Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กิจกรรมที่ 4 บัญฑิต

กิจกรรมที่ 4 บัญฑิต

Published by bandit bunknet, 2021-02-20 02:31:34

Description: กิจกรรมที่ 4 บัญฑิต

Search

Read the Text Version

บทเรียนมอดูล เรื่อง เกยี ร์โอเวอรไ์ ดรฟ์ ช่อื วชิ า งานสง่ กาลงั รถยนต์ รหสั วชิ า 21010 -2004 ผูจ้ ัดทา นายบัญฑติ บญุ เขตร์ แผนกวิชาช่างยนต์ วทิ ยาลัยเสริมทักษะพระภิกษุ สามเณร

ก คานา บทเรียนมอดลู เรือ่ ง เกยี รโ์ อเวอรไ์ ดรฟ์ ฉบับน้ี ข้าพเจ้าเรียบเรยี งขนึ้ เพื่อใช้ประกอบการเรยี นการสอนใน รายวิชา งานสง่ กาลังรถยนต์ รหสั วิชา 210101 – 2004 โดยพยายามเขียนให้นักเรยี นเข้าใจง่าย นกั เรียนสามารถ ศกึ ษาได้ด้วยตนเอง และยังไดเ้ พ่ิมเติมเนอ้ื หาบางตอนเพอ่ื ช่วยเสริมความร้คู วามเขา้ ใจแกน่ ักเรยี น นอกจากนย้ี งั ได้ เพมิ่ ใบกิจกรรมเสริมใหน้ กั เรยี นมปี ระสบการณ์กว้าขวางยิ่งขน้ึ บทเรยี นมอดลู ชุดนี้มีจดุ ประสงคเ์ พือ่ ให้นักเรยี นได้ศึกษาเก่ยี วกับสว่ นประกอบของชดุ แพลนนิทารเี กียร์ กลไกฟรวี ลิ ลงิ่ การทางานของชดุ เกยี ร์ตาแหน่งการเลือ่ นเข้าโอเวอรไ์ ดรฟ์ รวมถึงงานถอดและงานตรวจสภาพเกียร์ โอเวอร์ไดรฟ์ ภายในมอดูลเลม่ นี้ประกอบดว้ ย คาชแี้ จงในการใชม้ อดูลสาหรับนักเรยี น จุดประสงค์การเรยี นรู้ แบบทดสอบกอ่ นเรียน เนือ้ หา ใบกิจกรรม แบบทดสอบหลงั เรียน และเฉลยแบบทดสอบ บทเรยี นมอดูลนนี้ ักเรยี น สามารถศกึ ษาคน้ ควา้ ไดด้ ว้ ยตนเองและเรยี นรูร้ ่วมกันเปน็ กลุ่มเล็ก ๆ ผู้จดั ทาหวังเปน็ อยา่ งยงิ่ ว่าบทเรียนมอดูลชดุ นี้จะช่วยให้นกั เรียนๆได้รบั ความรู้ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั บทเรียนมากยง่ิ ขน้ึ และส่งผลให้ผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นดขี ้นึ อย่างไรก็ตามในบทเรียนมอดูลเล่มน้ีอาจมีจุดที่ บกพร่องผิดพลาด ขอใหท้ า่ นผอู้ ่านโปรดแจ้งให้ข้าพเจา้ รับทราบดว้ ยจะขอบพระคณุ เปน็ อย่างย่ิง ขา้ พเจา้ ยินดีรับ ฟังความคิดเห็นและขอ้ เสนอแนะจากท่าน และพรอ้ มทจ่ี ะนามาแก้ไขปรับปรุงมอดลู เลม่ น้ใี ห้มคี วามสมบรู ณ์และ ถูกตอ้ ง บญั ฑติ บญุ เขตร์ ผจู้ ดั ทา

ข สารบัญ คานา…………………………………………………………………………………………………………………………………… หน้า สารบญั ………………………………………………………………………………………………………………………………… ก คาชี้แจงในการใช้มอดูลสาหรบั นกั เรยี น…………………………………………………………………………………… ข จุดประสงค์การเรยี นรู้……………………………………………………………………………………………………………. 1 แบบทดสอบก่อนเรียน…………………………………………………………………………………………………………… 2 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น…………………………………………………………………………………………………... 3 ใบความรู้ท่ี 1....................................................................................................................................... 4 ใบกิจกรรมที่ 1.................................................................................................................................... 5 ใบความรทู้ ่ี 2...................................................................................................................................... 19 ใบกิจกรรมท่ี 2.................................................................................................................................... 20 ใบกจิ กรรมท่ี 3.................................................................................................................................... 28 แบบทดสอบหลงั เรียน......................................................................................................................... 33 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น................................................................................................................. 34 35

คาช้ีแจงในการใชม้ อดูลสาหรับนกั เรยี น การใช้บทเรียนมอดูลให้เกิดประสิทธภิ าพต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนไดอ้ ยา่ งสงู สุด นักเรยี นควร ปฏบิ ตั ดิ งั นี้ 1. การเตรยี มตัวของนกั เรยี น 1.1 ศกึ ษาบทเรียนมอดูลลว่ งหน้ากอ่ นจะปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆ เพอ่ื ให้มีความร้คู วาม เข้าใจเกี่ยวกบั จุดประสงค์ วัสดอุ ุปกรณ์ และเครอื่ งมือตา่ งๆ เพือ่ ให้ทากจิ กรรมไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ประหยัดเวลา และ ปลอดภยั 1.2 วางแผน และจดั เตรียมอปุ กรณท์ ี่ใชป้ ระกอบการเรียนรู้ของตนเองใหพ้ ร้อมสาหรับ การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามทไี่ ด้รบั มอบหมาย 2. ดาเนนิ การจดั กิจกรรมในแต่ละครงั้ นกั เรียนควรปฏิบัติ ดังน้ี 2.1 ศกึ ษาแนวทางในการปฏิบตั ิกจิ กรรมให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ หากพลปญั หาหรือไม่ เข้าใจใหส้ อบถามข้อมูลเพม่ิ เติมจากครู 2.1.1 นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน 2.2.2 นักเรียนศกึ ษาและปฏบิ ัติกิจกรรมตา่ งๆ ตามแนวทางการจัดกจิ กรรมการ เรียนรตู้ ามลาดบั ขัน้ ตอนท่กี าหนด 2.2.3 นกั เรยี นส่งผลงานหรอื ชิ้นงานในการปฏบิ ตั ิกิจกรรม มสี ว่ นรว่ มในการนาเสนอ ผลงานหรืออภิปรายความรู้ 2.2.4 นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น 1

จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. ดา้ นความรู้ 1.1 บอกส่วนประกอบของชดุ แพลนนทิ ารเี กยี รไ์ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 1.2 บอกสว่ นประกอบของกลไกฟรวี ิลลง่ิ ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง 1.3 อธิบายการทางานของชดุ เกยี รต์ าแหน่งการเล่ือนเขา้ โอเวอร์ไดรฟ์ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง 2. ด้านทักษะ 2.1 สามารถปฏิบตั ิงานถอดเกียร์โอเวอร์ไดรฟไ์ ดอ้ ย่างถูกต้อง 2.2 สามารถปฏิบัตงิ านตรวจสภาพเกียร์โอเวอร์ไดรฟ์ได้อยา่ งถูกต้อง 2.3 วดั ผลเปรยี บเทยี บสภาพเกยี ร์โอเวอรไ์ ดรฟ์ได้อยา่ งถูกตอ้ ง 3. ดา้ นคณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ 3.1 ปฏิบัติงานดว้ ยความมวี ินยั ตรงต่อเวลา คานึงถงึ ความปลอดภัยในการทางาน 3.2 มเี จตคตทิ ี่ดีในการรกั ษาความสะอาด 2

แบบทดสอบกอ่ นเรียน 1. ชดุ เกยี รโ์ อเวอรไ์ ดรฟ์ซึง่ เป็นอุปกรณ์พเิ ศษทต่ี ิดต้ังกบั รถยนตท์ าหนา้ ท่ี ................................................................................................................................................................................ 2. ปจั จุบนั เกยี รโ์ อเวอร์ไดรฟ์นิยมใชก้ บั รถยนตท์ ่ใี ชเ้ กียรแ์ บบ ................................................................................................................................................................................. 3. ตามปกตแิ ลว้ เกยี ร์โอเวอร์ไดรฟ์จะทางานท่คี วามเร็วของรถทีต่ ้ังไวท้ ่ีความเร็ว..........ถึง..........กิโลเมตรตอ่ ชัว่ โมง 4. อปุ กรณ์ควบคุมการทางานของเกียรโ์ อเวอร์ไดรฟ์มีอยู่ 2 แบบคือ .................................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. 5. ชดุ แพลนนทิ ารีเกยี ร์ในเกียรโ์ อเวอรไ์ ดรฟป์ ระกอบดว้ ย ................................................................................................................................................................................. 6. กลไกฟรีวีลลง่ิ ทาหน้าที.่ ....................................................................................................................................... 7. การปลดโอเวอร์ไดรฟ์ออกสามารถกระทาได้โดย............................................................................................... 8. คิกดาวนส์ วิตช์ทาหน้าที่....................................................................................................................................... 9. ก้านลอ็ คหรอื เดอื ยลอ็ คซนั เกยี ร์ทาหนา้ ท.่ี ............................................................................................................ 10. การเลอื่ นเขา้ เกยี รโ์ อเวอรไ์ ดรฟจ์ ะต้องใชค้ วามเรว็ ของรถยนต.์ ............ถึง.............กโิ ลเมตรตอ่ ชวั่ โมง 3

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 1. เพิม่ ความเร็วให้กับเพลาส่งกาลงั ให้มีความเร็วท่ีมากกวา่ ความเรว็ ของเพลาคลตั ช์ 2. เกยี รอ์ ัตโนมัติ 3. 48 ถงึ 50 กโิ ลเมตรต่อชว่ั โมง 4. แบบกัฟเวอรเ์ นอร์ และการควบคุมแบบไฟฟ้า 5. รงิ เกยี ร์ พีเนียนเกียร์ 6. เชอ่ื มตอ่ การทางานระหว่างเพลาสองเพลา 7. เหยยี บคันเร่ง 8. ตดั การทางานในชว่ งการขับเคลอื่ นชั่วขณะ 9. ล็อคซันเกยี รไ์ ม่ใหห้ มนุ ไปในทิศทางสวนทางกนั 10. 25 ถึง 30 กโิ ลเมตรตอ่ ช่วั โมง 4

ใบความรู้ท่ี 1 สาหรบั รถยนตน์ ั่งท่ีใชก้ ระปกุ เกียร์แบบธรรมดา ความต้องการท่ีจะใชต้ าแหนง่ ของเกียร์สูงสดุ หรือตาแหนง่ ท่ขี บั โดยตรง อัตราทดของเกียรร์ ะหว่างเพลาคลัตช์และเพลาสง่ กาลงั จะตอ้ งมีอัตราทดเป็น 1 ต่อ 1 ซ่งึ อัตราทดของ เพลาทั้งสองจะเกิดขนึ้ ในช่วงความเร็วของรถปลานกลางหรือที่ความเร็วสูง แตอ่ ย่างไรกต็ าม การทจ่ี ะตอ้ งทาให้ อตั ราทดของเพลาท้ังสองดขี ้ึนไดน้ ้ัน การถา่ ยทอดการส่งกาลงั ของเพลาสง่ กาลงั จึงตอ้ งหมนุ ด้วยความเร็วรอบท่ีเร็ว กวา่ เพลาคลัตช์ ซ่งึ กจ็ ะช่วยลดความเร็วของเคร่อื งยนตท์ ่ีความเร็วสงู ให้ลดลง เปน็ การลดการทางานของเคร่ืองยนต์ และลดการสึกหรอให้นอ้ ยลงอกี ด้วย ด้วยเหตุนบ้ี ริษัทผู้ผลติ รถยนต์จึงต้องเพมิ่ ชดุ เกยี ร์โอเวอร์ไดรฟ์ให้เป็นอุปกรณ์พเิ ศษท่ีตดิ ต้งั ใหก้ บั รถยนต์ ดงั นัน้ ชุดเกยี รโ์ อเวอร์ไดรฟจ์ งึ ทาหนา้ ทเี่ พมิ่ ความเร็วใหก้ ับเพลาสง่ กาลังใหม้ ีความเรว็ ทมี่ ากกว่าความเร็วของเพลา คลัตช์ แม้ว่าอัตราทดของเกียรจ์ ะมีความแตกตา่ งกันตามแบบของรถในแต่ละแบบก็ตาม ชดุ เกียร์โอเวอร์ไดรฟ์จะ ชว่ ยลดรอบของเครอ่ื งยนต์ไดป้ ระมาณ 3. ถึง 35 เปอรเ์ ซ็นต์ แตจ่ ะไม่ทาให้ความเรว็ ของรถยนต์ถูกลดลงตามไป ด้วย เช่น เม่ือรถว่งิ ด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วรอบของเครอ่ื งยนต์ประมาณ 2,300 รอบต่อนาที แต่เมือ่ ใช้เกยี ร์โอเวอรไ์ ดรฟ์ จะทาใหร้ อบของเครื่องยนตล์ ดลงเหลอื 1,500 รอบต่อนาที แต่ความเร็วของรถก็ยัง คงท่ีที่ 60 กิโลเมตรต่อชัว่ โมง ในปัจจบุ ันชดุ เกยี รโ์ อเวอร์ไดรฟน์ ิยมใช้กบั รถยนตท์ ใ่ี ช้เกียร์อัตโนมตั ิเท่าน้นั โดยท่ีมนั จะทางานกต็ ่อเมื่อ ความเร็วของรถถงึ ระดบั ความเรว็ ท่ีตัง้ ไว้ ซึ่งตามปกตแิ ลว้ ความเรว็ จะถุกตงั้ ไว้ทคี่ วามเรว็ 48 ถึง 50 กโิ ลเมตรต่อ ช่วั โมง ทช่ี ุดเกียร์โอเวอรไ์ ดรฟ์จะมกี ลไกสาหรบั เลือกใชต้ าแนง่ เกยี ร์สูงสดุ เพ่ือให้ผขู้ ับข่สี ามารถเล่อื นเกียรโ์ อเวอร์ ไดรฟ์ได้ หรอื เพยี งแตผ่ ูข้ บั ขรี่ ถยนตผ์ ่อนคนั เร่งเท่านั้น แต่เมอื่ ต้องการปลดเกยี รโ์ อเวอรไ์ ดรฟ์ออก ก็สามารถกระทา ไดโ้ ดยการเหยียบแป้นคนั แร่ง ซงึ่ มสี วติ ช์ไฟฟา้ ควบคุมการเล่ือนเข้าทางานของเกียร์โอเวอรไ์ ดรฟ์ มันจะเล่อื นออก จากการเขา้ เกยี รโ์ อเวอรไ์ ดรฟ์ทันที ดังแสดงในรูปที่ 4.1 ซงึ่ เปน็ ภาพตดั แสดงกระปุกเกียรธ์ รรมดา 3 ความเรว็ ทม่ี ี ชุดเกยี ร์โอเวอรไ์ ดรฟ์ตดิ ตั้งอยูด่ า้ นหลงั 5

รปู ท่ี 4.1 แสดงกระปกุ เกยี ร์แบบ 3 ความเรว็ ภายในชุดเกยี ร์โอเวอรไ์ ดรฟ์จะมอี ปุ กรณท์ ่ที าหน้าท่ีควบคุมการทางานของเกียรอ์ ยู่ 2 แบบก็คอื แบบกฟั เวอร์ เนอร์หรอื แบบกลไก และการควบคมุ ดว้ ยไฟฟา้ ซ่ึงท้งั สองแบบนี้จะทางานโดยปลดโอเวอรไ์ ดรฟ์ออกในขณะที่มี ความเรว็ ทส่ี งู กว่าความเรว็ ทีก่ าหนดไว้ ดังแสดงในรปู ท่ี 4.2 รปู ที่ 4.2 กัฟเวอรเ์ นอรค์ วบคุมการทางานของเกียร์โอเวอรไ์ ดรฟ์ 6

1. ส่วนประกอบของเกยี ร์โอเวอร์ไดรฟ์ ชดุ เกียร์โอเวอร์ไดรฟจ์ ะประกอบดว้ ยส่วนทสี่ าคญั 2 ส่วนด้วยกนั ก็คอื ชุดแพลนนทิ ารีเกียร์ และชุดกลไกฟรี วลี ลิ่งและกลไกควบคมุ การทางาน 1.1 ชุดแพลนนิทารเี กยี ร์ (Planetary Gear Unit) ชุดแพลนนทิ ารีเกยี รท์ ่ใี ช้กบั เกียรโ์ อเวอร์ไดรฟแ์ ละเกยี รอ์ ตั โนมัตินั้นประกอบดว้ ยรงิ เกียรห์ รอื เฟอื งใน และพินเนียนเกียรท์ ปี่ ระกอบด้วยเฟอื งสามตัวทถ่ี ูกยดึ ด้วยเพลาอยู่ภายในตวั เรือนแครเิ ออร์ โดยจะเคลือ่ นทไี่ ป รอบๆ ซนั เกยี ร์ ดงั แสดงในรปู ท่ี 4.3 รปู ที่ 4.3 สว่ นประกอบของแพลนนทิ ารเี กยี ร์ การทางาน ชุดเฟอื งในแพลนนิทารีเกยี รท์ ปี่ ระกอบด้วยซนั เกยี ร์ พเี นยี นเกยี ร์ และรงิ เกียร์ รปู ลักษณะของ การทางานในการถ่ายทอดกาลังจะกระทาไดโ้ ดยการยดึ ส่วนใดสว่ นหน่งึ ดงั กล่าวใหอ้ ยกู่ ับท่ี และให้ส่วนอ่ืนหมุน เคล่อื นที่ จะกล่าวถึงการทางานดังตอ่ ไปนี้ 1) ลดความเรว็ เม่อื ยดึ ซนั เกยี รใ์ หอ้ ยู่กบั ที่ ริงเกยี รจ์ ะเป็นชุดขบั เคลอ่ื นหมุนไปในทิศทางตามเข็มนาฬิกา ซง่ึ จะทาให้พเี นียนเกียรห์ มนุ เคล่อื นท่ไี ปรอบๆ ซันเกยี รช์ า้ ลง ด้วยเหตุนกี้ ารหมนุ ของชดุ แพลนนิทารเี กียรจ์ งึ มี ความเรว็ ลดลง ดงั แสดงในรูปที่ 4.4 7

รูปท่ี 4.4 การทางานของแพลนนิทารีเกยี รเ์ มือ่ มีความเร็วลดลง 2) การเพม่ิ ความเรว็ โดยการยดึ วันเกยี ร์ใหอ้ ยกู่ บั ท่ี ชุดแครเิ ออรจ์ ะเป็นหน่วยขับหมุนเคลื่อนท่ไี ปตามเขม็ นาฬิกา ทาให้พเี นียนเกียรห์ มนุ เคลอ่ื นทไี่ ปรอบๆ ซนั เกียร์ ดังนนั้ รงิ เกยี ร์ก็จะหมนุ เคล่อื นทีต่ าม ทาใหม้ คี วามเรว็ เพิ่มมากขนึ้ เป็นสาเหตใุ ห้ความเรว็ ของชุดแพลนนิทารเี กยี รน์ ั้นมคี วามเร็วสูงขึ้น ดังแสดงในรูปที่ 4.5 รปู ที่ 4.5 การทางานของแพลนนทิ ารเี กียร์เมอื่ มีความเรว็ เพิ่มข้ึน 8

3) การหมุนถอยกลับ ชุดแคริเออร์ของพเี นยี นเกียร์จะถกู ยึดใหอ้ ยกู่ บั ที่ ซนั เกยี ร์จะทาหน้าท่ขี บั เคลื่อน โดยจะ หมนุ เคลื่อนทไ่ี ปในทศิ ทางตามเขม็ นาฬกิ า ดว้ ยเหตนุ จ้ี ึงทาใหช้ ุดแครเิ ออร์หมนุ เคล่อื นทไ่ี ปในทศิ ทางทวนเขม็ นาฬิกา เชน่ เดยี วกบั รงิ เกยี รซ์ ง่ึ จะหมุนเคล่ือนที่ทวนเขม็ นาฬกิ าเชน่ กัน ในตาแหนง่ นจ้ี ะทาให้ชดุ แพลนนิมารีเกียร์ หมนุ เคลอ่ื นทถี่ อยหลัง เป็นผลให้ริงเกยี รถ์ ูกลดความเร็วลง ดงั แสดงในรปู ท่ี 4.6 รปู ที่ 4.6 การทางานของแพลนนทิ ารเี กยี ร์เมอื่ หมุนถอยหลัง 4) การขับเคลอื่ นโดยตรง ถ้าทาการล็อคซันเกียรแ์ ละแครเิ ออรเ์ ขา้ ด้วยกนั การส่งถา่ ยกาลังงานของชดุ แพ ลนนิทารีเกียร์จะทาให้ความเร็วของเพลารับกาลงั และเพลาสง่ กาลงั มคี วามเรว็ ท่ีเท่ากัน นั่นกค็ ือความเร็วท่ีส่งผ่าน แพลนนทิ ารเี กียรจ์ ะไม่เปล่ยี นแปลง ทาให้มีอัตราทดเท่ากับ 1 ตอ่ 1 ดังแสดงในรปู ที่ 4.7 รูปท่ี 4.7 การขบั คลอื่ นโดยตรงของชดุ เกยี รโ์ อเวอรไ์ ดรฟ์ 9

5) การส่งถา่ ยกาลังงานของแพลนนิทารีเกียร์ในชุดเกียร์โอเวอรไ์ ดรฟ์ ภายในของชดุ เกียรโ์ อเวอร์ไดรฟ์ ริงเกยี ร์ จะยึดอยกู่ บั เพลาสง่ กาลังของเกยี รโ์ อเวอรไ์ ดรฟ์ พเี นียนเกียร์กับแคริเออรจ์ ะสวมอยูก่ บั สไปลนข์ องเพลาสง่ กาลัง ของกระปุกเกียร์ ซนั เกยี รจ์ ะถกู ลอ็ คใหค้ งทีห่ รือหมนุ เคลื่อนท่ี แต่ถ้าถกู ลอ็ คใหอ้ ยูก่ ับที่ รงิ เกียร์จะถูกบังคบั ใหห้ มุน เคลอ่ื นที่เรว็ กว่าเพลาส่งกาลงั ของกระปุกเกียร์ น่นั แสดงวา่ เพลาสง่ กาลังงานของเกยี ร์โอเวอร์ไดรฟ์จะหมุนเร็วกวา่ เพลาส่งกาลงั ของกระปุกเกียร์แบบธรรมดา ดงั แสดงในรปู ที่ 4.8 รปู ท่ี 4.8 การส่งถา่ ยกาลังของแพลนนิทารีเกียร์ 1.2 กลไกฟรวี ลี ลิง่ (Freewheeling Mechanism) กลไกฟรวี ลี ลง่ิ ประกอบเชื่อมตอ่ การทางานกนั ระหวา่ งเพลาสองเพลา ชุดเพลาท้ังสองจะเชื่อมต่อกนั อยู่ ระหวา่ งปลอกตวั ในและตัวนอกของลูกปืนโรลเลอร์ ซ่ึงบางทีเรยี กว่า กลไกโอเวอร์รนั น่ิงคลัตช์ (overrunning clutch mechanism) ดงั แสดงในรปู ท่ี 4.9 รูปที่ 4.9 ตาแหนง่ ติดตง้ั และสว่ นประกอบของกลไกฟรีวลี ลง่ิ คลตั ช์ 10

การทางาน ชดุ โอเวอร์รนั นง่ิ คลัตชน์ ี้เกดิ จากการทางานของเพลาสองเพลาและลูกปืนโรลเลอร์ดงั นคี้ ือ (ดรู ูปท่ี 4.10 ประกอบ) เมอ่ื เพลา A ส่งแรงบิดผา่ นการเชอ่ื มต่อหรือโอเวอรร์ ันนง่ิ คลตั ช์ (คลัตช์ทางเดียว) คลตั ช์จะทาหนา้ ท่สี ่ง ถา่ ยแรงบดิ ทาใหเ้ พลา B หมุนเคลือ่ นทไี่ ปดว้ ยความเร็วท่ีเท่ากบั เพลา A แต่อยา่ งไรก็ตาม ถา้ เพลา A หมุนช้าลง หรือหยุดหมนุ ก็จะทาให้เพลา B กจ็ ะทาใหเ้ พลา B หมนุ เคลอ่ื นทีเ่ ร็วสูงขึน้ กว่าเพลา A จากสาเหตุนีค้ ลตั ช์จงึ ตัด การหมนุ ของเพลาทั้งสองทีห่ มนุ ควบคู่กันออกไปและยอมให้เพลา B หมนุ เรว็ กวา่ เช่นเดยี วกับชดุ เกียรโ์ อเวอร์ไดรฟ์ ของรถ เพลา A จะตอ่ อยกู่ บั เพลาส่งกาลงั ของกระปุกเกยี ร์ ส่วนเพลา B จะต่อไปยงั เพลากลาง เม่อื เครอื่ งยนตส์ ่ง กาลังไปยังโอเวอรร์ นั นิ่งคลัตช์ซง่ึ ทาหนา้ ท่ีเป็นคลัตชข์ ับเคลือ่ นให้เพลา A และเพลา B หมุนด้วยความเร็วท่ีเทา่ กนั แตเ่ มื่อผขู้ ับขรี่ ถยนต์ผ่อนคันเรง่ ให้เครื่องยนตม์ คี วามเร็วทชี่ า้ ลง เพลา B กจ็ ะหมนุ เร็วกวา่ เพลา A เปน็ เหตุให้ รถยนต์เคลอ่ื นท่ไี ปดว้ ยความเรว็ ของเครอ่ื งยนต์ เป็นผลมาจากการทางานของกลไกฟรีวีลลิง่ ในเกียรโ์ อเวอร์ไดรฟ์ รูปท่ี 4.10 การทางานของกลไกฟรวี ีลล่งิ การทางาน กลไกโอเวอร์รันนง่ิ คลตั ช์มกี ารทางานดงั น้ี ในรูปที่ 4.11 (ก) เมอ่ื ปลอกดา้ นในถูกขับใหห้ มุน กจ็ ะทาใหป้ ลอกด้านนอกถกู ขบั ให้หมนุ ตามไปดว้ ย ความเรว็ ที่เท่ากนั ทงั้ นเ้ี น่ืองจากลกู ปนื โรลเลอร์ท่ีอยูร่ ะหว่าปลอกทั้งสองถูกเบยี ดตัวกลิ้งข้ึนจนถึงจุดตาแหนง่ ท่ี สงู สดุ ของลกู เบี้ยวปลอกดา้ นใน ทาให้เกิดแรงเบยี ดอัดตัวของปลอกทั้งสอง ดว้ ยเหตนุ ี้จงึ ทาให้ปลอกดา้ นนอกถกู แรงเบยี ดของโรลเลอรบ์ งั คับใหเ้ คลื่อนทต่ี ามปลอกด้านใน เป็นผลให้โอเวอร์รันนง่ิ คลตั ช์เกดิ การขับเคล่ือนใน ลักษณะทเ่ี ปน็ เพลาเดียวกนั อย่างไรกต็ าม ถ้าปลอกดา้ นในมีความเร็วที่ชา้ ลงหรือหยดุ การเคล่ือนท่ี ปลอกดา้ นนอกก็จะหมุนเคลือ่ นที่ เร็วกว่า สาเหตุเนอ่ื งมาจากลูกปนื โรลเลอร์หมุนกลิ้งเคลอื่ นท่ีลงไปในจุดตาแหนง่ ท่ตี า่ สุดของลกู เบ้ยี ว จงึ ทาให้ 11

ลูกปืนโรลเลอร์ไมเ่ กดิ แรงเบยี ดข้นึ กับปลอกทัง้ สอง เป็นเหตใุ ห้ปลอกดา้ นนอกหมนุ เคลือ่ นทเี่ ปน็ อิสระเรว็ ขนึ้ ดัง แสดงในรปู ที่ 4.11 (ข) แต่ในทานองเดยี วกนั เม่อื ปลอกด้านในมีความเรว็ เพ่ิมข้นึ อกี ครั้ง ลูกปนื โรลเลอรก์ ็จะเคลือ่ นตวั ไปใน ตาแหนง่ เดมิ ปลอกด้านนอกและปลอกดา้ นในกจ็ ะเคลอื่ นทีไ่ ปดว้ ยความเรว็ ท่ีเท่ากันอกี ครงั้ รปู ที่ 4.11 การทางานของกลไกฌอวเวอร์รนั นิง่ คลัตช์ 2. การทางานของชุดเกียรโ์ อเวอร์ไดรฟ์ การทางานของชิ้นส่วนชดุ เกียร์โอเวอร์ไดรฟ์จะทางานสัมพันธ์กัน โดยการสง่ กาลังงานผ่านใหข้ ับโดยตรงจาก เพลาสง่ กาลังของกระปกุ เกียร์ผ่านเกยี ร์โอเวอร์ไดรฟ์ เพลาสง่ กาลงั ของเกียร์โอเวอรไ์ ดรฟซ์ ่งึ มกี ลไกโอเวอร์รันนง่ิ คลตั ชห์ รือฟรีวลี ลงิ่ เพอ่ื เปล่ยี นความเรว็ ของเพลาทั้งสองใหเ้ ท่ากันหรือแตกต่างกัน ดังนน้ั การทางานของชุดเกยี ร์โอ เวอร์ไดรฟ์จึงมขี ้ันตอนการทางานดงั น้ี 1) ตาแหนง่ การเล่ือนเข้าโอเวอร์ไดรฟ์ โอเวอร์ไดรฟ์จะถกู เลือ่ นเขา้ ทางานโดยตรงได้น้นั ความเร็วของเกียร์โอ เวอรไ์ ดรฟ์กบั ความเร็วของรถยนต์ในขณะเคล่ือนทจี่ ะต้องมีความเร็วทีเ่ ท่ากัน ดังนัน้ ผ้ขู ับขร่ี ถยนตจ์ ึงตอ้ งผอ่ น คนั เรง่ จนถงึ ความเรว็ ท่สี ามารถเลอื่ นเขา้ โอเวอร์ไดรฟไ์ ด้ (ความเรว็ ประมาณ 25 ถึง 30 กโิ ลเมตรต่อชั่วโมง) กัฟเวอรเ์ นอรส์ วิตช์ในชุดควบคมุ การเลอื่ นเกยี รโ์ อเวอร์ไดรฟจ์ ะถกู เล่อื นดนั ให้หน้าทองขาวปดิ ทาให้กระแสไฟฟ้า จากแบตเตอรี่ไหลผ่านไปยงั โซลินอยด์ เปน็ เหตุให้โซลนิ อยด์ดนั แกนบังคับเลอ่ื นขนึ้ เข้าในร่องบากของแผ่น ควบคมุ ซนั เกยี ร์ แต่อย่างไรก็ตาม แกนบงั คบั การล็อคซันเกยี รจ์ ะถกู ยึดใหห้ ่างออกไปโดยแหวนลอ็ ค ซงึ่ แหวนล็อคน้ี จะประกอบอยู่บนแผน่ ควบคมุ ซนั เกียร์อย่างหลวม สามารถเคลือ่ นควั ได้ประมาณ 2 ถึง 3 องศาในตาแหนง่ ทศิ ทาง ใดก็ได้ ดงั แสดงในรปู ที่ 4.12 (ก) 12

ในขณะท่ผี ู้ขับขีผ่ อ่ นคนั เร่ง กลไกโอเวอร์รันนิ่งคลัตชจ์ ะทางาน ทาให้เพลาสง่ กาลังออกจากเกียร์โอเวอร์ไดรฟห์ มุน เรว็ กว่าเพลาส่งกาลังของกระปกุ เกยี ร์ ทาใหต้ าแหนง่ ของซนั กียร์หมุนกับทิศทางและช้าลง จากการทีซ่ ันเกียร์หมุน กลบั ทาง ก็จะทาให้แหวนลอ็ คเลอ่ื นตัวไปประมาณ 1 ถงึ 2 องศา จากสาเหตนุ ้ีแกนบงั คบั จะเคลือ่ นตวั เล่อื นเขา้ รอ่ ง ถัดไปของเฟอื งลอ็ คซันเกยี ร์ให้อยู่ในตาแหนง่ คงที่ ดงั แสดงในรูปท่ี 4.12 (ข) รปู ที่ 4.12 ตาแหน่งการทางานของเฟืองล็อคซันเกียร์ แหวนล็อค และแกนบงั คับลอ็ คซันเกียร์ แต่เมือ่ ผู้ขับข่ีเหยยี บคันเร่งอกี ครั้ง ความเรว็ ของรถจะเพมิ่ ขน้ึ จากการท่ีเกยี รข์ องรถอยใู่ นตาแหนง่ โอเวอร์ไดรฟ์ ซึ่ง เปน็ ผลมาจากซนั เกียรถ์ กู ล็อค กาลงั งานจึงสง่ ผา่ นแครเิ ออรแ์ ละพีเนยี นเกียร์ ทาใหพ้ ีเนียนเกียร์หมนุ เคล่อื นทีไ่ ป รอบๆ ซนั กยั ร์ รงิ กียรท์ ี่ยดึ อยกู่ ับเพลาสง่ กาลังของกระปกุ เกียร์ ดังแสดงในรปู ท่ี 4.13 หมายเหตุ ในสภาวะการทางานในตาแหนง่ เข้าโอเวอร์ไดรฟ์ กลไกโอเวอรร์ นั นง่ิ คลัตชจ์ ะหมุนเคลื่อนตวั เป็น อิสระ 2) การปลดโอเวอรไ์ ดรฟอ์ อก เมือ่ ตอ้ งการปลดการทางานของโอเวอร์ไดรฟ์ เพียงแต่ผขู้ ับข่ีรถเหยยี บคันเร่ง ก็ จะทาใหแ้ ปน้ เหยยี บคนั เร่งไปบังคับคิกดาวน์สวติ ช์ (kick-down switch) ท่ีเกยี รโ์ อเวอร์ไดรฟท์ างาน รูปท่ี 4.13 ตาแหน่งการเขา้ โอเวอรไ์ ดรฟ์ 15

การทางานของคิกดาวน์สวติ ช์จะทาใหเ้ กิดปฏิกิริยาขน้ึ 2 ประการด้วยกนั คือ 1) ทาใหว้ งจรโซลนิ อยดเ์ ปดิ 2) คกิ ดาวนส์ วิตช์จะตัดการทางานในช่วงการขับเคลือ่ นชัว่ ขณะ สาเหตมุ าจากสวติ ชน์ ้จี ะทาใหส้ วิตช์จดุ ระเบดิ เปดิ เป็นการป้องกนั เครื่องยนตไ์ มใ่ ห้สง่ กาลังงานไปยงั เกยี ร์ ทาให้ความเร็วของเครอ่ื งยนตห์ มุนชา้ ลง แรงขับของพี เนยี นเกียร์ทซ่ี นั เกยี รจ์ ะหมดไปในทนั ที แกนบังคับลอ็ คซันเกยี รจ์ ะถูกดึงกลบั ด้วยแรงสปรงิ โซลินอยด์ทาใหเ้ ฟือง ลอ็ คซันเกียรแ์ ละซนั เกยี รเ์ คลือ่ นที่เป็นอิสระ เมอ่ื แกนบงั คับล็อคซันเกยี รเ์ คลอื่ นตัวถึงตาแหนง่ เดิมเป็นผลให้วงจร การทางานของระบบจุดระเบดิ ต่อวงจร เครอื่ งยนตจ์ ะเร่มิ ทางานอีกคร้ังและซนั เกยี รจ์ ะไม่ถกู ล็อค จึงเปน็ การส่ง กาลังงานขบั เคลอ่ื นโดยตรง จากข้ันตอนการทางานท้งั หมดนี้จะสามารถกระทาได้อย่างรวดเร็วและเมอ่ื ตอ้ งการเข้า โอเวอรไ์ ดรฟ์อีกคร้งั ผู้ขบั ข่กี เ็ พยี งแตผ่ อ่ นคันเร่งเพอื่ ลดความเรว็ ของรถให้ได้ความเร็วที่ถกู กาหนดไว้ ดงั แสดงในรปู ท่ี 4.14 รูปที่ 4.14 การทางานของเกยี รโ์ อเวอรไ์ ดรฟใ์ นการสง่ ถา่ ยกาลังเมือ่ ปลดเกยี รโ์ อเวอรไ์ ดรฟ์ หมายเหตุ คกิ ดาวน์สวิตช์เป็นสวติ ช์ที่ติดต้ังอยกู่ บั แป้นเหยยี บคันเรง่ ของเกยี รโ์ อเวอรไ์ ดรฟ์และเกยี รอ์ ตั โนมัติ และมีหน้าทีเ่ ปลย่ี นเกยี ร์ทีค่ วามเร็วสงู ไปยังเกียร์ความเรว็ ตา่ 3) การล็อคโดยไมใ่ ช้โอเวอรไ์ ดรฟ์ เมอ่ื ไม่ตอ้ งการใชเ้ กียรโ์ อเวอร์ไดรฟ์ ผ้ขู บั ขรี่ ถยนตเ์ พียงแตด่ ึงปมุ่ ควบคุมท่ี ตดิ ต้งั อยทู่ ่ีแผงหนา้ ปัดรถยนต์ ทาใหก้ า้ นควบคุมการบังคบั ถูกดนั ใหเ้ ปล่ยี นทศิ ทาง ดันให้แผน่ ควบคุมซนั เกียร์ 16

และซนั เกยี รถ์ ูกเล่อื นและเคลอื่ นตวั ไปทางแครเิ ออร์และพีเนียนเกียร์ ฟนั เฟืองของซนั เกียรจ์ ะขบกบั เฟอื งของพี เนยี นเกยี ร์ เปน็ เหตใุ ห้ชุดเฟอื งทงั้ สองถกู ล็อคเข้าด้วยกนั ภายใตส้ ภาวะการทางานน้ซี นั เกยี ร์และพีเนยี นเกยี ร์จะ หมนุ เคลอื่ นท่ีไปด้วยกัน จึงไมท่ าให้เกดิ การหมุนท่ีเร็วกวา่ นีไ้ ด้ และนอกจากนีแ้ ลว้ กา้ นควบคุมบงั คบั ยงั ทาให้สวติ ช์ ไฟฟา้ ตดั วงจรกัฟเวอร์เนอร์และโซลีนอยด์ออกจากกัน ดงั แสดงในรปู ท่ี 4.15 รูปท่ี 4.15 ตาแหนง่ การลอ็ คโดยไม่ใช้โอเวอร์ไดรฟ์ 3. อุปกรณ์ควบคมุ การทางานของเกยี รโ์ อเวอรไ์ ดรฟ์ดว้ ยไฟฟ้า อุปกรณ์ควบคุมการทางานของเกยี ร์โอเวอรไ์ ดรฟด์ ้วยไฟฟ้า (overdrive electric control) มีใช้กนั อยหู่ ลาย แบบ ซ่ึงแตล่ ะแบบจะมีจุดประสงค์ในการทางานทเ่ี หมอื นกันกค็ ือ ทาให้โซลินอยดส์ วิตช์ทางานเมื่อรถมคี วามเรว็ ท่ี สามารถเลอื่ นเขา้ โอเวอร์ไดรฟไ์ ด้ โดยจะตัดวงจรการทางานของระบบจุดระเบดิ ในขณะเดยี วกันกจ็ ะตัดวงจรโซลี นอยด์เมื่อคกิ ดาวนส์ วิตช์ถูกตอ่ และผู้ขบั ขม่ี คี วามต้องการทจี่ ะเขา้ โอเวอรไ์ ดรฟ์ ดังแสดงในรปู ที่ 4.16 17

การทางาน เมื่อผู้ขับข่มี คี วามต้องการทีจ่ ะเลอื่ นเข้าเกียร์โอเวอรไ์ ดรฟ์ กส็ ามารถกระทาไดโ้ ดยการดนั ปมุ่ ควบคุม การทางานทแี่ ผงหนา้ ปัด ซึ่งกจ็ ะทาให้กฟั เวอรเ์ นอร์สวิตชเ์ ลอื่ นเข้าต่อกยั โซลนี อยดร์ ีเลย์ เมื่อรถมคี วามเร็วทพ่ี รอ้ ม จะเข้าโอเวอรไ์ ดรฟ์ และผู้ขบั ข่ีผอ่ นคนั เรง่ กระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่จะทาให้โซลีนอยดส์ ่งกาลังงานไปยังแกน บังคบั ล็อคซันเกียรใ์ ห้เลือ่ นเข้าร่องของแผน่ ล็อคซันเกียร์ และเมอื่ ตอ้ งการทจ่ี ะปลดโอเวอร์ไดรฟ์ออก กเ็ พยี งแต่ เหยยี บแปน้ คันเรง่ ลงไปอกี ครง้ั อยา่ งเตม็ ที่ เป็นสาเหตใุ ห้หน้าทองขาวที่คกิ ดาวนส์ วติ ชต์ ัวบนแยกออกมาสมั ผัสกับ หน้าทองขาวตัวลา่ ง ทาใหว้ งจรของคอลย์ จุดระเบิดลงกราวด์ ระบบจดุ ระเบดิ กจ็ ะหยดุ การทางานชั่วขณะหนง่ึ และ เครอ่ื งยนต์จะหยดุ ส่งกาลังเช่นกนั ความเร็วของรถจะลดลงทันที กลไกควบคมุ แกนบังคับล็อคซนั เกียรจ์ ะอยใู่ น ตาแหน่งปลดล็อคและทาใหห้ นา้ ทองขาวในโซลนี อยดส์ วิตชแ์ ยกออกจากกัน ทาใหว้ งจรไฟฟา้ ไมล่ งกราวด์ วงจรจุด ระเบิดก็จะทางานตามปกติ ดังแสดงในรปู ท่ี 4.16 ซ่งึ เปน็ วงจรไฟฟา้ ควบคุมการทางานของเกยี รโ์ อเวอรไ์ ดรฟ์ รูปที่ 4.16 วงจรไฟฟ้าควบคุมการทางานของเกียรโ์ อเวอรไ์ ดรฟ์ 18

ใบกจิ กรรมท่ี 1 ชื่องาน : กจิ กรรมตอบคาถาม เร่อื ง สว่ นประกอบและหลกั การทางานของชดุ เกยี ร์โอเวอร์ไดรฟ์ จดุ ประสงค์พ่งึ ปฏิบตั ิ : 1. บอกสว่ นประกอบของชุดแพลนนิทารีเกียร์ได้อย่างถกู ต้อง 2. บอกส่วนประกอบของกลไกฟรวี ลิ ล่งิ ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง 3. อธบิ ายการทางานของชดุ เกยี ร์ตาแหน่งการเล่อื นเข้าโอเวอรไ์ ดรฟ์ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง คาชแี้ จง : ทาเคร่ืองหมาย  หนา้ ข้อทีถ่ กู และเครอื่ งหมาย  หนา้ ข้อที่ผิด …………….. 1. ชดุ เกียร์โอเวอรไ์ ดรฟ์ซึ่งเป็นอปุ กรณพ์ เิ ศษท่ีติดตั้งกบั รถยนต์ทาหน้าท่เี พิม่ ความเร็วให้กบั เพลาส่ง …………….. กาลังให้มีความเร็วทมี่ ากกวา่ ความเรว็ ของเพลาคลตั ช์ …………….. 2. ปจั จบุ ันเกยี ร์โอเวอร์ไดรฟ์นิยมใช้กบั รถยนต์ทีใ่ ช้เกียร์แบบกระปกุ เกยี รธ์ รรมดา ……………… …………….. 3.ตามปกติแลว้ เกียรโ์ อเวอรไ์ ดรฟ์จะทางานท่คี วามเรว็ ของรถท่ตี ้งั ไว้ที่ความเรว็ 30 ถึง 40 กโิ ลเมตร …………….. ตอ่ ชว่ั โมง ……………… 4. อุปกรณ์ควบคมุ การทางานของเกยี ร์โอเวอร์ไดรฟ์มอี ยู่ 2 แบบ …………….. …………….. 5. ชดุ แพลนนทิ ารีเกียรใ์ นเกียรโ์ อเวอรไ์ ดรฟ์ประกอบด้วย รงิ เกียร์ และ พเี นียนเกยี ร์ …………….. 6. กลไกฟรีวีลลง่ิ ทาหนา้ ทีเ่ ชอื่ มต่อการทางานระหว่างเพลาสองเพลา 7. การปลดโอเวอร์ไดรฟ์ออกสามารถกระทาไดโ้ ดยเหยยี บเบรก 8. คกิ ดาวนส์ วิตช์ทาหนา้ ทต่ี ัดการทางานในชว่ งการขบั เคล่ือนชวั่ ขณะ 9.กา้ นล็อคหรือเดือยลอ็ คซนั เกียร์ทาหน้าท่ีลอ็ คซันเกียรใ์ ห้หมนุ ไปในทศิ ทางสวนทางกัน 10. การเลอื่ นเข้าเกียร์โอเวอรไ์ ดรฟ์จะตอ้ งใชค้ วามเรว็ ของรถยนต์ 25 ถึง 30 กโิ ลเมตรต่อช่ัวโมง 19

ใบความรู้ที่ 2 4. การถอดและประกอบเกียร์โอเวอรไ์ ดรฟ์ เกียรโ์ อเวอร์ไดรฟ์สามารถถอดและประกอบเพื่อตรวจสอบชนิ้ สว่ นไดโ้ ดยไมจ่ าเปน็ ตอ้ งถอดกระปุกเกยี ร์ เนือ่ งจากมีแผ่นอะแดปเตอร์เช่อื มต่อกั้นระหวา่ งชดุ เกยี รท์ ้งั สองให้แยกออกจากกัน 4.1 การถอดเกียร์โอเวอรไ์ ดรฟ์ การถอดเกียร์โอเวอร์ไดรฟ์สามารถปฏิบตั ิได้ตามข้ันตอนดงั ต่อไปนี้ 1) ถอดกัฟเวอร์เนอร์ของเกยี ร์โอเวอรไ์ ดรฟ์และเฟอื งขบั วัดความเรว็ ของรถยนต์ท่ขี บอยู่กบั เพลาส่งกาลัง ของเกยี ร์โอเวอรไ์ ดรฟ์ 2) คลายโบลตย์ ึดชดุ เกียรโ์ อเวอร์ไดรฟ์กับกระปกุ เกียร์ 3) ถอดสลกั ล็อคเพลาเลอื่ นเกียร์และก้านควบคมุ การบงั คับเลอื่ นเกยี ร์ ดังแสดงในรูปท่ี 4.17 รูปท่ี 4.17 ถอดสลักล็อคเพลาเล่ือนเกียร์และก้านควบคมุ การบังคับเลื่อนเกยี ร์ 4) ถอดแหวนลอ็ คเพลาสง่ กาลังของเกียรโ์ อเวอร์ไดรฟ์ ดงั แสดงในรปู ที่ 4.18 รปู ที่ 4.18 ถอดแหวนลอ็ คเพลาส่งกาลงั ของเกียรโ์ อเวอรไ์ ดรฟ์ 20

5) ถอดเรือนเกียรโ์ อเวอรไ์ ดรฟ์ โดยใชค้ ้อนพลาสตกิ เคาะที่เพลาสง่ กาลังของเกยี ร์โอเวอร์ไดรฟ์และดึงตวั เรอื น ออก ดังแสดงในรปู ที่ 4.19 (ไมค่ วรถอดแผน่ อะแดปเตอร์ทีย่ ดึ กบั ชดุ กระปกุ เกียร์ เพราะจะทาให้ชดุ เกียร์โอเวอร์ ไดรฟ์และลกู ปนื โรลเลอร์หลุดออกมาพรอ้ มกับตัวเรอื น) รปู ที่ 4.19 ถอดเรือนเกียร์โอเวอรไ์ ดรฟ์ 6) ถอดชุดเพลาส่งกาลงั ของเกยี รโ์ อเวอร์ไดรฟ์ออกอย่างระมดั ระวัง และใช้มอื รองรบั ลูกปืนโรลเลอร์ ดัง แสดงในรปู ที่ 4.20 รูปท่ี 4.20 ถอดชดุ เพลาสง่ กาลงั ของเกยี รโ์ อเวอร์ไดรฟ์ออก 21

7) ถอดแหวนลอ็ คริงเกยี ร์ ดงั แสดงในรูปที่ 4.21 รูปท่ี 4.21 ถอดแหวนล็อครงิ เกียร์ 8) ใชไ้ ขควงงดั คลิปล็อคตัวที่ 1 ดา้ นหน้าชดุ กลไกโอเวอรร์ นั นงิ่ คลตั ช์ ดังแสดงในรูปที่ 4.22 รปู ที่ 4.22 งดั คลิปล็อคตัวที่ 1 9) ใชไ้ ขควงงัดคลิปล็อคตวั ที่ 2 ดา้ นหลังชดุ กลไกโอเวอรร์ นั น่งิ คลัตช์ ดงั แสดงในรูปท่ี 4.23 22

รูปที่ 4.23 งัดคลิปลอ็ คตวั ที่ 2 10) ดงึ ชุดแพลนนทิ ารเี กียรแ์ ละชดุ กลไกโอเวอรร์ นั นง่ิ คลตั ช์ออกพร้อมๆ กันอย่างระมัดระวงั ดังแสดงใน รปู ท่ี 4.24 รปู ที่ 4.24 ดึงชุดแพลนนิทารเี กียรแ์ ละชดุ กลไกโอเวอร์รันนงิ่ คลตั ชอ์ อกพร้อมๆ กนั 11) ถอดเพลารางเลอ่ื นเกยี ร์ ซันเกียร์ และเพลาสง่ กาลงั ออกจากกระปกุ เกียร์ ดงั แสดงในรปู ที่ 4.25 23

รปู ที่ 4.25 ถอดเพลารางเลอ่ื นเกยี ร์ ซนั เกยี ร์ และเพลาสง่ กาลงั 12) คลายโบลตย์ ึดโซลีนอยด์ และหมุนชดุ โซลนี อยด์ไปในทศิ ทางตามเขม็ นาฬิกาประมาณ ¼ รอบ เพ่อื ให้ พลนั เยอรป์ ลดลอ็ คออกจากแกนบงั คับลอ็ คซันเกยี ร์ จากน้ันให้ดงึ ออก ดงั แสดงในรปู ท่ี 4.26 รปู ท่ี 4.26 คลายโบลตย์ ึดโซลีนอยด์ 24

13) ดึงแหวนลอ็ คฝาครอบแหวนล็อคซนั เกียร์ ดังแสดงในรูปที่ 4.27 รูปท่ี 4.27 ดงึ แหวนล็อคฝาครอบแหวนลอ็ คซนั เกียร์ 14) ถอดแหวนลอ็ คและเฟอื งลอ็ คซนั เกยี ร์ ดงั แสดงในรูปที่ 4.28 รปู ท่ี 4.28 ถอดแหวนล็อคและเฟอื งลอ็ คซนั เกียร์ 25

5. การตรวจสอบเกยี รโ์ อเวอร์ไดรฟ์ การตรวจสอบสภาพของเกียรโ์ อเวอรไ์ ดรฟส์ ามารถทาการตรวจสอบได้ดงั นี้ 1) ตรวจสอบสภาพการสกึ หรอ การบ่นิ ของฟนั เฟอื งแพลนนทิ ารเี กยี รแ์ ละเพลาขับ จะต้องหมุนไดอ้ ยา่ งคลอ่ งไม่ ตดิ ขดั 2) ตรวจสภาพของลกู ปืนโรลเลอรข์ องชดุ กลไกโอเวอร์รันนงิ่ คลตั ช์ จะตอ้ งหมุนได้คลอ่ งไม่ตดิ ขดั ผวิ หนา้ ของดมุ ลูกเบยี้ วโรลเลอร์จะต้องเรยี บไม่มรี อยขดู ขดี จากการเบยี ดตวั ของลกู ปืนโรลเลอร์ 3) ยึดมุมลูกเบ้ียวโรลเลอร์และหมุนปลอกดา้ นนอกของลกู ปืนโรลเลอรไ์ ปในทิศทางทวนเขม็ นาฬิกา และเม่ือ ปล่อยจะตอ้ งหมนุ กลับคืนในตาแหน่งเดมิ อยา่ งรวดเรว็ ถ้ามนั ไมส่ ามารถหมนุ กลบั คืนไดต้ ามปกติ ใหเ้ ปลีย่ นสปรงิ ใหม่ ดังแสดงในรูปท่ี 4.29 รูปที่ 4.29 ยดึ มมุ ลกู เบี้ยวโรลเลอร์ 26

4) บบี ปลายแหวนลอ็ คไปในตาแหน่งล็อค มันจะต้องลอ็ คไม่ใหเ้ ฟอื งล็อคซนั เกียรห์ มุนเคลื่อนตัวได้ ดังแสดงในรปู ท่ี 4.30 รูปที่ 4.30 บีบปลายแหวนล็อคไปในตาแหน่งล็อค 5) ยึดเฟอื งลอ็ คซันเกยี ร์ด้วยปากกา และใช้สปริงสเกลดึงตรวจสอบความแข็งของแหวนล็อคและเทยี บค่าท่ี กาหนดไว้ ดังแสดงในรูปท่ี 4.31 รปู ท่ี 4.31 ยึดเฟืองล็อคซันเกียร์ดว้ ยปากกา และใชส้ ปริงสเกลดึงตรวจสอบความแขง็ ของแหวนลอ็ ค หมายเหตุ กอ่ นทาการตรวจสอบชิน้ สว่ นต่างๆ ให้ทาความสะอาดเสียกอ่ น 27

ใบกจิ กรรมท่ี 2 ชื่องาน : การถอดเกียรโ์ อเวอรไ์ ดรฟ์ จุดประสงค์พ่งึ ปฏิบัติ : 1. สามารถปฏิบัติงานถอดเกียรโ์ อเวอร์ไดรฟไ์ ด้ วสั ดุและอุปกรณ์ : 1. ชุดปะแจ 2. คอ้ นพลาสติก 3. ไขควง 28

ข้ันตอนการปฏบิ ตั งิ าน : ถอดเกยี ร์โอเวอรไ์ ดรฟ์ ภาพประกอบ ขั้นตอนการปฏบิ ัติงาน ข้นั ตอนท่ี 1 ถอดกฟั เวอร์เนอร์ของเกยี ร์โอเวอรไ์ ดรฟ์และเฟืองขับวดั ความเรว็ ของ รถยนตท์ ่ีขบอย่กู ับเพลาสง่ กาลังของเกียร์โอเวอรไ์ ดรฟ์ คลายโบลตย์ ึด ชุดเกียรโ์ อเวอรไ์ ดรฟ์กับกระปกุ เกยี ร์ และถอดสลักล็อคเพลาเล่อื นเกียร์ และกา้ นควบคมุ การบังคบั เลื่อนเกยี ร์ ขั้นตอนที่ 2 ถอดแหวนล็อคเพลาส่งกาลังของเกยี รโ์ อเวอรไ์ ดรฟ์ ข้นั ตอนท่ี 3 ถอดเรอื นเกียร์โอเวอร์ไดรฟ์ โดยใชค้ อ้ นพลาสตกิ เคาะทเี่ พลาส่งกาลัง ของเกียรโ์ อเวอรไ์ ดรฟ์และดึงตวั เรือนออก ขัน้ ตอนท่ี 4 ถอดชดุ เพลาสง่ กาลงั ของเกยี รโ์ อเวอรไ์ ดรฟ์ออกอย่างระมดั ระวงั และใช้ มอื รองรบั ลกู ปืนโรลเลอร์ ขนั้ ตอนที่ 5 ถอดแหวนลอ็ คริงเกียร์ 29

ภาพประกอบ ขั้นตอนการปฏบิ ตั งิ าน ข้ันตอนที่ 6 ใช้ไขควงงดั คลิปลอ็ คตัวท่ี 1 ด้านหน้าชดุ กลไกโอเวอร์รันน่งิ คลตั ช์ ขน้ั ตอนที่ 7 ใชไ้ ขควงงดั คลปิ ล็อคตัวที่ 2 ด้านหลังชุดกลไกโอเวอรร์ ันนิง่ คลัตช์ ข้นั ตอนที่ 8 ดึงชดุ แพลนนิทารีเกยี รแ์ ละชดุ กลไกโอเวอร์รันนงิ่ คลัตชอ์ อกพร้อมๆ กนั อย่าง ระมัดระวงั ขัน้ ตอนที่ 9 ถอดเพลารางเลื่อนเกยี ร์ ซันเกยี ร์ และเพลาสง่ กาลงั ออกจากกระปุกเกยี ร์ ขั้นตอนท่ี 10 คลายโบลตย์ ึดโซลนี อยด์ และหมนุ ชุดโซลีนอยดไ์ ปในทิศทางตามเข็มนาฬิกา ประมาณ ¼ รอบ เพอ่ื ใหพ้ ลนั เยอร์ปลดลอ็ คออกจากแกนบังคับล็อคซนั เกียร์ จากนัน้ ให้ดึงออก 30

ภาพประกอบ ข้ันตอนการปฏิบตั ิงาน ขั้นตอนท่ี 11 ดงึ แหวนล็อคฝาครอบแหวนลอ็ คซันเกียร์ ขน้ั ตอนที่ 12 ถอดแหวนล็อคและเฟอื งล็อคซนั เกียร์ สรุปผลการปฏิบัติงาน จงสรุปผลตามสาระสาคญั ในจดุ ประสงค์ขอ้ ท่ี 1 ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. 31

ใบกิจกรรมท่ี 3 ชื่องาน : การตรวจสภาพ วดั ผลและเปรยี บเทยี บเกียร์โอเวอรไ์ ดรฟ์ จดุ ประสงคพ์ ง่ึ ปฏบิ ตั ิ : 1. สามารถปฏบิ ัตงิ านตรวจสภาพเกยี รโ์ อเวอรไ์ ดรฟ์ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง 2. วัดผลเปรยี บเทียบสภาพเกยี ร์โอเวอร์ไดรฟไ์ ดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง วสั ดแุ ละอุปกรณ์ : 1. ปากกาจบั งาน 2. สปรงิ สเกล 32

ภาพประกอบ ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ิงาน : ตรวจสภาพเกียรโ์ อเวอรไ์ ดรฟ์ ข้ันตอนการปฏบิ ตั งิ าน ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบสภาพการสึกหรอ การบน่ิ ของฟันเฟืองแพลนนทิ ารเี กียรแ์ ละเพลาขบั จะตอ้ งหมนุ ได้อย่างคล่องไม่ติดขัด ตรวจสภาพของลกู ปนื โรลเลอรข์ องชดุ กลไกโอ เวอรร์ ันนง่ิ คลัตช์ จะตอ้ งหมุนได้คลอ่ งไมต่ ิดขัด ผวิ หนา้ ของดุมลกู เบ้ยี วโรลเลอร์ จะตอ้ งเรียบไม่มรี อยขดู ขดี จากการเบยี ดตวั ของลูกปนื โรลเลอร์ และยดึ มมุ ลกู เบย้ี วโรลเลอรแ์ ละหมนุ ปลอกดา้ นนอกของลกู ปนื โรลเลอรไ์ ปในทศิ ทางทวนเขม็ นาฬกิ า และเมื่อปลอ่ ยจะตอ้ งหมนุ กลบั คนื ในตาแหน่งเดิมอย่างรวดเรว็ ถ้ามนั ไม่ สามารถหมนุ กลับคนื ไดต้ ามปกติ ใหเ้ ปลี่ยนสปริงใหม่ ข้ันตอนท่ี 2 บบี ปลายแหวนลอ็ คไปในตาแหนง่ ลอ็ ค มนั จะต้องล็อคไมใ่ ห้เฟอื งลอ็ คซนั เกียร์ หมนุ เคล่ือนตัวได้ ขัน้ ตอนท่ี 3 ยึดเฟืองล็อคซนั เกยี รด์ ้วยปากกา และใชส้ ปริงสเกลดงึ ตรวจสอบความแข็งของ แหวนล็อคและเทยี บคา่ ทก่ี าหนดไว้ สรปุ ผลการปฏบิ ตั ิงาน จงสรุปผลตามสาระสาคัญในจดุ ประสงค์ขอ้ ที่ 1 ............................................................................................................................. .................................................... ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... 33

แบบทดสอบหลังเรียน 1. ชดุ เกียร์โอเวอร์ไดรฟ์ซึง่ เป็นอปุ กรณพ์ ิเศษท่ีติดตง้ั กับรถยนตท์ าหนา้ ที่ ................................................................................................................................................................................ 2. ปัจจบุ นั เกยี รโ์ อเวอรไ์ ดรฟน์ ิยมใช้กับรถยนตท์ ่ีใชเ้ กยี ร์แบบ ................................................................................................................................................................................. 3. ตามปกตแิ ลว้ เกียร์โอเวอร์ไดรฟจ์ ะทางานท่ีความเร็วของรถที่ต้ังไว้ท่คี วามเร็ว..........ถึง..........กโิ ลเมตรตอ่ ชว่ั โมง 4. อปุ กรณค์ วบคุมการทางานของเกียรโ์ อเวอร์ไดรฟ์มีอยู่ 2 แบบคอื .................................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. 5. ชดุ แพลนนทิ ารีเกียรใ์ นเกียรโ์ อเวอรไ์ ดรฟ์ประกอบดว้ ย ................................................................................................................................................................................. 6. กลไกฟรีวลี ลง่ิ ทาหน้าท่ี........................................................................................................................................ 7. การปลดโอเวอร์ไดรฟอ์ อกสามารถกระทาไดโ้ ดย............................................................................................... 8. คิกดาวน์สวิตช์ทาหนา้ ท.่ี ...................................................................................................................................... 9. ก้านลอ็ คหรอื เดอื ยล็อคซันเกยี ร์ทาหน้าท่ี............................................................................................................. 10. การเลอ่ื นเข้าเกยี ร์โอเวอร์ไดรฟ์จะต้องใชค้ วามเร็วของรถยนต์.............ถึง.............กโิ ลเมตรต่อชัว่ โมง 34

เฉลย 1. เพม่ิ ความเรว็ ให้กับเพลาสง่ กาลงั ให้มคี วามเร็วที่มากกวา่ ความเรว็ ของเพลาคลตั ช์ 2. เกียร์อตั โนมตั ิ 3. 48 ถงึ 50 กโิ ลเมตรต่อช่วั โมง 4. แบบกัฟเวอรเ์ นอร์ และการควบคมุ แบบไฟฟ้า 5. ริงเกยี ร์ พีเนียนเกียร์ 6. เช่ือมต่อการทางานระหว่างเพลาสองเพลา 7. เหยยี บคนั เรง่ 8. ตัดการทางานในชว่ งการขับเคลื่อนช่วั ขณะ 9. ลอ็ คซันเกียรไ์ มใ่ ห้หมนุ ไปในทศิ ทางสวนทางกนั 10. 25 ถงึ 30 กโิ ลเมตรตอ่ ชัว่ โมง 35


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook