การพยาบาลบุคคลทีมีปัญหาการใช้สารเสพติด และถูกทารุณกรรม โดย ดร.ศิริรัตน์ จาํ ปี เรือง
ใบงานที 1 ผ้เู รียนและผ้สู อนพดู คยุ แลกเปลียนเกียวกับอิทธิพลของปัญหา ความสับสน วุ่นวายในชีวิตของบุคคล มีผลต่อเปลียนแปลง ชีวิตด้านพฤตกิ รรมและการใช้สารเสพตดิ อย่างไร นกั ศกึ ษาแตล่ ะกลมุ่ แลกเปลียนการเล่าประสบการณ์ (Story Telling) เกียวกับปัญหาความสับสน วุ่นวายในชีวติ กับการ แก้ไขปัญหาอย่างอิสระ
Substance หมายถึง สารหรือยาทอี าจเป็ นผลติ ภณั ฑ์จากธรรมชาตหิ รือจากการ สังเคราะห์ เมอื บุคคลใดเสพหรือได้รับเข้าไปในร่างกายซําๆ กนั แล้ว ไม่ว่าด้วยวธิ ี ใดๆ จะทาํ ให้ บุคคลนันต้องตกอย่ใู นอาํ นาจ ของสิงนันทางด้านร่างกายและจติ ใจ อาจ ต้องเพมิ ปริมาณการเสพขนึ เรือยๆ หรือทาํ ให้สุขภาพของผ้เู สพตดิ เสือมโทรมลง Substance Dependence หมายถงึ การทบี ุคคลต้องการใช้หรือต้องพงึ พาสาร เสพตดิ บางอย่างเพอื ให้ตนเองดาํ เนนิ ชีวติ ต่อไปได้ 1. การพงึ พาทางด้านร่างกาย (physical dependence) หมายถึง การทีบุคคลได้รับสาร เสพติดเข้าไปในร่างกายและสารนันออกฤทธทิ ีมอี ทิ ธิพลต่อร่างกาย ทําให้บุคคลต้องใช้สารนนั ไปเรือยๆ เพราะถ้าหยุดใช้หรือปริมาณสารเสพติดในร่างกายลดลง ทําให้เกดิ ความไม่สุขสบาย 2. การพงึ พาทางด้านจติ ใจ (phychological dependence) หมายถงึ การทีบุคคลได้รับ สารเสพตดิ เข้าไปในร่างกายและสารนันมอี ทิ ธพิ ลต่อจติ ใจในลกั ษณะของความอยากหรือความ เคยชิน ทาํ ให้บุคคลต้องแสวงและต้องการได้รับสารนนั ไปเรือยๆ
การวนิ ิจฉัย substance dependence เกดิ ความเสียหายอย่างน้อย 3 ข้อใน 12 เดอื น 1. การดอื ยา (tolerance) ตามข้อใดข้อหนงึ ดงั นี ก. มคี วามต้องการทจี ะใช้สารนนั เพอื ให้ได้ซึงผลหรืออาการทตี ้องการ ข. ผลของสารจะลดลงไปอย่างมาก เมอื มกี ารใช้อย่างต่อเนอื ง ในจาํ นวนทเี ท่าเดมิ 2. อาการขาดยา (withdrawal) ตามข้อใดข้อหนึงดงั นี ก. เกดิ ลกั ษณะของกล่มุ อาการขาดยา ข. มกี ารใช้สารนนั เพอื หลกี เลยี งหรือบรรเทาอาการขาดยา 3. มกั จะใช้สารนนั ในจาํ นวนทเี พมิ มากขนึ หรือใช้ตดิ ต่อกนั นานมากกว่าทคี ดิ ไว้ 4. ต้องการใช้สารนันอยู่ตลอดเวลาอย่างต่อเนอื ง 5. เวลาในแต่ละวนั หมดไปกบั กจิ กรรมต่าง ๆ เพอื ทจี ะให้ได้สารนนั มา 6. การใช้สารนนั ทาํ ให้กจิ กรรมสําคญั ๆ ในด้านต่างๆ ส่วนตวั เสือมลง 7. ใช้สารนันต่อไปเรือย ๆ แม้จะรู้ว่าสารนัน ก่อให้เกดิ ปัญหาทางกายและจติ ใจ
Substance abuse หมายถึง การทบี ุคลนําสารหรือ ยาบางชนิด มา ใช้ไม่ถูกต้องตามวตั ถุประสงค์ของสารหรือยานันๆ เช่น นํายาในกล่มุ amphetamine มารับประทานเป็ นยาลดความอ้วน การวนิ ิจฉัย substance abuse เกดิ ความเสียหายอย่างน้อย 3 ข้อใน 12 เดอื น1. มกี ารใช้สารนันอย่เู รือย ๆ ซึงทาํ ให้ไม่สามารถทาํ งานต่าง ๆ ได้เต็มที2. มกี ารใช้สารนันอย่เู รือยๆ ในสถานการณ์ทจี ะเป็ นอนั ตรายต่อสุขภาพ3. ก่อให้เกดิ ปัญหาทางกฎหมายจากการใช้สาร4. มกี ารใช้สารอย่างต่อเนือง แม้ว่าสารนันจะก่อให้เกดิ ปัญหาต่าง ๆ
การแบ่งประเภทของยาเสพตดิ ตามแหล่งทมี า ไดแ้ ก่ จากธรรมชาติ และจากการสงั เคราะห์ ตามกฎหมาย แบ่งไดเ้ ป็ น 2 แบบ ถูกกฎหมาย และ ผดิ กฎหมาย ตามการออกฤทธิต่อจิตประสาท แบ่งไดเ้ ป็ น 4 ประเภท – ประเภทกดระบบประสาท เช่น ฝิ น มอร์ฟี น เฮโรอีน ยานอนหลบั สาร ระเหย และยาระงบั ประสาทต่างๆ – ประเภทกระต้นุ ระบบประสาท เช่น ยาบา้ พชื กระท่อม โคเคน ยาอี (อีเฟดรีน) และยาอี (เอก็ ซ์ตาซี) – ประเภทหลอนประสาท เช่น แอลเอสดี เมสคาลีน เห็ดขีควาย ยาเค – ประเภทออกฤทธิผสมผสาน เช่น กญั ชา ยาเสพติดประเภทนีจะออกฤทธิทงั กด กระตนุ้ และหลอนประสาท
แบ่งตามพระราชบัญญัติยาเสพตดิ ให้โทษ พ.ศ. 2522 ได้ 5 ประเภทประเภท 1 คือ ชนิดร้ายแรง เช่น เฮโรอีน เมทแอมเฟตามีน เอก็ ซ์ตาซี LSDประเภท 2 คือ ใหโ้ ทษทวั ไป เช่น มอร์ฟี น โคเคอีน โคเดอีน ฝิ นประเภท 3 คือ ยาเสพติดให้โทษทีมีลกั ษณะเป็นตน้ ตาํ รับยาเสพติดประเภท 2 ผสมอยู่ เช่น ยาแกไ้ อทีมีโคเคอีนผสมอยู่ประเภท 4 คือ สารเคมีทีใชใ้ นการผลิตยาเสพติดประเภท 1 หรือ ประเภท 2 เช่น แอซิติกแอนไฮไดรด์ แอซิติลคลอไรด์ประเภท 5 คือ ไม่เขา้ ในประเภท 1 - 4 เช่น กญั ชา พืชกระท่อม เห็ดขีควาย
ยาเสพตดิ ทแี พร่ระบาดในปัจจุบัน ฝิ น (Opium) ฤทธิกดประสาทสมอง ทาํ ใหเ้ กิดอาการเคลิบเคลิ ม ความคิดอ่านชา้ ลง ง่วง เซืองซึม ใจเลือนลอย ไม่รู้สึกหิว และเบือ อาหาร ชีพจรเตน้ ชา้ หายใจชา้ ม่านตาหด กดฮอร์โมนเพศ อาการ ขาดยารุนแรง คือ กระวนกระวาย หงุดหงิด โกรธง่าย ตกใจง่าย นาํ มกู นาํ ตาไหล เหงือออก กลา้ มเนือกระตุก และปวดหลงั อาเจียน ทอ้ งเดิน บางรายอาจจะถ่ายเป็นเลือด ม่านตาขยาย นอนไม่หลบั หายใจหอบ และถี บางครังดิ นทุรนทุราย ลกั ษณะขาดยา จะมีขึนในระยะ 24 ชวั โมงแรก และจะรุนแรงมาก ทีสุดภายใน 48-72 ชวั โมง หลงั จากนนั อาการจะค่อยๆ ทุเลาลง
มอร์ฟี น (Morphine) ฤทธิกดประสาทส่วนกลาง รุนแรงกว่าฝิ นประมาณ 8-10 เท่า ลดเจบ็ ปวด ทาํ ให้ง่วงหลบั ไป และลดการทาํ งานของร่างกาย อาการ ข้างเคยี งอนื ๆ กค็ อื อาจทาํ ให้คลืนเหยี น อาเจยี น ท้องผูก เกดิ อาการคนั หน้า ตาแดง เพราะโลหติ ฉีด ม่านตาดาํ หดตบี และหายใจลาํ บาก เฮโรอนี (Heroin) มฤี ทธิร้ายแรงกว่ามอร์ฟี น 4-8 เท่า และร้ายแรงกว่าฝิ น ประมาณ 30-95 เท่า ฤทธิทาํ ให้ง่วงนอน หลบั ได้ดี งนุ งง อาจคลืนไส้ อาเจยี น ซูบผอมเหลอื ง นัยน์ตาเหลอื ง ตาแห้ง เหม่อลอย ริมฝี ปากแห้ง นําหนักลด อย่างเร็ว ความคดิ ช้าลง ขเี กยี จทาํ งาน เมอื หยุดเสพ มอี าการหงุดหงดิ โกรธง่าย ง่วงนอน นํามูกนําตาไหล เหงอื ออก มาก ปวดกล้ามเนืออย่างรุนแรง อุณหภูมใิ นร่างกายสูง ขาดสติ ต้องการยา อย่างรุนแรง อาเจยี น ท้องร่วง บางครังจะอาเจยี นเป็ นเลอื ด เบอื อาหาร นอน ไม่หลบั ดวงตาเหม่อลอย อารมณ์เปลยี นแปลงง่าย ฟ้ ุงซ่าน มคี วามวติ กกงั วล หายใจช้ากว่าปกติ หรือมอี าการชักเกดิ ขนึ
ยาบ้า (Amphetamine) ส่วนประกอบทสี ําคญั คอื สารเมทแอมเฟตามนี มี อาการหวั ใจเต้นเร็ว ความดนั โลหิตสูงขนึ ไม่รู้สึกอ่อนเพลยี มกี าํ ลงั มาก ไม่ อยากรับประทานอาหาร ปากแห้ง ชอบเลยี ริมฝี ปาก อาจทาํ ให้เกิดความครึม ใจ ครึกครืน หรือเกดิ อาการเคลบิ เคลมิ ประสาทหลอน หลงผดิ เกดิ ความ วติ กกงั วล หรือเกดิ อาการโรคจติ (psychosis) ขนึ ยาอี (Ecstasy, Adam, Eve, love drug) มฤี ทธิกระต้นุ ประสาท เช่นเดยี ว กบั เมทแอมเฟตามนี แต่แรงกว่า 10 เท่า และเป็ นสารหลอนประสาทด้วย ทาํ ให้เกดิ อาการสนุกสนานเป็ นสุข มคี วามต้องการทางเพศ อาการเป็ นพษิ คอื เหน็ ภาพหลอน ได้ยนิ เสียงหลอน ความคดิ สับสน หวาดวติ ก และมอี าการ ซึมเศร้า ส่วนอาการทางกาย คอื หัวใจเต้นเร็วผดิ ปกติ อุณหภูมขิ องร่างกาย สูงขนึ หายใจเร็ว นอนไม่หลบั กล้ามเนอื กระตุก
สารระเหย (Volatile Solvents) ออกฤทธิในทางกดประสาท สารเหล่านี ได้แก่ นาํ มนั เบนซิน ทนิ เนอร์ กาว ยาล้างเลบ็ นํามนั ผสมสี แลก็ เกอร์ สีกระป๋ องสําหรับพ่น นาํ มนั ก๊าด พษิ ของสารระเหย แบ่งเป็ น 2 ระยะคอื1. พษิ ระยะเฉียบพลนั อาการทเี กดิ ขนึ ทนั ที คอื เมาคล้ายคนเมาเหล้า แน่นหน้าอก จมูกบวม ตาพร่า ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ถ้าเสพในปริมาณสูงเกนิ ขนาด ฤทธิ ของสารระเหยจะกดการหายใจ ทาํ ให้หัวใจเต้นผดิ จงั หวะ อาจทาํ ให้หัวใจวาย ตายได้2. พษิ ระยะเรือรัง เมอื สูดดมนานๆ พษิ จะทาํ ลายระบบต่างๆ ภายในร่างกาย ทาํ ให้ สมองพกิ าร ความจาํ เสือม ความคดิ อ่านช้าลง ไม่สามารถควบคมุ การ เคลอื นไหวของร่างกายได้ ทาํ ลายระบบทางเดนิ หายใจ ทาํ ให้หลอดลมอกั เสบ เยอื บุจมูกอกั เสบ มเี ลอื ดออกทางจมูก ทาํ ลายระบบโลหติ ไขกระดูก หยุด สร้างเมด็ โลหติ ทาํ ให้เกดิ โรคมะเร็งในเมด็ เลอื ดขาว
LSD กล่มุ หลอนประสาท LSD มาละลายนาํ แลว้ ชุบกระดาษนาํ ไป อบใหแ้ หง้ เรียกกนั วา่ กระดาษเมา (Magic paper หรือ Magic stamp) ทาํ ใหเ้ กิดประสาทหลอนทงั แสง สี เสียง โดยฤทธิหลอน ประสาทนีจะเกิดอยนู่ าน 2-4 ชวั โมง ทาํ ใหเ้ กิดอาการเคลิบเคลิ ม กลวั และกระวนกระวาย อาจมีแนวโนม้ ฆ่าตวั ตายได้ ยา K (Ketamine, Ketaler) นาํ มาใชเ้ ป็นยาสลบ อาการต่อจิต ประสาทเกิดอาการเคลิบเคลิ ม อารมณ์ดี (euphoria) จนถึงการกด ประสาทได้ อาจเกิดอาการประสาทหลอนทางการเห็น อาจมี ความรู้สึกแปลกๆ เกิดอาการสบั สนได้
โคเคน (Cocaine) กระต้นุ ระบบประสาทส่วนกลาง ทาํ ให้ตนื เต้น กระวน กระวาย จติ ใจ สับสน ตกใจง่าย ประสาทหลอน ม่านตาขยาย อุณหภูมใิ น ร่างกายสูงขนึ ปวดท้อง คลนื ไส้ อาเจยี น เกดิ อาการเคลบิ เคลมิ การเสพขนาด สูงๆ จะกระต้นุ และกดระบบประสาทส่วนกลางจนทาํ ให้ชักหมดสติ ถ้ารุนแรง จะมหี วั ใจเต้นไม่เป็ นจงั หวะ และระบบไหลเวยี นโลหติ ล้มเหลว จนถึงตาย กญั ชา (Cannabis) หลงั สูบ 2-3 นาที จะเริมรู้สึกสบาย ปราศจากทุกข์ ตนื เต้น มอี ารมณ์สนุก ช่างพูด หวั เราะ ส่งเสียงดงั กล้ามเนือแขนขาอ่อนเปลยี และทาํ งานไม่ประสานกนั คล้ายกบั การเมาเหล้าเริมมอี าการง่วงนอน ในทสี ุดจะ หลบั อยู่ในลกั ษณะทเี รียกว่า “ฝันหวาน “ ถ้าใช้มากทาํ ให้บุคลกิ เปลยี นไป ความรู้สึกต่อแสง เสียง และสี ผดิ ปกตไิ ป การรับรู้เกยี วกบั เวลา ระยะทางผดิ ไป ตดั สินใจเสียไป ความคดิ สับสน หัวใจเต้นเร็ว ความดนั โลหิตตาํ ลง ตาแดง อุณหภูมใิ นร่างกายลดลง มคี วามอยากอาหารมากขนึ กระหายนาํ มอื สัน อาจ ท้องเดนิ และอาเจยี น
พชื กระท่อม ทาํ ให้หายปวดเมอื ยตามตวั ทาํ งานได้ทน ทนแดดได้ดี แต่ไม่ทน ฝน อาการตดิ ยา จะมอี าการหงุดหงดิ กระวนกระวาย ซึมเศร้า มนึ งง ปวด เมอื ยตามข้อ กล้ามเนอื ขา และบนั เอว มอี าการอ่อนเพลยี เกยี จคร้าน เบอื อาหาร และนอนไม่หลบั ยาระงับประสาท และยานอนหลบั (Sedatives & Hypnotics) ฤทธิกด ประสาททาํ ให้ ง่วงนอนและนอนหลบั แพทย์ใช้ยานเี พอื ระงบั ความเครียด ความ วติ กกงั วล ความตนื เต้น ตลอดจนใช้ระงบั อาการชักและใช้รักษาโรคจติ อาการผ้เู สพ จะมอี าการสะลมึ สะลอื มนึ งง ใจคอหงุดหงดิ ความรู้สึกเลอื นลอย ก้าวร้าว ชอบทะเลาะววิ าท มคี วามกล้าอย่างบ้าบนิ สามารถทาํ ร้ายตนเอง หรือ ผ้อู นื ได้ เมอื มอี าการคล้มุ คลงั เดนิ โซเซคล้ายลกั ษณะคนเมาสุรา
ยากล่อมประสาท ออกฤทธิไปกดประสาทเช่นเดียวกบั พวกยาระงบั ประสาท ไดแ้ ก่ ยาพวกไออะซีแพม ไนตราซีแพม พิษค่อนขา้ งตาํ แต่อาจมีอาการขา้ งเคียง เช่น เกิดเป็นผนื แดงทีผวิ หนงั วิงเวยี นศีรษะ สมรรถภาพทางเพศลดลง ประจาํ เดือนมาไม่ปกติ ไซแน็ก (Xanax) ซึงมีส่วนผสมสารอลั ปราโซแลม (Alprazolam) อลั ปราโซแลม (Alprazolam) เป็นยาระงบั ประสาท ยานอนหลบั ระงบั การชกั จากสาเหตุต่างๆ โคเดอนี เป็นสารออกฤทธิอีกตวั หนึงทีพบในฝิ น เนืองจากร่างกาย เปลียนสารโคเดอีนเป็นมอร์ฟี นเช่นเดียวกบั เฮโรอีน คือ ยาแกไ้ อชนิด นาํ และยาชนิดเมด็
บุหรี มีสารเคมีหลายชนิดทีทาํ ใหเ้ กิดโทษ เช่น สารนิโคติน ทีมี ผลต่อระบบหวั ใจและหลอดเลือด สารคาร์บอน มอนอกไซด์ เป็น ตวั ทาํ ลายออกซิเจนในร่างกาย ทาร์ และสารกมั มนั ตภาพรังสีเป็น สารทีก่อใหเ้ กิดมะเร็ง สุรา มีเอธิลแอลกอฮอลเ์ ป็นสารประกอบสาํ คญั สารนีออกฤทธิ กดสมองส่วนต่างๆก็จะไปกดสมองส่วนทีเกียวกบั ความรู้สึกนึก คิด การควบคุมตวั เอง การตดั สินใจ การยบั ยงั และการหกั หา้ ม ใจ
การบาํ บัดรักษาผู้ตดิ สารเสพติด1. ระยะประเมนิ ความพร้อม2. ระยะสร้างความเข้าใจ3. ระยะเตรียมความพร้อม4. ระยะให้การบําบัดรักษา5. ระยะคงความเปลยี นแปลง
วธิ ีการบําบดั รักษา การรักษาทางยา (Pharmacotherapy) แบ่งเป็น 6 ประเภท ไดแ้ ก่1. การถอนพษิ ยา (Detoxification) เป็นกระบวนการในการช่วยผเู้ สพให้ถอนตวั ออกจากการใชส้ ารเสพติด และการพงึ สารเสพติดวธิ ีทีใช้ ไดแ้ ก่ 1.1 การหักดิบ หมายถงึ การให้ผ้เู สพหยุดใช้สารเสพตดิ ทใี ช้อยู่นนั ทนั ที 1.2 การใช้ยาทมี คี ุณสมบตั ิคล้ายสารเสพติดทดแทน เช่น สารเมธาโดน ยากล่อมประสาท ยาทดแทนอนื
เมธาโดน (Methadone) เป็นสารสงั เคราะห์ทีมีคุณสมบตั ิคลา้ ยเฮโรอีน การใช้ยากล่อมประสาท เช่น Pentobarbital สาํ หรับสารเสพติดทีออกฤทธิกดประสาทส่วนกลาง Chlordiazepoxide (librium) สาํ หรับสารทีออกฤทธิกระตุน้ ประสาท Clonidine, Guanabenz, Methadone สาํ หรับสารทีใชบ้ รรเทาอาการ ปวดประเภท opiate analgesic หรือ narcotics Nicotine transdermal patch, Nicorette gum สาํ หรับผทู้ ีติดนิโคติน การลดฤทธิของสารเสพติด หมายถึง การใชย้ าเพือลดผล หรืออาการที เกิดจากการใชส้ ารเสพติด ยาทีนิยมใชก้ นั ไดแ้ ก่ Naltrexone
1.3 การรักษาอาการผดิ ปกติทางจิตและทางกาย 1.4 การใช้ยาทดแทน เช่น เมทธาโดน 1.5 การรักษาอาการอยากยา (Aversion Therapy) หมายถงึ การทาํ ให้ผ้ตู ิดสารเสพตดิ เกดิ ความรู้สึกเกลยี ด หรือไม่ต้องการเสพสารเสพ ติดนันอกี ต่อไป ยาทใี ช้กนั บ่อย ได้แก่ Disulfiran ใช้ในผ้ปู ่ วยทตี ดิ สุรา และNaltrexone ใช้ในผ้ปู ่ วยติดสารประเภทฝิ น3. การบําบัดเป็ นรายกล่มุ (Group therapy)4. ครอบครัวบําบัด (Family therapy) 5. การให้ความรู้ (Education)6. การจัดสภาพแวดล้อมเพอื การบําบัด (Milieu therapy)7. การให้คําปรึกษาอาชีพ 8. กจิ กรรมบาํ บัด
การพยาบาลบุคคลทีถูกทาํ ทารุณกรรม ทารุณกรรม คือ การแสดงพฤติกรรมทีไม่เหมาะสมและกระทํารุนแรงต่อ บุคคลอืน (abuse) โดยผู้กระทําใช้อํานาจหรือบีบบังคับ มีเจตนาเพือทําร้ายต่อ ร่างกายหรือจติ ใจของเหยือ (victims) การกระทาํ ทารุณกรรมอาจเป็ นการกระทํา ต่อเดก็ คู่สมรส หรือผ้สู ูงอายุ รวมถึงการข่มขนื (rape) ด้วย สาเหตุการทารุณกรรมในครอบครัว1. สมั พนั ธภาพในครอบครัวมีลกั ษณะรุนแรง แบ่งออกเป็ น 4 ระยะ คือ 1.1 ระยะเริ มตน้ ครอบครัว เผชิญดว้ ยการละเลย หรือปรับตวั 1.2 ระยะอดทน ภรรยาเริ มตาํ หนิตนเอง และยอมรับวา่ ถูกทาํ ร้าย 1.3 ระยะหลีกหนี เริ มแสวงหาความช่วยเหลือ 1.4 ระยะคืนสภาพ ภรรยาเริ มเป็นตวั ของตวั เอง หนีพน้ จากผกู้ ระทาํ
ผลกระทบของการถูกทารุณกรรม1. ผลกระทบด้านร่างกาย มีบาดแผลทีศีรษะ หนา้ คอ ลาํ ตวั หรืออวยั วะเพศ และอาการร่างกายร่วมดว้ ยเช่น ปวดศีรษะ ระบบยอ่ ยอาหารและการ พกั ผอ่ นผดิ ปกติ2. ผลกระทบด้านจิตสังคม ไดแ้ ก่ การตาํ หนิตนเอง ซึมเศร้า มีความรู้สึกต่อ คุณค่าในตนเองตาํ การตดั สินใจลดลง พฤติกรรมตอบสนองไม่เหมาะสม การทารุณกรรมร่างกายต่อเดก็ (Physical Abuse of Children) คือ การทีเด็กถูกทาํ ร้ายร่างกายโดยบิดามารดาหรือผปู้ กครอง
สาเหตุการทารุณกรรมร่างกายต่อเดก็ ก. ปัจจัยทางบดิ ามารดา มีลกั ษณะดงั นี เช่น ขาดบิดามารดาและถูกทาํ ร้าย ในวยั เด็กมาก่อน มีโรคทางจิตเวช มีเชาวนป์ ัญญาตาํ มีความเครียด มีชีวติ อยอู่ ยา่ งโดดเดียว ข. ปัจจัยทางเด็ก มีลกั ษณะดงั นี ไม่มีความผกู พนั กบั บิดามารดา มีอาการ ทางจิตเวช ระแวงและไม่ไวใ้ จใคร ขาดการควบคุมอารมณ์และมี พฤติกรรมกา้ วร้าว เป็นโรคซน สมาธิสนั สมั พนั ธภาพกบั เพือนไม่ดีจาก เด็กมีพฤติกรรมผดิ ปกติ มีความบกพร่องการรู้การเขา้ ใจ มีพฒั นาการชา้ ค. ปัจจัยทางสิงแวดล้อม ครอบครัวของเดก็ จะมีลกั ษณะดงั นี (1) ยากจน (2) วนุ่ วายเตม็ ไปดว้ ยปัญหา (3) มีบุตรมาก (4) ไม่มีงานทาํ (5) บิดามารดาเขม้ งวดและลงโทษเด็กอยา่ งรุนแรง
อาการแสดง เดก็ ถูกทาํ ร้าย เช่น บาดแผลมลี กั ษณะเฉพาะ เช่น มแี ผลซํา บริเวณสะโพก อวยั วะเพศ บาดแผลมรี ูปแบบเฉพาะ เช่น รอยฝ่ ามอื หรือรอยเขม็ ขดั รอยถูกไฟไหม้หรือถูกจดี ้วยบุหรี ตบั หรือม้ามแตก เลอื ดคงั ใต้กะโหลกศีรษะ บาดเจบ็ ทนี ยั น์ตา บาดแผลทหี ู รอยกระดูกหกั เป็ นรูปวงรี เนอื งจากแขนหรือขา ถูกบิดอย่างแรง การรักษา1. จติ บําบัด มจี ุดม่งุ หมายให้บดิ ามารดามคี วามรู้สึกทดี ตี ่อภาพพจน์ของตวั เอง เปลยี นท่าทที ผี ดิ ซึงมตี ่อเดก็2. พฤตกิ รรมบําบดั เช่น play therapy เดก็ จะมคี วามรู้สึกมคี ุณค่าในตนเองดขี นึ มี ความไว้วางใจผ้อู นื มากขนึ ต้องอธิบายให้เดก็ เข้าใจว่า การทถี ูกทาํ ร้ายเนืองจาก บดิ า มารดา มปี ัญหา ไม่ได้เป็ นเพราะเดก็ มคี วามประพฤตเิ สียหายอย่างใด
การทารุณกรรมทางเพศต่อเดก็ (Sexual Abuse of Children) หมายถึง การที เด็กถกู ประทุษร้ายทางเพศจากบุคคลในครอบครัวหรือผอู้ ืน สาเหตุก. ปัจจยั ทางครอบครัว มีลกั ษณะดงั นี 1. มีการปกครองแบบผชู้ ายเป็ นใหญแ่ ละมี อาํ นาจ2. บิดาและมารดามีสมั พนั ธภาพทีไม่ดีต่อกนั และมีปัญหา 3. หนา้ ทีและ ขอบเขตของบุคคลในครอบครัวไม่ชดั เจน 4. แยกตวั เองออกจากสงั คมและไม่ ติดต่อกบั ผใู้ ดข. ปัจจยั ทางบิดาและมารดา บดิ า มลี กั ษณะ (1) ชอบบงั คบั ข่เู ขญ็ (2) ติดสุรา (3) มีอาชีพไม่มนั คง (4) ไม่คบ ผอู้ ืน และ (5) ไม่สามารถมีความสมั พนั ธ์กบั ใครได้ มารดา มลี กั ษณะ (1) โดดเดียว อา้ งวา้ ง (2) ขาดการแสดงออกของอารมณ์ (3) ไม่เตม็ ใจทีจะยอมรับวา่ สามีทาํ ผดิ เพราะกลวั วา่ ชีวติ สมรสจะแตกแยก
อาการประทุษร้ายทางเพศ 1. มอี าการวติ กกงั วล ซึมเศร้าและมอี าการทางกาย 2. เกดิ รอยแผลในจติ ใจ คดิ ว่าตนเป็ นคนไม่ดี ละอายใจและรู้สึกผดิ 3. มภี าพพจน์เกยี วกบั ร่างกายและเรืองทางเพศผดิ ปกติ 4. มคี วามสับสนเกยี วกบั เรืองทางเพศ 5. มแี นวโน้มสูงทจี ะเป็ นโรคทางจติ เวช 6. บิดามารดาอาจทอดทงิ เดก็ และไล่ออกจากบ้าน 7. เกดิ ความรู้สึกไม่ไว้วางใจ การรักษา1. ใหเ้ ล่าระบายความรู้สึกต่อเหตุการณ์ออกมา2. ใหเ้ ดก็ ไปอยกู่ บั ญาติ ผปู้ กครองทีไวใ้ จได้3. ประเมินพฒั นาการและอารมณ์ของเด็ก เพอื จะไดช้ ่วยเหลือไดถ้ ูกตอ้ ง
การทารุณกรรมผ้สู ูงอายุ (ELDER ABUSE) หมายถึง การทาํ ใหผ้ สู้ ูงอายเุ กิดความเสียหาย โดยการถูกทาํ ร้ายร่างกาย การดุด่าวา่ ร้าย การล่วงเกินทางเพศ รวมทงั ถูก ฉวยโอกาส หรือละเลยโดยบุคคล หรือกลุ่มบุคคลทีควรจะ เป็นผใู้ หก้ ารดูแลจดั การ
สาเหตุการทารุณกรรมผู้สูงอายุ1. เกยี วข้องกบั ตวั ผ้สู ูงอายุ ผ้ดู ูแล ผ้กู ระทาํ ความเสียหาย และสภาพแวดล้อม ภาวะ พงึ พา (dependency) ของผ้สู ูงอายุ ได้แก่ สูญเสียสถานภาพด้านการเงนิ ความ อ่อนแอ และเจบ็ ป่ วย ช่วยตวั เองได้น้อย ต้องได้รับการดูแลทงั ร่างกาย จติ ใจ และ สนบั สนุนด้านการเงนิ เป็ นผลให้สมาชิกในครอบครัวรู้สึกโกรธ ไม่พอใจ2. ความรุนแรงทสี ืบทอดมา (transgenerational violence)สาเหตุนเี ชือว่า ความ รุนแรงเป็ นพฤตกิ รรมการเรียนรู้ เดก็ ทเี ตบิ โตในสภาพทมี คี วามรุนแรง เป็ นสิงที ยอมรับ และเหมอื นเป็ นสิงปกติ เดก็ จะเรียนรู้ และแสดงอาการก้าวร้าวเมอื โตขึน ถ้าเดก็ ถูกทาํ ร้าย หรือได้รับการดูแลไม่ดี เมอื โตขนึ จะตอบแทนพ่อแม่ด้วยการดูแลที ไม่ดเี ช่นเดยี วกนั3. ผ้ดู ูแลมภี าวะความเครียดสูงกบั ภาวะพงึ พา พฤตกิ รรมผดิ ปกติ และอนื ๆ ของ ผ้สู ูงอายุ ร่วมกบั ความเครียดส่วนตวั เช่น ไม่มงี านทาํ การหย่าร้าง ผ้ดู ูแลทมี ี แนวโน้มจะทาํ ร้าย หรือทอดทงิ ผ้สู ูงอายุมกั จะเป็ นผ้ดู ูแลสูงอายุ สุขภาพร่างกายไม่ดี ขดั แย้งเรืองบทบาท ไม่ตงั ใจดูแล สัมพนั ธภาพกบั ผ้สู ูงอายุไม่ดี ไม่เข้าใจความ ต้องการของผ้สู ูงอายุ ไม่มคี วามเหน็ อกเหน็ ใจ
อาการแสดงของผ้สู ูงอายุทถี ูกทารุณกรรม การถูกทําร้ายด้านร่างกาย ไดแ้ ก่ ผสู้ ูงอายุเกิดรอยชาํ และรอย ถูกตีทีหาสาเหตุไม่ได้ บริเวณหน้า ปาก หลัง สะโพก ต้นขา ลกั ษณะแผลมีหลายๆ ระยะ รอยแผลถูกของร้อน หรือรอยเข็มขดั รอยถูกกดั รอยแผลเหล่านีพบชาํ ๆ แผลไหมโ้ ดยไม่ทราบสาเหตุ รอยไหมจ้ ากบุหรีบริเวณฝ่ ามือ ฝ่ าเทา้ สะโพก รอยไหมจ้ ากไฟฟ้ า หรือเตารีดทีแขน ขา คอ หรือหลงั รอยไหมจ้ ากการผกู รัดทีมือ เทา้ กระดูกหกั ศีรษะ จมูก หนา้ แตกหรือถลอกไม่รู้สาเหตุ
การช่วยเหลอื ผู้สูงอายุทถี ูกทารุณกรรม1. เพือใหผ้ สู้ ูงอายปุ ลอดภยั2. ตดั วงจรของการทารุณกรรมผสู้ ูงอายโุ ดยครอบครัวบาํ บดั3. ติดตามเยยี มผสู้ ูงอายทุ ีเคยถูกทาํ ร้ายหรือละเลยการดูแลหรือ ผสู้ ูงอายกุ ลุ่มเสียง สร้างสัมพนั ธภาพทีไวว้ างใจ
บทบาทของพยาบาล1. พยาบาลในโรงพยาบาล/สถานพยาบาล สามารถวางแผนร่วมกบั ญาติ หรือผดู้ ูแลเกียวกบั การดูแลทีบา้ น ก่อนใหผ้ ปู้ ่ วยกลบั บา้ น ควรจะ สอนจนแน่ใจวา่ ญาติ/ผดู้ ูแลสามารถดูแลผสู้ ูงอายไุ ด้2. พยาบาลในชุมชน พยาบาลเยยี มบา้ นมีส่วนสาํ คญั ในการสังเกตการณ์ ทอดทิ ง/ทารุณกรรม/ทาํ ใหเ้ กิดความเสียหายกบั ผสู้ ูงอายใุ นบา้ น พยาบาลช่วยสอนผดู้ ูแล และครอบครัวเกียวกบั การดูแลตามความ ตอ้ งการพนื ฐาน การจดั การกบั พฤติกรรมผดิ ปกติ ปรับวธิ ีการรักษาที ยงุ่ ยากใหง้ ่าย
ใบงานที 2 นกั ศึกษาถอดประสบการณ์การเรียนรู้ทีไดร้ ับร่วมกนั ในกลุ่ม นกั ศึกษาทาํ แบบวดั ความรู้หลงั เรียน นกั ศึกษาเขียนบนั ทึกการเรียนรู้ นกั ศึกษาทาํ แบบประเมินหลกั สูตรและคุณลกั ษณะทีพงึ ประสงค์
Most of the mistakes in thinking are inadequacies of perception rather than mistakes of logic. ~ Edward de Bonoความผดิ พลาดส่วนใหญ่ในความคดิ มาจากการรับรู้ทไี ม่เพยี งพอ มากกว่าความผดิ พลาดของตรรกะ ขอบคุณทุก ๆ คนสําหรับการตังใจเรียนรู้
Search
Read the Text Version
- 1 - 34
Pages: