1 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 พระราชบัญญัติค้มุ ครองแรงงาน 2541 กฎหมายทีเ่ กยี่ วกบั แรงงาน กฎหมายเกย่ี วกบั แรงงานทใ่ี ช้ในปัจจุบัน มดี งั น้ี 1. กฎหมายว่าด้วยการค้มุ ครองแรงงาน หมายถงึ กฎหมายที่บญั ญตั ิถงึ สิทธิ และหนา้ ท่ีระหวา่ ง นายจา้ งกบั ลกู จา้ ง โดยกาหนดมาตรฐานข้นั ต่าในการใชแ้ รงงาน และการจ่ายค่าตอบแทนในการทางาน ท้งั น้ี เพ่ือใหล้ ูกจา้ งทางานดว้ ยความปลอดภยั มีสุขอนามยั ท่ีดี ไดร้ ับค่าตอบแทนและสวสั ดกิ ารตามสมควร 2. กฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพนั ธ์ เป็นกฎหมายทกี่ าหนดแนวทางปฏิบตั ิต่อกนั ระหว่างฝ่ ายนายจา้ ง กบั ฝ่ ายลกู จา้ ง เพ่ือใหบ้ ุคคลท้งั สองฝ่ ายมคี วามเขา้ ใจอนั ดตี ่อกนั สามารถตกลงกนั ในเร่ืองสิทธิ หนา้ ที่ และ ผลประโยชนก์ ารทางานร่วมกนั รวมท้งั กาหนดวธิ ีการระงบั ขอ้ ขดั แยง้ หรือขอ้ พิพาทแรงงานท่ีเกิดข้ึนใหย้ ตุ ิ ลงโดยเร็ว ท้งั น้ีเพอื่ ใหเ้ กิดความสงบสุขในสถานประกอบการ ซ่ึงส่งผลโดยตรงต่อเศรษฐกิจ และความ มน่ั คงของประเทศ 3, กฎหมายว่าด้วยพนักงานรัฐวสิ าหกจิ สัมพนั ธ์ เป็นพระราชบญั ญตั ิพนกั งานรัฐวิสาหกิจสมั พนั ธ์ พ.ศ. 2534 เป็นกฎหมายท่ีวา่ ดว้ ยการคุม้ ครองแรงงาน และแรงงานสมั พนั ธใ์ นภาครัฐวิสาหกิจ เป็นการ คุม้ ครองสิทธิประโยชนซ์ ่ึงไมน่ อ้ ยกวา่ มาตรฐานข้นั ต่าตามกฎหมายคุม้ ครองแรงงาน 4. กฎหมายความปลอดภยั ในการทางาน เป็นการกาหนดมาตรฐานข้นั ต่าใหส้ ถานประกอบกิจการ ถือปฏบิ ตั ิ เพอ่ื ความปลอดภยั ในการทางานและสุขอนามยั ที่ดี ปราศจากอบุ ตั ิเหตุและโรคเนื่องจากการทางาน kruwirot wannachai satreesiriket school
2 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 พระราชบัญญัติค้มุ ครองแรงงาน 2541 พระราชบัญญัตคิ ุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 พระราชบัญญัตคิ ุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มสี าระสาคญั สรุปได้ ดงั น้ี 1. วนั เวลา ทางาน วนั ทางาน หมายถงึ วนั ท่ีกาหนดใหล้ ูกจา้ งทางานตามปกติ เวลาทางานปกติ หมายถงึ เวลาทางานท่ีนายจา้ ง และลูกจา้ งตกลงกาหนดไวเ้ ป็นเวลาที่ แน่นอน ซ่ึงกาหนดไวต้ ้งั แต่วนั แรกท่ีเขา้ ทางาน หากมกี ารแกไ้ ข เปลี่ยนแปลง นายจา้ งตอ้ งแจง้ ใหล้ ูกจา้ ง ทราบเพอื่ ขอความยนิ ยอม หากลกู จา้ งไมย่ นิ ยอมไมส่ ามารถเปลย่ี นได้ เพราะเงื่อนไขในการจา้ งงาน หรือ สภาพการจา้ งงาน ตอ้ งเกิดข้ึนมาจากการตกลงกนั ระหวา่ งนายจา้ งกบั ลูกจา้ ง ดงั น้ี 1. วนั ทางานไม่เกินสปั ดาห์ละ 6 วนั 2. กาหนดเวลาทางานปกติทุกประเภทไมเ่ กิน 8 ชว่ั โมงต่อวนั หรือไม่เกิน 48 ชว่ั โมงต่อสปั ดาห์ ถา้ เป็นงานอนั ตรายต่อสุขภาพตามกฎกระทรวงกาหนดใหไ้ ม่เกิน 7 ชวั่ โมงต่อวนั หรือไม่ เกิน 42 ชว่ั โมงต่อสปั ดาห์ 3. กาหนดเวลาพกั ระหว่างการทางานวนั หน่ึงไม่นอ้ ยกว่า 1 ชั่วโมง หลงั จากที่ ลูกจา้ งทางานมาแลว้ ไม่เกิน 5 ชว่ั โมงติดต่อกนั อาจตกลงกนั พกั นอ้ ยกว่าคร้ังละ 1 ชวั่ โมงกไ็ ด้ แต่รวมกนั ตอ้ งไม่นอ้ ยกว่า 1 ชวั่ โมงต่อวนั 4. กาหนดใหม้ วี นั หยดุ ประจาสปั ดาหไ์ มน่ อ้ ยกวา่ สปั ดาห์ละ 1 วนั ห่างกนั ไมเ่ กิน 6 วนั และวนั หยุดตามประเพณีไม่น้อยกว่า 13 วนั รวมวนั แรงงานแห่งชาติด้วย สาหรับวนั หยุดพกั ผ่อน ประจาปี ไม่นอ้ ยกวา่ 6 วนั ทาการ เม่ือลูกจา้ งทางานครบ 1 ปี 2. ค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าจ้าง หมายถึง เงินที่นายจา้ ง และลูกจา้ งตกลงกนั เพื่อจ่ายเป็ นค่าตอบแทนในการทางาน ตามสัญญาจา้ ง สาหรับระยะเวลาการทางานตามปกติเป็ นรายชวั่ โมง รายวนั รายสัปดาห์ รายเดือน หรือ ระยะเวลาอื่น หรือจ่ายใหโ้ ดยคานวณตามผลงานท่ีลูกจา้ งทาไดใ้ นเวลาทางานตามปกติของวนั ทางาน และให้ หมายรวมถึงเงินที่นายจา้ งจ่ายใหแ้ ก่ลกู จา้ งในวนั หยดุ และวนั ลาท่ีลกู จา้ งมไิ ดท้ างาน ตวั อยา่ ง นางสาววนุ้ เสน้ เป็นลูกจา้ งในโรงงานผลติ กระเป๋ าถือสตรี ตกลงกาหนดค่าจา้ งวนั ละ 350 บาท กาหนดเวลาทางานปกติเวลา ต้ังแต่ 08.00 น. ถึง 17.00 น. เวลาพกั 12.00 น. ถึง 13.00 น. ทางานต้ังแต่วนั จันทร์ถึงวนั เสาร์ ซ่ึงเรียกว่า “ค่าจา้ งในเวลาทางานปกติ” ค่าล่วงเวลา (OT) หมายถึงเงินท่ีนายจา้ งจ่ายให้แก่ลูกจา้ ง เป็ นการตอบแทนการทางาน kruwirot wannachai satreesiriket school
3 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 พระราชบัญญตั คิ ้มุ ครองแรงงาน 2541 ล่วงเวลาจากเวลาทางานปกติ ตวั อยา่ งเช่นนางสาววนุ้ เสน้ มาทางานนอกเหนือช่วงเวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น. จะไดร้ ับเงินค่าตอบแทน เรียกวา่ “ค่าลว่ งเวลา” ลกั ษณะการจ่ายค่าจา้ ง และค่าล่วงเวลา มดี งั น้ี 1. อตั ราค่าจา้ งข้นั ต่าใหเ้ ป็นไปตามประกาศของกระทรวงแรงงาน 2. ค่าล่วงเวลา ค่าทางานในวนั หยดุ และค่าลว่ งเวลาในวนั หยดุ 2.1. ถา้ ทางานเกินเวลาทางานปกติของวนั ทางาน นายจา้ งต้องจ่ายค่า ลว่ งเวลา ไมน่ อ้ ยกวา่ 1.5เท่าของอตั ราค่าจา้ งต่อชวั่ โมงในวนั ทางาน ตามจานวนชว่ั โมงที่ทา หรือไม่นอ้ ยกว่า 1.5เท่าของอตั ราค่าจา้ งต่อหน่วยในวนั ทางาน ตามจานวนผลงานท่ีทาได้ 2.2. ถา้ ทางานในวนั หยดุ ในเวลาทางานปกติ นายจา้ งตอ้ งจ่ายค่าทางานใน วนั หยุดให้แก่ลูกจา้ งท่ีมีสิทธิไดร้ ับค่าจา้ งในวนั หยุดเพิ่มข้ึนอีก 1 เท่าของค่าจา้ งในวนั ทางานตามชวั่ โมงท่ี ทางานในวนั หยดุ หรือตามจานวนผลงานท่ีทาได้แต่สาหรับลูกจา้ งที่ไม่มสี ิทธิไดร้ ับค่าจา้ งในวนั หยุด ตอ้ ง จ่ายไม่นอ้ ยกว่า 2 เท่าของค่าจา้ งในวนั ทางานตามชว่ั โมงท่ีทางานในวนั หยดุ หรือตามจานวนผลงานท่ีทาได้ สาหรับลูกจา้ งที่ไดร้ ับค่าจา้ งตามผลงานโดยคานวณเป็นหน่วย 2.3. ถา้ ทางานในวนั หยดุ เกินเวลาทางานปกติของวนั ทางาน นายจา้ งตอ้ ง จ่ายค่าล่วงเวลาในวนั หยดุ ใหแ้ ก่ลกู จา้ งในอตั รา 3 เท่าของอตั ราค่าจา้ งต่อชวั่ โมงในวนั ทางานปกติ ตามชว่ั โมง ที่ทา หรือตามจานวนผลงานท่ีทาไดส้ าหรับลูกจา้ งท่ีไดร้ ับค่าจา้ งตามผลงาน โดยคานวณเป็นหน่วย 3. ลกู จา้ งท้งั ชาย หญิง มสี ิทธิไดร้ ับค่าจา้ ง ค่าล่วงเวลา ค่าทางานในวนั หยดุ และค่า ลว่ งเวลาในวนั หยดุ เท่าเทียมกนั ในงานท่ีมีลกั ษณะ และคุณภาพอยา่ งเดียวกนั และปริมาณเท่ากนั 3. การลาป่ วย และการลาคลอด วันลา หมายถึง วนั ท่ีลูกจา้ งลาป่ วย ลาเพ่ือทาหมนั ลาเพ่ือกิจธุระจาเป็ น ลาเพ่ือรับราชการ ทหาร ลาเพอื่ ฝึกอบรม หรือเพอ่ื พฒั นาความรู้ ความสามารถ หรือลาเพือ่ คลอดบุตร หากลูกจา้ งมีการลาจะตอ้ งแจง้ ให้นายจา้ งทราบว่าไม่สามรถมาทางานตามปกติได้ โดยใน การแจง้ น้นั อาจแจง้ ดว้ ยวาจา ลายลกั ษณ์อกั ษร หรือตามแต่จะตกลงกนั ไว้ขอเพียงให้มกี ารแจง้ เท่าน้ัน หาก หยดุ ไปโดยไมม่ กี ารแจง้ จะถือวา่ “ขาดงาน” การลามลี กั ษณะ ดงั น้ี 1. ลาป่ วยไดเ้ ท่าท่ีป่ วยจริง แต่ไดร้ ับค่าจา้ งไมเ่ กิน 30 วนั ทางาน 2. ลาคลอดไดไ้ ม่เกิน 90 วนั โดยไดร้ ับค่าจา้ ง 45 วนั 3. ลาเพือ่ รับราชการทหารไดไ้ ม่เกินปี ละ 60 วนั โดยไดร้ ับค่าจา้ ง 4. ลาเพือ่ ทาหมนั ไดร้ ับค่าจา้ งตลอดเวลาท่ีแพทยว์ ินิจฉยั ใหห้ ยดุ 5. ลากิจธุระจาเป็น แลว้ แต่นายจา้ ง ลกู จา้ งตกลงกนั 6. ลาเพอ่ื เขา้ รับการอบรม kruwirot wannachai satreesiriket school
4 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 พระราชบัญญตั ิคุ้มครองแรงงาน 2541 4. วนั หยดุ วันหยุด หมายถึงวนั ท่ีให้ลูกจา้ งหยุดประจาสปั ดาห์ หยุดตามประเพณี หรือหยุดพกั ผอ่ น ประจาปี ดงั น้ี 1. วนั หยดุ ประจาสปั ดาห์ อยา่ งนอ้ ยสปั ดาหล์ ะ 1 วนั สาหรับลกู จา้ งรายวนั ไมไ่ ดร้ ับ ค่าจา้ ง 2. วนั หยดุ ตามประเพณี อยา่ งนอ้ ยปี ละ 13 วนั (รวมวนั แรงงานแห่งชาติ) โดยไดร้ ับ ค่าจา้ ง 3. วนั หยดุ พกั ผอ่ นประจาปี ปี ละ 6 วนั ทางาน โดยไดร้ ับค่าจา้ ง ซ่ึงนายจา้ งเป็ นผู้ กาหนดวนั หยดุ ดงั กล่าว 5. ค่าชดเชย ค่าชดเชย หมายถงึ เงินที่นายจา้ งจ่ายใหแ้ ก่ลูกจา้ งเม่ือเลิกจา้ ง นอกเหนือจากเงินประเภทอ่ืน ซ่ึงนายจา้ งตกลงจ่ายใหแ้ ก่ลูกจา้ ง 1. ลูกจา้ งมีสิทธิไดร้ ับค่าชดเชย หากนายจา้ งเลิกจา้ งโดยลูกจา้ งไม่มีความผดิ ดงั น้ี 1.1. ลูกจา้ งซ่ึงทางานติดต่อกนั ครบ 120 วนั แต่ไม่ครบ 1 ปี มีสิทธิไดร้ ับ เท่ากบั ค่าจา้ งอตั ราสุดทา้ ย 30 วนั 1.2. ลูกจา้ งซ่ึงทางานติดต่อกนั ครบ 1 ปี แต่ไมค่ รบ 3 ปี มสี ิทธิไดร้ ับเท่ากบั ค่าจา้ งอตั ราสุดทา้ ย 90 วนั 1.3. ลกู จา้ งซ่ึงทางานติดต่อกนั ครบ 3 ปี แต่ไม่ครบ 6 ปี มีสิทธิไดร้ ับเท่ากบั ค่าจา้ งอตั ราสุดทา้ ย 180 วนั 1.4. ลูกจ้างซ่ึงทางานติดต่อกันครบ 6 ปี แต่ไม่ครบ 10 ปี มีสิทธิได้รับ เท่ากบั ค่าจา้ งอตั ราสุดทา้ ย 240 วนั 1.5. ลูกจา้ งทางานติดต่อกนั ครบ 10 ปี ข้ึนไป มีสิทธิไดร้ ับเท่ากบั ค่าจา้ ง อตั ราสุดทา้ ย 300 วนั 2. ถา้ ยา้ ยสถานประกอบการ นายจา้ งตอ้ งแจง้ ใหแ้ ก่ลกู จา้ งทราบล่วงหน้าไม่เกิน30 วนั หากลูกจา้ งไม่ตอ้ งการไปทางานดว้ ย ลูกจา้ งมีสิทธิบอกเลิกสัญญา โดยไดร้ ับค่าชดเชยพเิ ศษไม่นอ้ ยกว่า ร้อยละ 50 ของอตั ราชดเชยท่ีลกู จา้ งมสี ิทธิไดร้ ับ 3. ค่าชดเชยพเิ ศษ ในกรณีท่ีนายจา้ งจะเลิกจา้ งลกู จา้ ง เพราะเหตุปรับปรุงหน่วยงาน กระบวนการผลิต การจาหน่าย หรือการบริการ อนั เน่ืองมาจากการนาเคร่ืองจกั รมาใช้ หรือเปลี่ยนแปลง เคร่ืองจกั ร หรือเทคโนโลยี หากนายจา้ งไมแ่ จง้ ลว่ งหนา้ หรือแจง้ ลว่ งหนา้ นอ้ ยกวา่ ระยะเวลา 60 วนั นายจา้ ง จะตอ้ งจ่ายค่าชดเชยพิเศษ ดงั น้ี 3.1. ลกู จา้ งจะไดร้ ับค่าบอกกล่าวล่วงหนา้ 60 วนั kruwirot wannachai satreesiriket school
5 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 พระราชบัญญตั คิ ุ้มครองแรงงาน 2541 3.2. ลูกจา้ งจะไดร้ ับค่าชดเชยตามกฎหมาย 3.3. ลูกจา้ งท่ีมีอายุงาน 6 ปี ข้ึนไป มีสิทธิไดร้ ับค่าชดเชยพิเศษปี ละ 15 วนั เมื่อรวมค่าชดเชยท้งั หมดแลว้ ตอ้ งไม่เกิน 360 วนั นายจา้ งไม่ตอ้ งจ่ายค่าชดเชยให้ลูกจา้ ง ซ่ึงเลิกจา้ ง ในกรณีใดกรณีหน่ึง ดงั ต่อไปน้ี 1. ทุจริตต่อหนา้ ที่ หรือกระทาความผดิ อาญา โดยเจตนาแก่นายจา้ ง 2. จงใจทาใหน้ ายจา้ งไดร้ ับความเสียหาย 3. ประมาทเลินเล่อเป็ นเหตุใหน้ ายจา้ งไดร้ ับความเสียหายอย่างร้ายแรง 4. ฝ่ าฝืนขอ้ บงั คบั เก่ียวกบั การทางาน หรือระเบียบ หรือคาสง่ั ของนายจา้ ง อนั ชอบดว้ ยกฎหมายและเป็ นธรรม และนายจา้ งไดต้ กั เตือนเป็ นหนงั สือแลว้ หนงั สือเตือนให้มีผลบงั คบั ใชไ้ ดไ้ ม่เกิน 1 ปี นบั แต่วนั ที่ลกู จา้ งไดท้ าผดิ แต่กรณีท่ีร้ายแรงนายจา้ งไม่จาเป็นตอ้ งตกั เตือน 5. ละทิ้งหน้าที่เป็ นเวลา 3 วนั ทางานติดต่อกัน ไม่ว่าจะมีวนั หยุดค่นั หรือไมก่ ็ตาม โดยไม่มสี าเหตุอนั สมควร 6. ได้รับโทษจาคุกตามคาพิพากษาถึงท่ีสุด เวน้ แต่เป็ นนักโทษสาหรับ ความผดิ ท่ีไดก้ ระทาโดยประมาท หรือความผดิ ลหุโทษ 6. การว่าจ้างแรงงานเดก็ หา้ มนายจา้ ง จา้ งเดก็ อายตุ ่ากว่า 15 ปี เป็นลูกจา้ งโดยเดด็ ขาด และกาหนดใหม้ ีการจา้ งเด็กที่ มีอายตุ ่ากวา่ 18 ปี เป็นลูกจา้ ง โดยใหน้ ายจา้ งปฏิบตั ิ ดงั น้ี 1. แจง้ การจา้ งลูกจา้ งเด็กต่อพนกั งานตรวจแรงงาน ภายใน 15 วนั นับแต่วนั ท่ีเขา้ ทางาน 2. ทาบนั ทึกสภาพการจา้ ง กรณีที่มีการเปล่ียนแปลงไปจากเดิมเก็บไว้ ณ สถาน ประกอบกิจการ หรือสานกั งานของนายจา้ ง พร้อมท่ีจะให้พนักงานตรวจแรงงานตรวจไดใ้ นเวลาทาการ 3. แจง้ การส้ินสุดการจา้ งลูกจา้ งเด็กน้นั ต่อพนกั งานตรวจแรงงาน ภายใน 7วนั นบั แต่วนั ที่เด็กออกจากงาน 4. ให้นายจา้ งจดั ให้ลูกจา้ งเด็กมีเวลาพกั วนั หน่ึง ไม่นอ้ ยกว่า 1 ชว่ั โมงติดต่อกนั หลงั จากที่ลกู จา้ งทางานมาแลว้ ไมเ่ กิน 4 ชวั่ โมง แต่ใน 4 ชวั่ โมงน้นั ใหล้ ูกจา้ งเด็กไดม้ เี วลาพกั ตามที่นายจา้ ง กาหนด 5. ห้ามมิให้นายจา้ ง ให้ลูกจา้ งเด็กอายุต่ากว่า 18 ปี ทางานในระหว่าง 22.00 น.- 06.00 น. เวน้ แต่จะไดร้ ับอนุญาตเป็นหนงั สือจากอธิบดี หรือผซู้ ่ึงอธิบดีมอบหมาย 6. นายจา้ งอาจใหล้ ูกจา้ งเดก็ อายตุ ่ากว่า 18 ปี เป็นผแู้ สดงภาพยนตร์ ละคร หรือการ แสดงอยา่ งอ่นื ท่ีคลา้ ยคลงึ กนั ทางานในระหวา่ งเวลาดงั กล่าวได้ ท้งั น้ี ใหน้ ายจา้ งจดั ใหล้ กู จา้ งเด็กไดพ้ กั ผอ่ น ตามสมควร kruwirot wannachai satreesiriket school
6 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 พระราชบัญญตั คิ ้มุ ครองแรงงาน 2541 7. หา้ มใหล้ กู จา้ งเดก็ อายตุ ่ากวา่ 18 ปี ทางานลว่ งเวลา หรือทางานในวนั หยดุ หา้ มใหล้ ูกจา้ งเดก็ อายตุ ่ากว่า 18 ปี ทางานอยา่ งใดอยา่ งหน่ึง ดงั ต่อไปน้ี 1. งานหลอม เป่ า หลอ่ หรือรีดโลหะ 2. งานป๊ัมโลหะ 3. งานเก่ียวกบั ความร้อน ความเยน็ ความสน่ั สะเทือน เสียง และแสงท่ีมีระดบั แตกต่างจาก ปกติ อนั อาจเป็นอนั ตรายตามที่กาหนดในกฎกระทรวง 4. งานเก่ียวกบั สารเคมีที่เป็นอนั ตรายตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวง 5. งานเก่ียวกบั จุลชีวนั เป็นพิษซ่ึงอาจเป็นเช้ือไวรัส แบคทีเรีย รา หรือเช้ืออ่ืนตามที่กาหนด ในกฎกระทรวง 6. งานเกี่ยวกบั วตั ถุมีพิษ วตั ถุระเบิด หรือวตั ถุไวไฟ เวน้ แต่งานในสถานีบริการน้ามนั เช้ือเพลิง ตามที่กาหนดในกฎกระทรวง 7. งานขบั หรือบงั คบั รถยก ป้ันจนั่ ตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวง 8. งานใชเ้ ลื่อยเดินกาลงั ดว้ ยไฟฟ้า หรือเคร่ืองยนต์ 9. งานที่ตอ้ งทาใตด้ ิน ใตน้ ้า ในถ้า อุโมงค์ หรือปล่องในภูเขา 10.งานเก่ียวกบั กมั มนั ตภาพรังสี ตามที่กาหนดในกฎกระทรวง 11.งานทาความสะอาดเครื่องจกั ร หรือเคร่ื องยนต์ ขณะที่เคร่ืองจกั รหรือเคร่ืองยนตก์ าลงั ทางาน 12.งานท่ีตอ้ งทาบนนง่ั ร้าน ท่ีสูงกว่าพ้ืนดินต้งั แต่ 10 เมตรข้ึนไป 13.งานอ่ืนที่กาหนดในกฎกระทรวง หา้ มใหล้ กู จา้ งเด็กอายตุ ่ากวา่ 18 ปี ทางานในสถานท่ี ดงั ต่อไปน้ี 1. โรงฆ่าสตั ว์ 2. สถานที่เลน่ การพนนั 3. สถานเตน้ รา ราวง หรือรองเง็ง 4. สถานท่ีท่ีมีอาหาร สุรา น้าชา หรือเครื่องด่ืมอย่างอื่นจาหน่ายและบริการโดยมีผบู้ าเรอ สาหรับปรนนิบตั ิลูกคา้ หรือโดยมีที่สาหรับพกั ผอ่ นหลบั นอน หรือมีบริการนวดให้แก่ลูกคา้ สถานที่อื่น ตามที่กฎกระทรวงกาหนดในกฎกระทรวง หา้ มมิใหน้ ายจา้ งจ่ายค่าจา้ งของลูกจา้ งเดก็ ใหแ้ ก่บุคคลอน่ื นอกจากน้ียงั หา้ มไมใ่ หน้ ายจา้ งเรียก หรือ รับเงินประกนั เพอื่ ประการใดๆจากฝ่ ายลูกจา้ งซ่ึงเป็นเดก็ เพ่ือประโยชนใ์ นการพฒั นา และส่งเสริมคุณภาพชีวิต และการทางานของเดก็ ใหล้ ูกจา้ งซ่ึงเป็นเด็ก อายุต่ากว่า 18 ปี มีสิทธิลาเพื่อเขา้ ประชุม สัมมนา รับการอบรม รับการฝี กหรือลาเพ่ือการอ่ืนซ่ึงจดั โดย kruwirot wannachai satreesiriket school
7 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 พระราชบัญญตั ิคุ้มครองแรงงาน 2541 สถานศึกษา หรือหน่วยงานของรัฐ หรือเอกชนท่ีอธิบดีเห็นชอบ โดยใหล้ ูกจา้ งซ่ึงเป็ นเด็กแจง้ ใหน้ ายจ้าง ทราบล่วงหนา้ ถึงเหตุท่ีลาโดยชดั แจง้ พร้อมแสดงหลกั ฐานเกี่ยวขอ้ ง(ถา้ มี) และใหน้ ายจา้ งจ่ายค่าจา้ งใหแ้ ก่ ลกู จา้ งเดก็ โดยลูกจา้ งเดก็ มสี ิทธิลาเพือ่ เขา้ ประชุม สมั มนาซ่ึงจดั โดยสถานศกึ ษา หรือหน่วยงานของรัฐ หรือ เอกชนท่ีอธิบดีเห็นชอบ โดยไดร้ ับค่าจา้ งปี หน่ึงไมเ่ กิน 30 วนั 7. การว่าจ้างแรงงานหญงิ ตามกฎหมายหา้ มมิใหน้ ายจา้ งใหล้ กู จา้ งหญิงทางานอยา่ งใดอยา่ งหน่ึง ดงั ต่อไปน้ี 1. งานเหมืองแร่ หรืองานก่อสร้างท่ีต้องทาใตด้ ิน ใตน้ ้า ในถ้า ในอุโมงค์ หรือ ปล่องในภูเขา เวน้ แต่ลกั ษณะของงานไม่เป็ นอนั ตรายต่อสุขภาพ หรือร่างกายของลูกจา้ งน้นั 2. งานท่ีตอ้ งทาบนนงั่ ร้านท่ีสูงกว่าพ้ืนดินต้งั แต่ 10 เมตรข้ึนไป 3. งานผลิต หรือขนส่งวตั ถุระเบิด หรือวตั ถุไวไฟ ยกเวน้ งานวิชาชีพ หรือวิชาการ เกี่ยวกบั การสารวจ การขุดเจาะ การกลน่ั แยก และผลติ ผลติ ภณั ฑจ์ ากปิ โตเลียม หรือปิ โตรเคมี ถา้ งานน้นั ไม่ เป็นอนั ตราย 4. งานอืน่ ตามที่กฎกระทรวงกาหนด หา้ มมิใหน้ ายจา้ งใหล้ ูกจา้ งหญิงมคี รรภท์ างานในระหว่างเวลา 22.00 น. – 06.00 น. ทางาน ลว่ งเวลา ทางานในวนั หยดุ หรือทางานอยา่ งหน่ึงอยา่ งใดต่อไปน้ี 1. งานเก่ียวกบั เคร่ืองจกั ร หรือเคร่ืองยนตท์ ี่มคี วามสน่ั สะเทือน 2. งานขบั เคลอื่ น หรือติดไปยานพาหนะ 3. งานยก แบก หาม หาบ ทูน ลาก เข็น หรือเคลื่อนยา้ ยสิ่งของน้าหนกั 15 กิโลกรัม ข้ึนไป 4. งานที่ทาในเรือ ทางานในยานพาหนะขนส่ง หรือเรือ 5. งานอนื่ ตามที่กาหนดในกฎกระทรวง ในการปฏิบตั ิงานของลกู จา้ งหญิง 1. ในกรณีท่ีนายจ้างให้ลูกจ้างหญิงทางานระหว่าง 24.00 น. – 06.00 น.และ พนักงานตรวจแรงงานเห็นว่างานน้ันอาจเป็ นอนั ตรายต่อสุขภาพ และความปลอดภยั ของหญิงน้ัน เพ่ือ พจิ ารณาและมีคาสงั่ ใหน้ ายจา้ งเปล่ยี นเวลาทางาน หรือลดชวั่ โมงทางานไดต้ ามที่เห็นสมควร และใหน้ ายจา้ ง ปฏบิ ตั ิตามคาสง่ั ดงั กล่าว 2. ใหล้ ูกจา้ งซ่ึงเป็ นหญิงมีครรภ์มีสิทธิลาเพื่อคลอดบุตรครรภห์ น่ึงไม่เกิน 90 วนั และวนั ลาใหน้ บั รวมวนั หยดุ ที่มีในระหวา่ งวนั ลาดว้ ย 3. ในกรณีที่ลูกจา้ งซ่ึงเป็นหญิง มใี บรับรองแพทยแ์ ผนปัจจุบนั ช้นั หน่ึงมาแสดงว่า ไม่อาจทางานในหนา้ ท่ีเดิมต่อไปได้ให้ลูกจา้ งน้นั มีสิทธิขอให้นายจา้ งเปลี่ยนงานในหน้าท่ีเดิมเป็ นการ ชวั่ คราวก่อน หรือหลงั คลอดได้ และใหน้ ายจา้ งพิจารณาเปลย่ี นงานท่ีเหมาะสมใหแ้ ก่ลกู จา้ งน้นั kruwirot wannachai satreesiriket school
8 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 พระราชบัญญตั คิ ้มุ ครองแรงงาน 2541 4. หา้ มเลิกจา้ งลกู จา้ งซ่ึงเป็นหญิงเพราะเหตุมคี รรภ์ 5. นอกจากน้ียงั ไดค้ ุม้ ครองแรงงานหญิงมิใหท้ างานล่วงเวลา ทางานในวนั หยุด ยกเวน้ งานในตาแหน่งผบู้ ริหาร งานวิชาการ งานธุรการ งานการเงินหรือบญั ชี ใหท้ างานล่วงเวลาในวนั ทางานไดถ้ า้ หญิงน้นั ยนิ ยอม และหา้ มนายจา้ ง หวั หนา้ งาน ผตู้ รวจงานกระทาการลว่ งเกินทางเพศต่อลูกจา้ ง หญิงและเดก็ หรือหา้ มเลือกปฏิบตั ิต่อลกู จา้ งหญิง 8. ความปลอดภยั ในการทางาน รัฐบาลไดก้ าหนดให้นายจา้ งตอ้ งดูแลในเร่ืองของความสะดวกของสถานที่ ใหม้ ีความเป็น ระเบียบเรียบร้อย สะอาด ปลอดภยั จดั สภาพแวดล้อมในการทางานใหด้ ี ไม่มีกล่ิน ควนั แสง เสียง ที่เป็ น อนั ตราย ดูแลเก็บรักษาสารและวตั ถุมีพิษ เคร่ืองจกั ร เคร่ืองมือต่างๆใหอ้ ยู่ในสภาพท่ีปลอดภยั หากลุกจา้ ง ประสบอุบตั ิเหตุตอ้ งรับดูแล รักษาพยาบาลทนั ที 1. ใหน้ ายจา้ ง หรือสถานประกอบการท่ีมีลูกจา้ งนอ้ ยกว่า 50 คน ตอ้ งจดั ใหม้ เี จา้ หนา้ ที่รักษา ความปลอดภยั ในการทางานระดบั พ้นื ฐาน ระดบั หวั หนา้ งาน และระดบั บริหาร เพื่อดูแลความปลอดภยั ใน การทางานของสถานประกอบการร่วมกบั นายจา้ ง 2. การกาหนดใหน้ ายจา้ ง หรือสถานประกอบการที่มลี ูกจา้ งต้งั แต่ 50 คนข้ึนไป ตอ้ งจดั ใหม้ ี เจา้ หนา้ ที่รักษาความปลอดภยั ในการทางานระดบั หวั หนา้ งาน ระดบั บริหาร และระดบั วิชาชีพ 3. กาหนดให้สถานประกอบการที่มีลูกจา้ งต้งั แต่ 50 คนข้ึนไป ตอ้ งจดั ให้มีคณะกรรมการ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางานประกอบดว้ ย นายจา้ ง ผแู้ ทนระดบั บงั คับ บญั ชา ผแู้ ทนลูกจา้ งระดบั ปฏิบตั ิการ และเจา้ หนา้ ท่ีรักษาความปลอดภยั ในการทางาน โดยมีคณะกรรมการ ตามขนาดของสถานประกอบการ 4. การใหค้ วามคุม้ ครองอนั ตรายส่วนบุคคลที่เหมาะสมกบั สภาพงาน และไดม้ าตรฐานโดย ใหน้ ายจา้ งเป็นผจู้ ดั ให้ อาทิ ตามที่กาหนดในกฎกระทรวง ใหน้ ายจา้ งตอ้ งจดั อุปกรณ์คุม้ ครองความปลอดภยั ส่วนบุคคลใหล้ ูกจา้ งตามลกั ษณะของงาน และลูกจา้ งตอ้ งสวมใส่อุปกรณ์ดงั กล่าวตลอดเวลาในการทางาน โดยบงั คบั kruwirot wannachai satreesiriket school
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: