เง่ือนไขการได้รับประโยชน์ทดแทน ครูวิโรจน์ วรรณชยั โรงเรียนสตรีสิริเกศ อำเภอเมือง จงั หวดั ศรีสะเกษ
1 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 ความรู้พ้ืนฐานเกยี่ วกบั การประกนั สังคม เง่ือนไขการได้รับประโยชน์ทดแทน เง่ือนไขการได้รับประโยชน์ทดแทน การได้รับประโยชน์ทดแทน มเี ง่ือนไข ดงั น้ี 1. กรณปี ระสบอนั ตราย หรือเจบ็ ป่ วยอนั มใิ ช่จากการทางาน ผปู้ ระกนั ตนสำมำรถเขำ้ รับกำรรักษำพยำบำลไดท้ ี่สถำนพยำบำลท่ีระบุไวใ้ นบตั รรับรองสิทธิกำร รักษำพยำบำล หรือเครือข่ำยของสถำนพยำบำลน้นั สถำนพยำบำลจะให้กำรรักษำโดยไม่ตอ้ งเสียค่ำใชจ้ ่ำย ใดๆ เวน้ แต่มีควำมตอ้ งกำรอำนวยควำมสะดวก เช่น หอ้ งผปู้ ่ วยพิเศษ หรือเวชภณั ฑพ์ ิเศษนอกเหนือจำกท่ี แพทยส์ ง่ั ซ่ึงผเู้ ขำ้ รับกำรรักษำตอ้ งจ่ำยเงินเพิ่มเอง บตั รรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล คือ บตั รท่ีสำนกั งำนประกนั สงั คมออกใหแ้ ก่ผปู้ ระกนั ตน เพื่อ ใชเ้ ป็ นหลกั ฐำนในกำรรักษำตวั ณ โรงพยำบำลท่ีเลือก โดยจะไดร้ ับบตั รน้ีเมื่อจ่ำยเงินสมทบเขำ้ กองทุน ประกนั สงั คมครบ 3 เดือน บตั รน้ีสำมำรถแจง้ กำรเปลี่ยนแปลงสถำนพยำบำลไดท้ ุกสิ้นปี หรือในกรณีท่ียำ้ ย สถำนที่ทำงำน เงื่อนไข ไดร้ ับสิทธิก็ต่อเม่ือไดส้ ่งเงินสมทบแลว้ ไม่น้อยกว่ำ 3 เดือน ภำยในระยะเวลำ 15 เดือน ก่อนเจ็บป่ วย สิทธิทีผ่ ้ปู ระกนั ตนจะได้รับ 1. ค่าบริการทางการแพทย์ 1.1. กรณีผปู้ ระกนั ตนเขำ้ รับกำรรักษำในสถำนพยำบำลตำมที่ระบุในบตั รรับรอง สิทธิ หรือเป็นเครือข่ำยของสถำนพยำบำลน้นั ไม่ตอ้ งเสียค่ำใชจ้ ่ำยใดๆจนสิ้นสุดกำรรักษำ 1.2. กรณีเจ็บป่ วยฉุกเฉิน ถำ้ ผปู้ ระกนั ตนไม่สำมำรถเขำ้ รับกำรรักษำพยำบำลใน สถำนพยำบำลท่ีระบุไวใ้ นบตั รรับรองสิทธิ ผปู้ ระกนั สำมำรถเบิกค่ำรักษำพยำบำลที่เกิดข้ึนจริงตำมควำมจำ เป็น ภำยในระยะเวลำไม่เกิน 72 ชวั่ โมง นบั แต่เวลำที่ผปู้ ระกนั ตนเขำ้ รับกำรรักษำพยำบำลคร้ังแรก (ไมร่ วม วนั หยดุ รำชกำร) ตำมประเภท และอตั รำกำรจ่ำยค่ำบริกำรทำงกำรแพทย์ ดงั น้ี kruwirot wannachai satreesiriket school
2 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 ความรู้พ้นื ฐานเกย่ี วกบั การประกนั สังคม ก. ประเภทผปู้ ่ วยนอก ปี ละไม่เกิน 2 คร้ัง (1) ค่ำรักษำพยำบำลตำมจำนวนเท่ำท่ีจ่ำยจริง แต่ไมเ่ กินคร้ังละ 300 บำท (2) ค่ำตรวจวิเครำะห์ทำงหอ้ งปฏิบตั ิกำร เช่น ค่ำตรวจเลือด ค่ำเอกซเรย์จ่ำยเพิ่มจำกค่ำ รักษำพยำบำลตำมจำนวนท่ีจ่ำยจริง แต่ไมเ่ กินคร้ังละ 200 บำท (3) ค่ำหตั ถกำรจำกแพทย์ เช่น เยบ็ แผล เขำ้ เฝือก จ่ำยเพิ่มค่ำรักษำพยำบำลตำมจำนวนที่ จ่ำยจริง แต่ไมเ่ กินคร้ังละ 200 บำท ข. ประเภทผปู้ ่ วยใน ปี ละไม่เกิน 2 คร้ัง (1) จ่ำยค่ำรักษำพยำบำลตำมจำนวนที่จ่ำยจริง ไมเ่ กินวนั ละ 1,500 บำท (2) กรณีจำเป็นตอ้ งผำ่ ตดั ใหญ่ใชร้ ะยะเวลำในกำรผำ่ ตดั ไม่เกิน 2 ชว่ั โมง จ่ำยตำมจำนวน ท่ีจ่ำยจริงไม่เกิน 8,000 บำท ต่อกำรเจบ็ ป่ วยแต่ละคร้ัง (3) กรณีจำเป็นตอ้ งผำ่ ตดั ใหญ่ ใชร้ ะยะเวลำในกำรผำ่ ตดั ไมเ่ กิน 2 ชวั่ โมง จ่ำยตำมจำนวน ท่ีจ่ำยจริง ไม่เกิน 14,000 บำท ต่อกำรเจบ็ ป่ วยแต่ละคร้ัง (4) จ่ำยค่ำหอ้ ง ค่ำอำหำร ตำมจำนวนท่ีจ่ำยจริง ไมเ่ กินวนั ละ 700 บำท (5) กรณี มีควำมจำเป็ นต้องรับกำรรักษำพยำบำลในห้องไอซียู ( ICU) จ่ำยค่ำ รักษำพยำบำล เพม่ิ ตำมควำมจำเป็น ไม่เกินวนั ละ 2,000 บำท (6) กรณีมีกำรตรวจรักษำดว้ ยเทคโนโลยขี ้นั สูง ไดแ้ ก่ ซีทีสแกน (CT-SCAN) หรือเอ็ม อำร์ไอ (Magnetic Resonance Imaging : MRI) จ่ำยตำมหลกั เกณฑท์ ่ีกำหนดไม่เกิน 4,000 บำทต่อกำรเจบ็ ป่ วย แต่ละคร้ัง (7) กรณีมีควำมจำเป็ นต้องส่งตัวผูป้ ระกันตนไปตรวจวินิจฉัย หรื อรั กษำต่อยงั สถำนพยำบำลอื่น เบิกค่ำพำหนะได้ ดงั น้ี 7.1. ภำยในเขตจงั หวดั เดี่ยวกนั ค่ำรถพยำบำล หรือเรือพยำบำล จ่ำยตำมจำนวนที่ จ่ำยจริง ไม่เกิน 5,000 บำทต่อคร้ัง ส่วนพำหนะรับจำ้ ง หรือพำหนะส่วนบุคคล หรือพำหนะอน่ื ๆ เหมำจ่ำยใน อตั รำ 300 บำทต่อคร้ัง 7.2. ข้ำมเขตจังหวัดจ่ำยเพิ่มจำกกรณีภำยในจังหวดั เดียวกนั อีกในระยะทำง กิโลเมตรละ 90 สตำงค์ ตำมระยะทำงกรมทำงหลวง 1.3. กรณีอุบัติเหตุ ถำ้ ผูป้ ระกันตนไม่สำมำรถเข้ำรับกำรรักษำพยำบำลใน สถำนพยำบำลท่ีระบุในบตั รรับรองสิทธิ ผูป้ ระกนั สำมำรถเรียกเบิกค่ำรักษำพยำบำลท่ีเกิดข้ึนจริงตำม ควำมจำเป็นภำยในระยะเวลำไม่เกิน 72 ชว่ั โมง นบั แต่วนั ท่ีผปู้ ระกนั ตนเขำ้ รับกำรรกั ษำพยำบำลคร้ังแรก (ไม่ รวมวนั หยดุ รำชกำร) โดยไม่จำกดั จำนวนคร้ัง ตำมหลกั เกณฑแ์ ละอตั รำที่กำหนด ดงั น้ี ก. หำกเขำ้ รับกำรรักษำในสถำนพยำบำลของรัฐจ่ำยให้เท่ำที่จ่ำยจริง ตำม ควำมจำเป็น ยกเวน้ ค่ำหอ้ ง และค่ำอำหำรของผปู้ ่ วยใน จ่ำยใหไ้ ม่เกินวนั ละ 700 บำท kruwirot wannachai satreesiriket school
3 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 ความรู้พืน้ ฐานเกยี่ วกบั การประกนั สังคม ข. หำกเขำ้ รับกำรรักษำพยำบำลในสถำนพยำบำลเอกชน จ่ำยให้ตำม หลกั เกณฑ์ และอตั รำเช่นเดียวกบั กรณีเจ็บป่ วยฉุกเฉิน 1.4. กรณีไม่มีบตั รรับรองสิทธิ สำหรับผูป้ ระกนั ตนที่จ่ำยเงินสมทบกรณีเจบ็ ป่ วย ครบตำมเงื่อนไขแลว้ แต่ไม่มีบตั รรับรองสิทธิ สำมำรถเขำ้ รับกำรรักษำในสถำนพยำบำลได้ หำกประสบ อนั ตรำยจำกอุบตั ิเหตุ ให้เบิกค่ำบริกำรทำงกำรแพทยต์ ำมอตั รำเดียวกบั กำรเจบ็ ป่ วยกรณีอุบตั ิเหตุ ส่วนกำร เจบ็ ป่ วยอ่ืนๆ ใหเ้ บิกค่ำบริกำรทำงกำรแพทยไ์ ดใ้ นอตั รำเดียวกบั กำรเจบ็ ป่ วยกรณีฉุกเฉิน 1.5. กรณีทนั ตกรรม มีสิทธิไดร้ ับค่ำบริกำรทำงกำรแพทย์ กรณีอุดฟัน ถอนฟัน และขดู หินปูน เท่ำที่จ่ำยจริงตำมควำมจำเป็น แต่ไมเ่ กิน 200 บำท ต่อคร้ัง และไมเ่ กิน 400 บำท 1.6. ผูป้ ระกนั ตนที่เจ็บป่ วยด้วยโรคไตวำยเร้ือรังระยะสุดทำ้ ย มีสิทธิไดร้ ับกำร บำบดั ทดแทนไต โดยกำรฟอกเลือดดว้ ยเครื่องไตเทียม หรือกำรลำ้ งช่องทอ้ งดว้ ยน้ำยำแบบถำวร ท้งั น้ีเป็นไป ตำมหลกั เกณฑ์เงื่อนไข ที่สำนกั งำนประกนั สังคมกำหนด โดยสำนกั งำนประกนั สงั คมจะจ่ำยค่ำบริกำรทำง กำรแพทยใ์ หแ้ ก่สถำนพยำบำลในควำมตกลงเป็ นค่ำฟอกเลือดดว้ ยเครื่องไตเทียม ไมเ่ กิน 1,500 บำท ต่อคร้ัง และไมเ่ กิน 3,000 บำท ต่อสปั ดำห์ หรือจ่ำยค่ำน้ำยำลำ้ งช่องทอ้ ง พร้อมอุปกรณ์ไมเ่ กินเดือนละ 15,000 บำท 1.7. กรณีปลูกถ่ำยไขกระดูก สำนักงำนประกนั สังคมจะจ่ำยค่ำบริกำรทำงกำร แพทยใ์ หแ้ ก่ สถำนพยำบำลในควำมตกลงที่ใหบ้ ริกำรผปู้ ระกนั ตน จนส้ินสุดกำรรักษำ 750,000 บำท 1.8. ผำ่ ตดั เปล่ยี นกระจกตำ สำนกั งำนประกนั สงั คมจะจ่ำยค่ำบริกำรทำงกำรแพทย์ ใหแ้ ก่สถำนพยำบำลในควำมตกลงเป็นเงิน 20,000 บำท และใหศ้ ูนยด์ วงตำสภำกำรชำดไทย 5,000 บำท 2. เงนิ ทดแทนการขาดรายได้สาหรับหยุดงาน เพ่ือรักษาพยาบาลตามคาสั่งแพทย์ ผปู้ ระกนั ตนไดร้ ับเงินทดแทนกำรขำดรำยไดร้ ้อยละ 50 ของค่ำจำ้ ง คร้ังละไมเ่ กิน 90 วนั ปี ละไมเ่ กิน 180 วนั เวน้ แต่โรคเร้ือรังไมเ่ กิน 365 วนั (ในกรณีผปู้ ระกนั ตนมีสิทธิไดร้ ับค่ำจำ้ งจำกนำยจำ้ งใน ระหว่ำงหยดุ งำนเพื่อกำรรักษำพยำบำล ตำมกฎหมำยว่ำดว้ ยกำรคุม้ ครองแรงงำน หรือมีสิทธิตำมระเบียบ ขอ้ บงั คบั เกี่ยวกบั กำรทำงำน สญั ญำจำ้ งแรงงำน หรือขอ้ ตกลงเก่ียวกบั สภำพกำรจำ้ งน้นั ไดส้ ้ินสุดลง จึงจะมี สิทธิไดร้ ับเงินทดแทนดงั กล่ำวเท่ำกบั ระยะเวลำที่คงเหลือ) 2.1. กรณีสูญเสียอวยั วะ หรือสูญเสียสมรถภำพในกำรทำงำนของอวยั วะ หรือสูญเสีย สมรรถภำพในกำรทำงำนของอวยั วะบำงส่วน ไดร้ ับค่ำอวยั วะเทียม หรือค่ำอุปกรณ์ในกำรบำบดั รักษำโรค ตำมประเภทและอตั รำท่ีกำหนด 2.2. กรณีฟ้ื นฟูสมรรถภำพในกำรทำงำนภำยหลงั กำรประสบอนั ตรำย หรือเจ็บป่ วยไมไ่ ด้ รับสิทธิตำมกฎหมำย 2. กรณคี ลอดบุตร เง่ือนไข ไดร้ ับสิทธิต่อเมื่อไดส้ ่งเงินสมทบมำแลว้ ไมน่ ้อยกว่ำ 7 เดือน ภำยในระยะเวลำ 15 เดือนก่อนเดือนท่ีมกี ำรคลอดบุตร kruwirot wannachai satreesiriket school
4 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 ความรู้พืน้ ฐานเกยี่ วกบั การประกนั สังคม สิทธิผู้ประกนั ตนหญิง 1. ค่ำคลอดบุตรเหมำจ่ำย 6,000 บำทต่อคร้ัง 2. เงินสงเครำะห์กำรหยดุ งำนเพื่อกำรคลอดบุตรเหมำจ่ำยอตั รำร้อยละ 50 ของ ค่ำจำ้ งเป็นเวลำ 90 วนั สิทธผิ ู้ประกนั ตนชาย เงินค่ำคลอดบุตรเหมำจ่ำย 4,000 บำทต่อคร้ัง สำหรับภรรยำที่จดทะเบียนสมรส หรือหญิงท่ีอยกู่ ินกนั ฉนั สำมี ภรรยำ แต่มไี ดจ้ ดทะเบียนสมรส 3. กรณที ุพพลภาพ อนั มใิ ช่เนื่องจากการทางาน เง่ือนไข ไดร้ ับสิทธิต่อเมื่อไดส้ ่งเงินสมทบมำแลว้ ไม่นอ้ ยกวำ่ 3 เดือน ภำยในระยะเวลำ 15 เดือนก่อนทุพพลภำพ สิทธิที่ผ้ปู ระกนั ตนจะได้รับ 1. ไดร้ ับเงินทดแทนขำดรำยไดร้ ้อยละ 50 ของค่ำจำ้ ง เป็นรำยเดือนตลอดชีวติ 2. ไดร้ ับค่ำรักษำพยำบำลเท่ำที่จ่ำยจริงไม่เกินเดือนละ 2,000 บำท ตลอดชีวติ 3. ผปู้ ระกนั ตนท่ีทุพพลภำพ ถงึ แก่ควำมตำยจะไดร้ ับ 3.1. ค่ำทำศพ 30,000 บำท 3.2. เงินสงเครำะห์ตำมระยะเวลำกำรส่งเงินสมทบก่อนทุพพลภำพ ดงั น้ี ✭ส่งเงินสมทบมำแลว้ 3 ปี ข้ึนไป แต่ไม่ถึง 10 ปี จะไดร้ ับเงิน สงเครำะหเ์ ท่ำกบั ค่ำจำ้ งเฉลี่ย 1.5 เดือน ✭ส่งเงินสมทบมำแลว้ ต้งั แต่ 10 ปี ข้ึนไป จะไดร้ ับเงินสงเครำะห์ เท่ำกบั ค่ำจำ้ งเฉลี่ย 5 เดือน 4. ไดร้ ับค่ำฟ้ื นฟูสมรรถภำพทำงร่ำงกำย จิตใจ และอำชีพเท่ำท่ีจ่ำยจริง ตำมควำม จำเป็ นไม่เกิน 40,000 บำท ต่อรำย ตำมประกำศสำนกั งำนประกนั สงั คม เร่ืองกำหนดหลกั เกณฑ์ อตั รำค่ำ ฟ้ื นฟสู มรรถภำพของผทู้ ุพพลภำพ ศูนยฟ์ ้ื นฟูสมรรถภำพคนงำนสำนักงำนประกนั สังคม กระทรวงแรงงำน ต้งั ข้ึนโดยควำม ร่วมมือระหว่ำงรัฐบำลญ่ีป่ ุนกบั รัฐบำลไทย ให้บริกำรฟ้ื นฟูสมรรถภำพแก่ลูกจำ้ งที่ประสบอนั ตรำย หรือ เจ็บป่ วยเนื่องจำกกำรทำงำน และผปู้ ระกนั ตน ตำมพระรำชบญั ญตั ิประกนั สังคม พ.ศ. 2533 เพื่อให้ลูกจำ้ ง และผปู้ ระกนั ตนเหล่ำน้นั สำมำรถกลบั เขำ้ ทำงำนในสถำนประกอบกำร หรือประกอบอำชีพอิสระ เล้ียงดู ตนเองได้ กำรใหบ้ ริกำรฟ้ื นฟูสมรรถภำพ ใหบ้ ริกำรฟ้ื นฟูสมรรถภำพ 2 ประเภท คือ 1. ฟ้ื นฟูสมรรถภำพดำ้ นกำรแพทย์ เริ่มหลงั จำกที่ลูกจำ้ งประสบอนั ตรำย หรือเจ็บป่ วย เน่ืองจำกกำรทำงำน และผปู้ ระกนั ตนไดร้ ับกำรรักษำจำกโรงพยำบำล และยงั มีควำมจำเป็ นที่จะตอ้ งรับกำร ฟ้ื นฟสู มรรถภำพทำงดำ้ นกำรแพทย์ เพื่อใหส้ ำมำรถใชอ้ วยั วะส่วนท่ีเหลือทำงำนไดต้ ่อไป kruwirot wannachai satreesiriket school
5 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 ความรู้พน้ื ฐานเกยี่ วกบั การประกนั สังคม 2. กำรฟ้ื นฟูสมรรถภำพด้ำนอำชีพ กำรฟ้ื นฟูสมรรถภำพด้ำนอำชีพแก่ลูกจำ้ งที่ประสบ อนั ตรำย หรือเจ็บป่ วยเนื่องจำกกำรทำงำน 2 ลกั ษณะคือ เตรียมเขำ้ ทำงำน และกำรฝึกอำชีพ คุณสมบัตขิ องผู้สมคั รเข้ารับการฟื้ นฟูสมรรถภาพ 1. เป็นลูกจำ้ งที่ประสบอนั ตรำย หรือเจบ็ ป่ วยเน่ืองจำกกำรทำงำน และผปู้ ระกนั ตน ตำมพระรำชบญั ญตั ิประกนั สงั คม พ.ศ. 2533 2. สำมำรถช่วยตนเองได้ในกิจวตั รประจำวนั และสภำพควำมพิกำรที่เกิดข้ึน สำมำรถฟ้ื นฟสู มรรถภำพในกำรทำงำนไดด้ ีข้ึน 3. ไม่เป็ นผูต้ ิดยำเสพติดให้โทษ โรคเร้ือรัง โรคติดต่อรุนแรง หรือโรคติดต่อ อนั ตรำย พกิ ำรทำงสมอง จิตฟ่ันเฟื องไม่สมประกอบ และมอี ำยุ 15 ปี ข้ึนไป ไม่จำกดั ควำมรู้ 4. กรณตี ายอนั มใิ ช่เนื่องจากการทางาน เงื่อนไข ไดร้ ับสิทธิต่อเม่ือไดส้ ่งเงินสมทบมำแลว้ ไม่นอ้ ยกว่ำ 1 เดือน ภำยในระยะเวลำ 6 เดือนก่อนถึงแก่ควำมตำย สิทธขิ องผู้ประกนั ตน 1. ค่ำทำศพ 30,000 บำท 2. เงินสงเครำะหต์ ำมระยะเวลำกำรส่งเงินสมทบก่อนถงึ แก่ควำมตำย 2.1. ส่งเงินสมทบต้งั แต่ 3 ปี ข้ึนไป แต่ไม่ถึง 10 ปี จะไดร้ ับเงินสงเครำะห์ เท่ำกบั ค่ำจำ้ งเฉลยี่ 1.5 เดือน 2.2. ส่งเงินสมทบต้งั แต่ 10 ปี ข้ึนไป จะไดร้ ับเงินสงเครำะห์เท่ำกบั ค่ำจำ้ ง เฉล่ยี 5 เดือน 5. กรณสี งเคราะห์บุตร เง่ือนไข ไดร้ ับสิทธิต่อเม่อื ไดส้ ่งเงินสมทบมำแลว้ ไม่นอ้ ยกวำ่ 12 เดือนภำยในระยะเวลำ 36 เดือนก่อนเดือนท่ีไดร้ ับสิทธิ สิทธิของผ้ปู ระกนั ตน เงินสงเครำะหบ์ ุตรเดือนละ 200 บำทต่อบุตร 1 คน สำหรับบุตรชอบ ดว้ ยกฎหมำย ซ่ึงมีอำยตุ ้งั แต่แรกเกิดจนถงึ 6 ปี บริบูรณ์ จำนวนครำวละไม่เกิน 2 คน 6. กรณชี ราภาพ เงื่อนไข 1. กรณีเงินบำนำญชรำภำพ ไดร้ ับสิทธิต่อเม่ือไดส้ ่งเงินสมทบมำแลว้ ไม่นอ้ ยกว่ำ 180 เดือน ไม่ว่ำระยะเวลำ 180 เดือนจะติดต่อกนั หรือไมก่ ็ตำม และมีอำยุครบ 55 ปี บริบูรณ์ และควำมเป็น ผปู้ ระกนั ตนไดส้ ิ้นสุดลง 2. กรณีเงินบำเหน็จชรำภำพ ไดร้ ับสิทธิต่อเมอ่ื ไดส้ ่งเงินสมทบมำแลว้ ไมค่ รบ 180 เดือน และมีอำยคุ รบ 55 ปี บริบูรณ์ และควำมเป็ นผปู้ ระกนั ตนสิ้นสุดลง หรือเป็ นผูท้ ุพพลภำพ หรือถึงแก่ kruwirot wannachai satreesiriket school
6 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 ความรู้พืน้ ฐานเกย่ี วกบั การประกนั สังคม ควำมตำย สิทธเิ งินบานาญชราภาพ 1. กรณีจ่ำยเงินสมทบครบ 180 เดือน ใหไ้ ดร้ ับเงินบำนำญชรำภำพในอตั รำร้อยละ 15 ของค่ำจำ้ งเฉลี่ย 60 เดือนสุดทำ้ ยท่ีใชเ้ ป็นฐำนในกำรคำนวณเงินสมทบ ก่อนควำมเป็นผปู้ ระกนั ตนสิ้นสุด ลง 2. กรณีจ่ำยเงินสมทบเกินกว่ำ 180 เดือน ใหป้ รับเพิ่มอตั รำเงินบำนำญชรำภำพตำม ขอ้ 1 ข้ึนอีก ในอตั รำร้อยละ 1 ต่อระยะเวลำกำรจ่ำยเงินสมทบทุก 12 เดือน สำหรับระยะเวลำท่ีจ่ำยเงินสมทบ เกินกวำ่ 180 เดือน สิทธิเงินบาเหนจ็ ชราภาพ 1. กรณีจ่ำยเงินสมทบต่ำกว่ำ 12 เดือน ให้จ่ำยเงินบำเหน็จชรำภำพเท่ำกบั จำนวน เงินสมทบท่ีผปู้ ระกนั ตนจ่ำยสมทบเพ่อื กำรจ่ำยประโยชนท์ ดแทน กรณีสงเครำะห์บุตรและชรำภำพ 2. กรณีจ่ำยเงินสมทบต้งั แต่ 12 เดือนข้ึนไป ให้จ่ำยเงินบำเหน็จชรำภำพเท่ำกบั จำนวนเงินสมทบท่ีผปู้ ระกนั ตนและนำยจำ้ งจ่ำยสมทบ เพ่ือกำรจ่ำยประโยชน์ทดแทนกรณีสงเครำะหบ์ ุตร และกรณีชรำภำพ พร้อมผลประโยชน์ตอบแทนตำมที่สำนกั งำนประกนั สงั คมประกำศกำหนด 7. กรณวี ่างงาน เง่ือนไข ไดร้ ับสิทธิต่อเม่ือไดส้ ่งเงินสมทบมำแลว้ ไม่น้อยกวำ่ 6 เดือน ภำยในระยะเวลำ 15 เดือนก่อนกำรว่ำงงำน สิทธขิ องผ้ปู ระกนั ตน ผปู้ ระกนั ตนที่วำ่ งงำนจะไดร้ ับกำรช่วยเหลือ ดงั น้ี 1. กำรบริกำรจดั หำงำน และฝึกอบรมฝีมอื แรงงำน 2. เงินทดแทนในกรณีว่ำงงำน ดงั น้ี 2.1. ถูกเลิกจำ้ งไดร้ ับเงินทดแทนในระหว่ำงกำรว่ำงงำนร้อยละ 50 ของ ค่ำจำ้ ง คร้ังละไม่เกิน 180 วนั 2.2. ลำออก หรือส้ินสุดสญั ญำจำ้ งที่มีกำหนดระยะเวลำกำรจำ้ งไวแ้ น่นอน ไดร้ ับเงินทดแทนในระหวำ่ งกำรว่ำงงำนร้อยละ 30 ของค่ำจำ้ ง คร้ังละไม่เกิน 90 วนั ในกรณียื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่ำงงำนเพรำะเหตุตำม 2.1. หรือเหตุตำม 2.1. และ2.2. เกินกวำ่ 1 คร้ังภำยใน 1 ปี ปฏิทิน ให้มีสิทธิไดร้ ับเงินทดแทนทุกคร้ัง รวมกนั ไมเ่ กิน 180 วนั แต่ใน กรณียนื่ คำขอรับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่ำงงำนเพรำะเหตุตำม 2.2. เกินกว่ำ 1 คร้ังภำยใน 1 ปี ปฏทิ ินใหม้ ี สิทธิไดร้ ับเงินทดแทนทุกคร้ังรวมกนั ไมเ่ กิน 90 วนั kruwirot wannachai satreesiriket school
7 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 ความรู้พืน้ ฐานเกย่ี วกบั การประกนั สังคม 8. สิทธปิ ระโยชน์ภายหลงั การสิ้นสภาพการเป็ นลูกจ้าง ผูป้ ระกันตนซ่ึงได้ส่งเงินสมทบครบตำมเง่ือนเวลำจะก่อให้เกิดสิทธิไดร้ ับประโยชน์ ทดแทน กรณีประสบอนั ตรำย หรือเจ็บป่ วย กรณีคลอดบุตร กรณีทุพพลภำพ กรณีตำย และส้ินสภำพกำรเป็น ลกู จำ้ ง ใหม้ สี ิทธิไดร้ ับประโยชนท์ ดแทนต่อไปอีก 6 เดือน นบั แต่วนั ท่ีผนู้ ้นั ส้ินสภำพกำรเป็นลูกจำ้ ง 9. การอุทธรณ์ 1. นำยจ้ำง ผูป้ ระกันตน หรือบุคคลอ่ืนใด ซ่ึงไม่พอใจคำส่ังของเลขำธิกำร หรือของ พนักงำนเจำ้ หน้ำที่สั่งกำรตำมพระรำชบญั ญตั ิน้ี ยกเวน้ คำสงั่ ยึด อำยดั และขำยทอดตลำดทรัพยส์ ินของ นำยจำ้ ง ใหม้ ีสิทธิอทุ ธรณ์ต่อคณะกรรมกำรอุทธรณ์ไดภ้ ำยใน 30 วนั นบั แต่วนั ที่ไดร้ ับแจง้ คำสงั่ 2. ถำ้ ผูอ้ ุทธรณ์ไม่พอใจคำวินิจฉัยของคณะกรรมกำรอุทธรณ์ ให้มีสิทธินำคดีไปสู่ศำล แรงงำนภำยใน 30 วนั นบั แต่วนั ท่ีไดร้ ับแจง้ คำวนิ ิจฉยั ถำ้ ไมน่ ำคดีไปสู่ศำลภำยในกำหนดใหค้ ำวินิจฉยั ของ คณะกรรมกำรอุทธรณ์เป็ นท่ีสุด 3. กำรอุทธรณ์ไม่เป็ นกำรทุเลำกำรปฏิบัติตำมคำส่ังของเลขำธิกำร หรือของพนักงำน เจำ้ หนำ้ ที่ 10. บทกาหนดโทษ 1. นำยจำ้ งผใู้ ดมีเจตนำ ดงั ต่อไปน้ี 1.1. ไม่ย่ืนแบบรำยกำรแสดงรำยช่ือผูป้ ระกนั ตน อตั รำค่ำจำ้ ง และข้อควำมอื่น ตำมท่ีกำหนดต่อสำนกั งำนภำยใน 30 วนั นบั แต่วนั ที่ลูกจำ้ งน้นั เป็นผปู้ ระกนั ตน หรือ 1.2. ไมแ่ จง้ เป็นหนงั สือขอเปลยี่ นแปลง หรือแกไ้ ขเพิ่มเติมขอ้ ควำมในแบบรำยกำร ท่ีไดย้ นื่ ไวต้ ่อสำนกั งำนใหต้ รงกบั ขอ้ เท็จจริงภำยในวนั ที่ 15 ของเดือนถดั ไปจำกเดือนท่ีมกี ำรเปลยี่ นแปลงให้ ตอ้ งระวำงโทษจำคุกไมเ่ กิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บำท หรือท้งั จำท้งั ปรับ 1.3. นำยจำ้ งผใู้ ดยน่ื รำยกำรแสดงรำยชื่อผปู้ ระกนั ตน อตั รำค่ำจำ้ ง และขอ้ ควำมอื่น ตำมท่ีกำหนด หรือแจง้ เป็ นหนงั สือขอเปล่ียนแปลง หรือแกไ้ ขเพมิ่ เติมแบบรำยกำรที่ไดย้ นื่ ไวต้ ่อสำนกั งำน โดยมีเจตนำกรอกขอ้ ควำมเป็นเทจ็ หรือแจง้ เท็จในหนงั สือขอเปล่ยี นแปลง ใหต้ อ้ งระวำงโทษจำคุกไมเ่ กิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 3,000 บำท หรือท้งั จำท้งั ปรับ เวน้ แต่เป็นกำรเปิ ดเผยเพอื่ ประโยชนแ์ ก่กำรคุม้ ครองแรงงำน หรือกำรสอบสวน หรือกำรพิจำรณำคดี 2. ผใู้ ดปฏบิ ตั ิตำม ดงั ต่อไปน้ี 2.1. ไม่ให้ถอ้ ยคำ หรือไม่ส่งเอกสำรหลกั ฐำน หรือขอ้ มูลท่ีจำเป็ น ตำมคำส่ังของ คณะกรรมกำรประกนั สังคม คณะกรรมกำรกำรแพทย์ คณะกรรมกำรอุทธรณ์ คณะอนุกรรมกำร หรือ เจำ้ หนำ้ ที่ kruwirot wannachai satreesiriket school
8 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 ความรู้พืน้ ฐานเกยี่ วกบั การประกนั สังคม 2.2. ขัดขวำง หรือไม่อำนวยควำมสะดวกแก่เจ้ำหน้ำที่ในกำรปฏิบัติงำน เพื่อ ตรวจสอบขอ้ เท็จจริ ง ค้นสถำนท่ี มีหนังสือสอบถำม หรือเรียกบุคคลมำให้ถอ้ ยคำ ฯลฯ ยึด อำยดั ขำย ทอดตลำดทรัพยส์ ิน ตอ้ งระวำงโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บำท หรือท้งั จำท้งั ปรับ 3. ถำ้ เจำ้ พนกั งำน เห็นว่ำผกู้ ระทำผดิ ไม่ควรได้รับโทษถึงจำคุก หรือไม่ควรถูกฟ้องร้อง สำหรับควำมผิดท่ีมีโทษปรับสถำนเดียว หรือควำมผดิ ที่มีโทษปรับหรือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ให้มีอำนำจ เปรียบเทียบปรับไดต้ ำมขอ้ กำหนดในกฎหมำย kruwirot wannachai satreesiriket school
9 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 ความรู้พื้นฐานเกย่ี วกบั การประกนั สังคม kruwirot wannachai satreesiriket school
การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 10 ความรู้พ้นื ฐานเกย่ี วกบั การประกนั สังคม คาชีแ้ จง ใหต้ อบคำถำมต่อไปน้ี ดว้ ยลำยมอื ท่ีอ่ำนไดง้ ่ำย (2 คะแนน) ตำมพระรำชบญั ญตั ิประกนั สงั คมที่ใชอ้ ยใู่ นปัจจุบนั ผปู้ ระกนั ตนมีสิทธิไดร้ ับประโยชนท์ ดแทน ตอ้ งมีเง่ือนไขอะไรบำ้ ง (2 คะแนน) kruwirot wannachai satreesiriket school
การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 11 ความรู้พ้ืนฐานเกย่ี วกบั การประกนั สังคม คาชี้แจง ใหอ้ ่ำนเร่ืองรำวขำ้ งล่ำงน้ีแลว้ ตอบคำถำม ดว้ ยลำยมือท่ีอ่ำนไดง้ ่ำย (4 คะแนน) เรื่องเพ่ือนซี้ นำยวิโรจน์ และนำยณเดช เป็นเพ่ือนกนั ท้งั คู่ทำงำนที่โรงงำนแห่งหน่ึงมำแลว้ เป็นเวลำ 24 เดือน จ่ำยเงิน เขำ้ กองทุนประกนั สงั คมมำโดยตลอด ไดร้ ับค่ำจำ้ งคนละ 500 บำทต่อวนั โดยโรงงำนแห่งน้ีมนี ำยบอย เป็นผจู้ ดั กำร ต่อมำ นำยวโิ รจน์ ไดท้ ะเลำะกบั นำยบอยอยำ่ งรุนแรง นำยบอย จึงไล่นำยวโิ รจนอ์ อกจำกงำนทนั ที นำยณเดชจึงไดข้ อลำออกจำก งำนดว้ ย จึงทำใหน้ ำยวิโรจน์ และนำยณเดช ตอ้ งวำ่ งงำนเป็นเวลำ 20 วนั จึงไดง้ ำนใหม่ท่ีโรงงำนใกลบ้ ำ้ น ให้แสดงการคานวณเงนิ ท่ีนายวโิ รจน์ และนายณเดช จะได้รับจากการว่างงาน จากสานกั งานประกนั สังคม (4 คะแนน) kruwirot wannachai satreesiriket school
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: