Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แหล่งเรียนรู้ ประจำเดือน สิงหาคม อำเภอเมืองหนองบัวลำภู

แหล่งเรียนรู้ ประจำเดือน สิงหาคม อำเภอเมืองหนองบัวลำภู

Published by muangnongbua, 2020-09-10 01:25:55

Description: แหล่งเรียนรู้ ประจำเดือน สิงหาคม อำเภอเมืองหนองบัวลำภู

Search

Read the Text Version

ทาเนียบแหลง่ เรียนรู้ อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวัดหนองบัวลาภู ประจาเดอื น สิงหาคม พ.ศ. 2563 ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวัดหนองบวั ลาภู

คานา ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู ไดจ้ ัดทาทาเนียบแหล่ง เรยี นรู้ อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู จังหวัดหนองบัวลาภู ประจาเดือน สงิ หาคม พ.ศ. 2563 ซงึ่ เป็นแหล่งข้อมูล ทร่ี วบรวมภมู ปิ ัญญาท้องถ่ินทงั้ 9 ด้าน ซ่ึงประกอบไปด้วย ด้านเกษตรกรรม ด้านอุตสาหกรรมละหัตถกรรม ด้านการแพทย์แผนไทย ดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ด้านกองทุนและธุรกิจชุมชน ด้าน ศิลปกรรม ด้านภาษาและวรรณกรรม ด้านปรัชญาศาสนาและประเพณี และดา้ นโภชนาการ ขอบเขตของการ จดั ทาทาเนียบแหล่งเรียนรู้ ทั้ง 9 ด้านน้ี พร้อมท่ีจะให้ผู้ที่มีความสนใจเข้าไปศึกษาค้นคว้า ด้วยกระบวนการ จัดการเรียนร้ทู ่ีแตกตา่ งกันของแต่ละบคุ คล ปลูกฝงั ให้ผู้เรียนได้รแู้ ละรกั ในท้องถน่ิ ของตนเอง มองเหน็ คุณค่าใน ชุมชนของตนเอง และเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นแหล่งเชื่อมโยงให้สถานศึกษาและชุมชนมี ความสมั พนั ธ์ใกล้ชดิ กนั การจดั ทาข้อมลู ทาเนยี บแหลง่ เรยี นรู้ อาเภอเมืองหนองบัวลาภู ครั้งนี้ได้รับความร่วมมืออย่างย่ิงจาก แหล่งสารสนเทศท่ีได้จากการจัดทาแหล่งเรียนรู้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง เพ่ือใช้เป็น แนวทางในการขยายผลและพัฒนาการดาเนินงานท่ีถูกต้องเพื่อให้ เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการ ดาเนินงานยิง่ ขึน้ ไป กลุ่มงานอธั ยาศัยอาเภอเมืองหนองบัวลาภู กศน. อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู ผจู้ ัดทา ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองหนองบวั ลาภู สานักงานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจังหวัดหนองบัวลาภู

สารบญั หน้า ทาเนยี บแหลง่ เรยี นรู้ 1 5 ทาเนียบแหลง่ เรียนรู้ อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู 10 1. ตาบลหนองบวั 13 2. ตาบลโนนทัน 17 3. ตาบลหนองภยั ศนู ย์ 20 4. ตาบลหนองหวา้ 24 5. ตาบลตาบลลาภู 28 6. ตาบลกุดจกิ 32 7. ตาบลนาคาไฮ 37 8. ตาบลหัวนา 41 9. ตาบลโนนขม้นิ 45 10. ตาบลปุาไมง้ าม 51 11. ตาบลหนองสวรรค์ 54 12. ตาบลบ้านพรา้ ว 58 13. ตาบลโพธิ์ชยั 14. ตาบลนามะเฟือง 15. ตาบลบา้ นขาม คณะผจู้ ดั ทา ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวดั หนองบัวลาภู

ประวัตแิ ละผลงานครูภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิ่น ตาบลหนองบัว อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู จงั หวดั หนองบวั ลาภูหนองบัวลาภู ด้าน ศิปกรรม สาขา แหล่งเรยี นรู้ด้านศึกษาพระธธรม วดั สามคั คสี ริ ิมงคล หรอื วดั ปา่ สุขเกษม ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองหนองบวั ลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยจังหวดั หนองบวั ลาภู

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดหนองบวั ลาภู

วดั สามัคคสี ริ ิมงคล หรือวดั ป่าสขุ เกษม ประวตั แิ ละผลงานครภู ูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ จังหวัดหนองบวั ลาภู ดา้ น ศิลปกรรม สาขา แหลง่ เรยี นรดู้ า้ นศกึ ษาพระธรรม ประวัติและผลงาน วัดสามัคคีสิริมงคล หรือวัดปุาสุขเกษม บ้านสุขเกษม ต.หนองบัว อ.เมือง จ.หนองบัวลาภู ตงั้ แตร่ ุง่ เช้า (27 พ.ค. 61) บรรดาญาตโิ ยมและศษิ ยานุศิษย์ ของหลวงปูุบุญมา สชุ โี ว พระวดั ปุาสายกรรมฐาน หลงั จากอปุ สมบทแล้ว ท่านไดอ้ อกธุดงค์ตดิ ตามไปกับหลวงปุูชว่ ย ธัมมธโร อยหู่ ลายแห่ง ทั้งได้รับการ อบรมกรรมฐานและหัดสวดพระปาติโมกข์ และเคยได้ไปศึกษาธรรมะกับพระอาจารย์หลายรูป เช่น หลวงปุู สิงห์ ขันตยาคโม, หลวงปูุฝ้ัน อาจาโร, หลวงปุูอ่อน ญาณสิริ, หลวงปูุขาว อนาลโย, หลวงปุูชอบ ฐานสโม, หลวงปูุคาดี ปภาโส, หลวงปุูสุภาพ ธัมมปัญโญ, หลวงปูุคาพอง ติสโส, หลวงปูุบุญช่วย ธัมมวโร และหลวงปูุ สิงห์ทอง ธัมมวโร เปน็ ต้น โดยเฉพาะหลวงปูุบุญช่วย และหลวงปูุสิงห์ทอง ครูบาอาจารย์ท้ังสองรูปน้ี หลวงปุูบุญมาได้ติดตาม ศกึ ษาข้อวัตรปฏปิ ทา และรับโอวาทธรรมจากท่านทั้งสองนานที่สุด เน่ืองจากท่านทั้งสองเป็นคนบ้านเดียวกัน คือ บ้านศรีฐาน ต่อมาเม่ือหลวงปุูบุญช่วย มรณภาพลง ท่านได้อยู่ช่วยงานศพ เพื่อตอบแทนบุญคุณครูบา อาจารย์ เมื่อเสร็จงานแล้ว จึงได้ออกธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ หลายท่ี ทั้ง จ.หนองบัวลาภู แล้วลงไปที่ อ. ภูเวียง จ.ขอนแก่น ได้ปฏิบัติธรรมอย่างหนักหน่วง ธุดงค์ไปทางเมืองเลย บ้านไร่ม่วง ถ้าผาบิ้ง ธุดงค์ลงไป ทางภาคใต้ อ.ตะก่ัวทุง่ จ.พงั งา อยู่กับหลวงปูุคาพอง ติสโส เพื่อรับข้อธรรมจากหลวงปุูเทสก์ เทสรังสี ในช่วง น้ันท่านมีโอกาสเข้ากราบฟังธรรมกับหลวงปูุเทสก์ เทสรังสี หลายวาระด้วยกัน จึงได้ทาความเพียร อดนอน ผ่อนอาหารอย่างหนัก ได้เดินทางไป-กลับ ระหว่าง จ.ภูเก็ต กลับมา จ.พังงา ได้เกิดนิมิตและความรู้ภายใน มากมาย หลวงปูุบุญมา ธุดงค์ไปอยู่บนภูเก้า-ภูพานคา จ.หนองบัวลาภู ถึง 13 ป เร่งภาวนาเดินจงกรมท้ังวัน ทั้งคืนในป พ.ศ.2536-2542 จากนั้นได้ไปอยู่ที่วัดบ้านจิก(ข้างเรือนจาอุดร) อ. เมือง จ. อุดรธานี จนกระท่ังในพรรษาท่ี 51 ป พ.ศ.2546 จึงอาราธนานิมนต์ให้หลวงปุูบุญมาอยู่ประจาท่ีสานักวัดปุาสุขเกษม เพ่ือเป็นร่มโพธ์ิธรรมให้กับศิษยานุศิษย์ อันจะเป็นการรักษาธาตุขันธ์ของหลวงปูุด้วย ซึ่งหลวงปูุบุญมาเอง ท่านก็ยินยอม และได้อยู่พานักท่ีวัดปุาสุขเกษมเร่ือยมาถึงปัจจุบัน องคค์ วามรู้และความเช่ียวชาญ 1. ศกึ ษาพระธรรม ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู สานักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จงั หวดั หนองบัวลาภู

ลักษณะของเครือข่ายและการสรา้ งเครอื ขา่ ย 1. เทศบาลเมืองหนองบัวลาภู 2. องค์การบริหารส่วนจงั หวดั หนองบวั ลาภู 3. องค์การบรหิ ารส่วนตาบลหนองบวั 4. ศนู ยก์ ารศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองจงั หวดั หนองบัวลาภู ผลงานท่ีเปน็ ประโยชน์ตอ่ ชุมชนและสังคม 1. องคค์ วามร้ดู า้ นศึกษาพระธรรม ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู สานักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จังหวัดหนองบัวลาภู

ประวัติและผลงานครภู ูมปิ ัญญาทอ้ งถิ่น ตาบลโนนทนั อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู จังหวัดหนองบวั ลาภู ด้าน การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิง่ แวดล้อม สาขา พพิ ธิ ภณั ฑ์หอยหินโบราณ 150 ลา้ นปี พิพธิ ภณั ฑห์ อยหนิ โบราณ 150 ล้านปี ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู สานกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จังหวัดหนองบวั ลาภู

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดหนองบวั ลาภู

พพิ ธิ ภณั ฑ์หอยหนิ โบราณ 150 ล้านปี ประวตั แิ ละผลงานครภู ูมปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ จังหวดั หนองบัวลาภู ดา้ น การจัดการทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม สาขาพพิ ธิ ภณั ฑ์หอยหนิ โบราณ 150 ล้านปี ประวตั แิ ละผลงาน พิพิธภัณฑ์หอยหินโบราณ 150 ล้านป และซากฟอสซิลไดโนเสาร์ ตั้งอยู่บ้านห้วยเดื่อ หมู่ท่ี 10 ตาบลโนนทัน อาเภอเมือง จงั หวัดหนองบัวลาภู ต้ังอยู่ภายในเขตสานักงาน องค์การบริหารส่วนตาบลโนนทัน ระหว่างถนนสายหนองบัวลาภู – อุดรธานี หลักกิโลเมตรที่ 10 พื้นที่ดังกล่าวซ่ึงมีศาลสมเด็จพระนเรศวรต้ังอยู่ บริเวณน้ันด้วย พิพิธภัณฑ์หอยหินโบราณ 150 ล้านป ซากหอยหิน 150 ล้านป ค้นพบคร้ังแรกในป พ.ศ. 2537 โดยชาวบ้านที่เข้าหาเก็บของปุาในบริเวณเหมืองร้างห่างจากหมู่บ้านประมาณ1.5 กิโลเมตร ค้นพบหินท่ีมี ลักษณะคล้ายหอยสวยงาม แปลกตาเป็นจานวนมาก จึงเก็บมาวางขายตามริมถนน ระยะแรกขายกิโลกรัมละ 2 บาท มีผู้สนใจซื้อเป็นจานวนมาก ทาให้ขายได้ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 12 บาท และเพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 20 บาท นายประภา ยุวานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลาภูขณะนั้นทราบข่าวจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่จากกรม ทรัพยากรธรณี ให้มาตรวจสอบและนาหินท่ีชาวบ้านมาวางขายไปพิสูจน์ ได้ข้อสรุปว่าหินท่ีพบเป็นซากฟอสซิล หอยดึกดาบรรพ์กาบคู่ เป็นหอยน้าจืด ยุคจูราสสิคตอนปลายอายุระหว่าง 145 – 157 ล้านป และเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2537 นายประภา ยุวานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลาภู ได้เดินทางมาดูแหล่งท่ีค้นพบ ซากดึกดาบรรพ์ หอยหินสองฝาที่บ้านห้วยเดื่อ โดยมี นายประเทือง ปัญโญวัฒน์ ผู้ช่วยอุตสาหกรรมจังหวัด อุดรธานีเป็นผู้แนะนา ชาวบ้านได้เข้าไปขุดซากหอยดึกดาบรรพ์กันมากขึ้น ในช่วงแรกๆ สามารถขุดเก็บ ซากดึกดาบรรพ์จากบริเวณหินที่ผุสลายกลายเป็นดินได้โดยง่าย ซากหอยดึกดาบรรพ์ ยังมีความคงทนต่อการผุ สลายได้มากกว่า ยังมีสภาพเป็นตัวๆ ฝังอยู่ในดิน ในบางบริเวณ ท่ีมีธารน้าไหลชะล้างเอาดินออกไปก็จะเห็น ซากหอยดึกดาบรรพ์โผล่กระจัดกระจายอยู่ ให้ชาวบ้านไปขุดเก็บได้โดยง่าย และซากหอยจะมีลักษณะที่ สมบูรณ์ราคาดี ราคาซากหอยดึกดาบรรพ์ท่ีขายกันแตกต่างกันไปตามความสวยงามและความสมบูรณ์ บางตัว ราคาอาจสูงถึงตัวละ 1,500 บาท ซ่ึงนับวันซากหอยดึกดาบรรพ์หายากมากข้ึน และยังมีผู้ต้องการอยู่ ชาวบ้านต้องขุดและสกัดเอา ซากหอยดึกดาบรรพ์ออกมาขายเรื่อยๆ ในช่วงเวลาเดียวกัน หนังสือพิมพ์หลาย ฉบับได้รายงานข่าวและเขียนบทความเก่ียวกับการขุดหาซากหอยดึกดาบรรพ์ที่บ้านห้วยเด่ือ ทาให้เป็นท่ีสนใจ เดินทางมาที่แหล่งค้นพบซากหอยดึกดาบรรพ์ ที่บ้านห้วยเดื่อมากข้ึน เมื่อมีผู้คนมามากข้ึน ได้ขุดเจาะพ้ืนดิน และไหล่เขาเหนือหน้าผาเป็น บริเวณกว้าง นิคมสร้างตนเองเชียงพิณซ่ึงเป็นผู้ครอบครองกรรมสิทธิ์พ้ืนท่ี บริเวณนั้น และอาเภอเมืองหนองบัวลาภูต่างเกรงว่าเป็นการทาลายธรรมชาติ และสภาพแวดล้อม มากขึ้น และอาจเป็นอันตรายต่อผู้ขุดหาซากหอยดึกดาบรรพ์ จึงส่ังห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้าไปขุดหาซากหอยดึกดาบรรพ์ แต่ ยังมีผู้ลักลอบเข้าไปขุดอยู่ จนกระทั่งวันที่ 2 มิถุนายน 2537 ได้เกิดเหตุหินถล่มลงมาทับผู้ที่ลักลอบขุดค้นหา ซากหอยดึกดาบรรพ์ มีคนตาย 1 คนและได้รับบาดเจ็บ 3 คน ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลาภูในขณะน้ันจึง ส่ังห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้าไปขุดหา ซากหอยดึกดาบรรพ์ โดยเด็ดขาดจังหวัดหนองบัวลาภูได้พัฒนาบริเวณท่ีค้นพบ ซากหอยดึกดาบรรพ์เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยองค์การบริหารส่วนตาบลได้รับงบประมาณก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ หอยหินโบราณ 150 ล้านป ในป 2538 ต่อมาได้สร้างอาคารพิพิธภัณฑ์หลังใหม่เสร็จในป 2545 ในเดือน ตุลาคม พ.ศ. 2543 จงั หวัดหนองบัวลาภูได้ให้คณะกรรมการดาเนินงาน ด้านพิพิธภัณฑ์หอยหิน มีเจ้าหน้าที่ ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจงั หวัดหนองบวั ลาภู

ของพ้ืนท่ีได้รับมอบหมายให้สารวจพ้ืนท่ี เพื่อจัดทา โครงการปรับปรุงและพัฒนา โดยนาย อดุลย์ เหล็กกล้า เป็นหัวหน้าส่วนโยธา พาคณะเดินทางสารวจเส้นทางได้ค้นพบเศษกระดูก ซากฟอสซิลคาดว่าเป็นซากฟอสซิล ได้โนเสาร์ ที่กระจัดกระจายตามแนวถนน หลังจากนั้นได้เดินทางสารวจบริเวณพิพิธภัณฑ์หอยหิน มีนาย รุ่งเรือง ธนปราชญ์เปร่ือง ปลัดองค์การบริหารส่วนตาบล และนายอดุลย์ เหล็กกล้า หัวหน้าส่วนโยธา ได้มา สารวจเส้นทางที่จะปรับปรุงและมาพบซากฟอสซิลจานวนหน่ึง และมีความสมบูรณ์มาก หลังจากนั้นวันท่ี 1 พฤศจิกายน 2543 หน่วยขุดค้นซากฟอสซิลจากภูเวียง จังหวัดขอนแก่นนาโดยนายสมชัย เตรียมวิชานนท์ และคณะ เดินทางมาถึงบริเวณ พิพิธภัณฑ์หอยหิน มีเจ้าหน้าที่จากจังหวัด ปลัดองค์การบริหารส่วนตาบล หัวหน้าส่วนโยธา และเจ้าหน้าท่ี ได้เข้าไปขุดค้นบริเวณทางทิศเหนือของพิพิธภัณฑ์หอยหินประมาณ 100 เมตร ได้ค้นพบซากฟอสซิลคล้ายกระดูกสัตว์จานวนมาก มีท้ังส่วนที่ละเอียด ส่วนขนาดใหญ่ และการขุดค้นจะ มีแรงงาน การใช้เครื่องจักร เคร่ืองมือเข้ามาดาเนินการเป็นระยะๆ เริ่มพบ เศษชิ้นส่วนขนาดใหญ่และพบฟัน ไดโนเสาร์ การขุดค้นดาเนินไปจนถึงปลายป 2544 การขุดค้น ยังไม่เสร็จเรียบร้อย และคณะขุดค้นได้นา ชิ้นส่วนไปทาความสะอาดท่ีภูเวียงจานวนหนึ่ง จากการขุดค้นพบซากฟอสซิลบริเวนด้านเหนือของอาคาร พิพิธภัณฑ์หอยหินโบราณ จังหวัดหนองบัวลาภูได้พิจารณาเห็นว่าพื้นที่บริเวณนี้เป็นมรดกล้าค่าทางธรรมชาติ ที่สามารถพัฒนาและปรับปรุงเป็นสถานท่ีท่องเที่ยวท่ีมีความหลากหลายทั้งการศึกษาซากฟอสซิลหอยหิน ซาก ฟอสซิลไดโนเสาร์ กระดูกสัตว์โบราณอื่นๆ รวมทั้งพืชพันธุ์ไม้มากกว่า 30 ชนิด ท่ีสมควร ที่จะดาเนินการตาม แผนยุทธศาสตร์การท่องเท่ียว จังหวัดได้ให้งบประมาณผ่าน องค์การบริหารส่วนตาบลโนนทัน สร้างอาคาร แสดงซากฟอสซิลไดโนเสาร์ เสร็จในป พ.ศ. 2545 องค์ความรู้และความเช่ียวชาญ พิพิธภัณฑ์หอยหินโบราณ 150 ล้านป และซากฟอสซิลไดโนเสาร์ เปน็ พิพิธภัณฑ์ท่ีจัดแสดงเร่ืองราว ความรู้ทางด้านธรรมชาติ และธรณีวิทยาของจังหวัดหนองบัวลาภูที่เป็น แหล่งค้นพบท่ีสาคัญควรค่าแก่ การศึกษาของเยาวชนจังหวัดหนองบัวลาภู การถ่ายทอดความรแู้ ละความเช่ยี วชาญ 1. จดั นิทรรศการเรื่องราวของไดโนเสาร์ เรื่องราวของไดโนเสาร์ที่มาการค้นพบ ซากฟอสซิลในเขต ภาคอีสาน 2. จดั แสดงนิทรรศการเรื่องราวของไดโนเสาร์พันธ์ุต่างๆ การจัดแสดงเป็นปูายนิทรรศการที่สวยงาม พิมพ์ 4 สี เหมาะสาหรับการศึกษาของเด็ก 3. จดั แสดงกระดูกและรอยเท้าของไดโนเสาร์ที่ค้นพบในเขตตาบลโนนทัน ลักษณะของเครือขา่ ยและการสรา้ งเครอื ขา่ ย 1. องค์การบริหารส่วนตาบลโนนทนั 2. สานกั งานพฒั นาชมุ ชนจงั หวดั หนองบวั ลาภู 3. สานกั งานท่องเที่ยวหนองบัวลาภู ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจงั หวดั หนองบวั ลาภู

ผลงานทีเ่ ปน็ ประโยชนต์ อ่ ชมุ ชนและสังคม พิพิธภัณฑ์หอยหินโบราณ 150 ล้านป และซากฟอสซิลไดโนเสาร์ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรื่องราว ความรู้ทางด้านธรรมชาติ และธรณีวิทยาของจังหวัดหนองบัวลาภูที่เป็น แหล่งค้นพบท่ีสาคัญควรค่าแก่ การศึกษาของเยาวชนจังหวัดหนองบัวลาภู) เรื่องราวของไดโนเสาร์ท่ีมาการค้นพบ ซากฟอสซิลในเขตภาค อีสาน เร่ืองราวของไดโนเสาร์สายพันธ์ุต่างๆ เหมาะสาหรับการศึกษาของเด็ก จัดแสดงกระดูกและรอยเท้าของ ไดโนเสาร์ที่ค้นพบในเขตตาบลโนนทัน อีกทั้งสวนอุทยานไดโนเสาร์ ไดโนปาร์ค 12 สายพันธ์ุ ขับเคลื่อนด้วย มอเตอร์ มากกว่า 10 ตัว พร้อมไข่ 36 ใบ เพ่ือให้เป็นแหล่งท่องเท่ียวและศึกษาเรียนรู้ ของจังหวัด หนองบัวลาภู และจังหวัดใกลเ้ คยี งโดยมหี ุน่ ยนต์ไดโนเสาร์ ที่ขับเคล่ือนด้วยมอเตอร์ ในการเคล่ือนไหวและส่ง เสยี งรอ้ ง ประกอบไปด้วย ไดโนเสาร์ brachiosaurus พันธ์คอยาว คอยาว ขนาด 12 เมตร ไดโนเสาร์ t-rex ขนาด 8 เมตร ไดโนเสาร์ pterandon พันธ์นก ขนาด 3 เมตร ไดโนเสาสร์ oviraptor ขนาด 4 เมตร ไดโนเสาร์ triceratops ขนาด 4 เมตร ไดโนเสาร์ ankyicsaurus ขนาด 5 เมตร ไดโนเสาร์ spinosarus ขนาด 8 เมตร ไดโนเสาร์ stegosaurus ขนาด 6 เมตร ไดโนเสาร์ และไข่ไดโนเสาร์ ท้ังน้ี ไดโนเสาร์แต่ละตัว สามารถขยบั ปาก กม้ หัว หันหน้าซ้าย-ขวา สา่ ยหาง กระพริบตา และขยับขาหน้า ได้ พร้อมมีเสียงร้องของแต่ ละชนิด นอกจากนยี้ ังมพี พิ ิธภัณฑ์การจัดแสดงซากฟอสซิลไดโนเสารภ์ ายในอาคารอีกด้วย ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู สานกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จังหวัดหนองบวั ลาภู

ประวตั ิและผลงานครภู มู ปิ ัญญาทอ้ งถิ่น ตาบลหนองภัยศนู ย์ อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู จังหวัดหนองบัวลาภูหนองบัวลาภู ดา้ น ปรัชญา ศาสนา และประเพณี สาขา ถา่ ยทอดพระพุทธศาสนา พระบญุ ช่วย มงคฺ โล ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานักงานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จงั หวดั หนองบัวลาภู

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดหนองบวั ลาภู

พระบญุ ช่วย มงคฺ โล ประวตั แิ ละผลงานครภู ูมปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ จังหวัดหนองบัวลาภหู นองบวั ลาภู ดา้ น ปรชั ญา ศาสนา และประเพณี สาขา ถา่ ยทอดพระพทุ ธศาสนา ประวัติชีวิตและผลงาน พระบุญช่วย มงฺคโล เกิดเม่ือวันที่ 5 เดือน มีนาคม 2538 เป็นชาวจังหวัดกรุงเทพมหานคร ปัจจุบัน อายุ 26 ป อาศัยอยู่หมู่ที่ 9 บ้านหนองภัยศูนย์ ตาบลหนองภัยศูนย์ อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จงั หวัดหนองบวั ลาภู ประกอบอาชีพพระภิกษสุ งฆ์ พระบญุ ชว่ ย มงฺคโล เปน็ ผูท้ ม่ี ีความเปน็ ผนู้ า มีความเสยี สละในการปฏิบัติหน้าท่เี พ่ือให้เกิดความผาสุก ใน หมูบ่ ้าน ตาบล และประชาชนในพ้ืนที่ ดว้ ยความที่เคยศึกษาเล่าเรยี นในทางพระพุทธศาสนา ทาให้เป็นผู้ที่มี ความรู้ ความเขา้ ใจในหลกั ปฏิบัติทางศาสนา เป็นผู้นาในพธิ กี รรมต่าง ๆ เปน็ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ท่ี 9 บ้านหนองภัย ศนู ย์ ตาบลหนองภัยศูนย์ อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวดั หนองบวั ลาภู องคค์ วามรแู้ ละความเชีย่ วชาญ มคี วามรู้ในดา้ นศาสนาผู้สละการครองเรือน ครองทรัพย์ที่ออกบวช และถือวัตรปฏิบัติตามพระธรรม วินัยอันเป็นคาสอนของพระพุทธองค์เพ่ือยังให้ตน และผู้อ่ืนรู้แจ้งในธรรม มกี ารไปเผยแพร่คาสอนหลักพทุ ธเจ้า ในหน่วยงานตา่ ง ๆ และ โรงเรียนตา่ ง ๆ การถา่ ยทอดความร้แู ละความเชยี่ วชาญ 1. ป 2556 ได้ถ่ายทอดความรู้ทางศาสนาให้แก่ชาวบ้านหนองภัยศูนย์ ตาบลหนองภัยศูนย์ อาเภอเมืองจังหวัดหนองบัวลาภู 2. ป 2557 ได้ถ่ายทอดความรูท้ างศาสนาใหแ้ กน่ กั เรียน กศน.อาเภอเมืองหนองบัวลาภู 3. ป 2557 ได้ถ่ายทอดความรู้ทางศาสนาใหแ้ ก่ชาวบ้านตาบลหนองภยั ศูนย์ ลกั ษณะของเครือข่ายและการสร้างเครอื ขา่ ย ร่วมกบั ผนู้ าท้องท่ี ผูน้ าท้องถิ่น เจ้าหน้าที่รัฐ และส่วนราชการ ในการเผยแพร่ความรู้ทางศาสนาและ หลกั คาสอนสอนของพระพทุ ธเจา้ ใหก้ ับผนู้ าชมุ ชน เยาวชน แลว้ ชาวบ้าน ในตาบลหนองภัยศูนย์ เพื่อให้ได้รับ การเผยแพร่ศาสนาและคาสอนของพระพุทธเจา้ ถูกตอ้ ง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานกั งานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยจังหวดั หนองบวั ลาภู

ประวตั แิ ละผลงานครภู ูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน ตาบลหนองหวา้ อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวัดหนองบัวลาภู ด้าน ศลิ ปกรรม สาขา โบราณสถาน/ศาสนสถาน วดั ศรีวลิ ยั มงคล ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวดั หนองบวั ลาภู

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดหนองบวั ลาภู

วดั ศรีวลิ ยั มงคล ประวัตแิ ละผลงานครภู มู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ จังหวดั หนองบวั ลาภู ด้าน ศิลปกรรม สาขาโบราณสถาน ศาสนาสถาน ประวัติและผลงาน วดั ศรีวลิ ัยมงคล ต้ังแต่ป พ.ศ. 2482 โดยพระภิกษุลี เปน็ ผูม้ ากอ่ ต้งั ซ่ึงเป็นพระสงฆ์ที่ได้รับอุปสมบท จากจงั หวัดอบุ ลราชธานี ก็มพี ่ออาจารย์ทอนแนะนาและติดตามมาจาพรรษาอยู่ท่ีบ้านหนองหว้าใหญ่ตั้งชื่อว่า วดั ศรวี ิลัยมงคล เจ้าอาวาสที่มาจาพรรษาประจาวดั ศรวี ิลยั มงคล 1. พระอาจารยล์ ี 2.หลวงปโูุ ส กสั สโป 3. หลวงปูวุ นั 4. หลวงปขูุ นั 5.หลวงปูุหลอด 6.พระอาจารยง์ าม 7.พระอาจารยห์ วนั 8.หลวงพ่อเคน อาโล 9.หลวงปูุกองศรี 10. พระอธกิ ารปญั ญา เจ้าอาวาสคนปัจจบุ นั องค์ความร้แู ละความเชยี่ วชาญ เปน็ แหล่งเรยี นรู้โบราณสถาน/ศาสนสถาน แหลง่ เรียนรดู้ า้ นศิลปวฒั นธรรมประเพณขี องคนในท้องถิ่น ชุมชนเป็นสถานท่ีรวมจิตรวมใจของประชาชน และเป็นท่ีฝึกอบรมธรรมะให้ประชาชนผู้ศรัทธา ในพระพุทธศาสนาการถา่ ยทอดความรแู้ ละความเชีย่ วชาญ 1. ประวัตศิ าสตร์ 2. ศลิ ปะสถาปตั ยธรรม ศูนย์ศลิ ปวัฒนธรรม เกี่ยวกบั ศาสนา 3. ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น 4. สถานท่กี ราบไหว้แห่งสถานปฏิบตั ธิ รรม แหลง่ โบราณ ลกั ษณะของเครอื ข่ายและการสรา้ งเครือขา่ ย 1. แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วทางวัฒนธรรม 2. แหลง่ เรียนรศู้ ิลปะ แหล่งเรยี นรู้ในท้องถ่ิน 3. เปน็ สถานที่กราบไหว้และแหล่งสถานปฎิบัติธรรมแหล่งโบราณสถานและยังเป็นสถานท่ีศักดิ์สิทธิ ประพิธีทางศาสนา ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจังหวดั หนองบวั ลาภู

ผลงานที่เป็นประโยชนต์ อ่ ชมุ ชนและสงั คม เป็นโบราณสถานศาสนาและเป็นแหล่งเรียนรู้ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีในท้องถิ่นสถานที่กราบไหว้ และแหลง่ ปฎิบตั ธิ รรมประจาหมูบ่ า้ น และประกอบพธิ ใี นวันสาคญั ทางศาสนา ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจงั หวดั หนองบัวลาภู

ประวตั แิ ละผลงานภูมปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ตาบลลาภู อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู จังหวดั หนองบวั ลาภู ด้าน โบราณสถาน ศาสนสถาน สาขา โบราณสถาน วัดเรืองอุทัยศริ ิมงคล ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานกั งานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจงั หวดั หนองบวั ลาภู

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดหนองบวั ลาภู

วดั เรอื งอทุ ัยศริ ิมงคล ประวตั แิ ละผลงานภมู ปิ ญั ญาท้องถนิ่ จังหวัดหนองบัวลาภู ดา้ น โบราณสถาน ศาสนสถาน สาขา โบราณสถาน ประวัตแิ ละผลงาน วัดเรืองอุทัยศิริมงคล ต้ังอยู่ท่ีหมู่ 2 ชุมชนหมากเล่ือม ตาบลลาภู อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จงั หวดั หนองบัวลาภู องคค์ วามรู้และความเชย่ี วชาญ เป็นแหล่งเรียนรู้โบราณสถาน ศาสนสถาน แหล่งเรียนรู้ในชุมชนหมากเล่ือมท่ีใช้กราบไหว้ สกั การะบูชา ของชาวบ้านในแถบชุมชนภายในวัดมบี รรยากาศรม่ รน่ื สงบ อากาศบรสิ ทุ ธ์ิ การถ่ายทอดความรู้และความเช่ยี วชาญ 1. ศิลปะสถาปตั ยกรรม 2. ประเพณวี ัฒนธรรม ลักษณะของเครอื ข่ายและการสรา้ งเครอื ขา่ ย 1. โบราณสถาน ศาสนสถาน 2. แหล่งเรียนร้ศู ิลปะ แหลง่ เรยี นรู้ในทอ้ งถิ่นชุมชน ผลงานท่ีเปน็ ประโยชนต์ ่อชุมชนและสังคม 1. เป็นโบราณสถาน ศาสนสถาน แหลง่ เรียนรู้ในท้องถิ่นชมุ ชน ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จังหวดั หนองบัวลาภู

ประวัติและผลงานครภู ูมิปัญญาท้องถ่ิน ตาบลกุดจิก อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู จงั หวัดหนองบวั ลาภู ดา้ น อตุ สาหกรรมและหัตถกรรม สาขา การจักสานไมไ้ ผ่ นางวนิ จิ ไชยปญั ญา ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั หนองบัวลาภู

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดหนองบวั ลาภู

นางวนิ ิจ ไชยปญั ญา ประวัตปิ ระวตั แิ ละผลงานครภู มู ปิ ญั ญาทอ้ งถิน่ จงั หวดั หนองบวั ลาภู ดา้ น อตุ สาหกรรมและหตั ถกรรม สาขา การจกั สานไมไ้ ผ่ ประวัติชีวิตและผลงาน นางวินิจ ไชยปัญญา เกิดเม่ือวันท่ี 15 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2495 เกิดที่บ้านยางหลวง หมู่ท่ี 5 ตาบลกุดจิก อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวัดหนองบัวลาภู อาชีพทานา ปัจจุบัน นางวินิจ ไชยปัญญา ประกอบอาชีพทานา ทอี่ ยู่สามารถตดิ ตอ่ นางวนิ ิจ ไชยปัญญา คือ บ้านเลขที่ 58 หม่ทู ี่ 5 ตาบลกุดจิก อาเภอ เมอื งหนองบวั ลาภู จังหวดั หนองบัวลาภู นางวนิ ิจ ไชยปัญญา เกิดในตระกลู ชาวนา เรียนจบชั้นประถมศึกษาป ท่ี 6 มผี ลงานในการจกั สานไม้ไผ่ ประมาณ 15 ป และได้อุทิศตนเพื่อชุมชนและสังคมมาโดยตลอดได้รับเชิญ ไปเป็นวิทยากรการจกั สานไม้ไผ่ เช่น อบต. สานักงานพัฒนาชุมชน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศยั อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู องค์ความรแู้ ละความเชย่ี วชาญ นางวินิจ ไชยปัญญา มีองค์ความรู้และความเช่ียวชาญ ที่นาไปถ่ายทอดให้แก่ผู้เรียน และผู้ที่สนใจ โดยใช้กระบวนการถ่ายทอดความรู้ที่หลากหลาย เช่น การอธิบาย การสาธิต และให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติจริง ตามหัวข้อดงั ตอ่ ไปนี้ การแนะนาวัสดุอปุ กรณ์การจักสานไม้ไผ่ ข้ันตอนการเลือกไม้ไผ่ การตัดไม้ไผ่ การเหลา การสานและการจาหน่ายผลิตภัณฑ์ รายละเอียดองค์ความรู้ท่ี นางวินิจ ไชยปัญญา ถ่ายทอดองค์ความรู้แก่ ผู้เรยี นตามขั้นตอน การถ่ายทอดความรแู้ ละความเชยี่ วชาญ ขัน้ ตอนท่ี 1 การคัดเลือกไม้ไผ่ นาวสั ดุขา้ งตน้ มาคัดแยกแลว้ ตดั เป็นทอ่ นๆ ขน้ั ตอนท่ี 2 นาปลอ้ งไม้ไผม่ าตดั หัวท้าย ตัดเอาข้อออก ผ่าเป็นซีกทาเส้นตอก ขูดให้เรียบและบางตัด ไมไ้ ผ่ทมี่ ลี กั ษณะตรงไม่คดงอนามาเหลาเปน็ เส้นใหเ้ รยี บร้อย ขั้นตอนที่ 3 นาเส้นตอกท่ีไดม้ าสานเปน็ รูปร่างไม้ ขั้นตอนที่ 4 ตัดโคนไม้ไผใ่ ห้เสมอกนั ข้นั ตอนที่ 5 นาไม้ไผท่ ีส่ านมาใส่ขอบ ก้น ปาก ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยจังหวัดหนองบวั ลาภู

ลักษณะของเครอื ขา่ ยและการสร้างเครอื ข่าย นางวนิ ิจ ไชยปญั ญา มีเครอื ข่ายและวธิ ีสร้างเครือข่ายดงั น้ี 1. ร้านคา้ มารบั ถงึ ท่ี 2. สง่ ร้านค้า 3. ออกขายในและนอกพื้น ผลงานท่เี ป็นประโยชนต์ อ่ ชมุ ชนและสังคม 1. สามารถสร้างรายไดใ้ ห้กบั ครอบครัวเพื่อเพ่ิมรายไดแ้ ละลดรายจ่ายในครัวเรือน ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จังหวดั หนองบัวลาภู

ประวัติและผลงานครภู ูมิปัญญาทอ้ งถิ่น ตาบลนาคาไฮ อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู จงั หวัดหนองบวั ลาภู ด้าน ศิลปกรรม สาขา โบราณสถาน/ศาสนสถาน หอวงเวยี นใหญ่ ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวดั หนองบัวลาภู

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดหนองบวั ลาภู

หอวงเวียนใหญ่ ประวตั แิ ละผลงานครภู มู ปิ ญั ญาท้องถนิ่ จงั หวัดหนองบัวลาภู ดา้ น ศลิ ปกรรม สาขา โบราณสถาน/ศาสนสถาน ประวตั แิ ละผลงาน สถานท่ีท่องเที่ยวของบ้านนาคาไฮคือ หอวงเวียนใหญ่ ที่ถือเป็นศาลศักด์ิสิทธ์ิและเป็นสถานท่ียึด เหน่ียวจิตใจของชาวบ้านนาคาไฮ นอกจากวงเวียนใหญ่ แล้วท่ีบ้านนาคาไฮยังมีหลายสถานที่ ซ่ึงในตอนเช้า ชาวบ้านจะมารวมตัวใส่บาตรกันที่บริเวณนี้ กิจกรรมที่ชาวบ้านได้เตรียมไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวคือการเย่ียมชมศูนย์การเรียนรู้การผลิตผ้าทอ นักท่องเท่ียวท่ีแวะมาที่นี่จะได้ทดลองทอผ้าและได้ชมการทอผ้าแบบโบราณท่ีสามารถ หาดูได้แค่ท่ีน่ีท่ีเดียว นอกจากศูนย์เรียนรู้การทอผ้าแล้วนักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้วิธีการผลิตข้าวฮางงอกและน้าเต้าหู้ข้าวฮางงอก ท่ีอุดมไปด้วยสารอาหารอีกมากมาย และในทุกเช้าชาวบ้านจะพานักท่องเที่ยวไปตักบาตรที่หอวงเวียนใหญ่โดย ใส่ชุดผ้ามัดหมี่ผลิตภัณฑ์ข้ึนชื่อของบ้านนาคาไฮ องค์ความร้แู ละความเชยี่ วชาญ เป็นแหลง่ เรียนรู้โบราณสถาน/ศาสนสถาน แหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมประเพณีของคนท้องถ่ิน ชุมชน เป็นสถานท่ีรวมจิตรวมใจของประชาชน และเป็นท่ีฝึกอบรมธรรมะให้ประชาชนผู้ศรัทธาใน พระพุทธศาสนา การถา่ ยทอดความรูแ้ ละความเชย่ี วชาญ 1. ประวัตศิ าสตร์ 2. ศิลปะสถาปตั ยธรรม ศนู ยศ์ ลิ ปวัฒนธรรมเกย่ี วกบั ศาสนา 3. ประเพณีวัฒนธรรมทอ้ งถิน่ 4. สถานท่กี ราบไหว้และแห่งสถานปฏบิ ัตธิ รรม แหล่งโบราณสถาน ลกั ษณะของเครอื ขา่ ยและการสรา้ งเครอื ขา่ ย 1. แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วทางวฒั นธรรม 2. แหลง่ เรยี นรู้ศลิ ปะ แหล่งเรียนร้ใู นทอ้ งถ่ิน 3. สถานท่ีกราบไหว้และแหล่งสถานปฏิบัติธรรม แหล่งโบราณสถานและยังเป็นสถานท่ีศักดิ์สิทธิ์ ประกอบพิธที างศาสนา ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานกั งานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จังหวดั หนองบวั ลาภู

ผลงานทเ่ี ป็นประโยชนต์ อ่ ชมุ ชนและสงั คม เป็นโบราณสถานศาสนาและเป็นแหล่งเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีในท้องถิ่นสถานที่กราบไหว้ และแหลง่ ปฏบิ ัติธรรมประจาจังหวัดหนองบัวลาภู ชาวจังหวัดหนองบัวลาภูนับถือสักการะและปฏิบัติธรรมใน วันสาคัญตา่ งๆ ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานักงานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จงั หวัดหนองบัวลาภู

ประวตั แิ ละผลงานครูภมู ิปัญญาท้องถิ่น ตาบลหวั นา อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู จังหวัดหนองบวั ลาภู ดา้ น อุตสาหกรรมและหัตถรรม สาขา การทอผ้าพ้ืนเมือง นางบญุ ลอ้ ม ทมุ ชะ ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานักงานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยจงั หวัดหนองบวั ลาภู

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดหนองบวั ลาภู

นางบญุ ล้อม ทมุ ชะ ประวตั ปิ ระวตั แิ ละผลงานครภู มู ปิ ญั ญาทอ้ งถิน่ จงั หวดั หนองบวั ลาภู ด้าน อตุ สาหกรรมและหตั ถกรม สาขา การทอผ้าพนื้ เมือง ประวัตแิ ละผลงาน นางบญุ ลอ้ ม ทุมชะ เกิดเม่ือวันที่ 6 มกราคม 2511 เกิดท่ีบ้านเลขท่ี 89 หมู่ท่ี 3 ตาบลหัวนา อาเภอเมือง จงั หวัดหนองบวั ลาภู ปจั จุบันนางบญุ ล้อม ทุมชะ ประกอบอาชพี เกษตรกรรม โดยได้ใช้เวลาว่าง ศึกษาเก่ยี วกบั การทอผ้าและเรมิ่ ลงมอื ทาจนไดช้ ้ินงานทีม่ คี วามสวยงามหลากหลายจากน้ันจึงได้มีการรวมกลุ่ม เพื่อจัดทาเริ่มต้นจากสมาชิก 10 คน จนปัจจุบันมีสมาชิก 30 คน มีการจัดแสดงสินค้าตามที่หน่วยงาน ราชการจัดข้นึ มีออเดอร์จากคนในพน้ื ท่ี มกี ารคา้ ผ่านโซเชียล องค์ความรแู้ ละความเช่ยี วชาญ นางบุญล้อม ทุมชะ มีองค์ความรู้และความเช่ียวชาญด้านการทอผ้าเป็นอย่างดี มีการไปอบรมและ ศึกษาดูงาน พัฒนาตนเองและกลุ่มอยู่เสมอจึงทาให้เป็นท่ีต้องการของตลาด และความรู้ท่ีได้รับยังนาไป ถ่ายทอดให้แก่ผู้เรียนและผู้คนที่สนใจ โดยใช้กระบวนการถ่ายทอดความรู้ท่ีหลากหลาย เช่น การอธิบาย การสาธติ และใหผ้ เู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั จิ ริง การถา่ ยทอดความรแู้ ละความเชีย่ วชาญ นางบุญล้อม ทมุ ชะ ได้รับความไว้วางใจให้ไปเป็นวิทยากร ทั้งในระบบและนอกระบบยังรวมถึงคณะ ท่ีมาศกึ ษาดงู านมีการบรรยาย ถึงความสาคัญมีการสาธิตและนาสูก่ ารปฏบิ ัตจิ ริง ลกั ษณะของเครือขา่ ยและการสร้างเครอื ข่าย นางบุญล้อม ทมุ ชะ มตี าแหน่งเปน็ อสม. จึงมผี ูร้ ้จู ักและทางานร่วมกันอยู่หลายหน่วยงาน ในบางคร้ัง การเกิดงานชน้ิ ใหม่ๆ ก็เกิดขน้ึ จากประสบการณ์การแลกเปล่ียนกัน รู้จักกันมากหน้าหลายตา ก็ทาให้เกิดจาก ประสบการณ์ นางบญุ ลอ้ ม ทมุ ชะ มีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย 1. สานกั งานเกษตรอาเภอ 2. สานกั งานพัฒนาชุมชนอาเภอ 3. องค์การบรหิ ารสว่ นตาบลหัวนา 4. เทศบาลตาบลหวั นา 5. ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมืองหนองบวั ลาภู สานกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จงั หวดั หนองบัวลาภู

ผลงานทเ่ี ป็นประโยชน์ตอ่ ชุมชนและสงั คม นางบุญล้อม ทุมชะ เป็นคนที่ใฝุหาความรู้มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ มีความอดทน เสียสละ มลี กั ษณะพเิ ศษอีกอย่างคือใจเยน็ พร้อมรับมือกับทุกสิง่ ทุกอย่างด้วยความสุขุมรอบคอบ รางวลั หรือเกยี รติคุณที่ได้รบั 1. เกยี รติบตั ร จากพฒั นาชมุ ชน เปน็ วทิ ยากรการอบรมเชงิ ปฏิบัตกิ าร 2. เกยี รตบิ ตั ร จาก สานกั งาน กศน.จังหวัดหนองบวั ลาภู เปน็ วทิ ยากร ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จงั หวดั หนองบวั ลาภู

ประวัตแิ ละผลงานครูภมู ิปัญญาท้องถ่ิน ตาบลโนนขมิ้น อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู จังหวดั หนองบวั ลาภู ด้าน อตุ สาหกรรมและหัตถกรรม สาขา การทอผา้ ขดิ สลับหมี่ นางคาพอง ผางน้าคา ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวัดหนองบวั ลาภู

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดหนองบวั ลาภู

นางคาพอง ผางนา้ คา ประวัตแิ ละผลงานครภู ูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ จังหวดั หนองบวั ลาภู ด้าน อตุ สาหกรรมและหตั ถกรรม สาขา การทอผา้ ขิดสลบั หมี่ ประวัตชิ วี ติ และผลงาน นางคาพอง ผางนา้ คา เกดิ เมอื่ วนั ที่ 1 พ.ค. พ.ศ. 2504 เกิดทีบ่ า้ นใหม่แหลมทอง หมู่ที่ 7 ตาบลโนนขมิ้น อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จงั หวดั หนองบัวลาภู ก ลุ่ ม วิ ส า ห กิ จ ชุ ม ช น ก า ร ท อ ผ้ า ขิ ด ส ลั บ ห มี่ บ้ า น ใ ห ม่ แ ห ล ม ท อ ง ต า บ ล โ น น ข มิ้ น อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู จังหวดั หนองบวั ลาภู นางคาพอง ผางนา้ คา กลุ่มวิสาหกจิ ชมุ ชนการทอผา้ ขดิ สลับหมี่ มคี วามต้องการพัฒนาปรับปรุงผ้า ให้มีรปู แบบทส่ี วยงามยิง่ ขนึ้ องคค์ วามรู้ และความเชย่ี วชาญ นางคาพอง ผางน้าคา มีองค์ความรู้เชี่ยวชาญ ที่นาไปถ่ายทอดแก่ผู้เรียน และผู้คนท่ีสนใจ โดยใช้ กระบวนการถ่ายทอดความรู้ทีห่ ลากหลาย เช่น การอธิบาย การสาธิต และให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติจริง ตามหัวข้อ ดังต่อไปนี้ การแนะนาวัสดุอุปกรณ์การทอผ้าด้วยสีธรรมชาติ ข้ันตอนการทอผ้าด้วยสีธรรมชาติ และ การ จาหน่ายผลผลิต รายละเอียดองค์ความรู้ที่ นางคาพอง ผางน้าคา ถ่ายทอดองค์ความรู้แก่ผู้เรียนตาม ข้ันตอนดงั นี้ การเตรยี มวสั ดอุ ปุ กรณ์ 1. เส้นใยไหมพนื้ เมือง หรือ ไหมพนั ธุ์ สเี คมี หรือ สีวทิ ยาศาสตร์และนา้ 2. อุปกรณใ์ นการย้อมสไี หม ไดแ้ ก่ หม้อฟอกไหม หมอ้ ย้อมสี ไมพ้ าย เครื่องช่งั และเตา 3. เคร่ืองมือในการเตรยี มเส้นไหม คือ หลอด ฟมื ใน หลา อกั กระสวย เล็ง ไมส้ อด และตะกอลายขดิ 4. วสั ดุ อปุ กรณ์ในการทอ ได้แก่ กี่พ้ืนเมือง หรือ ก่ีมือ ฟืม เขาหูก ไม้ ม้วนผ้า ไม้สาหรับนั่งเวลาทอ คาน เหยยี บ คานแขวน กระสวย หลอดไหมพงุ่ เล็ง ไมล้ าย ไม้เกบ็ ขิด อกั หลา ไม้ตขี ิด ตะกอเก็บลาย และตัว อย่าง ลายขิดท่ตี ้องการจะเก็บลา กรรไกร ขน้ั ตอนการทอผ้า 1. การเตรียมเส้นไหม หม่ี ฝาู ย 2. การลอกกาวเส้นไหมทั้งเสน้ พ่งุ เส้นยนื โดยวธิ ีการใช้สารธรรมชาติ 3. การเตรียมฟืมทอผ้า 4. การยอ้ มเสน้ ไหมยนื 5. การเตรียมเส้นยืน ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จังหวัดหนองบวั ลาภู

6. การต่อเสน้ ยืน 7. การเตรียมเสน้ พงุ่ ท่ีทาการยอ้ มสีตา่ งๆ 8. การกรอเสน้ พุ่งเขา้ หลอด 9. การเก็บเขาลาย / การเกบ็ ตะกอลายขัด 10. การทอผา้ แพรวาแบบประยุกต์ ขนั้ ตอนการย้อมสีธรรมชาติ 1. การทาความสะอาดเสน้ ไหม/ เส้นฝาู ย กอ่ นการย้อม ก่อนท่จี ะนาเส้นไหม/ เส้นฝาู ย/ ผ้า ไปย้อมสี น้ัน ต้องกาจัดไขมัน สง่ิ สกปรก รวมทงั้ สารทเ่ี คลอื บติดเส้นด้ายออกไป เพราะสง่ิ เหลานท้ี าให้สยี อ้ มติดเสน้ ด้าย ไมด่ ี ซงึ่ เป็นสาเหตทุ ี่ทาให้ผ้าทอทข่ี อการรบั รอง 1.1 ไหม เสน้ ไหม คอื เส้นใยโปรตนี ธรรมชาติ ประกอบด้วยโปรตีน 2 ชนิด คือ ไฟโบรอนิ ซึ่งใช้ใน การทอเป็นผืนผ้า และกาวไหม เรียกว่า เซริซิน (Sericin) ทาหน้าท่ีเป็นกาวเคลือบเส้นไฟโบรอิน เป็นเส้นใย ตอ่ เนื่องจานวน 2 เสน้ ใหย้ ึดตดิ กัน นอกจากนน้ั ยงั มสี ่วนประกอบอ่นื ได้แก่ ไขมัน น้ามนั แร่ธาตุต่างๆ และสีท่ี ปรากฏตามธรรมชาติ การทาความสะอาดเพอ่ื ลอกกาวไหมหรอื การฟอกไหม หมายถงึ การทาความสะอาดเส้น ใยไหมด้วยการกาจัดส่วนของเซริซิน ท่ีมีลกั ษณะเปน็ สารสีเหลอื งทึบหรือสขี าว (ไหมดบิ มที ้ังสีเหลือง และสีขาว ขึ้นอยู่กับสายพันธ์ุ) ออกจากเส้นใยไหมเพื่อการเตรียมเส้นใยไหมก่อนท่ีจะนามาย้อมสีต่างๆ ซ่ึงถ้าไม่มีการ กาจัดสารดังกล่าวออก หากนามาย้อมจะทาให้ย้อมติดสีได้ยาก เส้นใยไหมที่ผ่านการลอกกาวจะมีลักษณะ สีขาว มนั วาว ออ่ นนมุ่ และสามารถย้อมติดสตี ่างๆ ได้ดี โดยการทาความสะอาดเส้นไหมมวี ิธีการ ดงั นี้ (1) เติมน้าลงหม้อประมาณ 30 ลิตร ใส่สบู่เทียม 150 กรัม (5 กรัม/ลิตร) และด่าง โซดาแอช (Na2CO3) 60 กรมั (2 กรมั /ลิตร) (2) ต้มน้าในหม้อยอ้ ม ให้น้ารอ้ นประมาณ 70 องศาเซลเซยี ส สังเกตผวิ นา้ ในหมอ้ เกิดไอนา้ เลก็ นอ้ ย (3) นาเส้นไหม 1 กโิ ลกรมั ใส่ลงในหมอ้ ต้ม กดไหมใหจ้ มนา้ (4) ค่อยๆ เพิ่มไฟ ให้อุณหภูมิเพ่ิมขึ้นประมาณ 95 องศาเซลเซียส จนถึงเดือด และต้มเส้นไหมนาน 1 ช่วั โมง (5) นาเส้นไหมข้ึนมาวางทิ้งไว้ เพื่อให้เย็นตัวลง ก่อนนาไปล้างโดยให้ล้างจากน้าอุ่นไปหาน้าเย็น (ล้างด้วยนา้ อุ่นที่ 60 องศาเซลเซียส ประมาณ 2-3 คร้ัง ก่อนนาไปล้างด้วยน้าเย็นอุณหภูมิห้อง) บิดหมาดๆ และกระตกุ ไหม 2-3 ครง้ั เพ่ือให้เสน้ ไหมเรียงตัว นาไปตากแห้ง เก็บไว้อย่าให้โดนฝุน ขั้นตอนการสบื หกู 1. นาเครอื ไหมทย่ี ้อมสเี สร็จแล้ว มากางเพื่อดึงให้เส้นไหมตงึ เทา่ กันจน 2. นาเครอื ไหมทีต่ ึงเท่ากันแล้วมาต่อใส่ฟืม โดยการผูกติดกับกกหูก ( กกหูก คือ ปมผ้าไหมเดิมท่ีทอ ตดิ ไว้กบั ฟมื โดยไมต่ ดั ออกเพือ่ ท่จี ะต่อเครือหกู ไวท้ อครั้งตอ่ ไป ) ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู สานักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จังหวัดหนองบัวลาภู

การถ่ายทอดความรู้ ความเชีย่ วชาญ นางคาพอง ผางน้าคา ถ่ายทอดความรู้การทอผ้าขิดสลับหมี่ ด้วยสีธรรมชาติ ผ่านการศึกษาให้กับ สมาชิกในกลุ่ม 1. การศกึ ษาในระบบ เปน็ วทิ ยากรถา่ ยทอดความรกู้ ารทอการทอผา้ ขิดสลบั หม่ี ด้วยสีธรรมชาติให้แก่ นักเรียนในโรงเรยี น 2. การศึกษานอกระบบ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้การทอผ้าขิดสลับหมี่ ด้วยสีธรรมชาติให้แก่ กศน.อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู ลกั ษะของเครือข่ายและการสร้างเครอื ขา่ ย นางคาพอง ผางน้าคา มเี ครือข่ายและมวี ิธีการสรา้ งเครือข่ายดงั นี้ 1. เครอื ข่ายภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย 2. สานกั งานเกษตรอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู 3. สานักงานพัฒนาชมุ ชนอาเภอเมืองหนองบวั ลาภู 4. ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู 5. องคก์ ารบริหารส่วนตาบลโนนขมน้ิ 6. กลุ่มเกษตรอาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู วิธีการสรา้ งเครอื ข่าย นางคาพอง ผางน้าคา มีวิธีการสร้างเครือข่ายโดยการไปเป็นวิทยากรการทอผ้าขิดสลับหมี่ด้วยสี ธรรมชาติ ตามหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนตลอดจนได้รับเชญิ ชวนใหผ้ ้สู นใจการทอการทอผ้าพื้นเมืองด้วย สีธรรมชาติ ไปศึกษาดูงานใน กลุ่มวิสาหกิจชุมชนการทอผ้าขิดสลับหม่ีด้วยสีธรรมชาติ และได้จัดทาแผ่นพับ เอกสารการทอการทอผ้าฃิดสลับหมี่ด้วยสีธรรมชาติ แจกจ่ายให้กับเครือข่าย และประชาชนผู้สนใจในอาชีพ การทอการทอผา้ ขิดสลับหม่ีดว้ ยสธี รรมชาติ อยา่ งต่อเนื่อง ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวดั หนองบวั ลาภู

ประวัติและผลงานครูภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิ่น ตาบลป่าไมง้ าม อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู จงั หวดั หนองบัวลาภู ด้าน อุตสาหกรรมและหัตถกรรม สาขา การทอพรมเชด็ เท้า นางอกั ขา ศิริวงษ์ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานักงานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จังหวัดหนองบัวลาภู

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดหนองบวั ลาภู

นางอกั ขา ศิริวงษ์ ประวตั แิ ละผลงานครภู ูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ จงั หวดั หนองบวั ลาภู ด้านเกษตรกรรม สาขา การทอพรมเชด็ เทา้ ประวตั ชิ วี ิตและผลงาน นางอักขา ศิริวงษ์ เกิดเมื่อวันท่ี 10 เมษายน 2521 เกิดท่ีบ้านโนนนาดี หมู่ท่ี5 ตาบลปุาไม้งาม อาเภอเมือง จงั หวัดหนองบวั ลาภู กลุ่มวิสาหกิจชุมชน การทาไม้กวาดทางมะพร้าว บ้านลาด ต.ปุาไม้งาม อ.เมือง จ.หนองบัวลาภู นางสะคร นาคศรี กลุ่มวิสาหกิจชุมชนการทอพรมเช็ดเท้า มีความต้องการพัฒนาปรับปรุงพรมเช็ดเท้าให้มี รปู แบบท่ีสวยงามยง่ิ ขึน้ องค์ความรู้ และความเช่ียวชาญ นางอักขา ศิริวงษ์ มีองค์ความรู้เชี่ยวชาญ ที่นาไปถ่ายทอดแก่ผู้เรียน และผู้คนที่สนใจ โดยใช้ กระบวนการถา่ ยทอดความรูท้ ี่หลากหลาย เช่น การอธิบาย การสาธิต และให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติจริง ตามหัวข้อ ดังต่อไปนี้ การแนะนาวัสดุอุปกรณ์การทอพรมเช็ดเท้า ขั้นตอนการทอพรมเช็ดเท้าและการจาหน่ายผลผลิต รายละเอียดองคค์ วามรู้ท่ี นางอกั ขา ศิรวิ งษ์ ถ่ายทอดองค์ความร้แู กผ่ ูเ้ รยี นตามข้ันตอนดงั น้ี การเลอื กใชเ้ ศษผา้ คอื คดั ผ้าเสน้ แยกสี ตัดแตง่ ใหม้ ีขนาดใกล้เคียงกนั ที่สุด การเตรยี มวสั ดุอุปกรณ์ 1. ตวั กี่ (เครือ่ งทอผ้า) 2. ดา้ ย 3. กรรไกร 4. ฟวิ เจอร์บอรด์ ขน้ั ตอนการทอพรมเช็ดเท้า 1. คดั ผา้ เสน้ /แยกส/ี ตัดแต่งใหม้ ขี นาดใกลเ้ คยี งกนั ท่สี ุด 2. ร้อยด้ายเข้ากับตัวกี่/จัดด้ายให้เข้าท่ีและให้เส้นด้ายตึงโดยขนาดความยาวของผ้าเส้นผ้าที่จะทอ ต้องเทา่ กัน 3. ทอเส้นผ้า ซงึ่ ผู้ทอต้องมคี วามชานาญหรือมพี ื้นฐานในเรือ่ งของการทอโดยสามารถเลอื กลวดลาย 4. นาฟิวเจอรบ์ อรด์ มาตัด ขนาดกว้างประมาณ 15 ซม. ยาวตามขนาดพรมเช็ดเท้า แล้วนาฟิวเจอร์ บอร์ดตามขนาดทตี่ ัดไว้แล้วมาสอดเข้ากบั ด้าย คนั้ ระหว่างพรมเช็ดเชด็ เท้าผืนท่ีทอเสรจ็ แลว้ 5. ทอพรมเช็ดเทา้ ผืนต่อไปตามลาดบั ข้นั ตอน 1 - 4 6. พอได้พรมเช็ดเท้าตามจานวนที่ต้องการ ตัดแต่งเส้นด้ายที่เป็นส่วนเกินให้เรียบร้อย สามารถ นาไปใช้งานและจาหน่ายได้ ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองหนองบวั ลาภู สานักงานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวัดหนองบัวลาภู

การถ่ายทอดความรู้ ความเชี่ยวชาญ นางอกั ขา ศิรวิ งษ์ ถา่ ยทอดความรกู้ ารทาไม้กวาดทางมะพร้าว ผา่ นการศึกษาใหก้ ับสมาชิกในกลุ่ม 1. การศึกษาในระบบ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้การทาไม้กวาดทางมะพร้าวให้แก่นักเรียนใน โรงเรยี น 2. การศกึ ษานอกระบบ เป็นวทิ ยากรถ่ายทอดความรู้การทาไม้กวาดทางมะพร้าวให้แก่ กศน.อาเภอ เมืองหนองบวั ลาภู ลักษะของเครอื ข่ายและการสร้างเครอื ข่าย นางอกั ขา ศริ วิ งษ์ มีเครือข่ายและมวี ธิ กี ารสร้างเครอื ข่ายดงั นี้ เครอื ข่ายภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย 1. สานักงานเกษตรอาเภอเมืองหนองบัวลาภู 2. สานกั งานพัฒนาชมุ ชนอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู 3. ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมืองหนองบัวลาภู 4. องคก์ ารบริหารสว่ นตาบลปาุ ไมง้ าม 5. กลุ่มเกษตรอาเภอเมืองหนองบัวลาภู วิธีการสรา้ งเครือขา่ ย นางอกั ขา ศิรวิ งษ์ มวี ิธกี ารสร้างเครอื ข่ายโดยการไปเป็นวิทยากรการทอพรมเช็ดเท้า ตามหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชนตลอดจนได้รับเชิญชวนให้ผู้สนใจการทอพรมเช็ดเท้าไปศึกษาดูงานใน กลุ่มวิสาหกิจ ชุมชนทอพรมเช็ดเท้า และได้จัดทาแผ่นพับ เอกสารการทอพรมเช็ดเท้า แจกจ่ายให้กับเครือข่าย และประชาชนผู้สนใจในอาชีพการทอพรมเช็ดเท้าอย่างต่อเน่อื ง ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวดั หนองบัวลาภู

ประวัติและผลงานภูมิปัญญาท้องถิ่น ตาบลหนองสวรรค์ อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู จงั หวัดหนองบัวลาภู ดา้ นเกษตรกรรม สาขา การปลูกต้นพะยงู นายทรงเดช บญุ อ้มุ ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จงั หวัดหนองบัวลาภู

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดหนองบวั ลาภู

นายทรงเดช บญุ อุ้ม ประวตั แิ ละผลงานภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ จงั หวดั หนองบวั ลาภู ด้านเกษตรกรรม สาขาการปลูกตน้ พะยงู ประวตั ิชวี ิตและผลงาน นายทรงเดช บุญอุ้ม อยู่บ้านเลขที่ 153 หมู่ท่ี 7 บ้านศิลามงคล ตาบลหนองสวรรค์ อาเภอเมือง หนองบัวลาภู จงั หวดั หนองบัวลาภู 39000 ซ่ึงเป็นประธานศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้า เกษตร (ศพก.) มีพื้นท่ีการเกษตรหลายแปลง รวมกันประมาณ 89 ไร่ มีอาชีพหลักคือ ทาการเกษตร โดยทาในรูปแบบไร่นาสวนผสม ได้แก่ ทานา 30 ไร่ ปลูกพืชผสมผสานหลายอย่าง ได้แก่ กล้วยหอมทอง 400 กอ กลว้ ยนา้ ว้า 600 กอ เพกา 130 ต้น มะพรา้ วนา้ หอมกวา่ 100 ต้น องคค์ วามร้แู ละความเชีย่ วชาญ เวลาน้ีหากจะเอ่ยถึงช่ือไม้ที่มีราคาแพงท่ีสุดในโลก เช่ือว่าท่านทั้งหลาย คงจะนึกถึง ไม้พะยูง รวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน ท้ังน้ีเน่ืองจาก ไม้พะยูง เป็นไม้เน้ือแข็ง เน้ือไม้มีสีสันและลวดลาย ท่สี วยงาม เป็นทต่ี อ้ งการของตลาดโลก โดยเฉพาะจีน สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน นาไปสู่ปัญหาการลักลอบตัดไม้ ภายในประเทศ ประกอบกับไม้พะยูงหายาก และเป็นไม้หวงห้าม “ปลูกได้แต่ตัดยาก” มีการประเมินกันว่า การลักลอบซือ้ ขายไม้พะยูงขณะน้ี ลูกบาศก์เมตรละ 200,000-600,000 บาท ถึงแม้การตัดใช้สอยหรือตัด จาหนา่ ยจะย่งุ ยากกต็ าม แตม่ ีเกษตรกรจานวนหนงึ่ ได้ปลกู ต้นพะยูงเพือ่ เปน็ การปลูกปุา สร้างความสมดุลทาง ธรรมชาตแิ ละเปน็ เงินออมแก่ตนเองหรอื ลกู หลาน โดยนายทรงเดช บุญอุ้ม ได้เร่ิมปลูกไม้พะยูง ตั้งแต่ ป 2537 พื้นที่ 2 ไร่ ใช้ระยะปลูก 2X4 เมตร (200 ต้น/ไร)่ ปลูกไมส้ ัก 5 ไร่ ใช้ระยะปลกู 2X4 เมตร โดยกรมปุาไม้ไดส้ นับสนุนต้นกล้าไม้และเงิน 3,000 บาท ตอ่ ไร่ แบ่งจา่ ย 5 ป ต่อมาเหน็ ว่า ไมพ้ ะยูง โตเร็วและมมี ูลคา่ สูง ตลาดต้องการสูง น่าจะเป็นการออมเงิน ท่ีมีมูลค่าสูงไว้ให้ลูกหลาน จึงได้ปลูกมากขึ้น ในป 2557-2558 โดยการสนับสนุนของกรมปุาไม้ 3,000 บาท/ไร่ แตค่ ราวนแี้ บ่งจ่าย 3 ป โดยใช้ระยะปลกู 2X2 เมตร (400 ต้น/ไร)่ เต็มพ้นื ท่ี 49 ไร่ วธิ กี ารปลกู การดแู ลรักษา เริ่มจากไถเตรียมดิน จากน้ันเกล่ียหน้าดินให้เรียบ แล้วปลูกเหมือนกับการปลูกปุาท่ัวไป ขดุ หลุมเท่าขนาดถงุ กล้าไม้ ไมไ่ ด้ขดุ หลุมใหญ่เหมือนกบั การปลกู ไม้ผลแตอ่ ยา่ งใด โดยใช้ระยะปลูก 2X2 เมตร ปลูกฤดูฝน ถ้าฝนตกก็ไม่ต้องให้น้า หลังปลูก 1 เดือน ให้ใส่ปุ๋ย สูตร 15-15-15 อัตรา ต้นละ 1 ช้อนแกง และใส่อกี ครัง้ ปลายฤดฝู นในช่วงสงิ หาคมถึงกนั ยายน เมือ่ เขา้ สูฤ่ ดูแลง้ หากมกี ารปลูกพืชแซมในชอ่ งวา่ งระหว่าง แถว จะทาให้มีรายได้เพ่ิม เป็นการให้น้าแก่ไม้พะยูงไปในตัวด้วย พืชที่ปลูก ได้แก่ ถั่วลิสง 10 ไร่ ปอเทอื ง 22 ไร่ ปลกู หญ้าเนเปยร์ 2 ไร่ และข้าวโพดข้าวเหนียวจากน้ันก็ย้ายไปปลูกแปลงอื่นๆ ต่อไป คือให้ ไม้พะยูงไดร้ บั นา้ ด้วยเช่นกัน จะทาให้เรามีรายได้หมนุ เวียนตลอดป และจากการสังเกตพบว่า หากพะยูงได้รับ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจงั หวัดหนองบวั ลาภู

น้าในชว่ งฤดูแลง้ ภายใน 2-3 ป จะมีการเจริญเตบิ โตดีมาก แต่ก็ทาไดเ้ พยี งไมก่ ไ่ี ร่ และจากการสังเกตหากให้น้า ฤดูแล้งดว้ ยสัก 2-3 ปแรก เมอ่ื อายุ 20 ป จะได้ขนาดโตพอๆ กบั ปลกู แบบอาศยั นา้ ฝนอย่างเดียว 25 ป “ตน้ พะยูงทีป่ ลูก ป 2537 ขณะนป้ี ระมาณ 23 ป จานวน 400 ตน้ แต่ละต้นน่าจะได้ไม่ต่ากว่าคร่ึงลูกบาศก์ เมตร หากประเมนิ ลูกบาศก์เมตรละ 200,000 บาท (ข้ันตา่ ) พะยูงจะมีมูลค่า ต้นละ 100,000 บาท จึงขอ เชญิ ชวนพี่น้องเกษตรกรมาปลกู กันใหเ้ ยอะ ๆ เพราะขณะน้ีกรมปาุ ไม้กาลงั หาแนวทางแก้ไขระเบียบเพื่อให้ตัด ขายได้ง่ายข้นึ ” นายทรงเดช บุญอุม้ กล่าว สาหรับตน้ ไม้ทป่ี ลูกในท่ีดนิ กรรมสิทธ์ิหรือสิทธคิ รอบครอง ไม่ว่าจะเป็นไม้สัก ไม้ยางนา ไม้พะยูง หรือ ไมห้ วงห้ามอื่น ๆ สามารถนาไปขึน้ ทะเบียนสวนปุาตามพระราชบัญญตั ิสวนปาุ พ.ศ. 2535 หรือแก้ไขเพ่ิมเติม เพอ่ื ความสะดวกในการแจ้งตัดฟัน ทาไมเ้ พื่อใชส้ อยสว่ นตวั หรือเพอื่ การคา้ ได้ ซ่ึงในปัจจบุ ัน ทางกรมปุาไม้ กาลังปรับปรุงกฎหมายเพ่ืออานวยความสะดวกให้เจ้าของพ้ืนท่ีท่ีปลูกต้นไม้หวง หา้ มในทดี่ นิ ของตนเองสามารถตัดฟนั แปรรูปได้ โดยไมย่ งุ่ ยากในข้ันตอนการขออนุญาต ซ่ึงจะทาให้ประชาชน ให้ความสนใจในการปลูกไม้เศรษฐกิจเพื่อการค้า ประชาชนจะสามารถออมเงินออมทรัพย์ในรูปของต้นไม้ ได้มากขนึ้ ซ่ึงกรมปาุ ไม้มีโครงการส่งเสริมหลายรูปแบบ ท้ังการสนับสนุนกล้าไม้ ความรู้ทางวิชาการ และเงิน อุดหนนุ ต่าง ๆ จะเหน็ วา่ การปลูกไมพ้ ะยงู เป็นไมเ้ ศรษฐกิจและเพ่ือการค้า คงจะเป็นจริงในไม่ช้าน้ี ประกอบ กับไม้พะยูงเป็นพันธ์ุไม้พระราชทานปลูกเป็นมงคลประจาจังหวัดหนองบัวลาภู ดังน้ัน จึงขอเชิญชวนท่าน ทั้งหลายใชโ้ อกาสน้ปี ลูกไม้พะยงู เพอื่ เป็นการออมเงนิ ไวใ้ นไร่นา ทาเร็วราคาดกี ว่า ทาชา้ ราคาอาจตก การถา่ ยทอดความรแู้ ละความเชยี่ วชาญ 1. เพอื่ อนรุ ักษ์และสืบสานใหม้ รดกภูมิปญั ญาทางการเกษตรแบบผสมผสานให้คงอยูส่ บื ไป 2. เพ่ือสร้างอาชีพให้คนในชมุ ชน ทาให้มอี าชพี เสรมิ สรา้ งรายไดเ้ พ่ิมขน้ึ ลักษณะของเครือข่ายและการสรา้ งเครือขา่ ย 1. แหล่งท่องเทยี่ วทางการเกษตร 2. แหล่งเรยี นรู้ในทอ้ งถน่ิ 3. เปน็ สถานทีศ่ กึ ษาดูงาน และเผยแพร่องคค์ วามรู้ ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถิน่ ผลงานทเี่ ป็นประโยชน์ตอ่ ชมุ ชนและสังคม เปน็ การอนุรกั ษ์และสืบสานให้มรดกภูมิปัญญาทางการเกษตรแบบผสมผสานให้คงอยู่สืบไปและเป็น แหลง่ ทอ่ งเท่ยี วทางการเกษตร เป็นสถานท่ีศกึ ษาดงู าน และเผยแพรอ่ งค์ความรู้ ภูมปิ ัญญาทอ้ งถิน่ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู สานกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจังหวัดหนองบวั ลาภู

ประวัตแิ ละผลงานครูภมู ิปัญญาท้องถ่ิน ตาบลบา้ นพร้าว อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู จังหวัดหนองบวั ลาภู ด้าน เกษตรกรรม สาขา การปลูกเหด็ ฟาง นายอมั รนิ ทร์ สสี ะทา้ น ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจงั หวัดหนองบวั ลาภู

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดหนองบวั ลาภู

นายอัมรนิ ทร์ สสี ะทา้ น ประวัตแิ ละผลงานครภู มู ปิ ญั ญาท้องถน่ิ จงั หวัดหนองบัวลาภู ด้าน เกษตรกรรม สาขา การปลกู เหด็ ฟาง ประวัตชิ วี ิตและผลงาน นายอมั รินทร์ สีสะท้าน เกิดเม่ือวันท่ี 10 ธันวาคม 2506 หมู่ท่ี 15 ตาบลบ้านพร้าว อาเภอเมือง จังหวัดหนองบวั ลาภู กลุ่มวิสาหกิจชุมชน การปลูกเห็ดฟาง ต.บ้านพร้าว อ.เมือง จ.หนองบัวลาภู อัมรินทร์ สีสะท้าน ประธานกล่มุ วิสาหกจิ ชมุ ชนการทามีความต้องการพัฒนาสูตรการปลกู เหด็ นางฟาง องค์ความรู้ และความเชย่ี วชาญ นายอัมรินทร์ สีสะท้าน มีองค์ความรู้เชี่ยวชาญ ที่นาไปถ่ายทอดแก่ผู้เรียนและผู้คนท่ีสนใจ โดยใช้ กระบวนการถ่ายทอดความรู้ทหี่ ลากหลาย เช่น การอธิบาย การสาธิต และให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติจริง ตามหัวข้อ ดังต่อไปน้ี การแนะนาวสั ดุอุปกรณก์ ารปลกู เหด็ นางฟาง ขนั้ ตอนการทาการปลูกเห็ดนางฟางและการจาหน่าย ผลผลิต รายละเอียดองคค์ วามรู้ที่ นายดวงจันทร์ พลนอก ถ่ายทอดองค์ความรแู้ กผ่ ูเ้ รียนตามข้นั ตอนดังน้ี 1. การเตรียมโรงเรือนสาหรบั เพาะเหด็ ฟาง สาหรบั โรงเรือนเพาะเห็ดฟางน้ันควรมีขนาด 2 x 15 x 2 (กว้าง x ยาว x สูง) เมตร ซึ่งจะวางก้อน เชอื้ เหด็ นางรม และเหด็ ฟางได้ประมาณ 4,000 ก้อน โรงเรอื นควรเปน็ แบบท่ีสร้างง่าย ลงทุนน้อย และวัสดุที่ จะนามาสรา้ งเปน็ โรงเรอื นนนั้ จะตอ้ งหางา่ ยทีม่ ีอยู่ในทอ้ งถิ่น เป็นวัสดุท่ีมาจากธรรมชาติ เช่น ฟาง, หญ้าแฝก, ไมไ้ ผ่ เปน็ ตน้ สาหรบั การสรา้ งโรงเรือนใหเ้ หมาะสมนัน้ ควรสร้างในท่ีเย็นชื้นและสะอาดปราศจากศัตรูของเห็ด ที่จะเข้ามารบกวน หลังคามุงจากหรือแฝก แล้วคลุมทับด้วยสะแลนอีก 1 ช้ิน การคลุมหลังคาขึ้นอยู่กับชนิด ของเหด็ ด้วย เพ่ือปูองกันลม ลมแรง ลมคอ่ ย ลมหนาว ลมแหง้ แลง้ สภาพลม สภาพอากาศ มผี ลกระทบต่อการ ออกดอกของเห็ดได้เช่นเดียวกัน ปิดประตูด้วยกระสอบปุานหรือแผ่นยาง ปูพื้นด้วยทราย เพ่ือเก็บความช้ืน ทศิ ทางลม ก้อมสี ่วนสาคญั ในการโรงเพาะเห็ด ต้องดูทิศทางของลมเหนือลมใต้ เพื่อปูองกันการพัดพาเชื้อโรค ทจ่ี ะมีผลต่อก้อนเหด็ และการออกดอกของเหด็ การสร้างโรงเรือนเพาะเห็ดฟางขนาด 2 x 15 x 2 มีท้ังหมด 4 ด้านด้วยกัน ซ่ึงแต่ละด้านสามารถ เก็บก้อนเชื้อเห็ดนางรม และเห็ดฟางได้ถึง 1,000 ก้อน ซ่ึงการทาโรงเรือนในลักษณะน้ี ใช้พ้ืนที่รวมแล้วแค่ ประมาณ 60 ตารางเมตรเท่านั้น วัสดุในการทางานก็ใช้ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ เช่น ไม้ไผ่ ไม้ยูคาหรืออ่ืน ๆ ตวั เสาก็อาจจะใช้ไม้ทม่ี ีขนาดใหญ่เพื่อความแข็งแรงของโรงเรือน หลังคาก็ใช้หญ้าแฝก ซ่ึงเป็นวัสดุท่ีเหมาะกับ การทาโรงเรือนเป็นอย่างดี เนื่องจากสามารถกักเก็บความร้อนชื้นได้ดี เป็นภูมิอากาศที่เห็ดนางรม และเห็ด นางฟาู ชอบ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานักงานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยจงั หวดั หนองบัวลาภู