พระราชบญั ญัตคิ ุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ครูวโิ รจน์ วรรณชยั โรงเรียนสตรีสิริเกศ อำเภอเมือง จงั หวดั ศรีสะเกษ
1 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 พระราชบัญญัติค้มุ ครองแรงงาน 2541 กฎหมายทีเ่ กยี่ วกบั แรงงาน กฎหมายเกย่ี วกบั แรงงานทใ่ี ช้ในปัจจุบัน มดี งั น้ี 1. กฎหมายว่าด้วยการค้มุ ครองแรงงาน หมำยถงึ กฎหมำยที่บญั ญตั ิถงึ สิทธิ และหนำ้ ท่ีระหวำ่ ง นำยจำ้ งกบั ลกู จำ้ ง โดยกำหนดมำตรฐำนข้นั ต่ำในกำรใชแ้ รงงำน และกำรจ่ำยค่ำตอบแทนในกำรทำงำน ท้งั น้ี เพ่ือใหล้ ูกจำ้ งทำงำนดว้ ยควำมปลอดภยั มีสุขอนำมยั ท่ีดี ไดร้ ับค่ำตอบแทนและสวสั ดกิ ำรตำมสมควร 2. กฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพนั ธ์ เป็นกฎหมำยทกี่ ำหนดแนวทำงปฏิบตั ิต่อกนั ระหว่ำงฝ่ ำยนำยจำ้ ง กบั ฝ่ ำยลกู จำ้ ง เพ่ือใหบ้ ุคคลท้งั สองฝ่ ำยมคี วำมเขำ้ ใจอนั ดตี ่อกนั สำมำรถตกลงกนั ในเร่ืองสิทธิ หนำ้ ที่ และ ผลประโยชนก์ ำรทำงำนร่วมกนั รวมท้งั กำหนดวธิ ีกำรระงบั ขอ้ ขดั แยง้ หรือขอ้ พิพำทแรงงำนท่ีเกิดข้ึนใหย้ ตุ ิ ลงโดยเร็ว ท้งั น้ีเพอื่ ใหเ้ กิดควำมสงบสุขในสถำนประกอบกำร ซ่ึงส่งผลโดยตรงต่อเศรษฐกิจ และควำม มน่ั คงของประเทศ 3, กฎหมายว่าด้วยพนักงานรัฐวสิ าหกจิ สัมพนั ธ์ เป็นพระรำชบญั ญตั ิพนกั งำนรัฐวิสำหกิจสมั พนั ธ์ พ.ศ. 2534 เป็นกฎหมำยท่ีวำ่ ดว้ ยกำรคุม้ ครองแรงงำน และแรงงำนสมั พนั ธใ์ นภำครัฐวิสำหกิจ เป็นกำร คุม้ ครองสิทธิประโยชนซ์ ่ึงไมน่ อ้ ยกวำ่ มำตรฐำนข้นั ต่ำตำมกฎหมำยคุม้ ครองแรงงำน 4. กฎหมายความปลอดภยั ในการทางาน เป็นกำรกำหนดมำตรฐำนข้นั ต่ำใหส้ ถำนประกอบกิจกำร ถือปฏบิ ตั ิ เพอ่ื ควำมปลอดภยั ในกำรทำงำนและสุขอนำมยั ที่ดี ปรำศจำกอบุ ตั ิเหตุและโรคเนื่องจำกกำรทำงำน kruwirot wannachai satreesiriket school
2 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 พระราชบัญญตั ิค้มุ ครองแรงงาน 2541 พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 พระราชบัญญัตคิ ้มุ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มสี ำระสำคญั สรุปได้ ดงั น้ี 1. วนั เวลา ทางาน วนั ทางาน หมำยถึง วนั ที่กำหนดใหล้ กู จำ้ งทำงำนตำมปกติ เวลาทางานปกติ หมำยถงึ เวลำทำงำนท่ีนำยจำ้ ง และลูกจำ้ งตกลงกำหนดไวเ้ ป็นเวลำที่ แน่นอน ซ่ึงกำหนดไวต้ ้งั แต่วนั แรกที่เขำ้ ทำงำน หำกมกี ำรแกไ้ ข เปล่ียนแปลง นำยจำ้ งตอ้ งแจง้ ใหล้ ูกจำ้ ง ทรำบเพ่อื ขอควำมยนิ ยอม หำกลกู จำ้ งไม่ยนิ ยอมไมส่ ำมำรถเปล่ยี นได้ เพรำะเงื่อนไขในกำรจำ้ งงำน หรือ สภำพกำรจำ้ งงำน ตอ้ งเกิดข้ึนมำจำกกำรตกลงกนั ระหวำ่ งนำยจำ้ งกบั ลกู จำ้ ง ดงั น้ี 1. วนั ทำงำนไมเ่ กินสปั ดำหล์ ะ 6 วนั 2. กำหนดเวลำทำงำนปกติทุกประเภทไม่เกิน 8 ชว่ั โมงต่อวนั หรือไม่เกิน 48 ชว่ั โมงต่อสปั ดำห์ ถำ้ เป็นงำนอนั ตรำยต่อสุขภำพตำมกฎกระทรวงกำหนดใหไ้ ม่เกิน 7 ชว่ั โมงต่อวนั หรือไม่ เกิน 42 ชว่ั โมงต่อสปั ดำห์ 3. กำหนดเวลำพกั ระหว่ำงกำรทำงำนวนั หน่ึงไม่นอ้ ยกว่ำ 1 ชวั่ โมง หลงั จำกที่ ลูกจำ้ งทำงำนมำแลว้ ไม่เกิน 5 ชวั่ โมงติดต่อกนั อำจตกลงกนั พกั นอ้ ยกว่ำคร้ังละ 1 ชวั่ โมงก็ได้ แต่รวมกนั ตอ้ งไมน่ อ้ ยกว่ำ 1 ชว่ั โมงต่อวนั 4. กำหนดใหม้ ีวนั หยดุ ประจำสปั ดำห์ไมน่ อ้ ยกวำ่ สปั ดำห์ละ 1 วนั ห่ำงกนั ไมเ่ กิน 6 วนั และวนั หยุดตำมประเพณีไม่น้อยกว่ำ 13 วนั รวมวนั แรงงำนแห่งชำติด้วย สำหรับวนั หยุดพกั ผ่อน ประจำปี ไม่นอ้ ยกว่ำ 6 วนั ทำกำร เม่ือลกู จำ้ งทำงำนครบ 1 ปี 2. ค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าจ้าง หมำยถึง เงินที่นำยจำ้ ง และลูกจำ้ งตกลงกนั เพื่อจ่ำยเป็ นค่ำตอบแทนในกำรทำงำน ตำมสญั ญำจำ้ ง สำหรับระยะเวลำกำรทำงำนตำมปกติเป็ นรำยชว่ั โมง รำยวนั รำยสัปดำห์ รำยเดือน หรือ ระยะเวลำอน่ื หรือจ่ำยใหโ้ ดยคำนวณตำมผลงำนท่ีลูกจำ้ งทำไดใ้ นเวลำทำงำนตำมปกติของวนั ทำงำน และให้ หมำยรวมถึงเงินท่ีนำยจำ้ งจ่ำยใหแ้ ก่ลูกจำ้ งในวนั หยดุ และวนั ลำท่ีลูกจำ้ งมไิ ดท้ ำงำน ตวั อยำ่ ง นำงสำววนุ้ เสน้ เป็นลูกจำ้ งในโรงงำนผลิตกระเป๋ ำถือสตรี ตกลงกำหนดค่ำจำ้ งวนั ละ 350 บำท กำหนดเวลำทำงำนปกติเวลำ ต้งั แต่ 08.00 น. ถึง 17.00 น. เวลำพกั 12.00 น. ถึง 13.00 น. ทำงำนต้งั แต่วนั จันทร์ถึงวนั เสำร์ ซ่ึงเรียกว่ำ “ค่ำจำ้ งในเวลำทำงำนปกติ” ค่าล่วงเวลา (OT) หมำยถึงเงินท่ีนำยจำ้ งจ่ำยให้แก่ลูกจำ้ ง เป็ นกำรตอบแทนกำรทำงำน kruwirot wannachai satreesiriket school
3 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 พระราชบัญญตั คิ ้มุ ครองแรงงาน 2541 ล่วงเวลำจำกเวลำทำงำนปกติ ตวั อยำ่ งเช่นนำงสำววนุ้ เสน้ มำทำงำนนอกเหนือช่วงเวลำ 08.00 น. ถงึ 17.00 น. จะไดร้ ับเงินค่ำตอบแทน เรียกว่ำ “ค่ำลว่ งเวลำ” ลกั ษณะกำรจ่ำยค่ำจำ้ ง และค่ำล่วงเวลำ มีดงั น้ี 1. อตั รำค่ำจำ้ งข้นั ต่ำใหเ้ ป็นไปตำมประกำศของกระทรวงแรงงำน 2. ค่ำล่วงเวลำ ค่ำทำงำนในวนั หยดุ และค่ำล่วงเวลำในวนั หยดุ 2.1. ถำ้ ทำงำนเกินเวลำทำงำนปกติของวนั ทำงำน นำยจ้ำงต้องจ่ำยค่ำ ลว่ งเวลำ ไมน่ อ้ ยกวำ่ 1.5เท่ำของอตั รำค่ำจำ้ งต่อชว่ั โมงในวนั ทำงำน ตำมจำนวนชวั่ โมงท่ีทำ หรือไมน่ อ้ ยกว่ำ 1.5เท่ำของอตั รำค่ำจำ้ งต่อหน่วยในวนั ทำงำน ตำมจำนวนผลงำนที่ทำได้ 2.2. ถำ้ ทำงำนในวนั หยดุ ในเวลำทำงำนปกติ นำยจำ้ งตอ้ งจ่ำยค่ำทำงำนใน วนั หยุดให้แก่ลูกจำ้ งท่ีมีสิทธิไดร้ ับค่ำจำ้ งในวนั หยดุ เพิ่มข้ึนอีก 1 เท่ำของค่ำจำ้ งในวนั ทำงำนตำมชวั่ โมงท่ี ทำงำนในวนั หยดุ หรือตำมจำนวนผลงำนที่ทำได้แต่สำหรับลูกจำ้ งท่ีไม่มีสิทธิไดร้ ับค่ำจำ้ งในวนั หยดุ ตอ้ ง จ่ำยไม่นอ้ ยกว่ำ 2 เท่ำของค่ำจำ้ งในวนั ทำงำนตำมชว่ั โมงท่ีทำงำนในวนั หยดุ หรือตำมจำนวนผลงำนที่ทำได้ สำหรับลูกจำ้ งที่ไดร้ ับค่ำจำ้ งตำมผลงำนโดยคำนวณเป็นหน่วย 2.3. ถำ้ ทำงำนในวนั หยดุ เกินเวลำทำงำนปกติของวนั ทำงำน นำยจำ้ งตอ้ ง จ่ำยค่ำล่วงเวลำในวนั หยดุ ใหแ้ ก่ลกู จำ้ งในอตั รำ 3 เท่ำของอตั รำค่ำจำ้ งต่อชวั่ โมงในวนั ทำงำนปกติ ตำมชวั่ โมง ที่ทำ หรือตำมจำนวนผลงำนท่ีทำไดส้ ำหรับลูกจำ้ งท่ีไดร้ ับค่ำจำ้ งตำมผลงำน โดยคำนวณเป็นหน่วย 3. ลกู จำ้ งท้งั ชำย หญิง มีสิทธิไดร้ ับค่ำจำ้ ง ค่ำล่วงเวลำ ค่ำทำงำนในวนั หยดุ และค่ำ ลว่ งเวลำในวนั หยดุ เท่ำเทียมกนั ในงำนที่มลี กั ษณะ และคุณภำพอยำ่ งเดียวกนั และปริมำณเท่ำกนั 3. การลาป่ วย และการลาคลอด วันลา หมำยถึง วนั ที่ลูกจำ้ งลำป่ วย ลำเพ่ือทำหมนั ลำเพื่อกิจธุระจำเป็ น ลำเพ่ือรับรำชกำร ทหำร ลำเพอื่ ฝึกอบรม หรือเพื่อพฒั นำควำมรู้ ควำมสำมำรถ หรือลำเพ่ือคลอดบุตร หำกลูกจำ้ งมีกำรลำจะตอ้ งแจง้ ให้นำยจำ้ งทรำบว่ำไม่สำมรถมำทำงำนตำมปกติได้ โดยใน กำรแจง้ น้นั อำจแจง้ ดว้ ยวำจำ ลำยลกั ษณ์อกั ษร หรือตำมแต่จะตกลงกนั ไว้ขอเพียงใหม้ ีกำรแจง้ เท่ำน้ัน หำก หยดุ ไปโดยไมม่ กี ำรแจง้ จะถือวำ่ “ขำดงำน” กำรลำมลี กั ษณะ ดงั น้ี 1. ลำป่ วยไดเ้ ท่ำท่ีป่ วยจริง แต่ไดร้ ับค่ำจำ้ งไม่เกิน 30 วนั ทำงำน 2. ลำคลอดไดไ้ ม่เกิน 90 วนั โดยไดร้ ับค่ำจำ้ ง 45 วนั 3. ลำเพือ่ รับรำชกำรทหำรไดไ้ มเ่ กินปี ละ 60 วนั โดยไดร้ ับค่ำจำ้ ง 4. ลำเพือ่ ทำหมนั ไดร้ ับค่ำจำ้ งตลอดเวลำที่แพทยว์ ินิจฉยั ใหห้ ยดุ 5. ลำกิจธุระจำเป็น แลว้ แต่นำยจำ้ ง ลูกจำ้ งตกลงกนั 6. ลำเพอ่ื เขำ้ รับกำรอบรม kruwirot wannachai satreesiriket school
4 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 พระราชบัญญตั คิ ้มุ ครองแรงงาน 2541 4. วนั หยดุ วันหยุด หมำยถึงวนั ท่ีให้ลูกจำ้ งหยุดประจำสปั ดำห์ หยุดตำมประเพณี หรือหยุดพกั ผอ่ น ประจำปี ดงั น้ี 1. วนั หยดุ ประจำสปั ดำห์ อยำ่ งนอ้ ยสปั ดำหล์ ะ 1 วนั สำหรับลูกจำ้ งรำยวนั ไมไ่ ดร้ ับ ค่ำจำ้ ง 2. วนั หยดุ ตำมประเพณี อยำ่ งนอ้ ยปี ละ 13 วนั (รวมวนั แรงงำนแห่งชำติ) โดยไดร้ ับ ค่ำจำ้ ง 3. วนั หยดุ พกั ผอ่ นประจำปี ปี ละ 6 วนั ทำงำน โดยไดร้ ับค่ำจำ้ ง ซ่ึงนำยจำ้ งเป็ นผู้ กำหนดวนั หยดุ ดงั กล่ำว 5. ค่าชดเชย ค่าชดเชย หมำยถงึ เงินท่ีนำยจำ้ งจ่ำยใหแ้ ก่ลูกจำ้ งเม่ือเลิกจำ้ ง นอกเหนือจำกเงินประเภทอ่ืน ซ่ึงนำยจำ้ งตกลงจ่ำยใหแ้ ก่ลูกจำ้ ง 1. ลูกจำ้ งมีสิทธิไดร้ ับค่ำชดเชย หำกนำยจำ้ งเลิกจำ้ งโดยลูกจำ้ งไม่มีควำมผดิ ดงั น้ี 1.1. ลูกจำ้ งซ่ึงทำงำนติดต่อกนั ครบ 120 วนั แต่ไม่ครบ 1 ปี มีสิทธิไดร้ ับ เท่ำกบั ค่ำจำ้ งอตั รำสุดทำ้ ย 30 วนั 1.2. ลูกจำ้ งซ่ึงทำงำนติดต่อกนั ครบ 1 ปี แต่ไมค่ รบ 3 ปี มสี ิทธิไดร้ ับเท่ำกบั ค่ำจำ้ งอตั รำสุดทำ้ ย 90 วนั 1.3. ลกู จำ้ งซ่ึงทำงำนติดต่อกนั ครบ 3 ปี แต่ไม่ครบ 6 ปี มสี ิทธิไดร้ ับเท่ำกบั ค่ำจำ้ งอตั รำสุดทำ้ ย 180 วนั 1.4. ลูกจ้ำงซ่ึงทำงำนติดต่อกันครบ 6 ปี แต่ไม่ครบ 10 ปี มีสิทธิไดร้ ับ เท่ำกบั ค่ำจำ้ งอตั รำสุดทำ้ ย 240 วนั 1.5. ลูกจำ้ งทำงำนติดต่อกนั ครบ 10 ปี ข้ึนไป มีสิทธิได้รับเท่ำกบั ค่ำจำ้ ง อตั รำสุดทำ้ ย 300 วนั 2. ถำ้ ยำ้ ยสถำนประกอบกำร นำยจำ้ งตอ้ งแจง้ ใหแ้ ก่ลกู จำ้ งทรำบลว่ งหนำ้ ไมเ่ กิน30 วนั หำกลูกจำ้ งไม่ตอ้ งกำรไปทำงำนดว้ ย ลูกจำ้ งมีสิทธิบอกเลิกสัญญำ โดยไดร้ ับค่ำชดเชยพเิ ศษไมน่ อ้ ยกว่ำ ร้อยละ 50 ของอตั รำชดเชยท่ีลกู จำ้ งมสี ิทธิไดร้ ับ 3. ค่ำชดเชยพิเศษ ในกรณีท่ีนำยจำ้ งจะเลิกจำ้ งลกู จำ้ ง เพรำะเหตุปรับปรุงหน่วยงำน กระบวนกำรผลิต กำรจำหน่ำย หรือกำรบริกำร อนั เน่ืองมำจำกกำรนำเคร่ืองจกั รมำใช้ หรือเปลี่ยนแปลง เคร่ืองจกั ร หรือเทคโนโลยี หำกนำยจำ้ งไมแ่ จง้ ลว่ งหนำ้ หรือแจง้ ลว่ งหนำ้ นอ้ ยกวำ่ ระยะเวลำ 60 วนั นำยจำ้ ง จะตอ้ งจ่ำยค่ำชดเชยพิเศษ ดงั น้ี 3.1. ลูกจำ้ งจะไดร้ ับค่ำบอกกล่ำวล่วงหนำ้ 60 วนั kruwirot wannachai satreesiriket school
5 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 พระราชบัญญัตคิ ุ้มครองแรงงาน 2541 3.2. ลูกจำ้ งจะไดร้ ับค่ำชดเชยตำมกฎหมำย 3.3. ลูกจำ้ งท่ีมีอำยุงำน 6 ปี ข้ึนไป มีสิทธิไดร้ ับค่ำชดเชยพิเศษปี ละ 15 วนั เมอื่ รวมค่ำชดเชยท้งั หมดแลว้ ตอ้ งไม่เกิน 360 วนั นำยจำ้ งไม่ตอ้ งจ่ำยค่ำชดเชยใหล้ ูกจำ้ ง ซ่ึงเลิกจำ้ ง ในกรณีใดกรณีหน่ึง ดงั ต่อไปน้ี 1. ทุจริตต่อหนำ้ ท่ี หรือกระทำควำมผดิ อำญำ โดยเจตนำแก่นำยจำ้ ง 2. จงใจทำใหน้ ำยจำ้ งไดร้ ับควำมเสียหำย 3. ประมำทเลินเล่อเป็ นเหตุใหน้ ำยจ้ำงไดร้ ับควำมเสียหำยอย่ำงร้ำยแรง 4. ฝ่ ำฝืนขอ้ บงั คบั เกี่ยวกบั กำรทำงำน หรือระเบียบ หรือคำสงั่ ของนำยจำ้ ง อนั ชอบดว้ ยกฎหมำยและเป็ นธรรม และนำยจำ้ งไดต้ กั เตือนเป็ นหนงั สือแลว้ หนงั สือเตือนใหม้ ีผลบงั คบั ใชไ้ ดไ้ มเ่ กิน 1 ปี นบั แต่วนั ท่ีลกู จำ้ งไดท้ ำผดิ แต่กรณีที่ร้ำยแรงนำยจำ้ งไมจ่ ำเป็นตอ้ งตกั เตือน 5. ละท้ิงหน้ำท่ีเป็ นเวลำ 3 วนั ทำงำนติดต่อกนั ไม่ว่ำจะมีวนั หยุดคน่ั หรือไมก่ ต็ ำม โดยไมม่ สี ำเหตุอนั สมควร 6. ไดร้ ับโทษจำคุกตำมคำพิพำกษำถึงท่ีสุด เวน้ แต่เป็ นนักโทษสำหรับ ควำมผดิ ท่ีไดก้ ระทำโดยประมำท หรือควำมผดิ ลหุโทษ 6. การว่าจ้างแรงงานเดก็ หำ้ มนำยจำ้ ง จำ้ งเด็กอำยตุ ่ำกวำ่ 15 ปี เป็นลกู จำ้ งโดยเด็ดขำด และกำหนดใหม้ ีกำรจำ้ งเด็กที่ มอี ำยตุ ่ำกวำ่ 18 ปี เป็นลูกจำ้ ง โดยใหน้ ำยจำ้ งปฏิบตั ิ ดงั น้ี 1. แจง้ กำรจำ้ งลูกจำ้ งเด็กต่อพนกั งำนตรวจแรงงำน ภำยใน 15 วนั นบั แต่วนั ที่เขำ้ ทำงำน 2. ทำบนั ทึกสภำพกำรจำ้ ง กรณีท่ีมีกำรเปล่ียนแปลงไปจำกเดิมเก็บไว้ ณ สถำน ประกอบกิจกำร หรือสำนักงำนของนำยจำ้ ง พร้อมที่จะใหพ้ นักงำนตรวจแรงงำนตรวจไดใ้ นเวลำทำกำร 3. แจง้ กำรสิ้นสุดกำรจำ้ งลูกจำ้ งเด็กน้นั ต่อพนกั งำนตรวจแรงงำน ภำยใน 7วนั นบั แต่วนั ท่ีเดก็ ออกจำกงำน 4. ให้นำยจำ้ งจดั ให้ลูกจ้ำงเด็กมีเวลำพกั วนั หน่ึง ไม่นอ้ ยกว่ำ 1 ชวั่ โมงติดต่อกัน หลงั จำกท่ีลูกจำ้ งทำงำนมำแลว้ ไมเ่ กิน 4 ชวั่ โมง แต่ใน 4 ชวั่ โมงน้นั ใหล้ ูกจำ้ งเด็กไดม้ เี วลำพกั ตำมท่ีนำยจำ้ ง กำหนด 5. ห้ำมมิให้นำยจำ้ ง ให้ลูกจำ้ งเด็กอำยุต่ำกว่ำ 18 ปี ทำงำนในระหว่ำง 22.00 น.- 06.00 น. เวน้ แต่จะไดร้ ับอนุญำตเป็นหนงั สือจำกอธิบดี หรือผซู้ ่ึงอธิบดีมอบหมำย 6. นำยจำ้ งอำจใหล้ กู จำ้ งเด็กอำยตุ ่ำกวำ่ 18 ปี เป็นผแู้ สดงภำพยนตร์ ละคร หรือกำร แสดงอยำ่ งอ่นื ที่คลำ้ ยคลงึ กนั ทำงำนในระหว่ำงเวลำดงั กลำ่ วได้ ท้งั น้ี ใหน้ ำยจำ้ งจดั ใหล้ กู จำ้ งเดก็ ไดพ้ กั ผ่อน kruwirot wannachai satreesiriket school
6 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 พระราชบัญญตั คิ ุ้มครองแรงงาน 2541 ตำมสมควร 7. หำ้ มใหล้ กู จำ้ งเด็กอำยตุ ่ำกว่ำ 18 ปี ทำงำนลว่ งเวลำ หรือทำงำนในวนั หยดุ หำ้ มใหล้ กู จำ้ งเดก็ อำยตุ ่ำกว่ำ 18 ปี ทำงำนอยำ่ งใดอยำ่ งหน่ึง ดงั ต่อไปน้ี 1. งำนหลอม เป่ ำ หล่อ หรือรีดโลหะ 2. งำนป๊ัมโลหะ 3. งำนเกี่ยวกบั ควำมร้อน ควำมเยน็ ควำมสนั่ สะเทือน เสียง และแสงที่มรี ะดบั แตกต่ำงจำก ปกติ อนั อำจเป็นอนั ตรำยตำมที่กำหนดในกฎกระทรวง 4. งำนเกี่ยวกบั สำรเคมที ี่เป็นอนั ตรำยตำมที่กำหนดในกฎกระทรวง 5. งำนเก่ียวกบั จุลชีวนั เป็นพิษซ่ึงอำจเป็นเช้ือไวรัส แบคทีเรีย รำ หรือเช้ืออนื่ ตำมที่กำหนด ในกฎกระทรวง 6. งำนเก่ียวกบั วตั ถุมีพิษ วตั ถุระเบิด หรือวตั ถุไวไฟ เวน้ แต่งำนในสถำนีบริกำรน้ำมนั เช้ือเพลงิ ตำมท่ีกำหนดในกฎกระทรวง 7. งำนขบั หรือบงั คบั รถยก ป้ันจน่ั ตำมท่ีกำหนดในกฎกระทรวง 8. งำนใชเ้ ลอื่ ยเดินกำลงั ดว้ ยไฟฟ้ำ หรือเครื่องยนต์ 9. งำนที่ตอ้ งทำใตด้ ิน ใตน้ ้ำ ในถ้ำ อโุ มงค์ หรือปลอ่ งในภูเขำ 10.งำนเก่ียวกบั กมั มนั ตภำพรังสี ตำมที่กำหนดในกฎกระทรวง 11.งำนทำควำมสะอำดเครื่องจกั ร หรือเคร่ืองยนต์ ขณะท่ีเคร่ืองจกั รหรือเครื่องยนตก์ ำลงั ทำงำน 12.งำนท่ีตอ้ งทำบนนง่ั ร้ำน ท่ีสูงกว่ำพ้นื ดินต้งั แต่ 10 เมตรข้ึนไป 13.งำนอนื่ ที่กำหนดในกฎกระทรวง หำ้ มใหล้ ูกจำ้ งเดก็ อำยตุ ่ำกว่ำ 18 ปี ทำงำนในสถำนท่ี ดงั ต่อไปน้ี 1. โรงฆำ่ สตั ว์ 2. สถำนที่เลน่ กำรพนนั 3. สถำนเตน้ รำ รำวง หรือรองเงง็ 4. สถำนที่ท่ีมีอำหำร สุรำ น้ำชำ หรือเครื่องด่ืมอย่ำงอ่ืนจำหน่ำยและบริกำรโดยมีผูบ้ ำเรอ สำหรับปรนนิบตั ิลูกคำ้ หรือโดยมีที่สำหรับพกั ผ่อนหลบั นอน หรือมีบริกำรนวดให้แก่ลูกคำ้ สถำนที่อ่ืน ตำมที่กฎกระทรวงกำหนดในกฎกระทรวง หำ้ มมใิ หน้ ำยจำ้ งจ่ำยค่ำจำ้ งของลูกจำ้ งเด็กใหแ้ ก่บุคคลอน่ื นอกจำกน้ียงั หำ้ มไม่ใหน้ ำยจำ้ งเรียก หรือ รับเงินประกนั เพื่อประกำรใดๆจำกฝ่ ำยลกู จำ้ งซ่ึงเป็นเดก็ เพ่ือประโยชน์ในกำรพฒั นำ และส่งเสริมคุณภำพชีวิต และกำรทำงำนของเดก็ ให้ลูกจำ้ งซ่ึงเป็นเดก็ อำยุต่ำกว่ำ 18 ปี มีสิทธิลำเพื่อเขำ้ ประชุม สัมมนำ รับกำรอบรม รับกำรฝี กหรือลำเพ่ือกำรอื่นซ่ึงจดั โดย kruwirot wannachai satreesiriket school
7 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน 2541 สถำนศึกษำ หรือหน่วยงำนของรัฐ หรือเอกชนที่อธิบดีเห็นชอบ โดยใหล้ ูกจำ้ งซ่ึงเป็ นเด็กแจง้ ให้นำยจ้ำง ทรำบล่วงหนำ้ ถึงเหตุท่ีลำโดยชดั แจง้ พร้อมแสดงหลกั ฐำนเกี่ยวขอ้ ง(ถำ้ มี) และใหน้ ำยจำ้ งจ่ำยค่ำจำ้ งใหแ้ ก่ ลกู จำ้ งเดก็ โดยลูกจำ้ งเดก็ มสี ิทธิลำเพื่อเขำ้ ประชุม สมั มนำซ่ึงจดั โดยสถำนศกึ ษำ หรือหน่วยงำนของรัฐ หรือ เอกชนท่ีอธิบดีเห็นชอบ โดยไดร้ ับค่ำจำ้ งปี หน่ึงไมเ่ กิน 30 วนั 7. การว่าจ้างแรงงานหญงิ ตำมกฎหมำยหำ้ มมิใหน้ ำยจำ้ งใหล้ กู จำ้ งหญิงทำงำนอยำ่ งใดอยำ่ งหน่ึง ดงั ต่อไปน้ี 1. งำนเหมืองแร่ หรืองำนก่อสร้ำงที่ต้องทำใตด้ ิน ใตน้ ้ำ ในถ้ำ ในอุโมงค์ หรือ ปล่องในภูเขำ เวน้ แต่ลกั ษณะของงำนไม่เป็นอนั ตรำยต่อสุขภำพ หรือร่ำงกำยของลูกจำ้ งน้นั 2. งำนท่ีตอ้ งทำบนนงั่ ร้ำนที่สูงกวำ่ พ้ืนดินต้งั แต่ 10 เมตรข้ึนไป 3. งำนผลิต หรือขนส่งวตั ถุระเบิด หรือวตั ถุไวไฟ ยกเวน้ งำนวชิ ำชีพ หรือวิชำกำร เก่ียวกบั กำรสำรวจ กำรขุดเจำะ กำรกลน่ั แยก และผลติ ผลิตภณั ฑจ์ ำกปิ โตเลียม หรือปิ โตรเคมี ถำ้ งำนน้นั ไม่ เป็นอนั ตรำย 4. งำนอืน่ ตำมที่กฎกระทรวงกำหนด หำ้ มมิใหน้ ำยจำ้ งใหล้ กู จำ้ งหญิงมีครรภท์ ำงำนในระหว่ำงเวลำ 22.00 น. – 06.00 น. ทำงำน ลว่ งเวลำ ทำงำนในวนั หยดุ หรือทำงำนอยำ่ งหน่ึงอยำ่ งใดต่อไปน้ี 1. งำนเก่ียวกบั เคร่ืองจกั ร หรือเครื่องยนตท์ ี่มคี วำมสน่ั สะเทือน 2. งำนขบั เคลื่อน หรือติดไปยำนพำหนะ 3. งำนยก แบก หำม หำบ ทูน ลำก เขน็ หรือเคลื่อนยำ้ ยสิ่งของน้ำหนกั 15 กิโลกรัม ข้ึนไป 4. งำนที่ทำในเรือ ทำงำนในยำนพำหนะขนส่ง หรือเรือ 5. งำนอนื่ ตำมที่กำหนดในกฎกระทรวง ในกำรปฏิบตั ิงำนของลกู จำ้ งหญิง 1. ในกรณีที่นำยจ้ำงให้ลูกจ้ำงหญิงทำงำนระหว่ำง 24.00 น. – 06.00 น.และ พนักงำนตรวจแรงงำนเห็นว่ำงำนน้ันอำจเป็ นอนั ตรำยต่อสุขภำพ และควำมปลอดภยั ของหญิงน้นั เพื่อ พิจำรณำและมีคำสงั่ ใหน้ ำยจำ้ งเปลย่ี นเวลำทำงำน หรือลดชว่ั โมงทำงำนไดต้ ำมที่เห็นสมควร และใหน้ ำยจำ้ ง ปฏบิ ตั ิตำมคำสง่ั ดงั กล่ำว 2. ใหล้ ูกจำ้ งซ่ึงเป็ นหญิงมีครรภม์ ีสิทธิลำเพื่อคลอดบุตรครรภห์ น่ึงไม่เกิน 90 วนั และวนั ลำใหน้ บั รวมวนั หยดุ ที่มีในระหว่ำงวนั ลำดว้ ย 3. ในกรณีที่ลกู จำ้ งซ่ึงเป็นหญิง มใี บรับรองแพทยแ์ ผนปัจจุบนั ช้นั หน่ึงมำแสดงว่ำ ไม่อำจทำงำนในหนำ้ ท่ีเดิมต่อไปไดใ้ ห้ลูกจำ้ งน้นั มีสิทธิขอให้นำยจำ้ งเปลี่ยนงำนในหน้ำท่ีเดิมเป็ นกำร ชวั่ ครำวก่อน หรือหลงั คลอดได้ และใหน้ ำยจำ้ งพจิ ำรณำเปลยี่ นงำนท่ีเหมำะสมใหแ้ ก่ลกู จำ้ งน้นั kruwirot wannachai satreesiriket school
8 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 พระราชบัญญตั ิคุ้มครองแรงงาน 2541 4. หำ้ มเลิกจำ้ งลูกจำ้ งซ่ึงเป็นหญิงเพรำะเหตุมีครรภ์ 5. นอกจำกน้ียงั ไดค้ ุม้ ครองแรงงำนหญิงมิใหท้ ำงำนล่วงเวลำ ทำงำนในวนั หยุด ยกเวน้ งำนในตำแหน่งผบู้ ริหำร งำนวิชำกำร งำนธุรกำร งำนกำรเงินหรือบญั ชี ให้ทำงำนล่วงเวลำในวนั ทำงำนไดถ้ ำ้ หญิงน้นั ยนิ ยอม และหำ้ มนำยจำ้ ง หวั หนำ้ งำน ผตู้ รวจงำนกระทำกำรล่วงเกินทำงเพศต่อลูกจำ้ ง หญิงและเดก็ หรือหำ้ มเลอื กปฏิบตั ิต่อลูกจำ้ งหญิง 8. ความปลอดภยั ในการทางาน รัฐบำลไดก้ ำหนดให้นำยจำ้ งตอ้ งดูแลในเรื่องของควำมสะดวกของสถำนที่ ให้มีควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อย สะอำด ปลอดภยั จดั สภำพแวดลอ้ มในกำรทำงำนใหด้ ี ไม่มีกล่ิน ควนั แสง เสียง ที่เป็ น อนั ตรำย ดูแลเก็บรักษำสำรและวตั ถุมีพิษ เครื่องจกั ร เครื่องมือต่ำงๆใหอ้ ย่ใู นสภำพท่ีปลอดภยั หำกลุกจำ้ ง ประสบอบุ ตั ิเหตุตอ้ งรับดูแล รักษำพยำบำลทนั ที 1. ใหน้ ำยจำ้ ง หรือสถำนประกอบกำรที่มีลูกจำ้ งนอ้ ยกวำ่ 50 คน ตอ้ งจดั ใหม้ เี จำ้ หนำ้ ที่รักษำ ควำมปลอดภยั ในกำรทำงำนระดบั พ้ืนฐำน ระดบั หวั หนำ้ งำน และระดบั บริหำร เพ่ือดูแลควำมปลอดภยั ใน กำรทำงำนของสถำนประกอบกำรร่วมกบั นำยจำ้ ง 2. กำรกำหนดใหน้ ำยจำ้ ง หรือสถำนประกอบกำรที่มีลูกจำ้ งต้งั แต่ 50 คนข้ึนไป ตอ้ งจดั ใหม้ ี เจำ้ หนำ้ ที่รักษำควำมปลอดภยั ในกำรทำงำนระดบั หวั หนำ้ งำน ระดบั บริหำร และระดบั วชิ ำชีพ 3. กำหนดใหส้ ถำนประกอบกำรที่มีลูกจำ้ งต้งั แต่ 50 คนข้ึนไป ตอ้ งจดั ใหม้ ีคณะกรรมกำร ควำมปลอดภยั อำชีวอนำมยั และสภำพแวดลอ้ มในกำรทำงำนประกอบดว้ ย นำยจำ้ ง ผแู้ ทนระดบั บงั คับ บญั ชำ ผแู้ ทนลูกจำ้ งระดบั ปฏิบตั ิกำร และเจำ้ หนำ้ ท่ีรักษำควำมปลอดภยั ในกำรทำงำน โดยมีคณะกรรมกำร ตำมขนำดของสถำนประกอบกำร 4. กำรใหค้ วำมคุม้ ครองอนั ตรำยส่วนบุคคลที่เหมำะสมกบั สภำพงำน และไดม้ ำตรฐำนโดย ใหน้ ำยจำ้ งเป็นผจู้ ดั ให้ อำทิ ตำมท่ีกำหนดในกฎกระทรวง ใหน้ ำยจำ้ งตอ้ งจดั อปุ กรณ์คุม้ ครองควำมปลอดภยั ส่วนบุคคลใหล้ ูกจำ้ งตำมลกั ษณะของงำน และลูกจำ้ งตอ้ งสวมใส่อปุ กรณ์ดงั กล่ำวตลอดเวลำในกำรทำงำน โดยบงั คบั kruwirot wannachai satreesiriket school
9 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 พระราชบัญญัติค้มุ ครองแรงงาน 2541 kruwirot wannachai satreesiriket school
10 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 พระราชบัญญัตคิ ้มุ ครองแรงงาน 2541 คาชี้แจง ใหต้ อบคำถำมต่อไปน้ี ดว้ ยลำยมอื ที่อ่ำนไดง้ ่ำย (4 คะแนน) 1. กฎหมำยท่ีเก่ียวกบั แรงงำนท่ีใชอ้ ยใู่ นปัจจุบนั มกี ฎหมำยอะไรบำ้ ง (1 คะแนน) 2. ตำมพระรำชบญั ญตั ิคุม้ ครองแรงงำน พ.ศ.2541 ค่ำจำ้ ง หมำยถงึ อะไร (1 คะแนน) 3. ตำมพระรำชบญั ญตั ิคุม้ ครองแรงงำน พ.ศ.2541 ค่ำลว่ งเวลำ หมำยถงึ อะไร (1 คะแนน) 4. ตำมกฎหมำยหำ้ มมิใหน้ ำยจำ้ งใหล้ ูกจำ้ งหญิงทำงำนใดบำ้ ง (1 คะแนน) kruwirot wannachai satreesiriket school
11 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 พระราชบัญญัติค้มุ ครองแรงงาน 2541 คาชี้แจง ใหอ้ ำ่ นเรื่องรำวขำ้ งลำ่ งน้ีแลว้ ตอบคำถำม ดว้ ยลำยมือท่ีอ่ำนไดง้ ่ำย (4 คะแนน) เร่ือง ช่างเฟอร์นิเจอร์ นำยอเนก อ่วมอนันต์ เป็ นลูกจำ้ งที่มีฝี มือดี ทำงำนในโรงงำนเฟอร์นิเจอร์แห่งหน่ึง ซ่ึงมีนำยจำ้ งรูปหล่อชื่อนำย วิโรจน์ เท่หเ์ ถดิ เทิง เป็นนำยจำ้ ง โดยปกติแลว้ นำยอเนก อ่วมอนนั ต์ จะเป็นคนขยนั และซื่อสตั ย์ จึงไดร้ ับควำมไวว้ ำงใจ จำกเจำ้ นำยคนหล่อนำยวโิ รจน์ เท่ห์เถดิ เทิง นอกจำกจะเป็นช่ำงเฟอร์นิเจอร์แลว้ ยงั ใหท้ ำหนำ้ ท่ีในกำรขำยเฟอร์นิเจอร์ดว้ ย แต่ในระยะหลงั นำยอเนก มีปัญหำในครอบครัวเน่ืองจำกบุตรชำยไดร้ ับอุบตั ิเหตุจำกกำรขบั ขี่รถจกั รยำนยนตท์ ำใหน้ ำยเอนก เครียดจดั จึงดื่มสุรำ ทำใหใ้ ชจ้ ่ำยฟ่ มุ เฟื อย เงินเดือนไม่พอใช้ จึงแอบลกั ลอบนำเฟอร์นิเจอร์ไปจำหน่ำย นำยจำ้ งรูปหลอ่ นำย วโิ รจน์ เท่ห์เถดิ เทิง ทรำบเร่ืองเขำ้ จึงวำ่ กล่ำวตกั เตือน และหำ้ มกระทำอกี แต่นำยอเนก อ่วมอนนั ต์ ไม่เชื่อฟังไดล้ กั ลอบนำ เฟอร์นิเจอร์ไปจำหน่ำยอีกคร้ัง นำยจำ้ งรูปหล่อนำยวิโรจน์ เท่ห์เถิดเทิง ทรำบเร่ืองอีก จึงไดป้ รึกษำหำรือกบั นกั กฎหมำย ทรำบวำ่ นำยอเนกไดก้ ระทำควำมผดิ ร้ำยแรง และกระทำกำรไมส่ มควรแก่กำรปฏิบตั ิหนำ้ ที่ของตน นำยจำ้ งสำมำรถไลอ่ อก จำกงำนไดโ้ ดยไมต่ อ้ งแจง้ ใหท้ รำบล่วงหนำ้ และไม่ตอ้ งจ่ำยค่ำสินไหมทดแทน คาถาม 1. ถ้านักเรียนเป็ นนายจ้างรูปหล่อนายวโิ รจน์ เท่ห์เถดิ เทงิ นักเรียนควรจะทาอย่างไร (1 คะแนน) 2. ถ้านกั เรียนเป็ นนายอเนก อ่วมอนนั ต์ นักเรียนจะทาอย่างไร (1 คะแนน) 3. เร่ืองเล่าเร่ืองนใี้ ห้คตธิ รรมใดแก่นกั เรียน อธิบาย (2 คะแนน) kruwirot wannachai satreesiriket school
12 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน 2541 kruwirot wannachai satreesiriket school
13 การงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1 ง21109 พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน 2541 kruwirot wannachai satreesiriket school
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: