โครงงาน การกาจดั เหาจากใบนอ้ ยหน่า ผจู้ ดั ทาโครงงาน 1.นางสาว ชลธิชา จนั ดา เลขท่ี 10 2.นางสาวปวรรัตน์ ลือยศ เลขท่ี 25 3.นางสาว บษุ มาศ เนตรทพิ ย์ เลขท่ี 30 4.นางสาว ทิพรดา เกตุอยู่ เลขท่ี 38 5.นาย พสั กร ใจปิ ง เลขท่ี 39 เสนอ ครู ดารงค์ คนั ธะเรศย์ โรงเรียนปัว สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาน่าน
บทคดั ย่อ ใบนอ้ ยหน่า เป็นสมุนไพรที่อยใู่ นบา้ นของทกุ คน และหาไดง้ ่ายในบา้ นของเรา ซ่ึงใบ นอ้ ยหน่าไม่สามารถรับประทานแต่นามากาจดั เหาได้ เราจึงอยากนาใบนอ้ ยหน่ามาทา เป็นผลิตภณั ฑใ์ นการกาจดั เหา จากการศึกษาและคน้ ควา้ ดว้ ยการทาโครงงานทดลอง พบวา่ มีขอ้ มลู ที่น่าสนใจ คือ สารท่ีสาคญั ที่ช่วยเสริมสร้างการทางานของอวยั วะสาคญั ใน การขจดั เห็บและเหาซ่ึงสารท่ีวา่ น้ีไดม้ าจากใบนอ้ ยหน่า โครงงาน ใบนอ้ ยหน่าสูตรขา้ ง ครัว มีจุดมงุ่ หมายในการทางาน โดยนาใบนอ้ ยหน่ามาแปรรูปทาเป็นผลิตภณั ฑส์ มุนไพร ท่ีมีประโยชนต์ ่อสุขภาพและยงั เป็ นการนาสิ่งท่ีหาไดง้ ่ายภายในบา้ นมาใชใ้ หเ้ ป็น ประโยชน์ นอกจากน้ียงั เป็นการสร้างความสามคั คี เอ้ือเฟ้ื อเผื่อแผ่ แก่คนในกลุ่มอีกดว้ ย
กติ ตกิ รรมประกาศ คณะผจู้ ดั ทาขอขอบพระคุณภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ิน คุณ จินดา ใจปิ ง ท่ีใหค้ วามรู้และ ถ่ายทอดวธิ ีการทาน้ามะกรูดสมนุ ไพร ช่วยบารุงร่างกายใหแ้ ขง็ แรงอยา่ งละเอียด ดว้ ย ความเมตตาและต้งั ใจจริง ขอบพระคุณ คุณ จินดา ใจปิ ง ที่กรุณาให้คาแนะนาในการ จดั ทาโครงงาน อานวยความสะดวกจดั หาอุปกรณ์ อุทิศเวลา และเป็น ที่ปรึกษา โครงงาน โดยเฉพาะการนาเสนอท่ีถูกตอ้ ง สุดทา้ ยน้ีขอขอบใจเพื่อนนกั เรียนในกลุ่มทกุ คนท่ีให้ความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ ให้ขอ้ แนะนาเสนอแนะ ทาใหผ้ ลงานออกมาไดเ้ ป็นอยา่ งดี
คานา โครงงานฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของวิชา IS1:รหสั I30201 การศึกษาคน้ ควา้ และ สร้างองคค์ วามรู้โดยมีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือจะใหผ้ ทู้ ่ีเขา้ มาอ่านไดศ้ ึกษา ดูวธิ ีการทา เพอ่ื ท่ีจะ นาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาได้ ผจู้ ดั ทาไดเ้ ลือกหวั ขอ้ น้ีเพือ่ ที่จะให้ไดร้ ับประโยชน์จากท่ีผจู้ ดั ทาไดล้ งมือทา หวงั วา่ โครงงานฉบบั น้ีจะให้ความรู้ ใหป้ ระโยชน์ต่อผอู้ ่านเป็นอยา่ งมาก คณะผจู้ ดั ทา
สารบญั หนา้ ก เรื่อง ข บทคดั ยอ่ ค กิตตกิ รรมประกาศ ง คานา 1 สารบญั 1 2 บทที่ 1 บทนา 2 ท่ีมาและความสาคญั ของโครงงาน 2 วตั ถุประสงคข์ องการศึกษา 3 ขอบเขตของการทาโครงงาน 4 ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะไดร้ ับ 5 6 บทท่ี 2 เอกสารที่เกี่ยวขอ้ ง 6 เอกสารอา้ งอิง บทที่ 3 วิธีการดาเนินโครงงาน เคร่ืองมือและวสั ดุอปุ กรณ์ท่ีใชใ้ นการศึกษา วธิ ีการศึกษา
บทท่ี 4 ผลการศึกษา 7 ผลการศึกษา 7 8 บทที่ 5 สรุปผลการศึกษา 8 สรุปผลการศึกษา 8 ประโยชน์ท่ีไดร้ ับจากโครงงาน 8 ขอ้ เสนอแนะ 1 บรรณานุกรม ภาพประกอบในการทาผลิตภณั ฑก์ าจดั เหา
บทนา ทีม่ าและความสาคญั ของโครงงาน นอ้ ยหน่า (องั กฤษ: Sugar apple; ชื่อวทิ ยาศาสตร์: Annona squamosa Linn.) ใบ นอ้ ยหน่าจดั เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลบั กนั บนก่ิง สีใบเม่ือออ่ นจะออกสีขาวปนเขียว ใบแก่ จะออกสีเขียวเขม้ ปนน้าตาล มีลกั ษณะใบเป็นรูปหอก ปลายใบแหลมหรือค่อนขา้ งเรียว แหลม ส่วนโคนใบก็มีลกั ษณะเป็นรูปล่ิม ใบสดและเมล็ดนอ้ ยหน่าสามารถใชฆ้ า่ เหา และ โรคกลากเกล้ือน โดยเอาใบนอ้ ยหน่าสดมาค้นั เอาแต่น้า แลว้ พอกหวั ภายใน 7 วนั กลาก เกล้ือนและเหากจ็ ะหาย เป็นเหา ซ่ึงมีวธิ ีรักษาอยคู่ ือนาใบนอ้ ยหน่าประมาณ 3-4 ใบมาบด หรือตาให้ ละเอียดเพอ่ื ลดการเกิดเหาของเด็กๆได้ เนื่องจากเดก็ ๆส่วนใหญม่ กั จะมีอาการเกิดเหาติดตอ่ กนั หาเป็นแมลงสีออกเทาๆ ขนาดยาว 3-4 มิลลิเมตร กินข้ีไคลบนหนงั ศรีษะคน เป็นอาหาร เหาตวั เมียมีอายปุ ระมาณ 1 เดือน จะไขท่ ี่โคลนผมประมาณ 7-10 ฟอง ตอ่ วนั ไข่จะเห็นเป็นตมุ่ สีขาวติดแน่นอยกู่ บั ผม จึงคน้ หาวิธีในการรักษษจากสมุนไพรธรรมชาติ คณะผจู้ ดั ทาสนใจในการทาโครงการที่คน้ หาสมนุ ไพรธรรมชาติมาประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิด ประโยชน์และใบนอ้ ยหน่ายงั มีสรรพคุณในการกาจดั เหา เพอื่ ลดการเกิดเหาของเดก็ ๆอีกดว้ ย
วตั ถุประสงค์ของการทาโครงงาน 1. เพื่อทดลองนาใบนอ้ ยหน่าเป็นสมนุ ไพรธรรมชาติมาใชใ้ นการรักษาโรคเหา 2. เพอ่ื นาสมนุ ไพรทอ้ งถ่ินมาใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจาวนั 3. เพือ่ ให้ความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั สมนุ ไพรธรรมชาติบางชนิด 4. เพื่อลดคา่ ใชจ้ า่ ยในการซ้ือสารเคมีกาจดั เหา 5. เพ่ือความปลอดภยั ของสุขภาพ ขอบเขตของการทาโครงงาน 1.สมุนไพรมี 2 ชนิดไดแ้ ก่ ผลมะกรูด และ ใบนอ้ ยหน่า ไดม้ าจากบริเวณบา้ นดอนแกว้ 2.เหาจากเด็กผหู้ ญิง 1 คน ผลท่คี าดจะได้รับ 1. สามารถรักษาโรคเหาให้หายได้ 2. สามารถนาพืชสมนุ ไพรในทอ้ งถ่ินมาใชป้ ระโยชน์อยา่ งคุม้ ค่าและถูกวิธี 3. เป็นการประหยดั ค่าใชจ้ ่ายในการซ้ือสารเคมีกาจดั เหา 4. เป็นการรักษาสุขภาพร่างกายใหป้ ลอดภยั จากสารเคมี
บทที่ 2 การศึกษาเอกสารอ้างองิ ใบน้อยหน่า Sugar apple ชื่อทางวทิ ยาศาสตร์ Annona squamosa Linn ถ่นิ กาเนดิ จงั หวดั ปัตตานี รูปลกั ษณ์ นอ้ ยหน่าเป็นไมย้ นื ตน้ สูง 3-5 เมตร ใบเด่ียว เรียงสลบั รูปใบหอกแกมขอบ ขนาน กวา้ ง 3-6 เซนติเมตร ยาว 7-13 เซนติเมตร ดอกเดี่ยว ออกที่ซอกใบ ห้อยลง กลีบ ดอกสีเหลืองแกมเขียว 6 กลีบ เรียง 2 ช้นั ช้นั ละ 3 กลีบ หนาอวบน้า มีเกสรตวั ผแู้ ละรังไข่ จานวนมาก ผลเป็นผลกลุ่ม ค่อนขา้ งกลม เมล็ดสีดา มีจานวนมาก สรรพคณุ ใบสดและเมลด็ นอ้ ยหน่าสามารถใชฆ้ ่าเหา และ โรคกลากเกล้ือน โดยเอาใบนอ้ ยหน่าสดมาค้นั เอา แต่น้า แลว้ พอกหวั ภายใน 7 วนั กลากเกล้ือนและเหาก็จะหาย เป็นเหา ซ่ึงมีวธิ ีรักษาอยู่ 2 วธิ ีคือ นาใบนอ้ ยหน่าประมาณ 3-4 ใบมาบดหรือตาให้ ละเอยี ดแลว้ คลุกกบั เหลา้ 28 ดีกรี คลุกใหเ้ คลา้ กนั จนไดก้ ลิ่นนอ้ ยหน่า แลว้ นามาทาหวั ใหท้ วั่ เอาผา้ คลุมไวส้ กั 10-30 นาทีและเอาผา้ ออกใชห้ วสี าง เหาก็ตกลงมาทนั ทนี าใบนอ้ ยหน่า 7-8 ใบ มาตาใหล้ ะเอยี ดแลว้ ผสมกบั น้าทาหวั ทงิ้ ไวส้ ักครู่ แลว้ ลา้ ออก ซ่ึงจะช่วยทาใหไ้ ข่ฝ่อ และฆ่าเหาได้ และ แกข้ บั พยาธิลาไส้ ฆ่าเหา แกห้ ิด แกก้ ลากเกล้ือน และ แกฟ้ กบวมราก เป็นยาระบาย ทาใหอ้ าเจียน และแกพ้ ษิ งู ถอนพษิ เบ่อื เมา
เปลือกตน้ เป็นยาสมานลาไส้ สมานแผล แกท้ อ้ งร่วง แกพ้ ิษงู แกร้ ามะนาด ยาฝาดสมาน ผล ผลดิบ จะเป็นยาแกพ้ ษิ งู แกฝ้ ี ในคอ กลาก เกล้ือน ฆ่าพยาธิ ผวิ หนงั และผลแหง้ แกง้ ูสวดั เริม แก้ ฝี ในหู ใบนอ้ ยหน่ามีสารแอลคาลอยด์ แอนโนเนอีน (anonaine) และเรซิน (resin) ในเมลด็ มีน้ามนั อยู 45% ซ่ึงเป็นพษิ กบั ดว้ งปี กแขง็ เพล้ียอ่อนแมลงวนั และมวนปี กแขง็ สารสกดั เมทานอลของใบนอ้ ยหน่า เป็นพษิ ต่อไรทะเล และใบนอ้ ยหน่ายงั เป็ นพษิ ต่อเพล้ียออ่ นถวั่ โดยมี LC50 2,089.30 ไมโครกรัมต่อ มิลลิลิตร ใบน้อยหน่า รักษาเห็บและเหา ผลน้อยหน่า 1.ช่วยต่อตา้ นอนุมูลอสิ ระในร่างกาย 2.ช่วยบารุงผวิ พรรณ เสน้ ผม และดวงตา 3.นอ้ ยหน่าเป็นผลไมท้ ีม่ ีไขมนั ต่า จึงเหมาะสาหรับผทู้ ก่ี าลงั ลดน้าหนกั หรือลดความอว้ น และรักษา สุขภาพ (แตส่ าหรับผปู้ ่ วยเบาหวานถือเป็นขอ้ ยกเวน้ ) 4.ช่วยรักษาโรคหอบหืด (วิตามินซี) 5.ช่วยควบคุมระดบั น้าตาลในเลือด (เสน้ ใย)
บทที่ 3 วธิ ีการดาเนินโครงงาน วธิ ดี าเนินการ 1.จดั เตรียมวสั ดุอปุ กรณ์ทีใ่ ชใ้ นการทาน้ายากาจดั เหาภมู ิปัญญาทอ้ งถิ่น 2.กาจดั เหาในเดก็ นกั เรียนที่เป็นกลุุ่ มเป้ าหมาย โดยการนาน้ายาสกดั ใบนอ้ ยหน่า ท่เี ตรียมไวส้ ระ ผมใหท้ ว่ั แลว้ สวมหมวกพลาสติกหมกั ไวป้ ระมาณ 1 ชว่ั โมง จึงลา้ งออกฟอกดว้ ยยาสระผมอีกคร้ัง ใชห้ วีเสนียดสางเอาตวั และไข่เหา ออก ขอ้ ควรระวงั อยา่ ใหน้ ้านอ้ ยหน่าเขา้ ตา เพราะจะทาใหแ้ สบตา ทาเช่นน้ีทุกวนั ติดต่อกนั 3 วนั 3.สาธิตการทาน้ายากาจดั เหาจากภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ิน ใหแ้ ก่ผปู้ กครองและนกั เรียนทเี่ ขา้ ร่วมอบรม 4.ใหค้ วามรู้และคาแนะนาท้งั เดก็ นกั เรียนและผปู้ กครองในการดูแลรักษาความสะอาด ท่อี ยอู่ าศยั ผา้ ห่ม หมอน ท่ีนอน ผา้ เชด็ ตวั การสระผมและการทาความสะอาดร่างกาย การใชเ้ ครื่องใชแ้ ยกกนั เช่น ผา้ เชด็ ตวั หวี เป็ นตน้ 5.ออกตรวจเยย่ี มบา้ นเดก็ นกั เรียน เพือ่ ใหผ้ ปู้ กครองช่วยสังเกตและมีส่วนร่วมในการดแู ลพฤติกรรม การรกั ษาความสะอาดตนเองที่บา้ นและให้หายจากโรคเหา 6.ครูประจาชนั้ และครูผ้รู บั ผดิ ชอบอนามยั โรงเรียน ดแู ล ตดิ ตาม พฤตกิ รรมการรกั ษาความสะอาด ของเดก็ นกั เรียนอย่างสม่าเสมอ จนกระทงั่ นกั เรียนปลอดเหาและไม่กลบั มาเป็นอกี
7.สารวจความพึงพอใจของผ้ปู กครองที่มีส่วนร่วมในการทาโครงการเรื่องนี ้และประเมนิ พฤตกิ รรม การดแู ลตนเองในการป้ องกนั และกาจดั เหาของนกั เรียน เคร่ืองมือและวสั ดุอปุ กรณ์ท่ใี ชใ้ นการศึกษา อปุ กรณ์ 1. ถว้ ยตวง 2. หลอดแกว้ 3. เครื่องปั่น วสั ดุ 1. ใบนอ้ ยหน่า 2. มะกรูด 5. น้า วธิ ีการศึกษา 1. ศึกษาจากวิทยากรทอ้ งถิ่น โดยการสอบถามคุณ จินดา ใจปิ ง 2. ศึกษาจากเอกสารอา้ งอิง และคาบอกเล่าของผรู้ ู้ 3. ประเดน็ การศึกษา
บทท่ี 4 ผลการศึกษา 1. ไดศ้ ึกษาสรรพคุณของใบนอ้ ยหน่า 2. ไดศ้ ึกษาวธิ ีการทาผลิตภณั ฑใ์ บนอ้ ยหน่า สรรพคณุ 1.รักษากลากเกล้ือน นาใบสด 2.รักษาหิด นาใบสดมาตา 3.ช่วยฆ่าพยาธิในเดก็ ดว้ ยการใชใ้ บสดประมาณ 4.ช่วยกาจดั เหา และเห็บหมดั ช่วยทาใหไ้ ข่เหาฝ่ อ ฆ่าเหา
วธิ กี ารทา ใชใ้ บนอ้ ยหนา้ สดประมาณ 4 ใบนามาตาผสมกบั เหลา้ ขาว แลว้ เอาน้าท่ไี ดม้ าชโลมใหท้ วั่ ศีรษะ แลว้ ใชผ้ า้ คลุมไวป้ ระมาณ 10 นาทีแลว้ ใชห้ วีสางออก (หรือจะใชแ้ ค่น้าค้นั จากใบอยา่ งเดียวก็ได)้ หรือจะ ใชเ้ มลด็ นามาบดค้นั กบั น้ามะพร้าว (อตั ราส่วน 1:2) แลว้ กรองเอาแต่น้ามาชโลมใหท้ ว่ั ศีรษะ แลว้ ใช้ ผา้ โพกไวป้ ระมาณ 1-2 ชว่ั โมง และหา้ มชโลมยาทิง้ ไวข้ า้ มคืน ทาเสร็จแลว้ ใหส้ ระผมทาความ สะอาดทุกคร้ัง (ใบ, เมลด็ )
บทท่ี 5 สรุปผลการศึกษา สรุปผลการศึกษา การศึกษาการทาผลิตภณั ฑก์ าจดั เหา เป็ นการนาส่ิงที่ใกลต้ วั มาประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิด ประโยชน์ เป็นการฝึกใหใ้ ชค้ วามคิดสร้างสรรค์ เพื่อที่จะนามาพฒั นาเป็นอาชีพเสริมได้ ประโยชน์ทไี่ ด้รับจากโครงงาน 1. ไดศ้ ึกษาการทาใบนอ้ ยหน่า 2. ไดศ้ ึกษาสรรพคุณของใบนอ้ ยหน่า 3. นามาพฒั นาใหเ้ กิดรายได้ ข้อเสนอแนะ จากการศึกษาโครงงานการทาผลิตภณั ฑก์ าจดั เหา สามารถพฒั นาใหเ้ ป็นอาชีพเสริมได้
บรรณานุกรม https://www.tm.mahidol.ac.th/th/tropical-medicine-knowledge/new/Louse.html
ภาพประกอบในการทาผลิตภณั ฑก์ าจดั เหา
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: