สรุปผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรูต้ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ปงี บประมาณ 2564 (ไตรมาส 1-2) โครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝกึ ปฏิบตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล” ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอพนัสนคิ ม สำนักงานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จังหวดั ชลบุรี เอกสารเลขที่ ............. /2564
สรปุ ผลการจดั กิจกรรม ก โครงการอบรมให้ความรู้และฝกึ ปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” คำนำ กศน.ตำบลบ้านช้าง กศน.ตำบลบ้านเซิด กศน.ตำบลหมอนนาง กศน.ตำบลกฎุ โงง้ กศน.ตำบลท่งุ ขวาง และ กศน.ตำบลนามะตูม สงั กัด ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม ได้จดั ทำ โครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝึกปฏบิ ัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์เพอ่ื ใหผ้ ู้เข้าร่วมกิจกรรม รู้จักการใชพ้ ้นื ทีอ่ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพสงู สุด พรอ้ มทง้ั ส่งเสรมิ และพัฒนาคณุ ภาพชีวติ ของประชาชน ตลอดจน ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซง่ึ มีการสรุปผลการจดั กิจกรรม โครงการดังกลา่ วเพอ่ื ต้องการทราบวา่ การดำเนนิ โครงการบรรลุตามวตั ถุประสงค์ทก่ี ำหนดไว้หรอื ไม่ บรรลใุ นระดบั ใดและไดจ้ ัดทำเอกสารสรุปผลการจดั กิจกรรมการเรียนรตู้ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเสนอต่อผู้บริหาร ผู้เกยี่ วข้องเพอ่ื นำข้อมูลไปใช้ในการปรบั ปรุงและพฒั นาการดำเนนิ โครงการใหด้ ีย่ิงขึน้ คณะผจู้ ัดทำ ขอขอบคุณผู้อำนวยการศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอ พนสั นคิ ม ท่ีให้คำแนะนำ คำปรกึ ษา ในการจัดทำสรุปผลการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงในคร้งั นี้ หวงั เปน็ อย่างย่ิงวา่ เอกสารสรุปผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรตู้ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ฉบบั น้ี จะเปน็ ประโยชนต์ ่อผ้ปู ฏิบตั ิงานโครงการและหนว่ ยงานที่เก่ียวข้องในการนำไปใช้ในการจดั กจิ กรรม การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ตอ่ ไป เบญจมาศ นอ้ ยประเสริฐ ครู กศน.ตำบล มีนาคม 2564 กศน.ตำบล สังกัด กศน.อำเภอพนสั นิคม
สรปุ ผลการจัดกิจกรรม ข โครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝกึ ปฏบิ ัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” สารบญั หัวเร่อื ง หนา้ คำนำ ก สารบญั ข สารบญั ตาราง ค บทที่ 1 บทนำ 1 1 - หลกั การและเหตผุ ล 1 - วตั ถปุ ระสงค์ 1 - เป้าหมายการดำเนนิ งาน 2 - ผลลัพธ์ 2 - ตวั ช้ีวัดผลสำเร็จของโครงการ 3 บทที่ 2 เอกสารการศึกษาและงานวิจัยท่ีเกย่ี วข้อง 3 - กรอบการจัดกจิ กรรมการเรียนร้ตู ามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 3 - เอกสาร/งานทีเ่ กยี่ วข้อง 10 บทที่ 3 วธิ ีดำเนนิ งาน 13 บทท่ี 4 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล 18 บทที่ 5 อภปิ รายผลและขอ้ เสนอแนะ บรรณานุกรม ภาคผนวก - แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง - โครงการอบรมใหค้ วามร้แู ละฝกึ ปฏบิ ตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล” - แบบประเมินผรู้ บั บริการ - ภาพประกอบการจัดกจิ กรรม - หนังสือเชิญวิทยากร คณะผจู้ ดั ทำ กศน.ตำบล สังกัด กศน.อำเภอพนสั นิคม
สรปุ ผลการจัดกจิ กรรม ค โครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝกึ ปฏิบัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” สารบญั ตาราง ตารางท่ี รายละเอยี ด หน้า 1 ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการที่ตอบแบบสอบถามได้นำมาจำแนกตามเพศ 13 2 ผู้เขา้ ร่วมโครงการท่ีตอบแบบสอบถามได้นำมาจำแนกตามอายุ 13 3 ผู้เขา้ ร่วมโครงการที่ตอบแบบสอบถามได้นำมาจำแนกตามอาชพี 14 4 ผู้เข้าร่วมโครงการท่ีตอบแบบสอบถามไดน้ ำมาจำแนกตามระดับการศกึ ษา 14 5 แสดงค่าร้อยละเฉล่ยี ความสำเร็จของตัวชวี้ ดั ผลผลติ ประชาชนท่วั ไป 14 6 ค่าเฉล่ียและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานความพงึ พอใจฯ โครงการ ในภาพรวม 15 7 คา่ เฉล่ียและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานความพึงพอใจฯ โครงการ 15 ดา้ นการบริหารจัดการ 8 คา่ เฉล่ยี และสว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐานความพึงพอใจฯ โครงการ 16 ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้/การอบรม 9 ค่าเฉล่ยี และสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานความพงึ พอใจฯ โครงการ 16 ดา้ นประโยชนท์ ไ่ี ดร้ บั กศน.ตำบล สังกัด กศน.อำเภอพนัสนคิ ม
สรปุ ผลการจดั กิจกรรม 1 โครงการอบรมใหค้ วามรแู้ ละฝกึ ปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” บทท่ี 1 บทนำ หลักการและเหตุผล สถานการณ์ของประเทศไทยในปัจจุบันต้องเผชญิ กับผลกระทบจากวกิ ฤตการแพร่ระบาดของโรคตดิ เชื้อ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ซ่งึ ส่งผลกระทบไปถงึ วิกฤตทางดา้ นเศรษฐกจิ ดา้ นการสาธารณสุข ดา้ นการ คมนาคมและอน่ื ๆ สง่ ผลใหเ้ กดิ วกิ ฤตทางสังคมขนาดหนักไปท่วั ท้ังโลก ซึ่งส่งผลใหโ้ ลกมีผลผลิตลดลงถึง 30% ซ่งึ หมายถึง โลกจะขาดอาหารและเศรษฐกจิ จะมีการเติบโตลดลง 1.5% อกี ท้ังวกิ ฤตดา้ นการเปลีย่ นแปลงสภาพ ภูมอิ ากาศ ทัง้ เร่อื งภัยแล้งและน้ำทว่ ม ท่คี าดวา่ จะมีความรุนแรงขึน้ ทั้งในเชงิ ผนั ผวน ความถ่แี ละขอบเขตท่ีกวา้ ง มากขึ้น ซง่ึ จะสร้างความเสยี หายต่อชวี ิตและโครงสรา้ งพ้ืนฐานที่จำเป็น ทำให้เศรษฐกิจฐานรากของประเทศเกิด ความเสียหาย เพื่อปัญหาความยากเจนและความเหล่ือมล้ำทางสงั คม ตลอดจนระบบการผลิตทางการเกษตรท่ีมี ความสมั พนั ธต์ ่อเน่ืองกบั ความมน่ั คงด้านอาหารและนำ้ ขณะทรี่ ะบบนิเวศต่าง ๆ มีแนวโนม้ เสือ่ มโทรมลง และมี แนวโน้มที่จะสญู เสยี ความสามารถในการรองรบั ความต้องการของมนษุ ย์ได้อย่างมีประสิทธภิ าพ ทางออกของประเทศไทยในการรอดพ้นวกิ ฤตและเกิดการพัฒนาทีย่ ั่งยนื ไดถ้ ูกกำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561-2580 และนโยบายรัฐบาลที่จะสบื สาน รักษา ต่อยอดและพัฒนาประเทศตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง ซ่งึ ได้มีการน้อมนำหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและหลักทฤษฎีใหม่มาเปน็ หลกั ในการ ส่งเสริมกระบวนการเรยี นรู้และการมสี ว่ นร่วมของประชาชน ซึง่ เน้นประชาชนเปน็ ศนู ยก์ ลาง โดยการพฒั นาคนให้ พงึ่ ตนเอง มคี วามเปน็ เจา้ ของและบริหารจัดการโดยชุมชน พัฒนาหมู่บา้ นหรอื ชุมชนให้มวี ิถชี ีวิตเศรษฐกจิ พอเพียง และเปน็ สงั คม “อย่เู ยน็ เป็นสุข” ดงั นั้น กศน.ตำบลบา้ นช้าง พรอ้ มด้วย กศน.ตำบล รวมทง้ั สน้ิ 6 แหง่ จึงไดจ้ ัดโครงการอบรมให้ความรู้ และฝกึ ปฏิบัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”ขนึ้ ใหแ้ กป่ ระชาชน เพ่ือใหผ้ ูเ้ ข้ารว่ มกิจกรรมรจู้ กั การใช้พน้ื ที่อย่างมี ประสิทธิภาพสงู สุด พร้อมทัง้ สง่ เสริมและพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตของประชาชน ตลอดจนทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมตามแนวทางปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง วัตถปุ ระสงค์ 1. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เขา้ ร่วมกิจกรรมรู้จักการใชพ้ ืน้ ที่อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 2. เพอ่ื ส่งเสรมิ และพัฒนาคณุ ภาพชีวิตของประชาชน ตลอดจนทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อมตาม แนวทางปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เป้าหมาย ดา้ นปรมิ าณ ประชาชน 6 ตำบล ๆ ละ 5 คน ได้แก่ ตำบลบ้านช้าง ตำบลบา้ นเซดิ ตำบลหมอนนาง ตำบลกุฎโงง้ ตำบลทุ่งขวางและตำบลนามะตูม รวมทัง้ สนิ้ 30 คน กศน.ตำบล สงั กดั กศน.อำเภอพนสั นคิ ม
สรปุ ผลการจดั กิจกรรม 2 โครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝกึ ปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” ดา้ นคุณภาพ - ผูเ้ ข้าร่วมกจิ กรรมรู้จักการใช้พ้นื ที่อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพสงู สุด - ผ้เู ข้ารว่ มกิจกรรมมีการพัฒนาคุณภาพชีวติ ตลอดจนทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมตาม แนวทางปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลลพั ธ์ ผเู้ ข้าร่วมกิจกรรมรู้จักการใชพ้ ื้นท่ีอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพสงู สุด อีกท้ังมีการพฒั นาคุณภาพชวี ติ ตลอดจน ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ดชั นีชี้วัดผลสำเร็จของโครงการ ตวั ชี้วดั ผลผลติ ร้อยละ 80 ผู้เข้ารับการอบรมรูจ้ กั การใช้พ้นื ท่ีอย่างมปี ระสิทธภิ าพสงู สดุ ตัวชวี้ ัดผลลพั ธ์ ร้อยละ 80 ผูเ้ ข้ารับการอบรมมกี ารพัฒนาคณุ ภาพชีวติ ทดี่ ี ตลอดจนใชท้ รัพยากรธรรมชาตแิ ละ สิ่งแวดลอ้ มตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไดอ้ ย่างเหมาะสม กศน.ตำบล สงั กดั กศน.อำเภอพนสั นิคม
สรปุ ผลการจัดกิจกรรม 3 โครงการอบรมใหค้ วามรแู้ ละฝกึ ปฏิบัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” บทท่ี 2 เอกสารการศึกษาและงานวิจยั ทเ่ี ก่ยี วข้อง ในการจดั ทำสรปุ ผลโครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝึกปฏิบตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล” คร้ังน้ี คณะ ผู้จดั ทำโครงการไดท้ ำการค้นคว้าเนอ้ื หาเอกสารการศกึ ษาและงานวิจัยที่เก่ยี วข้อง ดังนี้ 1. กรอบการจัดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2. เอกสาร/งานวิจยั ท่ีเก่ียวขอ้ ง 1. กรอบการจัดกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง จุดเน้นการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 1. น้อมนำพระบรมราโชบายดา้ นการศึกษาสกู่ ารปฏบิ ัติ 1.1 สืบสานศาสตร์พระราชา โดยการสรา้ งและพฒั นาศูนย์สาธติ และเรียนรู้ “โคก หนอง นา โมเดล” เพ่อื เป็นแนวทางในการจัดการบริหารทรพั ยากรรูปแบบตา่ ง ๆ ทัง้ ดนิ น้ำ ลม แดด รวมถงึ พืชพันธ์ตุ า่ ง ๆ และสง่ เสริม การใช้พลังงานทดแทนอย่างมีประสิทธภิ าพ ภารกิจตอ่ เน่อื ง 1. ดา้ นการจดั การศึกษาและการเรยี นรู้ 1.3 การศกึ ษาต่อเนอื่ ง 4) การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งผา่ นกระบวนการเรยี นรู้ ตลอดชีวติ ในรูปแบบต่างๆ ให้กบั ประชาชน เพื่อเสริมสร้างภมู ิค้มุ กนั สามารถยืนหยดั อยู่ได้อย่างม่นั คง และมีการ บริหารจดั การความเส่ยี งอย่างเหมาะสม ตามทิศทางการพฒั นาประเทศสคู่ วามสมดุลและยงั่ ยืน 2. เอกสาร/งานวจิ ยั ทีเ่ กี่ยวขอ้ ง เกษตรทฤษฎีใหม่ หลกั การออกแบบด้วยพื้นท่ีด้วย ภูมิสงั คม หลุมขนมครก ก็คอื เกษตรทฤษฎีใหม่ของพระองค์ท่านน่แี หละ ถา้ จะให้นิยาม เรามาใช้คำ ให้เปน็ ภาษา ชาวบ้านแค่นัน้ เอง 1. โคก หนอง นาโมเดล กถ็ ือเป็น ๑ หลุม พืน้ ทล่ี ุม่ นำ้ นั้นเปรียบเหมอื นถาดขนมครก ถาด 1 ถาด ถา้ ไมม่ ี หลมุ เลย กจ็ ะเป็นถาดเรยี บ ๆ ท่นี ำ้ ลากมาก็จะไหลผา่ นหมด การทำหลุมขนมครกก็คือการทำ โคก หนอง นา เป็น หลมุ ๆ อยใู่ นถาดน้ัน ให้เป็นจุด ๆ ให้เต็มถาด เพอ่ื ให้แทนที่นำ้ ท่ีอาจจะไหลผา่ นทัง้ หมดทีเดียว น้ำกจ็ ะได้ขังอยใู่ น หลมุ ขนมครก เพราะนำ้ ฝนทงั้ หมดทีต่ กมา แทนท่จี ะทะลกั ล้นทำใหเ้ กิดน้ำท่วมแบบน้ีมันก็จะโดนเกบ็ ไว้กอ่ นแล้ว อยา่ งเชน่ ท่นี ่านถ้าเราไปทำอยา่ งนี้ ทุกภเู ขาที่กำลังหัวโลน้ อยู่ ไปทำท้ังระบบเกบ็ น้ำบนภูเขา มีปลูกปา่ เพม่ิ เพอื่ จะ เกบ็ น้ำไว้ในดิน เช่นการขุดหนองบนเขา ทำนาบนเขา เปน็ นาขนั้ บนั ได ก็จะสามารถชะลอน้ำไมใ่ ห้ลากลงมาได้ เพราะวา่ ระบบนำ้ ท่ีฝนตก นำ้ จากน้ำฝนนีเ้ วลาตกจะโดนชะลออยู่ในพ้ืนที่ก่อนไม่ใช่ตกแล้วหลากดิง่ มาเลย เพราะถ้า ดงิ่ ลงมารวมกันหมด ก็จะทำให้เกดิ การทะลกั กลายเป็นน้ำป่า แตถ่ า้ ทำอยา่ งนี้มนั จะชะลออยู่เปน็ จุด ๆ หลมุ ขนมครก น้ี นอกจากจะชว่ ยชะลอนำ้ ท่วมแลว้ ก็ยังทำให้มีน้ำเก็บอยใู่ นทดี่ ินซ่ึงสามารถนำมาใช้ตลอดทั้งปีได้ ซึ่งหลักการออกแบบ คือต้องคำนวณว่า ใน ๑ ปี จะใช้นำ้ อยู่กี่ลูกบาศกเ์ มตร แล้วจะตอ้ งเก็บนำ้ ให้พอใชใ้ น ๑ ปี โดยท่ไี ม่ตอ้ งรอน้ำจากระบบชลประทาน และต้องพ่งึ ตนเองเรือ่ งน้ำให้ได้ ๑๐๐% หรอื ๑๒๐% เพ่อื จะเผ่อื ชาวบ้านทเี่ ขาไม่มีพอ หลักสำคญั ทีส่ ดุ ในการออกแบบพนื้ ท่จี รงิ ๆ เราจะใช้คำว่าการออกแบบเชงิ ภมู ิสงั คมไทย ซึง่ คำว่าภมู ิ สังคมน้ี เปน็ คำทใ่ี นหลวงท่านพระราชทานให้ และคำนีก้ เ็ ป็นคำท่ีทางมหาวทิ ยาลยั แม่โจ้ นำไปเปดิ เป็นหลักสตู ร ชื่อ กศน.ตำบล สงั กดั กศน.อำเภอพนัสนิคม
สรปุ ผลการจดั กจิ กรรม 4 โครงการอบรมใหค้ วามรแู้ ละฝกึ ปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” ว่าหลกั สูตรการพัฒนาภมู สิ งั คมอย่างยั่งยืน ซึ่งสามารถนำมาเชอ่ื มโยงกับ ความเขา้ ใจของสง่ิ ท่พี ระองค์ท่านทรงคดิ และปรชั ญาของพระองค์ท่าน ว่าพระองคท์ า่ นอยากจะทำอย่างไร ที่สำคญั จริง ๆ นั้น มีปัจจยั คือเรื่องของคำวา่ ภูมิ สังคมนนั้ ภูมิ คอื กายภาพ สภาพดิน น้ำ ลม ไฟ และสังคม คอื วฒั นธรรม ความเช่ือ ภูมิปัญญาดั่งเดมิ ท่อี ยู่ในพ้นื ท่ี น้ัน เพราะฉะน้นั ปัจจยั ๒ ตวั น้ีคอื ปัจจยั หลกั ท่ีสำคัญ ซึ่งการออกแบบจริง ๆ นั้น สังคมจะสำคญั กว่าภูมิ เพราะต้องออกแบบตามคนทอี่ ยู่ เปรยี บเสมือนศัพท์ทาง สถาปนิกที่เรามักจะใช้คือปลูกเรอื นตามใจผู้อยู่ เช่น การออกแบบพ้ืนทีห่ น่ึงใน จังหวดั ลำปาง ถงึ แมจ้ ะเปน็ ภูเขาดา้ น เดียวกนั แตค่ นท่ีอยู่อาศยั นนั้ เปน็ คนเผ่ากระเหรยี่ งและเผา่ อาขา่ ซึง่ เป็นคนละชนเผ่า ฉะนน้ั การออกแบบก็จะใชค้ นละรปู แบบ เพราะวัฒนธรรมการกินอยู่ของทงั้ ๒ เผ่า นัน้ ไม่เหมอื นกัน พืชผกั ท่เี ขาปลูกกไ็ ม่เหมือนกัน เพราะฉะนนั้ ความต้องการนำ้ ของพชื ผกั แตล่ ะชนิด จึงไมเ่ หมือนกัน ฉะน้ันภมู ปิ ระเทศ เหมือนกนั ก็จรงิ แต่ถ้าสงั คมไม่เหมือนกนั การออกแบบกจ็ ะเปลย่ี นไปทันที ดังน้ันสงั คมจึงจะมาก่อนภมู ิ ภมู ิ จะเป็นบรรทัดฐานที่งา่ ย ๆ คือ หลกั ของภมู ินจ้ี ะใชห้ ลักเดยี วกนั ท้งั ประเทศ เชน่ ปรมิ าณน้ำฝนในพนื้ ที่ แตล่ ะพื้นท่ีนนั้ ตกต่างกันเท่าไหร่ กเ็ อาปรมิ าณน้ำฝนมาเปน็ ตวั คำนวณ ทิศทางลมของพื้นที่ สว่ นใหญ่ในประเทศไทย จะเป็นลมมรสมุ ตะวันตกเฉยี งใต้อยแู่ ลว้ แตถ่ า้ ในพน้ื ท่ีทีเ่ ป็นร่องเขาก็อาจจะต้องดวู า่ ลมมาจากร่องเขาไหน ทิศทาง แดด แดดชว่ งหนา้ หนาวตะวันออ้ มใต้ แดดกค็ ือความร้อน การวางผงั อะไรกต็ าม จึงต้องคิดถึงเร่ืองอะไรพวกนี้ ท้งั หมด การออกแบบหลุมขนมครก หรือกค็ ือ โคก หนอง นา ในพื้นทข่ี องเรา จะต้องคำนงึ ถึงตวั แปลสำคญั น่นั คือ “ดิน นำ้ ลม ไฟ และคน” ลักษณะความอุ้มนำ้ ของดนิ ทต่ี า่ งกนั มีผลตอ่ การออกแบบพื้นท่ี เพราะจะตอ้ งมีการ วางแผนเพ่ือขุดหนองน้ำและสง่ิ สำคญั อีกอยา่ งหนงึ่ คือ การปรับปรงุ ดนิ โดยใช้หลักการฟื้นฟู รกั ษาความสมบูรณ์ของ หนา้ ดินโดยการห่มดนิ ดว้ ยฟาง ใบไม้ หรือหญ้า แลว้ ใชป้ ุ๋ยอินทรยี ์ให้เหมาะสม กับคุณลักษณะของดินจะชว่ ย แกป้ ัญหาดินได้ มองให้เห็นคณุ ค่าของนำ้ ฝนที่ตกลงมาโดยการเกบ็ ไว้ใหไ้ ด้มากที่สุด การขุดหนองนำ้ โดยดู ทางไหลของน้ำ เขา้ และออกจากพื้นที่เป็นสว่ นสำคญั สว่ นหนง่ึ หากวางตำแหน่องของหนองน้ำในทศิ ทางท่ีให้ ลมร้อนพดั ผ่านกจ็ ะทำ ใหบ้ า้ นเยน็ ข้นึ การขดุ หนองน้ำต้องขุดให้คดเค้ยี ว ให้มรี ะดับความสงู ในหนองนำ้ ไม่เท่ากันแล้วปลูกพืชนำ้ เพื่อให้ปลา อาศัยและวางไขไ่ ด้ รวมทง้ั การทำแซนวชิ ด์ปลา คือการนำหญา้ และฟางกองสลบั กับปุ๋ยหมกั ไวท้ ีต่ ้นนำ้ เพื่อสรา้ งแพลงตอนเพ่ิม อาหารใหก้ ับสัตว์นำ้ น่นั เอง ตัวแปลสำคญั ของการออกแบบหลุมขนมครก หรือก็คือ โคก หนอง นา ในพ้นื ที่ของเรา คือ “ดนิ น้ำ ลม ไฟ และคน” ลมจะหอบท้งั ความร้อนและฝนเข้ามาในพืน้ ท่ี จึงต้องรูว้ า่ ลมพดั เขา้ มาทางไหน ตามปกติแล้วลมฝนจะพดั มา ทางทิศตะวนั ตกเฉียงใต้ สว่ นลมหนาวจะพัดมาทางทิศตะวนั ออกเฉียงเหนือ ดงั นนั้ จงึ ควรวางตำแหน่งบา้ นและลาน ตากข้าวไม่ให้ขวางทศิ ทางลมหนาว การออกแบบบา้ นกค็ วรให้มีชอ่ งลมสอดรบั กับทศิ ทางลมท่ีพัดมาในแตล่ ะฤดูกาล เพอ่ื ทำใหบ้ ้านเยน็ ลดการใช้พลงั งานได้ ไฟกค็ ือแสงจากดวงอาทิตยซ์ ง่ึ ก่อให้เกิดความร้อนไปดว้ ย เราจะตอ้ งสำรวจทิศทางข้ึนและ ตกของดวง อาทติ ยโ์ ดยควรจะสงั เกตหลายๆ คร้งั ในทุกฤดู เพราะในแต่ละฤดมู ีทศิ ทาง และช่วงเวลาท่ีไมเ่ หมือนกนั หวั ใจสำคญั ของการออกแบบก็คือ ความต้องการของคน คนคดิ อย่างไร คนอยอู่ ย่างไร ออกแบบใหเ้ หมาะสมกบั การดำรงชวี ิต ของผู้อยู่ท่ีนั่นจงึ จะเรียกวา่ ดีที่สดุ อ.ยกั ษ์ จะสอนเสมอวา่ ทำงานใหไ้ ด้ ๓ อยา่ ง ในการทำงานของพวกเรา โคก หนอง นา ก็เหมอื นกัน เวลา ออกแบบ เราก็ต้องคดิ ให้เขาทำให้ได้ ๓ อย่างเหมือนกนั คือ 1. ทำงานต้องได้งาน โคก หนอง นา เวลาเราทำเราต้องไดแ้ บบของโคก หนอง นา กศน.ตำบล สังกัด กศน.อำเภอพนัสนิคม
สรปุ ผลการจัดกิจกรรม 5 โครงการอบรมให้ความรู้และฝกึ ปฏิบัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” 2. ทำงานต้องไดเ้ พื่อน คือ ได้เพ่อื นมาชว่ ยกันทำงาน 3. เรอ่ื งน้ีเปน็ เร่ืองใหญ่เลยและคนมักจะลมื กันไปกค็ ือ ทำงานต้องไดพ้ ัฒนาตนเอง ท้งั จิตใจ และกำลังกาย ทัง้ สขุ ภาพ เพราะฉะนั้นหลักในการออกแบบโคก หนอง นา สว่ นใหญ่จะเนน้ ในเรื่องของการออกแบบอยา่ งไรให้เกิด กจิ กรรม ๓ กจิ กรรมนี้ เพราะ 3 กจิ กรรมน้ี จะเปน็ ตวั ทำให้งานสำเรจ็ สำเรจ็ และมันยัง่ ยืนต่อไปและเขากจ็ ะแบบมี ความภูมิใจคือหลกั ๆในการออกแบบ เกษตรทฤษฎีใหม่ การขึ้นรปู แปลงนา เวลาเราจะกนิ ข้าวมีทางเลือกเยอะแยะเลย ไปซ้ือเอาก็ได้ เพราะมนั ถูกขา้ วมนั ราคาถูก แต่ว่า ปลกู กนิ เองนี้ กบั ไปซ้ือเขาอนั ไหนมันจะอร่อยกวา่ กัน การยกคนั นา บา้ นเรานม้ี ีปรมิ าณนำ้ ฝนตกลงมาใส่ไรห่ นงึ่ ๒,๐๐๐ ตันขน้ึ ไป ๒,๐๐๐ ตนั กค็ อื ๒,๐๐๐ ควิ นั่นเอง เพราะฉะนั้นเกินกบั ปริมาณที่ขา้ วต้องการ วิธที ่จี ะเก็บนำ้ ไวด้ ีท่สี ดุ คือ ชาวนา ต้องทำเขอ่ื นของตวั เองขนาด ใหญห่ รือทเ่ี รียกวา่ คันนา อีสานเรยี กว่าคันแคนา คนั นาขนาดใหญ่ ๑ - ๒ เมตร บางบา้ นทำถึง ๕ – ๖ เมตร คนั นานี้ เริม่ ต้นกต็ ้องยกคนั นา เชค็ ระดบั แล้วก็ยกคันนา ยกคันนาให้สามารถ เก็บน้ำไว้ในนาไดแ้ ล้วปรับพ้นื นาใหเ้ สมอกัน ถา้ ปริมาณน้ำไมแ่ น่ใจว่ามนั จะเก็บได้มากก็ขุดรอ่ งริมคันนา การขุดรอ่ ง ก็เพื่อทีจ่ ะเอาดินน้ันยกข้นึ มาป้ันคนั นาเม่ือได้คันนาใหญๆ่ สูงๆ ก็ทำให้ตอ้ งการ ดนิ มาก ดินตรง น้นั กจ็ ะกลายเปน็ ร่องไป ร่องนนั่ กจ็ ะกลายเป็นท่อี ยู่ของปลาอยา่ งดี เพราะปลาชอบอยทู่ งั้ ในน้ำลกึ และหากินในน้ำตน้ื จึงต้องมรี ่องให้ ปลาอยอู่ ยา่ งมีความสุขในนำ้ ลึก ขณะเดียวกนั ปลาก็จะขึน้ ไปหากนิ ในทแี่ ดดสอ่ งถึง ซงึ่ กจ็ ะ มแี พลงตอนพชื แพลง ตอนสัตว์ มีสง่ิ มชี ีวิตต่าง ๆ เยอะ เปน็ อาหารของปลา ปลาก็จะอย่ไู ด้อยา่ งมคี วามสุข นอกจากนกี้ ารขุดคนั นาแบบไล่ระดับหรือทเ่ี รียกว่าทำเป็นตะพัก ยังชว่ ยไม่ให้ดนิ จากบนคันนาไหลลงสพู่ ้นื นาดา้ นลา่ ง โดยจะถูกดกั ไว้บนตะพักน้ีก่อน และยังสามารถปลกู พืชบนจะพักได้อีกดว้ ย ก่อนจะหวา่ นเมล็ดไม่วา่ จะตกกล้าเพ่ือจะถอนเอาไปดำหรือหว่านสำหรบั ทีจ่ ะเปน็ นาหว่าน ก็ควรจะทำเทือก กอ่ น การทำเทือก ก็คือทำเลนให้มันเรยี บสนิทให้เสมอกนั นน่ั เอง เขามกั จะให้คนลงไปทุบไปยำ้ หรอื ใชเ้ ครอื่ งลง ไปยำ้ หรือเคร่อื งลงไปทบุ แล้วก็จะเอาไม้กระดานหรอื เหลก็ หรอื อะไรก็ได้ปาดมันให้มนั เรียบ เป็นเทอื กก็คือใหเ้ ปน็ เลนเป็นเทอื กเลย เรยี บเพื่อให้น้ำมันขังเท่ากัน ขา้ วกจ็ ะโตในลักษณะเทา่ เทยี มกนั ฉะนน้ั จำเปน็ ตอ้ งปรบั ใหเ้ สมอกัน เพอื่ ให้น้ำขังความลึกของนำ้ เท่ากนั ตลอดทั้งแปลง ถา้ สมมตแิ ปรงถดั ไปมีพน้ื ที่ต่ำกว่า เราก็ตอ้ งกดปรบั ข้ึนอีกแปลง เพือ่ ท่ีจะยกคนั นาเปน็ ขั้น ข้ัน ถ้าเป็นภูเขาก็ปรบั เปน็ ขน้ั ข้ัน ท้องหรอื พืน้ ต้องเสมอกัน เพ่อื ให้ในท้องนามีความลึก เท่ากนั น่นั เอง นอกจากน้ันจะต้องบำรงุ ดนิ ในพืน้ นาด้วยการดองเอาไวเ้ ราจะต้องไปจัดการพ้นื นาทจ่ี ะเป็น ทอ่ี ยขู่ องรากคือ ทง้ั หมักทงั้ ดอง ถกู ไหมทำได้ท้ัง 2 แบบ โดยมีวตั ถปุ ระสงค์อะไร ให้จลุ ินทรีย์มันเพ่มิ ปริมาณหรอื ชกั ชวนแมธ่ รณีมาอยู่ กบั เราจำนวนมาก ๆ เมือ่ เราหมกั เม่ือเราดองจุลนิ ทรยี จ์ ะบูมมีมหาศาล วิธหี มัก กค็ อื เอาพืช ไม่ว่าจะตอซังของมนั เอง รากของมนั เอง หญา้ หรอื ถ่ัว เราต้องรวู้ า่ ดินท่ีดีเหมาะสำหรับ ขา้ วมากท่สี ุดคอื ดนิ ทมี่ ีอินทรียวตั ถปุ ระมาณ ๕% สมัยโบราณ เขาก็ไถหมักพลกิ หญ้า จะได้ ทั้งต้นหญ้า ดอกหญา้ ใบ หญ้า รากหญ้า หมกั ก็จะได้จุลนิ ทรยี ข์ น้ึ มา แลว้ เอานำ้ ใส่ เอาปยุ๋ ชวี ภาพ ท้งั ปุ๋ยแหง้ ท้ังปุ๋ยน้ำใสล่ งไป หรือไม่อาจใช้ ปยุ๋ ชวี ภาพธรรมดาเลย ก็คอื เอาขี้ววั นแี่ หละใสล่ งไปงา่ ย ๆ กศน.ตำบล สังกัด กศน.อำเภอพนัสนิคม
สรปุ ผลการจดั กิจกรรม 6 โครงการอบรมใหค้ วามรูแ้ ละฝกึ ปฏิบัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” แลว้ ก็ปุย๋ นำ้ หมักชีวภาพใส่ลงไปไร่ละลิตร ใจร้อนบางคนใส่ท่เี ดยี วตัง้ ๒๐ ลติ ร กไ็ ด้ ข้าวก็จะ งามมาก แล้วก็ ยำ้ ลงไป ทุบแลว้ กห็ มักทง้ิ เอาไว้ ๗ วนั มันก็จะยอ่ ยสลาย ถ้ามเี มลด็ ตกคา้ งมันก็จะแตกออกมาเลย แลว้ ย้ำทำอีกซ้ำลง ไปอีกรอบหนง่ึ ก็จะใชเ้ ครอื่ งก็ได้ก็ทุบลงไป จากนั้นก็หมักท้ิงเอาไว้ วิธีดองดนิ หมายถงึ ว่าเอานำ้ ขังใหม้ นั แช่นำ้ แลว้ กด็ องท้ิงเอาไวใ้ หไ้ ด้สกั ๗ วัน รวมเปน็ ๒ คร้ัง ก็ ๑๔ วนั โดยประมาณ แลว้ หลังจากน้ันก็ดำได้เลย หรือจะโยนกล้ากไ็ ด้ หรอื จะดำกไ็ ด้ ขา้ วกจ็ ะงามโตเรว็ ใหผ้ ลผลิตดี ข้ีวัวผสมฟางทใี่ ชห้ มักดองดนิ สามารถนำมาฉาบไปบนขอบตล่ิง บนตะพัก รวมทงั้ บนคันนา เพราะจะได้ ประโยชน์ทงั้ การบำรุงดิน และเปน็ การทำใหผ้ นังคันนาแข็งแรงขน้ึ ด้วย การหม่ ดินบนคนั นา คือธรรมชาตขิ องบา้ นเราเปน็ เขตร้อนช้ืน สังเกตจากในป่าจะมใี บไม้สลดั ห่มดินไวห้ นา บางทีเดนิ ลงไปยบุ ลงไปหนาถึงเข่า ฉะนั้นจะทำใหด้ นิ เกิดความอุดมสมบูรณ์เหมือนดนิ ปา่ ตามธรรมชาติ ก็ไปหาใบไม้ หญ้าหรอื ฟางก็ได้ เอามาหม่ เอาไวใ้ ห้หนา อยา่ งน้อยสกั ฝ่ามอื โดยวัตถปุ ระสงค์ของการห่มดนิ ก็คือ ตอ้ งการให้ดนิ เกิดทั้งความร้อนทั้งความชื้น สภาวะบา้ นเราเปน็ เขต รอ้ นชนื้ ถ้าเราไปกวาดใบไม้ออกหมดปล่อยใหด้ ินเปลือย ดินกจ็ ะไม่ชืน้ และกไ็ ม่ร้อน อยากทำใหด้ ินมสี ภาพเป็นร้อน ช้ืนก็ไปหามาห่มเอาไว้ ก็จะได้ความชื้นอยู่ในดินพอเหมาะ อยา่ งน้อยประมาณสัก ๒๕% และกม็ ีความร้อนในสภาวะ ความร้อนความชืน้ จลุ นิ ทรีย์จะทำงานเรว็ มาก น่นั ก็แปลวา่ รากกจ็ ะทำงานเร็วมาก จึงทำให้รากยาวและกจ็ ะปริมาณ มาก ทำให้หาอาหารได้เก่ง ต้นไมก้ จ็ ะโตให้ผลผลติ ดี เทคนิคการห่มดิน มีดังน้ี 1. อยา่ ใหแ้ สงส่องถึงพืน้ 2. ใหค้ วามร้อนชดั เจน เม่ือความรอ้ นนถ้ี ูกจุลนิ ทรยี บ์ วกกับความช้นื จะย่อยสลายใบไม้กลายเป็นฮวิ มสั ซึง่ เปน็ ปุย๋ ทด่ี ีทสี่ ุดสำหรับพืชทุกชนดิ ทบทวนการขึน้ รปู แปลงนา เร่ิมจากการทำคันนาสูงประมาณ ๑ เมตร กวา้ งประมาณ ๒ เมตร จากนน้ั ขุดร่องนำ้ โดยรอบรวมท้ังขดุ ไล่ ระดบั คันนาเปน็ ตะพัก แลว้ นำดินท่ีขุดไปเพิ่มความสงู ของคนั นาได้อกี ดา้ นบนคันนาให้ขดุ คลองไส้ไก่ไว้ดว้ ยจะดีมาก ต่อไปเป็นการปรับระดับพ้นื นา โดยอาจนำนำ้ เขา้ แปลง นาเลก็ น้อย เพือ่ ให้การปรบั ระดับงา่ ยขนึ้ แล้วทำการย้ำ โดยคน หรือใช้รถไถปรบั ระดับเพอื่ ใหพ้ น้ื นาเรยี บเทา่ กนั ท้งั แปลง หรอื ป๋ยุ ชวี ภาพ นำน้ำเขา้ แปลงนาพอทว่ ม แล้ว ยำ่ ใหผ้ สมกนั จากนน้ั นำขผี้ สมฟางบางส่วนขึ้นมาฉาบไว้ตามคันนา หมกั ดองไว้ประมาณ ๗ วนั ช่วงเวลาน้ี ถ้ามเี มล็ดพชื ตกค้างก็อาจจะงอกข้นึ มาได้ เมือ่ ครบ ๗ วัน กใ็ หย้ ้ำลงไปอีกคร้งั และท้ิงไว้อีก ๗ วนั รวมเปน็ ๑๔ วัน จากนน้ั ห่มดนิ เพ่มิ โดยใชฟ้ าง แลว้ ก็สามารถปลกู ข้าวและพืชผกั ต่าง ๆ ตามคันนาไดเ้ ลย กศน.ตำบล สังกัด กศน.อำเภอพนัสนคิ ม
สรปุ ผลการจดั กิจกรรม 7 โครงการอบรมให้ความร้แู ละฝกึ ปฏบิ ัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” เกษตรทฤษฎีใหม่ การบริหารจดั การน้ำด้วย โคก หนอง นา โมเดล บรรดาศาสตร์ตา่ ง ๆ ในโลก สว่ นใหญจ่ ะเกดิ จากปญั ญาชน เกิดจากพระ หรือเกิดจากเกษตรกร น้อยนักท่ี จะเกิดจากคนท่ีเป็นพระราชา แตบ่ า้ นเราโชคดที ่ีเรามีพระราชาทน่ี อกจากจะทรงธรรม และยังเป็นนักวทิ ยาศาสตร์ เป็นนักสร้างนวตั กรรม เปน็ นักเกษตร เป็นผเู้ ชีย่ วชาญมากมาย ศาสตร์คอื องคค์ วามรทู้ ่ีถกู พฒั นา ถูกทดลองมาแลว้ อยา่ งเป็นระบบ เรยี กวา่ science หรอื ศาสตร์ ซ่ึงได้ ทดลองทำมา ๔,๐๐๐ กว่าแห่ง เรยี กว่าทฤษฎใี หม่ ส่วนทฤษฎเี ก่า คอื การสูบน้ำจากคลองชลประทาน การเก็บน้ำไว้ในอา่ งเก็บน้ำแล้วกป็ ล่อยน้ำมาในคลอง ชลประทานหรอื ปล่อยมาจากท่อ และสูบใส่นา แลว้ กท็ ำนา เมอ่ื น้ำหมดกจ็ ะนำน้ำจากคลองชลประทานมาเตมิ อยา่ ง นี้เรยี กว่าทฤษฎเี กา่ . สว่ นทฤษฎใี หมน่ น้ั นอกจากเข่ือนทสี่ รา้ งไวแ้ ลว้ ควรสรา้ งเข่ือนขนาดกลาง เช่น เข่ือนป่าสกั ซ่ึงพระองค์ทา่ น ได้สรา้ งไว้ให้ และทา่ นได้สร้างเพิ่มขน้ึ อกี เชน่ อ่างห้วยหินขาว ซึง่ สามารถจุนำ้ ได้ ๑,๐๐๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร จาก ห้วยหินขาวกต็ อ่ มาทีช่ าวบา้ น ซึ่งชาวบ้านแทนทีจ่ ะรอน้ำจากอ่างห้วยหนิ ขาว หรอื จากอ่างเกบ็ นำ้ ปา่ สกั ก็มาทำอา่ ง ของตัวเองไว้ในบ้านของตนเอง ชาวบ้านกจ็ ะมีหนองน้ำ สระนำ้ อ่างน้ำ ฝาย เพื่อจะเกบ็ น้ำไวใ้ นที่ของตนเอง น่เี ปน็ ทฤษฎีใหม่ วิธกี ารเกบ็ นำ้ เหลา่ นี้ คือที่ใหญ่กเ็ ก็บ ท่ีขนาดกลางก็เก็บ ท่ีบา้ นใครบา้ นมันก็เกบ็ รวม ๓ ระดบั อยา่ งนี้ จะ สามารถเกบ็ นำ้ ได้มากกวา่ เดิมถงึ ๕ เท่า และหากชาวบ้านยอมเสยี ท่ีนาของตัวเองลงไปสัก ๒๐ – ๓๐ เปอร์เซ็นต์ ก็ จะมีน้ำไว้ประจำบา้ นตนเอง ระบบจัดการอยา่ งนี้ ทรงเรยี กว่าทฤษฎใี หม่ การจัดประชุมกันในเครือข่ายชาวบา้ น ชาวบา้ นกเ็ หน็ วา่ ต้องใชภ้ าษาชาวบา้ น เม่ือขุดหนองจะเอาดนิ ไป ไหน ก็เอาไปทำโคก ปลูกโคกก็ปลูกป่า ส่วนตรงไหนที่มคี ลอง ก็ขุดคลองไส้ไก่ ตรงไหนท่ีมรี ะดบั ต่างกัน ก็ก้นั ฝาย แลว้ ในนาก็ปนั้ คนั นาให้มขี นาดใหญ่ เหมอื นคนโบราณ ซง่ึ บนหัวคันนาของ คนโบราณเขามกั จะปลูกพริก ปลูกผกั ปลูกกล้วย ปลกู โนน่ ปลูกนไ่ี ว้กนิ เพราะบนคันนามีขนาดสงู ใหญ่ เมอ่ื นำ้ หลากมากจ็ ะไม่ท่วม ฉะนั้นต้นไมท้ ปี่ ลูกไว้ อยบู่ นคนั นากไ็ ม่ตาย เราเรยี กว่าคันนาทองคำ เพราะบนคนั นาจะมผี ลผลติ ม่ังคัง่ ยงิ่ กว่าทองคำ ในนากม็ ปี ลาด้วยเพราะถ้าคันนามขี นาดใหญ่ เกบ็ น้ำได้ เยอะ นำ้ สงู กจ็ ะมคี วามลึก ปลากจ็ ะมาอยู่ มาวางไข่ ปลาจะมาอยเู่ อง เพราะน้ำมีความลึก มีความปลอดภยั ปลาก็ มาอยู่ ข้าวกไ็ ดด้ ี เพราะมีขีป้ ลา ข้กี งุ้ จงึ ไม่ต้องไปซือ้ ปยุ๋ พอมีปลามกี ุ้งอยู่ หญา้ ก็ไม่ขนึ้ น้ำขังมากหญา้ ก็ไม่ข้ึน กท็ ำใหป้ ระหยัดท้ังยาฆา่ หญ้า ป๋ยุ ไมต่ อ้ งใส่ แมลงไม่ ต้องฉีด มีก้งุ หอย ปู ปลาอยู่ ทำให้ไม่ปว่ ย โรคแมลงมาปลาก็โดดจับกนิ มนั เปน็ ธรรมชาติ อยู่ ๆ กนั มาอยา่ งนเ้ี ปน็ พัน ๆ ปีแล้ว จึงเป็นภาษาง่ายๆ ทเี่ รียกวา่ โคก หนอง นาโมเดล ซง่ึ ได้ประยุกต์มาจากทฤษฎีใหมท่ ี่พระองค์ท่าน คำนวณ นคี่ ือศาสตรข์ องพระราชา ของรชั กาลที่ ๙ ซง่ึ ท่านสรุปไว้งา่ ยๆ ทา่ นจะบอกว่าไดพ้ ฒั นามาจากบรรพบุรุษ ของเรา ซึ่งเราอยู่ท่ีนี่กนั มา ๕,๐๐๐ กว่าปี บรรพบรุ ุษท่านพัฒนากนั มาทีละนิด ทำแบบอะลมุ่ อล่วยกันมา ไม่ไดต้ ดิ ตำราวา่ ต้องไปลอกประเทศโน่นประเทศนี้มา พัฒนาจากฐาน จากดิน จากอารยธรรมของเราเองเร่ือย ๆ ๕,๐๐๐ ปี ท่านบอกตำราแบบนี้ไมจ่ บ ทฤษฎีบนั ได 9 ข้ัน สคู่ วามย่งั ยืนตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพยี ง จากทฤษฎีน้แี ปลไปสกู่ ารปฏบิ ตั ิเป็น ๓ ระดับ ปรัชญา แปลงมาเปน็ ทฤษฎบี นั ได ๙ ข้นั จากทฤษฎแี ปลง ไปสู่การปฏิบัติ ทฤษฎีบนั ได ๙ ขนั้ สคู่ วามยั่งยนื ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เร่มิ ตน้ จากขั้นพ้ืนฐาน ๔ ข้นั แรก นน่ั คือ พอกนิ พอใช้ พออยู่ พอร่มเย็น ซึ่งสรา้ งได้ด้วยการปลูกป่า ๓ อยา่ ง ประโยชน์ ๔ อย่าง กศน.ตำบล สังกดั กศน.อำเภอพนัสนคิ ม
สรปุ ผลการจัดกจิ กรรม 8 โครงการอบรมใหค้ วามรแู้ ละฝกึ ปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” บันไดขน้ั ท่ี ๑ พอกนิ “เงนิ ทองเปน็ ของมายา ข้าวปลาสิของจรงิ ” ตอ้ งเริ่มจากการอยู่ให้ได้ โดยให้ ความสำคญั กับข้าวปลาอาหารทส่ี ร้างได้จากพื้นทีข่ องตวั เอง พอมพี อกนิ ดว้ ยการปลกู พืช ผัก ผลไม้ ให้พอกินกอ่ น สว่ นบันไดข้ันท่ี ๒ ๓ และ ๔ พอใช้ พออยู่ พอร่มเยน็ ปลกู ไมใ้ ห้พอใช้ ท้ังทำเครือ่ งนุง่ ห่ม มสี มนุ ไพร เพ่อื รักษาโรค ปลกู ไมใ้ ห้พออยู่ คือมีไมส้ ำหรับสรา้ งที่อยู่อาศยั ใหร้ ่มเงา ประโยชนข์ องป่าเหล่าน้ที ำให้เกดิ บนั ไดขัน้ ที่ ๔ พอรม่ เย็น แนวทางนี้สามารถแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกรไทย และปัญหาหนี้สินที่พอกพูนจากการทำ เกษตรเชงิ เดีย่ ว ปญั หาความเสอื่ มโทรมของทรัพยากร ปัญหา ความขาดแคลนน้ำ และภัยแล้ง ไดด้ ้วย บนั ไดข้ันที่ ๕ และ ๖ บญุ และทาน “ยิ่งทำย่ิงได้ ย่งิ ใหย้ ิ่งมี” เม่อื ทำในขนั้ ที่ ๑ ถงึ ๔ ได้ คนเรามีพอแลว้ ที่ เหลอื ก็นำมาแบ่งปันเปน็ การฝึกจิตใจใหล้ ะซง่ึ ความโลภ เชอ่ื มน่ั ในฤทธ์ขิ องทานคือการให้ ดั่งที่พระเจ้าอย่หู ัวสอนไว้ วา่ Our Loss is Our Gain การขาดทนุ นัน่ คือกำไร บนั ไดข้ันที่ ๗ เก็บรกั ษา เม่ือเรามีพอและได้แบ่งปันแลว้ ข้ันต่อไปคอื การรูจ้ กั เก็บรักษา ใช้ภูมิปัญญาในการ แปลรปู อาหารทย่ี งั มอี ยู่ เพอ่ื ใหม้ อี าหารกินทั้งปีหรือว่าขา้ มปี และยงั เปน็ การสรา้ งมลู คา่ เพ่ิมใหส้ ง่ิ ท่ีเราปลกู เอง บนั ได ขัน้ ที่ ๗ นย้ี งั เปน็ ส่งิ ที่เกษตรกรจะต้องทำให้ไดก้ ่อนจะไปสู่ข้ันท่ี ๘ ต่อไป บันไดข้ันที่ ๘ ขาย เน่อื งจากเศรษฐกิจพอเพียงไม่ใชเ่ ศรษฐกจิ การคา้ แต่ไมใ่ ช่เศรษฐกจิ หลังเขา การคา้ ขาย สามารถทำไดแ้ ต่ทำภายใต้การรจู้ กั พอประมาณ และทำไปตามลำดับ โดยของทขี่ ายคอื ของที่เหลือจากทุกข้นั แลว้ จงึ นำมาขาย ขายด้วยความรสู้ กึ ของการให้ เพ่ืออุ้มชู เผื่อแผ่ แบง่ ปนั ไปด้วยกัน สดุ ทา้ ยบันไดขัน้ ท่ี ๙ กองกำลังเกษตรโยธินหรอื การสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงทั้งประเทศ เพอื่ ขยายผลสำเร็จ ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพยี งสกู่ ารปฏิวัติแนวคิดและวธิ กี ารดำเนินชีวติ ของคนในสังคมในชมุ ชน ประเทศเราเป็นประเทศยากจนมาก่อน แล้วพัฒนามาเป็นประเทศปานกลาง ก็อยากไปเป็นประเทศร่ำรวย เหมอื นประเทศอ่ืน ท่านกบ็ อกไม่เอาแบบนน้ั เพราะว่าถ้าติดตำราเดยี๋ วพอถงึ หน้าสดุ ท้ายไปตอ่ ไม่ได้ ก็ต้องเปิดหนา้ หนงึ่ ใหม่ เพราะว่าถึงหนา้ สดุ ทา้ ยแล้วพอติดเพดานบนิ แล้ว สุดท้ายก็ตกหัวปักลงมาอยา่ งเช่นปี ๔๐ เศรษฐกิจเรามัน หัวปักลงมา ท่านบอก เราไม่อยากกา้ วหนา้ อย่างมากแบบประเทศเหล่านน้ั แบบประเทศกา้ วหนา้ อยา่ งมาก เราก็เปน็ ประเทศกา้ วหนา้ เหมือนกนั แต่เราไมใ่ ช่ก้าวหนา้ อยา่ งมาก เราไม่อยากเป็นอย่างน้ัน เราก็เปน็ ประเทศที่มงั่ คงั่ รำ่ รวย เหมือนกัน เรามนี ้ำ มดี ิน มีอากาศ มีนำ้ ใจท่ียิง่ กว่าน้นั คอื สังคมเราเป็นสังคมมนี ้ำใจท่มี ั่งค่ังทีส่ ดุ ในโลก เราเป็นเมือง ย้มิ ท่วั โลกกร็ จู้ ักเรา คราวนก้ี ็พฒั นากนั มาอย่างนี้ อย่างอะลุม่ อล่วยกนั มา เปน็ พันปอี ย่างนี้ เรียกวา่ ตำราแบบนี้ไมจ่ บ แลว้ กจ็ ะพฒั นาไปเรื่อย ๆ เราก็จะค่อย ๆ กา้ วหน้าไป อยา่ งไร ท่านก็รับสง่ั วา่ ต้องมีพอกิน พออยู่ พอใช้ ตอ้ งมี สภาพแวดลอ้ มที่ดี ตอ้ งอยา่ ทำลายป่า ตอ้ งฟื้นฟปู ่า ต้องจัดการนำ้ จัดการดิน ฝนตกมาให้เกบ็ น้ำเอาไว้ อย่าปล่อยให้ น้ำไปชะ พังทลายหน้าดินลงมา มวี ธิ ีเกบ็ และท่านกบ็ อกวา่ บรรพบุรุษท่านรู้ว่าทำอยา่ งไง พ้นื ทไี่ หนควรทำอะไร พน้ื ทีไ่ หนไม่ควรทำอะไร เวลาไหนควรทำอะไร เวลาไหนไม่ควรทำอะไร เค้ารูก้ นั มาดีอยู่แล้ว นคี่ ือส่งิ ท่พี ระเจ้าอยู่หวั เลา่ ให้ฟงั อนั น้ีทรงเรียกวา่ พอเพยี ง เรากจ็ ะเรยี กงา่ ย ๆ ว่าศาสตร์ของพระราชาองค์น้ี เกษตรทฤษฎใี หม่ โคก หนอง นา โมเดล เพื่อการจดั การนำ้ อย่างย่ังยนื ถา้ เราสนใจ เรามที ดี่ ิน และสนใจอยากจะทำเป็นการประยุกต์ทฤษฎีใหมข่ องพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ ัว มาเป็น โคก หนอง นา โมเดลแบบชาวบา้ นนนั้ วธิ ที ต่ี ้องทำครง้ั แรกคอื การสำรวจทีด่ ินของตนเองวา่ เราอยใู่ นที่ที่ ตนื้ ลกึ ขนาดไหน ปริมาณนำ้ ฝนท่ีตกลงแต่ละปีเทา่ ไหร่ ต้อง เริ่มทำการสำรวจรอบ ๆ นน้ั วา่ อะไรบา้ ง ลมพัดทางไหน แสงขนึ้ ทางไหน ทิศเป็นอย่างไง ตอ้ งศึกษาภมู ปิ ระเทศ ดิน น้ำ ลม ไฟ ก่อน เรากต็ ้องเขา้ ใจสังคมของคนทจี่ ะเปน็ เจ้าของทด่ี นิ คยุ กับเจ้าของทีด่ นิ ว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร อย่างน้ีเรยี กวา่ สังคม คือนำท้งั ภูมศิ าสตร์ ดิน น้ำ ลม ไฟ ทั้งสังคม มาคำนวณภายใต้เง่ือนไข น้ำก่อน สมมติว่ามีทอี่ ยู่ ๔ ไร่ ฝนตกลงมาในไร่ ไร่หนึง่ ปริมาณ ๒,๕๐๐ คิว สมมติ ๔ ไร่ ก็หมน่ื คิว คิวละตนั หม่ืนตนั นี่จะเก็บอย่างไรบ้าง จะ กศน.ตำบล สังกดั กศน.อำเภอพนสั นคิ ม
สรปุ ผลการจดั กิจกรรม 9 โครงการอบรมใหค้ วามรูแ้ ละฝกึ ปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” เก็บซบั ลงใต้ดินด้วยวิธีอะไร จะใชต้ น้ ไมอ้ ะไรปลูกบนโคก ซ่ึงโคกนั้นอุ้มน้ำไมไ่ ด้ ก็ต้องซบั บนโคกลงดิน วางแผนให้ได้ สักครึ่งหนงึ่ ซับลงมาในโคก การขดุ หนองจะเกบ็ ได้สักเทา่ ไหร่ ต้องลึกเทา่ ไหร่ ตอ้ งใช้พนื้ ท่เี ทา่ ไหร่ ก็ต้องคำนวณออกมา เสรจ็ และจะขดุ คลอง คลองเกบ็ ได้เท่าไหร่ จะมีอะไรอีกบา้ งกต็ ้องวางผงั การใช้ที่ดิน เสร็จแลว้ ดูทศิ ทาง จะวางบา้ นอยู่ตรงไหน ถา้ เพอ่ื ความไม่เสี่ยงภยั ต้องมียงุ้ ขา้ ว สตอ๊ กเอาไว้ ต้องมเี ครอ่ื งสขี า้ วเองบนโคก จงึ ตอ้ งออกแบบก่อนแล้วค่อยลงมือขดุ ลงมอื ทำ ถา้ ไม่ได้คดิ ไมไ่ ด้คำนวณเลยต้ังไปส่งเดช พอถึงหนา้ นัน้ ก็เกิดปัญหา หนา้ นี้กเ็ กิดปญั หา เพราะฉะนัน้ การ วางแผนล่วงหนา้ ออกแบบบนทีด่ นิ ของเราเองจึงเป็นเรื่องท่ีจำเปน็ ซ่งึ ก็ทำได้ง่าย และยืนยนั โคก หนอง นา โมเดล เป็นวิธีบรหิ ารน้ำอยา่ งยงั่ ยนื ในพ้นื ทข่ี องตนเอง เรม่ิ ต้นดว้ ยการขุดหนอง เพื่อเก็บกกั น้ำไวใ้ ชใ้ นยามแล้ง โดยจะขุดแบบ Free Form ให้มีสว่ นเวา้ ส่วนโคง้ เลยี นแบบธรรมชาติ ความลึกของหนองควร มากกวา่ ๓.๖๕ เมตร ตามองค์ความรทู้ ี่พระเจ้าอยหู่ ัวพระราชทานไว้วา่ ในแตล่ ะวันนำ้ จะละเหยไป ๑ เซนติเมตร หากเราขุดบ่อลกึ มากกวา่ ๓.๖๕ เมตร ใน ๑ ปี ต่อใหฝ้ นทิ้งช่วงไปกย็ งั มนี ้ำใช้อยนู่ น่ั เอง การขุดหนอง จะต้องขุดเปน็ ขัน้ หรือเปน็ ตะพักๆ เพื่อใหแ้ สงแดดสอ่ งถึงพืน้ หนองบางส่วนช่วยให้พชื นำ้ เจริญเติบโตเป็นทอี่ ยู่อาศยั ของแพลนตอนพชื และเป็นแหล่งอาหารของเหลา่ สัตว์น้ำ ดินจากการขุดหนองเอามาถม เป็นโคก บนโคกปลูกทีอ่ ยู่อาศัย เลีย้ งสัตว์ และปลกู ปา่ ๓ อยา่ ง ประโยชน์ ๔ อยา่ ง นน่ั คือ ปลูกไม้กนิ ไม้ใช้สอย ไม้ สำหรบั สรา้ งทีอ่ ยู่อาศยั ซึ่งจะใหป้ ระโยชนเ์ ปน็ ความพอกนิ พอใช้ พออยู่ และพอร่มเย็น ตน้ ไมท้ ่ปี ลูกมีท้ังหมด ๕ ระดบั ไดแ้ ก่ ไม้สงู ไม้กลาง ไม้เตย้ี ไม้เร่ียดิน และพชื หวั เพือ่ รักษาความชุ่มชืน้ ในดนิ การเก็บกักน้ำอีกวิธหี น่ึง คือขุดคลองไสไ้ ก่ให้ทั่วพ้นื ท่ี ขุดให้คดเค้ยี วเพื่อใหใ้ ชเ้ ปน็ ทางน้ำบนดิน เพม่ิ ความชุ่ม ชืน้ โดยไม่ตอ้ งวางทอ่ หรือสปรงิ เกอร์ สร้างฝายชะลอน้ำกั้น เพื่อลดความเร็วของน้ำที่ไหลไปตามคลอง ปลกู หญา้ แฝก โดยรอบหนองและคลองไส้ไก่ ปั้นหวั คนั นาใหม้ คี วามสูงอย่างน้อย ๑ เมตร บนคนั นา กวา้ ง ๑ เมตร และฐานกวา้ ง ๒ เมตร ปลกู พืชผกั โดยรอบ ทงั้ ไม้ผล พืชผกั สวนครวั พืชสมนุ ไพร จนกลายเป็นหัวคนั นาทองคำ เพราะปั้นหวั คันนาสูง ในคนั นาจึง เปรียบเสมือนเขื่อนขนาดย่อม สามารถเก็บกกั นำ้ ไวใ้ ช้ในช่วงปลูกข้าว และยังเปน็ ท่ีอยู่อาศัยเหลา่ บรรดาสตั วน์ ำ้ อีก ดว้ ย เรอื่ งนวตั กรรมเร่ืองอะไรใหม่ๆ ท่ีทรงทำให้ดู กท็ รงบอกกับพวกเรา ใหก้ ำลงั ใจเสมอว่า ทำตัวอยา่ งของ ความสำเร็จไปเร่ือย ๆ เถอะ ๑๐ ปี ๒๐ ปี ๓๐ ปี น่ันแหละ กวา่ คนเขาจะมาเห็น มาจำ มาเข้าใจ และเขาก็จะเอาไป เปน็ ประโยชน์ โดยเฉพาะเมือ่ เขาถงึ ทางตันแลว้ เมื่อถึงวันน้ัน ๒๐ ปี ๓๐ ปี ข้างหน้า มนั กจ็ ะเปน็ ตวั อย่าง เปน็ ท่ีพงึ่ ใหช้ าวบ้านได้ ใครที่ทำใหม่ๆ นม่ี กั จะเจอคนมองดว้ ยหางตา หาว่าเพย้ี น และก็มักจะตอ่ ต้าน สุดท้ายก็เรม่ิ จำนน เพราะไดเ้ พิง่ จรงิ ๆ หลายคนพอทำ อดทนไปจนถึงท่ีสดุ ก็จะไดร้ บั การยอมรับ ยง่ิ แนวโนม้ โลกกำลงั วกิ ฤตข้ึนเรื่อย ๆ เร่ือง โคก หนอง นา โมเดล นี้แหละทจี่ ะเป็นท่ีพงึ่ ให้กับคน ได้ กล็ องมาศึกษากนั ดกู ่อน จากศาสตร์พระราชาส่กู ารปฏิบตั ิอยา่ งเป็นรปู ธรรม วกิ ฤตน้ำของไทย จะถูกแก้ไขไดด้ ้วย การบริหารจัดการ น้ำอยา่ งย่ังยืนในรปู แบบของ โคก หนอง นา กศน.ตำบล สังกัด กศน.อำเภอพนสั นคิ ม
สรปุ ผลการจดั กิจกรรม 10 โครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝกึ ปฏิบัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” บทท่ี 3 วิธีดำเนนิ งาน การดำเนินโครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝกึ ปฏิบัติการ “โคก หนอง นา โมเดล”ไดด้ ำเนินการตามข้นั ตอน ตา่ ง ๆ ดงั น้ี 1. ขั้นเตรียมการ การศึกษาเอกสารท่เี กี่ยวขอ้ งกับโครงการอบรมให้ความร้แู ละฝึกปฏบิ ัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” ผู้รับผดิ ชอบโครงการได้ศึกษาค้นคว้าเอกสารท่เี กย่ี วขอ้ งเพ่ือเปน็ ข้อมูลและแนวทางในการดำเนินการ โครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝึกปฏิบตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล” ดงั นี้ 1. ศกึ ษาเอกสาร / คู่มือ ข้อมูลจากหนังสอื เกย่ี วกับการดำเนนิ ชีวติ ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เพื่อเปน็ แนวทางเกย่ี วกับการจัดโครงการอบรมให้ความรู้และฝึกปฏบิ ตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล” 2. ศึกษาข้ันตอนการดำเนินโครงการอบรมให้ความรู้และฝึกปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล”เพื่อเป็น แนวทางในการจัดเตรียมงาน วสั ดุอปุ กรณ์ และบุคลากรใหเ้ หมาะสม การสำรวจความต้องการของประชาชนในพ้นื ท่ี (ตามนโยบายของรัฐบาล) กลุม่ ภารกจิ การจัดการศึกษานอกระบบ มอบหมายให้ ครู กศน.ตำบล สำรวจความตอ้ งการของ กล่มุ เปา้ หมายเพ่ือทราบความตอ้ งการท่แี ท้จริงของประชาชนในตำบล และมีขอ้ มูลในการจัดกจิ กรรมท่ีตรงกับความ ตอ้ งการของชมุ ชน การประสานงานผู้นำชุมชน / ประชาชน /วิทยากร 1. ครู กศน.ตำบล ได้ประสานงานกบั หวั หน้า/ผู้นำชมุ ชนและประชาชนในตำบลเพือ่ รว่ มกัน ปรกึ ษาหารือในกลุ่มเก่ียวกบั การดำเนินการจัดโครงการใหต้ รงกับความต้องการของชุมชน 2. ครู กศน.ตำบล ไดป้ ระสานงานกับหนว่ ยงานท่ีเกีย่ วข้องเพ่ือจดั หาวิทยากร การประชาสมั พนั ธ์โครงการฯ ครู กศน.ตำบล ไดด้ ำเนินการประชาสมั พนั ธ์การจดั โครงการอบรมใหค้ วามร้แู ละฝึกปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” เพื่อให้ประชาชนทราบข้อมลู การจดั กิจกรรมดงั กล่าวผ่านผู้นำชมุ ชน ประชมุ เตรยี มการ / วางแผน 1) ประชุมปรกึ ษาหารือผูท้ ี่เกี่ยวข้อง 2) เขียนโครงการ วางแผนมอบหมายงานใหฝ้ า่ ยตา่ ง ๆ เตรียมดำเนินการ 3) มอบหมายหน้าที่ แต่งตั้งคณะทำงาน การรับสมัครผ้เู ขา้ รว่ มโครงการฯ ครู กศน.ตำบล ไดร้ บั สมัครผเู้ ข้ารว่ มโครงการอบรมให้ความร้แู ละฝึกปฏบิ ตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล”โดยใหป้ ระชาชนทั่วไปท่ีอาศยั อยใู่ นพน้ื ท่ี 6 ตำบล ๆ ละ 5-6 คน ไดแ้ ก่ ตำบลบ้านชา้ ง ตำบลบ้านเซิด ตำบลหมอนนาง ตำบลกฎุ โง้ง ตำบลทงุ่ ขวางและตำบลนามะตูม รวมทั้งส้ิน 35 คน การกำหนดสถานที่และระยะเวลาดำเนินการ ครู กศน.ตำบล ได้กำหนดสถานท่ีในการจดั อบรมคือ ศูนย์การเรียนรู้ “โคก หนอง นา โมเดล” ม.8 ต.หนองเหียง อ.พนัสนิคม จ.ชลบรุ ี ในวันที่ 23 มนี าคม 2564 จำนวน 1 วนั เวลา 09.00-15.00 น. กศน.ตำบล สังกดั กศน.อำเภอพนัสนิคม
สรปุ ผลการจัดกิจกรรม 11 โครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝกึ ปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” 2. ขนั้ ดำเนนิ งาน กลุ่มเป้าหมาย กลมุ่ เปา้ หมายของโครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝึกปฏิบัติการ “โคก หนอง นา โมเดล” ประชาชนตำบลบ้านชา้ ง จำนวน 6 คน ประชาชนตำบลบ้านเซิด จำนวน 6 คน ประชาชนตำบลหมอนนาง จำนวน 6 คน ประชาชนตำบลกฎุ โง้ง จำนวน 6 คน ประชาชนตำบลทุ่งขวาง จำนวน 5 คน ประชาชนตำบลนามะตูม จำนวน 6 คน รวมทงั้ ส้นิ จำนวน 35 คน สถานทดี่ ำเนนิ งาน ครู กศน.ตำบลบ้านช้างครู กศน.ตำบลบ้านเซิดและครู กศน.ตำบลหวั ถนน จดั กิจกรรมโครงการ อบรมให้ความรูแ้ ละฝึกปฏิบตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล” โดยจดั กิจกรรมอบรมให้ความรู้ ในวนั ท่ี 23 มนี าคม พ.ศ. 2564 เวลา 09.00-15.00 น. ณ ศนู ย์การเรียนรู้ “โคก หนอง นา โมเดล” ม.8 ต.หนองเหยี ง อ.พนัสนิคม จ.ชลบรุ ี การขออนมุ ตั ิแผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรตู้ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง กศน.ตำบลบา้ นช้าง ไดด้ ำเนนิ การขออนมุ ัตแิ ผนการจัดกิจกรรมการเรยี นร้ตู ามหลักปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง โครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝึกปฏิบตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล”ตอ่ สำนักงาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี เพ่ือให้ต้นสังกัดอนุมัติแผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง การจดั ทำเครื่องมอื การวัดความพึงพอใจของผู้รว่ มกิจกรรม เคร่อื งมือท่ีใช้ในการติดตามประเมินผลโครงการ ไดแ้ ก่ แบบประเมินความพงึ พอใจ ขัน้ ดำเนินการ / ปฏบิ ัติ 1. เสนอโครงการเพื่อขอความเหน็ ชอบ/อนมุ ัตจิ ากตน้ สังกดั 2. วางแผนการจดั กจิ กรรมในโครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝึกปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” โดยกำหนดตารางกิจกรรมท่ีกำหนดการ 3. มอบหมายงานให้แกผ่ ู้รับผิดชอบฝ่ายตา่ ง ๆ 4. แต่งต้ังคณะกรมการดำเนนิ งาน 5. ประชาสัมพันธ์โครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝึกปฏบิ ัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” 6. จัดกิจกรรมโครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝึกปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” ตามตาราง กิจกรรมที่กำหนดการ 7. ติดตามและประเมินผลโครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝึกปฏิบัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” กศน.ตำบล สงั กดั กศน.อำเภอพนัสนคิ ม
สรปุ ผลการจัดกิจกรรม 12 โครงการอบรมใหค้ วามร้แู ละฝกึ ปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” 3. การประเมนิ ผล วิเคราะหข์ ้อมูล 1. บันทึกผลการสังเกตจากผู้เขา้ ร่วมกิจกรรม 2. วเิ คราะห์ผลจากการประเมินในแบบประเมินความพึงพอใจ 3. รายงานผลการปฏิบัตงิ าน รวบรวมสรปุ ผลการปฏิบตั งิ านของโครงการนำเสนอตอ่ ผ้บู รหิ าร นำปญั หา ข้อบกพร่องไปแกไ้ ขครั้งต่อไป คา่ สถิติท่ใี ช้ การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าสถิติร้อยละในการประมวลผลข้อมูลส่วนตัวและตัวชี้วัดความสำเร็จของ โครงการตามแบบสอบถามคดิ เปน็ รายขอ้ โดยแปลความหมายค่าสถิติรอ้ ยละออกมาไดด้ งั นี้ คา่ สถิติรอ้ ยละ 90 ขนึ้ ไป ดมี าก ค่าสถติ ิรอ้ ยละ 75 – 89.99 ดี คา่ สถิติรอ้ ยละ 60 – 74.99 พอใช้ คา่ สถติ ิร้อยละ 50 – 59.99 ปรับปรุง คา่ สถิติรอ้ ยละ 0 – 49.99 ปรับปรุงเรง่ ด่วน ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามความคิดเห็นรายข้อซึ่งมีลักษณะเป็นค่าน้ำหนักคะแนน และนำมาเปรียบเทียบ ได้ระดบั คณุ ภาพตามเกณฑ์การประเมนิ ดังน้ี เกณฑ์การประเมนิ (X) ค่านำ้ หนกั คะแนน 4.50 – 5.00 ระดับคุณภาพ คอื ดีมาก คา่ นำ้ หนกั คะแนน 3.75 – 4.49 ระดบั คุณภาพ คือ ดี ค่าน้ำหนักคะแนน 3.00 – 3.74 ระดับคุณภาพ คอื พอใช้ ค่าน้ำหนักคะแนน 2.50 – 2.99 ระดบั คณุ ภาพ คอื ตอ้ งปรับปรุง คา่ นำ้ หนักคะแนน 0.00 – 2.49 ระดับคุณภาพ คือ ต้องปรับปรงุ เร่งดว่ น กศน.ตำบล สังกดั กศน.อำเภอพนัสนคิ ม
สรปุ ผลการจดั กิจกรรม 13 โครงการอบรมให้ความรู้และฝกึ ปฏิบัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” บทที่ 4 ผลการดำเนนิ งานและการวิเคราะห์ขอ้ มูล ตอนท่ี 1 รายงานผลการจัดกจิ กรรมโครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝึกปฏบิ ตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล” การจดั กจิ กรรมโครงการอบรมใหค้ วามรูแ้ ละฝกึ ปฏบิ ัติการ “โคก หนอง นา โมเดล” สรุปรายงานผลการ จัดกจิ กรรมได้ดงั น้ี ในการจดั กิจกรรมอบรมให้ความร้ตู ามโครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝกึ ปฏบิ ตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล” เป็นการอบรมให้ความรู้ โดยมี นางรัชนีกร ดว้ งเงิน เป็นวทิ ยากรในการบรรยายให้ความรู้ เร่อื ง ศาสตร์พระราชา หลกั การสรา้ ง โคก หนอง นา โมเดล ปา่ ใหอ้ ะไรมากกวา่ ท่ีคดิ เคร่อื งมอื การเกษตรนา่ รู้ การเพิม่ มูลค่าผลผลติ ทาง การเกษตรและรบั ฟังการบรรยายและฝกึ ปฏิบตั ิการ “การทำสบู่” ตอนที่ 2 รายงานผลความพึงพอใจของโครงการอบรมให้ความรูแ้ ละฝกึ ปฏบิ ัติการ “โคก หนอง นา โมเดล” การจดั กิจกรรมโครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝึกปฏิบัติการ “โคก หนอง นา โมเดล” ซึ่งสรุปรายงานผลจาก แบบสอบถามความคดิ เห็น ข้อมูลท่ีไดส้ ามารถวิเคราะห์และแสดงค่าสถติ ิ ดังน้ี ตารางที่ 1 ผเู้ ขา้ รว่ มโครงการทตี่ อบแบบสอบถามไดน้ ำมาจำแนกตามเพศ ร้อยละ เพศ จำนวน ชาย 2 5.71 หญงิ 33 94.29 รวม 35 100.00 จากตารางที่ 1 พบว่าผตู้ อบแบบสอบถามที่เข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรูต้ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง โครงการอบรมใหค้ วามร้แู ละฝกึ ปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” จำนวน 35 คน ส่วนใหญเ่ ป็นเพศ หญิง จำนวน 33 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 94.29 และเพศชาย จำนวน 2 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 5.71 ตารางท่ี 2 ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการท่ตี อบแบบสอบถามไดน้ ำมาจำแนกตามอายุ อายุ จำนวน รอ้ ยละ 15 – 25 ปี - - - 26 - 39 ปี - 2.86 37.14 40 – 49 ปี 1 60.00 50 - 59 ปี 13 100.00 60 ปีขึ้นไป 21 รวม 35 จากตารางท่ี 2 พบว่าผตู้ อบแบบสอบถามท่เี ข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรูต้ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง โครงการอบรมใหค้ วามร้แู ละฝึกปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” จำนวน 35 คน สว่ นใหญ่มอี ายุ 60 ปขี นึ้ ไป จำนวน 21 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 60.00 รองลงมาคืออายรุ ะหว่าง 50-59 ปี จำนวน 13 คน คิดเปน็ ร้อย ละ 37.14 และสุดท้ายคืออายุระหว่าง 40-49 ปี จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 2.86 กศน.ตำบล สงั กัด กศน.อำเภอพนัสนคิ ม
สรปุ ผลการจดั กิจกรรม 14 โครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝกึ ปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” ตารางที่ 3 ผูเ้ ข้ารว่ มโครงการท่ตี อบแบบสอบถามไดน้ ำมาจำแนกตามอาชพี ประกอบอาชีพ จำนวน รอ้ ยละ รับจ้าง 11 31.43 11.43 คา้ ขาย 4 20.00 เกษตรกร 7 - 37.14 ลกู จา้ ง/ข้าราชการหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชน - 100.00 อ่นื ๆ 13 รวม 35 จากตารางท่ี 3 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามทเี่ ข้าร่วมกิจกรรมการเรยี นร้ตู ามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง โครงการอบรมให้ความร้แู ละฝึกปฏบิ ัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” จำนวน 35 คน สว่ นใหญ่ ประกอบอาชีพอื่น ๆ จำนวน 13 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 37.14 รองลงมาคืออาชีพรบั จ้าง จำนวน 11 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 31.43 อาชพี เกษตรกร จำนวน 7 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 20.00 และสุดท้ายประกอบอาชีพค้าขาย จำนวน 4 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 11.43 ตารางที่ 4 ผเู้ ข้าร่วมโครงการทีต่ อบแบบสอบถามได้นำมาจำแนกตามระดบั การศึกษา ระดับการศกึ ษา จำนวน รอ้ ยละ ต่ำกวา่ ป.4 4 11.43 8.57 ป.4 3 14.29 11.43 ประถมศกึ ษา 5 31.43 มัธยมศกึ ษาตอนต้น 4 - 22.86 มัธยมศกึ ษาตอนปลาย 11 - อนุปรญิ ญา - 100.00 ปริญญาตรี 8 สงู กวา่ ปรญิ ญาตรี - รวม 35 จากตารางที่ 4 พบว่าผตู้ อบแบบสอบถามท่เี ข้าร่วมกิจกรรมการเรยี นร้ตู ามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง โครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝึกปฏิบตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล”จำนวน 35 คน ส่วนใหญ่มีการศึกษา ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 31.43 รองลงมาคือระดับปรญิ ญาตรี จำนวน 8 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 22.86 ระดับประถมศกึ ษา จำนวน 5 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 14.29 ระดับต่ำกว่า ป.4 จำนวน 4 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 11.43 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ จำนวน 4 คน คดิ เป็นร้อยละ 11.43 สดุ ท้ายคือระดับ ประถมศึกษาปที ่ี 4 จำนวน 3 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 8.57 ตารางที่ 5 แสดงค่ารอ้ ยละเฉลยี่ ความสำเรจ็ ของตวั ชีว้ ัด ผลผลติ ประชาชนท่ัวไปเข้าร่วมโครงการจำนวน 35 คน ผลสำเรจ็ ของโครงการ จำนวน ร้อยละ เปา้ หมายโครงการ 30 100.00 ผู้เข้ารว่ มโครงการ 35 100.00 กศน.ตำบล สังกดั กศน.อำเภอพนัสนิคม
สรปุ ผลการจัดกจิ กรรม 15 โครงการอบรมให้ความร้แู ละฝกึ ปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” จากตารางที่ 5 พบวา่ ผลสำเร็จของตวั ชี้วัดผลผลิตกจิ กรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง โครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝกึ ปฏบิ ัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” มีผ้เู ข้ารว่ มโครงการ จำนวน 35 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100 ซ่ึงบรรลุเปา้ หมายด้านตัวชวี้ ัด ผลผลติ ตารางที่ 6 ค่าเฉล่ยี และสว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐานความพึงพอใจของผ้เู ข้ารว่ มกจิ กรรมที่มีความพึงพอใจต่อโครงการ อบรมให้ความรแู้ ละฝึกปฏิบัติการ “โคก หนอง นา โมเดล” ในภาพรวม รายการ คา่ เฉลยี่ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดับ () ความพึงพอใจ ดา้ นการบรหิ ารจดั การ 4.65 () ความพงึ พอใจดา้ นกระบวน 4.67 0.50 ดมี าก การจดั กิจกรรมการเรียนรู้/การอบรม 0.50 ดมี าก ด้านประโยชน์ท่ไี ดร้ บั 4.69 รวมทกุ ด้าน 4.67 0.53 ดีมาก 0.51 ดีมาก จากตารางที่ 6 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีความพึงพอใจต่อโครงการอบรมให้ความรู้และฝกึ ปฏบิ ตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล” ในภาพรวม จำนวน 35 คน อยใู่ นระดับดีมาก (=4.67) เม่ือพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ดา้ นประโยชน์ทไี่ ด้รบั อยู่ในระดบั มากทสี่ ดุ มีค่าเฉล่ีย (= 4.69) รองลงมาคือ ความพงึ พอใจด้าน กระบวนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้/การอบรม มีอยใู่ นระดับดีมาก มคี ่าเฉลย่ี (= 4.67) และสุดทา้ ยดา้ นการ บรหิ ารจัดการ อย่ใู นระดบั ดีมาก มคี า่ เฉลีย่ (= 4.65) ตามลำดบั โดยมีส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน () อยรู่ ะหวา่ ง 0.50 - 0.53 แสดงวา่ ผเู้ ขา้ รว่ มกิจกรรมมีความพงึ พอใจสอดคล้องกัน ตารางท่ี 7 คา่ เฉลี่ยและสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานความพึงพอใจของผเู้ ข้าร่วมกิจกรรมที่มีความพึงพอใจต่อ โครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝกึ ปฏบิ ตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล”ด้านการบรหิ ารจดั การ รายการ ค่าเฉลีย่ สว่ นเบยี่ งเบน ระดบั มาตรฐาน () ความพงึ พอใจ 1. อาคารสถานที่ () 2. ส่งิ อำนวยความสะดวก 0.55 ดมี าก 3. กำหนดการและระยะเวลาในการดำเนินโครงการ 4.63 0.47 ดี 4. เอกสารการอบรม 4.69 0.54 ดมี าก 5. วทิ ยากรผู้ใหก้ ารอบรม 4.66 0.51 ดมี าก 4.51 0.44 ดี รวม 4.74 4.65 0.50 ดมี าก จากตารางที่ 7 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีความพึงพอใจต่อโครงการอบรมให้ความรู้และฝึก ปฏิบัติการ “โคก หนอง นา โมเดล” ด้านการบริหารจัดการ ในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ย (= 4.65) เม่อื พจิ ารณาเปน็ รายข้อ พบวา่ วทิ ยากรผู้ให้การอบรม มคี า่ เฉล่ยี (= 4.74) รองลงมา คือ สง่ิ อำนวยความสะดวก มีค่าเฉลี่ย (= 4.69) กำหนดการและระยะเวลาในการดำเนินโครงการ ค่าเฉลี่ย (= 4.66) อาคารสถานที่ ค่าเฉลี่ย (= 4.63) และสุดท้าย เอกสารการอบรม มีค่าเฉลี่ย (= 4.51) ตามลำดับ โดยมีส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน () อยรู่ ะหว่าง 0.44 - 0.55 แสดงว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นไปในทศิ ทางเดียวกนั กศน.ตำบล สงั กัด กศน.อำเภอพนัสนิคม
สรปุ ผลการจดั กิจกรรม 16 โครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝกึ ปฏิบัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” ตารางที่ 8 ค่าเฉลย่ี และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานความพงึ พอใจของผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่มีความพึงพอใจต่อโครงการ อบรมให้ความรูแ้ ละฝึกปฏิบัติการ “โคก หนอง นา โมเดล” ด้านกระบวนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้/การอบรม รายการ คา่ เฉลย่ี สว่ นเบย่ี งเบน ระดบั () มาตรฐาน () ความพงึ พอใจ 6. การจดั กิจกรรมโครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝกึ 4.60 0.55 ดีมาก ปฏิบัติการ “โคก หนอง นา โมเดล” 7. การให้ความรู้เรื่อง “โคก หนอง นา โมเดล” 4.57 0.56 ดีมาก 8. การตอบข้อซักถามของวิทยากร 4.83 0.38 ดีมาก 4.80 0.41 ดีมาก 9. การแลกเปล่ียนเรียนร้ขู องผ้เู ขา้ รบั การอบรม 4.66 0.54 ดีมาก 10. การสรุปองค์ความร้รู ่วมกัน 4.54 0.51 ดีมาก 11. การวดั ผล ประเมินผล การฝึกอบรม 4.67 0.50 ดีมาก รวม จากตารางที่ 8 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามมคี วามพงึ พอใจต่อโครงการอบรมให้ความรูแ้ ละฝกึ ปฏิบัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” ดา้ นกระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้/การอบรม ในภาพรวมอย่ใู นระดับดีมาก มี คา่ เฉลี่ย (= 4.79) เมื่อพิจารณาเปน็ รายข้อ พบว่า การตอบข้อซกั ถามของวิทยากร มคี ่าเฉลยี่ (= 4.83) รองลงมาคือ การแลกเปล่ียนเรียนรขู้ องผเู้ ขา้ รับการอบรม มีคา่ เฉล่ยี (= 4.80) การสรุปองค์ความรู้รว่ มกนั มี ค่าเฉลยี่ (= 4.66) การจัดกจิ กรรมโครงการอบรมใหค้ วามรูแ้ ละฝึกปฏิบัติการ “โคก หนอง นา โมเดล” มี คา่ เฉลย่ี (= 4.60) การให้ความรูเ้ รอ่ื ง “โคก หนอง นา โมเดล” มีคา่ เฉล่ีย (= 4.57) และสุดท้ายการวัดผล ประเมนิ ผล การฝกึ อบรม มีค่าเฉลยี่ (= 4.54) ตามลำดับ โดยมีสว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน () อยู่ระหว่าง 0.38 - 0.56 แสดงว่า ผตู้ อบแบบสอบถามมีความคิดเห็นสอดคล้องกัน ตารางที่ 9 ค่าเฉล่ียและสว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐานความพึงพอใจของผเู้ ข้าร่วมกิจกรรมท่มี ีความพงึ พอใจตอ่ โครงการ อบรมให้ความรู้และฝึกปฏบิ ตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล” ดา้ นประโยชน์ที่ไดร้ ับ รายการ ค่าเฉลี่ย สว่ นเบย่ี งเบน ระดับความ () มาตรฐาน () พงึ พอใจ 12. การเรียนรแู้ ละฝึกตนเองเกีย่ วกบั “โคก หนอง นา 4.63 0.60 ดมี าก โมเดล” 13. การนำความรู้ที่ได้รับมาปรับใช้ในชวี ติ ประจำวนั 4.74 0.44 ดมี าก 4.69 0.53 ดีมาก รวม จากตารางที่ 9 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจต่อโครงการอบรมให้ความรู้และฝึก ปฏิบัติการ “โคก หนอง นา โมเดล” ด้านประโยชน์ที่ได้รับ ในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ย (= 4.69) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า การนำความรู้ที่ได้รับมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน มีค่าเฉลี่ย (= 4.74) และการ เรียนรู้และฝกึ ตนเองเกย่ี วกบั “โคก หนอง นา โมเดล”ยง มคี า่ เฉล่ีย (= 4.63) โดยมีสว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน () อยู่ระหว่าง 0.44 - 0.60 แสดงว่าผ้ตู อบแบบสอบถามมีความคดิ เห็นไปในทศิ ทางเดยี วกนั กศน.ตำบล สงั กัด กศน.อำเภอพนัสนิคม
สรปุ ผลการจดั กิจกรรม 17 โครงการอบรมใหค้ วามรแู้ ละฝกึ ปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” สรปุ ในภาพรวมของกิจกรรมคดิ เป็นรอ้ ยละ 93.40 มคี า่ น้ำหนักคะแนน 4.67 ถือวา่ ผู้รบั บริการ มคี วามพึงพอใจทางดา้ นตา่ ง ๆ อยใู่ นระดับดมี าก โดยเรยี งลำดับดังนี้ อนั ดับแรก ดา้ นประโยชนท์ ไ่ี ด้รับ คดิ เปน็ ร้อยละ 93.80 มีคา่ นำ้ หนักคะแนน 4.69 อยู่ในระดับ คณุ ภาพดีมาก อันดับสอง ด้านการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้/การอบรม คดิ เป็นรอ้ ยละ 93.40 มีค่าน้ำหนักคะแนน 4.67 อยใู่ นระดบั คุณภาพดี อันดบั สาม ด้านการบริหารจดั การ คดิ เปน็ ร้อยละ 93.00 มีคา่ นำ้ หนักคะแนน 4.65 อยูใ่ นระดับ คุณภาพดี กศน.ตำบล สงั กัด กศน.อำเภอพนัสนคิ ม
สรปุ ผลการจัดกิจกรรม 18 โครงการอบรมให้ความรู้และฝกึ ปฏบิ ัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” บทที่ 5 อภปิ รายและข้อเสนอแนะ ผลการจดั กจิ กรรมโครงการอบรมให้ความรู้และฝึกปฏบิ ัติการ “โคก หนอง นา โมเดล” ได้ผลสรุปดงั น้ี วัตถุประสงค์ 1. เพอื่ สง่ เสริมให้ผ้เู ขา้ ร่วมกจิ กรรมรู้จกั การใชพ้ ้นื ที่อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพสูงสดุ 2. เพ่อื ส่งเสรมิ และพฒั นาคณุ ภาพชีวิตของประชาชน ตลอดจนทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ มตาม แนวทางปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง เปา้ หมาย (Outputs) เปา้ หมายเชิงปรมิ าณ ประชาชน 6 ตำบล ๆ ละ 5 คน ไดแ้ ก่ ตำบลบา้ นชา้ ง ตำบลบ้านเซิด ตำบลหมอนนาง ตำบลกุฎโง้ง ตำบลทุ่งขวางและตำบลนามะตมู รวมทัง้ สน้ิ 30 คน เปา้ หมายเชิงคณุ ภาพ - ผเู้ ขา้ ร่วมกิจกรรมรูจ้ กั การใช้พืน้ ที่อยา่ งมีประสิทธภิ าพสูงสุด - ผู้เข้ารว่ มกจิ กรรมมีการพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ตลอดจนทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อมตาม แนวทางปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เคร่อื งมือท่ีใช้ในการเกบ็ รวบรวมข้อมูล เครื่องมือที่ใชใ้ นการเก็บรวบรวมขอ้ มูลในครงั้ น้ี คือ แบบประเมินความพงึ พอใจ การเก็บรวบรวมข้อมลู ในการเกบ็ รวบรวมข้อมูล ได้มอบหมายให้ ครู กศน.ตำบลที่รบั ผดิ ชอบกจิ กรรมแจกแบบสอบถามความ พงึ พอใจให้กับผู้รว่ มกิจกรรม โดยใหผ้ ู้เขา้ ร่วมกิจกรรมประเมนิ ผลการจัดกิจกรรมตา่ ง ๆ ตามโครงการอบรมให้ ความรู้และฝกึ ปฏิบตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล” สรปุ ผลการดำเนินงาน กศน.ตำบลบา้ นชา้ ง กศน.ตำบลบ้านเซดิ กศน.ตำบลหมอนนาง กศน.ตำบลกฎุ โงง้ กศน.ตำบลท่งุ ขวาง และกศน.ตำบลนามะตมู ได้ดำเนนิ การจดั กิจกรรมโครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝึกปฏิบัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” โดยดำเนนิ การเสรจ็ สิ้นลงแลว้ และสรปุ รายงานผลการดำเนินงานได้ดงั นี้ 1. ผู้ร่วมกจิ กรรมจำนวน 35 คน รู้จักการใช้พนื้ ท่ีอย่างมีประสิทธภิ าพสงู สุด อกี ทง้ั มีการพัฒนาคณุ ภาพชวี ิต ทด่ี ีขึน้ ตลอดจนสามารถใช้ประโยชนจ์ ากทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมของตนเองได้อยา่ งเหมาะสมตาม แนวทางปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2. ผู้ร่วมกจิ กรรมรอ้ ยละ 93.80 นำความรู้ท่ีได้รับมาปรับใชใ้ นชวี ิตประจำวนั 3. จากการดำเนินกจิ กรรมตามโครงการดังกล่าว สรปุ โดยภาพรวมพบว่า ผเู้ ข้าร่วมกจิ กรรมส่วนใหญม่ ีความ พงึ พอใจต่อโครงการ อยู่ในระดับ “ดีมาก ” และบรรลุความสำเร็จตามเป้าหมายตวั ช้ีวดั ผลลัพธ์ทีต่ ง้ั ไว้ โดยมี ค่าเฉลี่ยร้อยละภาพรวมของกิจกรรม 93.40 และคา่ การบรรลเุ ปา้ หมายค่าเฉลี่ย 4.67 กศน.ตำบล สังกดั กศน.อำเภอพนัสนิคม
สรปุ ผลการจัดกิจกรรม 19 โครงการอบรมให้ความรู้และฝกึ ปฏิบตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” ขอ้ เสนอแนะ - อยากให้มีการจัดกิจกรรมนี้อกี ประชาชนสามารถนำความรทู้ ีไ่ ดร้ บั ไปปรับใช้ในชวี ติ ประจำวนั รวมทงั้ สามารถพฒั นาคุณภาพชีวิตของตนเองใหด้ ียง่ิ ขึ้น ตลอดจนใช้ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มท่ตี นเองมีได้อยา่ ง เหมาะสมตามแนวทางปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง กศน.ตำบล สังกัด กศน.อำเภอพนัสนิคม
สรปุ ผลการจัดกจิ กรรม โครงการอบรมใหค้ วามรู้และฝกึ ปฏิบัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” ภาคผนวก กศน.ตำบล สังกดั กศน.อำเภอพนสั นคิ ม
สรปุ ผลการจัดกิจกรรม โครงการอบรมใหค้ วามรแู้ ละฝกึ ปฏบิ ตั กิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” ภาพประกอบการจัดกจิ กรรม โครงการอบรมให้ความรู้และฝกึ ปฏิบตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล” วนั ที่ 23 มนี าคม 2564 ณ ศนู ย์การเรียนรู้ “โคก หนอง นา โมเดล” ม.8 ต.หนองเหียง อ.พนัสนคิ ม จ.ชลบุรี วทิ ยากรคือนางรัชนกี ร ด้วงเงนิ ผูเ้ ข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 35 คน กศน.ตำบล สังกดั กศน.อำเภอพนสั นคิ ม
สรปุ ผลการจดั กจิ กรรม โครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝกึ ปฏิบัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” คณะผจู้ ัดทำ ทปี่ รกึ ษา หมื่นสา ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอพนัสนิคม 1. นางณชั ธกญั การงานดี ครู 2. นางสาวมทุ กิ า ครู กศน.ตำบลบ้านช้าง คณะทำงาน น้อยประเสรฐิ ครู กศน.ตำบลบ้านเซิด 1. นางสาวเบญจมาศ เพชรประเสรฐิ ครู กศน.ตำบลหมอนนาง 2. นางสาวสนุ ทรี บรรดาศักด์ิ ครู กศน.ตำบลกุฎโง้ง 3. นางสาวจนั ทรท์ ิพย์ ฮกโก้ ครู กศน.ตำบลทุ่งขวาง 4. นางสาวกนกกร น้ำฟ้า ครู กศน.ตำบลนามะตมู 5. นางสาวนติ ยา มาละเงนิ 6. นางสาวสทุ ธิดา ครผู ู้ช่วย ครอู าสาสมัครฯ บรรณาธิการ ศรบี ุณยะแกว้ 1. นางสาวณภษร คลังสนิ ธ์ 2. นางสาวเฟ่ืองฟา้ กศน.ตำบล สงั กดั กศน.อำเภอพนัสนคิ ม
แบบประเมินผ้รู ับบริการ โครงการอบรมให้ความรูแ้ ละฝึกปฏบิ ัตกิ าร “โคก หนอง นา โมเดล” สถานศึกษา ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอพนสั นคิ ม กิจกรรม การศึกษาเพอ่ื พัฒนาอาชีพ การศกึ ษาเพือ่ พฒั นาทกั ษะชีวิต การศึกษาเพอ่ื พัฒนาสงั คมและชุมชน เศรษฐกจิ พอเพียง ******************************************************************************************** ส่วนที่ 1 ข้อมลู ทวั่ ไป คำช้ีแจง ใสเ่ ครอ่ื งหมาย ลงในช่องทต่ี รงกบั ข้อมลู ของทา่ นเพียงชอ่ งเดียว เพศ ชาย หญิง อายุ 15 - 25 ปี 26 – 39 ปี 40 – 49 ปี 50 – 59 ปี 60 ปีขึน้ ไป อาชพี รบั จา้ ง คา้ ขาย เกษตรกรรม ลกู จ้าง/ข้าราชการหน่วยงาน อ่ืน ๆ ระบุ การศึกษา ต่ำกวา่ ป.4 ป.4 ประถมศกึ ษา ม.ตน้ ม.ปลาย อนปุ รญิ ญา ปริญญาตรี สูงกวา่ ปรญิ ญาตรี สว่ นท่ี 2 ดา้ นความพงึ พอใจของผู้รบั บรกิ าร คำช้ีแจง ใสเ่ คร่ืองหมาย ลงในช่องทตี่ รงกับข้อมลู ของทา่ นเพยี งชอ่ งเดยี ว ข้อ รายการประเมินความพงึ พอใจ ระดับความพงึ พอใจ หมาย มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย เหตุ ที่สดุ กลาง ท่สี ุด ตอนที่ 1 ความพึงพอใจดา้ นการบริหารจดั การ 1 อาคารสถานท่ี 2 สง่ิ อำนวยความสะดวก 3 กำหนดการและระยะเวลาในการดำเนินโครงการ 4 เอกสารประกอบการอบรม 5 วิทยากรผู้ให้การอบรม ตอนท่ี 2 ความพึงพอใจด้านกระบวนการจดั กิจกรรมการเรยี นร/ู้ การอบรม 6 การจดั กจิ กรรมโครงการอบรมใหค้ วามรแู้ ละฝกึ ปฏบิ ตั ิการ “โคก หนอง นา โมเดล” 7 การใหค้ วามรเู้ รื่อง “โคก หนอง นา โมเดล” 8 การตอบข้อซกั ถามของวิทยากร 9 การแลกเปล่ียนเรียนร้ขู องผเู้ ข้ารับการอบรม 10 การสรุปองคค์ วามรรู้ ่วมกัน 11 การวัดผลและประเมินผลการฝกึ อบรม ตอนท่ี 3 ความพงึ พอใจดา้ นประโยชนท์ ไี่ ด้รับ 12 การเรยี นรู้และฝึกตนเองเกี่ยวกบั “โคก หนอง นา โมเดล” 13 การนำความร้ทู ี่ไดร้ บั มาปรับใช้ในชวี ิตประจำวัน ผู้ผา่ นการฝกึ อบรมได้นำความร้ไู ปใช้จรงิ เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย นำไปประกอบอาชีพ พัฒนาคุณภาพชีวิต ใช้เวลาว่างให้เกดิ ประโยชน์ อ่นื ๆ ระบุ………………………. ความคิดเห็นและขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ ............................................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................................ ขอขอบคุณทกุ ท่านที่กรุณาตอบแบบประเมนิ : จาก กศน.ตำบล
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: