เอกสารประกอบการเรียน โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ประเภทส่ิงประดิษฐ์ โดยใช้กระบวนการ PDCA กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ วชิ า โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 2 ครูชานาญการ โรงเรียนบ้านด่านลานหอยวิทยา สานักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษา มธั ยมศึกษา เขต 38
เอกสารประกอบการเรียน เล่มที่ 1 ความร้ทู ั่วไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ก คานา เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ รหสั ว 20203 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 2 เร่ือง การทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ประเภทสิ่งประดิษฐ์โดยใชก้ ระบวนการ PDCA เป็ นส่วนหน่ึงของการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนตามหลกั สูตรการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พ.ศ.2551 ของกลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ จานวน 7 เล่ม ดงั น้ี เล่มที่ 1 ความรู้ทว่ั ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ เล่มท่ี 2 การวเิ คราะหโ์ ครงงาน เล่มที่ 3 โครงงานวทิ ยาศาสตร์ประเภทสิ่งประดิษฐ์ และส่ิงประดิษฐว์ ทิ ยาศาสตร์ เล่มท่ี 4 การวางแผนการทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ เล่มที่ 5 การเขยี นเคา้ โครง โครงงานวทิ ยาศาสตร์ เล่มที่ 6 การใชท้ กั ษะกระบวนการ PDCA กบั การทาส่ิงประดิษฐ์ เล่มท่ี 7 การเขยี นรายงาน การจดั แสดงผลงาน เอกสารประกอบการเรียนรายวชิ าโครงงานวทิ ยาศาสตร์ รหสั ว 20203 ช้นั มธั ยมศึกษา ปี ท่ี 2 เร่ือง การทาโครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทสิ่งประดิษฐ์โดยใช้กระบวนการ PDCA ประกอบดว้ ย มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั แบบทดสอบก่อนเรียน เน้ือหาความรู้ แบบฝึกหดั แบบทดสอบหลงั เรียนทาให้ผูเ้ รียนไดฝ้ ึกทกั ษะและกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เกิด ความรู้ ความเขา้ ใจ เก่ียวกบั โครงงานวทิ ยาศาสตร์ประเภทสิ่งประดิษฐ์ ผูเ้ รียนเกิดการเรียนรู้ ไดเ้ ต็ม ศกั ยภาพของแต่ละบุคคล เห็นความกา้ วหนา้ ของตนเองอยา่ งเป็ นระบบ ส่งเสริมให้ผเู้ รียน มีความ สนใจ ต้งั ใจเรียนมากข้ึนทาให้ บรรลุเป้ าหมายของหลกั สูตร สุภาภรณ์ รอดเท่ียง
เอกสารประกอบการเรยี น เล่มท่ี 1 ความรู้ท่วั ไปของโครงงานวิทยาศาสตร์ ข สารบญั ก ข คานา ค สารบญั 1 สารบญั ภาพ 2 คาแนะนาการใชเ้ อกสารประกอบการเรียน 3 แผนภูมิลาดบั ข้นั การศึกษา 4 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 7 แบบทดสอบก่อนเรียน 15 ใบความรูท้ ่ี 1 ความรูท้ ว่ั ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 16 แบบฝึกหดั ท่ี 1 30 ใบความรูท้ ี่ 2 ประเภทโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 31 แบบฝึกหดั ท่ี 2 34 แบบทดสอบหลงั เรียน 35 บรรณานุกรม 37 ภาคผนวก 38 เฉลยคาตอบแบบทดสอบ ก่อนเรียน 39 เฉลยแบบฝึกหดั ที่ 1 41 เฉลยแบบฝึกหดั ที่ 2 42 เฉลยคาตอบแบบทดสอบ หลงั เรียน 43 เกณฑก์ ารประเมินแบบฝึกหดั เร่ือง ความหมายโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 44 เกณฑก์ ารประเมินแบบฝึกหดั เร่ือง ประเภทของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ แบบสอบถามความพงึ พอใจของผเู้ รียน
เอกสารประกอบการเรยี น เลม่ ที่ 1 ความรู้ท่ัวไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ค สารบญั หนา้ 10 ภาพ 11 18 ภาพ 18 ภาพที่ 1 อุปกรณ์ สารเคมีในการทาน้ายาลา้ งจาน ตามทอ้ งตลาด 19 ภาพท่ี 2 การทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์น้ายาลา้ งจานจากใบฝรง่ั 19 ภาพท่ี 3 การสืบพนั ธุส์ ตั วค์ ร่ึงบกคร่ึงน้า 19 ภาพท่ี 4 การศึกษามลพษิ ของน้า 20 ภาพท่ี 5 วฏั จกั รของกระเบ้ยี 20 ภาพที่ 6 พลงั งานลม Wind Power 20 ภาพที่ 7 นกปากห่าง หรือนกชอ้ นหอย (Anastomus oscitans) 21 ภาพท่ี 8 อะฟลาทอกซิน 21 ภาพที่ 9 การตรวจกรุ๊ปเลือดแบบใหม่ 21 ภาพท่ี 10 การทดสอบผงชูรส 23 ภาพท่ี 11 กิจกรรมการเรียนผ้งึ 25 ภาพท่ี 12 วงจรชีวิตของผเี ส้ือ 25 ภาพท่ี 13 พฤติกรรมของสตั ว์ 25 ภาพท่ี 14 แผนภาพข้นั ตอนการดาเนิน 27 ภาพท่ี 15 การทาอิฐบล็อกจากเศษโฟม 28 ภาพที่ 16 ตน้ หญา้ ปลอ้ ง Hymenachne 29 ภาพที่ 17 ผกั ตบชวา ภาพท่ี 18 ส่ิงประดิษฐ์ ภาพท่ี 19 ส่ิงประดิษฐ์เพอ่ื โลกใหม่ในอนาคต ภาพที่ 20 ทฤษฎีการกาเนิดโลก
เอกสารประกอบการเรียน เล่มท่ี 1 ความรทู้ วั่ ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 1 คาแนะนาการใช้ เอกสารประกอบการเรียนรายวชิ าโครงงานวทิ ยาศาสตร์ รหัส ว 20203 ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 2 เรื่อง การทาโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภทส่ิงประดษิ ฐ์ โดยใช้กระบวนการ PDCA เล่มที่ 1 เรื่อง ความรู้ทัว่ ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ก่อนจะนาเอกสารประกอบการเรียนชุดน้ีไปศกึ ษา นกั เรียนควรทาความเขา้ ใจข้นั ตอนการใช้ เอกสารประกอบการเรียนอยา่ งละเอียด เพอื่ จะไดป้ ฏิบตั กิ ิจกรรมการเรียนไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเกิด ประโยชน์ตามจุดมุ่งหมาย ใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิตามคาแนะนาดงั น้ี 1. ศึกษาสาระการเรียนรู้ 2. ศึกษามาตรฐานการเรียนรู้ 3. ศึกษาตวั ช้ีวดั 4. ศึกษาผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั 5. ทาแบบทดสอบก่อนเรียน 6. ศกึ ษาใบความรู้ ที่ 1 เร่ือง ความรู้ทว่ั ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 7. ทาแบบฝึกหดั ที่ 1 8. ศึกษาใบความรู้ ที่ 2 เรื่อง ประเภทของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 9. ทาแบบฝึกหดั ที่ 2 10. ทาแบบทดสอบหลงั เรียน 11. ตอบแบบสอบถามความพงึ พอใจ
เอกสารประกอบการเรยี น เลม่ ที่ 1 ความร้ทู ว่ั ไปของโครงงานวิทยาศาสตร์ 2 แผนภูมลิ าดบั ข้นั การศึกษา อ่านคาแนะนา ทาแบบทดสอบก่อนเรียน ศึกษาเอกสารประกอบการเรียน 2 ทากิจกรรม / แบบฝึ กหดั ไม่ผา่ นการประเมิน ทาแบบทดสอบหลงั เรียน 2 ผา่ นการประเมิน
เอกสารประกอบการเรยี น เล่มที่ 1 ความรู้ทว่ั ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 3 เอกสารประกอบการเรียน วชิ า โครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภท สิ่งประดษิ ฐ์ โดยใช้กระบวนการ PDCA ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 2 เล่ม 1 เร่ือง ความรู้ทวั่ ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ เวลาทใ่ี ช้เรียนรู้ 2 ช่ัวโมง สาระท่ี 8 ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาตรฐาน ว 8.1 ใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และจติ วทิ ยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การแกป้ ัญหารู้วา่ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทีเ่ กิดข้นึ ส่วนใหญม่ ีรูปแบบ ท่ีแน่นอน สามารถอธิบายและตรวจสอบไดภ้ ายใตข้ อ้ มูลและเร่ืองมือทมี่ ีอยู่ ในช่วงเวลาน้นั ๆ เขา้ ใจวา่ วทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยี สงั คม และสิ่งแวดลอ้ มมี ความเกี่ยวขอ้ งสมั พนั ธก์ นั ตวั ชี้วดั ว .8.1.ม.2/1 ต้งั คาถามทก่ี าหนดประเด็นหรือตวั แปรท่ีสาคญั ในการสารวจตรวจสอบ หรือ ศึกษาคน้ ควา้ เรื่องท่สี นใจไดอ้ ยา่ งครอบคลุมและเช่ือถือได้ ผลการเรียนรู้ เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนมีความรู้ ความเขา้ ใจ เกี่ยวกบั โครงงานวทิ ยาศาสตร์หรือผลงานวจิ ยั ระดบั ง่าย ๆ ดา้ นวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
เอกสารประกอบการเรียน เล่มที่ 1 ความรูท้ ว่ั ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 4 แบบทดสอบก่อนเรียน เร่ือง ความรู้ทวั่ ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ คาชี้แจง ขอ้ สอบเป็นปรนยั ชนิด 4 ตวั เลือก จานวน 10 ขอ้ ใหน้ กั เรียนทาเครื่องหมาย X ทบั ตวั อกั ษรที่ถูกตอ้ งลงในกระดาษคาตอบ 1. ขอ้ ใดไม่ใช่ลกั ษณะของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ก. ครูใหค้ าแนะนา และกาหนดเรื่องและเน้ือหาใหน้ กั เรียนศึกษาอยา่ งเป็ นข้นั ตอน ข. นกั เรียนเป็นผรู้ ิเริ่ม และเลือกเรื่องทจ่ี ะศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง ค. เนน้ การคดิ เป็น ทาเป็น และการแกป้ ัญหา ง. นกั เรียนเป็นผวู้ างแผนในการศึกษาคน้ ควา้ 2. ขอ้ ใดเป็นความหมายของโครงงาน ก. การศกึ ษาเร่ืองใดเร่ืองหน่ึง ซ่ึงผเู้ รียนเป็นผปู้ ฏบิ ตั แิ ละคน้ ควา้ ด้วยตนเอง ข. การศกึ ษาเรื่องทเ่ี กิดข้ึนใหม่ และลอกเลียนแบบจากผอู้ ื่น ค. การดดั แปลงเร่ืองใดเรื่องหน่ึงที่ผเู้ รียนสนใจ 3.ขอ้ ใดใหค้ วามหมายของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ก. การศกึ ษาเรื่องใดกต็ ามทีน่ กั เรียนคิดเอง เป็ นการสรา้ งโอกาสใหน้ กั เรียนไดร้ บั ระสบการณ์ตรง ข. กิจกรรมของนกั เรียนในการศึกษาเร่ืองทส่ี นใจดว้ ยตนเองและสามารถนาออกเผยแพร่ได้ ค. การศกึ ษาเร่ืองใดเร่ืองหน่ึงตามวธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์โดยมีการวางแผนอยา่ งมีข้นั ตอน ง. การนาผลงานท่ีผา่ นการวจิ ยั ดีแลว้ จากนกั วจิ ยั มาศกึ ษาถึงความเป็ นไปได้
เอกสารประกอบการเรียน เล่มที่ 1 ความรู้ทวั่ ไปของโครงงานวิทยาศาสตร์ 5 4. องคป์ ระกอบหลกั ทจ่ี ดั วา่ เป็นกิจกรรมโครงงานวทิ ยาศาสตร์มีลกั ษณะใด ก. นกั เรียนเป็นผรู้ ิเริ่ม และเลือกเรื่องทจี่ ะศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง ข. เนน้ การคิดเป็ น ทาเป็น และการแกป้ ัญหาเป็ นดว้ ยตนเอง ค. เป็ นกิจกรรม ทเี่ กี่ยวกบั วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ง. ทุกขอ้ เป็นองคป์ ระกอบที่จดั วา่ เป็นกิจกรรม 5. ข้นั ตอนใดจดั เป็นข้นั ตอนที่สาคญั และยากทีส่ ุดของการทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ก. การสงั เกตสิ่งรอบตวั แลว้ คดิ ทาโครงงาน ข. การเขียนเคา้ โครงของโครงงาน ค. การศกึ ษาเอกสารที่เก่ียวขอ้ ง ง. การคิดและเลือกหวั เร่ือง 6. ขอ้ ใดจดั เป็นลกั ษณะของโครงงานประเภทสารวจ ก. เป็นการหาคาตอบ ดว้ ยวธิ ีการออกแบบการทดลอง ข. เป็นการพฒั นาหรือประดิษฐ์ เคร่ืองมือเครื่องใชเ้ พอ่ื ประโยชน์ใชส้ อย ค. เป็นการศกึ ษารวบรวมปัญหาจากธรรมชาติใชว้ ธิ ีสารวจและรวบรวมขอ้ มูล ง. เป็ นการเสนอทฤษฎีหรืคาอธิบายสิ่งตา่ ง ๆ ตามแนวคิดใหม่ ๆ โดยมีหลกั การทาง วทิ ยาศาสตร์ 7. ขอ้ ใดไม่ใช่จุดมุ่งหมายและ ความสาคญั ของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ก. ใหเ้ กิดความรูแ้ ละประสบการณ์ ข. ใหค้ น้ ควา้ หาขอ้ มูลจากแหล่งต่างๆ ค. เพอื่ เกิดความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรคใ์ นการดาเนินการ ง. ใหแ้ ขง่ ขนั กนั เพอื่ หาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ท่สี มบรู ณ์ ถูกตอ้ งที่สุด
เอกสารประกอบการเรียน เล่มท่ี 1 ความรู้ท่ัวไปของโครงงานวิทยาศาสตร์ 6 8.โครงงานในขอ้ ใดจาเป็นตอ้ งมีตวั แปรควบคุม ก. การศึกษาพฤติกรรมการใชว้ สั ดุทารังของนกปากห่าง ข. การศกึ ษาอิทธิพลของฮอร์โมนเพศชายในสตั วต์ วั เมีย ค. การศกึ ษาการเจริญเตบิ โตของตวั อ่อนของสตั วบ์ างชนิด ง. เคร่ืองกวนน้ายาลา้ งจาน 9. โครงงานเรื่อง “ทฤษฎีการกาเนิดโลก” จดั เป็นโครงงานประเภทใด ก. ทดลอง ข. สารวจ ค. ประดิษฐ์ ง. ทฤษฎี 10. ขอ้ ใดคือลกั ษณะของตวั แปรอิสระในการทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ก. ส่ิงท่ีเป็ นผล ที่เป็นสาเหตุเปล่ียนไปหรือผลเปลี่ยนไป ข. ปัจจยั ทเี่ ป็นสาเหตุ ทที่ าใหเ้ กิดผลตา่ ง ๆ ที่ตอ้ งการศกึ ษา ค. ส่ิงหรือปัจจยั ที่จะส่งผลตอ่ การทดลอง ง. ส่ิงมีผลตอ่ ตวั แปรตาม
เอกสารประกอบการเรียน เล่มท่ี 1 ความรทู้ วั่ ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 7 ใบความรู้ที่ 1 ความรู้ทวั่ ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 1. ความหมาย ของโครงงาน1 โครงงานเป็นการศึกษาคน้ ควา้ เก่ียวกบั สิ่งใดสิ่งหน่ึงหรือหลาย ๆ สิ่งท่ีอยากรู้คาตอบ ให้ ลึกซ้ึงหรือเรียนรู้ในเรื่องน้ัน ๆ ให้มากข้ึนโดยใช้กระบวนการวธิ ีการ ที่ศึกษาอยา่ งมีระบบ เป็ น ข้นั ตอนมีการวางแผนในการศึกษาอย่างละเอียด ปฏิบตั ิงานตามแผนที่วางไวจ้ นได้ขอ้ สรุปหรือ ผลสรุปท่ีเป็ นคาตอบในเรื่องน้นั ๆโครงงานจดั เป็ นการเรียนรู้รูปแบบหน่ึง ทาให้ผเู้ รียนเรียนรู้ดว้ ย ตนเองโดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์อยา่ งเป็นข้นั ตอน และใชค้ วามรูท้ ี่ตนเองไดม้ าบูรณาการ นกั การศึกษาหลายทา่ นไดใ้ หค้ วามหมายของโครงงาน สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไดใ้ ห้ความหมายวา่ “โครงงานเป็ น การศึกษาคน้ ควา้ ตามความสามารถของผเู้ รียนเองภายใตก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เพื่อใหไ้ ดม้ า ซ่ึงคาตอบหรือผลงานซ่ึงมีความสมบูรณ์ในตัวโดยนักเรียนเป็ นผู้วางแผนการศึกษาค้นคว้า ดาเนินการดว้ ยตนเอง เพอ่ื ให้นกั เรียนเกิดการเรียนรู้ มีเจตคติท่ีดีต่อกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ครูเป็นเพยี งผใู้ หค้ าปรึกษาเท่าน้นั ” กระทรวงศึกษาธิการ ให้ความหมายว่า “โครงงานเป็ นการทากิจกรรมที่เปิ ดโอกาส ให้ นกั เรียนไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ และลงมือปฏบิ ตั ิดว้ ยตนเอง ภายใตก้ ารดูแลและใหค้ าปรึกษาของครู ต้งั แต่ การคิดสรา้ งโครงงานการวางแผนดาเนินการ การออกแบบลงมือปฏบิ ตั ิ รวมท้งั ร่วมกาหนดแนวทาง ในการวดั และประเมินผล” 1ท่ีมา:งานวจิ ยั .วิเทศสมั พนั ธส์ านกั งาน,มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ :[ ออนไลน์ ].เขา้ ถึงได้ จาก http://www.en.psu.ac.th/degree-and-admission/programs-of-study/pattani-campus.html สืบคน้ ขอ้ มูล ( 19 มิ.ย. 2557)
เอกสารประกอบการเรียน เล่มท่ี 1 ความรู้ท่วั ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 8 สุวิทย์ มูลคา ไดใ้ ห้ความหมายของโครงงานวา่ เป็ นกระบวนการเรียนรู้ท่ีเปิ ดโอกาส ให้ ผเู้ รียนไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ และลงมือปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตามความสนใจ ความสามารถ และความถนัดของ ตนเอง โดยอาศยั กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรือกระบวนการอ่ืนที่เป็ นระบบภายใตค้ าแนะนา ความช่วยเหลือจากผสู้ อนหรือผเู้ ชี่ยวชาญเร่ิมต้งั แต่เลือกเรื่องที่จะศึกษาการวางแผน การดาเนินงาน ตามข้นั ตอน ตลอดจนการนาเสนอผลงาน ซ่ึงในการจดั ทาโครงงานน้ันสามารถทาไดท้ ุกระดบั ช้นั อาจเป็นรายบคุ คลหรือเป็นกลุ่มจะในเวลาเรียนหรือนอกเวลาเรียนกไ็ ด้ จากความหมายของการจดั การเรียนการสอนแบบโครงงานที่นักการศึกษาหลายท่าน ได้ กล่าวน้นั สามารถ สรุปไดว้ ่า “โครงงานเป็ นวิธีการเรียนรู้ท่ีเกิดจากความสนใจใคร่รู้ ของผเู้ รียนที่ อยากจะศกึ ษาคน้ ควา้ และลงมือปฏิบตั ิเกี่ยวกบั สิ่งใดสิ่งหน่ึงหรือหลาย ๆ โดยใชท้ กั ษะกระบวนการ ศึกษาอยา่ งเป็ นระบบและมีข้นั ตอนต่อเน่ือง มีการวางแผนในการศึกษา อย่างละเอียดแลว้ ลงมือ ปฏิบตั ิตามแผนงานที่วางไว้ จนไดข้ อ้ สรุปหรือผลการศึกษาหรือคาตอบเก่ียวกับเร่ืองน้ัน ๆ ซ่ึง สามารถเรียนรูไ้ ดเ้ ป็นรายบคุ คลหรือเป็นกลุ่มก็ได้ 2. ความหมายของโครงงานวิทยาศาสตร์ โครงงานวิทยาศาสตร์ 1 หมายถึง การศึกษาเรื่องใดเรื่องหน่ึง เพื่อตอบคาถามหรือ ปัญหาที่ สงสยั ของผคู้ ิดทาโครงงาน โดยมีการวางแผนอยา่ งมี ข้นั ตอนตามวิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ เพื่อใหไ้ ดผ้ ลงานที่มีความสมบูรณ์โดยผศู้ ึกษาหรือผเู้ รียนเป็ นผูท้ ่ีลงมือศึกษาดว้ ยตนเอง ครู หรือ ผเู้ ช่ียวชาญเป็ นเพียงผูใ้ ห้คาแนะนา หรือให้แนวทางการศึกษาโดยในการศึกษาน้ันตอ้ งคานึงถึง ขอบเขตจากดั เช่น ระยะเวลาในการศึกษา ความพร้อมเรื่องวสั ดุ อุปกรณ์ สถานที่ และระดบั ความรู้ ความสามารถของผเู้ รียนหรือผทู้ ่ีศึกษา อาจกล่าวไดว้ า่ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ คือ งานวิจยั ทางวิทยาศาสตร์นั่นเอง แต่เป็ นลกั ษณะ ของงานวิจยั ข้นั พ้ืนฐานมีการฝึ กปฏิบตั ิการอย่างง่าย ๆ เพ่ือให้ผูเ้ รียนได้รู้จกั การใชว้ ิธีการทาง วทิ ยาศาสตร์นน่ั เองโดยจดั ใหม้ ีการศกึ ษาคน้ ควา้ ทดลอง เพอ่ื ตรวจสอบสมมติฐานใดสมมติฐาน หน่ึงที่กาหนดไว้ โดยอาศยั วธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์และทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 1ท่มี า:รุ้งเพช็ ร สีล้ินจ่ี. ความรู้เก่ียวกับโครงงานวทิ ยาศาสตร์ : [ ออนไลน์ ]. เขา้ ถึงไดจ้ าก https://www.gotoknow.org/posts/532906 ( 19 มิ.ย. 2557)
เอกสารประกอบการเรียน เล่มท่ี 1 ความรทู้ ว่ั ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 9 3. หลักการสาคญั ท่ีจดั เป็ นโครงงานวิทยาศาสตร์ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ เป็นการสรา้ งโอกาสใหน้ กั เรียนไดร้ ับประสบการณ์ตรงในการใช้ วธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์แกป้ ัญหาประดิษฐค์ ิดคน้ หรือคน้ ควา้ หาความรู้ใหม่ ๆ และแสดงผลงาน ของตน ใหผ้ อู้ ่ืนไดเ้ ห็นและทราบถึงความสามารถทางการใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ของ ตนเอง ลดั ดา ภู่เกียรติ ไดก้ ล่าวถึงหลกั การสาคญั ของกิจกรรมโครงงานวทิ ยาศาสตร์ไวว้ า่ โครงงานวทิ ยาศาสตร์เป็นกิจกรรมทีต่ อ้ งการเนน้ ใหน้ กั เรียนคิดเอง ทาเอง และแกป้ ัญหาดว้ ยตนเอง เริ่มต้งั แตก่ ารคดิ หาปัญหาทีน่ กั เรียนสนใจจะศกึ ษา ทาการวางแผนแกป้ ัญหา ศกึ ษาคน้ ควา้ หาขอ้ มูล ลงมือปฏิบตั ิ รวบรวมขอ้ มูลทศ่ี ึกษา ทดลอง บนั ทึกผลการศึกษา แปลผล และนาเสนอผลการศึกษา คน้ ควา้ ของตนเองหรือกลุ่มเผยแพร่แก่ ผอู้ ื่นตอ่ ไป ซ่ึงจะครอบคลุมกระบวนการเรียนรูท้ ี่มีระบบ ชดั เจน จากหลกั การสาคญั ของโครงงานวทิ ยาศาสตร์พอสรุปไดว้ า่ โครงงานวทิ ยาศาสตร์มีหลกั การ สาคญั 3 ประการดงั น้ี 1. นักเรียนเป็ นผูว้ างแผนในการศึกษาคน้ ควา้ ดาเนินการเก็บรวบรวมขอ้ มูล แปลผล สรุปผล และนาเสนอผลดว้ ย 2. เป็ นเรื่องเกี่ยวกบั วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยหี รือความจริงและการนาไปใชป้ ระโยชน์ 3. เป็นการเสาะแสวงหาความรู้ดว้ ยตนเองและใชว้ ธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์1 สรุปหลกั การสาคญั ของกจิ กรรมโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 1 1. เป็นเรื่องทีน่ กั เรียนสนใจ สงสยั ตอ้ งการหาคาตอบ 2. เป็นการเรียนรูท้ ่กี ระบวนการ มีระบบครบกระบวนการเป็นการบูรณาการเรียนรู้ 3. นกั เรียนไดใ้ ชค้ วามสามารถหลายดา้ น 4. มีความสอดคลอ้ งกบั ชีวติ จริง 5. มีการศึกษาดว้ ยวธิ ีการและแหล่งขอ้ มูลท่ีหลากหลาย 6. เป็นการแสวงหาความรู้และสรุปความรูด้ ว้ ยตนเอง 7. มีการนาเสนอโครงงานท่เี หมาะสม 8. ส่ิงท่คี น้ พบสามารถนาไปปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั 1ทีม่ า: งานวจิ ยั .วเิ ทศสมั พนั ธส์ านกั งาน,มหาวทิ ยาลยั สง ขลานครินทร์ : [ ออนไลน์ ]. เขา้ ถึงได้ จาก http://www.en.psu.ac.th/degree-and-admission/programs-of-study/pattani-pus.html สืบคน้ ขอ้ มูล ( 19 มิ.ย. 2557)
เอกสารประกอบการเรียน เล่มท่ี 1 ความรทู้ ั่วไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 10 กิจกรรมบางกิจกรรม หากไม่ไดน้ าเอาวธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์มาใช้ หรือมีใชบ้ า้ งแต่นอ้ ย มาก น้นั ไม่จดั วา่ เป็นโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ตวั อย่าง กรณีทีน่ กั เรียนสนใจ ท่ีจะทาน้ายาลา้ งจานดว้ ยตนเอง กรณีที่ 1 นกั เรียนไปหาซ้ือชุดน้ายาลา้ งจาน ทมี่ ีขายโดยทว่ั ไปตามร้าน เคมีภณั ฑ์ หรือ ธนาคารเพอ่ื การเกษตรและสหกรณ์ แลว้ นกั เรียนทาการปฏิบตั ิตามข้นั ตอนทีร่ ะบไุ วใ้ น ใบแทรก จนไดน้ ้ายาลา้ งจานกลิ่นมะนาว ท่ีมีคุณลกั ษณะเหมือนท่มี ีอยใู่ นทอ้ งตลาด ภาพท่ี 1 อุปกรณ์ สารเคมีในการทาน้ายาลา้ งจาน ตามทอ้ งตลาด2 1ทีม่ า:พศิ มยั ป๋ ยุ พานโฮม.การจัดการเรียนรู้แบบโครงงานวิทยาศาสตร์. [ ออนไลน์ ]. เขา้ ถึงไดจ้ าก https://www.gotoknow.org/posts/164916 สืบคน้ ขอ้ มูล ( 20 มิ.ย.2557) 2ที่มา:บา้ นสาราญ โปรดกั ส์ .หัวเชื้อน้ายาล้างจาน พร้อม สูตรน้ายาล้างจาน. [ ออนไลน์ ]. เขา้ ถึงได้ จาก http://bansamrand.tarad.com/?lang=th สืบคน้ ขอ้ มูล ( 20 มิ.ย.2557)
เอกสารประกอบการเรียน เล่มท่ี 1 ความรทู้ ่วั ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 11 กรณีท่ี 2 นกั เรียนไปศกึ ษาสูตรการทาน้ายาลา้ งจาน จากหนงั สือ ตารา หรือทาง อินเตอร์เน็ต จากน้นั เม่ือนกั เรียนไดส้ ูตรแลว้ มีแนวความคิดที่จะผลิตน้ายาลา้ งจานท่มี ีส่วนผสม ของพชื บางชนิด ที่สามารถขจดั กลิ่นคาวของอาหารไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพนกั เรียนจึงไปศึกษาเอกสารเกี่ยวกบั พชื ที่มี อยใู่ นทอ้ งถิ่นเพอ่ื สะดวกตอ่ การจดั หาพชื ชนิดน้ัน นกั เรียนพบวา่ มีผทู้ าโครงงานเก่ียวกบั ใบฝรงั่ สามารถกาจดั กลิ่นคาวปลาได้ นกั เรียนจงึ ทา การทดลองนาน้าจากใบฝรง่ั มาเป็ นส่วนผสมของน้ายา ลา้ งจาน ในสดั ส่วนต่าง ๆ เพอ่ื เป็ น การหาสูตร การทาน้ายาลา้ งจานทีม่ ีประสิทธิภาพในการกาจดั กล่ินคาวของอาหารท่ีดีที่สุด ภาพท่ี 2 การทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์น้ายาลา้ งจานจากใบฝรง่ั 1 จากท้งั สองกรณีน้นั จะเห็นไดว้ า่ กรณีที่ 1 นกั เรียนทาการลอกเลียนวธิ ีการ ไม่มีความคิด ริเร่ิม สรา้ งสรรค์ ถึงแมจ้ ะใช้ วธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์ซ่ึงไดแ้ ก่ การวดั ชง่ั ตวง การผสมใด ๆกต็ ามไม่จดั เป็นโครงงานวทิ ยาศาสตร์ กรณีที่ 2 นกั เรียนศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง มีความคิดสร้างสรรค์ ทีจ่ ะทาการทดลองในสิ่ง ท่ไี ม่มีผใู้ ดศึกษามาก่อน ลกั ษณะแบบน้ีจงึ จดั วา่ เป็นโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 1ทีม่ า: http://www.ssobooks.com/e_book/sci/unit1_5.htm สืบคน้ ขอ้ มลู ( 17 มิ.ย. 2557 )
เอกสารประกอบการเรยี น เล่มท่ี 1 ความรทู้ ัว่ ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 12 4. ความสาคญั ของโครงงานวทิ ยาศาสตร์1 การศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยโครงงานวทิ ยาศาสตร์ช่วยใหน้ กั เรียนเกิดการเรียนรู้มีประสบการณ์ จากการปฏบิ ตั ิจริง ฝึกแกป้ ัญหาดว้ ยกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ซ่ึงจะตดิ ตวั ผเู้ รียนไปตลอด เม่ือ มีขอ้ สงสยั หรือปัญหาเกิดข้นึ จะแกป้ ัญหาโดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ซ่ึงเป็ นที่ยอมรบั กนั ทว่ั ไปวา่ เป็ นส่ิงที่สาคญั กวา่ ความรู้ที่ขาดการปฏบิ ตั ิ ท้งั น้ีกระบวนการ ดงั กล่าว จะทาใหผ้ เู้ รียนเกิด ความเชื่อมน่ั ในตนเอง และกลา้ แสดงออก การใหน้ กั เรียนกระทากิจกรรมโครงงานวทิ ยาศาสตร์ จะช่วยส่งเสริมใหจ้ ุดมุ่งหมาย ของ หลกั สูตรสมั ฤทธ์ิผลโดยสมบูรณ์ยงิ่ ข้นึ เพราะในการทาโครงงาน นกั เรียนจะไดม้ ีโอกาสดาเนินการ ศกึ ษา จะศึกษาเอง การวางแผนการศกึ ษาเพอ่ื ตอบปัญหาน้นั ๆ ดว้ ยตนเอง ออกแบบ การทดลอง หรือวธิ ีการศกึ ษาดว้ ยตนเองลงมือทดลอง เพอ่ื ตรวจสอบสมมุตฐิ าน ตลอดจนสรุปผล ของการศกึ ษา ดว้ ยตนเองโดยมีครูเป็นเพยี งผูใ้ หค้ าปรึกษาและช้ีแนะ สรุปไดว้ า่ นกั เรียนจะมีโอกาสไดร้ ับ ประสบการณ์ตรงในกระบวนการเสาะแสวงหาความรู้ทกุ ข้นั ตอนมีโอกาสไดฝ้ ึกทกั ษะกระบวนการ ทางวทิ ยาศาสตร์ต่าง ๆ และจะช่วยพฒั นาคุณสมบตั ิอ่ืน ๆ ใหแ้ ก่นกั เรียนดว้ ย เช่น ความเป็นคนช่าง สงั เกต มีความคิดริเริ่ม สรา้ งสรรค์ มีความเช่ือมนั่ ในตนเอง มีวนิ ยั และซื่อสตั ย์ ในการทางาน มี ความละเอียดรอบคอบ มีความรับผดิ ชอบ ยอมรงั ฟังคาติชมและความคิดเห็น ของผอู้ ่ืน มีเจตคตทิ ่ี ดีต่อวทิ ยาศาสตร์ รู้จกั แบง่ เวลาในการทางานและการกระทากิจกรรมอ่ืน ๆ และทางานร่วมกบั ผอู้ ื่น ได้ เป็นตน้ กิจกรรมโครงงานวทิ ยาศาสตร์ คือ กิจกรรมสาหรบั นกั เรียนในการศึกษาเรื่องใดเร่ืองหน่ึง ดว้ ยตนเอง โดยอาศยั วธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์ ภายใตค้ าแนะนาปรึกษาของครูหรือผเู้ ช่ียวชาญ กิจกรรมน้ีอาจทาเป็นกลุ่มหรือรายบุคคลก็ได้ และจะกระทาในเวลาเรียนหรือ นอกเวลาเรียนกไ็ ด้ โดยไม่จากดั สถานท่ี เช่น อาจทานอกหอ้ งเรียน ในหอ้ งปฏิบตั ิการ หรือนอกโรงเรียน แมก้ ระทงั่ ท่ีบา้ นของนกั เรียนก็ได้ 1ที่มา:ธีระชยั ปูรณโชต.ิ การสอนกจิ กรรมโครงงานวทิ ยาศาสตร์ : คู่มือสาหรับครู. กรุงเทพมหานคร :โรงพมิ พจ์ ฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ,2531.: [ ออนไลน์ ]. เขา้ ถึงไดจ้ าก http://www.eduzones.com/knowledge-2-5-2120.html (สืบคน้ วนั ที่ 19 มิ.ย. 2557)
เอกสารประกอบการเรียน เลม่ ที่ 1 ความรู้ทว่ั ไปของโครงงานวิทยาศาสตร์ 13 5. จุดม่งุ หมายของกิจกรรมโครงงานวทิ ยาศาสตร์ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ เป็นการสร้างโอกาสใหน้ กั เรียนไดร้ บั ประสบการณ์ตรงในการใชว้ ธิ ีการ ทางวทิ ยาศาสตร์แกป้ ัญหา ประดิษฐค์ ดิ คน้ หรือคน้ ควา้ หาความรูใ้ หม่ ๆ และแสดงผลงานของตนให้ ผอู้ ่ืนไดเ้ ห็น และทราบถึงความสามารถทางการใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ของตนเอง สถาบนั ส่งเสริมวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)ไดก้ าหนดจุดมุ่งหมาย ของ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ไว้ 5 ประการ ดงั น้ี1 1. เพอ่ื ใหน้ กั เรียนใชค้ วามรูแ้ ละประสบการณ์เลือกทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ตามความ สนใจ 2. เพอ่ื ใหน้ กั เรียนไดศ้ กึ ษาหาความรู้ หาขอ้ มลู จากแหล่งความรู้ตา่ ง ๆ ดว้ ยตนเอง 3. เพอื่ ใหน้ กั เรียนไดแ้ สดงออก ซ่ึงความคิดสรา้ งสรรค์ 4. เพอื่ ใหน้ กั เรียนมีเจตคตทิ ่ดี ีตอ่ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เห็นคุณคา่ การใช้ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ในการแกป้ ัญหาต่าง ๆ 5. เพอ่ื ใหน้ กั เรียนไดแ้ นวทางในการประยกุ ตใ์ ช้ วิธีการทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในแต่ละทอ้ งถ่ิน จากขอ้ มูลดงั กล่าวสามารถสรุปจุดมุ่งหมายของกิจกรรมการทางานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ไดด้ งั น้ี 1. เป็นการสนบั สนุนใหน้ กั เรียนคน้ หาคาตอบท่สี งสยั ในเรื่องใดเรื่องหน่ึงทน่ี กั เรียนสนใจ มีการใชท้ กั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ซ่ึงนกั เรียนจะตอ้ งลงมือปฏิบตั ิดว้ ยตนเอง โดยมี อาจารยท์ ป่ี รึกษาทาหนา้ ทใี่ หค้ าแนะนาปรึกษาดูแล 2. เป็ นการส่งเสริมการเรียนรูท้ างวทิ ยาศาสตร์ตามความเหมาะสมกบั การดารงชีวติ ในสงั คม ปัจจุบนั และเป็นพน้ื ฐาน สาหรบั นกั เรียนจานวนหน่ึงในการจะพฒั นา เพอ่ื รับการศึกษาระดบั สูงเป็ น กาลงั สาคญั ของบา้ นเมืองในดา้ นการใชว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1 ทีม่ า: สงบ ดุษฎีธญั กุล. ความรู้เกีย่ วกับโครงงานวิทยาศาสตร์. [ ออนไลน์ ]. เขา้ ถึงไดจ้ าก http://sababankong.blogspot.com/2011/07/blog-post.html(สืบคน้ วนั ท่ี 19 มิ.ย. 2557)
เอกสารประกอบการเรียน เลม่ ท่ี 1 ความรู้ทัว่ ไปของโครงงานวิทยาศาสตร์ 14 3. เป็ นการสนบั สนุนใหน้ กั เรียนเป็นผมู้ ีความคดิ ริเริ่มสรา้ งสรรค์ สามารถทาส่ิงน้นั ไดด้ ว้ ยตนเอง และรูจ้ กั แกป้ ัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ไดด้ ว้ ยตนเองโดยใชว้ ธิ ีทางวทิ ยาศาสตร์อยา่ งถูกตอ้ ง 4. ฝึกใหน้ กั เรียนรู้จกั การทางานเป็นกลุ่ม เป็ นคณะ รู้จกั ร่วมกนั คิด ร่วมกนั หารือและร่วมกนั วนิ ิจฉยั ในการแกป้ ัญหาอุปสรรคตา่ ง ๆเป็นการสรา้ งความสามคั คี ความมีระบบระเบยี บในหมู่คณะ อนั เกิดจากทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 6. ประโยชน์ของการทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์1 สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไดก้ ล่าวถึงคุณประโยชนข์ อง โครงงานวทิ ยาศาสตร์ไวด้ งั น้ี 1. สร้างจิตสานึกและความรบั ผดิ ชอบในการศึกษาคน้ ควา้ หาความรู้ต่าง ๆ ดว้ ยตนเอง 2. เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนไดพ้ ฒั นาและแสวงหาความสามารถตามศกั ยภาพของตนเอง 3. เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ และเรียนรูใ้ นเรื่องที่ตนเองสนใจไดล้ ึกซ้ึงไปกวา่ การเรียนในหลกั สูตรปกติ 4. ทาใหน้ กั เรียนมีความสามารถพเิ ศษโดยมีโอกาสแสดงความสามารถของตน 5. ช่วยกระตุน้ ใหน้ กั เรียนมีความสนใจในการเรียนวทิ ยาศาสตร์และมีความสนใจ ทีจ่ ะ ประกอบอาชีพทางวทิ ยาศาสตร์ 6. ช่วยใหน้ กั เรียนไดใ้ ชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็ นประโยชน์ในการสร้างสรรค์ 7. ช่วยสรา้ งความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งครูกบั นกั เรียนและระหวา่ งนกั เรียนดว้ ยกนั ใหม้ ีโอกาส ทางานใกลช้ ิดกนั มากข้ึน 8. ช่วยสรา้ งความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งชุมชนกบั โรงเรียนใหด้ ีข้ึนโรงเรียนไดม้ ีโอกาสเผยแพร่ ความรูท้ างวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ก่ชุมชนซ่ึงจะช่วยกระตนุ้ ใหช้ ุมชนไดส้ นใจวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยมี ากข้นึ สรุปไดว้ า่ โครงงานวทิ ยาศาสตร์มีความสาคญั และก่อประโยชน์แก่นกั เรียนโดยตรง เป็นการฝึกใหน้ กั เรียนรูจ้ กั ศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง สรา้ งความสมั พนั ธอ์ นั ดีกบั ครูกบั เพอื่ นร่วมงาน รู้จกั ทางานอยา่ งเป็นระบบ ใชว้ ธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์ในการแกป้ ัญหาและใชเ้ วลาวา่ งให้ เป็น ประโยชน์ 1ที่มา: สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี 2533) : [ ออนไลน์ ]. เขา้ ถึงได้ จาก http://sababankong.blogspot.com/2011/07/blog-post.html
เอกสารประกอบการเรยี น เล่มท่ี 1 ความรทู้ ว่ั ไปของโครงงานวิทยาศาสตร์ 15 แบบฝึ กหดั ท่ี 1 คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนสรุปความสาคญั ตอ่ ไปน้ี 1.จงอธิบายความหมายของ ตอบ............................................................................ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ..................................................................................... ........................................................................................ ................................................................................... 2. จงอธิบายหลกั การสาคญั ตอบ............................................................................ ของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ..................................................................................... ...................................................................................... ..................................................................................... 3. สมชายตอ้ งการทาโครงงาน ตอบ............................................................................ วทิ ยาศาสตร์การทาน้ายาลา้ งจานจึง ..................................................................................... ปรึกษาผปู้ กครองและไปซ้ือผลิตภณั ฑ์ ...................................................................................... สารเคมีจาก ธกส. และทาตามวธิ ีท่ีมีใน ..................................................................................... ใบแสดงวิธีทา การกระทาของสมชาย จดั เป็นโครงงานวทิ ยาศาสตร์หรือไม่ เพราะเหตุใด
เอกสารประกอบการเรียน เลม่ ท่ี 1 ความร้ทู ว่ั ไปของโครงงานวิทยาศาสตร์ 16 แบบทดสอบหลงั เรียน เรื่อง ความรู้ทว่ั ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ คาชี้แจง ขอ้ สอบเป็นปรนยั ชนิด 4 ตวั เลือก จานวน 10 ขอ้ ใหน้ กั เรียนทาเครื่องหมาย X ทบั ตวั อกั ษรทถ่ี ูกตอ้ งลงในกระดาษคาตอบ 1. ขอ้ ใดกล่าวถึงลกั ษณะของโครงงานไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ก. การศกึ ษาคน้ ควา้ การประดิษฐส์ ่ิงต่าง ๆ เพอ่ื นามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นทางอุตสาหกรรม ข. การศึกษาส่ิงที่อยรู่ อบตวั อยา่ งเป็ นระบบ ตามแบบแผน และถูกตอ้ งตามกระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์ ค. เป็นเร่ืองท่ี นกั วทิ ยาศาสตร์ คน้ พบ และ เรานามาจดั ทาการศึกษาใหถ้ ูกตอ้ งตามข้นั ตอน การทาโครงงาน ง. เป็นการจดั การเรียนโดยใหเ้ กิดการเรียนรูด้ ว้ ยตนเองโดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ อยา่ งเป็นระบบ 2. ขอ้ ใดคือ ความหมายของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ตามความหมายของสถาบนั ส่งเสริมการสอน วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก. การศึกษาเร่ืองราวดา้ นวทิ ยาศาสตร์ในหัวขอ้ ทน่ี กั เรียนสนใจโดยมีการวางแผนท่จี ะศึกษา ข. การทางานวจิ ยั เลก็ ๆ โดยนกั เรียนเป็นผศู้ ึกษารวบรวมขอ้ มูลดว้ ยตนเองและนาเสนอเป็น ผลงาน ค. การศกึ ษาวิธีการแกป้ ัญหาดา้ นวทิ ยาศาสตร์ โดยเขียนเป็นโครงงานเพอ่ื เป็นแนวทาง การศกึ ษาตอ่ ง. การศกึ ษาเร่ืองใดเรื่องหน่ึง เพอ่ื ตอบปัญหาทีส่ งสยั ปัญหาทศี่ ึกษาเกิดจากความสนใจของ ผทู้ าโครงงาน 3. ขอ้ ใด จดั วา่ เป็ นลกั ษณะของกิจกรรมโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ก. นกั เรียนเป็นผวู้ างแผนในการศึกษาคน้ ควา้ 16 ข. กิจกรรมทส่ี ่งเสริมใหน้ กั เรียนมีโอกาสเป็นนกั วทิ ยาศาสตร์ท่ีมีช่ือเสียง ค. เป็นกิจกรรมที่ มีวตั ถุประสงคเ์ พอื่ ใหน้ กั เรียนรู้จกั การทดลองวทิ ยาศาสตร์ ง. นกั เรียนกบั ครูร่วมกนั ออกแบบการทดลองเพอื่ หาคาตอบท่ีถูกตอ้ ง เชื่อถือได้
เอกสารประกอบการเรยี น เล่มท่ี 1 ความรู้ท่ัวไปของโครงงานวิทยาศาสตร์ 17 4. ขอ้ ใดไม่ใช่จดุ มุ่งหมายและ ความสาคญั ของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ก. ให้เกิดความรู้และประสบการณ์ ข. ใหค้ น้ ควา้ หาขอ้ มูลจากแหล่งตา่ งๆ ค. เพอื่ เกิดความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรคใ์ นการดาเนินการ ง. ประกวดแข่งขนั กนั เพอ่ื หาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ทีส่ มบูรณ์ ถูกตอ้ งทส่ี ุด 5. ขอ้ ใด คือ ประโยชนข์ องโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ตามความคิดเห็นของสถาบนั ส่งเสริม การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก. เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ และเรียนรู้ในเรื่องท่ตี นเองสนใจ ข. ปลูกฝังเจตคตทิ ่ีดีต่อการเรียนวทิ ยาศาสตร์ เนน้ ทกั ษะการทางาน ค. นกั เรียนสามารถทางานเป็นทีมไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข ง. นกั เรียนมีความสุขกบั การเรียนวทิ ยาศาสตร์ 6. ขอ้ ใดจดั เป็นโครงงานประเภทสารวจ ก. การศึกษาพฤติกรรมการใชว้ สั ดุทารังของนกปากห่าง ข. การศึกษาประสิทธิภาพอิฐบลอ็ กจากเศษโฟม ค. หญา้ ปลอ้ งมหศั จรรยพ์ ิชิตคราบน้ามนั ง. เคร่ืองดูดควนั และไอตะกว่ั 7. โครงงานประเภทส่ิงประดิษฐ์ มีลกั ษณะสาคญั อยา่ งไร ก. การพฒั นาหรือประดิษฐ์ การสรา้ งอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใชเ้ พอ่ื ประโยชน์ใชส้ อย ข. เป็นการหาคาตอบ ดว้ ยวธิ ีการออกแบบการทดลอง เพอ่ื ศกึ ษาผลของตวั แปร ค. การเก็บรวบรวมวสั ดุตวั อยา่ งมาวเิ คราะห์ในหอ้ งปฏิบตั ิการ ง. ศึกษาหาความรู้ โดยใชว้ ธิ ีสารวจและรวบรวมขอ้ มลู 8. โครงงานประเภททดลอง จาเป็นตอ้ งกาหนดตวั แปรท่ีเก่ียวขอ้ ง เพราะเหตุใด ก. ทาใหเ้ กิดผลตา่ ง ๆ ท่ีเราตอ้ งการศกึ ษา ข. ครบถว้ นตามหลกั รูปแบบการทาโครงงาน ค. ใหเ้ กิดความคลาดเคลื่อนนอ้ ยท่สี ุด หรือใหเ้ กิดความน่าเช่ือถือ ง. เพอื่ เป็ นแนวความคดิ ท่แี ตกต่างไปจากแนวความคดิ เดิมทีเ่ คยมีผเู้ สนอไว้
18 9. ขอ้ ใด คอื ตวั แปรตน้ ของโครงงานหญา้ ปลอ้ งมหศั จรรยพ์ ชิ ิตคราบน้ามนั ก. ขนาดของตน้ หญา้ ปลอ้ ง ข. คราบน้ามนั แต่ละชนิด ค. ภาชนะใส่น้าทนั ง. ตน้ หญา้ ปลอ้ ง 10. โครงงานทีเ่ สนอทฤษฎีหรือ คาอธิบายส่ิงต่าง ๆ ซ่ึงเป็ นแนวคิดใหม่ ๆ โดยมีหลกั การ ทางวทิ ยาศาสตร์ หรืออาจเป็นการอธิบายปรากฏการณ์เก่าในแนวใหม่ อาจเสนอในรูปของ คาอธิบาย สูตร หรือสมการ จดั เป็นโครงงานประเภทใด ก. ทดลอง ข. ทฤษฎี ค. สารวจ ง. ประดิษฐ์
เอกสารประกอบการเรียน เลม่ ที่ 1 ความรทู้ ั่วไปของโครงงานวิทยาศาสตร์ 19 บรรณานุกรม กรมวชิ าการ กระทรวงศึกษาธิการ. คู่มือการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิยาศาสตร์.กรุงเทพฯ : กรมวิชาการ, 2544. ธีระชยั ปรู ณโชติ. \"โครงงานวทิ ยาศาสตร์ : การวจิ ยั ทางวทิ ยาศาสตร์เบ้ืองตน้ \", การเรียน การสอนท่เี น้นผู้เรียนเป็ นสาคญั : แนวคดิ วธิ ีและเทคนิคการสอน1. กรุงเทพฯ : บริษทั เดอะมาสเตอร์กรุ๊ป แมเนจเมน้ ท์ จากดั , 2544. ลดั ดา ภู่เกียรต.ิ (2552). การสอนแบบโครงงานและการสอนแบบใช้ปัจจัยพนื้ ฐาน:งานที่ครูประถม ทาได้. กรุงเทพฯ : สาฮะแอนดช์ นั พรินติ้ง. สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (2531) คู่มือจดั ทาและแสดงโครงงาน วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี .กรุงเทพมหานคร :สถาบนั ส่งเสริมวทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยี สถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) (2550). ชุดกจิ กรรมพัฒนาการคดิ วเิ คราะห์ กรุงเทพฯ : สานกั พมิ พ์ บริษทั พฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.)จากดั กรมประชาสมั พนั ธ.์ พลังงานลม (Wind Power) .สืบคน้ เมื่อ 19 มิถุนายน 2557 จาก http://region2.prd.go.th/ewt_news.php?nid=17651&filename=letgogreen งานวจิ ยั .วิเทศสมั พนั ธส์ านกั งาน,มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์.สืบคน้ เมื่อ 19 มิถุนายน 2557 จาก http://www.en.psu.ac.th/degree-and-admission/programs-of-study/pattani-campus.html เดลินิวส์. รู้ทันสารก่อมะเร็งอะฟลาท๊อกซิน .สืบคน้ เม่ือ 20 มิถุนายน 2557 จาก http://www.xn-42c6dl7bbn.com/ ไทยเกษตรศาสตร์ เวบ็ รวบรวมวชิ าความรูด้ า้ นการเกษตร. พชื น้าใช้ดูดโลหะหนักจากแหล่งน้าเสีย สืบคน้ เมื่อ 21 มิถุนายน 2557 จาก http://www.thaikasetsart.com พรพมิ ล ออ้ ย บญุ โคตร. ประเภทของโครงงาน. สืบคน้ เมื่อ 19 มิถุนายน 2557 จาก https://www.gotoknow.org/posts/305516 รุ้งเพช็ ร สีลิ้นจ่ี. ความรู้เก่ียวกบั โครงงานวิทยาศาสตร์.สืบคน้ เม่ือ 19 มิถุนายน 2557 จาก https://www.gotoknow.org/posts/532906 สงบ ดุษฎีธญั กุล. ความรู้เก่ียวกบั โครงงานวทิ ยาศาสตร์. สืบคน้ เม่ือ 20 มิถุนายน 2557 จาก http://sababankong.blogspot.com/2011/07/blog-post.html
เอกสารประกอบการเรียน เลม่ ท่ี 1 ความรู้ทวั่ ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 20
เอกสารประกอบการเรยี น เลม่ ท่ี 1 ความรูท้ ัว่ ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 21 เฉลยคาตอบแบบทดสอบ ก่อนเรียน เร่ือง ความรู้ทว่ั ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ช่ือ......................................นามสกุล..................................เลขที่.....................ช้นั ....... ขอ้ ก ข คง สรุปผล 1 คะแนนท่ีได้ 2 เกณฑก์ าร 3 ตดั สิน 4 5 ผา่ น 6 ไม่ผา่ น 7 8 9 10 คะแนนเตม็ รวมคะแนน เกณฑก์ ารประเมิน 5 – 10 = ผา่ น 0 – 4 = ไม่ผา่ น
เอกสารประกอบการเรยี น เล่มที่ 1 ความรู้ท่วั ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 22 2 เฉลยคาตอบแบบทดสอบ ก่อนเรียน เรื่อง ความรู้ทวั่ ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ชื่อ......................................นามสกุล.............................เลขที.่ ....................ช้นั ....... ขอ้ ก ข คง 1 2 3 สรุปผล 4 5 6 7 8 9 10 คะแนนท่ไี ด้ คะแนนเตม็ เกณฑก์ ารตดั สิน รวมคะแนน ผา่ น เกณฑก์ ารประเมิน ไม่ผา่ น 5 – 10 = ผา่ น 0 – 4 = ไม่ผา่ น
เอกสารประกอบการเรยี น เลม่ ที่ 1 ความรูท้ วั่ ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 23 เฉลยแบบฝึ กหัดที่ 1 คาสงั่ ใหน้ กั เรียนสรุปความสาคญั ต่อไปน้ี 1.จงอธิบายความหมายของ ตอบ... เป็นการศกึ ษาเร่ืองใดเรื่องหน่ึง เพอื่ ตอบคาถาม โครงงานวทิ ยาศาสตร์ หรือปัญหาที่ สงสัย ของผคู้ ิดทาโครงงาน โดยมีการ วางแผนอยา่ งมีข้นั ตอน ตามวธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์ 2. จงอธิบายหลกั การสาคญั ท่ี ตอบ 1.เป็ นเรื่องท่ีนักเรียนสนใจ สงสยั ตอ้ งการหา จดั เป็นโครงงานวทิ ยาศาสตร์ คาตอบ 2.เป็ นการเรี ยนรู้ท่ีกระบวนการ มีระบบ ครบ 3. 3. สมชายตอ้ งการทาโครงงาน กระบวนการเป็นการบรู ณาการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์การทาน้ายาลา้ งจาน 3.นกั เรียนไดใ้ ชค้ วามสามารถหลายดา้ น จึงปรึกษาผปู้ กครองและไปซ้ือ 4.มีความสอดคลอ้ งกบั ชีวติ จริง ผลิตภณั ฑส์ ารเคมีจาก ธกส. และ 5.มีการศกึ ษาดว้ ยวธิ ีการและแหล่งขอ้ มูลทห่ี ลากหลาย ทาตามวธิ ีท่ีมีในใบแสดงวิธีทา การ 6.เป็นการแสวงหาความรูแ้ ละสรุปความรู้ดว้ ยตนเอง กระทาของสมชาย จดั เป็น 7.มีการนาเสนอโครงงานท่เี หมาะสม โครงงานวทิ ยาศาสตร์หรือไม่ 8.สิ่งที่คน้ พบสามารถนาไปปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั เพราะเหตุใด ตอบ.ไม่จดั วา่ เป็นโครงงานวทิ ยาศาสตร์ เพราะไม่ได้ เกิดจากการความคิดของนกั เรียนเองเพราะทาตาม วธิ ีการที่มีใหพ้ รอ้ มกบั อุปกรณ์ (ข้ึนอยกู่ บั ดุลพนิ ิจของครูผสู้ อน) ................................................................................... .
เอกสารประกอบการเรยี น เล่มที่ 1 ความรู้ทัว่ ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 2437 เฉลยคาตอบแบบทดสอบ ก่อนเรียน เร่ือง ความรู้ทวั่ ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ช่ือ......................................นามสกลุ ..................................เลขที.่ ....................ช้นั ....... ขอ้ ก ข คง สรุปผล 1 คะแนนทีไ่ ด้ 2 เกณฑก์ าร 3 ตดั สิน 4 5 ผา่ น 6 ไม่ผา่ น 7 8 9 10 คะแนนเตม็ รวมคะแนน เกณฑก์ ารประเมิน 5 – 10 = ผา่ น 0 – 4 = ไม่ผา่ น
เอกสารประกอบการเรยี น เล่มที่ 1 ความรู้ท่วั ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 25 2 เฉลยคาตอบแบบทดสอบ ก่อนเรียน เรื่อง ความรู้ทวั่ ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ชื่อ......................................นามสกุล.............................เลขที.่ ....................ช้นั ....... ขอ้ ก ข คง 1 2 3 สรุปผล 4 5 6 7 8 9 10 คะแนนท่ไี ด้ คะแนนเตม็ เกณฑก์ ารตดั สิน รวมคะแนน ผา่ น เกณฑก์ ารประเมิน ไม่ผา่ น 5 – 10 = ผา่ น 0 – 4 = ไม่ผา่ น
เอกสารประกอบการเรยี น เลม่ ที่ 1 ความรูท้ วั่ ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 26 เฉลยแบบฝึ กหัดที่ 1 คาสงั่ ใหน้ กั เรียนสรุปความสาคญั ต่อไปน้ี 1.จงอธิบายความหมายของ ตอบ... เป็นการศกึ ษาเร่ืองใดเรื่องหน่ึง เพอื่ ตอบคาถาม โครงงานวทิ ยาศาสตร์ หรือปัญหาที่ สงสัย ของผคู้ ิดทาโครงงาน โดยมีการ วางแผนอยา่ งมีข้นั ตอน ตามวธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์ 2. จงอธิบายหลกั การสาคญั ท่ี ตอบ 1.เป็ นเรื่องท่ีนักเรียนสนใจ สงสยั ตอ้ งการหา จดั เป็นโครงงานวทิ ยาศาสตร์ คาตอบ 2.เป็ นการเรี ยนรู้ท่ีกระบวนการ มีระบบ ครบ 3. 3. สมชายตอ้ งการทาโครงงาน กระบวนการเป็นการบรู ณาการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์การทาน้ายาลา้ งจาน 3.นกั เรียนไดใ้ ชค้ วามสามารถหลายดา้ น จึงปรึกษาผปู้ กครองและไปซ้ือ 4.มีความสอดคลอ้ งกบั ชีวติ จริง ผลิตภณั ฑส์ ารเคมีจาก ธกส. และ 5.มีการศกึ ษาดว้ ยวธิ ีการและแหล่งขอ้ มูลทห่ี ลากหลาย ทาตามวธิ ีท่ีมีในใบแสดงวิธีทา การ 6.เป็นการแสวงหาความรูแ้ ละสรุปความรู้ดว้ ยตนเอง กระทาของสมชาย จดั เป็น 7.มีการนาเสนอโครงงานท่เี หมาะสม โครงงานวทิ ยาศาสตร์หรือไม่ 8.สิ่งที่คน้ พบสามารถนาไปปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั เพราะเหตุใด ตอบ.ไม่จดั วา่ เป็นโครงงานวทิ ยาศาสตร์ เพราะไม่ได้ เกิดจากการความคิดของนกั เรียนเองเพราะทาตาม วธิ ีการที่มีใหพ้ รอ้ มกบั อุปกรณ์ (ข้ึนอยกู่ บั ดุลพนิ ิจของครูผสู้ อน) ................................................................................... .
Search
Read the Text Version
- 1 - 31
Pages: