Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ ชุดที่ 7 การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์และการนำเสนอ

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ ชุดที่ 7 การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์และการนำเสนอ

Published by wsinthra, 2020-06-15 00:04:23

Description: ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ ชุดที่ 7 การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์และการนำเสนอ

Search

Read the Text Version

ชุดกิจกรรมการเรียนรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 2 ชุดที่ 7 การเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์และการนำเสนอ 1

ชุดกิจกรรมการเรียนรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นักเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ชดุ ท่ี 7 การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์และการนำเสนอ ก ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ได้จัดทำขึ้นเพ่ือใช้เป็น สื่อประกอบการเรียนการสอน โดยมีเนื้อหาและกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย สอดคล้องตามหลักสูตร การศึกษาขนั้ พ้ืนฐานพทุ ธศกั ราช 2551 ทเี่ น้นผู้เรียนเปน็ สำคญั โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์การสืบเสาะหา ความรู้ การสำรวจตรวจสอบการสืบค้นข้อมูลและการอภิปรายเพ่ือให้เกิดความรู้ความเข้าใจสามารถส่ือสารสิ่งที่ เรียนรู้มีความสามารถในการตัดสินใจและมีจิตวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดความรู้และพัฒนาทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้เป็นอย่างดี นอกจากน้ียังช่วยให้ครูผู้สอนสามารถนำไปใช้เป็นแบบอย่างหรือ แนวทางในการจัดการเรยี นการสอนให้สอดคลอ้ งกบั จุดม่งุ หมายสำคัญของหลกั สูตรอกี ดว้ ย ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 นี้จะต้องใช้ร่วมกับ แผนการจัดการเรยี นรู้ วิชา โครงงานวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว 22201 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และคู่มือ การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ทผี่ สู้ อนไดจ้ ดั ทำข้นึ การจัดทำชุดกิจกรรมการเรยี นรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เล่มนี้เสร็จ สมบูรณ์ได้เพราะได้รับความอนุเคราะห์จากผู้เช่ียวชาญหลายท่านท่ีได้ให้คำแนะนำปรึกษา จึงขอขอบพระคุณไว้ ณ โอกาสนี้ และหวังเป็นอย่างย่ิงว่าชุดกิจกรรมเล่มน้ี จะช่วยพัฒนานักเรียนโรงเรียนพรมเทพพิทยาคมให้เป็น บุคคลแหง่ การเรยี นรู้ สามารถเปน็ ผู้เรยี นรไู้ ด้ตลอดชวี ติ ตามเจตนารมณ์ท่ตี ัง้ ไว้ วสินทรา ไพรสนิ ธุ์

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรยี นชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2 ชดุ ที่ 7 การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์และการนำเสนอ ข เรือ่ ง หนา้ คำนำ ก สารบัญ ข คำช้ีแจง ค คำแนะนำสำหรบั ครู ง คำแนะนำสำหรบั นักเรียน จ ข้ันตอนการใชช้ ุดกจิ กรรมการเรียนร้โู ครงงานวิทยาศาสตร์ ฉ สาระสำคัญ 1 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 2 กระดาษคำตอบ 3 แบบทดสอบก่อนเรียน 4 ใบกจิ กรรม 7.1 สรุปการทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 6 ใบความรู้ 7.1 การเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 7 ใบความรู้ 7.2 การนำเสนอโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 18 คำถามชวนคิดชวนทำ 24 แบบทดสอบหลงั เรยี น 25 เกณฑ์การประเมิน 27 บรรณานกุ รม 44

ชุดกจิ กรรมการเรียนรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ชดุ ที่ 7 การเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์และการนำเสนอ ค ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 เนื้อหาจัดแบ่งออกเป็น 7 ชดุ ดงั น้ี ชดุ ท่ี 1 วิทยาศาสตรข์ บั เคลื่อนโลก ชุดที่ 2 นักวิทยาศาสตร์น้อย ชดุ ท่ี 3 เร่มิ ตน้ ทำโครงงานอย่างไร ชดุ ที่ 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ ชดุ ที่ 5 การเขยี นเคา้ โครงของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 6 การลงมอื ทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ชุดที่ 7 การเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ ซึง่ เลม่ น้ีเป็นชุดกจิ กรรมการเรียนรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ ชุดท่ี 7 การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ และการนำเสนอ ใช้เวลาในการเรียนการสอน 4 ชั่วโมง ในการนำชุดกิจกรรมน้ีไปใช้ ผู้สอนควรมีการศึกษา คู่มือการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยละเอียด เพ่ือให้การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนบรรลุตามจุดประสงค์ของหลักสูตร ซ่ึงกระบวนการจัดการเรียนรู้เน้น การปฏิบัติกจิ กรรมต่างๆด้วยตนเอง โดยครูผู้สอนเป็นผู้ให้การชว่ ยเหลือและอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติ กิจกรรมและประเมนิ ผลการเรยี นรขู้ องนกั เรยี น หวังเป็นอย่างย่ิงว่าชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์เล่มน้ี จะเป็นประโยชน์ต่อการ พัฒนาการเรยี นรู้ของผเู้ รียน และครสู ามารถนำมาใช้ในการพัฒนาการเรยี นการสอนได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ วสนิ ทรา ไพรสินธ์ุ

ชุดกจิ กรรมการเรียนรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ชุดท่ี 7 การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ ง การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ชุดที่ 7 การเขียนรายงาน โครงงานวิทยาศาสตร์และการนำเสนอ สำหรับกิจกรรมการเรียนการสอนรายวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์ รหัส วชิ า ว 22201 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ผ้สู อนมีบทบาทสำคญั ดงั นี้ 1. เตรยี มเอกสารทร่ี ะบุไว้ในแผนการจัดการเรียนรตู้ ามลำดบั 2. ศึกษารายละเอียดของชดุ กิจกรมการเรียนรู้ 3. ทดลองใชส้ ่ืออุปกรณก์ ารสอน เพอื่ ตรวจสอบว่าใช้งานไดจ้ ริง และแก้ไขเม่ือสอื่ อุปกรณ์การสอนเกิดการ ชำรดุ เสยี หาย 4. ทำการวิเคราะห์นักเรียนโดยแบ่งเป็น เกง่ ปานกลาง อ่อน แล้วแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน และแบ่งหน้าทีด่ งั นี้ 4.1 ประธาน ดแู ลและควบคมุ การทำงานของกลุม่ ใหเ้ ปน็ ไปตามกำหนดเวลา 4.2 รองประธาน ทำหนา้ ทีเ่ ป็นผชู้ ว่ ยประธานและดแู ลกลุ่มแทนเมอ่ื ประธานไม่อยู่ 4.3 เลขานกุ าร บันทึกข้อมลู ปัญหา ความคดิ เหน็ ขอ้ เสนอแนะของสมาชกิ ภายในกลุม่ 4.4 สมาชกิ ให้ความร่วมมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ของกลุ่ม ให้บรรลจุ ดุ ประสงค์ เสนอความคิดเห็น จากข้อมลู ที่ไดท้ ำการศึกษาทดลอง 5. ครชู ี้แจงการเรียนทนี่ ักเรยี นต้องปฏบิ ตั ิตามคำส่งั ในชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ 6. ช้ีแจงกิจกรรมการเรยี นให้นักเรียนทราบ 7. ดำเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ 8. ใหค้ ำแนะนำและเปน็ ท่ีปรึกษาในขณะทนี่ ักเรียนทำกิจกรรม 9. สงั เกตการทำกจิ กรรมของนักเรยี นและการสรุปบทเรียน 10. ตรวจแบบทดสอบย่อยแต่ละชุด แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นและบนั ทึกผลการประเมนิ พฤติกรรมการทำงานกลุม่ และพฤติกรรมระหว่างเรียนของนกั เรียน

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นักเรียนชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 2 ชดุ ที่ 7 การเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ จ 1. ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ชุดท่ี 7 การเขียนรายงานโครงงาน วิทยาศาสตร์และการนำเสนอ เล่มนี้ จัดทำข้ึนเพื่อให้นักเรียนใช้ประกอบการเรียนรู้ในวิชาโครงงาน วิทยาศาสตร์ รหัส ว 22201 ซ่งึ นกั เรียนจะได้ศึกษาเพิ่มเติมด้วยตนเอง 2. ในแต่ละหนา้ ของแต่ละชุดกิจกรรมจะมีเนื้อหาสาระ คำแนะนำหรือคำอธิบาย พร้อมท้ังคำถามให้ นักเรียนได้ศกึ ษาและฝึกทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ความรคู้ วามเขา้ ใจ ตลอดจนทกั ษะในการนำไปใช้ แกป้ ัญหา 3. ใหน้ ักเรยี นอ่านคำชแี้ จงการใช้ชุดกิจกรรมการเรยี นรใู้ หเ้ ขา้ ใจ 4. กอ่ นศึกษา ทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน จำนวน 10 ข้อเพ่อื วดั ความรู้พืน้ ฐาน 5. ศึกษาจุดประสงค์ สาระสำคัญ เน้ือหาในชุดกิจกรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ 6. เรียนรู้ตามกิจกรรมที่ครูผสู้ อนจัดให้ในชุดกิจกรรม มีสื่ออุปกรณ์ในการปฏิบัติ ให้นกั เรยี นปฏิบัติให้ เรียบร้อยและครบถว้ น 7. ทำแบบทดสอบหลงั เรยี น 8. ตรวจคำตอบจากเฉลย เพื่อเปรียบเทยี บพัฒนาการทางการเรยี นของตนเองและจะได้ทราบถงึ พัฒนาการทางด้านความคดิ ความรู้ความเข้าใจจากเรื่องท่ีศึกษา

ชุดกิจกรรมการเรียนรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนักเรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ชุดท่ี 7 การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์และการนำเสนอ ฉ ข้ันตอนการใช้ชดุ กจิ กรรมการเรียนรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ คาชีแ้ จงการใช้ชดุ กิจกรรมการเรียนรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ ทดสอบก่อนเรียน นาเขา้ ส่บู ทเรียน กิจกรรมการเรยี นรู้ สรุป ทดสอบหลงั เรยี น พบครู ผ่าน ไมผ่ ่าน เสรมิ ซอ่ ม

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ชุดท่ี 7 การเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ 1 ชุดกิจกรรมการเรยี นรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 7 การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์และการนำเสนอ สาระสำคญั การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์เป็นการนำข้อมูลท้ังหมดจากการทำโครงงานมาเรียบ เรียงเพ่ือสื่อสารให้ผู้อื่นเข้าใจถึงแนวคิด วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า ผลที่ได้ตลอดจนข้อสรุปและ ข้อเสนอแนะต่างๆ เก่ียวกับโครงงานน้ันๆ นอกจากการเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์แล้ว ยังมี การนำเสนอและแสดงผลงานในรูปแบบต่างๆ เช่น การจัดแสดงนิทรรศการ การนำเสนอด้วยโปสเตอร์ การนำเสนอด้วยคอมพวิ เตอร์ โดยมที ้ังการจดั แสดงและการอธิบายดว้ ยวาจา เพอ่ื ให้ผู้อืน่ รบั รู้และเขา้ ใจ โครงงานวิทยาศาสตรน์ ัน้ ๆ

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2 ชุดท่ี 7 การเขยี นรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์และการนำเสนอ 2 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เม่อื ศึกษาบทเรยี นนีแ้ ล้ว นักเรียนควรจะสามารถ 1. ดา้ นความรู้ (K) 1.1 มีความรคู้ วามเข้าใจเกยี่ วกบั รูปแบบและองคป์ ระกอบของการเขยี นรายงานโครงงาน วิทยาศาสตร์ 1.2 มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกบั การนำเสนอโครงงานวิทยาศาสตร์ในรูปแบบตา่ งๆ 2. ดา้ นทกั ษะ (P) 2.1 เขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ไดถ้ ูกตอ้ งตามรปู แบบ มเี น้ือหาท่ีถูกต้องตามหลัก วิชาการ 2.2 นำเสนอโครงงานวิทยาศาสตร์ในรูปแบบตา่ งๆ แล้วร่วมกนั ตั้งเกณฑ์การใหค้ ะแนนผลงาน ของกล่มุ ตนเองและเพ่ือนกล่มุ อน่ื 3. ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 3.1 มีความรบั ผิดชอบต่องานที่ได้รบั มอบหมาย 3.2 เหน็ คุณค่าและความสำคญั ในการทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์

ชุดกจิ กรรมการเรียนรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ชุดที่ 7 การเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ 3 กระดาษคำตอบ ชดุ ท่ี 7 การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ แบบทดสอบกอ่ นเรียน แบบทดสอบหลังเรยี น ข้อ ก ข ค ง ข้อ ก ข ค ง 1 1 2 2 3 3 4 4 5 5 6 6 7 7 8 8 9 9 10 10 คะแนน สรุปผลการทดสอบ หลงั เรียน คะแนนหลัง เต็ม กอ่ นเรียน คะแนน 10 เรยี นคดิ เปน็ ได้ 10 เต็ม รอ้ ยละ ได้

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ชุดที่ 7 การเขยี นรายงานโครงงานวิทยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ 4 แบบทดสอบกอ่ นเรียน ชุดกิจกรรมการเรียนร้โู ครงงานวทิ ยาศาสตร์ ชดุ ที่ 7 การเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ข้อสอบ 10 ขอ้ ใช้เวลา 10 นาที คะแนนเต็ม 10 คะแนน คำช้แี จง ให้นกั เรียนเลือกคำตอบทีถ่ ูกต้องท่สี ุดแลว้ ทำเครอ่ื งหมาย X ลงในกระดาษคำตอบ 1. การเขยี นรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ 4. ในการเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ มีจดุ ประสงค์ตามข้อใด ส่วนเนื้อเร่อื งประกอบดว้ ยหัวข้อใด ก. เพือ่ สรุปองค์ความรทู้ ่ีไดจ้ ากการทำโครงงาน ก. กิตติกรรมประกาศ บทคัดยอ่ ข. เพ่ือส่ือเผยแพร่และสื่อสารผลการศึกษาใหผ้ ู้อืน่ ข. จุดประสงค์ สมมตฐิ าน ค. ขอบเขตของการทำโครงงาน เข้าใจ ค. เพอื่ รายงานต่อครูท่ีปรึกษาประจำโครงงาน กิตตกิ รรมประกาศ ง. เพ่อื นำเสนอในส่ิงได้จากการทำโครงงาน ง. บทคดั ย่อ บรรณานกุ รม 2. องคป์ ระกอบของการเขยี นรายงานโครงงาน 5. การกำหนด ขอบเขตของการทำโครงงาน วิทยาศาสตร์ มีก่สี ว่ น มีลักษณะอย่างไร ก. กำหนดกลุม่ ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4 ท่ศี กึ ษา 3. การเขยี นเรียงความต่อเนือ่ ง โดยระบุจุดประสงค์ ข. การกำหนดคำจำกัดความเพ่อื ให้เกดิ ขอบเขตของการทำโครงงาน รวมถึงวธิ กี ารทางสถิติ ท่ีใชแ้ ละผลการดำเนนิ งาน เปน็ วธิ ีการเขยี นรายงาน ความเข้าใจตรงกนั ในหัวขอ้ ใด ค. การอธิบายท่ีมาของการทำโครงงาน ก. กิตติกรรมประกาศ ง. ถูกทั้ง ขอ้ ข และ ค ข. คำอธบิ ายสัญลกั ษณ์ กค.. นยิ ามศัพท์เฉพาะ ง. บทคัดย่อ

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ชุดที่ 7 การเขยี นรายงานโครงงานวิทยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ 5 แบบทดสอบก่อนเรียน 6. การนำเสนอโครงงานวิทยาศาสตร์ ควรจัดให้ 9. ขอ้ ใดกล่าวถูกต้องเก่ียวกับการนำเสนอดว้ ย ครอบคลมุ ตามประเดน็ ขอ้ ใดให้มากท่สี ุด คอมพิวเตอร์ ก. ความสำคญั ของโครงงาน ก. ควรนำเสนอข้อมูลอย่างละเอียด ครบถ้วน ข. วธิ กี ารดำเนนิ การ ข. ไม่จำเป็นต้องใชภ้ าษาเป็นทางการ เพื่อให้ ค. ผลการสังเกตและข้อมลู สำคัญจากการทำ เขา้ ใจงา่ ย โครงงาน ค. ใช้สีพ้นื หลังฉูดฉาดเพ่ือดึงดูดความสนใจ ง. ถกู ทุกข้อ ง. เน้นการใชภ้ าพ แผนภมู ิ แทนการใช้ 7. ข้อใดควรมีการจัดวางลงไปในแผงโครงงาน วิทยาศาสตร์เพื่อนำเสนอผลงาน ให้เข้าใจเร่ืองราวได้ ตวั อักษร งา่ ยข้ึน ก. เอกสารท่ีเกยี่ วขอ้ งกับการทำโครงงาน 10. การจดั แสดงและการนำเสนอผลงานในรปู แบบ ข. การอภิปรายผลและสรปุ ผลโครงงาน นิทรรศการ ผู้ทำโครงงานจำเป็นต้องจัดเตรยี มสิ่ง ค. การกำหนดตวั แปรและสมมติฐาน ใดบ้าง ง. แผนภมู ิแสดงความสมั พันธข์ องตวั แปร 8. โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง กระถางตนไม้ ก. รูปเล่มรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ มหศั จรรยจ์ ากเส้นใยพืช ควรมกี ารนำเสนอตามข้อใด ข. แผงโครงงานวิทยาศาสตร์ ก. จัดบอร์ดแสดงผลงาน โดยใช้ภาพประกอบ ค. ผลงานที่ไดจ้ ากการทำโครงงาน ข. การสาธิตผลงานที่ได้จากการทดลอง ค. ใช้โปรแกรมคอมพวิ เตอร์เพ่ือนำเสนอ วิทยาศาสตร์ ง. ถกู ทุกข้อ ผลงาน ง. ออกแบบโปสเตอร์ทม่ี ีข้อความและสีสนั สวยงาม

ใบกจิ กรรม ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 7.1 ชุดท่ี 7 การเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์และการนำเสนอ 6 สรปุ การทำโครงงาน วิทยาศาสตร์ จุดประสงค์ของกจิ กรรม เมื่อทำกิจกรรมน้แี ลว้ นกั เรียนสามารถเขียนบทคดั ย่อของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ได้ คำชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นนำข้อมลู ที่ได้จากการทำโครงงานวิทยาศาสตรข์ องนักเรียนมาเขยี นเปน็ ความเรียง โดยเรม่ิ จาก นักเรียนทำอะไร ดว้ ยวิธกี ารอะไร ไดผ้ ลอย่างไร โดยความยาวไม่เกนิ ครง่ึ หนา้ กระดาษ A4 หรือ 250-300 คำ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรยี นชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ชุดที่ 7 การเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ 7 การเขยี นรายงาน ใบความรู้ 7.1 โครงงานวิทยาศาสตร์ การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ เป็นการเสนอผลงานการดำเนินการเป็นเอกสารจัดว่าเป็น ขั้นตอนสำคัญอีกประการหนึ่งของโครงงาน เม่ือนักเรียนดำเนินการทำโครงงานจนครบขั้นตอนได้ข้อมูล ทำการวิเคราะห์ขอ้ มลู พร้อมทั้งแปรผล และสรปุ ผลแล้ว งานข้ันต่อไปทต่ี อ้ งทำคือ การเขยี นรายงาน การเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ เป็นวิธีสือ่ ความหมายท่ีมีประสิทธิภาพวธิ หี นง่ึ เพ่ือใหค้ นอ่นื ๆ ได้เข้าใจแนวความคิด วิธีดำเนินงานศึกษาค้นคว้าข้อมูล ผลที่ได้ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่าง ๆ เกี่ยวกับโครงงานนัน้ การเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ประกอบด้วยหวั ข้อตา่ ง ๆ ดังนี้ 1. ชื่อโครงงาน 2. ชอื่ ผจู้ ดั ทำโครงงาน 3. ชื่ออาจารยท์ ป่ี รึกษาโครงงาน 4. บทคดั ย่อ 5. กติ ตกิ รรมประกาศ 6. ท่มี าและความสำคัญของโครงงาน 7. วัตถปุ ระสงค์ของการทำโครงงาน 8. สมมติฐานของการศกึ ษา 9. ขอบเขตของการทำโครงงาน 10. นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ

ชุดกิจกรรมการเรียนรูโ้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นักเรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ชดุ ท่ี 7 การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์และการนำเสนอ 8 11. วิธดี ำเนินการ 12. ผลการศึกษาค้นคว้า 13. สรุปผลและขอ้ เสนอแนะ 14. เอกสารอา้ งอิง / บรรณานุกรม 1 ชอ่ื โครงงาน ชื่อโครงงานเป็นสงิ่ สำคัญประการแรก เพราะชอ่ื โครงการจะช่วยโยงความคิดไปถงึ วัตถุประสงคข์ องการ ทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ และควรกำหนดชือ่ โครงการให้สอดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงคห์ ลักด้วย การตั้งช่ือโครงงานของนักเรียนในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา นิยมตั้งช่ือให้มีความกะทัดรัด และดึงดูดความสนใจจากผู้อ่าน ผู้ฟัง แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึง คือ ผู้ทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ต้องเข้าใจปัญหาท่ี สนใจศึกษาอยา่ งแท้จริง อนั จะนำไปสกู่ ารเข้าใจวัตถุประสงคข์ องการศึกษาอยา่ งแทจ้ รงิ ดว้ ย เช่น โครงงานวิทยาศาสตร์ ช่ือ “ถุงพลาสติกพิชิตแมลงวันตัวน้อย” ซ่ึงปัญหาเร่ืองที่สนใจศึกษาคือถุงน้ำ พลาสติกสามารถไล่แมลงวันที่มาตอมอาหารได้จริงหรือ จากเรื่องดังกล่าวผู้ทำโครงงานวิทยาศาสตร์ บางคน หรือบางคณะอาจสนใจต้ังช่ือโครงงานวิทยาศาสตร์ ว่า “การศึกษาการไล่แมลงวันด้วยถุงน้ำพลาสติก” หรือ “ผลการใช้ถงุ น้ำพลาสติกต่อการไลแ่ มลงวัน” ก็เปน็ ได้ อย่างไรก็ตามจะตั้งช่ือโครงการในแบบใด ๆ น้ัน ต้องคำนึงถึงความสามารถที่จะสื่อความหมายถึง วัตถุประสงคท์ ต่ี อ้ งการศกึ ษาได้ชัดเจน 2 ชอ่ื ผจู้ ัดทำโครงงาน การเขียนชื่อผู้รับผิดชอบโครงงานวิทยาศาสตร์ เป็นสิ่งดีเพื่อจะได้ทราบว่าโครงงานนั้นอยู่ในความ รบั ผดิ ชอบของใครและสามารถติดตามไดท้ ่ีใด

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ชุดท่ี 7 การเขยี นรายงานโครงงานวิทยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ 9 3 ชอ่ื อาจารยท์ ี่ปรกึ ษาโครงงาน การเขียนชื่อผู้ให้คำปรกึ ษาควรให้เกียรติยกย่องและเผยแพร่ รวมท้ังขอบคุณท่ีได้ให้คำแนะนำการทำ โครงงานวิทยาศาสตรจ์ นบรรลเุ ปา้ หมาย 4 บทคัดย่อ เป็นข้อความโดยสรุปของรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ที่สั้นได้ใจความชัดเจน ครอบคลุมเนื้อหา สำคัญของโครงงานวิทยาศาสตร์ เน้ือหาในบทคัดย่อ เป็นการเขียนเรียงความต่อเนื่อง โดยระบุจุดประสงค์ ขอบเขตของโครงงาน รวมถึงวธิ ีการทางสถิติทใ่ี ชแ้ ละผลการดำเนินงาน ในสว่ นของวิธีการดำเนินงานควรระบุ ขนาดของกลุ่มตัวอย่าง วิธีการรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลตามลำดับจุดประสงค์ แล้วนำเสนอผล การดำเนินงานตามลำดับ การเขียนไม่ต้องมีการอา้ งอิงหรือยกตัวอย่าง ข้อความ สมการ ภาพ คำวิจารณ์ และคำฟุ่มเฟือย นำเสนอเฉพาะประเด็นสำคัญในลักษณะการสรุปเท่านั้น ความยาวท้ังหมดไม่ควรเกิน 1 หนา้ A4 (ประมาณ 300-350 คำ) 5 กติ ติกรรมประกาศ กิตติกรรมประกาศเป็นส่วนท่ีผู้ทำโครงงานเขียนแสดงความขอบคุณบุคคล หน่วยงาน สถาบันท่ีให้ ความช่วยเหลือ ให้ความร่วมมือท้ังในการค้นคว้าความรู้ การดำเนินงาน ให้ข้อคิดเห็นและให้ข้อมูล การ ระบุช่ือควรใช้ช่ือนามสกุลและตำแหน่งวิชาการที่ถูกต้อง ชื่อเต็มสถาบันหรือหน่วยงาน ส่วนใหญ่โครงงาน วิทยาศาสตร์มักจะเป็นกิจกรรมท่ีได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย ดังนั้นเพ่ือเป็นการเสริมสร้างบรรยากาศ ของความร่วมมอื จงึ ควรไดก้ ล่าวขอบคุณบคุ ลากรหรอื หน่วยงานต่าง ๆ ที่มสี ่วนชว่ ยให้โครงงานน้สี ำเรจ็ ด้วย

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนกั เรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ชดุ ท่ี 7 การเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ 10 6 ทม่ี าและความสำคัญของโครงงาน ในการเขียนท่ีมาและความสำคัญของโครงงานวิทยาศาสตร์ ผู้ทำโครงงานจำเป็นต้องศึกษา หลักการ ทฤษฎีเกี่ยวกับเร่ืองที่สนใจจะศึกษา หรือพูดเข้าใจง่าย ๆ ว่าเรื่องที่สนใจจะศึกษานั้นต้องมีทฤษฎีแนวคิด สนับสนนุ เพราะความรู้เหล่าน้ีจะเป็นแนวทางสำคัญในเรอื่ งตอ่ ไปนี้ - แนวทางต้ังสมมติฐานของเรอ่ื งทศ่ี ึกษา - แนวทางในการออกแบบการทดลองหรือการรวบรวมข้อมลู - ใช้ประกอบการอภิปรายผลการศึกษา ตลอดจนเสนอแนะเพื่อนำความรู้และส่ิงประดิษฐ์ ใหม่ที่ค้นพบไปใชป้ ระโยชนต์ ่อไป การเขียนที่มาและความสำคญั ของโครงงาน คือ การอธิบายให้กระจ่างชัดว่าทำไม ตอ้ งทำ ทำแล้วได้ อะไร หากไม่ทำจะเกิดผลเสียอย่างไร ซึ่งมีหลักการเขียนคล้ายการเขียนเรียงความ ท่ัว ๆ ไป คือ มีคำนำ เนอื้ เร่อื ง และสรุป สว่ นที่ 1 คำนำ : เปน็ การบรรยายถึงนโยบาย เกณฑ์ สภาพทัว่ ๆ ไป หรอื ปัญหาที่มสี ่วนสนับสนุนให้ ริเริม่ ทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ สว่ นที่ 2 เน้ือเรอ่ื ง : อธิบายถึงรายละเอยี ดเช่ือมโยงให้เห็นประโยชนข์ องการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ โดยมี หลกั การ ทฤษฎีสนบั สนนุ เรอื่ งท่ีศกึ ษา หรอื การบรรยายผลกระทบ ถ้าไม่ทำโครงงานเร่อื งนี้ สว่ นที่ 3 สรปุ : สรปุ ถึงความจำเป็นที่ตอ้ งดำเนินการตามสว่ นที่ 2 เพ่ือแก้ไขปัญหา คน้ ขอ้ ความรู้ใหม่ ค้นส่งิ ประดิษฐใ์ หม่ให้เปน็ ไปตามเหตุผลสว่ นที่ 1

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2 ชุดท่ี 7 การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์และการนำเสนอ 11 7 วตั ถปุ ระสงคข์ องการทำโครงงาน วัตถุประสงค์ คือ กำหนดจุดมุ่งหมายปลายทางที่ต้องการให้เกิดจากการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ใน การเขียนวัตถุประสงค์ ต้องเขียนให้ชัดเจน อ่านเข้าใจง่ายสอดคล้องกับช่ือโครงงาน หากมีวัตถุประสงค์หลาย ประเด็น ให้ระบุเป็นข้อ ๆ การเขียนวัตถุประสงค์มีความสำคัญต่อแนวทาง การศึกษา ตลอดจนข้อความรู้ท่ี ค้นพบหรอื ส่ิงประดิษฐ์ท่ีค้นพบนั้นจะมีความสมบรู ณ์ครบถ้วน คือ ต้องสอดคล้องกับวตั ถปุ ระสงค์ทกุ ๆ ขอ้ 8 สมมตฐิ านของการศกึ ษา สมมติฐานของการศึกษา เป็นทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่ผู้ทำโครงงาน ต้องให้ความสำคัญ เพราะจะทำให้เป็นการกำหนดแนวทางในการออกแบบการทดลองได้ชัดเจนและรอบคอบ ซ่ึงสมมติฐานก็คือ การคาดคะเนคำตอบของปัญหาอย่างมหี ลักและเหตุผล ตามหลักการ ทฤษฎี รวมทง้ั ผลการศึกษาของโครงงาน ทไ่ี ดท้ ำมาแลว้ 9 ขอบเขตของการทำโครงงาน ผู้ทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ต้องให้ความสำคัญต่อการกำหนดขอบเขตการทำโครงงาน เพื่อให้ได้ผล การศึกษาทน่ี ่าเช่อื ถอื ซึ่งไดแ้ ก่ การกำหนดประชากร กลุม่ ตวั อยา่ ง ตลอดจนตัวแปรทศ่ี ึกษา 1. การกำหนดประชากร และกลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา คือ การกำหนดประชากรที่ศึกษาอาจ เป็นคนหรือสัตว์หรอื พืช ช่ือใด กลุ่มใด ประเภทใด อยู่ที่ไหน เม่ือเวลาใด รวมท้ังกำหนดกลุ่มตวั อย่างท่ีมีขนาด เหมาะสมเปน็ ตวั แทนของประชากรทส่ี นใจศึกษา 2. ตัวแปรท่ศี ึกษา การศกึ ษาโครงงานวิทยาศาสตร์ สว่ นมากมักเป็นการศกึ ษาความสัมพันธ์ เชงิ เหตแุ ละผล หรือความสัมพันธร์ ะหว่างตวั แปรตั้งแต่ 2 ตัวแปรขึน้ ไป การบอกชนิดของ ตัวแปรอย่างถูกต้อง และชัดเจน รวมทั้งการควบคุมตัวแปรที่ไมส่ นใจศึกษา เป็นทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ทผ่ี ู้ทำโครงงาน ต้องเข้าใจ ตัวแปรใดที่ศึกษาเปน็ ตวั แปรตน้ ตวั แปรใดทศี่ ึกษาเป็น ตัวแปรตาม และตัวแปรใดบ้างเปน็ ตวั แปรที่ ต้องควบคุมเพื่อเป็นแนวทางการออกแบบการทดลอง ตลอดจนมีผลต่อการเขียนรายงานการทำโครงงาน วทิ ยาศาสตร์ท่ถี ูกตอ้ ง ส่ือความหมายใหผ้ ้ฟู ังและผู้อา่ นให้เข้าใจตรงกัน

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 2 ชดุ ที่ 7 การเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์และการนำเสนอ 12 10 นิยามศัพทเ์ ฉพาะ เป็นการให้ความหมาย หรือคำจำกัดความของคำศัพท์ที่ผู้ทำโครงงานใช้ในการทำโครงงาน วิทยาศาสตร์ ซ่ึงเป็นความหมายที่ใช้เฉพาะงานท่ีทำ เพื่อให้เกิดความเข้าใจท่ีตรงกัน ท้ังผู้ทำโครงงาน วิทยาศาสตร์และผอู้ ่าน อาจเรียกได้ว่าเป็น นิยามเชิงปฏิบัตกิ าร ซึ่งเปน็ การกำหนดความหมายและขอบเขต ของคำต่างๆ ในการศึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์ของนักเรียนเอง เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน ในการ ดำเนินการศึกษา การเก็บข้อมลู หรือ การสรุปผลการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ การเลือกส่ิงทีน่ ำมากำหนด นิยามเชิงปฏิบัติการ จะต้องเป็นส่ิงที่สำคัญ ซ่ึงมีผลต่อการศึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์ของนักเรียน ซ่ึงมี รายละเอียดสำคัญและหากไม่กำหนดนิยามดังกล่าว จะทำให้ผู้อ่ืนเข้าใจคลาดเคลื่อนนิยามเชิงปฏิบัติการท่ีดี จะตอ้ งให้รายละเอียดของคำท่ตี ้องการกำหนดนยิ ามเชิงปฏิบัตกิ ารใหช้ ดั เจน เขา้ ใจงา่ ย 11 วิธีดำเนินการ วธิ ีดำเนินการ หมายถึง วธิ กี ารท่ีช่วยให้งานบรรลุตามวัตถุประสงคข์ องการทำโครงงาน ตง้ั แต่เร่ิมเสนอ โครงการกระท่งั สิน้ สดุ โครงการ ซ่งึ ประกอบดว้ ย 1. การกำหนดประชากร กลุม่ ตัวอย่างที่ศกึ ษา 2. การสร้างเครื่องมือเก็บรวบรวมขอ้ มลู 3. การเกบ็ รวบรวมข้อมูล 4. การวเิ คราะห์ข้อมลู ในการเขยี นวิธดี ำเนินการใหร้ ะบุกจิ กรรมทต่ี ้องทำให้ชดั เจนวา่ จะทำอะไรบา้ ง เรียงลำดบั กจิ กรรมกอ่ น และหลังให้ชัดเจน เพอ่ื สามารถนำโครงการไปปฏบิ ัติอย่างตอ่ เน่ืองและถูกต้อง

ชดุ กิจกรรมการเรียนร้โู ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรียนช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 2 ชดุ ท่ี 7 การเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ 13 12 ผลการศึกษาค้นคว้า นำเสนอข้อมูลหรือผลการทดลองต่าง ๆ ท่ีสังเกตรวบรวมได้ รวมทั้งเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่ วเิ คราะห์ไดด้ ว้ ย 13 สรุปผลและข้อเสนอแนะ อธิบายผลสรุปท่ไี ดจ้ ากการทำโครงงาน ถา้ มีการต้งั สมมติฐาน ควรระบุด้วยวา่ ข้อมลู ท่ไี ด้สนับสนนุ หรือ คัดค้านสมติฐานที่ตั้งไว้ หรือยังสรุปไม่ได้ นอกจากน้ียังควรกล่าวถึงการนำผลการทดลองไปใช้ประโยชน์ อปุ สรรคของการทำโครงงานหรือข้อสังเกตทส่ี ำคัญหรือขอ้ ผิดพลาดบางประการที่เกิดขึ้นจากการทำโครงงานน้ี รวมทงั้ ข้อเสนอแนะเพ่ือการปรับปรงุ แกไ้ ข หากมผี ้ศู กึ ษาคน้ ควา้ ในเร่อื งทท่ี ำนองนีต้ อ่ ไปในอนาคตด้วย 14 เอกสารอ้างอิง / บรรณานุกรม เอกสารอ้างองิ คือ รายช่อื เอกสารที่นำมาอ้างอิงเพ่ือประกอบการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ตลอดจน การเขียนรายงานการทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ควรเขยี นตามหลกั การทนี่ ยิ มกนั

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนกั เรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ชุดที่ 7 การเขยี นรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์และการนำเสนอ 14 ในการเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ มอี งคป์ ระกอบท้งั หมด 3 ส่วนคือ สว่ นนำ สว่ นเนือ้ เร่อื ง และส่วนอา้ งองิ ส่วนนำ ประกอบด้วย ปกนอก ขอ้ ความที่แสดงควรมี ชอื่ เรื่องโครงงานวิทยาศาสตร์ ช่ือนักเรียนผู้จัดทำโครงงานทกุ คน มขี อ้ ความทบ่ี อกให้ทราบถงึ โอกาสในการทำโครงงาน เช่น รายงานนี้เปน็ ส่วนหนึง่ ของรายวิชาสนกุ กับโครงงาน วิทยาศาสตร์ โรงเรียน.............. ภาคเรียนที่...... ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี....... ปีการศึกษา............ ซึ่งท้ังหมดควร จัดเรียงให้กระจายอยู่บนปก โดยการนำเสนอข้อมูลมีความเป็นระเบียบ อ่านง่าย ขนาดตัวอักษรพอเหมาะ และการเลอื กกระดาษทีใ่ ชค้ วรสีสุภาพ ไมม่ ีลวดลาย ปกใน มีเน้ือหาและลักษณะการวางข้อความเช่นเดียวกับปกนอก อาจมีรายนามอาจารย์ที่ ปรกึ ษาหรอื ทีป่ รึกษาพเิ ศษ ในกรณที ี่มที ่ีปรกึ ษาจากหนว่ ยงานนอกโรงเรยี น บทคัดย่อ เป็นข้อความโดยสรุปของรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตรท์ ่ีส้ันได้ใจความ ความยาวไม่ เกินคร่งึ หนา้ กิตติกรรมประกาศ เป็นส่วนท่ีทำโครงงานเขียนแสดงความขอบคณุ บุคคล สถาบัน หน่วยงานท่ี ให้ความช่วยเหลือ หรือให้ความร่วมมือในการค้นคว้าความรู้ อนุเคราะห์เครื่องมือ การดำเนินงานให้ ขอ้ คดิ เหน็ และขอ้ มลู ที่เปน็ ประโยชน์ในการทำโครงงาน สารบัญ เป็นส่วนที่แสดงลำดับของรายงานท้ังฉบับ ซ่ึงถ้ารายงานโครงงานมีการแสดงผลเป็น ตารางและภาพ เช่น รูปภาพ แผนท่ี แผนภูมิ กราฟ เป็นต้น ต้องมีสารบัญตาราง และสารบัญภาพเพ่ิมเติม ดว้ ย สว่ นเน้อื หา 5 บท ประกอบด้วย บทท่ี 1 บทนำ - ท่มี าและความสำคัญของโครงงาน - จดุ ประสงค์ - สมมตฐิ าน (ถา้ ม)ี - ตวั แปร (ถ้ามี) - นิยามเชงิ ศัพท์เฉพาะ (ถา้ มี) - ขอบเขตการศึกษา - ประโยชนท์ ีค่ าดวา่ จะได้รบั

ชุดกิจกรรมการเรียนรูโ้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ชุดท่ี 7 การเขยี นรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์และการนำเสนอ 15 บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ัยทีเ่ กี่ยวข้อง ประกอบไปดว้ ยเนือ้ หา ทฤษฎีจากเอกสารงานวิจยั หนังสอื และโครงงานวิทยาศาสตรท์ ่เี กี่ยวข้องโดยตรงกบั โครงงานของนักเรยี น ซึ่งมผี ู้อ่ืนศึกษาทดลองมากอ่ น บทท่ี 3 วิธีการดำเนินการทดลอง บทนี้เป็นการนำเสนอวิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า รูปแบบหรือประเภทของโครงงาน กลุ่มตัวอย่าง เครือ่ งมือทใ่ี ชใ้ นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล วธิ ีการวิเคราะหข์ อ้ มลู โดยมีหัวข้อย่อย ดงั นี้ 1. วัสดุ อุปกรณ์ 2. สารเคมี (ถา้ มี) เขยี นเป็นภาษาไทยตามศัพท์บัญญตั โิ ดยราชบณั ฑิต และควรระบเุ ปน็ ชอื่ ภาษาอังกฤษ พร้อมวงเลบ็ สตู รเคมีไว้ท้ายชอ่ื 3. ข้ันตอนการดำเนนิ งาน นกั เรยี นตอ้ งเขยี นรายงานเรียงลำดบั ตามจดุ ประสงคแ์ ละสมมติฐานให้ สอดคลอ้ งและครบถ้วน นอกจากนี้ ควรกลา่ วถึงการออกแบบสำรวจ ประดิษฐ์ ทดลอง และสถิตทิ ี่ใช้ใน การวิเคราะห์ข้อมูลไว้อยา่ งชัดเจน บทท่ี 4 ผลการทดลอง / ผลการศกึ ษา ส่วนนี้เป็นการนำเสนอผลการศึกษา การสำรวจ ประดิษฐ์ ทดลอง ท่ีนักเรียนได้ค้นพบด้วยตนเอง รวมทั้งรายงานผลการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งการเขียนผลการศึกษาต้องเขียนตามลำดับให้สอดคล้องกับ จุดประสงค์และวิธีการดำเนินงาน ใช้ข้อความกะทัดรัด อาจมีการจัดกระทำข้อมูลและนำเสนอในรูปของ ตาราง กราฟ ภาพประกอบให้เหมาะสมกับขอ้ มูล บทที่ 5 สรุปและอภปิ รายผล การเขียนสรุปผลท่ีได้จากการทำโครงงานอย่างย่อ ถ้ามีการสมมติฐานควรระบุว่า ผลที่ได้สนับสนุน หรือคัดค้านกับสมมติฐาน แล้วสรุปผลเป็นลำดับตามจุดประสงค์และผลการดำเนินงาน ในส่วนของการ อภปิ รายผลการดำเนนิ งาน เปน็ การอธบิ ายเหตผุ ลท่ีทำใหไ้ ด้ผลการพสิ ูจน์ สำรวจ ประดิษฐ์ ทดลอง หรอื การ ค้นพบความรู้ใหม่ การอภิปรายผลนักเรียนควรสืบค้นความรู้ต่างๆ เช่น ทฤษฎี หลักการทางวิทยาศาสตร์มา อา้ งอิง เพื่อสนบั สนุนผลการดำเนินงานเพื่อความนา่ เช่ือถอื ของผลการศกึ ษา นอกจากสรุปและอภิปรายผลแล้ว ควรมีข้อเสนอแนะ ซึ่งเป็นการเสนอข้อควรปรับปรุงหรือแก้ไข ปัญหา อปุ สรรค เพ่ือนำไปสู่การพฒั นา หากมผี ู้ที่ต้องการศึกษาเรือ่ งนี้ต่อ

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ชดุ ท่ี 7 การเขยี นรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์และการนำเสนอ 16 ส่วนอา้ งองิ เปน็ สว่ นทา้ ยของรายงาน ประกอบดว้ ย บรรณานกุ รมและภาคผนวก บรรณานุกรม เป็นการแสดงรายการช่ือหนังสือ สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ การสัมภาษณ์ ฯลฯ ท่ีนำมาใช้ ประกอบการทำโครงงาน ท้ังน้ีการเขียนรายงานอ้างอิงมีหลายระบบ นักเรียนสามารถเลือกใช้ระบบใดระบบ หนง่ึ แตต่ ้องเป็นระบบการเขียนเดียวกันโดยตลอด ภาคผนวก เป็นส่วนประกอบที่สนับสนุนการศึกษาค้นคว้าของผู้ทำโครงงาน ซ่ึงอยู่ในส่วนท้ายของ รายงาน ตัวอย่างข้อมูลท่ีนำมาไว้ในภาคผนวก เช่น ข้อมูลสำรวจ สิ่งประดิษฐ์ การทดลองที่ยงั ไมไ่ ด้จัดกระทำ ตาราง รูปภาพ กราฟที่มีรายละเอียดมาก ข้อมูลผลการทดลองเบ้ืองต้น ข้อความซึ่งเป็นรายละเอียดเทคนิค วธิ ีการตา่ ง ๆ ที่ต้องการให้ผู้สนใจได้ศกึ ษา เป็นต้น

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรูโ้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นักเรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ชดุ ท่ี 7 การเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ 17 องคป์ ระกอบของการเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ส่วนนำ - ปกนอก ประกอบดว้ ย ตราโรงเรยี น ชอ่ื โครงงาน และช่อื ผทู้ ำ - ใบรองปก - ปกใน คล้ายกับปกนอก แต่เพม่ิ ช่อื ครูท่ปี รกึ ษา หรือท่ปี รึกษาพเิ ศษ - บทคดั ยอ่ - กติ ตกิ รรมประกาศ - สารบัญ ประกอบด้วย สารบัญตาราง สารบญั รปู ภาพ (ถ้ามี) - คำอธิบายสัญลักษณ์และคำย่อ (ถา้ ม)ี บทที่ 1 บทนำ - ทีม่ าและความสำคัญของโครงงาน - วัตถุประสงค์ - สมมตฐิ าน (ถ้าม)ี - ตัวแปร (ถ้าม)ี - นิยามศัพท์เฉพาะ (ถ้ามี) ส่วนเน้ือหา 5 บท - นิยามเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร (ถา้ มี) - ขอบเขตการศึกษา บทท่ี 2 เอกสารและงานวจิ ัยท่ีเก่ียวข้อง บทท่ี 3 วธิ กี ารดำเนนิ การทดลอง - วัสดุอปุ กรณ์ และสารเคมี (ถ้าม)ี - ขัน้ ตอนการดำเนินงาน บทท่ี 4 ผลการทดลอง บทท่ี 5 สรุป อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ ส่วนอ้างองิ บรรณานกุ รม

ชุดกจิ กรรมการเรียนรูโ้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ชุดท่ี 7 การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์และการนำเสนอ 18 การนำเสนอ ใบความรู้ 7.2 โครงงานวิทยาศาสตร์ การจัดแสดงผลงานรปู แบบนทิ รรศการ นิทรรศการ คือ การนำส่ือประเภทตา่ งๆ มานำเสนอด้วยเทคนิค วิธีการ และกจิ กรรมการแสดงตา่ งๆ อย่างมี ระบบ เพอื่ ส่ือสารเนื้อหาความรู้ ผลงาน ให้แก่ผเู้ ขา้ ชมนทิ รรศการ การจัดทำแผงโครงงานวิทยาศาสตร์เพ่ือนำเสนอผลงาน สามารถทำได้ด้วยไม้อัด หรือแผ่นพลาสติกทำบอร์ด กระดาษแข็ง หรือกล่องกระดาษขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่แผงโครงงานจะประกอบด้วย 3 ส่วน คือ สว่ นทางด้านซ้ายมือ และ ขวามือมีขนาดเท่า ๆ กัน และสว่ นกลางมีขนาดใหญ่กว่าอีก 2 ส่วน อย่างไรก็ตาม แผงโครงงานอาจมีได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียน ขนาดของตัวอักษรต้องให้สามารถมองเห็นได้ในระยะ 1 เมตร และมีการ ตกแต่งให้น่าสนใจ มคี วามประณตี แตท่ ง้ั น้ตี อ้ งไมก่ ลบความสำคญั ของสาระ/เนื้อความ แผงหรือบอรด์ แสดงโครงงานวิทยาศาสตร์ แบง่ ออกเป็น 3 ส่วน ดงั นคี้ ือ สว่ นที่ 1 บอร์ดด้านซา้ ย ประกอบด้วย 1. ช่อื โครงงานวิทยาศาสตร์ ชื่อโครงงานเปน็ ส่งิ ที่ดงึ ดูดความสนใจผู้ชมมากท่ีสุด ต้องมคี วามหมายหรือเกี่ยวขอ้ งกบั เร่ืองทจี่ ัดทำ และไม่ยาวเกินไป ขนาดของตัวอักษรควรมีขนาดใหญ่พอสมควรเพ่ือให้ผู้ชมมองเห็นได้ชัดเจน เขียนถูกต้อง และใชต้ ัวอักษรทอ่ี ่านง่าย มีสีสนั สวยงาม สำหรบั ตำแหน่งท่ีตดิ ชื่อโครงงาน นิยมติดอยู่ส่วนบนของบอร์ด อาจ เปน็ มมุ บนซา้ ย มุมบนขวา หรือตรงกลาง แลว้ แตค่ วามเหมาะสมและความสวยงาม 2. ชอื่ คณะผจู้ ัดทำ ช่อื ผู้จัดทำควรมีขนาดเล็กกว่าชื่อโครงงานวทิ ยาศาสตร์ อาจมรี ูปภาพติดด้วยก็ได้ แต่ต้องไม่ใหญ่จนเกินไป จนทำให้จุดสนใจไปอยทู่ ่ผี ูท้ ำโครงงาน

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นร้โู ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนกั เรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ชดุ ที่ 7 การเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์และการนำเสนอ 19 3. ชอื่ ครทู ่ีปรึกษา ช่ือครูที่ปรึกษาจะทำให้ทราบว่าผลงานของนักเรียนอยู่ภายใต้การดูแลของครูท่านใด อาจมี รูปภาพติดด้วยก็ได้ แต่ต้องไม่ใหญ่จนเกินไปจนทำให้จุดสนใจไปอยู่ท่ีผู้ทำโครงงาน ควรวางอยู่ระหว่างช่ือ โครงงาน และชอื่ ผูจ้ ัดทำโครงงาน 4. ชอื่ โรงเรยี น ชื่อโรงเรียนจะทำให้ทราบว่าผลงานเป็นของนักเรียนโรงเรียนใด อาจบอกสังกัดของโรงเรียน หรือ จงั หวัดท่ีต้งั ของโรงเรียนด้วยก็ได้ สว่ นท่ี 2 บอร์ดส่วนกลาง ประกอบด้วย 1. ทีม่ าและความสำคญั ของปัญหา ที่มาและความสำคัญของปัญหา เป็นส่วนทท่ี ำใหผ้ ู้ชมทราบว่าทมี่ าแหง่ ปญั หาของการศึกษาค้นคว้า คืออะไร ซ่ึงจุดน้ีจะต้องเขียนให้รัดกุม ได้ใจความ ถ้าในเน้ือหาตัวจริงยาวเกินไป ก็ควรสรุปให้ส้ัน กรทัดรัด และไดใ้ จความ 2. วัตถปุ ระสงค์ วัตถุประสงค์เป็นส่วนท่ีบอกให้ทราบว่าผู้จัดทำมีวัตถุประสงค์ใดในการจัดทำโครงงานเร่ืองนั้น ๆ ควรมีประมาณ 2 – 3 ขอ้ ไมค่ วรมีมากเกินไป 3. สมมตฐิ าน สมมติฐาน เป็นส่วนท่ีมีความสำคัญอีกขอ้ หนึ่งท่ีจะต้องมีปรากฏบนบอร์ดโครงงาน ยกเว้นโครงงาน ประเภทสำรวจจงึ จะไม่มีสมมตฐิ าน 4. ตัวแปรที่ศกึ ษา ตัวแปรท่ีศึกษา เป็นส่วนที่มีความสำคัญอีกข้อหนึ่งที่จะต้องมีปรากฏบนบอร์ดโครงงาน ยกเว้น โครงงานประเภทสำรวจจึงจะไม่มีตัวแปรที่ศึกษา ตัวแปรท่ีศึกษา ประกอบด้วย ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม และ ตวั แปรควบคุม ซงึ่ จะต้องนำมาแสดงไวท้ ง้ั หมด 5. วธิ ดี ำเนนิ การ วิธดี ำเนนิ การ ประกอบด้วย 5.1 วัสดุอุปกรณ์ ควรชี้แจงให้ละเอียดว่าวัสดุอุปกรณ์ท่ีใช้ในการทำโครงงาน มีอะไรบ้าง อาจมี รปู ภาพประกอบ หรอื อาจจดั แสดงวัสดอุ ุปกรณข์ องจริงไว้บนโตะ๊ ทีจ่ ัดแสดงโครงงานก็ได้ 5.2 วิธีดำเนินการทดลอง เปน็ การบอกรายละเอยี ดของการดำเนนิ การทดลองหรอื วิธกี ารทดลอง อย่างละเอียด อาจมีรูปภาพประกอบเป็นขั้น ๆ เพื่อให้ผู้ชมเข้าใจได้ง่ายและรวดเร็วกว่าการ ที่จะอ่านจากคำ บรรยาย ซ่งึ ตามสภาพความเป็นจรงิ แล้ว ผู้ชมก็จะดภู าพมากกว่าทจ่ี ะอา่ นจากข้อความ 6. ผลการศกึ ษา ผลการศึกษา นิยมนำเสนอด้วยตาราง แผนภูมิ หรือรูปภาพ ประกอบคำบรรยาย ไม่ควรมีคำ บรรยายเพียงอย่างเดยี ว

ชุดกจิ กรรมการเรยี นร้โู ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนกั เรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ชดุ ที่ 7 การเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์และการนำเสนอ 20 ส่วนที่ 3 บอรด์ ด้านขวา ประกอบดว้ ย 1. สรปุ ผลการศกึ ษา สรุปผลการศึกษา เป็นการสรุปผลท่ีได้จากการศึกษาค้นคว้า ซ่ึงควรสรุปให้ได้ใจความ หรืออาจ สรปุ เป็นขอ้ ๆ ตามวตั ถุประสงคข์ องการวิจยั 2. อภปิ รายผลการศกึ ษา อภปิ รายผลการศึกษา เป็นการหาเหตุผลหรือข้อสนับสนุนผลของการทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ของ นักเรยี นเพอ่ื ให้นา่ เชือ่ ถอื มากยงิ่ ขนึ้ 3. ขอ้ เสนอแนะ ข้อเสนอแนะ เป็นการเสนอแนะผลที่ได้จากการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ว่าควรจะนำไปใช้ ประโยชน์อยา่ งไร ท่ีไหน กบั ใคร และเมอ่ื ใด 4. ประโยชน์ท่ีไดร้ บั ประโยชนท์ ี่ได้รบั เป็นการบอกถึงผลท่ีได้รับจากการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ว่าได้รบั ผลประโยชน์ อยา่ งไร การจดั ทำแผงโครงงานมสี ิ่งท่คี วรคำนึงถึง ดงั ต่อไปนี้ 1. ความเป็นเอกภาพ คือ การจัดวางรูปแบบ เช่น รูปแบบ แผนภาพ แผนภูมิ คำบรรยาย ให้อยู่ใน หน่วยเดยี วกันเป็นหมวดหมู่ และมีความสัมพันธก์ ันโดยตลอด มีความเช่อื มโยงตอ่ เนื่องกัน 2. ความสมดุลในการจัดวางขอ้ มลู มีลักษณะท่ีเท่ากันทั้งซ้ายและขวา หรือจัดให้มีความสมดุลโดยอาจ มคี วามแตกตา่ งกนั บา้ ง 3. การเน้นจดุ สนใจหรือเน้นความรูส้ ึก จะต้องเป็นจุดเด่นที่เน้นให้เห็นชัดเจนกวา่ จุดอ่ืน ๆ เพื่อให้เกิด ความประทับใจเป็นอันดับแรก เช่น ช่ือเรื่อง ในการเน้นที่จะให้เกิดจุดเด่น จุดรอง อาจทำได้ด้วยการเน้นด้วย เสน้ ขนาด สี นำ้ หนัก หรือพืน้ ผวิ เปน็ ตน้ 4. ความแตกต่าง เพื่อแก้ปัญหาไม่ให้เกิดความซ้ำ โดยทำให้บางส่วนหรือหลายส่วนเกิดความขัดแย้ง กัน เช่น ใช้เส้นที่ตัดกัน ผิวเรียบตัดด้วยผิวขรุขระ การใช้สีตรงข้าม เพื่อให้เกิดความขัดแย้งกันบ้าง ซึ่งจะช่วย ให้มคี วามสวยงามมากขึน้ 5. ความกลมกลืนและความเรียบง่าย เป็นสิ่งสำคญั ในการจัดแผงโครงงานวิทยาศาสตร์ ควรพิจารณา ส่วนรวมท้ังหมด ให้มีความผสมผสานและกลมกลนื กนั ให้ภาพหรืออักษรส่อื ความหมายไดอ้ ย่างชัดเจน ซ่งึ ช่วย ให้ผชู้ มเกิดความเขา้ ใจเรอ่ื งราวที่นำเสนอได้รวดเรว็ ข้ึน 6. ควรใช้ภาพหรอื กราฟในการส่อื สารแทนการใช้ตวั หนงั สอื

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูโ้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ชดุ ที่ 7 การเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ 21 การนำเสนอด้วยโปสเตอร์ การจัดทำโปสเตอร์ควรวางแผนและออกแบบขนาดท่ีเหมาะสม โดยสว่ นประกอบต่างๆ ของโปสเตอร์ ควรเหมาะสม และผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์ควรมีการนำเสนอรายงานด้วยคำพูดส้ัน ๆ เพ่ือให้โปสเตอร์ อ่านไดง้ ่าย ควรปฏบิ ตั ดิ ังต่อไปนี้ คือ 1. ใช้ตัวหนังสือท่ีสามารถอ่านได้ในระยะประมาณ 1 เมตร และควรเป็นตัวอักษรท่ีอ่านได้ง่าย ถ้าใช้ ตัวหนังสือเล็กไปจะทำให้ผู้ชมไม่สนใจ เม่ือใช้ภาษาอังกฤษ เนื้อความภายในไม่ควรใช้อักษรตัวใหญ่ทุกตัว เพราะอา่ นยาก รปู แบบอักษรควรเปน็ รปู แบบเดียวกันหรือคลา้ ยคลงึ กัน 2. ถ้าพื้นเป็นสีอ่อน การใช้ตัวหนังสือสีเข้มช่วยให้เห็นได้ดี ควรหลีกเล่ียงตัวหนังสือสีเข้มบนพ้ืนสีเข้ม ถ้าจะใช้พื้นสีเข้มควรใช้ตัวหนงั สือสอี ่อน บนโปสเตอร์ไมค่ วรมสี ีทตี่ ัดกันเกินกว่า 3 สี การใช้สีพ้ืนหรือสีตัวอกั ษร ยังช่วยแยกความแตกต่างของแต่ละเรื่อง และเน้นความสำคัญได้ดี การใช้ผ้าหรือวัสดุสีต่างๆ ตกแต่งเป็นพ้ืน หรือตกแตง่ รอบๆ ฉากทใ่ี ชต้ ิดโปสเตอร์ ช่วยเพมิ่ ความงามและดงึ ดดู สายตาได้ดีขึ้น 3. เนื้อความในโปสเตอร์ควรสรุปให้สั้นตรงประเด็นและมีการจัดเรียงลำดับให้น่าสนใจ การเรียงเน้ือหาใน โปสเตอร์ ควรเรียงเป็นลำดับ จากด้านบนลงด้านล่าง จากทางซ้ายไปทางขวา หรืออาจใส่ตัวเลขขนาดเล็กแสดง ลำดบั 4. การแสดงช่ือกราฟ ควรแสดงด้วยอักษรหรือสีทเี่ ด่นชัด และระบรุ ายละเอียดทางวิชาการให้ถกู ต้อง และครบถ้วน เชน่ ช่ือแกนของกราฟ และหน่วยวดั มาตรฐาน เป็นต้น 5. การติดโปสเตอร์แสดงผลงาน ควรติดให้อย่ใู นระดบั สายตา เพอื่ สะดวกต่อการอา่ น

ชุดกิจกรรมการเรยี นรูโ้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ชดุ ที่ 7 การเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ 22 รูปท่ี 1 ตัวอยา่ งโปสเตอร์ (ทม่ี า : https://sites.google.com/a/skburana.ac.th/enrichment-science-classroom/postexr-na-senx-khorng-ngan)

ชุดกจิ กรรมการเรียนรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 2 ชดุ ที่ 7 การเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์และการนำเสนอ 23 การนำเสนอด้วยคอมพิวเตอร์ การนำเสนอด้วยคอมพิวเตอร์ คือ การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการเสนอโครงงาน ซึ่งมีเทคนิคใน การนำเสนอดงั นี้ 1. การเตรียมเนือ้ หา • ควรมปี ระเดน็ ในการทำโครงงานวิทยาศาสตรต์ ่างๆ ให้ครบถ้วน โดยเร่ิมจากช่ือเรื่องโครงงาน ชื่อผู้ทำโครงงาน ช่ือที่ปรึกษา เป็นการเตรียมให้ผู้ฟังเข้าสู่การนำเสนอ นักเรียนอาจใส่ช่ือ โรงเรียนของนักเรียนดว้ ย • แตล่ ะหน้าควรสรุปประเดน็ ให้ชดั เจนกระชบั เมอ่ื ขึน้ สไลดใ์ หม่ควรขึ้นหวั ขอ้ ใหม่ • แต่ละหน้าควรมีตัวอักษรไม่เกิน 5-8 บรรทัด ต้องพิจารณาปรับขนาดและความหนาของตัวอักษร ตามขนาดห้องที่นำเสนอ เช่น ห้องเล็กผู้ฟังจำนวนน้อย อาจไม่จำเป็นต้องใช้ขนาดตัวอักษรใหญ่ เทา่ กบั การนำเสนอในห้องใหญ่ ควรเลือกรปู แบบอักษรที่เป็นรูปแบบเดยี วกนั 2. ภาษาและไวยากรณ์ • ระมัดระวังเร่อื งการสะกดคำและรูปประโยค หากการนำเสนอมีคำที่สะกดผิดบ่อย ผู้ฟังจะไม่ เชื่อถอื และอาจทำใหเ้ ข้าใจผิดหรอื คลาดเคลื่อน • การใช้เครอ่ื งหมายตลอดจนการเว้นวรรคตอนต้องถกู ต้อง • การใช้อักษรย่อตอ้ งเป็นคำย่อท่ีเปน็ สากลหรอื เป็นทางการที่บคุ คลท่ัวไปรู้จัก ไม่ควรใช้ตัวย่อ มากเกินไป เพราะผู้ฟังอาจไม่เข้าใจและทำให้ไม่เข้าใจเนื้อหา หากใช้ตัวย่อ ควรกล่าวคำเต็ม ระหว่างการนำเสนอ 3. การตกแตง่ และเทคนิคการนำเสนอด้วยภาพ • ควรเนน้ การใช้ภาพ แผนภาพ หรือแผนผงั แทนการใชต้ วั อกั ษร • การแสดงรูปภาพประกอบทำให้เข้าใจง่ายขึ้น แต่พ้ืนหลังของสไลด์ควรเหมาะสมกับเรื่องท่ี นำเสนอ ไม่ควรใชส้ ที ฉี่ ดู ฉาดหรือรปู ภาพต่างๆ เกนิ ความจำเปน็ • ไมค่ วรใชต้ วั อักษรว่ิงมากเกนิ ไปและไม่ควรนำภาพท่ีไม่เกี่ยวขอ้ งเข้ามาใช้ ปัจจุบันมีเทคนิคการเปล่ียนหน้าข้ามไปมา หรือดึงภาพและเสียงจากแหล่งอ่ืนมาใช้ ตลอดจนใช้ ปากกาสีเน้นระหวา่ งการนำเสนอ ควรฝกึ ใช้ใหช้ ำนาญ และระวังขอ้ จำกดั เรอื่ งโปรแกรมของเครอื่ งคอมพิวเตอร์ เม่ือนำไปใช้ในคอมพิวเตอรเ์ ครอ่ื งอน่ื

ชุดกิจกรรมการเรยี นรูโ้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ชดุ ที่ 7 การเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์และการนำเสนอ 24 คำถามชวนคดิ ชวนทำ จงตอบคำถามต่อไปน้ี 1. จงบอกและอธบิ ายองคป์ ระกอบของการเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ มีความสำคัญต่อการเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์อย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. การเขยี น บทคดั ยอ่ ในรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ มลี กั ษณะอยา่ งไรและควรบอกอะไรบา้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. ในการนำเสนอโครงงานวทิ ยาศาสตร์ เรอ่ื ง เครือ่ งทำน้ำอ่นุ จากพลงั งานแสงอาทิตย์ นักเรียนคิดว่าควร จัดเตรียมการนำเสนออย่างไร จงอธบิ าย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นักเรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ชุดท่ี 7 การเขยี นรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์และการนำเสนอ 25 แบบทดสอบหลังเรยี น ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ชุดท่ี 7 การเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ข้อสอบ 10 ข้อ ใชเ้ วลา 10 นาที คะแนนเต็ม 10 คะแนน คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นเลอื กคำตอบทถี่ กู ต้องท่ีสุดแล้วทำเครอื่ งหมาย X ลงในกระดาษคำตอบ 1. การนำเสนอโครงงานวิทยาศาสตร์ ควรจดั ให้ 3. ขอ้ ใดควรมีการจัดวางลงไปในแผงโครงงาน ครอบคลุมตามประเด็นข้อใดให้มากทีส่ ุด วิทยาศาสตรเ์ พ่ือนำเสนอผลงาน ใหเ้ ข้าใจเร่อื งราว ได้งา่ ยข้ึน ก. ความสำคัญของโครงงาน ก. เอกสารที่เกีย่ วข้องกับการทำโครงงาน ข. วิธกี ารดำเนินการ ข. การอภิปรายผลและสรปุ ผลโครงงาน ค. ผลการสงั เกตและข้อมูลสำคัญจากการ ค. การกำหนดตัวแปรและสมมตฐิ าน ง. แผนภมู แิ สดงความสัมพนั ธ์ของตวั แปร ทำโครงงาน ง. ถูกทุกข้อ 4. การจดั แสดงและการนำเสนอผลงานในรูปแบบ นทิ รรศการ ผทู้ ำโครงงานจำเป็นตอ้ งจัดเตรยี มส่ิง 2. ในการเขยี นรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ ใดบา้ ง สว่ นเน้ือเรอ่ื งประกอบด้วยหัวข้อใด ก. รูปเล่มรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ก. กติ ตกิ รรมประกาศ บทคัดย่อ ข. แผงโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ข. จดุ ประสงค์ สมมตฐิ าน ค. ผลงานท่ีไดจ้ ากการทำโครงงาน ค. ขอบเขตของการทำโครงงาน วทิ ยาศาสตร์ กิตตกิ รรมประกาศ ง. ถูกทุกข้อ ง. บทคดั ยอ่ บรรณานกุ รม

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 2 ชดุ ที่ 7 การเขยี นรายงานโครงงานวิทยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ 26 แบบทดสอบหลังเรยี น 5. การเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 8. องค์ประกอบของการเขียนรายงานโครงงาน มีจดุ ประสงค์ตามข้อใด วิทยาศาสตร์ มกี สี่ ว่ น ก. เพอ่ื สรปุ องค์ความรทู้ ี่ไดจ้ ากการทำโครงงาน ก. 1 ข. 2 ข. เพื่อสื่อเผยแพร่และส่อื สารผลการศกึ ษาให้ ค. 3 ง. 4 9. ข้อใดกลา่ วถกู ต้องเก่ียวกับการนำเสนอด้วย ผู้อน่ื เขา้ ใจ คอมพิวเตอร์ ค. เพ่อื รายงานตอ่ ครูทป่ี รึกษาประจำโครงงาน ก. ควรนำเสนอข้อมูลอย่างละเอียด ง. เพื่อนำเสนอในส่ิงไดจ้ ากการทำโครงงาน ครบถ้วน 6. โครงงานวิทยาศาสตร์ เร่ือง กระถางตนไม้ ข. ไม่จำเปน็ ต้องใช้ภาษาเป็นทางการ มหศั จรรย์จากเสน้ ใยพืช ควรมกี ารนำเสนอตามขอ้ ใด เพือ่ ใหเ้ ขา้ ใจง่าย ค. ใชส้ ีพืน้ หลังฉดู ฉาดเพ่ือดึงดดู ความสนใจ ก. จัดบอร์ดแสดงผลงาน โดยใช้ภาพประกอบ ง. เนน้ การใชภ้ าพ แผนภมู ิ แทนการใช้ ข. การสาธิตผลงานทไ่ี ด้จากการทดลอง ค. ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพ่อื นำเสนอผลงาน ตวั อักษร ง. ออกแบบโปสเตอร์ที่มีข้อความและสสี ัน 10. การกำหนด ขอบเขตของการทำโครงงาน สวยงาม มีลักษณะอย่างไร 7. การเขียนเรียงความต่อเน่ือง โดยระบจุ ุดประสงค์ ขอบเขตของการทำโครงงาน รวมถึงวิธกี ารทางสถิติ ก. กำหนดกล่มุ ประชากรและกลุ่มตัวอยา่ ง ที่ใชแ้ ละผลการดำเนนิ งาน เป็นวธิ กี ารเขียนรายงาน ทศี่ ึกษา ในหัวข้อใด ข. การกำหนดคำจำกัดความเพอื่ ให้เกดิ ก. กิตตกิ รรมประกาศ ความเข้าใจตรงกัน ข. คำอธบิ ายสญั ลักษณ์ ค. นิยามศัพทเ์ ฉพาะ ค. การอธบิ ายที่มาของการทำโครงงาน ง. บทคัดย่อ ง. ถูกท้งั ขอ้ ข และ ค

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 2 ชุดที่ 7 การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ 27 เกณฑก์ ารประเมิน

ชุดกจิ กรรมการเรียนรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนกั เรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ชดุ ท่ี 7 การเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ 28 แบบประเมนิ ใบกิจกรรม 7.1 สรปุ การทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ช่อื ……………………………………….. ช้ัน…………หน่วยการเรยี นรู้ที่………………กิจกรรม………………………………. คำชแี้ จง : ให้ผู้ประเมิน ขีด / ลงในช่องท่ตี รงกับระดับคะแนน โดยใหศ้ ึกษาเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงาน ประเด็นทีป่ ระเมิน ผู้ประเมนิ 1. ตรงตามจดุ ประสงคท์ ่ีกำหนด ตนเอง เพื่อน ครู 4 3 2 1 4 3214321 2. มคี วามถูกต้องสมบูรณ์และเป็น ปจั จบุ นั 3. มคี วามคดิ สร้างสรรค์ 4. มคี วามเปน็ ระเบียบ 5. เสร็จเรียบรอ้ ยตามเวลาทกี่ ำหนด รวม รวมทุกรายการ เฉลยี่ ผู้ประเมนิ ……………………………………………………….. (ตนเอง) ผู้ประเมนิ ……………………………………………………….. (เพือ่ น) ผปู้ ระเมิน……………………………………………………….. (ครู)

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรูโ้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ชุดที่ 7 การเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์และการนำเสนอ 29 เกณฑ์การประเมนิ ใบกิจกรรม 7.1 สรปุ การทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ประเดน็ ท่ปี ระเมิน คะแนน 1.ผลงานตรงตาม 4 32 1 จุดประสงคท์ ี่กำหนด ผลงานสอดคล้องกับ ผลงานไมส่ อดคล้อง จดุ ประสงคท์ กุ ผลงานสอดคล้องกบั ผลงานสอดคลอ้ งกับ กบั จุดประสงค์ 2.ผลงานมีความ ประเด็น ถูกต้องสมบรู ณ์และ เนอ้ื หาสาระของ จดุ ประสงค์ จุดประสงค์บาง เนอื้ หาสาระของ เปน็ ปจั จุบนั ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานไมถ่ กู ตอ้ ง เปน็ ครบถว้ นเปน็ ปจั จบุ ัน เป็นส่วนใหญ่ ประเด็น ส่วนใหญ่ 3.ผลงานมีความคดิ สรา้ งสรรค์ ผลงานแสดงออกถงึ เนือ้ หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ ผลงานไม่แสดงแนวคิด ความคดิ สรา้ งสรรค์ ใหม่ 4.ผลงานมคี วามเปน็ แปลกใหม่และเปน็ ผลงานถกู ตอ้ ง ผลงานถูกต้อง ระเบียบ ระบบ ผลงานส่วนใหญไ่ มเ่ ปน็ ผลงานมคี วามเป็น ครบถว้ นเปน็ สว่ นใหญ่ ครบถ้วนเปน็ บาง ระเบียบและมี 5.ผลงานเสรจ็ ระเบียบ แสดงออกถึง ขอ้ บกพร่อง เรียบร้อยตามเวลาท่ี ความประณตี ประเด็น ส่งผลงานชา้ กวา่ เวลา กำหนด ส่งผลงานตามเวลา ทก่ี ำหนด 5 วัน ที่กำหนด ผลงานมแี นวคดิ แปลก ผลงานมีความนา่ สนใจ ใหม่ แตย่ งั ไมเ่ ป็น แต่ยงั ไมม่ แี นวคิด ระบบ แปลกใหม่ ผลงานส่วนใหญ่มี ผลงานมีความเปน็ ความเป็นระเบียบแต่มี ระเบียบแต่มี ข้อบกพรอ่ งบางส่วน ขอ้ บกพร่องบางสว่ น สง่ ผลงานชา้ กว่าเวลา ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ท่ีกำหนด 1-2 วัน ทกี่ ำหนด 3-5 วนั เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ระดับคณุ ภาพ คะแนน ดมี าก 17-20 ดี 13-16 9-12 ปานกลาง 5-8 ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารผ่านการประเมนิ ระดับ ดี

ชุดกิจกรรมการเรียนรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นักเรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ชดุ ที่ 7 การเขยี นรายงานโครงงานวิทยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ 30 เกณฑก์ ารประเมนิ คำถามชวนคิดชวนทำและแบบทดสอบหลงั เรยี น ชดุ กิจกรรมการเรียนร้โู ครงงานวิทยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 7 การเขยี นรายงานโครงงานวิทยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ คำถามชวนคดิ ชวนทำ ชดุ ที่ 7 การเขยี นรายงานโครงงานวิทยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ เกณฑ์การให้คะแนน สง่ิ ท่ปี ระเมนิ มี 4 ข้อ ข้อละ 2 คะแนน รวมคะแนนเตม็ 8 คะแนน สิง่ ท่ปี ระเมิน ระดับคะแนน การตอบคำถามชวนคดิ ชวนทำ 21 เน้ือหาสาระทง้ั หมดถูกต้องตาม เนอื้ หาสาระบางส่วนถูกตอ้ งตาม ขอ้ เทจ็ จริงและหลกั วิชา ขอ้ เท็จจริงและหลกั วิชา ต้องแก้ไข บางส่วน เกณฑ์การผ่านการประเมิน 7 คะแนนขึ้นไป (ร้อยละ 80) แบบทดสอบหลังเรียน ชุดที่ 7 การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์และการนำเสนอ ถกู ต้อง 1 คะแนน ไมถ่ ูกต้อง 0 คะแนน เกณฑ์การผา่ นการประเมิน 8 คะแนนข้นึ ไป (รอ้ ยละ 80)

ชดุ กิจกรรมการเรียนรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ชุดท่ี 7 การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ 31 แบบประเมนิ รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ กลมุ่ ……………………………………….. ช้ัน………… คำชแ้ี จง : ให้ผ้ปู ระเมิน ขีด / ลงในชอ่ งทตี่ รงกับระดับคะแนน โดยใหศ้ ึกษาเกณฑ์การให้คะแนน รายการประเมิน คะแนน คะแนน 4 3 2 1 เฉลีย่ 1. ความถูกตอ้ งของรปู แบบรายงาน 2. การใช้ศัพท์ทางวิทยาศาสตร์และความเขา้ ใจในเรื่องท่ีทำ 3. การจัดระบบการนำเสนอผลการศึกษาในรายงานเป็นลำดบั 4. ความถูกต้องของตวั อักษร 5. ความถกู ต้องของเน้ือหาข้อมลู 6. การจัดกระทำข้อมูล การวิเคราะหข์ ้อมลู และการนำเสนอ ข้อมลู มีความชัดเจน เหมาะสม และถูกตอ้ ง 7. การประเมินและสรปุ ผลการศึกษาทดลองมีความเปน็ เหตเุ ปน็ ผลสอดคล้องกบั วัตถุประสงค์ของโครงงาน เกณฑใ์ นการพจิ ารณา ระดับ 4 หมายถงึ ดมี าก ระดบั 3 หมายถึง ดี ระดับ 2 หมายถึง พอใช้ ระดับ 1 หมายถึง ปรับปรุง

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนกั เรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ชุดที่ 7 การเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์และการนำเสนอ 32 เกณฑ์การประเมิน แบบประเมนิ รายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ประเดน็ ท่ปี ระเมิน คะแนน 4321 1. ความถกู ตอ้ งของ องค์ประกอบ องค์ประกอบครบถ้วน องคป์ ระกอบไม่ครบ องคป์ ระกอบไม่ครบ รปู แบบรายงาน ครบถ้วน 3 ส่วน มี 3 สว่ น มีเกือบทกุ 3 สว่ น บกพรองใน 3 สว่ น ไมยดึ ถอื ทุกหัวข้อ สมบรู ณตาม หวั ข้อ ตามรปู แบบ บางสวน เชน ไมม่ สี ว่ น รปู แบบการทาํ รายงาน รปู แบบของรายงาน ของรายงาน หน้า (คํานำ สารบญั ) และบกพรอง เปนสวน แตยังมสี ว่ นเน้ือหา ใหญเกอื บทกุ สว่ น และส่วนอา้ งองิ 2. การใชศ้ พั ท์ทาง ถกู ต้องเกือบท้ังหมด ผดิ พลาดนอ้ ย ถกู ต้องสว่ นมาก และ ผดิ พลาดมาก แต่พอ วิทยาศาสตร์และความ สละสลวย งดงาม เชอ่ื มโยงภาษาไดด้ ี สือ่ ความหมายได้ สื่อความหมายได้ เขา้ ใจในเร่อื งท่ที ำ 3. การจัดระบบการ มีการนำเสนอผล มกี ารนำเสนอผล มกี ารนำเสนอผล มกี ารนำเสนอผล นำเสนอผลการศกึ ษา การศึกษาตาม การศกึ ษาตาม การศึกษาไมเ่ ป็นตาม การศึกษาไมเ่ ปน็ ตาม ในรายงานเป็นลำดบั วัตถุประสงค์ เป็น วตั ถุประสงค์ เปน็ วัตถุประสงค์ ขาดบาง วตั ถปุ ระสงค์ ขาดบาง ข้นั ตอน ครบถว้ น ส่อื ขั้นตอน ครบถว้ น แต่ ข้ันตอน พอส่ือ ขน้ั ตอน และยังส่ือ ความได้ชัดเจน ยงั สอ่ื ความหมายได้ไม่ ความหมายได้ ความหมายไดไ้ ม่ ชดั เจน ชัดเจน 4. ความถูกตอ้ งของ ถกู ต้องสมบรู ณ์ ผิดพลาด 1-5 จุด ผิดพลาด 6-10 จุด ผดิ พลาดตั้งแต่ 11 จุด ตัวอักษร ขึน้ ไป 5. ความถกู ตอ้ งของ เน้ือหาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เน้ือหาสาระของ เนอ้ื หาสาระไม่ถูกต้อง เนื้อหาข้อมลู ถกู ต้อง ครบถว้ นเปน็ ถกู ตอ้ ง ครบถว้ นเป็น ครบถ้วนเป็นบาง เปน็ สว่ นใหญ่ ปัจจุบนั สว่ นใหญ่ ประเดน็ 6. การจดั กระทำ 1) สามารถนำไปสู่มี 1) สามารถนำไปสมู่ ี 1) สามารถนำไปสู่มี 1) สามารถนำไปสมู่ ี ข้อมูล การวิเคราะห์ การดำเนนิ การศึกษา การดำเนินการศึกษา การดำเนินการศึกษา การดำเนนิ การศกึ ษา ข้อมูล และการ และวิเคราะห์ทเ่ี ปน็ ไป และวิเคราะหท์ เ่ี ปน็ ไป และวเิ คราะหท์ เ่ี ป็นไป และวิเคราะหท์ เ่ี ป็นไป นำเสนอข้อมลู มคี วาม ตามหลักการทาง ตามหลักการทาง ตามหลกั การทาง ตามหลักการทาง ชัดเจน เหมาะสม และ วิทยาศาสตร์ได้ วิทยาศาสตรไ์ ด้เปน็ วทิ ยาศาสตรไ์ ด้เปน็ วทิ ยาศาสตร์ได้เปน็ ถกู ตอ้ ง ท้งั หมด ส่วนใหญ่ บางส่วน บางส่วน 2) มีความเหมาะสม 2) มีความเหมาะสม 2) มคี วามเหมาะสม 2) วิธีการทางสถติ ิทใี่ ช้ ของวธิ กี ารทางสถติ ิที่ ของวิธกี ารทางสถติ ทิ ่ี ของวิธีการทางสถิติที่ ในการวเิ คราะห์ยงั ไม่ ใชใ้ นการวเิ คราะห์ ใช้ในการวิเคราะห์ ใชใ้ นการวเิ คราะห์ เหมาะสม ขอ้ มูล ข้อมูลเปน็ ส่วนใหญ่ 3) ไม่สามารถนำไปสู่ 3) สามารถนำไปสู่ 3) สามารถนำไปสู่ การสรุปเป็นประเด็น การวิเคราะห์เชือ่ มโยง การวิเคราะหเ์ ชือ่ มโยง การศึกษาได้ เนือ้ หาอยา่ งมี เหตผุ ล เนือ้ หาอย่างมี เหตผุ ล

ชุดกิจกรรมการเรียนรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ชดุ ที่ 7 การเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ 33 ประเดน็ ทปี่ ระเมนิ คะแนน 7.การประเมนิ และ 4 32 1 สรปุ ผลการศึกษา ทดลองมคี วามเป็นเหตุ ผลการศกึ ษาทดลองมี เป็นส่วนใหญ่ ผลการศึกษาทดลองมี เป็นผลสอดคล้องกบั ความเปน็ เหตุเป็นผล ความเป็นเหตุเป็นผลที่ วตั ถปุ ระสงค์ของ สอดคล้องกับ 4) สามารถนำไปสกู่ าร ไมส่ อดคล้องกับ โครงงาน วตั ถุประสงค์ สามารถ วัตถปุ ระสงค์ ไม่ นำไปสกู่ ารสรุปเป็น สรุปเป็นประเดน็ สามารถนำไปส่กู าร ประเด็นการศึกษาได้ สรปุ เปน็ ประเดน็ ได้ ชัดเจน การศกึ ษาไดแ้ ตย่ ังไม่ ชดั เจน ผลการศกึ ษาทดลองมี ผลการศึกษาทดลองมี ความเป็นเหตุเปน็ ผล ความเป็นเหตุเปน็ ผล สอดคลอ้ งกับ สอดคลอ้ งกบั วัตถุประสงค์ สามารถ วตั ถปุ ระสงค์ แต่ยงั ไม่ นำไปสู่การสรุปเปน็ สามารถนำไปสูก่ าร ประเดน็ การศึกษาได้ สรุปเป็นประเด็น แตย่ ังไม่ชดั เจน การศกึ ษาได้ เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ระดบั คุณภาพ คะแนน ดีมาก 24-28 ดี 19-23 14-18 ปานกลาง 5-13 ปรับปรุง เกณฑก์ ารผา่ นการประเมนิ ระดับ ดี

ชุดกิจกรรมการเรียนรูโ้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ชดุ ท่ี 7 การเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ 34 แบบประเมนิ โครงงานวิทยาศาสตร์ ชอ่ื โครงงาน ............................................................................................................................. ........... ชือ่ ผู้จดั ทำ 1. ..................................................................... ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ........... เลขที่ ........... 2. ..................................................................... ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ........... เลขที่ ........... 3. ..................................................................... ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี ........... เลขที่ ........... 4. ..................................................................... ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ........... เลขท่ี ........... 5. ..................................................................... ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ........... เลขที่ ........... ชอื่ ผู้ประเมิน ....................................................................................................................................... วนั เดอื น ปี ท่ปี ระเมิน ........................................................................................................................ รายการประเมนิ คะแนน ระดับ 1234 คุณภาพ 1. การกำหนดปญั หาและการตงั้ สมมติฐาน 2. ข้อมูลหรอื ขอ้ เทจ็ จรงิ ประกอบการทำโครงงาน ........ ........ ........ ........ 3. การออกแบบการทดลอง ........ ........ ........ ........ 4. อุปกรณแ์ ละเคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการทดลอง ........ ........ ........ ........ 5. การดำเนินการทดลอง ........ ........ ........ ........ 6. การบนั ทกึ ผลข้อมลู ........ ........ ........ ........ 7. การจัดกระทำข้อมลู ........ ........ ........ ........ 8. การแปลความหมายขอ้ มลู และการสรปุ ผลข้อมลู ........ ........ ........ ........ 9. ความคดิ รเิ ร่มิ สรา้ งสรรค์ ........ ........ ........ ........ 10. การเขยี นรายงานและการเสนอผลงาน ........ ........ ........ ........ ........ ........ ........ ........ รวมคะแนน

ชุดกิจกรรมการเรียนรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนกั เรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2 ชุดท่ี 7 การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์และการนำเสนอ 35 ตารางแสดงเกณฑก์ ารประเมนิ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ คะแนน รายการประเมิน 1 1. การกำหนดปัญหาและการตง้ั สมมตฐิ าน 2 - สมมตฐิ านไม่สอดคล้องกบั ปญั หา 3 - สมมตฐิ านสอดคล้องกบั ปัญหา แต่ไม่แสดงความสัมพันธ์ ระหวา่ งเหตแุ ละผล 4 - สมมตฐิ านสอดคล้องกบั ปัญหา และแสดงความสมั พนั ธ์ ระหว่างเหตแุ ละผลแตย่ งั ไม่ชดั เจน 1 - สมมตฐิ านสอดคล้องกับปญั หา และแสดงความสัมพันธ์ 2 ระหว่างเหตุและผลอย่างชัดเจน 2. ข้อมูลหรอื ข้อเทจ็ จรงิ ประกอบการทำโครงงาน 3 - มกี ารศึกษาหาข้อมลู หรือข้อเทจ็ จริงท่ีไมเ่ ก่ียวข้องกับปญั หา - มีการศกึ ษาหาข้อมูลหรอื ข้อเทจ็ จรงิ ทเี่ กีย่ วข้องกบั ปัญหาเพยี งบางส่วน 4 - มกี ารศกึ ษาหาขอ้ มลู หรอื ข้อเทจ็ จรงิ ทเ่ี กย่ี วข้องกบั ปัญหาแต่ ยงั ไมค่ รอบคลุม 1 - มกี ารศึกษาหาข้อมูลหรือข้อเท็จจรงิ ทเี่ ก่ียวข้องกบั ปญั หาอยา่ งชัดเจน 2 และครอบคลุม 3 3. การออกแบบการทดลอง - สอดคลอ้ งกบั สมมติฐาน แตไ่ ม่มีการควบคุมตัวแปร 4 - สอดคลอ้ งกบั สมมตฐิ าน และมกี ารควบคุมตัวแปรบางสว่ น - สอดคลอ้ งกับสมมตฐิ าน และมีการควบคมุ ตัวแปรได้ครบสมบรู ณ์ 1 - สอดคลอ้ งกับสมมตฐิ าน และมกี ารควบคมุ ตัวแปรถกู ต้อง 2 สมบรู ณ์ และมแี นวทางการเกบ็ รวบรวมข้อมูล 3 4. อุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง 4 - เลือกใชอ้ ปุ กรณ์ไม่เหมาะสม - เลอื กใชอ้ ปุ กรณ์ได้ถูกตอ้ งบางส่วน - เลือกใชอ้ ปุ กรณ์ไดถ้ ูกต้องเป็นส่วนใหญ่ - เลอื กใช้อุปกรณ์ไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม

ชดุ กิจกรรมการเรียนรูโ้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 2 ชดุ ที่ 7 การเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์และการนำเสนอ 36 ตารางแสดงเกณฑก์ ารประเมนิ โครงงานวิทยาศาสตร์ (ต่อ) รายการประเมิน คะแนน 5. การดำเนินการทดลอง 1 - ดำเนนิ การทดลองไม่เหมาะสม 2 - ดำเนนิ การทดลองได้ถกู ต้องเป็นบางส่วน 3 - ดำเนนิ การทดลองได้ถกู ตอ้ งเป็นสว่ นใหญ่ 4 - ดำเนินการทดลองได้ถูกต้องครบถว้ นสมบรู ณ์ 6. การบนั ทึกผลข้อมลู 1 - บนั ทกึ ข้อมูลบางส่วน ไม่ตรงจดุ ประสงค์ท่ีตอ้ งการศกึ ษา 2 - บนั ทึกขอ้ มลู ตรงจดุ ประสงคท์ ตี่ อ้ งการศกึ ษา 3 - บนั ทึกขอ้ มลู ตรงจดุ ประสงค์ที่ตอ้ งการศึกษาและถกู ต้อง 4 - บันทกึ ขอ้ มูลตรงจุดประสงค์ทีต่ อ้ งการศกึ ษาถูกต้อง และครบถ้วน 7. การจัดกระทำข้อมูล 1 - มีการจดั กระทำขอ้ มูลทไ่ี มถ่ กู ต้องเป็นส่วนมาก 2 - มกี ารจดั กระทำขอ้ มลู ทถ่ี ูกต้องเปน็ สว่ นมาก แตย่ ังไมช่ ัดเจน 3 - มีการจัดกระทำขอ้ มลู ที่ถูกต้องชดั เจน แตย่ ังไม่ครบสมบรู ณ์ 4 - มีการจัดกระทำข้อมลู ทถ่ี ูกต้องชดั เจน ละเอียด และครบสมบรู ณ์ 8. การแปลความหมายขอ้ มูล และการสรปุ ผลของขอ้ มลู 1 - แปลความหมายไม่ถูกต้องบางสว่ น และไม่สรุปผล 2 - แปลความหมายไมถ่ ูกตอ้ งเป็นสว่ นใหญ่ แต่สรปุ ผลไมส่ อดคล้องกับขอ้ มลู 3 - แปลความหมายไมถ่ ูกตอ้ ง แต่สรุปผลไมส่ อดคล้องกับข้อมลู บางสว่ น 4 - แปลความหมายถูกต้อง และสรปุ ผลสอดคลอ้ งกับขอ้ มูล 9. ความคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ 1 - โครงงานคลา้ ยคลงึ กับส่งิ ที่เคยทำมาแล้ว 2 - โครงงานบางสว่ นมีความแปลกใหม่จากโครงงานท่ีเคยทำมาแลว้ 3 - โครงงานแสดงใหเ้ ห็นถึงความคิดริเริม่ สร้างสรรค์ 4 - โครงงานแสดงใหเ้ หน็ ถึงความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ และสามารถนำไป ประยกุ ต์ใช้ได้

ชุดกิจกรรมการเรยี นรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ชุดที่ 7 การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์และการนำเสนอ 37 ตารางแสดงเกณฑ์การประเมินโครงงานวทิ ยาศาสตร์ (ต่อ) รายการประเมนิ คะแนน 10. การเขยี นรายงานและการเสนอผลงาน 1 - มีการนำเสนอไมช่ ัดเจน ไม่เป็นข้นั ตอน 2 - มกี ารนำเสนอบางสว่ นเป็นขัน้ ตอน แตย่ ังไม่ชดั เจน 3 - มกี ารนำเสนอเป็นขั้นตอน แตย่ งั ไม่ชดั เจน 4 - มีการนำเสนอเป็นขน้ั ตอน และชดั เจน เกณฑ์สรุปการประเมินระดับคุณภาพโครงงานวทิ ยาศาสตร์ คะแนน 0 - 15 16 - 25 26 - 35 36 - 40 ระดบั คุณภาพ ปรับปรุง พอใช้ ดี ดีมาก เกณฑก์ ารผา่ นการประเมิน ระดับ ดี

ชุดกิจกรรมการเรียนรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ชดุ ท่ี 7 การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์และการนำเสนอ 38 แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล คำชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ลงในช่อง ที่ตรงกบั ระดบั คะแนน ชื่อ-สกลุ ความต้งั ใจใน ความ การตรงต่อ ความสะอาด ผลสำเร็จของ เลขที่ ของผรู้ ับการ การทำงาน รับผดิ ชอบ เวลา เรียบร้อย งาน 321 321 321 ประเมิน 321 321 ลงชอื่ ...................................................ผูป้ ระเมิน ............../.................../................

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ชดุ ที่ 7 การเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์และการนำเสนอ 39 เกณฑ์การให้คะแนน แบบประเมนิ พฤติกรรมรายบุคคล ประเด็นท่ีประเมิน 3 คะแนน 1 ความต้ังใจในการทำงาน มคี วามตง้ั ใจในการทำงานดี 2 ไมม่ คี วามต้งั ใจในการทำงาน ความรับผดิ ชอบ การตรงตอ่ เวลา ทำงานตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย มีความตง้ั ใจในการทำงาน ไมม่ ที ำงานตามทไ่ี ดร้ ับ ครบถว้ น พอใช้ มอบหมาย ความสะอาดเรียบรอ้ ย ทำงานเสร็จทันเวลาท่ีกำหนด ทำงานตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทำงานไม่เสรจ็ ตามเวลาที่ บางสว่ น กำหนด ผลสำเรจ็ ของงาน เขยี นตัวอักษร ตัวสะกดและ ทำงานเสรจ็ ชา้ กวา่ เวลาท่ี เขียนตวั สะกดและไวยากรณ์ ไวยากรณ์ถกู ต้อง ชัดเจน อ่าน กำหนดไมเ่ กนิ 10 นาที ไมถ่ กู ตอ้ งเปน็ สว่ นมาก มี ง่าย ไม่มรี ่องรอยการแกไ้ ข เขียนตัวอักษร ตวั สะกดและ รอ่ งรอยการแกไ้ ขมากกวา่ 5 ไวยากรณถ์ กู ต้องบางสว่ น จุด ผลงานมีความถูกต้องครบถว้ น ชัดเจน อา่ นงา่ ย มีร่องรอยการ ผลงานยงั ไม่ถกู ต้องและไม่ ตรงตามจุดประสงค์ แก้ไขไมเ่ กิน 5 จุด ตรงตามจดุ ประสงค์ ผลงานมีความถกู ต้องเป็น ส่วนมาก ตรงตามจดุ ประสงค์ เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 11 – 15 ดี 10 - 6 ต่ำกวา่ 6 พอใช้ ปรับปรงุ เกณฑ์การผ่านการประเมนิ ระดับ ดี

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนกั เรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ชุดท่ี 7 การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ 40 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม คำชี้แจง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในชอ่ ง ทีต่ รงกับระดับคะแนน ลำดับที่ ชื่อ-สกลุ ความร่วมมอื การแสดง ความคิด การตัง้ ใจ การแกไ้ ข รวม ของผูร้ ับการประเมิน กันทำกิจกรรม ความคิดเห็น สร้างสรรค์ ทำงาน ปญั หา/หรอื 20 ปรบั ปรุง คะแนน 4321 4321 ผลงานกลุ่ม 43214321 4321 ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมนิ ............../.................../................

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 2 ชุดที่ 7 การเขยี นรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์และการนำเสนอ 41 เกณฑก์ ารให้คะแนน แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม ประเดน็ ท่ีประเมนิ คะแนน ความร่วมมือกันทำ กิจกรรม 4 3 21 การแสดงความ ให้ความรว่ มมอื ในการ คดิ เห็น ทำงานกลุม่ อยา่ งดีเยยี่ ม ใหค้ วามรว่ มมือในการ ให้ความรว่ มมือในการ ไมใ่ ห้ความร่วมมอื ใน รว่ มแสดงความคดิ เหน็ ความคิดสร้างสรรค์ และยอมรบั ฟังความ ทางานกลุ่มอย่างดี ทางานกลุ่มพอใช้ การทางานกลุม่ คดิ เห็นกับผู้อ่ืนอยา่ งดี การตง้ั ใจทำงาน มคี วามคดิ รเิ รมิ่ ยอมรบั ฟังความ ยอมรบั ฟังความ ไมย่ อมรบั ฟงั ความ สรา้ งสรรคท์ ี่แปลกใหม่ การแก้ไขปญั หา/ แตกตา่ งจาก คิดเหน็ กบั ผู้อื่นบางคร้งั คิดเหน็ กบั ผ้อู น่ื น้อย คดิ เหน็ กับผู้อ่นื หรือปรับปรุงผลงาน แนวความคิดเดิม และ กลุ่ม เป็นประโยชน์ มีความคิดริเริม่ มคี วามคดิ รเิ ริม่ ขาดความคดิ ริเร่ิม สร้างสรรค์ ที่มี สร้างสรรค์ที่ สร้างสรรค์ ไม่มีการ มีความตัง้ ใจในการ พน้ื ฐานจาก เปลย่ี นแปลงจาก เปลยี่ นแปลงจาก ทำงานอยา่ งดเี ยย่ี ม แนวความคดิ เดิม และ แนวความคิดเดมิ แต่ แนวความคดิ เดมิ เป็นประโยชน์ ยังไม่เปน็ ประโยชน์ มกี ารวางแผนเพอ่ื อย่างชัดเจน ไม่มคี วามตั้งใจในการ แก้ปัญหาและปรบั ปรุง มีความตั้งใจในการ มีความตง้ั ใจในการ ทำงานขาดความ ผลงานใหด้ ขี ึ้น พร้อม ทำงานดี ทำงานพอใช้ รับผิดชอบ ตรวจสอบการแก้ปัญหา ไมม่ กี ารวางแผนเพ่อื มีการวางแผนเพอื่ มกี ารวางแผนเพอื่ แก้ปญั หาและ แก้ปัญหา ปรับปรงุ แกป้ ัญหา แต่ยงั ไม่ ปรบั ปรุงผลงาน ผลงานให้ดีขึ้น สามารถปรบั ปรงุ ผลงานใหด้ ีขน้ึ ได้ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ำกว่า 10 ปรับปรุง เกณฑ์การผา่ นการประเมิน ระดบั ดี

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ชดุ ท่ี 7 การเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ 42 แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เลข ชื่อ – สกลุ ซอื่ สตั ย์ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่นั ในการ ผลการ ท่ี ทำงาน ประเมนิ 3210321032103210 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ชดุ ท่ี 7 การเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ 43 เกณฑก์ ารให้คะแนนการสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรียน ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ประเดน็ การสังเกต เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1. ซ่ือสัตย์ 3 21 0 2. มวี นิ ัย ไม่ใหข้ ้อมลู ท่ีถกู ตอ้ ง ใหข้ ้อมลู ทถี่ กู ตอ้ งและเป็น ใหข้ อ้ มูลที่ถูกตอ้ งและเปน็ ใหข้ อ้ มลู ที่ถกู ตอ้ งและ และเป็นจริง 3. ใฝ่เรยี นรู้ มีพฤติกรรมนำ จรงิ ไมน่ ำสิ่งของและ จริง ไม่นำสิง่ ของและ เป็นจริง ไม่นำส่ิงของ ส่ิงของและผลงาน 4. มุง่ มัน่ ของผอู้ ืน่ มาเป็นของ ในการทำงาน ผลงานของผู้อน่ื มาเปน็ ผลงานของผูอ้ ืน่ มาเป็น และผลงานของผอู้ ืน่ มา ตนเอง ของตนเอง ปฏบิ ัตติ นตอ่ ของตนเอง ปฏบิ ตั ิตนต่อ เปน็ ของตนเอง ไมป่ ฏิบตั ติ นตาม ผู้อ่นื ด้วยความซ่อื ตรง เปน็ ผูอ้ ื่นดว้ ยความซอ่ื ตรง ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คบั แบบอย่างทดี่ ดี า้ นความ ของโรงเรยี น ซือ่ สตั ย์ ไม่ตั้งใจเรียน ไมศ่ กึ ษาคน้ ควา้ หา ปฏิบัติตนตามข้อตกลง ปฏบิ ัตติ นตามข้อตกลง ปฏบิ ัตติ นตามขอ้ ตกลง ความรู้ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ไม่ต้ังใจปฏบิ ตั ิ หน้าทีก่ ารงาน ขอ้ บังคับของโรงเรยี น ข้อบงั คับของโรงเรียน ข้อบงั คบั ของโรงเรียน และ ไม่ละเมดิ สิทธิของ ตรงต่อเวลาในการปฏิบตั ิ ตรงต่อเวลาในการ ผูอ้ ่ืน ตรงตอ่ เวลาในการ กจิ กรรมและรบั ผดิ ชอบใน ปฏบิ ัติกจิ กรรม ปฏิบัติกจิ กรรมและ การทำงาน รบั ผดิ ชอบในการทำงาน เข้าเรยี นตรงเวลา ตงั้ ใจ เขา้ เรยี นตรงเวลา ตั้งใจ เข้าเรยี นตรงเวลา ต้ังใจ เรยี น เอาใจใสใ่ นการเรยี น เรยี น เอาใจใส่ในการเรยี น เรียน เอาใจใสใ่ นการ และมสี ่วนร่วมในการ และมสี ว่ นรว่ มในการ เรียน และมสี ่วนร่วมใน เรยี นรู้ และเข้ารว่ ม เรยี นรู้ และเขา้ ร่วม การเรยี นรู้ และเขา้ ร่วม กิจกรรมการเรียนรตู้ า่ งๆ กจิ กรรมการเรยี นรตู้ ่างๆ กิจกรรมการเรียนรู้ ทัง้ ภายในและภายนอก บอ่ ยครงั้ ตา่ งๆ เปน็ บางคร้งั โรงเรยี นเป็นประจำ ตง้ั ใจและรับผดิ ชอบในการ ตั้งใจและรบั ผดิ ชอบใน ต้ังใจและรับผิดชอบใน ปฏิบัตหิ นา้ ที่ท่ไี ดร้ บั การปฏบิ ัตหิ นา้ ทท่ี ไี่ ดร้ บั การปฏิบตั หิ น้าทท่ี ี่ไดร้ บั มอบหมายใหส้ ำเรจ็ มีการ มอบหมายใหส้ ำเรจ็ มกี าร มอบหมายใหส้ ำเรจ็ ปรบั ปรุงและพฒั นาการ ปรบั ปรงุ และพฒั นาการ ทำงานใหด้ ีขึ้นภายในเวลา ทำงานให้ดขี ้นึ ทีก่ ำหนด เกณฑ์การประเมิน คะแนนรวมต้ังแต่ 10 – 12 คะแนน มคี ุณภาพระดบั 3 ดมี าก เกณฑก์ ารผ่าน คะแนนรวมต้ังแต่ 7 – 9 คะแนน มคี ุณภาพระดับ 2 ปานกลาง คะแนนรวมตั้งแต่ 4 – 6 คะแนน มีคณุ ภาพระดับ 1 พอใช้ ระดับ ปานกลาง ขึ้นไป