คู่มอื ครู ชุดกจิ กรรมค่ายวชิ าการ “ไหว้พระ ๗ วดั ” บรู ณาการวิถีพทุ ธสมั มาทิฐิ : หลกั ไตรสิกขา ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ โรงเรียนบา้ นดงเจริญ ปี การศกึ ษา ๒๕๕๖ แหล่งเรียนรู้ : ยโสธร ร้อยเอด็ มหาสารคาม วนั ท่ี ๑๗ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๕๗ โดย นายยรรยง ปกป้ อง ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนบา้ นดงเจริญ อาเภอคาเขื่อนแกว้ จงั หวดั ยโสธร สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษายโสธร เขต ๑
คานา กิจกรรมการเรียนรู้แบบบูรณาการ เป็นกิจกรรมเนน้ การปฏิบตั ิท่ีส่งเสริมความรู้ความสามารถ ของผเู้ รียนแบบองคร์ วม นน่ั คือกิจกรรมมีความหลากหลาย ครอบคลุมพฤติกรรม ท้งั ดา้ นความรู้ ทกั ษะปฏิบตั ิ และจิตพสิ ัย “ค่ายวชิ าการไหวพ้ ระ 7 วดั ” เป็นส่วนหน่ึงของโครงการ “ยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน” และโครงการ “โรงเรียนวถิ ีพุทธประจาตาบล” ของโรงเรียนบา้ นดงเจริญ ซ่ึงจดั กิจกรรมโดยใช้ กระบวนการตามหลกั ไตรสิกขา ไดแ้ ก่ ศลี (การปฏิบตั ิ) สมาธิ (คุณธรรม) และปัญญา (ความรู้) เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนเกิดการเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ท่ีหลากหลายของจงั หวดั ต่างๆ เช่น ยโสธร ร้อยเอด็ มหาสารคาม และใชส้ ่ือประสม ไดแ้ ก่ ชุดกิจกรรม เพลง เกมต่างๆ เป็นตน้ ในการนาคู่มือน้ีไปใช้ ควรศึกษารายละเอียดในคู่มือครูใหเ้ ขา้ ใจ ตลอดจนการเตรียมสื่อให้ เพยี งพอกบั ผเู้ รียน เตรียมคาถาม เกมและเพลงต่างๆ อาจเดินทางไปศกึ ษาแหล่งเรียนรู้ล่วงหนา้ เพ่อื ประโยชนใ์ นการวางแผนเกี่ยวกบั เวลา งบประมาณ และจะช่วยใหไ้ ดข้ อ้ มูลท่ีเป็นจริงมากข้ึน อนั จะเป็นประโยชนใ์ นการพฒั นาหลกั สูตรกิจกรรมค่ายวชิ าการ ที่มีประสิทธิภาพต่อไป นายยรรยง ปกป้ อง หวั หนา้ บริหารงานวชิ าการ โรงเรียนบา้ นดงเจริญ สพป.ยส.1 14 กมุ ภาพนั ธ์ 2557
สารบญั หนา้ วเิ คราะหห์ ลกั สูตรค่ายวชิ าการ “ไหวพ้ ระ 7 วดั ” ……………………………………….. 1 รายชื่อนกั เรียนและครูประจากลุ่ม ……………………………………………………… 2 กาหนดการและกิจกรรมค่ายวชิ าการ “ไหวพ้ ระ 7 วดั ” …………………………………. 4 ชุดฝึกท่ี 1 พระพทุ ธรูปปางสาคญั ……………………………………………………… 6 ชุดฝึกที่ 2 อดีตน้นั หมน่ั จดจา ………………………………………………………….. 7 ชุดฝึกที่ 3 หลกั พระธรรมมีความหมาย ………………………………………………… 8 ชุดฝึกท่ี 4 คานวณง่ายในขอ้ มูล ……………………………………...………………… 9 ชุดฝึกที่ 5 ฝึกเพ่ิมพนู โดยสืบคน้ ………………………………………………………. 10 เอกสารอา้ งอิง …………...……………………………………………………………… 11 ภาคผนวก ………………………………………………………………………………. 12 -เพลงชาวค่ายวชิ าการ ……………..………………………………………………….. 13 -ความรู้ในแหล่งเรียนรู้ …………………………….....………………………………. 15 -บนั ทึกประจาวนั ......................................................................................................... 23
-1- วเิ คราะห์หลกั สูตรค่ายวชิ าการ “ไหว้พระ 7 วดั ” ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนบ้านดงเจริญ ปี การศึกษา 2556 แหล่งเรียนรู้ : ยโสธร ร้อยเอด็ มหาสารคาม -เปรียบเทียบปริมาณการวดั -เขียนสรุปสาระสาคญั -บอก/สรุปพทุ ธประวตั ิ ได้แก่ ระยะทาง , พืน้ ท่ี -พดู เลา่ เร่ือง/ประสบการณ์ -จาแนกพระพทุ ธรูปปางตา่ งๆ -คานวณระยะทาง/พืน้ ที่ -จดั ทาหนงั สือเลม่ เล็ก -บอกหลกั ธรรม/พทุ ธสภุ าษิต -เปรียบเทียบเศษสว่ นและ -จดั ทาโครงงานภาษาไทย -สืบค้นข้อมลู เกี่ยวพทุ ธประวตั ิ ร้ อยละ -บอก/อธิบายสภาพทางภมู ศิ าสตร์ ภาษาไทย ของจงั หวดั ยโสธร ร้อยเอด็ และ -แก้ปัญหาโดยใช้ความรู้ มหาสารคาม เร่ืองร้ อยละ การเขียน/พดู สรุปเรื่อง การทาหนงั สือเล่มเลก็ -สรุปประวตั ศิ าสตร์ของจงั หวดั ยโสธร ร้อยเอด็ มหาสารคาม และโครงงาน สังคมศึกษา คณติ ศาสตร์ ค่ายวชิ าการ “ไหว้พระ 7 วดั ” พุทธประวตั ิ , ปางพระพทุ ธรูป จานวนเตม็ , ทศนิยม พุทธสุภาษิต ภูมิศาสตร์และ การวดั ระยะทาง/พ้นื ที่ ประวตั ิของจงั หวดั ตา่ งๆ เศษส่วน/ร้อยละ ภาษาองั กฤษ วทิ ยาศาสตร์ แตง่ ประโยค/พดู ทกั ทาย ส่ิงมีชีวติ / ระบบนิเวศ การทาหนงั สือเล่มเล็ก ดาราศาสตร์ / อวกาศ และโครงงาน -บอก/อธิบายสง่ิ มีชีวิตและระบบนิเวศ -บอก/อธิบายดาราศาสตร์และอวกาศ -เขียนประโยคภาษาองั กฤษ -สารวจข้อมลู และจดั กระทาข้อมลู -พดู ทกั ทายเป็นภาษาองั กฤษ -จดั ทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ -จดั ทาหนงั สือเลม่ เลก็ -จดั ทาโครงงานภาษาองั กฤษ
-2- รายช่ือนักเรียน และครูประจากลุ่ม นายยรรยง ปกป้ อง และนายศกั ด์ิดา เพยี รชนะ ครูประจากล่มุ 1-6 กลุ่ม 1. 1. เดก็ หญิงสุวรรณา อาจพงษา 2. เดก็ หญิงสุกญั ญา เศษผล กลุ่ม 2. 3. เด็กหญิงกนกวรรณ ถึงแสง 4. เดก็ หญิงอภิญญา มงคลคา กลุ่ม 3. 5. เด็กหญิงดวงฤทยั ปกป้ อง 6. เดก็ หญิงสุภาพร คาจนั ทร์ กลุ่ม 4. 7. เดก็ หญิงมิณตรา แทน่ แกว้ 8. เด็กชายวทิ ยา รัตน์สูงเนิน กลุ่ม 5. 9. เด็กชายฐิตวนั ต์ พนู เกิด 10. เด็กชายอิสเรศ ใจกลา้ กลุ่ม 6. 11. เดก็ ชายเก่ง อาวาส 12. เดก็ ชายสุรเชษฐ์ บุญขนั ธ์ นายสุวทิ ย์ เสง่ียมศกั ด์ิ และนางบุญปลูก เสงี่ยมศกั ด์ิ ครูประจากล่มุ 7-12 กลุ่ม 7. 13. เดก็ หญิงปนดั ดา จนั ทร์เพชร 14. เด็กชายทศพล ประเทศ กลุ่ม 8. 15. เดก็ ชายอิทธิพล แกว้ ตาวงษ์ 16. เด็กหญิงวาสนา สุวรรณ กลุ่ม 9. 17. เด็กชายโชคชยั ภูมิสะอาด 18. เด็กชายทวที รัพย์ ยศบุญ กลุ่ม 10. 19. เดก็ ชายสิทธิชยั คาจนั ทร์ 20. เดก็ ชายวรากร ลมสระนอ้ ย กลุ่ม 11. 21. เดก็ ชายธีรยทุ ธ ภูหลาบ 22. เดก็ ชายอาทิตย์ ปาปักเข
-3- กลุ่ม 12. 23. เดก็ ชายอนุวชั คูณคาเลิศ 24. เด็กชายวชั รา ยศบุญ นางสาวอรนุช ทองสมบตั ิ , นายสุนทร ดีปัญญา และนางอนุกลู สุทธิอาคาร ครูประจากลุ่ม 13-20 กลุ่ม 13 25. เด็กชายณฐั วฒุ ิ มูลเซอร์ กลุ่ม 14. 26. เดก็ หญิงปิ ยานุช สิมลี กลุ่ม 15. กลุ่ม 16. 27. เด็กหญิงปิ ยธิดา เช้ือสะอาด กลุ่ม 17. 28. เด็กหญิงมณีกร ไชยวเิ ศษ กลุ่ม 18. กลุ่ม 19. 29. เดก็ หญิงณิชกมล ใหญ่ล้า กลุ่ม 20. 30. เด็กหญิงฐิติมา ผลทบั ทิม 31. เด็กหญิงธภสั สร สายงาม 32. เดก็ หญิงธิดารัตน์ เชิดทอง 33. เดก็ ชายวชั รินทร์ ศรีจนั ทร์ 34. เดก็ หญิงรัตติภรณ์ ยศบุญ 35. เด็กชายพงศธร ปกป้ อง 36. เด็กหญิงเพญ็ นภา ภูมิสะอาด 37. เด็กชายนนั ทวฒั น์ ใหญล่ ้า 38. เดก็ ชายทพั พสาร ภมู ิสะอาด 39. เดก็ ชายภมู ินทร์ บุญพา 40. เด็กชายระยา้ ธรรมวตั ร
-4- กาหนดการและกิจกรรมคา่ ยวิชาการ “ไหวพ้ ระ 7 วดั ” 1. กจิ กรรมก่อนเข้าค่าย 1.1 เสนอโครงการ / ประชุมวางแผนการทางาน 1.2 จดั กิจกรรมเตรียมความพร้อม ไดแ้ ก่ จดั ป้ ายนิเทศ ทาชุดฝึ ก ใบความรู้ ฯลฯ 2. กจิ กรรมค่ายวชิ าการ 05.00-05.30 น. สารวจความพร้อม / รายชื่อนกั เรียน การแต่งกาย (อ.อรนุช/อ.กรพรรณ) 05.31-06.00 น. กล่าวรายงาน (อ.บุญปลกู / อ.ยรรยง) *** แจกชุดกิจกรรม , เพลง / เกม นนั ทนาการ (อ.สุนทร และคณะ) 06.00-06.30 น. จุดท่ี 1 อาหารเช้า (ขนม , นม , กาแฟ , ยายา ) ท่ีร้านปลายฟ้ าปริโตรเลียม อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร (อ.บุญปลูก) 06.31-07.00 น. จุดท่ี 2 วดั พรหมวหิ าร อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร (อ.บุญปลกู ) (ความรู้เร่ือง อาเภอเลิงนกทา ชนพ้ืนเมือง และวดั พรหมวหิ าร) 08.00-09.00 น. จุดที่ 3 วดั ผานา้ ทพิ ย์เทพประสิทธ์วิ ราราม อ.หนองพอก จ.ร้อยเอด็ (อ.ยรรยง) (ความรู้เรื่อง จงั หวดั ร้อยเอด็ เจดียช์ ยั มงคล วดั ผาน้าทิพยฯ์ ) *** แนะนาการทาชุดฝึก , เพลง / เกม นนั ทนาการ (อ.สุนทร และคณะ) 09.30-10.30 น. จุดที่ 4 วดั ป่ าเทวาพทิ กั ษ์ อ.จงั หาร จ.ร้อยเอด็ (อ.สุวทิ ย)์ 11.00-11.30 น. จุดที่ 5 วดั บูรพาภิราม อ.เมือง จ.ร้อยเอด็ (อ.สุวทิ ย)์ (ความรู้เร่ือง พุทธสุภาษิต วดั ป่ าเทวาพทิ กั ษ์ และวดั บรู พาภิราม) 11.31-12.00 น. จุดท่ี 6 อาหารเทยี่ ง ท่ีป้ัม ปตท. ถนนรอบเมือง จงั หวดั ร้อยเอด็ 12.30-13.30 น. จุดท่ี 7 พระธาตุนาดูน พุทธมณฑลอีสาน จ.มหาสารคาม (อ.กรพรรณ) (ความรู้เรื่องจงั หวดั มหาสารคาม และพระธาตุนาดูน) 14.00-15.00 น. จุดที่ 8 ศูนย์วทิ ยาศาสตร์และวฒั นธรรมเพอื่ การศึกษาร้อยเอด็ (อ.ยรรยง) (ความรู้เร่ือง อาเภอธวชั บุรี และศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์ฯ) *** ทายปัญหา , เพลง / เกม นนั ทนาการ (อ.สุนทร และคณะ)
-5- กาหนดการและกิจกรรมคา่ ยวชิ าการ “ไหวพ้ ระ 7 วดั ” (ต่อ) 15.30-16.00 น. จุดท่ี 9 วดั ป่ าโนนสวรรค์ อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอด็ (อ.อรนุช) (ความรู้เรื่องพทุ ธประวตั ิ และวดั ป่ าโนนสวรรค)์ 17.01-18.00 น. จุดท่ี 10 พระธาตุอานนท์ อ.เมือง จ.ยโสธร (อ.อรนุช) (ความรู้เร่ืองพุทธประวตั ิ และพระธาตุอานนท)์ 18.01-19.00 น. จุดท่ี 11 อาหารเยน็ ที่ร้านดีดี หมกู ระทะ (อ.ศกั ด์ิดา/อนุกลู ) (แนะนาสถานที่ , เท่หก์ ินผกั ฯ , ขอ้ ปฏิบตั ิ และมารยาทต่างๆ) (นดั หมายการส่งชิ้นงานและภาระงาน ในการเขา้ ค่ายวชิ าการ) (อ.ยรรยง) 19.01-20.00 น. กลบั ถึงโรงเรียนบา้ นดงเจริญ อ.คาเขื่อนแกว้ จงั หวดั ยโสธร 3. กจิ กรรมหลงั เข้าค่าย 3.1 ประเมินผลจากชุดกิจกรรมของนกั เรียน 3.2 จดั กิจกรรมในหอ้ งเรียนและนอกหอ้ งเรียน ไดแ้ ก่ จดั ทาโครงงาน หนงั สือเล่มเลก็ รายงาน ทาสมุดภาพ ตดั ต่อวดิ ีโอ และจดั ป้ ายนิเทศ 3.3 รายงานสรุปโครงการ
-6- วทิ ยากร : ครูบุญปลกู เสง่ียมศกั ด์ิ ชุดฝึกที่ 1 พระพทุ ธรูปปางสาคญั ฟังความรู้เกี่ยวกบั ปางต่างๆ ของพระพุทธรูป เขา้ ศกึ ษาแหล่งเรียนรู้ในวดั ต่างๆ แลว้ เขียน ตอบคาถาม โดยเติมคาตอบลงในช่องวา่ งใหถ้ ูกตอ้ ง 1. พระพทุ ธรูปประจาโรงเรียนบา้ นดงเจริญ อาเภอคาเข่ือนแกว้ จงั หวดั ยโสธร เป็นพระพทุ ธรูปยนื ปาง ................................. หนั พระพกั ตร์ไปทางทิศ ............................. 2. พระพุทธรูปท่ีสูงท่ีสุดในประเทศไทย ท่ีวดั บูรพาภริ าม อาเภอ ...............จงั หวดั ................ มีชื่อวา่ ................................................ เป็นพระพทุ ธรูปปาง ............................................. 3. พระพุทธรูปองคใ์ หญ่ ที่วดั พรหมวหิ าร อาเภอ ............................................................... จงั หวดั ..................................... เป็นพระพทุ ธรูปปาง ........................................................... 4. จากภาพเป็นพระพทุ ธรูปปางใด ปาง ………………….. ปาง ………………….. ปาง ………………….. 5. ใหร้ ะบุช่ือปางต่างๆ ของพระพุทธรูปประจาวดั เกิด (คาตอบอยทู่ ่ีวดั ผาน้าทิพยฯ์ ) 5.1 ผทู้ ี่เกิดวนั จนั ทร์ มีพระพุทธรูปประจาวนั เกิด ปาง .................................................. 5.2 ผทู้ ่ีเกิดวนั องั คาร มีพระพุทธรูปประจาวนั เกิด ปาง .................................................. 5.3 ผทู้ ่ีเกิดวนั พทุ ธ มีพระพุทธรูปประจาวนั เกิด ปาง .................................................... 5.4 ผทู้ ่ีเกิดวนั พฤหสั บดี มีพระพุทธรูปประจาวนั เกิด ปาง ............................................ 5.5 ผทู้ ่ีเกิดวนั ศุกร์ มีพระพทุ ธรูปประจาวนั เกิด ปาง .....................................................
-7- วทิ ยากร : ครูอรนุช ทองสมบตั ิ ชุดฝึกท่ี 2 อดตี น้ันหมนั่ จดจา ฟังความรู้เร่ืองพทุ ธประวตั ิ และศกึ ษาใบความรู้ แลว้ สรุปโดยเขียนอธิบายเกี่ยวกบั คาต่างๆ ของแต่ละขอ้ ใหเ้ ขา้ ใจ 1. พระนางสิริมหามายา ........................................................................................... 2. ราหุล ..................................................................................................................... 3. อริยสจั ส่ี ................................................................................................................ ............................................................................................................................... 4. นายฉนั นะ ............................................................................................................. 5. เทวทูต 4 ................................................................................................................ 6. แม่น้าเนรัญชรา ..................................................................................................... 7. อิสิปตนมฤคทายวนั .............................................................................................. ............................................................................................................................... 8. โอวาทปาติโมกข์ .................................................................................................. ............................................................................................................................... 9. อญั ญาโกณทญั ญะ ................................................................................................ 10. เอหิภิกขอุ ุปสมั ปทา ............................................................................................... ................................................................................................................................
-8- วทิ ยากร : ครูสุวทิ ย์ เสงี่ยมศกั ด์ิ ชุดฝึกท่ี 3 หลกั พระธรรมมีความหมาย เขียนหลกั ธรรม หรือพุทธสุภาษติ ท่ีนกั เรียนพบเห็นในแหล่งเรียนรู้ต่างๆ มาประมาณ 5 ขอ้ พร้อมอธิบายความหมายใหเ้ ขา้ ใจ 1. .............................................................................................................................. ความหมาย ........................................................................................................... 2. .............................................................................................................................. ความหมาย ........................................................................................................... 3. .............................................................................................................................. ความหมาย ........................................................................................................... 4. .............................................................................................................................. ความหมาย ........................................................................................................... 5. .............................................................................................................................. ความหมาย ...........................................................................................................
-9- วทิ ยากร : ครูสุนทร ดีปัญญา ชุดฝึกท่ี 4 คานวณง่ายในข้อมูล ฟังความรู้เกี่ยวกบั แหล่งเรียนรู้ต่างๆ บนั ทึกขอ้ มูลท่ีแสดงระยะทาง ปริมาณและหน่วย การวดั แลว้ คานวณ เปรียบเทียบปริมาณของขอ้ มลู และเขียนตอบคาถามลงในช่องวา่ ง ใหถ้ กู ตอ้ ง 1. ระยะทางจาก โรงเรียนบา้ นดงเจริญ ถึงจงั หวดั ยโสธร เท่ากบั ..................... กิโลเมตร และจากจงั หวดั ยโสธร ถึงอาเภอกดุ ชุม เท่ากบั ..................... กิโลเมตร 2. ระยะทางจากโรงเรียนบา้ นดงเจริญ ถึง วดั พรหมวหิ าร เท่ากบั ..................... กิโลเมตร 3. บนั ไดเวยี นท่ีช้นั ที่ 5 ของเจดียช์ ยั มงคล วดั ผาน้าทิพยฯ์ มีท้งั หมด .................... ข้นั 4. เราเขา้ ศึกษาความรู้ท่ีวดั ป่ าเทวาพทิ กั ษ์ ระหวา่ ง 09.30-10.30 น. คิดเป็น .............นาที 5. พระพุทธรูปยนื ที่วดั บรู พาภิราม จงั หวดั ร้อยเอด็ สูง 118 ศอก คิดเป็น ............ เมตร ( 4 ศอก เท่ากบั 1 วา และ 2 เมตร เท่ากบั 1 วา ) 6. ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์ และวฒั นธรรมเพอื่ การศึกษาร้อยเอด็ มีพ้นื ท่ีท้งั หมด 115 ไร่ คิดเป็น …………...……. ตารางวา หรือประมาณ …..……………… ตารางเมตร 7. ครูโรงเรียนบา้ นดงเจริญ ที่สอนในช้นั ป.4-6 ท่ีมาเขา้ ค่าย คร้ังน้ีมี ....................... คน คิดเป็นร้อยละ .................... ของจานวนครูท้งั หมดท่ีมาเขา้ ค่ายวชิ าการ 8. มีนกั เรียนช้นั ม.1 ท่ีมาเขา้ ค่ายวชิ าการ จานวน …………. คน คิดเป็นร้อยละ ……… ของจานวนนกั เรียนท่ีมาเขา้ ค่ายวชิ าการคร้ังน้ี 9. ค่าอาหารที่ร้าน ดีดี หมกู ระทะราคา ………… บาทต่อ 1 คน ราคาที่นกั เรียนทุกคนท่ี ตอ้ งจ่ายท้งั หมดคิดเป็นเงิน …………… บาท 10. ผลไมใ้ นร้านอาหารน้ี มี …………… ชนิด คือ ……………………………………... ………………………………………………………………………………………..
-10- วทิ ยากร : ครูยรรยง ปกป้ อง ชุดฝึกท่ี 5 ฝึ กเพมิ่ พนู โดยสืบค้น ฟังความรู้เก่ียวกบั จงั หวดั ร้อยเอด็ และมหาสารคาม ศึกษาจากแผน่ พบั เขา้ ศกึ ษาศนู ย์ วทิ ยาศาสตร์และวฒั นธรรมร้อยเอด็ แลว้ เขียนตอบคาถามใหถ้ ูกตอ้ ง 1. “เลิงนกทา” คาวา่ “เลิง” หมายถึงลกั ษณะภูมิประเทศ ................................................................ ..................................................................................................................................................... 2. พระมหาเจดียช์ ยั มงคล วดั ....................................................................... จงั หวดั ..................... เป็นศิลปกรรมผสมผสานระหวา่ ง .......................................... และ ............................................ 3. ตานาน ……………………… ไดบ้ นั ทึกไวว้ า่ เดิมจงั หวดั ร้อยเอด็ มีช่ือวา่ ……………………. 4. ศนู ยก์ ลางทางดา้ นการศึกษาของภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ จนไดช้ ่ือวา่ เป็น “ตกั ศลิ าแห่งอีสาน” หมายถึง จงั หวดั ……………………………….. 5. พระธาตุนาดูน อาเภอ ......................... จงั หวดั ........................ เป็นศลิ ปะสมยั .......................... 6. ศนู ยก์ ลางของอาณาจกั รทวารวดี ต้งั อยทู่ ี่จงั หวดั .................................. ของประเทศไทยในอดีต 7. ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์ และวฒั นธรรมเพื่อการศึกษาร้อยเอด็ จดั แสดงนิทรรศการ เรื่องราวต่าง ๆ 4 เรื่อง คือ 1. ……………………………………… 2. ………………………………………. 3. ……………………………………... 4. ……………………………………… 8. นิทรรศการ “โลกลา้ นปี ” ในศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์ฯ ร้อยเอด็ จะนาเสนอความรู้เกี่ยวกบั ………... …………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………. 9. พระธาตุอานนท์ สร้างข้ึนก่อนการสร้างกรุงเทพฯ โดยขนุ นางแห่งกรุงศรีสัตนาคนหุต ปัจจุบนั คือเมือง ...................................... ประเทศ ................................................................................. 10. คาขวญั ประจาจงั หวดั ยโสธร คือ ……………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………..
-11- เอกสารอ้างองิ จงั หวดั มหาสารคาม (ออนไลน)์ . แหล่งที่มา : http://www.tripsthailand.com/th/thailand_Major_ Destinations_Maha_Sarakham.php. 14 กุมภาพนั ธ์ 2557. จงั หวดั ร้อยเอด็ (ออนไลน)์ . แหล่งท่ีมา : http://www.roiet.go.th/2013/. 14 กมุ ภาพนั ธ์ 2557. บา้ นดงเจริญ, โรงเรียน. หลกั สูตรสถานศึกษา กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม. ยโสธร : อดั สาเนา, 2556. พระพทุ ธรูปปางตา่ งๆ (ออนไลน)์ . แหล่งท่ีมา : http://www.dmc.tv/pages/buddha/. 14 กุมภาพนั ธ์ 2557. พระมหาเจดียช์ ยั มงคล (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki/. 14 กุมภาพนั ธ์ 2557. วดั บูรพาภิราม (ออนไลน)์ . แหล่งที่มา : http://www.touronthai.com. 14 กมุ ภาพนั ธ์ 2557. ศึกษาธิการ, กระทรวง. หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ โรงพมิ พช์ ุมชนสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย, 2551.
-12- ภาคผนวก • เพลงชาวค่ายวชิ าการ • ความรู้ในแหล่งเรียนรู้ต่างๆ • บนั ทึกประจาวนั
-13- เพลงชาวคา่ ยวิชาการ 1. เพลง “ ค่ายวชิ าการ ” กิจกรรมเป็นส่ือนาแหง่ ความสาเร็จ กิจกรรมเป็นสง่ิ สนกุ สนาน กิจกรรมทาให้ในเบกิ บาน กิจกรรมสร้างงานและสร้างคน กจิ กรรมค่ายวชิ าการเป็นส่งิ ดี พวกเรานีร้ ่วมใจให้เริงร่า เรียนเป็นเรียนเลน่ ตามเวลา เอ้า .... พวกเรามาเข้าคา่ ยครัง้ นีเ้อย (ซา้ ) 2. เพลง “ บวกลบคูณหารเศษส่วน ” ทำนอง : ทำบญุ ดว้ ยอะไร บวกลบเศษสว่ นควรจา ให้กระทานาสว่ นคณู กนั ตวั เศษคณู ไขว้เร็วพลนั บวกลบให้ทนั มนั่ ใจ หากเป็นเศษสว่ นจานวนคละ รีบกนั นะทาเป็นเศษสว่ นเกิน ใช้หลกั การคณู ไขว้แสนเพลิน แล้วจงรีบเดนิ คดิ ไป ได้เศษสว่ นเป็นตวั อะไรนนั้ ต้องขยนั ทอนให้ง่ายดาย เศษสว่ นอยา่ งตา่ นนั่ ยงั ไง จงึ จะได้ คาตอบท่ีต้องการ อีกอยา่ งการคณู ก็มี ทอนให้ดีหาตวั มาหาร ที่เหลือนนั้ นาเศษมาคณู กนั ตวั ส่วนเชน่ กนั นามาคณู ( ซำ้ ... ไดเ้ ศษส่วน ... จนจบ และซำ้ ทงั้ เพลง ) 3. เพลง “ เมอื งหลวงของไทย ” ทำนอง : ไทยดำรำพนั นบั นานปี เมืองหลวงท่ี เป็นของไทย (จากนั ได้) สุโขทัย ตงั้ ขนึ ้ ใหม่ หนงึ่ พนั แปดร้อย พอ่ ขนุ ศรีฯ รามคาแหง พญาลไิ ท เรามีลายสือไท ให้คนไทยได้ศกึ ษา และตอ่ มา อยธุ ยา เป็นราชธานี (จาได้ดี) ตงั้ แตป่ ี หน่ึงพันแปดร้อยเก้าสบิ สามดงั่ วา่ เจ้าอู่ทอง กษตั ริย์ผ้คู รอง องคแ์ รกเริ่มหนา ส่ีร้อยสิบเจด็ ปี มา อยธุ ยาราชธานี ปี สองพนั สามร้อยสิบ เสียกรุงครัง้ ที่สอง กษัตริย์ผ้คู รอง คอื เอกทัศน์ เสียให้พมา่ แตผ่ ้กู ล้า พระยาตากสนิ ก้เู มืองไว้ให้ ขนึ ้ เป็นกษัตริย์เมืองหลวงไทย ครองกรุงธนบุรี ( ดนตรี ................. นบั นานปี ………...... ) ปัจจบุ นั เมืองหลวงนน่ั กรุงเทพมหานคร สร้างขนึ ้ ตอน ในปี สองพันสามร้อยย่สี บิ ห้า พระพทุ ธยอดฟ้ าจุฬาโลก สร้างเมืองไว้ให้ กษตั ริย์วงศจ์ กั รีไทย นบั ได้เก้าพระองค์
-14- 4. เพลง “คำนำม” ทำนอง : ทำบญุ ดว้ ยอะไร คำนำมมหี ำ้ ชนดิ จำไปคดิ เช่นนำมทวั่ ไป สำมำนยนำมนนั่ ไง เรยี กชอ่ื มำกมำยเหมอื นกนั วสิ ำมำนยนำมกม็ ี จำใหด้ เี รยี กชอ่ื เจำะจง มสี งิ่ เดยี วตงั้ ใจประสงค์ เรำจำมนั่ คงแน่นอน ลกั ษณะนำมใชห้ ลงั จำนวนนนั้ เชน่ อนั แท่ง สำย รปู ใบ หำกแมน้ อยหู่ น้ำคำนำมไง เรำเรยี กไดว้ ่ำ สมหุ นำม คำนำมทม่ี กี ำรและควำม เขยี นขน้ึ นำคำวเิ ศษณ์ กรยิ ำ เชน่ กำรเดนิ กำรนอน ควำมดหี นำ เรำเรยี กกนั อำกำรนำม ( ซำ้ ... ลกั ษณะนำม ... จนจบ และซำ้ ทงั้ เพลง ) 5. เพลง “ พนื้ ทร่ี ูปเรขาคณติ ” ทำนอง : ดำวเตน้ ม.ตน้ พน้ื ทจ่ี ตั ุรสั จำไดช้ ดั ดำ้ นคณู ดำ้ น สเ่ี หลย่ี มผนื ผำ้ จำไดน้ ำน กวำ้ งคณู ยำวกนั ทนั ที มสี ำมเหลย่ี มกจ็ ำไป ฐำนคณู สงู ไวห้ ำรสอง อกี รปู วงกลมไมเ่ ป็นรอง พำยอำรก์ ำลงั สองใหจ้ ดจำ รปู ว่ำวแสนงำ่ ยดำย หน่งึ ส่วนสองไวนำไปคณู คณู สองทแยงไดไ้ หมคณุ ควำมสุข เพม่ิ พนู ทุกวนั และคำงหมหู น่งึ ส่วนสอง คณู อยำ่ ง ถกู ตอ้ งดว้ ยสงู กนั อกี คณู ผลบวกขนำนพลนั นำไปใชก้ นั ใหม้ นั เอย ** ฐำนคณู สงู นนั่ เป็นสตู รใชก้ นั ดำ้ นขนำน รปู เปียกปนู นนั้ ใชส้ ตู รรว่ มกนั เช่นน้นี ำอยำก คำนวณงำ่ ย จำสตู รแมน่ ไดว้ ำดรปู มำ แลว้ คำนวณหำพ้นื ทไี่ ดค้ รำ ... มนั่ ใจ ๆ พน้ื ทด่ี ำ้ นไมเ่ ท่ำ จำไปใชเ้ อำหน่งึ ส่วนสอง คณู เสน้ ทแยงไมเ่ ป็นรอง และคณู ผลบวกของกง่ิ จตั ุรสั ใหจ้ ำไว้ เปียกปนู นนั้ งำ่ ยเหมอื นกนั มเี สน้ ทแยงตงั้ ฉำกพลนั ใชส้ ตู รเหมอื นกนั รปู ว่ำวเอย (ซำ้ **) 6. เพลง “ ระบบนิเวศ ” ECOLOGY ระบบนเิ วศนนั่ หนา จาไว้ขวญั ตาสงิ่ มชี ีวติ สมั พนั ธ์กนั อกี สง่ิ แวดล้อมเกี่ยวข้องผกู พนั สง่ ผลตอ่ กนั เป็ นสายใยอาหาร FOOD WEB , FOOD WEB , FOOD WEB 7. เพลง “ วดั พระแก้ว ” วดั พระแก้วนนั้ ไซร้ สร้างขนึ ้ ในสมยั ร.1 เป็นวดั ซง่ึ ไมม่ ีพระจาพรรษา เหมือนวนั อรุณฯ สมยั กรุงธนบรุ ี และวดั พระศรีสรรเพชญ์ วดั นีม้ ีพระประธานคอื องคพ์ ระแก้วมรกตงามจริง ร.1 นามาจากเวียงจนั ทร์ เม่ือครัน้ ยกไปตีเมืองลาว ชื่อหนงึ่ นน่ั คือวดั พระศรีรัตนศาสดาราม
-15- วดั พรหมวหิ าร เป็นวดั ท่ีสาคญั แห่งหน่ึงของจงั หวดั ยโสธร มีองคพ์ ระใหญ่ มีบริเวณกวา้ งมีอุโบสถ โบราณอยภู่ ายในวดั รวมถึงเป็นสถานท่ีปฏิบตั ิธรรมดว้ ย เลงิ นกทา เป็นอาเภอหน่ึงของจงั หวดั ยโสธร มีขนาดพ้นื ท่ีใหญ่เป็นอนั ดบั ๑ และมีจานวนประชากร มากเป็นอนั ดบั ท่ี 2 รองจากอาเภอเมืองยโสธร และเป็นเมืองใหญอ่ นั ดบั 2 รองจาก อาเภอเมืองยโสธร ประวตั แิ ละความเป็ นมา อาเภอเลิงนกทา เดิมเป็นก่ิงอาเภอ ข้ึนอยใู่ นความปกครองของอาเภออานาจเจริญ (ปัจจุบนั คือจงั หวดั อานาจเจริญ) จงั หวดั อุบลราชธานี โดยรวมเอาตาบลกุดเชียงหมี ตาบลหนองสิม ตาบลบุ่งคา้ ของ อาเภออานาจเจริญ และตาบลส้มผอ่ ตาบลหอ้ งแซง ของอาเภอยโสธร (ปัจจุบนั คือจงั หวดั ยโสธร) ต้งั เป็น กิ่งอาเภอเลิงนกทา เม่ือ 10 สิงหาคม พ.ศ.2480 ต้งั เป็นกิ่งอาเภอเลิงนกทา ท่ีบา้ นเลิงนกทา (ปัจจุบนั คือ บา้ นสวาท หมทู่ ี่ 1 ตาบลสวาท อาเภอเลิงนกทา) และต่อมาไดย้ กฐานะเป็นอาเภอ เม่ือ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 และไดร้ ับอนุญาตใหย้ า้ ยสถานราชการออกมาต้งั อยตู่ อกถนนชยางกรู สายอุบลราชธานี-นครพนม บริเวณหลกั กิโลเมตรท่ี 116 บา้ นสามแยก หมทู่ ี่ 18 ตาบลสวาท อาเภอเลิงนกทา (ปัจจุบนั เป็นหมทู่ ่ี11 ตาบลสามแยก อาเภอเลิงนกทา) เม่ือ พ.ศ. 2506 จนถึงปัจจุบนั คาวา่ \"เลิงนกทา\"มาจากคาวา่ เลิง+นกทา เลิง หมายถึง ที่ลุ่มมีแอง่ น้า นกทา หมายถึง นกชนิดหน่ึง คลา้ ยไก่ตอ๊ ก อาหารของนกชนิดน้ี ไดแ้ ก่ ผลไม้ มด ปลวก เหตุท่ีเรียกที่น้ีวา่ \"เลิงนกทา“ เพราะ สมยั ก่อนมีนกทา เป็นจานวนมาก อาศยั อยตู่ ามที่ลุ่ม และหนองน้า แต่ปัจจุบนั แทบไม่เหลือใหเ้ ห็น แลว้ เพราะสภาพพ้นื ที่เปลี่ยนไป เน่ืองจากมีคนเขา้ ไปต้งั บา้ นเรือน และทามาหากินอยทู่ วั่ ไป
-16- พระมหาเจดีย์ชัยมงคล ต้งั อยบู่ ริเวณวดั ผาน้าทิพยเ์ ทพประสิทธ์ิวรารามตาบลผาน้ายอ้ ยอาเภอหนองพอก จงั หวดั ร้อยเอด็ มีลกั ษณะเป็นมหาเจดียข์ นาดใหญท่ ี่วจิ ิตรพสิ ดาร ใ ชศ้ ิลปกรรมร่วมสมยั ระหวา่ งภาคกลาง และภาคอีสาน เป็นการผสม กนั ระหวา่ ง พระปฐมเจดีย์และพระธาตุพนม ใชง้ บประมาณก่อสร้างถึงปัจจุบนั กวา่ 3,000 ลา้ นบาท ดาเนินการสร้างโดย “พระอาจารยศ์ รี มหาวโิ ร” ซ่ึงเป็นศิษยพ์ ระอาจารยม์ นั่ ภูริทตั โต พระมหาเจดยี ์ชัยมงคล ออกแบบโดยกรมศิลปากรเป็นสีขาวตกแต่งลวดลาย ตระการตาดว้ ย สีทองเหลือง อร่าม รายลอ้ มดว้ ยเจดียอ์ งคเ์ ลก็ ท้งั 8 ทิศสร้าง ในเน้ือที่ 101 ไร่ กวา้ ง 101 เมตร ยาว 101 เมตร ความสูง 101 เมตร รวมยอดทองคาเป็น 109เมตร ใชท้ อง คาหนกั 4,750 บาท หรือประมาณ 60 กิโลกรัม ภายในองคพ์ ระมหา เจดียเ์ หมือน อยบู่ นวมิ านแดนสวรรค์ ใชง้ บประมาณในการสร้างกวา่ 3,000 ลา้ นบาท ช้นั ท่ี 1 เป็นหอ้ งโถงกวา้ งใหญ่ โออ่ ่า ผนงั จารึกนามทานาธิบดีต่าง ๆ ใชเ้ ป็นหอ้ งประชุม บาเพญ็ บุญ ช้นั ท่ี 2 เป็นหอ้ งโถงโออ่ ่าเช่นกนั ผนงั ติดต้งั รูปพระพทุ ธประวตั ิ ลวดลาย ไทยวจิ ิตรพิสดาร ช้นั ที่ 3 เป็นท่ีประดิษฐานรูปพระณาจารย์ ปราชญ์ อีสานในอดีต เป็นรูปเหมือนสลกั หินอ่อน และหุ่นรูป เหมือนพระสุปฏิปันโน 101 องค์ ช้นั ท่ี 4 จดั เป็นพิพธิ ภณั ฑแ์ สดงวดั วาอาราม สถานปฏิบตั ิสม ถะวปิ ัสสนา กรรมฐานท่ีหลวงป่ ูศรี เคยบาเพญ็ ธรรมมาต ช้นั ท่ี 5 บนั ไดเวยี น 119 ช้นั เป็นหอ้ งโถงรูประฆงั 8 เหล่ียมบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระเจดียน์ ้ีสร้างมานานกวา่ 18 ปี จนปัจจุบนั น้ียงั สร้างไมเ่ สร็จ ช้นั บนสุดเป็นที่ประดิษฐานของพระบรม สารีริกธาตุ และพระสาวก
-17- วดั ป่ าเทวาพทิ กั ษ์ อ.จังหาร วดั ป่ าเทวาพิทกั ษ์ ต้งั อยตู่ าบลจงั หาร อาเภอจงั หาร จงั หวดั ร้อยเอด็ ถนนร้อยเอด็ -กาฬสินธุ์ กม.7 โดยมีหลวงป่ ูฤาษสี ร้อย ฐิตสทฺโธ(หลวงป่ สู ร้อย)เป็นจา้ อาวาส วดั ป่ าเทวาพทิ กั ษเ์ ป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมะ ท่ีบอกกล่าวถึง บาป บุญ คุณ โทษ เวร กรรม การเกิด แก่ เจบ็ ตายและการปฏิบตั ิธรรม หลวงป่ สู ร้อย ต้งั ใจสร้างโดยมีวตั ถุประสงคใ์ หเ้ ดก็ ๆ สนใจเขา้ วดั โดยใชก้ ารใหธ้ รรมะผา่ น รูปป้ันมากมาย มีท้งั วถิ ีชีวติ ชุมชน วฒั นธรรม ประเพณี ศาสนา นรก สวรรค์ และมีเสียงบรรยาย เมื่อหยอดเหรียญในตูบ้ ริจาค ท้งั น้ีในวดั กย็ งั มีสนามเดก็ เล่นดว้ ย เพ่ือปลูกฝังใหเ้ ดก็ อยากเขา้ วดั ต้งั แต่เลก็ ๆ
-18- พระเจ้าใหญ่ วดั บูรพาภริ าม จงั หวดั ร้อยเอด็ วดั บูรพาภิราม ต้งั เม่ือ พ.ศ. 2456 วดั บูรพาภิราม เป็นพระอารามหลวง ช้นั ตรีชนิดสามญั ต้งั อยู่ เลขที่ 559 ถนนผดุงพานิช ตาบลในเมือง อาเภอเมือง จงั หวดั ร้อยเอด็ สังกดั คณะสงฆม์ หานิกายสร้าง ข้ึนเป็นวดั ประมาณ พ.ศ. 2340 เป็นพระอารามหลวงช้นั ตรีชนิดสามญั สร้างข้ึนเม่ือ ปี พุทธศกั ราช ๒๓๔๐ เป็นวดั ท่ีมีช่ือเรียกมาก มาย เดิมช่ือวดั หัวรอ เนื่องจากเป็นสถานที่สาหรับรวมแขก เพราะประชาชนในสมยั น้นั นิยมคา้ ขายมีววั ควายเทียมเกวยี นเป็นพาหนะเดินทาง ส่วนมากจะเดิน ค่าไหนนอนนนั่ วดั หวั รอจึงเป็นจุดเริ่มตน้ ท่ีจะตอ้ ง เดินทางพกั แรมคืนแรกของการเดินทาง จึงมกั จะนดั พบกนั ท่ีวดั แห่งน้ี พุทธศกั ราช ๒๔๕๖ พระอธิการ หลา้ อินทวโ์ ส จึงไดข้ ยายวดั เพ่ิมจากที่แห่งเดิม และเปลี่ยนชื่อใหมว่ า่ วดั บรู พา เพราะต้งั อยทู่ างทิศ ตะวนั ออกของจงั หวดั และเม่ือมีววิ ฒั นาการทางภาษามากข้ึน จึงไดม้ ีการเพม่ิ สร้อยเพ่ือความไพเราะ เป็น วดั บรู พาภิราม ต่อมาในปี พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๖ ไดส้ ร้างพระพุทธรัตนมงคลมหามุนีข้ึน โดยฝีมือ ช่างชาวบา้ น ซ่ึงความจริงอยากจะสร้างเป็นความสูง ๑๐๑ ศอก เทา่ กบั ชื่อจงั หวดั แตด่ ว้ ยความเป็น ชาวบา้ นจึงวดั เกิน มีความสูง ๑๑๘ ศอก รวมฐาน ๑๓๕ ศอก อนั เป็นความสูงอนั ดบั ๑ ของประเทศไทย และอนั ดบั ท่ี ๖ ของโลก ทาใหช้ าวร้อยเอด็ เรียกวดั น้ีอยา่ งติดปากวา่ “ วดั พระเจ้าใหญ่ ” เพราะสามารถ มองเห็นไดแ้ ต่ไกล นอกจากน้นั ดา้ นหลงั องคพ์ ระบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ท่ีอนั เชิญมาจากประเทศ อินเดีย ใตฐ้ านองคพ์ ระเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปท่ีสาคญั
-19- ความเป็ นมาขององค์พระธาตุนาดูน อาเภอนาดูน เป็นแหล่งอารยธรรมโบราณแห่งหน่ึงที่มีประวตั ิอนั ยาวนาน โดยบริเวณท่ีต้งั ของ อาเภอนาดูนคือ เมอื งจัมปาศรี ท่ีเจริญรุ่งเรือนในสมัยทวารวดี เม่ือประมาณพุทธศตวรรษที่ 13-15 ซ่ึงมีหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์และโบราณคดีท่ีคน้ พบมากมาย สรุปความดงั น้ี ถิ่นฐานอารยธรรมจมั ปาศรีในอดีตกาล สนั นิษฐานไดว้ า่ มีความเจริญรุ่งเรืองมา 2 ยคุ คือ 1. ยคุ ทวารวดี ระหวา่ ง พ.ศ. 1000-1200 2. ยคุ ลพบุรี ระหวา่ ง พ.ศ. 1600-1800 ประวตั คิ วามเป็ นมา เมื่อปี พ.ศ. 2522 ท่ีบา้ นนาดูน มีการขดุ พบหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์โบราณคดีที่แสดงวา่ บริเวณ แห่งน้ีเคยเป็นศนู ยก์ ลางความเจริญรุ่งเรื่องของนครจาปาศรี เมืองโบราณในอดีต โบราณวตั ถุตา่ งๆ ท่ีคน้ พบ ไดน้ าไปแสดงไวท้ ี่พพิ ิธภณั ฑสถานแห่งชาติจงั หวดั ขอนแก่น และท่ีสาคญั ยงิ่ กค็ ือ การพบสถูปบรรจุพระ บรมสารีริกธาตุบรรจุในตลบั ทองคา เงิน และสาริด สันนิษฐานวา่ มีอายอุ ยใู่ นพทุ ธศตวรรษท่ี 13 – 15 สมยั ทวาราวดี นอกจากน้ียงั พบพระพุทธรูป พระพมิ พล์ ายหลายแบบจานวนมาก ทตี่ ้งั พระธาตุนาดูน ต้งั อยทู่ ่ีตาบลนาดูน อาเภอนาดูน จงั หวดั มหาสารคาม เป็นปูชนียสถานท่ีสร้างข้ึน เพอ่ื สิริมงคลแก่ภมู ิภาค เป็นศนู ยก์ ลางของพระพุทธศาสนาและศิลปวฒั นธรรมของภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ จึงเรียกขานวา่ เป็น \"พุทธมณฑลแห่งอสี าน\" รอบองคพ์ ระธาตุมีบริเวณกวา้ งขวาง จดั แต่งเป็นสวนรุกชาติ ปลูกตน้ ไมใ้ นพุทธประวตั ิ นบั เป็นสถานท่ีสาคญั ทางพระพทุ ธศาสนาคู่บา้ นคู่เมืองของชาวมหาสารคาม
-20- วดั ป่ าโนนสวรรค์ บ้านเทอดไทย ต.เทอดไทย อ.ท่งุ เขาหลวง จ.ร้อยเอด็ \"วดั ป่ าโนนสวรรค\"์ ต้งั อยบู่ า้ นเทิดไทย ตาบลเทิดไทย เป็นวดั ขนาดใหญ่สร้างมาจากนิมิต ของพระครูจนั ทสุวรรณคุณ (หลวงป่ ูคาป่ันจนั ทฺโชโต) เจา้ อาวาส โดยใชห้ มอ้ ดินของชาวบา้ นมา ประดบั ตกแต่งจึงดูสวยงามแปลกตา เจดียป์ ระธานหลายช้นั ทางเขา้ จะเป็นปากหนุมานแต่ละช้นั จะมีจิตรกรรมฝาผนงั เกี่ยวกบั พระพุทธเจา้ ซุม้ ประตวู ดั มีเต่ายกั ษ์ 2 ตวั ดูคลา้ ยศิลปะทางขอมและ อินเดีย
-21- พระธาตุยโสธรหรือ พระธาตุอานนท์ ต้งั อยบู่ ริเวณหนา้ อุโบสถ เป็นพระธาตุเก่าแก่ที่สาคญั องคห์ น่ึงในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ( ภาคอีสาน ) ลกั ษณะเจดียเ์ ป็นทรงสี่เหล่ียม ส่วนยอดคลา้ ยกบั พระธาตุพนม จงั หวดั นครพนม ภายในพระธาตุบรรจุอฐั ธาตุของพระอานนท์ การก่อสร้างไดร้ ับอิทธิพลศลิ ปะ จากประเทศลาว สร้างข้ึนเมื่อปลายสมยั กรุงศรีอยธุ ยาถึงตน้ รัตนโกสินทร์ ซ่ึงตรงกบั ประวตั ิการต้งั เมืองและประวตั ิ ของวดั มหาธาตุฉบบั หน่ึงวา่ สร้างราว พ.ศ.2321 โดยทา้ วหนา้ ทา้ วคาสิงห์ ทา้ วคาผา ซ่ึงแต่เดิมเป็น เสนาบดีเก่าของกรุงศรีสตั นาคนหุต (เวยี งจนั ทน)์ ต่อมาไดอ้ พยพผคู้ นภายใตก้ ารนาของพระวอ พระตา ประมาณปี พ.ศ.2313-2319 มาต้งั ถิ่นฐาน ณ ท่ีน้ี ลกั ษณะพระธาตุ เป็นฐานรูปสี่เหล่ียมจตั ุรัส ยาวดา้ นละ 81 เมตร ก่ออิฐถือปนู เอวฐานคอด เป็นรูปบวั ควา่ บวั หงาย เหนือข้ึนไปเป็นเรือนธาตุมีซุม้ 4 ทิศ ประดิษฐานพระพุทธรูปประทบั ยนื ส่วนยอดพระธาตุมียอดปลีเลก็ แซมท้งั 4 ดา้ น ยอดกลางทรงสี่เหลี่ยมสอบ มี 2 ช้นั รูปแบบการก่อ สร้างคลา้ ยกบั พระธาตุก่องขา้ วนอ้ ย และทางวดั จะจดั ใหม้ ีงานสมโภชพระธาตุอานนท์ ข้ึนเป็น ประจาทุกปี ในเดือนมีนาคม
-22- ศูนย์วทิ ยาศาสตร์ และวฒั นธรรมเพอ่ื การศึกษาร้อยเอด็ 32 หมู่ 2 แจ้งสนิท ตาบลนเิ วศน์ อาเภอธวชั บรุ ี จงั หวดั ร้อยเอด็ แบง่ ศนู ย์การเรียนรู้ออกเป็น 4 โซน คอื 1. ดาราศาสตร์และอวกาศ เป็นนิทรรศการที่จดั แสดงภายในอาคารทอ้ งฟ้ าจาลอง ประกอบดว้ ยสิ่งท่ีแสดงถึงประวตั ิดาราศาสตร์ไทย ระบบดาราจกั ร แบบจาลองดาวในระบบสุริยะจกั รวาล การใชช้ ีวติ ในอวกาศ และภาพยนตร์ 4 มิติ มีบรรยากาศ ท่ีสนุกสนาน น่าเรียนรู้ เหมาะกบั ผชู้ มทุกเพศ ทุกวยั 2. ธรรมชาตวิ ทิ ยา ศูนยว์ ทิ ยาศาสตร์และวฒั นธรรมเพ่อื การศึกษาร้อยเอด็ มีพ้ืนท่ี 115 ไร่ และเป็นพ้ืนที่ป่ าไมจ้ านวน 60 ไร่ ซ่ึง เป็นป่ าที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ เหมาะท่ีจะอนุรักษส์ ภาพป่ าไม้ และสิ่งแวดลอ้ ม สามารถใหน้ กั เรียน นกั ศึกษา และประชาชนทว่ั ไปไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ จากฐานการเรียนรู้ เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจ ในดา้ นการ อนุรักษธ์ รรมชาติ คุณคา่ ของทรัพยากรธรรมชาติ และเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ ในดา้ นการอนุรักษ์ ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มที่สาคญั ในชุมชน สามารถนาความรู้ และประสบการณ์ท่ีไดไ้ ปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ 3. วทิ ยาศาสตร์พนื้ ฐาน เป็นนิทรรศการที่จดั ทาบนพ้นื ท่ีภายในอาคารจดั แสดงนิทรรศการช้นั 2 ประกอบดว้ ยส่ิงแสดงที่สื่อถึงความ เป็นแหล่งการเรียนรู้ทางวทิ ยาศาสตร์พ้นื ฐาน และวทิ ยาศาสตร์ประยกุ ต์ มีบรรยากาศของการเรียนรู้ที่สนุกสนาน น่าสนใจขณะเดียวกนั กแ็ ฝงหลกั การหรือกฎเกณฑท์ างวทิ ยาศาสตร์ เหมาะสมกบั ผชู้ มทุกเพศทุกวยั ลกั ษณะการ เขา้ ชมจะเป็นอิสระ เลือกเขา้ ชมไดต้ ามความสนใจ 4. โลกล้านปี วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อใหผ้ เู้ ขา้ ชมไดร้ ับความรู้เก่ียวกบั การกาเนิดเอกภพ กาเนิดโลก กาเนิดสิ่งมีชีวติ และววิ ฒั นาการของ สิ่งมีชีวติ ก่อนยคุ ประวตั ิศาสตร์ รวมท้งั สภาพธรณีวทิ ยาของประเทศไทยและภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ 2. เพ่ือส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวติ 3. กระตุน้ ใหผ้ เู้ รียน เห็นคุณค่าของแหล่งธรณีวทิ ยาในประเทศไทย และเกิดจิตสานึกการอนุรักษ์
-23- บนั ทกึ ประจำวนั พระพุทธรูปปางมารวชิ ัย พระพทุ ธรูปปางมารวชิ ยั พระพุทธรูป …………………………………… อยใู่ นพระ อิริยาบถประทบั (นงั่ ) ขดั สมาธิ พระหตั ถซ์ า้ ยวางหงาย …………………………………… บนพระเพลา(ตกั ) พระหตั ถข์ วาวางบนพระชานุ(เขา่ ) นิ้วพระหตั ถ์ …………………………………… ช้ีลงพ้นื ธรณี บางแห่งทารูปแม่พระธรณีนงั่ บีบมวยผมประกอบ …………………………………… นิยมสร้างเป็ นพระประธานในพระอโุ บสถ …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………….
-24- พระพทุ ธรูปปางสมาธิหรือปางตรัสรู้ พระพทุ ธรูปปางสมาธิหรือปางตรัสรู้ พระพทุ ธรูปอยใู่ นพระ อิริยาบถประทบั (นง่ั ) สมาธิ พระหตั ถท์ ้งั สองวางหงายซอ้ นกนั บนเพลา (ตกั ) พระหตั ถข์ วาทบั พระหตั ถซ์ า้ ย พระชงฆ์ (แขง้ ) ขวาทบั พระชงฆซ์ า้ ย บนั ทกึ ประจำวนั ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………
-25- บนั ทกึ ประจำวนั ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… พระพุทธรูปปางห้ามสมุทร พระพทุ ธรูปปางหา้ มสมุทร พระพทุ ธรูปอยใู่ นพระอิริยาบถยนื ยกพระหตั ถท์ ้งั สองแบต้งั ข้ึนยนื่ ออกไปขา้ งหนา้ เสมอพระอรุ ะ(อก) เป็ นกิริยาหา้ ม บางแบบเป็นพระทรงเคร่ือง คร้ังหน่ึง พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ เสดจ็ ไปประกาศพระศาสนายงั ตาบลอรุ ุเวลาเสนานิคมทรงขอประทบั อยใู่ นสานกั ของอุรุเวลกสั สปะ ผเู้ ป็ นหวั หนา้ ชฎิล ซ่ึงเป็ นที่เลื่อมใสของมหาชน ในแควน้ มคธ ทรง แสดงอิทธิปาฏิหาริยน์ านปั การ เพอ่ื ใหอ้ รุ ุเวลกสั สปะคลายความพยศ ลง พระองคท์ รงทาปาฏิหาริยห์ า้ มน้าท่ีไหลบา่ มาจากทุกสารทิศมิให้ เขา้ มาในที่ประทบั และเสดจ็ จงกรมภายในวงลอ้ มที่มีน้าเป็นกาแพง เหล่าชฎิลพายเรือมาดู เห็นเป็ นอศั จรรย์ จึงยอมรับในพทุ ธานุภาพ และขออปุ สมบทเป็นพระภิกษุ
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: