u4

บทที่ 4 วสั ดแุ ละเครือ่ งมือพื้นฐาน วัสดุ เคร่อื งมือพ้ืนฐาน การตัด ตอและขนึ้ รปู วัสดุ สรา ง/ผลติ สอ่ื : piengpen lohasomboon

4.1 วัสดุ - ธรรมชาติ ดนิ หิน ทราย ใบไม หนงั สตั ว นํามาสรางเปนสิ่งของเครอ่ื งใช - มนุษยสรา ง (วสั ดสุ ังเคราะห) เชน โลหะ ไม เซรามกิ คอมโพสิต วสั ดุ สมัยใหม 4.1.1 สมบตั ิของวัสดุ วสั ดธุ รรมชาติและวัสดสุ ังเคราะห มสี มบัตเิ ฉพาะตวั ตอ งเลือกใชงาน ใหเ หมาะสมตอการใชง าน - ยดื หยุน เปล่ียนแปลงรูปรา งเม่ือมีแรงกระทาํ เชน ยาง สปรงิ - ความแข็งแรง เชน การสรางสะพาน โครงสรา งทเ่ี ปน คานตองมีสมบตั ิ ในการรบั นา้ํ หนักและแรงกดไดมาก - การนําความรอน วสั ดุทน่ี ําความรอนไดด ี คอื เหล็ก อะลมู ิเนียม ทองเหลอื ง สรา ง/ผลติ สอ่ื : piengpen lohasomboon

4.1.2 วสั ดุนารู สงิ่ ของเครื่องใชตา งๆในชีวิตประจาํ วันทํามาจากวัสดุหลายประเภท ขนึ้ อยกู บั ความตองการและความเหมาะสมกบั การใชงาน ปจจุบนั มี วสั ดุทีพ่ ฒั นาอยา งมากมายเพอ่ื ทดแทนวสั ดุธรรมชาติ หรือเพื่อเพ่ิม ประสทิ ธภิ าพการใชง าน ตวั อยา งวสั ดุ 1) โลหะ - ประเภทเหลก็ เหลก็ ฉาก เสน กลม เหล็กกลอง - ประเภทไมใ ชเ หลก็ สงั กะสี สเตนเลส อะลมู เี นียม ทอง - โลหะผสม ทองเหลือง (ทองแดง+สังกะส)ี มคี วามแข็งแกรง นาํ ไปทาํ พาน แจกัน สรา ง/ผลติ สอ่ื : piengpen lohasomboon

2) ไม ขอดี มคี วามสวยงาม แขง็ แรง ขอ เสีย เสือ่ มตามอายุ ดูดความชื้น ผุพังงาย จึงมกี ารผลิตวัสดุข้ึนมาเพ่อื ทดแทนไมธ รรมชาติ ไดแ ก - ไมส ังเคราะหพ ลาสตกิ ไฟเบอรบอรด พารติเคิลบอรด - ไมส งั เคราะหไฟเบอรซีเมนต เชน เชิงชาย ไมร ะแนง ไมบ วั ไม ผนังบันได ไมบ งั ตา สรา ง/ผลติ สอ่ื : piengpen lohasomboon

3) เซรามิก เปน ผลิตภณั ฑทท่ี ําจากวตั ถุดิบในธรรมชาติ เชน ดิน หนิ ทรายนํามาผสมแลวนาํ ไปเผาเพอ่ื เปลี่ยนเน้อื วัตถใุ หแ ข็งแรงและคง รูป ในทน่ี ้ีคือ แกว เมอื่ ผานกระบวนการขึ้นรูปเปนแผน จะเรียกวา “กระจก” เชน กระจกเงา ( กระจกสองในหองน้ําหรือหองแตงตวั ) กระจกสะทอ นแสง ( ใชใ นอาคารพาณิชย/ กระจกประตบู า น ) กระจกนริ ภัย ( กระจกหนารถยนต หนา ตาง ) กระจกฉนวนความรอน ( พพิ ธิ ภัณฑ ) สรา ง/ผลติ สอ่ื : piengpen lohasomboon

4) วัสดุผสม (composite)เปนวสั ดทุ ี่มีการผสมวัสดตุ งั้ แต 2 ชนดิ ขน้ึ ไปเขา ดว ยกัน แบงเปน 3 ประเภทคือ - วสั ดุเชิงประกอบพอลเิ มอร มพี อลเิ มอรเปนวสั ดุหลัก เชน ใชท าํ หลังคารถกระบะ ถังนํา้ - วสั ดุเชงิ ประกอบโลหะ มโี ลหะเปนวสั ดุหลัก พบในอุตสาหกรรมยานยนต - วัสดเุ ชงิ ประกอบเซรามิก เปน วัสดุทม่ี ีความทนทานตอ การใชง าน ทีอ่ ุณหภมู สิ ูง แตเปราะแตกหักงา ย จงึ เสรมิ ดวยกรวด ทราย ปูน ดภู าพประกอบหนา้ 63 สรา ง/ผลติ สอื่ : piengpen lohasomboon

5) วสั ดสุ มัยใหม (modern material) เปนวสั ดสุ มยั ใหมท ่ถี ูกผลติ หรอื สังเคราะหดว ยเทคโนโลยขี น้ั สงู เชน วัสดุนาโน ( ผลิตแบตเตอรี่ ผสมทาสบี าน ผลติ เสน ใยผา ) ปจจบุ ันมีการนาํ วสั ดุนาโนมาใชงาน เปน ตัวขนสงยานําเขา สูผ ูปวย เพ่ือเพม่ิ ผลสัมฤทธ์ใิ นการรักษา เชน นาโนเซลล ซงึ่ เปน อนุภาคนาโน ทถ่ี กู สังเคราะหข ้นึ ใหสามารถขนสงยาเคมีบาํ บดั นําเขา สรู างกายผูปวย โรคมะเร็ง เพื่อทาํ ลายเซลลมะเรง็ สราง/ผลติ สอื่ : piengpen lohasomboon

4.2 เคร่อื งมอื พนื้ ฐาน 4.2.1 เคร่อื งมือสําหรับการวัดขนาด - ไมโครมเิ ตอร เปนเคร่ืองมอื วดั ขนาดช้นิ งานขนาดเล็กมีความแมน ยาํ สงู - เวอรเนียคาลเิ ปอร เปนเคร่ืองมือวัดขนาดอยา งละเอยี ด สามารถวัดความลกึ ได - ไมบ รรทัดวดั องศาหรือใบวดั มุม เปน เคร่อื งมือวัดขนาดมุมของชนิ้ งานเปน องศาทม่ี ี ความละเอยี ด สรา ง/ผลติ สอื่ : piengpen lohasomboon

4.2 เครือ่ งมือพืน้ ฐาน 4.2.2 เคร่ืองมอื สาํ หรับการตดั - คมี คมี ปากแหลม (ใชตัดวสั ดชุ ิ้นเล็กทไี่ มแ ขง็ มาก) คีมปากเฉยี ง (ใชป ลอกสายไฟ) - เลอื่ ยและปากกาตัด เลอ่ื ยรอ(สําหรับตดั แตงไม) เลือ่ ยจิ๊กซอ (ตัดไมท ง้ั แนวตง้ั /นอน) - เล่อื ยตัดเหลก็ - เลอ่ื ยวงเดือน ใชต ดั วสั ดุไดห ลายชนดิ เชน ไม พลาสตกิ สเตนเลส อะลูมิเนียม - เลื่อยไฟเบอร เปน เครื่องมือทมี่ ีความนยิ มสูง (ใชต ดั เหล็ก ทองแดง ทองเหลือง) - ปากกาตัดกระจก คลา ยปากกา เวลาตัดลากปากกาไปบนกระจกแลวใชมอื คอยๆ แยกกระจกออกตามรอย สราง/ผลติ สอ่ื : piengpen lohasomboon

4.2 เคร่ืองมอื พ้ืนฐาน สรา ง/ผลติ สอ่ื : piengpen lohasomboon 4.2.2 เครื่องมือสาํ หรับการเจาะ สวา นมือ - แบบธรรมดา ใชเ จาะวัสดุทวั่ ไป เชน ไม เหลก็ - แบบโรตารี สวนใหญใชเจาะปูน ดอกสวาน สําหรบั งานประเภทตางๆ 1. เจาะไม 2. เจาะปูน 3. เจาะเหล็ก 4. เจาะกระเบอ้ื ง 5. เจาะแกว

4.3 การตดั ตอ และข้ึนรูปวัสดุ 4.3.1 การตัด cutting เปน การทาํ ใหช้นิ งานแยกจากกัน เชนตดั แนวตรง แนวโคง 4.3.2 การตอ joining เปน การนาํ วัสดปุ ระเภทเดียวกันหรือตา งชนดิ มาประกอบกันใหเ ปน รูปรา ง เชน ไม เทคนิคในการตอ การเขา ไม โลหะ เทคนคิ ในการตอ การเชื่อม การบดั กรี พลาสตกิ เทคนคิ ในการตอ การเชื่อม คอนกรตี เทคนิคในการตอ การประสานดวยวสั ดหุ รือสารเคมี 4.3.3 การขน้ึ รปู forming เปนการเปลยี่ นรปู รา งของวสั ดุใหเ ปนผลิตภณั ฑ/ชนิ้ งานตาม ความตอ งการ - การขึ้นรปู แบบรอน hot working เชนการตเี หล็ก การรดี แบบรอน - การขน้ึ รปู แบบเยน็ cold working เชน การดดั งอ การอัดรดี การบดิ งอ สราง/ผลติ สอื่ : piengpen lohasomboon