Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ ชุดที่ 3 เริ่มต้นทำโครงงานอย่างไร

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ ชุดที่ 3 เริ่มต้นทำโครงงานอย่างไร

Published by wsinthra, 2020-06-14 23:46:52

Description: ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ ชุดที่ 3 เริ่มต้นทำโครงงานอย่างไร

Search

Read the Text Version

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นักเรียนชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 1 ชดุ ท่ี 3 เริม่ ต้นทำโครงงานอย่างไร

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 2 ก ชดุ ท่ี 3 เริม่ ต้นทำโครงงานอยา่ งไร ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2 ได้จัดทำข้ึนเพ่ือใช้เป็น ส่ือประกอบการเรียนการสอน โดยมีเน้ือหาและกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย สอดคล้องตามหลักสูตร การศกึ ษาขัน้ พื้นฐานพุทธศักราช 2551 ท่เี น้นผู้เรยี นเป็นสำคัญโดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์การสืบเสาะหา ความรู้ การสำรวจตรวจสอบการสืบค้นข้อมูลและการอภิปรายเพ่ือให้เกิดความรู้ความเข้าใจสามารถสื่อสารสิ่งที่ เรียนรู้มีความสามารถในการตัดสินใจและมีจิตวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดความรู้และพัฒนาทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้เป็นอย่างดี นอกจากน้ียังช่วยให้ครูผู้สอนสามารถนำไปใช้เป็นแบบอย่างหรือ แนวทางในการจัดการเรียนการสอนใหส้ อดคล้องกับจดุ มงุ่ หมายสำคัญของหลกั สตู รอกี ด้วย ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 น้ีจะต้องใช้ร่วมกับ แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา โครงงานวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว 22201 กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ และคู่มือ การใชช้ ุดกจิ กรรมการเรียนร้โู ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2 ทผ่ี ้สู อนไดจ้ ัดทำขึ้น การจัดทำชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 เล่มนี้เสร็จ สมบูรณ์ได้เพราะได้รับความอนุเคราะห์จากผู้เช่ียวชาญหลายท่านที่ได้ให้คำแนะนำปรึกษา จึงขอขอบพระคุณไว้ ณ โอกาสน้ี และหวังเป็นอย่างย่ิงว่าชุดกิจกรรมเล่มน้ี จะช่วยพัฒนานักเรียนโรงเรียนพรมเทพพิทยาคมให้เป็น บคุ คลแห่งการเรยี นรู้ สามารถเป็นผูเ้ รียนรู้ไดต้ ลอดชีวิตตามเจตนารมณท์ ่ีตงั้ ไว้ วสินทรา ไพรสนิ ธ์ุ

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นักเรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ข ชุดท่ี 3 เริ่มต้นทำโครงงานอยา่ งไร เร่อื ง หนา้ คำนำ ก สารบญั ข คำช้ีแจง ค คำแนะนำสำหรบั ครู ง คำแนะนำสำหรบั นกั เรยี น จ ขั้นตอนการใชช้ ดุ กิจกรรมการเรยี นรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ฉ สาระสำคญั 1 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 2 กระดาษคำตอบ 3 แบบทดสอบกอ่ นเรียน 4 ใบกิจกรรม 3.1 ลองคิดและทำอยา่ งนักวิทยาศาสตร์ 6 ใบกิจกรรม 3.2 กำเนิดปัญหาโครงงาน 10 ใบกิจกรรม 3.3 การสืบคน้ ข้อมลู ที่เกย่ี วข้องกับการทำโครงงาน 12 ใบความรู้ เรมิ่ ตน้ ทำโครงงานอย่างไร 15 คำถามชวนคดิ ชวนทำ 22 แบบทดสอบหลงั เรยี น 23 เกณฑ์การประเมนิ 25 บรรณานกุ รม 35

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นร้โู ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นักเรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ค ชุดที่ 3 เรม่ิ ต้นทำโครงงานอยา่ งไร ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 เนือ้ หาจดั แบง่ ออกเป็น 7 ชุด ดงั นี้ ชดุ ท่ี 1 วทิ ยาศาสตร์ขับเคล่ือนโลก ชุดท่ี 2 นักวิทยาศาสตร์นอ้ ย ชดุ ท่ี 3 เร่ิมต้นทำโครงงานอยา่ งไร ชดุ ท่ี 4 การวางแผนและออกแบบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ชุดที่ 5 การเขยี นเคา้ โครงของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 6 การลงมือทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ชุดที่ 7 การเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตรแ์ ละการนำเสนอ ซึ่งเล่มน้ีเป็นชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 3 เริ่มต้นทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ใช้ เวลาในการเรียนการสอน 6 ชั่วโมง ในการนำชุดกิจกรรมนี้ไปใช้ ผู้สอนควรมีการศึกษาคู่มือการใช้ชุดกิจกรรม การเรยี นรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยละเอียด เพ่ือให้การจัดกจิ กรรมการ เรียนการสอนบรรลุตามจุดประสงค์ของหลักสูตร ซ่ึงกระบวนการจัดการเรียนรู้เน้นการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ดว้ ยตนเอง โดยครูผู้สอนเป็นผู้ให้การช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติกิจกรรมและประเมินผล การเรียนรขู้ องนกั เรียน หวังเป็นอย่างย่ิงว่าชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์เล่มน้ี จะเป็นประโยชน์ต่อการ พฒั นาการเรียนรู้ของผู้เรยี น และครสู ามารถนำมาใชใ้ นการพฒั นาการเรยี นการสอนได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ วสนิ ทรา ไพรสนิ ธ์ุ

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ง ชดุ ที่ 3 เรม่ิ ต้นทำโครงงานอยา่ งไร การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2 ชุดที่ 3 เร่ิมต้นทำโครงงาน อย่างไร สำหรับกิจกรรมการเรียนการสอนรายวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว 22201 ชั้นมัธยมศึกษา ปที ี่ 2 ผู้สอนมบี ทบาทสำคญั ดงั น้ี 1. เตรียมเอกสารท่ีระบไุ ว้ในแผนการจัดการเรียนรตู้ ามลำดับ 2. ศกึ ษารายละเอียดของชดุ กจิ กรมการเรียนรู้ 3. ทดลองใช้สอื่ อปุ กรณ์การสอน เพื่อตรวจสอบว่าใช้งานได้จรงิ และแก้ไขเมื่อสอ่ื อุปกรณ์การสอน เกิดการชำรุดเสยี หาย 4. ทำการวิเคราะหน์ ักเรยี นโดยแบง่ เปน็ เก่ง ปานกลาง ออ่ น แลว้ แบง่ นักเรียนออกเปน็ กลมุ่ กลุ่มละ 4-5 คน และแบง่ หน้าทด่ี ังนี้ 4.1 ประธาน ดแู ลและควบคุมการทำงานของกลุ่มใหเ้ ปน็ ไปตามกำหนดเวลา 4.2 รองประธาน ทำหนา้ ที่เปน็ ผชู้ ่วยประธานและดแู ลกลุม่ แทนเมื่อประธานไม่อยู่ 4.3 เลขานกุ าร บันทึกข้อมลู ปัญหา ความคิดเหน็ ข้อเสนอแนะของสมาชิกภายในกลุม่ 4.4 สมาชิก ให้ความร่วมมอื ทำกิจกรรมต่างๆ ของกลุ่ม ให้บรรลจุ ดุ ประสงค์ เสนอความคิดเหน็ จากข้อมูลท่ีไดท้ ำการศึกษาทดลอง 5. ครชู ีแ้ จงการเรยี นทีน่ ักเรยี นต้องปฏิบตั ติ ามคำสั่งในชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ 6. ชแ้ี จงกิจกรรมการเรยี นให้นักเรยี นทราบ 7. ดำเนนิ การสอนตามแผนการจดั การเรียนรู้ 8. ใหค้ ำแนะนำและเปน็ ทปี่ รึกษาในขณะทน่ี ักเรียนทำกิจกรรม 9. สงั เกตการทำกจิ กรรมของนักเรยี นและการสรุปบทเรียน 10. ตรวจแบบทดสอบย่อยแตล่ ะชุด และบนั ทึกผลการประเมนิ พฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ และ พฤติกรรมระหว่างเรยี นของนักเรยี น

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรียนช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 จ ชุดท่ี 3 เร่มิ ตน้ ทำโครงงานอยา่ งไร 1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ชุดที่ 3 เริ่มต้นทำโครงงาน อย่างไร เล่มน้ี จัดทำขึ้นเพื่อให้นักเรียนใช้ประกอบการเรียนรู้ในวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์ รหัส ว 22201 ซึ่งนักเรียนจะไดศ้ กึ ษาเพิม่ เติมด้วยตนเอง 2. ในแต่ละหน้าของแต่ละชุดกิจกรรมจะมีเนื้อหาสาระ คำแนะนำหรือคำอธิบาย พร้อมทั้งคำถาม ให้นักเรียนได้ศึกษาและฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ความรู้ความเข้าใจ ตลอดจนทักษะในการ นำไปใชแ้ กป้ ญั หา 3. ใหน้ ักเรยี นอา่ นคำชี้แจงการใช้ชุดกิจกรรมการเรยี นร้ใู ห้เขา้ ใจ 4. กอ่ นศกึ ษา ทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน จำนวน 10 ข้อเพื่อวัดความรพู้ ้นื ฐาน 5. ศกึ ษาจดุ ประสงค์ สาระสำคัญ เนอื้ หาในชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 6. เรียนรู้ตามกิจกรรมที่ครูผู้สอนจัดให้ในชุดกิจกรรม มีสื่ออุปกรณ์ในการปฏิบัติ ให้นักเรียนปฏิบัติให้ เรยี บร้อยและครบถว้ น 7. ทำแบบทดสอบหลงั เรยี น 8. ตรวจคำตอบจากเฉลย เพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการทางการเรียนของตนเองและจะได้ทราบ ถึงพัฒนาการทางด้านความคิด ความรู้ความเข้าใจจากเรื่องที่ศึกษา

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรูโ้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนักเรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ฉ ชุดที่ 3 เร่มิ ต้นทำโครงงานอย่างไร ขัน้ ตอนการใช้ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ คาชแ้ี จงการใช้ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ทดสอบก่อนเรยี น นาเข้าสบู่ ทเรยี น กจิ กรรมการเรียนรู้ สรปุ ทดสอบหลงั เรียน พบครู ผา่ น ไมผ่ า่ น เสริม ซอ่ ม

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนกั เรียนชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 2 1 ชุดที่ 3 เร่ิมต้นทำโครงงานอยา่ งไร ชุดกิจกรรมการเรียนรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ ชุดที่ 3 เรมิ่ ตน้ ทำโครงงานอย่างไร สาระสำคัญ คำถาม ปัญหาหรือประเด็นที่สนใจท่ีอยากจะศึกษา จากการสังเกตสิ่งต่างๆ รอบตัว การสำรวจ ตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญนำไปสู่การกำหนดหัวข้อโครงงานวิทยาศาสตร์ ลักษณะสำคัญ ของคำถาม ปัญหา หรือประเด็นที่จะนำมาทำโครงงานวิทยาศาสตร์ต้องสามารถสำรวจตรวจสอบโดยใช้ กระบวนการทางวิทยาศาสตรไ์ ด้ การกำหนดหัวข้อโครงงานวิทยาศาสตร์ เร่ิมจากการฝึกต้ังคำถาม หรือประเด็นที่สนใจที่อยากจะศึกษา จากการสังเกตส่ิงตา่ ง ๆ รอบตัว การสำรวจตรวจสอบ การสบื คน้ ข้อมลู การสืบค้นข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญหน่ึงที่ทำให้นักเรียนมีข้อมูลเพียงพอ สามารถวางแผนการทำงาน เลือก วสั ดุ อุปกรณ์ วธิ กี ารศึกษา ตลอดจนการวเิ คราะหแ์ ละสรุปผล ทำให้ไดโ้ ครงงานวิทยาศาสตร์ทีม่ ีประสิทธภิ าพ

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นักเรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 2 ชดุ ท่ี 3 เรมิ่ ตน้ ทำโครงงานอยา่ งไร จุดประสงค์การเรียนรู้ เมื่อศึกษาบทเรียนนี้แลว้ นกั เรยี นควรจะสามารถ 1. ด้านความรู้ (K) 1.1 วิเคราะหค์ ำถามหรอื ประเด็นทางวิทยาศาสตร์ที่ตง้ั ข้ึนมาได้ 1.2 ระบปุ ญั หาท่ีสนใจเพ่ือทำโครงงานวิทยาศาสตร์ได้ 1.3 วิเคราะห์และสรุปปัจจยั สำคัญในการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ได้ 2. ดา้ นทักษะ (P) 2.1 ต้งั คำถามทสี่ ามารถสำรวจตรวจสอบโดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ได้ 2.2 ตง้ั คำถามทเี่ ชือ่ มโยงหลักการทางวทิ ยาศาสตร์ และสำรวจตรวจสอบได้ พร้อมท้ังบ่งบอก ประเดน็ ทสี่ ำคัญในการสำรวจตรวจสอบ 2.3 สบื ค้นข้อมูลประกอบการทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ได้ 3. ด้านคุณธรรม จริยธรรม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) 3.1 มีทศั นคติท่ีดตี ่อการต้ังคำถามเพื่อนำไปสู่การกำหนดหัวข้อโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 3.2 มคี วามกระตอื รือร้นและมุง่ มน่ั ในการตง้ั คำถามเพอื่ นำไปสกู่ ารกำหนดปัญหาโครงงาน 3.3 มีความมุ่งมั่น สนใจใฝร่ ู้ในการทำงานท่ีได้รับมอบหมาย

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 3 ชุดท่ี 3 เริม่ ต้นทำโครงงานอย่างไร กระดาษคำตอบ ชดุ ที่ 3 เริ่มตน้ ทำโครงงานอยา่ งไร แบบทดสอบก่อนเรยี น แบบทดสอบหลังเรยี น ข้อ ก ข ค ง ข้อ ก ข ค ง 1 1 2 2 3 3 4 4 5 5 6 6 7 7 8 8 9 9 10 10 คะแนน สรุปผลการทดสอบ หลังเรยี น คะแนนหลงั เต็ม ก่อนเรยี น คะแนน 10 เรยี นคิดเป็น ได้ 10 เต็ม ร้อยละ ได้

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 4 ชุดท่ี 3 เริม่ ตน้ ทำโครงงานอยา่ งไร แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ชดุ กิจกรรมการเรยี นรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ ชุดที่ 3 เริ่มต้นทำโครงงานอยา่ งไร ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ข้อสอบ 10 ข้อ ใช้เวลา 10 นาที คะแนนเต็ม 10 คะแนน คำชี้แจง ให้นกั เรยี นเลอื กคำตอบที่ถูกตอ้ งท่ีสุดแล้วทำเครือ่ งหมาย X ลงในกระดาษคำตอบ 1. เราสามารถเรมิ่ ทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ไดด้ ้วย 4. ข้อใดเป็นคำถามที่สามารถนำไปสกู่ ารตัง้ ปญั หา วธิ ีการใด เพือ่ ทำโครงงานวิทยาศาสตร์ได้ ก. สงั เกตสง่ิ รอบตัว ก. ทำไมขวดพลาสติกจงึ ยุบลงไป ข. สบื คน้ ข้อมลู เรอ่ื งทีส่ นใจ ข. น้ำรอ้ นและน้ำเยน็ มีความแตกตา่ งกันอย่างไร ค. ทำการทดลองเพอ่ื สำรวจตรวจสอบ ค. ขนาดของขวดพลาสติกจะมีผลตอ่ การ ง. ตัง้ คำถามหรอื ปัญหาเร่อื งที่สนใจ เปลยี่ นแปลงของลูกโปง่ หรือไม่ ง. ถา้ เติมน้ำร้อนใส่ในขวดพลาสตกิ แล้วปิดฝา 2. ในการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ การต้ังคำถามมี เขย่าขวดแลว้ เทนำ้ ร้อนออก จะเกิดอะไรขนึ้ บ้าง ความสำคญั อยา่ งไร ก. ทำใหไ้ ด้ความรู้ที่หลากหลาย 5. การกำหนดโครงงานวิทยาศาสตร์ท่ีจะทำ ได้มาจาก ข. กระตุ้นใหเ้ กดิ การสังเกตและสำรวจตรวจสอบ ส่งิ ใด ค. เป็นเทคนิคสำคัญที่นำไปสกู่ ารแสวงหาความรู้ ก. การต้ังถามหรอื ระบุปญั หาจากส่งิ ที่สนใจรอบตัว ง. ถกู ทง้ั ข และ ค ข. การศึกษาค้นควา้ จากแหล่งข้อมูลต่างๆ ค. การสำรวจตรวจสอบดว้ ยวธิ ีการทาง 3. ลกั ษณะของคำถามท่ีดเี ป็นอย่างไร วิทยาศาสตร์ ก. มปี ระเด็นเช่อื มโยงกับหลักการทาง ง. การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ข. มปี ระเดน็ สำคัญท่ใี ช้ในการสำรวจตรวจสอบ ค. สามารถสำรวจตรวจสอบได้โดยใช้ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ง. ถูกทุกข้อ

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนกั เรียนชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 5 ชดุ ท่ี 3 เริ่มต้นทำโครงงานอย่างไร แบบทดสอบก่อนเรยี น 6. ข้อใดเปน็ การระบุปญั หาในเร่อื งทสี่ นใจจากการ 9. ในการสบื ค้นข้อมูลเพ่ือใช้ในการทำโครงงานนั้น สำรวจสิง่ แวดล้อมในทอ้ งถิ่น สามารถสบื คน้ ไดจ้ ากแหลง่ ใด ก. การสรา้ งเครื่องมือในการเก็บเงาะทส่ี ามารถทำงาน ก. หนังสอื ไดร้ วดเร็ว ข. บทความ ค. การสัมภาษณ์ ข. การทดสอบวา่ ยาสูบมีผลในการกำจัดศัตรูพืชในมนั ง. ถกู ทุกข้อ เทศไดจ้ ริงหรอื ไม่ 10. ข้อใดกลา่ วถึงการสืบคน้ ขอ้ มูลได้ถูกต้อง ค. การต่อยอดทำเคร่ืองประดับท่ีได้จากเคซีน ง. การออกแบบสร้างเกมคอมพิวเตอร์ด้วยตนเอง ก. ควรใช้ข้อมลู จากแหลง่ ข้อมูลทนี่ า่ เช่อื ถือเพียงแหง่ เดยี ว 7. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ ประเดน็ ท่ตี ้องมีการวิเคราะห์ความสำคัญ และความเปน็ ไดข้ องการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ข. ข้อมูลท่ีอ้างอิงไม่ควรนานเกนิ กวา่ 5 ปี ค. การบอกแหล่งท่ีมาเปน็ การตรวจสอบความ ก. เวลาที่ใช้ในการทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ข. วัสดุอปุ กรณ์ และวิธดี ำเนนิ งาน น่าเช่ือถอื ของข้อมูล ค. งบประมาณ ง. ควรหาข้อมูลกวา้ งๆ เพื่อเปน็ ประโยชน์ต่อการทำ ง. แหล่งข้อมลู โครงงาน 8. เมื่อมีการกำหนดปัญหาโครงงานแลว้ ควรทำส่งิ ใด ก. สืบคน้ ข้อมลู จากแหล่งข้อมลู ต่างๆ ข. วิเคราะห์ความสำคญั และความเป็นไปได้ ค. วิเคราะหแ์ ละสรปุ ปัจจยั สำคัญในการทำโครงงาน ง. ถูกทัง้ ข้อ ก และ ค

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 6 ชดุ ท่ี 3 เร่ิมต้นทำโครงงานอยา่ งไร ใบกิจกรรม 3.1 ลองคดิ และทำ อยา่ งนักวทิ ยาศาสตร์ จดุ ประสงค์ของกจิ กรรม นกั เรียนสามารถตั้งถามท่ีเชื่อมโยงหลักการทางวทิ ยาศาสตร์ สามารถสำรวจตรวจสอบได้ และระบุ ประเด็นหรอื ตวั แปรที่สำคัญในการสำรวจตรวจสอบ วสั ดุอุปกรณ์ 1. ขวดพลาสติก ขนาด 500 - 600 cm3 2. ลูกโป่ง 3. บกี เกอรข์ นาด 250 cm3 4. น้ำร้อนอุณหภมู ิ 60-70 องศาเซลเซียส ถ้าทดลองเติมน้ำร้อนใส่ในขวดพลาสติก ประมาณ 50 cm3 แล้วปิดฝา เขย่าขวดประมาณ 3 วินาที แล้ว เทน้ำรอ้ นในขวดพลาสติกออก แล้วรบี ปดิ ฝาขวดพลาสติก ตงั้ ขวดท้ิงไวส้ กั ครู่

ชดุ กิจกรรมการเรียนรูโ้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนักเรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 7 ชดุ ท่ี 3 เร่มิ ตน้ ทำโครงงานอยา่ งไร 1. นักเรียนคาดการณ์วา่ จะเกดิ อะไรขน้ึ กบั ขวดพลาสติก ............................................................................................................................. ....................... .................................................................................................................................................... 2. ผลทีไ่ ดเ้ หมอื นหรือต่างจากการคาดการณอ์ ย่างไร ............................................................................................................................. ....................... ............................................................................................................ ........................................ 3. นกั เรียนสงสัย อยากรู้อะไรเกย่ี วกับการทดลองนบ้ี า้ ง ลองเขียนคำถามมาให้มากที่สุด ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ .................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. .................................................

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2 8 ชุดท่ี 3 เร่มิ ตน้ ทำโครงงานอยา่ งไร จากนน้ั ทำการทดลองใหม่ โดยเปลย่ี นจากการปดิ ฝาเป็นการนำลกู โป่งไปครอบปากขวดแทน 4. นักเรียนคาดการณ์วา่ จะเกดิ อะไรขึน้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. ผลท่ไี ดเ้ หมือนหรือตา่ งจากการคาดการณอ์ ย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. นักเรียนสงสัย อยากรอู้ ะไรเกีย่ วกับการทดลองน้บี า้ ง ลองเขียนคำถามมาให้มากที่สุด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ชุดกิจกรรมการเรยี นรูโ้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนกั เรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 9 ชุดที่ 3 เร่ิมตน้ ทำโครงงานอย่างไร 7. จากคำถามในกิจกรรม นักเรยี นคดิ วา่ คำถามใดทีส่ ามารถหาคำตอบด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ .................................................................................................................. .......................................................... ........................................................................................................................................................................... .................................................................................................................. ......................................................... . เมอ่ื ตงั้ คำถำมมำแลว้ ก็ ตอ้ งมวี ธิ ี นำไปส่กู ำรหำคำตอบดว้ ยนะจะ๊ 8. ใหน้ ักเรียนเลือกคำถามจากด้านบนมา 1 คำถาม ที่สามารถสำรวจตรวจสอบไดด้ ว้ ยกระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์ .................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................................................................

ชุดกจิ กรรมการเรียนรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนกั เรียนช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 2 10 ชุดท่ี 3 เริ่มตน้ ทำโครงงานอย่างไร ใบกจิ กรรม 3.2 กำเนิดปญั หาโครงงาน จดุ ประสงคข์ องกจิ กรรม เมอ่ื ทำกิจกรรมนแี้ ล้ว นักเรยี นควรจะสามารถต้ังปญั หาที่นักเรยี นสนใจเพ่ือทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ใหน้ ักเรียนต้งั คำถามหรอื ปัญหาทส่ี นใจอยากหาคำตอบ อยา่ งนอ้ ย 5 คำถาม จากแหล่งตา่ งๆ ดังต่อไปนี้ 1. การอา่ นบทความ นติ ยสาร หนงั สอื หรอื สือ่ อืน่ ๆ 2. กจิ กรรมในชวี ิตประจำวนั ของนกั เรยี นหรือบคุ คลรอบๆ ตวั 3. การสำรวจส่งิ แวดลอ้ มในท้องถนิ่ 4. งานอดเิ รก หรือความสนใจส่วนตวั 5. กิจกรรมในบทเรียนท่ีผ่านมา 6. อ่นื ๆ ระบุ....................................................................................................... คำถามที่ 1.......................................................................................... คำถามท่ี 2.......................................................................................... คำถามที่ 3.......................................................................................... คำถามที่ 4.......................................................................................... คำถามที่ 5..........................................................................................

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนกั เรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 2 11 ชุดท่ี 3 เร่มิ ตน้ ทำโครงงานอยา่ งไร คำถามที่เลือกคอื ........................................................................................................................... .................................................................................................................................................................. • ประโยชน์และความสำคัญ ............................................................................................................................. ............ ....................................................................................................................................... • เวลาทใ่ี ชใ้ นการทำ ............................................................................................................................. ............ ........................................................................................................................................ • วสั ดุอุปกรณ์ และวิธีการดำเนินงาน ......................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............ ....................................................................................... .................................................. ............................................................................................................................. ............ ......................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............ ......................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............ ........................................................................................................................................ . • งบประมาณ ............................................................................................................................. ............ .................................................................................................................................. .......

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 2 12 ชุดท่ี 3 เร่มิ ตน้ ทำโครงงานอยา่ งไร ใบกจิ กรรม 3.3 การสบื ค้นข้อมูลท่ีเกี่ยวข้อง กบั การทำโครงงาน จดุ ประสงคข์ องกิจกรรม เม่ือทำกิจกรรมน้แี ล้ว นักเรยี นควรจะสามารถ 1. วเิ คราะห์และสรปุ ปจั จยั สำคัญในการทำโครงงาน 2. สืบคน้ ขอ้ มูลประกอบการทำโครงงาน 3. เขยี นอ้างองิ แหล่งที่มาของข้อมูล หัวเรอ่ื งในการทำโครงงาน คือ ............................................................................................................................. ............................................. .

ชุดกิจกรรมการเรียนรูโ้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนักเรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 13 ชดุ ท่ี 3 เรม่ิ ต้นทำโครงงานอย่างไร ครูใหน้ ักเรียนแต่ละกล่มุ พจิ ารณาหัวขอ้ โครงงานวิทยาศาสตร์ของตนเอง และตอบคำถาม เพื่อเป็น แนวทางในการสืบค้นขอ้ มูลเพมิ่ เติมประกอบการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ดงั นี้ - โครงงานเร่ืองนี้นกั เรียนสนใจศกึ ษาอะไร และในดา้ นใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… - ปจั จยั สำคัญใดบา้ งท่สี ่งผลตอ่ โครงงานท่ีนกั เรยี นศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… - นกั เรยี นจะดำเนินการศึกษาดว้ ยวิธีการใด และต้องการทราบข้อมลู ใดเพ่ิมเตมิ เกยี่ วกบั วิธีการดังกล่าว ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… - ในการศกึ ษาครง้ั น้ี มีการเกบ็ ข้อมลู ใดบา้ ง และเก็บอย่างไร นักเรียนตอ้ งการทราบข้อมูลใดเพ่ิมเตมิ เกย่ี วกับวธิ ีการเกบ็ ข้อมูลดังกล่าว ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… - นักเรียนคิดวา่ มกี ารศกึ ษาในเรอื่ งทเี่ กย่ี วข้องกับการทำโครงงานของนักเรียนหรือไม่ ถ้ามเี ป็นการศกึ ษาใน ดา้ นใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… - ข้อมูลใดทนี่ ักเรยี นคิดวา่ ควรสืบค้นเพิ่มเตมิ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นักเรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 14 ชุดท่ี 3 เร่มิ ต้นทำโครงงานอย่างไร ให้นักเรียนเขียนสรปุ หัวขอ้ ท่ีจำเปน็ ในการทำโครงงานของนกั เรียน ในรปู แบบแผนผงั หรอื ภาพวาด และ นำเสนอ

ชุดกิจกรรมการเรยี นรูโ้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนกั เรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 15 ชุดที่ 3 เรมิ่ ต้นทำโครงงานอย่างไร ใบความรู้ เริ่มตน้ ทำโครงงานอย่างไร 1. หาหัวข้อท่ีจะศกึ ษา พยายามคิดและหาสงิ่ ทเี่ ราต้องการจะศกึ ษา ซึ่งอาจจะมาจากงานอดเิ รกหรอื ปญั หาอ่นื ๆ ท่ผี ู้พัฒนา ต้องการหาทางแก้ไข ซึ่งอาจจะมีเพียง 1 หรือ 2 เหตุการณ์ 2. ศกึ ษาคน้ คว้าหาข้อมูลท่เี กี่ยวข้อง พยายามที่จะศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆ เก่ียวกับหัวข้อที่คิดไว้จากวารสารวิชาการ ห้องสมุด หรือ อินเทอร์เน็ต สังเกตเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง เก็บรวบข้อมูลต่างๆ ท่ีเกี่ยวกับหัวข้อดังกล่าว ค้นหาผลลัพธ์ท่ีไม่ สามารถอธิบายได้หรือผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด พูดคุยปรึกษากับผู้เช่ียวชาญหรือบริษัทต่างๆ ในสาขาท่ีเกี่ยวกับ หัวข้อท่ีต้องการจะศึกษา เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เก่ียวข้องโดยตรง ตระเตรียมหรือสร้างเคร่ืองมือท่ีจำเป็นต้องใช้ใน การศึกษา 3. จัดการ จัดการรวบรวมทุกๆ สิ่งที่เรียนรู้มา ในข้ันนี้ ผู้พัฒนาควรวิเคราะห์และสรุปความรู้ที่ได้รับอย่างเป็น ระบบ และมุ่งเน้นลงไปท่ีแนวความคิดท่ีเฉพาะเจาะจงมากขน้ึ โดยพยายามเช่ือมโยงความรู้ท่ีได้รับกับปญั หาท่ี สนใจ เพอื่ จะได้กำหนดขอบเขตของงานภายใตเ้ วลาที่มแี ละต้ังสมมติฐานได้

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนักเรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 16 ชุดท่ี 3 เรมิ่ ตน้ ทำโครงงานอย่างไร 4. จดั ตารางเวลา สร้างและกำหนดกจิ กรรมตา่ งๆ ทผี่ ูพ้ ัฒนาจะต้องทำใสล่ งในกำหนดเวลา กิจกรรมท่ีเกย่ี วขอ้ งกับ การทดลองและการเก็บข้อมลู อาจจะต้องใช้เวลามาก เนื่องจากการทดลองเพยี งครั้งเดยี วหรือสองครั้งอาจจะ ไม่เพียงพอ ผ้พู ฒั นาควรจะวางแผนในการทำการทดลองซ้ำ ผูพ้ ัฒนาไม่ควรลืมท่จี ะจดั สรรเวลาไวส้ ำหรบั การ เขยี นรายงานและแสดงผลงานด้วย 5. วางแผนการทดลอง เมอ่ื ผพู้ ฒั นามแี นวความคิดต่างๆ ท่ีเกีย่ วกบั เรือ่ งทตี่ ้องการศึกษาแลว้ จากนั้นให้ลองเขยี นแผนการ ทดลอง โดยแผนการทดลองน้ีควรอธบิ ายถงึ วธิ ีทำการทดลองและส่ิงทีเ่ กีย่ วขอ้ งอย่างเป็นขั้นตอน โดยผู้พฒั นา อาจจะเลือกวิธีการอธบิ ายโดยแบ่งเปน็ หัวขอ้ ย่อยหรือเขียนขนั้ ตอนของกระบวนการทำงานออกมาเป็นข้นั ตอน ชดั เจน 6. ปรกึ ษาอาจารย์ท่ปี รึกษา การทำโครงงานที่ดี การสอื่ สารกบั ผทู้ ี่เกี่ยวข้องมคี วามสำคัญอย่างย่ิง ผู้พฒั นาควรหาเวลาพูดคยุ กบั อาจารยท์ ่ปี รึกษาเก่ยี วกบั โครงงานทจ่ี ะทำและแผนการทดลอง 7. ทำการทดลอง ออกแบบการทดลองด้วยความรอบคอบ ในขณะทำการทดลอง ควรจดบันทึกรายละเอียดทุกอย่างที่ เกี่ยวกับการทดลอง การวัดผลและส่ิงที่สังเกตได้ อย่ามั่นใจในความจำของเรามากเกินไป เพราะอาจหลงลืม ได้ การทำการทดลองควรเป็นไปอย่างรอบคอบ ตัวอย่างเช่น การเปล่ียนแปลงตัวแปรควรท่ีจะเปลย่ี นทีละตัว แปร และทำการทดลองควบคุมด้วยซึ่งตัวแปรทุกชนิดไม่ได้มีการเปล่ียนแปลง ควรมีจำนวนตัวอย่างเพียง พอที่จะทำการทดลอง ในแตล่ ะการทดลอง ควรมีจำนวนตัวอยา่ งอยา่ งนอ้ ย 5 ตวั อยา่ ง

ชุดกิจกรรมการเรียนร้โู ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 17 ชดุ ที่ 3 เร่มิ ต้นทำโครงงานอย่างไร 8. ตรวจสอบผลการทดลอง เมื่อทำการทดลองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้พัฒนาควรจะต้องตรวจสอบผลลัพธ์ท่ีได้ วิเคราะห์ดูว่า ผลการทดลองเป็นไปตามท่ีคาดไว้หรือไม่ อย่างไร การทดลองแต่ละคร้ังมีข้ันตอนการทดลองเหมือนกัน หรือไม่ มีคำอธิบายอนื่ ๆ อีกหรือไม่ท่ีผพู้ ัฒนายังนึกไม่ถึง การสงั เกตการณ์การทดลองแต่ละครั้งมีข้อผดิ พลาด ใดๆ เกิดข้ึนหรือไม่ การทำความเข้าใจถึงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น และวิเคราะห์ข้อผิดพลาดน้ันอาจจะเป็น ประโยชน์อยา่ งยง่ิ ควรทำการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ทางสถิตเพือ่ สนบั สนุนผลงานดว้ ย 9. สรปุ ผลการทดลอง ผู้พัฒนาอาจจะสรุปผลการทดลองของตนโดยการระบุถึงตัวแปรท่ีสำคัญ การเก็บข้อมูลให้ เพียงพอ และสรุปว่า การทดลองนั้นๆ ยังจำเป็นที่ต้องทดลองต่อไปอีกหรอื ไม่ ผู้พัฒนาควรเปิดใจกว้าง ไม่ควร เปลี่ยนแปลงผลการทดลองเพียงเพ่ือให้ตรงกับทฤษฎีที่ได้เรียนรู้มา การทำการวิจัยทางวิทยาศาสตรท์ ี่ประสบ ความสำเร็จ ไม่จำเป็นที่ผลการทดลองจะต้องตรงกับสมมติฐานท่ีต้ังไว้ เพราะการทดลองน่ีถือเป็นเพียงการ พสิ จู น์สมมตฐิ านเทา่ น้นั

ชุดกิจกรรมการเรยี นร้โู ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นักเรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 2 18 ชุดท่ี 3 เร่มิ ตน้ ทำโครงงานอย่างไร วธิ ีคดิ เรื่องที่จะทำโครงงานวิทยาศาสตร์ หัวขอ้ เรอื่ งในการทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ อาจไดม้ าจากสิง่ ตอ่ ไปนี้ 1. จากการสงั เกตส่งิ แวดลอ้ มใกล้ตัว หรือในชมุ ชน โดยพจิ ารณาวา่ มีปญั หาอะไรเกิดขนึ้ บ้าง หรือ พยายามนำสิ่งทไี่ ม่มีประโยชน์มาทำให้เกดิ ประโยชน์ 2. จากการสำรวจอาชีพในท้องถนิ่ แล้วหาทางปรับปรุงอาชีพน้นั โดยใช้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี 3. งานอดิเรกของนักเรียน หรอื อาชพี เสริมของครอบครวั 4. ความเชื่อของคนในท้องถิ่นที่ยังไม่มีการพิสจู น์ เช่น การใชส้ มุนไพรบางชนดิ ในการรักษาโรค 5. จากการค้นคว้าเรอื่ งราวทีเ่ กยี่ วกบั วิทยาศาสตร์จากเอกสารต่าง ๆ เช่น หนงั สอื พิมพ์หรือวารสาร 6. จากการฟังบรรยายทางวชิ าการ การชมรายการวทิ ยุ โทรทัศน์ หรอื ค้นควา้ จาก อนิ เทอร์เนต็ ท่ี เกี่ยวขอ้ งกับวิทยาศาสตร์ หรอื สามารถนำความรูท้ างวทิ ยาศาสตร์ไปใช้แกป้ ัญหา และพัฒนาให้ดขี ึน้ ได้ 7. ศกึ ษาจากโครงงานทีผ่ ู้อ่ืนทำไว้แล้ว หรือจากการไปศึกษาดูงาน 8. จากเรื่องทีน่ ักเรียนกำลงั เรียนเปน็ การทำโครงงานเพื่อเสริมบทเรียน นอกจากนี้ การตั้งคำถามมีความสำคัญและมีคณุ ค่าในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คำถามทำให้เกิดพลังใน การเรียนรู้ ช่วยให้เกิดการพัฒนาความคิดด้วยการตอบคำถาม การตั้งคำถามท่ีดี สามารถนำไปสู่การทำงาน ทางวิทยาศาสตร์ งานวิจัย และโครงงานวิทยาศาสตร์ได้ เพราะคำถามเป็นจุดเร่ิมต้น ทำให้เกิดพลังในการ เรยี นรู้ ช่วยใหเ้ กิดการพฒั นาความคดิ ในการตอบคำถาม แก้ปญั หา เสนอทางออกของปัญหา

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรูโ้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 19 ชุดท่ี 3 เริม่ ตน้ ทำโครงงานอยา่ งไร ลักษณะของคำถาม คำถามทเ่ี กดิ ขนึ้ จากการสงั เกต การสำรวจตรวจสอบ หรือการสบื ค้นข้อมลู อาจมลี กั ษณะดังต่อไปน้ี 1. คำถามที่เน้น หรือ จุดประกายความสนใจ เป็นคำถามที่นำเข้าสู่จุดสนใจในเร่ืองนั้น ๆ เช่น “ดูน่ีสิ” “เธอสังเกตเห็นอะไรหรือไม่” ซึ่งมักจะตามด้วยคำถามท่ีต่อเนื่องกันคือ “รู้สึกอย่างไร” “มีอะไรอยู่ ภายในน้ี” “มีอะไรเกิดข้ึน” “ได้ยินอะไร” เป็นคำถามที่แนะนำเพื่อจะเรยี นรู้สิ่งใหม่ การเริ่มต้นสังเกต สำรวจ และตรวจสอบ 2. คำถามท่ีเก่ียวกับการวัดและการนับ เป็นคำถามท่ีเกี่ยวข้องกับการวัดและการนับ ขนาดและ จำนวนส่ิงต่างๆ ในสถานการณ์หนึ่งๆ ขณะนั้น ซึ่งผู้เรียนสามารถตรวจสอบคำตอบของตนเองได้ เช่น “ใบไม้น้ียาวเท่าไร” “ระยะทางท่ีรถเคล่ือนที่จากจุดเร่ิมต้นถึงปลายทางยาวเท่าไร” “มีนกมากินอาหารใน บริเวณน้ีเท่าไร” คำถามเหล่าน้ีจะตอบเชิงปริมาณเป็นตัวเลข อาจต้องมีการใช้เคร่ืองมือต่างๆ ในการวดั ในการ นับ และควรคำนึงถงึ ความแม่นยำของการวดั ดว้ ย 3. คำถามเปรียบเทียบ เป็นคำถามเชิงคุณภาพท่ีนำไปสู่การคดิ วิเคราะห์อยา่ งละเอียด ว่าของสองสิ่ง มีอะไรเหมือนกัน และมีอะไรแตกต่างกัน ซึ่งสิ่งของ วัตถุ หรือส่ิงมีชีวิตต่างๆ ท้ังความเหมือนและความ แตกต่างกัน ได้แก่ รูปร่าง ขนาด สี ลวดลาย เช่น “เปลือกหอยเหล่านี้มีอะไรที่เหมือนกัน และมีอะไรท่ี ต่างกัน “การทำงานของระบบประสาทกับระบบต่อมไร้ทอ่ เหมอื นหรือต่างกันอย่างไร” คำถามท่ีให้เปรียบเทียบ ทำให้เกิดการจัดระบบของสง่ิ ต่างๆ พิจารณาถึงความเป็นหน่งึ เดียวในความหลากหลาย การจำแนก การจัดกลุ่ม การออกแบบตารางเก็บข้อมลู และช่วยส่งเสริมใหค้ ดิ สร้างสรรคแ์ บบจำลองสถานการณ์ 4. คำถามที่นำไปสู่การกระทำ หรือ การปฏิบัติ คำถามประเภทนี้จะนำไปสู่การลงมือสำรวจ ตรวจสอบให้ได้คำตอบทีถ่ ูกต้องตามความเปน็ จริง เนื่องจากเป็นคำถามทท่ี ้าทายให้นำไปสกู่ ารตัง้ สมมตฐิ านหรือ ทำนายผลที่จะเกิดขึ้น คำตอบอาจไม่ตรงกับท่ีคาดไว้ คำถามประเภทนี้มักจะขนึ้ ต้นด้วย “จะเกดิ อะไรข้ึน ถา้ …” เชน่ “จะเกิดอะไรข้นึ ถา้ ใสย่ สี ต์ลงในสารละลายน้ำตาลท่อี ุณหภมู ติ า่ งกนั ” 5. คำถามที่นำไปสู่การต้ังปัญหา เป็นคำถามที่ซับซ้อนมากขึ้น เพ่ือนำไปสู่สถานการณ์แก้ปัญหาใน สภาพจริง เช่น จากการศึกษาการงอกของต้นกล้าจากเมล็ดพืชพบว่า รากพืชเจริญลงสู่พื้นดิน ส่วนยอดพืช เจริญในทศิ ตรงข้าม อาจเกดิ คำถาม เช่น “มีวธิ ีทจ่ี ะทำให้พชื เจริญเติบโต โดยให้ส่วนยอดเจริญในทิศทางเขา้ หา พื้นดิน และรากพืชเจริญในทางตรงกันข้ามได้หรือไม่ อย่างไร” ซึ่งคำถามในลักษณะดังกล่าวจะนำไปสู่การ ออกแบบการทดลองท่ีแตกต่างกัน

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 20 ชดุ ที่ 3 เริ่มต้นทำโครงงานอย่างไร ในการพิจารณาคำถามหรือปัญหาใดท่สี ามารถนำไปกำหนดเป็นหัวขอ้ ในการ ทำโครงงาน คำถามควรมลี ักษณะ ดังน้ี - เป็นคำถามทีม่ ีประเด็นที่เชอ่ื มโยงกับหลกั การทางวิทยาศาสตร์ - มปี ระเดน็ ที่สำคญั ท่ใี ช้ในการสำรวจตรวจสอบ - สามารถสำรวจตรวจสอบได้โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ตัวอยา่ งการวิเคราะหค์ ำถาม นกั เรยี นต้องการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทการทดลอง เพื่อหาคำตอบวา่ ประเภทของ นมชนิดใดท่ีเหมาะสมต่อการผลิตเคซนี เพ่อื นำไปทำเครื่องประดบั การวเิ คราะห์คำถามใชป้ ระเดน็ ดงั นี้ - เป็นคำถามท่ีมีประเด็นท่ีเชอ่ื มโยงกบั หลักการทางวิทยาศาสตร์ หลกั การทางวทิ ยาศาสตร์ทเี่ กยี่ วข้อง คือ หลกั การเกิดเคซนี - มีประเด็นท่ีสำคัญทใี่ ชใ้ นการสำรวจตรวจสอบ คำถามน้ีมปี ระเดน็ ในการสำรวจตรวจสอบ เพราะนักเรยี นต้องการสืบค้น เตรียมการและ ทดสอบว่านมประเภทใดเหมาะสมท่ีสุด - สามารถสำรวจตรวจสอบไดโ้ ดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คำถามน้ี สามารถหาคำตอบได้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องมกี ารตัง้ สมมตฐิ าน วางแผนและออกแบบการทดลอง เก็บข้อมลู สรุปและอภปิ รายผลการศึกษา การกำหนดโครงงานวิทยาศาสตร์นั้น ได้มาจากการต้ังคำถามหรือระบุปัญหาจากสิ่งท่ีน่าสนใจ รอบตัว พร้อมท้ังต้องมีการวิเคราะห์ถึงความสำคัญและความเป็นไปได้ของการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะต้องมีการสืบค้นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ของตนเอง ให้ตรงประเด็นมากท่ีสุด การสืบค้นข้อมูลเป็นข้นั ตอนหนึง่ ท่ีสำคัญในการทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ซ่งึ ชว่ ยให้นักเรยี นสามารถ วางแผนการทำงาน เลือกวัสดุอุปกรณ์ วิธีการศึกษา การเก็บข้อมูล ตลอดจนการวิเคราะห์และสรุปผล การศึกษา ในการสืบค้นข้อมูลโดยศึกษาจากงานของผู้อ่ืนนั้น ควรมีการวิเคราะห์ความน่าเช่ือถือของข้อมูล และอา้ งองิ ท่ีมา เพ่ือเป็นประโยชน์ในการศกึ ษาตอ่ ไป นอกจากนีย้ ังเปน็ การใหเ้ กยี รติแกเ่ จ้าของข้อมลู

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นักเรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 21 ชดุ ที่ 3 เร่มิ ต้นทำโครงงานอยา่ งไร ตัวอย่างรูปแบบการเขยี นอา้ งอิงแหล่งทีม่ าของขอ้ มูล หนังสอื ผแู้ ต่ง. ปที ่ีพิมพ.์ ช่อื เรือ่ ง. ครั้งท่ีพมิ พ์. เมอื งท่ีพมิ พ์ : สำนกั พมิ พ์. ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี,สถาบนั . 2552. หนังสอื เรียนรายวิชาพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ เล่ม 3 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4-6. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 2. กรุงเทพมหานคร : คุรุสภาลาดพรา้ ว บทความในวารสาร ผูเ้ ขียนบทความ. ปที ี่พิมพ.์ “ชื่อบทความ.” ชื่อวารสาร ปีท่ี, ฉบบั ท่ี : เลขหนา้ . ภัทราวธุ พุสงิ ห์. 2555. “อทุ กภัยและภยั แล้งอันเนื่องมาจากการเปล่ียนแปลงสภาพภมู ิอากาศ” นิตยสาร สสวท. 34, 172 : 26-33. บทความในหนังสอื พมิ พ์ ผู้เขยี นบทความ. ปที ี่พมิ พ์. “ช่อื บทความ.” ชื่อหนงั สอื พิมพ์ (วนั ท่ี เดอื น) : เลขหนา้ . ซูม. 2555. “เรยี นรูพ้ ระราชดำริจาก 4,100 โครงการ.” ไทยรัฐ (9 มีนาคม) : 5. สัมภาษณ์ ผู้ให้สมั ภาษณ.์ ตำแหนง่ (ถา้ มี). ป.ี เรอื่ งท่ีสัมภาษณ์, วัน เดอื น. นายบญุ ฑา มาประเสริฐ. 2555. การใชย้ ากำจดั ศัตรพู ชื , 3 มนี าคม ขอ้ มูล/สารสนเทศอ่ืนๆ บนอินเทอร์เนต็ ผเู้ ขียนบทความ. ป.ี “ชอ่ื เรือ่ ง.” [ประเภทของส่ือท่เี ขา้ ถึง]. เขา้ ถงึ ได้จาก : แหลง่ ข้อมูลจากสารนเิ ทศ. (วัน เดอื น ปี ทค่ี ้นข้อมลู ) บัวอื่น. 2555. “มาฆบชู าตำนานวันสำคญั เม่ือครั้งพุทธกาล.” [ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก http://www.vichakarn.com/varticle/35193 (25 กรกฎาคม 2550)

ชุดกจิ กรรมการเรียนรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 22 ชุดที่ 3 เริ่มต้นทำโครงงานอยา่ งไร คำถามชวนคดิ ชวนทำ คำชี้แจง 1. ใหน้ กั เรยี นทำเคร่ืองหมาย ✓ หน้าข้อความ ทีเ่ หน็ ว่าเปน็ ปัญหาท่ีเหมาะสมจะทำโครงงาน วิทยาศาสตร์และทำเครือ่ งหมาย  หน้าข้อความ ทเี่ ห็นว่าเป็นปัญหาทีไ่ มเ่ หมาะสมจะทำโครงงาน วทิ ยาศาสตร์ .........................1. ทำไมโลกจงึ กลม .........................2. บนทอ้ งฟ้ามีดาวก่ีดวง .........................3. ขนาดของใบพืชมีผลต่ออตั ราการสังเคราะหด์ ว้ ยแสง .........................4. ปลากนิ พืชเจรญิ เติบโตเรว็ กวา่ ปลากนิ สตั ว์ .........................5. หญงิ หรอื ชายใครเก่งกวา่ .........................6. ว่านหางจระเข้รักษาอาการผมร่วงได้ .........................7. นำ้ สบั ปะรดใชห้ มักเน้ือใหน้ ุ่มได้ .........................8. จลุ ินทรีย์ยอ่ ยสลายสารในอุณหภูมิสงู ไดด้ ีกวา่ อุณหภมู ติ ่ำ .........................9. ทำไมมอดจึงกนิ ไม้ .........................10. ชนดิ ของนำ้ ผลไม้มีผลต่อการหมักแอลกอฮอล์ 2. ใหน้ ักเรียนทำเครอื่ งหมาย ✓ ทบั หนา้ ข้อทเ่ี ป็นปัญหาที่ชัดเจน สามารถหาสำรวจตรวจสอบโดยใช้ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ได้ 2.1 .................. จุลนิ ทรยี อ์ ีเอม็ ใชด้ บั กลนิ่ เนา่ เหม็นของนำ้ เสียได้หรอื ไม่ .................. จลุ นิ ทรีย์อเี อม็ มสี ตู รว่าอย่างไร 2.2 .................. ทำไมจงึ เคี้ยวขา้ ว .................. การเคย้ี วขา้ วใหล้ ะเอยี ดจะทำให้ย่อยง่ายหรอื ไม่ 2.3 .................. แสงแดดทำให้เกดิ การสงั เคราะหด์ ้วยแสงได้อย่างไร ................... แสงสใี ดทำใหเ้ กิดอัตราการสงั เคราะหด์ ้วยแสงได้ดที ี่สดุ 2.4 .................. ความชน้ื มีผลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของเชอื้ รา .................. ทำไมบรเิ วณท่มี ีความชน้ื จึงเกิดเช้ือรา

ชุดกจิ กรรมการเรียนร้โู ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 23 ชดุ ที่ 3 เรมิ่ ต้นทำโครงงานอยา่ งไร แบบทดสอบหลังเรยี น ชุดกิจกรรมการเรียนร้โู ครงงานวิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 3 เร่ิมต้นทำโครงงานอย่างไร ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 2 ขอ้ สอบ 10 ข้อ ใชเ้ วลา 10 นาที คะแนนเตม็ 10 คะแนน คำช้ีแจง ใหน้ กั เรียนเลอื กคำตอบท่ถี ูกต้องที่สุดแลว้ ทำเครื่องหมาย X ลงในกระดาษคำตอบ 1. การกำหนดโครงงานวทิ ยาศาสตร์ทจ่ี ะทำได้มาจากสิง่ ใด 4. เราสามารถเรมิ่ ทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ไดด้ ้วย ก. การต้ังถามหรอื ระบุปญั หาจากสง่ิ ท่ีสนใจรอบตัว วธิ กี ารใด ข. การศกึ ษาคน้ ควา้ จากแหลง่ ข้อมูลต่างๆ ค. การสำรวจตรวจสอบด้วยวธิ กี ารทางวิทยาศาสตร์ ก. สังเกตสง่ิ รอบตัว ง. การวางแผนและออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ ข. สบื ค้นข้อมลู เรอ่ื งทส่ี นใจ ค. ทำการทดลองเพอื่ สำรวจตรวจสอบ 2. เมอื่ มกี ารกำหนดปัญหาโครงงานแลว้ ควรทำส่งิ ใด ง. ต้งั คำถามหรอื ปัญหาเรอ่ื งทสี่ นใจ ก. สบื ค้นขอ้ มูลจากแหล่งข้อมลู ต่างๆ ข. วิเคราะหค์ วามสำคัญและความเปน็ ไปได้ 5. ลักษณะของคำถามทดี่ ีเป็นอย่างไร ค. วเิ คราะหแ์ ละสรุปปัจจยั สำคัญในการทำโครงงาน ก. มีประเด็นเชอ่ื มโยงกับหลกั การทางวทิ ยาศาสตร์ ง. ถูกทง้ั ข้อ ก และ ค ข. มีประเดน็ สำคัญทใี่ ช้ในการสำรวจตรวจสอบ ค. สามารถสำรวจตรวจสอบไดโ้ ดยใช้กระบวนการทาง 3. 3. ข้อใดเปน็ การระบุปญั หาในเร่ืองทส่ี นใจจากการสำรวจ วทิ ยาศาสตร์ ส่ิงแวดล้อมในท้องถน่ิ ง. ถกู ทุกข้อ ก. การสร้างเคร่ืองมือในการเก็บเงาะที่สามารถทำงาน ได้รวดเร็ว 6. ข้อใด ไมใ่ ช่ ประเดน็ ท่ีต้องมกี ารวิเคราะห์ความสำคัญ ข. การทดสอบวา่ ยาสูบมีผลในการกำจัดศัตรูพชื ในมนั และความเปน็ ไปได้ของการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ เทศได้จริงหรอื ไม่ ค. การตอ่ ยอดทำเครื่องประดับท่ีไดจ้ ากเคซีน ก. เวลาท่ีใช้ในการทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ง. การออกแบบสรา้ งเกมคอมพวิ เตอรด์ ว้ ยตนเอง ข. วสั ดอุ ุปกรณ์ และวิธีดำเนนิ งาน ค. งบประมาณ ง. แหลง่ ขอ้ มลู

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนกั เรียนช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 2 24 ชดุ ท่ี 3 เรม่ิ ตน้ ทำโครงงานอยา่ งไร แบบทดสอบหลังเรยี น 7. ในการสืบค้นข้อมลู เพ่ือใชใ้ นการทำโครงงานน้ัน 9. ในการทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ การต้ังคำถามมี สามารถสืบคน้ ได้จากแหลง่ ใด ความสำคัญอย่างไร ก. หนังสือ ก. ทำให้ได้ความรู้ที่หลากหลาย ข. บทความ ข. กระตุ้นใหเ้ กดิ การสงั เกตและสำรวจตรวจสอบ ค. การสัมภาษณ์ ค. เป็นเทคนิคสำคัญทีน่ ำไปส่กู ารแสวงหาความรู้ ง. ถูกทกุ ข้อ ง. ถกู ทัง้ ข และ ค 8. 8. ข้อใดกลา่ วถงึ การสืบคน้ ข้อมูลไดถ้ กู ต้อง 10. ข้อใดเป็นคำถามที่สามารถนำไปสู่การตัง้ ปัญหาเพอ่ื ก. ควรใชข้ อ้ มูลจากแหล่งข้อมูลทน่ี ่าเช่อื ถือเพียงแหง่ ทำโครงงานวทิ ยาศาสตรไ์ ด้ เดยี ว ข. ขอ้ มูลที่อา้ งอิงไม่ควรนานเกนิ กว่า 5 ปี ก. ทำไมขวดพลาสติกจึงยบุ ลงไป ค. การบอกแหล่งท่ีมาเปน็ การตรวจสอบความ ข. นำ้ รอ้ นและนำ้ เย็นมคี วามแตกต่างกนั อยา่ งไร นา่ เชอ่ื ถือของข้อมลู ค. ขนาดของขวดพลาสติกจะมีผลต่อการเปล่ียนแปลง ง. ควรหาข้อมูลกวา้ งๆ เพื่อเปน็ ประโยชนต์ ่อการทำ โครงงาน ของลกู โป่งหรือไม่ ง. ถา้ เตมิ น้ำร้อนใส่ในขวดพลาสติก แล้วปดิ ฝาเขยา่ ขวดแล้วเทนำ้ รอ้ นออก จะเกดิ อะไรขนึ้ บา้ ง

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 25 ชดุ ท่ี 3 เร่ิมต้นทำโครงงานอยา่ งไร เกณฑก์ ารประเมิน

ชุดกิจกรรมการเรียนรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 2 26 ชดุ ที่ 3 เริม่ ตน้ ทำโครงงานอยา่ งไร แบบประเมนิ ใบกจิ กรรม ชอ่ื ……………………………………….. ชน้ั …………หน่วยการเรียนรทู้ ี่………………กิจกรรม………………………………. คำชีแ้ จง : ให้ผ้ปู ระเมนิ ขีด / ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดบั คะแนน โดยให้ศกึ ษาเกณฑ์การใหค้ ะแนนผลงาน ประเดน็ ท่ีประเมิน ผ้ปู ระเมิน 1. ตรงตามจดุ ประสงคท์ ่ีกำหนด ตนเอง เพ่อื น ครู 4 3 2 1 4 3214321 2. มคี วามถูกต้องสมบูรณ์และเป็น ปจั จุบัน 3. มีความคดิ สร้างสรรค์ 4. มีความเป็นระเบยี บ 5. เสรจ็ เรยี บรอ้ ยตามเวลาที่กำหนด รวม รวมทกุ รายการ เฉล่ยี ผู้ประเมิน……………………………………………………….. (ตนเอง) ผปู้ ระเมนิ ……………………………………………………….. (เพือ่ น) ผปู้ ระเมนิ ……………………………………………………….. (คร)ู

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรูโ้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนกั เรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 27 ชดุ ที่ 3 เรมิ่ ต้นทำโครงงานอย่างไร เกณฑก์ ารประเมินใบกจิ กรรม ประเด็นท่ีประเมิน คะแนน 1.ผลงานตรงตาม 4 32 1 จุดประสงค์ที่กำหนด ผลงานสอดคลอ้ งกับ ผลงานไม่สอดคลอ้ ง จุดประสงคท์ ุก ผลงานสอดคลอ้ งกบั ผลงานสอดคลอ้ งกับ กับจุดประสงค์ 2.ผลงานมีความ ประเดน็ ถูกต้องสมบูรณแ์ ละ เน้อื หาสาระของ จุดประสงค์ จดุ ประสงคบ์ าง เนอื้ หาสาระของ เป็นปจั จบุ ัน ผลงานถูกต้อง ผลงานไมถ่ ูกตอ้ ง เป็น ครบถว้ นเป็นปจั จุบนั เป็นส่วนใหญ่ ประเดน็ ส่วนใหญ่ 3.ผลงานมคี วามคิด สร้างสรรค์ ผลงานแสดงออกถึง เนอื้ หาสาระของ เนื้อหาสาระของ ผลงานไมแ่ สดงแนวคดิ ความคดิ สร้างสรรค์ ใหม่ 4.ผลงานมีความเปน็ แปลกใหม่และเป็น ผลงานถูกต้อง ผลงานถูกตอ้ ง ระเบียบ ระบบ ผลงานส่วนใหญไ่ มเ่ ป็น ผลงานมีความเปน็ ครบถ้วนเป็นสว่ นใหญ่ ครบถว้ นเปน็ บาง ระเบยี บและมี 5.ผลงานเสร็จ ระเบยี บ แสดงออกถงึ ข้อบกพร่อง เรยี บร้อยตามเวลาที่ ความประณีต ประเดน็ ส่งผลงานช้ากว่าเวลา กำหนด สง่ ผลงานตามเวลา ทกี่ ำหนด 5 วนั ท่ีกำหนด ผลงานมแี นวคดิ แปลก ผลงานมีความนา่ สนใจ ใหม่ แตย่ ังไมเ่ ป็น แตย่ งั ไมม่ ีแนวคดิ ระบบ แปลกใหม่ ผลงานสว่ นใหญม่ ี ผลงานมีความเปน็ ความเปน็ ระเบียบแตม่ ี ระเบยี บแตม่ ี ข้อบกพรอ่ งบางส่วน ขอ้ บกพรอ่ งบางส่วน สง่ ผลงานช้ากว่าเวลา ส่งผลงานช้ากวา่ เวลา ทกี่ ำหนด 1-2 วัน ทกี่ ำหนด 3-5 วนั เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ระดบั คณุ ภาพ คะแนน ดมี าก 17-20 ดี 13-16 9-12 ปานกลาง 5-8 ปรับปรุง เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ ระดับ ดี

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรูโ้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นักเรียนชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 2 28 ชดุ ท่ี 3 เร่มิ ต้นทำโครงงานอยา่ งไร เกณฑก์ ารประเมนิ คำถามชวนคิดชวนทำและแบบทดสอบหลงั เรยี น ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 3 เริ่มตน้ ทำโครงงานอยา่ งไร คำถามชวนคดิ ชวนทำ ชุดที่ 3 เรมิ่ ต้นทำโครงงานอย่างไร ถูกต้อง 1 คะแนน ไม่ถูกตอ้ ง 0 คะแนน เกณฑ์การผ่านการประเมนิ 12 คะแนนขน้ึ ไป (ร้อยละ 80) แบบทดสอบหลังเรยี น ชุดท่ี 3 เริม่ ต้นทำโครงงานอย่างไร ถกู ต้อง 1 คะแนน ไมถ่ ูกตอ้ ง 0 คะแนน เกณฑ์การผ่านการประเมนิ 8 คะแนนขึ้นไป (รอ้ ยละ 80)

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 29 ชุดที่ 3 เร่มิ ต้นทำโครงงานอย่างไร แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล คำชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ✓ลงในชอ่ ง ทตี่ รงกบั ระดับคะแนน เลขที่ ชื่อ-สกลุ ความต้ังใจใน ความ การตรงตอ่ ความสะอาด ผลสำเรจ็ ของ ของผ้รู บั การประเมนิ การทำงาน รับผิดชอบ เวลา เรียบรอ้ ย งาน 321 321 321 321 321 ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรโู้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรับนักเรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 2 30 ชุดท่ี 3 เรม่ิ ต้นทำโครงงานอย่างไร เกณฑก์ ารให้คะแนน แบบประเมนิ พฤติกรรมรายบคุ คล ประเดน็ ท่ีประเมนิ 3 คะแนน 1 ความตั้งใจในการทำงาน มคี วามตงั้ ใจในการทำงานดี 2 ไม่มีความต้งั ใจในการทำงาน ความรับผดิ ชอบ การตรงต่อเวลา ทำงานตามทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย มคี วามตั้งใจในการทำงาน ไมม่ ีทำงานตามทไ่ี ด้รับ ครบถ้วน พอใช้ มอบหมาย ความสะอาดเรียบรอ้ ย ทำงานเสรจ็ ทนั เวลาท่ีกำหนด ทำงานตามท่ไี ดร้ บั มอบหมาย ทำงานไม่เสร็จตามเวลาที่ บางส่วน กำหนด ผลสำเรจ็ ของงาน เขียนตวั อกั ษร ตวั สะกดและ ทำงานเสร็จช้ากว่าเวลาที่ เขยี นตวั สะกดและไวยากรณ์ ไวยากรณถ์ กู ต้อง ชัดเจน อา่ น กำหนดไมเ่ กิน 10 นาที ไมถ่ ูกต้องเปน็ สว่ นมาก มี งา่ ย ไมม่ รี อ่ งรอยการแกไ้ ข เขียนตัวอักษร ตวั สะกดและ รอ่ งรอยการแกไ้ ขมากกวา่ 5 ไวยากรณ์ถกู ต้องบางส่วน จุด ผลงานมคี วามถูกต้องครบถว้ น ชดั เจน อ่านง่าย มีร่องรอยการ ผลงานยังไม่ถกู ตอ้ งและไม่ ตรงตามจุดประสงค์ แก้ไขไมเ่ กนิ 5 จุด ตรงตามจดุ ประสงค์ ผลงานมคี วามถูกตอ้ งเป็น สว่ นมาก ตรงตามจดุ ประสงค์ เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 11 – 15 ดี 10 - 6 ตำ่ กว่า 6 พอใช้ ปรบั ปรุง เกณฑ์การผา่ นการประเมิน ระดบั ดี

ชุดกิจกรรมการเรยี นรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 31 ชดุ ที่ 3 เร่มิ ตน้ ทำโครงงานอยา่ งไร แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ คำชแ้ี จง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ลงในช่อง ทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน ลำดับท่ี ชื่อ-สกลุ ความรว่ มมอื การแสดง ความคิด การตงั้ ใจ การแกไ้ ข รวม ของผ้รู ับการ กนั ทำกิจกรรม ความคิดเหน็ สรา้ งสรรค์ ทำงาน ปัญหา/หรอื 20 ปรบั ปรงุ คะแนน ประเมนิ 4321 4321 ผลงานกลุ่ม 43214321 4321 ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................

ชุดกิจกรรมการเรยี นรโู้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรียนชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2 32 ชดุ ท่ี 3 เริ่มตน้ ทำโครงงานอย่างไร เกณฑ์การใหค้ ะแนน แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม ประเด็นท่ปี ระเมนิ คะแนน ความรว่ มมอื กนั ทำ กจิ กรรม 4 3 21 การแสดงความ ใหค้ วามร่วมมือในการ คิดเหน็ ทำงานกลุม่ อยา่ งดเี ยยี่ ม ใหค้ วามรว่ มมือในการ ให้ความร่วมมอื ในการ ไม่ให้ความรว่ มมอื ใน รว่ มแสดงความคดิ เหน็ ความคิดสร้างสรรค์ และยอมรบั ฟังความ ทำงานกลุม่ อยา่ งดี ทำงานกลมุ่ พอใช้ การทำงานกลมุ่ คิดเห็นกบั ผ้อู น่ื อย่างดี การต้ังใจทำงาน มีความคดิ ริเร่มิ ยอมรบั ฟงั ความ ยอมรับฟังความ ไม่ยอมรับฟงั ความ สรา้ งสรรค์ทแี่ ปลกใหม่ การแกไ้ ขปญั หา/ แตกต่างจาก คิดเห็นกับผอู้ ื่นบางคร้ัง คดิ เหน็ กับผ้อู ่นื น้อย คิดเหน็ กับผูอ้ น่ื หรอื ปรับปรุงผลงาน แนวความคดิ เดิม และ กลุ่ม เปน็ ประโยชน์ มคี วามคิดริเร่ิม มีความคิดรเิ ร่ิม ขาดความคดิ ริเริ่ม สรา้ งสรรค์ ท่ีมี สรา้ งสรรคท์ ่ี สร้างสรรค์ ไมม่ ีการ มีความต้งั ใจในการ พ้นื ฐานจาก เปล่ียนแปลงจาก เปล่ียนแปลงจาก ทำงานอย่างดเี ยยี่ ม แนวความคิดเดิม และ แนวความคดิ เดิม แต่ แนวความคดิ เดิม เป็นประโยชน์ ยังไมเ่ ป็นประโยชน์ มีการวางแผนเพ่ือ อย่างชัดเจน ไมม่ คี วามตั้งใจในการ แกป้ ัญหาและปรับปรุง มคี วามต้ังใจในการ มคี วามตั้งใจในการ ทำงานขาดความ ผลงานใหด้ ขี ึ้น พร้อม ทำงานดี ทำงานพอใช้ รบั ผดิ ชอบ ตรวจสอบการแก้ปญั หา ไม่มีการวางแผนเพ่อื มีการวางแผนเพอื่ มีการวางแผนเพอื่ แก้ปัญหาและ แกป้ ัญหา ปรบั ปรงุ แกป้ ญั หา แต่ยังไม่ ปรับปรุงผลงาน ผลงานใหด้ ีข้ึน สามารถปรับปรงุ ผลงานใหด้ ขี ึ้นได้ เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ตำ่ กวา่ 10 ปรับปรงุ เกณฑ์การผ่านการประเมนิ ระดบั ดี

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรยี นชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 33 ชุดที่ 3 เรม่ิ ต้นทำโครงงานอยา่ งไร แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เลข ช่อื – สกลุ ซอ่ื สัตย์ มีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ ม่งุ ม่ันในการ ผลการ ท่ี ทำงาน ประเมนิ 3210321032103210 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 34 ชดุ ที่ 3 เร่มิ ตน้ ทำโครงงานอยา่ งไร เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ประเดน็ การสังเกต เกณฑก์ ารให้คะแนน 1. ซ่อื สัตย์ 3 21 0 2. มีวินยั ไม่ใหข้ ้อมลู ทถี่ กู ตอ้ ง ใหข้ อ้ มูลทถี่ กู ต้องและเป็น ใหข้ อ้ มูลทีถ่ ูกตอ้ งและเป็น ให้ข้อมลู ที่ถกู ตอ้ งและ และเป็นจริง 3. ใฝ่เรียนรู้ มพี ฤตกิ รรมนำ จริง ไมน่ ำส่ิงของและ จริง ไม่นำส่งิ ของและ เป็นจรงิ ไมน่ ำสง่ิ ของ สิ่งของและผลงาน 4. มุง่ มั่น ของผูอ้ ื่นมาเปน็ ของ ในการทำงาน ผลงานของผ้อู นื่ มาเป็น ผลงานของผอู้ ่ืนมาเปน็ และผลงานของผอู้ ืน่ มา ตนเอง ของตนเอง ปฏิบตั ติ นต่อ ของตนเอง ปฏิบัตติ นต่อ เป็นของตนเอง ไมป่ ฏิบตั ติ นตาม ผู้อนื่ ดว้ ยความซ่อื ตรง เปน็ ผอู้ ่นื ดว้ ยความซ่อื ตรง ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คับ แบบอย่างท่ดี ีดา้ นความ ของโรงเรยี น ซื่อสตั ย์ ไม่ต้งั ใจเรยี น ไม่ศึกษาค้นคว้าหา ปฏบิ ตั ติ นตามข้อตกลง ปฏบิ ัติตนตามข้อตกลง ปฏบิ ัติตนตามขอ้ ตกลง ความรู้ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ไมต่ งั้ ใจปฏิบตั ิ หนา้ ทีก่ ารงาน ข้อบังคับของโรงเรียน ข้อบงั คบั ของโรงเรียน ขอ้ บงั คับของโรงเรียน และ ไม่ละเมดิ สิทธขิ อง ตรงตอ่ เวลาในการปฏิบตั ิ ตรงตอ่ เวลาในการ ผู้อ่นื ตรงตอ่ เวลาในการ กิจกรรมและรับผดิ ชอบใน ปฏิบตั กิ จิ กรรม ปฏบิ ตั ิกิจกรรมและ การทำงาน รับผิดชอบในการทำงาน เข้าเรยี นตรงเวลา ต้ังใจ เขา้ เรียนตรงเวลา ตั้งใจ เขา้ เรียนตรงเวลา ตั้งใจ เรยี น เอาใจใส่ในการเรยี น เรียน เอาใจใส่ในการเรยี น เรยี น เอาใจใส่ในการ และมสี ่วนรว่ มในการ และมสี ว่ นรว่ มในการ เรยี น และมสี ่วนร่วมใน เรยี นรู้ และเข้ารว่ ม เรยี นรู้ และเข้ารว่ ม การเรยี นรู้ และเข้าร่วม กจิ กรรมการเรียนรตู้ ่างๆ กิจกรรมการเรียนรตู้ ่างๆ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ทัง้ ภายในและภายนอก บ่อยคร้งั ตา่ งๆ เป็นบางครัง้ โรงเรยี นเป็นประจำ ต้ังใจและรบั ผดิ ชอบในการ ตั้งใจและรับผิดชอบใน ตง้ั ใจและรบั ผิดชอบใน ปฏบิ ตั ิหน้าท่ีทไ่ี ดร้ ับ การปฏิบัตหิ น้าทท่ี ไี่ ดร้ บั การปฏิบัตหิ นา้ ทีท่ ี่ไดร้ บั มอบหมายใหส้ ำเร็จ มีการ มอบหมายใหส้ ำเรจ็ มีการ มอบหมายใหส้ ำเรจ็ ปรับปรงุ และพัฒนาการ ปรบั ปรุงและพฒั นาการ ทำงานใหด้ ีข้นึ ภายในเวลา ทำงานใหด้ ีขึ้น ทกี่ ำหนด เกณฑ์การประเมนิ คะแนนรวมตั้งแต่ 10 – 12 คะแนน มีคณุ ภาพระดบั 3 ดีมาก เกณฑก์ ารผา่ น คะแนนรวมต้ังแต่ 7 – 9 คะแนน มคี ณุ ภาพระดบั 2 ปานกลาง คะแนนรวมตั้งแต่ 4 – 6 คะแนน มคี ณุ ภาพระดับ 1 พอใช้ ระดบั ปานกลาง ขน้ึ ไป

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรบั นกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 35 ชุดท่ี 3 เรม่ิ ตน้ ทำโครงงานอย่างไร บรรณานุกรม นุชลกั ษณ์ หงษ์ทอง. 2553. ชดุ ฝึกท่ี 2 เร่ิมตน้ กับโครงงานวทิ ยาศาสตร์. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://www.warin.ac.th/tweb/nutchalux/sice%204%20E.html (15 มกราคม 2550) สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธกิ าร. 2546. คูม่ ือวัดผล ประเมนิ ผลวิทยาศาสตร.์ กรงุ เทพฯ : องคก์ ารคา้ ครุ ุสภาลาดพร้าว. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. 2557. คมู่ ือครูรายวิชาเพมิ่ เตมิ วิทยาศาสตร์ สนกุ กับโครงงานวิทยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพรา้ ว. สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. 2557. หนังสือเรยี นรายวิชา เพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ สนุกกับโครงงานวิทยาศาสตร์ ชนั้ มัธยมศกึ ษาตอนต้น กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพร้าว. เริม่ ต้นโครงงานวิทยาศาสตรอ์ ยา่ งไร. [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ได้จาก : http://fic.nectec.or.th/ysc12-howto-2 (15 มกราคม 2560)

ชุดกิจกรรมการเรียนรูโ้ ครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 2 36 ชุดท่ี 3 เร่มิ ตน้ ทำโครงงานอย่างไร