ก คำนำ นวัตกรรมการจัดการเรียนการสอน เรื่อง “การพัฒนาสื่อเว็บไซต์วิชาภาษาอังกฤษ เพื่อช่วยฝกึ ทักษะการ ทำแบบฝึกหัดและข้อสอบแบบ Authentic Examination Papers ผ่านสื่อ Liveworksheets” เป็นนวัตกรรมที่ คิดค้นและพัฒนาขึ้น เพื่อใช้แก้ปัญหาการจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งแนวทางการจัดการเรียนการ สอนแบบเดมิ ยงั ไม่สง่ ผลใหผ้ ู้เรยี นเกดิ การเรียนรเู้ ท่าท่ีควร เนื่องมาจากบริบทของสิง่ แวดล้อมและการเข้าถึงสื่อและ เทคโนโลยีของผเู้ รยี นคอ่ นข้างไมค่ รอบคลุม ดังนน้ั เพอ่ื ให้เกิดการพัฒนาทักษะกระบวนการแนวคิดเชงิ ภาษาท่ีดีขึ้น ครูผสู้ อนจึงใชว้ ธิ ีการประยุกตจ์ ากเทคโนโลยีมาประกอบการสอนโดยสร้างเว็บไซต์ประจำวชิ าข้ึน ตลอดจนนักเรียน สามารถฝึกฝนได้เต็มที่นอกเหนือจากที่เรียนในเวลาเรียน ซึ่งทำให้ผู้เรียนเห็นความก้าวหน้าของตนเอง ส่งผลให้ ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนฝึกฝนทักษะได้ทุกเวลาจาก เทคโนโลยซี ่งึ ทำให้กจิ กรรมนา่ สนใจมากยิ่งขนึ้ ขอขอบคุณ ผู้บริหาร และบุคลากรโรงเรียนบ้านทุ่งสมอ และ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ให้ความร่วมมือ ในการขับเคล่ือนนวตั กรรมจนประสบความสำเร็จ หวังเป็นอย่างยิ่งวา่ นวัตกรรมการจัดการเรยี นการสอนดังกล่าว จะเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียนและหน่วยงาน หรือผู้ที่สนใจ ในการนำไปประยุกต์ใช้เพื่อแก้ปัญหาการจัดการเรียน การสอนในโอกาสต่อไป สพุ ัฒนพงศ์ พันธ์ุสุภะ ผจู้ ดั ทำ
ข สารบญั เรอ่ื ง หน้า คำนำ ก สารบัญ ข 1 1. ชื่อเร่ือง 1 2. ความเปน็ มา/ความสำคัญ 4 3. วตั ถุประสงคแ์ ละเปา้ หมาย 5 4. ขั้นตอนการดำเนินงาน 12 5. ผลการดำเนนิ งาน 14 6. ปจั จัยความสำเร็จ 14 7. บทเรยี นทีไ่ ดร้ ับ (Lesson Learned) 15 8. การเผยแพร่การใช้ผลงานหรือนวัตกรรม ภาคผนวก 16 -แบบประเมนิ ความพึงพอใจของนกั เรียนและผู้ปกครอง 17 -แบบบนั ทกึ ผลการทดสอบของข้อสอบแบบ Authentic Examination Papers 18 -ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู กล่มุ ตัวอย่าง 2 กลุ่ม 27 -ตัวอย่างแบบฝึกหดั และข้อสอบแบบ Authentic Examination Papers 29 -ตัวอย่างผลงานของนักเรียนชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4 45 -ดูผลงานของนักเรียนชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 ท้งั หมด 52
แบบรายงานนวัตกรรม/ผลการปฏบิ ตั ทิ เ่ี ป็นเลศิ (Best Practices) ชือ่ ผลงาน การพฒั นาส่ือเว็บไซตว์ ิชาภาษาองั กฤษ เพื่อช่วยฝกึ ทักษะการทำแบบฝึกหดั และ ขอ้ สอบแบบ Authentic Examination Papers ผ่านสอื่ Liveworksheets ชอื่ ผนู้ ำเสนอผลงาน นายสุพฒั นพงศ์ พันธ์ุสภุ ะ ตำแหน่ง ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียน/หนว่ ยงาน สงั กัด โรงเรยี นบ้านทุ่งสมอ โทรศพั ท์ สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์ เขต 2 065-3238930 E-mail [email protected] 1. ความเป็นมาและความสำคญั 1.1 เหตผุ ล ความจำเป็น ปัญหาหรือความต้องการทีจ่ ดั ทำผลงานนวตั กรรม สภาพปัญหาของผู้เรียนด้านภาษาอังกฤษยังพบปัญหาอย่างมากในการ ฟัง พูด อ่าน เขียน และการคิด วิเคราะห์ เนื่องจากนักเรียนจะต้องมีพื้นฐานทักษะทั้ง 4 มาระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเร่ือง เสียงพยัญชนะ เสียงสระ คำศัพท์ และประโยคที่เกี่ยวขอ้ งกับเรื่องที่เรียน ซึ่งแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบเดิมยังไม่ส่งผลให้ผู้เรยี น เกิดการเรียนรู้เท่าที่ควร เนื่องมาจากบริบทของสิ่งแวดล้อม การเข้าถึงสื่อ/เทคโนโลยีของผู้เรียนค่อนข้างไม่ ครอบคลุม จึงส่งผลให้การจัดการเรียนรู้ต่อผู้เรียนยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ดังนั้น เพื่อให้เกิดการพัฒนาทักษะ กระบวนการแนวคิดเชิงภาษาทดี่ ีขึ้น ครูผู้สอนจึงใช้วิธีการประยกุ ตจ์ ากเทคโนโลยีดว้ ยการนำสื่อเว็บไซต์ประจำวิชา ภาษาอังกฤษ มาช่วยฝึกทักษะการทำแบบฝึกหัดและข้อสอบแบบ Authentic Examination Papers โดยใช้ผ่าน สื่อ Liveworksheets ซึ่งนวัตกรรมที่นำมาปรับประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหา ควรมีลักษณะเร้าความสนใจของ ผเู้ รยี นและท้าทายความสามารถ เขา้ ใจงา่ ย มภี าพ เสียง วดิ โี อประกอบ วางรปู แบบสวยงามและสามารถฝึกได้ด้วย ตนเอง อันจะส่งผลใหน้ ักเรยี นได้พฒั นาทักษะทั้ง 4 ดงั กล่าว และสามารถประยุกต์ความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งการนำนวัตกรรมดังกล่าวมาใช้ มีความสำคัญและมีประโยชน์ต่อการเรียนการสอนวิชาที่เป็นทักษะมาก เพราะ เป็นสื่อการสอนที่ช่วยลดภาระของครู ช่วยให้นักเรียนได้ฝึกทักษะให้ดีขึ้น ส่งเสริมในเรื่องความแตกต่างระหว่าง บุคคล ทำให้นักเรียนประสบผลสำเร็จในทางจิตใจมากขึ้น ช่วยเสริมทักษะแนวคิดเชิงภาษาให้คงทน รวมทั้งเป็น เครื่องมือวัดผลการเรียนหลังจากเรียนบทเรียนแล้ว ตลอดจนนักเรียนสามารถทบทวนได้ด้วยตนเอง ทำให้ครู มองเห็นปัญหาต่างๆ ของนักเรียนไดช้ ดั เจนขึน้ นกั เรียนสามารถฝกึ ฝนไดเ้ ต็มทีน่ อกเหนอื จากทเ่ี รียนในเวลาเรียนซึ่ง ทำให้ผู้เรียนเห็นความก้าวหน้าของตนเอง เพื่อให้กิจกรรมมีความหลากหลาย ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนฝึกฝนทักษะได้ทุกเวลาจากเทคโนโลยีซึ่งทำให้ กจิ กรรมน่าสนใจมากยิง่ ข้นึ
2 1.2 แนวคิดหลกั การสำคญั ท่ีเก่ียวข้องกับผลงานหรือนวตั กรรม 1.2.1 เว็บไซตบ์ รกิ าร google site Google site เป็นแอปพลิเคชั่นออนไลน์ที่ทำให้การสร้างเว็บไซต์ของทีมกลายเป็นเรื่องง่าย เหมือนการแก้ไขเอกสาร ผู้คนสามารถรวบรวมข้อมูลทีห่ ลากหลายไว้ในท่ีเดียวได้อย่างรวดเร็วได้แก่วีดีโอ ปฏิทิน งานนำเสนอ ไฟล์แนบ และข้อความและสามารถใช้งานร่วมกับกลุ่มเล็กๆ ทั้งองค์กรหรือทั้งโลก เพอื่ ดหู รอื แก้ไขได้อยา่ งง่ายดายไปที่แผงควบคุมของคุณลักษณะที่สำคญั ของผลิตภณั ฑ์ได้แก่ 1. กำหนดส่วนตดิ ตอ่ ของเว็บไซต์ด้วยตนเอง เพอื่ ทำใหร้ ูปลักษณ์ของกลุ่มหรือโครงการมี ความคลา้ ยคลงึ กนั 2. สร้างหน้ายอ่ ยใหมด่ ้วยการพมิ พ์ 3. เลอื กประเภทหนา้ เว็บจากรายการท่เี พม่ิ ขน้ึ เรื่อยๆ ได้แก่ หน้าเวบ็ ประกาศ ตู้เอกสาร กระดานขอ้ มลู และรายชอื่ 4. รวมศนู ย์ข้อมูลที่ใชง้ านรว่ มกัน ฝังเนอ้ื หาที่มีข้อมูลมาก ลงในหนา้ เวบ็ ใดๆและอัปโหลด ไฟลแ์ นบต่างๆ 5. จัดการต้งั ค่าการอนุญาต เพอื่ ใหเ้ ว็บไซตข์ องคุณเป็นส่วนตัวหรือสามารถแก้ไขและดไู ด้ อยา่ งกว้างขวางตามท่ีคุณตอ้ งการ 6. ค้นหาในเนื้อหาของ Google Site ด้วยเทคโนโลยีการค้นหาของ Google การใช้ Google Sites เพื่อการเรียน การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการโดยใช้กูเกิ้ลไซต์(Google site) ช่วยในการเรียนการ สอนของครูทำให้เชื่อมโยงเนื้อหาสาระของศาสตร์ต่างๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้นโดยสามารถเชื่อมโยงเนื้อหา แหล่ง ความรู้ต่างๆ ไมว่ ่าจะเป็นรูปแบบไฟลเ์ อกสาร วีดีโอ หรอื ไฟล์เสยี งเข้าสรู่ ะบบอินเทอร์เน็ต (Internet) และ ผู้เรียนสามารถเข้าถงึ แหลง่ ข้อมูลได้ง่ายย่ิงขึน้ จะชว่ ยให้กระบวนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามความ สนใจ ความสามารถ ทเ่ี ก่ยี วข้องสัมพันธ์กันให้ 3 ผู้เรยี นเปลีย่ นแปลงพฤติกรรม สามารถนำความรู้ ทักษะ และเจตคติไปสร้างงาน แก้ปัญหาและใช้ในชีวิตประจำวันได้ง่ายยิ่งขึ้น Google site สามารถใช้เป็น ชอ่ งทางในจดั การเรียนการสอนของครโู ดยเฉพาะครูผสู้ อนที่ไม่เชี่ยวชาญในดา้ นเทคโนโลยีการสื่อสาร โดย เว็บไซต์ท่ีสรา้ งดว้ ย Google site เป็นเวบ็ ไซต์อย่างง่าย ไมส่ ลบั ซบั ซอ้ น ครูผสู้ อนสามารถเรียนรู้ใช้งาน ได้ ไมย่ าก อกี ทงั้ ครูยังสามารถตรวจผลงานของนักเรยี นได้อย่างรวดเร็ว ทันใจ การนำเสนอเน้ือหาในรายวิชา ต่างๆ เป็นไปได้งา่ ย ซึ่งเทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์และอินเทอร์เนต็ ได้พัฒนาไปอยา่ งรวดเร็ว จากกระแสที่มา แรงทำใหห้ ลายประเทศทว่ั โลกตา่ งเข้าสู่การเปล่ยี นแปลงที่มีการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาร่วมพัฒนา กจิ กรรมต่างๆ ของประเทศ ณ วันนเ้ี ครอื ข่ายอนิ เทอรเ์ นต็ โดยเฉพาะบริการ WWW (World Wide Web) ได้ก้าวมาเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเรียนการสอนการฝึกอบรม รวมถึงการ ถ่ายทอดวิชาความรู้ นับเป็นการเพิ่มช่องทางในการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้สอนและผู้เรียนมากยิ่งข้ึน โปรแกรม Google Site เป็นหนึ่งใน Google Apps for Education ที่ถูกพัฒนาข้ึนมาเพื่อสนับสนับสนนุ การเรียนการสอน โดยอาศัยคุณสมบัติและทรัพยากรของเวิลด์ไวด์เว็บมาเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดใน
3 ลักษณะของบทเรียนออนไลน์ สามารถเชื่อมโยงเนื้อหา และแหล่งความรู้ต่างๆ ให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึง แหล่งข้อมูลได้ง่ายยิ่งขึ้น มีบริการรูปแบบต่างๆ มากมายที่สามารถเอื้อประโยชน์ในการนำมาใช้ในการ จัดการเรยี นการสอน 1.2.2 วงจรคุณภาพ PDCA วงจรคณุ ภาพ PDCA วงจรบริหารสขี่ น้ั ตอนทปี่ ระกอบไปด้วย Plan (การวางแผน) Do(ปฏบิ ตั )ิ Check (ตรวจสอบ) และ Action (การดำเนินการ) วงจรการบรหิ ารงานคณุ ภาพใชใ้ นการควบคมุ และพัฒนากระบวนการ PDCA ท้ังสีข่ ้ันตอนเปน็ กระบวนการทสี่ ามารถทำซ้ำได้ เพื่อใหส้ ถานศึกษาสามารถบริหารความเปลย่ี นแปลงได้ อย่างประสบความสำเรจ็ วงจรการควบคุมคุณภาพมรี ายละเอียด ดังน้ี Plan (วางแผน) หมายถงึ การวางแผนการดำเนนิ งานอยา่ งรอบคอบ ครอบคลมุ ถึงการกำหนดหัวข้อท่ี ตอ้ งการปรบั ปรุงเปลีย่ นแปลง ซงึ่ รวมถงึ การพัฒนาสงิ่ ใหม่ๆ การแก้ปญั หาท่เี กิดขึ้นจากการปฏิบัติงาน อาจ ประกอบด้วย การกำหนดเปา้ หมาย หรือวัตถปุ ระสงคข์ องการดำเนินงาน Plan การจัดอันดับความสำคญั ของ เปา้ หมาย กำหนดการดำเนินงาน กำหนดระยะเวลาการดำเนินงาน กำหนดผรู้ บั ผิดชอบหรอื ผดู้ ำเนินการและ กำหนดงบประมาณทจี่ ะใช้ การเขยี นแผนดงั กล่าวอาจปรบั เปลีย่ นไดต้ ามความเหมาะสมของลักษณะ การ ดำเนินงาน การวางแผนยงั ช่วยให้เราสามารถคาดการณ์สงิ่ ท่เี กดิ ข้นึ ในอนาคต และช่วยลดความสญู เสียตา่ งๆ ที่ อาจเกิดข้ึนได้ Do (ปฏิบตั ติ ามแผน) หมายถึง การดำเนินการตามแผน อาจประกอบด้วยการมโี ครงสรา้ งรองรับการ ดำเนินการ มีวิธกี ารดำเนินการและมผี ลของการดำเนินการ Check (ตรวจสอบการปฏบิ ัตติ ามแผน) หมายถงึ การประเมินแผน อาจประกอบด้วยการประเมิน โครงสร้างท่รี องรับ การดำเนินการ การประเมินข้นั ตอนการดำเนินงาน และการประเมนิ ผลของ การดำเนินงาน ตามแผนที่ได้ต้งั ไว้ โดยในการประเมนิ ดงั กลา่ วสามารถทำไดเ้ อง โดยคณะกรรมการท่ีรับผดิ ชอบแผนการดำเนนิ งาน น้นั ๆ ซึง่ เป็นลักษณะของการประเมนิ ตนเอง โดยไมจ่ ำเป็นตอ้ งตงั้ คณะกรรมการ อีกชุดมาประเมนิ แผน หรือไม่ จำเป็นตอ้ งคดิ เครื่องมือหรอื แบบประเมินทย่ี ุ่งยากซบั ซ้อน Act (ปรับปรุงแก้ไข) หมายถึง การนำผลการประเมนิ มาพัฒนาแผน อาจประกอบด้วยการนำผลการ ประเมินมาวิเคราะห์วา่ มโี ครงสร้าง หรือขัน้ ตอนการปฏบิ ัติงานใดทค่ี วร ปรบั ปรุงหรือพัฒนาสิ่งทีด่ ีอยู่แลว้ ใหด้ ี ยงิ่ ขนึ้ ไปอกี และสงั เคราะห์รูปแบบการดำเนินการใหม่ทเ่ี หมาะสม สำหรับการดำเนนิ การในปีต่อไป การจดั การ เรยี นการสอนต้องเป็นไปอยา่ งตอ่ เนื่องเพ่ือเปน็ การกระตุ้นการเรยี นรขู้ องผ้เู รยี นท้งั ในห้องเรยี นและนอกห้องเรยี น ครูผูส้ อนจึงใชว้ ธิ กี ารจดั การเรียนการสอนผ่านสอ่ื เวบ็ ไซต์ประจำวชิ า ท่สี ามารถบรู ณาการการใช้เทคโนโลยมี า สนบั สนนุ การจดั การเรียนการสอน ซ่งึ แนวคิดนีจ้ งึ เกิดเปน็ นวัตกรรมนข้ี ้ึนมา และใช้วงจรตรวจสอบคุณภาพ PDCA มาพัฒนาคุณภาพของงานให้มปี ระสทิ ธิภาพและเกิดประสิทธิผล ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนเกดิ การพฒั นาการเรยี นใหม้ ี ประสทิ ธภิ าพมากขนึ้ อีกท้ังเหมาะสมกบั การจัดการเรยี นการสอนในศตวรรษที่ 21
4 กรอบแนวคดิ การวิจัย ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม การใช้สื่อเว็บไซต์วิชาภาษาองั กฤษเพื่อช่วยฝึก - ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นของนกั เรียน ทักษะการทำแบบฝึกหดั และข้อสอบแบบ ในรายวิชาภาษาองั กฤษ สำหรับ Authentic Examination Papers ผ่านสื่อ นักเรียนช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 Liveworksheets - ความพงึ พอใจในการจดั การเรยี นการ สอนผ่านสื่อเวบ็ ไซต์วิชาภาษาองั กฤษ ตารางที่ 1 กรอบแนวคิดการวิจัย 2. วัตถปุ ระสงคแ์ ละเปา้ หมายของการดำเนนิ งาน 2.1 จุดประสงค์ 2.1.1 เพือ่ พฒั นาทักษะ การทำแบบฝึกหดั และข้อสอบแบบ Authentic Examination Papers ผา่ นส่อื Liveworksheets รายวชิ าภาษาองั กฤษ สำหรับนักเรยี นชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4 2.1.2 เพ่อื ศึกษาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรยี นในรายวิชาภาษาองั กฤษสำหรับนกั เรียนชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 2.1.3 เพอ่ื ประเมินความพงึ พอใจในการจดั การเรยี นการสอนผา่ นสือ่ เว็บไซต์ วิชาภาษาอังกฤษ 2.2 เปา้ หมาย 2.2.1 การพัฒนาทักษะ การทำแบบฝกึ หดั และข้อสอบแบบ Authentic Examination Papers ผา่ นส่อื Liveworksheets รายวชิ าภาษาองั กฤษ สำหรับนักเรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 ให้มีประสทิ ธิภาพ ท้ังในหอ้ งเรียนและนอกห้องเรยี น 2.2.2 นักเรยี นกลมุ่ ตัวอยา่ งในระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 23 คน โรงเรยี นบ้านทุ่งสมอ สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาเพชรบรู ณ์ เขต 2 ปีการศึกษา 2565 มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น รายวิชาภาษาองั กฤษสงู ขึ้น ร้อยละ 70 2.2.3 นกั เรยี นและผู้ปกครองมีความพึงพอใจในการจดั การเรียนการสอนผ่านสอื่ ออนไลน์เวบ็ ไซต์ ประจำวิชาภาษาองั กฤษ ดว้ ย Google Site รอ้ ยละ 80
5 3. ข้นั ตอนการดำเนนิ งาน โรงเรียนบา้ นทุ่งสมอ เปน็ โรงเรียนขยายโอกาสทางการศกึ ษา ขนาดกลาง นักเรียนมีระดบั ผลการเรียน คอ่ นข้างตำ่ และปานกลาง บรบิ ทสภาพครอบครัวยากจน ขาดแคลน นักเรียนสว่ นใหญ่สามารถอ่านออกเขยี นได้ ตามวัยและพัฒนาการ นกั เรียนบางสว่ นท่ีมีปญั หาในการด้านการเรยี นหรือมีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ทาง โรงเรยี นจะใหก้ ารชว่ ยเหลอื เพ่อื ให้มีพัฒนาการตามวัยอยา่ งใกล้ชิดตามหลักการของระบบดูแลช่วยเหลือนกั เรยี น นอกจากน้ี นักเรยี นยงั ได้เรยี นร้ผู า่ นสือ่ เว็บไซต์วชิ าภาษาอังกฤษ ซ่งึ ได้ท้ังความรูแ้ ละไดท้ บทวนความรู้ นักเรียนทุก คนต้องได้เรยี นรู้อยา่ งท่ัวถึงและสามารถเขา้ เรยี นได้ตลอดเวลาอีกด้วย โดยมีกระบวนการผลิตนวตั กรรมดังน้ี 3.1 กลุ่มตวั อยา่ ง นักเรยี นกลมุ่ ตวั อย่าง คือ นกั เรียนชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรียนบา้ นทุ่งสมอ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จำนวนนักเรียน 23 คน 3.2 เครื่องมอื ท่ีใช้ในการสรา้ งผลงานนวัตกรรม เคร่อื งมือท่ีใชใ้ นการสรา้ งผลงานนวตั กรรมครัง้ น้ปี ระกอบด้วย 1. สือ่ เวบ็ ไซตว์ ิชาภาษาอังกฤษท่ีครสู ร้างข้นึ 2. แบบฝึกหดั และขอ้ สอบแบบ Authentic Examination Papers 3. ใบความรู้/ใบงาน การจัดการเรยี นการสอนในแต่ละชวั่ โมง 4. แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรยี นและผปู้ กครองในการใช้นวตั กรรม 3.3 ขน้ั ตอนและกระบวนการสร้างผลงานนวัตกรรม แนวคิดและกระบวนการออกแบบนวตั กรรมการศึกษา PDCA คือ ภาพท่ี 1 กระบวนการออกแบบนวตั กรรมการศกึ ษา PDCA
6 3.3.1 ขนั้ วางแผนปฏิบัติงาน (Plan : P) เป็นข้นั ตอนการจดั ทำแผนในการดำเนินการสร้าง การจัดการเรียนการสอนผา่ นส่ือเวบ็ ไซตว์ ิชาภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ดังนี้ 1. ศกึ ษาหลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นทงุ่ สมอ รายวิชาภาษาองั กฤษ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ในด้านสาระการเรียนร้มู าตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วดั สาระการเรยี นรู้แกนกลางคำอธิบายรายวชิ า โครงสร้าง รายวชิ าและหนว่ ยการเรียนรู้ 2. ศกึ ษาแนวคิด ทฤษฎแี ละวิธกี ารเขยี นเวบ็ ของ Google Site อยา่ งละเอยี ดเพ่ือสร้างส่ือ ออนไลน์ เว็บไซต์ ประจำวิชา ดว้ ย Google Site 3. เลอื กเนอ้ื หา แบบฝกึ หัด และข้อสอบแบบ Authentic Examination Papers 7 เรอ่ื ง 4. วิเคราะหห์ ลกั สตู รภาษาอังกฤษตามกรอบ CEFR ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 4 5. สรา้ งเว็บไซตก์ ารจัดการเรียนการสอนผ่านส่ือออนไลน์เว็บไซต์ ประจำวิชาด้วย Google Site 6. นำการจัดการเรยี นการสอนผา่ นสอ่ื เวบ็ ไซต์วิชาภาษาอังกฤษ สำหรับนกั เรียนชนั้ ประถมศึกษา ปที ี่ 4 ไปขอคำแนะนำจากผูบ้ ริหารและคณะครูโรงเรียนบ้านทุ่งสมอในดา้ นความเหมาะสมของ องค์ประกอบของเว็บไซต์ เพื่อมาปรบั ปรุงแก้ไขให้สมบูรณ์ยิ่งข้ึน 3.3.2 ขน้ั ตอนการทำตามแผน (DO : D) จัดการเรียนการสอนโดยใชส้ อ่ื เว็บไซต์วชิ า ภาษาองั กฤษ รายวิชาภาษาอังกฤษช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 ดงั นี้ 3.3.2.1 การสรา้ งเว็บไซต์วชิ าภาษาองั กฤษ ด้วย Google Site ข้ันตอนการสรา้ งมีดงั น้ี 1. หลังจากที่เราสมคั ร Gmail แลว้ เราก็เขา้ ไปท่ีเว็บ www.googlesite.com เพอื่ สมคั รเขา้ ใชง้ าน Google site 2. ให้ login ดว้ ย account บญั ชขี อง gmail ท่ีสมัครไว้ 3. เมอ่ื log in เขา้ มาแล้วจะพบกับหนา้ ต่างดังรูป ภาพท่ี 2 หน้าตา่ ง log in
7 4. ทำการตั้งช่ือไซต์ และเรมิ่ สรา้ งไซตใ์ หม่ ภาพท่ี 3 หนา้ ต่างออกแบบเว็บไซต์ใหม่ 3.3.2.2 การเขา้ ใช้งานออนไลน์ กอ่ นการจดั การเรียนการสอนออนไลน์ ผสู้ อนควรบอกวิธีการใชง้ านเวบ็ ไซต์อย่างละเอยี ดเพ่อื ให้ นักเรียนไดใ้ ชง้ านเว็บไซต์ไดอ้ ย่างถกู ต้องและเปน็ การอำนวยความสะดวกให้แกน่ ักเรยี นก่อนได้รับการใชง้ าน ซงึ่ ล้ิง ในการเข้าใช้งานของเว็บไซต์วชิ าภาษาองั กฤษ ท่ีจะส่งใหน้ ักเรียน คือ https://sites.google.com/view/kru-nong-65/home ครูผูส้ อนควรจัดลำดับข้นั ตอนและให้รายละเอียดท่ีชดั เจนดังนี้ 1. การเข้าสู่เวบ็ ไซต์วชิ าภาษาอังกฤษ โดยพิมพว์ ่า https://sites.google.com/view/kru-nong-65/home ภาพท่ี 4 หน้าแรกของเว็บไซต์
8 2. เข้าสบู่ ทเรียนโดยกดทร่ี ปู ตามระดบั ชั้น ภาพที่ 5 บทเรียนแตล่ ะระดับ
9 3. เขา้ สบู่ ทเรยี น ภาพที่ 6 บทเรียนช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4
10 3.3.2.3 การอภปิ รายหลงั การจดั การเรยี นการสอนออนไลน์ การสรา้ งเวบ็ ไซตบ์ ทเรยี นคอมพิวเตอร์ผา่ นเว็บด้วย Google Site รายวิชาภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 อภิปรายได้ดังนี้ ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพบว่า ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นในรายวิชาภาษาองั กฤษสงู กว่าก่อนได้รับการจดั การเรยี นรู้ ซึง่ การไดใ้ ชน้ วัตกรรม Google Apps for Education มาเป็นตัวช่วยใช้ในการเรียนการสอนคะแนนเฉลี่ยจากการสอนหลังเรียนสูงกว่า คะแนนเฉลี่ยจากการสอนก่อนเรียน คือจัดการเรียนรู้โดยใช้เว็บไซต์ ประจำวิชาด้วย Google Site รายวิชา ภาษาอังกฤษทำให้คะแนนเฉลี่ยจากการสอนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยจากการสอนก่อนเรียน ซึ่งจะเห็นได้ว่า เมื่อนำบทเรียนที่ผ่านสื่อออนไลน์เว็บไซต์มาใช้จะทำให้มีผลการเรียนท่ีเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และผลการ ประเมินความพึงพอใจ พบว่า ความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้เว็บไซต์ ประจำวิชา ด้วย Google Site รายวิชาภาษาอังกฤษในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า การจัดการเรียนรู้ โดยใช้เว็บไซต์ ประจำวิชา เว็บไซต์มีความน่าสนใจและน่าเรียนรู้ อยู่ในระดับมากที่สุด (������̅= 4.60) รองลงมา คือ สื่อเสริมสร้างความเข้าใจในบทเรียนอยู่ในระดับมาก (������̅= 4.40) และมีความสนุกสนานระหว่างในการชมเว็บไซต์ อยู่ในระดับมาก (������̅= 4.30) เนอื่ งจากบทเรียนคอมพวิ เตอร์ผ่านเวบ็ ด้วย Google Site ทำให้นักเรียนเรียนรู้เนื้อหา ได้อย่างมีความสขุ สนกุ สนาน น่าสนใจศกึ ษาเรยี นรู้ ซึง่ ความสอดคล้องกับนวัตกรรมของ ปริญญา อินทรา. (2556) ได้การสร้างและหาประสิทธิภาพบทเรียนคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน เรือ่ ง วงจรอเิ ลก็ ทรอนิกส์เบื้องต้น สำหรับนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่มีรูปแบบน่าสนใจ มีความชัดเจน มีรูปแบบ ดงึ ดดู ใจผู้เรียนจะสามารถดงึ ดูดผู้เรียนให้เกิดความสนใจทจี่ ะศึกษาและทำความเข้าใจในเนื้อหาได้ดยี ง่ิ ขน้ึ ส่งผลทำ ให้ผู้เรียนเกิดความพึงพอใจในบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนอยู่ในระดับมาก ซึ่งจะเห็นได้ว่าเมื่อมีการนำสื่อที่มี รูปแบบที่สามารถดึงดูดความสนใจผู้เรียนมาใช้ประกอบการจัดการเรียนการสอนจะทำให้ผู้เรียนมีความสุข และ สนุกกบั การเรยี นรู้อย่างไม่เบ่อื หนา่ ย ซ่ึงกเ็ พือ่ ใหผ้ ู้เรยี นเกิดการเรียนร้ตู ามวัตถุประสงค์ 3.3.3 ข้ันตรวจสอบและประเมินผล (Check : C) 3.3.1 ประเมนิ ผลนักเรียน 3.3.2 ประเมินความพงึ พอใจ 3.3.3 เกบ็ ข้อมูล วเิ คราะห์ขอ้ มลู แปลความหมาย 3.3.4 จัดทำรายงายผลการจัดการเรียนรู้ 3.3.4 ขน้ั นำผลการประเมนิ มาปรบั ปรุง (Action : A ) การนำผลการประเมนิ มาพัฒนาแผน อาจประกอบด้วยการนำผลการ ประเมินมา วเิ คราะหว์ า่ มโี ครงสร้าง หรอื ขัน้ ตอนการปฏิบัติงานใดที่ควรปรับปรุงหรือพฒั นาส่งิ ที่ดีอยู่แลว้ ให้ดีย่ิงขึ้นไปอีก และ สังเคราะห์รูปแบบ การดำเนนิ การใหม่ทีเ่ หมาะสม สำหรับการดำเนินการ
11 3.4.1 ปรบั ปรุงเว็บไซต์วิชาภาษาอังกฤษโดยเพิ่มเติมเอกสารให้ความรู้เกี่ยวกบั ทกั ษะกระบวนการ ขน้ั พื้นฐาน ให้สอดคลอ้ งกับบทเรียน และแยกข้อแนะนำ ไปใช้ในการเรียนการสอน จดั ทำเปน็ คู่มอื การใช้ 3.4.2 ปรับปรงุ เว็บไซต์วิชาภาษาองั กฤษ รายวชิ าภาษาอังกฤษให้สอดคลอ้ งกับ มาตรฐานตัวช้ีวัด และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) 3.4.3 นำข้อเสนอแนะไปใชแ้ ละศึกษาค้นควา้ เพิ่มเตมิ เพอ่ื พฒั นาสร้างการจดั การเรยี นการสอน ให้มฟี งั ชน่ั การใชง้ านเพม่ิ ขึน้ ตามบรบิ ทของโรงเรยี น 3.4.4 ปรบั ปรุงพฒั นาแผนการจัดการเรยี นร้โู ดยนำข้อเสนอแนะและข้อควรปรับปรงุ พฒั นาให้ สอดคลอ้ งกับเว็บไซตว์ ชิ าภาษาองั กฤษ 3.4.5 ขยายเครอื ข่ายการใช้เวบ็ ไซต์วิชาภาษาองั กฤษ ในระดับชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5-6 ต่อไป โมเดลเสนอผลงานนวัตกรรม เร่อื ง การพัฒนาสื่อเว็บไซต์วิชาภาษาอังกฤษ เพ่อื ชว่ ยฝกึ ทกั ษะการทำแบบฝกึ หดั และขอ้ สอบแบบ Authentic Examination Papers ผ่านสื่อ Liveworksheets
12 4. ผลการดำเนนิ งานและประโยชนท์ ี่ได้รับจากผลงานหรือนวัตกรรม 4.1 สำหรับครู 4.1.1 เป็นสื่อเว็บไซต์วิชาภาษาอังกฤษ ในการจัดการเรียนรู้ที่ต้องการพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะ ความรู้ ความสามารถในการใช้งานเทคโนโลยี ซึ่งครูสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชั้นเรียนของตนได้หรือ พัฒนาเป็นนวัตกรรมการเรยี นรู้ 4.1.2 เป็นสื่อทีใช้ในการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับทฤษฎี ได้พัฒนาบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ การใช้นวัตกรรม Google Apps for Education มาเป็นตัวช่วยใช้ในการเรียนการสอน คือ บทเรียน อิเล็กทรอนิกส์ มีผลทำให้คะแนนเฉลี่ยจากการสอนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยจากการสอนก่อนเรียน ซึ่งจะเห็นได้วา่ เมือ่ นำบทเรียนที่ผ่านส่ือเว็บไซต์วิชาภาษาอังกฤษมาใช้ จะทำให้มีผลการเรียนที่เพิ่มสูงข้ึน อย่างเหน็ ไดช้ ัด ซง่ึ เป็นนวัตกรรมส่ือการเรียนรู้รปู แบบใหมท่ ี่ออกแบบและสอดแทรกเน้ือหาบทเรียนลงไป ให้ผเู้ รยี นมสี ่วนร่วมในการเรยี นรฝู้ กึ ปฏบิ ัตใิ นการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง จนผเู้ รียนเกดิ การเรียนรไู้ ดใ้ นทีส่ ุด 4.1.3 เป็นสื่อที่ใช้ในการจัดกิจกรรมที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และจุดหมายของหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ที่เนน้ สมรรถนะผู้เรยี น มาตรฐาน และตวั ชี้วัด ท่ีนำไปสู่ การปฏบิ ตั ิโดยเฉพาะสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนท่ีมุง่ ให้เกดิ ความสามารถในการส่ือสารและความสามารถ ในการคดิ 4.1.4 เป็นหลักฐานหรือร่องรอยในการพัฒนาผู้เรียนให้มีกระบวนการคิดซึ่งนวัตกรรมนี้สามารถ นำมาใช้เพื่อให้นักเรียนใช้เวลาว่างในการศึกษาได้ตลอดเวลาซึ่งได้ทั้งความรู้และและการได้ใช้เทคโนโลยี อีกทง้ั สำหรบั เตรียมความพร้อมในการประเมนิ ภายนอกของ สมศ. ดา้ นผู้เรียนมาตรฐานที่ 4 ผู้เรียนควรมี ความสามารถในการคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์คิดอย่างมีวิจารณญาณ คิดไตร่ตรอง คิดสร้างสรรค์อย่างมี วิสัยทศั น์ 4.1.5 เป็นสื่อที่มีการนำกลวิธีการสอนรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยีการจัดการ เรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยี เป็นการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรูว้ ่าขณะนี้มีเทคโนโลยี มีความกว้าหน้า ก้าวไกลไปในลักษณะรูปแบบใดบ้างท้ังทางด้านวสั ดุ อุปกรณ์ และวิธีใหม่ๆ ให้ผู้เรยี นมีความรู้ความเข้าใจ และทักษะในการใชเ้ ทคโนโลยี มาเป็นเครือ่ งมือในการเรยี นรูข้ องตนเองและงานมาใช้ควบคู่กับการจัดการ เรียนรู้ เช่น การศึกษาค้นควา้ ด้วยตนเอง การสังเกตและอธบิ าย (Predict - Observe - Explain) กลวิธีรู้ แล้ว อยากรู้และต้องการเรียนรู้ (Knowledge - Want to know – Learning : KWL) เป็นต้น ซึ่งกลวิธี เหลา่ น้ีจะช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรอู้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพและ ประสิทธผิ ลในด้านการสรา้ งองค์ความรู้ ทักษะกระบวนการคิด กระบวนการ เรยี นรู้ และทักษะทางสงั คมมากขึน้ 4.1.6 เป็นสื่อที่ใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ให้ผู้เรียนจากกิจกรรมง่ายๆ และเหมาะสมกับ เนื้อหาตรงตามมาตรฐานและตัวช้วี ดั ของหลักสตู รภาษาองั กฤษ 4.1.7 เป็นการกระตุ้นครูผู้สอนให้สนใจใฝ่รู้สืบเสาะหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อพัฒนาตนเองอย่าง ตอ่ เนอื่ งและนำสิง่ ใหม่ๆ มาใช้เพ่อื พฒั นาการเรยี นการสอนให้มีประสิทธิภาพและประสทิ ธิผล
13 4.2 สำหรับนกั เรียน 4.2.1 เป็นส่ือท่ีนักเรียนสามารถเรยี นรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติด้วยตนเองหรือเปน็ กลุ่มได้ตลอดเวลา เพอื่ สรา้ งทักษะชวี ติ และทักษะทางสังคม 4.2.2 เป็นสื่อที่สามารถใช้กระบวนการคิดได้อย่างหลากหลายโดยเฉพาะการคิดวิเคราะห์และ การคดิ สร้างสรรค์ ซึ่งเปน็ การคดิ ขัน้ สูงสุด 4.2.3 นกั เรียนรู้จักใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชนส์ ำหรับฝึกทกั ษะการอ่านและการคดิ 4.2.4 การจัดการเรียนการสอนผ่านสื่อออนไลน์ด้วยเว็บไซต์ ประจำวิชา สำหรับนักเรียนช้ัน ประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาภาษาอังกฤษก่อนเรียนและหลังเรียนได้รับ ผลการเรียนรสู้ ูงกวา่ ก่อนได้รบั การจดั การเรยี นรู้ 4.2.5 ผลการประเมินความพึงพอใจ พบว่า ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอน ผ่านสื่อเว็บไซต์วิชาภาษาอังกฤษ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ความพึงพอใจของผู้เรียนท่ีมีต่อการจัดการ เรียนการสอนผา่ นส่อื ออนไลน์ดว้ ยเว็บไซต์ ประจำวชิ า ปรากฏผลดังตารางท่ี 2 ขอ้ รายการประเมิน ������ S.D. แปลผล 4.80 .50 มากทส่ี ดุ 1. เวบ็ ไซต์มีความนา่ สนใจและน่าเรยี นรู้ 4.33 .42 มาก 2. ความร้คู วามเข้าใจบทเรยี นหลงั การใชส้ ่ือ 4.25 .57 มาก 3. ความสะดวกในการใช้สอ่ื ออนไลน์ 4.38 .48 มาก 4. สื่อเสริมสร้างความเข้าใจในบทเรียน 4.33 .51 มาก 5. สื่อกระตุน้ การศึกษาคน้ ควา้ เพิ่มเติม 4.32 .52 มาก 6. อธบิ ายเนอ้ื หาเขา้ ใจงา่ ย 4.17 .45 มาก 7. เว็บไซตน์ ้สี ามารถชว่ ยใหน้ ักเรยี นจดจำได้ง่ายและนานมากขึ้น 4.20 .54 มาก 8. เป็นชอ่ งทางในการติดตอ่ ส่ือสารระหว่างครแู ละผูเ้ รยี น 4.33 .53 มาก 9. นกั เรียนส่งงานไดอ้ ยา่ งสะดวกรวดเร็ว 4.10 .39 มาก 10. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจบทเรียนกอ่ นการใช้สื่อ 4.28 .48 มาก รวม ตารางที่ 2 แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนและผู้ปกครอง ในการใช้นวตั กรรม การจัดการเรยี นการสอนด้วยเวบ็ ไซต์วิชาภาษาอังกฤษ 4.3 สำหรบั ผปู้ กครอง 4.3.1 เป็นสอื่ ทล่ี ดภาระของผู้ปกครองและเป็นสือ่ ท่ีสามารถศึกษาได้ตลอดเวลา 4.3.2 เปน็ สื่อทชี ว่ ยกระตนุ้ ให้เกดิ การเรยี นร้เู พิม่ เติมได้องค์ความรูท้ างวชิ า เกิดความ สนใจใฝ่รู้ รจู้ ักสบื เสาะหาความรู้ อยากรู้อยากเหน็ ไปพร้อม ๆ กับบตุ รหลาน
14 5. ปัจจยั ความสำเร็จในการดำเนนิ งานผลงานหรือนวตั กรรม 5.1 บคุ ลากรทมี่ สี ่วนในการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนประสบผลสำเร็จ คอื ผบู้ รหิ าร โรงเรยี นบา้ นท่งุ - สมอ ทีม่ ีการสนับสนนุ และสง่ เสริมใหจ้ ดั กิจกรรมการเรียนรู้ท่ีหลากหลายตามศักยภาพของผู้เรยี นสง่ เสริมสนบั สนนุ ให้ ครู ผจู้ ัดทำส่อื / นวตั กรรมเพ่ือพฒั นาการจัดการเรยี นรู้ 5.2 ใช้หลักการจดั กจิ กรรมแบบมสี ่วนร่วมโดยอาศัยความร่วมมือของผบู้ ริหาร ครู นกั เรียน โรงเรยี นบ้านทุ่งสมอ ผปู้ กครอง และ ชมุ ชน หรือหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง รว่ มกนั วางแผนเตรียมความพรอ้ ม 5.3 ผบู้ ริหารโรงเรียนบ้านทุ่งสมอ ให้การนิเทศ ตดิ ตาม และเย่ยี มชนั้ เรยี นอยา่ งกลั ยาณมิตร สง่ เสรมิ สนับสนนุ การจัด กิจกรรม อย่างตอ่ เน่ือง ลงพน้ื ท่เี ยีย่ มบา้ นนกั เรยี นทว่ั ถงึ ทุกคน 5.4 การดำเนนิ การพฒั นานวัตกรรมใหส้ ำเร็จลุลว่ งเกิดสมั ฤทธ์ิผลอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพและเกดิ ประสทิ ธิผล นนั้ จะตอ้ งอาศยั ความร่วมมือท่ีดีจากทุกภาคส่วนท่ีเกย่ี วข้อง ตอ้ งเข้ามามสี ว่ นร่วมในการจดั การศกึ ษา อีกทงั้ ผบู้ ริหาร ครูผ้สู อนและผูป้ กครองมีสว่ นสำคัญทจ่ี ะต้องค่อยๆ ปลกู ฝงั ให้นักเรียนเกิดการเรยี นร้อู ยา่ งต่อเน่ือง 6. บทเรยี นที่ไดร้ บั (Lesson Learned) 6.1 ผเู้ รียนไดศ้ กึ ษาเทคโนโลยี โดยใชค้ วามรดู้ ้าน ICT มาประยุกต์ใช้ในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ และสามารถศึกษาเรยี นรเู้ พิ่มเตมิ ได้ดว้ ยตนเองไดต้ ลอดเวลา โดยใช้การจัดการเรยี นการสอนผ่านสอื่ เวบ็ ไซต์ ภาษาอังกฤษ ให้เปน็ ประโยชนใ์ นการแลกเปลยี่ นเรียนรู้ด้านการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน และสามารถ เผยแพรใ่ หผ้ อู้ ื่นได้ศึกษา 6.2 นวตั กรรมการจดั การเรยี นการสอนผ่านสอื่ เวบ็ ไซต์วิชาภาษาอังกฤษ ทำใหน้ ักเรียนมีสว่ นร่วมใน กระบวนการเรยี นรเู้ ชงิ ปฏิบตั ิอย่างมรี ะบบ สง่ ผลใหพ้ ัฒนาคุณภาพนักเรียน พัฒนาทกั ษะกระบวนการคิด ผสมผสาน วทิ ยาการสมยั ใหม่ในการศึกษาหาความรู้ และพัฒนาเป็นความรทู้ คี่ งทนตลอดไป 6.3 นวตั กรรมการจดั การเรียนการสอนผ่านส่ือเวบ็ ไซตว์ ิชาภาษาอังกฤษ เป็นส่ือในการจัดกิจกรรม การเรยี นรูก้ ารปลกู ฝงั ให้ผู้เรยี นรูจ้ ักการ ฟัง พูด อ่าน และเขียนความรูเ้ นื้อหาลงบทเรยี นลงใบงานทค่ี รูผู้สอน ได้ใหใ้ นแต่ละสปั ดาห์ 6.4 ในการนำนวัตกรรมไปใช้นัน้ ครตู อ้ งจดั การเรยี นรู้แบบให้นักเรยี นปฏบิ ตั ิจรงิ โดยวิธกี ารท่ีหลากหลาย เนน้ วิธสี อนแบบศูนยก์ ารเรียน (Learning Center) คือ การสอนทเ่ี น้นความสำคัญของนักเรยี น หรอื ยดึ นักเรยี น เป็นศูนยก์ ลางและใช้เทคนิคการจัดการเรยี นการสอนท่ีใช้สื่อประสมและกระบวนการกลุ่มเป็นสิง่ สำคัญ เพ่อื สง่ เสริมใหก้ ารเรยี นการสอนมีชวี ติ ชีวา ช่วยใหผ้ ู้เรยี นได้ศกึ ษาค้นคว้าและเรียนรู้ด้วยตนเอง เพ่อื ส่งเสริมใหผ้ เู้ รียน แสวงหาความรู้ดว้ ยตนเอง เช่น การสอน การลงมือปฏิบตั จิ ริงจะชว่ ยใหน้ กั เรียนเกดิ ความรู้ (K) ทักษะการทำงาน (P) และเกิดเจตคตทิ ดี่ ี (A) ในการทำงานต่างๆ ท่ีครูมอบหมาย
15 7. การเผยแพร่ การจดั การเรยี นการสอนผา่ นสอื่ ออนไลนด์ ว้ ยเว็บไซต์ครูโหน่ง https://sites.google.com/view/kru-nong-65/home ในรายวชิ าภาษาองั กฤษ ระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรยี นบ้านทุ่งสมอ อำเภอเขาค้อ จงั หวัด เพชรบูรณ์ สามารถนำมาบูรณาการ รว่ มกบั กล่มุ สาระอน่ื ๆ ในการจดั การเรยี นการสอนของนักเรยี นได้
16
17 แบบประเมนิ ความพึงพอใจของนักเรยี นและผู้ปกครอง ในการใช้นวัตกรรม การจดั การเรียนการสอนด้วยเวบ็ ไซต์วชิ าภาษาองั กฤษ *********************************************************************** คำชแี้ จง : ให้ประเมนิ กจิ กรรมโดยทำเครื่องหมาย √ ใหต้ รงกบั ความคิดเหน็ ของท่านมากท่ีสุด ตอนที่ 1 ขอ้ มูลทั่วไปของผ้ตู อบแบบประเมนิ 1.1 เพศ ชาย หญิง 1.2 สถานะ นกั เรียน ผปู้ กครอง ตอนที่ 2 ความพึงพอใจเกีย่ วการดำเนินงานและการจดั กจิ กรรมต่างๆ ระดับความพงึ พอใจ 5 = มากทส่ี ุด 4 = มาก 3 = ปานกลาง 2 = น้อย และ 1 = นอ้ ยทส่ี ุด ข้อ รายการประเมิน ระดบั ความพึงพอใจ 1 5432 1. เว็บไซตม์ คี วามน่าสนใจและน่าเรียนรู้ 2. ความร้คู วามเข้าใจบทเรียนหลังการใช้สื่อ 3. ความสะดวกในการใชส้ อ่ื ออนไลน์ 4. สอ่ื เสรมิ สรา้ งความเข้าใจในบทเรยี น 5. ส่อื กระตุน้ การศึกษาค้นคว้าเพม่ิ เตมิ 6. อธบิ ายเนื้อหาเข้าใจง่าย 7. เวบ็ ไซตน์ ีส้ ามารถชว่ ยใหน้ กั เรยี นจดจำไดง้ ่ายและนานมากข้ึน 8. เป็นช่องทางในการติดต่อส่ือสารระหวา่ งครูและผเู้ รยี น 9. นกั เรียนสง่ งานไดอ้ ย่างสะดวกรวดเร็ว 10. มคี วามรู้ความเข้าใจบทเรยี นก่อนการใชส้ ือ่ ความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
18 แบบบนั ทกึ ผลการทดสอบของขอ้ สอบแบบ Authentic Examination Papers
19 แบบบนั ทึกผลการทดสอบของข้อสอบแบบ Authentic Examination Papers ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 4 วิชาภาษาองั กฤษ ชุดท่ี 1 ทดสอบ ทดสอบ ท่ี ชื่อ – สกลุ คร้ังที่ 1 คร้ังที่ 2 ผลตา่ ง สรุปผล 100 100 การทดสอบ 1 นักเรียนคนท่ี 1 0 ไมผ่ ่าน 2 นักเรียนคนท่ี 2 5 10 5 ผ่าน 3 นักเรียนคนที่ 3 682 ผา่ น 4 นักเรียนคนท่ี 4 7 -7 ไมผ่ ่าน 5 นักเรียนคนที่ 5 10 10 ผา่ น 6 นักเรียนคนท่ี 6 9 -9 ไมผ่ ่าน 7 นักเรียนคนที่ 7 7 -7 ไมผ่ า่ น 8 นักเรียนคนท่ี 8 6 -6 ไมผ่ า่ น 9 นักเรียนคนท่ี 9 6 -6 ไมผ่ ่าน 10 นักเรียนคนท่ี 10 8 10 2 ผ่าน 11 นักเรียนคนท่ี 11 10 10 0 ผา่ น 12 นักเรียนคนที่ 12 10 10 0 ผา่ น 13 นักเรียนคนที่ 13 10 10 0 ผ่าน 14 นักเรียนคนที่ 14 9 10 1 ผา่ น 15 นักเรียนคนที่ 15 0 ไมผ่ า่ น 16 นักเรียนคนท่ี 16 10 10 0 ผา่ น 17 นักเรียนคนท่ี 17 0 ไมผ่ า่ น 18 นักเรียนคนที่ 18 583 ผา่ น 19 นักเรียนคนที่ 19 781 ผา่ น 20 นักเรียนคนที่ 20 9 10 1 ผา่ น 21 นักเรียนคนที่ 21 9 10 1 ผ่าน 22 นักเรียนคนท่ี 22 9 10 1 ผา่ น 23 นักเรียนคนที่ 23 0 ไมผ่ า่ น รวมทงั้ หมด 142 134 -8 เฉล่ีย 7.89 9.57 -0.35 ค่าเบย่ี งเบนมาตรฐาน 1.78 0.85 4.24 รอ้ ยละ 61.74 58.26 -3.48 ช่วงคะแนนต้ังแต่ 5 ขึ้นไปผ่าน = 14 คิดเปน็ ร้อยละ 60.87
20 แบบบนั ทึกผลการทดสอบของข้อสอบแบบ Authentic Examination Papers ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 4 วิชาภาษาองั กฤษ ชุดที่ 2 ทดสอบ ทดสอบ ท่ี ชื่อ – สกลุ ครั้งท่ี 1 ครั้งท่ี 2 ผลตา่ ง สรุปผล 10 10 การทดสอบ 1 นักเรียนคนที่ 1 6 5 -1 ผ่าน 2 นักเรียนคนที่ 2 10 10 0 ผา่ น 3 นักเรียนคนที่ 3 990 ผา่ น 4 นักเรียนคนท่ี 4 7 -7 ไมผ่ ่าน 5 นักเรียนคนท่ี 5 10 10 0 ผา่ น 6 นักเรียนคนที่ 6 9 10 1 ผ่าน 7 นักเรียนคนที่ 7 990 ผา่ น 8 นักเรียนคนท่ี 8 990 ผ่าน 9 นักเรียนคนท่ี 9 990 ผา่ น 10 นักเรียนคนท่ี 10 9 10 1 ผา่ น 11 นักเรียนคนท่ี 11 9 10 1 ผ่าน 12 นักเรียนคนที่ 12 10 10 0 ผ่าน 13 นักเรียนคนท่ี 13 10 10 0 ผ่าน 14 นักเรียนคนที่ 14 9 10 1 ผ่าน 15 นักเรียนคนที่ 15 0 ไมผ่ ่าน 16 นักเรียนคนที่ 16 10 10 0 ผา่ น 17 นักเรียนคนที่ 17 0 ไมผ่ ่าน 18 นักเรียนคนที่ 18 10 -10 ไมผ่ ่าน 19 นักเรียนคนท่ี 19 0 ไมผ่ ่าน 20 นักเรียนคนที่ 20 10 10 0 ผ่าน 21 นักเรียนคนท่ี 21 8 10 2 ผา่ น 22 นักเรียนคนท่ี 22 990 ผ่าน 23 นักเรียนคนที่ 23 0 ไมผ่ ่าน รวมท้ังหมด 172 160 -12 เฉลี่ย 9.05 9.41 -0.52 ค่าเบย่ี งเบนมาตรฐาน 1.08 1.23 2.63 รอ้ ยละ 74.78 69.57 -5.22 ช่วงคะแนนต้ังแต่ 5 ข้ึนไปผ่าน = 17 คิดเปน็ ร้อยละ 73.91
21 แบบบนั ทึกผลการทดสอบของข้อสอบแบบ Authentic Examination Papers ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 4 วิชาภาษาองั กฤษ ชุดที่ 3 ทดสอบ ทดสอบ ที่ ชื่อ – สกลุ ครั้งท่ี 1 คร้ังที่ 2 ผลตา่ ง สรุปผล 10 10 การทดสอบ 1 นักเรียนคนท่ี 1 0 ไมผ่ า่ น 2 นักเรียนคนท่ี 2 8 10 2 ผา่ น 3 นักเรียนคนท่ี 3 10 10 0 ผา่ น 4 นักเรียนคนท่ี 4 0 ไมผ่ า่ น 5 นักเรียนคนที่ 5 9 10 1 ผ่าน 6 นักเรียนคนท่ี 6 8 10 2 ผา่ น 7 นักเรียนคนที่ 7 781 ผ่าน 8 นักเรียนคนท่ี 8 10 10 0 ผา่ น 9 นักเรียนคนท่ี 9 10 10 0 ผ่าน 10 นักเรียนคนท่ี 10 8 10 2 ผา่ น 11 นักเรียนคนท่ี 11 9 10 1 ผ่าน 12 นักเรียนคนท่ี 12 9 10 1 ผา่ น 13 นักเรียนคนท่ี 13 8 10 2 ผ่าน 14 นักเรียนคนที่ 14 9 10 1 ผ่าน 15 นักเรียนคนท่ี 15 0 ไมผ่ า่ น 16 นักเรียนคนท่ี 16 9 10 1 ผ่าน 17 นักเรียนคนที่ 17 0 ไมผ่ า่ น 18 นักเรียนคนที่ 18 7 -7 ไมผ่ ่าน 19 นักเรียนคนที่ 19 0 ไมผ่ า่ น 20 นักเรียนคนท่ี 20 9 10 1 ผา่ น 21 นักเรียนคนที่ 21 9 10 1 ผ่าน 22 นักเรียนคนที่ 22 8 10 2 ผ่าน 23 นักเรียนคนท่ี 23 0 ไมผ่ า่ น รวมทง้ั หมด 147 158 11 เฉลี่ย 8.65 9.88 0.48 ค่าเบยี่ งเบนมาตรฐาน 0.93 0.50 1.81 ร้อยละ 63.91 68.70 4.78 ช่วงคะแนนตั้งแต่ 5 ข้ึนไปผ่าน = 16 คิดเปน็ ร้อยละ 69.57
22 แบบบนั ทึกผลการทดสอบของข้อสอบแบบ Authentic Examination Papers ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 4 วิชาภาษาองั กฤษ ชุดท่ี 4 ทดสอบ ทดสอบ ท่ี ชื่อ – สกลุ ครั้งที่ 1 ครั้งท่ี 2 ผลตา่ ง สรุปผล 10 10 การทดสอบ 1 นักเรียนคนท่ี 1 0 ไมผ่ า่ น 2 นักเรียนคนที่ 2 9 10 1 ผ่าน 3 นักเรียนคนที่ 3 9 10 1 ผา่ น 4 นักเรียนคนที่ 4 0 ไมผ่ า่ น 5 นักเรียนคนท่ี 5 10 10 0 ผา่ น 6 นักเรียนคนท่ี 6 10 10 0 ผ่าน 7 นักเรียนคนที่ 7 891 ผา่ น 8 นักเรียนคนท่ี 8 7 6 -1 ผา่ น 9 นักเรียนคนท่ี 9 660 ผา่ น 10 นักเรียนคนท่ี 10 10 10 0 ผา่ น 11 นักเรียนคนท่ี 11 10 10 0 ผ่าน 12 นักเรียนคนที่ 12 10 10 0 ผ่าน 13 นักเรียนคนที่ 13 10 10 0 ผา่ น 14 นักเรียนคนท่ี 14 10 10 0 ผ่าน 15 นักเรียนคนท่ี 15 0 ไมผ่ า่ น 16 นักเรียนคนท่ี 16 10 10 0 ผา่ น 17 นักเรียนคนที่ 17 0 ไมผ่ า่ น 18 นักเรียนคนที่ 18 8 10 2 ผา่ น 19 นักเรียนคนท่ี 19 0 ไมผ่ า่ น 20 นักเรียนคนท่ี 20 10 10 0 ผ่าน 21 นักเรียนคนท่ี 21 10 10 0 ผ่าน 22 นักเรียนคนท่ี 22 891 ผ่าน 23 นักเรียนคนท่ี 23 0 ไมผ่ ่าน รวมท้งั หมด 155 160 5 เฉล่ีย 9.12 9.41 0.22 ค่าเบย่ี งเบนมาตรฐาน 1.27 1.33 0.60 ร้อยละ 67.39 69.57 2.17 ช่วงคะแนนต้ังแต่ 5 ขึ้นไปผ่าน = 17 คิดเปน็ รอ้ ยละ 73.91
23 แบบบนั ทึกผลการทดสอบของข้อสอบแบบ Authentic Examination Papers ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 4 วิชาภาษาองั กฤษ ชุดที่ 5 ทดสอบ ทดสอบ ท่ี ช่ือ – สกลุ ครั้งที่ 1 ครั้งท่ี 2 ผลตา่ ง สรุปผล 10 10 การทดสอบ 1 นักเรียนคนที่ 1 0 ไมผ่ ่าน 2 นักเรียนคนท่ี 2 891 ผ่าน 3 นักเรียนคนที่ 3 10 8 -2 ผ่าน 4 นักเรียนคนท่ี 4 0 ไมผ่ า่ น 5 นักเรียนคนที่ 5 10 10 0 ผา่ น 6 นักเรียนคนท่ี 6 10 8 -2 ผา่ น 7 นักเรียนคนที่ 7 880 ผา่ น 8 นักเรียนคนที่ 8 9 6 -3 ผ่าน 9 นักเรียนคนท่ี 9 9 8 -1 ผ่าน 10 นักเรียนคนที่ 10 9 10 1 ผา่ น 11 นักเรียนคนท่ี 11 10 10 0 ผ่าน 12 นักเรียนคนที่ 12 990 ผา่ น 13 นักเรียนคนท่ี 13 10 10 0 ผ่าน 14 นักเรียนคนที่ 14 8 10 2 ผ่าน 15 นักเรียนคนที่ 15 0 ไมผ่ า่ น 16 นักเรียนคนท่ี 16 10 10 0 ผ่าน 17 นักเรียนคนท่ี 17 0 ไมผ่ า่ น 18 นักเรียนคนท่ี 18 990 ผา่ น 19 นักเรียนคนท่ี 19 671 ผา่ น 20 นักเรียนคนที่ 20 9 10 1 ผ่าน 21 นักเรียนคนที่ 21 9 10 1 ผ่าน 22 นักเรียนคนที่ 22 891 ผ่าน 23 นักเรียนคนท่ี 23 0 ไมผ่ า่ น รวมทั้งหมด 161 161 0 เฉลี่ย 8.94 8.94 0.00 ค่าเบยี่ งเบนมาตรฐาน 1.06 1.21 1.13 รอ้ ยละ 70.00 70.00 0.00 ช่วงคะแนนตั้งแต่ 5 ขึ้นไปผ่าน = 18 คิดเปน็ รอ้ ยละ 78.26
24 แบบบนั ทึกผลการทดสอบของข้อสอบแบบ Authentic Examination Papers ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 4 วิชาภาษาองั กฤษ ชุดที่ 6 ทดสอบ ทดสอบ ท่ี ช่ือ – สกลุ ครั้งที่ 1 คร้ังที่ 2 ผลตา่ ง สรุปผล 10 10 การทดสอบ 1 นักเรียนคนที่ 1 0 ไมผ่ า่ น 2 นักเรียนคนที่ 2 891 ผ่าน 3 นักเรียนคนท่ี 3 9 7 -2 ผ่าน 4 นักเรียนคนท่ี 4 0 ไมผ่ ่าน 5 นักเรียนคนท่ี 5 9 10 1 ผ่าน 6 นักเรียนคนท่ี 6 9 8 -1 ผ่าน 7 นักเรียนคนท่ี 7 8 10 2 ผ่าน 8 นักเรียนคนที่ 8 682 ผา่ น 9 นักเรียนคนที่ 9 682 ผา่ น 10 นักเรียนคนที่ 10 9 10 1 ผ่าน 11 นักเรียนคนที่ 11 9 7 -2 ผา่ น 12 นักเรียนคนท่ี 12 891 ผ่าน 13 นักเรียนคนท่ี 13 9 10 1 ผา่ น 14 นักเรียนคนท่ี 14 9 10 1 ผ่าน 15 นักเรียนคนท่ี 15 0 ไมผ่ า่ น 16 นักเรียนคนที่ 16 9 10 1 ผ่าน 17 นักเรียนคนที่ 17 0 ไมผ่ า่ น 18 นักเรียนคนที่ 18 561 ผ่าน 19 นักเรียนคนที่ 19 660 ผ่าน 20 นักเรียนคนท่ี 20 10 10 0 ผ่าน 21 นักเรียนคนที่ 21 8 10 2 ผ่าน 22 นักเรียนคนท่ี 22 9 8 -1 ผ่าน 23 นักเรียนคนท่ี 23 0 ไมผ่ า่ น รวมทงั้ หมด 146 156 10 เฉล่ีย 8.11 8.67 0.43 ค่าเบยี่ งเบนมาตรฐาน 1.41 1.46 1.16 รอ้ ยละ 63.48 67.83 4.35 ช่วงคะแนนตั้งแต่ 5 ข้ึนไปผ่าน = 18 คิดเปน็ รอ้ ยละ 78.26
25 แบบบนั ทกึ ผลการทดสอบของข้อสอบแบบ Authentic Examination Papers ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 4 วิชาภาษาองั กฤษ ชุดที่ 7 ทดสอบ ทดสอบ ท่ี ชื่อ – สกลุ คร้ังที่ 1 ครั้งท่ี 2 ผลตา่ ง สรุปผล 10 10 การทดสอบ 1 นักเรียนคนท่ี 1 0 ไมผ่ า่ น 2 นักเรียนคนท่ี 2 9 10 1 ผา่ น 3 นักเรียนคนที่ 3 10 10 0 ผ่าน 4 นักเรียนคนที่ 4 0 ไมผ่ ่าน 5 นักเรียนคนท่ี 5 10 10 0 ผ่าน 6 นักเรียนคนท่ี 6 9 10 1 ผ่าน 7 นักเรียนคนท่ี 7 880 ผ่าน 8 นักเรียนคนที่ 8 990 ผ่าน 9 นักเรียนคนที่ 9 990 ผา่ น 10 นักเรียนคนท่ี 10 9 10 1 ผ่าน 11 นักเรียนคนที่ 11 10 10 0 ผ่าน 12 นักเรียนคนท่ี 12 10 9 -1 ผ่าน 13 นักเรียนคนที่ 13 10 10 0 ผา่ น 14 นักเรียนคนท่ี 14 9 10 1 ผา่ น 15 นักเรียนคนที่ 15 0 ไมผ่ ่าน 16 นักเรียนคนที่ 16 10 10 0 ผา่ น 17 นักเรียนคนท่ี 17 0 ไมผ่ า่ น 18 นักเรียนคนที่ 18 583 ผา่ น 19 นักเรียนคนท่ี 19 561 ผ่าน 20 นักเรียนคนท่ี 20 10 10 0 ผา่ น 21 นักเรียนคนท่ี 21 8 10 2 ผา่ น 22 นักเรียนคนที่ 22 8 7 -1 ผ่าน 23 นักเรียนคนท่ี 23 0 ไมผ่ ่าน รวมทง้ั หมด 158 166 8 เฉล่ีย 8.78 9.22 0.35 ค่าเบย่ี งเบนมาตรฐาน 1.56 1.22 0.88 ร้อยละ 68.70 72.17 3.48 ช่วงคะแนนต้ังแต่ 5 ขึ้นไปผ่าน = 18 คิดเปน็ รอ้ ยละ 78.26
26 สรุปแบบบนั ทึกผลการทดสอบของข้อสอบแบบ Authentic Examination Papers ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 4 วิชาภาษาองั กฤษ รวม 7 ชุด ทดสอบ ทดสอบ ที่ ชื่อ – สกลุ คร้ังที่ 1 คร้ังท่ี 2 ผลตา่ ง สรุปผล 70 70 การทดสอบ 1 นักเรียนคนที่ 1 6 5 -1 ไมผ่ า่ น 2 นักเรียนคนท่ี 2 57 68 11 ผ่าน 3 นักเรียนคนท่ี 3 63 62 -1 ผ่าน 4 นักเรียนคนท่ี 4 14 0 -14 ไมผ่ ่าน 5 นักเรียนคนที่ 5 58 70 12 ผา่ น 6 นักเรียนคนที่ 6 64 56 -8 ผา่ น 7 นักเรียนคนท่ี 7 55 52 -3 ผา่ น 8 นักเรียนคนท่ี 8 56 48 -8 ผ่าน 9 นักเรียนคนท่ี 9 55 50 -5 ผ่าน 10 นักเรียนคนที่ 10 62 70 8 ผา่ น 11 นักเรียนคนท่ี 11 67 67 0 ผ่าน 12 นักเรียนคนท่ี 12 66 67 1 ผา่ น 13 นักเรียนคนที่ 13 67 70 3 ผา่ น 14 นักเรียนคนที่ 14 63 70 7 ผ่าน 15 นักเรียนคนท่ี 15 000 ไมผ่ ่าน 16 นักเรียนคนท่ี 16 68 70 2 ผ่าน 17 นักเรียนคนที่ 17 000 ไมผ่ า่ น 18 นักเรียนคนท่ี 18 49 41 -8 ผ่าน 19 นักเรียนคนท่ี 19 24 27 3 ไมผ่ า่ น 20 นักเรียนคนที่ 20 67 70 3 ผ่าน 21 นักเรียนคนท่ี 21 61 70 9 ผ่าน 22 นักเรียนคนที่ 22 59 62 3 ผ่าน 23 นักเรียนคนที่ 23 000 ไมผ่ า่ น รวมทงั้ หมด 1081 1095 14 เฉลี่ย 47.00 47.61 0.61 ค่าเบยี่ งเบนมาตรฐาน 24.98 27.42 6.45 ร้อยละ 67.14 68.01 0.87 ช่วงคะแนนต้ังแต่ 35 ขึ้นไปผ่าน = 17 คิดเปน็ รอ้ ยละ 73.91
27 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู กลมุ่ ตวั อยา่ ง 2 กลมุ่ ทมี่ คี วามสมั พนั ธก์ นั โดยมสี มมตฐิ าน ดงั น้ี H0 : คะแนนเฉลย่ี หลงั เรียน ไมแ่ ตกตา่ งจากคะแนนเฉลย่ี กอ่ นเรียน H1 : คะแนนเฉล่ยี หลงั เรียน สูงกวา่ คะแนนเฉลี่ย กอ่ นเรียน Paired Samples Statistics N Mean Std. Deviation Std. Error Mean Pair กอ่ นเรียน 23 47.00 24.980 5.209 1 หลงั เรียน 23 47.61 27.417 5.717 การแปลผล 1. Mean หมายถงึ คะแนนเฉลีย่ การทดสอบ ก่อนเรียน เทา่ กบั 47.00 คะแนน คะแนนเฉลย่ี การทดสอบ หลงั เรียน เทา่ กบั 47.61 คะแนน 2. N หมายถึง จานวนผเู้ รียน 2 กลมุ่ มจี านวนกลมุ่ ละ 23 คน 3. Std. Deviation หมายถงึ คา่ เบย่ี งเบนมาตรฐานคะแนนทดสอบ ก่อนเรียน เทา่ กบั 24.980 คะแนน คา่ เบย่ี งเบนมาตรฐานคะแนนทดสอบ หลงั เรียน เทา่ กบั 27.417 คะแนน 4. Std. Error Mean หมายถงึ คา่ คลาดเคลื่อนมาตรฐานของคะแนนทดสอบ ก่อนเรียน เทา่ กบั 5.209 คะแนน คา่ คลาดเคลอื่ นมาตรฐานของคะแนนทดสอบ หลงั เรียน เทา่ กบั 5.717 คะแนน Paired Samples Statistics N Correlation Sig. 0.000 Pair 1 กอ่ นเรียน กบั หลงั เรียน 23 0.974 การแปลผล กอ่ นเรียน และ หลงั เรียน การหาคา่ สมั ประสิทธ์ิสหสมั พนั ธ์ของคะแนนทดสอบ กบั หลงั เรียน และใช้ในการทดสอบความสมั พนั ธ์ของตวั แปร กอ่ นเรียน H0 : คะแนนทดสอบของผเู้ รียน กอ่ นเรียน กบั หลงั เรียน ไมม่ คี วามสมั พนั ธ์กนั หลงั เรียน มคี วามสมั พนั ธก์ นั H1 : คะแนนทดสอบของผเู้ รียน กอ่ นเรียน กบั โดยที่ –1 ≤ correlation (r) ≤ 1 จากผลการวเิ คราะห์คา่ Sig. =0.000 (p-value < .05) จงึ ปฏิเสธ H0 สรุปวา่ คะแนนทดสอบมคี วามสมั พนั ธก์ นั เน่ืองจากคา่ correlation (r) = 0.974 มคี า่ เป็นบวก และมที ศิ ทางความสมั พนั ธ์ อยใู่ นทศิ ทางเดยี วกนั
28 Paired Samples Statistics Sig. Paired Difference (2-tailed) 95% Confidence 0.655 Std. Interval of the Std. Error Difference Pair 1 Mean Deviation Mean Lower Upper t df กอ่ นเรียน กบั หลงั เรียน 0.61 6.451 1.345 -2.181 3.398 0.453 22 t-table = 2.0739 การแปลผล 1. Pair 1 หมายถึง การหาคา่ แตกตา่ งระหวา่ งคะแนน หลงั เรียน ลบ กอ่ นเรียน 2. Mean หมายถงึ คา่ เฉลยี่ คา่ ความแตกตา่ งของคะแนน หลงั เรียน และ ก่อนเรียน เทา่ กบั 0.61 3. Std. Deviation หมายถึง คา่ เบยี่ งเบนมาตรฐานของคา่ แตกตา่ ง (Sd) = 6.451 4. Std. Error Mean หมายถงึ คา่ คลาดเคลื่อนมาตรฐานของคา่ เฉลย่ี ของคา่ แตกตา่ ง (SEd) = 1.345 5. 95% Confidence Interval of the Difference หมายถงึ คา่ ช่วงความเชื่อมนั่ ท่ี 95% ของคา่ เฉลย่ี เทา่ กบั -2.18 < μd < 3.398 6. คา่ t หมายถงึ คา่ สถิตทิ ดสอบของการทดสอบ H0 : μd = 0 ในทนี่ ้ี t = 0.453 t-table= 2.0739 7. Sig. (2-tailed) หมายถงึ คา่ Significance ของการทดสอบ t = 0.655 ซ่ึงมากกวา่ α = 0.05 สรุปผลการวเิ คราะห์ ตารางท.่ี ..คา่ เฉล่ยี ส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน คา่ สถติ ทิ ดสอบที และระดบั นัยสาคญั ทางสถติ ิ ในการทดสอบเปรียบเทยี บคะแนน กอ่ นเรียน กบั หลงั เรียน ของผเู้ รียน df Sig S.D. t 1 tailed Mean S.D. คา่ เฉลยี่ ของผลตา่ ง คา่ เฉลย่ี 22 0.328 ผลตา่ ง กอ่ นเรียน 47.00 24.980 0.61 6.451 0.453 หลงั เรียน 47.61 27.417 จากตารางท่ี.... พบวา่ การทดสอบคะแนนของผเู้ รียน มคี ะแนน กอ่ นเรียน เฉลีย่ เทา่ กบั 47.00 คะแนน และมคี ะแนน หลงั เรียน เฉลย่ี เทา่ กบั 47.61 คะแนน เมอ่ื เปรียบเทยี บระหวา่ งคะแนนสอบ ทง้ั สองคร้ัง พบวา่ คะแนนสอบ หลงั เรียน ไมแ่ ตกตา่ งจากคะแนนกอ่ นเรียน อยา่ งมนี ัยสาคญั ทางสถติ ททิ รี่่รี ะะดดบั ับ.005.5
29 ตัวอยา่ งแบบฝึกหดั และข้อสอบแบบ Authentic Examination Papers
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45 ตัวอยา่ งผลงานของนักเรียน ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4
46
47
Search