Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ ชุดที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ ชุดที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์

Published by wsinthra, 2020-06-14 23:49:05

Description: ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ ชุดที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์

Search

Read the Text Version

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 1 ชดุ ที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนกั เรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ก ชุดท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2 ได้จัดทำข้ึนเพ่ือใช้เป็น สื่อประกอบการเรียนการสอน โดยมีเนื้อหาและกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย สอดคล้องตามหลักสูตร การศกึ ษาข้นั พืน้ ฐานพทุ ธศักราช 2551 ทเ่ี น้นผู้เรียนเปน็ สำคญั โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตรก์ ารสืบเสาะหา ความรู้ การสำรวจตรวจสอบการสืบค้นข้อมูลและการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจสามารถส่ือสารส่ิงที่ เรียนรู้มีความสามารถในการตัดสินใจและมีจิตวิทยาศาสตร์ ซ่ึงจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดความรู้และพัฒนาทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยให้ครูผู้สอนสามารถนำไปใช้เป็นแบบอย่างหรือ แนวทางในการจดั การเรยี นการสอนให้สอดคล้องกับจุดมงุ่ หมายสำคัญของหลักสูตรอกี ดว้ ย ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2 นี้จะต้องใช้ร่วมกับ แผนการจัดการเรยี นรู้ วิชา โครงงานวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว 22201 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และคู่มือ การใชช้ ดุ กจิ กรรมการเรียนรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนกั เรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ท่ีผ้สู อนได้จดั ทำข้นึ การจัดทำชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เล่มน้ี เสร็จสมบูรณ์ไดเ้ พราะไดร้ บั ความอนุเคราะห์จากผูเ้ ชย่ี วชาญหลายท่านท่ีได้ใหค้ ำแนะนำปรึกษา จงึ ขอขอบพระคุณ ไว้ ณ โอกาสนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าชุดกิจกรรมเล่มน้ี จะช่วยพัฒนานักเรียนโรงเรียนพรมเทพพิทยาคม ใหเ้ ปน็ บุคคลแห่งการเรียนรู้ สามารถเป็นผเู้ รยี นรไู้ ด้ตลอดชีวิตตามเจตนารมณ์ทต่ี งั้ ไว้ วสนิ ทรา ไพรสนิ ธ์ุ

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ข ชุดที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ เร่ือง หนา้ คำนำ ก สารบัญ ข คำชแ้ี จง ค คำแนะนำสำหรับครู ง คำแนะนำสำหรบั นักเรยี น จ ขน้ั ตอนการใช้ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ ฉ สาระสำคัญ 1 จุดประสงค์การเรียนรู้ 2 กระดาษคำตอบ 3 แบบทดสอบกอ่ นเรียน 4 ใบกจิ กรรม 1.1 การกำหนดตัวแปรและสมมติฐาน 6 ใบกจิ กรรม 1.2 วางแผนและออกแบบการทำโครงงาน 8 ใบความรู้ การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 10 คำถามชวนคดิ ชวนทำ 17 แบบทดสอบหลังเรียน 20 เกณฑ์การประเมิน 22 บรรณานุกรม 31

ชุดกิจกรรมการเรยี นรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนกั เรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ค ชดุ ท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 เนอื้ หาจดั แบ่งออกเป็น 7 ชุด ดังน้ี ชดุ ที่ 1 วิทยาศาสตรข์ บั เคล่ือนโลก ชุดที่ 2 นกั วิทยาศาสตรน์ ้อย ชุดที่ 3 เร่มิ ต้นทำโครงงานอย่างไร ชดุ ท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 5 การเขียนเคา้ โครงของโครงงานวิทยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 6 การลงมอื ทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 7 การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์และการนำเสนอ ซ่ึงเล่มน้ีเป็นชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 4 การวางแผนและการออกแบบ โครงงานวิทยาศาสตร์ ใช้เวลาในการเรียนการสอน 4 ช่ัวโมง ในการนำชุดกิจกรรมน้ีไปใช้ ผู้สอนควรมี การศึกษาคู่มือครูการใช้ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดย ละเอียด เพื่อให้การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนบรรลุตามจุดประสงค์ของหลักสูตร ซ่ึงกระบวนการจัดการ เรียนรเู้ น้นการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆด้วยตนเอง โดยครูผู้สอนเป็นผู้ให้การช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกใน การปฏบิ ัติกจิ กรรมและประเมินผลการเรยี นรขู้ องนกั เรยี น หวังเป็นอย่างย่ิงว่าชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์เล่มน้ี จะเป็นประโยชน์ต่อการ พฒั นาการเรียนรูข้ องผเู้ รยี น และครูสามารถนำมาใชใ้ นการพัฒนาการเรยี นการสอนไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ วสินทรา ไพรสินธุ์

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 2 ง ชดุ ท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ชุดที่ 4 เร่ือง การวางแผน และออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั กิจกรรมการเรียนการสอนรายวิชาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ รหัสวิชา ว 22201 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ผู้สอนมีบทบาทสำคัญ ดังนี้ 1. เตรียมเอกสารที่ระบไุ ว้ในแผนการจดั การเรียนรูต้ ามลำดับ 2. ศึกษารายละเอียดของชดุ กจิ กรมการเรยี นรู้ 3. ทดลองใช้ส่ืออปุ กรณ์การสอน เพือ่ ตรวจสอบว่าใชง้ านได้จรงิ และแกไ้ ขเมื่อสอ่ื อุปกรณก์ ารสอน เกดิ การชำรุดเสียหาย 4. ทำการวเิ คราะห์นักเรียนโดยแบ่งเปน็ เก่ง ปานกลาง ออ่ น แลว้ แบง่ นักเรยี นออกเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน และแบ่งหน้าทดี่ ังน้ี 4.1 ประธาน ดแู ลและควบคุมการทำงานของกลมุ่ ใหเ้ ปน็ ไปตามกำหนดเวลา 4.2 รองประธาน ทำหน้าทีเ่ ป็นผู้ชว่ ยประธานและดแู ลกลุ่มแทนเมื่อประธานไม่อยู่ 4.3 เลขานกุ าร บันทึกข้อมูล ปญั หา ความคิดเหน็ ข้อเสนอแนะของสมาชิกภายในกลมุ่ 4.4 สมาชกิ ให้ความร่วมมอื ทำกจิ กรรมตา่ งๆ ของกลุ่ม ให้บรรลจุ ุดประสงค์ เสนอความคดิ เห็น จากข้อมลู ที่ไดท้ ำการศึกษาทดลอง 5. ครูชแี้ จงการเรียนทีน่ กั เรียนต้องปฏบิ ัตติ ามคำสงั่ ในชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 6. ชีแ้ จงกิจกรรมการเรยี นให้นักเรียนทราบ 7. ดำเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ 8. ใหค้ ำแนะนำและเปน็ ที่ปรึกษาในขณะทนี่ ักเรียนทำกิจกรรม 9. สงั เกตการทำกจิ กรรมของนกั เรยี นและการสรปุ บทเรียน 10. ตรวจแบบทดสอบยอ่ ยแตล่ ะชดุ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นและบันทึกผลการ ประเมนิ พฤติกรรมการทำงานกลมุ่ และพฤติกรรมระหวา่ งเรียนของนักเรียน

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 จ ชุดที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ชุดที่ 4 การวางแผนและ ออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ เล่มน้ี จัดทำขึ้นเพ่ือให้นักเรียนใช้ประกอบการเรียนรู้ในวิชาโครงงาน วทิ ยาศาสตร์ รหสั วิชา ว 22201 ซง่ึ นกั เรยี นจะไดศ้ ึกษาเพ่ิมเติมดว้ ยตนเอง 2. ในแต่ละหน้าของแต่ละชุดกิจกรรมจะมีเน้ือหาสาระ คำแนะนำหรือคำอธิบาย พร้อมทั้งคำถาม ให้ นกั เรียนได้ศึกษาและฝึกทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ความรู้ความเข้าใจ ตลอดจนทักษะในการนำไปใช้ แก้ปญั หา 3. ให้นักเรยี นอ่านคำชีแ้ จงการใชช้ ดุ กิจกรรมการเรยี นร้ใู หเ้ ข้าใจ 4. กอ่ นศึกษา ทำแบบทดสอบก่อนเรยี น จำนวน 10 ขอ้ เพ่ือวดั ความรู้พื้นฐาน 5. ศกึ ษาจดุ ประสงค์ สาระสำคัญ เนอ้ื หาในชดุ กิจกรรมการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ 6. เรียนรู้ตามกิจกรรมที่ครูผู้สอนจัดให้ในชุดกิจกรรม มีสื่ออุปกรณ์ในการปฏิบัติ ให้นกั เรยี นปฏิบัติให้ เรียบรอ้ ยและครบถว้ น 7. ทำแบบทดสอบหลังเรียน 8. ตรวจคำตอบจากเฉลย เพื่อเปรียบเทยี บพัฒนาการทางการเรียนของตนเองและจะได้ทราบถงึ พัฒนาการทางดา้ นความคิด ความรคู้ วามเข้าใจจากเร่ืองท่ีศึกษา

ชุดกจิ กรรมการเรยี นร้โู ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ฉ ชดุ ท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ ขั้นตอนการใช้ชดุ กจิ กรรมการเรียนรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ คาชี้แจงการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ ทดสอบก่อนเรียน นาเขา้ ส่บู ทเรียน กจิ กรรมการเรยี นรู้ สรปุ ทดสอบหลงั เรียน พบครู ผ่าน ไมผ่ ่าน เสรมิ ซ่อม

ชดุ กิจกรรมการเรียนรูโ้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นักเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 1 ชุดท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ ชดุ กจิ กรรมการเรียนรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ ชดุ ที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ สาระสำคญั ในกระบวนการแก้ปัญหาหรือการทดลองทางวิทยาศาสตรน์ ้ัน ควรมกี ารกำหนดตวั แปรที่ชดั เจน ได้แก่ ตวั แปรต้น คือ สงิ่ ที่เป็นสาเหตุทที่ ำใหเ้ กิดผลต่างๆ หรอื เปน็ สิง่ ท่ีตอ้ งการศกึ ษา ตัวแปรตาม คอื สงิ่ ทเี่ ปน็ ผลมาจากตัวแปรตน้ ตัวแปรควบคุม คือ สิ่งต่างๆทต่ี ้องการควบคุมเพ่ือไม่ให้ส่งผลตอ่ การศึกษาหรือการทดลอง ซง่ึ ทำ ใหท้ ราบชัดเจนวา่ ผลการทดลองท่ีได้เปน็ ผลมาจากปจั จัยใด การกำหนดตัวแปรนำไปสู่การต้ังสมมติฐานซึ่งเป็นการคาดการณ์หาคำตอบของปัญหาล่วงหน้า อย่างมีเหตุผลโดยอาศัยการสังเกต ประจักษ์พยาน ความรู้และประสบการณ์เดิม สมมติฐานที่ดีควร สอดคล้องกับข้อมูลและปัญหา แสดงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรให้ชัดเจน และให้แนวทางใน การ ออกแบบการทดลองเพ่อื ตรวจสอบได้ การวางแผนและออกแบบการทำโครงงานวิทยาศาสตร์จะต้องคำนึงถึงปัญหาหรือประเด็นท่ี ต้องการศึกษา การกำหนดตัวแปร การต้ังสมมติฐาน วิธีดำเนินงาน วัสดุอุปกรณ์ท่ีจะใช้ การเก็บรวบรวม ข้อมูลและบนั ทึกข้อมูล

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 2 ชุดท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เม่ือศึกษาบทเรยี นน้ีแลว้ นกั เรยี นควรจะสามารถ 1. ดา้ นความรู้ (K) 1.1 มคี วามรแู้ ละความเข้าใจเกย่ี วกับความหมายของตัวแปรแต่ละชนิด 1.2 เขา้ ใจและอธิบายถึงปัญหาหรือประเดน็ ทตี่ อ้ งการศึกษาได้ 2. ดา้ นทกั ษะ (P) 2.1 กำหนดตัวแปรแต่ละชนิดและต้งั สมมตฐิ านได้ 2.2 วางแผนและออกแบบการทำโครงงานวิทยาศาสตรไ์ ด้ 3. ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 3.1 เห็นประโยชน์ของการกำหนดตัวแปรและตงั้ สมมติฐานเพ่ือใชใ้ นการออกแบบโครงงาน 3.2 มคี วามต้งั ใจและให้ความร่วมมอื ในการทำกิจกรรม

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นักเรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 3 ชดุ ที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ กระดาษคำตอบ ชดุ ที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น แบบทดสอบหลังเรียน ข้อ ก ข ค ง ขอ้ ก ข ค ง 1 1 2 2 3 3 4 4 5 5 6 6 7 7 8 8 9 9 10 10 คะแนน สรุปผลการทดสอบ หลังเรียน คะแนนหลงั เต็ม กอ่ นเรียน คะแนน 10 เรียนคดิ เปน็ ได้ 10 เต็ม รอ้ ยละ ได้

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูโ้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 4 ชดุ ท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ แบบทดสอบกอ่ นเรียน ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ขอ้ สอบ 10 ข้อ ใชเ้ วลา 10 นาที คะแนนเตม็ 10 คะแนน คำชแี้ จง ให้นักเรยี นเลอื กคำตอบที่ถกู ต้องที่สุดแล้วทำเครือ่ งหมาย X ลงในกระดาษคำตอบ 1. แกละ ไดท้ ำการทดลองเพือ่ ดวู า่ แสงแดดมีอิทธพิ ลต่อการเจริญเติบโตของราหรอื ไม่ เขาจึงทำการทดลองนำ ขา้ วสุกใสถ่ ้วยขนาดเลก็ เท่ากัน 2 ใบ แล้วนำไปเกบ็ ในกล่องกระดาษปดิ ให้มดิ ชิด 1 ใบ วางไว้กลางแจ้ง 1 ใบ ทิ้งไว้ 3 วัน จึงสงั เกตและบันทึกผลท่เี กิดขนึ้ ตัวแปรตน้ ของการทดลองนี้คืออะไร ก. ข้าวสุก ข. แสงแดด ค. การเจรญิ เติบโตของรา ง. กลอ่ งกระดาษปิดมดิ ชิด 2. ขอ้ ใดกล่าวถงึ ตัวแปร ไดถ้ กู ต้อง ก. มี 2 ประเภท คือ ตัวแปรต้นและตวั แปรตาม ข. มีวิธีดำเนินการทดลองเพื่อนำไปสูค่ ำตอบที่ต้องการ ค. มผี ลทำใหก้ ารแก้ปญั หาหรือผลการทดลองเปลย่ี นแปลงได้ ง. มคี ำตอบของปญั หาทีค่ าดการณไ์ ว้ล่วงหน้า 3. ในการสำรวจตรวจสอบโดยการทดลอง เหตใุ ดจงึ ตอ้ งมีตัวแปรควบคมุ ก. เปน็ สาเหตทุ ่ีทำใหเ้ กดิ ผลตา่ งๆ ข. เป็นส่ิงที่ตอ้ งการศึกษา ค. เปน็ สงิ่ ที่เป็นผลเน่อื งมาจากตัวแปรต้น ง. เป็นสงิ่ ที่ไม่ให้มผี ลต่อการทดลอง 4. “การสน่ั สะเทือนของไม้บรรทัดจะให้เสยี งสูงหรือตำ่ ข้ึนอยูก่ บั แรงดีดของคนดีด” จากขอ้ ความดงั กลา่ ว ตัวแปรตามของการทดลองนค้ี ืออะไร ก. แรงดดี ข. เสียงท่ีเกดิ ขนึ้ ค. คนดดี ง. ไม้บรรทดั

ชุดกิจกรรมการเรยี นร้โู ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 2 5 ชดุ ท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ แบบทดสอบกอ่ นเรียน 5. “การงอกของเมล็ดข้าวในเวลาที่ตา่ งกันข้ึนอยู่กับ 8. ขอ้ ใดเป็นสมมติฐาน ปรมิ าณของนำ้ ท่ไี ดร้ บั ” จากขอ้ ความดังกล่าว ตัว ก. ทำไมขวดพลาสติกจงึ ยบุ ลงไป แปรควบคุมของการทดลองน้ีคอื อะไร ข. ถ้าเปลี่ยนจากนำ้ ร้อนเป็นนำ้ เย็น ผลทไ่ี ด้จะ ก. ปรมิ าณของนำ้ ทไี่ ดร้ บั แตกตา่ งกันหรือไม่ ข. อุณหภมู ิ ค. ขนาดของขวดพลาสตกิ มผี ลต่อการ ค. ดนิ ทใ่ี ช้ เปล่ยี นแปลงของลกู โปง่ ง. ถูกทง้ั ข และ ค ง. ขวดพลาสตกิ รูปทรงอ่ืนๆจะใหผ้ ลการทดลอง เปน็ อย่างไร 6. ข้อใดกลา่ วไมถ่ กู ต้อง เกี่ยวกับ สมมตฐิ าน ก. เปน็ ส่งิ ทีต่ ้องการศึกษา หรือสาเหตทุ ท่ี ำให้ 9. ข้อใด ไม่ใช่ ประเด็นที่ต้องร่วมกันคิดวางแผนในการ เกิดสิ่งต่างๆ ทำโครงงาน ข. ความสมั พันธร์ ะหว่างตัวแปรตน้ และ ก. สาเหตุของปัญหา ตัวแปรตาม ข. ความรขู้ องผู้ทำโครงงาน ค. การคาดการณ์คำตอบของปัญหาลว่ งหน้า ค. การออกแบบการทดลอง อยา่ งมเี หตุผล ง. วัสดุ อุปกรณแ์ ละสารเคมี ง. ใช้ประสบการณ์เดมิ เป็นพืน้ ฐานในการคดิ ข้นึ มา 10. สมมติฐานมคี วามสัมพนั ธ์กบั การทดลองอยา่ งไร 7. สมมติฐานทด่ี คี วรมีลกั ษณะอยา่ งไร ก. บอกผลการทดลองลว่ งหนา้ ได้อย่างแม่นยำ ก. เปน็ ขอ้ ความที่พยากรณ์ผลทีค่ าดว่าจะเกิดขึ้น ข. ให้แนวทางในการออกแบบการทดลอง ข. เปน็ ขอ้ ความทแี่ สดงความสัมพันธ์กับตัวแปร ค. ชว่ ยให้ได้ผลการทดลองที่เป็นไปตามทฤษฏี ชัดเจน และเข้าใจง่าย ง. ถกู ทุกข้อ ค. ให้แนวทางในการออกแบบการทดลองเพ่อื ตรวจสอบ ง. ถูกทุกข้อ

ชุดกิจกรรมการเรยี นร้โู ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 6 ชดุ ที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ ใบกจิ กรรม 4.1 การกำหนดตวั แปรและสมมติฐาน จุดประสงค์ เม่อื นักเรียนทำกิจกรรมนี้แลว้ นกั เรียนสามารถกำหนดตัวแปรและตงั้ สมมติฐานของโครงงานได้ ตอนที่ 1 ใหอ้ ่านบทความต่อไปน้แี ล้วตอบคำถาม สภาพที่เหมาะสมต่อการปลูกกุหลาบ พ้ืนท่ีปลูกควรปลูกในท่ีท่ีระบายน้ำได้ดี มีความเป็นกรดเล็กน้อย พีเอช ประมาณ 6-6.5 และได้รับแสงอย่างน้อย 6 ชั่วโมง อุณหภูมิ อุณหภูมิท่เี หมาะสมในการเจริญของกุหลาบ คือ กลางคืน 15-18 องศาเซลเซียส และกลางวัน 20-25 องศาเซลเซยี ส ซ่ึงเปน็ ช่วงอณุ หภูมทิ ่ีจะทำใหไ้ ด้ดอกท่ีมี คุณภาพดี และให้ผลผลิตสูง หากอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส การเจริญเติบโตและการออกดอกจะช้า อย่างมาก หากอุณหภูมิสูงกว่า 28 องศาเซลเซียส ควรให้มีความชื้นในอากาศสูงเพ่ือชะลอการคายน้ำ ความชื้น ความชื้นสัมพัทธ์ท่ีเหมาะสมกับการเจริญของกุหลาบคือร้อยละ 70-80 กุหลาบออกดอกได้ตลอดปี โดยเฉพาะ เดอื นธันวาคมถงึ มีนาคม กุหลาบจะใหผ้ ลผลติ สูง และดอกมคี ุณภาพดี ถา้ ความเขม้ ของแสงมากและช่วงวนั ยาว คำถาม 1. ดินทีเ่ หมาะสมต่อการปลูกกุหลาบควรเปน็ ดินชนิดใด …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. สภาพส่ิงแวดล้อมอยา่ งไรที่กุหลาบชอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. แสงมผี ลต่อการออกดอกของกุหลาบอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนกั เรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 7 ชุดที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ตอนท่ี 2 ให้อา่ นบทความตอ่ ไปนี้แลว้ ตอบคำถาม นุ่นกับแป้งได้รับต้นกุหลาบมาคนละต้น แป้งปลูกกุหลายไว้ใต้บันไดหน้าบ้าน มีร่มเงาบังแดดตลอดท้ัง วนั นุ่นปลูกไว้ข้างบ้านได้รับแสงช่วงเช้าประมาณ 4-5 ช่ัวโมง โดยแป้งและนุ่นรดน้ำต้นกุหลาบทุกวัน เวลาผ่าน ไป 2-3 เดือน ตน้ กุหลาบของนุ่นออกดอก 2 ดอก แตต่ น้ กหุ ลาบของแป้งไมอ่ อกดอก มีใบรว่ งหล่นบา้ ง คำถาม 1. กุหลาบท้ัง 2 ตน้ เจรญิ เติบโตไดแ้ ตกต่างกนั นา่ จะมสี าเหตจุ ากอะไร ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………...... ..................................................................... 2. ถ้านกั เรียนคิดวา่ ปรมิ าณการรดน้ำของแปง้ นอ้ ยกวา่ การรดน้ำของนุ่นเป็นสาเหตุทีท่ ำใหต้ น้ กุหลาบ เจรญิ เตบิ โตแตกตา่ งกนั นักเรยี นจะมีวธิ พี ิสจู นไ์ ด้อย่างไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. สมมติฐานนคี้ อื ............................................................................................................................. ............... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. นักเรียนจะใชส้ ง่ิ ใดในการเปรยี บเทียบการเจรญิ เตบิ โตของต้นกุหลาบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………...

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนกั เรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2 8 ชดุ ท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ใบกจิ กรรม 4.2 วางแผนและออกแบบการทำโครงงาน จุดประสงค์ นกั เรียนสามารถวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ได้ วิธีการทำ ให้นักเรยี นออกแบบวิธีการทดลองเพื่อทำการศึกษาวา่ ระยะเวลาในการรับแสงของตน้ กหุ ลาบจะทำ ให้ตน้ กหุ ลาบมีการเจริญเตบิ โตทแี่ ตกต่างกัน

ชุดกิจกรรมการเรยี นรูโ้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 9 ชดุ ที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ คำถาม 1. ในการออกแบบการทดลองนี้มีตวั แปรตน้ ตัวแปรตาม และตวั แปรควบคุมอะไรบ้าง …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สมมติฐานของการทดลองน้ี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. นิยามเชงิ ปฏบิ ัติการนค้ี อื .............................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ........................................ 3. การทดลองนี้จะมีอปุ กรณ์ใดบ้าง …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. ใหอ้ อกแบบตารางการบันทกึ ผลการทดลอง 5. การทดลองน้นี ักเรยี นใชเ้ วลาในการเก็บข้อมลู นานเท่าใด …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 10 ชดุ ที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ ใบความรู้ การวางแผนและออกแบบ โครงงานวิทยาศาสตร์ ตวั แปร ในกระบวนการแก้ปัญหาหรอื การทดลองทางวิทยาศาสตร์นั้น มกั มปี ัจจัยตา่ งๆ เข้ามาเกย่ี วข้องดว้ ย หลายปัจจัย เราเรียกสงิ่ ท่ีเกีย่ วข้องกับปัญหาหรือการทดลองวา่ ตวั แปร ซึ่งตัวแปรแตล่ ะตวั จะมผี ลทำใหก้ าร แกป้ ัญหาหรือผลการทดลองเปล่ียนแปลงได้ การกำหนดตวั แปรทีช่ ัดเจน ทำใหท้ ราบว่าผลการทดลองท่ีแท้จริง น้นั เป็นผลจากการเปล่ยี นแปลงของสงิ่ ใด ทำใหส้ รุปผลการศกึ ษาได้อยา่ งถูกต้อง และสามารถตรวจสอบ สมมตฐิ านได้เปน็ อย่างดี เราอาจกลา่ วไดว้ า่ ตวั แปร หมายถงึ ส่งิ ที่แตกต่าง หรือ เปล่ยี นแปลงไปจากเดมิ เมื่ออยใู่ นสถานการณ์ ตา่ งๆ กนั ตัวแปรทเี่ กยี่ วข้องกับการทดลองทางวิทยาศาสตร์มอี ยู่ 3 ประเภท ไดแ้ ก่ 1. ตัวแปรต้น (independent variable) คือ สงิ่ ท่เี ปน็ สาเหตใุ ห้เกดิ ผลตา่ งๆ หรอื เปน็ สิง่ ที่ ต้องการศึกษาทดลองดวู ่า เป็นสาเหตุท่กี ่อให้เกดิ ผลเชน่ นั้นจรงิ หรอื ไม่ อาจเรียกได้อกี อย่าง คอื ตัวแปรอิสระ 2. ตัวแปรตาม (dependent variable) คือ สงิ่ ทเ่ี ปน็ ผลเน่ืองมาจากตวั แปรตน้ เมอ่ื ตวั แปรตน้ หรือสิ่งทเี่ ป็นสาเหตเุ ปลีย่ นไป ตวั แปรตามจะเปลี่ยนตามด้วย 3. ตวั แปรควบคุม (controlled variable) คือ สง่ิ ต่างๆ ท่อี าจจะทำใหผ้ ลการทดลองเกดิ การ คลาดเคล่อื น ต้องมีการควบคมุ ให้เหมาะสม เพ่ือไมใ่ หส้ ง่ ผลตอ่ การสรุปผลการศึกษา

ชุดกิจกรรมการเรยี นรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นักเรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 11 ชุดท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ตัวอย่างท่ี 1 ต้องการจะศึกษาว่าแสงสอี ะไรเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของผักคะน้า กอ็ าจจะกำหนดสี ของแสงนน้ั ขึน้ 5 สี ไดแ้ ก่ แดง มว่ ง เหลอื ง เขยี ว และน้ำเงิน ดังน้ัน การออกแบบการทดลองก็ต้องปลูก ผักคะน้า 5 แปลง แต่ละแปลงก็ให้แสงแตล่ ะสี จากตวั อยา่ งนี้ - ตวั แปรต้นหรอื ตัวแปรอสิ ระ คือ สขี องแสง - ตวั แปรตาม คือ การเจรญิ เตบิ โต ซึง่ อาจใช้เกณฑว์ ดั ความสงู นับจำนวนใบ ชง่ั นำ้ หนักในวัน สดุ ทา้ ยของการทดลอง - ตัวแปรควบคมุ คอื พนั ธ์ผุ ักคะนา้ ปรมิ าณนำ้ ที่รด ฤดกู าลที่ปลูก ดนิ ระยะห่างระหว่างตน้ ขนาดของแปลง จำนวนตน้ ต่อแปลง เป็นต้น ซ่งึ ส่ิงเหล่าน้จี ะมีผลทำใหผ้ ลการทดลองคลาดเคล่อื น จึง จำเปน็ ตอ้ งให้ทกุ กลมุ่ ทีท่ ดลองเหมอื นกัน

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 12 ชุดที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ ตัวอย่างที่ 2 โครงงานสงิ่ ประดษิ ฐเ์ รื่องหน่งึ คือ \"โครงงานเร่อื งเครื่องฟักไขแ่ บบประหยดั \" สมมตวิ า่ โครงงานเร่ืองนมี้ จี ุดมงุ่ หมาย เพ่ือหารูปทรงและวัสดุทเ่ี หมาะสมของเครื่องฟกั ไข่ ดังนัน้ โครงงานเร่อื งนี้จึงมกี ารศกึ ษา 2 ขนั้ ตอน คือ ขั้นตอนท่ี 1 หารปู ทรงทเ่ี หมาะสม 1) ตัวแปรต้น คอื รปู ทรงของเครื่องฟกั ไขแ่ บบตา่ ง ๆ 2) ตัวแปรตาม คอื ความสะดวกของการใชง้ าน การประหยัดไฟ ค่าร้อยละของไข่ท่ีฟักออก เปน็ ต้น 3) ตัวแปรทต่ี อ้ งควบคมุ คือ ขนาดของขดลวดความรอ้ นต้องเท่ากนั ไขท่ ่ีฟักต้องเหมอื นกนั คือมีเช้ือ และเกิดจากแม่พันธ์ุ อายุ และการเล้ียงเหมือนกัน วสั ดุทท่ี ำเครื่องฟักเหมือนกนั วสั ดุทใี่ ช้เป็น ฉนวนเหมอื นกัน ขนั้ ตอนที่ 2 1) หาวัสดุที่เหมาะสมสำหรับเป็นฉนวนป้องกันการสูญเสียความร้อนของเครอ่ื งฟัก - ตัวแปรต้น คอื วัสดชุ นิดตา่ งๆ ที่ใช้เป็นฉนวน - ตัวแปรตาม คือ การรักษาอุณหภูมิ การประหยดั ไฟ คา่ ร้อยละของไขท่ ่ีฟกั ออก เปน็ ต้น - ตัวแปรที่ตอ้ งควบคมุ คือ ขนาดของขดลวดความรอ้ นเทา่ กนั ไข่ท่ีใชฟ้ กั ต้องเหมือนกนั คอื มีเช้อื และเกดิ จากแม่พนั ธุ์ อายุ และการเลีย้ งดเู หมือนกัน รปู ทรงเครือ่ งฟกั เหมอื นกนั และวสั ดทุ ที่ ำเคร่ืองฟกั เหมือนกนั 2) หาความตา้ นทานของขดลวดท่ีเหมาะสม - ตัวแปรตน้ คอื ขนาดของขดลวดที่มคี วามต้านทานตา่ งๆ กนั - ตัวแปรตาม คอื อุณหภูมขิ องเคร่ืองฟกั การประหยัดไฟ เปน็ ตน้ - ตวั แปรทีต่ ้องควบคุม คือ รปู ทรง ฉนวน เปน็ ต้น

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูโ้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2 13 ชุดท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ สมมติฐาน ในการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ เมื่อนักเรียนไดก้ ำหนดตวั แปรต่างๆแลว้ ความสัมพันธร์ ะหว่างตัวแปร ต้นและตัวแปรตามที่ได้ เป็นการคาดการณ์หาคำตอบของปัญหาล่วงหน้าอย่างมีเหตุผลโดยใช้ข้อมูลท่ีมีอยู่เดิม ประจักษ์พยาน ความรู้ และประสบการณ์เดิมเป็นพ้ืนฐาน นำไปสู่การต้ังสมมติฐาน ที่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งสมมติฐานหรือคำตอบท่ีคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าน้ีจะต้องเป็นสิ่งที่ยังไม่ทราบหรือยังไม่เป็นหลักการ กฎ หรือ ทฤษฎีมากอ่ น ลักษณะของสมมติฐานทีด่ ี ควรมีลักษณะดงั น้ี 1. เป็นข้อความท่ีพยากรณผ์ ลทคี่ าดว่าจะเกดิ ขึ้น 2. เป็นข้อความท่ีแสดงความสมั พันธก์ บั ตวั แปร ชัดเจน และเข้าใจง่าย 3. เปน็ สิ่งทไ่ี ดจ้ ากการสังเกต หรือลงความเหน็ จากข้อมลู 4. ให้แนวทางในการออกแบบการทดลองเพ่ือตรวจสอบได้ 5. สอดคล้องกับข้อมูลและปัญหา สมมติฐานควรเขียนในลักษณะประโยคที่บ่งบอกว่าผู้ทำโครงงานคาดหวังว่า ตัวแปรตามหรือผลจะ เปน็ อย่างไร จากการเปล่ียนแปลงของตัวแปรต้นหรอื เหตุ และการเขียนประโยคสมมติฐาน ไม่ควรใช้สรรพนาม เช่น ฉนั เรา เป็นต้น

ชุดกจิ กรรมการเรียนร้โู ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนกั เรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 14 ชุดท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ ตวั อยา่ ง ระยะเวลาในการรับแสงแดดมีผลต่อการออกดอกของตน้ กหุ ลาบ ตัวอยา่ งรปู ประโยคสมมติฐาน เช่น o ถ้าระยะเวลาในการรบั แสงแดดของตน้ กหุ ลาบมีผลต่อการออกดอก ดังนนั้ ระยะเวลาในการรบั แสงแดดวันละ 4-5 ช่วั โมง จะสามารถทำให้ตน้ กหุ ลาบออกดอก o การตั้งสมมติฐานน้ีมคี วามสมั พันธโ์ ดยตรงระหวา่ งระยะเวลาในการรับแสงแดดของตน้ กุหลาบและการ ออกดอกของตน้ กหุ ลาบ o สมมติฐานสำหรับโครงงานนคี้ ือระยะเวลาในการรับแสงแดดของต้นกหุ ลาบซงึ่ จะทำให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงของการออกดอกของตน้ กุหลาบ o สมมตฐิ านคอื ระยะเวลาในการรับแสงแดดของต้นกหุ ลาบวันละประมาณ 4-5 ชวั่ โมง จะทำใหเ้ กิดผล การออกดอกของตน้ กหุ ลาบ แหลง่ ทม่ี าของสมมติฐาน สมมติฐานเปน็ การคาดคะเนผลก่อนดำเนินการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ดังนั้น เพื่อให้คำตอบหรือสมมติฐาน ท่มี ีความน่าเช่ือถือหรอื ถูกต้องมากท่สี ดุ นักเรียนควรหาวธิ ีการและเหตผุ ลทีจ่ ะนำมาใชป้ ระกอบหรอื สนับสนุน การกำหนดสมมตฐิ านใหม้ ากทีส่ ดุ โดยอาศยั แหลง่ ขอ้ มูลตา่ งๆ ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ของนักเรยี น ในการทำโครงงานเรื่องหนง่ึ เร่อื งใดนน้ั นกั เรยี นจะต้องมีความรูห้ รอื ประสบการณ์อยา่ งดีในเร่อื งนั้น เนือ่ งจากจะชว่ ยให้การกำหนดสมมติฐานเปน็ ไป ในลักษณะท่ีใกลเ้ คยี งกับความเปน็ จริง 2. การใชห้ ลกั เหตผุ ล สมมตฐิ านที่กำหนดข้ึนต้องสมเหตุสมผล ดังนน้ั นักเรียนจงึ ควรใช้หลักเหตแุ ละ ผลหรือความเป็นไปไดม้ าคิดวิเคราะห์หรือแยกแยะส่งิ ตา่ งๆ เพ่อื หาความสัมพันธร์ ะหว่างเหตุและผล จากการ คิดวิเคราะหด์ ังกลา่ วจะชว่ ยให้สรา้ งสมมติฐานทดี่ ี 3. การใช้ทฤษฎี แนวคิด และหลกั การ เนื่องจากสง่ิ เหลา่ นีไ้ ด้รับการยนื ยนั สนบั สนนุ และพสิ ูจน์มาแลว้ ฉะน้ัน หากนกั เรียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจในทฤษฎี หลกั การ และแนวคดิ ตา่ งๆ ที่เกยี่ วกับโครงงานดีแล้ว จะชว่ ยให้นกั เรียนเกิดแนวคิดในการกำหนดสมมตฐิ านได้ 4. การศึกษาคน้ ควา้ จากเอกสาร วารสาร บทความ รายงาน และงานวจิ ยั ท่เี กี่ยวขอ้ ง การศึกษา คน้ ควา้ ข้อมลู จากแหล่งดงั กล่าว จะเป็นประโยชนอ์ ยา่ งย่งิ ต่อนกั เรียนในการทจ่ี ะนำไปใชก้ ำหนดสมมติฐาน

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 15 ชุดที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ ประโยชน์ของสมมติฐาน 1. สมมติฐานช่วยให้นักเรียนมองเห็นปัญหาในการทำโครงงานชัดเจนย่ิงขึ้น เช่น ทำให้มองเห็นว่า ปัญหานีม้ คี วามสมั พันธเ์ ก่ียวขอ้ งกบั ตัวแปรใดบ้าง และเป็นปญั หาลักษณะใด เปน็ ตน้ 2. สมมติฐานช่วยจำกัดขอบเขตของการทำโครงงาน ทำให้นักเรียนทราบแนวทางและจุดมุ่งหมายที่ กำลงั ทำโครงงาน 3. สมมติฐานช่วยชี้แนวทางในการเก็บรวบรวมข้อมูล ควรจะเก็บรวบรวมข้อมูลในเร่ืองอะไร แค่ไหน และจะเก็บในลักษณะใด พรอ้ มทัง้ ช่วยวิเคราะหข์ อ้ มลู ได้อย่างถูกต้องและมีคุณภาพ 4. สมมตฐิ านอาจสามารถบอกใหท้ ราบถึงการวางแผนการทำโครงงานหรอื วธิ ีแก้ปัญหา 5. สมมติฐานช่วยให้นักเรียนเข้าใจตัวแปรท่ีศึกษาได้อย่างแจ่มแจ้ง เพราะการกำหนดสมมติฐานเป็น การกำหนดความสมั พันธ์ระหวา่ งตัวแปรตา่ ง ๆ 6. สมมติฐานช่วยช้ีแนวทางในการแปลผล และสรุปผลท่ไี ด้จากการวิเคราะห์ขอ้ มูลให้แกน่ ักเรียน ทงั้ น้ี เพราะในการแปลผลการทำโครงงานน้ัน ยึดสมมติฐานเป็นหลัก โดยพิจารณาว่าผลท่ีได้นั้นมีความสอดคล้อง หรือขัดแย้งกบั สมมตฐิ านท่กี ำหนดไว้เพยี งใด ซ่งึ จะทำให้การแปลผลและสรุปผลง่ายขึ้น

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 16 ชุดที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ การทำโครงงานวิทยาศาสตร์ไม่ว่าเร่ืองใดจะต้องมีการวางแผนอย่างละเอียด รอบคอบ และมีการ กำหนดขั้นตอนในการดำเนินงานอย่างรัดกุม ท้ังนี้เพ่ือให้การดำเนินงานบรรลุจุดมุ่งหมายหรือเป้าหมายท่ี กำหนดไว้ ประเด็นท่ีต้องร่วมกันคิดวางแผนในการทำโครงงานมีดังน้ี คือ ปัญหา สาเหตุของปัญหา แนวทาง และวิธีการแก้ปัญหาท่ีสามารถปฏิบัติได้ การออกแบบการศึกษาทดลองโดยกำหนดและควบคุมตัวแปร วสั ดอุ ปุ กรณ์ สารเคมี เวลา และสถานที่ ทจี่ ะปฏบิ ัตงิ าน การกำหนดความหมายหรือขอบเขตของคำท่ีทำการทดลองเพื่อให้เข้าใจตรงกัน เป็นการกำหนด นิยามเชิงปฏิบัติการ โดยสิ่งที่นิยามนั้นต้องสังเกต วัด หรือทดสอบได้ คำหน่ึงคำอาจมีนิยามเชิงปฏิบัติการได้ หลายนิยาม แต่ควรเลือกใช้นิยามเชิงปฏิบัติการที่เหมาะสมกับการทดลองนั้น เช่น การนับจำนวนดอกของต้น กุหลาบ หมายถึงการนับจำนวนดอกตงั้ แตต่ ้นกุหลาบเรม่ิ ผลิดอก ซ่ึงจะเห็นว่าการกำหนดนิยามเชิงปฏบิ ัติการนี้ สามารถสงั เกตและวัดไดจ้ รงิ ในการวางแผนและออกแบบการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ควรครอบคลุมสิ่งตา่ งๆตอ่ ไปนี้ • ปญั หาของหัวข้อเรือ่ งที่จะทำโครงงานคืออะไร (ระบปุ ญั หา) • ประเดน็ ท่ีต้องการศกึ ษาหรือต้องการทราบคำตอบคืออะไร (จดุ มุ่งหมายของโครงงาน) • คำตอบของปญั หาท่นี ักเรียนคาดการณ์ไว้ลว่ งหนา้ เปน็ อยา่ งไร (สมมตฐิ าน) • มวี ธิ ดี ำเนินการทดลองเพ่อื นำไปส่คู ำตอบทีต่ ้องการอย่างไร (วิธดี ำเนนิ การทดลอง) • ตอ้ งใชว้ ัสดุอปุ กรณ์อะไรบา้ ง • สงั เกตและวัดอะไร อยา่ งไร • เสนอข้อมูลและวเิ คราะหอ์ ย่างไร • ใช้เวลาในการศึกษาทดลองนานเทา่ ใด

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 17 ชุดที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ ตอนที่ 1 คำสั่ง พิจารณาปญั หาต่อไปน้ี พร้อมท้ังคาดเดาคำตอบก่อนทำการทดลองโดยการตงั้ สมมติฐาน โจทย์ ในการเข้าค่ายลกู เสือของนักเรียนระดับช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 นกั เรยี นกอง 5 ซง่ึ แบ่งออกเป็น 6 หมู่ ตา่ งก็นำหม้อหงุ ข้าวมาด้วย และเมื่ออาจารย์ผู้กำกับสั่งให้หุงข้าวมือ้ เยน็ เด็กกท็ ายกนั ว่าขา้ วของหม่ใู ดจะสุก ก่อนกนั นักเรยี นคดิ วา่ อะไรเปน็ สาเหตุ (ตวั แปรต้น) ท่ีจะทำให้ข้าวสุกไมพ่ ร้อมกันได้บ้าง เขยี นมา 4 สาเหตุ ก..................................................................... ข....................................................................... ค..................................................................... ง....................................................................... ให้นักเรียนต้งั สมมตฐิ านทเี่ กย่ี วกับตัวแปรเหตุนั้นๆดว้ ย ก....................................................................................................... .......................................................... ข............................................................................................................................ ...................................... ค......................................................................................................................................... ........................ ง........................................................................................... ......................................................................

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นักเรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 18 ชุดท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ ตอนท่ี 2 คำส่งั พิจารณาปัญหาตอ่ ไปน้ี พร้อมทั้งคาดเดาคำตอบก่อนทำการทดลองโดยการตง้ั สมมติฐาน 1. อะไรมีผลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของสนุ ขั ที่เราเลย้ี งไว้ท่บี า้ นบ้าง ก..................................................................... ข....................................................................... ค..................................................................... ง....................................................................... จ..................................................................... ฉ....................................................................... ให้นักเรียนตงั้ สมมติฐานทเี่ กี่ยวกบั ตวั แปรเหตนุ นั้ ๆด้วย ก.......................................................................................... ....................................................................... ข............................................................................................................................ ...................................... ค................................................................................................................................................................. ง............................................................................................................................ ..................................... 2. การส่นั สะเทอื นของไม้บรรทดั จะใหเ้ สียงสูงหรือต่ำข้ึนอยู่กับแรงดีดของคนดีด ตัวแปรต้น คอื ....................................................................................................................... ตวั แปรตาม คอื ...................................................................................................................... สมมติฐาน คือ...................................................................................................................... 3. ความเร็วในการดูดน้ำหวานของคนๆหนึ่งจะแตกตา่ งกันหรือไม่ ถา้ ใชข้ นาดของหลอดไมเ่ ท่ากนั ตวั แปรตน้ คือ....................................................................................................................... ตัวแปรตาม คอื ...................................................................................................................... สมมติฐาน คือ...................................................................................................................... 4. ถา้ ใส่ใบพืชที่มกี ลิ่นฉนุ ตา่ งๆในถังข้าวสารจะทำให้มอดในถังขา้ วสารลดลง ตวั แปรต้น คือ....................................................................................................................... ตวั แปรตาม คือ...................................................................................................................... สมมติฐาน คือ......................................................................................................................

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรูโ้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนกั เรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 19 ชุดที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ ตอนที่ 3 คำส่ัง จากโจทย์ที่ให้มาในแตล่ ะข้อ มีตัวแปรต้น ตัวแปรตาม ตัวแปรควบคุมคืออะไร 1. เดก็ ชายชวการต้องการศึกษาวา่ ภาชนะทมี่ คี วามกว้างของปากแตกต่างกนั เม่ือนำไปใส่น้ำแลว้ ต้ังทิ้ง ไวก้ ลางแดด จะมีการระเหยของน้ำแตกตา่ งกันหรอื ไม่ ตวั แปรต้น คือ....................................................................................................................... ตัวแปรตาม คอื ..................................................................................................................... ตวั แปรควบคมุ คือ...................................................................................................................... 2. นายทองเลยี้ งไก่เพ่ือนำไขไ่ ปขาย นายทองคิดว่าอาหารน่าจะมีผลต่อจำนวนการออกไข่ของไก่ จึงทำ การทดลองเลยี้ งแม่ไก่ 3 ตัว แมไ่ กต่ ัวท่ี 1 เลีย้ งดว้ ยอาหารเม็ด แมไ่ ก่ตัวที่ 2 เล้ยี งด้วยข้าวเปลือก แมไ่ กต่ วั ที่ 3 เลีย้ งดว้ ยเมล็ดข้าวโพด ตัวแปรตน้ คอื ....................................................................................................................... ตวั แปรตาม คอื ..................................................................................................................... ตวั แปรควบคุม คอื ...................................................................................................................... 3. เดก็ หญงิ นำ้ หวานต้องการทดสอบว่า การสนั่ สะเทือนของไม้บรรทัดจะให้เสียงสงู หรือตำ่ ข้ึนอยูก่ ับแรง ดีดของผดู้ ีดหรือไม่ ตัวแปรต้น คือ....................................................................................................................... ตัวแปรตาม คือ..................................................................................................................... ตวั แปรควบคมุ คอื ...................................................................................................................... 4. น้องต้องตาทำการทดลองเพอื่ ดวู า่ แสงแดดมีผลตอ่ การเจริญเตบิ โตของราหรือไม่ จงึ ทำการทดลองโดย นำขนมปงั 2 ก้อนใส่ถว้ ยขนาดเลก็ 2 ใบ ถว้ ยหนงึ่ นำไปเก็บไวใ้ นกล่องมดิ ชดิ แสงแดดสอ่ งไม่ถึง อีกถ้วยนำไปวางตากแดด ทิ้งไว้ 3 วนั สงั เกตและบนั ทกึ ผลการทดลอง ตัวแปรตน้ คือ....................................................................................................................... ตวั แปรตาม คือ..................................................................................................................... ตวั แปรควบคุม คือ......................................................................................................................

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนกั เรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 2 20 ชดุ ที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ แบบทดสอบหลงั เรยี น ชุดกิจกรรมการเรียนร้โู ครงงานวทิ ยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ขอ้ สอบ 10 ข้อ ใชเ้ วลา 10 นาที คะแนนเตม็ 10 คะแนน คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นเลอื กคำตอบท่ีถูกต้องที่สดุ แลว้ ทำเครื่องหมาย X ลงในกระดาษคำตอบ 1. สมมตฐิ านมคี วามสัมพนั ธ์กบั การทดลองอย่างไร 3. แกละ ไดท้ ำการทดลองเพ่ือดูวา่ แสงแดดมีอิทธิพล ก. บอกผลการทดลองล่วงหนา้ ได้อย่างแมน่ ยำ ข. ให้แนวทางในการออกแบบการทดลอง ต่อการเจรญิ เติบโตของราหรือไม่ เขาจึงทำการทดลอง ค. ช่วยให้ได้ผลการทดลองที่เป็นไปตามทฤษฏี ง. ถกู ทุกข้อ นำขา้ วสกุ ใสถ่ ้วยขนาดเลก็ เทา่ กนั 2 ใบ แล้วนำไปเกบ็ 2. ข้อใดเปน็ สมมติฐาน ในกลอ่ งกระดาษปิดให้มดิ ชิด 1 ใบ วางไว้กลางแจ้ง 1 ก. ทำไมขวดพลาสติกจึงยุบลงไป ข. ถา้ เปลี่ยนจากน้ำร้อนเปน็ นำ้ เย็น ผลทไ่ี ดจ้ ะ ใบ ทง้ิ ไว้ 3 วัน จังสังเกตและบนั ทกึ ผลทเ่ี กิดขึน้ ตัว แตกต่างกนั หรือไม่ ค. ขนาดของขวดพลาสตกิ มีผลต่อการ แปรตน้ ของการทดลองน้ีคืออะไร เปลยี่ นแปลงของลูกโปง่ ง. ขวดพลาสตกิ รปู ทรงอื่นๆจะให้ผลการทดลอง ก. ขา้ วสกุ ข. แสงแดด เป็นอยา่ งไร ค. การเจรญิ เตบิ โตของรา ง. กล่องกระดาษปิดมิดชิด 4. ในการสำรวจตรวจสอบโดยการทดลอง เหตใุ ดจึง ตอ้ งมีตวั แปรควบคมุ ก. เป็นสาเหตทุ ี่ทำให้เกิดผลต่างๆ ข. เปน็ ส่งิ ที่ตอ้ งการศึกษา ค. เป็นส่ิงทีเ่ ปน็ ผลเนื่องมาจากตัวแปรตน้ ง. เป็นส่งิ ที่ไม่ให้มีผลตอ่ การทดลอง

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นักเรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 21 ชุดที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ แบบทดสอบหลงั เรียน 5. “การงอกของเมลด็ ขา้ วในเวลาที่ต่างกันข้ึนอยู่กับ 8. ขอ้ ใดกล่าวไม่ถกู ต้อง เก่ียวกับ สมมตฐิ าน ปริมาณของนำ้ ท่ไี ดร้ ับ” จากข้อความดงั กลา่ ว ก. เปน็ ส่งิ ที่ตอ้ งการศึกษา หรือสาเหตุทท่ี ำใหเ้ กิด ตวั แปรควบคุมของการทดลองนี้คืออะไร สง่ิ ต่างๆ ข. ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรตน้ ตัวแปรตน้ และ ก. ปรมิ าณของน้ำที่ได้รับ ตัวแปรตาม ข. อุณหภูมิ ค. การคาดการณ์คำตอบของปญั หาลว่ งหนา้ อย่าง ค. ดนิ ทใี่ ช้ มเี หตผุ ล ง. ถูกทั้ง ข และ ค ง. ใชป้ ระสบการณ์เดิมเป็นพน้ื ฐานในการคิดข้ึนมา 6. ข้อใดกลา่ วถงึ ตัวแปร ได้ถกู ตอ้ ง 9. สมมติฐานทีด่ คี วรมีลักษณะอย่างไร ก. มี 2 ประเภท คือ ตวั แปรต้นและตวั แปรตาม ก. เปน็ ข้อความที่พยากรณผ์ ลทค่ี าดว่าจะเกดิ ขนึ้ ข. มีวธิ ีดำเนินการทดลองเพื่อนำไปส่คู ำตอบที่ ข. เป็นข้อความที่แสดงความสมั พันธก์ ับตัวแปร ตอ้ งการ ชัดเจน และเขา้ ใจง่าย ค. มีผลทำใหก้ ารแกป้ ญั หาหรือผลการทดลอง ค. ใหแ้ นวทางในการออกแบบการทดลองเพอื่ เปลีย่ นแปลงได้ ตรวจสอบ ง. มคี ำตอบของปญั หาทคี่ าดการณไ์ วล้ ว่ งหนา้ ง. ถกู ทกุ ข้อ 7. ข้อใด ไมใ่ ช่ ประเดน็ ท่ีต้องรว่ มกันคิดวางแผนใน 10. “การส่ันสะเทือนของไม้บรรทัดจะใหเ้ สียงสูงหรือ การทำโครงงาน ต่ำขึ้นอยกู่ บั แรงดดี ของคนดีด” จากข้อความดงั กลา่ ว ก. สาเหตุของปัญหา ข. ความรู้ของผู้ทำโครงงาน ตัวแปรตามของการทดลองนคี้ ืออะไร ค. การออกแบบการทดลอง ง. วสั ดุ อุปกรณ์และสารเคมี ก. แรงดดี ข. เสยี งทีเ่ กดิ ขนึ้ ค. คนดดี ง. ไมบ้ รรทัด

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนกั เรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 22 ชุดท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ เกณฑก์ ารประเมิน

ชุดกิจกรรมการเรียนรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรียนช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 23 ชดุ ท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ เกณฑ์การประเมิน ใบกิจกรรม 4.1 ตวั แปรและสมมตฐิ าน ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ ชดุ ที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ ใบกิจกรรม 4.1 ชุดที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ ถูกต้อง 1 คะแนน ไม่ถูกต้อง 0 คะแนน เกณฑ์การผ่านการประเมิน 6 คะแนนข้ึนไป (ร้อยละ 80)

ชดุ กิจกรรมการเรียนรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นักเรยี นช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 2 24 ชดุ ท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ แบบประเมนิ ใบกิจกรรม 4.2 วางแผนและออกแบบการทำโครงงาน ชอื่ ……………………………………….. ชั้น…………หน่วยการเรยี นรทู้ ี่………………กิจกรรม………………………………. คำช้ีแจง : ให้ผปู้ ระเมนิ ขีด / ลงในชอ่ งทตี่ รงกับระดบั คะแนน โดยใหศ้ ึกษาเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงาน ประเด็นที่ประเมนิ ผู้ประเมนิ 1. ตรงตามจุดประสงค์ท่ีกำหนด ตนเอง เพือ่ น ครู 4 3 2 1 4 3214321 2. มีความถูกต้องสมบูรณ์และเป็น ปัจจุบัน 3. มีความคิดสร้างสรรค์ 4. มีความเปน็ ระเบยี บ 5. เสร็จเรยี บรอ้ ยตามเวลาทกี่ ำหนด รวม รวมทุกรายการ เฉลยี่ ผู้ประเมิน……………………………………………………….. (ตนเอง) ผปู้ ระเมนิ ……………………………………………………….. (เพือ่ น) ผูป้ ระเมิน……………………………………………………….. (ครู)

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนกั เรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 25 ชดุ ท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ เกณฑก์ ารประเมนิ ใบกจิ กรรม 4.2 วางแผนและออกแบบการทำโครงงาน ประเดน็ ทปี่ ระเมิน คะแนน 1.ผลงานตรงตาม 4 32 1 จุดประสงคท์ ่กี ำหนด ผลงานสอดคลอ้ งกับ ผลงานไม่สอดคล้อง จุดประสงค์ทุก ผลงานสอดคล้องกับ ผลงานสอดคลอ้ งกบั กับจดุ ประสงค์ 2.ผลงานมคี วาม ประเดน็ ถูกต้องสมบูรณ์และ เนอ้ื หาสาระของ จุดประสงค์ จดุ ประสงค์บาง เน้ือหาสาระของ เป็นปัจจบุ ัน ผลงานถูกต้อง ผลงานไมถ่ ูกตอ้ ง เป็น ครบถ้วนเปน็ ปจั จบุ ัน เปน็ ส่วนใหญ่ ประเดน็ สว่ นใหญ่ 3.ผลงานมคี วามคดิ สร้างสรรค์ ผลงานแสดงออกถงึ เนือ้ หาสาระของ เนื้อหาสาระของ ผลงานไม่แสดงแนวคดิ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ใหม่ 4.ผลงานมคี วามเปน็ แปลกใหมแ่ ละเป็น ผลงานถกู ตอ้ ง ผลงานถูกตอ้ ง ระเบียบ ระบบ ผลงานส่วนใหญไ่ ม่เปน็ ผลงานมีความเปน็ ครบถว้ นเป็นสว่ นใหญ่ ครบถ้วนเป็นบาง ระเบยี บและมี 5.ผลงานเสร็จ ระเบียบ แสดงออกถงึ ข้อบกพรอ่ ง เรยี บรอ้ ยตามเวลาที่ ความประณีต ประเดน็ สง่ ผลงานช้ากวา่ เวลา กำหนด ส่งผลงานตามเวลา ทกี่ ำหนด 5 วนั ท่กี ำหนด ผลงานมีแนวคดิ แปลก ผลงานมีความน่าสนใจ ใหม่ แตย่ งั ไมเ่ ป็น แตย่ งั ไมม่ ีแนวคดิ ระบบ แปลกใหม่ ผลงานสว่ นใหญม่ ี ผลงานมคี วามเป็น ความเปน็ ระเบียบแต่มี ระเบยี บแต่มี ขอ้ บกพรอ่ งบางส่วน ขอ้ บกพร่องบางสว่ น ส่งผลงานชา้ กว่าเวลา ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ท่กี ำหนด 1-2 วนั ทก่ี ำหนด 3-5 วัน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ระดับคุณภาพ คะแนน ดมี าก 17-20 ดี 13-16 9-12 ปานกลาง 5-8 ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผ่านการประเมนิ ระดับ ดี

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนกั เรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 26 ชุดที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ เกณฑ์การประเมิน คำถามชวนคดิ ชวนทำและแบบทดสอบหลงั เรียน ชดุ กิจกรรมการเรยี นรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ ชุดที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ คำถามชวนคิดชวนทำ ชุดท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ตอนที่ 1 เขียนสาเหตุของปญั หาและตั้งสมมติฐาน 4 ข้อ 5 คะแนน เขยี นสาเหตขุ องปญั หาและตัง้ สมมติฐาน 3 ข้อ 4 คะแนน เขียนสาเหตขุ องปัญหาและตง้ั สมมติฐาน 2 ขอ้ 3 คะแนน เขียนสาเหตุของปัญหาและตงั้ สมมตฐิ าน 1 ข้อ 2 คะแนน ไมเ่ ขียนสาเหตขุ องปัญหาและตัง้ สมมตฐิ าน 0 คะแนน ตอนท่ี 2 ข้อ 1 เขยี นปัจจัยและตงั้ สมมติฐาน 4 ข้อข้นึ ไป 5 คะแนน เขยี นปจั จัยและต้ังสมมตฐิ าน 3 ข้อ 4 คะแนน เขียนปัจจัยและตั้งสมมติฐาน 2 ขอ้ 3 คะแนน เขยี นปัจจัยและตง้ั สมมตฐิ าน 1 ข้อ 2 คะแนน ไมเ่ ขียนปจั จัยและต้ังสมมติฐาน 0 คะแนน ขอ้ 2-4 ระบตุ วั แปรและต้ังสมมตฐิ าน 1 คะแนน ระบตุ ัวแปรไมค่ รบและไม่ต้งั สมมตฐิ าน 0 คะแนน ตอนท่ี 3 ระบุตวั แปรครบ 3 ชนดิ 1 คะแนน ระบุตวั แปรไม่ครบ 3 ชนดิ 0 คะแนน เกณฑ์การผา่ นการประเมิน 12 คะแนนขนึ้ ไป (รอ้ ยละ 80) แบบทดสอบหลังเรยี น ชุดท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ ถกู ต้อง 1 คะแนน ไม่ถูกต้อง 0 คะแนน เกณฑ์การผ่านการประเมนิ 8 คะแนนขึ้นไป (รอ้ ยละ 80)

ชุดกิจกรรมการเรียนรูโ้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 27 ชุดท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล คำช้ีแจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน เลขท่ี ช่ือ-สกลุ ความตั้งใจใน ความ การตรงต่อ ความสะอาด ผลสำเร็จของ ของผู้รบั การประเมนิ การทำงาน รับผดิ ชอบ เวลา เรยี บรอ้ ย งาน 321 321 321 321 321 ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................

ชุดกจิ กรรมการเรยี นร้โู ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2 28 ชุดที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ เกณฑก์ ารให้คะแนน แบบประเมนิ พฤติกรรมรายบุคคล ประเดน็ ท่ีประเมนิ 3 คะแนน 1 ความตัง้ ใจในการทำงาน มคี วามตั้งใจในการทำงานดี 2 ไมม่ ีความตง้ั ใจในการทำงาน ความรับผิดชอบ การตรงต่อเวลา ทำงานตามที่ไดร้ บั มอบหมาย มีความตงั้ ใจในการทำงาน ไม่มีทำงานตามที่ไดร้ ับ ครบถ้วน พอใช้ มอบหมาย ความสะอาดเรยี บร้อย ทำงานเสร็จทันเวลาทกี่ ำหนด ทำงานตามทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย ทำงานไมเ่ สรจ็ ตามเวลาที่ บางสว่ น กำหนด ผลสำเร็จของงาน เขียนตวั อักษร ตวั สะกดและ ทำงานเสร็จช้ากวา่ เวลาที่ เขียนตวั สะกดและไวยากรณ์ ไวยากรณถ์ กู ต้อง ชัดเจน อา่ น กำหนดไม่เกนิ 10 นาที ไมถ่ ูกต้องเปน็ ส่วนมาก มี ง่าย ไม่มรี อ่ งรอยการแกไ้ ข เขยี นตัวอกั ษร ตัวสะกดและ ร่องรอยการแกไ้ ขมากกว่า ไวยากรณถ์ ูกต้องบางสว่ น 5 จุด ผลงานมีความถกู ต้องครบถว้ น ชดั เจน อ่านงา่ ย มีรอ่ งรอยการ ผลงานยังไมถ่ ูกต้องและไม่ ตรงตามจุดประสงค์ แกไ้ ขไมเ่ กิน 5 จุด ตรงตามจุดประสงค์ ผลงานมคี วามถูกต้องเป็น ส่วนมาก ตรงตามจดุ ประสงค์ เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 11 – 15 ดี 10 - 6 ตำ่ กว่า 6 พอใช้ ปรบั ปรุง เกณฑ์การผา่ นการประเมิน ระดบั ดี

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 29 ชดุ ที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ แบบสังเกตพฤติกรรมนกั เรียน ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ เลข ชือ่ – สกลุ ซ่อื สตั ย์ มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งม่นั ในการ ผลการ ที่ ทำงาน ประเมนิ 3210321032103210 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นักเรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 30 ชดุ ท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ เกณฑ์การให้คะแนนการสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี น ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ประเด็นการสังเกต เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1. ซ่ือสตั ย์ 3 21 0 2. มีวนิ ัย ไมใ่ หข้ อ้ มูลท่ถี ูกตอ้ ง ให้ข้อมลู ทถ่ี กู ตอ้ งและเป็น ให้ขอ้ มูลที่ถูกต้องและเปน็ ให้ข้อมลู ทถี่ กู ตอ้ งและ และเปน็ จริง 3. ใฝ่เรียนรู้ มพี ฤตกิ รรมนำ จรงิ ไมน่ ำสง่ิ ของและ จริง ไม่นำสงิ่ ของและ เป็นจริง ไมน่ ำสงิ่ ของ ส่งิ ของและผลงาน 4. มงุ่ ม่นั ของผอู้ ืน่ มาเปน็ ของ ในการทำงาน ผลงานของผ้อู ืน่ มาเป็น ผลงานของผู้อนื่ มาเป็น และผลงานของผู้อน่ื มา ตนเอง ของตนเอง ปฏบิ ัติตนตอ่ ของตนเอง ปฏบิ ตั ิตนต่อ เป็นของตนเอง ไม่ปฏบิ ตั ิตนตาม ผูอ้ ่นื ดว้ ยความซอื่ ตรง เป็น ผอู้ ่นื ด้วยความซือ่ ตรง ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คับ แบบอย่างท่ดี ดี ้านความ ของโรงเรียน ซ่ือสตั ย์ ไม่ตงั้ ใจเรียน ไมศ่ ึกษาค้นคว้าหา ปฏบิ ัตติ นตามข้อตกลง ปฏบิ ัติตนตามขอ้ ตกลง ปฏบิ ตั ิตนตามขอ้ ตกลง ความรู้ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ไมต่ ้ังใจปฏบิ ตั ิ หน้าที่การงาน ขอ้ บังคับของโรงเรยี น ขอ้ บังคบั ของโรงเรียน ขอ้ บงั คับของโรงเรยี น และ ไมล่ ะเมิดสทิ ธิของ ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั ิ ตรงต่อเวลาในการ ผูอ้ ่ืน ตรงต่อเวลาในการ กิจกรรมและรับผดิ ชอบใน ปฏบิ ตั ิกิจกรรม ปฏิบัติกจิ กรรมและ การทำงาน รับผิดชอบในการทำงาน เข้าเรียนตรงเวลา ตง้ั ใจ เข้าเรยี นตรงเวลา ตงั้ ใจ เข้าเรียนตรงเวลา ตง้ั ใจ เรยี น เอาใจใส่ในการเรยี น เรยี น เอาใจใส่ในการเรยี น เรยี น เอาใจใสใ่ นการ และมสี ว่ นร่วมในการ และมสี ่วนร่วมในการ เรยี น และมสี ว่ นรว่ มใน เรยี นรู้ และเขา้ ร่วม เรยี นรู้ และเข้าร่วม การเรยี นรู้ และเข้าร่วม กจิ กรรมการเรยี นรตู้ า่ งๆ กจิ กรรมการเรียนรตู้ ่างๆ กิจกรรมการเรียนรู้ ทง้ั ภายในและภายนอก บอ่ ยคร้งั ต่างๆ เปน็ บางคร้ัง โรงเรยี นเปน็ ประจำ ตงั้ ใจและรบั ผดิ ชอบในการ ตั้งใจและรบั ผิดชอบใน ตั้งใจและรบั ผิดชอบใน ปฏบิ ตั หิ น้าทีท่ ่ีได้รับ การปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ทีไ่ ดร้ บั การปฏิบัตหิ น้าที่ท่ีไดร้ ับ มอบหมายใหส้ ำเรจ็ มกี าร มอบหมายใหส้ ำเรจ็ มีการ มอบหมายใหส้ ำเร็จ ปรับปรงุ และพฒั นาการ ปรบั ปรงุ และพัฒนาการ ทำงานใหด้ ขี ึ้นภายในเวลา ทำงานใหด้ ขี ึ้น ท่กี ำหนด เกณฑ์การประเมิน คะแนนรวมต้ังแต่ 10 – 12 คะแนน มีคณุ ภาพระดับ 3 ดมี าก เกณฑ์การผ่าน คะแนนรวมตั้งแต่ 7 – 9 คะแนน มคี ุณภาพระดบั 2 ปานกลาง คะแนนรวมตั้งแต่ 4 – 6 คะแนน มีคุณภาพระดบั 1 พอใช้ ระดบั ปานกลาง ขนึ้ ไป

ชุดกิจกรรมการเรยี นรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 31 ชดุ ที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ บรรณานกุ รม สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ. 2546. ค่มู ือวดั ผล ประเมนิ ผลวิทยาศาสตร์. กรุงเทพฯ : องคก์ ารค้าคุรุสภาลาดพร้าว. สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธิการ. 2557. คูม่ ือครูรายวิชาเพ่ิมเตมิ วทิ ยาศาสตร์ สนุกกับโครงงานวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศกึ ษาตอนต้น กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพร้าว. สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธิการ. 2557. หนังสือเรียนรายวชิ า เพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์ สนกุ กับโครงงานวิทยาศาสตร์ ชั้นมธั ยมศึกษาตอนต้น กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพรา้ ว. สมพงศ์ จันทรโ์ พธศิ์ รี. 2558. โครงงานวิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษา (ฉบบั ปรับปรงุ ใหม่). กรุงเทพฯ : ไฮเอ็ดพับลิชช่งิ . JANICE VANCLEAVE. 2559. โครงงานวทิ ยเ์ กรด A+. กรุงเทพฯ : นานมีบุ๊คส์ panugan.2557.แบบฝกึ หัด ตัวแปรต้น ตวั แปรตาม ตัวแปรควบคุม. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก : http://www.doosci.com (15 มกราคม 2560) แบบฝกึ ทกั ษะสมมติฐาน. [ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก : dekthai.anamai.moph.go.th/story4/1/2/5/10/1.doc (15 มกราคม 2560)

ชุดกจิ กรรมการเรียนรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 32 ชดุ ท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์