Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วันสุนทรภู่

วันสุนทรภู่

Published by นูรุลฮูดา บูกุ, 2021-06-20 10:35:06

Description: วันสุนทรภู่

Search

Read the Text Version

วันสุนทรภู่ ๒๖ มถิ นุ ายน ๒๕๖๔ จลุ สารภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนดอนเมอื งจาตุรจนิ ดา เขตดอนเมอื ง กรงุ เทพมหานคร

สดุด.ี .....กวเี อก ยี่สิบหกมถิ ุนาเวยี นมาครบ นอ้ มเคารพครูกวศี รีสงา่ สงวนไวใ้ ห้ลกู หลานไดส้ ืบมา ดุจสมญาเอกกวสี ่ีเเผ่นดิน สุนทรภคู่ กู่ วีศรีสยาม เลอ่ื งลือนามก่อเกิดกาํ เนิดศีล สุนทรภู่คกู่ วชี ้ีชีวิน ไดโ้ บยบนิ ในยคุ ทุกสมยั งามโดดเดน่ เป็นกวศี รีของชาติ เเมน้ ิราศผนั ผ่านนานเพยี งใด ภูเขาทองส่องคาํ สอนทว่ั ไผท เราคนไทยร่าํ เรียนพากเพยี รมา ขอเชิญชวนทุกวฒุ ิวยั ชาวไทยน้ี สดดุ ีรําลกึ คณุ ร่วมรักษา ศรีแผน่ ดินถน่ิ สยามเนิ่นนานมา เกียรติกอ้ งหลา้ ...สุนทรภ.ู่ ..ครูกวี ....................กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย....................

จลุ สารภาษาไทย จดั ทาํ โดยกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย วัตถุประสงค์ ๑. เพือ่ ปลูกฝังเยาวชนใหม้ ีนิสัยรักการอ่านและแสวงหาความรู้ดว้ ยตนเอง ๒. เพ่ือแลกเปลย่ี นความรู้ความคดิ จากขอ้ มลู ข่าวสารและนาํ ไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ได้ ๓. เพอื่ เผยแพร่ประชาสมั พนั ธก์ ิจกรรมของกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย คณะผู้จัดทาํ ๑. กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ๒. นกั ศกึ ษาฝึกสอนเอกภาษาไทย พ.ศ.๒๕๖๔

ประวตั สิ ุนทรภู่ สุนทรภู่ มีนามเดิมว่า ภู่ เป็นบุตรขนุ ศรีสงั หาร (พลบั ) และแม่ชอ้ ย เกิดในรัชกาลท่ี ๑ กรุงรตั นโกสินทร์ เมือ่ วนั จนั ทร์ เดือนแปด ข้นึ หน่ึงค่าํ ปี มะเมีย จลุ ศกั ราช ๑๑๔๘ เวลาสองโมงเชา้ ตรงกบั วนั ท่ี ๒๖ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๓๒๙ ทบ่ี า้ นใกลก้ าํ แพง วงั หลงั คลองบางกอกนอ้ ย สุนทรภเู่ กิดไดไ้ ม่นาน บดิ ามารดาก็หยา่ จากกนั ฝ่ ายบดิ า กลบั ไปบวชทบี่ า้ นกร่ํา เมอื งแกลง ส่วนมารดาคงเป็นนางนมพระธิดาในกรม พระราชวงั หลงั ไดแ้ ต่งงานมีสามี ใหมแ่ ละมีบตุ รกบั สามีใหม่ ๒ คน เป็นหญงิ ช่ือฉิมและนิ่ม ตวั สุนทรภเู่ องได้ ถวายตวั เป็นขา้ ในกรมพระราชวงั หลงั ต้งั แตย่ งั เด็ก สุนทรภเู่ ป็นคนเจา้ บทเจา้ กลอนสันทดั ท้งั สักวาและเพลงยาว เมอ่ื รุ่นหนุ่มเกิดรักใคร่ชอบพอกบั นาง ขา้ หลวงในวงั หลงั ชื่อแม่จนั คร้ันความทราบถึงกรมพระราชวงั หลงั พระองคก์ ็กริ้วรับสง่ั ให้นาํ สุนทรภู่และจนั ไป จองจาํ ทนั ทแี ต่ท้งั สองถกู จองจาํ ไดไ้ มน่ าน สุนทรภู่ไดเ้ ป็นมหาดเลก็ ของพระองคเ์ จา้ ปฐมวงศพ์ ระโอรสองคเ์ ล็กของกรมพระราชวงั หลงั ซ่ึงทรง ผนวชอยทู่ ่วี ดั ดระฆงั ในช่วงน้ี สุนทรภกู่ ส็ มหวงั ในรกั ไดแ้ ม่จนั เป็นภรรยา สุนทรภู่มีบตุ รชายสามคน คอื พอ่ พดั เกิดจากภรรยาคนแรก คอื “แม่จนั ” พ่อตาบเกิดจากภรรยาคนทส่ี องคอื แมน่ ิ่ม และพอ่ นิลเกิดจากภรรยาท่ีช่ือ แม่ ม่วง นอกจากน้ีปรากฏชื่อบตุ รบญุ ธรรมอกี สองคน ช่ือพ่อกลนั่ และ พ่อชุบ พ่อพดั น้ีเป็นลกู รกั ไดต้ ดิ สอยห้อยตามสุนทรภู่อยเู่ สมอเมอื่ คร้ังสุนทรภ่อู อกบวชพอ่ พดั ก็ออกบวชดว้ ย เมอื่ สุนทรภไู่ ดม้ ารับราชการกบั เจา้ ฟ้านอ้ ยพ่อพดั ก็มาพาํ นกั อยดู่ ว้ ย ส่วนพอ่ ตาบน้นั ปรากฏว่าไดเ้ ป็นกวีมีช่ืออยู่ พอสมควร เม่อื ถึงรชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยหู่ ัวทรงตราพระราชบญั ญตั ินามสกลุ ข้นึ ตระกลู ของสุนทรภ่ไู ดใ้ ชน้ ามสกลุ ต่อมาว่า ภูเ่ รือหงส์ สุนทรภูร่ ับราชการในปี พ.ศ. ๒๓๕๙ ในรชั กาลที่ ๒ ในกรมพระอาลกั ษณแ์ ละเป็นทโ่ี ปรดปรานของ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหลา้ นภาลยั จนแต่งต้งั ให้เป็นกวที ่ีปรึกษาและคอยรบั ใชใ้ กลช้ ิด เนื่องจากเมอื่ คร้ังที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลศิ หลา้ นภาลยั ทรงแต่งกลอนบทละครในเรื่อง \"รามเกียรต์\"ิ ตดิ ขดั ไม่มผี ใู้ ดต่อกลอน ไดต้ อ้ งพระราชหฤทยั จึงโปรดให้สุนทรภูท่ ดลองแต่ง ปรากฏว่าแต่งไดด้ ีเป็นที่พอพระทยั จึงทรงพระกรุณา ฯ เลอ่ื นใหเ้ ป็น \"ขนุ สุนทรโวหาร\"

ในสมยั รัชกาลที่ ๔ เม่อื พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ไดค้ รองราชย์ ทรงสถาปนาเจา้ ฟ้ากรม ขุนอิศเรศรังสรรคเ์ ป็นพระบาทสมเดจ็ พระปิ่ นเกลา้ เจา้ อยหู่ ัวประทบั อยู่ วงั หนา้ (พระบวรราชวงั ) สุนทรภู่จึง ไดร้ บั พระราชทานบรรดาศกั ด์ิเป็น \"พระสุนทรโวหาร\" ตาํ แหน่งเจา้ กรมพระอาลกั ษณ์ฝ่ ายบวรราชวงั ในปี พ.ศ. ๒๓๙๔ และรับราชการตอ่ มาได้ ๔ ปี ก็ถงึ แกม่ รณกรรมใน พ.ศ. ๒๓๙๘ รวมอายไุ ด้ ๗๐ ปี ผลงานสุนทรภู่ นิราศ ๑. นิราศเมืองแกลง แตง่ ในราว พ.ศ. ๒๓๕๐ ตอนตน้ ปี ๒. นิราศพระบาท แต่งในราว พ.ศ. ๒๓๕๐ ตอนปลายปี ๓. นิราศภเู ขาทอง แต่งในราว พ.ศ. ๒๓๗๑ ๔. นิราศเมืองสุพรรณ (โคลง) แตง่ ในราว พ.ศ. ๒๓๘๔ ๕. นิราศวดั เจา้ ฟ้า ฯ แตง่ ในราว พ.ศ. ๒๓๗๕ ๖. นิราศอิเหนา ๗. นิราศพระแท่นดงรัง ๘. นิราศพระประธม ๙. นิราศเมืองเพชร แต่งในราว พ.ศ. ๒๓๘๘-๒๓๕๙ นิทาน ๑. เร่ืองโคบตุ ร แต่งในราวรัชกาลท่ี ๑ ๒. เรื่องพระอภยั มณี แต่งในราวรชั กาลที่ ๒ - ๓ ๓. เรื่องพระไชยสุริยา แต่งในราวรัชกาลที่ ๓ ๔. เรื่องลกั ษณวงศ์ (มีสาํ นวนผอู้ น่ื แตง่ ตอ่ และไมท่ ราบเวลาแต่ง) ๕. เรื่องสิงหไตรภพ แต่งในราวรัชกาลท่ี ๒ ผลงานของสุนทรภู่

สุภาษติ ๑. สวสั ดิรกั ษา แต่งระหว่าง พ.ศ. ๒๓๖๗ ๒. เพลงยาวถวายโอวาท แต่งระหว่าง พ.ศ. ๒๓๗๓ ๓. สุภาษิตสอนหญงิ แตง่ ระหวา่ ง พ.ศ. ๒๓๘๐-๒๓๘๓ บทละคร ๑. เรื่องอภยั นุราช บทเสภา ๑. เร่ืองขนุ ชา้ งขนุ แผนตอนกาํ เนิดพลายงาม แตง่ ในรชั กาลท่ี ๒ ๒. เรื่องพระราชพงศาวดาร แตง่ ในรัชกาลท่ี ๔ บทเห่กล่อม ๑. เห่เรื่องจบั ระบาํ ๒. เห่เรื่องกากี ๓. เห่เร่ืองพระอภยั มณี ๔. เห่เรื่องโคบตุ ร รวมวรรณกรรมของสุนทรภู่ ท้งั หมด ๒๔ เร่ือง ******************************************************** หากจะพูดถึงเร่ืองนกั กวเี อกที่มชี ื่อเสียงมนั่ ใจไดเ้ ลยวา่ เราในฐานะคนไทย จะตอ้ งนึกถงึ “สุนทรภ”ู่ ผูซ้ ่ึงเป็นนกั กวีเอกชาวไทยท่เี ป็นผูส้ ร้างสรรคบ์ ทความ วรรณกรรม กลอนต่าง ๆ ทมี่ ีความไพเราะ ยกตวั อยา่ งเช่น“พระอภยั มณี”ทไี่ ดร้ บั ยกยอ่ งจากองคก์ ารยเู นสโกวา่ เป็นบคุ คลสาํ คญั ของโลกดา้ นงาน วรรณกรรม โดยยกยอ่ งคาํ ว่า “มหากวีแห่งรัตนโกสินทร์หรือ “เชกสเปี ยร์แห่งประเทศไทย” เลยทเี ดียว ซ่ึงวนั ท่ี ๒๖ มิถนุ ายน ของทกุ ปี ถอื เป็นวนั สุนทรภู่

ภาษติ คำคม คารม สุนทรภู่ ถึงบางพดู พดู ดีเป็นศรีศกั ด์ิ เป็นมนุษยส์ ุดนิยมเพียงลมปาก มีคนรกั รสถอ้ ยอร่อยจิต จะไดย้ ากโหยหิวเพราะชิวหา แมน้ พดู ชวั่ ตวั ตายทาํ ลายมติ ร แมน้ พดู ดีมคี นเขาเมตตา จะชอบผดิ ในมนุษยเ์ พราะพูดจา จะพดู จาจงพิเคราะหใ์ ห้เหมาะความ ถึงชายใดเขาพอใจมาพูดเก้ียว (นิราศภูเขาทอง) อยา่ โกรธเกร้ียวโกรธาว่าหยาบหยาม ************** เมอื่ ไม่ชอบก็อยา่ ตอบเน้ือความตาม มนั จะลามเลน่ เลยเหมอื นเคยเป็น อนั ความคดิ วิทยาเหมอื นอาวธุ ประเสริฐสุดซ่อนใส่เสียในฝัก (สุภาษติ สอนหญงิ ) สงวนคมสมนึกใครฮึกฮกั ******************** จึงค่อยชกั เชือดฟันใหบ้ รรลยั (เพลงยาวถวายโอวาท) *************

แลว้ สอนว่าอยา่ ไวใ้ จมนุษย์ เป็ นสาวแซ่แร่รวยสวยสะอาด มนั แสนสุดลึกล้าํ เหลอื กาํ หนด ก็หมายหมาดเหมือนมณีอนั มีคา่ ถึงเถาวลั ยพ์ นั เกี่ยวท่ีเล้ยี วลด แมแ้ ตกร้าวรานร่อยถอยราคา ก็ไมค่ ดเหมอื นหน่ึงในน้าํ ใจคน จะพลอยพาหอมหายจากกายนาง (พระอภยั มณี) (สุภาษิตสอนหญงิ ) ************** ************** มีสลงึ พึงบรรจบให้ครบบาท อยา่ ให้ขาดส่ิงของตอ้ งประสงค์ มีนอ้ ยใชน้ อ้ ยค่อยบรรจง อยา่ จา่ ยลงให้มากจะยากนาน (สุภาษิตสอนหญงิ ) *************

นริ าศภเู ขาทองเดนิ ทางจากไหนไปถงึ ไหน ? เดือนสิบเอ็ดเสร็จธุระพระวสา รับกฐินภญิ โญโมทนา ชุลลี าลงเรือเหลืออาลยั ออกจากวดั ทศั นาดูอาวาส เมอื่ ตรุษสารทพระวสาไดอ้ าศยั สามฤดอู ยดู่ ีไมม่ ีภยั มาจาํ ไกลอารามเมอ่ื ยามเยน็ โออ้ าวาสราชบรุ ณะพระวหิ าร แตน่ ้ีนานนบั ทวิ าจะมาเห็น เหลอื รําลกึ นึกน่าน้าํ ตากระเดน็ เพราะขกุ เขญ็ คนพาลมารานทาง จะยกหยบิ ธิบดีเป็นท่ตี ้งั ก็ใชถ้ งั แทนสดั เห็นขดั ขวาง จ่ึงจาํ ลาอาวาสนิราศร้าง มาอา้ งวา้ งวญิ ญาณ์ในสาครฯ จากบทเริ่มตน้ ของนิราศภเู ขาทองของสุนทรภู่ จะเห็นไดว้ ่า ในเดือน ๑๑ เมือ่ ออกพรรษาและรับกฐิน แลว้ สุนทรภซู่ ่ึงขณะน้นั บวชเป็นพระภกิ ษอุ ยทู่ ี่วดั เลียบ ในพรรษาที่ ๓ ไดร้ บั ความทกุ ขย์ ากเดือดร้อนหนกั ใน เยน็ วนั หน่ึงจึงไดเ้ ดินทางออกจากวดั เลยี บพร้อมดว้ ยลูกชายคอื หนูพดั เพ่ือจะไปนมสั การพระเจดียภ์ เู ขาทองท่วี ดั ภูเขาทอง จ.พระนครศรีอยธุ ยา ซ่ึงถือเป็นจุดเริ่มตน้ ของการเดินทาง สุนทรภถู่ ูกคนพาลเบียดเบยี นและขบั ไลอ่ อกจากวดั อยา่ งไมเ่ ป็นธรรม จึงไดอ้ อกเดินทางดว้ ยเรือแจว พระสุนทรภ่ลู ่องไปตามลาํ น้าํ เจา้ พระยา เมือ่ ผา่ นพระบรมหาราชวงั พระสุนทรภู่ไดร้ ะลึกถงึ พระบาทสมเดจ็ พระ พุทธเลิศหลา้ นภาลยั รัชกาลที่ ๒ (คาํ ว่า บาทบพิตรอดิศร หมายถึง รัชกาลท่ี ๒ นนั่ เอง) พร้อมท้งั บรรยาย ความรู้สึกของตนอยา่ งเศร้าสลด อีกท้งั เลา่ ถงึ ความทุกขย์ ากของตนวา่ มี ๔ ประการ ไดแ้ ก่ ไร้ญาตขิ าดมติ ร ยากแคน้ แสนสาหสั มีโรคภยั ไขเ้ จบ็ ถูกเคราะหก์ รรมซ้าํ เตมิ

เพราะความทุกขท์ ้งั ๔ น้ี พระสุนทรภู่จึงคิดวา่ การไดไ้ ปนมสั การพระที่กรุงศรีอยธุ ยาจะทาํ ใหส้ บายใจ ข้ึนบา้ ง แต่เมือ่ ถงึ หนา้ แพ และมองเห็นเรือพระท่ีนงั่ กลบั ทาํ ให้คดิ ถึงเม่ืออดีต และเศร้าจนน้าํ ตาไหลอีกคร้ัง เน่ืองจากตนเคยหมอบกราบรชั กาลที่ ๒ พร้อมกบั พระจม่ืนไวย อกี ท้งั ยงั รบั ใชใ้ กลช้ ิดจนไดก้ ลน่ิ หอมจากพระ วรกายจนกลน่ิ หอมน้นั ตดิ จมกู แต่เม่ือพระองคส์ วรรคตกลิน่ หอมน้นั ก็สิ้นไป เช่นเดียวกบั วาสนาของสุนทรภู่ท่ี หมดสิ้นไปดว้ ยเช่นกนั เมือ่ เรือผา่ นหนา้ วดั ประโคนปัก สุนทรภูต่ ้งั จิตขอพระพทุ ธคุณช่วย หากเกิดชาติหนา้ ใหมข่ อให้มอี ายยุ นื ยาว แลว้ แลน่ เรือตอ่ มาผา่ น บางจาก บางพลู บางพลดั และบางโพ ซ่ึงสุนทรภอู่ ธิษฐานจิตต่อพระสมั มาสมั พุทธ เจา้ ท่ตี รสั รู้ใตต้ น้ โพธ์ิให้ตนพน้ ภยั พาล จากน้นั เรือแล่นผา่ นบา้ นญวณ เขา้ เขตนนทบรุ ี ถึงวดั เขมาภิรตาราม ผา่ น ไปถงึ ตลาดแกว้ แขวงเมอื งนนท์ อนั มตี ลาดขวญั ซ่ึงเป็นตลาดน้าํ ถึงบางธรณี ซ่ึงสุนทรภ่พู รรณนาความรู้สึก รันทดของตน เร่ือยมาถงึ เกาะเกร็ด สุนทรภู่ไดบ้ รรยายถงึ ผหู้ ญงิ มอญวา่ ต่างเกลา้ ผมดสู วยงามเป็นเอกลกั ษณ์ เม่อื เรือแลน่ ผา่ นบางพดู สุนทรภไู่ ดแ้ สดงสัจธรรมเกี่ยวกบั การพูดไวด้ งั คาํ ประพนั ธ์ ถงึ บางพูดพูดดีเป็นศรีศกั ด์ิ มีคนรกั รสถอ้ ยอร่อยจิต แมน้ พูดชวั่ ตวั ตายทาํ ลายมิตร จะชอบผิดในมนุษยเ์ พราะพดู จา กลา่ วคอื ถา้ ใครพดู ดีก็จะมคี นรกั แต่ถา้ พดู ไมด่ ีกอ็ าจจะเป็นภยั ต่อตนเองไดอ้ ีกท้งั ยงั ไมม่ ใี ครคบ ไม่มี เพอื่ นสนิทมติ รสหาย อกี ท้งั การจะดวู า่ ใครดีไมด่ ีดไู ดจ้ ากการพดู ดว้ ยเช่นกนั ต่อมาถึงบางเดื่อ สุนทรภไู่ ดก้ ล่าวอุปมาอุปไมยถงึ คนพาลดงั คาํ ประพนั ธ์ ถึงบางเด่ือโอม้ ะเด่ือเหลือประหลาด บงั เกิดชาติแมลงหวมี่ ใี นไส้ เหมอื นคนพาลหวานนอกยอ่ มขมใน อุปไมยเหมอื นมะเด่ือเหลอื ระอา

กล่าวคือ ถงึ หมู่บา้ นบางเด่ือก็คดิ ถึงลูกมะเด่ือ ทภี่ ายนอกน้นั ดูสวยงามน่ารับประทานแต่ภายในกลบั มี แมลงมหี นอนชอนไชอยู่ เหมอื นกบั คนพาลที่ปากพดู ดีแตใ่ นใจคดิ ทาํ อนั ตราย สุนทรภูแ่ ลน่ เรือตอ่ มาผา่ นบางหลวงเชิงราก แลน่ ไปถึงสามโคก ซ่ึงรัชกาลที่ ๒ ทรงพระราชทานนามปทุมธานี แทนสามโคก ตอ่ มาถงึ บา้ นง้วิ สุนทรภู่ก็ไดก้ ลา่ ววา่ ใครมีชูเ้ ม่ือตายไปแลว้ ก็ตอ้ งไปปี นตน้ งว้ิ ในนรก ต่อมาเม่ือพระอาทติ ยต์ กก็มีเมฆมดื คร้ึมมา จนดมู ดื มวั ไปทุกทิศทุกทาง ทาํ ใหส้ ุนทรภูต่ อ้ งนอนคา้ งกลางทุง่ นา ตอ้ งผจญกบั ยงุ ทม่ี ากดั ทาํ ให้ใจหวนคดิ ถงึ หนหลงั คร้งั ท่ยี งั สุขสมบรู ณ์ จนรุ่งเชา้ จึงไดอ้ อกเดินทางต่อ เม่อื ถึงกรุงเก่า เรือผ่านหนา้ จวนของเจา้ เมอื ง คือพระยาไชยวิชิต ทาํ ให้คิดถึงความหลงั ตอนที่พระยาไชยวชิ ิตยงั เป็นพระหม่ืนไวย เคยหมอบเฝา้ รัชกาลที่ ๒ ดว้ ยกนั จนเมื่อถงึ ทีห่ มายคือ อยธุ ยา สุนทรภู่จอดเรืออยทู่ ีท่ า่ หนา้ วดั พระเมรุ มงี านทอดผา้ ป่ า และมกี ารละเล่นทวี่ ดั น้ี ตกดึกมขี โมยข้ึนเรือแต่ตนลกุ ข้นึ ร้องตื่นเสียก่อน ขโมยจึงไม่ ทนั ไดข้ องไป จนรุ่งข้นึ พระสุนทรภู่จึงไดไ้ ปนมสั การพระเจดียภ์ เู ขาทองและต้งั จิตอธิษฐานวา่ “ขอใหท้ ่ีไดม้ ากราบในคร้งั น้ีให้ไดบ้ ุญเพ่อื เป็นอานิสงส์ให้พน้ ภยั ต่าง ๆ ถา้ จะเกิดชาติไหน ๆ ก็ขอใหต้ นบริสุทธ์ิ ท้งั กายและใจ ท้งั ความทกุ ขค์ วามโศกอยา่ ไดม้ าใกล้ สบายไปตลอดกาล ท้งั ความโลภ โกรธ หลง ขอใหต้ นชนะ ได้ ขอให้มสี ตปิ ัญญาหลกั แหลม ให้มีศีลธรรมอยใู่ นใจ ท้งั ผูห้ ญิงร้ายและผชู้ ายชวั่ กข็ อให้อยา่ ไดม้ าพวั พนั ขอ อยา่ ใหล้ ่มุ หลงในความรัก และขอใหบ้ รรลุนิพพานในชาติหนา้ ” รุ่งข้ึนสุนทรภ่เู ดินทางกลบั โดยใชเ้ วลาลอ่ งเรือเพียงวนั เดียวกม็ าถงึ กรุงเทพฯ และจอดเรือทว่ี ดั แจง้ หรือวดั อรุณ ราชวราราม สุนทรภ่คู อ่ ยรู้สึกสร่างจากความเศร้าเพราะไดก้ ราบพระพทุ ธรูป และสุดทา้ ยกไ็ มล่ ืมกลา่ วถงึ หญงิ ผู้ เป็นท่รี กั แมว้ ่าในขณะน้นั สุนทรภ่ไู มไ่ ดม้ คี นรกั รวมไปถงึ ไมไ่ ดเ้ พ่งิ แยกจากคนรักมา แต่การกล่างถงึ หญิงผูเ้ ป็น ที่รกั น้นั ถอื เป็นธรรมเนียมของการแตง่ นิราศโบราณ

ทัศนคติ ........สุนทรภ่ใู ห้ความสําคัญกบั การศึกษา.......... สุนทรภูใ่ ห้ความสาํ คญั กบั การศกึ ษาอยา่ งมาก และตอกย้าํ เร่ืองการศกึ ษาในวรรณคดีหลาย ๆ เรื่อง เช่น ขุนแผนสอนพลายงามวา่ “ลูกผชู้ ายลายมอื น้นั คือยศ เจา้ จงอตส่าหท์ าํ สม่าํ เสมียน” หรือท่ีพระฤๅษสี อนสุดสาครว่า “รู้ส่ิงไรไมส่ ู้รู้วชิ า รู้รักษาตวั รอดเป็นยอดดี” เร่ืองนิราศภูเขา \"จะสร้างพรตอตส่าหส์ ่งบุญถวาย ประพฤติฝ่ายสมถะท้งั วสา เป็นส่ิงของฉลองคุณมลุ ิกา ขอเป็นขา้ เคียงพระบาททุกชาตไิ ป\" เร่ือง เพลงยาวถวายโอวาท “ อนั ความคคิ วิทยาเหมอื นอาวธุ ประเสริฐสุดซ่อนใส่ไวใ้ นฝึก สงวนคมสมนึกใครอกี สัก จึงคอ่ ยชกั เชือดฟันให้บรรลยั ”

คำสงั่ ใหห าคำตอบจากเน้อื หาสาระในเลมแลวตอบคำถาม สง ท่ีครูประจำวชิ า หรือครูทุกทา นในกลมุ สาระการเรยี นรภู าษาไทย ๑.สุนทรภเู กิดวัน__________ท่ี______เดอื น__________พ.ศ.________ ๒.ภรรยาคนแรกของสุนทรภชู ่อื ________________________________ ๓.สนุ ทรภถู ึงแกอนจิ กรรมใน พ.ศ.______________รวมอายุได_ _______ป ๔.สนุ ทรภูไดรับแตงตัง้ เปน “ขนุ สนุ ทรโวหาร”ในรัชกาล_______________ ๕.สนุ ทรภูมีพี่นอ งรวมมารดา ๒ คน คือ ____________และ___________ ๖.ในสมัยรชั กาลท่ี ๑ สนุ ทรภูไดออกจากนายระวางพระคลังสวน เพราะ_______________________________________________________ ๗.รัชกาลท่ี ๒ สุนทรภถู กู จำคุกดว ย สาเหตุ_______________________________________________________ ๘.ระหวา งติดคุกในสมยั รัชกาลที่ ๒ สุนทรภแู ตงนทิ าน เรอ่ื ง________________________________________________________ ๙.สุนทรภเู ขารับราชการเปน เจา กรมอาลกั ษณ มบี รรดาศกั ดิ์ เปน_________________________________________________________ ๑๐.รชั กาลท่ี ๓ สนุ ทรภอู อกบวชเปน พระภิกษอุ ยใู นวัด________________

สถานที่ท่สี นุ ทรภ่เู ดินทางไป


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook