รายงานโครงการปฏิบัติศาสนกิจ-สมบูรณ์

รายงานโครงการปฏิบตั ศิ าสนกิจ ครงั้ ที่ ๒ โดย พระอนพุ งศ์ ฉายา อิสสฺ รญาโณ สาขาวชิ า สงั คมศกึ ษา คณะครศุ าสตร์ รหสั ๕๘๒๒๒๐๒๐๑๑ พระนิสิตปฏิบัติศาสนกิจ มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั วทิ ยาลยั สงฆล์ าพนู รายงานโครงการนเี้ ปน็ ส่วนหน่ึงในการปฏิบัติศาสนกิจของนสิ ิตปฏบิ ัติศาสนกจิ ร่นุ ท่ี ๖๕/๒๕๖๒ มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย

รายงานโครงการปฏิบัตศิ าสนกิจ ครั้งท่ี ๒ โดย พระอนพุ งศ์ ฉายา อิสสฺ รญาโณ สาขาวชิ า สังคมศึกษา คณะครศุ าสตร์ รหสั ๕๘๒๒๒๐๒๐๑๑ พระนสิ ิตปฏิบตั ิศาสนกจิ มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั วิทยาลยั สงฆล์ าพูน รายงานโครงการน้เี ปน็ ส่วนหน่ึงในการปฏิบัติศาสนกิจของนสิ ิตปฏบิ ัติศาสนกิจ รนุ่ ท่ี ๖๕/๒๕๖๒ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สารบญั เรอื่ ง หนา้ สารบญั ก บทสรปุ สาหรบั ผบู้ รหิ าร ค บทที่ ๑ บทนา ๑ ๑.๑ หลักการและเหตุผล ๑ ๑.๒ วัตถปุ ระสงค์ ๑ ๑.๓ ความสอดคลอ้ งกบั งานในกิจการคณะสงฆ์ ๒ แผนพฒั นานิสติ และนวลักษณ์ ๙ ประการ บทท่ี ๒ วิธดี าเนนิ งาน ๓ ๒.๑ ขอบเขตการดาเนินงานและเปา้ หมายหรือผมู้ ีส่วนเกี่ยวขอ้ ง (Stakeholder) ๓ ๒.๒ ระยะเวลาของกจิ กรรม ๓ ๒.๓ สถานทดี่ าเนินงาน ๓ ๒.๔ แหล่งทุน/ความชว่ ยเหลอื อนื่ ๆ ในการดาเนนิ โครงการ ๓ ๒.๕ ขั้นตอนการดาเนนิ งาน ๔ ๒.๖ ข้ันตอนการประเมนิ ผลงาน ๕ บทท่ี ๓ ผลการดาเนนิ งานโครงการ ๖ ๓.๑ ข้อมลู พ้นื ฐานท่ัวไปของสถานท่ปี ฏิบัตศิ าสนกจิ (วัด ชุมชน และโรงเรียน) ๖ ๓.๒ ผลประเมนิ ตัวช้ีวัดความสาเรจ็ ๗ ๑) เชงิ ปรมิ าณ ๒.เชิงคุณภาพ ๓) วัตถุประสงค์โครงการ ๓.๓ เรื่องราวและแนวปฏบิ ัติท่ีดจี ากการดาเนนิ โครงการหรอื กิจกรรมการปฏบิ ัตศิ าสนกิจ ๑๐ ๓.๔ รปู ภาพกิจกรรม (Activity Gallary) ๑๑ บทท่ี ๔ การบรู ณาการและการเกดิ ประโยชนแ์ ละสรา้ งคณุ คา่ ตอ่ คณะสงฆแ์ ละชมุ ชนหรอื สงั คม ๑๖ ๔.๑ ประโยชน์และสร้างคณุ คา่ ต่อมหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั ๑๖ ๔.๒ ผลกระทบทเี่ กดิ ประโยชนแ์ ละสรา้ งคุณค่าต่อคณะสงฆ์และชุมชนหรอื สงั คม ๑๖ ๔.๓ การนาไปใชก้ ับการเรียนการสอน ๑๖ ๔.๔ การนาไปใชก้ ับการปฏบิ ตั ศิ าสนกจิ ๑๗ ๔.๕ การนาผลไปปรบั ปรุงการดาเนนิ งาน ๑๗ บทที่ ๕ บทสรปุ และขอ้ เสนอแนะ ๑๘ ๕.๑ รายละเอยี ดงานปฏบิ ตั ศิ าสนกจิ โดยยอ่ (Summary) ๑๘

๕.๒ อปุ สรรค ปญั หา และวธิ ีแกไ้ ขการปฏิบัติศาสนกจิ ๑๘ ๕.๓ การเรยี นรู้ ความทา้ ทาย และนวตั กรรมจากการปฏบิ ตั ศิ าสนกิจ ๑๙ ๕.๔ กา้ วตอ่ ไปหรือความตอ่ เน่อื งของการดาเนนิ โครงการปฏิบตั ิศาสนกจิ ๑๙ ภาคผนวก ๒๐ รายชือ่ ผูเ้ ขา้ รว่ มโครงการ ๒๑ เอกสารทเ่ี กย่ี วข้อง ๓๖ ประวตั ิผรู้ ับผิดชอบโครงการ ๔๐

บทสรุปสาหรบั ผบู้ รหิ าร โครงการวนั พระในโรงเรียน โรงเรยี นธรรมสาธิตศึกษา การดาเนินโครงการนี้มีวัตถุประสงค์ เพ่ือ ๑. ส่งเสริมประเพณี วัฒนธรรมล้านนาแก่ผู้เรียนและ บคุ คลากรในโรงเรียน ๒. สืบสานประเพณี วัฒนธรรมลา้ นนาแกผ่ ้เู รียนและบุคคลากรในโรงเรียน ๓. ส่งเสริม เรื่องคุณธรรม จริยธรรม แก่ผู้เรียนและบุคคลากรในโรงเรยี น ๔. ปลูกฝังค่านิยมการให้ทาน การเข้าวัดตาม กาลแก่ผู้เรียนและบุคคลากรในโรงเรียน ๕. สร้างเจตคติท่ีดีต่อพระพุทธศาสนาแก่ผู้เรียนและบุคลากรต่าง ศาสนาในโรงเรยี น โดยมีผูร้ ับผิดชอบโครงการปฏิบัติศาสนกิจ คือ พระวรเมธ กนฺตสีโล นิสิตปฏิบตั ศิ าสนกจิ รุ่นที่ ๖๕ สาขาวิชา สังคมศึกษา คณะ ครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขต เชียงใหม่ วิทยาลัยสงฆ์ จังหวัดลาพูน สถานที่ดาเนินโครงการการปฏิบัติศาสนกิจมี นายธีรเมธ สุยะปวง ผู้อานวยการ โรงเรียนธรรมสาธิตศึกษา โดยเร่ิมดานานตั้งแต่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ท่ีโรงเรียนธรรมสาธิต ศึกษา มีพระครูโสภณปริยัติกิจ เป็นที่ปรึกษา ได้รับการสนับสนุน จากโรงเรียนธรรมสาธิตศึกษา ที่ได้ ดาเนินการปฎบิ ัตศิ าสนกิจ ไดส้ นบั สนุน โดยให้ใชส้ ถานท่ี รวมถึงวสั ดอุ ปุ กรณ์ ในการประกอบพิธี เคร่ืองเสยี ง และอปุ กรณอ์ เิ ล็กทรอนกิ สต์ ่าง ๆ ท่ีต้องใชด้ าเนินกิจกรรม ในแตล่ ะสปั ดาห์ โดยไมต่ ้อง โดยไม่ตอ้ งเสยี ค่าบารงุ ทงั้ สิน้ มบี ุคลากรเขา้ รว่ ม ๒๒๖ คน มีหนว่ ยงานท่เี ป็นเครอื ขา่ ยการปฏิบตั ิศาสนกิจในครั้งนี้ ไดแ้ ก่ ๑.โรงเรียนธรรมสาธิตศกึ ษา ๒.ส่วนงาน มจร.ลาพูน ๓.วัดหนองเจดยี ์ ๔.ชุมชนบา้ นหนองเจดยี ์ ๕.ชุมชนบ้านนครเจดยี ์ ผลการดาเนินโครงการพบว่า...................การดาเนินโครงการเปน็ ไปตามวัตถุประสงค์ และจากการ ประเมินผลโครงการ โดยวิธีการ  สารวจความพึงพอใจ สังเกต พบว่า ภาพรวมของโครงการอยใู่ น ระดบั ใด  ดีเยี่ยม  ดีมาก ดี  พอใช้  ปรับปรุง โครงการปฏิบัตศิ าสนกจิ โครงการวนั พระในโรงเรยี น โรงเรยี นธรรมสาธติ ศกึ ษา สามารถ นาไปตอ่ ยอดในดา้ นการพัฒนาเยาวชน ทางดา้ นจรยิ ธรรม และคณุ ธรรม ฉะนัน้ ในอนาคตนิสติ ปฏบิ ตั ิศาสนกิจ รุ่น ๆ ต่อไปสามารถนาไปวิเคราะห์แนวทางเพ่ือต่อยอดการทาโครงการวันพระในโรงเรยี นได้ในอนาคต เพื่อ คงไว้ซ่งึ พระพทุ ธศาสนา ใหค้ งอยู่สืบไป การดาเนนิ โครงการสอดคลอ้ งกบั วัตถุประสงคข์ องผู้จดั ทาโครงการ โดยทผ่ี เู้ ขา้ ร่วม โครงการวันพระในโรงเรียน โรงเรียนธรรมสาธติ ศึกษา ทไ่ี ด้ตัง้ ไว้ นกั เรียน สามารถ.ผเู้ รยี นและบุคคลากรใน โรงเรียนสามารถปฏิบตั ติ นตามแบบประเพณีลา้ นนาได้ สามารถกล่าวคาสมู าครวั ตาน คาหยาดน้า (กรวดนา้ แผ่เมตา) วนั ทาพระ (วันน้อย วันทาหลวง)ได้ ผ้เู รยี นต่างศาสนามเี จตคติทีด่ ตี ่อพระพุทธศาสนา มคี วามเขา้ ใจ ในประเพณพี ิธกี รรมทางพระพทุ ธศาสนา สามารถน่งั สมาธแิ ละรจู้ ักเรือ่ งมารยาทของงชาวพุทธได้ และทสี่ าคญั ผู้เรยี นมีคุณธรรม จรยิ ธรรมในตัวเองเพมิ่ มากขน้ึ

บทท่ี ๑ บทนา ๑.๑ หลักการและเหตผุ ล ในปัจจบุ ันโอกาสทีน่ ักเรยี นจะไดเ้ ข้าวัดเพอ่ื ทาบุญในวันพระนั้นเปน็ ไปได้ยาก เนอื่ งมาจากปัจจยั หลาย อย่างทท่ี าให้นกั เรียนไม่มีโอกาสท่จี ะได้เขา้ ไปมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมทางศาสนา จงึ เป็นผลใหน้ กั เรียนขาดความ เข้าใจ ในประเพณพี ิธกี รรมการไปวัดแบบล้านนา การจดั กิจกรรมสง่ เสรมิ คุณธรรมจรยิ ธรรม “วันพระในโรงเรยี น” เพอ่ื ปลกู ฝงั คา่ นยิ มท่ดี แี ละ วัฒนธรรมใหเ้ กดิ กับนักเรียนได้รจู้ กั ขนบธรรมเนียมประเพณีแบบล้านนา จึงจัดให้มกี ิจกรรมทกุ วันศกุ รอ์ ีกท้งั ช่วยส่งเสรมิ กจิ กรรมสามัคควี ิถีพทุ ธ นักเรียนได้ทาบุญถวายสังฆทาน การประกอบพิธีกรรมแบบการไปวดั ใน วันพระของชาวบ้าน และสร้างเจตคติท่ีดีให้เกดิ กับนักเรยี นต่างศาสนา ทางโรงเรียนธรรมสาธิตศึกษา จึงจัด ตารางให้นักเรียนแต่ละห้องผลัดเวรเปล่ียนการเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมโดยแบ่งไปตามระดับช้ัน คือ มัธยมศึกษา ๑ – ๖ เพ่ือต้องการมุ่งเน้นให้นักเรียนรูแ้ ละมีความเข้าใจในประเพณีการไปวัดของชาวล้านนา เพ่ือเป็นการสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นคนดี มีคุณธรรม แสดงออกถึงความเคารพ ศรัทธาใน พระพุทธศาสนา ปฏิบัติตนตามหลักธรรมพุทธศาสนสุภาษิต มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ กตัญญรู ู้คุณต่อผู้มพี ระคุณ รจู้ ักสืบทอดประเพณวี ฒั นธรรมในการนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน และอย่ใู นสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ ดังนน้ั กิจกรรมวันพระในโรงเรยี น จงึ มคี วามสาคญั ในฐานะท่ีเป็นกจิ กรรมสง่ เสรมิ และพฒั นา ผู้เรียนในด้านคุณธรรม จริยธรรม และการสืบสานขนบธรรมเนียนประเพณีล้านนา ให้กับนักเรียนเพื่อเปน็ แนวทางในการดาเนนิ ชวี ิตในสังคมไดอ้ ย่างสันตสิ ขุ และสืบสานประเพณวี ัฒนธรรมล้านนาไม่ให้สญู หายไปกับ กาลเวลา พร้อมทั้งพัฒนาของศักยภาพของพระนิสิต ตามพัฒนาแผนนิสิตระยะ ๕ ปี (พ.ศ.๒๕๖๐-๒๕๖๒) ที่ว่า ให้มีคุณภาพและเป็นศาสนทายาทที่มีศักยภาพ และสอดคล้องกับ หลักนวลักษณ์ 9 ประการของนิสิต มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย คือ มีปฏิปทานา่ เลื่อมใส ศรทั ธา อทุ ศิ ตนเพ่อื พระพุทธศาสนา มีน้า ใจเสียสละเพ่อื สว่ นรวม และ มีความเป็นผู้นาด้านจติ ใจและปญั ญา ๑.๒ วตั ถุประสงค์ ๑. สง่ เสริมประเพณี วฒั นธรรมล้านนาแกผ่ ู้เรยี นและบุคคลากรในโรงเรยี น ๒. สืบสานประเพณี วฒั นธรรมล้านนาแก่ผเู้ รยี นและบคุ คลากรในโรงเรียน ๓. สง่ เสรมิ เรือ่ งคณุ ธรรม จรยิ ธรรม แกผ่ เู้ รียนและบคุ คลากรในโรงเรยี น ๔. ปลกู ฝงั คา่ นิยมการใหท้ าน การเขา้ วดั ตามกาลแกผ่ เู้ รยี นและบคุ คลากรในโรงเรียน ๕. สร้างเจตคติทีด่ ีต่อพระพทุ ธศาสนาแกผ่ เู้ รยี นและบคุ ลากรตา่ งศาสนาในโรงเรียน

๑.๓ ความสอดคล้องกบั งานในกจิ การคณะสงฆ์ แผนพฒั นานสิ ติ และนวลกั ษณ์ ๙ ประการ นสิ ิต มจร โครงการโครงการวนั พระในโรงเรยี น โรงเรยี นธรรมสาธิตศกึ ษา เกิดจากการทน่ี สิ ิตเห็นวา่ ส่งเสริมและสืบสานประเพณี วัฒนธรรมการไปวัดในพระแบบล้านนาอันเป็นรากฐานของการดาเนินชีวิต ส่งเสริมเร่ืองคุณธรรม จริยธรรม การปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัยที่องค์พระศาสดาสัมมาสัม พทุ ธเจา้ ไดท้ รงตรัสสัง่ สอน เพอ่ื เปน็ แนวทางในการดาเนนิ ชวี ติ อีกทงั้ ยงั เป็นการปลูกฝงั ค่านิยม และเจตคตทิ ่ีดี ตอ่ พระพทุ ธศาสนาแกน่ ักเรียนตา่ งศาสนา จึงดาเนินการในการจดั ทาโครงการเพือ่ ใหส้ อดคล้องกบั กิจการคณะ สงฆ์ในสว่ นของการเผยแผ่ และเป็นการสอดคลอ้ งกบั แผนพัฒนานิสิตในส่วนของการเป็นนิสิตมีคณุ ภาพ มีองค์ ความรู้ เกิดการทางานร่วมกนั กับโรงเรียน ๑.๓.๑ งานในกิจการคณะสงฆ์ ๑) การปกครอง ๔) การศึกษาสงเคราะห์ ๒) การเผยแผ่ ๕) การสาธารณะสงเคราะห์ ๓) การศาสนศึกษา  ๖) การสาธารณปู การ ๑.๓.๒ แผนพัฒนานสิ ิต ระยะ ๕ ปี (พ.ศ.๒๕๖๐-๒๕๖๒)  ๑) พฒั นานิสติ ให้มีคณุ ภาพและเป็นศาสนทายาททมี่ ีศกั ยภาพ  ๒) ยกระดบั กระบวนการทางานสคู่ วามเปน็ เลิศ  ๓) จัดระบบบรกิ ารและสวสั ดกิ ารแก่นิสิตทมี่ ีประสิทธิภาพ  ๔) พัฒนาองคก์ รสู่การเรียนรู้เพื่อพฒั นานสิ ติ ๒.๓ หลักนวลักษณน์ ิสิต ๙ ประการ หลักนวลกั ษณ์ 9 ประการของนสิ ติ มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั (MAHACHULA)  M - Morality มปี ฏิปทานา่ เล่อื มใส  A - Awareness รู้เท่าทันความเปลยี่ นแปลงทางสงั คม  H - Helpfulness ศรทั ธา อุทิศตนเพ่อื พระพทุ ธศาสนา  A - Ability มีความสามารถมี ในการแกป้ ญั หา  C - Curiosity มีความใฝร่ ้ใู ฝ่คิด  H - Hospitality มีนา้ ใจเสียสละเพือ่ สว่ นรวม U - Universality มโี ลกทัศนก์ ว้างไกล  L - Leadership มคี วามเป็นผู้นาดา้ นจิตใจและปญั ญา  A - Aspiration มีศักยภาพที่จะพฒั นาตนเองใหเ้ พียบพร้อมดว้ ยคณุ ธรรมจรยิ ธรรม

บทที่ ๒ วธิ ีดาเนนิ งาน ๒.๑ การดาเนินการโดยมีกลุม่ เป้าหมาย การดาเนินงานโครงการในส่วนของกลุ่มเป้าหมายนกั เรียนและบุคลากรทางการศกึ ษา สว่ นแผนก มัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย โรงเรียนธรรมสาธิตศึกษา ตาบลนครเจดีย์ อาเภอปา่ ซาง จงั หวดั ลาพูน ตลอดปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ ๑. เชงิ ปรมิ าณ ดาเนนิ โครงการ โดยมผี ู้เข้าร่วมโครงการ นักเรยี นและบุคลากรทางการศึกษา สว่ น แผนกมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย โรงเรยี นธรรมสาธติ ศึกษา ตาบลนครเจดยี ์ อาเภอป่าซาง จงั หวดั ลาพนู จานวน ๒๒๖ คน ๒. เชิงคุณภาพ นักเรียนมีคณุ ธรรม จริยธรรมในตวั เองเพ่ิมมากขนึ้ สามารถสวดมนต์ บูชาพระรตั ร ตรยั ได้ สามารถปฏบิ ตั ติ นตามแบบประเพณลี า้ นนาได้ เข้าใจถึงศาสนพิธี และการปฎบิ ตั ติ ัวเมอื่ ต้องไปวนั พระ ที่วดั ได้ ๒.๒ ระยะเวลาของกจิ กรรม เร่ิมกิจกรรมตั้งแต่ วนั ที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นมา โดยดาเนนิ การมาจนถงึ ปัจจุบันนีอ้ ยู่ ในช่วงสรปุ ผลและนาผลท่ีได้ไปต่อยอดตอ่ ไป ๒.๓ สถานทด่ี าเนนิ งาน โรงเรียนธรรมสาธิตศกึ ษา ๙๘ หมู่ที่ ๗ ตาบลนครเจดยี ์ อาเภอปา่ ซาง จงั หวดั ลาพนู ๒.๔ แหลง่ ทุน / ความช่วยเหลืออื่นๆ ในการดาเนนิ โครงการ ไมม่ คี ่าใช้จ่ายในการดาเนนิ การใด ๆ เนื่องจากทางโรงเรียนธรรมสาธติ ศึกษา ได้สนับสนนุ โดยใหใ้ ช้ สถานท่ี รวมถึงวสั ดอุ ปุ กรณ์ ในการประกอบพธิ ี เครือ่ งเสียง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตา่ ง ๆ ท่ีตอ้ งใช้ดาเนนิ กจิ กรรม ในแตล่ ะสัปดาห์ โดยไม่ตอ้ ง โดยไมต่ อ้ งเสยี ค่าบารุงท้งั ส้ิน

๒.๕ ขัน้ ตอนการดาเนนิ งาน ดาเนนิ งานโครงการโดยประยุกต์ใช้กระบวนการ PDCA ที่ ข้ันตอน รายละเอยี ดกิจกรรม วนั , เดอื น , หลักฐานประกอบ ปี ๑ Plan ๑. ประชุม /ระดมความคิดเหน็ ของสมาชิก ๑.๑ โครงการทจี่ ะ การวางแผน ๒. ศกึ ษาวเิ คราะหค์ วามตอ้ งการจาเปน็ ในการ ดาเนนิ การ (สมบรู ณ์ จดั โครงการ พรอ้ มลงนามอนมุ ัต)ิ ๓. จดั ทาโครงการเพ่อื เสนอขออนุมัติ ๑๐ ๔. จัดทากาหนดการ พฤษภาคม ๑.๒ กาหนดการ ๒๕๖๒ ๑.๓ แบบประเมนิ โครงการ ๒ Do ๑. สมาชิกดาเนนิ งานตามภาระหนา้ ที่ ๒.๑ ภาพถา่ ยการ ดาเนนิ งาน ปฏิบัตติ ามแผน ๒. ดาเนินการตามกาหนดการ หรอื ๑๘ แผนปฏิบัตงิ าน พฤษภาคม ๒.๒ สรปุ ข้ันตอนการ ๒๕๖๒- ดาเนินงาน มกราคม ๒๕๖๓ ๒.๓ รายนามผเู้ ขา้ ร่วม โครงการ ๓ Check ๑. แจกแบบประเมินโครงการ 3.๑ แบบประเมนิ โครงการ ประเมนิ ผลการ ๒. ผลการสรุปแบบประเมิน มกราคม ๒๕๖๓ 3.๑ สรปุ ผลการ ปฏบิ ัติงาน ประเมนิ ๓. สังเกต ตดิ ตาม ผู้ทีเ่ ขา้ รว่ มโครงการ ๔ Act ๑. ประชมุ คณะทางานเพอ่ื สรุปผลการ ๔.๑ เอกสารสรปุ ดาเนินงาน พร้อมกบั ร่วมกันหาแนวทางการ โครงการ / รายงาน การปรบั ปรงุ ปรับปรงุ แก้ไขปัญหา หรอื พัฒนาใหด้ ยี ่ิงขึน้ และพฒั นา มกราคม ๒. นาเสนอผู้อานวยการโรงเรยี นรบั ทราบ ๒๕๖๓

๒.๖ ขนั้ ตอนการประเมนิ ผลงาน (การประเมนิ ผลจะต้องสามารถทาใหเ้ ห็นไดว้ า่ ผลของ การดาเนนิ โครงการ สามารถบรรลตุ ามวตั ถปุ ระสงคแ์ ละเปา้ หมายได)้ ๑. การสงั เกต ตดิ ตาม ผทู้ ่เี ขา้ ร่วมโครงการอย่างสมา่ เสมอการพูดคยุ แลกเปล่ยี นอยเู่ สมอ ๒. ผเู้ ขา้ ร่วมตามเป้าหมายทวี่ างไว้ ๓. กลมุ่ เปา้ หมาย (ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ) สามารถลงมอื ปฎิบตั ไิ ด้ ดว้ ยตนเอง

บทที่ ๓ ผลการดาเนนิ งาน ๓.๑ ขอ้ มูลพนื้ ฐานท่วั ไปของสถานท่ปี ฏบิ ตั ิศาสนกิจ (วดั ชุมชน และโรงเรียน) ๑. ข้อมูลพนื้ ฐานท่ัวไปของสถานทป่ี ฏิบัตศิ าสนกจิ โรงเรียนธรรมสาธิตศึกษา ตั้งอยู่ท่ี ๙๘ หมู่ที่ ๗ ตาบลนครเจดยี ์ อาเภอป่าซาง จังหวัดลาพูน อยู่ใน สงั กดั สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาเอกชน ประเภทการกุศลของวัดในพระพทุ ธศาสนา เปดิ ทาการสอน ในระดับประถมศกึ ษา และ มธั ยมศกึ ษา มีนักเรียนทงั้ หมด ๘๐๔ คน มีครู และบุคลากรทางการศกึ ษาทง้ั หมด ๓๕ คน พระโสภณวชิรธรรม เจ้าอาวาสวดั วชริ ธรรมสาธิตวรวิหาร กรงุ เทพมหานคร ได้รับบริจาคที่ดินจากผู้ มีจิตศรัทธาบริเวณใกล้วัดหนองเจดีย์ จานวน ๗๕ ไร่ เน้ือท่ีดังกลา่ วได้แบ่งเปน็ หลายส่วน ได้แก่ โรงพยาบาล ป่าซาง โรงเรียนวชริ ป่าซาง และโรงเรียนธรรมสาธิตศึกษา ในปี พ.ศ. ๒๕๑๒ พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิ เบศร มหาภมู ิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ รได้เสด็จมาวางศลิ าฤกษ์การก่อสร้าง อาคารเรยี นโรงเรียนว ชิรป่าซาง และได้มีพระราชดาริ เก่ียวกับสถานศึกษาของพระภิกษุ สามเณร กับพระโสภณวชิรธรรม เพ่ือให้ พระภิกษสุ ามเณร ไดศ้ กึ ษาเล่าเรยี น เพ่อื ให้ครทู ีเ่ ป็นบรรพชติ ได้มโี อกาสสัง่ สอนอบรมศลี ธรรม แกน่ ักเรยี นใน ชนบทด้วย นับต้ังแต่นั้น พระโสภณวชิรธรรมไดส้ นองพระราชดาริ โดยการก่อสรา้ งอาคารเรียนชั่วคราว ข้ึน เป็นอาคารเรยี นชั้นเดียว ๑ หลัง ยาว ๘๔ เมตร กว้าง ๗ เมตร จานวน ๑๒ ห้อง โดยเปิดการสอน โรงเรยี น ผู้ใหญ่ ระดับ ๓ ระดับ ๔ และโรงเรียนนักธรรมบาลี ได้ตั้งชื่อโรงเรียนว่า โรงเรียนธรรมสาธิตศึกษา ตามชื่อ ของท่าน คือ พระสาธิต ฐานวโร ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๓ ต่อมาท่านมคี วามคิด ท่ีจะสร้างอาคารเรยี น ที่มีความ ม่ันคงข้ึน จึงได้ขอความอนุเคราะห์ทั้งภาครัฐ และเอกชน การก่อสร้างจึงได้เร่ิมขึ้น ผู้วางศิลาฤกษ์ คือ พล ตารวจโท จารสั มคั ลารสั ลกั ษณะอาคาร คอนกรตี เสริมเหล็ก เปน็ อาคารสองชน้ั จานวน ๑๔ หอ้ งเรียน กว้าง ๘.๕ เมตร ยาว ๑๙๖ เมตร โดยขอเปิดการสอน โรงเรียนพระปริยัติสามัญ และการศึกษาผู้ใหญ่ ต้ังแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๓ เป็นต้นมา ปี พ.ศ. ๒๕๓๔ โรงเรียนได้เปล่ียน สังกัดจากกรมศาสนา มาเป็นสานักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาเอกชน ประเภทการกุศลของวดั ในพระพุทธศาสนา โดยปัจจุบนั โรงเรยี นธรรมสาธิต ศกึ ษา ได้เปดิ การสอน ๓ ระดับ ท้งั ระดบั ปฐมวยั ระดบั ประถมศกึ ษา และ ระดับมธั ยมศึกษา ผ่านการประเมนิ การรบั รองมาตรฐาน การประเมินสถานศึกษา ของสานกั งานรับรองมารตรฐาน และคุณภาพสถานศึกษา (สม ศ.) ทัง้ สองระดบั รอบ ๔ ในปี พ.ศ. ๒๕๖๒

๓.๒ ผลการประเมนิ ตัวชีว้ ดั ความสาเรจ็ ๓.๒.๑ เชงิ ปรมิ าณ ๑) นักเรยี นและบคุ ลากรทางการศกึ ษา ส่วนแผนกมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ และตอนปลาย โรงเรยี นธรรมสาธิตศกึ ษา ตาบลนครเจดีย์ อาเภอป่าซาง จงั หวดั ลาพนู ได้เข้าร่วมโครงการวัน พระในโรงเรยี น โรงเรยี นธรรมสาธติ ศึกษา โดยไดท้ าการประเมนิ จากผเู้ ขา้ รว่ มโครงการทงั้ หมด จานวน ๒๒๖ คน ประกอบด้วยนักเรยี นและบุคลากรดงั นี้ ระดบั ชนั้ คดิ จานวนนักเรยี น/ครู คดิ เปน็ รอ้ ยละ (คน) ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๑/๑ ๒๖ ๑๑.๕๐ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๑/๒ ๒๔ ๑๐.๖๑ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี ๒/๑ ๒๖ ๑๑.๕๐ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒/๒ ๒๕ ๑๑.๐๖ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ ๔๘ ๒๑.๒๔ ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๔ ๒๐ ๘.๘๕ ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ ๕ ๓๑ ๑๓.๗๒ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๖ ๑๔ ๖.๑๙ คณะครแู ผนกมัธยมศกึ ษา ๑๒ ๕.๓๑ รวมท้ังหมด ๒๒๖ ๑๐๐

ตารางแสดงจานวนนักเรียนและครูท่ีเข้าร่วมโครงการวันพระในโรงเรียน โรงเรียนธรรมสาธิตศึกษา จานวน ๒๒๖ คน ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๑/๑ ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๑/๒ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๒/๑ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒/๒ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๔ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๕ ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ ๖ คณะครูแผนกมัธยมศกึ ษา 5% 11% 6% 11% 14% 9% 12% 11% 21% สรปุ ผลประเมนิ โครงการตลอดโครงการ การแปลความหมายของคา่ คะแนนเฉลีย่ คะแนนเฉลีย่ การแปลความหมาย ๔.๕๑-๕.๐๐ มากท่ีสุด ๓.๕๑-๔.๕๐ มาก ๒.๕๑-๓.๕๐ ปานกลาง ๑.๕๑-๒.๕๐ น้อย ๐.๐๐-๕.๐๐ นอ้ ยทส่ี ุด

สรปุ คา่ เฉลย่ี รวมอยู่ในระดับพงึ พอใจมาก คิดเปน็ ร้อยละ ๘๙.๑๓ โดยมรี ายละเอียดดงั นี้ ๑. สถานทจ่ี ัดกจิ กรรมมคี วามเหมาะสม อยใู่ นระดบั พึงพอใจมากทีส่ ุด คิดเปน็ รอ้ ยละ ๙๔.๙๕ ๒. ท่านไดม้ ีส่วนร่วมในการจดั กจิ กรรม อยู่ในระดับพงึ พอใจมากท่ีสุด คดิ เป็นรอ้ ยละ ๙๖.๗๒ ๓. ทา่ นได้รับความร/ู้ ประโยชน์จากการเขา้ รว่ มกจิ กรรมเพื่อไปปรบั ใช้ได้ อย่ใู นระดับพงึ พอใจมาก คดิ เปน็ ร้อละ ๘๐.๓๕ ๔. ระยะเวลาในการจดั กจิ กรรมมีความเหมาะสม อย่ใู นระดบั พงึ พอใจมากทสี่ ดุ คิดเป็นรอ้ ยละ ๙๐.๖๑ ๕. การจัดกจิ กรรมในครง้ั นมี้ ปี ระโยชน์ต่อทา่ น อยู่ในระดับพงึ พอใจมาก คิดเปน็ รอ้ ยละ ๘๓.๐๑ ที่ ความพึงพอใจของผรู้ ่วมกจิ กรรม คา่ เฉลย่ี ผลการประเมิน ๑ สถานที่จัดกจิ กรรมมีความเหมาะสม ๔.๗๔ มากที่สุด ๒ ทา่ นไดม้ สี ว่ นรว่ มในการจัดกจิ กรรม ๔.๘๔ มากทีส่ ุด ๓ ท่านไดร้ บั ความรู/้ ประโยชน์จากการเขา้ รว่ ม ๔.๐๑ มาก กิจกรรมเพื่อไปปรบั ใช้ได้ ๔.๕๓ มากที่สุด ๔ ระยะเวลาในการจดั กจิ กรรมมคี วามเหมาะสม ๕ การจดั กจิ กรรมในครั้งนมี้ ีประโยชนต์ ่อทา่ น ๔.๑๕ มาก คา่ เฉล่ยี รวม ๔.๔๕ มาก ๓.๒.๒ เชิงคณุ ภาพ ๑. ผู้เรยี นและบุคคลากรในโรงเรยี นสามารถปฏิบัตติ นตามแบบประเพณลี า้ นนาได้ ๒. สามารถกล่าวคาสูมาครวั ตาน คาหยาดนา้ (กรวดนา้ แผเ่ มตา) วันทาพระ (วนั นอ้ ย วันทาหลวง) ได้ ๓. ผูเ้ รยี นตา่ งศาสนามเี จตคตทิ ด่ี ีตอ่ พระพุทธศาสนา มีความเข้าใจในประเพณีพิธีกรรมทาง พระพุทธศาสนา สามารถนงั่ สมาธิและรจู้ ักเรอื่ งมารยาทของงชาวพุทธได้ ๔. ผเู้ รียนมีคณุ ธรรม จริยธรรมในตัวเองเพม่ิ มากข้นึ

๓.๒.๓วัตถปุ ระสงคโ์ ครงการ ๑. ส่งเสริมประเพณี วฒั นธรรมลา้ นนาแก่ผเู้ รียนและบุคลากรในโรงเรียน ๒. สืบสานประเพณี วฒั นธรรมล้านนาแกผ่ เู้ รียนและบุคลากรในโรงเรยี น ๓. ส่งเสริมเร่ืองคุณธรรม จริยธรรม แก่ผเู้ รียนและบุคลากรในโรงเรียน ๔. ปลกู ฝังค่านิยมการใหท้ าน การเขา้ วดั ตามกาลแก่ผเู้ รียนและบุคลากรในโรงเรียน ๕. สร้างเจตคติที่ดีต่อพระพทุ ธศาสนาแก่ผเู้ รียนและบุคลากรต่างศาสนาในโรงเรียน ๓.๓ เรอื่ งราวและแนวปฏบิ ตั ิทดี่ จี ากการดาเนนิ โครงการหรอื กิจกรรมการปฏบิ ตั ิ ศาสนกิจ การปฏิบัติศาสนกิจน้ัน คือการทางานเพื่อสนองงานคณะสงฆ์ การปฏิบัติงานน้ันจึงเป็นไปเพ่ือ ประโยชน์ของส่วนรวม การเสียสละ การมีจติ อาสาจึงจะทาให้งานลุล่วงไปด้วยความเรียบร้อย แนวทางการ ปฏิบัตินั้น คือ อิทธิบาท ๔ ฉันทะ (ความพอใจ) คือ ความยินดี ความพอใจ ความเต็มใจ ความมใี จรกั ความ อยากหรือฝักใฝ่ท่ีจะทาสิ่งน้ันๆให้บรรลุถึงจุดหมาย มีปรารถนาจะทาให้ ได้ผลดีย่ิงๆขึ้นไป ท้ังวิถีปฎิบัติ การ แสดงธรรม มีการคิดและคน้ หาข้อมลู เพื่อนามาอบรมนักเรียน และบคุ ลากร ทเ่ี ขา้ ร่วมโครงการ วริ ยิ ะ (ความ เพียร) คือ ความเพียรพยายาม ความอุตสาหะ และมานะบากบ่ัน ที่จะทางานหรือทาส่ิงหน่ึงส่ิงใดให้ดีทส่ี ุด การเอาธุระไมท่ อ้ ถอยอปุ สรรค และความยากลาบากต่างๆ ด้วยการมองปัญหาหรืออปุ สรรคที่ขัดขวางเป็นสงิ่ ท่ี ท้าทาย และต้องเอาชนะให้สาเร็จ ซึ่งการดาเนินโครงการ แต่ละสัปดาห์น้ัน ก็ต้องมีความเพยี รพยามในการ ปฎิบัติ เพ่ือให้ผ้เู ข้าร่วมโครงการ ได้เรียนรู้ และเข้าใจใหม้ ากท่ีสุด จิตตะ (ความคิด) คือ ต้ังจิตรบั รูใ้ นสิ่งทที่ า และทาส่ิงนั้นด้วยความคิด เอาจิตฝักใฝ่ ไม่ปล่อยใจให้ฟุ้งซ่านเล่ือนลอยไป วิมังสา (ความไตร่ตรอง หรือ ทดลอง) คือ หมั่นใช้ปัญญา พิจารณาใคร่ครวญ ตรวจหาเหตุผล และตรวจสอบส่ิงท่ีทาน้ัน มีการวางแผน วัดผล คดิ ค้นวธิ ีแกไ้ ขปรบั ปรุง ในการแกป้ ญั หา ระหว่างดาเนนิ โครงการ เพ่ือใหโ้ ครงการดาเนินไปด้วยดี

๓.๔ รปู ภาพกจิ กรรม (Activity Gallary) คณะครูนักเรยี น ใส่ขันแกว้ ท้งั สาม นาอาหารมาใส่บาตร

นกั เรยี นและคณะครู สมาทานเบญจศลี ตวั แทนพระนสิ ติ ให้ศลี แกน่ ักเรยี น

คณะครู นักเรยี นรว่ มกันสวดมนตส์ รภญั ญะ

พระนสิ ิตนานกั เรยี นเจริญภาวนานงั่ สมาธิ ตวั แทนนกั เรยี นประเคนเคร่ืองไทยทานถวายแด่พระนสิ ิต พระนสิ ติ ไดใ้ ห้ธรรมะ และใหพ้ ร แกค่ ณะครู และนักเรียน โรงเรียนธรรมสาธิตศกึ ษา

คณะครูและนักเรยี นกรวดนา้ และแผเ่ มตตา แบบล้านนา นกั เรียนสวดวันทาหลวงขอขมาพระรตั นตรัย

บทที่ ๔ การบูรณาการและการเกิดประโยชน์และสร้างคุณค่า ต่อคณะสงฆ์ และชุมชนหรอื สังคม ๔.๑ ประโยชน์และสรา้ งคณุ คา่ ตอ่ มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย การปฏิบัติศาสนกิจรุ่นท่ี ๖๕ ในปีการศึกษา พ.ศ.๒๕๖๒ ทางผู้จัดทาได้ทา โครงการวันพระใน โรงเรียน โรงเรียนธรรมสาธิตศึกษา ในดา้ นของการเผยแผ่ กิจกรรมสง่ เสรมิ และพฒั นาผู้เรียนในดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และการสบื สานขนบธรรมเนียนประเพณีลา้ นนา ให้กับนกั เรยี นเพือ่ เปน็ แนวทางในการดาเนินชีวิต ในสังคมไดอ้ ย่างสันติสุข และสืบสานประเพณีวัฒนธรรมลา้ นนาไม่ให้สูญหายไปกับกาลเวลา พร้อมท้งั พัฒนา ของศกั ยภาพของพระนิสิต ตามพฒั นาแผนนสิ ิตระยะ ๕ ปี (พ.ศ.๒๕๖๐-๒๕๖๒) ทว่ี า่ ให้มคี ุณภาพและเป็นศา สนทายาทท่มี ีศักยภาพ และสอดคลอ้ งกับ หลักนวลักษณ์ 9 ประการของนิสติ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ ราชวิทยาลยั คือ มีปฏปิ ทานา่ เลือ่ มใส ศรทั ธา อุทศิ ตนเพอื่ พระพทุ ธศาสนา มีน้าใจเสียสละเพือ่ สว่ นรวม และ มีความเปน็ ผูน้ าดา้ นจิตใจและปญั ญา ๔.๒ ผลกระทบทเี่ กดิ ประโยชนแ์ ละสร้างคณุ คา่ ตอ่ คณะสงฆแ์ ละชุมชนหรอื สงั คม โครงการวนั พระในโรงเรยี น โรงเรยี นธรรมสาธติ ศกึ ษา สามารถปลูกฝังคา่ นิยมทีด่ แี ละวฒั นธรรมให้ เกิดกับนกั เรียนได้รู้จักขนบธรรมเนียมประเพณีแบบลา้ นนา จึงจัดใหม้ ีกิจกรรมทุกวันศุกร์อกี ทง้ั ช่วยส่งเสรมิ กิจกรรมสามัคคีวิถีพุทธ นักเรียนได้ทาบุญถวายสังฆทาน การประกอบพิธีกรรมแบบการไปวัดในวันพระของ ชาวบ้าน และสร้างเจตคติท่ีดีให้เกิดกับนักเรียนต่างศาสนา ปลูกฝังให้เยาวชน สามารถปฏิบัติตนตามแบบ ประเพณีล้านนาได้ สามารถกล่าวคาสมู าครวั ตาน คาหยาดนา้ (กรวดนา้ แผ่เมตา) วันทาพระ (วันน้อย วนั ทา หลวง)ได้ เป็นพุทธศาสนกิ ชน สบื ทอดพระพุทธศาสนาสืบไป ๔.๓ การนาไปใช้กับการเรียนการสอน ในบริบทสงั คมของภาคเหนือ(ลา้ นนา)นัน้ จะเห็นวา่ มีความผูกพันกับพระพทุ ธศาสนาอยา่ งมาก และ มหาวิทยาลยั สงฆ์ ถือเป็นศูนย์กลางในการจัดการศึกษา ในเร่ืองของศาสนพิธีทางพระพุทธศาสนา หลักธรรม คาส่ังสอนขององคส์ มเดจ็ พระสัมมาสมั พทุ ธเจา้ รวมไปถึงวิถีปฎบิ ตั ิ ในการเขา้ วดั ทาบญุ ในวันพระ อยู่ร่วมกับ พุทธศาสนิกชนอย่างยาวนาน การเรียนการสอนในยุคปัจจบุ ัน ถือเป็นองค์ความรู้หนึ่งที่ถือเป็นส่งิ สาคัญตอ่ นิสิต ไมว่ า่ จะเป็นการ เรยี นการสอน การศึกษาดงู าน การสมั มนา การลงมือปฎบิ ัติ จะทาให้เกดิ องค์ความรู้ที่ จะนาไปเผยแผ่ ศาสนพิธี วิถีปฎิบัติ หลักธรรมคาสอนของพระพุทธศาสนา การเจริญภาวนา ให้อยู่คู่สังคม ลา้ นนา ตราบนานเท่านาน

๔.๔ การนาไปใชก้ บั การปฏบิ ตั ิศาสนกจิ ในทกุ ปกี ารศึกษาจะมนี สิ ติ ปฏิบัตศิ าสนกจิ เปน็ ประจาทุกปี ทางกลมุ่ ผจู้ ัดทาเหน็ วา่ โครงการน้ี สามารถนาไปตอ่ ยอดเพื่อพฒั นา และนาไปใชก้ บั ทกุ สถานศกึ ษาได้ ๔.๕ การนาผลไปปรบั ปรงุ การดาเนนิ งาน การทางานในโครงการเผยแผ่ ไดเ้ กิดปญั หาอุปสรรค ที่สามารถนาไปปรบั ปรุงและทาใหก้ าร ปฎบิ ตั ิงานในการจัดโครงการแตล่ ะสัปดาห์ มีประสทิ ธภิ าพมากขนึ้

บทที่ ๕ บทสรุปและขอ้ เสนอแนะ ๕.๑ รายละเอียดงานปฏบิ ตั ิศาสนกิจโดยยอ่ (Summary) ในแต่ละปีการศึกษาจะมีพระนิสิตปฏิบัติศาสนกิจในนามของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช วิทยาลัย เพื่อเป็นการสนองงานของคณะสงฆ์ทั้ง ๖ ด้าน ร่วมไปถึงการบริการสังคม เพ่ือให้นิสิตได้ทางาน ร่วมกับองค์กรอน่ื ๆ ได้เป็นอยา่ งดี ในส่วนของโครงการวันพระในโรงเรียน โรงเรยี นธรรมสาธิตศกึ ษานนั้ เกิด จากแนวคิดว่า ต้องการท่ีจะปลูกฝังเยาวชน ให้มีความรู้ทางด้านการศาสนพิธี การไปใส่บาตรในวันพระ เสริมสร้างจริยธรรม คุณธรรม เข้าใจถึงวัฒนธรรมทางพุทธศาสนา ในท้องถ่ิน จนสามารถนาไปใช้ ใน ชีวติ ประจาวันได้ การดาเนนิ โครงการสอดคลอ้ งกับวัตถุประสงคข์ องผจู้ ดั ทาโครงการ โดยท่ีผเู้ ขา้ รว่ มโครงการวนั พระ ในโรงเรยี น โรงเรียนธรรมสาธิตศึกษา ที่ได้ตั้งไว้ นักเรียน สามารถ.ผู้เรยี นและบุคคลากรในโรงเรียนสามารถ ปฏิบัติตนตามแบบประเพณีล้านนาได้ สามารถกล่าวคาสมู าครัวตาน คาหยาดน้า (กรวดน้าแผเ่ มตา) วันทา พระ (วันน้อย วันทาหลวง)ได้ ผู้เรียนต่างศาสนามีเจตคติที่ดีต่อพระพุทธศาสนา มีความเข้าใจในประเพณี พิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา สามารถน่ังสมาธิและรู้จกั เรอ่ื งมารยาทของงชาวพุทธได้ และท่ีสาคัญผเู้ รยี นมี คณุ ธรรม จรยิ ธรรมในตวั เองเพิม่ มากขึ้น อกี ทัง้ สร้างเจตคติทีด่ ีตอ่ พระพุทธศาสนาแกผ่ ้เู รียนและบุคลากรต่าง ศาสนาในโรงเรยี น กเ็ กดิ ข้นึ นกั เรียนตา่ งศาสนา ทาความเคารพพระนสิ ติ ท่ีมาปฎิบตั ิศาสนกจิ และแสดงความ นอบนอ้ ม ทุกคร้ังที่ได้พบกัน โครงการวนั พระในโรงเรียน โรงเรียนธรรมสาธิตศึกษาน้ี เปน็ โครงการทรี่ ่วมกันทา โดยมีแนวคิด ในเรื่องจะปลูกฝังเยาวชน ให้มีความรู้ทางด้านการศาสนพิธี การไปใส่บาตรในวันพระ เสริมสร้างจริยธรรม คุณธรรม เข้าใจถึงวัฒนธรรมทางพทุ ธศาสนา ในท้องถ่ิน จนสามารถนาไปใช้ ในชีวิตประจาวันได้ โดยทาง กลุ่มผู้จัดไดค้ านงึ ถึงหลักการทางานคือ P D C A คอื P Plan (การวางแผน) การวางแผนประชุม เพ่อื จดั การ ดาเนินงานให้เรียบร้อยผ่านพ้นไปด้วยดี Do (ปฏิบัติตามแผน)เมื่อมีการวางแผนงานไว้แล้วหลังจากนั้นก็ ดาเนนิ งานตามหนา้ ทข่ี องตนเองให้มีประสทิ ธิภาพมากที่สุด Check (ประเมินผลการปฏบิ ัตงิ าน) การประชมุ ประเมินงานของตนและประเมินงานท่ีได้ดาเนินการในแต่ละสปั ดาห์ โดยร่วมกันหาความผิดพลาดท่ีเกิดขนึ้ Act (การปรบั ปรุงและพัฒนา) นาปัญหาทีไ่ ดเ้ จอแตล่ ะสัปดาห์นาไปแก้ไข และนาไปปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป ๕.๒ อปุ สรรค ปญั หา และวิธแี กไ้ ขการปฏบิ ตั ศิ าสนกจิ ในช่วงแรก ของการทาโครงการ ก็มปี ญั หาเบ้ืองตน้ คอื ๑. นกั เรยี นไมม่ ีการเตรยี มพรอ้ ม เรอ่ื งแบบสวดมนต์ จงึ ได้ขอคาปรกึ ษา จากครทู ่ีปรกึ ษา ประจา โรงเรยี น ในการหาแนวทางแกไ้ ข ๒. ไปถึงนกั เรยี นบางส่วนสง่ เสยี งดงั ในช่วงสปั ดาห์แรก แต่หลงั จากทไ่ี ดป้ ฎบิ ัตหิ ลายสปั ดาห์ กม็ ี พัฒนาการทดี่ ขี ึ้น เริ่มเงยี บมากข้ึน เรมิ่ ตัง้ ใจปฎิบตั ิ

๓. นกั เรียนบางส่วน ออกเสยี งภาษาบาลไี มค่ อ่ ยถกู จงึ ไดม้ กี ารซักซอ้ ม ในระดบั ของผนู้ านักเรียนแต่ ละชน้ั กอ่ นแล้วจะไปถงึ ระดับนักเรยี นทั่วไป ๔. ในบางสปั ดาห์ ตรงกบั วนั สาคญั ทางราชการ และ วนั กิจกรรมของโรงเรียน จงึ ต้องเลอื่ นกิจกรรม ออกไป ๕.๓ การเรียนรู้ ความทา้ ทาย และนวตั กรรมในการปฏิบตั ศิ าสนกจิ การปฏิบัติศาสนกิจในครั้งนี้ ได้เกิดองค์ความรู้ท้ังในด้านการพัฒนานิสิตให้มีคุณภาพและเป็น ศาสนทายาทท่ีมศี ักยภาพ มากข้ึน ท้ังด้านในการอบรมนักเรียน การควบคุมสถานการณ์ ที่มนี ักเรียนจานวน มาก ๆ ได้ รวมไปถงึ องคค์ วามรูใ้ นการทางานรว่ มกบั หลายส่วนงานหรือองค์กร ซ่ึงเปน็ การเรยี นรู้และถอื เปน็ ประสบการณท์ ่จี ะนาไปตอ่ ยอดในการทางานสืบทอดพระพุทธศาสนาตอ่ ไป ๕.๔ กา้ วตอ่ ไปหรอื ความตอ่ เน่ืองของการดาเนนิ โครงการปฏบิ ัตศิ าสนกจิ โครงการปฏิบัติศาสนกิจ โครงการวันพระในโรงเรยี น โรงเรยี นธรรมสาธิตศึกษา สามารถนาไปตอ่ ยอดในด้านการพัฒนาเยาวชน ทางด้านจริยธรรม และคุณธรรม ฉะนั้นในอนาคตนิสิตปฏิบัติศาสนกิจรุ่น ๆ ต่อไปสามารถนาไปวเิ คราะห์แนวทางเพ่ือตอ่ ยอดการทาโครงการวันพระในโรงเรียนไดใ้ นอนาคต เพือ่ คงไวซ้ ่ึง พระพทธศาสนา ใหค้ งอยสู่ ืบไป

ภาคผนวก

รายชอ่ื และลายเซน็ ผเู้ ขา้ รว่ มโครงการ





























เอกสารทเี่ กยี่ วขอ้ ง



แบบสารวจความพงึ พอใจของผเู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรม โครงการวนั พระในโรงเรยี น ณ อาคารอเนกประสงค์ โรงเรยี นธรรมสาธติ ศกึ ษา ตาบลนครเจดยี ์ อาเภอปา่ ซาง จงั หวดั ลาพนู ประจาปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ ปร สว่ นท่ี 1 ขอ้ มลู ท่วั ไป หญงิ 1. เพศ ชาย 15 - 25 ปี 25 - 35 ปี 35 ปขี ้นึ ไป 2. อายุ ตา่ กว่า 15 ปี 3. สถานภาพผู้ตอบ นกั เรยี น ครู อน่ื ๆ ............................. (โปรดระบ)ุ สว่ นที่ 2 การประเมินความพงึ พอใจของผเู้ ข้ารว่ มกจิ กรรม กรณุ าขดี เครอ่ื งหมาย  ลงในช่องทท่ี า่ นเหน็ วา่ ตรงกบั ความคดิ เหน็ ของท่านมากทีส่ ุดเพยี งช่องเดยี ว ที่ ความพงึ พอใจของผ้รู ว่ มกิจกรรม ระดบั ความพงึ พอใจ 1 สถานทีจ่ ัดกจิ กรรมมีความเหมาะสม มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย 2 ท่านได้มีสว่ นรว่ มในการจัดกิจกรรม ท่สี ดุ กลาง ท่ีสดุ 3 ท่านได้รบั ความรู/้ ประโยชนจ์ ากการเขา้ รว่ มกจิ กรรมเพอื่ ไปปรบั ใช้ได้ 4 ระยะเวลาในการจดั กิจกรรมมีความเหมาะสม 5 การจัดกิจกรรมในครั้งน้ีมปี ระโยชน์ตอ่ ท่าน ขอ้ คดิ เห็นอนื่ ๆ ...........................................................................................................................………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………  ขอบคุณทใ่ี หค้ วามร่วมมือในการตอบแบบสอบถาม 

กาหนดการ โครงการวนั พระในโรงเรยี น ณ อาคารเอนกประสงค์ โรงเรยี นธรรมสาธติ ศกึ ษา ตาบลนครเจดยี ์ อาเภอปา่ ซาง จงั หวดั ลาพนู ประจาปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ เวลา ๐๘.๑๐ น. นกั เรยี นและคณะครู นากรวยดอกไม้ธูปเทยี น มาใส่ ขนั แกว้ ทัง้ สาม พรอ้ มนาอาหารมาใส่บาตร เวลา ๐๘.๑๕ น. ตัวแทนนกั เรียน จดุ ธปู เทียน บชู าพระรัตนตรยั ตวั แทนนักเรียนนา สวดมนตบ์ ูชา พระรัตนตรัย และกล่าวคาอารารธนาศลี ตัวแทนพระนสิ ติ ให้ศีล แกบ่ รรดานักเรยี น และคณะครู เวลา ๐๘.๒๐ น. ตวั แทนนกั เรยี น นานักเรียน สวดมนตบ์ ทสวดสรภญั ญะ เวลา ๐๘.๔๐ น. พระนสิ ิต นานักเรียน คณะครู เจรญิ ภาวนา น่งั สมาธิ เวลา ๐๘.๕๕ น. ตวั แทนนักเรียน นานกั เรียน กลา่ วถวายเคร่ืองไทยทาน เวลา ๐๙.๐๐ น. พระนสิ ิต ปาฐกธรรม และอนุโมทนา แก่นกั เรียน และคณะครู เวลา ๐๙.๑๐ น. ตวั แทนนกั เรยี น นานักเรยี น กลา่ วคากรวดนา้ แบบลา้ นนา วนั ทาหลวง และวนั ทานอ้ ย ขอขมาพระรัตนตรัย กล่าวคาลาพระสงฆ์ พระสงฆอ์ นุโมทนาเปน็ เสรจ็ พิธี ***อาจมกี ารเปลย่ี นแปลงตามความเหมาะสมของแตล่ ะสปั ดาห์

ประวตั ผิ รู้ บั ผดิ ชอบโครงการ ช่อื – สกุล พระอนุพงศ์ อสิ สฺ รญาโณ นามสกลุ สิทธิมา วนั /เดอื น/ปีเกิด วันท่ี ๗ กรกฎาคม ๒๕๓๙ ภูมิลาเนาเดมิ ๘/๑ หมู่ ๑๐ บ้านน้าเพอะพะ ตาบลบา้ นโฮง่ อาเภอบา้ นโฮง่ , จังหวดั ลาพูน ๕๑๑๓๐ ที่อยู่ปจั จบุ นั วดั บา้ นลอ้ ง ๑๐๐ หมู่ ๙ บา้ นลอ้ ง ตาบลบ้านโฮง่ อาเภอบ้านโฮ่ง จงั หวัดลาพนู ๕๑๑๓๐ การศึกษา ระดับประถมศึกษา จบการศึกษาจากโรงเรียนธรรมสาธิตศกึ ษา ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ จบจากโรงเรียนธรรมสาธิตศึกษา ตาบลนครเจดยี ์ อาเภอปา่ ซาง จงั หวดั ลาพนู ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย จบจากโรงเรียนธรรมสาธิตศึกษา ตาบลนครเจดีย์ อาเภอปา่ ซาง จงั หวัดลาพนู ระดบั ปรญิ ญาตรี กาลงั ศึกษา พุทธศาตรบัณฑิต คณะครศุ าสตร์ สาขาวิชาสังคมศกึ ษา มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณร์ าชวิทยาลยั วทิ ยาลัยสงฆล์ าพนู เบอรโ์ ทรศัพท์ ๐๙๔-๘๒๖๑๗๐๖