็นคนตาบอดนาผา้ มาผกู ตา สว่ นอีกคนเปน็ คนนาทาง ใหน้ กั เรียนคนทีไ่ มผ่ กู ตาจงู มือนกั เรียนท่ผี ูกตาเป็นคนตาบอดเดินไปมา ในบรเิ วณห้อง ครเู ปดิ เพลงประกอบ ถา้ เพลงชา้ ก็เดินชา้ และเพลงเรว็ ก็เดนิ เร็ว โดยแตล่ ะคู่ ห้ามเดินชนกนั (ประมาณ 3 นาท)ี แล้วนาเพ่ือนกลับมานั่งทเี่ ดมิ 4. ผลัดเปลยี่ นบทบาทกนั ทากิจกรรมนี้ 5. เมอื่ นกั เรยี นทากจิ กรรมนี้ครบทุกคน แลว้ ใหน้ ักเรยี นร่วมกันบอกความรสู้ กึ ของตนเอง ท่ีเป็นคนตาบอดและความรสู้ ึกของคนทเ่ี ปน็ คนจูงมือนาทาง โดยตวั แทนนกั เรียนมาเขียน ความรสู้ ึกทัง้ หมดบนกระดาน กิจกรรม “ส่ือสารหัวใจ” ขน้ั นา 1. ครใู ห้นักเรยี นนัง่ หลับตา ยอ้ นนึกถึงอดตี คดิ ถงึ คนทเี่ ราประทับใจวา่ บคุ คลนัน้ มีความดีอะไร ถ้าสังคมมคี นเชน่ นจี้ ะเป็นอยา่ งไร และนกั เรียนอยากบอกอะไรกบั บุคคลน้นั ข้นั ดาเนินการ 2. ครแู จกกระดาษให้นกั เรยี นพรอ้ มทัง้ กรรไกรให้นกั เรยี นตัดกระดาษเป็นรูปหัวใจ เพอ่ื นามาใชบ้ อกความรู้สกึ จากใจของนักเรียน 3. นกั เรียนเขยี นความรสู้ ึกท่มี ตี ่อบุคคลท่นี กั เรียนคดิ ถงึ นี้ เช่น อยากจะกลา่ วคายกย่อง กล่าวคาขอโทษ ปลอบใจ ใหก้ าลงั ใจ หรือ ความภาคภมู ใิ จทม่ี ตี ่อตวั ตนของคน ๆ นน้ั ลงในกระดาษรปู หัวใจทนี่ ักเรยี นตัดพรอ้ มท้งั ตกแต่งระบายสีใหส้ วยงาม 4. นักเรยี นนารูปหัวใจของนกั เรียนมาตดิ บอร์ดหนา้ ชน้ั เรียน เพือ่ ให้เพอื่ นรว่ มรับรู้ ในความรสู้ กึ ของกันและกัน 5. นกั เรยี นนารปู หัวใจที่นักเรยี นเขยี นไปมอบใหแ้ กบ่ ุคคลท่ีนกั เรยี นเขยี นถึงและครูเปดิ เพลง “กาลังใจ” ให้นักเรยี นร้องรว่ มกนั ขน้ั สรปุ โดยการใช้คาถาม R-C-A 6. ครูใชค้ าถามสนทนากับนกั เรยี นเพือ่ ใหน้ กั เรียนแสดงความคดิ เห็นเพ่ือหาข้อสรุป คาถามเพ่อื การสะทอ้ น (R) 1. เม่ือนกั เรยี นทากิจกรรม บอดใบ้ และกจิ กรรม สอ่ื สารหัวใจ นกั เรยี นรู้สกึ อย่างไร 2. ความรู้สึกน้นั สง่ ผลต่อการแสดงพฤตกิ รรมของนักเรียนอย่างไร
14 คาถามเพือ่ การเชอ่ื มโยง (C) 1. เมอื่ นักเรียนเจอปญั หาในการเรยี นหรอื การทางาน นกั เรยี นได้รับ การชว่ ยเหลือจากใครและนักเรยี นเคยชว่ ยเหลอื เพอื่ นในเรื่องเพื่อนประสบ ปญั หาหรอื ไม่ 2. เมือ่ นกั เรียนไดช้ ่วยเหลอื เพอ่ื นแล้วนกั เรยี นรสู้ ึกอย่างไร หรือเมอ่ื เพื่อนชว่ ยเหลือนักเรียนเวลาเจอปญั หาแลว้ นักเรยี นรสู้ ึกอยา่ งไร คาถามเพ่ือการปรับใช้(A) ถ้านักเรียนรู้ว่าตนเองมีขอ้ ดขี ้อเสียอยา่ งไร นักเรยี นคดิ วา่ จะพฒั นา หรอื ปรับปรุงพฤตกิ รรมอะไรในตนเองบ้าง แล้วจะมวี ธิ ีการอย่างไร 7. นักเรียนร่วมกันสรปุ ขอ้ คิดที่ได้จากการทากจิ กรรมโดยครูตอ้ งใช้คาถามนากระตุ้น การคิดนาไปสูแ่ งค่ ิดการดาเนนิ ชีวิต ไดแ้ ก่ ความไวว้ างใจ ความมนี ้าใจชว่ ยเหลือผทู้ ี่ตกทุกขไ์ ดย้ าก การดแู ลซงึ่ กนั และกนั การเรียนรรู้ ่วมกันและการเสยี สละ การประเมนิ ผล 1. วธิ ีการวดั และประเมินผล 1.1 การสังเกต - การร่วมกจิ กรรม - การแสดงความคดิ เหน็ 1.2 ตรวจผลงาน 2. เครื่องมอื วัดและประเมนิ ผล - แบบประเมินการปฏิบตั กิ จิ กรรม เรือ่ ง เหน็ ใจ ใสใ่ จกันและกัน
แบบประเมินการปฏิบตั ิกิจกรรม การพฒั นาทักษะชีวติ 15 ดา้ นการตระหนกั รู้และเห็นคุณคา่ ในตนเองและผู้อน่ื กจิ กรรมที่ 2 เรอ่ื ง เหน็ ใจ ใสใ่ จกันและกัน คาช้แี จง : แบบประเมนิ การปฏบิ ตั ิกิจกรรมฉบับน้ี สรา้ งขนึ้ เพ่ือสังเกตพฤติกรรมระหว่างเรียน ของนกั เรียนและประเมินผลการทางานโดยครเู ป็นผู้ประเมนิ ลงชื่อ ....................................... ผปู้ ระเมิน ( ............................................................. ) วันท่ี ......... เดือน .................... พ.ศ. .............. เกณฑ์การประเมนิ / ระดบั คุณภาพ 9 – 10 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 7 – 8 คะแนน หมายถงึ ดี 4 – 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 – 3 คะแนน หมายถงึ ปรับปรงุ
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน การปฏบิ ัติกิจกรรม 16 การพฒั นาทักษะชวี ติ ด้านการตระหนักรู้ และเห็นคุณค่าในตนเองและผอู้ นื่ กิจกรรมที่ 2 เรื่อง เห็นใจ ใสใ่ จกันและกัน รายการประเมิน 1. ความรว่ มมอื ในการทากิจกรรมที่ 1 2 คะแนน นกั เรียนทางานทีร่ ับมอบหมายสาเร็จ และมคี วามกระตือรือร้นในการทากจิ กรรม 1 คะแนน นกั เรียนทางานทร่ี บั มอบหมายสาเรจ็ แต่ไมก่ ระตือรอื รน้ ในการทากิจกรรม 0 คะแนน นกั เรียนทางานทร่ี บั มอบหมายไมส่ าเรจ็ แต่ไม่กระตอื รอื ร้นในการทากจิ กรรม 2. ความต้งั ใจทางานท่ไี ด้รบั มอบหมาย 2 คะแนน นกั เรียนทางานที่รบั มอบหมายด้วยความตั้งใจและมสี มาธิ 1 คะแนน นักเรยี นทางานทร่ี บั มอบหมายด้วยความตั้งใจและมสี มาธิเพยี งชั่วคราว 0 คะแนน นกั เรยี นไม่ทางานทรี่ บั มอบหมายและไมม่ ีสมาธิในการทางาน 3. การแสดงความคดิ เห็นในกลมุ่ 2 คะแนน นกั เรียนรว่ มแสดงความคิดเห็นในกลุ่มชนั้ เรยี นทกุ ครง้ั อย่างกระตือรือร้น 1 คะแนน นกั เรียนรว่ มแสดงความคิดเหน็ ในกล่มุ ช้นั เรียนเพียงบางครัง้ 0 คะแนน นกั เรียนไมร่ ว่ มแสดงความคดิ เหน็ ในกล่มุ ชัน้ เรียนเลย 4. ความรว่ มมอื ในการทากจิ กรรมที่ 2 2 คะแนน นักเรียนทางานทีร่ บั มอบหมายสาเรจ็ และมคี วามกระตือรือรน้ ในการทากิจกรรม 1 คะแนน นักเรียนทางานที่รบั มอบหมายสาเรจ็ แต่ไมก่ ระตือรือร้นในการทากจิ กรรม 0 คะแนน นกั เรียนทางานทร่ี ับมอบหมายไม่สาเร็จ แตไ่ ม่กระตือรือรน้ ในการทากิจกรรม 5.ความสอดคลอ้ งของผลการบนั ทึกสรุป 2 คะแนน เนื้อหาถูกตอ้ งครบถ้วนสอดคล้องกับประเด็นทีก่ าหนด 1 คะแนน เนอ้ื หาถกู ต้อง ไมค่ รบถ้วน แต่สอดคลอ้ งกบั ประเดน็ ที่กาหนดบางสว่ น 0 คะแนน เนื้อหาไม่ถูกต้อง ไม่ตรงประเด็นและไมส่ อดคล้องกับประเด็นทก่ี าหนด การตัดสินผลรวม คะแนนเตม็ 10 คะแนน 1. ผ่านเกณฑ์การประเมนิ คอื มีระดับการประเมิน อยูใ่ นระดับคุณภาพดีและดมี าก 2. นกั เรียนทีไ่ ม่ผา่ นการประเมิน คอื มรี ะดบั การประเมิน อยใู่ นระดับพอใชแ้ ละปรบั ปรุง เกณฑก์ ารประเมิน / ระดบั คุณภาพ 9 – 10 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 7 – 8 คะแนน หมายถึง ดี 4 – 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 – 3 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง
กจิ กรรมที่ ตวั เราน่แี หละเก่ง
ชดุ กจิ กรรมพฒั นาทกั ษะชีวติ 18 ด้านการตระหนักรูแ้ ละเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อนื่ กิจกรรมท่ี 3 เรือ่ ง ตัวเรานแ่ี หละเกง่ แนวคดิ ความภูมใิ จในตนเองเป็นเสมือนแรงบนั ดาลชว่ ยให้ความปรารถนาใด ๆ บรรลจุ ุดหมาย ปลายทางตามท่ีพงึ ประสงคข์ ณะเดยี วกันเมื่อบคุ คลที่มีความภมู ิใจในตัวเองกจ็ ะมคี วามนับถือ ตนเอง พึงพอใจกับตนเอง และภาคภมู ิใจตอ่ ตนเอง ซึง่ ความภูมิใจในตนเองจะเกดิ ขน้ึ เม่ือบคุ คล มคี วามรสู้ กึ ทดี่ ตี อ่ ตนเองก่อนเป็นอันดับแรก วัตถุประสงค์ เพอ่ื ใหน้ ักเรียนมีร้สู ึกดตี อ่ ตนเองและภาคภูมิใจในความสามารถของตนเอง กจิ กรรม ความพิเศษในตัวตน เวลา 60 นาที สอื่ / อุปกรณ์ 1. ใบกิจกรรม เรื่อง ความพเิ ศษในตัวตน 2. คลิป VDO เด็กชายหัวใจแกรง่ : น้องทาม ด.ช.วรรธนะ คาอินทร์ 3. ป้ายนิเทศ วธิ ีดาเนินการ ขั้นนา 1. ครูสนทนากบั นกั เรยี นเกยี่ วกับคุณค่าของแตล่ ะบคุ คลวา่ อยู่ทตี่ รงไหน แล้วตัวของนักเรียนมีความภูมใิ จในตนเองในเร่อื งอะไรบ้าง ขัน้ ดาเนนิ การ 2. ครเู ปดิ คลิป VDO ความสามารถพิเศษของคนพิการ เด็กชายหัวใจแกรง่ : นอ้ งทาม ด.ช.วรรธนะ คาอินทร์ ให้นักเรยี นดูแลว้ รว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ ว่าสง่ิ ท่ีนกั เรยี นไดร้ บั จากการชม คลปิ VDO ความสามารถพิเศษของคนพิการคอื อะไรบา้ งโดยใหน้ ักเรยี นตวั แทนเขียนข้อคดิ เห็น ของเพ่อื นบนกระดาน
19 3. ครใู ชค้ าถามกระตุน้ การคดิ ว่า “การท่บี ุคคลจะประสบความสาเรจ็ ในชีวติ ไดส้ ิ่งสาคัญ ทส่ี ดุ คืออะไร” (แตล่ ะบุคคลต้องเหน็ คณุ คา่ ของตนเอง มีความรสู้ กึ ทางบวกต่อตนเอง รูว้ ่าตนเอง มคี วามสามารถและพยายามพัฒนาตนเองตามศักยภาพท่มี ีอยูเ่ พื่อให้บรรลุเปา้ หมายทก่ี าหนดไว้) 4. ให้นักเรียนนงั่ หลบั ตา ทาสมาธเิ พือ่ นึกถึงความพิเศษของตนเองในทางบวก และแนวทางการพัฒนาตนเองให้บรรลเุ ปา้ หมายในชวี ิต แลว้ นักเรียนแต่ละคนทาใบกจิ กรรม เรือ่ ง “ความพเิ ศษในตัวตน” 5. นักเรยี นนาใบกิจกรรมของตนเองตดิ แสดงท่ีปา้ ยนิเทศ เพื่อแลกเปลย่ี นให้เพื่อนทราบ ความพเิ ศษในตวั ตนของแต่ละคน ข้ันสรปุ โดยการใช้คาถาม R-C-A 6. ครูใช้คาถามสนทนากบั นักเรียนเพอ่ื ใหน้ กั เรียนแสดงความคิดเหน็ เพ่ือหาข้อสรุป คาถามเพอื่ การสะท้อน (R) เมอ่ื นักเรียนชมคลิป VDO ความสามารถพิเศษของคนพกิ าร เดก็ ชายหวั ใจแกรง่ : นอ้ งทาม ด.ช.วรรธนะ คาอินทรแ์ ลว้ นักเรยี นรู้สึกอย่างไร คาถามเพื่อการเช่ือมโยง (C) นักเรียนคดิ ว่าตนเองไดข้ ้อคิดจากอะไรจากเรอื่ งราวชีวติ ของน้องทาม แลว้ นกั เรยี นคดิ ว่าตวั ตนของนักเรียนมอี ะไรท่นี กั เรียนภูมใิ จที่สุด คาถามเพ่อื การปรบั ใช้(A) จากสิง่ ท่นี กั เรยี นคดิ วา่ ภูมใิ นทีส่ ุดของตนเอง นักเรยี นจะพัฒนาสิง่ นัน้ ใหด้ ยี ่งิ ข้ึนไดอ้ ย่างไร 7. ครแู ละนักเรียนทกุ กล่มุ ร่วมกนั อภิปรายสรปุ เก่ยี วกับความพิเศษของตนเองวา่ แตล่ ะบคุ คลมีความสามารถต่างกันและการที่จะประสบความสาเรจ็ ในชวี ิตได้ทกุ คนต้อง มีความภาคภูมิใจในความสามารถท่ีตนเองมีอยูแ่ ละต้องพยายามพัฒนาความสามารถนนั้ ให้ดที ่สี ดุ เพื่อความสาเร็จในชวี ิต การประเมนิ ผล 1. วธิ กี ารวัดและประเมนิ ผล 1.1. การสังเกต - การร่วมกจิ กรรม - การแสดงความคดิ เห็น 1.2. ตรวจผลงาน - ตรวจใบกจิ กรรม 2. เคร่อื งมอื วัดและประเมนิ ผล - แบบประเมินการปฏิบตั ิกิจกรรม เรื่อง ตัวเรานี่แหละเก่ง
ใบกิจกรรม เรอ่ื ง ความสามารถพิเศษในตวั ตน 20 คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนบรรยายความพเิ ศษของตัวนักเรยี นในดา้ นลักษณะนสิ ยั ทด่ี หี รอื ความสามารถพเิ ศษของตนเองในแต่ละประเด็นต่อไปนี้ 1. ดา้ นการเรยี น .................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... 2. ด้านการทางานและการอยรู่ ว่ มกบั ผู้อ่ืนในสงั คม ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... 3. ดา้ นกีฬาและกจิ กรรมทีเ่ กีย่ วข้องกับโรงเรียน ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... 4. ดา้ นกิจกรรมอืน่ ๆ ท่เี กีย่ วข้องกบั ชมุ ชนหรอื สงั คม .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ชือ่ .................................................................................................ชนั้ ......................เลขท.ี่ ..................
แบบประเมินการปฏิบัติกจิ กรรม การพัฒนาทักษะชวี ิต 21 ดา้ นการตระหนกั รู้และเหน็ คุณคา่ ในตนเองและผู้อน่ื กิจกรรมท่ี 3 เร่อื ง ตัวเราน่แี หละเก่ง คาชีแ้ จง : แบบประเมนิ การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมฉบบั น้ี สร้างข้นึ เพ่อื สงั เกตพฤตกิ รรมระหวา่ งเรยี น ของนักเรียนและประเมนิ ผลการทางานโดยครูเป็นผปู้ ระเมิน ลงชือ่ ....................................... ผู้ประเมนิ ( ............................................................. ) วนั ท่ี ......... เดือน .................... พ.ศ. .............. เกณฑ์การประเมิน / ระดับคณุ ภาพ 9 – 10 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 7 – 8 คะแนน หมายถงึ ดี 4 – 6 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 – 3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ
เกณฑ์การให้คะแนน การปฏิบตั ิกิจกรรม 22 การพฒั นาทักษะชวี ติ ด้านการตระหนกั รู้และเห็นคุณค่า ในตนเองและผ้อู น่ื กจิ กรรมที่ 3 เร่อื ง ตัวเรานแ่ี หละเกง่ รายการประเมิน 1. มีความร่วมมือในการทางาน 2 คะแนน นกั เรยี นทางานทร่ี บั มอบหมายสาเรจ็ เรียบรอ้ ย และทนั เวลาทกี่ าหนด 1 คะแนน นักเรียนทางานท่รี บั มอบหมายสาเรจ็ แตไ่ ม่เรยี บรอ้ ย และทันเวลาที่กาหนด 0 คะแนน นกั เรียนทางานทีร่ ับมอบหมายไมส่ าเร็จ แต่ไม่เรียบรอ้ ย และไมท่ ันเวลาทกี่ าหนด 2. ความตั้งใจทางานท่ีไดร้ ับมอบหมาย 2 คะแนน นกั เรยี นทางานทีร่ บั มอบหมายด้วยความตง้ั ใจและมสี มาธิ 1 คะแนน นักเรยี นทางานที่รับมอบหมายด้วยความตั้งใจและมสี มาธเิ พียงชั่วคราว 0 คะแนน นักเรยี นไมท่ างานทีร่ บั มอบหมายและไม่มีสมาธิในการทางาน 3. การแสดงความคิดเหน็ ในกลุ่ม 2 คะแนน นักเรยี นรว่ มแสดงความคดิ เห็นในกลุ่มทกุ คร้ังอย่างกระตือรอื ร้น 1 คะแนน นักเรียนร่วมแสดงความคดิ เห็นในกลุ่มเพียงบางคร้ัง 0 คะแนน นกั เรียนไมร่ ่วมแสดงความคิดเหน็ ในกลุ่มเลย 4. ตงั้ ใจศกึ ษากรณีศกึ ษา 2 คะแนน นกั เรยี นมีสมาธิและต้งั ใจในการศกึ ษาคลปิ VDO ทกี่ าหนดอยา่ งจรงิ จงั 1 คะแนน นักเรียนมสี มาธิศึกษาคลปิ VDO ที่กาหนดเพียงชัว่ คราว 0 คะแนน นกั เรยี นไม่สนใจศึกษาคลิป VDO ที่กาหนดเลย 5 ความสมบรู ณข์ องผลงาน 2 คะแนน เนอ้ื หาถูกตอ้ ง เรียบร้อย ครบถว้ นทุกประเดน็ ที่กาหนด 1 คะแนน เนอื้ หาถกู ต้อง ไม่เรยี บร้อย ตรงกับประเดน็ ท่กี าหนดบางส่วน 0 คะแนน เนื้อหาไม่ถกู ต้อง ไมเ่ รยี บร้อยและไม่ตรงประเด็นท่กี าหนด การตดั สนิ ผลรวม คะแนนเต็ม 10 คะแนน 1. ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ คือ มีระดับการประเมนิ อยูใ่ นระดับคุณภาพดีและดมี าก 2. นกั เรียนทีไ่ ม่ผา่ นการประเมิน คอื มรี ะดับการประเมนิ อยู่ในระดับพอใช้และปรบั ปรุง เกณฑ์การประเมนิ / ระดบั คณุ ภาพ 9 – 10 คะแนน หมายถึง ดมี าก 7 – 8 คะแนน หมายถึง ดี 4 – 6 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 – 3 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรุง
กิจกรรมท่ี พึงพอใจในตนเอง
ชดุ กจิ กรรมพฒั นาทกั ษะชีวิต 24 ด้านการตระหนักรแู้ ละเห็นคณุ คา่ ในตนเองและผู้อน่ื กิจกรรมท่ี 4 เรื่อง พึงพอใจในตนเอง แนวคดิ การมคี วามรสู้ ึกที่ดตี ่อตนเอง ร้สู ึกรักและเหน็ คณุ ค่าของตนเอง มคี วามพอใจในตนเอง เปน็ พลังหนงึ่ ทีจ่ ะสรา้ งความมน่ั คงทางอารมณแ์ ละจติ ใจให้แกต่ นเอง ซึง่ เปน็ หนทาง นาไปสคู่ วามสาเรจ็ ในชีวติ ดงั น้ัน จึงจาเป็นอย่างยิ่งทตี่ ้องสารวจความสามารถทีต่ นเองมีอยู่ และตัง้ เป้าหมายให้สอดคลอ้ งกับความสามารถของตนเอง เพื่อนาไปสูก่ ารพฒั นาตนเอง ไปสูค่ วามสาเรจ็ ในชวี ิตได้ วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพือ่ ใหน้ กั เรียนร้สู ึกพอใจในตนเอง เกิดความภาคภูมใิ จในตนเอง 2. เพอื่ ให้นักเรียนรูจ้ ักการตั้งเป้าหมายในชวี ติ และใชค้ วามสามารถตนเองทางาน ให้บรรลผุ ลสาเร็จ กจิ กรรม 1. บทความ “ฉนั คอื เพือ่ นที่ดีทส่ี ุดของฉนั ” 2. “สู่เส้นชยั ไม่ไกลเกนิ ฝัน” เวลา 60 นาที สอ่ื / อปุ กรณ์ 1. บทความ “ฉันคอื เพือ่ นท่ดี ีทส่ี ดุ ของฉนั ” 2. ใบกิจกรรม เร่อื ง “สูเ่ ส้นชยั ไมไ่ กลเกินฝนั ” 3. คลิปวดิ โี อ “แม่ต้อย”(โฆษณาของบริษัทเมอื งไทยประกันชวี ิต) 4. ใบความรู้ เรือ่ ง ความพึงพอใจในตนเอง วิธีดาเนินการ ขัน้ นา 1. ครจู ดั บรรยากาศใหน้ ักเรียนนงั่ เป็นวงกลม ให้เงียบสงบสบาย ๆ เป็นสมาธหิ ายใจเขา้ ช้า ๆ ลึกๆ หลับตาและใหน้ ักเรยี นต้งั ใจฟงั บทความ
25 ขน้ั ดาเนนิ การ 2. ครูอ่านบทความ “ฉนั คอื เพือ่ นทดี่ ีท่สี ุดของฉัน” เมอ่ื เสรจ็ แล้วใหน้ กั เรียนคอ่ ย ๆ ลืมตาขึน้ 3. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายกลุ่มใหญ่ โดยใช้คาถาม - นักเรียนรู้สึกอยา่ งไรหลังจากฟังบทความแล้ว - นกั เรยี นได้ข้อคดิ อะไรบา้ งจากบทความ 4. ครูช่วยรวบรวมคาตอบและใหน้ กั เรียนรว่ มกันสรปุ ถงึ ประโยชนท์ ไ่ี ด้จากกิจกรรมนี้ ครูสรุปเพมิ่ เติม ดงั นี้ - การทเ่ี ราได้พดู ถึงความรูส้ กึ ที่ดีของตนเอง จะชว่ ยให้นกั เรียนหันมามองตนเอง และเกิดความภาคภมู ิใจในตนเอง มคี วามรักในตนเองและสามารถสร้างสรรคส์ ิ่งทีด่ เี พือ่ ตนเอง และผู้อื่นต่อไปได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ 5. ครูกาหนดสถานการณ์ตามใบกจิ กรรม เรื่อง “สเู่ สน้ ชยั ไม่ไกลเกนิ ฝัน” 6. ให้นักเรยี นในชน้ั เรยี นเสนอรายชื่อเพือ่ นท่ีนกั เรยี นอยากฟังเร่ืองราวเกยี่ วกบั การกาหนด เปา้ หมายในชวี ติ ตนเองจากใบกิจกรรม เรื่อง “สเู่ ส้นชยั ไม่ไกลเกนิ ฝนั ” จานวน 3 คน แลว้ ใหเ้ พอื่ น ทีถ่ กู เสนอรายช่อื ออกมาเสนอแนวคิดตนเองจากใบกิจกรรมให้เพื่อนฟงั หนา้ ชน้ั เรยี น 7. ครแู ละนกั เรียนรว่ มอภปิ ราย เก่ียวกบั แนวการปฏบิ ัตติ นเพ่ือใหป้ ระสบความสาเรจ็ ในชีวิต ข้ันสรปุ โดยการใชค้ าถาม R-C-A 8. ครแู ละนักเรยี นดคู ลิปวดี ิโอ “แม่ตอ้ ย” ครูใชค้ าถามสนทนากบั นกั เรียนเพอ่ื ใหน้ ักเรยี น แสดงความคิดเหน็ เพื่อหาข้อสรุป คาถามเพอ่ื การสะท้อน (R) เม่ือนักเรียนชมคลปิ VDO “แม่ต้อย” แล้วนกั เรียนรสู้ ึกอยา่ งไร คาถามเพอ่ื การเชื่อมโยง (C) นกั เรยี นคิดว่าตนเองได้ข้อคดิ จากอะไรจากเรือ่ งราวชีวติ แม่ต้อย แลว้ นักเรียนคิดวา่ ตวั ตนของนกั เรียนมคี วามสามารถใดที่คิดว่าจะพฒั นาต่อยอดได้ คาถามเพอ่ื การปรบั ใช้(A) จากความสามารถและคุณค่าในตวั นักเรียนที่นกั เรยี นคน้ พบ นกั เรยี นสามารถนามาสรา้ งสรรคใ์ หเ้ กิดประโยชนแ์ ก่ตนเองและผู้อนื่ ได้อย่างไร 9. นักเรยี นทาแบบวัดทักษะชวี ิต องค์ประกอบที่ 1 : ด้านการตระหนักร้แู ละเหน็ คุณค่า ในตนเองและผอู้ ่นื หลงั การปฏิบัติกจิ กรรม จานวน 10 ขอ้ เวลา 15 นาที
26 การประเมินผล 1. วิธีการวดั และประเมินผล 1.1. การสังเกต - การรว่ มกจิ กรรม - การแสดงความคดิ เห็น 1.2. ตรวจผลงาน - ใบกิจกรรม 2. เคร่ืองมือวัดและประเมนิ ผล - แบบประเมินการปฏบิ ตั ิกิจกรรม เรอ่ื ง ความพงึ พอใจในตนเอง - แบบวดั ทกั ษะชวี ิตหลงั การปฏบิ ตั กิ จิ กรรม : ดา้ นการตระหนักรู้ และเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อ่ืน
บทความ 27 เรอ่ื ง ฉนั คือเพอ่ื นทีด่ ที ่ีสุดของตวั เอง ชวี ิตใหม่ของฉันเริ่มต้งั แต่วันน้ี ฉันจะเริม่ ตน้ ชวี ติ ใหม่ด้วยความรู้สกึ ทดี่ ตี ่อตนเอง ฉันรักตนเอง รักทกุ สงิ่ ทกุ อย่างทีป่ ระกอบตัวฉนั อารมณค์ วามรู้สึก อวยั วะทุกสว่ นในรา่ งกายของฉัน ฉันรู้สึกไดถ้ งึ ความรกั ความเมตตาทยี่ ง่ิ ใหญท่ อี่ ยู่ภายในจติ ใจลกึ ๆ ของฉนั และของทุก ๆ คน หายใจเข้า เอาพลังแหง่ ความรกั ความเมตตาเข้ามาใจตวั เรา หายใจออกแผค่ วามรกั ความ เมตตาใหก้ บั ตนเอง ใหก้ บั คนรอบ ๆ ข้างทกุ ๆ คน พลงั แห่งความรกั ความเมตตาทาให้ฉันรสู้ กึ มั่นใจ ในตนเอง เหน็ ว่าตนเองมีคุณคา่ มคี วามสาคัญและเมื่อฉนั มคี วามรักให้กบั ตนเองฉนั ได้รู้สกึ ถึงความรกั ทฉ่ี นั ให้กับผู้อน่ื พลังแหง่ ความรักความเมตตา ทาให้ฉนั มีความสขุ และอยากแบง่ ปันความสขุ น้ี ใหก้ ับทกุ คน ฉันอยากทาใหท้ ุกคนในโลกน้ีมคี วามสุข และอยากมสี ว่ นร่วมทาให้โลกของเราเป็นโลกท่ี นา่ อยู่ขนึ้ เม่ือฉนั มีความรกั ใหก้ บั ตนเอง ฉันมีความสุขมากขน้ึ ทกุ วัน และฉนั อยากแบง่ ปันความสขุ น้ี ให้กับทุกคน ฉนั รู้แลว้ ว่าโลกน้ี ไม่มีใครอีกแล้วทเ่ี หมือนกัน และทาหนา้ ท่ีแทนฉันไดอ้ ย่างแทจ้ ริง ฉันคอื ฉนั เธอคือเธอ ทกุ คนมคี วามแตกตา่ งกนั ฉนั เริม่ รูส้ ึกถึงความรู้สึกดี ๆ ที่มตี ่อตนเอง และเรม่ิ ขจัดความรสู้ กึ ลบต่าง ๆ ออกไปจากจติ ใจ ของฉัน แมว้ ่าฉันจะยังไมเ่ ปน็ คนทีส่ มบรู ณ์แบบในทกุ ๆ ดา้ น และบางทีฉนั อาจจะไมม่ ีวนั ไดค้ นที่ สมบรู ณ์แบบในทกุ ๆ ดา้ นในชีวิตนี้ แตฉ่ นั ก็จะปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้นทกุ วัน ฉันเคยทาส่งิ ทีผ่ ดิ พลาดมา มากมายและในอนาคตฉนั ก็อาจจะทาอะไรผดิ พลาดข้ึนอีก โดยที่ฉนั ไม่ไดต้ ้ังใจ ฉนั จะนาสิง่ ท่ผี ดิ พลาด เหลา่ นมี้ าเป็นบทเรยี นของชวี ติ ท่ที าให้ฉนั เขม้ แข็งข้นึ ปรบั ปรงุ ตัวเองไดร้ วดเร็วขึ้น และชว่ ยเหลือคน รอบขา้ งไดม้ ากขึ้นไมว่ า่ จะมีอะไรเกิดขึ้นในชีวิตของฉัน ฉนั กจ็ ะรักตัวเอง มีความรู้สกึ ทีด่ ีแก่ตัวเอง ฉันอยากเปน็ เพ่ือนทีด่ ที ีส่ ุดของตวั เอง ถ้าฉันไม่มเี พอื่ นท่ีดที ีส่ ุดของตัวเองแล้วใครจะมาเปน็ เพ่ือนทด่ี ี ท่สี ดุ ของฉัน ฉนั รกั ตัวเองมากข้ึนทุกวนั มนั เปน็ ความรู้สกึ เชน่ เดียวกับคนรอบขา้ ง ย่งิ ฉนั มคี วามรกั ใหแ้ กต่ นเองและคนรอบขา้ งมากขน้ึ เทา่ ใด ฉนั กจ็ ะมคี วามสุขย่ิงขนึ้ เทา่ น้ัน ฉนั มีความสขุ มากจริง ๆ ฉนั เร่ิมเห็นความดีงามและความสามารถต่าง ๆ ทีม่ อี ยใู่ นตัวฉัน ฉันยง่ิ ยอ้ นกลบั มาศึกษา ตวั เองมากข้ึนเทา่ ใด ฉนั กพ็ บความสามารถทีซ่ ่อนเรน้ อย่ใู นตวั ฉนั มากข้นึ เท่านัน้ ฉนั แสดงออกถึง ความสามารถตา่ ง ๆ เหลา่ นีม้ ากขน้ึ ฉันพฒั นาความสามารถต่าง ๆ เหล่าน้ีไปพรอ้ ม ๆ กับนา ความสามารถเหล่าน้ีมาช่วยเหลอื ผู้อนื่ เมอื่ ฉนั มองเข้าไปในจติ ใจลกึ ๆ ของฉัน ฉนั ได้เหน็ พลงั แห่ง ความรักความเมตตาที่ซอ่ นอยใู่ นจติ ใจลึก ๆ ของฉนั หายใจเข้าเอาพลงั แห่งความรัก ความเมตตาเขา้ มาในตวั เรา หายใจออกแผ่พลงั แห่งความรัก ความเมตตาให้กบั ตนเองใหม้ ากขน้ึ พลงั นที้ าใหฉ้ ันเข้มแขง็ มคี วามร้สู ึกดา้ นบวกใหก้ ับตนเอง ฉนั พูด คิดและทาสิ่งแตส่ ่งิ ทเี่ ป็นบวกแกต่ นเองและผู้อ่นื ฉันใหอ้ ภัยตนเองและผู้อ่ืน ฉันดใี จทีเ่ กิดมาเป็นตวั ฉัน ตัวฉนั มีค่าและมคี วามสาคัญตอ่ คนอ่นื อกี มากมาย และฉนั จะเปน็ เพือ่ นทด่ี ีทสี่ ุดของตัวฉนั ตลอดไป
ใบกจิ กรรม เรอ่ื ง สู่เสน้ ชยั ไมไ่ กลเกินฝนั 28 คาชีแ้ จง : ใหน้ กั เรียนอ่านสถานการณท์ ก่ี าหนดแลว้ เขยี นแนวคดิ ตามประเดน็ ท่ีกาหนด “ถา้ นกั เรยี นเป็นนักวิ่ง จดุ หมายปลายทางของนักเรียนหรอื เสน้ ชยั ของนักเรียน คือ สิ่งทนี่ ักเรียนตอ้ งการอยากให้ประสบความสาเรจ็ นักเรียนจะมีวธิ กี ารอยา่ งไร เพอ่ื ใหไ้ ปถงึ จุดหมายน้นั และเมือ่ พบกับปัญหาและอปุ สรรค นักเรยี นจะมวี ธิ แี กป้ ัญหาอย่างไร” 1. จดุ หมายปลายทางหรือเส้นชยั ของนักเรยี น คอื อะไร และนกั เรยี นมแี นวปฏบิ ัติ อยา่ งไรใหว้ งิ่ ไปสูเ่ ส้นชยั ของตนเอง ………………………………………………………………………………….……………………………………….…………… ……………………………………..………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……………………..………………………………………………………………………………………………………………… 2. เมอื่ นกั เรยี นพบกับปญั หาและอุปสรรคระหวา่ งท่ีนักเรียนกาลังว่ิงไปสเู่ สน้ ชยั น้ัน นักเรยี นจะมวี ิธกี ารแก้ปัญหาและเอาชนะกบั อปุ สรรคอยา่ งไร ………………………………………………………………………………….…………………………………………………… ……………………………………..………………………………………………………………………………………………… ………..……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………….……………………………………………………………………………………………………………………. ชื่อ.................................................................................................ชนั้ ......................เลขท.่ี ..................
ใบความรู้ 29 ความพึงพอใจในตนเอง คนเราทุกคนมีคุณคา่ ในตนเอง ถา้ หากเราได้มเี วลาทีจ่ ะทาความเขา้ ใจในความคิด ความรู้สกึ ความต้องการและความสามารถของตนเองอยา่ งถ่องแท้แลว้ คนเราสามารถนาคุณคา่ ในตนเองออกมา ใช้ให้เกดิ ประโยชนไ์ ด้ เสน้ ทางทจี่ ะนาไปสคู่ วามสาเร็จในชวี ติ ของแตล่ ะคนนน้ั ย่อมแตกต่างกัน แตท่ ี่คลา้ ยกนั คอื การตระหนักในคณุ คา่ และความสามารถของตนเอง และตัง้ ความหวงั ให้เหมาะสมกับระดบั ความสามารถของตนเองทส่ี ามารถจะทาได้ ซ่งึ สง่ิ ท่ีสาคัญท่สี ดุ คือ การไมล่ ะทง้ิ ความพยายามหรอื ทอ้ ถอย ถึงแมว้ า่ บางครง้ั อาจจะไม่สาเรจ็ ในครั้งแรก ต้องระลึกไว้เสมอวา่ ความพยายามอยู่ท่ไี หน ความสาเรจ็ อยู่ที่นนั่
แบบประเมนิ การปฏิบตั ิกิจกรรม การพัฒนาทกั ษะชีวติ 30 ดา้ นการตระหนกั รู้และเห็นคณุ คา่ ในตนเองและผอู้ นื่ กิจกรรมท่ี 4 เรื่อง พงึ พอใจในตนเอง คาช้ีแจง : แบบประเมนิ การปฏิบตั กิ จิ กรรมฉบบั นี้ สรา้ งขน้ึ เพื่อสงั เกตพฤตกิ รรมระหว่างเรยี น ของนกั เรียนและประเมนิ ผลการทางานโดยครเู ปน็ ผปู้ ระเมนิ ลงชอื่ ....................................... ผูป้ ระเมนิ ( ............................................................. ) วนั ที่ ......... เดือน .................... พ.ศ. .............. เกณฑ์การประเมิน / ระดบั คุณภาพ 9 – 10 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 7 – 8 คะแนน หมายถงึ ดี 4 – 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 – 3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง
เกณฑ์การให้คะแนน การปฏิบตั กิ ิจกรรม 31 การพัฒนาทักษะชวี ติ ดา้ นการตระหนกั รแู้ ละเหน็ คุณค่า ในตนเองและผู้อน่ื กิจกรรมที่ 4 เรื่อง พึงพอใจในตนเอง รายการประเมนิ 1. มีความรว่ มมือในการทากิจกรรม 2 คะแนน นักเรยี นทากิจกรรมทรี่ ับมอบหมายสาเร็จเรียบรอ้ ย และทนั เวลาท่กี าหนด 1 คะแนน นักเรยี นทากิจกรรมท่รี ับมอบหมายสาเร็จ แตไ่ มเ่ รียบร้อย และทนั เวลาท่ีกาหนด 0 คะแนน นักเรยี นทากิจกรรมที่รับมอบหมายไม่สาเรจ็ ไม่เรียบร้อย และไม่ทนั เวลาที่ กาหนด 2. ความตง้ั ใจทางานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 2 คะแนน นักเรยี นทางานทีร่ ับมอบหมายดว้ ยความตัง้ ใจและมีสมาธิ 1 คะแนน นักเรยี นทางานที่รบั มอบหมายด้วยความต้ังใจและมสี มาธิเพียงช่วั คราว 0 คะแนน นกั เรียนไมท่ างานทรี่ ับมอบหมายและไมม่ ีสมาธิในการทางาน 3. การแสดงความคิดเหน็ ในกลมุ่ ชน้ั เรียน 2 คะแนน นักเรียนรว่ มแสดงความคดิ เหน็ ในกล่มุ ชั้นเรยี นทกุ ครั้งอย่างกระตือรือรน้ 1 คะแนน นักเรียนร่วมแสดงความคดิ เห็นในกลมุ่ ช้นั เรยี นเพยี งบางครัง้ 0 คะแนน นักเรียนไมร่ ว่ มแสดงความคิดเหน็ ในกล่มุ ชั้นเรยี นเลย 4. ความสมบรู ณ์ของผลงาน 2 คะแนน เนือ้ หาถกู ต้อง เรยี บร้อย ครบถ้วนทุกประเดน็ ทีก่ าหนด 1 คะแนน เนื้อหาถกู ตอ้ ง ไม่เรยี บร้อย ตรงกับประเดน็ ท่กี าหนดบางสว่ น 0 คะแนน เนอ้ื หาไม่ถูกตอ้ ง ไมเ่ รยี บร้อยและไมต่ รงประเด็นที่กาหนด 5. ความสอดคล้องของผลการอภปิ ราย 2 คะแนน ผลการอภปิ รายสอดคลอ้ งกบั ประเด็นทก่ี าหนด 1 คะแนน ผลการอภิปรายสอดคลอ้ งกบั ประเด็นทีก่ าหนดบางส่วน 0 คะแนน ผลการอภิปรายไม่สอดคล้องกบั ประเดน็ ท่ีกาหนด การตัดสนิ ผลรวม คะแนนเต็ม 10 คะแนน 1. ผา่ นเกณฑ์การประเมิน คอื มีระดบั การประเมิน อยู่ในระดับคณุ ภาพดแี ละดีมาก 2. นักเรียนทีไ่ ม่ผา่ นการประเมิน คือ มีระดบั การประเมิน อยใู่ นระดบั พอใชแ้ ละปรบั ปรุง เกณฑก์ ารประเมนิ / ระดบั คุณภาพ 9 – 10 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 7 – 8 คะแนน หมายถึง ดี 4 – 6 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 – 3 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรุง
แบบวดั ทักษะชีวิตหลังการปฏิบตั กิ ิจกรรม 32 สาหรับนักเรียนระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ดา้ นการตระหนักรู้และเหน็ คณุ คา่ ในตนเองและผู้อน่ื คาช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นอ่านและพิจารณาเลอื กสถานการณท์ ต่ี รงกับความคิดเหน็ ของนักเรยี น แลว้ กากบาทลงในกระดาษคาตอบ 1. แกว้ ทารายงานวชิ าคณติ ศาสตร์เรยี บรอ้ ยแล้ว แต่ไมม่ ั่นใจว่าเนื้อหาครอบคลมุ หรอื ไม่ เธออยากใหป้ ลาซ่งึ เป็นนักเรยี นทเี่ รยี นเกง่ ในวิชาคณติ ศาสตร์ เป็นผตู้ รวจให้ ถ้านักเรยี นเปน็ แกว้ นกั เรยี นจะทาอย่างไร ก. พูดแกมบังคับใหป้ ลาตรวจให้ ข. ไมก่ ลา้ ขอความชว่ ยเหลือจากปลา ค. ขอใหป้ ลาตรวจใหโ้ ดยมสี ิ่งแลกเปล่ยี น ง. ขอรอ้ งให้ปลาตรวจให้เพราะตนเองไม่เก่ง 2. พลอยใจเปน็ นกั เรยี นได้รบั การคัดเลือกให้เป็นตัวแทนของโรงเรียนในการแขง่ ขัน ทกั ษะวิชาการในหลาย ๆ กล่มุ วชิ า ถ้านกั เรยี นเป็นพลอยใจนักเรียนจะทาอยา่ งไร ก. เลือกวิชา ที่ตนเองชอบ ข. เลือกวชิ าที่ชอบครูผู้สอน ค. เลอื กวชิ าทต่ี นเองมีความถนัด ง. เลอื กวชิ าท่มี โี อกาสในการไดร้ ับรางวลั 3. แชมป์และเพอ่ื น ๆ ไดร้ ับมอบหมายจากคณุ ครูใหน้ าเสนอข่าวสารประจาวัน ที่หน้าเสาธงในตอนเช้าทุกวนั แต่แชมปเ์ ปน็ นกั เรยี นท่ีไมค่ อ่ ยกล้าแสดงออก ถ้านกั เรียนเปน็ แชมป์ นักเรยี นจะทาอยา่ งไร ก. ฝกึ ฝนและเตรียมความพร้อมของตนเอง ข. แกล้งปว่ ยในวันที่ตนเองตอ้ งนาเสนอข่าว ค. ใหเ้ พื่อนนาเสนอขา่ วหนา้ เสาธงแทนตนเอง ง. ขอรอ้ งคณุ ครวู า่ ไม่ขอนาเสนอข่าวหน้าเสาธง
33 4. ทางโรงเรียนจดั กิจกรรมวนั รกั ษ์สงิ่ แวดล้อมและมีการประกวดแต่งคาขวัญ พมิ พแ์ ละเพื่อนมคี วามสนใจ ถ้านกั เรียนเป็นพมิ พ์นักเรียนจะทาอย่างไร ก. บอกเพอ่ื นให้แตง่ คาขวญั เข้าประกวด ข. รว่ มกนั กบั เพื่อนชว่ ยกนั แตง่ คาขวัญส่งเขา้ ประกวด ค. แต่งคาขวัญแตไ่ ม่สง่ เขา้ ประกวดเพราะไมม่ นั่ ใจ ง. แต่งคาขวัญด้วยตนเองและส่งเขา้ รว่ มการประกวด 5. แกว้ ตาเป็นนักเรียนใหมท่ ยี่ ้ายเข้ามาเรียนในระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ซงึ่ แกว้ เปน็ เดก็ ที่พูดไมค่ อ่ ยเก่ง แก้วตาจึงไปรบั ประทานอาหารกลางวันคนเดียว ในขณะที่พมิ ลและเพื่อน ๆ กาลงั เลอื กซือ้ อาหารอย่นู ้นั ก็เห็นแกว้ ตานั่งอยู่คนเดียว ถ้านักเรยี นพิมล นกั เรียนจะทาอยา่ งไร ก. ชวนเพือ่ นไปนัง่ ข้างๆแกว้ ตาและรอให้แกว้ ตาทกั ทายก่อน ข. ไปน่งั ใกล้ ๆ แก้วตาและถามแก้วตาว่าทาไมไมม่ ใี ครคบ ค. ชวนเพื่อนไปนั่งโต๊ะเดยี วกับแก้วตาแล้วชวนแก้วตาคยุ ง. ไม่สนใจเพราะตนเองไม่สนิทกบั แกว้ ตา 6. พฒั น์และนดิ เป็นเพือ่ นรว่ มช้ันเดยี วกนั และบา้ นก็อยู่ใกลก้ ัน แต่พัฒน์อาศยั อยทู่ ี่บา้ น เพยี งลาพัง เพราะพอ่ และแมห่ ย่ารา้ งกันและไปทางานอยู่ทีต่ า่ งจังหวัด วันหนึง่ พัฒน์ปว่ ย ไมส่ ามารถมาโรงเรยี นได้ ถ้านักเรียนเปน็ นดิ นักเรียนจะทาอย่างไร ก. เฉย ๆ ไม่เขา้ ไปยงุ่ เกี่ยวเพราะไมส่ นทิ กัน ข. มาหาพฒั น์ที่บา้ น เพอ่ื ดูว่าพฒั น์ป่วยจริงหรอื ไม่ ค. มาเยีย่ ม ดูแล และชว่ ยเหลือตามความสามารถของตนเอง ง. เลา่ เรอื่ งการปว่ ยของพฒั น์ใหค้ ุณครแู ละผู้ปกครองของพฒั น์ทราบ 7. ก้อยเปน็ นกั เรียนท่เี ป็นโรคโปลิโอมาต้ังแตเ่ ด็ก ๆ เพื่อนจงึ ไม่ชอบเดนิ ไปไหนกบั ก้อย เพราะกอ้ ยเดินชา้ บางคร้ังกอ้ ยตอ้ งเดนิ คนเดยี ว ถา้ นกั เรียนเป็นเพือ่ นร่วมหอ้ งกับก้อย นกั เรียนจะทาอย่างไร ก. ไมเ่ ดินกับก้อยเพราะอายเพือ่ นคนอน่ื ข. ไมส่ นใจเพราะตนเองไม่อยากคบกับก้อย ค. ชวนกอ้ ยทากจิ กรรมต่างๆดว้ ยทุกครั้ง ง. ดูแลและใหก้ าลังใจก้อยมากกว่าเพอ่ื น ๆ คนอ่นื
33 8. ต้มั เปน็ นักเรียนทมี่ ีความสามารถทางดา้ นการรอ้ งเพลง แต่ขาดความกลา้ แสดงออก ครจู ึงให้ต้ัมเปน็ ตัวแทนของโรงเรียนเขา้ ร่วมการประกวดร้องเพลงทหี่ น่วยงานของจังหวดั จัดขึ้น ถา้ นกั เรยี นเป็นต้ัมนักเรียนจะทาอย่างไร ก. ไม่เขา้ รว่ มการประกวดเพราะไมม่ ัน่ ใจในความสามารถตนเอง ข. ไมเ่ ขา้ รว่ มการประกวดเพราะไม่อยากมาฝกึ ซอ้ ม ค. เขา้ รว่ มการประกวดแต่ฝึกซอ้ มไม่สมา่ เสมอ ง. เข้าร่วมการประกวดและฝึกซอ้ มอย่างสม่าเสมอ 9. ธวชั ชยั เป็นนักกีฬาตะกร้อตวั แทนของโรงเรียน ในชวั่ โมงพลศึกษาคณุ ครใู ห้จัดทีม แขง่ ขนั กันในชนั้ เรยี น ถ้านักเรยี นเปน็ ธวชั ชัยนกั เรียนจะทาอย่างไร ก. ชวนเพอื่ นสนิทมาอยู่ทมี เดยี วกนั ข. ปรึกษากบั เพอ่ื นในการจัดทมี แขง่ ขัน ค. รอจนกวา่ เพ่อื จะมาขอให้อย่ทู มี เดียวกัน ง. ตนเองเก่งอยู่แล้วไมจ่ าเป็นต้องแข่งก็ได้ 10. สพุ รรษาเปน็ เดก็ กาพรา้ ซง่ึ พอ่ และแม่เสียชวี ติ ด้วยอุบตุ ิเหตุ ปจั จุบันสพุ รรษา อาศยั อยกู่ ับยายซึง่ มอี าชพี รบั จ้างรายวนั แตส่ พุ รรษาเปน็ เด็กทม่ี คี วามสามารถพเิ ศษในการราไทย ครูจงึ ชักชวนใหส้ ุพรรษาหารายไดช้ ว่ ยเหลือยาย โดยการรบั จา้ งราในงานตา่ ง ๆ ถ้านกั เรยี นเปน็ สุพรรษานักเรยี นจะทาอย่างไร ก. ตกลงทจ่ี ะทาเพราะเปน็ การใชเ้ วลาวา่ งให้เกิดประโยชน์ ข. ตกลงที่จะทาเพราะเปน็ กจิ กรรมท่ตี นเองชอบ ค. ไมท่ างานลกั ษณะนีเ้ พราะคดิ ว่าไมเ่ หมาะสมกับตน ง. ไมท่ างานลักษณะนีเ้ พราะอายคนอน่ื
บรรณานกุ รม
บรรณานุกรม วนดิ า ขาวมงคลเอกแสงศรี. หลักการสอนการพฒั นาทักษะชวี ติ . สานกั พิมพแ์ หง่ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. 2546. สมาคมวางแผนครอบครวั แหง่ ประเทศไทย. คมู่ อื ฝกึ อบรมการจัดกิจกรรมลูกเสือที่เนน้ ทักษะชีวติ . มปท. 2553. สุพัตรา ทาวงศ์. (2007). การพฒั นาคณุ ค่าในตนเอง. คน้ เมอ่ื 26 พฤษภาคม 2552, จาก http://dllibrary.spu.ac.th:8080/dspace/ สุวรรณา เรอื งกาญจนเศรษฐ์. การสร้างความภาคภูมใิ จในตนเอง, ศูนยส์ ร้างเสรมิ สขุ ภาพ วยั ร่นุ คณะแพทยศ์ าสตรโ์ รงพยาบาลรามาธบิ ดี. www.teenrama.com.Hotline. สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน. แนวทางการพัฒนาการวดั และประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551. โรงพิมพ์ชุมนมุ สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย. 2552. _______. แนวทางการพัฒนาทักษะชีวิต บรู ณาการการเรียนการสอน 8 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ 2551. โรงพมิ พ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย. 2552. สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. การพัฒนาทกั ษะชีวติ ในระบบการศึกษา ข้ันพืน้ ฐาน. มปท. 2554. อบุ ลวรรณ แสนมหายักษ์. การสรา้ งความร่วมมือระหวา่ งโรงเรยี นกับชุมชนดว้ ยกระบวน การมสี ว่ นรว่ ม. กรมสุขภาพจิต. 2545. อบุ ลวรรณ แสนมหายกั ษ์. พดู ดคี ดิ ดปี ฏิบตั ดิ ชี วี ีเป็นสขุ . Lily Print Shop. 2550. เอกสทิ ธ์ิ สนามทอง. วา่ ทร่ี อ้ ยตรี. (2552). การพัฒนาหลกั สูตรฝกึ อบรมเพอ่ื พฒั นาฉันทะ ทางการเรียนของนกั ศกึ ษาสถาบันอดุ ม ศกึ ษาเอกชนในเขตกรงุ เทพมหานคร. กรงุ เทพมหานคร: มหาวิทยาลัยรามคาแหง
ภาคผนวก
เกณฑ์การใหค้ ะแนน แบบวัดทักษะชีวิตกอ่ นการปฏิบัตกิ ิจกรรม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน แบบวัดทักษะชีวิตกอ่ นการปฏิบตั ิกิจกรรม
เกณฑก์ ารพิจารณาใหค้ ะแนนแต่ละขอ้ คาถาม 1 คะแนน นักเรียนเลอื กแสดงพฤตกิ รรมท่ยี ึดหลักการไดร้ บั ผลประโยชน์ ของตนเองเป็นใหญ่ 2 คะแนน นกั เรยี นเลือกแสดงพฤตกิ รรมทย่ี ดึ หลักการให้ผู้อื่นในสังคมแคบ ๆ เปน็ ผ้ไู ดร้ บั ผลประโยชน์ เชน่ ญาตพิ ีน่ อ้ ง เพ่ือน 3 คะแนน นกั เรยี นเลอื กแสดงพฤติกรรมที่ยึดหลักการเพือ่ ประโยชน์ ของสงั คมสว่ นใหญเ่ ปน็ สาคัญ 4 คะแนน นักเรียนเลือกแสดงพฤตกิ รรมทย่ี ดึ หลักการเพื่อความถูกต้อง ดงี าม เปน็ อุดมคติ หรอื อดุ มการณ์ในจิตใจ การแปลผล
Search
Read the Text Version
- 1 - 48
Pages: