แนวทางการใหว ัคซนี ปอ งกันโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในผปู วยมะเรง็ คำนำ การจัดทำแนวทางการใหว คั ซนี ปอ งกนั โรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในผปู ว ยมะเร็งนี้ มีจุดมงุ หมายทีจ่ ะใหม ีแนวทางเวชปฏิบตั ิสำหรับโรงพยาบาลท่ีจะมกี ารใหวคั ซนี แกผูป วยมะเร็ง ซง่ึ เปน 1 ใน 7 กลุม ผปู ว ยทที่ างคณะกรรมการการขับเคลอ่ื นการจดั หาวัคซนี โควิด-19 เพอ่ื ประชาชนไทย มแี ผนท่จี ะจดั หาวคั ซนี ใหใ นเบอ้ื งตนเม่ือประเทศมีวคั ซนี ปริมาณจำกดั กรมการแพทย ไดเรียนเชญิ ผทู รงคุณวุฒจิ ากกรมควบคมุ โรค กรมการแพทย มะเร็งวิทยาสมาคมแหงประเทศไทย สมาคมรงั สีรักษาและมะเรง็ วทิ ยาแหงประเทศไทย สมาคมโลหิตวิทยาแหงประเทศไทย สมาคมศัลยแพทยท่ัวไปแหงประเทศไทย สมาคมมะเรง็ นรเี วชไทย สมาคมโรคตดิ เชื้อแหงประเทศไทย ชมรมมะเรง็ ศีรษะและคอแหงประเทศไทย และแพทยผูเชย่ี วชาญจากโรงพยาบาลมะเร็งภมู ิภาค 7 แหง และโรงพยาบาลมะเรง็ กรงุ เทพ วัฒโนสถ แตง ตัง้ เปนคณะกรรมการจัดทำรางแนวทางการใหวัคซนี ปองกันโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในผปู ว ยมะเรง็ ฉบบั น้ี โดยใชแนวทางท่ี National Comprehensive Cancer Network (NCCN)1 ไดใหขอเสนอแนะเปน รูปแบบ อยางไรก็ตาม การใชแนวทางฯ นี้ ใหข ึ้นอยูก บั ดลุ พนิ ิจของแพทยผดู แู ลรกั ษาและสภาพของผูปวย ตลอดจนปจจยั อ่นื ๆ ดวย ดังนัน้ แนวทางเวชปฏบิ ตั ฉิ บับนจี้ งึ ไมค วรใชเ ปน เอกสารอางอิงใด ๆ ในทางกฎหมาย คำแนะนำในการใหว ัคซีนโควดิ -19 ในผปู ว ยมะเรง็ 1. ผปู ว ยมะเร็งเปนกลมุ เสีย่ งท่ีมีความจำเปนตอ งไดร ับวัคซีนโควิด-19 เปน กลมุ แรกๆ 2. แนะนำใหม กี ารฉีดวคั ซนี ในผูปว ยมะเรง็ ทกุ คนทก่ี ำลงั เขารับการรักษา โดยคำนงึ ถึงขอจำกดั เรื่องความปลอดภัยและประสิทธภิ าพของวคั ซนี ในผูปว ยเหลา นดี้ ว ย ไมท ราบวา มีขอมลู เร่ืองประสิทธิภาพของวัคซีนในผปู ว ยกลุม นหี้ รอื ไม ถา ขอ มลู ไมพ อ อาจจะมีปญ หาถา เขียนแบบนี้ ทางเลอื กคอื “โดยคำนึงถึงปจจัยดา นความปลอดภัย และประสทิ ธภิ าพของวัคซีนเทา ทีม่ กี ารศึกษาวิจัยในกลมุ ผูปว ยทม่ี ีลักษณะคลายคลึงหรือเทยี บเคยี งไดก บั ผปู วยเหลาน”้ี 3. ควรใหว คั ซีนแกผ ทู ี่ใหก ารดแู ลผูป ว ยหรือญาติใกลช ิดดวย
ตารางท่ี 1 คำแนะนำสำหรบั การใหวัคซีนโควดิ -19 ในผปู วยมะเรง็ ผูปว ยมะเรง็ ความพรอ มในการฉดี วคั ซีน* การรกั ษา/ชนดิ ของมะเร็ง การปลูกถายถา ยเซลลเ ม็ดเลอื ด/การรกั ษาโดยเซลลบ ำบดั การปลูกถายโดยใชเซลลจากตนเอง เวนระยะอยางนอ ย 3 การปลูกถา ยโดยใชเ ซลลจากผอู นื่ เดือนหลังจากไดรับการปลูกถา ยถายเซลลเมด็ เลอื ภมู ิคุมกันบำบัดโดยวธิ ี CAR T cells ดหรือการรกั ษาโดยเซลลบำบัดa,b กลมุ โรคเลือดทีเ่ ปนมะเร็ง ใหว คั ซีนเมอื่ จำนวนเมด็ เลือดขาวชนิดนวิ โทรฟล มี ไดรับยาเคมบี ำบดั ทีม่ ฤี ทธิ์ทำลายเซลล เชน ระดับปกติ (>1,500 เซลลต อ มลิ ลิลติ ร)c Cytarabine/Anthracycline-based induction regimen ในผปู วยมะเร็งเมด็ เลือดขาวเฉียบพลันชนิดมยั อิลอยด (AML) ใหไดเม่ือมีความพรอมของวัคซีน มภี าวะไขกระดกู บกพรอ งอันมสี าเหตมุ าจากตัวโรคหรือการรักษ าท่ีคาดการณวาอาจจะไมสามารถกลับมาเปนปกตไิ ด ไดรบั การรักษามาเปนระยะเวลานาน เชน ใหไ ดเมื่อมีความพรอ มของวคั ซนี C การไดร ับยารักษาแบบมงุ เปา ในผปู ว ยมะเร็งเมด็ เลือดขาวเรอื้ รังชนดิ ซีแอลแอล (CLL) หรอื โรคมะเรง็ ในกลมุ โรคเม็ดเลือดสูง (MPN) มะเรง็ ชนิดเปน กอ น ใหไดเมอ่ื มีความพรอมของวัคซนี c,d ไดรบั ยาเคมบี ำบัดท่ีมีฤทธ์ทิ ำลายเซลล ใหไ ดเม่ือมคี วามพรอ มของวัคซีน ไดร ับยามะเร็งชนดิ มงุ เปา ใหไ ดเมือ่ มีความพรอมของวคั ซีนe ไดร บั ยามะเร็งชนดิ ภูมคิ มุ กนั บำบัด ใหไดเมื่อมคี วามพรอมของวคั ซีนf ไดร บั การฉายรงั สี ใหวคั ซีนหางจากวนั ผาตดั อยา งนอ ย 3 วนั g ไดร บั การผา ตัดใหญ ผูท่ีใหก ารดแู ลผูปวยหรือญาตใิ กลชิด (อายุ ≥ 16 ป) สามารถรบั วคั ซนี ไดตลอดเวลาเม่อื มคี วามพรอ มของวัคซีนh
* ควรใหว คั ซีนโควดิ 19 กอ นวัคซนี ตวั อน่ื เนอ่ื งจากปจ จุบนั ยงั ไมมีรายงานการศกึ ษาของการไดรบั วัคซนี สองชนิด ดังนั้น แนะนำใหเวนระยะ 14 วันหลังไดร บั วคั ซนี โควดิ 19 กอนการฉดี วัคซนี ตวั อน่ื คำอธบิ ายตารางเพมิ่ เตมิ a) ภาวะตานไขกระดกู ระหวา งผูใ หแ ละผรู ับ (GVHD) และการใหยากดภมู ิคมุ กนั เพ่อื รักษาภาวะ GVHD เชน corticosteroids และยาแบบมุง เปาอาจลดประสทิ ธิภาพในการกระตนุ ภมู คิ มุ กันของวคั ซีนโควิด-19 ดังนัน้ ควรเวน ระยะการใหวัคซีนจนกวาจะสามารถลดการใหยากดภมู คิ มุ กนั หรืออาจพิจารณาจากจำนวนหรอื การทำงานของเซลลเ ม็ดเลือดขาวชนิด T -cell และ B- cell b) ผปู ว ยที่ใดรบั การรกั ษาตอ เนอ่ื ง เชน ไดร บั ยา rituximab, Bruton tyrosine kinase inhibitors, Janus kinase inhibitors อาจลดประสทิ ธิภาพของวคั ซีนในการกระตุน ภมู ิคมุ กัน c) ภาวะเม็ดเลอื ดขาวต่ำไมสงผลตอ การตอบสนองทางภมู ิคุมกันตอวัคซีน แตร ะดับของเม็ดเลือดขาวถกู ใชเ ปน ตวั บง ช้เี ฉพาะกลุมผปู วยโรคเลอื ดทม่ี ีภูมคิ มุ กนั ต่ำ เพ่อื บงชี้วา มีภมู คิ ุมกนั ที่เพียงพอตอการตอบสนองตอการใหวคั ซนี และมรี ะดับเกลด็ เลือดทเี่ พยี งพอเพอื่ หลี กเลี่ยงภาวะเลอื ดไมห ยุดไหลจากการฉีดวคั ซีนเขากลามเนอ้ื ในกรณขี องมะเร็งทีเ่ ปนกอ น ภาวะเม็ดเลอื ดขาวตำ่ เกิดขน้ึ ในระยะสน้ั เทานั้น จงึ ไมสงผลตอการเลื่อนเวลาการไดรบั วัคซนี d) ปจจบุ นั ยงั ไมท ราบชวงเวลาท่เี หมาะสมทส่ี ดุ ในการใหวัคซีน ในผปู ว ยท่ไี ดร ับการรักษาโดยการใหยาเคมีบำบัด คณะกรรมการจงึ แนะนำใหฉดี วคั ซีนแกผปู ว ยกลมุ นเ้ี มื่อไดรับการจัดสรรวัคซนี แตท้ังน้ี ใหพิจารณาระดบั เมด็ เลือดขาวของคนไขผูปว ยควบคูไปดว ย e) แนะนำใหม กี ารใหวคั ซีนโควดิ -19 ในวนั เดียวกบั การรักษาโดยภมู คิ ุมกนั บำบัดเพ่อื ความสะดวกและลดความถี่ในการเขาสงั เกตการณอ าการของผู ปว ย f) กรณที ี่มีการฉายรังสีในบรเิ วณเดียวกบั ตำแหนง ของการฉีดวัคซีน o ผูปว ยรายใหมท่ียงั ไมไ ดร ับการฉายรงั สี ใหว ัคซนี ในวันเดียวที่มาทำ simulator
o ผปู ว ยท่ีผา นการฉายรังสีไมเกิน 1 อาทิตยส ัปดาหและไมม ีการอกั เสบของกลา มเนื้อ สามารถใหว ัคซนี ไดทนั ที o ผูปว ยท่ีผา นการฉายรงั สีมาเกนิ 1 สปั ดาหอ าทติ ย ใหเ วน ระยะ 2 สัปดาหอ าทติ ยห ลงั จากจบการรกั ษา จึงใหว ัคซีน g) หลกี เลี่ยงการใหว คั ซนี ในชวงทีไ่ ดร ับการผาตัดเนอื่ งจากอาจมไี ขเกิดข้นึ ได และการผาตดั บางชนิด เชน การตัดมา มทำใหม ีภูมคิ มุ กนั ลดลง ดงั นั้น ควรเวน ระยะการฉีดวัคซนี ในชวง 2 สปั ดาหอ าทติ ยกอนหรือหลงั ผาตัด h) แมจ ะไดรบั วคั ซนี แลว ผทู ่ใี หก ารดแู ลผูปวยหรือญาตใิ กลช ิดควรสวมใสม าสก หนา กาก รกั ษาระยะหาง และปฏบิ ตั ิตนตามคำแนะนำในการปองกนั โรคโควิด-19 การเลอื กใหว ัคซีนโควิดเฉพาะกลมุ ผปู วยมะเร็งในกรณีทีว่ ัคซนี มีจำกดั ในกรณที ี่จำนวนวัคซนี ทส่ี รรหามามจี ำนวนจำกดั จงึ ตองมกี ารพจิ ารณาในหลายๆดานเพือ่ เลอื กผูท เ่ี หมาะสมในการไดร ับวัคซีนท่ีสุดในกลุมผูปว ยมะเรง็ เชน โรคประจำตวั ลักษณะขอ มูลประชากรและปจจัยทางสังคมซ่งึ ปจจัยเหลา น้เี กี่ยวขอ งกับความเส่ียงในการไดรบั เชอ้ื การเจบ็ ปวย และเสยี ชวี ติ เน่ืองจากโรคโควิด 19 ทแ่ี ตกตางกนั คณะกรรมการลงความเหน็ การจัดลำดับผูป วยทค่ี วรไดร ับวัคซีนโควิด-19 กอ น ดงั น้ี 1) ใหกบั ผปู ว ยทกี่ ำลงั ไดรบั การรักษาอยใู นปจ จุบนั , ผูปว ยทีก่ ำลงั จะเริม่ ตนการรกั ษาและผูท ี่ผา นการรักษามาไมเกิน 6 เดอื น 2) ใหก ับผทู ี่มีปจ จัยเสรมิ อนื่ ๆที่อาจสง ผลตอความรนุ แรงตอการติดเช้อื COVID-19 เชน ผูทีอ่ ายมุ ากกวา 65 ป ผูทม่ี โี รคประจำตวั อื่น เชน โรคเบาหวาน, โรคปอดเรอ้ื รงั , โรคหัวใจ, โรคไต ขอมลู เพม่ิ เติม คำแนะนำการใหว ัคซนี โควิด-19 ในผูปว ยมะเร็งของประเทศไทยที่ไดก ำหนดขึ้นมาน้ี เปนไปตามแนวทางเดียวกบั คำแนะนำจากเครอื ขายความรวมมอื ของศนู ยมะเรง็ ชน้ั นำในสหรฐั อเมรกิ า (NCCN)1 เปน หลกั ควบคูกับคำแนะนำจากสมาคมมะเร็งวิทยาแหง ยุโรป (ESMO)2 และผานความเห็นชอบจากแพทยผ ูเช่ยี วชาญดานมะเรง็ และโรคตดิ เชอื้ ของประเทศไทย
คำแนะนำฉบบั น้ีเปนคำแนะนำเบอื้ งตนสำหรับการใหว คั ซนี โควดิ -19 ในผูปว ยมะเรง็ เทา น้ันเทาน้ัน เน่ืองจากการศึกษาประสิทธภิ าพและผลไมพึงประสงคของวัคซนี โควดิ -19 สว นใหญเ ปน ผลจากกลุม คนท่มี ีสุขภาพดี หากมีขอมลู การศกึ ษาเพิม่ เติมอาจมีการเปลยี่ นแปลงคำแนะนำฉบับน้ีอีกคร้งั ภายหลัง คณะกรรมการลงความเหน็ วา ชนิดของวัคซีนทป่ี ระเทศไทยไดรบั ในปจจบุ นั (จากบรษิ ทั Sinovac และ AstraZeneca) มปี ระสทิ ธภิ าพและความปลอดภัยในผูปวยมะเร็งไมแ ตกตา งกัน เนอ่ื งจากวคั ซีนจากบริษัท Sinovac ไมใ ชว ัคซนี เชือ้ เปน (live vaccines) และวัคซีนจากบริษทั AstraZeneca ใชเ ช้อื ที่ไมก อโรคในมนุษย (chimpanzee adenovirus) เปนตัวพาวัคซีนเขา สเู ปา หมาย คณะกรรมการแนะนำใหม กี ารตดิ ตามผลไมพ ึงประสงคข องผูปวยมะเร็งที่ไดร บั การฉดี วคั ซีนโควิด-19 คณะวิจัยจากสถาบันมะเรง็ แหง ชาตริ วมมอื กบั คณะวิจัยจากโรงพยาบาลรามาธบิ ดี มหาวทิ ยาลัยมหดิ ลเตรยี มพรอ มเรงดำเนนิ การวิจยั เพื่อศึกษาประสิทธิภาพและผลของการฉดี วัคซีนโควิด-19 ในผูปวยมะเร็งชาวไทยระยะแรกทันที ทม่ี คี วามพรอ มของวัคซนี โควิด-19 เพอ่ื เปนองคค วามรแู ละประโยชนใ นการวางแผนการฉดี วคั ซีนโควดิ -19 ใหกับผูปวยมะเร็งชาวไทยตอ ไป ขอ มูลอางอิง 1. Preliminary recommendations of the NCCN COVID-19 Vaccination Advisory Committee. National Comprehensive Cancer Network. January 22, 2021. Accessed March 3, 2021. https://www.nccn.org/covid-19/pdf/COVID-19_Vaccination_Guidance_V1.0.pdf 2. Garassino MC, Vyas M, de Vries EGE, Kanesvaran R, Giuliani R, Peters S, et al. The ESMO Call to Action on COVID-19 vaccinations and patients with cancer: Vaccinate. Monitor. Educate. Ann Oncol. 2021.
ภาคผนวก
แบบประเมินอาการไมพึงประสงค หลังไดรับวคั ซนี โควดิ 19 จาก Line Official Account หมอพรอ ม กรณุ ากรอกขอ มูล และทำเคร่อื งหมาย ในชอ ง [ ] ตามความเปนจริง ชื่อ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… นามสกุล ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. เลขประจำตวั ประชาชน …………………………………………………………………………………………………………………………….. วนั เดือน ป เกิด ……………………………………………………………………………………………………………………………………… เพศ [ ] ชาย [ ] หญิง ท่ีอยู ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… หมายเลขโทรศัพท …………………………………………………………………………………………………………………………………….. วนั ทีร่ ับวัคซนี ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. รบั วคั ซนี เขม็ ท่ี [ ] 1 [ ]2 รอบการประเมนิ [ ] หลังฉีด 1 วนั (Day 1) [ ] หลงั ฉดี 7 วัน (Day 7) [ ] หลังฉีด 30 วัน (Day 30) [ ] หลงั ฉีด 60 วนั (Day 60) การประเมนิ อาการไมพึงประสงค [ ] ไมพ บอาการไมพ งึ ประสงค [ ] มอี าการไมพ งึ ประสงค [ ] ไข หรือ ปวดศรีษะ [ ] ปวด บวม แดง รอ นบริเวณท่ฉี ีดวคั ซีน [ ] ออ นเพลยี / ไมมีแรง [ ] ปวดเมอ่ื ย [ ] คล่นื ไส อาเจยี น
[ ] ผืน่ [ ] อาการอื่นๆ เชน ทองเสยี
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: