คู่มือ การย้อมผ้า จากสีธรรมชาติ ผ้าทอกะเหรี่ยงบ้านหล่ายแก้ว ตำบลบงตัน อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ โครงการยกระดับสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T For BCG and Regional Development)
ตำบลบงตัน อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ บ้านหล่ายแก้ว บ้านหล่ายแก้ว เป็นชุมชนในหมู่บ้านหนองปู ตำบลบงตัน อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งประกอบด้วยทั้งสอง หมู่บ้านและอาศัยอยู่ร่วมกันชาวบ้านเกือบทั้งหมด เป็นชาวเผ่ากะเหรี่ยง (ชาวกะเหรี่ยงโผล่ง) และส่วนหนึ่ง เป็นคนพื้นเมืองดังนั้นจึงมีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่ หลากหลาย ทั้งยังคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์และความโดดเด่น ของชาติพันธุ์ การสืบสานทางวัฒนธรรมมีการสืบทอด และส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น แม้ในจะปัจจุบันจะมีการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวทำให้วัฒนธรรมบาง อย่างสูญหายไป แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด รวมไปถึงการแต่งกายที่เป็นอีก วัฒธรรมหนึ่งที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบันโดยชุดที่สวมใส่ทั้งชาย ลายผ้าและหญิงนั้นส่วนใหญ่จะเป็นชุดจากผ้าทอกะเหรี่ยงที่ทอขึ้นเองโดย จะมีลวดลายและเอกลักษณ์เฉพาะของชาติพันธุ์และคงไว้ซึ่งวิธีการ ดั้งเดิมคือการใช้กี่เอวในการทอผ้าบ้านแต่ละบ้านที่มีผู้หญิงทอผ้านั้น จะมีกี่เอวสำ1หรกับาทยอผก้าอซึ่งงมีขนาดเล็กกว่ากี่ทอผ้าหลังใหญ่ง่ายต่อการ เคลื่อนย้าย2แลขะกะาเรมย้กอมคฝ้ลาิ้ยงทอด้วยสีธรรมชาติ โดยชุดหนึ่งนั้นจะใช้ เวลาในการ3ทอชเฉ้าลี่ยยม3ึนวันนตา่งอหนึ่งผืน เร็วที่สุดคือ 2 วันสำหรับผู้ที่มี ความชำนา4ญสูหงนแี้ลด่ะอ4ง-5 วันสำหรับมือใหม่ 5 กะล่างจ้อย 6 ถะไค้แถ่ 7 หลึ่งเค้คลิ้ง 8 ลายทู่พูดอง โครงการยกระดับสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T For BCG and Regional Development)
ขั้นตอน ในการย้อมสี จากธรรมชาติ การย้อมสีธรรมชาติ คือ การนำเอาวัตถุดิบ ในธรรมชาติที่ได้จากพืช สัตว์ จุลินทรีย์ และแร่ธาตุต่างๆ มาทำการย้อมกับเส้นด้าย เพื่อนำมาใช้ในการทอผ้า เพิ่มสีสันให้กับเส้น ด้ายให้มีความสวยงาม เป็นวิธีที่มีขั้นตอน ไม่ยุ่งยาก ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรม มาสู่ลูกหลานของชาวบ้านบ้านหล่ายแก้ว อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ โดยขั้นตอนในการย้อมสีธรรมชาติแบ่งออก เป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 1.1 การทำความสะอาดฝ้ายก่อนการย้อม ก่อนจะนำเส้นไหมหรือเส้นฝ้ายไปต้มต้องมีการ ทำความสะอาดฝ้ายก่อนเพื่อขจัดสิ่งสกปรก ไขมันและสารที่ติดอยู่ในเส้นฝ้ายออกให้สะอาด เพราะสิ่งสกหรกเหล่านี้หากไม่ทำความสะอาด จะส่งผลให้สีย้อมติดเส้นด้ายไม่ดีเท่าที่ควร โครงการยกระดับสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T For BCG and Regional Development)
ขั้นตอน ขั้นตอนที่ 1 (ต่อ) ในการย้อมสี การทำความสะอาดฝ้ายมีดังนี้ จากธรรมชาติ 1.ต้มน้ำร้อนในหม้อ สังเกตผิวน้ำถ้ามีไอเกาะ ถือว่าได้ที่ 2.นำเส้นฝ้ายลงไปต้มในน้ำร้อน กดให้ฝ้ายจม น้ำทั่วทุกเส้น 3. ค่อยๆเพิ้มไฟให้น้ำเดือดไปเรื่อยๆ ต้มนานประมาณ 1 ชั่วโมง 1. นำเส้นไหมที่ต้มมาวางทิ้งไว้ให้เย็นตัวลง ก่อนนำไปล้างในน้ำเย็น แล้วบิดให้หมาด กระตุกไหมให้ไหมไม่พันกันและนำไปตากแดด ไว้ให้แห้ง วิธีนี้อาจใช้เวลาครึ่งวัน หรือ 1 วันเต็มเพื่อรอให้ไหมแห้งสนิท และนำไปเก็บไว้อย่าให้โดนฝุ่น โครงการยกระดับสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T For BCG and Regional Development)
ขั้นตอน ในการย้อมสี จากธรรมชาติ ขั้นตอนที่ 2 การเตรียมย้อมฝ้ายจากสีธรรมชาติ 2.1 อุปกรณ์ที่ใช้ในการย้อม 1.หม้อต้มหรือหม้อย้อม ควรเลือกขนาดหม้อให้ เหมาะสมกับการย้อมผ้า 2.ไม้กวนผ้า ขนาดพอดีที่สามารถรับน้ำหนักผ้า ฝ้ายในขณะที่ต้มได้ 3.กะละมังสำหรับล้างผ้า หรือเส้นด้ายก่อนย้อม และหลังย้อม 4. เตาฟืนสำหรับต้ม 5.อุปกรณ์เสริมอื่นๆเช่น ถุงมือยาง หมวกคลุมผม ฯลฯ โครงการยกระดับสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T For BCG and Regional Development)
พืชที่ใช้ ให้สีอะไรบ้าง? พืชที่ให้สีและสามารถนำมาผลิตสีเพื่อการย้อมนี้ มีได้ตั้งแต่ต้นหญ้าไปจนถึงต้นไม้ขนาดใหญ่และ ทุกส่วนของพืช ได้แก่ ใบ ดอก ผล ลำต้น เปลือก แก่น ราก หัวหรือเหง้าในดิน ซึ่งแต่ละชนิด แต่ละ ส่วนของพืชจะให้สีสันที่แตกต่างกัน อีกทั้งยังขึ้น อยู่กับความอ่อน แก่ สด แห้ง ช่วงเวลา เดือน และฤดูกาลที่เก็บด้วย แต่พืช ที่ทางบ้านหล่ายแก้ว ดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ นำมาทำเป็นพืชที่หาได้ในชุมชนทั่วไป เช่น ไม้ประดู่ ให้สีโทนแดง ส่วนที่ใช้ เปลือกต้น หรือแก่นต้น ใบมะม่วง ให้สีโทนเขียว นิยมใช้ใบใน การทำ มะเกลือ ให้สีโทนดำและเทา ขั้นตอนที่ 2 (ต่อ) 2.2 การเตรียมน้ำสำหรับย้อมผ้า เป็นขั้นตอนการต้มพืชที่มีอยู่ให้เกิดสี โดยมีขั้น ตอนดังนี้ 1.เตรียมวัตถุดิบ หากเป็นเปลือกไม้แข็งให้ทำการ สับให้เป็นชิ้นเล็กๆหากเป็นผลเช่นมะเกลือให้ ทำการตำให้ละเอียดจำพวกใบหากใบใหญ่ไปก็ สามารถฉีกหรือสับได้แต่ถ้าใบไม่ใบสามารถใส่ ลงไปทั้งใบแบบไม่ต้องสับได้เลย 1. นำหม้อต้มต้มน้ำให้เดือดและใส่พืชที่มีลงไปทิ้งไว้ ประมาณ 1-2 ชั่วโมง สังเกตสีน้ำเมื่อได้สีที่พอใจ ให้นำลงมากรองด้วยตะแกรงหรือผ้าขาวตาม สะดวก โครงการยกระดับสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T For BCG and Regional Development)
สร้างสรรค์ ผสมสีเกิดเฉดสีใหม่ ต่อยอดจากสีเดิม ขั้นตอนสุดท้าย การใช้สารช่วยย้อม เคล็ดไม่ลับ การใช้สารช่วยย้อมทำให้สีติดทน กรรมวิธีดั้งเดิมสืบทอดเป็นองค์ความรู้ให้แก่ ลูกหลานบ้านหล่ายแก้ว นั่นคือการใช้สารช่วย ย้อมจากธรรมชาติในช่วยในการยึดและจับสี แล้ว บางครั้งสารช่วยย้อมยังทำให้ได้เฉดสีใหม่ ที่เปลี่ยนไปจากเดิม สารช่วยย้อมที่บ้านหล่าย แก้วนิยมใช้คือ น้ำด่าง ทำจากน้ำขี้เถ้ากรองให้ สะอาดจนกลายเป็นน้ำด่าง กรรมวิธีการกรอง คือการนำน้ำขี้เถ้าเทใส่ถังกรองที่มีดินและทราย หลายชั้นกรองจนได้น้ำด่าง และสารช่วยย้อม อีกชนิดคือน้ำปูนใสหรือน้ำปูนขาวที่ชาวบ้าน เรียกกัน นิยมใช้ในการผสมสีให้เกิดเฉดสีใหม่ และน้ำโคลน หรือน้ำสนิม นอกจากนี้ยังมีสาร ช่วยย้อมชนิดอื่นอาทิเช่น เกลือ สารส้ม ฯลฯ โดยการใช้สารช่วยย้อมมีหลายวิธีการ โดยวิธี หลักที่ชาวบ้านบ้านหล่ายแก้วใช้คือ การใช้สาร ช่วยย้อมหลังการย้อมสี เป็นการนำเส้นด้าย ลงไปย้อมสีก่อนแล้วจึงนำไปชุบหรือย้อมด้วย สารช่วยย้อมในการภายหลัง วิธีการนี้จะช่วย ทำให้เกิดเฉดสีใหม่ขึ้น เมื่อย้อมสีจนติดฝ้ายทั่ว แล้ว นำฝ้ายที่ได้ไปตากให้แห้งสนิท แล้วจึงจะ สามารถนำไปใช้ได้ โครงการยกระดับสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T For BCG and Regional Development)
ลายผ้า สะท้อนอัตลักษณ์และวิถีชีวิต ของชาวบ้านบ้านหล่ายแก้ว อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ลายหนี้ด่อง เรียกเป็นภาษาไทยว่าลายรังผึ้ง ในยุคก่อนมรการออกเสียงลายนี้ว่า \"ด่างขาง\" แต่ในภาษากะเหรี่ยงปัจจุบันเรียกว่า \"หนี้ด่อง\" โดยคำว่า ด่อง หมายถึงรัง ซึ่งสะท้อนออกมา เป็นลวดลายจกที่เป็นชั้นๆ อย่างรังผึ้ง บนชุด กะเหรี่ยง \"ซ้ายมึนนาง\" มาแต่โบราณ ปัจจุบัน ยังคงรักษาลวดลายนี้ให้คงอยู่สืบไป จึงได้นำ กลับมาทอในชุมชนเพื่อให้รู้จักกันเป็นที่แพร่ หลายเพราะเป็นลวดลายผ้าทอเฉพาะของ กะเหรี่ยงในท้องถิ่นดอยเต่า - ฮอด โครงการยกระดับสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T For BCG and Regional Development)
ลายผ้า สะท้อนอัตลักษณ์และวิถีชีวิต ของชาวบ้านบ้านหล่ายแก้ว อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ลายกายกอง เรียกเป็นภาษาไทยว่า คดโค้งไปมา เป็นลายดั้งเดิมที่บรรพบุรุษชาวกะเหรี่ยง สร้างสรรค์ขึ้นโดยคำเรียกขานเป็นไปตาลักษณะ การทอที่มีการสลับสีโค้งไปมาตามความเชื่อที่ว่า ผ้าลายเหลืองกับแดงเป็นลายที่ใส่แล้วชุ่มเย็น แคล้วคลาดปลอดภัย และมีการนำเม็ดเดือยมา ปักตกแต่ง โดยเป็นการรักษาจิตวิญญาณของ บรรพบุรุษและให้การประสาทพรต่อผู้สวมใส่ คุ้มครองกายและจิตด้วยลายเสื้อที่เหมือนเป็น เครื่องหมายป้องกันภัย โดยเสื้อลายกายกองจะ สวมใส่เฉพาะสตรีซึ่งเป็นเสื้อที่จะสวมใส่ใ พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ เช่นงานประเพณีผูกข้อมือ หรืองานแต่งงานตามความเชื่อของคนกะเหรี่ยง ซึ่งมีความเชื่อว่า สีแดง คือ เลือดเนื้อความ ซื่อตรงที่อยู่ในกายใจคนกะเหรี่ยง ส่วนสีเหลือง เปรียบเสมือนสิ่งที่นำพาความชุ่มเย็นสู่กายและ จิตของผู้สวมใส่ โครงการยกระดับสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T For BCG and Regional Development)
ลายผ้า สะท้อนอัตลักษณ์และวิถีชีวิต ของชาวบ้านบ้านหล่ายแก้ว อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ลายขะเมกคลิ้ง เรียกเป็นภาษาไทยว่า ลายดวงตา ลวดลายผ้าดั้งเดิมของชาวกะเหรี่ยงที่สืบทอด จากบรรพบุรุษ ลายขะเมกคลิ้งจะนิยมใช้ถักทอ สวมใส่สำหรับผู้หญิงที่ครองตนว่าจะไม่แต่งงาน จะครองโสดตลอดชีวิตโดยปัจจุบันสามารถ พบเห็นผ้าลวดลายนี้ได้ในหลายหมู่บ้านของชาว กะเหรี่ยงให้พื้นที่ของอำเภอดอยเต่า โครงการยกระดับสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T For BCG and Regional Development)
ลายผ้า สะท้อนอัตลักษณ์และวิถีชีวิต ของชาวบ้านบ้านหล่ายแก้ว อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ช้ายมึนนาง เรียกเป็นภาษาไทยว่า ชุดยาว หญิงสาวชาวกะเหรี่ยงโปว์หรือกะเหรี่ยงโผล่ง จะมีชุดประจำชนเผ่าสำหรับผู้หญิงที่ยังไม่ได้ แต่งงานเรียกว่า ช้ายมึนนาง ซึ่งเป็นชุดยาวสี ขาวที่ตกแต่งด้วยแถบสีแดงหรือประดับด้วย ลูกเดือย โดยมีความเชื่อว่าสีขาว คือ ตัวแทน ของความสะอาดและความบริสุทธิ์ ในปัจจุบัน ชุดนี้ไม่ได้มีสีขาวเพียงสีเดียว และยังมีสีอื่นๆ ที่ยังคงเอกลักษณ์ชุดยาวของชนเผ่ากะเหรี่ยง ได้อย่างสวยงาม โครงการยกระดับสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T For BCG and Regional Development)
ลายผ้า สะท้อนอัตลักษณ์และวิถีชีวิต ของชาวบ้านบ้านหล่ายแก้ว อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ลายกะล่างจ้อย เรียกเป็นภาษาไทยว่า ลายงูเลื้อย ลายนี้ตามคำบอกเล่าตามจินตนาการของ คนรุ่นก่อนที่สืบทอดมายาวนาน ว่าจากการ เห็นงูตัวใหญ่เลื้อยมาเลื้อยไป จึงเป็นที่มา ของลายผ้าชื่อว่า “กะล่างจ้อย” ที่หมายถึง คือ ลวดลายที่โค้งไปมาเหมือนงูเลื้อย โครงการยกระดับสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T For BCG and Regional Development)
ลายผ้า สะท้อนอัตลักษณ์และวิถีชีวิต ของชาวบ้านบ้านหล่ายแก้ว อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ลายถะไค้แถ่ เรียกเป็นภาษาไทยว่า ลายทางแยก เรื่องราวจากคำบอกเล่าของคนสมัยก่อนที่ไปทำ ไร่ในป่า ซึ่งในป่านั้นมีทางเดินเท้าเพียงทางเดียว ต่อมาได้มีการทำเส้นทางใหม่โดยชาวบ้านอีกหนึ่ง หมู่บ้าน เพื่อใช้เป็นเส้นทางเดินทางไปทำไร่ในป่า โดยเส้นทางเก่าและใหม่ได้มาบรรจบกันโดยมิได้ นัดหมาย จึงมีที่มาเหมือนบันทึกไว้ลงลายผ้าถะไค้ แถ่ ที่หมายถึง เส้นทางที่บรรจบมาเจอกันโดยไม่ ได้นัดหมาย โครงการยกระดับสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T For BCG and Regional Development)
ลายผ้า สะท้อนอัตลักษณ์และวิถีชีวิต ของชาวบ้านบ้านหล่ายแก้ว อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ลายหลึ่งเค้คลิ้ง เรียกเป็นภาษาไทยว่า เมล็ดฟักทอง จินตนาการของลายผ้าดั้งเดิมนี้เกิดจากเมล็ด ฟักทอง ซึ่งชาวบ้านนำมาปลูกที่ไร่สวน เมื่อผ่า ผลฟักทองออกมาเพื่อจะนำไปปรุงอาหาร สตรี ชาวกะเหรี่ยงที่ทอผ้า เมื่อได้เห็นผลเมล็ด ฟักทองสวยงาม จึงออกแบบลายผ้าให้เหมือน เมล็ดฟักทองที่สวยงามนั้น โครงการยกระดับสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T For BCG and Regional Development)
ลายผ้า สะท้อนอัตลักษณ์และวิถีชีวิต ของชาวบ้านบ้านหล่ายแก้ว อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ลายทู่พูดอง เรียกเป็นภาษาไทยว่า รังนก ตามความเชื่อในพิธีแต่งงาน เวลาเจ้าบ่าว จะไปมัดมือผูกแขนกับเจ้าสาวจะมีย่าม สะพายลายรังนกไปหาเจ้าสาวเวลาผูกข้อมือ บ่งบอกถึงกระเป๋าออมสินของทั้งสองคนที่ จะต้องรู้จักเก็บหอมรอมริบใส่ย่ามใบนี้ เพื่อสร้างครอบครัวอยู่ด้วยกันต่อไป โครงการยกระดับสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T For BCG and Regional Development)
โครงการยกระดับสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T For BCG and Regional Development) ข้อมูลโดย : ศุนย์การเารียนรู้วัฒนธรรมผ้าทอกะเหรี่ยงบ้านหล่ายแก้ว ตำบลบงตัน อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: